••
บุ ค ค ล สำ คั ญ น า ฏ ศิ ล ป์
เเละการละคร
เ จ้ า พ ร ะ ย า ร า ม ร า ฆ พ
จัดทำโดย
น.ส.วชิรญาณ์ บัวพวง
ม.5/3 เลขที่22
••
๑
ประวัติ
เจ้าพระยารามราฆพ เดิมชื่อว่า หม่อมหลวงเฟื้ อ พึ่งบุญ
เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๓ ตรงกับ
แรม ๗ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีขาล ร.ศ.๑๐๙ ที่บ้านถนน
จักรเพชร จังหวัดพระนคร เป็นบุตร พระยาประสิทธิ์
ศุภการ (หม่อมราชวงศ์ละม้าย พึ่งบุญ) กับ พระนมทัด
(พระนมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
มีพี่น้องร่วมมารดา คือ
๑.ท้าวอินทรสุริยา (หม่อมหลวงหญิงเชื้อ พึ่งบุญ)
๒.ท่านเจ้าพระยารามราฆพ
๓.พลตรี พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้ น พึ่งบุญ)
๔.หม่อมหลวงหญิงถนอม พึ่งบุญ
เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนวัดบพิตรพิมุข และโรงเรียนข้าราชการพลเรือน (จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย) เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๘ และได้ถวายตัวเข้ารับราชการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิ
ราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร (รัชกาลที่ ๖) ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๕๑ ครั้นใน
งานบรมราชาภิเษก เป็นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๓ ก็ได้
มีหน้าที่เชิญพระแสงขรรค์ชัยศรี ยืนหลังที่ประทับตลอดพระราชพิธี ด้วยเหตุนี้เมื่อทรง
จัดตั้งกองเสือป่า จึงพระราชทานธงประจำตัวกองเสือป่า ให้ท่าน เป็นรูปเทพยดา เชิญ
พระแสงขรรค์ชัยศรี ขนพื้นสีแดง (ถ้าไม่มีเชื้อราชตระกูล ใช้รูปมานพ) ตลอดเวลาที่รับ
ราชการ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ถวายงานใกล้ชิด โปรดให้เป็นหัวหน้าห้องพระ
บรรทม นั่งร่วมโต๊ะเสวยทั้งมื้อกลางวันและกลางคืนตลอดรัชกาล และตามเสด็จโดยลำพัง
เ จ้ า พ ร ะ ย า ร า ม ร า ฆ พ
๒
ด้านชีวิตครอบครัว
ท่านเจ้าพระยารามราฆพ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณสมรส
พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
กับ คุณหญิงประจวบ สุขุม ต.จ. ธิดาของมหาอำมาตย์นายก
เจ้าพระยายมราชและท่านผู้หญิงตลับ(สกุลเดิม ณ ป้อมเพ็ชร)
ณ พระที่นั่งบรมพิมาน เมื่อ วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๗
และสมรสกับภรรยาท่านอื่นๆ รวมมีบุตร-ธิดา ๓๔ ท่าน
ในบั้นปลายชีวิต นอกจากการรับราชการแล้ว ท่านเจ้าพระยา
รามราฆพก็ใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน ท่านมีกิจวัตรประจำวัน คือ
การจดบันทึก ซึ่งทำมาตั้งแต่อยู่ในมัธยมวัย จนถึงอสัญกรรม
นอกจากนี้ก็เพลิดเพลินอยู่กับการบำรุงดูแลเรือ ทั้งเรือยนต์
และเรือกล อันเป็นของชอบของท่านตั้งแต่ยังรับราชการ และ
ไปพักตากอากาศที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทุกๆปี
วันเวลาแห่งการอสัญกรรม
พลเอก เจ้าพระยารามราฆพ ถึงอสัญกรรม
ด้วยโรคหัวใจ ณ ตึกธนาคารกรุงเทพ
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๐
สิริรวมอายุได้ ๗๗ ปี
เ จ้ า พ ร ะ ย า ร า ม ร า ฆ พ
๓
บรรดาศักดิ์
- ๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๓ เป็น นายขัน หุ้มแพร (อายุ ๒๐ ปี)
- ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๕๔ เป็น จ่ายง (อายุ ๒๑ ปี)
- ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔ เป็นเจ้าหมื่นสรรเพธภักดี (อายุ ๒๑ ปี)
- ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ เป็นพระยาประสิทธิ์ศุภการ เช่นเดียวกับบิดา
(อายุ ๒๒ ปี)
ต่อมาวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ขณะอายุได้ ๓๑ ปี มีพระบรม
ราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระยาประสิทธิ์ศุภการ ขึ้นเป็น
เจ้าพระยารามราฆพ มีสมญาจารึกในสุพรรณบัฎว่า
"เจ้าพระยารามราฆพ พัชรพัลลภมหาสวามิภักดิ์ สมัครพลวโรปนายก สุรเสวกวิ
ศิษฏ์คุณ พึ่งบุญพงศ์บริพัตร นฤปรัตนราชสุปรีย์ ศรีรัตนไตรสรณธาดา เมตตาภิ
รัตมัทวสมาจาร สัตยวิธานอาชวาธยาศัย อภัยพิริยบรากรมพาหุ คชนาม"
มีศักดินา ๑๐๐๐๐ ได้รับพระบรมโองการ ต่อจากเจ้าพระยาราชศุภมิตร
(อ๊อด ศุภมิตร) และก่อนเจ้าพระยาพลเทพ (เฉลิม โกมารกุล ณ นคร) กล่าวกันว่า
เจ้าพระยารามราฆพเป็นเจ้าพระยาที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การแต่งตั้ง
ของกรุงรัตนโกสินทร์
เ จ้ า พ ร ะ ย า ร า ม ร า ฆ พ
๔
หลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อถวายพระเพลิง
พระบรมศพแล้ว เจ้าพระยารามราฆพ จึงออกไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ
จนเปลี่ยนแปลงการปกครอง ถึง พ.ศ. ๒๔๗๗ จึงเดินทางกลับประเทศไทย ได้พำนักอยู่ที่
บ้านบุญญาศรัย ถนนราชดำริ ๑ ปี จึงมาพำนักที่บ้านนรสิงห์ ถึงปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ขายบ้าน
นรสิงห์ให้รัฐบาล แล้วย้ายไปพำนักที่บ้านท่าเกษม ตำบลบางขุนพรหม ถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๕
จึงขายบ้านท่าเกษมให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (เป็นโรงพิมพ์ธนบัตร ในปัจจุบันนี้)
ท้ายที่สุด ในรัชกาลปัจจุบัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบ้านให้พำนัก
ที่ถนนเจริญนคร ฝั่ งธนบุรี ท่านขนานนามบ้านนี้ว่า "บ้านพระขรรค์ชัยศรี" และพำนัก
ณ ที่นี้จนถึงอสัญกรรม
ด้านการเมือง
ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครกรุงเทพฯ คนแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐
โดยมีพระยาภะรตราชา (หม่อมหลวงทศทิศ อิศรเสนา) เป็นปลัดเทศบาลนครกรุงเทพฯ
คนแรก เมื่อพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีแล้ว เจ้าพระยารามราฆพคงเป็นข้าราชการ
บำนาญและเป็นที่ปรึกษาราชการในพระราชสำนักต่อมาจนถึงสมัยหลังสงครามโลกครั้ง
ที่สอง ใน พ.ศ. ๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรงพระกรุณาโปรด
เกล้าฯ ให้จัดระเบียบสำนักพระราชวัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยารามราฆพ
รับราชการในหน้าที่ สมุหพระราชวัง และ ประธานกรรมการพระราชสำนัก นอกจากนั้น
ท่านยังได้สนองพระเดชพระคุณในหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกหลายหน้าที่ เช่น เป็นสภานายกสภาลูกเสือแห่งชาติ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและอุปนายกในคณะกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย
อีกทั้งยังเป็นประธานกรรมการในบริษัทเอกชนอีกหลายบริษัทที่สำคัญ คือ
เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้ง ธนาคารกรุงเทพ
เ จ้ า พ ร ะ ย า ร า ม ร า ฆ พ
๕
ความสัมพันธ์กับบ้านนรสิงห์
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างบ้านนรสิงห์
พระราชทานแก่พระยาประสิทธิ์ศุภการ ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๘๔ ท่านได้เสนอ
ขายบ้านนี้ให้แก่รัฐบาล เนื่องจากไม่สามารถรับภาระการดูแลบำรุงรักษาได้
ในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๔๘๔ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี
เห็นว่าควรซื้อบ้านนรสิงห์เพื่อทำเป็นสถานที่รับรองแขกเมือง
รัฐบาลได้ให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้ซื้อบ้านหลังนี้
มอบให้สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแล ใช้เป็นสถานที่สำหรับรับรองแขกเมือง
และย้ายสำนักนายกรัฐมนตรี จากวังสวนกุหลาบมาอยู่ที่นี่
บ้านนรสิงห์เปลี่ยนชื่อเป็น "ทำเนียบสามัคคีชัย" เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ และต่อมาใน
ปี พ.ศ.๒๕๑๒ ได้ซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์ จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหา
กษัตริย์ เป็นของสำนักนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนชื่อเป็น "ทำเนียบรัฐบาล"
เ จ้ า พ ร ะ ย า ร า ม ร า ฆ พ
๖
นาฏศิลป์และการละคร
สองพี่น้องพึ่งบุญเป็นคนสนิทในระดับถวายการรับใช้ในห้องพระบรรทม เป็นนัก
แสดงบทตัวเอก เช่น พระราม พระลักษณ์ พระร่วง ฯ ในบทละครพระราชนิพนธ์
แทบทุกเรื่อง อย่างไรก็ตามต้องนับว่าเจ้าพระยาคนพี่มีวาสนาสูงกว่าพระยาผู้น้อง
หนังสือ ‘พระราชวงศ์จักรี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ (สิ่งที่ข้าพเจ้า
พบเห็น สมัยรัชกาลที่ ๖)’ ของ ม.จ.พูนพิสมัย ดิศกุล ตีพิมพ์เมื่อเดือนมีนาคม
๒๕๖๑ ให้ข้อมูลน่าสนใจหลายเรื่องเกี่ยวกับบุคคลผู้ทรงอิทธิพลข้างบัลลังก์
กษัตริย์ ว่าเกิดปีขาล เดือน ๑๑ วันอาทิตย์ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๓๒ เป็นบุตร
พระยาประสิทธิ์ศุภการ (ม.ร.ว.ละม้าย) และพระนมทัต เมื่อเล็กเคยเข้าไปอยู่ใน
พระบรมมหาราชวัง ในสำนักสมเด็จพระพันปีหลวงกับพี่สาว แล้วออกไปเรียน
หนังสือที่วัดบพิตร์ภิมุข หรือวัดตีนเลน ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเดิม จนอายุ ๑๔ ปี จึงไป
ถวายตัวอยู่กับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช (รัชกาลที่ ๖ ในสมัยนั้น) ในฐานเป็นลูก
พระนมพร้อมกับน้องชาย โปรดให้เข้าเรียนในโรงเรียนมหาดเล็กหลวงได้พักหนึ่ง
และเป็นผู้รับใช้ในห้องพระบรรทมตลอดมา
เ จ้ า พ ร ะ ย า ร า ม ร า ฆ พ
๗
นาฏศิลป์และการละคร
...ตอนรุ่นหนุ่มได้เป็นตัวผู้หญิงในละครพูดของทวีปัญญาสโมสร เพราะหน้าตาดี
และเหมาะกับอายุ จึงได้เป็นนางเอกเสมอ และเป็นผู้ตามเสด็จไปในที่ต่างๆ เสมอ
ด้วย ถึงเวลาเสด็จขึ้นเสวยราชย์เป็นพระเจ้าแผ่นดิน เจ้าพระยารามได้เป็นนายขัน
หุ้มแพรกรมมหาดเล็กหลวง...แล้วเลื่อนขึ้นไปนายจ่ายง-พระนายสรรเพ็ชร แล้ว
เป็นพระยาประสิทธิ์ศุภการ ถึง พ.ศ.๒๔๖๔ ได้เป็นเจ้าพระยารามราฆพ...
เ จ้ า พ ร ะ ย า ร า ม ร า ฆ พ
- หม่อมหลวงเฟื้ อ พึ่งบุญ -