The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รู้คิดแปลความ ตีความตามเนื้อหา

ilovepdf_merged

Keywords: อ่านแปลความ,ตีความ

ชดุ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองประกอบการต์ นู เรอ่ื ง ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕

ในยุคแห่งการแสวงหาข้อมูลความรู้เอกสารประกอบการเรียนรู้ของนักเรียนมีมากมายทั้งนี้เพราะ
เอกสารต่าง ๆ คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ในอนาคต ครูจึงจัดทำชุดการสอนประกอบการ์ตูน
เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย นี้ขึ้นโดยได้นำสาระความรู้มาผูกเรื่องราวเป็นการ์ตูนประกอบที่สนุกสนาน เพื่อให้นักเรียน
เข้าใจง่าย นักเรียนจะได้ซึมซับสาระความรู้ผ่านความบันเทิงจากบทสนทนาของตัวละครในการต์ ูนภายในเล่ม ซึ่ง
ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองประกอบการ์ตูน เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ใช้
ในการเรยี นการสอนวชิ าภาษาไทย ท๓๒๑๐๒ มีทัง้ หมด ๗ เลม่ ดงั นี้

เลม่ ที่ ๑ เรอื่ ง ภูมิหลงั น้นั สำคัญไฉน
เลม่ ท่ี ๒ เรอื่ ง ภาษาไทยไพเราะเพราะลิลติ
เลม่ ท่ี ๓ เรือ่ ง รู้คิดแปลความ ตคี วามตามเนือ้ หา
เล่มที่ ๔ เรือ่ ง ภาษาถอดความงดงามนัก
เล่มท่ี ๕ เรอื่ ง รหู้ ลักสรา้ งสมาส-สนธคิ ำ
เล่มท่ี ๖ เร่อื ง เนอื้ หานำทางสรา้ งความคิด
เล่มที่ ๗ เร่ือง พนิ ิจคณุ คา่ ภาษาศลิ ป์
ครูหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองประกอบการ์ตูน เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่ายจะสามารถจุด
ประกายใหน้ ักเรยี นไดใ้ ฝห่ าความรเู้ พม่ิ เตมิ เก่ียวกบั การอา่ นวรรณคดีตอ่ ไป

ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวัง

เมือ่ ศึกษาชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเองประกอบการ์ตูน เรื่อง ลิลิตตะเลงพา่ ย ผู้เรียนสามารถ
แปลความลิลติ ตะเลงพ่ายได้ บอกความหมายคำศพั ทใ์ นบทเรียนและอา่ นทำนองเสนาะลิลิตตะเลงพา่ ยได้

สาระสำคญั

การอา่ นแปลความคือการเปล่ียนแปลงจากความหนึ่งไปสอู่ ีกความหนง่ึ โดยแปลงเรือ่ งที่ได้อา่ นหรือได้ฟงั
ออกมาเป็นคำพูดใหม่หรอื เปน็ ถ้อยคำใหม่ โดยยังคงรักษาเนือ้ ความที่สำคัญของเรื่องเดมิ ไว้อย่างครบถ้วน

การแปลความจะไมค่ ำนึงถึงรูปแบบแผนเดิมของขอ้ ความ

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิดไปใช้ตดิ สนิ ใจแก้
ปัญหาและสร้างวิสยั ทัศน์ในการดำเนินชีวิต และมนี ิสยั รักการอ่าน

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นำมาประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจรงิ

แฟนพันธล์ ลิ ิตตะเลงพา่ ย
เลยนะเอกพลเพอ่ื นเรา

เอก เดี๋ยวนี้เกง่ จงั เลยตั้งใจเรียนมากดว้ ย เย้...จริงเหรอ
นี่รู้ไหม การอา่ นแปลความ ตีความ
เปน็ การอ่านทที่ ำให้เราเขา้ ใจวรรณคดไี ด้
ลกึ ซ้งึ มาก ๆ เลยนะ

ฉนั ก็สนใจนะ แตไ่ มร่ ู้ ไม่ เป็ น ไร ห ร อ ก เด๋ี ย ว กั น ย า ช่ ว ย
จะเริม่ ต้นยงั ไง อา่ นก็ ค้นควา้ และอธิบายให้เอกฟงั เองนะ
ไม่คอ่ ยเข้าใจด้วย มาทางนเ้ี ร็ว

ใบความรทู้ ่ี ๔.๑ เรื่อง การอา่ นแปลความ ตคี วาม

การแปลความ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ.๒๕๒๕ (๒๕๒๕:๕๔๐)ให้
ความหมายว่า "แปล" ไวว้ ่า "ก.ถา่ ยความหมายจากภาษาหนง่ึ ทำให้เขา้ ใจความหมาย
“ เป็นการแปลเจตนา และรู้ความหมายของเร่อื งราวน้ัน และ

สามารถถ่ายทอดใหผ้ ู้อ่ืนเข้าใจไดด้ ้วยถ้อยคำใหม่ สำนวน
ใหม่

ต่อ

ตงั้ ใจฟังนะ ไดอ้ ยูแ่ ลว้
ดใู นหนังสอื ขอบใจนะ
เล่มนี้ด้วย กันยา

การอ่านแปลความเป็นการอ่านที่มุ่งให้เกิดความเข้าใจกับเน้ือหา เร่ิมจากการแปลคำหรือศัพท์ที่ไม่รู้
ความหมายหรือเป็นการแปลศัพท์จากภาษาหน่ึงไปยังอีกภาษาหน่ึง การถอดคำประพันธ์ แปลความหมายรูปภาพ
เครอ่ื งหมายต่าง ๆ เช่น

หน้าวงั หรอื จะส่ังดว้ ยนะนก ในแนบอกของพว่ี ่าโหยไห้
มทิ ันสั่งสกุณินก็บินไป ลงจับใกล้นกตะกรุมริมวมุ้ วน

➢ คำทข่ี ดี เสน้ ใตต้ ามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถงึ นก ต่อ

การตีความ การอ่านท่ีพยายามหาสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในข้อเขียน
หรืออากปั กิริยาท่าทาง สีหน้า แววตา น้ำเสียง เพื่อทราบความหมาย
หรือเจตนาท่ีแท้จริงที่แฝงเร้นอยู่ ถ้าเป็นการส่ือความธรรมดาก็คงไม่
ตอ้ งตีความ แต่ถ้าอากัปกิริยาท่าทางกับคำพูดขดั แย้งกัน ผู้อ่านจะต้อง
ค้นหาความจรงิ ว่า เจตนาท่ีแทจ้ รงิ หมายถึงอะไรแน่การตีความควรจะ
ตีความท้ังดา้ นเนอื้ หาและดา้ นนำ้ เสียงควบคู่กันไป เชน่

ต่อ

ตัวอย่างท่ี ๑

"ตำนำ้ พริกละลายแม่นำ้ ””

ตคี วามด้านเน้อื หา : น้ำพรกิ ที่มปี ริมาณนอ้ ย เมื่อตำแล้วเทละลายลงแม่น้ำ
ย่อมสูญเปล่า เพราะไม่เกิดรสชาติใดๆเปรียบไดก้ ับการทำอะไรก็ตามแล้วสูญเปล่า

ตีความดา้ นน้ำเสียง : เตือนสตคิ นเราวา่ การจะทำอะไรต้องประมาณตนวา่
ส่ิงทท่ี ำลงไปนั้น จะไดผ้ ลคุ้มคา่ หรอื ไม่

ตอ่

ตัวอยา่ งท่ี ๒

เหมอื นบายศรีมีงานท่านถนอม เจมิ แปง้ หอมนำ้ มันจันทน์ให้หรรษา

พอเสร็จงานเขาเอาทิ้งลงคงคา ต้องลอยมาลอยไปเป็นใบตอง

(นิราศพระบาท - สุนทรภ)ู่

ตีความด้านเน้อื หา : สนุ ทรภเู่ ปรียบเทียบวา่ ชีวติ คนเราน้นั เหมือน
บายศรี เวลามีงานก็จะถนอมเปน็ อยา่ งดี แต่พอเสร็จงานกไ็ ม่มปี ระโยชน์ ไม่มี
คุณค่ากจ็ ะกลายเปน็ เพียงเศษใบตองเทา่ น้นั

ตีความด้านน้ำเสียง : สนุ ทรภตู่ อ้ งการสะทอ้ นให้เห็นถึงชีวิตทผี่ ันแปร
ของคน ซึง่ เม่อื ก่อนเคยมีความสุข มีคนยกยอ่ งให้เกยี รติ แตบ่ ัดนี้ตอ้ งมาพบ
กับความทุกข์ ความขมข่ืนตามลำพงั

สรุปผลการตีความ : ใช่แล้วเก่งมาก น่ีแสดงว่าเอกเข้าใจ
เตอื นใจให้ผ้อู ่านไดย้ ั้ง ความหมายของการแปลความและตีความ
คิดถึงชีวิตของคนวา่ แล้ว ต่อไปมารู้จักอีกคำหนึ่งคำ คือ
ทุ ก อ ย่ า ง ไ ม่ แ น่ น อ น การขยายความ
พึงเตรยี มใจไว้สำหรบั
สัจธรรมข้อนด้ี ว้ ย ต่อ

การขยายความคอื
การนำรายละเอียดมาพูดหรืออธิบายเสริมความคิดหลักหรือ

ประเด็นสำคัญของเร่ืองให้ชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้น อาจเป็นการให้ข้อมูล
เพ่ิมเติมให้เหตุผลยกตัวอยา่ งประกอบ หรือมีการอ้างอิงเปรียบเทียบให้
ได้เนอ้ื ความกว้างขวางออกไป จนเป็นท่ีเข้าใจชดั เจนย่งิ ข้นึ เชน่

ความโศกเกิดจากความรกั ความกลวั ก็เกิดจากความรัก ผทู้ ี่ละ
ความรักเสยี ไดก้ ็ไม่โศกไม่กลัว

(พุทธภาษติ )

ต่อ

ขยายความได้ว่า
เม่ือบุคคลมีความรักต่อสิ่งใด หรือคนใด เขาก็ต้องการให้

สงิ่ นนั้ คนน้นั คงอยู่กบั เขาตลอดไป มนุษยโ์ ดยทั่วไปยอ่ มจะกลัวว่า
ส่ิงน้ันหรือคนท่ีตนรักจะสูญหายหรือจากเขาไป ด้วยธรรมดาแล้ว
ทุกส่ิงทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงสูญสลายไปตามสภาพการณ์
ถ้าบุคคลรู้ความจรงิ ขอ้ นี้ เขาก็จะไมโ่ ศกไมก่ ลัวต่อไป

เย้ ๆ ๆ
ฉันได้ความรู้เยอะแยะเลย
เย่ียมมากกนั ยา เราไปอา่ นลิลิตตะเลง
พ่ายตอนท่ี ๔,๕,๖ กนั ตอ่ ดกี ว่า

ทำไมตอ้ งดใี จขนาดนัน้ ด้วยนา้

โคลง ๔ บรู พา ภพแฮ
ปางน้นั นฤเบศเบื้อง ย่ิงผู้
ฆพเข่น เข็ญเฮย
เฉลมิ พิภพอโยธยา เรง่ ร้าวราญสมร
พระเดชดัง่ รามรา โรงธาร ท่านฤๅ
ออกอเรนทรร์ ั่วรู้ มาศแต้ม
กราบแน่น เนืองนา
ภธู รสถิตท้อง โอษฐเ์ อื้อนปราศรัย
เถลิงภิมุขพิมาน ทวยชน
มนตรีชุลีกราน แกท่ า้ ว
บดั บดีศวรแยม้ โดยเย่ยี ง ยุกด์นิ า
ราษฎร์ร้อนหอ่ นมี
ไต่ถามถึงทุกข์ถอ้ ย การยทุ ธ์
ตา่ งสนองเสนอกล แผน่ โพน้
พระดดั คดีดล ดมโชค ชัยนา
เยน็ อุระฤๅรา้ ว แน่นนั้ วันเมอื
ทางชลา
นฤบดดี ำรสั ด้วย ปกั ษ์ใต้
ซึง่ จกั ยอกมั พุช นีมาศ เมืองเฮย
พลบกยกเอาอุต เร่งลอ้ มขอมหลวง
นับดฤษถนี ้ีโน้น อสั ดง
ร่วั หลา้
พลเรือนพลรบท้อง ควรคู่ เขญ็ แฮ
เกณฑแ์ ต่พลพารา ทัพข้อยคืนถึง
ไปตีพทุ ไธธา
ตปี า่ สกั เสร็จให้

พระห่วงแต่ศกึ เสี้ยน
เกรงกระลบั ก่อรงค์
คือใครจักคุมคง
อาจประกนั กรุงถา้

พระพึงพิเคราะห์ผู้ ภกั ดี ทา่ นนา
คอื พระยาจกั รี กาจแกลว้
พระตรัสแด่มนตรี มอบมง่ิ เมืองเฮย
กจู ักไกลกรุงแก้ว เกลือกช้าคลาคืน
ตกไถง
เยียวพื้นภพแผน่ ดา้ ว เพิม่ พอ้ ง
รพิ บิ ัติพูนภัย ครอเคร่า กเู ฮย
สกู ันนครใจ ปกหลา้ แหล่งสยาม
กูจกั พลันคืนปอ้ ง เสียที
ห่อนชา้
สงครามพง่ึ แผกแพ้ มาขวบ นี้เอย
แตกเมื่อต้นปไี ป แนแ่ ท้กูทาย
บรา้ งกระลบั มี บรรหาร หนเฮย
มีก็มปี หี น้า ใส่เกล้า
จนถบั ถงึ แฮ
ท้งั หลายสดับถ้อยท่าน บอกเบอ้ื งเคืองเข็ญ
ยงั บ่เยอื้ นสนองสาร
บัดทตู นครกาญ ซึ่งบดนิ ทร์ดาลได้
พระยาอมาตยน์ ำเฝ้า
แถลงยุบลเหตหุ ้าว
โคลง ๒ แลนา
พระเปรมปราโมทย์ไซร้

สดบั เบื้องบอกรงค์
ธให้หาองค์น้องท้าว

ท่านแจ้งทกุ อัน

สมเดจ็ พระนเรศวรทรงปรารภเรอื่ งตีเมอื งเขมร
ขา้ งฝ่ายไทยนบั แตพ่ ระนเรศวรตีทัพพมา่ แตกพ่ายกลับไปในปี ๒๑๓๔ พระนเรศวรจงึ มแี ผนการยกทพั ใหญ่ไปตี
เขมรให้ส้ินซาก

เตรียมระดมพล
เราจะตีเขมรในเดือนย่ี

วา่ งจากศึกมอญคราวน้เี หน็ ที น้องเห็นสมควรหากปลอ่ ยไว้
ต้องกำจัดเขมรให้สิ้นซาก นานก็ยง่ิ เป็นภัยต่ออยุธยา

พระนเรศวรห่วงศึกมอญเกรงวา่ จะยกทัพมาตกี รุงศรอี ยุธยาจึงมอบหมายใหพ้ ระยาจกั รีเปน็ ผ้ดู แู ล
กรงุ ศรอี ยุธยาในระหว่างที่พระองคท์ ำศึกกบั เขมร

พะยะคะ่

เจา้ จงต้ังใจรักษาเมอื งไว้
แลว้ ข้าจะรบี กลบั มาปกป้อง

แผ่นดนิ สยามโดยไว

พระยาจกั รี

สมเดจ็ พระนเรศวรทรงเตรียมการส้ศู ึกมอญ

พระนเรศวรยึดแบบแผนการรบคือการใช้กำลังส่วนน้อยคอยซุ่มโจมตีตัดเส้นทางลำเลียงเสบยี ง

กองทพั มอญอยู่นนั่
ไง!!

ระหว่างน้ันทางกรุงศรีอยุธยาก็ได้รับข่าวจากเมืองกาญจนบุรีว่า พม่ากรีธาทัพใหญ่เข้ามาทางด่าน
เจดีย์สามองค์ตั้งค่ายอยู่บริเวณเมืองสุพรรณบุรีทางด้านเหนือก็มีข่าวแจ้งมาจากหัวเมืองฝ่ายเหนือว่า
กองทัพพมา่ ส่วนหน่งึ เดนิ ทางมาสมทบกับทัพเชยี งใหมแ่ ละกำลังมุง่ หน้ามาส่กู รุงศรอี ยธุ ยาเชน่ กนั

พ่ายกลบั ไปยังไม่
ทันไรกห็ วนกลบั มาอีก

ช่างไม่เข็ดเสียจริง

เหตุการณ์เปน็ เช่นนี้ รบี สัง่ การให้
เหน็ ทีต้องยบั ยัง้ แผนการ ทกุ คนเตรียมพรอ้ ม
ปราบเขมรไวก้ ่อน เราจะนำทหารไป

ตอนนี้กำลงั ทหารของเราตง้ั อย่ทู ีใ่ ด ทำศึกท่ีวิเศษ
อย่ทู ท่ี ุ่งบางชวด ไชยชาญ
พะยะคะ่

ต้องรบี ตัดสะพานเด๋ียวทัพมอญ
ข้ามมาได้อยธุ ยาตอ้ งแยแ่ น่ๆเลย

พระยาศรีไสยณรงคเ์ ป็นแม่ทพั พระยาราชฤทธานนท์เป็นยกกระบตั รคุมกำลงั พล ๕๐,๐๐๐ คน
ท่รี วบรวมไดจ้ ากหัวเมืองต่างๆขดั ตาทัพขา้ ศึก

แผนการขัดตาทพั ขา้ ศกึ ของเรา
ต้องสำเร็จเป็นแน่เพราะกำลงั
พลที่รวบรวมไดไ้ มใ่ ช่น้อยเลย

คำศัพท์ควรรู้

คำศพั ท์ ความหมาย
กระลบั
ครอเคร่า กลบั
ตกไถง คอย
ตะวันตก
ปราโมทย์
มนตรี บันเทงิ ใจ ปลื้มใจ
เยีย่ งยุกด์ิ ทป่ี รึกษา ผ้แู นะนำ ท่ปี รึกษาราชการ ข้าราชการช้นั ผู้ใหญ่
ออกอเรนทร์ ยุตธิ รรม
อสั ดง ศัตรทู างทศิ ตะวันออก คือ เขมร
ทิศตะวันตก

ร่าย แล้วธบรรหารตระบัด ว่าเราจัดจตุรงค์ จะไปยงยอยุทธ์ ยังกัมพุชพารา ศึกมอญมาชิงควัน

กันบให้ไปออก บอกให้เต้าโดยตก ควรจกั ยกไปยุทธ์ เป็นมหุสสวมหันต์ ปันเอาชัยชิงชีน แล้วธก็อื้นออกพจน์

พระราชกฎประกาศ แก่เมืองราชบุรี เกณฑ์โยธีห้าร้อย คะค้อยไปซุ่มซ่อน ดูศึกผ่อนพลเดิน ผ่านลำกระเพิน

โดยสะพาน เพ่งพลหาญเห็นเสร็จ ให้ระเห็ดเข้าห่ัน บ่ันเรือกขาดเป็นท่อน ค่อนพวนขาดเป็นทุ่น เถกิงกราน

กรุ่นพลวกเผา อยา่ ให้เขาจับได้ เขากระทำด่งั ให้ ธิราชเออ้ื นโองการ ส่ังนา

โคลง ๔

นฤบาลสารเสร็จอ้าง ไป่ทนั หึงแฮ

ถับทูตทุกเขตขัณฑ์ ดา่ นด้าว

สงิ ห์สรรค์สุพรรณบรร ลถุ ่ิน ท่านนา

เขาเร่งนำเฝ้าท้าว ถัง่ ถ้อยแถลงทลู

บดศี ูรสั่งให้อ่าน สารา

พระราชรบั บญั ชา ท่านไซร้

แถลงลักษณะทุกธา นบี อก มานา

เสนอยบุ ลข่าวใกล้ ศึกตง้ั ในแดน

บัดมอญแล่นม้าลาด เลยแขวง

วิเศษชัยชาญแสดง ขา่ วซ้ำ

เขานำอักษรแถลง ถวายดับ นัน้ นา

พระเร่งชื่นฤๅช้ำ ท่ขี อ้ เข็ญความ

จอมสยามขานศึกไซร้ ไปม่ ี

บานกมลเปรมปรดี ิ์ ปราบเสย้ี น

สองสรุ ิยกษัตรีย์ ตรัสต่อ กันแฮ

ห่าเลศมลายศึกเหี้ยน หนั่ ห้าวหายคม

สมเด็จผายโอษฐ์อื้น ปรึกษา

แด่ภิมขุ มาตยา ทวั่ ผู้

จกั โรมอริรา มญั เม่อื นีแ้ ฮ

รบั ทถี่ ่ินฤๅสู้ นอกไซร้ไหนควร

ท้งั มวลหมู่มาตยซ์ อ้ ง สารพลัน
ทูลพระจอมจรรโลง เล่อื งหล้า
แถลงลักษณะปางบรรพ์ มาเทยี บ ถวายแฮ
แนะทีค่ วรเสด็จคา้ เศกิ ไซรไ้ กลกรุง
ทูลถวาย
โทไทท้ รงสดบั ถ้อย โอษฐ์พร้อง
ถูกหฤทยั ทา่ นผาย เหมอื นตริ ตูนา
สูตริก็ตรงหมาย ต่อนำ้ ใจตู
ตริบ่ตา่ งกันต้อง โยธี ทัพแฮ
เรียกได้
ภูธรสัง่ ให้เทยี บ ไตรตรวจ เอานา
ห้าหม่นื หมายบัญชี เตรยี บตั้งต่อฉาน
เกณฑเ์ มอื งจตั วาตรี อาจอง
ยีส่ บิ สามเมอื งใต้ ฤทธห์ิ า้ ว
ไปยั่ว ยุทธแ์ ฮ
บรรหารใหจ้ ดั ผู้ ออกรา้ รอนเขญ็
เอาพระศรีไสนรงค์ ขุนพล
เปน็ จอมพยุหยง จ่ึงใช้
นำนกิ รทัพทา้ ว หนงึ่ ช่วย กันนา
ศึกสู้ทง้ั สอง
พระเห็นจักเปลีย่ วขา้ ง เสร็จสาร สั่งแฮ
เยียวบ่มีเพื่อนผจญ หกั กล้า
พระราชฤทธานนท์ มันรอด ไซร้ฤๅ
เป็นปลดั ทพั ให้ ศกึ ร้ายภายหลงั
ทูลลา แลเฮย
กองหนา้ นฤนาทต้งั ยา่ งยา้ ย
เร็วเรง่ ห้ำหัน่ หาญ วายถ่ิน
บ่แตกบ่ต้านทาน ทงุ่ กวา้ งทางหลวง
กจู ักออกโรมร้า กลางสมร
ศกึ ตัง้
ทงั้ สองรบั ถ้อยท่าน ตา่ งร่ืน เรงิ แฮ
ยกพยหุ แสนยา อยถู่ ้าทางเขญ
โดยแดนทรุ าธวา
ถงึ ทห่ี นองสรา่ ยท้าย

ปวงทัพปลกู คา่ ยสรา้ ง
ภมู ิพยุหไกรสร
เสนาพลากร
คอยจักยอยทุ ธย์ ง้ั

ฝา่ ยไทย

สองวันต่อมาก็มาถงึ ตำบลหนองสาหร่ายริมลำนำ้ ทา่ คอยเร่งประชุมแมท่ ัพนายกอง
เพื่อหาทางรบั มอื ศกึ พม่า

สมเดจ็ พระนเรศวร
พระเอกาทศรถ
ทรงปรึกษาและวางแผน
ทำการศึกกบั พม่า

การจัดทัพเปน็ ขบวนเบญจเสนา๕ทัพ
ทัพที่ ๑ กองหนา้ พระยาสหี ราชเดโชชยั เปน็ นายทัพ พระพิชัยรณฤทธิ์ พระยาวชิ ิตณรงค์
ทพั ที่ ๒ กองเกยี กกายพระยาอรชุนเป็นนายทัพ พระยาพิชยั สงคราม พระยารามคำแหง
ทัพที่ ๓ กองหลวงพระนเรศวรทรงเปน็ จอมทัพ สมเดจ็ พระเอกาทศรถ เจ้าพระยามหาเสนา
ทัพท่ี ๔ กองยกกระบัตรพระยาคลังเป็นนายทัพ พระราชสงคราม พระรามรณภพ
ทพั ท๕่ี กองหลงั พระยาน้ำเป็นนายทัพ หลวงหฤทัย หลวงอภัยสุรินทร์

คำศัพท์ควรรู้

คำศพั ท์ ความหมาย
กมุ ภีล์ จระเข้
เกย ทท่ี ำไวส้ ำหรบั พระเจ้าแผ่นดินเสดจ็ ก้าวขึน้ ลงในเวลาทรงชา้ งและพระราชยาน
ค้า (โบ) เช่น บคา้ อาตม์ออกรงค์ = ออกแสดง
เถกงิ สงู ศักด์ิ รุ้งเรอื ง กึกก้อง
พยหุ ,พยู่ห์ กระบวน หมู กองทัพ
พลวก พลัก่ ออกมาเพราะเครื่องปดิ กั้นหลดุ ออก
พวน เชือกเกลียวขนาดใหญ่ แนว
ยอ ตี
เรอื ก ไมไ้ ผท่ ี่ผ่าออกเปน็ ซีกๆ แล้วถักด้วยหวายสำหรับปพู ื้นหรือกั้นเปน็ รัว้ พ้นื ทลี่ าดหรอื ปดู ้วย
ไม้ถักหวาย
แล่นมา้ ลาด ขับม้าลาดตระเวน

ร่าย กษณะนั้นนเรทรไ์ ท้ ธให้โหรหามหุติฤกษ์ ซึ่งจะเบิกพยุหบาตรา จึ่งพระโหราผู้รู้โศลก

หลวงญาณโยคโลกทีป รีบคำนวณทำนาย ถวายพยากรณ์แก่ไท้ ท้าวธได้จัตุรงคโชค อาจปราบโลกลาญรงค์

เชิญบาทบงส์ุเสด็จคลา จากอโยธยายามเช้า เข้ารวิวารมหันต์ วันสิบเอ็ดขึ้นค่ำ ย่ำรุ่งสองนาฬิกา เศษสังขยาห้าบาท

ในบุษยมาสดฤษถี ศรีสวัสด์ิฤกษ์อดุ ม บรมนริทร์ดาลสดับ ธให้ตรวจทัพเตรียมพล โดยชลมารคพยู่ห์ สู่ตำบลปากโมก

ครั้นณวันโชควันยาม พยุหสงครามเขาตรวจ ทุกหมู่หมวดสรรพเสร็จ จึ่งสมเด็จภูวนาถ กับบรมราชอนุชา

ธก็สรงธาราเสาวรภย์ ตรลบสุคนธกำจร ทรงบวรวิภูษา รัตพัสตราตรูเนตร ชายแครงเทศเถือกพร้อย ชาย

ไหว้ห้อยเห็นเพรา พิศสนับเพลายรรยง ฉลองพระองค์แลเลิศ ทับทรวงเพริศพรายพร้ิง สะอิ้งรัตนไพฑูรย์

แล้วเกยูรสวมหัตถ์ แสงนพรัตน์มลังเมลือง เรืองธำมรงค์รุ้งร่วง ช่วงพรรเหาเก้าแก้ว แพร้วพรายน้ิวอัษฎางค์

พลางสองกษัตริย์สวมทรง อลงกตกาญจนมกุฎ แสงเพชรผุดพุ่งแพร้ว แก้วเก้ากอบแกมมาศ นาดกรกรายทายธนู

ดูสองเจ้าจอมสยาม เฉกลักษณ์รามรอนราพณ์ ปราบอเรนทร์ทุกด้าวพลางบพิตรโทท้าว ท่านเยื้องยังฉนวน

นำ้ นา

ฯลฯ

โคลง ๔

ครั้นควรพชิ ยั ฤกษ์พร้อม เพรียงสมยั

โหรคระหึมฆ้องชยั กกึ กอ้ ง

พฤฒิพราหมณ์พรอกมนตร์ไสย สังข์เป่า ถวายนา

แตรตรลบเสียงซ้อง แซซ่ ัน้ บรรสาน

ร่าย พลนั ขยายพยหุ บาตรา คลาเข้าโขลนทวาเรศ สงฆ์สวดชเยศพุทธมนต์ ปรายประชลเฉลิม

ทัพ ตามตำรับราชรณยุทธ์ โบกกระบ่ีธุชคลาพล ยลนาวาดาดาษ ดูสระพราศสระพร่ัง ค่ังคับขอบคงคาแลม

เหาฬาร์พันลึก อธึกท้องแถวธาร ถบั ถึงสถานปากโมก จึ่งพระจอมโลกลืมเดช เสด็จเถลิงนิเวศวงั ทาง พลางธ

ให้ตรวจเตรียมพล โดยสถลพยุหบาตร บอกพระราชกำหนด กฎแก่ขุนทัพขุนพล จักยกพหลยาตรา ในเวลา

ล่วงค่ำ ย่ำสิบเอ็ดสามบาท คร้ันเข้าราษตรีสมัย ภูวไนยตรัสตริการ ซ่ึงจะรอนราญอริราช ด้วยภิมุขมาตยากร

จนจนั ทร์ลับเลื่อน เคลื่อนเขา้ ตติยยามเจ้าจอมสยามไสยาสน์ เหนือบรมอาสนก์ ่องแกว้ คลา้ ยคล้ายสิบทุ่มแคล้ว

ทา่ นเคล้ิมหลบั ฝนั ใฝน่ า

โคลง ๔ สังหรณ์ เหน็ แฮ
เทวญั แสดงเหตใุ ห้ หลงั่ ล้น
แดนตก ทิศนา
เห็นกระแสสาคร ท่ีนำ้ นองสาย
ไหลลบวนาดอน จรลี
พระแต่เพ่งฤๅพ้น เรี่ยวกว้าง
หนง่ึ ใหญ่ ไสร้นา
พระกรายกรยา่ งเยื้อง จักเคี้ยวขบองค์
ลุยมหาวารี กบั กร
พอพานพะกมุ ภลี ์ เฟือ่ งนำ้
โถมปะทะเจา้ ชา้ ง ราญชพี กันแฮ
ท่งท้องชลธี
พระทรงแสงดาบแก้ว ศึกธาร
โจมประจัญฟังฟอน มอดมว้ ย
ตา่ งฤทธิ์ต่างรบรอน หายเหอื ด แห้งแฮ
สระท้านทุกถิ่นท่าถ้ำ เผดจ็ เสี้ยนเศิกกษัย
จอมถวลั ย์
นฤบดโี ถมถบี สู้ ห่อนรู้
ฟอนฟาดสงุ สุมาร พลางบอก ฝันนา
สายสินธ์ซุ ง่ึ นองพนานต์ ทถ่ี ้อยตูแถลง
พระเรง่ ปรดี าด้วย ในมลู ฝนั แฮ
แดใ่ ท้
ทนั ใดดิลกเจ้า ฝันใฝ่ น้ันฤๅ
สรา่ งผทมถวิลฝัน ธิราชรูเ้ ปน็ กล
พระหาพระโหรพลัน นองพนา สณฑ์เฮย
เร็วเร่งทายโดยกระทู้ ท่วมไซร้
มญั หมู่ น้ีนา
พระโหรเห็นแจ้งจบ ธเรศนั้นอยา่ แหนง
ถวายพยากรณ์ทูล ภยั ชลา
สบุ นิ บดินทร์สูร เชษฐ์ผู้
หากเทพสังหรให้ น้ใี หญ่ หลวงแฮ
ศกึ ชา้ งสองชน
นุสนธซิ์ ่ึงนา่ นนำ้
หนปัจฉมิ ทิศา
คือทพั อรริ า
สมดั่งลักษณฝ์ ันไท้

เหตแุ สดงแหง่ ราชพ้อง
ได้แกอ่ ปุ ราชา
สงครามซึง่ เสด็จครา
แทจ้ ักถงึ ยุทธส์ ู้

ซ่งึ ผจญอรริ าชดว้ ย เดชะ
เพอ่ื พระเดโชชนะ ศกึ นำ้
คือองค์อมิตรพระ จกั มอด เมอื เฮย
เพราะพระหัตถ์หากห้ำ หัน่ ดว้ ยขอคม
แถวธาร
เบอื้ งบรมขตั ติย์ทอ่ งท้อง เศกิ ไซร้
พระจักไลล่ ุยลาญ ฤทธร์ิ าช เลยพ่อ
รปิ ูบร่ อราญ ดงั่ ท้าวใฝฝ่ นั
พระจกั ชาญชเยศได้
สดบั พยากรณไ์ ท้
โคลง ๒
คร้ันบดินทรด์ าลได้ พราะพระโหรหากแก้

ธิราชแผ้วพนู เกษม งามประเสริฐเลศิ ล้น
เปรมปรีดิ์ปราโมทย์แท้
ทรงสุภาภรณ์แพร้ว
กล่าวต้องตามฝนั ยง่ิ แฮ
พระพลันทรงเครอ่ื งต้น

แหลง่ หลา้ ควรชม ชื่นนา
สมเด็จอนุชน้องแก้ว

เพริศพร้อมเพราตา

ร่าย สองขัตติยายุรยาตร ยังเกยราชหอทัพ ขุนคชขับช้างเทียบ ทวยหาญเพียบแผ่นภูดูมหิมาดาดาษ
สระพราศพร้อมโดยขบวน องค์อดิศวรสองกษัตริย์ คอยนฤขตั รพชิ ัย บัดเดี๋ยวไททฤษฎี พระศรีสารีรกิ บรมธาตุ
ไขโอภาสโศภิต ช่วงชวลิตพา่ งผล ส้มเกล้ียงกลกุก่อง ฟ่องฟ้าฝ่ายทกั ษิณ ผินแวดวงตรงทัพ นับคำรบสามครา
เปน็ ทกั ษณิ าวรรตเวยี น วา่ ยฉวัดเฉวียนอมั พร ผ่านไปอุดรโดยดา้ ว พลางบพิตรโทท้าว ทา่ นตั้งสดดุ ี อยูน่ า

ฯลฯ

โคลง ๔ วันทนา
พระเปรมปราโมทย์น้อม ฤทธแิ์ กล้ว
นภุ าพ พ้นแฮ
พลางพระทรงไอยรา แผกแพ้ทุกพาย
พระคเชนทรช์ ื่อไชยา เอกิ ฤทธ์ิ
อาจเขน่ คชศึกแผว้ ท่วั ไซร้
วรเสด็จ ทรงนา
พลายปราบไตรจักรอา้ ง ธริ าชเจ้าจอมสยาม
อาจปราบคชทกุ ทศิ
เอกาทศรถอศิ
นำคเชนทเรศไท้

ฯลฯ

พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทพั พระองค์ได้จตุรงค์โชค
สามารถปราบประเทศตา่ ง ๆ
ทา่ นโหรา ให้แพ้สงครามได้ เชิญเสด็จ
ขา้ จะไปปราบ
มอญ ท่านช่วย ทัพในยามเช้าวนั อาทิตย์
หาฤกษ์เคลือ่ น ขึ้น ๑๑ ค่ำ ย่ำรงุ่
ทัพใหข้ า้ ทีซิ ๘ นาฬกิ า ๓๐ นาที
ในเดือนย่ีนบั เป็นฤกษ์
สริ ิมงคลพะยะคะ่

สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงสรงนำ้ อบนำ้ หอม แตง่ พระองค์ด้วยภูษา
ทรงสวยงามนับตัง้ แต่ ผ้ารดั บน้ั พระองค์ มีชายไหว ชายแครง สนบั เพลา ทับทรวงสะอ้ิงส้วม
ข้อพระกรด้วยกำไรออ่ น พระธำมรงค์ ทส่ี วมน้ิวพระหตั ถท์ ้งั ๘ ประดับเพชรพลอยทรงมงกฎุ ประดบั เพชร

ระหว่างท่ีฝ่ายไทยตั้งค่ายที่ป่า
โ ม ก ใน คื น แ ร ก พ ร ะน เร ศ ว ร
บรรทมและทรงสุบนิ

พระนเรศวรทรงสุบินเป็นศุภมิตรว่า ทรงทอดพระเนตรเห็นน้ำไหลบ่าท่วมป่าสูงเป็นแนวยาวสุด
สายพระเนตร ขณะพระองค์ลุยกระแสน้ำอันเชียวกรากนั้น มีจระเข้ใหญ่ตัวหน่ึง มาโถมปะทะและจะ
กัดพระองค์ พระองค์ใช้ดาบท่ีถือในพระหัตถ์ต่อสู้กับจระเข้พระองค์ฟันเข้าถูกจระเข้ตาย ทันใดน้ัน
สายน้ำท่ีท่วมปา่ อย่กู เ็ หือดแหง้

โหรหลวงทำนาย พระสุบินคร้ังน้ี เกิดเพราะเทวดา
พระสุบินของข้า สังหรณ์ให้ทราบเป็นนัยว่าน้ำซึ่ง
ว่าจะเกิดเหตุใด ไ ห ล ท่ ว ม ป่ า ท า ง ทิ ศ ต ะ วั น ต ก คื อ
หรอื ไม่ กองทพั มอญ สว่ นจระเขน้ ้นั คือ
พระมหาอุปราชา การสงครามน้ี
ย่ิงใหญ่ถึงขนาดต้องกระทำยุทธ
หัตถี และการลุยกระแสน้ำคือ
พระองค์จะทรงตะลุยไล่บุกเข้าไป
ในหมูข่ ้าศกึ จนข้าศกึ แตกพ่าย

ไดเ้ วลาพิชยั ฤกษแ์ ล้วพะยะค่ะ

ใหท้ กุ คนเตรียมพรอ้ ม
เราจะออกเดินทัพกนั ต่อ

ไปตีกองทพั มอญ
ใหแ้ ตกพา่ ย

คำศัพท์ควรรู้

คำศัพท์ ความหมาย
เกยูร สร้อยอ่อน สร้อยแขน ทองต้นแขน กำไล
ซน้ั รบี เร็ว ถี่ ติด ๆ กัน
เถอื ก ดาษ ท่ัวไป จา้ โพลง พราว ใชก้ บั สีแดง เชน่ แดงเลือก
ทกั ษณิ าวรรต การเวยี นขวา เวยี นไปทางขวา
บุษยมาสดฤษถี เดือนย่ี คือ ราวเดือนพฤศจิกายน
พิชยั ความชนะ
ไพฑูรย์ ชอ่ื รตั นะชนิดหนึ่งสีเหลอื งแกมเขียว นำ้ ตาล และเทา
มหตุ ิฤกษ์ ฤกษด์ ี ยามดี
ยำ่ สบิ เอ็ดสามบาท สบิ เอด็ ทุ่ม เทียบไดก้ บั เวลาตีหา้ กบั ๑๘นาที(๑บาท=๖นาที)
โศลก คำประพันธส์ ันสกฤต คำขบั ร้องสรรเสริญ เกยี รติ
สะอิ้ง สายคาดเอว สรอ้ ยตัว
สังขยา การนับ การคำนวณ
สิบทุ่ม ตสี ่ี
สุงสุมาร จระเข้

เอกนายเก่งมากเลย เพอื่ น
เดย๋ี วเราเอาไปอ่าน แสนดี

ตอ่ นะ

ออ้ ที่เธอถอดความมาตอนนั่นน่ะ คร้าบ สู้ๆ
ฉนั อ่านแล้วโอเคเลย รออา่ นตอนตอ่ ไปนะ

สู้ๆ
นะ

ฉันไม่รู้วา่ ทถี่ อดความไป จะถูกหรือเปล่า? ตอ้ งถูกซิ เธอลอง
ตอบคำถาม

ในแบบฝกึ หดั กไ็ ด้
เพอ่ื ความแนใ่ จ

จริงดว้ ย

ใบกจิ กรรมท่ี ๔.๑ คะแนนเต็ม ๕ คะแนน
คะแนนที่ได้..................

การถอดความตอนที่ ๔ พระนเรศวรทรงปรารภเรอื่ งตีเมอื งเขมร

คำช้แี จง: ให้นักเรยี นถอดคำประพนั ธ์จากการอ่านเน้อื เร่ืองลิลิตตะเลงพา่ ยตอนท่ี ตอนที่ ๔ พระนเรศวรทรง

ปรารภเร่ืองตีเมอื งเขมร

ตอนที่ ๔ พระนเรศวรทรงปรารภเรอื่ งตีเมอื งเขมร

ถอดความได้วา่ …………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………..…………………………
………………………………………………………………………………………

…………………

ใบกิจกรรมที่ ๔.๒ คะแนนเตม็ ๕ คะแนน
คะแนนทไ่ี ด้..................

การถอดความตอนที่ ๕ สมเด็จพระนเรศวรทรงเตรยี มการสู้ศกึ มอญ

คำชีแ้ จง: ให้นักเรียนถอดคำประพันธจ์ ากการอ่านเน้อื เรื่องลลิ ิตตะเลงพ่ายตอนท่ี ตอนที่ ๕ สมเด็จพระนเรศวร

ทรงเตรียมการสูศ้ ึกมอญ

ตอนท่ี ๕ สมเดจ็ พระนเรศวรทรงเตรียมการสู้ศึกมอญ

ถอดความไดว้ า่ …………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………..…………………………

ใบกิจกรรมที่ ๔.๓ คะแนนเต็ม ๕ คะแนน
คะแนนทไี่ ด.้ .................

การถอดความตอนท่ี ๖ พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทพั

คำชี้แจง: ให้นักเรียนถอดคำประพันธจ์ ากการอ่านเน้อื เร่ืองลลิ ติ ตะเลงพ่ายตอนท่ี ตอนท่ี ๖ พระนเรศวรทรงตรวจ

เตรียมทัพ

ตอนท่ี ๖ พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทพั

ถอดความไดว้ ่า…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………..…………………………


Click to View FlipBook Version