The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตรางวิเคราะชี้วัด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูวิชชุณี การค้า, 2022-09-13 09:35:48

ตรางวิเคราะชี้วัด

ตรางวิเคราะชี้วัด

ตารางวิเคราะห์ตัวช้วี ดั
กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิชาคณิตศาสตร์

ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4

นางสาววชิ ชณุ ี การค้า
ผสู้ อน

โรงเรยี นบ้านทา่ เยย่ี มวิทยายล
สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต ๗

สรุปหลกั สตู รฯ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

คณิตศาสตร์มีบทบาทสาคัญย่ิงต่อความสาเร็จในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เน่ืองจากคณิตศาสตร์ช่วยให้มนุษย์ มี
ความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ คิดอย่างมีเหตผุ ล เปน็ ระบบ มแี บบแผน สามารถวิเคราะหป์ ญั หาหรือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและ
ถ่ีถ้วน ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถนาไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คณิตศาสตร์ยังเป็นเคร่ืองมือในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อ่ืน ๆ อันเป็น
รากฐานในการพัฒนาทรพั ยากรบุคคลของชาติใหม้ ีคุณภาพและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศใหท้ ัดเทียมกบั นานาชาติ การศึกษา
คณิตศาสตร์จึงจาเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจรญิ กา้ วหนา้ อย่างรวดเร็วในยคุ โลกาภวิ ฒั น์

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 จดั ทาขน้ึ โดยคานึงถงึ การสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนมีทักษะทจ่ี าเปน็ สาหรบั การเรียนรู้ในศตวรรษที่
21 เป็นสาคญั นนั่ คือ การเตรียมผู้เรียนให้มีทกั ษะด้านการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์
การใช้เทคโนโลยี การสื่อสารและการร่วมมือ ซ่ึงส่งผลให้ผู้เรียนรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม
และสภาพแวดล้อม สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ ท้ังน้ีการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ประสบความสาเร็จนั้น
จะต้องเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ พร้อมที่จะประกอบอาชีพเมื่อจบการศึกษา หรือสามารถศึกษาต่อใน
ระดับท่สี งู ข้ึน ดังนนั้ สถานศกึ ษาควรจดั การเรียนรใู้ หเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รียน

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2551 ไดจ้ ัดเปน็ 3 สาระ ดงั ตอ่ ไปน้ี

สาระท่ี 1 จานวนและพีชคณิต (มาตรฐาน ค 1.1 – ค 1.3)
สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต (มาตรฐาน ค 2.1 – ค 2.2)
สาระท่ี 3 สถติ แิ ละความน่าจะเป็น (มาตรฐาน ค 3.1 - ค 3.2)
คณติ ศาสตร์เพม่ิ เตมิ
สาระจานวนและพีชคณติ
สาระการวดั และเรขาคณิต
สาระสถิตแิ ละความนา่ จะเป็น

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ 1 จานวนและพีชคณติ
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการ

ดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวเิ คราะห์แบบรปู ความสัมพันธ์ ฟังกช์ นั ลาดับและอนกุ รม และนาไปใช้
มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นพิ จน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสมั พันธห์ รอื ช่วยแกป้ ัญหาท่กี าหนดให้

สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณติ
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพืน้ ฐานเกยี่ วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีตอ้ งการวัด และนาไปใช้
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบท

ทางเรขาคณติ และนาไปใช้

สาระที่ 3 สถติ แิ ละความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรทู้ างสถิตใิ นการแก้ปญั หา
มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลักการนบั เบ้อื งตน้ ความน่าจะเป็น และนาไปใช้

ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
รหัสวิชา ค 14101 ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4
สาระที่ 1 จานวนและพชี คณติ
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การเนนิ การของจานวนผลที่เกิดขน้ึ จาก
การดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้

ตวั ช้วี ัด ผูเ้ รยี นทาอะไรได้ ผ้เู รียนรอู้ ะไร นาไปสู่
สรรถนะ คุณลกั ษณะฯ
1. อา่ นและเขยี นตวั เลข อา่ นและเขยี นตวั เลข 1.จานวนนบั ทมี่ ากกวา่ 100,000 1.การ 1.ใฝเ่ รียนรู้
ฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย ฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย และ 1.1 เปรยี บเทยี บและเรยี งลาดบั แกป้ ัญหา 2.มวี ินัย
และตัวหนงั สือแสดง ตัวหนังสือแสดงจานวนนบั ที่ จานวนนบั ท่มี ากกวา่ 100,000 2.การคิด 3.ม่งุ มน่ั ในการ
จานวนนบั ที่มากกวา่ มากกว่า 100,000 ได้ 1.2 บอก อา่ นและเขียนเศษส่วน
100,000 จานวนคละและแสดงส่งิ ตา่ ง ๆ ตาม ทางาน
เปรียบเทียบและเรียงลาดบั เศษส่วน จานวนคละทกี่ าหนดได้
2. เปรยี บเทยี บและ จานวนนบั ท่ีมากกวา่ 1.3 หลักคา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลกั 1.การ 1.ใฝเ่ รยี นรู้
เรียงลาดับจานวนนบั ท่ี 100,000 จากสถานการณ์ต่าง 1.4 หาคา่ ตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยค แก้ปญั หา 2.มีวนิ ยั
มากกว่า 100,000 จาก ๆ สญั ลักษณ์ 2.การคิด 3.มุ่งม่นั ในการ
สถานการณ์ตา่ ง ๆ 1.5 แสดงการบวก ลบ คูณ หาร ทางาน
จานวนหลายหลัก 2 จานวน ทมี่ ี ผล 1.การ
3. บอก อา่ นและเขียน บอก อา่ นและเขยี นเศษสว่ น คณู ไมเ่ กนิ 6 หลัก และประโยค แกป้ ัญหา 1.ใฝ่เรยี นรู้
สญั ลักษณแ์ สดงการหารทีต่ วั ตัง้ ไม่เกนิ 2.การคดิ 2.มีวนิ ยั
เศษสว่ น จานวนคละ จานวนคละแสดง ปรมิ าณส่ิง 6 หลัก ตวั หารไม่เกิน 2 หลกั 3.มงุ่ มั่นในการ
ทางาน
แสดง ปริมาณสงิ่ ตา่ ง ๆ ตา่ ง ๆ และแสดงสิง่ ตา่ ง ๆ

และแสดงสงิ่ ตา่ ง ๆ ตาม ตามเศษสว่ น จานวนคละที่

เศษส่วน จานวนคละที่ กาหนด ได้

กาหนด

4. เปรียบเทยี บ เปรยี บเทียบ เรียงลาดับ 1.การ 1.ใฝเ่ รยี นรู้
แกป้ ญั หา 2.มีวนิ ัย
เรยี งลาดบั เศษสว่ น และ เศษส่วน และจานวนคละที่ 2.การคิด 3.ม่งุ มน่ั ในการ
ทางาน
จานวนคละท่ี ตัวส่วนตัว ตัวสว่ นตวั หนึง่ เป็นพหุคณู ของ 1.การ
แก้ปญั หา 1.ใฝเ่ รยี นรู้
หนึ่งเปน็ พหุคูณของอีก อกี ตัวหน่ึงได้ 2.การคิด 2.มีวนิ ยั
3.มุ่งมน่ั ในการ
ตวั หนึ่ง ทางาน

5. อา่ นและเขยี น อา่ นและเขยี นทศนยิ มไม่เกนิ

ทศนิยมไม่เกนิ 3 3 ตาแหนง่ แสดงปริมาณของ

ตาแหนง่ แสดงปรมิ าณ สง่ิ ตา่ ง ๆ และแสดงสง่ิ ต่าง ๆ

ของสง่ิ ต่าง ๆ และแสดง ตามทศนิยมที่กาหนดได้

สง่ิ ตา่ ง ๆ ตามทศนิยมท่ี

กาหนด

ตวั ชวี้ ัด ผเู้ รียนทาอะไรได้ ผูเ้ รยี นรอู้ ะไร นาไปสู่

สรรถนะ คุณลักษณะ



6. เปรียบเทียบและ เปรียบเทยี บและเรยี งลาดบั 1.จานวนนับทม่ี ากกวา่ 100,000 1.การแก้ปญั หา 1.ใฝ่เรยี นรู้

เรียงลาดบั ทศนยิ มไม่ ทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหนง่ จาก 1.1 เปรยี บเทียบและเรยี งลาดบั 2.การคิด 2.มวี นิ ัย

เกนิ 3 ตาแหนง่ จาก สถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ จานวนนบั ท่ีมากกวา่ 100,000 3.มุง่ มั่นใน

สถานการณต์ า่ ง ๆ 1.2 บอก อา่ นและเขยี นเศษส่วน การทางาน

7. ประมาณผลลัพธ์ของ ประมาณผลลัพธข์ องการบวก จานวนคละและแสดงสงิ่ ตา่ ง ๆ ตาม 1.การแก้ปญั หา 1.ใฝ่เรียนรู้

การบวก การลบ การ การลบ การคณู การหาร จาก เศษส่วน จานวนคละทกี่ าหนดได้ 2.การคดิ 2.มวี นิ ัย

คณู การหาร จาก สถานการณ์ตา่ ง ๆ อย่าง 1.3 หลักค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั 3.มงุ่ มนั่ ใน

สถานการณต์ า่ ง ๆ อย่าง สมเหตุสมผล ได้ 1.4 หาคา่ ตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยค การทางาน
สมเหตุสมผล สัญลกั ษณ์

8. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบ หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าใน 1.5 แสดงการบวก ลบ คูณ หาร 1.การแก้ปญั หา 1.ใฝ่เรยี นรู้
2.การคิด 2.มวี นิ ยั
ค่าในประโยคสญั ลักษณ์ ประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการ จานวนหลายหลัก 2 จานวน ทมี่ ี ผล 3.มุ่งมน่ั ใน
แสดงการบวกและ บวกและประโยคสัญลักษณ์ คูณ ไมเ่ กนิ 6 หลกั และประโยค การทางาน
ประโยคสัญลักษณ์แสดง แสดงการลบของจานวนนบั ท่ี สัญลักษณแ์ สดงการหารท่ีตวั ตั้ง ไม่เกนิ

การลบของจานวนนบั ที่ มากกวา่ 100,000 และ 0 ได้ 6 หลกั ตวั หารไม่เกนิ 2 หลัก

มากกวา่ 100,000 และ

0

9. หาคา่ ของตัว ไม่ทราบ หาค่าของตัว ไมท่ ราบคา่ ใน 1.การแกป้ ัญหา 1.ใฝ่เรยี นรู้
2.การคดิ 2.มวี ินัย
ค่าในประโยคสญั ลักษณ์ ประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการ 3.มุ่งมน่ั ใน
การทางาน
แสดงการคูณของจานวน คณู ของจานวนหลายหลัก 2

หลายหลัก 2 จานวน ที่ จานวน ทมี่ ี ผลคณู ไมเ่ กิน 6

มี ผลคูณ ไม่เกนิ 6 หลกั หลกั และประโยคสญั ลักษณ์

และประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการหารท่ตี ัวต้งั ไมเ่ กนิ

แสดงการหารท่ีตัวตัง้ ไม่ 6 หลัก ตัวหารไมเ่ กนิ 2 หลัก

เกิน 6 หลกั ตัวหารไม่ ได้

เกิน 2 หลัก

10. หาผลลัพธ์การบวก หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คณู 1.การแกป้ ัญหา 1.ใฝ่เรยี นรู้
ลบ คณู หารระคนของ หารระคนของจานวนนบั และ 2.การคดิ 2.มีวินัย
จานวนนบั และ 0 0 ได้ 3.มงุ่ มั่นใน
การทางาน

ตวั ช้ีวัด ผู้เรยี นทาอะไรได้ ผเู้ รยี นรอู้ ะไร นาไปสู่

1.จานวนนบั ที่มากกวา่ 100,000 สรรถนะ คณุ ลกั ษณะ
1.1 เปรยี บเทยี บและเรยี งลาดบั
จานวนนบั ทม่ี ากกวา่ 100,000 ฯ
1.2 บอก อ่านและเขยี นเศษสว่ น
11. แสดงวิธีหาคาตอบ แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ จานวนคละและแสดงสงิ่ ตา่ ง ๆ ตาม 1.การแก้ปญั หา 1.ใฝเ่ รยี นรู้
ของโจทย์ปญั หา 2 ปญั หา 2 ขนั้ ตอนของจานวน เศษส่วน จานวนคละที่กาหนดได้
ข้ันตอนของจานวนนบั ท่ี นับท่มี ากกวา่ 100,000 และ ๐ 1.3 หลักคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลัก 2.การคดิ 2.มีวินัย
มากกว่า 100,000 และ ได้ 1.4 หาค่าตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยค
0 สญั ลกั ษณ์ 3.มุ่งมนั่ ใน
1.5 แสดงการบวก ลบ คณู หาร
12. สรา้ งโจทย์ปญั หา 2 สรา้ งโจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอน จานวนหลายหลัก 2 จานวน ทม่ี ี ผล การทางาน
ขน้ั ตอนของจานวนนบั ของจานวนนับ และ 0 พร้อม คณู ไม่เกนิ 6 หลัก และประโยค
และ 0 พรอ้ มทง้ั หา ทั้งหาคาตอบได้ สัญลกั ษณ์แสดงการหารท่ีตวั ตง้ั ไม่เกนิ 1.การแกป้ ัญหา 1.ใฝ่เรียนรู้
คาตอบ 6 หลัก ตวั หารไมเ่ กนิ 2 หลัก 2.การคดิ 2.มวี ินยั
13. หาผลบวก ผลลบ หาผลบวก ผลลบ ของ 3.มุ่งมั่นใน
ของเศษสว่ นและจานวน เศษส่วนและจานวนคละทต่ี วั 1.การแก้ปัญหา การทางาน
คละท่ีตวั สว่ นตวั หนงึ่ สว่ นตวั หนงึ่ เป็น พหุคูณของ 2.การคดิ 1.ใฝเ่ รยี นรู้
เป็น พหุคูณของอีก ตัว อีก ตวั หน่ึงได้ 2.มีวนิ ยั
หน่งึ 3.มงุ่ มนั่ ใน
14. แสดงวิธหี าคาตอบ แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ การทางาน
ของโจทยป์ ญั หาการบวก ปัญหาการบวกและโจทย์
และโจทยป์ ญั หาการลบ ปัญหาการลบเศษส่วนและ 1.การแก้ปัญหา 1.ใฝเ่ รยี นรู้
เศษส่วนและจานวนคละ จานวนคละทีต่ ัวสว่ นตัวหน่ึง 2.การคิด 2.มีวินยั
ท่ีตวั สว่ นตวั หน่งึ เปน็ เปน็ พหคุ ูณของอีกตัวหนง่ึ ได้ 3.มุ่งมนั่ ใน
พหุคูณของอีกตวั หนง่ึ การทางาน
15. หาผลบวก ผลลบ หาผลบวก ผลลบของทศนิยม
ของทศนยิ มไม่เกนิ 3 ไมเ่ กิน 3 ตาแหน่งได้ 1.การแกป้ ัญหา 1.ใฝ่เรียนรู้
ตาแหนง่ 2.การคดิ 2.มวี นิ ัย
3.มงุ่ มนั่ ใน
16. แสดงวิธหี าคาตอบ แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ 1.การแก้ปัญหา การทางาน
2.การคดิ 1.ใฝ่เรยี นรู้
ของโจทย์ปญั หาการบวก ปญั หาการบวก การลบ 2 2.มีวินยั
3.ม่งุ มั่นใน
การลบ 2 ขน้ั ตอนของ ข้นั ตอนของทศนิยมไมเ่ กนิ 3 การทางาน

ทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ตาแหนง่ ได้

ตาแหนง่

สาระที่ ๒ การวดั และเรขาคณติ
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพน้ื ฐานเกี่ยวกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ท่ีตอ้ งการวัด และนาไปใช้

ตัวชว้ี ัด ผ้เู รยี นทาอะไรได้ ผเู้ รยี นร้อู ะไร นาไปสู่
สรรถนะ คุณลกั ษณะฯ
1. แสดงวิธีหาคาตอบ แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ 1. หาคาตอบเกย่ี วกับเวลาได้ 1.การ 1.ใฝเ่ รียนรู้
ของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ปญั หาเกย่ี วกับเวลาได้ 2. วัดและสรา้ งมุมได้ แก้ปญั หา 2.มวี ินัย
เวลา 3. แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ 2.การคิด 3.มุง่ ม่นั ในการ
ปญั หาได้
2. วัดและสรา้ งมุม โดย บอกวิธกี ารวัดและสรา้ งมุม ทางาน
ใช้ โพรแทรกเตอร์ โดยใชโ้ พรแทรกเตอร์ได้ 1.การ 1.ใฝเ่ รยี นรู้
แกป้ ญั หา 2.มวี นิ ัย
3. แสดงวิธีหาคาตอบ แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ 2.การคิด 3.มงุ่ มน่ั ในการ
ของโจทย์ปัญหาเก่ียวกบั ปญั หาเก่ียวกับความยาว รอบ
ความยาว รอบรูปและ รปู และพืน้ ที่ของรูปสีเ่ หลี่ยม ทางาน
พ้ืนทข่ี องรูปสีเ่ หลย่ี มมุม มมุ ฉากได้ 1.การ 1.ใฝ่เรยี นรู้
ฉาก แกป้ ัญหา 2.มีวินัย
2.การคิด 3.มุ่งมั่นในการ

ทางาน

มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ิของรปู เรขาคณิต ความสมั พันธ์ระหว่างรปู เรขาคณติ และทฤษฎบี ท
ทางเรขาคณติ และนาไปใช้

ตวั ช้ีวัด ผเู้ รียนทาอะไรได้ ผู้เรยี นรอู้ ะไร นาไปสู่

1. จาแนกและบอกชื่อมุมและ สรรถนะ คณุ ลกั ษณะฯ
ส่วนประกอบของมุมได้
1. จาแนกชนดิ ของมุม จาแนกชนิดของมุม บอกช่อื 2. สร้างรูปสี่เหล่ยี มเมอ่ื กาหนดความ 1.การแกป้ ญั หา 1.ใฝ่เรยี นรู้
ยาวใหไ้ ด้
บอกชือ่ มุมสว่ นประกอบ มมุ ส่วนประกอบของมุมและ 2.การคิด 2.มีวนิ ยั

ของมมุ และเขียน เขียนสญั ลักษณแ์ สดงมมุ ได้ 3.มุ่งม่ันในการ

สญั ลักษณ์แสดงมุม ทางาน

2. สร้างรปู สีเ่ หลีย่ มมุม สร้างรปู สีเ่ หล่ยี มมุมฉากเม่ือ 1.การแก้ปญั หา 1.ใฝ่เรียนรู้

ฉากเมื่อกาหนดความ กาหนดความยาวของดา้ น 2.การคดิ 2.มีวินยั

ยาวของด้าน 3.มุง่ มั่นในการ

ทางาน

สาระท่ี 3 สถติ ิและความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถติ ใิ นการแกป้ ัญหา

ตวั ชวี้ ดั ผ้เู รยี นทาอะไรได้ ผเู้ รยี นรอู้ ะไร นาไปสู่

1. แก้โจทยป์ ญั หาโดยใชต้ ารางสองทาง สรรถนะ คณุ ลกั ษณะฯ
ได้
1. ใชข้ ้อมลู จากแผนภมู ิ ใช้ข้อมลู จากแผนภูมิแทง่ 1.การแกป้ ญั หา 1.ใฝเ่ รยี นรู้
แท่ง ตารางสองทาง ใน ตารางสองทาง ในการหา
การหาคาตอบของโจทย์ คาตอบของโจทยป์ ัญหา 2.การคดิ 2.มีวินยั
ปญั หา
3.มงุ่ มั่นในการ

ทางาน


Click to View FlipBook Version