The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิธีระบบ System Approach ปภาวรินท์019

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 620113189019, 2021-01-22 10:59:00

วิธีระบบ System Approach ปภาวรินท์019

วิธีระบบ System Approach ปภาวรินท์019

วิธรี ะบบ System Approach

จดั ทำโดย
นางสาวปภาวรนิ ท์ ซ้อนรมั ย์
รหสั นักศกึ ษา 620113189019

เสนอ
อาจารย์กรนาวนิ สารยิ า

ชน้ั ปีท่ี 2 หมู่ที่ 1
รายวิชา วิธีระบบทางเทคโนโลยีการศึกษา 1032104

สาขาเทคโนโลยแี ละคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื การศึกษา
คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏบุรรี มั ย์

ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563

คำนำ
รายงานเลม่ นี้จัดทำขึน้ เพอ่ื เป็นสว่ นหนึง่ ของรายวิชา วธิ ีระบบทางเทคโนโลยีการศึกษา
ชั้นปกี ารศกึ ษาปที ่ี 2 เพื่อใหไ้ ดศ้ กึ ษาหาความรูใ้ นเรื่อง วธิ รี ะบบการวิเคราะหร์ ะบบรวมไปถึง
ลักษณะของระบบทด่ี ีและการนำวธิ รี ะบบไปใชใ้ นการเรียนการสอน และได้ศกึ ษาอย่างเข้าใจเพ่ือ
เปน็ ประโยชน์ตอ่ การเรียน
ผจู้ ัดทำหวงั ว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผ้อู ่านหรือนักเรยี นนักศกึ ษา ที่กำลังหา
ข้อมลู เรื่องนอ้ี ยู่ หากมขี อ้ แนะนำหรอื ข้อผิดพลาดประการใด ผจู้ ดั ทำขอน้อมรบั ไว้และขออภยั มา
ณ ทน่ี ดี้ ้วย

ผู้จดั ทำ
( 22/01/2564 )

สารบญั
เร่ือง หนา้
วิธรี ะบบ ( System Approach )................................................................................................... 1-2
การวิเคราะห์ระบบ ( System Analysis )..................................................................................... 3-4
ลกั ษณะของระบบที่ด.ี ............................................................................................................. 5
ระบบเปิดและระบบปิด........................................................................................................... 6
วิธีระบบท่นี ำมาใชใ้ นการสอน.................................................................................................. 7-9
บรรณานุกรม........................................................................................................................... 10

1

วิธีระบบ ( System Approach )

วธิ ีระบบ คือ ภาพสว่ นรวมของโครงสร้างหรอื ของขบวนการอยา่ งหนึ่งที่มกี ารจัดระเบียบความสัมพนั ธ์
ระหว่างองคป์ ระกอบต่าง ๆ ทีร่ วมกันอยใู่ นโครงการหรอื ขบวนการนน้ั

ระบบ เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทีใชใ้ นการวางแผนและดำเนินการต่าง ๆ
เพอ่ื ให้บรรลผุ ลตามจุดมงุ่ หมายที่กำหนดไว้ วิธีการระบบมอี งค์ประกอบทีส่ ำคัญ 4 ประการ คอื
1. ขอ้ มูลวตั ถดุ ิบ ( Input )
2. กระบวนการ ( Process)
3. ผลผลติ ( Output )
4. การตรวจผลย้อนกลับ ( Feedback)

องค์ประกอบท้ัง 4 สว่ นนี้ จะมีความสัมพนั ธต์ ่อเนอื่ งกัน

ลักษณะสำคญั ของวิธีระบบ

1. เป็นการทำงานร่วมกันเป็นคณะของบคุ คลทีเ่ ก่ียวข้องในระบบนน้ั ๆ
2. เปน็ การแกป้ ัญหาโดยการใช้วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์
3. เปน็ การใชท้ รพั ยากรทมี่ อี ยูอ่ ยา่ งเหมาะสม
4. เป็นการแกป้ ญั หาใหญ่ โดยแบ่งออกเปน็ ปญั หาย่อย ๆ เพ่อื สะดวกในการแก้ปัญหาอนั จะเปน็ ผลใหแ้ กป้ ัญหา
ใหญไ่ ดส้ ำเร็จ
5. มงุ่ ใช้การทดลองให้เห็นจริง
6. เลือกแกป้ ญั หาทีพ่ อจะแกไ้ ขไดแ้ ละเป็นปัญหาเรง่ ดว่ นกอ่ น

2

องคป์ ระกอบของระบบ

ไม่วา่ จะเป็นระบบใดกต็ าม จะประกอบด้วย 3 ส่วนคอื

1. สิง่ ท่ปี อ้ นเขา้ ไป ( Input )

หมายถึง ส่ิงต่างๆ ที่จำเปน็ ตอ้ งใช้ในกระบวนการหรอื โครงการตา่ งๆ เชน่ ในระบบการเรียนการสอนในชน้ั
เรยี น อาจได้แก่ ครู นกั เรียน ชั้นเรยี น หลักสูตร ตารางสอน วิธกี ารสอน เปน็ ตน้ ถา้ ในเร่อื งระบบหายใจ อาจ
ได้แก่ จมูก ปอด กระบังลมอากาศ เปน็ ต้น

2. กระบวนการหรอื การดำเนินงาน ( Process)

หมายถึง การนำเอาสง่ิ ที่ปอ้ นเขา้ ไป มาจัดกระทำใหเ้ กดิ ผลบรรลุตามวตั ถปุ ระสงค์ท่ีต้องการ เช่น การสอน
ของครู หรือการให้นกั เรียนทำกจิ กรรม เป็นตน้

3. ผลผลติ หรอื การประเมนิ ผล (Output)

หมายถงึ ผลทีไ่ ดจ้ ากการกระทำในขัน้ ท่ีสอง ไดแ้ ก่ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นของนักเรยี น หรือผลงานของ
นกั เรียน

วิธีการระบบทด่ี ี จะตอ้ งเปน็ การจดั สรรทรัพยากรทมี่ อี ยมู่ าใชอ้ ย่างประหยดั และเหมาะสมกับ
สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ เพอื่ ให้การทำงานเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ บรรลุเป้าหมายท่ีวางไว้ถ้าระบบ
ใดมีผลผลติ ทงั้ ในดา้ นปริมาณและคุณภาพมากกว่าข้อมลู วัตถุดิบท่ีปอ้ นเขา้ ไป กถ็ อื ไดว้ ่าเปน็ ระบบท่มี คี ณุ ภาพ
ในทางตรงข้ามถ้าระบบมีผลผลิตท่ตี ่ำกวา่ ข้อมูลวตั ถุดบิ ทีไ่ ปใช้ กถ็ ือวา่ ระบบนั้นมีประสิทธิภาพตำ่

3

การวเิ คราะห์ระบบ ( System Analysis )

การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis)การวิเคราะหร์ ะบบ เป็นวิธีการนำเอาผลที่ได้ ซ่งึ เรยี กว่า ข้อมูล
ยอ้ นกลบั (Feed Back) จากผลผลิตหรือการประเมินผลมาพิจารณาปรับปรงุ ระบบให้มปี ระสิทธภิ าพยง่ิ ข้ึน

เป็นการกระทำหลงั จากผลท่ไี ด้ออกมาแลว้ เป็นการปรับปรงุ ระบบการทำงานให้มปี ระสิทธิภาพขน้ึ ขอ้ มูล
ท่ีได้จากการประเมินผลและมามาใช้แกไ้ ขขอ้ บกพร่องในส่วนต่าง ๆ หรือ การดูขอ้ มลู ย้อนกบั ( Feedback )
ดังนนั้ การนำขอ้ มลู ย้อนกลบั มาใช้ในการวิเคราะห์ระบบจึงเป็นส่วนสำคัญของวธิ ีระบบ ( System Approach)
ซึ่งจะขาดองค์ประกอบน้ีไมไ่ ด้มฉิ ะนนั้ จะไมก่ อ่ ใหเ้ กิดการแกป้ ญั หาไดต้ รงเป้าหมายและการปรบั ปรุงทม่ี ี
ประสิทธภิ าพ

ขน้ั ตอนของการวเิ คราะหร์ ะบบ

1. ปัญหา (Identify Problem)
2.จดุ ม่งุ หมาย (Objectives)
3. ศกึ ษาขอ้ จำกดั ต่าง ๆ (Constraints)
4. ทางเลอื ก (Alternatives)
5. การพิจารณาทางเลอื กทีเ่ หมาะสม (Selection)
6. การทดลองปฏบิ ัติ (Implementation)
7. การประเมนิ ผล (Evaluation)
8. การปรบั ปรงุ แกไ้ ข (Modification)

โดยขัน้ ตอนทัง้ 8 นัน้ มีวธิ กี ารดังน้ี
ข้นั ท่ี 1 ขน้ั ตง้ั ปญั หาหรอื กำหนดปัญหา ในขน้ั นี้ต้องศกึ ษาให้ถ่องแทเ้ สยี กอ่ นว่าอะไรคอื ปญั หาท่คี วรแกไ้ ข
ข้ันท่ี 2 ขน้ั กำหนดเปา้ หมายหรอื วัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื การแกไ้ ขปญั หาน้นั ๆ วา่ จะให้ไดผ้ ลในทางใด มีปริมาณและ
คุณภาพเพียงใดซึ่งการกำหนดวตั ถปุ ระสงค์นค้ี วรคำนงึ ถึงความสามารถในการปฏบิ ตั ิและออกมาในรูปการ
กระทำ
ขัน้ ที่ 3 ขน้ั สรา้ งเครอ่ื งมืดวดั ผล การสรา้ งเครือ่ งมือนจ้ี ะสร้างหลังจากกำหนดวัตถุประสงค์ และตอ้ งสร้างกอ่ น
การทดลองเพ่อื จะไดใ้ ชเ้ คร่อื งมือนี้ วดั ผลได้ตรงตามเวลาและเปน็ ไปทุกระยะ

4

ข้นั ที่ 4 คน้ หาและเลอื กวิธกี ารตา่ งๆ ที่จะใช้ดำเนินการไปสู่เปา้ หมายทวี่ างไว้ ควรมองดว้ ยใจกวา้ งขวาง และ
เปน็ ธรรม หลาย ๆแง่ หลาย ๆ มมุ พิจารณาขอ้ ดีขอ้ เสียตอลดจนข้อจำกดั ต่าง ๆ

ขนั้ ท่ี 5 เลอื กเอาวิธที ่ีดที ี่สุดจากขั้นท่ี 4 เพ่ือนำไปทดลองในขัน้ ต่อไป

ขน้ั ที่ 6 ข้ันการทำอง เมอ่ื เลอื กวธิ ีการใดแลว้ กล็ งมอื ปฏบิ ตั ิตามวิธีการนน้ั การทดลองน้คี วรกระทำกับกลุ่มเลก็ ๆ
ก่อนถ้าไดผ้ ลดีจงึ คอ่ ยขยายการปฏิบัตงิ านให้กว้างขวางออกไป จะได้ไมเ่ สยี แรงงาน เวลาและเงนิ ทองมาก
เกนิ ไป

ขั้นท่ี 7 ขน้ั การวดั ผลและประเมนิ ผล เมื่อทำการทดลองแลว้ ก็นำเอาเครอื่ งมอื วัดผลที่สรา้ งไว้ ในขั้นที่ 3 มา
วัดผลเพอื่ นำผลไปประเมนิ ดูวา่ ปฏิบัตงิ านสำเรจ็ ตามเป้าหมายเพียงใด ยงั มีส่งิ ใดขาดตกบกพร่อง จะได้นำไป
ปรบั ปรงุ แก้ไข

ข้ันที่ 8 ขน้ั การปรับปรุงและขยายการปฏิบตั ิงาน จากการวัดผลและประเมินผลในข้ันที่ 7 ก็จะทำใหเ้ ราทราบ
วา่ การดำเนินงานตามวิธีการทีแ่ ล้วมาน้นั ไดผ้ ลตามวตั ถปุ ระสงค์หรือไม่ เพยี งใด จะไดน้ ำมาแก้ไข ปรบั ปรุง
จนกว่าจะไดผ้ ลดจี งึ จะขยายการปฏิบัติ หรอื ยึดถอื เปน็ แบบอย่างต่อไป

5

ลักษณะของระบบทด่ี ี

ระบบทดี่ ตี อ้ งสามารถปฏิบตั งิ านได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ( efficiency) และมีความยั่งยนื (sustainable) ต้องมี
ลกั ษณะ 4 ประการคอื

1. มีปฏิสมั พันธก์ ับสง่ิ แวดลอ้ ม ( interact with environment )

2. มีจดุ หมายหรือเปา้ ประสงค์ ( purpose)

3. มีการรกั ษาสภาพตนเอง (self-regulation)

4. มกี ารแกไ้ ขตนเอง ( self-correction )

ปฏิสัมพนั ธก์ ับส่ิงแวดล้อม ( interact with environment )

ระบบทุก ๆ ระบบจะมปี ฏสิ มั พันธ์ไม่ทางใดก็ทางหนงึ่ กบั โลกรอบ ๆตวั ของระบบโลกรอบ ๆตัวนี้
เรียกว่า "ส่ิงแวดล้อม" การท่ีระบบมปี ฏสิ ัมพันธ์กับสง่ิ แวดล้อมน้ีเองทำให้ระบบดงั กล่าวกลายเปน็ ระบบเปิด
( Open system ) กล่าวคือระบบจะรบั ปจั จัยนำเขา้ (input) จากสงิ่ แวดล้อม ซ่ึงอาจจะเปน็ พลงั งาน อาหาร
ขอ้ มลู ฯลฯระบบจะจดั กระทำเปล่ียนแปลงปจั จัยนำเข้านี้ให้เปน็ ผลผลติ ( output )แล้วสง่ กลบั ไปให้
สงิ่ แวดล้อมอีกท่ีหนง่ึ มจี ดุ หมายหรือเป้าประสงค์ ( purpose)ระบบจะต้องมีจุดมงุ่ หมายที่ชดั เจนแน่นอน
สำหรับตัวของมนั เอง

ระบบท่ีเกิดขน้ึ ตามธรรมชาติ เช่นระบบการดำเนินชีวติ ของมนษุ ย์นัน้ ก็มีจุดมงุ่ หมายสำหรบั ตัวของ
ระบบเองอยา่ งชัดเจนว่า "เพ่ือรักษาสภาพการมชี ีวิตไวใ้ หไ้ ด้ใหด้ ที ่ีสุด"จุดหมง่ หุ มายนี้ดอู อกจะไมเ่ ด่นชดั สำหรับ
เรานักเพราะเราไมใ่ ชผ่ ้คู ดิ สรา้ งระบบดงั กลา่ วขน้ึ มาเอง มีการรักษาสภาพตนเอง (self-regulation)

มีการแก้ไขตนเอง ( self-correction )

ลกั ษณะทดี่ ขี องระบบ คือ มกี ารแกไ้ ขและปรับตวั เองในการทร่ี ะบบมีปฏิสัมพันธ์กบั สภาพแวดลอ้ ม
บางครง้ั ปฏสิ มั พนั ธ์น้ันกจ็ ะทำให้ระบบการรักษาสภาพตัวเอง ตอ้ งยำ่ แย่ไป ระบบกต็ ้องมีการแก้ไขและปรับตวั
เองเสียใหมต่ วั อยา่ งเช่น การปฏิสมั พันธ์ระหว่างรา่ งกายกับอากาศหนาว (สภาพแวดลอ้ ม) อาจจะทำใหเ้ กดิ
อาการหวดั ขึ้นได้ ในสถานการณ์น้ี ถ้าระบบร่างกายไมส่ ามารถทจี่ ะรกั ษาสภาพตัวเองได้อยา่ งดี รา่ งกายก็
จะตอ้ งสามารถทจี่ ะปรับตัวเองเพอ่ื ที่จะตอ่ สกู้ ับอาการหวดั นนั้ โดยการผลติ ภมู ิค้มุ กันออกมาต้านหวัด

6

ระบบเปดิ และระบบปิด

ระบบเปดิ ( Open System )

ระบบเปดิ คือ ระบบที่รบั ปจั จัยนำเข้า จากสิ่งแวดลอ้ ม
และขณะเดยี วกันกส็ ่งผลผลิตกลับไปให้ส่งิ แวดล้อม
อีกคร้งั หนึ่ง ตวั อยา่ งระบบเปดิ ทัว่ ๆ ไป เชน่
ระบบสงั คม ระบบการศึกษา ระบบหายใจ ฯลฯ

ระบบปดิ ( Close System )

คอื ระบบทมี่ ไิ ด้รับปจั จัยนำเขา้ จากสิ่งแวดล้อม หรือ
รบั ปจั จัยนำเข้าจากส่ิงแวดล้อมนอ้ ยมากแต่
ขณะเดยี วกันระบบปิดจะผลิดOutputให้กับ
ส่ิงแวดล้อมด้วย เชน่ ระบบของถ่านไฟฉาย หรือ
ระบบแบตเตอร่ตี ่าง ๆ ระบบปิดจะมอี ายุส้ันกว่า
ระบบเปิด เนอื่ งจากระบบปิดนนั้ ทำหน้าทเี่ พยี งแต่
เปน็ "ผู้ให้" เท่าน้นั

7

วธิ รี ะบบที่นำมาใชใ้ นการสอน

ประกอบดว้ ยขั้นตอนดังตอ่ ไปนี้
1. การประเมินความจำเป็น
2. การเลือกทางแก้ปัญหา
3. การตง้ั จุดมงุ่ หมายทางการสอน
4. การวเิ คราะหง์ านและเน้อื หาที่จำเป็นตอ่ ผลสัมฤทธ์ิตามจุดมุ่งหมาย
5. การเลอื กยุทธศาสตร์การสอน
6. การลำดับขน้ั ตอนของการสอน
7. การเลอื กส่อื
8. การจัดหรือกำหนดแหลง่ ทรัพยากรท่จี ำเปน็
9. การทดสอบ และ/หรือ ประเมินค่าประสิทธภิ าพของแหล่งทรัพยากรเหล่านน้ั
10. การปรบั ปรงุ แก้ไขแหล่งทรัพยากรจนกว่าจะเกดิ ประสิทธภิ าพ
11. การเดนิ ตามวฏั จักรของกระบวนการทัง้ หมดซำ้ อีก

ระบบการเรยี นการสอน

ระบบการเรยี นการสอน ก็คอื การจดั องค์ประกอบของการเรียนการสอนใหม้ คี วามสมั พันธก์ ันเพ่อื
สะดวกต่อการนำไปสูจ่ ดุ หมายปลายทางของการเรยี นการสอนทไี่ ดก้ ำหนดไว้

องคป์ ระกอบของระบบการเรยี นการสอน

ระบบการเรียนการสอนประกอบด้วยสว่ นย่อยๆ ตา่ ง ๆ ซ่ึงมคี วามเกยี่ วพันกนั และกัน ส่วนทส่ี ำคัญคอื
กระบวนการเรยี นการสอน ผูส้ อนและผเู้ รยี น ยเู นสโก ( UNESCO ) ได้เสนอรูปแบบขององคป์ ระกอบของ
ระบบการเรียนการสอนไว้ โดยมีองค์ประกอบ 6 สว่ น คอื
1. องคป์ ระกอบของการสอนจะประกอบด้วย ผูส้ อน ผูเ้ รยี น สือ่ การเรียนการสอน วิธสี อนซึง่ ทำงานประสาน
สัมพันธ์กัน อนั จะเปน็ พาหะหรือแนวทางผสมกลมกลนื กับเนื้อหาวิชา
2. กจิ กรรมการเรียนการสอน จะต้องมีสอ่ื การเรียนการสอนและแหลง่ ที่มาของสื่อการเรียนการสอนเหล่านนั้

8

3. ผูส้ อนต้องหาแนวทาง แนะนำชว่ ยเหลือผู้เรียนใหเ้ กิดการเรียนร้ทู ี่ดที ี่สดุ
4. การเสริมกำลังใจ การจงู ใจแก่ผูเ้ รยี น นับวา่ มอี ิทธพิ ลต่อการทจ่ี ะเสรมิ สร้างความสนใจ ใหก้ ารเรียนการสอน
มคี ณุ ภาพ
5. การประเมนิ ผล ผลทีอ่ อกมาอย่างมปี ระสิทธิภาพโดยการประเมินทง้ั ระบบ เพอ่ื ดวู า่ ผลทไ่ี ด้นัน้ เป็นอยา่ งไร
เปน็ การนำขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จรงิ มาเปรียบเทียบกับประสทิ ธิผลของระบบ เพอื่ การแกไ้ ขปรบั ปรุงต่อไป
6. ผลทไ่ี ดร้ ับทั้งประเมนิ เพ่ือประเมนิ ผลในการปรบั ปรุงและเปรียบเทียบกบั การลงทนุ ในทางการศึกษาว่า เปน็
อยา่ งไร นอกจากนี้ บุญชม ศรีสะอาด ไดก้ ลา่ วถงึ องคป์ ระกอบของระบบการเรยี นการสอน ได้แก่ ตัวปอ้ น
กระบวนการ และผลติ

ตัวปอ้ น ( Input ) หรอื ปัจจัยนำเข้าระบบ
คือ สว่ นประกอบตา่ งๆ ที่นำเข้าสรู่ ะบบไดแ้ ก่ ผู้สอน ผสู้ อน ผเู้ รยี น หลักสูตร สงิ่ อำนวยความสะดวก
ผสู้ อน หรือครู
เปน็ องคป์ ระกอบสำคญั ทจี่ ะทำใหก้ ารเรียนการสอนบรรลผุ ลตามวัตถปุ ระสงค์ ซง่ึ ข้นึ อยูก่ บั คุณลกั ษณะหลาย
ประการได้แก่คณุ ลักษณะดา้ นพทุ ธพิ ิสัย เชน่ ความรู้ ความสามารถความรจู้ ำแนกเปน็ ความรใู้ นเนอื้ หาสาระท่ี
สอน ความร้ใู นเทคนิคการสอนตา่ ง ความต้ังใจในการสอน ฯลฯ

9

ผู้เรียน

ผเู้ รียนเป็นองคป์ ระกอบทีส่ ำคัญท่ีสุดในระบบการเรยี นการสอนซงึ่ จะบรรลุผลสำเรจ็ ได้ย่อมขึ้นอยูก่ บั
คณุ ลกั ษณะของผู้เรยี นหลายประการ เชน่ ความถนัด ความรู้พ้ืนฐานเดิม ความพร้อมความสนใจและความ
พากเพียรในการเรียนทกั ษะในการเรยี นรู้ ฯลฯ

หลกั สตู ร

หลักสตู รเปน็ องค์ประกอบหลักทจี ะทำใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้ หลักสูตรประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบพื้นฐาน 4
ประการคือ

- วตั ถุประสงค์การเรียนรู้ - เน้อื หาสาระทีเ่ รยี น

- กิจกรรมการเรียนการสอน - การประเมินผล

สง่ิ อำนวยความสะดวก อาจเรยี กอกี อย่างวา่ "สิ่งแวดลอ้ มการเรยี น" เช่น หอ้ งเรียน สถานทเี่ รียน ซึ่ง
ประกอบดว้ ยโต๊ะ เกา้ อี้ แสดงสวา่ ง ฯลฯ

กระบวนการ ( Process )

ในระบบการเรียนการสอนกค็ ือ การดำเนนิ การสอนซงึ่ เปน็ การนำเอาตวั ป้อน เปน็ วตั ถดุ ิบในระบบมา
ดำเนินการเพ่อื ใหเ้ กดิ ผลผลติ ตามทีต่ ้องการ ในการดำเนินการสอนอาจมีกิจกรรมตา่ งๆ หลายกจิ กรรม ไดแ้ ก่
การตรวจสอบและเสรมิ พนื้ ฐานการสรา้ งความพรอ้ มในการเรยี น การใชเ้ ทคนิคการสอนตา่ ง ๆและอาจใช้
กิจกรรมเสริมการตรวจสอบและเสรมิ พน้ื ฐาน เปน็ กิจกรรมที่ทำให้ผู้สอนรจู้ ักผเู้ รยี นและได้ข้อสนเทศทน่ี ำมาใช้

ช่วยเหลอื ผเู้ รียนทย่ี ังขาดพ้ืนฐานทีจ่ ำเปน็ กอ่ นเรียน ใหไ้ ด้มีพน้ื ฐานที่พรอ้ มท่ีจะเรยี นโดยไมม่ ีปัญหาใด ๆ

ผลผลิต ( Output )

ผลผลติ คอื ผลท่ีเกดิ ขนึ้ ในระบบซึ่งเป็นเป้าหมายปลายทางของระบบ สำหรับระบบการเรยี นการสอนผลผลิตที่
ต้องการกค็ ือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนไปในทางทพ่ี ึงประสงค์ เปน็ การพัฒนาที่ดีในดา้ น

พุทธพิ สิ ัย ( Cognitive ) จิตพสิ ยั ( Affective ) และทกั ษะพิสยั ( Psychomotor )

การติดตามผล ประเมินผล และปรับปรุง เพือ่ ให้การเรียนการสอนบรรลุผลอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ผสู้ อนจะตอ้ ง
พิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆทง้ั หมดในระบบ โดยพิจารณาผลผลิตว่าไดผ้ ล เป็นไปดงั ทีม่ งุ่ หวงั ไวห้ รือไม่มี
จุดบกพร่องในสว่ นใดท่จี ะต้องแกไ้ ข ปรบั ปรงุ บา้ ง

10

บรรณานุกรม

แหล่งสบื ค้น เข้าได้จาก https://senarak.tripod.com/system.htm ( วันทีส่ บื คน้ 22 มกราคม 2564)
เว็บไซรร้ ูปภาพประกอบ https://mpmaysa.blogspot.com/2019/01/today_14.html (วันทสี่ ืบค้น 22
มกราคม 2564)


Click to View FlipBook Version