จัดทำโดย นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 ปีการศึกษา 2565 ครูที่ปรึกษา นางสาวจงอร ศรีสวัสดิ์ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดภูเขาดิน) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ โครงงานสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION) เรื่อง ลูกข่างพอเพียง
คำนำ STEM EDUCATION หรือสะเต็มศึกษา เป็นการจัดการศึกษาแบบบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ โดยนำลักษณะทางธรรมชาติของแต่ละสาระวิชามาผสมผสานและ จัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน STEM EDUCATION หรือ สะเต็มศึกษา กับการจัดการเรียนการสอนในระดับปฐมวัย การเรียนการสอน ในระดับปฐมวัยได้มีการแทรกสาระของ “STEM” เข้าไปในกิจกรรมการเรียนการสอนตามหน่วยการเรียนรู้ที่ครู กำหนดขึ้นหรือเลือกตามหน่วยที่เด็กสนใจ จะทำให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น เพราะการศึกษา “STEM” เป็น การศึกษาที่ทำให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ ปฏิบัติจริง ทดลอง ค้นคว้า สืบค้น และใช้ วัสดุอุปกรณ์ด้วยตนเอง ทำให้เด็กได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ ได้รับความสนุกสนานและมีความสนใจใน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์มากขึ้น ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่อง ลูกข่างพอเพียง เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ บูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์เด็กได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริง ทำให้เด็กสนุกสนาน มีความกระตือรือร้น ให้ความสนใจ กล้าแสดงออกมากขึ้น สามารถตั้งคำถามและแก้ปัญหาที่ เกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติกิจกรรมได้ และสามารถเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่อง ลูกข่างพอเพียง จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ สนใจ และเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ“STEM”ได้เป็นอย่างดี จงอร ศรีสวัสดิ์
สารบัญ หน้า คำนำ สารบัญ ถอดบทเรียนด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1 โครงงานสะเต็มศึกษา 2 ชื่อโครงงาน 2 ผู้ทำโครงงาน 2 ครูที่ปรึกษา 2 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน 2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 2 ขอบข่าย 3 ระยะเวลาในการทำโครงงาน 3 ประโยชน์ของการทำโครงงาน 3 การดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน 3 สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ 14 การวัดและประเมินผล 14 การบูรณาการสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION) 15
โครงงานสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION) ชื่อโครงงาน ลูกข่างพอเพียง ผู้ทำโครงงาน นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดภูเขาดิน) จำนวนนักเรียน 22 คน ครูที่ปรึกษา นางสาวจงอร ศรีสวัสดิ์ ตำแหน่ง ครู คศ.3 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดภูเขาดิน) ที่มาและความสำคัญของโครงงาน เนื่องจากนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดภูเขาดิน) ปีการศึกษา 2565 ได้เรียนรู้หน่วย ผู้นำพอเพียง เด็กๆได้เรียนรู้เกี่ยวกับความหมายของความพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การ ภูมิคุ้มกันที่ดี ความรอบรู้ คุณธรรมความดี เด็กๆ มีความสนใจในกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้นี้มาก เด็กๆ รู้จักความหมายของความพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกันที่ดีความรอบรู้ คุณธรรมความดี ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วย ผู้นำพอเพียง เด็กๆ ได้แนวคิดที่จะนำสิ่งของจากวัสดุเหลือใช้ เช่น แผ่นซีดี มาประดิษฐ์และสร้างของเล่นจากวัสดุเหลือใช้เพื่อสร้างความสนุกสนานและเพลิดเพลิน เด็กๆ จึงอยากจะ ประดิษฐ์และสร้างของเล่นจากวัสดุเหลือใช้ จึงเกิดแนวคิดที่จะทำลูกข่างจากวัสดุเหลือใช้ และนำไปสู่การทำ โครงงานในเรื่องที่ทุกคนสนใจ กับโครงงานที่มีชื่อว่า “โครงงานลูกข่างพอเพียง” ที่สามารถนำมาเป็นของเล่น สำหรับเด็กและส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะต่างๆ ให้กับเด็ก การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่อง “ลูกข่างพอเพียง” เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณา การวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง ทำให้เด็ก เกิดความสนุกสนาน มีความกระตือรือร้น ให้ความสนใจ กล้าแสดงออก สามารถตั้งคำถามและแก้ปัญหาได้และ เรียนรู้ได้เป็นอย่างดี วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์(S) โดยใช้ทักษะการสังเกตด้วยตา การจับด้วยมือและการสัมผัส 2. เพื่อให้เด็กๆได้ออกแบบผลงานของตนเองตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การออกแบบทาง เทคโนโลยี (T) และวิศวกรรมศาสตร์ (E) โดยให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการในการออกแบบชิ้นงาน ให้มีความสวยงามและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น 3. เพื่อให้เกิดทักษะทางคณิตศาสตร์(M) ในเรื่องการนับจำนวน การนับเพิ่ม-ลด การเปรียบเทียบ เช่น เล็ก-ใหญ่,สูง-เตี้ย, หนัก-เบา, สั้น-ยาว. เรียบ-ขรุขระ. เปรียบเทียบความเหมือนความต่าง การจัดหมวดหมู่ เช่น จัดหมวดหมู่ตามสี. จัดหมวดหมู่ตามขนาด ฯลฯ
ขอบข่าย นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดภูเขาดิน) ประจำปีการศึกษา 2565 ระยะเวลาในการทำโครงงาน วันที่ 27 กุมภาพันธ์2566 – 3 มีนาคม 2566 ประโยชน์ของการทำโครงงาน 1. เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์(S) โดยใช้ทักษะการสังเกตด้วยตา การจับด้วยมือและการสัมผัส 2. เพื่อให้เด็กๆได้ออกแบบผลงานของตนเองตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การออกแบบทาง เทคโนโลยี (T) และวิศวกรรมศาสตร์ (E) โดยให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการในการออกแบบชิ้นงาน ให้มีความสวยงามและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น 3. เด็กมีทักษะทางคณิตศาสตร์(M) ในเรื่องการนับจำนวน การนับเพิ่ม-ลด การเปรียบเทียบ เช่น เล็กใหญ่,สูง-เตี้ย, หนัก-เบา, สั้น-ยาว. เรียบ-ขรุขระ. เปรียบเทียบความเหมือนความต่าง การจัดหมวดหมู่ เช่น จัด หมวดหมู่ตามสี. จัดหมวดหมู่ตามขนาด การดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โครงงานเรื่อง “ลูกข่างพอเพียง” ขั้นนำ 1. ครูสอนเด็กร้องๆ เพลง ค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการ ทีละวรรค จนเด็กๆสามารถร้องเพลงได้ 2. เด็กและครูร่วมกันร้องเพลง ค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการ พร้อมทั้งทำท่าทางประกอบเพลง 3. เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับบทเพลง และร่วมกันสร้างข้อตกลงก่อนปฏิบัติกิจกรรม ขั้นดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน 1. ครูแนะนำอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่อง “ลูกข่างพอเพียง” พร้อมทั้ง สนทนาเกี่ยวกับชื่อ ลักษณะรูปร่างของวัสดุเหลือใช้ที่พบเห็นในขยะที่นำมาจากที่บ้าน และวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ให้เกิดความปลอดภัย 2. ให้เด็กปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่อง “ลูกข่างพอเพียง” (โดยครูดูแลอย่างใกล้ชิด) ซึ่งมี วิธีการทำตามลำดับขั้นตอน ดังต่อไปนี้
2.1 ครูแนะนำอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่อง “ลูกข่างพอเพียง” ซึ่งเป็นกิจกรรมการประดิษฐ์ “ลูกข่างพอเพียง” จากแผ่นซีดีและวัสดุเหลือใช้ ที่เด็กๆ นำมาจากที่บ้าน
2.2 นำแผ่นซีดี (ที่เสีย ไม่ได้ใช้งานแล้ว) วางบนกระดาษสีขาวรีไซเคิลที่เตรียมไว้จากนั้นใช้ ดินสอวาดตามแบบแผ่นซีดี(จะได้ภาพวงกลมที่มีลักษณะคล้ายแผ่นซีดี)
2.3 ใช้ดินสอ สีไม้วาดภาพตามจินตนาการลงบนกระดาษ (ภาพวงกลมที่มีลักษณะคล้าย แผ่นซีดี) ที่เตรียมไว้และระบายสีด้วยสีไม้ให้สวยงาม
2.4 ใช้กรรไกรตัดตามเส้นรอยวงกลมที่วาดไว้
2.5 ทากาวบนแผ่นซีดี จากนั้นนำกระดาษวงกลมที่เตรียมไว้ติดบนแผ่นซีดี
2.6 ใช้ปืนกาวทากาวที่ฝาน้ำ แล้วนำฝาขวดน้ำไปติดตรงกลางของแผ่นซีดี (เพื่อทำที่จับสำหรับ หมุน)
2.7 จากนั้นทำศูนย์กลางของลูกช่าง ด้วยลูกปิงปอง โดยนำปืนกาวมาทาที่วงกลมเล็กๆ ตรงกลาง ของแผ่นซีดี(ติดฝั่งตรงข้ามกับที่จับสำหรับหมุน)
2.8 พร้อมเล่น “ลูกข่างพอเพียง” ของเด็กๆ
ขั้นสรุป 1. เด็กๆ และครูร่วมกันสรุปกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง “โครงงานลูกข่าง พอเพียง” 2. ให้เด็กๆ ออกแบบผลงานของตนเองตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การออกแบบ ทางเทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ โดยให้เด็กๆ ใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ในการออกแบบชิ้นงานให้มีความสวยงามมากขึ้น 3. นำเสนอผลงานและจัดแสดงผลงานที่หน้าชั้นเรียน
สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ 1. แผ่นซีดี (ที่เสียแล้ว) 2. กระดาษรีไซเคิล 3. สีไม้ 4. ดินสอ 5. กรรไกร 6. ปืนกาว 7. แท่งกาว 8. ลูกปิงปอง 9. ฝาขวดน้ำ 10. สะพานไฟ 11. กาวลาเท็กซ์ การวัดและประเมินผล 1. สังเกตการเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์(S) โดยใช้ทักษะการสังเกตด้วยตา การจับด้วยมือ และการสัมผัส 2. สังเกตการออกแบบผลงานของตนเองตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การ ออกแบบทางเทคโนโลยี (T) และวิศวกรรมศาสตร์ (E) โดยให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์และ จินตนาการในการออกแบบชิ้นงานให้มีความสวยงามและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มากยิ่งขึ้น 3. สังเกตทักษะทางคณิตศาสตร์(M) ในเรื่องการนับจำนวน การนับเพิ่ม-ลด การเปรียบเทียบ เช่น เล็ก-ใหญ่,สูง-เตี้ย, หนัก-เบา, สั้น-ยาว. เรียบ-ขรุขระ. เปรียบเทียบความเหมือนความต่าง การจัด หมวดหมู่ เช่น จัดหมวดหมู่ตามสี. จัดหมวดหมู่ตามขนาด
วิทยาศาสตร์ - การสังเกตลักษณะรูปร่างของฝาขวดน้ำดื่มพลาสติก - การสังเกตลักษณะรูปร่างของแผ่นซีดี - การสังเกตลักษณะรูปร่างของลูกปิงปอง - การสังเกตลักษณะการหมุนของลูกข่างพอเพียง - การสังเกตลักษณะของรูปร่างของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ - การสัมผัสผิวของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ - การสัมผัสผิวของฝากขวดน้ำ - การสัมผัสผิวของลูกปิงปอง - การสัมผัสผิวของแผ่นซีดี คณิตศาสตร์ - การนับจำนวนฝาขวดน้ำ ลูกปิงปอง แผ่นซีดี - การนับจำนวนของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ - การนับจำนวนเพิ่ม-ลด - การเปรียบเทียบจำนวนของแผ่นซีดีกับลูกปิงปอง - การเปรียบเทียบรูปร่างของฝากขวดน้ำ ลูกปิงปอง แผ่นซีดี - การเปรียบเทียบความเหมือนความแตกต่างของฝากขวดน้ำ ลูกปิงปอง แผ่นซีดี - การเปรียบเทียบความเหมือนความแตกต่างวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ - การจัดหมวดหมู่ (จัดหมวดหมู่ตามสีเป็นต้น) เทคโนโลยีและ วิศวกรรมศาสตร์ การออกแบบผลงานของตนเองตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การออกแบบทาง เทคโนโลยี (T) และวิศวกรรมศาสตร์(E) โดยให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ในการออกแบบชิ้นงานให้มีความสวยงามและเหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอยใน ชีวิตประจำวัน การบูรณาการสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION)
1. เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์(S) โดยใช้ทักษะการสังเกตด้วยตา การจับด้วยมือและการสัมผัส การสังเกตและอธิบายความเปลี่ยนแปลง การบูรณาการสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION)
2. เด็กๆ ได้เรียนรู้การออกแบบผลงานของตนเองตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การออกแบบทาง เทคโนโลยี (T) และวิศวกรรมศาสตร์ (E) การบูรณาการสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION)
3. สังเกตทักษะทางคณิตศาสตร์(M) ในเรื่องการนับจำนวน การนับเพิ่ม-ลด การเปรียบเทียบ เช่น เล็กใหญ่,สูง-เตึ้ย, หนัก-เบา, สั้น-ยาว. เรียบ-ขรุขระ. เปรียบเทียบความเหมือนความต่าง การจัดหมวดหมู่ เช่น จัด หมวดหมู่ตามสี จัดหมวดหมู่ตามขนาด การบูรณาการสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION)
แบบบันทึกข้อเสนอแนะ โครงงาน “ลูกข่างพอเพียง” ลงชื่อ.........................................................ผู้จัดทำโครงงาน (นางสาวจงอร ศรีสวัสดิ์) ลงชื่อ............................................ผู้รับรองผลงาน ลงชื่อ................................................ผู้รับรองผลงาน (นางสาววราภรณ์ ใหม่สุวรรณ์) (นางมณัฐนันท์ สิงห์เส) รองหัวหน้าสายชั้นอนุบาล 3 หัวหน้างานวิชาการ ลงชื่อ.............................................................ผู้รับรองผลงาน (นางไพเราะ ใจชื่น) รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดภูเขาดิน) ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ลงชื่อ.............................................................ผู้รับรองผลงาน (นายเดชาพัชร การกิ่งไพร) ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดภูเขาดิน)