The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2563-1 แผนการจัดการเรียนรู้ (ม.2)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by shafieekaming, 2022-02-02 05:18:12

2563-1 แผนการจัดการเรียนรู้ (ม.2)

2563-1 แผนการจัดการเรียนรู้ (ม.2)

แผนการจดั การเรยี นรู้

วชิ าสขุ ศกึ ษา พ 22101
กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563

ครูผ้สู อน
นายชาฟีอี กะมงิ

โรงเรยี นประตโู พธิ์วิทยา อำเภอยะรงั จงั หวัดปตั ตานี
สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 15

แผนการจดั การเรยี นรู้

วชิ าสขุ ศกึ ษา พ 22101
กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563

ครูผ้สู อน
นายชาฟีอี กะมงิ

โรงเรยี นประตโู พธิ์วิทยา อำเภอยะรงั จงั หวัดปตั ตานี
สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 15

แผนการจดั การเรยี นรู้วชิ าสขุ ศึกษา เวลา 1 ชั่วโมง
ผูส้ อน นายชาฟีอี กะมิง
รูจกั ฉันรู้ จกั เธอ ด้วยกระบวนการผู้นำ 4 ทิศ
สาระการเรียนรทู้ ี่ 2 ชีวิตและครอบครัว
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

1. สาระสำคญั
วัยรุ่นเปน็ วัยทมี่ ีการเปล่ยี นแปลงทั้งดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญาอย่างรวดเรว็ จงึ

ควรศึกษาลักษณะการเปล่ยี นแปลงทางด้านตา่ งๆ ให้มคี วามรู้ความเข้าใจ จนสามารถนำไปเป็นแนวทางการ
ปฏิบตั ติ นได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม

2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด
- เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมีทักษะในการดำเนนิ ชวี ิต (พ.2.1)

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการร้จู กั ตนเองและผ้อู ่ืน
2. นักเรียนสามารถปฏิบตั ติ นตนเองและผ้อู ่ืนไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. ส่งเสริมใหน้ กั เรยี นใช้เทคโนโลยีใหเ้ กิดประโยชน์

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. มีความรบั ผิดชอบ
3. ใฝ่เรียนรู้

6. สาระการเรียนรู้
1. ผ้นู ำ 4 ทิศ

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้

ขน้ั ท่ี 1 ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรยี น
1. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
นกั เรยี นทราบหรอื ไม่ว่าผ้นู ำที่ดี ควรมคี ณุ สมบัติอยา่ งไร และนักเรยี นสามารถเป็นผ้นู ำได้

หรอื ไม่ และนกั เรียนจะเปน็ ผู้นำแบบใด
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพินิจของครผู ู้สอน)

ขั้นท่ี 2 ข้ันสอน
1. นักเรียนแตล่ ะคนเตรยี มโทรศัพท์มอื ถือของตนเองคนละ 1 เคร่อื ง พรอ้ มทั้งทำแบบสำรวจตัวเอง

เพ่ือค้นหาว่านักเรียนแตล่ ะคนเป็นผนู้ ำแบบใด โดยที่ครูให้ คิว อาร์ โคต๊ แก่นกั เรียนเพื่อลิงคไ์ ปยงั เว็บไซต์
สำหรบั ทำแบบสำรวจตนเอง

2. หลังจากทนี่ กั เรียนทำแบบสำรวจข้างต้น ระบบจะประมวลผลใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนทนั ทวี า่ นักเรยี น
เป็นผนู้ ำแบบใด ซึ่งแบ่งประเภทผ้นู ำออกเปน็ 4 กลุ่ม ได้แก่ ผูน้ ำทิศเหนือ ผู้นำทิศใต้ ผู้นำทศิ ตะวันออก และ
ผนู้ ำทศิ ตะวนั ตก พร้อมท้ังให้นกั เรียนจับกลมุ่ แตล่ ะคนท่เี หมอื นกนั และแยกย้ายไปตามส่ือการเรียนรู้ที่ครู
จดั เตรียมไว้ ซึ่งสือ่ ทจ่ี ดั เตรียมไว้เปน็ ภาษาอังกฤษทัง้ หมด

3. หลังจากที่นกั เรียนแยกยา้ ยกันไปตามกลุ่มทก่ี ำหนด ครแู จกใบงานให้นักเรยี นคน้ ควา้ ผา่ นสือ่ โดย
ครูจะท้งิ คิว อาร์ โค๊ต ไวท้ ่ีส่ือของแตล่ ะกลุ่ม พร้อมท้งั ใหน้ ักเรียนใชโ้ ทรศพั ท์มือถือของนักเรียนเขา้ ไปยังลิ้งค์ที่
ครทู งิ้ ไว้ และศกึ ษารายละเอียดตา่ งๆ ได้แก่ ธาตปุ ระจำทศิ สตั วป์ ระจำทศิ บคุ ลิกภาพ ขอ้ ดี และข้อเสียของ
ทิศน้ันๆ เพ่ือใหน้ ักเรยี นได้รูจ้ ักตนเอง ยอมรบั ในตัวตนของตนเองมากข้ึน

4. นกั เรยี นเลอื กเพื่อนท่นี ักเรียนสนิททส่ี ดุ มา 1 คน และค้นหาตัวตนของเพื่อนสนทิ ของนกั เรียน โดย
ใช้วธิ เี ดยี วกนั ในข้างต้น ทั้งน้ีเพ่อื ใหน้ ักเรยี นได้รจู้ ักตัวตนของเพ่ือมากขึน้ และเรียนรู้ท่จี ะยอมรับความแตกต่าง
ของแต่ละบุคคลได้

ข้ันท่ี 3 ขัน้ สรุป
1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปบทเรยี นและนักเรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ
- นักเรียนไดร้ บั ประโยชนแ์ ละขอ้ คิดจากกจิ กรรมนี้อยา่ งไรบา้ ง
(อาจเกดิ ปัญหาสับสนทางใจ ซึ่งส่งผลทำใหส้ ุขภาพจติ เสียได้)

8. การวดั และประเมนิ ผล

วิธีการวัดและประเมินผล เครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

ความรว่ มมอื ในการจดั การเรยี น - ตามดลุ พินิจของครูผู้สอน
การสอน

สงั เกตความรับผดิ ชอบ ตรงต่อ - ตามดุลพินิจของครูผู้สอน
เวลา และใฝ่เรยี นรู้

ตรวจใบงาน รูจ้ ักฉนั รูจ้ กั เธอ ดว้ ยกระบวนการผู้นำ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
4 ทศิ

9. สอ่ื การเรียนรู้
9.1 ส่อื การเรยี นผนู้ ำ 4 ทศิ
9.2 ใบงาน เรอื่ ง ร้จู ักฉนั รูจ้ กั เธอ ดว้ ยกระบวนการผู้นำ 4 ทศิ
9.3 โทรศัพท์มือถอื



แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2

ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรนุ่

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของวยั รนุ่ เวลา 2 ช่ัวโมง

ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ผู้สอน นายชาฟีอี กะมิง

1. สาระสำคญั
พันธกุ รรม สิ่งแวดล้อม และการอบรมเลีย้ งดู เป็นปจั จัยสำคัญที่ทำใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงทง้ั ดา้ น

ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาในวยั ร่นุ

2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั
- ระบุปัจจัยท่ีมีผลกระทบต่อการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการดา้ นรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม

และสตปิ ัญญาในวยั รนุ่ (พ.1.1 ม.2/2)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถบอกปัจจัยทม่ี ผี ลกระทบตอ่ การเจรญิ เติบโต และพฒั นาการทางด้านต่างๆ ของ

วัยรุ่นได้ (K)
2. นักเรยี นเหน็ ความสำคัญของพัฒนาการทางด้านต่างๆ ของวยั รุน่ (A)

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี นิ ัย 2. มคี วามรับผดิ ชอบ 3. ใฝ่เรียนรู้

6. สาระการเรียนรู้

ปัจจัยทีม่ ีผลกระทบตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการดา้ นร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และ

สติปัญญา

- พันธกุ รรม - สิง่ แวดล้อม - การอบรมเล้ยี งดู

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้

ขนั้ ท่ี 1 ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ทบทวนเนอ้ื หาของบทเรียนท่ีผา่ นมา
2. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
เพราะเหตุใด บคุ คลแต่ละคนจงึ มกี ารเจริญเตบิ โตและพฒั นาการท่แี ตกตา่ งกนั
(ขน้ึ อยู่กบั ปัจจัยสำคญั ตา่ งๆ เชน่ พนั ธุกรรม สิง่ แวดล้อม การเลีย้ งดู เป็นตน้ ซง่ึ มผี ลต่อการ

เจริญเติบโตและพัฒนาการท่ีแตกตา่ งกันของบุคคล)

ข้นั ท่ี 2 ขัน้ สอน
1. ครอู ธบิ ายให้นักเรยี นเข้าใจเก่ียวกบั ปจั จัยท่ีมผี ลต่อการเจริญเติบโตและพฒั นาการดา้ นต่างๆ ของ

วัยร่นุ ซง่ึ มีปัจจยั สำคัญ 3 ประการ คือ พนั ธกุ รรม สิง่ แวดลอ้ ม และการอบรมเล้ียงดู
2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
- สภาพแวดลอ้ มมีผลต่อการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของวัยร่นุ อย่างไร อธบิ ายพรอ้ ม

ยกตวั อย่างประกอบ
(ทำให้วัยรนุ่ มจี ติ ใจทแ่ี ขง็ กระดา้ ง กา้ วรา้ ว พูดจาหยาบคาย วา้ เหว่ ขาดความอบอ่นุ )
- อาหารมผี ลต่อการเจริญเติบโต และพฒั นาการของวัยรุ่นอยา่ งไร
(ช่วยใหว้ ยั รนุ่ มีพัฒนาการท่สี มวยั )

3. ครูให้นกั เรยี นทำกจิ กรรมท่ี 2 การเปล่ียนแปลงของวัยรนุ่ ในด้านตา่ งๆ

ขน้ั ท่ี 3 ขนั้ สรุป
1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ บทเรยี นและนักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
นกั เรียนคดิ วา่ ยงั มีปัจจยั ใดบ้างท่ีมีผลตอ่ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน่
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)

8. การวดั และประเมนิ ผล

วิธีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล

ความรว่ มมอื ในการจดั การเรียน - ตามดุลพนิ ิจของครูผสู้ อน
การสอน

สงั เกตความรบั ผิดชอบ ตรงต่อ - ตามดุลพินิจของครูผสู้ อน
เวลา และใฝ่เรียนรู้

- ตรวจใบงานท่ี 2 กจิ กรรมที่ 2 ปัจจัยทมี่ ีผลต่อการ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เจริญเติบโตและพัฒนาการของวยั รนุ่

9. สอื่ การเรียนรู้
9.1 หนังสอื เรียน สขุ ศกึ ษา ม.2
9.2 กรณีตวั อย่าง
9.3 ใบกิจกรรมท่ี 2 ปจั จยั ทมี่ ีผลต่อการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของวยั รุ่น



แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เวลา 2 ชั่วโมง
ผูส้ อน นายชาฟอี ี กะมิง
พัฒนาการและการปรบั ตัวทางเพศของวยั รนุ่
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เพศกับวยั ร่นุ
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2

1. สาระสำคญั
การปรับตวั ทางเพศท่ถี ูกต้อง เหมาะสมกับพฒั นาการทางเพศ จะชว่ ยใหค้ ลายความกังวลและเข้าใจ

การเปลย่ี นแปลงท่ีเกดิ ขนึ้ ตามธรรมชาติ

2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั
- วิเคราะห์ปัจจัยทีม่ ีอิทธิพลต่อเจตคติในเรอ่ื งเพศ (พ.2.1 ม.2/1)

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นักเรยี นสามารถอธิบายพัฒนาการทางเพศของวัยรุ่นได้ (K)
2. นักเรยี นตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของพัฒนาการทางเพศของวยั รนุ่ (A)

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี ินัย 2. มีความรับผดิ ชอบ 3. ใฝ่เรียนรู้

6. สาระการเรียนรู้
1. ลักษณะอาการเบือ้ งตน้ ของผมู้ ีปญั หาสุขภาพจิต

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขั้นท่ี 1 ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น

1. ครนู ำบตั รภาพวยั ร่นุ ชายและวยั ร่นุ หญงิ มาให้นักเรียนดู จากนั้นครสู มุ่ นักเรยี นชาย 1 คน และ
นกั เรยี นหญงิ 1 คน ออกมาหนา้ ชั้นเรยี น แลว้ ต้งั คำถามให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ อย่างอสิ ระ ดงั นี้

- จากภาพนักเรยี นคิดว่า แตกต่างจากเพื่อนทั้ง 2 คน อยา่ งไร
- นกั เรียนคดิ ว่า ผู้หญงิ และผู้ชายแตกตา่ งกนั อยา่ งไร
- นักเรยี นคิดว่า การมีความรู้ความเขา้ ใจเรื่องเพศกับวัยรุ่น มีความสำคญั อย่างไร
2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
นักเรยี นคดิ ว่า เรือ่ งเพศนัน้ เปน็ เรื่องท่ีควรเปิดเผยหรือไม่ จงอธิบายเหตผุ ล

(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน)
ขัน้ ท่ี 2 ข้ันสอน

1. ครอู ธิบายเชอื่ มโยงให้นักเรียนเขา้ ใจวา่ เมื่อเข้าสู่ช่วงวยั รนุ่ ร่างกายจะมกี ารเปลยี่ นแปลงอยา่ ง
รวดเร็ว ซงึ่ สง่ ผลต่อการเปลย่ี นแปลงทางดา้ นจิตใจและอารมณ์

2. นักเรียนช่วยกันบอกแนวทางในการปรบั ตัวทางเพศทีเ่ หมาะสมต่อการเปล่ียนแปลงทางเพศของ
วยั รนุ่ โดยครคู อยอธบิ ายเพ่มิ เตมิ เพื่อใหน้ กั เรียนสามารถปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กับการเปลย่ี นแปลงทางเพศที่เกดิ ขนึ้ ได้
ขั้นท่ี 3 ขน้ั สรุป

1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ บทเรียนและนักเรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ
การเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกายลักษณะใดบ้างที่บ่งบอกว่านักเรยี นกำลังเขา้ สู่วัยรุ่น

(เชน่ ผู้ชายจะเริ่มมีหนวดเครา มเี สยี งแหบหา้ ว มีขนขึ้นบรเิ วณรักแร้ หน้าแขง็ และอวัยวะเพศผู้หญงิ จะเร่ิมมี
ประจำเดือน มหี น้าอกทีโ่ ตขึ้น สะโพกผาย เอวคอดเลก็ ลง)

2. ครใู หน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 3 พฒั นาการและการปรับตัวทางเพศของวัยรุน่
8. การวัดและประเมินผล

วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล

ความรว่ มมอื ในการจัดการเรียน - ตามดลุ พนิ ิจของครูผ้สู อน
การสอน

สงั เกตความรับผิดชอบ ตรงต่อ - ตามดลุ พนิ ิจของครูผสู้ อน
เวลา และใฝ่เรยี นรู้

ตรวจใบงานท่ี 3 พฒั นาการ ใบกิจกรรมท่ี 3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
และการปรบั ตวั ทางเพศของ
วยั รนุ่

9. ส่อื การเรียนรู้
9.1 หนงั สือเรยี น สขุ ศึกษา ม.2
9.2 ภาพวัยรุ่นชาย และวัยรุน่ หญงิ
9.3 ใบงานท่ี 3 พัฒนาการและการปรบั ตัวทางเพศของวัยรุ่น



แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 4

วัยรุ่นกับเจตคติทางเพศ

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เพศกบั วยั รุน่ เวลา 1 ชั่วโมง
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ผู้สอน นายชาฟอี ี กะมิง

1. สาระสำคัญ
การศกึ ษาวิเคราะห์ปัจจัยทม่ี ีอิทธิพลต่อเจตคติทางเพศของวยั ร่นุ จะทำให้สามารถแสดงพฤติกรรม

ทางเพศทีเ่ หมาะสม และสอดคลอ้ งกับสงั คมไทย

2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
- วเิ คราะห์ปจั จยั ท่ีมีอทิ ธพิ ลต่อเจตคติในเร่อื งเพศ (พ.2.1 ม.2/1)

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์ปจั จัยทม่ี อี ิทธิพลต่อเจตคติทางเพศของวัยรนุ่ ได้ (K)
2. นักเรยี นตระหนกั และเห็นความสำคญั ของเจตคตทิ างเพศของวัยรุ่นทถี่ กู ต้อง (A)
3. นกั เรียมเี จตคติทางเพศของวยั ร่นุ ท่ีถูกต้อง (P)

4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการวิเคราะห์
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. มีวินยั 2. ตรงต่อเวลา 3. มีความรับผดิ ชอบ 4. ใฝ่เรยี นรู้

6. สาระการเรยี นรู้
1. วยั รนุ่ กับเจตคตทิ างเพศ

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรยี น

1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันทบทวนเนอ้ื หาในบทเรยี นท่ผี า่ นมา

2. ครยู กตวั อย่างเกี่ยวกับความเช่ือทางเพศหรือเจตคตติ างเพศของวัยรุ่นในปจั จุบัน และใหน้ ักเรียน
รว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ วา่ ตวั อย่างทค่ี รูยกมาให้นน้ั เป็นเจตคตทิ างเพศของวัยร่นุ ทีถ่ กู หรือไม่
ขน้ั ที่ 2 ขน้ั สอน

1. ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกันยกตัวอย่างวธิ ีการปฏบิ ตั ิตนของวยั รุ่นใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกับสงั คมและ
วฒั นธรรมไทย เช่น การรักนวลสงวนตวั การแต่งกายอย่างมดิ ชดิ การให้เกียรติสุภาพสตรี เป็นตน้

2. ครูตรวจสอบความถกู ต้องจากการยกตัวอย่างของนักเรียน และอธิบายให้นักเรยี นเข้าใจว่า จาก
ตัวอยา่ งท่นี ักเรยี นยกมาในข้างตน้ จดั เป็นเจตคตทิ ่ีดที างเพศทีส่ อดคลอ้ งกับสังคมและวัฒนธรรมไทย

3. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
นกั เรยี นมคี วามรูส้ ึกอยา่ งไรต่อเจตคติทางเพศของสงั คมไทย
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน)

ขน้ั ที่ 3 ขั้นสรุป
1. นักเรยี นร่วมกันสรุปปัจจัยทม่ี อี ิทธพิ ลต่อเจตคตทิ างเพศของวยั รุน่ พร้อมท้ังเสนอแนะแนวทางใน

การสรา้ งเจตคติทดี่ ีในเรื่องเพศ
2. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด
เพราะเหตใุ ด ความเชอ่ื เรื่องเจตคติทางเพศในปจั จบุ นั ของสงั คมไทยถงึ เปล่ยี นไปจากอดตี

(เพราะประเทศไทยไดร้ ับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก และส่อื เทคโนโลยีทพ่ี ฒั นาไปอย่างรวดเรว็ ส่งผลให้
เกิดการเปลย่ี นแปลงทางดา้ นต่างๆ โดยเฉพาะดา้ นเจตคติทางเพศของสงั คมไทย)

3. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั อภิปรายเกยี่ วกบั ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับจากการศึกษาความรเู้ ร่ือง วัยรนุ่ กับเจต
คตทิ างเพศ

8. การวดั และประเมินผล

วธิ ีการวัดและประเมินผล เครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
ตามดุลพนิ ิจของครูผู้สอน
ความรว่ มมือในการจดั การเรยี น - ตามดลุ พนิ ิจของครูผ้สู อน
การสอน

สังเกตความรบั ผิดชอบ ตรงต่อ -
เวลา และใฝ่เรียนรู้

9. สื่อการเรียนรู้
9.1 หนงั สือเรียน สขุ ศกึ ษา ม.2
9.2 กรณีตัวอยา่ ง



แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 5

ปัญหาการมีเพศสัมพนั ธ์ในวัยเรยี น และพฤตกิ รรมทีเ่ สีย่ งต่อการตั้งครรภ์ไม่พงึ ประสงค์

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เพศกบั วยั รุน่ เวลา 1 ช่ัวโมง

ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ผู้สอน นายชาฟีอี กะมิง

1. สาระสำคัญ
การป้องกันตนเองจากปัญหาการมเี พศสัมพนั ธ์ในวยั เรยี นเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงและป้องกันตนเองจาก

พฤติกรรมทเ่ี สย่ี งต่อการต้งั ครรภไ์ ม่พงึ ประสงค์

2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด
- อธบิ ายวิธีป้องกนั ตนเองและหลกี เลย่ี งจากโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ เอดส์ และการตัง้ ครรภโ์ ดยไม่

พงึ ประสงค์ (พ.2.1 ม.2/3)

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายวธิ ีการปอ้ งกนั ตนเองจากปัญหาการมเี พศสมั พันธ์ในวยั เรยี นได้ (K)
2. นักเรียนตระหนักและเห็นความสำคัญของผลกระทบจากการมเี พศสัมพนั ธ์ในวยั เรียน (A)

4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการวเิ คราะห์
4.2 ความสามารถในการใช้เหตผุ ล

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มีวินัย 2. ตรงตอ่ เวลา 3. มีความรบั ผิดชอบ 4. ใฝ่เรยี นรู้

6. สาระการเรียนรู้
1. ปัญหาและผลกระทบจากการมเี พศสัมพนั ธใ์ นวยั เรยี น

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น

1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันทบทวนเน้ือหาในบทเรยี นทผี่ ่านมา
2. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

นกั เรยี นคิดว่า ส่อื ชนดิ ใดมีอิทธิพลตอ่ การมีเพศสมั พนั ธข์ องวัยรุน่ มากท่ีสุด
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผสู้ อน)

ขน้ั ท่ี 2 ขัน้ สอน
1. ครูเล่าข่าวหรือประสบการณ์เก่ียวกบั พฤติกรรมหรือสถานการณ์เส่ียงในเร่ืองการมีเพศสมั พันธ์ในวัย

เรียนใหน้ กั เรยี นฟัง จากน้ันครูซักถามนักเรียน ดังนี้
- จากตัวอยา่ งข่าว นักเรยี นคิดวา่ ปญั หาท่เี กดิ ข้ึนคืออะไรและสง่ ผลกระทบอยา่ งไรบา้ ง
- นกั เรียนคิดว่า มีวธิ ีการปอ้ งกนั หรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร
- นักเรียนคิดว่า การมเี พศสมั พนั ธ์ในวัยเรยี นสง่ ผลเสียอยา่ งไร
2. ครูอธิบายเพิ่มเตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจเก่ียวกับปัญหาและผลกระทบจากการมเี พศสัมพันธ์ในวยั เรียน

ในด้านต่างๆ ดงั นี้
1) ด้านร่างกาย
2) ดา้ นจิตใจและอารมณ์
3) ด้านครอบครวั
4) ด้านสังคม

ขน้ั ท่ี 3 ขนั้ สรุป
1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปบทเรียนและนักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
เพราะเหตใุ ด การไปเท่ยี วสองต่อสองกับเพศตรงขา้ ม จึงเปน็ สถานการณเ์ ส่ยี งต่อการมี

เพศสมั พันธ์
(เนอ่ื งจากเปน็ สถานการณ์ทท่ี ำใหม้ ีโอกาสได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ในเวลากลางคืน ซงึ่ เมื่อมี
โอกาสได้ใกล้ชิดกัน ประกอบกับบรรยากาศเอื้ออำนวย ยอ่ มเป็นการปลุกเรา้ อารมณท์ างเพศของทงั้ สองฝา่ ยให้

เกิดขน้ึ )
8. การวดั และประเมินผล

วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล

ความรว่ มมอื ในการจดั การเรยี น - ตามดุลพินจิ ของครูผู้สอน
การสอน

สังเกตความรบั ผิดชอบ ตรงต่อ - ตามดลุ พินจิ ของครูผสู้ อน
เวลา และใฝเ่ รียนรู้

9. สื่อการเรียนรู้
9.1 หนังสือเรียน สขุ ศกึ ษา ม.2
9.2 ตวั อยา่ งขา่ ว



แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 เวลา 1 ช่ัวโมง
ผ้สู อน นายชาฟีอี กะมิง
ความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 ความเสมอภาคทางเพศ
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2

1. สาระสำคญั
ความเสมอภาคทางเพศ มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตในสังคม ชว่ ยใหส้ ามารถวางตวั ได้อยา่ ง

เหมาะสมกบั เพศตรงขา้ ม

2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั
- อธิบายความสำคญั ของความเสมอภาคทางเพศและวางตัวไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (พ.2.1 ม.2/4)

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศได้ (K)
2. นักเรยี นตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของความเสมอภาคทางเพศ (A)

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
ทกั ษะการสรา้ งความรู้
4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มีวนิ ัย 2. มคี วามรับผดิ ชอบ 3. ใฝเ่ รียนรู้

6. สาระการเรียนรู้
1. ความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศ

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้

ขั้นท่ี 1 ขัน้ นำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ทบทวนเน้อื หาในบทเรียนทผี่ ่านมา
2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

- นักเรยี นคดิ วา่ การเรยี กรอ้ งใหม้ คี วามเสมอภาค ทางเพศตามกฎหมาย เปน็ ส่ิงท่ีถกู ต้อง
เหมาะสม หรือไม่ จงอธิบายเหตุผล

(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน)
- ทำไมความเสมอภาคทางเพศ จงึ ต้องอยู่ภายใน กรอบที่เหมาะสมของวัฒนธรรมอันดงี าม
ของ สงั คมไทย
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน)
3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับบทบาทของผู้หญงิ ไทยในปัจจบุ ัน โดยครูอาจยกตัวอยา่ ง
ผูห้ ญิงทม่ี ีชอื่ เสียงเป็นที่รจู้ ัก แลว้ ให้นักเรยี นบอกบทบาท หน้าท่ีของบคุ คลท่ียกตัวอย่าง
และสิ่งทีค่ วรยึดถือเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี พร้อมบอกเหตผุ ล
ประกอบ

ขน้ั ที่ 2 ขัน้ สอน
1. ครูนำภาพเก่ยี วกบั ความเสมอภาคชายหญิง มาเปรยี บเทียบใหน้ กั เรยี นดู และขออาสาสมัคร

นกั เรยี น 2 คน ออกมาแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ภาพดงั กลา่ ว โดยครูร่วมแสดงความคดิ เหน็ และอธบิ าย
เชอ่ื มโยงให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับความสำคญั ของความเสมอภาคทางเพศ

2. นักเรยี นและครรู ่วมกนั วเิ คราะห์วา่ ความเสมอภาคทางเพศมีความสำคญั หรือไม่ อยา่ งไร พร้อม
ยกตัวอยา่ งความเสมอภาคทางเพศในปจั จบุ นั ประกอบ

ข้นั ที่ 3 ขั้นสรุป
1. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั เขยี นสรปุ ความรูเ้ รื่อง ความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศ เปน็

แผนผังความคิด เสร็จแลว้ นำสง่ ครตู รวจ
2. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปบทเรียนและนักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด
- นักเรยี นคดิ วา่ ความเสมอภาคทางเพศที่ถูกเรียกร้องใหม้ ีการแก้ไขในปัจจบุ ันมอี ะไรบา้ ง

(เช่น การยินยอมให้ผ้หู ญิงท่ีแต่งงานแลว้ ใช้คำนำหน้าชื่อเปน็ นางสาวได้ และสามารถเลอื กใชน้ ามสกุลของ
ตนเองหรอื สามีได)้

8. การวัดและประเมินผล

วธิ ีการวัดและประเมินผล เครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล
ตามดุลพินจิ ของครูผสู้ อน
ความร่วมมอื ในการจัดการเรยี น - ตามดุลพินจิ ของครูผสู้ อน
การสอน

สังเกตความรบั ผดิ ชอบ ตรงต่อ -
เวลา และใฝเ่ รียนรู้

9. ส่ือการเรียนรู้
9.1 หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษา ม.2
9.2 บัตรภาพ



แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 เวลา 2 ช่ัวโมง
ผู้สอน นายชาฟีอี กะมิง
การวางตวั ต่อเพศตรงขา้ ม
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ความเสมอภาคทางเพศ
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2

1. สาระสำคญั
การวางตัวตอ่ เพศตรงข้ามได้อยา่ งเหมาะสม จะทำให้สามารถอยูร่ ่วมกันได้อยา่ งเข้าใจและมีความสขุ

2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั
- อธบิ ายความสำคญั ของความเสมอภาคทางเพศและวางตัวได้อยา่ งเหมาะสม (พ.2.1 ม.2/4)

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นกั เรียนสามารถบอกแนวทางในการวางตัวตอ่ เพศตรงข้ามในฐานะเพือ่ นและฐานะคนรจู้ ักได้อยา่ ง

เหมาะสม (K)
2. นกั เรยี นปฏิบัติตนในการวางตัวตอ่ เพศตรงขา้ มในฐานะเพ่อื นและฐานะคนรจู้ ักได้อย่างเหมาะสม(P)

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
ทกั ษะการสร้างความรู้
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. มวี ินยั 2. มคี วามรบั ผิดชอบ 3. ใฝ่เรยี นรู้

6. สาระการเรยี นรู้
1. การวางตัวต่อเพศตรงข้าม

7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้

ขั้นท่ี 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ทบทวนเน้ือหาในบทเรยี นทีผ่ ่านมา
2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด

- การวางตวั ตอ่ เพศตรงข้ามอย่างถกู ต้องเหมาะสม มคี วามสำคญั อยา่ งไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพินิจของครูผสู้ อน)
ขั้นท่ี 2 ขน้ั สอน
1. ครูถามนักเรยี นว่า นักเรยี นมีวิธีการปฏิบัติตนตอ่ เพอ่ื น
รว่ มชนั้ เรยี นอย่างไร และนักเรียนปฏิบัตติ ่อเพ่ือนนกั เรียนชายและเพื่อนนักเรยี นหญิงเหมือนกันหรือไม่ อยา่ งไร
2. อาสาสมคั รเพศชายและเพศหญิง เพศละ 1 คน ออกมาเล่าวิธกี ารปฏิบตั ิตนตอ่ เพ่ือนร่วมช้นั เรียน
ให้เพอ่ื นฟงั หนา้ ชน้ั เรียน
3.เมื่ออาสาสมัครเล่าจบแล้ว ครชู ้ีแจงใหน้ ักเรียนทราบว่า การอยใู่ นสังคมนักเรยี นจะต้องรูจ้ ักการ
วางตวั ทเี่ หมาะสม ทัง้ การวางตนตอ่ เพศเดยี วกันและเพศตรงขา้ ม เพอ่ื ใหน้ ักเรียนตระหนกั ถงึ ความสำคัญของ
การวางตัวต่อเพศตรงขา้ ม

ข้นั ท่ี 3 ขน้ั สรุป
1. ครแู นะนำให้นักเรียนนำแนวทางในการวางตัวต่อเพศตรงขา้ มในฐานะเพื่อนและในฐานะคนร้จู กั

ตามท่ีกำหนดร่วมกนั ไปปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ ประจำวันอย่างเหน็ คุณคา่
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ บทเรียนและนักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
- การวางตวั ตอ่ เพศตรงข้ามอย่างเหมาะสมมีประโยชน์อย่างไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน)

8. การวัดและประเมนิ ผล

วิธีการวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

ความรว่ มมอื ในการจดั การเรยี น - ตามดุลพนิ ิจของครูผู้สอน
การสอน

สงั เกตความรับผดิ ชอบ ตรงต่อ - ตามดุลพินจิ ของครูผสู้ อน
เวลา และใฝ่เรยี นรู้

ตรวจใบงานที่ 4 การวางตัวต่อ ใบกจิ กรรมท่ี 4 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เพศตรงขา้ ม

9. สื่อการเรียนรู้
9.1 หนงั สือเรียน สขุ ศกึ ษา ม.2
9.2 ใบงานที่ 4 การวางตวั ตอ่ เพศตรงขา้ ม



แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 8

ความหมาย และความสมั พันธร์ ะหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจิต

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 สุขภาพกายและสขุ ภาพจติ เวลา 1 ช่ัวโมง

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ผู้สอน นายชาฟอี ี กะมิง

1. สาระสำคญั
สุขภาพกายและสุขภาพจติ มคี วามสมั พนั ธ์กนั จงึ มีผลต่อการแสดงออกทางพฤติกรรม โดยผู้มสี ุขภาพ

กายที่ดีย่อมมสี ุขภาพจติ ที่ดีด้วย

2. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด
- วิเคราะหค์ วามสัมพันธข์ องภาวะสมดุลระหวา่ งสุขภาพกายและสุขภาพจิต (พ.4.1 ม.2/4)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถบอกความหมายของสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ได้ (K)
2. นักเรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งสุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ได้ (K)

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
ทกั ษะการวิเคราะห์
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 2. มคี วามรับผดิ ชอบ
1. มวี ินัย 4. มีจติ สาธารณะ
3. ใฝเ่ รยี นรู้

6. สาระการเรยี นรู้
1. ความสมดุลระหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจิต

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้

ขน้ั ที่ 1 ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรียน
1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั ทบทวนเนอ้ื หาในบทเรยี นที่ผ่านมา
2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
- นกั เรียนคิดว่า ชวี ติ ที่เปน็ สขุ ประกอบด้วยอะไรบา้ ง
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู ูส้ อน)
- นักเรยี นคดิ ว่า ตนเองเป็นผู้ทีม่ สี ุขภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ีดหี รอื ไม่ อย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)

ข้ันที่ 2 ข้นั สอน
1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกบั ความวติ กกังวลที่เกิดขน้ึ กบั จติ ใจ และผลท่เี กดิ ข้ึนต่อ

รา่ งกาย เชน่ การนอนฝันร้าย แล้วนำมาคิดจนเกิดความวติ กกังวล จนทำใหน้ อนไมห่ ลับ หรือขาดความมน่ั ใจ
2. ครูใหน้ ักเรียนอาสาสมคั ร หรอื สุ่มเรยี กนักเรยี น 2-3 คน ให้อธิบายคำว่า “จิตเป็นนาย กายเป็น

บา่ ว” แลว้ ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรียนทราบวา่ จิตเปน็ ตวั กำหนด ควบคุม ส่งั การการทำงานของรา่ งกาย จึงเรยี กได้
วา่ จติ เปน็ นาย กายเปน็ บา่ ว

3. นักเรยี นศกึ ษาความรใู้ นประเดน็ ท่ีกำหนด จากหนงั สือเรียน หอ้ งสมุด หรือแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
ดังนี้

1) ความหมายของสุภาพกายและสขุ ภาพจติ
2) ความสมั พันธ์ระหวา่ งสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ

ขนั้ ที่ 3 ขัน้ สรุป
1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความหมาย และความสัมพันธร์ ะหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจิต แล้ว

เขียนเป็นผังมโนทัศน์สง่ ครผู สู้ อน
2. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปบทเรียนและนักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
- ถา้ รา่ งกายมีความแขง็ แรงสมบูรณจ์ ะส่งผลต่อจิตใจอยา่ งไร

(ถา้ รา่ งกายมคี วามแข็งแรงสมบรู ณย์ ่อมส่งผลใหม้ ีสภาพจติ ใจดีตามไปด้วย เพราะถ้าหากเรามี
สขุ ภาพกายดี ไม่มีการเจ็บป่วย เรากไ็ ม่ตอ้ งกังวลหรอื คดิ มากเก่ยี วกับการเจบ็ ป่วยของตนเอง)

8. การวัดและประเมนิ ผล

วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล
ตามดลุ พนิ จิ ของครูผู้สอน
ความร่วมมือในการจดั การเรียน - ตามดุลพนิ จิ ของครูผู้สอน
การสอน

สงั เกตความรับผิดชอบ ตรงต่อ -
เวลา และใฝเ่ รยี นรู้

9. สื่อการเรียนรู้
9.1 หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษา ม.2

แบบบนั ทกึ หลังการสอน
ผลการจัดการเรยี นการสอน/ปญั หา/ข้อเสนอแนะ
...................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................................... ........................
........................................................................................................... ...................................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................... ...................................
..

ลงชอ่ื ........................................ครูผู้สอน
(นายชาฟอี ี กะมิง)

ความเหน็ หัวหนา้ ฝ่ายบริหารวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................................... ........................
.......................................................................................................... ....................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ......................................................
(นายมฮู มั หมดั อิดรสี เจ๊ะบาการ์)

ความเหน็ ผ้อู ำนวยการโรงเรียน
..................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................................... .........................
.......................................................................................................... ....................................................................

ลงชอ่ื ......................................................
(นายธนกฤต นลิ ราช)

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 9

ความสมดุลระหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจิต

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 สุขภาพกายและสุขภาพจติ เวลา 1 ช่ัวโมง

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ผู้สอน นายชาฟอี ี กะมิง

1. สาระสำคญั
การกินเป็น อยู่เป็น สงั คมเปน็ สมาธิเป็น จดั เป็นองคป์ ระกอบสำคัญในการสรา้ งความสมดลุ ระหว่าง

สขุ ภาพกายและสุขภาพจิต

2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั
- วิเคราะหค์ วามสมั พนั ธ์ของภาวะสมดลุ ระหว่างสุขภาพกายและสขุ ภาพจิต (พ.4.1 ม.2/4)

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนบอกองคป์ ระกอบในการสร้างความสมดลุ ระหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ (K)
2. นักเรยี นอธบิ ายวิธกี ารประเมินภาวะสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ได้ (K)
3. นกั เรยี นมปี ระเมนิ ภาวะสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ (P)

4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
ทกั ษะการวเิ คราะห์
4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 2. มคี วามรับผิดชอบ
1. มวี นิ ยั 4. มีจติ สาธารณะ
3. ใฝเ่ รียนรู้

6. สาระการเรยี นรู้
1. ความสมดลุ ระหว่างสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้

ขั้นที่ 1 ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูและนกั เรียนร่วมกันทบทวนเนื้อหาในบทเรยี นทีผ่ า่ นมา
2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
- ถา้ สขุ ภาพกายหรือสขุ ภาพจิตขาดองคป์ ระกอบใดองคป์ ระกอบหนง่ึ ไป จะส่งผลต่อสุขภาพ

อย่างไร
(ทำให้สขุ ภาพขาดความสมดุลระหว่างสขุ ภาพกายและสุขภาพจิต ทำให้เกดิ ปญั หาสขุ ภาพตามมา)

ขั้นท่ี 2 ข้นั สอน
1. ครูให้นักเรียนดแู ผนผังแสดงความสัมพันธ์ของสุขภาพกายสุขภาพจิต และพฤติกรรมที่มผี ลกระทบ

ตอ่ กัน แล้วตั้งคำถามถามนักเรยี น ดงั นี้
- จากแผนผัง นักเรยี นคดิ วา่ ตอ้ งการส่อื ถงึ อะไร
- นกั เรยี นคิดวา่ องค์ประกอบในการสร้างความสมดลุ ระหว่างสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ มี

อะไรบา้ ง
- นักเรยี นคดิ ว่า องค์ประกอบใดเป็นองค์ประกอบของสขุ ภาพกาย และองคป์ ระกอบใดเป็น

องคป์ ระกอบของ
สขุ ภาพจิต
- ถ้าสขุ ภาพกายหรือสุขภาพจิตขาดองค์ประกอบใด องคป์ ระกอบหนึง่ นกั เรยี นคิดวา่ จะมผี ล

อยา่ งไรต่อสขุ ภาพ
2. ครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอคำตอบหน้าชัน้ เรียน แล้วให้เพื่อนที่มีความคดิ เหน็ ท่ี

แตกตา่ งนำเสนอเพิ่มเติม ครูคอยอธบิ ายความรเู้ พิ่มเตมิ เพ่ือใหน้ ักเรียนเข้าใจมากยิ่งขน้ึ

ขั้นท่ี 3 ข้ันสรุป
1. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า ถ้านักเรียนต้องการทราบว่า ตนเองมีภาวะสุขภาพกายและสุขภาพจิต

สมบูรณ์หรือไม่ จะต้องวดั หรือประเมินภาวะสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยสามารถประเมินได้ดว้ ยตนเองหรือ
ประเมินจากบุคลากรทางสาธารณสุข

2. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปบทเรยี นและนักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
- สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต มคี วามสมั พนั ธ์ตอ่ พฤติกรรมการแสดงออกหรือไม่ อย่างไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพินิจของครผู ้สู อน)

3. ครใู ห้นักเรยี นทำใบงานที่ 5 การประเมนิ สุขภาพกาย สขุ ภาพจิต และพฤติกรรมทีแ่ สดงออก

8. การวัดและประเมินผล

วธิ ีการวดั และประเมินผล เครอื่ งมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
ตามดลุ พินจิ ของครูผู้สอน
ความร่วมมือในการจัดการเรียน - ตามดุลพินิจของครูผูส้ อน
การสอน
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความรบั ผดิ ชอบ ตรงต่อ -
เวลา และใฝเ่ รียนรู้

ตรวจใบงานท่ี 5 การประเมิน ใบกิจกรรมท่ี 5
สขุ ภาพกาย สขุ ภาพจติ และ
พฤติกรรมที่แสดงออก

9. สื่อการเรียนรู้
9.1 หนงั สือเรียน สุขศกึ ษา ม.2
9.2 ใบงานที่ 5 การประเมนิ สุขภาพกาย สขุ ภาพจติ และพฤติกรรมท่แี สดงออก

แบบบันทึกหลังการสอน
ผลการจัดการเรยี นการสอน/ปญั หา/ข้อเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอื่ ........................................ครูผสู้ อน
(นายชาฟอี ี กะมงิ )

ความเหน็ หวั หน้าฝา่ ยบริหารวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................. ............................................
...................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่อื ......................................................
(นายมูฮัมหมัดอิดรีส เจะ๊ บาการ์)

ความเหน็ ผู้อำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................

ลงชือ่ ......................................................
(นายธนกฤต นิลราช)



แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 10

สขุ บัญญัติแห่งชาตเิ พื่อการสรา้ งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 สุขภาพกายและสุขภาพจติ เวลา 2 ช่ัวโมง

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ผสู้ อน นายชาฟอี ี กะมิง

1. สาระสำคญั
การปฏบิ ัตติ นในการสรา้ งเสรมิ สุขภาพกายและสขุ ภาพจติ นั้น พึงปฏิบตั ิตามหลกั สุขบัญญัติแห่งชาติ

2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั
- วเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธข์ องภาวะสมดลุ ระหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจิต (พ.4.1 ม.2/4)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรียนอธิบายหลักสุขบัญญัตแิ หง่ ชาติเพ่ือการสรา้ งเสริมสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตได้ (K)
2. นักเรยี นตระหนกั และเห็นความสำคญั ของหลักสุขบญั ญัตแิ ห่งชาติ (A)
3. นักเรยี นปฏิบัติตนตามหลกั สุขบัญญัติแหง่ ชาติเพอื่ การสร้างเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต (P)

4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
ทกั ษะการวเิ คราะห์
4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3. ใฝ่เรยี นรู้
1. มีวนิ ัย 2. มีความรับผดิ ชอบ

6. สาระการเรียนรู้
1. ความสมดลุ ระหว่างสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้

ขัน้ ที่ 1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ทบทวนเน้อื หาในบทเรยี นท่ผี า่ นมา
2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
- ผู้ท่ีมีสขุ ภาพดี ตามความคิดของนักเรยี นเปน็ อย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู ู้สอน)
- การดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายจะชว่ ยทำใหส้ ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ดไี ดอ้ ย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)

ขนั้ ท่ี 2 ขั้นสอน
1. ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ยกตัวอยา่ งการปฏบิ ัติตนในการสร้างเสริมสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ว่า

สามารถปฏิบตั ิได้อยา่ งไร
2. ครูอธบิ ายใหน้ ักเรยี นเข้าใจว่า การดูแลสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ เพือ่ การมีสุขภาพที่ดีนนั้ ควร

ปฏบิ ตั ิตนตามแนวทางสุขบญั ญตั ิแห่งชาติ
3. นักเรยี นแตล่ ะคนศกึ ษาความรเู้ รอื่ ง สขุ บัญญัตแิ ห่งชาตเิ พ่อื การสร้างเสรมิ สขุ ภาพกายและ

สขุ ภาพจิต จากหนังสือเรยี น หนงั สือค้นคว้าเพม่ิ เติม หรอื ห้องสมดุ แลว้ นำความรู้ท่ีได้จากการศึกษามาบนั ทึก
ลงในแบบบนั ทึกการอ่าน

4. นกั เรียนแตล่ ะคนจบั คกู่ ับเพ่ือนที่นง่ั ใกล้เคียง แลว้ ผลัดกันตั้งคำถามและตอบคำถามเก่ียวกับสุข
บญั ญตั แิ หง่ ชาตเิ พ่อื การสร้างเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต ถ้าคู่ของตนเองตอบคำถามไมถ่ ูกตอ้ ง ให้นักเรียน
อธิบายความรู้เพ่ิมเติมจนเพ่ือนมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจที่ถูกต้อง ชดั เจน

ข้นั ท่ี 3 ขัน้ สรุป
1. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ความร้เู รอื่ ง สขุ บัญญัติแห่งชาติเพื่อการสร้างเสรมิ สุขภาพกายและ

สขุ ภาพจติ
2. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ บทเรียนและนักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ
- นกั เรียนมวี ธิ ีการปฏิบตั ิตน เพือ่ เปน็ การเสริมสรา้ ง สขุ ภาพจิตทดี่ ีไดอ้ ย่างไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู ู้สอน)

8. การวัดและประเมนิ ผล

วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล
ตามดลุ พนิ จิ ของครูผู้สอน
ความร่วมมือในการจดั การเรียน - ตามดุลพนิ จิ ของครูผู้สอน
การสอน

สงั เกตความรับผิดชอบ ตรงต่อ -
เวลา และใฝเ่ รยี นรู้

9. สื่อการเรียนรู้
9.1 หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษา ม.2

แบบบนั ทึกหลงั การสอน
ผลการจดั การเรียนการสอน/ปัญหา/ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................... ...........................
....................................................................................................... .......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................... .......................................
............................................................................................ ..................................................................................

ลงชอื่ ........................................ครูผสู้ อน
(นายชาฟอี ี กะมงิ )

ความเหน็ หัวหน้าฝ่ายบริหารวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ ......................................................
(นายมูฮมั หมัดอิดรีส เจะ๊ บาการ์)

ความเห็นผู้อำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................. .
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................. ...........

ลงชื่อ......................................................
(นายธนกฤต นิลราช)

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 11 เวลา 1 ชั่วโมง
ผ้สู อน นายชาฟอี ี กะมิง
อารมณ์และความเครยี ดทีม่ ีผลต่อสขุ ภาพ
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 อารมณ์และความเครียด
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2

1. สาระสำคญั
การเกดิ อารมณ์และความเครียดของวัยรนุ่ สามารถหาสาเหตขุ องความเครียดได้ โดยดูจากลกั ษณะท่บี ่ง

บอก เม่ือเกดิ ความเครยี ดทำให้สง่ ผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจติ

2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
- อธิบายลกั ษณะอาการเบื้องต้นของผมู้ ีปัญหาสขุ ภาพจิต (พ. 4.1 ม.2/5)

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายลกั ษณะอารมณ์และความเครยี ดของวัยร่นุ ได้ (K)
2. อธิบายสาเหตุของความเครียดและลกั ษณะท่บี ง่ บอกเม่อื เกิดความเครยี ดได้ (K)
3. ระบผุ ลของอารมณแ์ ละความเครยี ดต่อสขุ ภาพได้ (K)

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. มวี ินัย 2. มคี วามรบั ผิดชอบ 3. ใฝ่เรียนรู้

6. สาระการเรยี นรู้
1. ลักษณะอาการเบอ้ื งตน้ ของผู้มปี ัญหาสขุ ภาพจติ

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นท่ี 1 ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน

1.นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
เพราะเหตุใด พฒั นาการดา้ นอารมณ์ท่มี ผี ลต่อ การเปล่ียนแปลงในวยั รุ่น ระหวา่ งเพศชายกบั

เพศหญงิ จึงต่างกัน
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผ้สู อน)
2.ครูนำภาพบคุ คลที่กำลงั ย้ิมแย้มแจม่ ใสกับบคุ คลทใี่ บหนา้ เศรา้ ซมึ มาใหน้ กั เรยี นดู แล้วตั้งคำถามให้

นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น ดังนี้
- นกั เรยี นเหน็ ภาพนแี้ ล้วมีความรู้สึกอย่างไร
- นักเรยี นอยากเปน็ เหมอื นบุคคลในภาพใด

ขน้ั ท่ี 2 ขนั้ สอน
1. ครใู หน้ ักเรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมเขยี นเล่าประสบการณ์เกี่ยวกบั ประสบการณ์ในการปฐมพยาบาล
2. ครอู ธบิ ายให้นักเรยี นเขา้ ใจเกี่ยวกับลกั ษณะอารมณแ์ ละความเครียดท่ีมผี ลต่อสุขภาพ ตามประเด็น

ทก่ี ำหนด ดังนี้
1) ลกั ษณะอารมณ์และความเครยี ดของวัยรุน่
2) สาเหตขุ องความเครยี ด
3) ลักษณะทีบ่ ่งบอกเมื่อเกิดความเครียด
4) ผลของอารมณ์และความเครียดต่อสขุ ภาพ

3. ครใู ห้นักเรียนทำใบงานท่ี 1 อารมณ์และความเครียดทีม่ ีผลตอ่ สขุ ภาพ
ขัน้ ท่ี 3 ข้ันสรุป

1. ครแู นะนำให้นักเรียนนำแนวทางการประพฤตปิ ฏิบัติตนที่กำหนดไปปฏิบัตจิ รงิ ในชวี ิตประจำวนั
2. นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรุปความรเู้ ก่ยี วกับอารมณ์และความเครียดทีม่ ผี ลต่อสขุ ภาพ ครู
ตรวจสอบความถูกต้องและอธิบายเพ่มิ เติมในส่วนทบี่ กพร่อง
3. ครูให้นักเรยี นทำใบงานที่ 6 อารมณ์ของตนเอง

8. การวดั และประเมินผล

วิธีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล

ความรว่ มมอื ในการจดั การเรียน - ตามดลุ พนิ จิ ของครูผู้สอน
การสอน

สงั เกตความรับผิดชอบ ตรงต่อ - ตามดลุ พินิจของครูผู้สอน
เวลา และใฝเ่ รียนรู้

9. ส่อื การเรยี นรู้
9.1 หนังสอื เรยี น สุขศกึ ษา ม.2
9.2 กรณตี วั อย่าง
9.3 ภาพบคุ คลที่กำลงั ย้มิ แยม้ แจม่ ใสกับบุคคลท่ใี บหนา้ เศรา้ ซมึ

แบบบันทกึ หลังการสอน
ผลการจดั การเรียนการสอน/ปญั หา/ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ ........................................ครผู สู้ อน
(นายชาฟีอี กะมิง)

ความเหน็ หัวหนา้ ฝ่ายบริหารวิชาการ
...................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ......................................................
(นายมูฮัมหมัดอิดรสี เจ๊ะบาการ์)

ความเหน็ ผ้อู ำนวยการโรงเรยี น
................................................................................................................................. .............................................
...................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................

ลงชือ่ ......................................................
(นายธนกฤต นิลราช)

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12

ลกั ษณะอาการเบื้องตน้ ของผมู้ ปี ญั หาสขุ ภาพจิต

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 อารมณแ์ ละความเครยี ด เวลา 1 ช่ัวโมง

ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ผู้สอน นายชาฟอี ี กะมิง

1. สาระสำคัญ
การมีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับอารมณแ์ ละความเครยี ด จะทำให้เขา้ ใจลักษณะอาการเบือ้ งตน้ ของผู้

มีปญั หาสขุ ภาพจิต

2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด
- อธบิ ายลักษณะอาการเบ้ืองต้นของผมู้ ีปญั หาสุขภาพจิต (พ. 4.1 ม.2/5)

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายลักษณะอาการเบ้ืองต้นของผมู้ ปี ัญหาสขุ ภาพจติ ได้ (K)
2. นักเรยี นตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการป้องกปัญหาสุขภาพจติ (A)
3. นกั เรยี นปฏิบัตติ นเพื่อการปอ้ งกปัญหาสขุ ภาพจิตอยา่ งสมำ่ เสมอ (P)

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. มวี นิ ยั 2. มคี วามรบั ผิดชอบ 3. ใฝเ่ รียนรู้

6. สาระการเรยี นรู้
1. ลักษณะอาการเบ้ืองต้นของผ้มู ปี ัญหาสขุ ภาพจิต

7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้นั ที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น

1.ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั ลกั ษณะอาการของคนท่มี ีปัญหาทางด้านสขุ ภาพจิต โดย
เปรียบเทียบกับลกั ษณะอาการของคนท่ีมสี ุขภาพจติ ปกติ

2.นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ ผู้ทม่ี ีปญั หาสุขภาพจติ นา่ จะมสี าเหตุมาจากอะไร โดยครูคอย
กระตุน้ ให้นักเรยี นทุกคนมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น

ข้นั ที่ 2 ขน้ั สอน
1. ครอู ธิบายเช่อื มโยงใหน้ ักเรียนเขา้ ใจเก่ียวกับลกั ษณะสำคัญของผู้ที่มสี ุขภาพจิตดีหรอื สุขภาพจติ

ปกติ
ขน้ั ท่ี 3 ข้ันสรุป

1. ครแู นะนำให้นักเรียนนำแนวทางการประพฤตปิ ฏบิ ัตติ นที่กำหนดไปปฏิบตั ิจริงในชีวติ ประจำวนั
เพ่อื ใหเ้ ปน็ ผทู้ ่มี สี ุขภาพจิต

8. การวดั และประเมินผล

วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

ความรว่ มมอื ในการจัดการเรียน - ตามดลุ พินิจของครูผสู้ อน
การสอน

สังเกตความรับผิดชอบ ตรงต่อ - ตามดลุ พินจิ ของครูผู้สอน
เวลา และใฝ่เรยี นรู้

ตรวจใบงานท่ี 6 อารมณ์ของ ใบกิจกรรมที่ 6 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตนเอง

9. สอ่ื การเรียนรู้
9.1 หนังสือเรยี น สขุ ศึกษา ม.2
9.2 กรณตี วั อย่าง
9.3 ใบกิจกรรมท่ี 6 อารมณ์ของตนเอง

แบบบันทึกหลังการสอน
ผลการจัดการเรียนการสอน/ปัญหา/ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................... ...........

ลงช่ือ........................................ครูผู้สอน
(นายชาฟอี ี กะมิง)

ความเหน็ หัวหน้าฝา่ ยบริหารวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ......................................................
(นายมูฮัมหมัดอิดรีส เจะ๊ บาการ์)

ความเหน็ ผู้อำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ......................................................
(นายธนกฤต นลิ ราช)


Click to View FlipBook Version