The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายประชุม ปุ่มแก้ว, 2020-07-30 05:38:31

ตอนที่3 ส่วนที่ 1 แบบทดสอบและกิจกรรม/ใบงาน

เอกสาร/ความรู้เสรีมสำหรับครู

244 คูม อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพ่มิ เตมิ หนาทพี่ ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓

กิจกรรม/ใบงานที่ ๒๖

เร่ือง การตรวจสอบขอ้ มลู
ผลการเรียนรู้ ๗. มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอมูล ตรวจสอบ

การทำหนา ทข่ี องบุคคลเพอ่ื ใชป ระกอบการตดั สินใจ
๑๐. ปฏิบัติตนเปน ผมู ีวินัยในตนเอง
คำชี้แจง อา นเร่ือง ครมี หิมะขาวพันป แลว ตอบคำถาม

ครมี หิมะขาวพันป
ครีมหิมะขาวพันปเปนผลิตภัณฑใหมของเรา ตัวครีมสกัดจากหิมะพันปบน
เทือกเขาหิมาลัย เม่ือใชแลวทำใหเซลลผิวที่คล้ำขาวผองดังหิมะไดในทันที โดยเมอ่ื ใช
เปน ประจำผิวจะขาวข้นึ อยางถาวรโดยไมต อ งใชค รมี นี้อีก ผวิ เนยี นนุม ดูมสี ขุ ภาพดี ไมมี
กอใหเกิดผลขางเคียงใด ๆ เพราะผานการรับรองจากองคกรตรวจสอบมาตรฐานของ
ตา งประเทศ และผลติ ภัณฑของเรายงั ไดรับความนยิ มมากในตางประเทศ

๑. นักเรียนคิดวา ขอ ความนีน้ า เชอ่ื ถือหรอื ไม

๒. จากคำตอบในขอ ๑. เหตุผลคอื อะไร

ชอ่ื นามสกุล เลขที่ ชัน้
โรงเรียน

คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา ทพี่ ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 245

กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒๗

เรอ่ื ง การตรวจสอบการทำหนา้ ทขี่ องบุคคล

ผลการเรียนรู้ ๗. มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอมูล ตรวจสอบ
การทำหนาทีข่ องบคุ คลเพ่อื ใชประกอบการตัดสินใจ

๑๐. ปฏบิ ัติตนเปน ผมู ีวินัยในตนเอง
คำชี้แจง ตรวจสอบการทำหนา ทข่ี องบคุ คลตอไปนี้ แลว ตอบคำถาม

นายสิทธิ ตั้งใจดี
ตำแหนง่ ผู้ใหญ่บา้ น
บคุ ลกิ นายสทิ ธิ ตง้ั ใจดี เปน คนดี มคี วามรู จบการศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี สาขาการพฒั นา
สังคม มีนสิ ยั เหน็ แกประโยชนสว นรวม พรอมเสียสละความสขุ สว นตนเพอื่ ประโยชนของ
สว นรวม ซ่ือสัตยส จุ ริต เห็นความสำคัญของลูกบา นทกุ คน ชว ยเหลือแกปญ หาแกล กู บาน
ดวยความจริงใจ และเปน ผนู ำชาวบา นในการทำกิจกรรมตาง ๆ ไดอยางพรอมเพรียงกนั
นายสมัคร รกั เพื่อนพอ้ ง
ตำแหน่ง กำนนั
บคุ ลกิ นายสมคั ร รักเพือ่ นพอ ง เปน คนใจนกั เลง รักพวกพอ ง คอยดูแลใหค วามชวยเหลือ
เพือ่ นและญาติพ่นี องทุกคนอยางเต็มกำลงั และความสามารถ เมื่อมปี ญหาตา ง ๆ กจ็ ะแก
ปญ หานั้นในทางทีเ่ ปน ประโยชนต อเพอ่ื น ๆ และญาตขิ องตน เมอื่ ชุมชนของตนมกี ารจัด
กิจกรรมใด ๆ กจ็ ะใหตวั แทนของตนไปรว มกจิ กรรมทกุ ครั้ง

บุคคลใดทนี่ ักเรียนคดิ วา ควรดำรงตำแหนงเปน ตัวแทนของประชาชนตอไป เพราะอะไร

ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน
โรงเรียน

246 คมู ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพิม่ เตมิ หนาท่ีพลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓

กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒๘

เรื่อง ความมวี ินัยในตนเองในการเปนพลเมอื งดใี นระบอบประชาธปิ ไตย
ผลการเรียนรู้ ๖. ปฏบิ ัตติ นเปนพลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย

๗. มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอมูล ตรวจสอบ
การทำหนา ทข่ี องบคุ คลเพ่อื ใชป ระกอบการตัดสนิ ใจ

๑๐. ปฏิบตั ติ นเปนผมู ีวนิ ยั ในตนเอง
คำชแ้ี จง นำตัวอักษรหนาขอความเตมิ ลงใน ใตขอ ความทส่ี ัมพันธก นั

ก ความซอ่ื สัตยสุจรติ เม่ือพุกทำแจกันของแมแตก พุกจะ
ข ความขยนั หม่ันเพยี รและอดทน เก็บกวาดเศษแจกันจนหมด แลวเดินไป
ค การใฝหาความรู บอกแมว าตนเปนคนทำแจกนั แตกเอง
ง การตง้ั ใจปฏบิ ัตหิ นา ท่ี
จ การยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง

กงุ ซอื้ ขนมแลว แมค า ทอนเงนิ เกนิ มาให สนตั้งใจทำการบานดวยความอดทน
กงุ จงึ นำเงินที่เกนิ มาคืนแกแ มคา ไมท อ ถอย แมก ารบา นนน้ั จะยากมากกต็ าม

เม่ือปอดสงสัยอะไร จะเขาไปศึกษา เมื่ออยูในครอบครัวอวนจะปฏิบัติตน
คน ควาเพือ่ หาคำตอบในหอ งสมุดอยูเสมอ เปนเดก็ ดี กตัญูรูคุณตอพอแม

ช่ือ นามสกุล เลขที่ ชัน้
โรงเรียน

คูม อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หนา ทีพ่ ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 247

กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๙

เรือ่ ง ทบทวนความรู้
ผลการเรียนรู้ ๖. ปฏบิ ตั ิตนเปนพลเมอื งดตี ามวิถีประชาธปิ ไตย

๗. มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอมูล ตรวจสอบ
การทำหนา ที่ของบคุ คลเพอื่ ใชป ระกอบการตัดสนิ ใจ

๑๐. ปฏิบัติตนเปน ผูม วี นิ ัยในตนเอง
คำชแ้ี จง ตอบคำถาม

๑. พลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตยจะตอ งใชสทิ ธแิ ละหนาที่อยา งไร

๒. ปจจุบนั นักเรยี นมีสวนรว มในการเลอื กตั้งสมาชิกสภาผูแทนราษฎรไดอ ยางไรบาง

๓. ตวั แทนของประชาชนทด่ี ีจะตอ งมพี ฤติกรรมอยา งไร

ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชั้น
โรงเรียน

248 คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา ทพี่ ลเมือง ๕–๖ ม. ๓

แบบทดสอบหลงั เรยี น
หนวยการเรยี นรูท่ี ๔

คำชแ้ี จง เลอื กคำตอบทถี่ กู ต้องท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียว

๑. ใครใชส้ ทิ ธิไมถกู ตอง ๔. เราควรรว่ มกิจกรรมการเลอื กต้งั ตาม
ก เอน่ังชุมนุมประทวงรัฐบาลในท่ีดิน ขอ้ ใด
ของตนเอง ก ชวยผูสมคั รที่เราชื่นชอบหาเสยี ง
ข บแี สดงความคดิ เหน็ ทางการเมอื งในที่ เลอื กต้งั
สาธารณะ ข ไมไปใชสทิ ธเิ ลอื กต้งั หากไมมีผูส มคั ร
ค ซีมักจะทําตัวตามสบาย ไมคอยมี ทีเ่ ปน คนดี
ระเบยี บขณะอยูในบา น ค เลอื กผสู มัครท่ีใหเ งนิ และส่ิงของแก
ง ดีกดดันใหนายจางขึ้นคาแรงโดยการ ชาวบานมากทส่ี ดุ
นําพวกมาชุมนุมปดประตูทางเขา ง ทําลายปายหาเสียงของผูสมัครรับ
บรษิ ทั เลอื กต้งั ทเ่ี ปนคนไมด ี

๒. พลเมืองดีดามวิถีประชาธิปไตยจะต้อง ๕. ก่อนการเลือกตั้ง เราควรมีส่วนร่วมกับ
ปฏิบตั ิตนอย่างไร กจิ กรรมใดมากทสี่ ุด
ก สันโดษ แยกตวั ออกจากสังคม ก ไปงานจดั เลยี้ งของผสู มคั รรบั เลอื กตงั้
ข คาํ นงึ ถึงประโยชนข องพวกพอ ง ข สังเกตการณการนับคะแนนเสียง
ค ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายอยา งเครงครัด เลอื กตั้ง
ง ยึดถือความคิดเห็นของตนเองเปน ค เปนหัวคะแนนซ้ือเสียงใหแกผูสมัคร
สําคญั รบั เลือกต้ัง
ง ตรวจสอบรายชื่อของตนจากบัญชี
๓. ขอ้ ใดเปน การใชเ้ สรภี าพอยา่ งรบั ผดิ ชอบ รายชือ่ ผมู สี ิทธิเลือกตั้ง
ก แอบฟง เพอื่ นสนทิ สนทนากัน
ข วพิ ากษวจิ ารณผ ูอ่ืนโดยไมม ีหลักฐาน ๖. ใครมีสว่ นร่วมกบั กิจกรรมของห้องเรียน
ค ชมุ นมุ ปด การจราจรเพอ่ื ประทว งรฐั บาล ก ปุมชวยครถู ือของ
ง ใชโ ทรศพั ทส าธารณะอยา งทะนถุ นอม ข เอตัง้ ใจทาํ การบาน
และถูกวธิ ี ค แกวไมรับประทานขนมในหองเรียน
ง นชุ ทาํ ความสะอาดหองเรยี นตามเวร
ทร่ี บั ผดิ ชอบ

คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนาทพี่ ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 249

๗. เราไมค วรเลอื กใครเปน ประธานนกั เรยี น ๙. ขอ้ ใดเปน การตรวจสอบการทาํ หนา้ ทข่ี อง
ก คนดี บคุ คล
ข คนมคี ุณธรรม ก ประชาชนชุมนุมเรียกรองใหรัฐบาล
ค คนเหน็ แกพวกพอง ปรบั ข้ึนคาแรงขน้ั ตา่ํ

ง คนมคี วามรับผดิ ชอบ ข ประชาชนเขา ชอื่ กนั ถอดถอนรฐั มนตรี
๘. เมื่อโรงเรียนของเราจัดกิจกรรมพัฒนา ทีท่ ุจรติ ออกจากตาํ แหนง

ชมุ ชน เราควรทาํ อย่างไร ค ประชาชนพรอ มใจกนั ไปใชส ทิ ธเิ ลอื กตง้ั
ก รว มกิจกรรมดวย สมาชกิ สภาผแู ทนราษฎร

ข อา นหนงั สอื ในหองสมุด ง ประชาชนมาประชุมหมูบานเร่ืองการ
ค ชวนเพอ่ื นไปเลนกีฬาท่ีชอบ จัดสรา งสาธารณูปโภคในชุมชน

ง หยดุ เรียน เพราะไมม กี ารเรียน
การสอน

๑๐. เราควรตรวจสอบราคาไขไ่ กป่ ระจาํ วนั จากที่ใด
ก ตําราเรยี น
ข หนังสอื พิมพ
ค หนังสือจดหมายเหตุ
ง สารานุกรมไทยสาํ หรับเยาวชน

หนว� ยการเรย� นรูŒที่ ๕

ความปรองดอง สมานฉนั ท

• แบบทดสอบกอ นเรียน
• กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๐ เรือ่ ง วถิ ชี ีวิต
• กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๑ เรือ่ ง วฒั นธรรม
• กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๒ เรอื่ ง ศาสนา
• กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๓ เร่อื ง ส่งิ แวดลอมในภูมภิ าคตา ง ๆ ของโลก
• กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๔ เรื่อง สงั คมพหุวัฒนธรรม
• กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๕ เรื่อง วนิ ยั ในการอยูรว มกนั ในสังคมพหุวัฒนธรรม
• กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓๖ เรื่อง ความขัดแยง
• กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๗ เรื่อง การปองกันปญ หาความขัดแยง
• กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๘ เรื่อง วินยั เพื่อความปรองดอง สมานฉันท
• กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๙ เร่ือง ทบทวนความรู
• แบบทดสอบหลงั เรียน

คมู ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนาทีพ่ ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 251

แบบทดสอบกอ นเรียน
หนว ยการเรยี นรูที่ ๕

คำชแี้ จง เลอื กคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งทีส่ ุดเพียงคำตอบเดียว

๑. “บ้านในเขตแห้งแล้งมักสรา้ งด้วย ๕. ข้อใดเปนการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุ-
ดินเหนยี วสว่ นในเขตร้อนนิยมสรา้ งดว้ ย วฒั นธรรมดว้ ยการแบง่ ปน˜ และชว่ ยเหลอื
ไม”้ คาํ กลา่ วนแี้ สดงถงึ ความหลากหลาย ซ่ึงกันและกัน
ทางสังคมวัฒนธรรมในเรอื่ งใด ก การพาชาวตา งชาตทิ ถี่ กู ทาํ รา ยไปแจง ความ
ก วถิ ชี ีวติ ค สิ่งแวดลอม ข การรบั ฟง ความคิดเห็นของคน
ข วฒั นธรรม ง การนบั ถอื ศาสนา ตา งเช้ือชาตกิ บั เรา
๒. “การรบั ประทานเค้กหรอื ไอศกรมี กลาย ค การศึกษาวฒั นธรรมของคนในสังคม
เปน สงิ่ ท่ไี ดร้ บั ความนิยมมากข้ึน ที่เราอาศยั อยู
ในทุกพน้ื ทข่ี องโลก” คํากลา่ วนแี้ สดงถงึ ง การแสดงวาจาตอ ชาวตางชาติ
ความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรม ดว ยความสุภาพออ นโยน
ในเร่ืองใด
ก วถิ ีชีวติ ค ส่งิ แวดลอ ม ๖. ข้อใดเปน การปฏิบัตติ นท่ถี กู ต้องตาม
ข วัฒนธรรม ง การนบั ถอื ศาสนา หลกั ความมีวินยั ในตนเองเพือ่ การ
๓. “ยโุ รปตะวันออกนิยมนบั ถอื นิกาย อย่รู ่วมกนั ในสังคมพหวุ ัฒนธรรมและ
ออรท อดอกซ สว่ นนกิ ายโรมนั คาทอลกิ การพึ่งพาซึ่งกนั และกัน
นับถอื กนั มากในยุโรปกลาง” คํากลา่ วน้ี ก ยอมรบั ผดิ เมอื่ ใชว าจาไมส ภุ าพตอ ผอู น่ื
แสดงถงึ ความหลากหลายทางสงั คม ข ยกยองเพ่ือนวาเปนผูท่ีมีวัฒนธรรม
วฒั นธรรมในเรอ่ื งใด ดีงามตอ หนา คนอนื่ ๆ
ก วถิ ีชีวิต ค สิ่งแวดลอม ค ใหค วามเคารพเฉพาะผทู มี่ รี ปู แบบทาง
ข วัฒนธรรม ง การนบั ถอื ศาสนา วฒั นธรรมเหมือนกบั เรา
๔. “ทวีปแอฟริกามีพ้ืนท่ีป†าไม้อยู่น้อยท่ีสุด ง แสดงกิริยาไมเห็นดวยทันทีเมื่อมีผูท่ี
และมคี วามแห้งแลง้ มากท่ีสดุ เมือ่ เปรยี บ ไมเห็นดวยกับความคิดเห็นของเรา
เทียบกับทวีปอ่นื ๆ” คาํ กลา่ วนแ้ี สดงถึง
ความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรม ๗. ความขัดแย้งคืออะไร
ในเร่ืองใด ก การทแี่ ตล ะฝา ยมที รพั ยากรแตกตา งกนั
ก วถิ ชี ีวติ ค สง่ิ แวดลอ ม ข การทแี่ ตล ะฝา ยมจี ดุ มงุ หมายทไ่ี ปดว ย
ข วัฒนธรรม ง การนบั ถอื ศาสนา กันไมได
ค การท่ีทั้งสองฝายใชกําลังเขาประหัต
ประหารกัน
ง การที่ท้ังสองฝายไมตองการใหเกิด
ความปรองดอง

252 คูม อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิม่ เติม หนาทพ่ี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓

๘. ความขดั แยง้ ระหวา่ งประเทศเกาหลเี หนอื ๙. ข้อใดไมใช ป˜ญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
และเกาหลีใต้ถือเปนความขัดแย้งทาง ไดจ้ ากเรื่องชู้สาว
ด้านทัศนคติ ความคิด และความเชื่อ ก การหยาราง
ในเรอื่ งใด ข การเกิดเดก็ กาํ พรา
ก ศาสนา ค การศึกษาไมท ่วั ถึง
ข สงิ่ แวดลอม ง การตง้ั ครรภกอ นวัยอันควร
ค ระบบเศรษฐกิจ
ง ลทั ธิทางการเมือง

๑๐. ขอ้ ใดไมใ ช วิธีการป‡องกันป˜ญหาความขัดแย้ง
ก การตอรอง
ข การไกลเ กลี่ย
ค การทําสงคราม
ง การประนีประนอม

คูมือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา ทีพ่ ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 253

กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๐

เรอื่ ง วถิ ีชีวิต

ผลการเรยี นรู้ ๘. เหน็ คณุ คา ของการอยูรวมกนั ในภมู ภิ าคตาง ๆ ของโลกอยางสนั ติ และ
พ่ึงพาซ่ึงกนั และกัน

๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปน ผูมีวินยั ในตนเอง
คำชี้แจง ลกั ษณะของวถิ ชี วี ติ จากภาพทกี่ ำหนดใหค วรเปน ลกั ษณะของวถิ ชี วี ติ ของคนในภมู ภิ าค

ใดของโลก เขยี นคำตอบลงในชองวางดานลา งภาพ

254 คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพ่มิ เติม หนา ที่พลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓

ชอ่ื นามสกุล เลขที่ ช้นั
โรงเรียน

คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพมิ่ เตมิ หนาทพี่ ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 255

กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๑

เรื่อง วฒั นธรรม
ผลการเรยี นรู้ ๘. เห็นคุณคา ของการอยรู วมกันในภูมภิ าคตาง ๆ ของโลกอยางสนั ติ และ

พึ่งพาซึ่งกันและกัน
๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเปน ผูมวี ินยั ในตนเอง
คำชแี้ จง สบื คน ภาพและขอ มลู เกย่ี วกบั วฒั นธรรมทน่ี กั เรยี นสนใจ ๑ เรอ่ื ง นำมาเขยี นเรยี งความ
ลงในชอ งวางที่กำหนดให

256 คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพ่มิ เติม หนา ที่พลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓

ชอ่ื นามสกุล เลขที่ ช้นั
โรงเรียน

คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพ่มิ เตมิ หนา ทีพ่ ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 257

กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๒

เร่อื ง ศาสนา
ผลการเรียนรู้ ๘. เหน็ คณุ คาของการอยูรว มกันในภมู ิภาคตา ง ๆ ของโลกอยา งสันติ และ

พง่ึ พาซึ่งกนั และกัน
๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผูม วี นิ ยั ในตนเอง
คำชี้แจง เขียนขอมูลเก่ียวกับการนับถือศาสนาในภูมิภาคตาง ๆ ของโลกลงในแผนผังท่ี
กำหนดให

ศาสนา พระพุทธศาสนา

คริสตศ าสนา แ บงออกเปน ๓ ินกาย

ศาสนาอิสลาม
แบง ออกเปน ๒ นกิ าย

ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ชน้ั
โรงเรียน

258 คูมือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิม่ เตมิ หนาท่ีพลเมือง ๕–๖ ม. ๓

กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓๓

เร่ือง สง่ิ แวดลอ้ มในภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลก
ผลการเรียนรู้ ๘. เหน็ คุณคาของการอยูรวมกนั ในภมู ิภาคตาง ๆ ของโลกอยา งสันติ และ

พ่งึ พาซงึ่ กนั และกนั
๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปน ผมู ีวินยั ในตนเอง
คำชี้แจง แบงกลุมออกเปน ๖ กลุม แตละกลุมแสดงขอมูลเก่ียวกับส่ิงแวดลอมในภูมิภาค
ทก่ี ลุมไดรับมอบหมาย แลวศึกษาขอมูลภูมิภาคอื่น ๆ เปรียบเทียบกับภูมิภาค
ของกลุมตนเอง สรุป และเขยี นลงในชองวา งที่กำหนดให

ทวีปอเมริกาเหนอื ทวีปยโุ รป

ทวีปอเมริกาใต้ ทวปี เอเชยี

ทวีปแอฟริกา ทวีปออสเตรเลยี

ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชนั้
โรงเรียน

คมู ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพมิ่ เติม หนาทพ่ี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 259

กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๔

เรื่อง สงั คมพหวุ ฒั นธรรม
ผลการเรยี นรู้ ๘. เห็นคณุ คา ของการอยรู วมกนั ในภมู ภิ าคตาง ๆ ของโลกอยา งสนั ติ และ

พึง่ พาซง่ึ กนั และกัน
๑๐. ปฏบิ ัติตนเปนผมู วี ินยั ในตนเอง
คำชแี้ จง ตดิ ภาพหรอื เนอื้ หาขา วเกี่ยวกับคน กลุมคนทม่ี เี ชอ้ื ชาติ การนับถอื ศาสนา วัฒนธรรม
ทแ่ี ตกตา งกนั แลว วเิ คราะหว า ถา เราอยใู นเหตกุ ารณด งั กลา ว เราจะปฏบิ ตั ติ นอยา งไร
เขียน ลงในชอ งวา งท่ีกำหนดให

ข่าว

260 คมู ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพม่ิ เติม หนาทพ่ี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓
ถ้าฉันอย่ใู นเหตกุ ารณนี้ ฉันจะ...

ชือ่ นามสกลุ เลขที่ ช้ัน
โรงเรียน

คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพม่ิ เตมิ หนาท่พี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 261

กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๕

เร่ือง วนิ ัยในการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม
ผลการเรยี นรู้ ๘. เหน็ คณุ คาของการอยูรว มกนั ในภูมิภาคตา ง ๆ ของโลกอยางสันติ และ

พึ่งพาซงึ่ กันและกัน
๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปนผมู วี ินัยในตนเอง
คำชี้แจง บอกวินัยที่เราควรปฏิบัติเม่ือตองอยูรวมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมลงในชองวางที่
กําหนดให

วนิ ัย

ท่ีตอ้ งปฏิบัติ

ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ช้นั
โรงเรียน

262 คูม อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนาที่พลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓

กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓๖

เรอ่ื ง ความขัดแย้ง
ผลการเรยี นรู้ ๙. มสี วนรวมและเสนอแนวทางการปองกนั ปญ หาความขัดแยง

๑๐. ปฏิบตั ติ นเปนผูมวี นิ ยั ในตนเอง
คำชี้แจง ทำกจิ กรรมตอ ไปน้ี
๑. บอกความหมายและประเภทของความขัดแยง

ความขดั แยง หมายถงึ

ความขัดแยงแบง ออกเปน ประเภท ไดแ ก

๒. เขียนแผนท่ีความคิดสรุปความรูเก่ียวกับความขัดแยงเร่ืองทัศนคติ ความคิด และความเช่ือ
ลงในกรอบที่กำหนดให

คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพมิ่ เติม หนา ท่พี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 263
๓. คนหาขา วท่เี กี่ยวกบั ความขัดแยง เร่ืองชูสาว ๑ ขาว จากหนังสือพิมพ นำภาพขาวและเน้อื หาขาว

มาติดลงในชอ งวางท่ีกำหนดให แลว เขยี นบอกสาเหตทุ ท่ี ำใหเ กิดความขดั แยงดงั กลา วข้ึน

สาเหตทุ ที่ ำให้เกดิ ความขดั แยง้

ชื่อ นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั
โรงเรยี น

264 คูม ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หนาท่ีพลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓

กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๗

เร่อื ง การป‡องกนั ปญ˜ หาความขดั แยง้
ผลการเรยี นรู้ ๙. มีสว นรวมและเสนอแนวทางการปองกนั ปญ หาความขดั แยง

๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปน ผูม ีวนิ ัยในตนเอง
คำช้ีแจง บอกวธิ ปี อ งกนั ปญ หาความขดั แยงจากกรณตี วั อยางท่ีกำหนดให
กรณีที่ ๑: ทารกแรกเกดิ หนา ตานา รัก ถูกท้ิงในปายาง

พบทารกแรกเกิด หนาตานารัก ถูกท้ิงอยูในสวนยางบานควน อ.ตะก่ัวทุง ตํารวจ
คาดเปนลูกของวัยรุนในพ้ืนท่ีท่ีไมพรอมจะมีลูก เมื่อคลอดเสร็จก็ใหคนอื่นนํามาท้ิง
ในสภาพท่ียังไมไ ดทําความสะอาดเดก็ ทารก และสะดอื ถกู ตัดดวยของมคี ม

เมอ่ื เวลา ๑๖.๐๐ น. วนั ที่ ๑๕ ต.ค. ๕๗ ทต่ี กึ กมุ ารเวชกรรม รพ.พงั งา นางดารารตั น
สุเทศ หวั หนาบานพักเดก็ และครอบครวั จงั หวัดพังงา พรอมดวย นพ.สุพจน ภเู กาลวน
ผอ.รพ.พังงา พญ.ทิพยรัตน ตันสกุลประเสริฐ รอง ผอ.รพ. รวมกันตรวจสอบทารก
แรกเกดิ ทถ่ี กู ทง้ิ ไวใ นสวนยางพาราเมอื่ คาํ่ วานน้ี (๑๔ ต.ค. ๕๗) พบวา เปน เพศชาย มคี วาม
สมบรู ณดี หนาตานารัก ผิวพรรณดี นา้ํ หนักตัว ๓,๒๐๐ กรัม มีรอ งรอยแมลงกดั ตอย
เล็กนอย แพทยไดชว ยเหลือเรียบรอ ยแลว

ท่ีมา: www.thairath.co.th/content/457019

วธิ กี ารปอ‡ งกันไม่ใหเ้ กดิ ความขัดแยง้ ในกรณีท่ี ๑

คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพ่ิมเติม หนา ท่พี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 265

กรณีที่ ๒: มอื ปน พระกาฬยงิ หนมุ ดับคาบานพักกลางกรงุ พงุ ปมชสู าว

เม่ือชวงสาย วันที่ ๑๑ ม.ค. ตํารวจ สน.ดุสิต พรอมแพทยและเจาหนาท่ีพิสูจน
หลักฐานเขาชันสูตรศพนายกรธรรม อินทร อายุ ๔๓ ป ทํางานเปนเจาหนาท่ีสังกัด
หนวยงานแหงหน่ึง ถูกยิงดว ยอาวธุ ปนไมทราบขนาด เสียชีวิตอยูใ นหอ งนอนชั้น ๒ ของ
บานเชา เลขที่ ๔/๑๐ ซอยสุโขทัย ๗ แขวงสวนจติ รลดา เขตดุสติ กรงุ เทพฯ

จากการสอบสวน น.ส.จริยาภรณ ขวัญยืนคง อายุ ๓๔ ป ผูเชาบานท่ีเกิดเหตุ
ใหการวาคบหาอยูกับผูตาย ซึ่งจะแวะมาพักคางคืนดวยเปนครั้งคราว โดยเชาวันน้ีขณะ
ตัวเอง ผูตาย รวมท้ังลูกติดจากสามีเกา กําลังพักผอนกันอยูในหองนอน มีชายคนหน่ึง
มาเคาะประตูหอง เมื่อผูตายลุกขึ้นไปเปดประตู ชายดังกลาวก็ใชปนยิงใส ๓ นัดแลว
หลบหนีไป

ขณะทพ่ี ยานแวดลอมใหก ารวา ชวงหลงั น.ส.จริยาภรณม ีความสนทิ สนมกบั ตาํ รวจ
ไมทราบสังกัดนายหน่ึง ซึ่งมีรูปพรรณคลายกับชายคนกอเหตุ ตํารวจจึงเรงสอบสวนเพ่ือ
ระบุตัวผูกอ เหตตุ อ ไป

ท่มี า: www.thairath.co.th/content/474121

วธิ ีการป‡องกันไม่ให้เกดิ ความขัดแย้งในกรณที ี่ ๒

266 คูม ือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพิ่มเติม หนา ทีพ่ ลเมือง ๕–๖ ม. ๓
กรณีที่ ๓: ปะทุขดั แยงจีน–ญ่ปี นุ รอบใหม ชงิ เกาะเตียวหยู

จากกรณีความขัดแยงระหวางญี่ปุน–จีนระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่อเรือรบจีนใชเรดารล็อก
เปาหมายเรือรบของญ่ีปุนในบริเวณทะเลจีนตะวันออก ใกลพ้ืนท่ีพิพาทแยงกรรมสิทธ์ิ
ระหวางสองประเทศและรฐั บาลญ่ปี ุนไดยืน่ หนงั สือประทวงแลว

นายอิตสุโนริ โอโนเดระ รัฐมนตรีกลาโหมของญ่ปี นุ แถลงเมือ่ วนั อังคาร พรอ มกบั
เปดเผยภาพเรอื เจยี งไค เรอื ฟรเี กตช้นั ๑ ของจีน ท่ีใชเรดารล็อกเปาเฮลิคอปเตอรข องกอง
กําลังปอ งกันตนเองทางทะเลของญี่ปุนเมื่อวันท่ี ๑๙ ม.ค. และภาพเรอื เจียงเวย เรือฟรเี กต
ช้ัน ๒ ของจีนใชเรดารล็อกเปาเรือรบของกองกําลังปองกันตนเองทางทะเลของญี่ปุนเม่ือ
๓๐ ม.ค.

เขาระบวุ า ท้งั สองเหตุการณเกิดข้นึ ในทะเลจนี ตะวันออก ใกลหมูเกาะเซนกากุ หรอื
ที่จนี เรยี กวา “เกาะเตยี วหย”ู และเปนเร่ืองผดิ ปกติอยา งที่สดุ ทใ่ี ชระบบเรดารล็อกเปา ยิง ซ่งึ
อาจทําใหเกิดอันตรายไดหากมีความผิดพลาดเกิดข้ึน แมไมมีรายงานการยิงฝายใดก็ตาม
และขอเรียกรอ งใหจีนยบั ยัง้ พฤติกรรมย่ัวยเุ ชน นี้ และในวันเดยี วกนั กระทรวงตา งประเทศ
ญ่ีปุนไดยื่นหนังสือประทวงอยางเปนทางการผานสถานทูตจีนในกรุงโตเกียวและสถานทูต
ญป่ี ุน ในกรงุ ปก กิ่ง นอกจากนล้ี า สดุ นายกรัฐมนตรชี ินโสะ อาเบะ ของญป่ี นุ แถลงตอ รัฐสภา
ในวันน้ี (๖ ก.พ. ๕๖) ระบวุ า ในขณะทกี่ าํ ลังมีสัญญาณที่ดใี นการเจรจาระหวา งสองชาติ จึง
เปน เรอ่ื งนาเสียใจอยา งทส่ี ุดท่ีจีนดําเนนิ การย่ัวยเุ พยี งฝา ยเดยี ว

ทม่ี า: www.bangkokbiznews.com

วิธกี ารปอ‡ งกันไม่ใหเ้ กิดความขดั แยง้ ในกรณีท่ี ๓

ชือ่ นามสกลุ เลขท่ี ช้นั
โรงเรียน

คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพมิ่ เตมิ หนาที่พลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 267

กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓๘

เร่อื ง วนิ ยั เพอ่ื ความปรองดอง สมานฉนั ท
ผลการเรยี นรู้ ๘. เห็นคุณคา ของการอยรู ว มกนั ในภมู ิภาคตาง ๆ ของโลกอยา งสันติ และ

พึ่งพาซึ่งกนั และกัน
๙. มสี วนรวมและเสนอแนวทางการปองกันปญหาความขดั แยง
๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปนผมู ีวินัยในตนเอง
คำชแ้ี จง บอกวนิ ยั ทเ่ี ราควรปฏบิ ตั เิ พอื่ ความปรองดอง สมานฉนั ท และควรปฏบิ ตั อิ ยา งไร แลว
ตรงกบั คานยิ มหลัก ๑๒ ประการขอ ใด เรื่องอะไร ลงในตารางทกี่ ําหนดให
วนิ ยั ทเ่ี ราควรปฏิบตั ิเพื่อความปรองดอง สมานฉนั ท ตรงกบั คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ

ช่ือ นามสกุล เลขที่ ช้ัน
โรงเรยี น

268 คูมอื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพิ่มเตมิ หนา ท่ีพลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓

กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๙

เร่อื ง ทบทวนความรู้
ผลการเรียนรู้ ๘. เห็นคุณคาของการอยูรว มกันในภูมภิ าคตา ง ๆ ของโลกอยางสันติ และ

พึ่งพาซง่ึ กันและกัน
๙. มสี ว นรวมและเสนอแนวทางการปอ งกนั ปญหาความขดั แยง
๑๐. ปฏิบตั ติ นเปน ผูมวี ินัยในตนเอง
คำชแี้ จง ทาํ กจิ กรรมตอไปนี้
๑. คน หาภาพเก่ยี วกบั วถิ ีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา และสิ่งแวดลอ มในชุมชนท่เี ราอยอู าศยั นำภาพ
มาติดลงในกรอบแลวอธิบายลักษณะและความแตกตางของสังคมวัฒนธรรมเหลานั้นลงใน
ชอ งวา งท่กี ำหนดให
๑) วิถีชีวติ

๒) วัฒนธรรม

คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพิม่ เตมิ หนาทพ่ี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 269

๓) ศาสนา

๔) ส่งิ แวดลอม

๒. บอกวธิ กี ารอยรู ว มกนั ในสงั คมพหวุ ฒั นธรรมและการพงึ่ พาซงึ่ กนั และกนั ตามหวั ขอ ทก่ี ำหนดให
๑) การเคารพซึง่ กนั และกัน
๒) ไมแ สดงกริ ยิ าและวาจาดูหม่ินผอู ื่น
๓) แบงปนและชวยเหลือซง่ึ กันและกนั

270 คูม ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนา ทพ่ี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓
๓. หาขาวความขัดแยงเกี่ยวกับทัศนคติ ความคิด และความเช่ือ หรือเร่ืองชูสาว นำขาวมาติด

ลงในกรอบ แลวบอกวิธีการปอ งกนั ปญ หาความขัดแยงเปนขอ ๆ ลงในชอ งวางที่กำหนดให

คมู อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนาท่พี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 271
วิธกี ารป‡องกันปญ˜ หาความขัดแยง้

ช่ือ นามสกลุ เลขท่ี ช้ัน
โรงเรียน

272 คูม อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพ่มิ เติม หนา ทพ่ี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓

แบบทดสอบหลงั เรียน
หนวยการเรยี นรูที่ ๕

คำชีแ้ จง เลอื กคำตอบท่ีถูกต้องท่สี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว

๑. “คนทีอ่ ยใู่ นเขตร้อนมฝี นตกชุกมัก ๓. วฒั นธรรมสากลมีความแตกต่างจาก
ประสบกบั ภัยจากนํ้าท่วมทกุ ป ขณะที่ วฒั นธรรมของคนในภูมิภาคต่าง ๆ
คนท่ีอย่ใู นเขตหนาว จะประสบกบั อากาศ ของโลกอยา่ งไร
หนาวเยน็ ตลอดทง้ั ป” ขอ้ ความนกี้ ลา่ วถงึ ก มีความสวยงามมากกวาวัฒนธรรม
ความหลากหลายทางสังคม วฒั นธรรม อ่ืน ๆ
ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกในเรอ่ื งใด ข ใชในชีวิตประจาํ วนั ไดง ายกวา
ก ท่อี ยอู าศยั วัฒนธรรมอนื่ ๆ
ข สง่ิ แวดลอม ค นาํ มาประยกุ ตใหเ ขากับวัฒนธรรม
ค การแตงกาย อ่นื ๆ ไดท ุกรปู แบบ
ง การประกอบอาชพี ง มีความทันสมัยตอโลกในปจ จุบนั
มากกวา วัฒนธรรมอืน่ ๆ

๒. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ความหลากหลายทางสงั คม ๔. “ยโุ รปกลางและยโุ รปตะวันออกมพี นื้ ที่
วฒั นธรรมในเรือ่ งวถิ ชี ีวิตจากข้อความ ติดตอ่ กัน แต่มกี ารนับถือศาสนาที่
ในขอ้ ๑ ได้ถกู ต้อง แตกตา่ งกนั ” ขอ้ ใดกลา่ วถึงขอ้ ความนี้
ก คนในเขตรอ นและเขตหนาวจะประกอบ ได้ถูกต้อง
อาชพี เหมอื นกัน ก ยุโรปตะวันออกไมมีคนนับถือคริสต-
ข คนในเขตหนาวเทานั้นที่จะมีวิถีชีวิต ศาสนา
ตามแบบวัฒนธรรมสากล ข ยุโรปตะวันออกมีคนสวนใหญนับถือ
ค คนในเขตรอ นนยิ มแตง กายดว ยเสอ้ื ผา ศาสนาอิสลาม
บางเบา สวนคนในเขตหนาวตองใส ค ยุโรปกลางมีคนท่ีนับถือพระพุทธ-
เสอ้ื สูท ศาสนามากทีส่ ุดในยุโรป
ง คนในเขตรอนนิยมสรางบานจากอิฐ ง ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกนับถือ
และปนู สว นคนในเขตหนาวตอ งสรา ง คริสตศ าสนาตางนกิ ายกัน
บา นดว ยไม

คมู อื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพ่ิมเติม หนาทีพ่ ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 273

๕. ข้อใดไมใช วิธีการปฏิบัติตนเพื่อการอยู่ ๘. ข้อใดเปนป˜ญหาความขัดแย้งในภูมิภาค
ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและการ ต่าง ๆ ของโลกที่เกิดขึ้นจากทัศนคติ
พึ่งพาซงึ่ กันและกนั ความคิด และความเชื่อท่ีแตกตา่ งกัน
ก การเปนผูฟง ท่ีดี ทางดา้ นการเมือง
ข การวเิ คราะหวจิ ารณข าว ก ความขัดแยงระหวางเกาหลีเหนือและ
ค การศึกษาทําความเขาใจถึงวัฒนธรรม เกาหลีใต
ตา ง ๆ ข ความขดั แยงในพืน้ ทีส่ ามจงั หวัด
ง การบริจาคสิ่งของใหแกผูประสบภัย ชายแดนภาคใตข องไทย
ธรรมชาติ ค การแยง ชิงหมเู กาะในมหาสมุทร
แปซิฟกระหวา งจีนกบั ญป่ี นุ
๖. เมอ่ื พบคนตา่ งเชื้อชาติจากเรากาํ ลัง ง การทําสงครามตอตานการกอการราย
ตอ้ งการความชว่ ยเหลอื เราควรปฏบิ ตั ติ น ในเอเชยี ตะวนั ตกเฉยี งใตของ
อยา่ งไร สหรฐั อเมรกิ า
ก พูดจากับคนตางเชื้อชาติอยางสุภาพ
และเดินจากไป ๙. ข้อใดเปนพฤติกรรมท่ีทําให้เกิดป˜ญหา
ข ศกึ ษาวฒั นธรรมของคนเชอ้ื ชาตนิ น้ั ๆ ความขัดแย้งเร่ืองชูส้ าวได้
กอนใหค วามชวยเหลือ ก พกถงุ ยางอนามัยติดตัวอยเู สมอ
ค ไมตองทําอะไร ปลอยใหคนเช้ือชาติ ข ทดลองเรยี นรูเรือ่ งเพศสมั พันธ
เดยี วกันเปนผชู ว ยเหลือกนั เอง ดวยตนเอง
ง สอบถามความตองการแลวพาไปพบ ค ไมย ุงเกยี่ วหรอื เดินเทยี่ วใน
หนวยงานท่ีใหค วามชวยเหลือได สถานเริงรมยตาง ๆ
ง ขอคาํ ปรกึ ษาเรื่องเพศสัมพันธจาก
๗. ทัศนคติ ความคดิ และความเช่อื ครูและผปู กครองอยเู สมอ
ท่แี ตกตา่ งกนั มลี ักษณะเปนอยา่ งไร
ก เปนปญ หาทางการเมืองและศาสนา ๑๐. ถ้าเกิดความขดั แย้งเร่อื งชู้สาวขน้ึ
ข มคี วามคดิ เหน็ ทางการเมอื งทแ่ี ตกตา ง เราสามารถป‡องกันป˜ญหาด้วยวิธกี ารใด
กนั เทานัน้ ดีทส่ี ดุ
ค ความคิดและความเช่ือที่แตกตางกัน ก การบังคบั
มีผลจากปจ จยั ทางเศรษฐกิจ ข การหลบหนี
ง ทศั นคตทิ แ่ี ตกตา งกนั สง ผลใหค วามคดิ ค การเจรจาตอ รอง
และความเช่อื แตกตา งกันดว ย ง การสรา งเครือขาย


Click to View FlipBook Version