การผลติ เกลือทะเลไทย
โดย ดร.จุฑามาศ ทะแกล้วพันธ์ุ
สถาบนั เกลือทะเลไทย
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเพชรบรุ ี
การผลิตเกลอื ทะเลของไทย
ดร.จุฑามาศ ทะแกลว้ พนั ธ์ุ
สถาบันเกลือทะเลไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบรุ ี
แหล่งผลิตเกลือทะเลที่ใหญ่ท่ีสุดของประเทศอยู่บริเวณพ้ืนท่ีชายฝ่ังอ่าวไทยตอนใน ต้ังแต่จังหวัด
สมุทรสาคร สมทุ รสงคราม เพชรบุรี ผลิตโดยกระบวนการน้านา้ ทะเลมาระเหยในแปลงนาดิน การท้านาเกลือ
ระบบฟารม์ นาดนิ ใช้พ้นื ทีข่ นาด 50-100 ไร่
เร่มิ ตน้ จากการวางผังท้าแปลงนาเกลอื โดยแบง่ การใช้พ้นื ที่ออกเป็น 4 ส่วน ไดแ้ ก่ 1)นาขัง รอ้ ยละ 40
2)นาตากหรือนาแผ่ รอ้ ยละ 20 3)นาเชื้อหรือนาดอก 20 ของพ้ืนท่ี 4)นาวาง ร้อยละ 20 มักนิยมให้นาวางอยู่
ติดถนนและยุ้งเกลือเพ่ือให้สะดวกต่อการขนสง่
เม่ือถึงฤดูกาลท้านาเกลือประมาณเดือนกันยายนถึงพฤษภาคม ชาวนาจะสูบน้าทะเลมาใส่ในนาขัง
ประมาณ 70 เซนตเิ มตร เพ่ือกกั น้าไวใ้ นใหต้ กตะกอนและมีความเคม็ 0 ดกี รีโบเม่ (30 พีพีที) จากนัน้ ผันน้าเข้า
นาตากหรือนาแผ่ให้มีระดับน้าประมาณ 50 เซนติเมตร ปล่อยให้น้าระเหยจนมีความเข้มข้นมากขึ้นท่ีระดับ
ความเค็ม 5 ดีกรี แลว้ ผันน้าต่อไปยังนาเชื้อหรือนาดอกต่อไป คงระดับไว้ในนาเชื้อท่ีความลึก 20 เซนติเมตร
ความเคม็ 15 ดกี รี กกั นา้ ไว้ระยะหนึง่ ระหว่างนน้ั ชาวนาเกลอื จะมากลงิ้ ปรับพื้นนาวางให้แน่นและเรียบแลว้ จึง
ค่อยน้าน้าเข้านาวาง ท้ิงไว้ประมาณ 3 วัน น้าจะมีความเค็มมากข้ึนถึง 20 ดีกรี แล้วจึงถอดน้าโดยการผันน้า
กลับไปท่ีนาเช้ืออีกครั้ง ท้าซ้า 3 รอบโดยชักน้ากลับไปมาระหว่างนาเชื้อกับนาวางเพ่ือให้น้ามีความเค็ม 25
ดีกรี จึงผันน้าเข้านาวาง ซึ่งท่ีนาวางจะเร่ิมเกิดรกเกลือบริเวณผิวหน้าน้า และผลึกเกลือจะก่อตัวหนาข้ึน
จนกระทง่ั เป็นแผ่นหนาสังเกตว่าน้าจะเริ่มแห้ง ในขณะเดียวกนั น้ารอบต่อมาที่รออยใู่ นนาเชื้อก็จะมีความเค็ม
ได้ท่ี พร้อมท่ีจะน้ามาเพิ่มในนาวางเพอื่ ให้เกลือตกผลึกเร็วและมาก ปลอ่ ยให้เกลือมีช้ันความหนาของแผน่ เกลือ
ประมาณ 1 ขอ้ นิ้ว ซึง่ จะใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน ขนึ้ อยู่กับสภาพภูมอิ ากาศ
การเก็บเกี่ยวผลผลิต มี 2 ขั้นตอน ได้แก่ การรื้อเกลอื เพื่อโกยแผ่นเกลือให้กองเตรียมรอการขนไปเก็บ
ในยุง้ ฉาง และการหาบเกลอื ไปเกบ็ ไว้ในย้งุ ฉางรอการจ้าหน่ายต่อไป
การผลิตเกลือทะเลไทยผลิตโดยกระบวนการน้าน้าทะเลมาระเหยในแปลงนาดิน คุณสมบัติของน้า
ทะเลที่นา้ มาใช้เปน็ วัตถดุ ิบสา้ คัญมอี งคป์ ระกอบของสารหรอื แร่ธาตุทลี่ ะลายในน้าทะเล (ส่วนในพันสว่ น :ppt)
เกลอื ทะเลทไ่ี ดจ้ ากการผลติ จึงมเี กลือแร่ทหี่ ลากหลาย เหมาะสมกับร่างกายของมนษุ ย์ ซึ่งแหล่งผลติ เกลอื ทะเล
ไทยด้วยกระบวนการดังกล่าวท่ีส้าคัญ คือ บริเวณชายฝ่ังทะเลของอ่าวไทย จากการศึกษาองค์ประกอบของ
น้าทะเลในอา่ วไทย ปรากฏผลดังตารางตอ่ ไปน้ี
ตารางท่ี 1 องค์ประกอบของนา้ ทะเลอ่าวไทย
สารหรือแร่ธาตุหลกั ประมาณมากกว่า 100 ppt
คลอไรด์ (Cl-) 55.04 %
โซเดยี ม (Na+) 30.61 %
ซัลเฟต (SO-2 4 ) 7.68 %
แมกนีเซยี ม (Mg+2) 3.69 %
แคลเซยี ม (Ca +2) 1.16 %
โพแทสเซยี ม (K+) 1.10 %
สารหรอื ธาตรุ อง ปริมาณน้อยกว่า 100 ppt
โบรไมต์ 0.09 %
คาร์บอน 0.07 %
สตรอนเซียม 0.03 %
โบรอน 0.02 %
ซลิ ิกอน 0.01 %
ฟลอู อไรด์ >0.01 %
สารหรอื แร่ธาตุท่ีจาเปน็ ปริมาณนอ้ ยกว่า 1 ppt
ไนโตรเจน ลิเทียม รูบเิ ดยี ม ฟอสฟอรสั ไอโอดนี เหล็ก สังกะสี โมลดิ นิ ัม
โลหะหนัก mg./L (สารวจเมื่อ มกราคม 2561) * ไม่เกินคา่ มาตรฐานความปลอดภัย
สารหนู (Asenic) 0.03 *
แคดเมยี ม (Cadmium) ไมพ่ บ
ทองแดง (Copper) 0.01*
เหลก็ (Iron) 2.31*
ตะก่ัว (Lead) 0.05*
ท่มี า: ดัดแปลงจาก แผน่ พับ โครงการฟารม์ ทะเลตัวอยา่ งตามพระราชดา้ ริในสมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกติ ิ์พระบรมราชนิ นี าถ
ภาพท่ี 1 รถกลิ้งนาเกลือทใ่ี ชใ้ นกระบวนการเตรยี มผนื นา
ทีม่ า: เกตุแกว้ ส้าเภาทอง, 2562
2
ภาพที่ 2 การแบ่งพื้นท่ีการท้านาเกลือทะเล จังหวดั สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี
ท่มี า: เกตุแกว้ ส้าเภาทอง, 2562
ภาพท่ี 3 กระบวนการเก็บเกย่ี วเกลอื จังหวดั สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี
3
เม่ือศึกษาคุณสมบัติทางกายภาพของเกลือทะเลไทยด้านสีของผลึกเกลือ พบว่า เกลือทะเลผลิตจาก
ผืนนาที่ใช้ดินละเอียดชายฝั่งทะเลบดให้เรียบแน่น ดังน้ันในกระบวนการเก็บเกี่ยวจึงอาจจะมีตะกอนดิน
ธรรมชาติปะปนเข้ามาซึ่งเคลือบสีเม็ดเกลือไว้ภายนอก เกลือด้านบนของแผ่นผลึกเกลือจึงมักมีสีขาวสะอาด
อาทิ ดอกเกลือ เกลือขาว ในขณะทเ่ี กลือชน้ั ล่างลงมาจะมีสีคล้าเลก็ น้อยตามล้าดบั ซงึ่ สามารถกา้ จัดตะกอนดิน
ที่เคล่ือนผลกึ เกลอื ออกไดด้ ้วยการน้าเกลือที่ได้ไปล้างด้วยน้าเค็มเขม้ ข้น สว่ นเกลือบางฤดกู าลในกรณที ี่มีฝนตก
ชะตะกอนดินขึ้นมาอาจจะท้าให้สีของเกลือเปล่ียนแปลงไปตามสภาพอากาศ การตกลงซ้ือขายเกลือนิยมใช้
ความช้นื และสีเกลือเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา เกลือขาวนิยมนา้ ไปบริโภค เกลือกลางใชใ้ นกระบวนการแปรรูป
อาหาร และเกลือด้าน้าไปใช้ในการอุปโภคและใช้เป็นปุ๋ยให้แร่ธาตุแก่พืช การวัดสีเกลือด้วยเครื่องวัดสี
colorimeter สามารถใช้จัดจา้ แนกสีเกลอื ในท้องตลาดได้ ดงั น้ี
ตารางที่ 2 คณุ สมบตั ิทางกายภาพและเคมีของเกลอื ทะเลไทย ฤดูกาลผลิตปี 59-60
คณุ สมบตั ิ เพชรสมุทรครี ี ปัตตานี
คา่ เฉลย่ี ส่วนเบ่ียงเบน 6.99
93.00
มาตรฐาน 95.60
0.01
ความชน้ื %Moisture 4.23 2.27 0.79
0.19
ปริมาณของแขง็ รวม Total Solid 91.32 2.35
0.00
โซเดียมคลอไรด์ NaCl 95.43 2.15 0.00
0.00
โซเดยี มคารบ์ อเนต Sodium Carbonate 0.03 0.03 1,322.00
0.19
ซลั เฟต Sulphate 0.97 0.23 50.00
0.00
ของแข็งท่ไี ม่ละลายน้า Water Insoluble Substance 0.24 0.16 2,358.00
ปริมาณโละหนกั Metals Testing (mg/kg.)
สารหนู Arsenic 0.00 0.00
ปรอท Mercury 0.00 0.00
แคดเมียม Cadmium 0.00 0.005
แคลเซยี ม Calcium 1223.16 599.09
ทองแดง Copper 0.19 0.05
เหล็ก Iron 51.89 40.2
ตะก่วั Lead 0.45 0.23
แมกนีเซียม Magnesium 3789.24 1509.43
ตารางท่ี 3 ค่าสขี องเกลือทะเล
L 79.83 78.54 77.20 74.79 71.16 68.58 67.04 62.62 58.32 53.79
a 0.38 -0.17 0.00 0.63 1.20 1.55 2.01 2.36 2.39 1.87
b 2.86 4.19 4.94 7.84 9.45 11.87 13.17 13.95 15.46 12.93
สี ขาว ขาว ขาว ขาว ขาว กลาง กลาง ด้า ด้า ดา้
4
ผลวิเคราะห์ตัวอย่างเกลือเม็ดในเบ้ืองต้นเพื่อเช่ือมโยงคุณภาพของน้าเค็มท่ีใช้เป็นวัตถุดิบท่ีมีต่อ
คุณลักษณะของผลผลิตเกลือ ค่าความชื้น ปริมาณของแข็ง โซเดยี มคลอไรด์ โซเดียมคารบ์ อเนต ซัลเฟต สารที่
ไม่ละลายน้า(ตามวิธี TIS, 2085-255) โลหะหนัก(สารหนู ปรอท แคดเมียม เหล็ก ตะกว่ั ) ทองแดง แคลเซียม
แมกนีเซียม (ตามวิธี Based on AOAC (2012), 2011.19, Based on US EPA, Method 7474, Based on
AOAC (2012), 984.27) พบว่า ความชน้ื ของเกลือจาก 3 จังหวัด เพชรสมุทรคีรีสูงกว่าเกลือปัตตานีเล็กน้อย
แต่มีปริมาณของแข็ง โซเดียมคลอไรด์ ซัลเฟต ตะกั่วและแมกนีเซียมสูงกว่า ในขณะที่เกลือปัตตานีมีเหล็ก
ค่อนข้างสูง แต่โดยภาพรวมแล้วเกลือทะเลทุกตัวอย่างมีค่าโลหะหนักท่ีเป็นอันตรายไม่เกณฑ์เกินท่ีระบุไว้ใน
มาตรฐานเกลือบริโภค และตรวจไม่พบสารหนู และปรอท ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะค่าความสว่าง ขาว-เทา-ด้า
(L) จะพบว่า เกลือขาวจะมีค่าความสว่างต้ังแต่ 70 ข้ึนไป เกลือกลางจะมีค่า L 70-65 และเกลือด้าจะมีค่า L
ต่้ากว่า 65 ลงไป ทั้งนี้ เกลือเม็ดท่ีผ่านกระบวนการล้างด้วยน้าเค็มเข้มข้นสามารถก้าจัดตะกอนดินออกและ
ชว่ ยเพิ่มค่า L ขน้ึ ได้
เกลือทะเลไทยมีคุณสมบัติทด่ี ีในการเป็นแหล่งเกลือแร่ท่ีจ้าเป็นตอ่ ร่างกาย สามารถน้าไปบริโภคและ
ประกอบอาหารได้ สถานการณ์กระบวนการผลิตเกลือทะเลแบบด้ังเดิมจะเน้นการผลิตเกลือเพ่ือการบริโภค
ได้แก่ เกลือเม็ด ดีเกลือแต่ในขณะเดียวกันก็เกิดผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตได้แก่สัตว์น้าทะเล
ต่างๆท่ีอยู่ภายในวังเป็นการเพาะเล้ียงสัตว์นา้ แบบธรรมชาตเิ พอื่ เป็นรายได้เสริมทางหนึ่งน้าเค็มเขม้ ขน้ สา้ หรับ
นา้ ไปผสมกบั น้าปกตเิ พื่อใช้เพาะเล้ยี งกุง้ ทะเลและผลพลอยได้อกี อย่างทม่ี ศี ักยภาพในการน้ามาเพ่มิ มูลค่าได้แก่
เกลือจืดหรือยิปซั่มเป็นสินแร่ทเี่ กิดในนาเกลือเฉพาะแปลงที่ใช้กักเก็บน้าแก่ (นารองเชื้อและนาเช้ือ) เกลือจืด
จะเกิดอยู่บนหน้าดิน เกษตรกรชาวนาเกลือจะท้าเกลือจืดในฤดูฝนหลังจากหมดฤดูท้านาเกลอื แล้ว โดยจะขัง
น้าฝนไว้ในแปลงนาท่ีมีเกลือจืด แล้วรวบรวมเกลือจืดเข้าเป็นกองๆจากนั้นก็จะร่อนและล้างเอาเศษดินเศษ
โคลนออกให้เหลือแต่เม็ดเกลือจืด โดยปกติราคาเกลือจืดจะสูงกว่าเกลือทะเลสามารถน้าไปใช้ผลิตปูน
ปลาสเตอร์ ยาสฟี ันชนดิ ผงและแป้ง
สถานการณก์ ารคา้ เกลือและตลาดการจ้าหน่ายผลิตภณั ฑ์เกลือทะเลยงั คงผลติ โดยใชก้ ระบวนการแบบ
ดั้งเดิมที่อาศัยภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาและมีลักษณะการซื้อขายแบบเก่า ซ่ึงปัจจุบันได้รับการส่งเสริมจาก
หน่วยงานรัฐใหม้ ีการพัฒนาทั้งในด้านกระบวนการผลิต รูปลักษณ์ของบรรจุภณั ฑ์ ตลอดจนการเช่ือมโยงเข้าสู่
เส้นทางการท่องเที่ยวดังจะเห็นได้จากการท้ากลยทุ ธ์การพัฒนาตราสินค้าผลิตภัณฑ์และการบอกเล่าเรื่องราว
บนเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับท้องถ่ินนั้นๆ(Local Experience)
อย่างไรก็ตามการอนุรักษ์เขตเกษตรกรรมการท้านาเกลอื ทะเลให้เกิดความยั่งยืนยังเป็นเรื่องท่ีต้องด้าเนินการ
ไปควบคู่กันในการขับเคล่ือนกลยุทธ์การสร้างตราสินค้าประจ้าเส้นทางซ่ึงเป็นกลยุทธ์ที่ส้าคัญในการสร้าง
ภาพลักษณ์ตราเพ่ือให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ ดังน้ัน การจัดการท่องเที่ยวในเส้นทางสายเกลือทะเลในพื้นท่ีภาค
กลางตอนลา่ ง 2 การพฒั นาผลิตภัณฑแ์ ละผลพลอยได้นาเกลือเพ่อื เปน็ สว่ นหน่งึ ของกลยุทธก์ ารสร้างตราสนิ ค้า
ให้กบั เสน้ ทางการท่องเทยี่ ว (Route Branding) โดยใชเ้ ครอื่ งมือสือ่ สารการตลาดซึ่งจะเกย่ี วข้องกบั 2 ส่วนคือ
ส่วนที่ 1 เป็นส่วนของความคิด (Heads) ซ่ึงจะเก่ียวข้องกับการกระตุ้นด้านเหตุผลเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิด
ความรู้ความเข้าใจในประเด็นความยั่งยืนเชิงสร้างสรรค์ (Creative sustainability) และความดั้งเดิม
(Authenticity)ของเส้นทางท่องเท่ียวสายเกลือ ส่วนที่ 2 เป็นส่วนของจิตใจ (Hearts) ซ่ึงจะกระตุ้นความ
ตอ้ งการด้านอารมณ์หรอื ดา้ นจติ วิทยาของนักท่องเท่ยี ว ท้ัง 2 ประเด็นน้ีจะใชเ้ ป็นแนวทางในการสร้างตราการ
ทอ่ งเท่ียวตามเสน้ ทางสายเกลือทะเลในเขตภาคกลางตอนล่าง 2 โดยยดึ หลกั (1) ความดงั้ เดมิ (Authenticity)
5
ด้านการถ่ายทอดวิถีชีวิตและภูมิปัญญาการท้านาเกลือ (2) ความย่ังยืนเชิงสร้างสรรค์ (Creative
sustainability) ดา้ นการจัดการท่องเที่ยวบนเสน้ ทางสายเกลือทะเลเพื่อสง่ เสริมและสนับสนุนการสร้างมูลค่า
บนเส้นทางใหเ้ กิดการสบื ทอดการท้านาเกลือสมุทรต่อไป โดยกระบวนการพัฒนาตามกลยุทธ์จงึ ประกอบด้วย
(1)การพัฒนากระบวนการสร้างโปรแกรมการท่องเท่ียวสายเกลือ (2)การพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยวและ
การจัดการท่องเท่ียวให้เกิดตราสินค้าในเส้นทางนี้ (3)การสร้างตราสินค้าและภาพลักษณ์ของสินค้าเพื่อเป็น
ตวั แทนเชื่อมโยงสู่ Route Branding (4)การอบรมให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจชมุ ชนในจัดการท่องเที่ยว ท้า
ให้ในปัจจุบันเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีศักยภาพด้านการบริหารจัดการมูลค่าเพ่ิมท่ีได้จากการ
ท่องเที่ยวในพ้ืนที่การท้านาเกลือทะเล รวมท้ังพฒั นาอัตลักษณ์ให้กบั ผลติ ภัณฑ์จากเกลือบนเสน้ ทางท่องเที่ยว
ผลที่ได้จากการจัดการท่องเท่ียวจึงช่วยเพ่ิมมูลค่าในกระบวนการผลิตเกลือทะเล เกิดการยกระดับและสร้าง
มาตรฐานในการจัดการท่องเท่ียวใหส้ ามารถกับคู่แข่งทางการตลาดได้และเพ่ิมรายได้ให้แก่เกษตรกรจากการ
พัฒนาผลิตภัณฑ์จากเกลือโดยมีอัตลักษณ์เช่ือมโยงถึงวัฒนธรรมของชาติในเส้นทางการท่องเท่ียว “เส้นทาง
สายเกลอื ทะเล”
-------------------------------------------------
6