งานวิจัยในชั้นเรียน2-64

2

วจิ ัยในชนั้ เรยี น

การแก้ปัญหาการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลงั เรียน
โดยใช้วธิ ีการทำแบบทดสอบด้วยโปรแกรม Quizizz
ในรายวิชาหลักการเขียนโปรแกรม รหัสวิชา 20204-2004

จดั ทำโดย
นายวทิ ูล เยื่องอยา่ ง
สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

3

ช่ืองานวิจยั การแก้ปัญหาการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน ในรายวิชาหลักการเขียนโปรแกรม
รหสั วชิ า 20204-2004 โดยใชว้ ิธกี ารทำแบบทดสอบออนไลนด์ ว้ ย Quizizz
ชอ่ื ผ้วู ิจยั
สาขาวชิ า นายวทิ ลู เยอ่ื งอยา่ ง
เทคโนโลยีธุรกิจดิจทิ ัล

บทคดั ยอ่
การแก้ปัญหาการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน ในรายวิชาหลักการเขียนโปรแกรม

รหัสวิชา 20204-2004โดยใช้วิธีการทำแบบทดสอบออนไลน์ด้วย Quizizz ของนักศึกษาระดับ

ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ ซึ่งมีจดุ ประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการทำ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลงั เรยี น ของนกั ศึกษาระดับประกาศนียบตั รวชิ าชีพ(ปวช.) ชนั้ ปีที่ 1 โดยประชากรใน
การทำวิจัย นักเรียนสาขาวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จำนวน 39 คน ซ่งึ ใช้ ระยะเวลาในการทำวจิ ัย 1 ภาคเรียน

คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
เครื่องมอื ที่ใช้ในการวิจัยครัง้ นี้ เป็นเครือ่ งมือทีผ่ ู้จัดทำได้สร้างขึ้นได้แก่ แบบประเมนิ ความ

พึงพอใจต่อการแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนออนไลน์ด้วย Quizizz เครื่องมือของแบบประเมินความ

พึงพอใจเป็นแบบมาตรการประเมนิ (Rating Scale) 5 ระดับ ตามแนวคดิ ของลิเคิรท์ ขอ้ คำถามจำนวน 6 ข้อ
โดยใชเ้ กณฑ์นำ้ หนกั คะแนนประเมนิ คา่ จัดอันดบั ความสำคัญ และสำหรบั แปลความหมายใช้คา่ เฉลี่ยของค่าที่
วดั ได้และยึดแนวคิดของเบสท์ (Best,1986: 195)

การวิเคราะหข์ ้อมูลจะใช้สถิติทีใ่ ช้วิเคราะห์ปรมิ าณการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรียน
ของนักเรียน คอื คา่ เฉลย่ี (µ) และรอ้ ยละ (%) ส่วนการวเิ คราะห์ขอ้ มูลดา้ นความพงึ พอใจใชส้ ถติ ทิ ่ใี ชว้ ิเคราะห์

ขอ้ มลู คอื ค่าเฉลย่ี (µ) รอ้ ยละ (%) และสว่ น เบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ)

4

สารบญั

หน้า

บทท่ี 1.............................................................................................................................5
บทนำ ..............................................................................................................................5

วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัย .................................................................................................................... 7
ขอบเขตของงานวจิ ยั ........................................................................................................................... 7
ประโยชน์ท่คี าดว่าจะไดร้ ับ.................................................................................................................. 7
นิยามศัพทเ์ ฉพาะ ................................................................................................................................ 7

บทที่ 2.............................................................................................................................8
เอกสารและงานวจิ ัยทเี่ กยี่ วข้อง............................................................................................8

วจิ ัยในช้ันเรยี น.................................................................................................................................... 8
อุปสรรคของการทางาน.................................................................................................................... 10
โปรแกรม Quizizz ........................................................................................................................... 10

บทท่ี 3.......................................................................................................................... 18
วธิ กี ารดำเนนิ งาน............................................................................................................ 18

กลมุ่ ประชากร .................................................................................................................................. 18
ระยะเวลาท่ใี ช้ในการทำงาน............................................................................................................. 18
เคร่อื งมือทีใ่ ช้ในการวจิ ยั ................................................................................................................... 18
ข้นั ตอนดำเนนิ การ............................................................................................................................ 18
การวิเคราะหข์ อ้ มลู ........................................................................................................................... 19
สถติ ทิ ใี่ ชใ้ นการวิเคราะหข์ อ้ มลู ......................................................................................................... 20

บทท่ี 4.......................................................................................................................... 21
ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล ..................................................................................................... 21
บทท่ี 5.......................................................................................................................... 23
สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ................................................................................ 23

สรปุ ผลการวิจัย ................................................................................................................................ 23
อภปิ รายผล...................................................................................................................................... 23
ขอ้ เสนอแนะในการทำวิจยั ............................................................................................................... 24

5

บทที่ 1
บทนำ

ความเป็นมาและความสำคัญของปญั หา
ในโลกและยคุ สมยั ปจั จุบันไดม้ กี ารพฒั นาเปลย่ี นแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ละประเทศมีการแข่งขัน

สูงในทางด้านกิจการงานต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองการศึกษาสังคม
เทคโนโลยเี ปน็ ต้น ประเทศไทยเป็นประเทศหน่งึ ทอี่ ยู่ท่ามกลางกระแสการเปลีย่ นแปลงน้ัน เพื่อให้สังคม
ก้าวทันสังคมไทยจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบด้านการศึกษา เพื่อเป็นการพัฒนาสร้าคุณภาพชีวิต
สง่ เสริมคุณลักษณะนิสัย ปลกู ฝังให้คดิ เป็น ทำเป็น แก้ปญั หาเป็น มคี วามใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้ ศึกษาค้นคว้าความรู้
ได้จากสื่อสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ก่อให้เกิด
ความคิดที่ริเริ่มสร้างสรรซึ่งเปน็ ฐานของการทำงานของประชากรในอนาคตที่เป็นคนยุคใหม่ ก้าวทนั โลก
แห่งความเจริญในปัจจุบันและอนาคต สามารถปรับตัวให้อยู่รอด ก้าวทัน ก้าวหน้า ก้าวนำ
การเปลี่ยนแปลงทางสงั คมได้อย่างมคี ุณภาพและย่งั ยนื

แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (ประจำปี 2560-2564) การเตรียมพร้อมด้าน
กำลงั คนและการเสริมสร้างศกั ยภาพของประชากรในทุกชว่ งวัย โดยมุ่งเนน้ การพฒั นาคนในทกุ มิติและใน
ทุกช่วงวยั ใหเ้ ป็นทนุ มนษุ ย์ทม่ี ีศกั ยภาพสงู ภายใต้เงอื่ นไขการเปล่ียนแปลงทส่ี ำคญั ไดแ้ ก่ การเปลีย่ นแปลง
ไปสู่โครงสร้างประชากรสังคมสูงวัยสมบูรณเ์ มื่อสิ้นสุดแผนพฒั นาฯ ฉบับที่12 คุณภาพคนยังมีปัญหาใน
ทุกช่วงวัยและสง่ ผลกระทบตอ่ เน่ืองถึงกันตลอดช่วงชีวิตผลลัพธ์ทางรศึกษาของเด็กวัยเรียนค่อนข้างตำ่
ดงั นนั้ จุดเน้นการพฒั นาคนท่ีสำคัญในชว่ งแผนพฒั นาฯ ฉบับท่ี 12 มดี งั นี้

๑) การพัฒนาเด็กให้มีสุขภาพกายและใจที่ดี มีทักษะทางสมอง ทักษะการเรียนรู้ ทักษะ
และทักษะทางสงั คม เพื่อใหเ้ ตบิ โตอย่างมีคุณภาพ

๒) การหล่อหลอมให้คนไทยมีค่านิยมตามบรรทัดฐานที่ดที างสังคม คนไทยในทกุ ชว่ งวัยเป็นคนดี
ภาวะทดี่ ี มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม มรี ะเบยี บวนิ ัย มจี ติ สานกึ ทด่ี ตี อ่ สงั คมสว่ นรวม

๓) การพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถของคน มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่เหมาะสมในแต่ละ
ช่วงวัย เพื่อวางรากฐานให้เป็นคนมีคุณภาพในอนาคต การพัฒนาทักษะสอดคล้องกับความต้องการใน
ตลาดแรงงานและทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ของคนในแต่ละช่วงวัยตามความ
เหมาะสม เช่น เด็กวัยเรียนและวัยรุ่นพัฒนาทักษะการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มีความคิดสร้างสรรค์
รวมทง้ั การใหค้ วามสำคญั กบั การพฒั นาให้มคี วามพร้อมในการต่อยอดพฒั นาทกั ษะในทกุ ดา้ น

๔) การเตรียมความพรอ้ มของกาลงั คนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในกล่มุ วทิ ยาศาสตร์ และ
เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคตอยา่ งสำคัญ

๕) การยกระดบั คุณภาพการศึกษาสูค่ วามเป็นเลิศในทุกระดับและยกระดับการเรียนรู้ โดยเน้น
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ปรับระบบการจัดการ
การสอน และการพฒั นาคุณภาพครูทง้ั ระบบ รวมทัง้ การยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลศิ

6

สาขาวิชาที่มคี วามเช่ยี วชาญเฉพาะด้าน และพฒั นาระบบทวิภาคีหรอื สหกิจศึกษาให้เอ้ือต่อการ
เตรียมคนทม่ี ี ทกั ษะใหพ้ รอ้ มเขา้ สตู่ ลาดแรงงาน นอกจากนี้ต้องใหค้ วามสำคญั กับการสร้างปจั จัยแวดลอ้ ม
ที่เอ้ือต่อการเรยี นตลอดชีวิตทง้ั สอื่ การเรียนรูแ้ ละแหล่งเรยี นรู้ที่หลากหลาย

พัฒนาเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่าง เป็นระบบมีความคิดสร้างสรรค์
มีทักษะ การทำงานและการใช้ชวี ติ ที่พรอ้ มเขา้ สูต่ ลาดงาน

๑) ปรับกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมใหเ้ ด็กมีการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงสอดคล้องกับ ของ
สมองแต่ละช่วงวัย เน้นพัฒนาทักษะพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้าน
คณติ ศาสตร์ ด้านศิลปะ และดา้ นภาษาตา่ งประเทศ

๒) สนับสนนุ ใหเ้ ดก็ เข้าร่วมกจิ กรรมทั้งในและนอกห้องเรยี นที่เอื้อต่อการพัฒนาทกั ษะชีวติ การ
เรยี นร้อู ย่างต่อเน่ือง อาทิ การอา่ น การบำเพ็ญประโยชน์ทางสังคม การดูแลสขุ ภาพการทางานรว่ มก กลมุ่
การวางแผนชีวิต

๓) สร้างแรงจงู ใจใหเ้ ดก็ เข้าสกู่ ารศกึ ษาในระบบทวิภาคีและสหกิจศึกษาทมี่ งุ่ การฝกึ ทกั ษะ พร้อม
เข้าสตู่ ลาดงาน

แผนงานการสร้างสภาพแวดลอ้ มให้เป็นแหลง่ การเรยี นร้ตู ลอดชวี ิต มุ่งเน้นการพฒั นาพื้นท่ีแหล่ง
เรียนรู้ให้มีชีวิต ทันสมัย มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากลเพงดูดให้คนทุกช่วงวัยเกิดความสนใจเข้าไป
เรยี นรู้และมสี ว่ นรว่ มในการทำกิจกรรมมกี ารศึกษาและพฒั นาแหลง่ เรยี นรู้รปู แบบใหมๆ่ ทจ่ี ะชว่ ยเพ่ิมพูน
ศักยภาพคนไทยให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เช่น ห้องเสมือน Virtual( Library) ศูนย์
ศึกษาบันเทิง Edutainment Center เป็นต้น การส่งเสริมการอ่านการเรียนรู้ ผ่านบริการห้องสมุดใน
ภมู ิภาคทที่ ันสมยั สรา้ งโอกาสใหก้ ลุม่ เดก็ เยาวชนสามารถเขา้ ถึงบริการ มีคุณภาพ สะดวกและรวดเร็ว จัด
ใหม้ เี ครือขา่ ยอทุ ยานการเรียนรู้ในระดับจังหวดั และภูมิภาค รวมท้ังความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในชุมชน
เพอ่ื พฒั นาพิพธิ ภณั ฑ์ท้องถ่ินใหเ้ ป็นพืน้ ทีก่ ารเรียนร้ปู ระวัตศิ าสตร์วัฒนธรรมด้วยรปู แบบทท่ี ันสมยั

การจัดการเรยี นการสอนในรายวิชาหลักการเขียนโปรแกรม (รหัสวชิ า 30000-2003) มีการ
เกบ็ คะแนนแบง่ ออกเป็นสองส่วน คือ คะแนนเก็บระหว่างภาค 80 คะแนน สอบปลายภาค 20 คะแนน
รวมเป็น 100 คะแนนโดยคะแนนเก็บระหว่างภาคมีสัดส่วนคะแนนที่มากกว่าร้อยละ 80
ซ่งึ มาจากการทำใบงานหรอื ช้นิ งาน 40 คะแนน และการสอบกลางภาค 20 คะแนน ดงั น้นั การทำใบงาน
หรือชนิ้ งานสง่ ครจู ึงเปน็ ส่งิ สำคญั ทจ่ี ะใช้ในการประเมินทกั ษะของนักเรียนในเร่อื งนน้ั ๆ

การจัดการเรียนการสอนในรายวิชาหลักการเขียนโปรแกรม (รหัสวชิ า 30000-2001) ให้กับ
นักศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาการบัญชีวิทยาลัยเทคนิค
ระยองได้พบปัญหาและอุปสรรคจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน
ด้วย Google Form เช่น ทำแบบทดสอบช้า หรือไม่ทำของนักเรียนอยูบ่ ่อยครั้ง เพราะเราไม่สามารถนง่ั
ควบคุมไดเ้ พราะเปน็ การเรียนออนไลน์ ซง่ึ ทำใหค้ รูไมส่ ามารถวดั ทักษะและความก้าวหน้าของนักเรียนได้
ดังนั้นครูผู้สอนจึงมีความต้องการที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยจึงได้จัดทำการแก้ปัญหาการทำ
แบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี นโดยลดอุปสรรคในการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรียน ด้วย Quizizz
ที่ครผู สู้ อนสามารถจะเปน็ ผู้ควบคุมการทำแบบทดสอบดว้ ยการจับเวลาออนไลน์ไปพรอ้ มๆกับผ้เู รียน โดย
ทคี่ รจู ะเป็นผู้ปล่อยข้อสอบ โดยสามารถตงั้ เวลาท่ีใชใ้ นแตล่ ะขอ้ ได้ เรมิ่ ต้งั แต่ 5 วนิ าที ไปจนถงึ 15 นาที

7

และเมื่อนักเรียนคนใดส่งคําตอบในขอ้ ใดแล้ว จะทราบทันทวี ่าตัวเองตอบถูกหรือไม่ ทำให้การเรยี นการ
สอนมผี ลสัมฤทธ์ิและประสทิ ธภิ าพท่ีสงู ขึ้น

สมมติฐานการวิจยั
สถิติปริมาณการทำแบบทดสอบของนักศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

ชนั้ ปีที่ 1 สาขาวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกจิ วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาฉะเชงิ เทรา การทำแบบทดสอบด้วย Google
Form และการทำแบบทดสอบดว้ ย Quizizz มคี วามแตกตา่ งกนั

วตั ถุประสงค์ของการวิจยั
1. เพื่อแก้ปัญหาการไม่ทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน ของนักศึกษาระดับ

ชน้ั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช.) ชน้ั ปีท่ี 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาฉะเชิงเทรา

ขอบเขตของงานวจิ ัย
1. ประชากรในการทำวิจยั คือนักศึกษาระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) ชัน้ ปที ่ี 1 สาขาวิชา

คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาฉะเชิงเทรา จำนวน 39 คน
2. ระยะเวลาคือ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564

ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะได้รบั
1. ได้รับแนวทางแก้ไขปัญหาการจดั การเรยี นการสอนของการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลัง

เรียน ทำให้การเรยี น การสอนมีประสทิ ธภิ าพมากย่งิ ข้นึ
2. เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนของนักศึกษาให้กับ

ครผู ้สู อนในรายวิชาอนื่ ๆ

นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ
อปุ สรรค หมายถึงเคร่อื งขดั ข้องความขดั ข้องหรือเครื่องขัดขวางเชน่ อุปสรรคทำให้เราแข็งแกร่ง

ขนึ้ คนที่ไมเ่ คยเผชญิ อปุ สรรคจะไม่รจู้ ักความสามารถทแ่ี ท้จรงิ ของตนเลย
งาน หมายถงึ แบบฝกึ หัดทค่ี รใู หใ้ นชัว่ โมงเรยี นแบบฝึกหัดทคี่ รใู หเ้ ป็นการบา้ น ใบงานรวมถงึ การ

ทางานเปน็ กลมุ่ และชน้ิ งาน
Quizizz เป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างแบบทดสอบเพ่ือประเมินผลออนไลน์ในลักษณะเกมถามตอบ

แบบปรนัย รองรบั ผู้เลน่ ทีส่ ามารถเข้าร่วมเกมเดยี วไดส้ งู สดุ ถงึ 500 คน สามารถแสดงผลคะแนนจากการ
ทดสอบไดท้ ันที แสดงผลได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ สามารถใส่ภาพและเสียงประกอบได้ ผู้เรยี น
สามารถทาํ แบบทดสอบ ผา่ นอปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์หลากหลายแพลตฟอร์มท่ีเชอื่ มต่ออินเทอรเ์ น็ตโดยใช้
อปุ กรณ์ชนดิ ใดก็ไดก้ ับเบราว์เซอร์ เช่น เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ แลป็ ทอ็ ป แทบ็ เลต็ หรือ สมารท์ โฟน

8

บทท่ี 2
เอกสารและงานวิจัยทเ่ี กีย่ วข้อง

แนวทางในการจัดทำวจิ ัยในเรื่องการแกป้ ัญหาการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลงั เรยี นในรายวชิ า
หลกั การเขยี นโปรแกรม รหสั วชิ า 20204-2004 โดยใช้วิธีการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลงั เรียนผ่าน
ระบบออนไลน์ดว้ ยโปรแกรม Quizizz ของนกั ศึกษาระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปที ่ี 1 ผู้วจิ ยั
จงึ ศกึ ษาเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวขอ้ งโดยเสนอตามลำดับหัวข้อ

1. วิจัยในชน้ั เรียน
2. อปุ สรรคของการทำงาน
3. Quizizz

๑. วิจยั ในชน้ั เรยี น

ความหมายของวิจัยในชน้ั เรยี น
การวิจัยในชนั้ เรียนเป็นรปู แบบของการวิจัยทางการศึกษาอกี รปู แบบหน่งึ ซึ่งเป็นการวิจัยท่ีควบคู่

ไปกับการปฏิบัติงานของครู โดยมีครูเป็นนักวิจัยและบริโภคทั้งผลิตงานวิจัย หรือกล่าวอีก นัยหนึ่งคือ
ครเู ป็นผู้ทำการวิจยั และนำผลการวจิ ัยไปใช้ ด้วยลักษณะของการวิจยั ในช้ันเรียน และนักวิจัยหลายท่าน
ได้ให้ความหมายของการวิจยั ในชั้นเรียนไว้หลากหลายโดยเนน้ การวิจัยทางการศึกษา และปฏิบัตกิ ารใน
ห้องเรียนดังน้ี

การวิจัยในช้ันเรียน หากแปลความหมายโดยการแยกคำหลัก ๆ จะเหน็ ได้ว่าประกอบด้วยคำว่า
“การวิจยั ” และ “ชั้นเรียน” ซ่ึงการวิจยั นั้นในบทที่ 1 ได้อธบิ ายความหมาย ความสำคัญ และหลกั การไว้
แลว้ สว่ นคำว่าชัน้ เรียน หากสื่อตามความหมายท่เี ก่ียวขอ้ งจะเห็นได้ว่าส่อื ถงึ ครนู กั เรียนดังน้ันหากหมาย
รวมกันแลว้ จะเหน็ ได้ว่า การวจิ ัยในช้นั เรยี น จะหมายถึงการวจิ ัยที่เก่ยี วข้องกบั ครหู รือนักเรี ความหมาย
ของการวจิ ยั ในชนั้ เรียนนนั้ ได้มีนักวิชาการ ได้นยิ ามความหมายท่คี ล้ายคลึงกนั ดังนี้

(Field ,1997 อ้างถึงในสุภัทรา เอื้อวงศ์ ออนไลน์2554) การวิจัยในชั้นเรียน เป็นการวิจัย
เพื่อหานวัตกรรมสำหรับแกป้ ัญหาหรือเพ่ือพัฒนาการเรยี นรู้ของผูเ้ รียน ซึ่งเนน้ ในลักษณะเชิงปฏบิ ัติการ
Action( Research) โดยมปี ัญหาการเรยี นรเู้ ปน็ จดุ เรม่ิ ต้น ผสู้ อนหาวิธกี าร หรอื นวตั รกรรม เพอ่ื แก้ปัญหา
มีการสงั เกตและตรวจสอบผลของการแก้ปญั หา/การพฒั นา แลว้ จึงบันทึกและสะท้อนการแก้ปัญหาหรือ
การพัฒนานั้นๆ การวิจัยในชั้นเรียนมักเป็นการวิจัยขนาดเล็ก Small scale ที่ดำเนินการโดย ผู้สอน
เปน็ กระบวนการทีผ่ สู้ อนสะท้อนการปฏิบัติงาน และเสริมพลังอรูผู้สอนานาจให้ครูผสู้ อน

9

(รัตนะ บัวสนธ์,2544) การวิจัยในชั้นเรียน เป็นการแก้ปัญหาและ /หรือพัฒนางานที่เกี่ยว
การเรียนการสอนใ นชั้นเรียนโดยอาศัยกระบวนก ารวิจั ยในก ารด ำเนิ นงานทั ้งนี้มีเป้ าหมาย ส ำ คั ญ
การเรียนรทู้ ี่สำคญั ของผเู้ รียนใหเ้ ปน็ ไปตามวัตถุประสงคท์ ี่กำหนดไวใ้ นหลกั สตู รการศึกษาในแตล่ ะระดับ

ความสำคัญของวิจัยในชน้ั เรยี น
(สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม2555) กล่าวว่า การทำวิจัยในชั้นเรียนนัน้ จะชว่ ยให้ครูมีวิถีชีวติ ของ
การทำงานครอู ย่างเป็นระบบเหน็ ภาพของงานตลอดแนว มีการตัดสินใจที่มีคุณภาพ เพราะจะมองเหน็
ทางเลือกต่าง ๆ ได้กว้างขวางและลึกซึ้งขึ้น แล้วจะตัดสินใจเลือกทางเลือกต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลและ
สร้างสรรค์ ครนู กั วจิ ยั จะมีโอกาสมากข้ึนในการคิดใครค่ รวญเกยี่ วกบั เหตผุ ลของการปฏบิ ตั ิงานและครูจะ
สามารถบอกการจัดการเรียนการสอนที่ปฏิบัตินั้นได้ผลหรือไม่เพราะอะไร นอกจากนี้ครูที่ใช้
กระบวนการวิจัยการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนนี้จะสามารถควบคุม กำกับ และพัฒนาการ
ปฏิบตั ิงานของตนเองได้ อยา่ งดี เพราะการทำงาน และผลของการทำงานนัน้ ลว้ นมีความหมาย และคณุ คา่
สำหรบั ครูในการพัฒนานกั เรียน ผลจากการทำวิจัยในชั้นเรียนจะช่วยให้ครูได้ตัวบ่งชี้ที่เป็นรูปธรรมของ
ผลสำเร็จในการปฏิบตั ิงานของครู อนั จะนำมาซ่ึงความรใู้ นงานและความปติ สิ ุขในการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง
ของครู เป็นที่คาดหวังว่า เมื่อครูผู้สอนได้ทำการวิจัยในชั้นเรียนควบคู่ไปกับการปฏิบัติงานสอนอย่าง
เหมาะสมแลว้ จะก่อใหเ้ กดิ ผลดตี ่อวงการศึกษา และวชิ าชีพครอู ย่างนอ้ ย 3 ประการ คอื
1. นกั เรยี นจะมีการเรียนรทู้ ่มี คี ณุ ภาพและประสิทธภิ าพย่งิ ขึ้น
2. วงวชิ าการการศกึ ษาจะมขี ้อความรู้และ/ หรือนวตั กรรมทางการจัดการเรียนการสอนที่เป็นจร
เกิดมากข้ึนอันจะเป็นประโยชน์ตอ่ ครแู ละเพ่อื นครใู นการพัฒนาการจดั การเรียนการสอนเป็นอย่างมาก
3. วิถีชีวิตของครู หรือวัฒนธรรมในการทำงานของครู จะพัฒนาไปสู่ความเป็นครูมืออาชีพ
(Professional Teacher) มากยง่ิ ขึน้ ทง้ั น้ีเพราะครูนกั วจิ ัยจะมคี ุณสมบัติของการเป็นผแู้ สวงหาความรหู้ รอื
ผูเ้ รยี น Learner ในศาสตรแ์ ห่งการสอนอย่างตอ่ เนอื่ งและมชี วี ิตชวี า จนในที่สดุ กจ็ ะเป็นผทู้ ี ความเข้าใจที่
กวา้ งขวาง และลึกซงึ้ ในศาสตร์และศิลป์แหง่ การสอนเป็นครทู ่ีมีวิทยายุทธ์แกรง่ กล้าในการสอน สามารถท่ี
จะสอนนักเรียนให้พัฒนาก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ในหลายบริบทหรือที่เรียกว่าเป็นครูผู้รอบรู้ หรือครู
ปรมาจารย์ Maser Teacher ซ่งึ ถา้ มปี ริมาณครูนัยดงั กล่าวมากขึ้นจะชว่ ยใหก้ ารพฒั นาวิชาชีพครูเปน็ วจิ ัย
อยา่ งสร้างสรรค์และมัน่ คง

สรุปได้ว่าการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนจะช่วยให้ครูสามารถวิเคราะห์ถึงปัญหาของผู้เรียนและ ถึง
ปัญหาในการจัดการเรยี นการสอนของครูผู้สอนไดอ้ ย่างลกึ ซงึ้ เน่อื งจากครผู ู้สอนจะสามารถรแู้ ล ปัญหาที่
เกิดกบั ผูเ้ รยี นไดโ้ ดยตรงเมอ่ื ทราบถึงปญั หาครผู ู้สอนสามารถทำการวิจยั เพ่อื สบื คน้ หาหนทาง วิธกี ารแกไ้ ข
ไดอ้ ยา่ งตรงเป้าหมาย ทำให้ผู้เรยี นมีประสิทธิภาพและคณุ ภาพท่ีดีมากย่ิงขนึ้

10

2. อปุ สรรคของการทำงาน

2.1 ขาดความพรอ้ มในการทำงาน
บางคนมาทำงาน แตย่ งั ทำตัวเปน็ เด็ก ๆ ทำงานแบบเด็ก ๆ ไมม่ ีความรบั ผิดชอบมากพอ

เมือ่ คุณกา้ วเข้าสโู่ ลกของการทำงาน คุณควรบอกตวั เองว่าตอนน้ีคณุ คอื ผู้ใหญ่แล้ว คุณไม่ใช่เด็กอีกต่อไป
คุณจะตอ้ งรับผิดชอบงานทไี่ ดร้ บั มอบหมายอยา่ งเตม็ ความสามารถ อยา่ ลมื ว่าคุณจะต้องพิสูจน์ให้นายจ้าง
เห็นว่า คุณมคี วามสามารถและสามารถผา่ นการทดลองงานได้

2.2 ไมช่ ำนาญในงานทีท่ ำ
เนื่องจากคุณเพิ่งเรียนจบ และงานที่คุณได้รับมกั เป็นสิง่ ที่แปลกใหม่ ไม่เคยทำ ไม่เคย

เรยี นมาก่อนเร่ืองความชำนาญจึงเป็นอุปสรรคอย่างหนงึ่ คุณอาจรู้สกึ วา่ งานยากเกินไปสำหรบั คุณ แต่เมอื่
คณุ เรยี นรู้มันสักระยะหน่งึ คุณจะรสู้ ึกชินกบั มัน และสามารถทำงานได้อย่างสบายใจข้ึน

2.3 ขาดกำลังใจ
เวลาที่เจอกับงานยาก บางครั้งคุณอาจรู้สึกท้อแท้และหมดกาลังใจ จนคิดว่าคุณไม่มี
ความสามารถคณุ ไม่อาจทำมันใหส้ ำเรจ็ ไดอ้ ยา่ งที่นายจา้ งต้องการ หากความร้สู กึ นีเ้ กดิ ขน้ึ คุณควรจะเติม
ความม่ันใจใหต้ ัวเองใหเ้ ตม็ และหมนั่ เติมอย่เู รือ่ ย ๆ อยา่ ปล่อยให้ความรู้สกึ ขาดกาลงั ใจมาบั่นทอนคณุ ถ้า
นายจา้ งคณุ คิดวา่ คณุ ทำไม่ได้ เขาคงไม่ให้คุณทำงานนี้หรอก ดังนัน้ เม่อื เขามน่ั ใจในตวั คุณ แล้วไยคณุ ถงึ ไม่
มั่นใจในตวั เองละ่

3. โปรแกรม Quizizz

Quizizz เป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างแบบทดสอบเพื่อประเมินผลออนไลน์ในลักษณะเกมถามตอบ
แบบปรนัย รองรับผ้เู ล่นท่สี ามารถเขา้ รว่ มเกมเดียวได้สูงสุดถงึ 500 คน สามารถแสดงผลคะแนนจากการ
ทดสอบไดท้ นั ที แสดงผลได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ สามารถใส่ภาพและเสยี งประกอบได้ ผู้เรยี น
สามารถทําแบบทดสอบ ผ่านอปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์หลากหลายแพลตฟอรม์ ทเี่ ชอ่ื มต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้
อปุ กรณช์ นิดใดกไ็ ด้กับเบราว์เซอร์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ แล็ปทอ็ ป แท็บเล็ต หรือ สมารท์ โฟน

จุดเด่นของ Quizizz ที่ผู้เขียนประทับใจคือ มี Quizizz Editor สำหรับสร้างและแก้ไขข้อมูล
รายละเอียด ของ Quiz ที่ยอดเยี่ยมใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพ ใส่ได้ทั้งข้อความ เสียง สมการ หรือ
รูปภาพ ทั้งจากในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือจากอินเทอร์เน็ตได้ทั้งในส่วนของคำถามและคำตอบ สามารถ
กำหนด เฉลยได้ 1 คำตอบ หรือมากกว่า 1 คำตอบได้ และยังสามารถตั้งเวลาที่ใ้ช้ในแต่ละข้อได้ เร่ิม
ต้งั แต่ 5 วินาที ไปจนถึง 15 นาที และเมอื่ นกั เรยี นคนใดส่งคําตอบในข้อใดแลว้ จะทราบทันทีว่าตัวเอง
ตอบถูกหรือไม่

11

ขั้นตอนการใช้ quizizz

1. เขา้ https://quizizz.com/

2. คลิกท่ี Login 1

2

3. Login ดว้ ย G-mail หรอื E-mail วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาฉะเชงิ เทรา

12

3

4. กรอก E-mail ของ G-mail หรือ E-mail วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาฉะเชงิ เทรา

4

13

5. เลอื ก at a school

5

6. เลอื ก Student

6

7. กรอกวนั เดือน ปี เกิด

14

7

8. เมอื่ กรอกวัน เดอื น ปี เกิด เรยี บร้อยแลว้ กดป่มุ Update

8

15

9. เลือกระดับ grade ให้เลือก 10th grade

9

10. เมอ่ื เลือกระดบั grade เรยี บรอ้ ย ใหก้ ดปมุ่ DONE

10

16
11. เมอื่ เข้ามาถงึ หนา้ นใี้ หร้ อรหสั ขอ้ สอบจากครู แล้วกรอกในชอ่ ง Enter a join code

11

12. กรอกรหสั ในช่อง Enter a join code แล้วกดป่มุ JOIN

12

17

13. เมื่อเขา้ มาถงึ หนา้ นใี้ หก้ รอก ชอ่ื นามสกลุ (ใช้ช่ือจรงิ นามสกลุ จริง เท่าน้ัน)
14. กดปุม่ Start

13
14

นักเรียนจะรอรหัสแบบทดสอบท่ีหนา้ นี้ และจะทำแบบทดสอบได้กต็ ่อเมอื่ ครูผ้สู อนจะอนุญาต

18

บทที่ 3
วิธีการดำเนนิ งาน

วิจัยเรื่อง การแก้ปัญหาการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนในรายวิชาหลักการเขียน
โปรแกรม รหสั วชิ า 20204-2004 โดยใช้วธิ ีการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรยี นผ่านระบบออนไลน์
ด้วยโปรแกรม Quizizz ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชา
คอมพิวเตอร์ธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาหรือลดอุปสรรคในการทำแบบทดสอบก่อนเรียน
หลังเรยี นของนักเรียนโดยเปรียบเทียบระหว่างการทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หลังเรียนแบบปกติกับการ
ทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรยี นผา่ นโปรแกรม Quizizz มรี ายละเอียดดังนี้
1. กลุ่มประชากร

กลุ่มประชากร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
วิทยาลยั อาชีวศึกษาฉะเชงิ เทรา จำนวน 39 คน
2. ระยะเวลาท่ใี ช้ในการทำงาน

ระยะเวลาที่ใชใ้ นการทำวจิ ัย ตลอดภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564
3. เครอ่ื งมอื ท่ีใชใ้ นการวจิ ัย

- การทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หลงั เรยี นผา่ นโปรแกรม Quizizz
- แบบประเมินความพึงพอใจ
4. ขั้นตอนดำเนนิ การ

1. ศกึ ษาปญั หาและอปุ สรรคทที่ ำใหน้ ักเรียนสง่ แบบทดสอบช้าหรือไม่คอ่ ยสง่ แบบทดสอบ
2. ใช้ โปรแกรม Quizizz ในการแก้ไขปัญหาทางด้านการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน
ของนกั ศกึ ษาระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) ชนั้ ปที ี่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ

2.1 ขั้นเตรียมแนะนาวิธีการใช้ โปรแกรม Quizizz กับนักเรียน โดยการใช้นักเรียน
ลงทะเบียนของตัวเองที่เป็นของ G-mail เพื่อสร้างความเข้าใจในการใช้งานโปรแกรม Quizizz ให้กบั
นักเรียน

2.2 ขั้นสอน ครูสอนนักเรียนในบทเรียนที่กำลังเรียนในขณะนี้แล้วให้นักเรียนได้ทำ
แบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน โดยการทดลองผา่ นโปรแกรม Quizizz

3. เช็คปริมาณงานและประเมินผลจากการที่นักเรียนทำแบบทดสอบด้วยโปรแกรม Quizizz
จากนั้นนำปริมาณที่ได้มาคิดหาค่าเฉลี่ย หรือ ร้อยละของปริมาณงานที่นักเรียนทำแบบทดสอบผ่าน
โปรแกรม Quizizz

4. การสร้างแบบประเมนิ ความพึงพอใจของนักเรียนในการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน
ผ่านโปรแกรม Quizizz

19

4.1 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้องกบั การสร้างแบบประเมินความพึงพอใจ
เพ่ือนำมาเปน็ แนวทางในการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ

4.2 ศึกษาวิธีสร้างแบบประเมินความพึงพอใจ และกำหนดรูปแบบแบบสอบถาม
จากเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ยี วข้อง

4.3 ออกแบบแบบประเมนิ ความพึงพอใจ ต่อการแก้ปญั หาการทำแบบทดสอบกอ่ น
เรียน หลังเรียนในรายวิชาหลักการเขียนโปรแกรม รหัสวิชา 20204-2004 โดยใช้วิธีการทำ
แบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Quizizz ของนักศึกษาระดับ
ประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ มาตราการประเมิน (Rating
Scale) 5 ระดับ ตามแนวคิดของลิเคิร์ท ขอ้ คำถามจำนวน 6 ขอ้ โดยใชเ้ กณฑ์น้ำหนกั คะแนนประเมนิ
ค่าจดั อันดับความสำคญั ดงั นี้

5 หมายถงึ เห็นดว้ ยมากทส่ี ดุ
4 หมายถึง เหน็ ดว้ ยมาก
3 หมายถงึ เหน็ ดว้ ยปานกลาง
2 หมายถึง เหน็ ดว้ ยนอ้ ย
1 หมายถึง เหน็ ดว้ ยนอ้ ยทส่ี ุด
สำหรบั การแปลความหมายใชค้ ่าเฉลยี่ ของค่าที่วดั ได้และยดึ แนวคิดของเบสท์ (Best, 1986 : 195)
ดงั นี้
1.00 - 1.50 หมายถงึ เห็นดว้ ยอยใู่ นระดับน้อยที่สดุ
1.51 - 2.50 หมายถึง เหน็ ด้วยอย่ใู นระดบั น้อย
2.51 - 3.50 หมายถงึ เหน็ ดว้ ยอยู่ในระดับปานกลาง
3.51 - 4.50 หมายถึง เห็นดว้ ยอย่ใู นระดับ มาก
4.51 - 5.00 หมายถึง เหน็ ด้วยอย่ใู นระดบั มากทสี่ ุด

5. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล

ผวู้ จิ ยั ดาเนินการวเิ คราะห์ขอ้ มลู เพือ่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจยั ด้วยวิธีการทาง
สถติ ิ ดังน้ี

1. วิเคราะห์ร้อยละของปริมาณการทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หลังเรยี นของนักศึกษาระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จำนวนนักเรียนประชากร
ทง้ั หมด 39 คน

2. วิเคราะห์ค่าเฉลี่ยแบบประเมินความพึงพอใจ ของระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ที่ใช้วิธีการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนผ่านระบบ
ออนไลนด์ ้วยโปรแกรม Quizizz

3. ผู้วจิ ัยไดใ้ ชว้ ธิ ีการทางสถติ ิวิเคราะหข์ ้อมูล โดยการหาคา่ คะแนนเฉลีย่ คา่ ร้อยละ วเิ คราะห์
ขอ้ มลู โดยใช้ Microsoft Excel หลงั จากวิเคราะหข์ ้อมลู แลว้ ทำการแปลผลและนำเสนอในรูปตาราง
ประกอบความเรียงแล้วสรปุ ผลการวิจยั โดยการบรรยาย

20

6. สถติ ทิ ี่ใช้ในการวเิ คราะหข์ อ้ มูล
6.1 สถติ ทิ ีใ่ ช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล
6.1.1 ค่าเฉลี่ยเลขคณิตประชากร (จตุภัทร เมฆพายัพ, 2557 : 46-47) โดยใช้
สูตร

กำหนดให้ xi แทนข้อมลู หนว่ ยท่ี i ของประชากรขนาด N
ดังนั้น ค่าเฉลี่ยเลขคณิตประชากรหาได้จากผลรวมของข้อมูลประชากรทั้งหมดหารด้วยขนาดของ
ประชากร เขียนแทนดว้ ยสัญลกั ษณ์ “μ”

6.1.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานประชากร (Standard Deviation) (จตุภัทร เมฆ
พายพั , 2557 : 75-76) โดยใช้สตู ร

สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานประชากรเขยี นแทนด้วยสัญลักษณ์ “σ” หาไดจ้ ากรากที่สองของ
ความแปรปรวน หรอื σ2

6.1.3 ความแปรปรวนประชากร (จตภุ ัทร เมฆพายพั , 2557 : 82-83) โดยใช้
สูตร

ความแปรปรวนหาได้จากค่าเฉลย่ี ของผลตา่ งกาลังสองระหว่างข้อมลู และคา่ เฉลีย่ ของขอ้ มลู

6.2 หาค่าสถติ พิ ้ืนฐาน ได้แก่
6.2.1 รอ้ ยละ (Percentage) (บญุ ชม ศรสี ะอาด, 2545 : 102-105)

เมือ่ P แทน รอ้ ยละ
f แทน ความถีท่ ่ตี ้องการแปลงใหเ้ ป็นรอ้ ยละ
N แทน จำนวนคะแนนในกล่มุ

21

บทที่ 4
ผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู

ในการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนในใน

รายวิชาหลักการเขียนโปรแกรม รหัสวิชา 20204-2004 โดยใช้วิธีการทำแบบทดสอบก่อนเรียน

หลังเรียนผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Quizizz ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ

(ปวช.) ชัน้ ปที ่ี 1 สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ ไดว้ เิ คราะหข์ อ้ มูลทางด้านสถิตไิ ดด้ ังน้ี

ตารางที่ 1 แสดงการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรยี นผ่านระบบออนไลน์ดว้ ยโปรแกรม

Quizizz ของนักศึกษาระดับประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

จำนวน 39 คน

จำนวน จำนวน จำนวน จำนวน

แบบ ปรมิ าณ นกั เรยี น รอ้ ยละ นกั เรียนทำ ร้อยละ นกั เรียนทำ ร้อยละ นักเรียน รอ้ ยละ
ทดสอบ นักเรียน ไม่ทำ แบบทดสอบ แบบทดสอบ ไมท่ ำ

แบบทดสอบ ตามกำหนด ไมท่ นั แบบทดสอบ

กอ่ น 39 9 23.08 17 37.38 10 25.64 3 7.69
เรียน

หลัง 39 9 23.08 23 58.97 5 12.82 2 5.13
เรียน

รวม 39 9 23.08 18 46.15 8 20.51 3 7.69
คา่ เฉล่ีย

จากตารางที่ 1 พบวา่ จำนวนนกั เรยี นท่ีไม่ทำแบบทดสอบ คดิ เปน็ ค่าเฉลย่ี รวม (μ=9) คิดเปน็
ร้อยละ 23.08 ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด

จำนวนนักเรียนที่ทำแบบทดสอบตามกำหนด คดิ เป็นค่าเฉล่ียรวม (μ=18) และคดิ เป็นร้อย
ละ 46.15 ของจำนวนนักเรียนท้งั หมด เมือ่ พิจารณาเปน็ ชิน้ งานจะเหน็ วา่ สามารถเรยี งลำดับจำนวน
นักเรียนทส่ี ง่ งานตามกำหนดจากมากไปหาน้อย ได้ดงั น้ี กอ่ นเรียน จำนวนนกั เรยี นท่ีทำแบบทดสอบ
ตามกำหนด คิดเป็นร้อยละ 37.38 ของนักเรียนทั้งหมด และหลังเรียน จำนวนนักเรียนที่ทำ
แบบทดสอบตามกำหนด คดิ เปน็ ร้อยละ 48.97 ของนกั เรียนทัง้ หมด

จำนวนนักเรียนท่ีทำแบบทดสอบไม่ทัน คิดเป็นค่าเฉลี่ยรวม (μ=8) และคิดเป็นร้อยละ

20.51 ของจำนวนนักเรยี นทั้งหมด เมื่อพิจารณาเป็นชิ้นงานจะเห็นว่า สามารถเรียงลำดับจำนวน
นักเรียนทำแบบทดสอบไม่ทันจากมากไปหาน้อย ได้ดงั นี้ กอ่ นเรียน จำนวนนกั เรยี นที่ทำแบบทดสอบ
ไม่ทัน คดิ เป็นร้อยละ 25.64 ของนักเรยี นทง้ั หมดและหลังเรียน จำนวนนกั เรียนที่ทำแบบทดสอบไม่
ทัน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.82 ของนกั เรียนท้ังหมด

จำนวนนักเรยี นที่ไม่ทำแบบทดสอบ คิดเป็นค่าเฉลี่ยรวม (μ=3) และคิดเป็นร้อยละ 7.69

ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด เมื่อพิจารณาจะเห็นว่า สามารถเรียงลำดับจำนวนนักเรียนที่ไม่ทำ
แบบทดสอบจากมากไปหานอ้ ย ไดด้ งั นี้ ก่อนเรียน จำนวนนักเรียนที่ไม่ทำแบบทดสอบ คิดเป็นรอ้ ยละ
7.69 ของนักเรยี นท้ังหมดและหลงั เรยี น จำนวนนักเรยี นท่ีไม่ทำแบบทดสอบ คิดเป็นร้อยละ 5.13
ของนักเรยี นท้ังหมด

22

ตารางที่ 2 แสดงคา่ เฉล่ียความพึงพอใจของนักเรยี น ที่มีต่อการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน

ผ่านระบบออนไลนด์ ้วยโปรแกรม Quizizz

ขอ้ ท่ี หวั ขอ้ ประเมิน μ σ ระดับคุณภาพ

1 ความเข้าใจในการใชโ้ ปรแกรม Quizizz 4.92 0.28 มากที่สดุ

2 ลดอปุ สรรคในการไม่ส่งแบบทดสอบกอ่ นและหลังเรียน 5.00 0.00 มากท่ีสดุ

3 ใช้ได้เหมาะสมกับวชิ าเรียน 5.00 0.00 มากที่สุด

4 สามารถนำไปใชใ้ นวิชาอนื่ ๆได้ 5.00 0.00 มากที่สดุ

5 สามารถส่งแบบทดสอบได้ตรงตามกำหนด 4.97 0.17 มากที่สดุ

6 มคี วามต้องการใชโ้ ปรแกรมม Quizizz ในการทำ 4.98 0.15 มากที่สุด

แบบทดสอบต่อไป

รวม 4.98 0.12 มากท่ีสดุ

จากตารางที่ 2 พบว่า ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ
มีความพึงพอใจในการใช้ระบบ google classroom ในการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน
คดิ เปน็ ค่าเฉล่ยี (μ =4.98) และ (σ 0.12) ซึง่ อย่ใู นระดบั คณุ ภาพมากทีส่ ดุ เมอ่ื พิจารณาเป็นราย
ข้อแล้วพจิ ารณาจากมากไปหาน้อยได้ ดังนี้ ด้านลดอปุ สรรคในการไม่ส่งแบบทดสอบก่อนเรียน หลัง
เรียน ด้านใช้ได้เหมาะสมกับวิชาที่เรียนและด้านนำไปใช้ในวิชาอ่ืน ๆ ได้มีความพึงพอใจมากท่ีสุด มี
ค่าเฉลี่ย (μ =5.00) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ = 0.00) ด้านมีความต้องการที่ใช้ใช้โปรแกรมม

Quizizz ในการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนต่อไป มีค่าเฉลี่ย(μ = 4.98) ส่วนเบี่ยงเบน

มาตรฐาน (σ = 0.15) มีความพงึ พอใจในระดบั มากที่สุด สามารถสง่ งานได้ตรงตามเวลาที่กำหนด มี

ค่าเฉล่ยี (μ =4.97) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ = 0.17) มคี วามพงึ พอใจในระดับมากทส่ี ุดและด้าน

ความเข้าใจในการใช้ใช้โปรแกรมม Quizizz มีค่าเฉลี่ย(μ =4.92) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(σ =
0.28) มีความพึงพอใจในระดับมากทสี่ ดุ ตามลำดบั

23

บทท่ี 5
สรุปผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ

สรุปผลการวจิ ยั

การวิจัยในคร้ังน้ีเป็นวจิ ัยเรื่อง การแก้ปัญหาการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรยี นในรายวชิ า
หลกั การเขียนโปรแกรม รหัสวชิ า 20204-2004 โดยใชว้ ิธีการทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หลงั เรยี นผา่ น
การใช้โปรแกรมม Quizizz ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชา
คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ซึ่งมจี ดุ ประสงค์เพ่ือแก้ปัญหาการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี นของ นักศึกษา
ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชัน้ ปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ โดยประชากรในการทำวิจัย
คือ นักศึกษาระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช.) ชน้ั ปีท่ี 1 สาขาวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ จำนวน 39 คน
ซึ่งใชร้ ะยะเวลาในการทำวิจัย 1 ภาคเรียน คอื ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครัง้ นี้ เป็นเครื่องมือที่ผู้จัดทำได้สร้างขึ้นได้แก่ แบบประเมินความพงึ
พอใจต่อการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนผ่านโปรแกรมม Quizizz เครื่องมือของแบบประเมิน
ความพึงพอใจเป็นแบบมาตราการประเมิน (Rating Scale) 5 ระดับตามแนวคิดของลิเคิร์ท ข้อคำถาม
จำนวน 6 ข้อ โดยใช้เกณฑ์น้ำหนักคะแนนประเมินค่าจัดอันดับความสำคัญและสาหรับการแปล
ความหมายใชค้ ่าเฉลี่ยของค่าทวี่ ัดได้และยึดแนวคิดของเบสท์ (Best, 1986 : 195 )การวิเคราะห์ข้อมูล
จะใช้สถิตทิ ใ่ี ช้วิเคราะห์ปรมิ าณการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลงั เรยี นของนักเรยี น คอื คา่ เฉลยี่ (μ) และ
รอ้ ยละ(%) ส่วนการวิเคราะห์ขอ้ มูลด้านความพึงพอใจใชส้ ถติ ทิ ี่ใช้วเิ คราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลยี่ (μ)ร้อยละ
(%)และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (σ)

อภิปรายผล

จากผลการวิจัยเร่ือง การแก้ปญั หาการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนในรายวิชาหลักการ
เขียนโปรแกรม รหัสวิชา 20204-2004 โดยใช้วิธีการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนผ่าน
โปรแกรมม Quizizz ของนักศกึ ษาระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) ชัน้ ปีท่ี 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์
ธุรกจิ สามารถอภปิ รายผลไดด้ งั น้ี

1. จากผลการวิจัยพบวา่ มจี านวนนักเรยี นท่ีไม่ทำแบบทดสอบในปริมาณนอ้ ย มจี านวนนกั เรียน
ท่ีทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนผ่านโปรแกรมม Quizizz ตามกำหนดต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน
นักเรียนทั้งหมด แต่มีจำนวนนักเรียนส่งงานในปริมาณที่เพิม่ ขึ้นจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลงั
เรียนในครัง้ แรก และมจี ำนวนนกั เรียนที่ทำแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี นไม่ทนั ในปรมิ าณนอ้ ยมาก สว่ น
นักเรียนที่ไม่ทำแบบทดสอบก่อนและหลงั เรียนน้ันมปี รมิ าณน้อยกว่าจำนวนนักเรียนท่สี ่งทำแบบทดสอบ
ก่อนและหลงั เรยี นตามกำหนด

2. จากผลการประเมนิ ความพงึ พอใจพบว่า นกั เรยี นมคี วามพึงพอใจในการทำแบบทดสอบก่อน
เรยี น หลงั เรยี นผ่านโปรแกรมม Quizizz ในระดับมากที่สดุ โดยพจิ ารณาจากการประเมนิ เปน็ รายข้อได้ว่า
นักเรียนมีความเข้าใจในโปรแกรมม Quizizz ในระดับมากที่สุด มีความประหยัดเวลาในการทำ
แบบทดสอบกอ่ นเรียน หลงั เรียน ลดขน้ั ตอนและอปุ สรรคในการทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หลังเรียน ใน

24

ระดบั มากทีส่ ุด มีการใช้ระบบได้เหมาะสมกบั วชิ าที่เรยี น ในระดบั มากทสี่ ดุ สามารถนำไปใช้ในวชิ าอืน่ ๆ ได้
ในระดบั มากทสี่ ดุ นนั่ คอื นักเรยี นมกี ารคิดตอ่ ยอดและประยกุ ต์วิธีการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรียน
ของตนในรายวิชาอื่น ๆ ได้สามารถส่งแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนได้ตรงตามเวลาท่ีกำหนด ได้ใน
ระดบั มากท่ีสุด และนกั เรียนยงั มีความต้องการทใ่ี ช้โปรแกรมม Quizizz ในการทำแบบทดสอบก่อนเรียน
หลังเรยี นต่อไป ในระดบั มากทสี่ ดุ

จะเห็นได้ว่าการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนผ่านโปรแกรมม Quizizz นั้น นักเรียนไม่
สามารถทำแบบทดสอบ ได้ครบตามจำนวนนกั เรยี นทั้งหมด ซึ่งมาจากปัจจัยด้านอื่น เช่น นักเรียนไม่มา
เรียนในวันที่สอนใช้งานโปรแกรมม Quizizz และนักเรียนมีพฤติกรรมไม่สนใจเรียน ถึงแม้ว่าจำนวน
นักเรียนที่ส่งงานตามกำหนดจะต่ำกว่าคร่ึงหนึ่งของจำนวนนักเรียนทั้งหมด แต่จำนวนนักเรยี นที่ส่งงาน
ตามกำหนดมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนักเรียนที่ทำแบบทดสอบ ซึ่งจำนวนนักเรียนส่งแบบทดสอบ
ตามกำหนดมีมากขึ้นจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนในครั้งแรก หากมีจำนวนชิ้นงานที่
มากกวา่ น้ี คาดว่าอาจทำใหจ้ ำนวนนักเรียนทีส่ ง่ ทำแบบทดสอบตามกำหนดมมี ากขึน้ สว่ นความพึงพอใจ
ของนกั เรยี นนน้ั มคี วามรู้ ความสนใจ และอยากให้มีการใช้โปรแกรมม Quizizz เปน็ วธิ ีการทำแบบทดสอบ
ก่อนเรียน หลังเรียนในครั้งต่อไปแต่ขัดแย้งกับจำนวนนักเรียนที่ส่งงานตามกำหนด นั่นหมายความว่า
ระบบโปรแกรมม Quizizz ยงั ไม่สามารถปรับพฤตกิ รรมการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรยี นของระดบั
ประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) ชน้ั ปที ี่ 1 สาขาวิชาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ ไดด้ เี ทา่ ท่คี วร เพียงแต่สามารถชว่ ย
อำนวยความสะดวกในการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรยี นมากข้ึนเท่านั้น

ขอ้ เสนอแนะในการทำวจิ ัย

1. ควรมีการประเมินผูเ้ รยี นโดยใช้แบบทดสอบปลายภาคเรยี นทั้งแบบปรนัยและอัตนัยเพือ่ วัด
ความรคู้ วามสามารถของผู้เรียนในทุกหน่วยการเรียนรู้

2. ควรมกี ารประเมนิ ผเู้ รยี นโดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานเปน็ รายบคุ คลเพ่ือจะไดท้ ราบ
วา่ ผเู้ รยี นแตล่ ะคนมีพฤตกิ รรมในการเรียนเป็นอยา่ งไร

3. ควรมีการประเมนิ ผูเ้ รียนโดยใช้แบบบันทกึ พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม เพื่อให้ทราบว่าแตล่ ะ
กลุ่มมกี ารทำงานร่วมกนั เปน็ ย่างไร

25

ภาคผนวก

26
ภาพตัวอย่าง การใชโ้ ปรแกรม Quizizz ทำแบบทดสอบก่อนเรียน
ภาพตัวอยา่ ง การใช้โปรแกรม Quizizz ทำแบบทดสอบหลงั เรยี นเรียน

27
ภาพตวั อย่าง การใช้ Google Forms ทำแบบทดก่อนหลงั เรยี นเรียน
ภาพตัวอย่าง การใช้ Google Forms ทำแบบทดสอบหลงั เรยี นเรยี น

28