2563-2 แผนการจัดการเรียนรู้ (ม.1)

แผนการจัดการเรียนรู้

วิชาสขุ ศกึ ษา พ 21102
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563

ครผู ้สู อน
นายชาฟอี ี กะมงิ

โรงเรยี นประตโู พธวิ์ ิทยา อำเภอยะรงั จังหวดั ปตั ตานี
สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 15

แผนการจัดการเรียนรู้

วิชาสขุ ศกึ ษา พ 21102
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563

ครผู ้สู อน
นายชาฟอี ี กะมงิ

โรงเรยี นประตโู พธวิ์ ิทยา อำเภอยะรงั จังหวดั ปตั ตานี
สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 15

แผนการจดั การเรยี นรู้ 1

ความรู้ทัว่ ไปเกี่ยวกับการปฐมพยาบาล

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 การปฐมพยาบาลและการเคลอื่ นย้ายผูป้ ่วยอยา่ งปลอดภยั เวลา 1 ชั่วโมง

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ผู้สอน นายชาฟอี ี กะมิง

1. สาระสำคญั
การปฐมพยาบาลเป็นการช่วยเหลือผูป้ ่วยเบ้อื งตน้ ซง่ึ ต้องคำนึงถึงหลกั สำคัญในการปฐมพยาบาล

2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวัด
- แสดงวธิ ีปฐมพยาบาลและเคล่อื นย้ายผปู้ ่วยอย่างปลอดภัย (พ. 5.1 ม.1/1)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นกั เรียนมีความร้แู ละสามารถบอกวัตถปุ ระสงคข์ องการปฐมพยาบาลได้ (K)
2. นักเรียนเหน็ ความสำคัญของของการปฐมพยาบาลท่ีถูกวธิ ี (A)
3. นักเรียนสามามารถปฐมพยาบาลแต่ประเภทได้อยา่ งถูกต้อง (P)

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ตรงตอ่ เวลา 3. ใฝ่เรียนรู้
1.มคี วามรบั ผดิ ชอบ

6. สาระการเรียนรู้
1. การคัดแยกขยะแตล่ ะประเภท

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ข้นั ที่ 1 ขัน้ นำเข้าสู่บทเรยี น

1. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด
- เพราะเหตุใด เมอื่ มีคนเป็นลม จึงไม่ควรเข้าไป มุงดู
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ใน ดุลยพินิจของครผู ูส้ อน)

2. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกับการใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้ทไ่ี ด้รบั บาดเจบ็ จากอุบัติเหตุตา่ งๆ แล้ว
ยกตวั อยา่ งการบาดเจ็บ เพื่อใหน้ กั เรยี นรว่ มกันบอกวิธีการปฐมพยาบาล หรอื การเคลื่อนยา้ ยผปู้ ว่ ย เชน่

- บาดเจบ็ โดยพลดั ตกจากที่สูง
- ถกู น้ำรอ้ นลวก/นำ้ มันลวกจากการประกอบอาหาร
ขน้ั ท่ี 2 ขัน้ สอน
1. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรียนทราบวา่ การปฐมพยาบาลและการเคลื่อนยา้ ยผ้ปู ่วยน้นั จะต้องรูข้ ั้นตอนในการปฏบิ ตั ิ
จงึ จะสามารถชว่ ยเหลือผปู้ ่วยใหป้ ลอดภัยได้
2. ครูใหน้ กั เรียนรวมกลุ่มกัน กลุม่ ละ 4 คน ตามความสมัครใจ จากนัน้ ใหส้ มาชกิ ในกลุ่มร่วมกันศกึ ษาความรู้
เร่อื ง ความร้ทู ่ัวไปเก่ียวกับการปฐมพยาบาล จากหนงั สือเรียน ตามประเด็นทกี่ ำหนด ดังนี้
1) วัตถปุ ระสงค์ของการปฐมพยาบาล
2) หลกั สำคัญในการปฐมพยาบาล
3. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ช่วยกันวิเคราะห์ประเดน็ คำถามท่ีกำหนด ดงั นี้
- เพราะเหตุใด การปฐมพยาบาลจะตอ้ งทำอยา่ งรวดเร็ว และถูกต้องทส่ี ุด
- การวางแผนชว่ ยเหลอื ผู้บาดเจ็บมีความสำคัญอยา่ งไร
- หากพบว่า ผู้ป่วยหยดุ หายใจ ควรปฐมพยาบาลอยา่ งไร
- การปฐมพยาบาลผู้ป่วยหลายราย ควรเรียงลำดับในการใหค้ วามชว่ ยเหลืออย่างไร
ขัน้ ท่ี 3 ขน้ั สรุป
1. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
- เพราะเหตุใด ในการช่วยเหลือผู้ป่วย จงึ จำเป็นต้องคำนงึ ถงึ สภาพจิตใจผูป้ ่วย

(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยูใ่ น ดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน)
2. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปวัตถปุ ระสงค์และหลักสำคญั ในการปฐมพยาบาล พร้อมท้งั บอกแนวทางในการนำ
ความรใู้ นการปฐมพยาบาลไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั แกต่ นเองและผู้อ่ืน
3. ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรือ่ ง วธิ ีการปฐมพยาบาลอย่างปลอดภยั จากหนงั สอื เรียน และ
เตรียมอปุ กรณ์ในการปฐมพยาบาลมาลว่ งหน้า เพือ่ เตรยี มความพร้อมในการเรยี นครง้ั ต่อไป

8. การวดั และประเมนิ ผล

วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล
ตามดลุ พนิ จิ ของครูผ้สู อน
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน -

9. สอ่ื การเรยี นรู้
9.1 หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษา ม.1



แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2

วิธกี ารปฐมพยาบาลอย่างปลอดภัย

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 7 การปฐมพยาบาล และการเคล่อื นย้ายผู้ป่วยอยา่ งปลอดภัย เวลา 3 ช่ัวโมง

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ผสู้ อน นายชาฟีอี กะมิง

1. สาระสำคัญ
เมื่อเกิดการบาดเจบ็ หรือเจ็บป่วยขน้ึ กับตนเอง บุคคลในครอบครัวหรือกับบคุ คลท่ีเรารู้จกั การให้การปฐมพยาบาล

เบอื้ งตน้ เปน็ สง่ิ สำคญั ทจ่ี ะช่วยลดอาการเจ็บป่วยเบ้ืองต้นก่อนสง่ ต่อไปรับการรักษาจากแพทย์ ดงั นั้นการเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการและ
สร้างเสริมทักษะในการปฐมพยาบาลให้ถูกวธิ จี ึงมีความสำคญั ทน่ี ักเรียนควรไดศ้ ึกษาและฝกึ หัดเพื่อจะไดน้ ำความร้ดู งั กลา่ วไป
ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวันไดถ้ ูกต้องเหมาะสมต่อไป

2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั
- แสดงวธิ ีปฐมพยาบาลและเคลอ่ื นยา้ ยผูป้ ่วยอยา่ งปลอดภัย (พ. 5.1 ม.1/1)

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวิธีการปฐมพยาบาลอยา่ งถกู ต้องได้ (K)
2. นกั เรียนตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการปฐมพยาบาลทถ่ี ูกต้อง (A)
3. นักเรียนสามารถทำการปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ ไดอ้ ย่างถูกต้อง (P)

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการสรา้ งความรู้
2) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1.มีความรบั ผดิ ชอบ 2. ตรงตอ่ เวลา

3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มจี ติ สาธารณะ

6. สาระการเรยี นรู้

การปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยอยา่ งปลอดภัย

-เปน็ ลม -บาดแผล -ไฟไหม้

-กระดูกหัก -นำ้ รอ้ นลวก -ถูกสัตวม์ พี ิษกัดต่อย

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น

1.นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
2.ครทู บทวนความรู้เดิมทน่ี กั เรยี นได้เรียนในคาบท่ผี า่ นมา
3. ครแู จง้ ใหน้ ักเรียนทราบว่า ครจู ะสาธติ วิธกี ารปฐมพยาบาลอย่างปลอดภยั ตามประเด็นท่ีกำหนด ดงั น้ี

- การปฐมพยาบาลเมื่อเลือดกำเดาไหล
- การปฐมพยาบาลคนเปน็ ลม
- การปฐมพยาบาลเม่ือกระดูกหัก
โดยครจู ดั เตรียมอปุ กรณ์ในการปฐมพยาบาลให้พรอ้ ม
ข้นั ท่ี 2 ขัน้ สอน
1. ครูสุ่มนกั เรยี นออกมาสาธิตการปฐมพยาบาลวธิ ตี ่างๆ โดยทค่ี รยู งั ไม่ได้สาธติ ให้นักเรยี นดู
2. ครสู าธติ วิธกี ารปฐมพยาบาลในรปู แบบตา่ งๆ และให้นักเรียนสาธิตให้ครดู ูเป็นรายบุคคล พร้อมกับเก็บ
คะแนน
3. ครใู หน้ ักเรยี นทำใบงานที่ 2 การปฐมพยาบาลเม่ือถกู สัตว์มพี ิษกดั ต่อย ซึง่ อยนู่ อกเหนอื การสาธิตใน
หอ้ งเรียน
ข้นั ท่ี 3 ข้ันสรุป
1. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
การปฐมพยาบาลอย่างไร ทจ่ี ะทำให้ผ้ปู ่วยไดร้ ับความปลอดภัย
(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ใน ดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)
2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปวิธีการปฐมพยาบาลอย่างปลอดภัย
3. นักเรียนร่วมกนั บอกประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั จากการปฐมพยาบาลอย่างปลอดภยั
8. การวดั และประเมินผล

วธิ กี ารวดั และประเมินผล เคร่อื งมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล

ประเมิจากการสาธติ วิธกี ารปฐม - แบบประเมนิ การสาธติ วธิ ีการปฐม รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

พยาบาลของนกั เรยี น พยาบาล

สงั เกตความรบั ผดิ ชอบ ตรงต่อ - ตามดุลพินิจของครูผู้สอน
เวลา และใฝ่เรียนรู้

ตรวจใบงานที่ 2 ใบงานที่ 2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

9. สื่อการเรยี นรู้
9.1 หนงั สอื เรียน สขุ ศึกษา ม.1
9.2 กรณีตวั อย่าง
9.3 อุปกรณ์การปฐมพยาบาล เช่น ผ้ายืด ไม้ ไมบ้ รรทดั เกา้ อ้ี
9.4 ใบงานท่ี 2 การปฐมพยาบาลเมือ่ ถูกสัตว์มีพิษกัดตอ่ ย



แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3

การเคลอ่ื นย้ายผู้ป่วย

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 การปฐมพยาบาล และการเคล่อื นย้ายผู้ปว่ ยอยา่ งปลอดภยั เวลา 3 ชั่วโมง

ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 ผสู้ อน นายชาฟีอี กะมิง

1. สาระสำคัญ
การเคลื่อนยา้ ยผู้ปว่ ย เป็นการเคล่ือนท่ดี ว้ ยวิธีการอ้มุ แบก หรือหามผู้ป่วยออกจากสถานท่ีเกิดเหตุท่เี ป็นอันตรายใหพ้ น้

จากภัยอนั ตราย หรือเพ่ือนำผ้ปู ว่ ยสง่ ต่อเข้ารับการรักษาทส่ี ถานพยาบาลหรือโรงพยาบาล การเคลือ่ นยา้ ยผ้ปู ่วยหรือผู้บาดเจบ็ จะ
ไม่มีประโยชน์อันใด ถ้าผู้ทีใ่ หก้ ารปฐมพยาบาลไดท้ ำการปฐมพยาบาลผูป้ ว่ ยถกู ต้องทุกข้นั ตอน แต่กลับพบวา่ มีผปู้ ว่ ยไดร้ ับบาดเจบ็
พกิ าร หรือเสียชีวิตเพ่ิมข้นึ จากการเคลื่อนยา้ ยผู้ปว่ ยท่ีผิดวิธี

2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั

- แสดงวิธปี ฐมพยาบาลและเคลือ่ นย้ายผ้ปู ่วยอย่างปลอดภัย (พ. 5.1 ม.1/1)

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถอธิบายวิธกี ารเคลอ่ื นย้ายผ้ปู ่วยไดอ้ ย่างถกู ต้อง (K)
2. นักเรยี นตระหนกั และเหน็ ความสำคญั เคลื่อนย้ายผูป้ ่วยอยา่ งถวู ธิ ี (A)
3. นกั เรียนทำการปฐมพยาบาลและเคล่อื นย้ายผ้ปู ว่ ยได้ (P)

4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการสรา้ งความรู้
2) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้
3) ทกั ษะการประเมิน
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 2. ตรงตอ่ เวลา
1.มีความรบั ผดิ ชอบ 4. มีจิตสาธารณะ
3. ใฝ่เรียนรู้

6. สาระการเรียนรู้
1. การเคลอื่ นย้ายผปู้ ว่ ย
- วธิ ีที่ 1 การเคลือ่ นยา้ ยโดยผชู้ ว่ ยเหลอื คนเดียว
- วธิ ีที่ 2 การเคล่อื นย้ายโดยใช้ผชู้ ่วยเหลอื 2 คน
- วิธที ่ี 3 การเคลื่อนยา้ ยโดยใช้ผูช้ ่วยเหลือ 3 คน
- วิธที ี่ 4 การเคลื่อนยา้ ยโดยใช้เปลหาม
- วธิ ที ่ี 5 การเคล่ือนยา้ ยโดยใช้เกา้ อี้

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น

1. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
2. ครทู บทวนความรู้เดมิ ที่นักเรยี นได้เรยี นในคาบทผ่ี ่านมา
3. ครูแจง้ ใหน้ ักเรียนทราบวา่ ครจู ะสาธติ วิธกี ารปฐมพยาบาลอย่างปลอดภัย ตามประเด็นท่กี ำหนด ดังนี้

- วิธีท่ี 1 การเคลอ่ื นยา้ ยโดยผชู้ ่วยเหลือคนเดยี ว
- วธิ ที ี่ 2 การเคลอ่ื นย้ายโดยใชผ้ ู้ชว่ ยเหลอื 2 คน
- วิธีที่ 3 การเคลือ่ นยา้ ยโดยใช้ผชู้ ่วยเหลือ 3 คน
- วธิ ีท่ี 4 การเคลื่อนย้ายโดยใชเ้ ปลหาม
- วธิ ที ่ี 5 การเคล่ือนยา้ ยโดยใชเ้ ก้าอี้
โดยครจู ัดเตรียมอปุ กรณใ์ นการปฐมพยาบาลให้พร้อม
ขนั้ ที่ 2 ขั้นสอน
1. ครใู หน้ กั เรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเขียนเลา่ ประสบการณเ์ ก่ยี วกับประสบการณ์ในการเคลือ่ นย้ายผู้ป่วย
2. ครูสุ่มนกั เรียนออกมาอ่านผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเขียนเลา่ ประสบการณ์เกี่ยวกับประสบการณ์ใน
เคลือ่ นยา้ ยผูป้ ่วยของตนเองให้เพอื่ นฟงั หน้าชน้ั เรียน
3. ครใู ห้ความรเู้ กีย่ วกบั ความหมาย ความสำคญั และหลกั สำคญั ในเคลื่อนย้ายผู้ป่วยให้นักเรยี นฟัง โดยใช้
ภาพหรอื อุปกรณ์ของจรงิ ประกอบ แลว้ เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสอบถามในประเด็นทีส่ งสัยและสนใจเพ่ิมเตมิ
4. ครูสมุ่ นกั เรียนออกมาสาธติ การปฐมพยาบาลวธิ ตี ่างๆ โดยท่ีครยู ังไม่ได้สาธติ ให้นักเรยี นดู
5. ครสู าธิตวิธกี ารปฐมพยาบาลในรูปแบบต่างๆ และใหน้ ักเรียนสาธิตให้ครดู เู ปน็ รายบคุ คล พร้อมกับเก็บ
คะแนน
ขน้ั ที่ 3 ขัน้ สรุป
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปวธิ ีการเคลอ่ื นยา้ ยผู้ป่วยอย่างปลอดภัย
2. นกั เรียนร่วมกนั บอกประโยชน์ท่ไี ด้รับจากการเคลื่อนย้ายผปู้ ่วยอยา่ งปลอดภยั

8. การวดั และประเมินผล

วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมิจากการสาธติ วิธกี าร - แบบประเมินการสาธติ วิธกี าร
เคลอ่ื นย้ายผู้ปว่ ยของนกั เรยี น เคลอ่ื นยา้ ยผ้ปู ว่ ย ตามดุลพนิ จิ ของครูผสู้ อน

สังเกตความรับผดิ ชอบ ตรงต่อ -
เวลา และใฝ่เรยี นรู้

9. สอื่ การเรยี นรู้
9.1 หนงั สอื เรยี น สขุ ศึกษา ม.1
9.2 กรณตี ัวอย่าง
9.3 เกา้ อ/ี้ เปล



แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 4

ความรู้ท่ัวไป ประเภทของสารเสพตดิ ลกั ษณะและ อาการของผู้ตดิ สารเสพตดิ

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 การปฐมพยาบาล และการเคลือ่ นย้ายผู้ป่วยอย่างปลอดภัย เวลา 3 ชั่วโมง

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 ผ้สู อน นายชาฟีอี กะมิง

1. สาระสำคัญ
สารเสพติดเปน็ สารเคมีหรือวัตถชุ นิดตา่ งๆ ท่ีเสพเข้าสรู่ า่ งกาย แล้วออกฤทธติ์ ่อรา่ งกายและจติ ประสาท

ทำใหผ้ ู้เสพแสดงลักษณะอาการและความประพฤตทิ เ่ี ปลย่ี นไปจากเดมิ

2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวดั

- อธิบายลักษณะอาการของผู้ตดิ สารเสพตดิ และการป้องกันการตดิ สารเสพตดิ (พ. 5.1 ม.1/2)

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายและผลรา้ ยของสารเสพติดได้ (K)
2. จำแนกประเภทของสารเสพติดได้ (K)
3. นักเรยี นอธบิ ายและบ่งชถี้ ึงลกั ษณะและอาการของผตู้ ดิ สารเสพตดิ ได้ (P)

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสมารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการระบุ
2) ทกั ษะการประเมิน
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ตรงต่อเวลา
1.มีความรับผดิ ชอบ 4. มีจติ สาธารณะ
3. ใฝเ่ รียนรู้

6. สาระการเรียนรู้
1) ลกั ษณะของผู้ติดสารเสพติด 2) อาการของผตู้ ิดสารเสพติด
3) การป้องกันการตดิ สารเสพติด

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขั้นที่ 1 ข้นั นำเข้าสู่บทเรียน

1. ครูนำเสนอขา่ วเก่ยี วกบั ปัญหาต่างๆ ทเ่ี กิดขน้ึ ในสงั คม ที่มสี าเหตุมาจากยาเสพติด และรว่ มกันวิเคราะห์
ข่าวร่วมกับกับนักเรยี น จากนั้นใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ จากขา่ วดังกล่าว

2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันพดู คยุ เกย่ี วกับอันตรายจากสารเสพติด แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกันยกกรณตี ัวอยา่ งที่
เกดิ ข้ึนในสงั คมที่ปรากฏเปน็ ข่าว หรือส่ืออน่ื ๆ

ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ สอน
1. ครูให้นักเรียนแบง่ กลุ่มๆ ละ เท่าๆ กัน ตามความสมัครใจ จากนนั้ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศึกษาและ

สืบค้นความรู้เกี่ยวกับสารเสพตดิ โดยครูกำหนดประเด็นในการศึกษาและสืบคน้ ความรู้ ดังนี้
1) กลุ่มที่ 1 ความรู้ท่วั ไปเกี่ยวกบั สารเสพติด
2) กล่มุ ท่ี 2 ประเภทของสารเสพติด
3) กลมุ่ ท่ี 3 ลกั ษณะและอาการของผู้ตดิ สารเสพติด

2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั วางแผนการศกึ ษาและสบื คน้ ความรู้เกย่ี วกับสารเสพติด จากหนังสือ
เรียน ห้องสมดุ และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นที่ครูกำหนด ดังนี้

1) กลุ่มที่ 1 ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกบั สารเสพติด
2) กล่มุ ท่ี 2 ประเภทของสารเสพติด
3) กลมุ่ ที่ 3 ลักษณะและอาการของผู้ตดิ สารเสพติด
3. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนอออกมาหนา้ ชนั้ เรยี นเพอื่ นำเสนอผลการศึกษาและสบื ค้นความรู้
เกี่ยวกับสารเสพตดิ จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ ตามประเด็นที่ครกู ำหนด จนครบทกุ กลุม่
4. ครคู อยให้คำแนะนำหรือช้ีแนะในประเด็นต่างๆ ท่ยี งั ไม่สมบรู ณ์
5. ครใู ห้นักเรียนทำใบงานท่ี 3 ผลกระทบของสารเสพติดในดา้ นตา่ งๆ ท้งั ด้านรา่ งกาย จิตใจ สังคม และ
สติปัญญา
ขั้นที่ 3 ขน้ั สรุป
1. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
- นกั เรยี นสามารถสังเกตลักษณะของผูต้ ดิ สารเสพติดได้อย่างไร
(สังเกตไดจ้ ากลักษณะอาการตา่ งๆ เช่น หาว มนี ำ้ ตานำ้ มูกไหล คลุ้มคล่งั ขาดสติ)
2. นกั เรียนและรว่ มกนั สรปุ ความรูเ้ ก่ียวกับความหมายและผลร้ายของสารเสพติด ประเภทของสารเสพตดิ
ลักษณะและอาการของผูต้ ิดสารเสพติด

8. การวดั และประเมนิ ผล

วิธีการวดั และประเมินผล เครอื่ งมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
ตามดุลพนิ ิจของครูผู้สอน
สงั เกตความรบั ผิดชอบ ตรงต่อ -
เวลา และใฝ่เรยี นรู้ ตามดลุ พินจิ ของครูผูส้ อน
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม -

ตรวจใบงานท่ี 3 ใบงานท่ี 3

9. ส่ือการเรยี นรู้
9.1 หนังสือเรยี น สขุ ศกึ ษา ม.1
9.2 กรณีตัวอย่าง
9.3 ใบงานที่ 3 ผลกระทบของสารเสพติดในด้านต่างๆ



แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 5

ความสมั พนั ธ์ของการใชส้ ารเสพตดิ กบั การเกิดโรค และอบุ ัติเหตุ

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 การปฐมพยาบาล และการเคลอ่ื นย้ายผปู้ ่วยอยา่ งปลอดภัย เวลา 2 ช่ัวโมง

ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ผูส้ อน นายชาฟอี ี กะมิง

1. สาระสำคัญ
การใชส้ ารเสพตดิ นอกจากเป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้เกิดโรคต่างๆ แลว้ ยงั เป็นสาเหตใุ ห้เกิดอุบตั เิ หตุได้

2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั
- อธิบายความสมั พันธ์ของการใช้สารเสพตดิ กบั การเกิดโรคและอบุ ตั ิเหตุ (พ. 5.1 ม.1/3)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถอธิบายความสมั พันธ์ของการใช้สารเสพตดิ กบั การเกดิ โรคได้ (K)
2. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพนั ธ์ของการใช้สารเสพตดิ กับการเกิดอบุ ตั เิ หตุได้ (K)
3. นกั เรียนปฏิบัตติ นเพ่ือปอ้ งกนั ตนเองจากการเกดิ โรคและอุบัตเิ หตทุ ่ีมีผลมาจากสารเสพติด (P)

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสมารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการเชอื่ มโยง
2) ทกั ษะการประเมิน
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1.มคี วามรับผิดชอบ
2. ตรงต่อเวลา
3. ใฝเ่ รียนรู้
4. มีจิตสาธารณะ

6. สาระการเรยี นรู้
1) ความสมั พันธ์ของการใช้สารเสพติดกับการเกิดโรคและอุบตั เิ หตุ

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 ข้ันนำเข้าสูบ่ ทเรียน

1. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
- นกั เรยี นคดิ วา่ สาเหตุของการเกิดอุบัตเิ หตมุ ีอะไรบ้าง และมีวธิ ีในการป้องกันอยา่ งไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ใน ดุลยพินิจของครูผูส้ อน)

2. ครูสนทนากับนักเรยี นเกี่ยวกับสาเหตุของการเกดิ อบุ ัติเหตใุ นช่วงเทศกาลตา่ งๆ และการจดั กิจกรรมใน
สังคมท่ีมเี ปา้ หมายหรือจุดประสงคเ์ พ่ือลดการเกิดอบุ ตั ิเหตุจากสาเหตดุ งั กลา่ ว

3. นักเรยี นช่วยกนั ยกตัวอยา่ งสาเหตุของการเกดิ อุบตั เิ หตุ ผลกระทบทเี่ กิดขน้ึ และแนวทางในการป้องกนั การ
เกิดอบุ ัติเหตุ

ขั้นท่ี 2 ข้ันสอน
1. ครูอธิบายเชื่อมโยงใหน้ ักเรียนเข้าใจถึงสาเหตุสำคญั ของการเกิดอุบตั ิเหตุ
2. ครูต้งั ประเด็นคำถามเพ่ือให้นกั เรยี นแตล่ ะคนร่วมกนั หาแนวทางในการตอบคำถาม โดยอธบิ ายความรู้

รว่ มกนั และซักถามจนเกิดความรู้ความเขา้ ใจทีถ่ ูกต้อง แล้วสรุปเปน็ แนวคำตอบของตนเอง เช่น
- เพราะเหตใุ ด ผู้ที่ตดิ สารเสพติดจงึ มีอาการเจ็บปว่ ยได้งา่ ยกว่าคนปกติ
- ควันบุหรีม่ ือสองคืออะไร และมีอันตรายอย่างไร
- เพราะเหตใุ ด จงึ หา้ มไมใ่ หผ้ ู้ท่ดี ื่มเครื่องด่มื ทม่ี ีแอลกอฮอล์ขบั ข่ียานพาหนะ

3. ครแู บง่ นกั เรียนออกเปน็ 4 กลุ่มๆ ละเทา่ ๆ กัน ครูให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ช่วยกันออกแบบป้ายรณรงค์
เกีย่ วกับการป้องกนั โรคและอุบตั เิ หตทุ ีม่ ผี ลมาจากสารเสพติด มาให้สวยงามตามรปู แบบของนกั เรยี นเอง

4. ครูใหน้ ักเรียนทำใบงานท่ี 4 โรคที่เกิดจากการสูบบุหร่ี ซึ่งอยู่นอกเหนอื จากประเดน็ ในการจดั การเรยี นการ
สอน
ขั้นที่ 3 ขน้ั สรุป

1. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
- นกั เรยี นสามารถสังเกตลกั ษณะของผตู้ ดิ สารเสพติดได้อยา่ งไร

(สังเกตได้จากลักษณะอาการตา่ งๆ เชน่ หาว มนี ้ำตาน้ำมูกไหล คลุ้มคลงั่ ขาดสติ)
2. ครูและนกั เรียนทุกคนรว่ มกันสรปุ ความสมั พันธ์ของการใช้สารเสพติดกับการเกดิ โรคและอุบตั เิ หตุ

8. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื วัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล
ตามดลุ พินิจของครูผสู้ อน
สังเกตความรบั ผดิ ชอบ ตรงต่อ -
เวลา และใฝ่เรียนรู้ ตามดุลพินิจของครูผู้สอน
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจป้ายรณรงค์ ปา้ ยรณรงค์

ตรวจใบงานที่ 4 ใบงานท่ี 4

9. สอื่ การเรยี นรู้
9.1 หนังสอื เรียน สุขศกึ ษา ม.1
9.2 กรณตี ัวอยา่ ง
9.3 ใบงานที่ 4 โรคทเ่ี กิดจากการสบู บหุ ร่ี



แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 6 เวลา 2 ช่ัวโมง
ผสู้ อน นายชาฟอี ี กะมิง
การปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาสารเสพติด
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 การปอ้ งกันภยั จากสารเสพตดิ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2

1. สาระสำคัญ
สารเสพติดมอี ันตรายต่อสุขภาพ และสร้างปญั หาที่ส่งผลกระทบท้ังต่อตนเองและผอู้ น่ื จงึ ควรหาแนวทางในการป้องกัน

และแกไ้ ขการติดสารเสพติด

2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด
- อธบิ ายลักษณะอาการของผู้ติดสารเสพติดและการป้องกันการติดสารเสพติด (พ. 5.1 ม.1/2)

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นกั เรียนสามารถอธิบายแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติดได้ (K)
2. นกั เรียนตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของการป้องกนั และแก้ไขปญั หาสารเสพตดิ (A)
3. นักเรียนปฏิบัตติ นในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาสารเสพติด (P)

4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
4.1 ความสมารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการประเมิน
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.มีความรบั ผิดชอบ
2. ตรงตอ่ เวลา
3. ใฝเ่ รียนรู้
4. มีจติ สาธารณะ

6. สาระการเรียนรู้

1) การป้องกันการตดิ สารเสพตดิ

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ข้นั ที่ 1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น

1. ครนู ำวซี ดี ีการแสดงคอนเสิรต์ โครงการ TO BE NUMBER ONE เปดิ ให้นักเรยี นดู จากน้ันครูถามนักเรียน
วา่ รูจ้ กั โครงการนห้ี รือไม่ และโครงการน้ีมีจุดประสงคอ์ ยา่ งไร

2. นกั เรยี นที่มีประสบการณ์ในการรว่ มโครงการ TO BE NUMBER ONE ออกมาเลา่ ประสบการณ์ให้เพื่อน
ฟงั

3. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เติมให้นักเรียนเข้าใจวา่ โครงการ TO BE NUMBER ONE เปน็ โครงการรณรงคป์ ้องกันและ
แก้ไข ปัญหายาเสพติด โดยทูลกระหม่อมหญงิ อบุ ลรัตนราชสิริวัฒนาพรรณวดีเปน็ องค์ประธาน
ข้นั ท่ี 2 ขนั้ สอน

1. นักเรียนและครูร่วมกนั สนทนาและยกตัวอยา่ งแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการติดสารเสพติด
2. ครูให้นกั เรียนรวมกลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน ตามความสมัครใจ จากน้นั ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาความรู้เรือ่ ง การ
ป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติด จากหนังสือเรียน ห้องสมดุ และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ
3. สมาชกิ ในแต่ละกลมุ่ ผลดั กันอธิบายความร้ตู ามประเดน็ ที่ไดศ้ ึกษา และถาม-ตอบข้อสงสัยจนเกิดความรู้
ความเขา้ ใจ จากนั้นใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มสรุปความรู้เรอ่ื ง การปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาสารเสพตดิ
4. ครูให้นักเรยี นทำใบงานที่ 5 การป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ
ข้นั ท่ี 3 ข้ันสรุป
1. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด

- ถ้านกั เรียนมปี ัญหา นักเรียนควรปรกึ ษาใครมากทส่ี ุด เพราะเหตใุ ด
(สังเกตไดจ้ ากลักษณะอาการต่างๆ เชน่ หาว มีน้ำตาน้ำมูกไหล คลมุ้ คล่ัง ขาดสติ)
2. ครแู ละนกั เรยี นทกุ คนรว่ มกนั สรุปเกีย่ วกับแนวทาง หรือวิธกี ารปอ้ งกันการติดสารเสพติดท่นี กั เรียน
สามารถปฏบิ ตั ิได้ และแนะนำแนวทางให้นกั เรียนเพ่ือให้นักเรยี นได้หา่ งไกลจากการติดสารเสพติด
3. ครชู ี้แจงกจิ กรรมในคาบต่อไปและใหน้ ักเรยี นเตรียมอปุ กรณ์ในการทำกิจกรรม โดยใหน้ กั เรยี นทำป้าย
นเิ ทศน์เกีย่ วกับการรณรงคก์ ารใชส้ ารเสพตดิ

8. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

สังเกตความรับผดิ ชอบ ตรงต่อ - ตามดลุ พินจิ ของครูผสู้ อน
เวลา และใฝ่เรียนรู้

ตรวจใบงานท่ี 5 ใบงานที่ 5 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

9. สื่อการเรยี นรู้
9.1 หนังสอื เรยี น สุขศึกษา ม.1
9.2 กรณีตัวอยา่ ง
9.3 ใบงานท่ี 5 การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพตดิ
9.4 วซี ดี กี ารแสดงคอนเสริ ต์ โครงการ TO BE NUMBER ONE



แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7

ทักษะในการชกั ชวนผู้อนื่ ใหล้ ด ละ เลิก สารเสพตดิ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 9 การปอ้ งกนั ภัยจากสารเสพตดิ เวลา 2 ชั่วโมง

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 ผู้สอน นายชาฟอี ี กะมิง

1. สาระสำคญั
การใช้ทักษะในการชักชวนให้ผู้อื่นลด ละ เลิก สารเสพติด ต้องเกิดจากความรู้ความเข้าใจ และการฝึกการใช้ทักษะต่างๆ

จงึ จะสามารถชว่ ยเหลอื ผู้อ่นื ได้

2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
- อธบิ ายลกั ษณะอาการของผู้ตดิ สารเสพติดและการป้องกันการติดสารเสพตดิ (พ. 5.1 ม.1/2)
- แสดงวธิ ีการชกั ชวนผูอ้ น่ื ให้ลด ละ เลกิ สารเสพติดโดยใช้ทกั ษะตา่ งๆ (พ. 5.1 ม.1/4)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นักเรียนอธบิ ายวิธใี ช้ทกั ษะในการชักชวนผอู้ ืน่ ให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ ได้ (K)
2. นักเรียนเหน็ ความสำคญั ของการใช้ทกั ษะในการชักชวนผ้อู น่ื ให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด (A)
3. นักเรยี นมีวธิ ใี ช้ทักษะในการชกั ชวนผู้อื่นให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ (P)

4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสมารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการระบุ
2) ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้
4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ตรงต่อเวลา
1.มคี วามรับผิดชอบ 4. มจี ิตสาธารณะ
3. ใฝเ่ รยี นรู้

6. สาระการเรียนรู้

1) การป้องกนั การตดิ สารเสพตดิ

2) ทักษะทีใ่ ชใ้ นการชกั ชวนผู้อืน่ ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด

- ทักษะการคิดวเิ คราะห์ - ทกั ษะการส่อื สาร

- ทักษะการตัดสินใจ - ทกั ษะการแกป้ ญั หา

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้

ขน้ั ที่ 1 ขน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรยี น

1. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด

- เมื่อถูกชักชวนให้ลองดืม่ สุรา หรอื เคร่ืองด่ืมที่มีแอลกอฮอล์ นักเรยี นต้องทำอย่างไร

(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ใน ดลุ ยพินิจของครูผู้สอน)

2. ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพขา่ วผูท้ ่ีก่ออาชญากรรมเพราะติดสารเสพตดิ และร่วมกนั อภิปราย

เร่อื งจากภาพ

ขั้นที่ 2 ขน้ั สอน

1. ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกนั ยกตัวอย่างสาเหตขุ องการติดสารเสพตดิ แล้วใหช้ ่วยกนั บอกแนวทางในการแก้ไข

ปัญหาการติดสารเสพตดิ นั้นๆ อย่างครา่ วๆ และครูคอยอธิบายหรอื แนะนำเพิ่มเตมิ

2. ครอู ธิบายให้นกั เรยี นฟงั เก่ียวกบั ทกั ษะในการชกั ชวนผอู้ ื่น ให้ลด ละ เลิก สารเสพติด

3. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละคนคดิ กรณีตัวอย่างในการป้องกนั หรอื การใช้ทักษะในการชักชวนผอู้ นื่ ให้ลด ละ เลกิ

สารเสพตดิ จากนั้นครูสุม่ ตัวแทนนกั เรยี นให้ออกมาแสดงบทบาทสมมุติหนา้ ช้ันเรียนทีละคน จากเร่ืองที่ครูกำหนดให้

4. ครใู ห้นักเรียนลงมือทำปา้ ยนเิ ทศเก่ยี วกับการรณรงคก์ ารป้องกันการใช้สารเสพติด ซ่ึงใหน้ ักเรยี นออกแบบ

เองได้อย่างอสิ ระ โดยครูคอยให้คำแนะนำเพิ่มเตมิ

ขน้ั ที่ 3 ข้ันสรุป

1. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

- นักเรียนมที กั ษะอยา่ งไร ในการชักชวนผอู้ ่นื ใหล้ ด ละ เลิก สารเสพตดิ

(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ น ดุลยพนิ ิจของครผู ูส้ อน)

2. ครแู ละนกั เรยี นนักเรยี นร่วมกันสรปุ แนวทางในการใชท้ ักษะในการชกั ชวนผูอ้ ืน่ ใหล้ ด ละ เลิก สารเสพตดิ

8. การวดั และประเมินผล

วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล
ตามดุลพินจิ ของครูผูส้ อน
สงั เกตความรับผดิ ชอบ ตรงต่อ -
เวลา และใฝเ่ รียนรู้ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจป้ายนิเทศน์ ป้ายนเิ ทศน์

9. สอ่ื การเรยี นรู้
9.1 หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษา ม.1
9.2 กรณีตัวอย่าง
9.3 อุปกรณ์ในการทำปา้ ยนเิ ทศ เชน่ กระดาษ ปากกา สี ไมบ้ รรทดั กาว กรรไกร เป็นต้น

แบบบันทกึ หลงั การสอน
ผลการจดั การเรยี นการสอน/ปญั หา/ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................. ............................................................
.........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ............................................................
....................................................................................................................................................... ..................................
................................................................................................. ........................................................................................

ลงชอ่ื ...................................................
(นายชาฟอี ี กะมิง)
ครูผู้สอน

ความเห็นหัวหน้าฝ่ายบริหารวชิ าการ
................................................................................................................................. ........................................................
.........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ............................................................

ลงชอื่ ...................................................
(นายมูฮัมหมดั อิดรสี เจะ๊ บาการ)์
หวั หน้าฝา่ ยบริหารวชิ าการ

ความเหน็ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
............................................................................................................... ..........................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ............................................................
.........................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ...................................................
(นายธนกฤต นลิ ราช)

ผู้อำนวยการโรงเรียนประตโู พธว์ิ ิทยา