The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ป.5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nongsaiziii, 2022-02-21 21:00:44

แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ป.5

แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5
เวลาเรยี น 20 ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ เวลา 2 ช่ัวโมง/คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรอื่ ง ส่ิงมีชีวติ เวลา 8.30 – 10.30 น.
แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง ส่ิงมีชีวติ กับสง่ิ แวดล้อม
สอนวนั ที่ 2 เดอื น กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2565

สาระสำคัญ
สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะอาศัยอยู่ตามที่ต่างๆ ซึ่งอาจมีสิ่งแวดล้อมแตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งมีชีวิตจึงต้อง

ปรับตวั ดา้ นโครงสร้างและลักษณะของร่างกายใหเ้ หมาะสมกับการดำรงชีวิตในแต่ละแหลง่ ที่อยู่ ส่ิงแวดล้อมใน
แต่ละแหล่งท่ีอยู่ประกอบด้วยสิง่ มีชีวิตและส่งิ ไมม่ ชี วี ิต
สาระ/มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวติ กับสิ่งมีชีวติ
และความสัมพันธร์ ะหวา่ งส่ิงมีชวี ติ กบั สิ่งมีชีวติ ตา่ งๆ ในระบบนิเวศ การถา่ ยทอดพลังงาน การเปลีย่ นแปลงแทนที
ในระบบนเิ วศ ความหมายของประชากร ปญั หาและผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม แนวทาง
ในการอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ และการแกไ้ ขปญั หาสิง่ แวดล้อม รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตวั ช้วี ดั ว 3.2 ป.5/1 บรรยายโครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับการดรงชีวิตซึ่ง
เปน็ ผลมาจากการปรบั ตวั ของส่งิ มชี ีวิตในแต่ละแหลง่ ทอ่ี ยู่
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายเร่ืองสงิ่ มีชีวิตกับส่งิ แวดล้อมได้ (K)
2. วาดภาพเร่ืองโครงสรา้ งและลกั ษณะของสิ่งมชี วี ติ เหมาะสมกับแหลง่ ที่อยู่อย่างไรได้อย่างเป็น

ขน้ั ตอน (P)

3. มคี วามตง้ั ใจ รบั ผดิ และตรงต่อเวลา (A)
สาระการเรยี นร/ู้ เน้อื หา

สิ่งมีชีวติ กบั ส่งิ แวดล้อม สงิ่ มชี ีวิตสามารถดำรงเผา่ พันธุ์ตอ่ ไปไดข้ ้นึ อย่หู ลายปจั จยั เชน่ การหาอาหาร

การล่าเหยื่อ การสืบพันธุ์การเจริญเติบโต การปรับตัวให้เข้ากับแหล่งที่อยู่ซึ่งแหล่งที่อยู่แต่ละแห่งจะมี

สภาพแวดล้อมแตกต่างกัน ทั้งสภาพภูมิอากาศ และลักษณะภูมิประเทศ ดังนั้น สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจึงต้อง
ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากับสภาพแวดล้อมในแต่ละ แหล่งทอ่ี ยู่อาศยั ให้ได้เพ่ือการดำรงชวี ติ ทีย่ งั่ ยนื

ภาพที่ 1 สิง่ มชี วี ิต
ทม่ี า : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

การปรับตัวของสิ่งมีชีวิตในแต่ละแหล่งที่อยู่ การปรับตัวด้านโครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิต
เป็นการปรับตัว ทางกายภาพ เช่น การปรับเปลี่ยนรูปร่าง สีของลำตัว ลักษณะขนหรือผิวหนัง ที่ปกคลุม
ร่างกายเพื่อให้สิ่งมีชีวิตอยู่รอด สามารถหาอาหาร สืบพันธุ์เจริญเติบโต ในแหล่งที่อยู่ต่าง ๆ เช่น แหล่งน้ำ ป่า
ชายเลน บรเิ วณขัว้ โลก ทะเลทราย
1. แหล่งนำ้

แหลง่ น้ำ คอื บริเวณท่ีมกี ารสะสมของน้ำบนผวิ โลก ซึ่งเปน็ นำ้ ผิวดินท่ีมีทัง้ น้ำจืดและน้ำเค็ม แหล่งน้ำ
ผิวดินที่เป็นน้ำจืด ได้แก่ ทะเลสาบนน้ำจืด แม่น้ำลำธาร ห้วย หนอง คลอง บึง แหล่งน้ำผิวดินที่เป็นน้ำเค็ม
ได้แก่ ทะเลสาบนน้ำเค็ม ทะเล มหาสมุทรแหลง่ นำ้ แตล่ ะแหล่งมีสภาพแวดล้อมและลักษณะท่ตี ่างกัน จึงทำให้
สิง่ มีชวี ติ มีการปรับตวั เพื่อการอย่รู อดแตกตา่ งกนั

การปรับตัวของพืชในแหล่งน้ำ พืชในแหล่งน้ำต่างๆต้องมีการปรับตัวด้านโครงสร้างให้เข้ากับแหล่ง
น้ำ ที่อยู่อาศัย เช่น ผักตบชวาและบัวจะมีชอ่ งอากาศเล็ก ๆ จำนวนมากอยู่ภายใน ก้านใบและก้านดอก ทำให้
ลำต้นมนี ้ำหนกั เบาและลอยนำ้ ได้ ผกั กระเฉดมปี ลอกเป็นปุยสีขาวหุ้มลำต้นเรียกว่า นวม ภายในมีลักษณะเป็น
รพู รุนคล้ายฟองนำ้ ซงึ่ ช่วย พยงุ ลำตน้ ให้ลอยน้ำได้

ภาพท่ี 2 การปรับตวั ของผักตบชวา บัว และผกั กระเฉดในแหลง่ น้ำ
ท่ีมา : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

การปรับตัวของสัตว์ในแหล่งน้ำ สัตว์ที่อาศัยในแหล่งน้ำล้วนมีการปรับตัวด้านโครงสร้าง เพื่อให้อยู่
รอด ในสภาพแวดลอ้ มของแหลง่ ทอี่ ยู่ได้เช่น ปลามรี ปู รา่ งเพรียวยาวเพื่อลดแรงต้าน ของน้ำ และมคี รบี เพ่ือช่วย
ในการเคลื่อนที่ใน สัตว์สะเทินน้ำนสะเทินบก เช่น กบ ในขณะที่เป็นลูกอ๊อดอาศัยอยู่ในน้ำ หายใจทางเหงือก
ต่อมาเมื่อมีการเจริญเติบโตเต็มที่จะหายใจทางปอดและผิวหนัง สัตว์ในกลุ่มนกบางชนิด เช่น เป็ด หงส์ห่าน
และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก จะมีพังผืดยึดติดเป็นแผ่นบางๆ ระหว่างนิ้วเท้า เพื่อช่วยพัดโบกน้ำ และช่วยใน
การ เคลอื่ นทีเ่ มือ่ อยู่ในน้ำ

ภาพที่ 3 การปรับตวั ของปลา กบ และเปด็ ในแหล่งน้ำ
ที่มา : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

2. ป่าชายเลน
ป่าชายเลนคือพื้นที่รอยต่อระหว่างแผ่นดินและทะเลที่มีการเปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อมตลอดเวลา

สภาพป่าชายเลนจะมีลักษณะของดิน ความเค็ม ของน้ำทะเล การขึ้น-ลงของน้ำ ซึ่งปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่มี
บทบาทสำคญั ในการดำรงชวี ิตของพชื และสตั วใ์ นปา่ ชายเลน คอื ระบบนิเวศทม่ี คี วามเค็ม มีดินเลน ทีม่ ีอินทรีย
สารจำนวนมากทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดแี ละมีสัตวอ์ าศัยอยูจ่ ำนวนมาก เนื่องจากมีสภาพแวดลอ้ มทีเ่ หมาะสม
และมีแหล่งอาหารอดุ มสมบรู ณ์

การปรบั ตวั ของพืชในป่าชายเลน บรเิ วณปา่ ชายเลนจะมีนำ้ ทว่ มขังตลอด เน่อื งจากอทิ ธพิ ลของน้ำข้ึน
นำ้ ลง สง่ ผลใหแ้ กส๊ ออกซเิ จนในอากาศไม่สามารถแพร่กระจายลงสดู่ นิ ไดท้ ำใหพ้ ืชและสตั ว์ ที่อาศยั อยบู่ ริเวณป่า
ชายเลนมกี ารปรับตัวท่ีแตกต่างจากพชื และสัตว์ที่อยู่ในบริเวณอื่น เชน่ รากของต้นแสมต้องการแก๊สออกซิเจน
เช่นเดียวกับพืชชนิดอื่น แต่ด้วย พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังตลอด จึงมีการพัฒนารากหายใจโผล่พ้นเหนือดินเพื่อรับ
แก๊ส ออกซเิ จน

พืชที่มีลกั ษณะการปรับตัวใหเ้ ข้ากบั สภาพของป่าชายเลนเพ่ือการ เจรญิ เติบโตทดี่ ไี ดแ้ ก่ โกงกาง ตะบนู
แสม ประสกั เสม็ด ปรง

ภาพที่ 4 รากคำ้ จนุ้ ของต้นโกงกาง ภาพท่ี 5 รากหายใจของต้นตะบูน

ที่มา : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

การปรับตัวของสัตว์ในป่าชายเลน ป่าชายเลนเป็นแหล่งอาหารที่มีความอุดมสมบูรณ์จึงมีสตั ว์อาศยั
อยู่ จำนวนมาก สตั วน์ ้ำทีอ่ าศยั อยูใ่ นปา่ ชายเลน เชน่ ปูแสม หอยนางรม หอยแมลงภู่ ปลาตีน หนอนทะเล ซง่ึ มี
ลกั ษณะการปรบั ตัวให้เข้ากับสภาพของปา่ ชายเลน

ภาพที่ 6 ปแู สมในปา่ ชายเลย ภาพท่ี 7 ป่าตนี ในปา่ ชายเลน

ที่มา : https://www.google.com/search?

3. บรเิ วณข้ัวโลก
ขั้วโลก คือ พื้นที่ทั้งหมดที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและมีอากาศหนาวเย็น ขั้วโลกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

ดงั นี้ ขั้วโลกเหนือ เปน็ พนื้ ทกี่ ว้างของมหาสมุทรท่ีนำ้ กลายเป็นน้ำแข็งและ มหี มิ ะปกคลมุ ไมม่ แี ผ่นดินและพันธ์ุ
พืช ขั้วโลกใต้เป็นแผ่นดินขนาดใหญ่ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง ขั้วโลกเป็นบริเวณที่มีสภาพภูมิอากาศ
หนาวเย็น จึงทำให้ส่งิ มชี วี ติ ทีอ่ าศยั อยู่ มกี ารปรับตวั ใหเ้ ข้ากบั ภูมิอากาศทหี่ นาวเย็นตลอดปีเพ่ือความอยู่รอดใน
การดำรงชีวติ

ภาพที่ 8 สตั ว์ในเขตหนาว จะมขี นยาวหนา เพ่ือความอยูร่ อด
ทม่ี า : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

การปรับตัวของพืชบรเิ วณข้วั โลก ปา่ ในเขตหนาวมคี วามหลากหลายทางชีวภาพไม่มากเทา่ กับป่าเขต
อบอุ่นและป่าเขตร้อน เนื่องจากมีอากาศหนาวเย็น จึงมีพันธุ์พืชไม่หลากหลาย พืชบางชนิดมีความทนทานสูง
บางครั้งอาจจมใต้หิมะเป็นเวลานานนับปีจึงมีโอกาสเจริญเตบิ โตได้อีกครั้งในฤดูรอ้ น หญ้าและพืชที่อยู่บรเิ วณ
ขั้วโลก เชน่ สน มอสส์ ตะไคร่น้ำ ไลเคน มีการปรับตวั ให้เขา้ กบั สภาพภูมิอากาศเพ่ือความอยู่รอด

ภาพที่ 9 สนอย่ใู น สภาพอากาศหนาวเยน็ ภาพท่ี 10 มอสสใ์ นสภาพอากาศหนาวเยน็

ทมี่ า : https://www.google.com/search

การปรับตัวของสัตว์บริเวณขั้วโลก ขั้วโลกเหนือ มีสัตว์อาศัยอยู่ตลอดปีแต่สัตว์บางชนิดจะย้ายมา
อาศัยอยู่ในฤดูที่อบอุ่น สัตว์ในขั้วโลกเหนือส่วนใหญ่มีขนหนา ยาว ปกคลุม ทั่วตัวและมีชั้นผิวหนังหนา เพ่ือ
สร้างความอบอ่นุ ใหแ้ กร่ า่ งกาย เช่น หมขี ว้ั โลก สงิ โตทะเล

ภาพที่ 11 หมขี ว้ั โลก ภาพท่ี 12 สงิ โตทะเล

ที่มา : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

ข้ัวโลกใตเ้ ป็นบริเวณท่ีมมี หาสมุทรล้อมรอบ เปน็ แหลง่ ทอ่ี ยู่อาศัยของ สตั ว์หลายชนิด ซ่ึงมีการปรับตัว
โดยมีขนและไขมันหนาเพื่อป้องกันความหนาวเย็น แต่มีสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดที่อาศัยอยู่ขั้วโลกใต้ตลอดปีเช่น
เพนกวนิ แมวน้ำ

ภาพท่ี 13 เพนกวนิ ภาพที่ 14 แมวนา้

ที่มา : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

4. ทะเลทราย
ทะเลทราย เป็นบรเิ วณทกี่ วา้ งใหญ่ ปกคลมุ ด้วยทราย มอี ุณหภมู ิในชว่ ง กลางวนั และกลางคืนแตกต่าง

กันอย่างชัดเจน คือ มีอากาศหนาวจัดในเวลา กลางคืน และมีอากาศร้อนจัดในเวลากลางวัน บางส่วนของ
ทะเลทรายจะถกู น้ำกัดเซาะเปน็ แอ่ง ทำให้รองรับนำ้ ฝนไว้ให้สัตว์ที่อาศยั ในทะเลทรายใช้ปัจจัย ที่สำคัญต่อการ
ดำรงชีวิตในทะเลทราย คือ น้ำ แร่ธาตุ ความเค็ม และสารอินทรีย์บางชนิดเป็นปัจจัยที่ทำให้ทะเลทราย ไม่
เหมาะกับการดำรงชีวิต ทำให้พบจำนวนชนิดของสิ่งมีชีวิตค่อนข้างน้อย สิ่งมีชีวิตในทะเลทรายจึงต้องปรบั ตัว
เพื่อใหส้ ามารถดำรงชีวิตอยไู่ ด้

ภาพที่ 15 สงิ่ มชี ีวติ ในทะเลทราย
ท่มี า : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

การปรบั ตัวของพืชในทะเลทราย พชื ในทะเลทรายมีการปรับตวั เพอื่ ความอยู่รอดในสภาพแหง้ แล้ง 3
ลักษณะ ได้แก่ การปรับตัวด้วยการเก็บน้ำไว้ในลำต้น หรือมีรากหยั่งลึกในดิน เพื่อหาน้ำ การปรับตัวด้วยการ
ลดรูปของใบให้มีขนาดเล็กลง หรือมีสารคล้ายขี้ผึ้ง เคลือบผิวใบเพื่อลดการคายน้ำ และการปรับตัวด้วยการ
ผลิตเมล็ดทที่ นทานต่อ ความแห้งแลง้

ภาพที่ 16 ตน้ กระบอกเพชรและตน้ อากาเวเ่ ปลีย่ นใบเป็นหนามเพ่อื ลดการสูญเสยี น้ำ
ที่มา : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

การปรับตัวของสตั วใ์ นทะเลทราย สตั ว์ในทะเลทรายสว่ นใหญ่มกี ารปรบั พฤติกรรมและกระบวนการ
ทาง สรรี วิทยาเพื่อความอยรู่ อดในสภาพอุณหภูมิสูงและการขาดแคลนนำ้ สตั วใ์ น ทะเลทรายมี 2 ประเภท
ดังนี้

1. สตั วท์ ี่มีการปรับตวั โดยการจำศีลตลอดช่วงเวลาท่ีอากาศรอ้ นจดั และออกหากนิ เมอื่ ฝนตกหรือออก
หากนิ ในเวลากลางคนื เชน่ กระรอกทะเลทราย สนุ ขั จ้ิงจอกทะเลทราย

ภาพท่ี 17 กระรอกทะเลทราย ภาพท่ี 18 สนุ ัขจ้ิงจอกทะเลทราย

ท่มี า : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

2. สตั ว์ที่มีการปรบั ตวั ทางสรรี ะเพื่อใหม้ ีชีวติ รอดในสภาพอากาศที่ เปลยี่ นแปลงอยา่ งรนุ แรงระหวา่ ง
กลางวนั และกลางคืน หรือมีการปรบั ตัวทาง สรีระเพ่ือป้องกันอนั ตราย เชน่ อฐู กง้ิ ก่าหนาม

ภาพที่ 19 อฐู ภาพท่ี 20 ก้ิงก่าหนาม

ที่มา : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขัน้ ที่ 1 สร้างความสนใจ (Engagement)(5 นาที)

1.1 ครูนำเข้าส่บู ทเรยี นโดยให้นักเรยี นสังเกตภาพ ซงึ่ ภาพที่นำมาเปดิ น้นั จะเกย่ี วกับเรือ่ ง สิ่งมีชีวติ กบั
ส่งิ แวดล้อม

ภาพส่งิ มีชีวิตในทะเล

ท่มี า : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

1.2 จากนั้นครนู ำอภิปรายโดยอาจใช้คำถามเพ่อื ทบทวนความรพู้ ้ืนฐาน และตรวจสอบความรเู้ ดิม
ดงั นี้

1.2.1 นักเรียนคดิ ว่าสถานที่ในรูปคือที่ใด
(แนวการตอบ : นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง เชน่ ในทะเล)
1.2.2 จากรูปมีสงิ่ มชี วี ิตอะไรบา้ ง
(แนวการตอบ : นักเรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ปลา หอย)
1.2.3 จากรูปมสี ิ่งไม่มชี ีวติ อะไรบ้าง
(แนวการตอบ : นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น นำ้ กอ้ นหนิ )
1.2.4 ส่งิ มชี วี ิตที่อยูใ่ นนำ้ มโี ครงสรา้ งและลกั ษณะอยา่ งไรบ้าง
(แนวการตอบ : นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ปลามคี รีบ เต่ามี 4 ขา)
1.2.5 นกั เรียนคดิ ว่าส่งิ มชี วี ิตตา่ งๆ ในแหล่งที่อยู่น้ีจะมคี วามสัมพนั ธก์ นั หรือไม่ อยา่ งไร
(แนวการตอบ : นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง เช่น มคี วามสัมพันธ์กันในดา้ นของ
การกนิ อาหาร เช่น ปลาใหญ่กินปลาเลก็ เปน็ อาหาร)
1.3 จากนนั้ ครูกลา่ วกลบั นักเรียนต่อไปว่า “เพื่อใหน้ กั เรียนเกิดความเขา้ ใจเร่ือง สงิ่ มชี วี ิตกบั
สิ่งแวดลอ้ ม มากย่ิงขึ้น เราจะมาเรียนร้กู นั ในวนั น”ี้
ขั้นที่ 2 สำรวจและคน้ หา (Exploration) (25 นาที )

2.1 นักเรยี นแตล่ ะคนเตรียมความพร้อมในการทำกิจกรรม โดยการเตรยี มอปุ กรณ์ทต่ี ้องใช้ เชน่ สมดุ

ดินสอ

2.2 นักเรยี นฟังครอู ธบิ ายขั้นตอนการทำกิจกรรมท่ี 1 เร่ือง โครงสรา้ งและลักษณะของสิ่งมีชวี ติ

เหมาะสมกับแหล่งที่อยู่อย่างไร

2.3. นกั เรยี นเร่ิมปฏิบัติกจิ กรรม เร่ือง โครงสร้างและลักษณะของสง่ิ มชี ีวิตเหมาะสมกบั แหล่งท่อี ยู่

อยา่ งไร

วสั ดอุ ุปกรณ์

1. เคร่อื งเขยี น

วธิ ีการดำเนินกจิ กรรม
1. ให้นักเรียนแต่ละคนเลือกสิง่ มชี วี ิต 1 ชนิด จากแหลง่ ทอ่ี ยใู่ นทอ้ งถิน่ ของตนเอง พรอ้ มกับสังเกตและวาด

รปู สิง่ มีชีวิตทแ่ี สดงใหเ้ ห็นโครงสรา้ งและลกั ษณะของส่ิงมีชวี ติ นนั้ ๆ พร้อมทงั้ ระบแุ หล่งทอ่ี ยู่
2. ให้นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายว่าโครงสรา้ งและลกั ษณะของสง่ิ มชี ีวิตทีน่ ักเรยี นไดเ้ ลือกมามีความเหมาะสม

การดำรงชวี ติ ในแหลง่ ทอ่ี ยู่หรอื ไม่ อย่างไร

ขน้ั ที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (15 นาที)
นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภิปรายผลการทำกิจกรรม
3.1 ครูใหต้ วั แทนนักเรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการทำกิจกรรมหนา้ ช้นั เรยี น เรอื่ ง
โครงสร้างและลกั ษณะของสิง่ มชี ีวิตเหมาะสมกับแหล่งท่ีอยู่อย่างไร
3.2 นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้
3.2.1 โครงสร้างและลกั ษณะของสงิ่ มชี ีวิตทเี่ หมาะสมกบั การดำรงชีวติ ในแหลง่ ท่อี ยู่ คือ
(แนวการตอบ : นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น เลือกนกกางเขน นกกางเขนมี
ขาและเท้าซ่ึงมีนิ้วขา้ งหนา้ 3 น้วิ ข้างหลัง 1 น้ิว)
3.2.2 โครงสรา้ งและลกั ษณะนัน้ เหมาะสมกบั การดำรงชวี ิตในแหลง่ ที่อย่อู ย่างไร
(แนวการตอบ : ทำให้ยึดเกาะก่ิงไม้ได)้
3.2.3 จากส่งิ ท่ีคน้ พบ สรุปไดว้ ่าอยา่ งไร
(แนวการตอบ : สิ่งมีชีวิตมีโครงสร้างและลักษณะของร่างกายเหมาะสมกับแหล่งที่อยู่ต่างๆ
ซงึ่ เป็นผลมาจากการปรับตวั ของสิ่งมชี ีวิต เพ่ือให้สามารถดำรงชวี ติ และอยรู่ อดไดใ้ นแหล่งที่อยู่นัน้ ๆ)

ขนั้ ที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที)
นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายในประเด็นหัวข้อดังต่อไปนี้

4.1. นักเรียนตอบคำถามจากภาพ ดงั ตอ่ ไปน้ี

ภาพสุนัขพนั ธไ์ ซบีเรียน

ทม่ี า : http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1560929630_example.pdf

จากภาพถ้านำสุนัขที่มีขนยาว ขนหนา อย่างเช่น ไซบีเรียน มาเลี้ยงในประเทศไทยต้องจัดแหล่งที่อยู่
ใหม้ ลี กั ษณะอยา่ งไรจึงจะเหมาะสมกบั การดำรงชวี ิตของสนุ ัข

(แนวคำตอบ : เนื่องจากสุนัขพันธ์ไซบีเรียนเป็นสุนัขที่ชอบความหนาว เมื่อนำมาเลี้ยงในประเทศไทย
และประเทศไทยเป็นเมืองรอ้ นจึงควรจัดท่ีอยู่อาศัยให้สุนัขได้รับความเยน็ อยา่ งเช่นให้อยใู่ นห้องแอร์ หรอื มอี า่ ง
น้ำไว้ให้สนุ ัขได้คลายร้อน)

ขั้นท่ี 5 ขนั้ ประเมิน (Evaluation) (5 นาที)

5.1 ครปู ระเมินความร้ขู องนกั เรียนจากการทำใบกิจกรรม เรอ่ื ง โครงสรา้ งและลักษณะของส่ิงมชี ีวติ

เหมาะสมกับแหล่งท่ีอยู่อย่างไร

5.2 ครปู ระเมินการนำเสนอผลงานของนักเรยี นที่ไดร้ บั จากทำกจิ กรรม

5.2 ครูประเมนิ จากการตอบคำถามของนักเรียน

สือ่ การเรยี นรู้/วสั ดอุ ุปกรณ์/แหล่งการเรยี นรู้

สือ่ การเรยี นรู้

1. สอื่ Power Point เรื่อง สง่ิ มีชีวติ กบั สง่ิ แวดล้อม

วสั ดอุ ุปกรณ์

1. เคร่อื งเขยี น

แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 เล่ม 2

2. ใบความรู้ เรอ่ื ง สงิ่ มชี วี ิตกบั สิ่งแวดลอ้ ม

3. ใบบนั ทกึ ผลกิจกรรม เร่อื ง โครงสรา้ งและลกั ษณะของส่งิ มชี ีวิตเหมาะสมกับแหล่งท่ีอยู่

อยา่ งไร

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

การวดั ผลการเรยี นรู้

สง่ิ ท่ีต้องการวัด วธิ ีวัดผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑท์ ผ่ี ่าน

ดา้ นพุทธพิ ิสยั (K) - การตรวจแบบบันทึก - แบบประเมินการตรวจ เกณฑ์ทพี่ อใชข้ น้ึ ไป

- อธบิ ายเรอื่ งส่ิงมชี ีวติ กับ กจิ กรรม เร่ือง สง่ิ มีชีวิตกับ แบบบันทึกกิจกรรม ถือว่าผา่ น

สงิ่ แวดลอ้ มได้ (K) สิ่งแวดล้อม

ด้านทักษะพสิ ัย (P) - สังเกตพฤติกรรมการวาด - แบบประเมินสงั เกต เกณฑ์ที่พอใช้ขนึ้ ไป
พฤติกรรมการวาดภาพ ถอื วา่ ผา่ น
วาดภาพเรอื่ งโครงสร้างและ ภาพเรอื่ ง โครงสร้างและ
- แบบประเมินการ เกณฑ์ทพ่ี อใช้ขนึ้ ไป
ลักษณะของสง่ิ มีชีวิตเหมาะสม ลักษณะของสง่ิ มีชีวิต สังเกตพฤตกิ รรมการ ถอื วา่ ผ่าน

กบั แหล่งที่อยูอ่ ย่างไรอย่างเป็น เหมาะสมกับแหลง่ ท่ีอยู่ ทำงานกลุ่ม

ขั้นตอน (P) อยา่ งไร

ดา้ นจิตพสิ ัย (A) - สังเกตพฤติกรรมการ

- มีความตั้งใจ รบั ผิดชอบ และ ทำงานกลมุ่

ตรงตอ่ เวลา (A)

เกณฑ์การประเมินการตรวจใบกจิ กรรม

ประเด็นการ 3 ระดบั คะแนน 1
ประเมิน (ด)ี 2 (ปรบั ปรุง)
มคี วามสะอาด เรียบร้อยไม่ มีความสะอาด มีความ
1.ความสะอาด มีรอยลบหรือมีรอยลบ (พอใช้) เรยี บร้อยมีรอยลบมากกวา่ 5
และความ เล็กน้อย มคี วามสะอาด มีความ ตำแหน่ง
เรยี บร้อยของ เรียบร้อยมีรอยลบ 3- 5
แบบฝกึ หดั ใชภ้ าษาท่ีเข้าใจงา่ ยในการ ใช้ภาษาทเ่ี ขา้ ใจง่ายในการสื่อ
สอ่ื ความหมาย คำสละสลวย ตำแหนง่ ความหมาย คำไมส่ ละสลวย
2. การใชภ้ าษา เรียงประโยคก่อนหลังไม่
เรยี งประโยคก่อนหลังได้ ใชภ้ าษาท่ี เข้าใจง่ายในการส่ือ ถูกต้อง แต่ตรงตามหลกั ภาษา
3. การตอบคำถาม ถูกต้องและตรงตามหลัก ความหมาย คำไมส่ ละสลวย
จากแบบฝกึ หดั เรยี งประโยคก่อนหลังได้ มกี ารตอบคำถามอย่างถูกต้อง
ภาษา ถูกต้องและตรงตามหลัก ไม่ครบถว้ นตามประเดน็ ตอบ
มีการตอบคำถามอย่าง
ถูกต้อง ครบถ้วน ตรง ภาษา ผดิ มากวา่ 2 ส่วนขึ้นไป
มกี ารตอบคำถามอย่างถูกต้อง
ประเดน็
ครบถว้ น ตรงประเดน็ แต่
ตอบผิดบางส่วน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

7 - 9 3 ดี

4 - 6 2 พอใช้

1 - 3 1 ควรปรบั ปรงุ

** เกณฑ์ผา่ นการประเมินต้องไดร้ ะดบั 2 (พอใช้) ขน้ึ ไป

เกณฑแ์ บบประเมินการทำกิจกรรม

ประเดน็ การ 3 ระดับคะแนน 1
ประเมิน (ดี) 2 (ปรับปรุง)
ทำกิจกรรมตามวธิ กี ารและ ทำกจิ กรรมตามวิธีการแต่
1. การทำกจิ กรรม ขนั้ ตอนท่ีกำหนดไว้อย่าง (พอใช)้ ข้ามขั้นตอนท่ีกำหนดไว้ โดย
ตามแผนที่กำหนด ถูกต้องด้วยตนเอง ทำกจิ กรรมตามวธิ ีการและ ครูแนะนำตลอดเวลา
สามาถใชป้ ระสาทสมั ผสั เกบ็ ขน้ั ตอนท่ีกำหนดไวโ้ ดยครู สามาถใชป้ ระสาทสมั ผสั เก็บ
2. การสงั เกต รายละเอยี ดขอ้ มลู เกีย่ วกับ รายละเอียดข้อมูลเกย่ี วกับ
โครงสร้างและรายละเอยี ด แนะนำในบางสว่ น โครงสรา้ งและรายละเอียด
ของส่งิ มชี วี ติ ได้ดว้ ยตนเอง สามาถใชป้ ระสาทสมั ผัสเกบ็ ของสง่ิ มชี วี ิตได้เพียงบาง
โดยไมเ่ พิ่มเตมิ ความคิดเห็น รายละเอยี ดข้อมลู เกีย่ วกบั ลักษณะ แมว้ า่ จะได้รบั คำ
โครงสรา้ งและรายละเอยี ด ชีแ้ นะจากครหู รือผู้อ่นื
3. การบนั ทกึ ผล บันทึกผลเปน็ ระยะอย่าง ของสิ่งมีชวี ติ ได้จากการชีแ้ นะ บันทึกผลไม่ครบ และไม่
การทำกจิ กรรม ถกู ต้อง ครบถว้ น และมี ของครหู รอื ผูอ้ ่ืนหรือมีการ เป็นไปตามผลการทำ
กจิ กรรม
4. การสรุปผลการ ระเบยี บ เพ่ิมเติมความเหน็ สรปุ ผลการทำกิจกรรมได้
ทำกจิ กรรม สรปุ ผลการทำกิจกรรมได้ บนั ทึกผลเป็นระยะอย่าง ตามความเห็น โดยไมใ่ ช้
อยา่ งถูกต้อง กระชบั ชดั เจน ถูกต้อง ครบถว้ น แต่ไมเ่ ปน็ ขอ้ มลู จากการทดลอง
และครอบคลุมขอ้ มูลจาก
ระเบยี บ
การวิเคราะห์ทัง้ หมด สรุปผลการทำกจิ กรรมได้
อยา่ งถูกต้อง แตย่ ังไม่
ครอบคลุมข้อมลู จากการ

วเิ คราะหท์ ง้ั หมด

5. การนำเสนอ - ผลการนำเสนอถกู ต้อง - ผลการนำเสนอถูกต้อง - ผลการนำเสนอไม่ถูกต้อง
ชดั เจน ชัดเจน ชัดเจน

- เนื้อหาการนำเสนอ - เน้ือหาการนำเสนอขาดหาย - เนอื้ หาการนำเสนอไม่
ครบถว้ น บางส่วน ครบถ้วน

เกณฑ์การให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

13 - 18 3 ดี

7 - 12 2 พอใช้

1 - 6 1 ควรปรับปรุง

** เกณฑผ์ า่ นการประเมินต้องไดร้ ะดับ 2 (พอใช)้ ขึ้นไป

เกณฑ์แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมการเรียน

ประเด็นการประเมิน 3 ระดับคะแนน 1
1. ความร่วมมือ (ด)ี 2 (ปรับปรุง)
ให้ความร่วมมือในการทำ ไมใ่ หใ้ ห้ความรว่ มมือในการทำ
กจิ กรรมในกลมุ่ ทุกครง้ั (พอใช้) กจิ กรรมในกลมุ่
ใหค้ วามรว่ มมือในการทำ
กิจกรรมในกลมุ่ บางคร้งั

2. การตอบคำถามใน ตอบคำถามในช้นั เรียนได้ ตอบคำถามในช้นั เรียนได้น้อย
ชั้นเรยี น อย่างครบถ้วน สมบรู ณ์
กว่า 3 ข้อ ตอบคำถามในชัน้ เรยี นไม่ไดเ้ ลย
3.ส่งงานตรงเวลา มากกว่า 3 ข้อ
ส่งงานตรงเวลาท่ีกำหนด ส่งงานลา่ ชา้ 1-2 วนั ส่งงานลา่ ช้ามากกวา่ 3 วัน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

7 - 9 3 ดี

4 - 6 2 พอใช้

1 - 3 1 ควรปรบั ปรุง

** เกณฑผ์ ่านการประเมนิ ตอ้ งไดร้ ะดบั 2 (พอใช้) ข้นึ ไป





เฉลย








Click to View FlipBook Version