The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เนื้อหาลิลิตช่วงที่ 4 ตอนที่ 10-12

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เนื้อหานำทางสร้างความคิด

เนื้อหาลิลิตช่วงที่ 4 ตอนที่ 10-12

Keywords: ลิลิตตะเลงพ่าย

ชดุ การเรียนรู้ด้วยตนเองประกอบการต์ ูน เร่ือง ลิลิตตะเลงพ่าย
ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๕

เน้อื เรื่องชว่ งท่๔ี

ในยุคแห่งการแสวงหาข้อมูลความรู้เอกสารประกอบการเรียนรู้ของนักเรียนมีมากมายทั้งนี้เพราะ เอกสาร
ต่าง ๆ คือปัจจัยสำคัญท่ีช่วยสร้างพ้ืนฐานการเรียนรู้ในอนาคต ครจู งึ จัดทำชุดการสอนประกอบการ์ตูน เรื่อง ลิลิต
ตะเลงพา่ ย น้ีขน้ึ โดยไดน้ ำสาระความรู้มาผกู เร่อื งราวเป็นการต์ ูนประกอบทส่ี นกุ สนาน เพอื่ ให้นกั เรียนเข้าใจง่าย นักเรียน
จะไดซ้ มึ ซับสาระความรู้ผ่านความบันเทิงจากบทสนทนาของตัวละครในการ์ตูนภายในเล่ม ซง่ึ ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ประกอบการ์ตูน เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ใช้ในการเรียนการสอนวิชา
ภาษาไทย ท๓๒๑๐๒ มที ้งั หมด ๗ เล่ม ดงั นี้

เล่มท่ี ๑ เร่ือง ภูมหิ ลงั นน้ั สำคัญไฉน
เลม่ ท่ี ๒ เร่ือง ภาษาไทยไพเราะเพราะลลิ ิต
เลม่ ที่ ๓ เรอ่ื ง รคู้ ิดแปลความ ตคี วามตามเนอื้ หา
เลม่ ที่ ๔ เรอื่ ง ภาษาถอดความงดงามนัก
เลม่ ที่ ๕ เรอื่ ง รู้หลกั สรา้ งสมาส-สนธิคำ
เลม่ ท่ี ๖ เรื่อง เน้ือหานำทางสร้างความคดิ
เล่มที่ ๗ เรอื่ ง พนิ จิ คณุ ค่าภาษาศิลป์
ครูหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองประกอบการ์ตูน เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่ายจะสามารถจุด
ประกายใหน้ กั เรยี นไดใ้ ฝ่หาความร้เู พ่มิ เติมเกยี่ วกับการอา่ นวรรณคดีตอ่ ไป

ผลการเรียนร้ทู ่คี าดหวัง

เมอ่ื ศึกษาชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเองประกอบการ์ตูน เร่ือง ลิลติ ตะเลงพา่ ย ผูเ้ รียนสามารถ
แปลความลลิ ติ ตะเลงพา่ ยได้ บอกความหมายคำศัพท์ในบทเรยี นและอา่ นทำนองเสนาะลลิ ิตตะเลงพ่ายได้

สาระสำคญั

การอ่านแปลความคือการเปล่ียนแปลงจากความหนึ่งไปส่อู ีกความหน่งึ โดยแปลงเร่ืองที่ไดอ้ ่านหรือไดฟ้ งั ออกมา
เปน็ คำพูดใหม่หรอื เปน็ ถอ้ ยคำใหม่ โดยยังคงรักษาเน้ือความทีส่ ำคัญของเรือ่ งเดมิ ไวอ้ ย่างครบถ้วน
การแปลความจะไมค่ ำนึงถึงรูปแบบแผนเดมิ ของข้อความ

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ ไปใชต้ ิดสนิ ใจแก้
ปัญหาและสร้างวิสยั ทศั น์ในการดำเนินชีวติ และมีนิสัยรกั การอา่ น

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ

โคลง 4

ไวเ้ ปน็ มหรสพซ้อง สขุ ศานต์ิ
สำหรับราชสำราญ เริม่ ร้ัง
บำเทงิ หฤทัยบาน ประตยิ ทุ ธ์ น้ันนา
เสนอเนตรมนุษย์ต้ัง แต่หล้าเลอสรวง
พรหมาน
ปวงไทเ้ ทวศทัง้ ทนี่ ้ี
เชญิ ประชุมในสถาน ตตู อ่ กันแฮ
ชมช่ืนคชรำบาญ ชเยศอ้างอวยเฉลมิ
ใครเช่ียวใครชาญชี้ กลางรงค์
คหู่ ล้า
หวงั เริ่มคุณเกยี รติก้อง ภพแผ่น สองฤๅ
ยนื พระยศอยู่คง เรือ่ งรูส้ รเสริญ
สงครามกษัตริย์ทรง พรรณนา
สองราชรอนฤทธิร์ า้ ท่านแจ้ง
นะนึก หาญเฮย
ดำเนินพจนพากย์พรอ้ ง ดว่ นด้วยโดยถวลิ
องคอ์ คั รอปุ ราชา โททรง
กอบเกดิ ขัตติยมา หน่ึงอ้าง
ขบั คชเขา้ ยุทธแ์ ยง้ คลอาสน์ มารเอย
ไขว่แคว้งแทงโถม
หัสดินปน้ิ ธเรศไท้
คือสมิทธมิ าตงค์
หนง่ึ คือคิรเิ มขล์มง
เศยี รสา่ ยหงายงาควา้ ง

สองโจมสองจจู่ ้วง บำรู
สองขัตตยิ สองขอชู เชดิ ด้ำ
กระลึงกระลอกดู ไววอ่ ง นกั นา
ควาญขับคชแข่งค้ำ เข่นเขยี้ วในสนาม
เลอพิศ นาพอ่
งามสองสุริยราชล้ำ ศกึ สรา้ ง
พา่ งพัชรินทรไพจิตร รบราพณ์ แลฤา
ฤารามเริ่มรณฤทธ์ิ อน่ื ไทไ้ ป่เทยี ม
ทกุ เทศทุกทิศอ้าง ขนุ ตะเลง
หย่อนหา้ ว
ขุนเสียมสามรรถตา้ น องั กุส ไกลแฮ
ขุนตอ่ ขุนไป่เยง ทา่ นสศู้ ึกสาร
ยอหัตถ์เทิดลบองเลบง ออกถวลั ย์
งามเร่งงามโทท้าว เหยียบยงั้
ลงล่าง แลนา
คชยานขัตติเยศเบ้ือง คคู่ ้ำคางเขนิ
โถมประทะไป่ทนั เชงิ ชิด
สารทรงราชรามญั ตกดา้ ว
เสยสา่ ยท้ายทันต์ท้ัง รำร่อน ขอแฮ
อยู่เพ้ยี งจักรผัน
ดำเนนิ หนุนถนัดได้ สยามินทร์
หนอ่ นเรนทรทิศ หอ่ นพ้อง
เสดจ็ แสดงวราฤทธ์ิ ฤๅถกู องค์เอย
ฟอนฟาดแสงของ้าว ปดั ดว้ ยขอทรง
ทวารัติ
เบือ้ งน้ันนฤนาถผู้ ตกใต้
เบ่ยี งพระมาลาผิน คอคช เศกิ แฮ
ศสั ตราวธุ อรินทร์ ทว่ งทอ้ ทีถอย
เพราะพระหตั ถ์หากปอ้ ง

บัดมงคลพา่ ห์ไท้
แวง้ เหว่ยี งเบ่ียงเศียรสะบัด
อุกคลุกพลุกเงยงัด
เบนบ่ายหงายแหงนให้

พลอยพลำ้ เพลียกถ้าทา่ น ในรณ
บัดราชฟาดแสงพล พ่ายฟ้อน
พระเดชพระแสดงดล เผด็จคู่ เข็ญแฮ
ถนดั พระองั สาข้อน ขาดด้าวโดยขวา
ยลสยบ
อุรารานร้าวแยก ท่าวดน้ิ
เอนพระองคล์ งทบ สงั เวช
เหนือคอคชซอนซบ สฟู่ า้ เสวยสวรรค์
วายชิวาตม์สดุ ส้ิน ไทยไผท
ชพี มล้าง
บน้ั ทา้ ยคชาธเรศท้าว รีราช แลนา
ถึงพิราลยั ลาญ ตอกตอ้ งตนสลาย
เพราะเพื่อพิพิธไพ นฤบาล
โซรมสาดตราดปืนขวา้ ง ยาตรเตา้
ฤทธ์ริ าช แลฤๅ
ฝ่ายองค์อิศวรนาถนอ้ ง เขน่ คำ้ บำรู
แสดงยศคชยทุ ธยาน เชิงชน
มางจาชโรราญ เทิดใต้
เร็วเรง่ คเชทรเข้า เซซวด ไปแฮ
เพลีย่ งพล้ังเสียที
บัดภูธเรศพ่าห์ได้ ของอน
ลงล่างง้างโททนต์ บัน่ เกลา้
พัชเนียงเบย่ี งเบนตน เมือชีพ แลเฮย
หวั ปนั่ หันขา้ งให้ พีน่ อ้ งสองไท
จุลจกั ร
ภูมีมอื งา่ งา้ ว ท่าวซำ้
ฟันฟาดขาดคอบร ปนื ป่าย เอาเอย
อนิ ทรียซ์ บกุญชร อยูเ่ บอ้ื งบนสาร
เลยพระเกียรติผ่านเผ้า

ทนั ใดกลางคชเจ้า
มลายชิพติ ลาญทัก
เหลอื หลามเหล่าปรปักษ์
ตรงึ อกพกตกขว้ำ

พระราญอริราชด้วย เดโช

สี่ทาสสนองบาทโท ท่านท้าว

พระยศย่งิ ภิยโย ผา่ นแผ่ ภพนา

สองรอดโดยเสดจ็ ด้าว ศึกสู้เสยี สอง

ร่าย จึ่งกองพยุหทวยทัพ สรรพหลังหน้าขวาซ้าย ผ้ายมาทนั ธิบดินทร์ ขณะอรินทรพินาศ

ขาดคอคชสองเสร็จ ต่างรีบระเห็ดเข้าโรม โหมหักหาญราญรุก บุกบั่นฟันแทงฆ่า พม่ามอญไทยใหญ่ ไล่

มล้างลาวดาษดวน ไล่มล้างยวนดาษดื่น ต่ืนกันแตกกันตาย หลายเหลอื นับเนืองนอง กองก่ายกายรายหัว

ตัวขาแขนเด็ดดาษ กลาดกลางท่งกลางเถ่ือน เกลื่อนกลางดงกลางดอน แล่นซอกซอนซนซุก บุกทุกภาย

พ่ายแพ้ เพราะพระเดชทา่ นแท้ หากให้ขาดเข็ญ แลนา

โคลง ๒

เห็นประภาพเจา้ ชา้ ง เชีย่ วกว่าเช่ียวเหลืออา้ ง

เอิกอ้ืออัศจรรย์ ย่ิงนา

ขวัญหนดี ีฝอ่ พ้น พวกอเรนทร์ดว่ นดน้

ดดั ดั้นทางทวน ไปนา

ฯลฯ

โคลง ๔

นฤบดีดำรสั ให้ ขุนพล

ควบพยุหพหล ไล่มลา้ ง

เสร็จเสดจ็ สตู่ ำบล ถ่นิ ทัพ ท่านนา

ปูนชอบกอบชื่อช้าง คคู่ ำ้ เข่นเขญ็

ฯลฯ

ยุทธหัตถีและชัยชนะของไทย

เม่ือทอดพระเนตรไปยังเบื้องหน้าก็เหน็ พระมหาอปุ ราชาแมท่ พั ใหญข่ องพม่า น่งั อยู่บนชา้ งเผอื ก
ขา้ งกายรายลอ้ มไปด้วยเหล่าแม่ทพั นายกอง

สมเด็จพระมหาอุปราชาผู้ยิ่งใหญ่
ในหงสาวดีมีพระยศแผ่ไปทั่ว
ใครได้ยินกค็ รน่ั คร้ามในความ
เก่งกาจของพระองค์ฤทธ์ิเดชก็
ลือล่ันไปทั้งสิบทิศ เชิญเจ้าพ่ี
มารบกันด้วยชา้ งเถิดเพ่ือเผยแผ่
เกียรติยศไว้ การชนช้างเช่น
เราคงสิน้ สดุ ลงไม่มีอกี แล้ว

ขา้ รับคำท้าของเจา้ น้องพ่ี

คำท้าทายจากกษตั ริย์อยธุ ยา ผูเ้ คยเป็นเพื่อนเรียนและเพ่อื นเลน่ กันมาต้ังแต่เยาวว์ ัย เมอ่ื คร้ังอยู่หงสาวดี
ทำให้พระมหาอุปราชาไม่สามารถบิดพลิ้วได้ เพราะหากไม่ยอมออกไปสู้รบก็จะเป็นที่อับอายแก่บรรดา
ไพรพ่ ลท่ตี ดิ ตามมา จึงรบั คำทา้ และขับชา้ งพลายพัทธกลออกไปทันที

กษตั ริยท์ ง้ั สองพระองค์ตา่ งไสชา้ งเข้าหากนั โดยไม่มีฝ่ายใดหวนั่ เกรง พลายพัทธกอใช้หวั พุ่ง
ชนด้านลา่ ง พระยาไชยานุภาพเบนจะขวางตวั จนเกอื บเสยี หลกั

พระมหาอุปราชาเหน็ เชน่ น้ันกร็ ีบใช้พระแสงของา้ วฟันเข้าท่ีพระนเรศวรทนั ที

หย่าหวังจะรอดคม
ง้าวของข้าไปได้

พระไชยานภุ าพสะบดั ตัวจนหลุดจากพนั ธนาการเกาะเกี่ยวของพลายพทั ธกอเมอื่ ต้งั หลกั ได้
กร็ บี วงิ่ พุ่งชนใหม่กอ่ นทพ่ี ลายพัทธกอจะตงั้ ตวั ตดิ พลายพทั ธกอเสียหลกั พระนเรศวรฉวย
โอกาสใชพ้ ระแสงของา้ วฟนั เข้าทไ่ี หล่ขวา ถูกพระอังสาขาดแล่งไปทางขวา พระอุระถูดฟันขาด
เปน็ รอยแยก พระวรกายเอนฟุบลงบนคอช้าง

พระมหาอุปราชาลม้ ฟุบสิ้นพระชนม์บนคอพลายพัทธกอ

ยงิ เขา้ ไปอยา่ ไดห้ ยุด

ในขณะเดียวกนั พระเอกาทศรถก็ได้ชนชา้ งกับเจา้ เมอื งปาจะโรและฟันเจ้าเมืองปาจะโรเสียชวี ติ ทหาร
หม่าเหน็ กษตั รยิ ์ของตนพลาดท่าตา่ งพากนั วิง่ มากันพระศพพระมหาอุปราชาและเจ้าเมอื งปาจะโรออกไป
พรอ้ มท้งั ใชป้ นื ยาวระดมยงิ เขา้ ใส่กษัตรยิ ์อยธุ ยาทงั้ สองพระองค์ด้วยความโกรธแค้น

ทัพพมา่ เม่อื ส้ินกษตั ริยก์ ห็ มดกำลงั ใจในการทำศกึ จึงรบี อญั เชญิ พระบรมศพพระมหาอปุ ราชา
และยกทัพกลบั กรงุ หงสาวดีโดยทไ่ี ม่มที หารฝา่ ยไทยไลต่ ดิ ตามเหมอื นครง้ั ทีผ่ า่ นมา

รบี ชว่ ยทงั้ สอง
พระองคอ์ อกมา
จากวงล้อมเร็วเข้า

การกระทำยุทธหัตถีจนมีชัยชนะเหนือพระอุปราชาทำให้ชื่อเสียง
ของพระนเรศวรขจรไกลไปทั่วทุกแห่งหนในดินแดนใกล้เคียง
ทุกคนแซ่ซ้องสรรเสริญเน่ืองจากการกระทำยุทธหัตถีน้ีถือว่า
เป็นยอดวรี กรรม ในการทำสงคราม

คำศพั ทค์ วรรู้

คำศัพท์ ความหมาย
ขัตติยมานะ ความถือตนว่าเป็นกษตั รยิ ์
ขัตตยิ ายุทธ์ การรบระหวา่ งกษตั ริย์
ขนุ เสียม กษตั ริย์ไทย
ครี ีเมขล์ ชอื่ ชา้ งของวสวตั ตีมาร (สหัสพาห)ุ มารทม่ี าผจญพระพุทธองค์ เพื่อไมใ่ ห้สำเรจ็ เปน็ พระ
สมั มาสัมพทุ ธเจ้า
พชั รินทร์ พระอินทร์
พริ าลยั ตาย ใช้กับเจา้ ประเทศราช สมเด็จเจ้าพระยา
พลุก งาช้าง
ลบอง แบบแผน แบบฉบั แต่ง ทำ
เลบง การเล่น การศึกถือเปน็ การกีฬาสำหรับกษตั ริย์
สมทิ ธมิ าตงค์ ช้างมีฤทธิ์ คอื ช้างเอราวณั ของพระอินทร์
ห้าว กร้าว แก่ กล้า มทุ ะลุ มเี สียงดงั

โคลง ๔

ราชาชัเยศอื้น โองการ

รงั สฤษฏ์พระสถปู สถาน ท่ีมลา้ ง

ขุนเข็ญคู่รำบาญ สวมศพ ไว้แฮ

หนตระพังตรุสร้าง สืบหลา้ แหล่งเฉลมิ

ร่าย เสด็จเร่ิมรณแล้วไซร้ ธให้เจ้าเมืองมล่วน ถ้วนท้ังคชหมอควาญ จำทูลสารเสียงรงค์

องค์อปุ ราชเอารส ขาดคอคชลาญชีพ รีบเรว็ ยาตรอย่าหึง ไปแจ้งอึงกฤษฎาการ แดม่ หิบาลผู้เผา้ เจ้าแผน่ ภพหง

สา แล้วธให้คลาพยหุ ทัพ กลบั คืนครองครอบเหล้า เถลงิ อยุธยเย็นเกลา้ ทัว่ ถ้วนทวยสยาม สน้ิ นา

โคลง ๔

กรุงรามฤทธ์ิเฟ่อื งฟ้า ฟภู พ

ตระบดั บพติ รปรารภ ชอบพน้

เจ้ารามราฆพ คงคู่ เสดจ็ นา

ตำแหน่งกลางชา้ งต้น ตอ่ ดว้ ยดัสกร

กุญชรวรพ่าห์ทา้ ย เถลงิ งาน

องค์อนชุ นฤบาล บนั่ เสี้ยน

ขุนศรีคชคงชาญ ชเั ยศ ย่งิ นา

สนองบาทยาตรยุทธ์เที้ยน เพอื่ นไทใ้ นรณ

สองผจญอรริ าชด้วย โดยเสดจ็

คุณขอบตอบบำเหน็จ ทา่ นให้

ครบเคร่อื งอปุ โภคเสร็จ ทกุ สิง่ สรรพแฮ

เงินและทองทาสใช้ อีกท้งั ทวยเชลย

แล้วเผยพจนารถซน้ั บรรหาร

ยกชอบกอบบำนาญ ที่มว้ ย

นายมหานุภาพควาญ กลางคช หนึง่ นา

หมืน่ ภักดีศวรด้วย ศกึ สู้เสียตน

บดั ดลดำรัสให้ ปูนยศ

ทรัพย์ส่ิงศรีสำรด ทว่ั ทั้ง

บุตรทารท่านแทนทด ความชอบ เขานา

สมทีภ่ ักดตี ั้ง ต่อเหงา้ เผ่าเฉลิม

ร่าย เพ่ิมบำเหน็จเสด็จไซร้ ธให้เชิญพระอัยการศกึ ปรึกษาโทษขุนทัพ สรรพท้ังมวลหมมู่ าตย์

ว่าอริราชริปู ยกหยหู เหยียบเขต ประเวศชานเวียงชัย พระบาทไทธทั้งสอง ปองพระศาสน์อำรุง ผดุงชมุ ชีทวชิ าติ

ทั่วทวยราษฎร์ประชา ไป่ระอาออกท้อ ข้อลำเค็ญพระองค์ ทรงพระอุตสาหภาพ เสด็จปราบราชอรี ปวงมนตรี

นายทัพ สรรพทุกตนทุกตัว กลัวอเรนทร์เหลือล้น พ้นย่ิงพระราชอาชญา ไป่ยาตราพลขันธ์ ทันเสด็จด้าว

รณรงค์ มลสารทรงสองเต้า เข้าท่ามกลางปัจนึก ถึงสู้ศึกหัสดี มีชัเยศเสร็จสรรพ โทษขุนทัพทั้งมวล ควร

ประการใดไสร้ โดยระบอบแบบไว้ แต่เบอื้ งโบราณ รีตนา

ฯลฯ

โคลง ๒

ถวายพพิ ากษาซ้นั ดำรัสโดยเหตุห้ัน

แหง่ เบอื้ งบันทึก โทษนา

คำนึงนึกบาปใกล้ วันบัณรสไี ซร้

จวบเขา้ ควรงด หน่อยนา

กำหนดพรุกเพญ็ แท้ พนั ธนาไว้แล้

ตรตุ รึ้งตรากขงั มน่ั นา

โคลง ๓

ตง้ั แตป่ าฏิบท ล่วงอุโบสถเสร็จแล้ว

เรง่ สฤษฏ์โทษอยา่ แคลว้ คลาดด้าวดำเนิน บทนา

ร่าย ไป่เกินกาลท่านสั่ง กระท่ังแรมสิบห้าค่ำ ย่ำสองนาฬิกาปลาย ทำงนงายพอเสร็จ

จึ่งสมเด็จพระวันรัต วัดป่าแกล้วแคล้วคลา กับราชาคณะสงฆ์ ย่ีสิบห้าองค์สองแผนก แฉกงาสานสรล้าย

ผ้ายลุยังวังราช พระบาทธให้นิมนต์ ดลเรือนรัตนมาฬก ตกแต่งอาสน์ลาดเจียม เตรียมเสร็จสงฆ์สู่สถิต

บพิตรกรกรรพุม ชุมบรรพชิตแช่มช่ืน ขุนชีอ้ืนอวยพร ถามข่าวจรจอมภพ ซ่ึงเสด็จรบพารณ จนอเรนทรพนิ าศ

ขาดคอคชในรงค์ จ่ึงพระองค์อิศเรศ บรรหารเหตุจำบัง จอมสงฆ์ฟังซั้นขาน พระราชสมภารมีชัย ใดทวยบาทมูลิกา

ต้องอาชญายินแหนง ตรัสแสดงโดยดับ ว่านายทัพท้ังผอง เกณฑ์เข้ากองพยหู ์ โยมสองตูต่อเข็ญ มันเห็นเศิกสระทก

ตระดกดาลระรัว ย่ิงกว่ากลัวสวามิศ บ่เต้าติดตูต้อย มละแต่ข้อยสองคน เข้าโรมรณราวิศ ในอมิตรหมูกลาง

แสนเสนางค์เนืองบร จนราญรอนไอยเรศ ลุชัเยศมฤตยู จึ่งได้ดูหน้ามัน เพ่ือมหันตบารเมศ เบ้ืองบุเรศบำรุง

ผดุงเดชเผือพ่ีน้อง ผิบพ้องบุญบูรพ์ ไอศูรย์ศูนย์เสียมภพ ตรลบเลื่องขามนามตะเลง ลือละเวงธาษตรี

เป็นธรณีหงสา เส่ือมกฤตยาสยามยศ สาหสหากมากมวล ควรลงทัณฑ์ถึงม้วย ด้วยพระอัยการศึก จารึกชื่อช่ัวฟ้า

ไว้เปน็ ขนบภายหน้า อยา่ ใหใ้ ครยล เยยี่ งนา

โคลง ๔

สมเด็จพนรัตเจ้า จอมชี

ฉลองพจน์ราชวาที ทา่ นไท้

ทวยทลู ละอองธุลี บัวบาท พระนา

พ้นื ภักดีต่อใต้ บทเบ้ืองเรณู

ดผู ิดไปร่ กั ท้าว ไป่ดกรง

แผกระบอบแต่เพลง หอ่ นพอ้ ง

พระเดชหากแสดงเอง อำนาจ พระนา

เสนอทุกทวยธเรศกอ้ ง เกียรตอิ ้างอัศจรรย์

พระตรีโลกนาถแผว้ เผดจ็ มาร
เฉกพระราชสมภาร พน่ี ้อง
เสด็จไรพ้ ิริยะราญ อรนิ าศ ลงนา
เสนอพระยศยนิ กอ้ ง เกยี รตทิ ้าวทุกพาย
โรมรอน
ผวิ หลายพยุหยธุ ์รา้ มั่วมล้าง
ชนะอมติ รมวลมอญ เจรญิ ฤทธิ์ พระนา
พระเดชบ่ดาลขจร เอิกฟา้ ดินไหว
ไปท่วั ธเรศออกอ้าง หฤทยา
แต่ก้ี
อยา่ ไทโทมนัสนอ้ ย ชมุ ช่วย พระเอย
เพอ่ื พระราชกฤษฎา ชเยศไวใ้ นสนาม
ทุกทวยเทพคณา
แสดงพระเดโชช้ี ขอบพิตรอย่าขอ้ ง
โคลง ๒ ทา่ นนา
ฤาสนเท่ห์เลห่ ์แล้
สมดั่งความตูพรอ้ ง น้ีนา
ขนุ่ แค้นเคืองกมล

โดยยบุ ลถ่องแท้
ถูกถอ้ ยแถลงการ

ร่าย ปางนฤบาลบดินทร์ ยินสมเด็จพระวันรัต จำแนกอรรถบรรยาย ถวายวิสัชนาสาร
โดยพิสดารพรรณนา เสนอสมญายศโยค พระบรมโลกโมลี ด้วยวิธีอุปมา แห่งกฤษฎาภินิหาร ดาลมนัสชุ่มชื้น
ตน้ื เต็มปรดี ิ์ปราโมทย์ โอษฐ์ออกอื้นสาธู ชูพระกรกรรพุม ชุมทศนัขเหนือผาก เพื่อยินมลากเลอมาน เจ้ากูขาน
คำขอบ ชอบทุกสิ่งจรงิ ถอ้ ย ชอบทุกสง่ิ จรงิ ถอ้ ย ถวลิ บ่แหนงหน่ึงน้อย แน่แท้ทางแถลงแลนา

โคลง ๔ ในมนัส
แจง้ เหตุแห่งเหอื ดข้ึง ป่าแกว้
สว่างโทษ ท่านนา
จึ่งพระวันรัตวดั ผ่องพ้นอันตราย
ถวายพรบวรศรีสวัสดิ์
นฤทุกข์นฤภยั แผว้

ท้ังหลายทวยบาทเบอ้ื ง บงกช
ควรโคตรโทษสาหส อะคร้าว
แตท่ ลู ธุลบี ท สนองบาท มานา
เพรงพระอัยกาท้าว ตราบไท้พระเจ้าหลวง
เถลงิ ถวัลย ราชย์ฤๅ
ลว่ งถงึ บพิตรผู้ สบื สรา้ ง
คอื พทุ ธบรรษัทสรรพ์ ทวยโทษ นี้นา
เชิญงดอดอวยทัณฑ์ หน่ึงครง้ั ขอเผือ
เลยอยา่ ลาญชีพมล้าง จอมปราณ
ใหมแ่ ม้
ไวเ้ พื่อผดงุ เดชเจา้ เพญ็ ภพ พระนา
ก่อเกดิ ราชรำบาญ ชอบได้ไปม่ ี
พนู เพ่มิ พระสมภาร
วายบ่หวงั ตนแก้

ร่าย นฤบดีดาลสดับอรรถ ซ่ึงพระวันรัตภิปราย ถวายพระพรอายาจน์ โทษมวลมาตย์ทุกมุล
เพ่ือการรุญบริรักษ์ ภักดีในบาทบงส์ุ จึ่งพระองค์อนุญาต พระราชทานโทษทั้งผอง โดยอันครองคงยศ
บรรหารพจนพาที ซ่ึงเจ้าชีขานขอ ข้อยยกยอโทษให้ แต่ชอบใช้ไปรอน เอานครตะนาวศรี บุรีทวายมริด
ถ่ายหนผิดหาชอบ ขุนสงฆ์ตอบคำขาน ข้อโรมราญราวิศ ไป่เป็นกิจตูตาม ใช่เง่ือนงามบรรพชิต โดยบพิตรอัธยา
เพื้องบัญชาเชิงใช้ ขอลาไท้ลีลาศ ยังอาวาสเวียงวัด ตระบัดท่านจรสี พาพ่ือนชีอะคร้าว คืนสู่ด้าวอาราม
เจ้าจอมสยามเสาวนีย์ เนืองมนตรีพ้นโทษ โปรดให้เนาตำแหน่งแห่งฐานันดรยศ พระราชกำหนดโดยดับ
ทัพเจ้าพระยาพระคลัง รังพลห้าหม่ืนเสร็จ เห็จไปโหมเวียงทวาย หมายเจ้าพระยาจักรี พรักพิรีย์เทียมทัด
รัดไปโรมตะนาวศรี ตีมริดเวียงชัย จึ่งชไมมาตยา บังคัลลายาตรพยู่ห์ สู้แดนเศิกโดยปอง ป่ินเสียมสองสุริยชาติ
ตรัสพิภาษพจนา ซ่ึงอุตรานคเรศ เขตสีมาเมืองออก เลิกครัวครอกมาหมาย หมายบ่หมดทั้งผอง ตริไตรตรองคราวศึก
เสื่อมหาญฮึกแบ่งเบา จักโรมเราฤๅย่อน ฝีมือม่านมอญมวล ควรผดุงชนบท ปรากฏเกียรติยืนยง คงคู่กัลป์ประลัย
เฉลมิ แหลง่ ไผทท่วั ด้าว แสดงพระยศไทท้าว ธิราชไว้ไปว่ าย นามมา

ฯลฯ

โคลง ๔ จอมอยธุ ยาเอย
เสร็จแสดงพระยศเจ้า เทพไท้
เกศกษัตรยิ ์ สยามฤๅ
องค์อดิศรสมมุติ ฟากฟ้าดนิ เฉลมิ
นเรศวรรตั นมกุฎ อรรถา แถลงเอย
หวงั อย่คู ธู่ เรศไว้ เก็บร้อย
ธิปผ่าน ภพฤๅ
รังเริ่มรจเรขอ้าง ถ่องแทแ้ ลฉงาย
เสมอทพิ ยมาลย์ผกา สมญา ไว้แฮ
ฉลองบทรชั นรา เรอื่ งรู้
โดยบ่เชยี่ วเชลงถ้อย ชเั ยศ พระเอย
ศกึ ชา้ งกลางสมร
บรรยายกลกาพยแ์ สรง้ พิจารณ์ เทอญพ่อ
สมลักษณ์เล่ห์เสาวนา เหตดุ ้วย
“ตะเลงพ่าย” เพอื่ ตะเลงปรา เจริญรอด หงึ แฮ
เสนอฤทธสิ์ องราชสู้ อรรถอ้ืนอัญขยม

อวยพรคณะปราชญ์พรอ้ ม
ใดวิรุธบรรหาร
จงเฉลิมแหลง่ พสธุ าร
มลายโลกอย่ามลายม้วย

กรมหมื่นนุชิต เชื้อ กววี ร
ชโิ นรส ม่ิงมหิศร เสกให้
ศรสี ุคต พจนสุนทร เถลิงลักษณ์ น้ีนา
ขตั ตยิ วงศ์ ผจงโอษฐ์ไว้ สบื หลา้ อย่าศูนย์
ฯลฯ
ผิววงวา่ ยวฏั เว้งิ วารี โอฆฤๅ
บลุโลกุตรโมลี เลศิ ลน้
จงเจนจิตกวี วรวากย์ เฉลยี วเอย
ตราบลว่ งบ่วงภพพน้ เผดจ็ เสี้ยนเบยี นสมร
ฯลฯ

พระนเรศวรทรงสร้างสถปู และปนู บำเหน็จทหาร

สมเด็จพระนเรศวรทรงมีพระบรมพระราชโองการใหส้ ร้างสถูปสวมพระศพ
พระมหาอปุ ราชาไว้ ณ สถานทีก่ ระทำยทุ ธหัตถที ีต่ ำบลพงั ตรไุ ว้เป็นอนสุ รณ์แผ่นดินสบื ตอ่ ไป

สมเด็จพระนเรศวรทรงปนู บำเหน็จนายทหารท่ีตามเสด็จ คือ เจ้า

รามราฆพ ควาญช้างพระนเรศวร และขุนศรีคชเดช ควาญชา้ งพระ

เอกาทศรถทัง้ สองได้รบั บำเหน็จตอบแทนด้วยเคร่ืองอปุ โภค เงนิ

ทอง ทาส และเชลยไว้รับใช้ และประทานบำนาญให้แกน่ ายมหานุ

ภาพและหม่ืนภักดศิ วร

ซึ่งเสยี ชวี ิตในการรบ รบั ด้วยเกล้าพะยะค่ะ
โปรดพระราชทานยศ

และทรพั ยแ์ ก่

บตุ รภรรยาเป็น

การตอบแทน

ปูนบำเหนจ็ แก่ผมู้ ีความชอบแล้วได้ลงโทษแมท่ พั นายกองตามกฎ
อยั การศึก ทีป่ ลอ่ ยให้พระองคฝ์ ่าเข้าไปอยู่ท่ามกลางข้าศกึ ตาม
ลำพงั ฟังเหน็ พ้องตอ้ งกันว่าต้องประหารชีวิต

ทหารนำตัว ขอพระองค์
แม่ทพั ไปจำคุก ได้โปรดไวช้ ีวติ ข้า
พน้ วันพระแลว้ นำ ด้วยเถดิ พะยะค่ะ
ตัวไปประหาร

สมเดจ็ พระวนั รัตขอพระราชทานอภยั โทษ

ยงั ไมพ่ ้นเวลาท่ีสมเด็จพระนเรศวรทรงกำหนดไว้ประหาร แม่ทพั สมเดจ็ พระวนั รัตวัดป่าแก้ว
กับพระราชาคณะ ๒๔ องคส์ องแผนกคือฝ่ายคามวาสีและอรญั วาสี พากันไปยงั
พระบรมมหาราชวงั สมเดจ็ พระนเรศวรรบั สงั่ ให้นิมนตเ์ ขา้ ไปในท้องพระโรง

พระมหาบพิตรพระราชสมภารเจา้ ทรง
ไดร้ ับชัยชนะเหตุใดเล่าเหลา่ บรพิ าร
จงึ ต้องโทษแมท่ พั นายกองได้รบั เกณฑ์
เข้าในกองเมอ่ื เห็นขา้ ศกึ กต็ กใจกลวั ย่ิง
กวา่ กลัวพระองค์ซ่ึงเป็นเจา้ นายไม่ตาม
เสด็จใหท้ นั ปล่อยให้พระองค์ทง้ั สองสู้
รบทา่ มกลางข้าศกึ

บรรดาขา้ ทูลละอองทุลีพระบาทลว้ นมีความจงรกั ภักดี
ทัง้ นี้พระบรมเดชชานุภาพสำแดงให้ปรากฏแกป่ วงชน
สมเด็จพระสัมมาสมั พทุ ธเจ้าทรงชนะพระยามารลำพัง
พระองคเ์ องเชน่ เดยี วกับสมเด็จพระนเรศวร พระเอกาทศรถ
เสดจ็ ไปปราบอริราชศตั รูจนพ่ายแพ้โดยปราศจากศัตรูขอ
มหาบพิตรทงั้ สองพระองค์อย่าได้ขุ่นแคน้ พระทยั

สมเด็จพระนเรศวรไดท้ รงฟังพระวันรัตถวายวิสัชนาบรรยายโดยพสิ ดารโดยวธิ เี ปรยี บเทียบกับ
อภนิ หิ ารแห่งสมั มาสัมพทุ ธเจ้ากท็ รงปราโมทยอ์ อกพระโอษฐ์สาธุถวายนมสั การ แลว้ ตรัสวา่
พระวันรตั กล่าวคำนา่ ขอบใจ ทกุ ส่งิ ทช่ี ้แี จงสมควร และเปน็ จริงไมส่ งสยั แม้แตน่ อ้ ย พระองค์
ทรงพระราชทานอภยั โทษ แต่สมควรใหไ้ ปตเี มอื งตา่ งๆแทน

ใบกิจกรรมที่ ๖.๑

คำช้แี จง: ใหน้ ักเรยี นอธิบายภาพพจนท์ ่ีเกดิ จากการอ่านคำประพนั ธท์ ี่กำหนดให้ต่อไปน้ี

๑. พระพพี่ ระผ้ผู า่ น ภพอุต- ดมเฮย
ไป่ชอบเชษฐย์ ืนหยุด ร่มไม้
เชิญราชรว่ มคชยุทธ์ เผยอเกียรติ ไว้แฮ
สบื กว่าสองเราไซร้ สุดสน้ิ ฤามี

ภาพพจน์ท่ีเกิดจากการอ่าน

...................................................................................................................
...................................................................................................................
...................................................................................................................
...................................................................................................................

......................................................................

๒. คชยานขัตตเิ ยศเบอื้ ง ออกถวัลย์

โถมปะทะไป่ทนั เหยียบยงั้

สารทรงราชรามญั ลงลา่ ง แลนา

เสยส่ายทา้ ยทนั ต์ทั้ง คู่คำ้ คางเขนิ

ภาพพจนท์ ่ีเกดิ จากการอา่ น

..........................................................................................................................
..........................................................................................................................
..........................................................................................................................
..........................................................................................................................
..........................................................................................................................

ใบกจิ กรรมที่ ๖.๒

คำชแี้ จง: ให้นักเรยี นวาดรปู การทำยุทธ์หตั ถี ระหวา่ งสมเดจ็ พระนเรศวรและพระมหาอุปราชาในอริ ยิ าบถใดก็
ได้ตามจนิ ตนาการพร้อมทั้งอธิบายประกอบ

รปู ภาพสงครามยุทธหัตถี

อธิบาย

…………………………………………………………..……………………………………………
……………..…………………………………………………………..………………………………
…………………………..…………………………………………………………..…………………
………………………………………..………………………………………………………………
……..........................................................................................................................................
.................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................


Click to View FlipBook Version