The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การจำแนกสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nongsaiziii, 2022-03-04 10:21:46

สัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง

การจำแนกสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ วิทยาศาสตร์ ประถมศึกษาปีที่ 4

DATE : NAME :

ACTIVITIES SUBJECT

สั ต ว์ ที่ มีก ร ะ ดู ก สั น

ห ลั ง แ ล ะ สั ต ว์ ที่ ไ ม่มี

ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั งLEARNING
LESSON FOCUS

สั ต ว์ ที่ มีก ร ะ ดู ก สั น
หลัง และสัตว์ที่
ไม่มีกระดูกสันหลัง

คำนำ

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เรื่องสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง
และสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 จัดทำเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้
สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันและสามารถบูรณา
การร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ

ผู้จัดทำหวังว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้
เรียน หรือผู้ที่กำลังสนใจที่จะศึกษารายวิชาวิทยาศาสตร์ หากมีข้อผิด
พลาดประการใดผู้จัดทำขอน้อมรับไว้ และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

สารบัญ หน้า
1
เรื่อง 3
1. ความหลากหลายของสัตว์ 3
2. สัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง 4
5
- กลุ่มปลา 7
- สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 10
- สัตว์เลื้อยคลาน 12
- สัตว์ปีก 13
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 15
3. สัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง 17
- พวกฟองน้ำ 18
- พวกสัตว์ลำตัวกลวง 19
- พวกหนอนตัวกลม 20
- พวกสัตว์ลำตัวเป็นปล้อง 23
- พวกหอยและหมึกทะเล
- พวกมีขาเป็นข้อ
- พวกสัตว์มีลำตัวเป็นหนาม

สาระการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการ

ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลง
ทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและ
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตรวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชี้วัด ว 1.3 ป.4/3 จำแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสัน
หลัง และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังโดยใช้การมีการดูกสันหลังเป็น
เกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้

ว 1.3 ป.4/4 บรรยายลักษณะเฉพาะที่สังเกตได้
ของสัตว์มีกระดูกสันหลังในกลุ่มปลา กลุ่มสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก
กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน กลุ่มนก และกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และยก
ตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในแต่ละกลุ่ม

แ บ บ ท ด ส อ บ ก่ อ น เ รี ย น

https://quizizz.com/join?gc=226457&source=liveDashboard

ใบความรู้

ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ข อ ง สั ต ว์

ความหลากหลาย หมายถึง ลักษณะที่
แตกต่างกันของสิ่งมีชีวิต ในแหล่งที่อยู่
เดียวกัน โดยเกิดจากผลของการแสดงออก
ทางพันธุกรรมหรือยีนและกลุ่มสิ่งมีชีวิตมี
ความสัมพันธ์กัน การแบ่งประเภทของสัตว์

รูปที่ 1 ฝูงเต่า

นั้นมี หลักเกณฑ์ในการจัดหมวด หมู่สัตว์ตามโครงสร้างของร่างกาย
ของสัตว์สามารถบ่งบอกถึงวิวัฒนาการและต้นกำเนิดของ สัตว์แต่ละ
ชนิดได้ สัตว์ที่มีโครงสร้างที่คล้ายคลึง กันหรือโครงสร้างที่มีต้นกำเนิด
มาด้วยกันจะมีความสัมพันธ์กันในเชิงวิวัฒนาการ

รูปที่ 2 เสือ รูปที่ 3 ยีราฟ

1

ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ข อ ง สั ต ว์

หลักการแบ่งสามารถแบ่งได้หลายประเภท สัตว์ต่างชนิดกัน
ย่อมมีรูปแบบการดำรงชีวิตที่แตกต่างกัน สัตว์บางชนิดมีขนาดใหญ่
เช่น ช้าง ม้า สิงโต ปลาฉลาม เป็นต้น ในพื้นที่เดียวกันก็อาจมีสัตว์ที่
ขนาดเล็กมาก เช่น มด ยุง เห็บ ไร และยังมีรูปร่างที่ต่างกัน

ทั้งจำนวนขา บางชนิดก็ไม่มีขา การเจริญเติบโตก็เป็นสิ่งที่บ่งบอก
ความหลากหลายของสัตว์ได้

รูปที่ 4 ความหลากหลายของสิ่ งมีชีวิต

โดยการแบ่งประเภทสัตว์ที่เน้นให้ศึกษาได้ง่ายมักใช้เกณฑ์ของ
กระดูกสันหลังของสัตว์ในการแบ่ง สามารถแบ่งออก ได้ 2 ประเภท
ดังนี้ สัตว์มีกระดูกสันหลัง และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง

2

สั ต ว์ ที่ มี ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง

สัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง คือสัตว์ที่มีโครงกระดูกใน
ตัวและมีกระดูกสันหลัง ทำให้ร่างกายคงรูปอยู่ได้ จัดเป็น
สัตว์ชั้นสูงแบ่งเป็น 5 ประเภท

1. ปลา เป็นสัตว์ที่หายใจด้วยเหงือก มีครีบใช้
เคลื่อนไหวและทรงตัว มีเส้นข้างตัวเป็นส่วนรับความรู้สึก
สันสะเทือน เป็นสัตว์เลือดเย็นแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

- ปลากระดูกอ่อน
- ปลากระดูกแข็ง

รูปที่ 1 ความหลากหลายของปลา

3

- ปลากระดูกอ่อน คือ ปลาที่มีเกล็ดขนาดเล็กมาก ลักษณะ
คล้ายฟัน ตรงปลายของเกล็ดเป็นหนามยื่นไปทางท้ายของลำตัว มี
กระดูกเป็น กระดูกอ่อนตลอดชีวิต เช่น ฉลาม กระเบน

รูปที่ 2 ปลาฉลาม รูปที่ 3 กระเบน

- ปลากระดูกแข็ง คือ ปลาส่วนใหญ่ที่มีเกล็ดลักษณะแบนเรียง

ซ้อนกัน คล้ายกับการวางกระเบื้องมุงหลังคาบ้านมีกระดูกเป็นกระดูก

แข็ง มีทั้งครีบเดี่ยวและครีบคู่ เช่น ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาช่อน

รูปที่ 4 ปลาตะเพียน รูปที่ 5 ปลาช่อน

4

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เรียกอย่างทั่วไปว่าสัตว์
ค รึ่ ง บ ก ค รึ่ ง น้ำ ( A m p h i b i a n s ) เ ป็ น สั ต ว์ มี ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง ที่ อ ยู่
ในชั้นAmphibia อาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก มีลักษณะ
เ ฉ พ า ะ คื อ ผิ ว ห นั ง มี ต่ อ ม เ มื อ ก ทำ ใ ห้ ผิ ว ห นั ง ชุ่ ม ชื้ น ต ล อ ด เ ว ล า
ผิวหนังเปียกลื่นอยู่เสมอ ไม่มีเกล็ดตัวไม่แห้งหรือไม่มีขน
หายใจด้วยเหงือก,ปอด,ผิวหนังหรือผิวในปากในคอ เช่น
กบ เขียด คางคก ปาด อึ่งอ่าง

รูปที่ 1 เขียด

รูปที่ 2 ปาด รูปที่ 3 ไส้เดือน

5

สัตว์เลื้อยคลาน (reptile) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง
โดยคำว่า Reptilia มาจากคำว่า Repera ที่มีความหมายว่า "คลาน"
เป็น สัตว์มีกระดูกสันหลังที่จัดเป็นสัตว์ในกลุ่มแรกๆของ โลกที่มีการ
ดำรงชีวิตบนบกอย่างแท้จริง สัตว์เลื้อยคลานในยุคดึกดำบรรพ์ที่รอด
ชีวิตจากการสูญพันธุ์และยังดำรงชีวิตในปัจจุบัน มีจำนวนมากถึง
7,000ชนิด กระจายอยู่ทั่วโลกทั้ง
ช นิ ด อ า ศั ย ใ น แ ห ล่ ง น้ำ แ ล ะ บ น
บ ก จั ด เ ป็ น ก ลุ่ ม ข อ ง สั ต ว์ ที่
ป ร ะ ส บ ค ว า ม สำ เ ร็ จ ใ น ก า ร ป รั บ
เ ป ลี่ ย น ส ภ า พ ร่ า ง ก า ย ใ น ก า ร
เ อ า ตั ว ร อ ด จ า ก เ ห ตุ ก า ร ณ์ หิ น
อุ ก ก า บ า ต พุ่ ง ช น โ ล ก ม า
มากกว่า 100 ล้านปีมาแล้ว

รูปที่ 1 สัตว์ต้นตระกูลขนาดเล็ก
ต้นตระกูลของสั ตว์เลื้อยคลาน

6

สิ่งสำคัญที่สุดคือ สัตว์เลื้อยคลานนั้นจะวางไข่บนพื้นดิน และ
มีการวิวัฒนาการให้มีการปฏิสนธิของตัวอ่อนภายในเปลือกไข่ซึ่ง
เป็นการปรับตัวตามสภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อให้มีการดำรงชีวิตให้รอดพ้น
จากแหล่งน้ำนอกจากนี้ยังมีการวิวัฒนาการของเปลือกไข่เพื่อช่วยให้
ตัวอ่อนภายในไข่มีชีวิตรอดออกมาเป็นตัว การที่สัตว์เลื้อยคลาน
สามารถวางไข่บนบกได้นั้นจึงเป็นผลของการวิวัฒนาการร่างกายที่ดี
กว่าสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เช่น กิ้งก่า จิ้งเหลน จิ้งจก แย้ พวกที่
อยู่ได้ทั้งในน้ำและ บนบก เช่น เต่า จระเข้

รูปที่ 2 เต่า รูปที่ 3 กิ้งก่า

รูปที่ 4 แย้ รูปที่ 5 จระเข้

7

สัตว์ปีก เป็นสัตว์ที่เราทุกคนคุ้นเคยพบเห็นได้ในชีวิตประจำ
วัน มีหลากหลายสายพันธ์แตกต่างกันไปตามท้องถิ่นต่างๆสัตว์ปีก
จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้น Aves โดยจัดเป็นสัตว์เลือดอุ่น
ที่มีลักษณะแตกต่างจากสัตว์มีกระดูกสันหลังชนิดอื่นๆตรงที่สัตว์ปีก
เป็นสัตว์เลือดอุ่นและมีกระดูกสันหลังชนิดเดียวที่เมื่อไข่มีการปฏิสนธิ
ภายในร่างกายแล้วมีการออกไข่และมีการเจริญของตัวอ่อนนอก
ร่างกายแม่

รูปที่ 1 ความหลากหลายของสัตว์ปีก

8

ลักษณะของสัตว์ปีก
ลักษณะสำคัญที่เป็นจุดเด่นของสัตว์ปีกแทบจะทุกชนิด

นั้นคือ มีขนเป็นลักษณะเฉพาะตัว คือ เป็นขนแบบแผง โดยขนเส้น
เล็กๆ แต่ละเส้นจะเรียงชิดติดกันอยู่บนก้านยาวจะมีส่วนโคนฝังอยู่ที่
บริเวณผิวหนัง ปากจะเป็นจงอย จะมีรูปร่างแตกต่างกันออกไปเพื่อ
ให้เหมาะสมกับการกินอาหาร อาหารจะถูกกลืนลงสู่ทางเดินอาหาร
โดยไม่การเคี้ยวเพราะในปากไม่มีฟันอาหารจะเคลื่อนผ่านหลอดอาหาร
ลงสู่กระเพาะพักเพื่อเก็บสะสมแล้วจึงส่งต่อให้กระเพาะจริง เรียกว่า
กระเพาะบดหรือกึ๋น

รูปที่ 2 ลักษณะของสัตว์ปีก

9

การแบ่งประเภทสัตว์ปีก สามารถแบ่งสัตว์กลุ่มนี้ตามลักษณะ
การบินได้ 2 พวก คือ

1. สัตว์ปีกจำพวกบินได้ สามารถใช้ปีกในการบินไปมาในอากาศได้
อย่างรวดเร็วแต่มีบางพวกปรับโครงสร้างของร่างกายให้เหมาะสมกับ
สถานที่อยู่อาศัย จึงบินได้ต่ำ เช่น ไก่ เป็ด นกชนิดต่าง ๆ

รูปที่ 3 นกแก้ว รูปที่ 4 นกหงส์ยก รูปที่ 5 นกเอี้ยง

รูปที่ 6 ห่าน รูปที่ 7 เป็ด รูปที่ 8 ไก่

10

2. สัตว์ปีกจำพวกบินไม่ได้ ส่วนใหญ่จะมีปีกขนาดเล็กมากเมื่อ
เปรียบเทียบกับขนาดของลำตัวจึงไม่สามารถบินได้การเคลื่อนที่จะ
อาศัยขาเดิน และวิ่งอย่างรวดเร็ว นกที่บินไม่ได้โดยธรรมชาติเท่าที่มี
เหลืออยู่ในโลกปัจจุบันนี้ ได้แก่ นกกระจกเทศ นกอีมู นกคาสโซวารี่
นกเรีย นกเพนกวินสายพันธุ์ต่างๆ

รูปที่ 9 นกกระจอกเทศ รูปที่ 10 นกเรีย รูปที่ 11 นกเพนกวิน

รูปที่ 12 นกคาสโซวารี่ รูปที่ 13 นกอีมู รูปที่ 14 นกเพนกวินสีเหลือง

11

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม mammal เป็นกลุ่มของสัตว์มี
ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง ที่ ป ร ะ ก อ บ ขึ้ น เ ป็ น ชั้ น สั ต ว์ เ ลี้ ย ง ลู ก ด้ ว ย น ม
(Mammalia) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีลักษณะเด่น ได้แก่ มี
ต่อมน้ำนมที่พบในเพศเมีย หรือพบได้ในเพศผู้เป็นบางครั้ง
ทำหน้าที่ผลิตน้ำนมสำหรับเลี้ยงลูกอ่อน เป็นสัตว์เลือดอุ่น
ส า ม า ร ถ ดำ ร ง ชี วิ ต ไ ด้ ใ น ทุ ก ส ภ า พ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม

รูปที่ 1 ลักษณะของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

12

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ส่วนมากฉลาดโดยมีสมอง
ขนาดใหญ่ มีการรับรู้ตนเอง และสามารถใช้อุปกรณ์ได้
สั ต ว์ เ ลี้ ย ง ลู ก ด้ ว ย น ม ส า ม า ร ถ สื่ อ ส า ร แ ล ะ ส่ ง เ สี ย ง ไ ด้ ด้ ว ย
หลายวิธีการรวมถึงการปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูง การ
สร้างอาณาเขตด้วยการปล่อยกลิ่นตัว การส่งสัญญาณ
เตือน การร้องเพลง เช่น มนุษย์ ช้าง ม้า วัว หมี ลิง
วาฬ โลมา ค้างคาว

รูปที่ 2 มนุษย์ รูปที่ 3 ลิง

รูปที่ 4 กระต่าย รูปที่ 5 โลมา

13

สั ต ว์ ที่ ไ ม่ มี ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง

สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrates) หมายถึง
สั ต ว์ ที่ ไ ม่ มี แ ท่ ง ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง สำ ห รั บ ยึ ด ติ ด ใ ห้ เ ป็ น ส่ ว น
เดียวกันของร่างกาย จัดเป็นสัตว์ประเภทที่ไม่มีกระดูก
แ ล ะ ไ ม่ มี ก ร ะ ดู ก อ่ อ น อ ยู่ ภ า ย ใ น ร่ า ง ก า ย

รูปที่ 1 ความหลากหลายของสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง

14

สั ต ว์ ที่ ไ ม่ มี ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง

สั ต ว์ จำ พ ว ก ไ ม่ มี ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง มี จำ น ว น ม า ก ว่ า สั ต ว์
พวกมีกระดูกสันหลัง แบ่งเป็น

พวกฟองน้ำ
พ ว ก สั ต ว์ ลำ ตั ว ก ล ว ง
พ ว ก ห น อ น ตั ว แ บ น
พ ว ก สั ต ว์ ท ะ เ ล ผิ ว ข รุ ข ร ะ
ห น อ น ตั ว ก ล ม
พ ว ก ห อ ย กั บ ห มึ ก
พ ว ก สั ต ว์ มี ข า เ ป็ น ข้ อ เ ป็ น ป ล้ อ ง
พวกสัตว์ที่มีขา 10 ขา
ห น อ น ป ล้ อ ง

15

ฟองน้ำ เป็นสัตว์ในไฟลัมพอริเฟอรา (Porifera
มี รากศัพท์มาจาก ภาษาละติน porus หมายถึง รู และ
ferre หมายถึง พยุงหรือค้ำเอาไว้) ฟองน้ำเป็นสิ่งมีชีวิต
ห ล า ย เ ซ ล ล์ ที่ ร่ า ง ก า ย เ ต็ ม ไ ป ด้ ว ย รู แ ล ะ ช่ อ ง ท า ง สำ ห รั บ ใ ห้ น้ำ
ไหลเวียนเข้าไป โดยประกอบด้วยเมโซฮิลที่คล้ายวุ้นขนาบ
ด้วยชั้นเซลล์บาง ๆ สองชั้น

ฟองน้ำไม่มีระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร หรือระบบไหลเวียน
แต่ฟองน้ำเหล่านี้ใช้น้ำที่ไหลเวียนเข้าออกนั้นเป็นแหล่งอาหารและ
ออกซิเจน และใช้ขับถ่ายของเสีย

รู ปที่ 2 ฟองน้ำ รู ปที่ 1 ฟองน้ำชนิ ด
Aplysina archeri

16

สัตว์พวกนี้ มีลักษณะลำตัวเป็นโพรง มีรูพรุน ทำให้น้ำและ
อาหารสามารถไหลผ่านเข้าไปในโพรงลำตัว เพื่อดูดซึม ก๊าซออกซิเจน
และอาหาร แล้วปล่อยน้ำและกากอาหารออกทางช่องน้ำออก ฟองน้ำ
ทุกชนิดอาศัยอยู่ในน้ำส่วนใหญ่จะอยู่ในทะเลมากกว่าน้ำจืด โดยจะ
เกาะติดกับหินใต้ท้องทะเล ไม่เคลื่อนที่

รู ปที่ 3 ลัษณะโดยทั่วไปของฟองน้ำ

17

พวกสัตว์ลำตัวกลวง ซีเลนเทอราตา (Coelenterata)
หรือในปัจจุบันถูกเรียกว่า ไนดาเรีย (Cnidaria) คือ หนึ่งในเก้าไฟลัม
ของอาณาจักรสัตว์ สัตว์ในไฟลัมไนดาเรียส่วนใหญ่คือสัตว์ที่อาศัยอยู่
ในทะเล ได้แก่ ปะการัง กัลปังหา ดอกไม้ทะเล และแมงกะพรุน โดยมี
เพียงบางส่วนที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด เช่น ไฮดรา และแมงกะพรุน
น้ำจืด

รู ปที่ 1 โครงสร้างของไฮดรา

รู ปที่ 2 โครงสร้างของแมงกระพรุ น

18

ลักษณะสำคัญของสัตว์ในไฟลัมไนดาเรีย
1. มีปากแต่ไม่มีทวารหนัก ดังนั้น บริเวณกลางลำตัวเรียกว่า
“แกสโทรวาสคูลาร์ คาวิตี” (Gastrovascular Cavity)
2. ไม่มีระบบหายใจ ระบบหมุนเวียนโลหิต หรือระบบขับถ่ายโดย
เฉพาะ
3. มีระบบประสาทแบบร่างแห (Nerve Net) คือ มีเซลล์ประสาท
เชื่องโยงกันทั่วทั้งตัว

รู ปที่ 3 ปะการัง รู ปที่ 4 กัลปังหา

รู ปที่ 5 แมงกระพรุ น รู ปที่ 6 ไฮดรา

19

พวกหนอนตัวกลม สัตว์พวกนี้จะมีลักษระลำตัวกลมยาว
เหมือนเชือก หัวท้ายค่อนข้างแหลม ลำตัวไม่เป็นปล้อง เป็นพวกที่
เรียกว่า ปรสิตทั้งในพืชและในสัตว์ เช่น ไส้เดือนฝอย พยาธิ
ไส้เดือน พยาธิปากขอ พยาธิเส้นด้าย พยาธิตัวจื๊ด ตัวผู้กับตัว
เมียแยกกัน ตัวเมียจะโตกว่าตัวผู้ ตัวเมียหางเหยียด ตัวผู้หางจะ
งอเล็กน้อย

รู ปที่ 1 พยาธิเส้ นด้าย

รู ปที่ 2 พยาธิไส้ เดือน รู ปที่ 3 พยาธิปากขอ

20

การสืบพันธุ์ ของสัตว์กลุ่มจะเป็นแบบอาศัยเพศ มีเพศ
แยกกันคนละตัว เมื่อจับคู่ผสมพันธุ์กัน ไข่ของตัวเมียที่ถูกผสมแล้ว
จะถูกปล่อยออกมาภายนอกร่างกายของสัตว์ที่มันเข้าไปอาศัยอยู่โดย
ออกมากับอจุจาระ ได้แก่ พยาธิตัวตืด พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือน
พยาธิเส้นด้าย

รู ปที่ 4 พยาธิตัวตืด

รู ปที่ 5 พยาธิตัวจื๊ด

21

พวกลำตัวเป็นปล้อง จะมีลำตัวกลมยาวเหมือนพยาธิตัว
กลม แต่จะมีลักษณะเป็นปล้องๆเหมือนวงแหวนหลายๆอันเรียงซ้อน
กัน มีผิวหนังเปียกชื้นช่วยแลกเปลี่ยนแก๊สในการหายใจ อาศัยในทะเล
เช่น แม่เพรียง บางชนิดอาศัยในน้ำจืด เช่น ตัวสงกรานต์
บางชนิดเป็น ปรสิต ดูดเลือดสัตว์อื่นเป็นอาหาร เช่น ปลิงน้ำจืด
ปลิงบก(ทาก) บางชิดอาศัยอยู่ในดิน เช่น ไส้เดือนดิน

รู ปที่ 1 ไส้ เดือนดิน รู ปที่ 2 ปลิงน้ำจืด

รู ปที่ 3 แม่เพรียง รู ปที่ 4 ทาก

การสืบพันธุ์ สัตว์พวกนี้ มีทั้ง 2 เพศอยู่ในตัวเดียวกัน และ

แยกเพศคนละตัว จะอาศัยเพศในการสืบพันธุ์

22

พวกหอยและหมึกทะเล สัตว์พวกนี้ จะมีลักษณะลำตัวอ่อน
นิ่ม บางชนิดมีเปลือกแข็งซึ่งเป็นสารพวกหินปูนหุ้มลำตัว เช่น หอย
ต่างๆ ใช้กล้ามเนื้อท้องในการเคลื่อนที่ บางชนิดจะไม่มีเปลือกแข็ง
หุ้มลำตัว แต่มีเนื้อลำตัวเหนียวมาก เช่น ปลาหมึกธรรมดา และ
ปลาหมึกยักษ์ ใช้หนวดโบกพัดเพื่อว่ายน้ำเคลื่อนที่ไป ส่วนใหญ่จะ
อาศัยอยู่ในน้ำ หายใจด้วยเหงือกบางชนิดอาศัย อยู่บนบก หายใจ
ด้วยปอด เช่นหอยทาก

รู ปที่ 1 ปลาหมึก รู ปที่ 2 หอยงวงช้าง

การสืบพันธุ์ แบบอาศัยเพศ มีเพศแยกกันคนละตัว ส่วนใหญ่
มีการปฏิสนธิภายในแต่บางชนิดมีการปฏิสนธิภายนอก โดยการ
ปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ออกไปผสมกันในน้ำ

23

พวกมีขาเป็นข้อ จะมีขาเป็นข้อๆต่อกัน ทุกชนิดมีเปลือกแข็ง
หุ้มลำตัวด้านนอกแบ่งเป็นปล้องๆซึ่งจะช่วยป้องกันอันตราย เมื่อ
ร่างกายภายในเจริญเติบโตจะดันเปลือกให้แตกออกแล้วสร้างเปลือก
ใหม่เราเรียกว่า ลอกคราบ ระหว่างลอกคราบน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แต่ขนาดจะคงที่แบ่งออกเป็น กลุ่มย่อยได้ดังนี้

1. พวกแมลง เป็นสัตว์ที่มีมากที่สุดกว่ากลุ่มอื่น ลำตัว แบ่ง
ออกเป็นส่วนหัว อก และท้อง มีขา 3 คู่ ที่บริเวณอกส่วนใหญ่มีปีก
ช่วยในการบิน 1-2 คู่ แมลงจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างการเจริญเติบโต
โดยการลอกคราบ

รู ปที่ 1 ความหลากหลายของแมลง

24

2. พวกแมงมุม สัตว์กลุ่มนี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนบก มีขา 4
คู่ เช่น แมงมุม บึ้ง แมงป่อง

รู ปที่ 2 แมงมุม รู ปที่ 3 แมงป่อง

3. พวกตะขาบ สัตว์พวกนี้จะมีลำตัวเรียวยาว และแบนเล็ก
น้อยลำตัวแบ่งเป็นปล้องๆ แต่ละปล้องจะมีขา 1 คู่ เช่น ตะขาบ ซึ่ง
มีเขี้ยวพิษที่บริเวณปากไว้ป้องกันตัว และฆ่าเหยื่อ

รู ปที่ 4 ตะขาบ

25

4. กิ้งกือ สัตว์พวกนี้มีลำตัวเป็นทรงกระบอก และ แบ่ง
เป็นปล้องๆ แต่ละปล้องมีขา 2 คู่ เช่น กิ้งกือ แม้จะมีขามากแต่เดิน
ได้อย่างเชื่องช้าเมื่อมีสิ่งใดมากระทบจะม้วนลำตัวเป็นวงกลม

รู ปที่ 5 กิ้งกือ

5. พวกกุ้งและปู สัตว์พวกนี้จะอาศัยอยู่ในน้ำเป็นส่วนใหญ่
จะพบทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม เช่น ปู กุ้ง กั้ง และไรน้ำ

รู ปที่ 6 ปู รู ปที่ 7 กุ้ง

รู ปที่ 8 กั้ง รู ปที่ 9 ไรน้ำ 26

สัตว์ที่มีลำตัวเป็นหนาม สิ่งมีชีวิตในกลุ่มนี้พบในทะเล
เท่านั้นมีลักษณะสำคัญคือ ผิวลำตัวขรุขระ มีรูปร่างกลมแบน สีสัน
สวยงามบางชนิด มีหนามยื่นออกมา เช่น ดาวทะเล พลับพลึงทะเล
อีแปะทะเล เม่นทะเล

รู ปที่ 1 พลับพลึงทะเล รู ปที่ 2 ดาวทะเล

รู ปที่ 3 อีแปะทะเล รู ปที่ 4 เม่นทะเล

การสืบพันธุ์ สัตว์พวกนี้มีการสืบพันธุ์ได้ทั้ง 2 แบบ คือ
แบบอาศัยเพศ โดยการปฏิสนธิภายนอก ตัวเมียจะมีการผลิตไข่
ครั้งละมากๆ เพื่อให้มีโอกาสอยู่รอดได้มาก ส่วนการสืบพันธุ์แบบไม่
อาศัยเพศ จะใช้วิธีการงอกใหม่ ซึ่งจะพบในพวกปลาดาวทะเล

27

ใ บ กิ จ ก ร ร ม

ใ บ กิ จ ก ร ร ม

คำชี้แจง : ดูภาพแล้วบอกชื่อสัตว์ จากนั้นจำแนกว่าเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง ประเภทใด
พร้อมให้เหตุผล

1. สัตว์ชนิดนี้ คือ........................... 2. สัตว์ชนิดนี้ คือ..........................
เป็นสั ตว์มีกระดูกสั นหลังประเภท เป็นสั ตว์มีกระดูกสั นหลังประเภท
................................................... ...................................................

3. สัตว์ชนิดนี้ คือ.......................... 4. สัตว์ชนิดนี้ คือ..........................
เป็นสั ตว์มีกระดูกสั นหลังประเภท เป็นสั ตว์มีกระดูกสั นหลังประเภท
................................................... ...................................................

5. สัตว์ชนิดนี้ คือ.......................... 6. สัตว์ชนิดนี้ คือ..........................
เป็นสั ตว์มีกระดูกสั นหลังประเภท เป็นสั ตว์มีกระดูกสั นหลังประเภท
................................................... ...................................................

แ บ บ ท ด ส อ บ ห ลั ง เ รี ย น

https://quizizz.com/join?gc=226457&source=liveDashboard

Thank you


Click to View FlipBook Version