รายวิชา โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
กิจกรรมที่ 1.1 การศกึ ษาคล่นื ไหวสะเทอื นที่ผา่ นโครงสรา้ งโลก
จุดประสงคก์ จิ กรรม
แปลความหมายและอธิบายข้อมูลการเคล่ือนท่ีของคลื่นไหวสะเทือนตามระดับ ความลึกของ
โครงสร้างโลกจากกราฟท่ีกำหนดให้
วิธีการทำกิจกรรม
- ศึกษาวิธีการทำกจิ กรรมในหนังสอื เรียนวิชาวิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ หน้าท่ี 101
รูป 1 กราฟแสดงความสมั พันธ์ระหวา่ งความเรว็ ของคลน่ื ไหวสะเทือนกบั ระดบั ความลึกของโลก
รูป 2 ภาพขยายกราฟแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างความเร็วของคลื่นไหวสะเทอื น
กับระดับความลกึ ช่วง 0-660 จากผวิ โลก
รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
ตารางบันทึกผล การเปล่ยี นแปลงความเร็วของ สถานะของ
ตัวกลาง
ระดับความลึก คลื่น P คลื่น S
(กโิ ลเมตร)
0 - 100
100 – 660
660 – 2,900
2,900 – 5,150
5,150 – 6,370
คำถามท้ายกจิ กรรม
1.จากกจิ กรรม กราฟท่ีกำหนดให้แสดงขอ้ มูลเร่ืองใดบา้ ง
...........................................................................................................................................................
2.ข้อมูลในกราฟมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ความลึกท่ีเพิ่มขึ้นทำให้ความเร็วของคลื่นไหวสะเทือน
เปล่ยี นแปลงอย่างไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
3.โครงสรา้ งโลกแตล่ ะระดบั ความลึกมีสถานะเหมือนหรือแตกตา่ งกันอย่างไรทราบได้อยา่ งไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4
แบบฝกึ หัดทา้ ยบท
1. ใหน้ กั เรียนเตมิ ขอ้ มูลการแบง่ ช้นั โครงสร้างโลกลงในตารางใหถ้ ูกต้อง
ความลึก ชนั้ โครงสรา้ งโลก
(กิโลเมตร) แบ่งตามองค์ประกอบทางเคมี แบง่ ตามสมบัติเชงิ กล
0 – 70 เปลือกโลก ธรณภี าค
70 – 100
100 – 400
400 – 660
660 – 2,900
2,900 – 5,150
5,150 – 6,370
2. จงลากเสน้ เชอ่ื มโยงช่อื ชัน้ โครงสรา้ งโลกกบั ขอ้ ความดา้ นขวาท่มี คี วามสมั พันธ์กนั
(1) ธรณีภาค ก. เป็นของแข็ง อุณหภูมติ ่ำ ความหนาแนน่ น้อยทส่ี ดุ
หนาประมาณ 100 กิโลเมตร
(2) ฐานธรณีภาค ข. เปน็ ของแขง็ อณุ หภมู สิ งู ความหนาแน่นมาก
หนาประมาณ 2,240 กโิ ลเมตร
(3) มัชฌมิ ภาค ค. เป็นของแขง็ อุณหภมู ิสูงมาก ความหนาแน่นมากทสี่ ดุ
หนาประมาณ 1,230 กิโลเมตร
(4) แก่นโลกชัน้ นอก ง. เปน็ ของแข็งที่มีสมบตั เิ ปน็ พลาสตกิ อณุ หภมู สิ ูง
หนาประมาณ 600 กิโลเมตร
(5) แก่นโลกชั้นใน จ. เปน็ ของเหลว อุณหภูมิสงู มาก ความหนาแน่นมาก
หนาประมาณ 2,255 กิโลเมตร
รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
3. จงเติมชอื่ ชั้นโครงสรา้ งโลกใหส้ ัมพนั ธก์ ับสมบัติและองคป์ ระกอบของโครงสรา้ งโลก
ชนั้ โครงสร้างโลก องค์ประกอบทางเคมี ความหนาแน่นเฉลี่ย (g/cm3)
ประกอบด้วยแรท่ เ่ี ปน็ สารประกอบของ 4.5
ซลิ คิ อน แมกนีเซยี ม และเหลก็
ประกอบดว้ ยเหล็กเปน็ หลกั 13
ประกอบด้วยหินแกรนติ หรอื 2.8
หนิ บะซอลต์เป็นสว่ นใหญ่
4. จงทำเครอ่ื งหมาย () หนา้ ขอ้ ความทีถ่ กู และทำเครือ่ งหมาย () หน้าขอ้ ความที่ผิด
คำตอบ คำถาม
1. การศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของเนื้อโลกส่วนหน่ึงได้ตัวอย่างมาจากหินแปลกปลอม
ในระดบั ลกึ ท่ลี าวาพาขนึ้ มาบนผวิ โลก
2. ผล จ ากการศึ กษ าอุ กกาบ าตที่ ตกล งม ายั งโล ก เป็ น ห ลั กฐาน ห น่ึ งที่ ท ำให้
ทราบองค์ประกอบของแก่นโลก
3. ถ้าแบ่งโครงสร้างโลกตามองค์ประกอบทางเคมี แก่นโลก ประกอบด้วยเหล็ก
เป็นส่วนใหญ่
4. เปลือกโลกทวีป ประกอบด้วย หินบะซอลตเ์ ปน็ สว่ นมาก
5. เปลอื กโลกทวปี มคี วามหนาแนน่ มากกวา่ เปลอื กโลกมหาสมทุ ร
6. แหล่งกำเนิดคล่ืนไหวสะเทือนมีทั้งที่มาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติและจากการกระทำ
ของมนษุ ย์
7. คล่ืนปฐมภมู ิมีความเร็วเพ่มิ ขึ้นเมือ่ เคลอ่ื นที่ผ่านธรณีภาคและมชั ฌิมภาค และมีความเร็ว
เปน็ ศูนย์เม่อื เคล่อื นทีผ่ ่านแก่นโลกชัน้ นอก
8. คล่นื ทุตยิ ภมู ิไมส่ ามารถเคล่ือนทีผ่ า่ นโครงสรา้ งโลกทม่ี ีสถานะเปน็ ของเหลวได้
9. คลืน่ ปฐมภมู มิ ีความเร็วนอ้ ยกวา่ คลื่นทตุ ยิ ภมู ิ เมอื่ คลนื่ ทงั้ สองเคลอ่ื นทผี่ า่ นฐานธรณภี าค
10. เขตความเรว็ ต่ำอยใู่ นธรณภี าค และเขตเปลี่ยนแปลงอยใู่ นฐานธรณีภาค
5. จงตอบคำถามต่อไปน้ี
5.1 หากผลการวิเคราะหอ์ งค์ประกอบทางเคมขี องหินก้อนหน่งึ พบว่าเป็นหินแกรนิต หนิ กอ้ นนี้มีกำเนดิ มา
จากสว่ นใดของโครงสร้างโลก
………………………………………………………………………………………………......
5.2 เนอ้ื โลกประกอบดว้ ยสสารในสถานะใด เป็นส่วนใหญ่
………………………………………………………………………………………………......
รายวิชา โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4
5.3 หลักฐานใดทน่ี ำมาใชย้ ืนยันว่า แก่นโลกชน้ั นอกเปน็ ของเหลว
………………………………………………………………………………………………......
………………………………………………………………………………………………......
5.4 เพราะเหตใุ ดผลการศกึ ษาอกุ กาบาตเหล็กจึงใชเ้ ป็นขอ้ มลู อธิบายองค์ประกอบของแก่นโลกได้
………………………………………………………………………………………………......
………………………………………………………………………………………………......
………………………………………………………………………………………………......
5.5 นอกจากผลการศึกษาอุกกาบาตเหล็กแล้ว ข้อมูลใดชว่ ยสนับสนนุ ว่าแกน่ โลก ประกอบด้วยเหลก็ เป็น
ส่วนมาก
………………………………………………………………………………………………......
………………………………………………………………………………………………......
5.6 เพราะเหตุใดคล่ืนไหวสะเทือนจึงเกิดการสะท้อนและหักเหเมือ่ เคลื่อนท่ผี า่ นโครงสร้างโลก
………………………………………………………………………………………………......
………………………………………………………………………………………………......
5.7 จากแนวการเคล่ือนทข่ี องคลื่นปฐมภูมผิ ่านโครงสรา้ งภายในโลกดงั รปู (ก) และ (ข) แสดงวา่ ลักษณะ
โครงสร้างภายในโลกสองรูปน้ีเหมือนหรือแตกต่างกนั อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………......
………………………………………………………………………………………………......
………………………………………………………………………………………………......
5.8 ลาวาท่ีปะทุข้ึนมาบนผิวโลกมแี หล่งกำเนิดมาจากช้นั ใดของโครงสร้างโลก
………………………………………………………………………………………………......
………………………………………………………………………………………………......
5.9 เขตความเร็วต่ำ มสี มบัตแิ ตกต่างจากธรณีภาคอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………......
………………………………………………………………………………………………......
5.10 คลื่นทุติยภูมิท่ีเกิดขึ้นใหม่เม่ือคลื่นปฐมภูมิเคลื่อนท่ีผ่านแก่นโลกช้ันนอกเข้าไปยังแก่นโลกช้ันใน
สามารถเดินทางออกมาท่ีผิวโลกไดห้ รอื ไม่ เพราะเหตุใด
………………………………………………………………………………………………......
……………………………………………………………………………………………….....
รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
กิจกรรม 2.1 การสำรวจหลกั ฐานสนับสนนุ วา่ ทวปี เคยอยู่ติดกันมากอ่ น
จุดประสงคก์ ิจกรรม
อธบิ ายและสร้างแบบจำลองหลกั ฐานทส่ี นบั สนุนแนวคิดวา่ ทวีปเคยอยตู่ ดิ กันมาก่อน
วัสดุ-อุปกรณ์
1. หลักฐานจากซากดกึ ดำบรรพ์
2. หลักฐานจากกลมุ่ หนิ และแนวเทอื กเขา
3. หลกั ฐานจากการเคล่ือนท่ีของธารน้ำแขง็ บรรพกาล
4. รูปแผ่นทวปี ต่าง ๆ
สถานการณ์
"ถ้านักเรียนตอ้ งการนำเสนอแนวคิดเรือ่ ง "ในอดีตทวปี ท้ังหมดเคยเป็นแผน่ ดินเดยี วกันมาก่อน
โดยใช้หลกั ฐานจากซากดึกดำบรรพ์ กลุ่มหินและแนวเทือกเขา และการเคลอ่ื นท่ีของธารน้ำแขง็ บรรพกาล
ทพี่ บจากในทวีปต่าง ๆ ทัว่ โลก" นักเรียนจะมวี ิธีการวิเคราะห์ข้อมลู และนำเสนอให้คนทวั่ ไปยอมรับ
แนวคิดดังกลา่ วไดอ้ ย่างไร
วิธีการทำกิจกรรม
- ศึกษากิจกรรมในหนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ หน้าที่ 116
รายวิชา โลก ดาราศาสตร์และอ
ตารางบันทึกผล
หลกั ฐานท่ีใชส้ นับสนนุ ยโุ รป เอเชยี อินเ
มโี ซซอรสั
ซากดึกดำบรรพ์ ไซโนเนทสั
ลิสโทซอรสั
กลอสโซพเทรสิ
แนวเทือกเขา แอปพาเลเชยี น
คาเลโดเนยี น
ธารน้ำแขง็ พบ/ไม่พบ
บรรพกาล
คำถามทา้ ยกิจกรรม
1. จากกิจกรรมมีทวปี ใดบ้างที่เคยอยูต่ ดิ กันมาก่อน
………………………………………………………………………
2. มีหลกั ฐานใดบา้ งที่นำมาใชส้ นบั สนนุ วา่ ทวีปเคยอยู่ตดิ กันมาก่อน
………………………………………………………………………
3. หลกั ฐานใดบา้ งท่ีสามารถนำมาใช้ระบชุ ่วงเวลาทที่ วปี ตา่ ง ๆ เคยอยตู่ ดิ กันมาก
…………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
วกาศ (ว 30104) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
ทวีป/ประเทศ
เดีย อเมรกิ าเหนอื อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย แอฟริกา แอนตารก์ ตกิ า
……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
ก่อน และหลกั ฐานดังกล่าวนำมาใชอ้ ธิบายไดว้ ่าอยา่ งไร
…………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ์ ละอ
หลกั ฐานสนบั สนุนการเคล่ือนต
วกาศ (ว 30104) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4
ตวั ของแผ่นธรณี (Plate Tectonics)
รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
แบบฝึกหัดท้ายบท
1. จงนำกลุ่มคำต่อไปนเี้ ตมิ ลงในตารางใหส้ มั พนั ธก์ บั ทฤษฎที กี่ ำหนดให้ (สามารถเตมิ คำตอบซ้ำกันได้)
ไซโนเนทสั การเคลอ่ื นทขี่ องธารน้ำแขง็ บรรพกาล อายหุ ินบนพืน้ มหาสมุทร
หบุ เขาทรดุ ความคล้ายคลงึ กนั ของกลมุ่ หนิ วงจรการพาความรอ้ น
ลอเรเซยี ภาวะแมเ่ หล็กบรรพกาล สันเขากลางสมุทร
มีโซซอรสั เขตมดุ ตัว แนวเทอื กเขาสงู
พันเจีย รอยเล่อื นขนาดใหญ่ หมเู่ กาะภูเขาไฟรปู โค้ง
ทฤษฏีทวปี เลื่อน ทฤษฏกี ารแผข่ ยายพน้ื สมทุ ร ทฤษฏแี ปรสนั ฐาน
2. จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
2.1 เพราะเหตใุ ด อัลเฟรด เวเกเนอร์จงึ เช่ือว่าทวปี ตา่ งๆ ในปัจจบุ นั เคยตดิ กันเปน็ แผน่ เดยี วมาก่อน
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
2.2 การคน้ พบสงิ่ ใดของ แฮร่ี เฮส ทีถ่ กู นำมาใชส้ นับสนนุ ทฤษฎกี ารแผข่ ยายพืน้ สมทุ ร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
2.3 ถ้ามีการค้นพบสันเขากลางสมุทรในมหาสมทุ รแหง่ หน่งึ ในเวลาตอ่ มามหาสมทุ รแห่งนัน้ จะกวา้ งข้ึน
หรือแคบลง เพราะเหตใุ ด
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
2.4 สันเขากลางมหาสมุทรแอตแลนตกิ เกดิ จากการเคลอ่ื นที่ของแผน่ ธรณรี ูปแบบใด
...........................................................................................................................................................
2.5 หมเู่ กาะภเู ขาไฟรูปโคง้ เกดิ จากการเคลอื่ นท่ขี องแผน่ ธรณรี ูปแบบใด
...........................................................................................................................................................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
3. จงทำเคร่ืองหมาย ✓ หนา้ ข้อความท่ีถูก และทำเครื่องหมาย หนา้ ขอ้ ความทผ่ี ดิ
คำตอบ ข้อความ
1. หินบะซอลต์ท่ีพบใกล้รอยแยกบริเวณเทือกสันเขาใต้สมุทรจะมีอายุอ่อนกว่าหินบะซอลต์
ท่ีอยู่ไกลจากรอยแยกออกไป
2. เมื่อแผน่ ธรณีมหาสมทุ รเกิดรอยแยกและเคลือ่ นท่อี อกจากกันอย่างช้าๆ จะมีเนอ้ื หินแกรนิต
จากสว่ นลา่ งแทรกดันขึน้ มาตรงรอยแยกเกดิ เปน็ ช้นั ธรณีภาคใหม่
3. วงจรการพาความรอ้ นเป็นกระบวนการท่ที ำใหเ้ กิดการเคลื่อนทีข่ องแผน่ ธรณี
4. อัลเฟรด เวเกเนอร์ เปน็ ผเู้ สนอทฤษฎกี ารแผข่ ยายพืน้ สมุทร
5. บริเวณทะเลแดงเกิดจากการเคล่อื นทีช่ นกันของแผน่ ธรณมี หาสมุทรกับแผน่ ธรณที วีป
6. เทือกเขาหิมาลัยเกิดจากการเคลื่อนที่ชนกันของแผ่นทวีปยูเรเซีย และแผ่นทวีปอินเดีย–
ออสเตรเลยี
7. ในอดีตประเทศไทยเคยเปน็ สว่ นหนึ่งของทวีปลอเรเซยี
8. รอ่ งลกึ ก้นสมุทรเกดิ ขึ้นบริเวณกลางมหาสมทุ รแอตแลนติก
9. รอยเล่อื นซานแอนเดรยี สเกิดจากการเคล่อื นทีเ่ ข้าหากนั ของแผน่ ทวปี
10. ภาวะแม่เหล็กโลกบรรพกาลของพนื้ มหาสมุทรเป็นหลักฐานยนื ยันการเคล่ือนทีอ่ อกจากกัน
ของแผน่ ทวปี
4. พจิ ารณารปู 1 และ 2 แล้วตอบคำถามดงั ต่อไปนี้
4.1 ธรณีสัณฐานที่ปรากฎใน (ก)-(ค) มีกระบวนการเกิดอย่างไร และมบี รเิ วณใดอกี บา้ งท่ีมลี ักษณะคล้าย
กบั ในรปู (ก)-(ค) จงยกตวั อย่าง
รูป ก ......................................................
................................................................
................................................................
................................................................
................................................................
รูป ข ......................................................
................................................................
................................................................
................................................................
................................................................
รปู ค ......................................................
................................................................
................................................................
................................................................
................................................................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4
4.2 จงจบั คู่รอยตอ่ A B และ C กบั รูป (ก) (ข) และ(ค) ทม่ี ีความสมั พันธก์ ัน โดยเขียนคำตอบลงในรปู
5. จากหลักฐานการแผ่ขยายของพื้นมหาสมุทรแอตแลนติกส่งผลอย่างไรต่อการเคลื่อนท่ีของทวีป
อเมริกาใต้และทวีปแอฟรกิ า
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
6. ลักษณะของทวปี ในปจั จบุ ันเหมอื นหรือต่างกับทวีปเมือ่ ประมาณ 200 ล้านปกี ่อนอยา่ งไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
7. แนวคิดทฤษฎีทวีปเลื่อน ทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทร และทฤษฎีการแปรสัณฐานของแผ่นธรณี
มีความเหมอื น และแตกตา่ งกันในเรอ่ื งใดบ้าง
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
8. เพราะเหตุใดเม่ือแผ่นธรณีมหาสมุทรและแผ่นธรณีทวีปเคลื่อนท่ีเข้าหากันแผ่นธรณีสมุทรจงึ มุดตัวลง
ขา้ งใต้แผ่นธรณที วีป ส่วนท่มี ุดตัวจะลงไปอยู่ทสี่ ว่ นใดของโครงสรา้ งโลก
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
รายวิชา โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4
9. จากรปู แสดงบริเวณที่ราบสูงทิเบต และแนวเทือกเขาหิมาลัย ซ่ึงเกิดจากการเคล่ือนที่เข้าหากันของ
แผ่นธรณีอินเดีย-ออสเตรเลียและแผ่นธรณียูเรเซีย หากแผ่นธรณีดังกล่าวเคล่ือนท่ีในทิศทางเดิมต่อไป
เรอ่ื ย ๆ นักเรยี นคดิ วา่ ลักษณะของธรณีสัณฐานบริเวณน้นั จะเป็นอย่างไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
10. นักเรียนคิดว่าการเกิดแผน่ ธรณีข้นึ มาใหม่จะมผี ลทำให้โลกมีขนาดใหญข่ นึ้ หรือไมเ่ พราะเหตใุ ด
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
11. จากรูปบริเวณใดบ้างท่ีแผ่นธรณีเกิดการต่อเติมและขยายตัวออก บริเวณใดบ้างเกิดการหลอมแผ่น
ธรณสี ่ภู ายใตโ้ ลก เพราะเหตใุ ด
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
กจิ กรรม 3.1 ความสมั พันธข์ องตำแหนง่ การเกดิ ภูเขาไฟบนแผ่นธรณี
จดุ ประสงคก์ ิจกรรม
1. วเิ คราะห์และระบุตำแหนง่ ภเู ขาไฟบนแผ่นธรณี
2. ระบุและอธิบายประเภทแนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณีท่ีสมั พนั ธก์ ับตำแหนง่ ภูเขาไฟ
3. จัดกลุม่ ตำแหน่งภูเขาไฟตามตำแหนง่ และประเภทแนวรอยตอ่ บนแผ่นธรณี
วัสดุ-อุปกรณ์
1. แผนท่ตี ำแหนง่ ภเู ขาไฟ
2. แผนท่ีแสดงประเภทแนวรอยต่อและลกั ษณะการเคล่อื นของแผ่นธรณี
วิธีการทำกิจกรรม
- ศึกษากิจกรรมในหนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ หนา้ ท่ี 143
ตารางบันทึกผล
ภูเขาไฟท่ีพบ ตำแหนง่ บนแผน่ ธรณี ประเภทแนวรอยต่อของแผน่ ธรณี
เคลื่อนท่ี เคลื่อนท่ีแยก เคล่ือนที่
หากัน ออกจากกนั ผ่านกนั
ภูเขาไฟกรากะตัว อยใู่ นแผน่ ธรณี รอยตอ่ ของแผน่
ประเทศอนิ โดนีเซีย .................................. ธรณี.........................
และ............................
ภูเขาไฟพินาตโู บ อยู่ในแผน่ ธรณี รอยตอ่ ของแผน่
ประเทศฟลิ ิปปนิ ส์ .................................. ธรณี.........................
และ............................
ภเู ขาไฟฟูจิ อยใู่ นแผน่ ธรณี รอยต่อของแผน่
ประเทศญ่ีปุน่ .................................. ธรณี.........................
และ............................
ภเู ขาไฟคารมิ สกี อยใู่ นแผน่ ธรณี รอยตอ่ ของแผ่น
ประเทศรสั เซยี .................................. ธรณี.........................
และ............................
ภเู ขาไฟพาฟลอฟ อยู่ในแผ่นธรณี รอยตอ่ ของแผ่น
ประเทศสหรฐั ฯ .................................. ธรณี.........................
และ............................
ภูเขาไฟเซนต์เฮเลน อยใู่ นแผน่ ธรณี รอยต่อของแผ่น
ประเทศสหรัฐฯ .................................. ธรณี.........................
และ............................
ภเู ขาไฟเยลโลวสโตน อยูใ่ นแผ่นธรณี รอยต่อของแผน่
ประเทศสหรัฐฯ .................................. ธรณี.........................
และ............................
ภูเขาไฟคลิ าเว อยใู่ นแผน่ ธรณี รอยตอ่ ของแผ่น
เกาะฮาวาย .................................. ธรณี.........................
ประเทศสหรัฐฯ และ............................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
ภเู ขาไฟโกลมิ า อยูใ่ นแผ่นธรณี รอยตอ่ ของแผน่
ประเทศเม็กซโิ ก .................................. ธรณี.........................
และ............................
ภูเขาไฟคัลบูโก อยใู่ นแผน่ ธรณี รอยตอ่ ของแผน่
ประเทศชิลี .................................. ธรณี.........................
และ............................
ภเู ขาไฟเฮกลา อยใู่ นแผน่ ธรณี รอยต่อของแผ่น
ธรณี.........................
ประเทศไอซ์แลนด์ .................................. และ............................
รอยตอ่ ของแผน่
ภเู ขาไฟเอตนา อยใู่ นแผ่นธรณี ธรณี.........................
ประเทศอติ าลี .................................. และ............................
รอยต่อของแผ่น
ภเู ขาไฟแคเมอรูน อยใู่ นแผ่นธรณี ธรณี.........................
ประเทศแคเมอรูน .................................. และ............................
รอยต่อของแผ่น
ภเู ขาไฟเออร์ตาอัลเล อยู่ในแผน่ ธรณี ธรณี.........................
ประเทศเอธิโอเปยี .................................. และ............................
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. บรเิ วณใดบา้ งของแผ่นธรณที ่ีพบภเู ขาไฟ
...........................................................................................................................................................
2. บริเวณใดทีพ่ บภูเขาไฟระเบิดหนาแน่น
...........................................................................................................................................................
3. บรเิ วณทพ่ี บภูเขาไฟระเบดิ หนาแน่นมีกระบวนการทางธรณีใดเกดิ ขน้ึ
...........................................................................................................................................................
4. ถา้ ลากเสน้ เชอื่ มตำแหน่งของภูเขาไฟบนแผนทีจ่ ะมลี ักษณะอย่างไร
...........................................................................................................................................................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
กิจกรรม 3.2 แนวทางการปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัยจากธรณีพบิ ัตภิ ัย
จดุ ประสงค์กจิ กรรม
นำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัยจากธรณีพิบัตภิ ยั
สถานการณท์ ่ี 1
"ถา้ นักเรยี นและครอบครวั เดินทางทอ่ งเทย่ี วไปประเทศที่มภี ูเขาไฟ และจำเป็นตอ้ งไปในพ้ืนทเ่ี ส่ียงภัย
ภเู ขาไฟระเบิด นักเรยี นจะมวี ธิ ีการเตรียมตัวอยา่ งไรเม่อื เจอเหตกุ ารณด์ งั กลา่ ว"
สถานการณท์ ี่ 2
"ถา้ เกดิ แผน่ ดินไหวขณะทน่ี ักเรียนกำลงั อยู่ในอาคารสงู และรู้สกึ ถึงความสั่นสะเทอื นโคมไฟบนเพดาน
เร่มิ แกว่งไปมา นักเรยี นจะปฏิบตั ติ นอยา่ งไรให้ปลอดภยั "
สถานการณท์ ่ี 3
"ถ้านักเรียนเป็นผู้นำชุมชนแห่งหนึ่งท่ีอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลที่เป็นพื้นที่เส่ียงภัยสึนามิ นักเรียนจะมี
การวางแผนรบั มอื เตอื นภัย และให้ความรเู้ กี่ยวกับแนวทางในการปฏิบตั ิตน ให้แก่ประชาชนในชุมชน
อยา่ งไรบา้ ง
วธิ กี ารทำกิจกรรม
1. นักเรยี นร่วมกันวเิ คราะหส์ ถานการณ์ท่ีกำหนด และอภปิ รายเกยี่ วกบั องคค์ วามร้ทู เ่ี ก่ยี วข้อง เชน่
- ธรรมชาติและกระบวนการเกดิ ของธรณพี ิบัติภัย
- ผลท่เี กิดจากธรณีพิบตั ภิ ัย
- กรณีศกึ ษาจากพ้นื ทเี่ สย่ี งภัย
2. สืบคน้ ข้อมูลองคค์ วามรตู้ ามประเดน็ ทไ่ี ด้จากขอ้ 1
3. ออกแบบและนำเสนอ ผลการสืบค้นขอ้ มลู ตามประเด็นในข้อ 1 ด้วยสื่อรูปแบบต่าง ๆ
รายวิชา โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
แบบฝกึ หัดท้ายบท
1. จงทำเครอื่ งหมาย ✓ หนา้ ข้อความทถ่ี ูก และทำเครื่องหมาย หน้าขอ้ ความท่ีผดิ
คำตอบ ขอ้ ความ
1. ภูเขาไฟบนหมู่เกาะฮาวายเกิดบริเวณแนวมุดตัวของแผน่ ธรณี
2. ไอน้ำเปน็ สว่ นประกอบหนึ่งทไี่ ด้จากการระเบิดของภเู ขาไฟ
3. แผ่นดินไหวปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปคล่ืนไหวสะเทือนที่จุดเหนือศูนย์เกิด
แผ่นดนิ ไหว
4. มาตราริกเตอรเ์ ปน็ มาตราท่วี ัดพลังงานของแผน่ ดินไหวที่ปล่อยออกมา
5. เม่อื เกิดแผน่ ดินไหว หากนกั เรียนอยูท่ ีใ่ นโล่งใหห้ ลบเข้าไปในอาคาร
6. สนึ ามิเปน็ คลน่ื ท่มี คี วามยาวคลน่ื มากเมื่อเคลอ่ื นทอ่ี ยใู่ นทะเลลกึ
7. สึนามิสามารถหาคาบอุบัติซ้ำได้จากการศึกษาจำนวนชั้นและอายุของตะกอนสึนามิใน
อดตี
8. ไม่ควรสรา้ งบา้ นเรอื นใกล้กับบรเิ วณท่เี คยมกี ารปะทขุ องภูเขาไฟที่ดบั สนทิ
9. เม่ือรู้สึกว่ามแี ผ่นดินไหว หรือพบว่าระดับน้ำทะเลลดลงผิดปกติ ใหร้ บี
หนขี ึ้นทส่ี ูง หรอื ออกหา่ งจากชายฝัง่ ให้มากท่สี ดุ
10. หากชาวประมงอยู่บนเรือหาปลาใกล้ชายฝ่ัง และได้รับสญั ญาณเตือนวา่ เกิดสึนามิขึ้น
ชาวประมงควรนำเรือออกไปกลางทะเลให้ไกลชายฝั่งมากท่ีสุด
2. จงตอบคำถามต่อไปนี้
2.1 ภูเขาไฟระเบิดเป็นสาเหตทุ ำใหเ้ กิดแผ่นดนิ ไหวได้ เพราะเหตุใด
………………………………………………………………………………………………
2.2 คลน่ื ไหวสะเทอื นในธรรมชาติเกดิ ขนึ้ ไดจ้ ากสาเหตใุ ดบ้าง
………………………………………………………………………………………………
2.3 การประเมินความรนุ แรงของแผน่ ดินไหวตามมาตราเมอร์คลั ลตี ้องอาศยั ขอ้ มลู ใดบ้าง
………………………………………………………………………………………………
2.4 โดยสว่ นมากสึนามจิ ะมีจดุ กำเนดิ ในบรเิ วณที่มีความสมั พันธ์กับแนวรอยต่อของแผน่ ธรณีแบบใด
………………………………………………………………………………………………
2.5 เพราะเหตใุ ดการเกดิ แผน่ ดนิ ไหวในทะเลในบางครัง้ ไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ สนึ ามิ
…………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….
รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4
กจิ กรรมท่ี 4.1 แบบจำลองการหมุนเวียนของอากาศ
จดุ ประสงคก์ จิ กรรม
นำเสนอแนวทางการเฝ้าระวังและปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภัยจากธรณีพบิ ตั ภิ ัย
วิธีการทำกจิ กรรม
- ศึกษาการทำกจิ กรรมในหนงั สือเรียนวิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ หน้าที่ 190
ผลการทำการทดลอง
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
คำถามท้ายกิจกรรม
1. เมื่อน้ำในขวดท้ังสองใบมีอณุ หภูมติ า่ งกัน ควันธปู มกี ารเคล่ือนทหี่ รอื ไม่ อยา่ งไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
2. เมอ่ื นำ้ ในขวดท้ังสองใบมอี ณุ หภมู เิ ทา่ กนั ควนั ธปู มกี ารเคลื่อนที่หรือไม่ อย่างไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
3. เมื่อน้ำในขวดทง้ั สองใบมีอุณหภมู ิต่างกัน ความกดอากาศในขวดเทา่ กันหรือไม่ อย่างไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
4. เมอ่ื น้ำในขวดทงั้ สองใบมีอุณหภูมเิ ท่ากัน ความกดอากาศในขวดตา่ งกันอย่างไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
5. การเคลอ่ื นทข่ี องควันธูประหว่างขวดทมี่ ีอณุ หภูมิแตกตา่ งกนั และระหว่างขวดทม่ี ีอุณหภมู ิเท่ากนั
เหมือนหรอื ตา่ งกันอย่างไร เพราะเหตุใด
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
แบบฝกึ หดั ท้ายบท
1. พจิ ารณาแผนภาพแสดงบริเวณเส้นความกดอากาศเท่า (isobar) ก และ ข เขตซีกโลกเหนอื และ
เส้นความกดอากาศเทา่ ค และ ง ซง่ึ อยใู่ นเขตซีกโลกใต้
หมายเหตุ เสน้ ความกดอากาศเทา่ คือ เส้นทลี่ ากผ่านบรเิ วณทม่ี ีความกดอากาศเทา่ กัน ณ บรเิ วณต่างๆ
พร้อมทงั้ มีการระบคุ ่าความกดอากาศของเสน้ นนั้ ๆ ในหน่วยเฮกโตปาสกาล (hPa)
ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศต่อไปนวี้ า่ ถูกหรือผดิ โดยวงกลม เลอื กพรอ้ มท้งั ให้
เหตผุ ลประกอบ
1.1 ถูก / ผิด เพราะ
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
1.2 ถกู / ผิด เพราะ
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
รายวิชา โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
1.3 ถูก / ผดิ เพราะ
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
1.4 ถกู / ผิด เพราะ
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
.................................................................
2. ให้นักเรียนเติมลักษณะภมู อิ ากาศและลมประจำเขตละติจดู ลงในช่องว่างใหส้ อดคล้องกบั การ
หมนุ เวียนของอากาศในแตล่ ะแถบละตจิ ดู
ก. ลมตะวนั ออก
ข. ลมตะวันตก
ค. ภมู อิ ากาศตั้งแต่แบบแหง้ แลง้ จนถึงภูมอิ ากาศแบบอบอนุ่
ง. ภูมิอากาศตัง้ แตแ่ บบรอ้ นช้นื จนถงึ ภูมอิ ากาศแบบแห้งแล้ง
จ. ภูมิอากาศตั้งแต่ภูมิอากาศอบอนุ่ จนถงึ ภูมอิ ากาศหนาว
3. ปัจจยั หลกั ทที่ ำใหน้ ำ้ ผิวหนา้ มหาสมทุ รเกิดการไหลเวียนคอื อะไร
...........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
4. บริเวณทมี่ ีกระแสนำ้ อนุ่ ไหลผา่ น จะมลี มฟ้าอากาศเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
6. ใชแ้ ผนท่โี ลกทก่ี ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ ประกอบการตอบคำถามตอ่ ไปนี้
6.1 กระแสนำ้ ผิวหน้าบริเวณท่ี 1 มีทิศการไหลอย่างไร เพราะเหตใุ ด
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
6.2 กระแสนำ้ A และกระแสนำ้ B กระแสนำ้ ใดเป็นกระแสน้ำอ่นุ และกระแสน้ำใดเปน็ กระแสนำ้ เย็น
เพราะเหตใุ ด
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
กจิ กรรมท่ี 5.1 สญั ลกั ษณแ์ สดงสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้าง
จุดประสงคก์ ิจกรรม
- แปลความหมายสัญลกั ษณล์ มฟ้าอากาศบริเวณกวา้ งบนแผนท่ีอากาศผิวพ้นื และระบสุ ภาพลม
ฟ้าอากาศ
วิธีทำกิจกรรม
1. ศกึ ษาเอกสารความรู้เรอ่ื งสัญลกั ษณ์แสดงขอ้ มลู สภาพลมฟา้ บริเวณกว้างทก่ี ำหนดให้
2. เลอื กแผนที่อากาศผิวพื้น 1 แผ่น จากนัน้ ใชค้ วามรทู้ ไ่ี ดศ้ ึกษามาแปลความหมายสัญลกั ษณ์
แสดงข้อมูลสภาพลมฟา้ อากาศบริเวณกวา้ งทปี่ รากฏบนแผนทีอ่ ากาศผวิ พื้น พรอ้ มทัง้ ระบสุ ภาพลมฟา้
อากาศ
3. เปรียบเทียบสภาพลมฟา้ อากาศทร่ี ะบไุ ด้จากแผนทอ่ี ากาศผวิ พ้ืนแต่ละแผน่
รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4
แผนทีพ่ ้ืนผิวแผน่ ท่ี 1
สญั ลกั ษณ์ ชือ่ สัญลกั ษณ์ ความหมาย
สภาพลมฟา้ อากาศ
………………………………………….………………………………………….………………
………………………….…………………………………………………….……………………
…………………….………………………………………….……………………………………
……………….………………………………………….………………………………………….
…………
รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
แผนท่พี ้ืนผวิ แผน่ ท่ี 2
สัญลักษณ์ ชอื่ สัญลกั ษณ์ ความหมาย
สภาพลมฟ้าอากาศ
………………………………………….………………………………………….………………
………………………….…………………………………………………….……………………
…………………….………………………………………….……………………………………
…….………………………………………….………………………………………….…………
รายวิชา โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
กิจกรรมที่ 5.2 แปลความหมายขอ้ มูลเรดาร์ตรวจอากาศ
จดุ ประสงคก์ ิจกรรม
1. ระบบุ ริเวณทีพ่ บกลมุ่ ฝน ความแรงของกลมุ่ ฝนจากข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ
2. วเิ คราะห์ทิศทางการเคลอื่ นที่ของกล่มุ ฝนจากขอ้ มูลเรดารต์ รวจอากาศ ณ เวลาต่อเน่อื งกนั
วิธกี ารทำกิจกรรม
1. ศึกษาการแปลความหมายข้อมลู เรดารต์ รวจอากาศจากเอกสารความรูท้ ีก่ ำหนดให้
2. ระบขุ ้อมลู เรดาร์ตรวจอากาศ ในประเด็นตอ่ ไปน้ี และบนั ทกึ ผล
- วนั และเวลาทที่ ำการตรวจวัด
- ช่อื สถานีเรดารต์ รวจอากาศ
- รัศมกี ารตรวจวัด
- พ้นื ที่ทตี่ รวจพบกลุ่มฝน
- ความเขม้ ของสญั ญาณคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า
3. แปลความหมายข้อมลู ความเข้มของสญั ญาณคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้ ในข้อ 2 และระบคุ วามแรง
ของกล่มุ ฝนโดยประมาณของแต่ละภาคในประเทศไทย และบันทกึ ผล
4. วิเคราะห์ขอ้ มูลเรดารต์ รวจอากาศแบบต่อเน่ืองตามที่กำหนด และคาดการณแ์ นวโนม้ ทิศทาง
ของกลุม่ ฝน และบันทึกผล
5. สืบค้นข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศของท้องถ่ินตน เอง ณ เวลาปัจจุบันจากเว็บไซต์
กรมอุตุนิยมวิทยา วิเคราะห์หากลุ่มฝน และถ้าพบให้ระบุข้อมูลพื้นท่ีท่ีตรวจพบ ความแรงและทิศ
ทางการเคลื่อนท่ีของกลุม่ ฝน
6. นำเสนอและอภปิ รายผลการทำกิจกรรม
รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
ขอ้ มูลชดุ ท่ี 1
จากรปู เปน็ ข้อมลู เรดารต์ รวจอากาศ เมื่อวนั ท่ี ............................................... เวลา.....................UTC
หรอื .............................. น. ตามเวลาทอ้ งถ่นิ ของประเทศไทย จากสถานี...........................................
รัศมที ำการ..............................กโิ ลเมตร ความสูงของเสาสัญญาณ................ เมตร จากระดับน้ำทะเล
แสดงถึง...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
ข้อมลู ชดุ ท่ี 2
จากรปู เป็นข้อมลู เรดาร์ตรวจอากาศ เมือ่ วันท่ี ............................................... เวลา.....................UTC
หรอื .............................. น. ตามเวลาทอ้ งถิน่ ของประเทศไทย จากสถานี...........................................
รัศมีทำการ..............................กิโลเมตร ความสูงของเสาสัญญาณ................ เมตร จากระดับน้ำทะเล
แสดงถงึ ...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ (ว 30104) ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4
แบบฝึกหัดทา้ ยบท
1. ใช้แผนทอ่ี ากาศผิวพื้นทีก่ ำหนดใหป้ ระกอบการตอบคำถามข้อ 1.1 – 1.4
(ก) (ข) (ค)
1.1. รปู (ก) (ข) และ (ค) เป็นแผนท่อี ากาศผวิ พ้นื ในฤดูใดบา้ ง สงั เกตจากอะไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
1.2. แผนท่ีอากาศผิวพ้ืนในรูปใดบ่งชี้ว่า พ้ืนที่ภาคใต้ของประเทศไทย อาจประสบกับอุทกภัยและ
แผ่นดินถล่ม ทราบไดอ้ ยา่ งไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
1.3. แผนท่ีอากาศผิวพ้ืนในรูปใดบ่งชีว้ ่าบริเวณประเทศไทยจะเกิดฝนตกอยา่ งต่อเนื่องและมีปริมาณฝน
มากกว่าชว่ งอื่นของปี ทราบได้อย่างไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
1.4. แผนที่อากาศผวิ พน้ื ในรูปใดบ่งชีว้ า่ จะเกิดพายุฝนฟา้ คะนองบรเิ วณประเทศไทย ทราบได้อย่างไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
2. จากแผนที่อากาศผิวพ้ืนท่ีกำหนดให้ นักเรียนควรวางแผนการเดินทางหรือเตรียมตัวไปยังบริเวณ ก
และ ข ของประเทศญป่ี ุ่นอย่างไร เพราะเหตใุ ด ..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
รายวชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ (ว 30104) ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4
3. ภาพถ่ายดาวเทียมช่วงคลื่นอินฟราเรดท่ีปรับสีแล้ว ประจำวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561
เวลา 07:40 UTC
3.1 ภาคใต้ของประเทศไทยกบั ประเทศมาเลเซียพนื้ ทใ่ี ดทมี่ โี อกาสเกดิ ฝนตกมากท่ีสุด ทราบไดอ้ ย่างไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
3.2 ในวันดังกล่าวพบพายุหมุนเขตรอ้ นหรือไม่ ทราบได้อยา่ งไร
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
4. จากภาพเรดาร์ตรวจอากาศประจำวนั ท่ี 24 พฤษภาคม 2561
(ก) (ข)
กลมุ่ ฝนบรเิ วณอ่าวไทยมกี ารเคลื่อนทห่ี รือไม่ อยา่ งไร และมีการทวีความรุนแรงขึ้นหรือออ่ นกำลงั ลง
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................