The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วินเซนต์ แวนโก๊ะ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by arissara284157, 2022-09-25 01:50:59

วินเซนต์ แวนโก๊ะ

วินเซนต์ แวนโก๊ะ

สุดยอดผลงานศิลปะของโลก

จดั ทาโดย
ช่ือ นางสาวอริสรา ประเสริฐวงศ์
ช้ันประกาศนียบตั รวชิ าชีพ 2/9 เลขท่ี 2

เสนอ
อาจารย์จักพงศ์ พลแพงขวา
รายงานฉบบั นีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของวชิ า

การจัดการธุรกจิ ศิลปกรรม
วทิ ยาลยั เทคโนโลยรี ัตนโกสินทร์

ภาคเรียนที่ 1 พ.ศ.2565

คำนำ

จดั ทำขนึ ้ เพ่ือ กำรเรียนรู้ภำพจะเกิดขนึ ้ ได้ก็ตอ่ เมื่อเรำ “มอง” ซงึ่ กำรมองก็เกิดจำก
อวยั วะทเ่ี รียกวำ่ ตำ (Eyes) เมือ่ ใช้ตำมอง รูปธรรมตำ่ ง ๆ ในชวี ติ ก็จะปรำกฏขนึ ้ เม่ือรูปธรรม
ปรำกฏ สมองจะเก็บเกี่ยวกลำยเป็น ควำมทรงจำ (Memories) ควำมทรงจำถกู ขยำย และ
ประกอบสร้ำงขนึ ้ ใหมภ่ ำยในตวั มนั เอง กลำยเป็นจนิ ตนำกำร(Imagination) ซง่ึ พอเรำลอง
มองย้อนดู รูปลกั ษณะตำ่ ง ๆ บนโลกนนั้ แม้ธรรมชำติจะสร้ำงสรรค์สงิ่ ตำ่ ง ๆ ขนึ ้ มำโดยตวั มนั
เองแตม่ นษุ ย์ก็ได้ใช้ธรรมชำติในสร้ำงสรรค์ส่ิงตำ่ ง ๆ ควบคไู่ ปด้วยเชน่ กนั

งำนศิลปกรรม นัน้ มนุษย์ได้ สร้ ำงสรรค์ขึน้ เพ่ือตอบสนองควำมต้ องกำรด้ ำน
สุนทรียภำพและควำมงำม หรือบำงอย่ำงนัน้ สร้ ำงขึน้ มำเพื่อกำรใช้ สอย เมื่อพูดถึง
สนุ ทรียภำพและควำมงำม อยำกให้หลำย ๆ คนลองศกึ ษำควำมเป็นมำของศิลปะ ทกุ อยำ่ งมี
ควำมควำมหมำยในตวั ของมนั รำยงำนเลม่ นีจ้ ึงจดั ทำเพื่อทำควำมรู้จกั กบั งำนศลิ ปกรรมท่ีมี
ชอื่ เสยี งระดบั โลก และศิลปินผ้สู ร้ำงผลงำนชิน้ เอกขนึ ้ มำได้อย่ำงไร

วนิ เซนต์ แวนโก๊ะ

(Vincent Van gogh)

วินเซนต์ แวน โก๊ะ

ถกู ยกยอ่ งให้เป็นจิตรกรชำวดชั ท์ท่ยี ง่ิ ใหญ่ท่ีสดุ ถงึ แม้ว่ำช่อื เสยี ง ของเขำเพงิ่ จะมำโดง่ ดงั เอำ
ในชว่ ง 3 ปีสดุ ท้ำยของชีวติ กำรเป็นจิตรกรตลอด 10 ปี กต็ ำม แตเ่ ขำก็ได้สร้ำงอทิ ธิพลตอ่
ศิลปะแบบอมิ เพรสเช่นนสิ ท์ แบบโมเดินท์ อำรต์ เอำไว้มำกมำย สร้ำงผลงำนภำพเขียนสี
นำ้ มนั กวำ่ 800 ภำพ และภำพวำดอีกกวำ่ 700 ภำพ ซงึ่ ตลอดชีวิตของเขำนนั้ มเี พยี งภำพ
เดยี วทข่ี ำยได้ ควำมเจ็บป่วยทำงสมอง และจิตใจของ แวน โก๊ะนนั้ แสดงออกมำทำงภำพท่ี
เขำเขยี น ด้วยกำรใช้สีอนั ร้อนแรง กำรปัดพกู่ นั แบบหยำบๆ และรูปแบบของลำยเส้นทใ่ี ช้จน
ในท่ีสดุ ก็ได้ผลกั ดนั ให้เขำ จบชีวติ ลงด้วยกำรฆำ่ ตวั ตำย
วนิ เซนต์ แวน โก๊ะ เกิดเม่ือวนั ที่ 30 มีนำคม ปี ค.ศ. 1853 ทซ่ี นั เดริ ท์ ยำ่ นบรำแบรนท์ ใน
ประเทศเนเธอร์แลนด์ วนิ เซนต์เป็นบตุ รชำยคนโต บดิ ำเป็นนกั บวชนิกำย โปรแตสแตนท์ เมอ่ื
แวนโก๊ะอำยไุ ด้ 16 ปี เขำได้ไปฝึกงำนขำยภำพศิลปะท่ีฮเู ก้นท์ เขำทำงำนขำยภำพทงั้ ใน

ลอนดอน และปำรีสไปจนกระทงั่ ถงึ ปีค.ศ. 1876

แวน โก๊ะก็เริ่มตระหนกั วำ่ เขำไมช่ อบงำนขำยภำพท่ีเขำทำอยเู่ ลยประกอบกบั ถกู ปฏิเสธ
ควำมสมั พนั ธ์จำกหญิงทต่ี นรัก ทำให้เขำเริ่มทำตวั ออกหำ่ งจำกผ้คู นมำกขนึ ้ และตดั สินใจที่
จะออกบวช แตเ่ ขำกต็ ้องพบกบั ควำมผดิ หวงั อีกครัง้ หนง่ึ เมอ่ื เขำ ไมส่ ำมำรถผำ่ นกำรทดสอบ
ให้เข้ำมำเป็นนกั บวชได้ ในที่สดุ เขำก็กลำยเป็นนกั เทศน์ไป และในปีค.ศ.1878 เขำได้เดนิ ทำง
ไปทำงตะวนั ตกเฉียงใต้ของเบลเย่ยี มเพื่อทำกำร เผยแพร่ศำสนำ โดยพกพำเอำควำมยำกจน
คน่ แค้นไปตลอดกำรเดินทำงจำกกำรเดนิ ทำง ครัง้ นี ้แวนโก๊ะ ได้มีปำกเสยี งกบั นกั เทศน์ผู้
อำวโุ ส ทำให้เขำถกู ขบั ออกจำกกลมุ่ ในปี ค.ศ.1880 ในสภำพของคนสนิ ้ ไร้ และสญู เสยี ควำม
เชื่อของตนไป เขำจมอยกู่ บั ควำมผดิ หวงั และได้เร่ิมเขียนรูป แต่ในไม่ช้ำเขำก็ตระหนกั ได้วำ่
เขำไมส่ ำมำรถทจ่ี ะ เรียนรู้กำรเขยี นภำพด้วยตนเองได้ ดงั นนั้ เขำจงึ ตดั สินใจเดนิ ทำงไป
บรัสเซลเพอ่ื เรียน กำรเขียนภำพ

ในปี ค.ศ.1881 แวน โก๊ะได้กลบั มำทำงำนท่ีฮเู ก้นท์อีกครัง้ หน่ึง โดยเร่ิมทำงำนกบั ช่ำงเขียน
ภำพทำงภูมิศำสตร์ ท่ีชื่อ อนั ตน มวั ร์ ฤดรู ้อนของปีถัดมำได้เร่ิมกำรทดลอง กำรเขียนภำพ
ด้วยสีนำ้ มนั และด้วยเสียงเรียกร้องภำยในจติ ใจของ แวน โก๊ะ ให้ไปใช้ ชีวติ ตำมลำพงั อย่กู บั
ธรรมชำติ ทำให้เขำตดั สินใจเดนิ ทำงไปยงั หมบู่ ้ำนของชำวดชั ท์ เพื่อเริ่มกำรเขียนภำพทวิ ทศั น์
ที่งดงำมตำมท้องที่ต่ำงๆ เขำใช้ชีวิตในแต่ละวนั ไปกบั กำรเขียนถึงส่ิงที่อย่รู อบๆตวั เขำ ในปี
ค.ศ.1883 เขำได้สร้ ำงงำนเขียนภำพชิน้ แรก ขึน้ มำ โดยให้ช่ือภำพว่ำ " โปเตโต อีทเตอร์ "

เมื่อควำมเหงำและควำมอ้ำงว้ำงเร่ิมเข้ำมำแกำะกุมจิตใจของ แวน โก๊ะ เขำจึงออกจำก
หม่บู ้ำนและเข้ำศึกษำต่อที่ แอนท์เวอป์ ในเบลเยี่ยม แต่เขำเองก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะปฏิบตั ิ ตำม
กฎของกำรเรียนท่ีนนั่ มำกนกั ช่วงที่เรียนอยทู่ ี่แอนเวอป์ เขำได้รับแรงบันดำลใจ จำกจิตรกรท่ี
ชื่อ ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ และได้เร่ิมสนใจภำพพิมพ์ของญี่ป่ นุ ด้วย ในที่สดุ เขำก็ได้เลิกเรียน
เพื่อไปยงั ปำรีส ทีนนั่ เขำได้พบกบั เฮนรี่ เดอ ตวั รูส และจอร์จีนส์ รวมทงั้ ศิลปินอิเพรำสเช่น
นิสท์อีกหลำยคน เช่น คำมิล ปิสซำโร โซรัส และคนอื่น ๆ กำรใช้ ชีวิต 2 ปีเต็มที่ปำรีสนนั้ ได้

ขดั เกลำฝีมือในกำรเขียนภำพของ แวน โก๊ะ ให้ เฉียบคมย่ิงขึน้ เขำเร่ิมใช้สีสนั ท่ีมีชีวิตชีวำ
และไมย่ ดึ ตดิ อยกู่ บั กำรเขียนภำพแบบเกำ่ ๆ

วินเซนต์ แวน โก๊ะ ใช้ชีวิตในตวั เมืองปำรีส ได้สกั พกั ก็เริ่มเบ่ือ เขำจึงออกจำกปำรีส ไปในปี
ค.ศ.1888 เพ่ือไปยงั เมืองอำเรสทำงตอนใต้ของฝร่ังเศษ ที่เมืองอำเรสนนั้ แวน โก๊ะได้เช่ำบ้ำน
หลงั หนึ่ง แล้วตกแต่งบ้ำนด้วยสีเหลืองทงั้ หมด เขำหวงั ท่ีจะตงั้ กล่มุ ศิลปินอิมเพรสเช่นนิสท์
ขึน้ ในเดือนตลุ ำคม จอร์จีนส์ได้มำอย่รู ่วมกบั เขำแต่ ควำมสมั พนั ธ์ของคนทงั้ สองก็ต้องขำด
สะบนั้ ลงในคืนวนั คริสตมำส อีฟ จอร์จีนส์ ได้โต้เถียงอย่ำงรุนแรงกบั แวน โก๊ะ ทำให้แวน โก๊ะ
เกิดบ้ำเลือดขึน้ มำแล้วตดั ใบหู ของตวั เอง ทำให้จอร์จีนส์จำกไป และตวั ของเขำเองต้องเข้ำ
รับกำรรักษำในโรงพยำบำล กำรแสดงอำกำรต่ำงๆ ของแวน โก๊ะ นัน้ ทำให้เห็นถึงสภำพ
จิตใจและประสำทที่ผิดปกติ ในที่สดุ เขำก็ต้องเข้ำไปอย่ใู นโรงพยำบำลบ้ำ เป็นเวลำ 1 ปีเต็ม
เม่ือ แวน โก๊ะ ออกจำกโรงพยำบำล เขำได้ไปอำศยั อยู่กับศิลปิน นกั ฟิ สิกส์ ได้ประมำณ 2
เดือน และในวนั ท่ี 27 กรกฎำคมของปี ค.ศ.1890 เขำได้ยิงตวั เอง และเสียชีวิตในอีก 2 วนั
ตอ่ มำ

ช่วงชีวิตของ แวน โก๊ะตอนที่อยู่ที่อำเรสนัน้ ได้สร้ ำงผลงำนเขียนภำพที่ยิ่งใหญ่เอำไว้
มำกมำย เขำเขียนภำพของธรรมชำติอนั งดงำม ภำพท่งุ หญ้ำยำมต้องแสงอำทิตย์ ภำพของ
ดอกไม้นำนำชนิด และภำพดอกไอริสท่ีมีชื่อเสียงนนั้ สำมำรถขำยได้ถึง 53.9 ล้ำนดอลลำร์ใน
เวลำนนั ้

The Starry Night
วำดในเดือนมิถนุ ำยน ค.ศ. 1889
เป็นภำพวำดสีนำ้ มนั บนพืน้ ผ้ำใบ ขนำดภำพ 72 x 92 ซม. (29 x 36 1/4 นิว้ )
สถำนท่ีแสดง The Museum of Modern Art เมอื งนิวยอร์ก

วินเซนต์ได้กล่ำวถึงภำพ " Starry Night " นีว้ ่ำ "ฉันกำลงั ประสบกบั ปัญหำอย่ำงมำกใน กำร
เขียนภำพของยำมค่ำคืน ถ้ำพูดให้ถูกแล้วก็คือ กำรถ่ำยถอดภำพลงบนผืนผ้ำในเวลำ
กลำงคืนก็ได้ " ภำพของแสงสีในยำมค่ำคืนนนั้ เป็นภำพท่ีเขำใฝ่ฝันอยำกเขียนขนึ ้ และควำม
ฝันของเขำก็ได้กลำยมำเป็นควำมจริง เม่ือเขำตัดสินใจย้ำยมำ อยู่ท่ีเมืองอำเรส ในเดือน
กมุ ภำพนั ธ์ของปี ค.ศ. 1888 ในจดหมำยเขำได้กลำ่ วไว้วำ่

" ในชีวิตของจิตกรแล้ว ควำมตำยอำจไม่ใช่ควำมยำกลำบำกท่ีสดุ ในชีวิต ฉันสำมำรถพดู ได้
ว่ำ ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมนั เลย แต่เมื่อฉันได้มองดดู วงดำวแล้ว ฉันก็เร่ิมนึกคิดจุดดำมืดที่
แสดง ถึงภำพของเมือง และหมู่บ้ำนในแผนที่ ทำให้ฉันคิดว่ำทำไมมนุษย์เรำถึงได้ให้
ควำมสำคญั ของ จดุ ดำมืดท่ีอย่บู นแผนท่ีของฝร่ังเศษ มำกไปกว่ำ แสงสว่ำงอนั แท้จริงที่สอ่ ง
ตรงมำจำกสวรรค์ มนั ก็คงเหมือนกบั กำรท่ีเรำเลือกไป รถไฟเพื่อจะไปยงั ทำรำสคอน หรือโรน
หรือเรำจะเลือก เอำควำมตำยเพ่ือจะไปให้ถึงดวงดำวบนฟำ้ นนั่ "

The Potato Eaters

ปี ค.ศ. 1885

ภำพวำดนีเ้ ป็นหนึ่งในภำพวำดหลกั ของแวนโก๊ะ เขำต้องกำรจะวำดภำพชำวนำให้ดสู มจริง
ท่ีสุดเท่ำท่ีจะเป็นได้และจงใจท่ีจะเลือกแบบจำลองที่มีลำยเส้นหยำบ แวนโก๊ะยงั คงถือว่ำ
The Potato Eater เป็นผลงำนที่ดีท่ีสดุ ของเขำ และเขียนถึงน้องสำวของเขำว่ำ “ส่ิงท่ีฉันคิด
เก่ียวกบั งำนของฉนั คือกำรวำดภำพชำวนำท่ีกินมนั ฝรั่ง ซึ่งฉนั วำดใน Nuenen คอื สิ่งท่ีดีท่ีสดุ
ที่ฉนั เคยทำมำ”

วินเซนต์ แวน โก๊ะ ศิลปินโพสอิมเพรสชน่ั นิสชำวดตั ช์ ผ้ทู ่ีได้รับเลือกให้เป็นจิตรกรท่ีย่ิงใหญ่
ทสี่ ดุ ของกำลเวลำ ผลงำนของเขำนนั้ เป็นทน่ี ่ำจบั ตำมองสำหรับควำมงำมที่มีลำยเส้นท่ีหยำบ
ควำมตรงไปตรงมำทำงอำรมณ์และด้วยกำรใช้สีที่ร้ อนแรงท่ีแสดงออกถึงควำมลึกซึง้ ต่อ
ศิลปะในช่วงศตวรรษท่ี 20 นี่คือ 10 ผลงำนศิลปะชิน้ เอกของเขำตงั้ แต่ผลงำน Potato Eater
จนถงึ Portrait of Dr.Gachet ท่ีซง่ึ เขำได้วำดเม่ือไม่ก่ีเดือนก่อนที่เขำจะเสยี ชีวิต


Click to View FlipBook Version