หน้า | ๔๘ ๗. ติดตั้งชุดกำจัดเชื้อโรคในอากาศและพื้นผิวสำหรับฆ่าเชื้อโรคโควิด-๑๙ ณ บก.ทร.(วังนันทอุทยาน) และ หอประชุมกองทัพเรือ เพื่อรองรับการประชุมต่างๆ จำนวน ๘ ครั้ง ๘. ดำเนินการรวบรวมข้อมูลการจัดทำ อทร. ๙๕๐๔ การจัดการมลพิษทางน้ำของทร. และ อทร. ๙๕๐๕ คู่มือ การใช้หน้ากากป้องกัน คชรน. (CBRN) ของกองทัพเรือ
หน้า | ๔๙ กองผลิตและซ่อมบำรุง ภารกิจ มีหน้าที่ผลิตพัสดุทางวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบ ท่อบรรจุก๊าซ บรรจุก๊าซ และสารเคมีอุปกรณ์ดับเพลิง ซ่อมบำรุงเครื่องมือเครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ ให้การสนับสนุนกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในราชการ ตลอดจนการโยธาของหน่วย
หน้า | ๕๐ ผลการปฏิบัติงานที่สำคัญในรอบปี กองผลิตและซ่อมบำรุง กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ “มุ่งมั่น บริการ คุณภาพ มาตรฐาน” กองผลิตและซ่อมบำรุง ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการผลิตพัสดุ สำเร็จรูปทางวิทยาศาสตร์ที ่จำเป็นในทางการทหารและการ ดำรงชีพ ตรวจสอบซ ่อมบำรุงเครื ่องมือทางวิทยาศาสตร์ เครื่องมือดับเพลิงทั้งแบบประจำที่ในเรือและยกหิ้วให้คงความ พร้อมในการป้องกันเหตุอัคคีภัยของหน ่วย รวมถึงให้การ สนับสนุนน้ำดื่ม และการเปลี่ยนสารกรองน้ำ เพื่อกำลังพลได้ใช้ น้ำอุปโภคบริโภคที ่สะอาดปลอดภัย นอกจากนี้ยังให้การ สนับสนุนกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในราชการทหาร ตลอดจน การโยธาของหน่วยในการดูแลความพร้อมของอาคารสถานที่ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ โครงสร้างกองผลิตและซ่อมบำรุง กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ แผนกผลิตและซ่อมบำรุงสิ่ง อุปกรณ์สายวิทยาศาสตร์ แผนกอุปกรณ์ดับเพลิง แผนกสนับสนุน หมวดโยธา สายวิทยาศาสตร์สัตหีบ ซ่อมบำรุงอุปกรณ์ดับเพลิง ซ่อมบำรุงเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ผลิตผลิตภัณฑ์ทางทหาร ผลิตน้ำดื่ม น้ำดื่มบรรจุขวด แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค การผลิตผลิตภัณฑ์วิทยาศาสตร์ การชุบโลหะ ซ่อมบำรุงอุปกรณ์ดับเพลิง ผลิตน้ำดื่ม น้ำดื่มบรรจุขวด น้ำปราศจากไอออน ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำดื่ม ชุดปฏิบัติการ ที่ ๓ วศ.ทร. (บรรเทาสาธารณภัยจาก สารเคมีและวัตถุอันตราย) ดูแลอาคารสถานที่ ซ่อมบำรุงระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา
หน้า | ๕๑ ผลการดำเนินงานและภารกิจที่สำคัญ ซ่อมเครื่องมือวิทยาศาสตร์ 5 งาน ตรวจสอบ ซ่อมบำรุงและบรรจุสาร ดับเพลิงอุปกรณ์ดับเพลิง แบบประจำที่ในเรือ 5 ลำ แบบยกหิ้ว 2836 เครื่อง ซ่อมบำรุงเปลี่ยนสารกรองน้ำดื่ม 145 เครื่อง การชุบโลหะ 838 ชิ้น การซ่อมบำรุง 02 ผลิตภัณฑ์ทางทหาร 8256 ชิ้น น้ำดื่ม น้ำดื่ม 10,245.5 ลบ.ม. น้ำดื่มบรรจุขวด 1,179,396 ขวด แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค 98640 ลิตร การผลิตพัสดุสายวิทยาศาสตร์ที่ สำคัญของ กผบ.ได้แก ่ การผลิต น้ำยาดับเพลิงฟองกล สำหรับใช้ฝึก ป้องกันเหตุอัคคีภัยเพิ่มทักษะให้กับ กำลังพล และการผลิตสีพรางหน้า ยากันยุง ฝุ่นโรยเท้า เชื้อเพลิงแข็ง ให้กับทหารกองประจำการ รวมถึง การผลิตน้ำดื ่ม แอลกอฮอล์ฆ ่าเชื้อ สนับสนุนช่วยเหลือประชาชนและ กำลังพลของ ทร. การผลิต 01 การซ่อมบำรุงเครื่องมือวิทยาศาสตร์ และเครื ่องดับเพลิงเป็นอีกหนึ่ง ภารกิจที ่สำคัญในการสนับสนุน การดำรงความพร้อมของยุทโธปกรณ์ หน ่วย การสนับสนุนการเปลี ่ยน สารกรองน้ำ การชุบเคลือบโลหะ เครื ่องหมายประกอบการแต ่งกาย เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของกำลังพล
หน้า | ๕๒ การดูแลอาคารสถานที่ ซ่อมบำรุงระบบ สาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา การโยธา 220 งาน 03 น อ ก จ า ก ง า น ด้า น ก า ร ส นั บ ส นุ น ท า ง วิทยาศาสตร์แล้ว กผบ.ยังมีก าลังพล พรรคเหล่า ชย. ด าเนินการดูแลอาคารสถานที่ ซ่อมบ ารุงสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปาใน เบื้องต้นเมื่อเกิดการช ารุดเสียหาย การจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ณ แผนกสนับสนุนสายวิทยาศาสตร์สัตหีบฯด้วย มีวัตถุประสงค์ในการควบคุมคุณภาพน ้าที่ ผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐาน และสนับสนุน หน่วยในพื้นที่ใกล้เคียง เป็นการเพิ่มศักยภาพ และความเชื่อมั่นให้กับผู้รับบริการ อีกทั้งยัง ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบผลิตผลิตภัณฑ์ ทางวิทยาศาสตร์ อาทิ แชมพู น ้ายาล้างรถ น ้ายาเคลือบเงาล้อยาง น ้ายาล้างจาน และ น ้ายาซักผ้า จ าหน่ายเป็นสวัสดิการให้กับ ก าลังพลกองทัพเรือ งานห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ 533 ต.ย. 2907 รายการ การผลิตน้ำกลั่น น้ำปราศจากไอออน 5120 ลิตร การ decon /State Quarantine 81 ครั้ง / 79 ครั้ง การผลิตผลิตภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ผลิตภัณฑ์ วศ. 12,205 ลิตร น้ำดื่มบรรจุขวด 107,555 ขวด งานมอบหมายอื่นๆ 04
หน้า | ๕๓ และด้วยแผนกสนับสนุนสายวิทยาศาสตร์สัตหีบ ตั้งอยู่ในพื้นที่สัตหีบ กผบ. จึงได้รับมอบหมายให้กำกับ ดูแลบ้านพักข้าราชการกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ให้มีความสะอาด สง่างามและมีความเป็นมาตรฐาน ของหน่วยงานราชการและจัดกำลังพลส่วนใหญ่เป็นชุดเฉพาะกิจที่ ๓ วศ.ทร. เพื่อสนับสนุน ช่วยเหลือ บรรเทาสาธารณภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตรายในพื้นที่สัตหีบและใกล้เคียงโดย วศ.ทร. จะดำเนินการ ฝึกทบทวน เสริมสร้างองค์ความรู้และยุทธวิธี ให้กับกำลังพลแผนกสนับสนุนฯ ตามวงรอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถ เกิดทักษะ ความชำนาญ ทันต่อเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
หน้า | ๕๔ น้ำดื่มบรรจุขวด ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการผลิตและ ความปลอดภัยต่อผู้บริโภค จากสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.) อย. ด้วยน้ำดื่มมีความจำเป็นและสำคัญยิ่ง กผบ.จึงมุ่งมั่นให้สามารถผลิต น้ำดื ่มที ่สะอาด ปลอดภัย มีคุณภาพเป็นไปเกณฑ์คุณภาพน้ำ บริโภค มอก.275-2549 เกณฑ์คุณภาพหรือมาตรฐานน้ำบริโภค ในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 256) พ.ศ. 2545 เรื่อง น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิด สนิท (ฉบับที่4) สนับสนุนให้แก่กำลังพลและประชาชนอย่างพอเพียง ทันเวลา ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นต่อคุณภาพน้ำดื่มให้กับหน่วยและ กำลังพลมากยิ่งขึ้น โดยกำลังพล กผบ. ๒ นาย ผ่านการอบรมเป็นผู้ ควบคุมการผลิตน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท น้ำแร่ธรรมชาติ และน้ำแข็งบริโภค สำหรับควบคุมคุณภาพการผลิตและได้รับเลข สารบบอาหาร (เลข อย.) ของน้ำดื่มบรรจุขวดขนาด 600 และ 1500 มล. จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) การก่อสร้าง กราบพักทหารกอง ประจำการ
หน้า | ๕๕ ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องดับเพลิงแบบประจำที่ ในเรือ จำนวน 28 ลำ และจัดทำฐานข้อมูลเครื ่อง ดับเพลิงแบบยกหิ้ว และเครื่องกรองน้ำของหน่วยต ่างๆ พร้อมทั้งจัดทำ QR CODE ของเครื่องดับเพลิง เพิ่มความ สะดวกรวดเร็วในการสืบค้นติดตามการซ่อมบำรุงเครื่อง ดับเพลิงสำหรับใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบประวัติ การซ่อมบำรุงอุปกรณ์ดับเพลิง
หน้า | ๕๖ การปฏิบัติงานของคณะทำงานประชาสัมพันธ์และกิจการพลเรือน จัดกิจกรรมและสนับสนุนการจัดกิจกรรม เทิดพระเกียรติตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนโครงการ จิตอาสาเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนส่งเสริม ความสัมพันธ์ประสานความร่วมมืออันดีระหว่างกับชุมชน บ้าน วัด โรงเรียน) เสริมส่งการมีภาพลักษณ์ที่ดี ต่อ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป รวมถึงปลูกฝังอุดมการณ์ ความซื่อสัตย์ความจงรักภักดีและการมี จิตสาธารณะของกำลังพล
หน้า | ๕๗ กองนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี ภารกิจ มีหน้าที่ ดำเนินการเกี่ยวกับการปฏิบัติการสงครามนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี การต่อต้านการก่อการ ร้ายที่มีการใช้อาวะที่มีอานุภาคทำลายล้างสูง การบรรเทาสาธารณภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย และการปฏิบัติการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้คำแนะนำทางด้านเทคนิค และฝึกเตรียมความพร้อม และสนับสนุนด้านนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี ให้กับหน่วยต่าง ๆ
หน้า | ๕๘ ผลการปฏิบัติงานที่สำคัญในรอบปี ๑. ฝึกปฏิบัติการสงคราม นชค. ประจำปี งป.๖๕ ในที่ตั้ง วศ.ทร. ระหว่างวันที่ ๑ – ๓ ธ.ค.๖๔ และค่าย พระมหาเจษฎาราชเจ้า ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๑๗ ธ.ค.๖๔
หน้า | ๕๙ ๒. ฝึกปฏิบัติการ นชค.และการฝึกร่วม/ผสม Cobra Gold ๒๐๒๒ ในที่ตั้ง วศ.ทร. ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๘ ก.พ.๖๕ และ อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี ระหว่างวันที่ ๒๘ ก.พ. – ๓ มี.ค.๖๕
หน้า | ๖๐ ๓. ฝึก HADR ระหว่างวันที่ ๑๗ – ๒๗ พ.ค.๖๕ พื้นที่เกาะเสม็ด จว.ระยอง ๔. เข้าร่วมการฝึกทดสอบแผนเผชิญเหตุฯภายใต้กรอบการฝึกบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ C–MEX22 ณ ศตก.และพื้นที่จว.นนทบุรี ระหว่างวันที่ ๔ – ๗ ก.ค.๖๕
หน้า | ๖๑ ๕. ฝึกปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย วศ.ทร. งป.๖๕ ในที่ตั้ง วศ.ทร. ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๒ ก.ค.๖๕ และ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา จว.ระยอง ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๒๒ ก.ค.๖๕
หน้า | ๖๒ งานมอบหมายพิเศษ ๑. จัดทำแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ๒. ทำลายล้างพิษให้กับชุดปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว พื้นที่ จว.ระยอง ระหว่าง วันที่ ๓๐ ม.ค. – ๔ ก.พ.๖๕
หน้า | ๖๓ ๓. เปิดการอบรมหลักสูตรการป้องกัน นชค. ต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตร รุ่นที่ ๑๔ ประจำปี งป.๖๕ ใน ๒๐ มิ.ย.๖๕ ๔. จัดชุดทำลายล้างพิษสารเคมีและวัตถุอันตรายเข้าร่วมการฝึกซ้อมแผนบูรณาการสาธารณภัยฯ ณ พื้นที่ศูนย์ กำจัดมูลฝอยหนองแขม กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ ก.ค.๖๕
หน้า | ๖๔ ๕. จัดทำสถานีทำลายล้างพิษกำลังพลบนรถเคลื่อนที่ (เฉพาะสถานีชำระล้างสารพิษ)
หน้า | ๖๕ แผนกคลังวิทยาศาสตร์ ภารกิจ มีหน้าที่ดำเนินการจัดหา เก็บรักษา แจกจ่าย จำหน่าย และควบคุมเคมีภัณฑ์ เครื่องมือ และ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่อยู่ในความรับผิดชอบ
หน้า | ๖๖ ผลการปฏิบัติงานที่สำคัญในรอบปี ๑. การเบิก - จ่ายวัสดุ ครุภัณฑ์สายวิทยาศาสตร์ ๑.๑ การเบิกจ่ายภายใน วศ.ทร. - จ่ายให้กับ แผนกส่งกำลังบำรุง บก.วศ.ทร. จำนวน ๕๙ รายการ - จ่ายให้กับ กวทส.วศ.ทร. จำนวน ๑๐๘ รายการ - จ่ายให้กับ กวก.วศ.ทร. จำนวน ๑๔ รายการ - จ่ายให้กับ กผบ.วศ.ทร. จำนวน ๓๘ รายการ - จ่ายให้กับ กนชค.วศ.ทร. จำนวน ๑๐๖ รายการ - จ่ายให้กับ แผนกคลังวิทยาศาสตร์ จำนวน - รายการ ๑.๒ การเบิกจ่ายให้กับหน่ายต่าง ๆ ในกองทัพเรือ จำนวน ๔๒๓ รายการ ๒. การจัดซื้อ - จัดหา ๒.๑ ดำเนินการรับของขึ้นบัญชี จำนวน ๔๘๐ รายการ ๒.๒ ดำเนินการหักยอดเครื่องมือเครื่องใช้วิทยาศาสตร์เคมีภัณฑ์ในบัตรคุมพัสดุ ๒.๓ ดำเนินการติดต่อประสานงานให้ นขต.ทร. ตั้งฎีกามารับพัสดุที่แผนกคลังวิทยาศาสตร์ วศ.ทร. ๓. แจกจ่ายผลิตภัณฑ์ทางทหาร ให้กับหน่วยต่าง ๆ ใน ทร. ๓.๑ สีพรางหน้าทหาร ดำ-เขียว-น้ำตาล จำนวน ๑,๐๔๑ ตลับ ๓.๒ ยาทากันยุง จำนวน ๖๒๐ ขวด ๓.๓ ฝุ่นโรยเท้าทหาร จำนวน ๑,๓๐๐ ขวด ๓.๔ เชื้อเพลิงแข็ง จำนวน - ถุง ๓.๕ น้ำยาล้างคอนแทคสวิทช์ จำนวน ๔๐ ขวด ๓.๖ เตาเชื้อเพลิงแข็ง จำนวน - เตา ๓.๗ สบู่ฆ่าเชื้อ จำนวน ๒๕๘ ขวด ๓.๘ น้ำยาดับเพลิงฟองกล จำนวน ๓๘ us แกลลอน ๔. งานการเบิก - จ่ายวัสดุ ครุภัณฑ์สายสายพลาธิการ ๔.๑ เบิก – ส่งคืนพัสดุจากหน่วยเทคนิคต่าง ๆ ในระบบ e-SUPPLY จำนวน ๒ ฎีกา จำนวน ๓ รายการ ๔.๒ รับพัสดุจากหน่ายเทคนิคต่าง ๆ จำนวน ๑๔ ฎีกา จำนวน ๕๘ รายการ ๔.๓ เบิก – ส่งคืนยุทธอาภรณ์จาก พธ.ทร. ในระบบ e-UNIFORM ยุทธอาภรณ์ประจำหน่วย และยุทธอาภรณ์ประจำกาย จำนวน ๑๗ ฎีกา จำนวน ๒๕๕ รายการ ๔.๔ รับยุทธอาภรณ์จาก พธ.ทร.ยุทธอาภรณ์ประจำหน่วย และยุทธอาภรณ์ประจำกาย จำนวน ๕ ฎีกา จำนวน ๑๒ รายการ ๔.๕ เบิกน้ำมัน ฯ จาก พธ.ทร. ให้กับ นขต.วศ.ทร. เพื่อไปปฏิบัติราชการ ในระบบ e-SUPPOL จำนวน ๓๕ ฎีกา จำนวน ๙,๒๐๐ ลิตร
หน้า | ๖๗ ๔.๖ รับบัตรน้ำมัน ฯ ทางธุรการชนิดต่าง ๆ จาก พธ.ทร. ให้ วศ.ทร. จำนวน ๑๑ เรื่อง จำนวนน้ำมันฯ ๒,๗๐๔ ลิตร ๔.๗ รับบัตรน้ำมัน ฯ ทางธุรการ ให้นายทหารสัญญาบัตรชั้นยศ น.อ.พิเศษ ขึ้นไป และ ธง จก.วศ.ทร. - บัตรน้ำมัน ฯ จำนวน ๑๑ นาย ๔.๘ ควบคุมการเบิกจ่ายพัสดุให้ นขต.วศ.ทร. จำนวน ๕๔ ฎีกา
หน้า | ๖๘
หน้า | ๖๙ ส่วนที่ ๓ การพัฒนาระบบราชการ
หน้า | ๗๐ การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (Public Sector Management Quality Award : PMQA) กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือเป็นหน่วยงานด้านยุทธบริการ ซึ่งภารกิจ มีหน้าที่ อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ และดำเนินการเกี ่ยวกับการวิจัยและพัฒนากิจการทางวิทยาศาสตร์ของกองทัพเรือ การส ่งกำลังพัสดุสาย วิทยาศาสตร์ การวิเคราะห์และทดสอบพัสดุ การปฏิบัติการและการป้องกันทางนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี ตลอดจนให้การฝึกและ ศึกษาวิชาการวิทยาศาสตร์และวิชาการอื่น ตามที่ได้รับมอบหมาย ค่านิยมของกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ • เป็นเลิศในงานด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ที่สามารถสนองต่อ ภารกิจและนโยบายของกองทัพเรือ วิสัยทัศน์ • บริหารจัดการและด าเนินการกิจการวิทยาศาสตร์ให้เป็นไปตาม เป้าประสงค์ในยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ เป้าประสงค์ ค่านิยม • บริการด้านวิทยาศาสตร์อย่างมีมาตรฐาน 4S m • มุ่งมั่นในการ ให้บริการอย่าง ซื่อสัตย์ โปร่งใส • การน าเทคโนโลยี ดิจิตอลมาใช้ในการ ปฏิบัติงาน • มีเหตุผลและยึดมั่นใน หลักการวิทยาศาสตร์ • ปฏิบัติงานตาม มาตรฐานสากล Standard Science Service and moral Smart
หน้า | ๗๑ ในการวางแผน วศ.ทร. ได้นำยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พ.ศ. 2560 - 2579 กองทัพเรือ นโยบายผู้บัญชาการ กองทัพเรือ ประจำปีงบประมาณ 2565 แผนแม ่บทการพัฒนากองทัพเรือ พ.ศ. 2561 - 2580 (ด้านกำลังรบ ด้าน โครงสร้างพื้นฐานและระบบสนับสนุน ด้านระบบบริหารและพัฒนากำลังพล ด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านระบบงานข่าว) นโยบายรัฐบาล ฯลฯ ดำเนินการที่สอดคล้องกับแผนปฏิบัติราชการ ๕ ปี ของ วศ.ทร. นำมาสู่ การจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีของ วศ.ทร. มีการถ่ายทอดกระบวนการจัดทำแผนลงไปสู่ นขต.วศ.ทร. กำหนดให้ มีการสื่อสารทิศทางองค์กร รวมทั้งปรับปรุงช้อมูลด้านสารสนเทศ ในการส่งกำลังบำรุงสาย วศ. การวิเคราะห์และ ทดสอบ การผลิตและซ ่อมบำรุง และการปฏิบัติการและป้องกัน เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ (คชรน.) โดยให้ ความสำคัญกับการสนับสนุนในกรณีที่ ทร. มีเรือดำน้ำเข้าประจำการ เพื่อสร้างโอกาสในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง องค์การเสริมสร้างขีดสมรรถนะทางด้าน การส ่งกำลังบำรุงและซ ่อมบำรุงสนับสนุนเรือดำน้ำ การสนับสนุนงาน ช่วยเหลือกู้ภัยเรือดำน้ำ เป็นต้น รวมทั้งการพัฒนาขีดสมรรถนะของชุดปฏิบัติการ วศ.ทร. ในด้านความคล่องตัว และ ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการสนับสนุนกำลังรบของ ทร. ในการคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลทั้ง สองฝั่งมหาสมุทร (อ่าวไทยและอันดามัน) และสามพื้นที่ปฏิบัติการ (ทรภ.๑ ทรภ.๒ และ ทรภ.๓) ผู้บริหารแต่ละระดับชั้นในทุกๆ หน่วยงานเป็นผู้สื่อสารวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม และแผนปฏิบัติงานไปยังกำลังพล ผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประชาชนทั่วไป เพื่อให้เกิดการรับรู้ สร้างความร่วมมือ/การปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งเพื่อให้มีการตรวจสอบความโปร่งใสในการปฏิบัติงานด้วย ทั้งนี้ เจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือได้กระตุ้นให้เกิดการสื่อสาร ที่ตรงไปตรงมาและเป็นไปในลักษณะสองทิศทาง โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้เข้าพบชี้แจง แสดงความคิดเห็น รับฟัง ปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องต่างๆ และร่วมกันแก้ไขเพื่อให้มีผลการดำเนินงานที่ดี รวมทั้งการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Line Zoom Meeting Google Meeting ฯลฯ ในการสื่อสารให้ทราบถึงการตัดสินใจที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิผล เช่น ค่านิยม ความหมาย การแสดงออก Standard ปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากล - ทำงานให้เป็นไปตามหลักวิชาการและมาตรฐานที่ กำหนด - ทบทวน / ปรับปรุง / พัฒนามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง Science มีเหตุผลและยึดมั่นในหลักการวิทยาศาสตร์ - นำความรู้ที่ได้จากการแสวงหาความรู้ มาประยุกต์ใช้ ในการทำงาน - เป็นคนช่างสังเกต คิด วิเคราะห์และหาเหตุผลหรือ ค้นคว้าเพื่อแก้ปัญหา Smart มีความกระตือรือร้น ใฝ่รู้ การนำเทคโนโลยี ดิจิตอลมาใช้ในการปฏิบัติงาน มีบุคลิกคภาพ องอาจสง่าผ่าเผยสมกับการเป็นทหาร - มีการใฝ่รู้ / เรียนรู้ตลอดเวลา -ขยันทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลา ใช้ทรัพยากรอย่าง คุ้มค่า -ยอมรับการเปลี่ยนแปลง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น อย่างสร้างสรรค์ Service and moral มุ่งมั่นในการให้บริการอย่างซื่อสัตย์ โปร่งใส ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ไม่เลือก ปฏิบัติ
หน้า | ๗๒ การส่งเสริม สนับสนุนให้กำลังพลกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ความก้าวหน้าในราชการ การ พัฒนาความรู้ความสามารถ การสวัสดิการ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลส่งเสริมการสร้างรายได้ลดรายจ่าย ฯลฯ นอกจากนี้ยังยกย ่องชมเชยให้กำลังใจกับกำลังพลที ่ทุ ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติงาน เช ่น เจ้าหน้าที ่ชุด ปฏิบัติการของกองนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ และกำลังพลแผนกสนับสนุนสายวิทยาศาสตร์ สัตหีบ ในการปฏิบัติงานสนับสนุนการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ให้กับหน่วยต่างๆ ของ ทร. ทั้งในและนอกเวลาราชการ การปฏิบัติการบรรเทาสาธารณะภัย กรณีน้ำมันรั ่ว ตลอดจนความร ่วมมือในการออกร้านงานกาชาด การบำเพ็ญ สาธารณประโยชน์ต่างๆ ด้วยความมีจิตอาสา เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างให้มีผลการปฏิบัติงานที่ดีและให้ความสำคัญกับ ผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนประชาชนและชุมชนโดยรอบ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ในระยะ 5 กิโลเมตร (บวร) หรือในชุมชนที่มีครอบครัว ของกำลังพลกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรืออาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ช่วยเหลือกำลังพลของกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือที่พัก อาศัยบริเวณเขตวัดไทยาวาสที่ประสบภัยน้ำท่วม และช่วยจัดงานวันเด็กที่ โรงเรียนวัดไทยาวาส ในด้านการให้ความสำคัญผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย วศ.ทร. ได้นำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์ความ ต้องการและความคาดหวังของผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มาสรุปความต้องการหลักของผู้รับบริการคือ การ เข้าถึงบริการได้ง่าย การให้บริการดำเนินการโดยบุคลากรที่มีความรู้/ความเชี่ยวชาญ เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้อง โปร่งใส และทันต่อสถานการณ์รวมทั้งในการสื่อสารข้อมูลความรู้/ข้อปฏิบัติ ควรเข้าใจง่าย สามารถนำไปสู่การประยุกต์ใช้กับ สถานการณ์/สภาพแวดล้อมจริงได้ และการจัดการข้อร้องเรียนได้กำหนดช่องทางการรับเรื ่องร้องเรียนไว้หลาย
หน้า | ๗๓ ช่องทาง ทั้งการติดต่อด้วยตนเอง สื่อออนไลน์ (Website ของ วศ.ทร. Facebook Line) โทรศัพท์ จดหมาย หรือ ช่องทางอื่นๆ เพื่อให้มีการแก้ไขอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังกำหนดให้นำข้อร้องเรียนไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการ ให้บริการ ในด้านการคิดวิเตราะห์ การจัดการความรู้ ได้รวบรวมข้อมูล สารสนเทศที ่สำคัญ และตัวชี้วัดที ่ปรับให้ สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับกระบวนการวางแผนยุทธศาสตร์ โดยบูรณาการร่วมกับยุทธศาสตร์ แผนแม่บท และ แผนพัฒนาของ ทร. รวมทั้งมีกรอบระยะเวลาที่สอดคล้องกับแผนปฏิบัติราชการประจำปีและแผนปฏิบัติราชการ ระยะ ๕ ปี ของ วศ.ทร. โดยมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการระบบฐานข้อมูล มาใช้ในการติดตามข้อมูลและ สารสนเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลการปฏิบัติงานและผลการดำเนินการโดยรวม รวมถึงส่งเสริมให้กำลังพล มีลักษณะ นิสัยใฝ่รู้ ค้นคว้าหาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ไปต่อยอด สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่สร้างคุณค่าให้กับองค์กร eLibrary เช่น โครงการวิจัยการแปรรูปถ่านกัมมันต์เป็นถ่านก้อนอัดแท่งความร้อนสูง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้ผงคาร์บอนที่ เหลือทิ้งจากการเปลี่ยนไส้กรองเครื่องกรองน้ำนำมาอัดเป็นแท่งเพื่อทำเชื้อเพลิง และยานพิสูจน์ทราบ (เสือดำ) เป็นต้น และบันทึกความรู้ที่มีอยู่ในแบบบันทึกรูปเล่ม ข้อมูลดิจิตอล และสื่อภาพยนตร์/วีดีโอ กับสามารถนำความรู้ที่วิเคราะห์ ได้มารวบรวมจัดเก็บเป็นเอกสาร สารานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ และ NScD กระบวนการจัดการ ข้อร้องเรียนของ วศ.ทร.
หน้า | ๗๔ เว็บไซต์กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ การดำเนินการคัดเลือกวิธีปฏิบัติที่ดีเยี่ยม นขต.วศ.ทร. จัดท าองค์ความรู้ บก.วศ.ทร. กวก.วศ.ทร. กผบ.วศ.ทร. กนชค.วศ.ทร. แผนกคลังวิทยาศาสตร์ วศ.ทร. กวทส.วศ.ทร. ประเมิน ค้นหา เสนอ กองทัพเรือ วิธีปฏิบัติที่ดีเยี่ยม
หน้า | ๗๕ ในด้านบุคลากรมีการพัฒนาบุคลากรให้มีขีดสมรรถนะสูง มีความเชี่ยวชาญเป็นมืออาชีพ ตลอดจนบริหารจัดการ กำลังพล มีการเตรียมบุคลากรสำหรับตำแหน่งผู้บริหาร และตำแหน่งระดับปฏิบัติ ตามกลุ่มขีดสมรรถนะให้มีความเหมาะสม ภายใต้การกำกับดูแล ตามหลักธรรมาภิบาล อันจะทำให้การบริหารจัดการของ วศ.ทร. ในภาพรวมมีมาตรฐาน มุ่งสู่ความเป็น เลิศ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือในเรื่องความโปร่งใส ความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และมุ่งเน้น ผลสัมฤทธิ์มีการฝึกอบรมกำลังพลให้สามารถปฏิบัติงานได้หลายภารกิจ เช่น หมุนเวียนกำลังพลเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ การจัดทำองค์ความรู้ ตลอดจนจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานต่างๆ อีกทั้งจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานภายในหน่วย เพื่อ สร้างความมั่นใจในความปลอดภัย โดยเน้นการจัดอาคาร สถานที่ทำงานให้สะอาดและปลอดภัย สวยงาม จะช่วยสร้าง บรรยากาศการ ทำงานของบุคลากร ให้มีประสิทธิภาพ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินกิจกรรม 5 ส. เพื่อ ขับเคลื่อนสภาพแวดล้อมในการทำงานภายในหน่วย ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด สวยงาม และมีความปลอดภัย ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดี ในการทำงาน งานที่ได้ดำเนินการในปี งป.๖๕ เช่น สร้างอาคารกราบพักทหาร เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ของทหารและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ
หน้า | ๗๖ ในด้านการปฏิบัติการ กำหนดกระบวนการที่สำคัญในการดำเนินงาน และกำหนดตัวชี้วัดครอบคลุมกิจกรรมใน กระบวนการทำงาน สื ่อสารให้บุคลากรที ่ปฏิบัติงานในกระบวนการทราบและปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน เกิดเป็น มาตรฐานในการปฏิบัติงาน รวมทั้ง กำหนดผู้รับผิดชอบการติดตามประเมินผลให้เป็นไปตามข้อกำหนดที ่สำคัญใน กระบวนการ และกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างนวัตกรรม โดยได้นำการจัดการ ความรู้ (KM) มาใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ และส่งเสริมให้กำลังพลพัฒนางาน จัดให้มีสถานที่ออกกำลังกาย มีการแข่งขันกีฬา ภายในหน ่วยเพื ่อเชื ่อมความสามัคคี จัดหา เครื ่องออกกำลังกาย จักรยาน และกำหนดให้ กำลังพลทุกนายรับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ทุกปี ปีละ 2 ครั้ง มีการประเมินความสุขจาก การทำงาน (Happy Workplace) โดยเป็นการ ประเมินผ่านระบบการบริหารกำลังพล กพ.ทร.
หน้า | ๗๗ ประจำสู่งานวิจัย สิ่งประดิษฐ์สำหรับแก้ปัญหาในการปฏิบัติการ (Routine to Research : R2R) การจัดการความ มั่นคงทางข้อมูลและสารสนเทศนั้น วศ.ทร.ได้กำหนดขอบเขต หน้าที่ความรับชอบในการปฏิบัติงานด้านเทคโลโลยี สารสนเทศอย่างชัดเจน และกำหนดลำดับความสำคัญในการป้องกันระวังภัยต่อระบบเทคโนโลยีติดตั้ง antivirus กำหนดวงรอบในการสำรองข้อมูล (backup) การป้องกันระบบจากเหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น กรม วิทยาศาสตร์ทหารเรือได้มีการปรับการเตรียมพร้อมต่อภัยพิบัติหรือสภาวะฉุกเฉิน ให้ทันสมัยต่อภัยคุกคามสมัยใหม่ โดยได้เตรียมความพร้อมต่อภัยพิบัติจากอุทกภัย อัคคีภัย ภัยการชุมนุมประท้วง/ก่อจลาจล และโรคระบาด ซึ่งจะทำ ให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ด้วยการจัดทำแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะ วิกฤตของกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ สำหรับใช้เป็นแนวทางให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง และลดผลกระทบ ต่อการสนับสนุนภารกิจและการปฏิบัติการต่าง ๆ ของ ทร. การดำเนินการด้านความปลอดภัยของ วศ.ทร.
หน้า | ๗๘ ในด้านผลลัพธ์ความสำเร็จของการดำเนินการ ตามพันธกิจและบริการ ด้านการส่งกำลังบำรุงพัสดุสาย วิทยาศาสตร์ การบริการด้านวิทยาศาสตร์ และการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีได้ดำเนินการสำเร็จ ตามค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้มีการจัดจัดหาวัสดุสิ้นเปลืองสายวิทยาศาสตร์ตามแผนการจัดซื้อ/จัดจ้าง ประจำปี ของกรมวิทยาศาสตร์รวมถึงสนับสนุนงานด้านวิทยาศาสตร์ ให้กับ นขต.วศ.ทร. และหน ่วยเฉพาะกิจ ทร . การผลิตวัสดุสาย วศ.สนับสนุน นขต.ทร. และหน่วยเฉพาะกิจ ทร. เช่น ผลิตภัณฑ์ทางทหาร น้ำดื่ม รวมทั้งงานที่ ได้รับมอบหมายเพิ่มเติม เช่น แอลกอฮอล์ล้างมือ และทำลายล้างพิษตามที่ได้รับการร้องขอในด้านผู้รับบริการและผู้ มีส่วนได้ส่วนเสียไม่มีผู้ร้องเรียนแจ้งผ่านช่องทางต่างๆ ของ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ เนื่องจากคุณภาพของ บริการ / ความไม่สะดวกในการรับบริการ / การไม่ได้รับความ เป็นธรรมจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที ่กรม วิทยาศาสตร์ทหารเรือ เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป
หน้า | ๗๙ การจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ (วศ.ทร.) มีภารกิจในการสนับสนุนชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยจาก สารเคมีและวัตถุอันตราย ให้กับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ศบภ.ทร.) ปี พ.ศ.๒๕๖๐ ตามแผนการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๔ - ๒๕๗๐ แผนผัง การปฏิบัติงานร่วมกับของหน่วยต่างๆ หน้าที่ของหน่วยงานที่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวง และหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องมีบทบาทหน้าที่ในการ จัดการ ความเสี่ยงจากสาธารณภัยร่วมกัน ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๗๐ ได้ระบุว ่า กองทัพเรือ ที ่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงกลาโหม มีบทบาทหน้าที ่คือ สนับสนุนภารกิจของรัฐในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติตามมาตรา ๘ (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๕๑ และแจ้งเตือนกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่และหน่วยงานพลเรือนในพื้นที่ เสี่ยงภัยกรณีคาดว่าจะเกิดภัยจากการสู้รบหรือภัยทางอากาศหรือ การก่อวินาศกรรม และเป็นการสนองต่อนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือประจำปี งบประมาณ ๒๕๖๖ ด้านที่ ๗ การกิจการพลเรือน ข้อ ๕ พัฒนาขีดความสามารถและกลไกความร่วมมือการบริหารจัดการภัยพิบัติของ ทร. เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน
หน้า | ๘๐ ได้ทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ และด้านที่ ๘ การวิจัยและพัฒนา ข้อ ๑.๑.๕ งานวิจัยที่สนับสนุนหรือแก้ปัญหา การปฏิบัติงานของหน่วยต่าง ๆ การจัดทำองค์ความรู้ของ ยานพิสูจน์ทราบ (เสือดำ ๒) นั้น เป็นการพัฒนาต่อยอดจากการจัดทำยานพิสูจน์ ทราบสารพิษ (เสือดำ ๑) ให้มีความสมบูรณ์และสามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งโดย ความมุ่งหมายหลักคือ ต้องการที่จะลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บหรือการสูญเสียกำลังพลที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ใน พื้นที่เสี่ยงอันตรายต่อสารเคมี และยังเป็นการประหยัดงบประมาณในการจัดหายานพิสูจน์ทราบจากต่างประเทศ ประหยัดเวลาในการเตรียมการของชุดพิสูจน์ทราบ และขยายเวลาในการเข้าพื้นที่เสี่ยงภัยในการปฏิบัติการได้ ยาวนานมากขึ้น รวมทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือและสนับสนุนภารกิจของรัฐตาม แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๗๐ อีกด้วย ๑. ความเป็นมาและแนวทางการพัฒนาองค์ความรู้ที่มีการจัดการเพื่อให้เกิดวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ตามที่กองทัพเรือ มอบหมายให้ วศ.ทร. มีหน้าที่ในการปฏิบัติและการป้องกันทาง นิวเคลียร์ ชีวะ เคมี (นชค.) ในภารกิจการบรรเทาสาธารณภัยจากสารเคมี และวัตถุอันตราย ซึ ่งในการจัดกำลังของชุดปฏิบัติการ บรรเทาสาธารณภัย ของ วศ.ทร. ประกอบด้วย ชุดพิสูจน์ทราบ และ ชุดทำลายล้างพิษ เพื่อให้การปฏิบัติการ ป้องกัน นชค.ในภารกิจการบรรเทาสาธารณภัยจากสารเคมี และวัตถุอันตรายโดยเฉพาะการเข้าพิสูจน์ทราบ การ ควบคุมบังคับบัญชา และการกำหนดพื้นที่อันตราย รวมทั้งการทำลายล้างพิษเป็นไปอย ่างถูกยุทธวิธี และเกิด ประสิทธิภาพสูงสุดกับ วศ.ทร. ได้มีการดำเนินการจัดการความรู้การปฏิบัติการ โดยมีการรวบรวมองค์ความรู้ที่ เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติเผยแพร่ให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเพื่อการปรับปรุง จัดหา วัสดุ อุปกรณ์ ยุทโธปกรณ์ทางด้าน นชค. ให้มีความทันสมัย และ มีประสิทธิภาพมาก รวมทั้งสิ่งที่สำคัญมากสุดคือการรักษาไว้ซึ่ง สุขภาพและชีวิตของกำลังพลของหน่วยปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย วศ.ทร. ดังที่ ปรากฏของผลงานการปฏิบัติที่ดี(Best Practices) ในอดีต อาทิเช่น อุปกรณ์สำหรับรองรับสารพิษ ในปฏิบัติการ ด้านการนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี(งป.๖๐) และองค์ความรู้เรื่อง สถานีทำลายล้างพิษคนหมู่มากแบบเคลื่อนที่เร็ว (งป. ๖๑) การจัดทำราวอาบน้ำแบบห่วง (งป.๖๒) และยานพิสูจน์ทราบสารพิษ (เสือดำ ๑) (งป.๖๔) เป็นต้น
หน้า | ๘๑ โครงสร้างหน่วยปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย วศ.ทร การปฏิบัติการในการบรรเทาสาธารณภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย ที่สำคัญคือ การหลีกเลี่ยงจากการ ปนเปื้อนจากสารพิษ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ป้องกัน โดยเป็นการป้องกันส่วนรวม หรือการป้องกันส่วนบุคคล ซึ่ง จะต้องมีการใช้อุปกรณ์การป้องกันส ่วนบุคคล ประกอบด้วย หน้ากากป้องกัน และ ชุดป้องกันสารเคมีและวัตถุ อันตราย ซึ่งเมื่อปฏิบัติภารกิจเรียบร้อย หากต้องการออกจากพื้นที่ที่เปื้อนพิษไปยังพื้นที่สะอาด หรือเมื่อต้องการ ถอดชุดป้องกันนั้น จะต้องมีการทำลายล้างพิษหน้ากากและชุดป้องกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ผู้ สวมใส่และเพื่อไม่ให้แพร่กระจายออกสู่กำลังพลอื่นและสิ่งแวดล้อม ในภารกิจการพิสูจน์ทราบสารพิษ และยับยั้งการ แพร่กระจายอันตรายของสารพิษนั้น การเข้าปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่จะต้องสวมใส่ชุดป้องกันระดับ A B หรือ C ซึ่งแล้วแต่ระดับของการป้องกัน ซึ่งผู้สวมใส่จะต้องมีความชำนาญ และมีประสบการณ์ในการสวมใส่อย่างมาก ชุดป้องกันระดับ A ชุดป้องกันระดับ B ชุดป้องกันระดับ C ชุดป้องกันระดับ A B และ C ตามลำดับ หน่วยปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย วศ.ทร. (ส่วนควบคุมและกำหนดพื้นที่อันตราย) ชุดพิสูจน์ทราบ - ตอนพิสูจน์ทราบสารพิษ - ตอนกำหนดขอบเขตอันตราย - ตอนระงับเหตุ/กักกั้นการแพร่กระจาย ชุดชำระล้างสารพิษ - ตอนชำระล้างชุดพิสูจน์ทราบ - ตอนชำระล้างผู้ประสบภัย - ตอนชำระล้างพื้นที่ และยุทโธปกรณ์
หน้า | ๘๒ การพิสูจน์ทราบสารพิษ เป็นภารกิจหนึ่งซึ่งจะต้องการทราบถึงชนิดและความเข้มข้นของสารพิษบริเวณ พื้นที ่เป้าหมาย ตอนพิสูจน์ทราบชุดแรก (อย ่างต ่ำ ๒ นาย) ถือได้ว ่าเป็นด ่านแรกที ่มีส ่วนสำคัญอย ่างมากต่อ ความสำเร็จของภารกิจ เนื ่องจากจะต้องทำหน้าที ่พิสูจน์ทราบชนิดและความเข้มข้นของสารพิษ ไม ่ว ่าจะเป็น สารเคมีหรือ สารรังสี ซึ่งข้อมูลข่าวสารนี้จะส่งไปให้กับส่วนควบคุมและกำหนดพื้นที่อันตราย เพื่อนำข้อมูลจากการ พิสูจน์ทราบนี้มาประมวลผลเพื่อไปยืนยันในการกำหนดพื้นที่อันตรายจริงและพื้นที่อันตรายตามลม รวมทั้งกำหนด ระดับชุดป้องกันสำหรับเจ้าหน้าที่ลำดับถัดไปที่จะเข้าไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่นั้น และยังรวมทั้งนำข้อมูลดังกล่าว มากำหนดชนิดและคำนวนความเข้มข้นของสารชำระล้างให้กับชุดชำระล้างสารพิษเพื่อชำระล้างสารพิษให้กับ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหรือประชาชนที่เปื้อนพิษต่อไป ตามภารกิจที่มอบหมายให้ชุดพิสูจน์ทราบนั้น ถือได้ว่ามีความเสี่ยงอย่างมาก โดยเมื่อเกิดความผิดพลาด บางอย่างเช่น ชุดหรือหน้ากากที่สวมใส่เกิดการรั่ว อากาศในถังอากาศหมด หรือเกิดอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์ ทราบล้มหมดสติ โดยเฉพาะกำลังพลที่สวมใส่ชุดป้องกันระดับ A หรือระดับ B ที่มีขีดจำกัดด้านการหายใจ ซึ่งต้อง ใช้ระดับการป้องกันสูงสุด (พื้นที่พิสูจน์ทราบมีความเข้มข้นของสารเคมีที่เป็นอันตรายในด้านการกัดกร่อนและเป็น พิษต่อร่างกายสูง และมีสภาวะที่แวดล้อมของอากาศที่มีออกซิเจนน้อยกว่า ๑๙ %) การวิเคราะห์สถานการณ์ผิด เช่น กำหนดระดับชุดป้องกันต่ำกว่าความเป็นจริงซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันเวลา อาจ ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของกำลังพลหรือเกิดการสูญเสียถึงชีวิตได้ และยังอาจส่งผลกระทบให้ภารกิจที่ได้รับ มอบหมายล้มเหลว ซึ่งจะมีผลกระทบต่อชีวิตของประชาชน สังคมและเศรษฐกิจในพื้นที่โดยรอบอย่างมาก ผู้บังคับบัญชาทั้งในปัจจุบันและในอดีตได้ตระหนักถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพ และการสูญเสียถึงชีวิตของกำลังพล ที่เข้าไปพิสูจน์ทราบโดยเฉพาะคู่แรกเป็นอย่างดี ได้คิดหาหนทางปฏิบัติในการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงให้ปลอดภัยมาก ที่สุด แต่ก็ยังต้องดำรงค์ไว้ซึ่งภารกิจจะต้องสำเร็จและทันเวลา ซึ่งได้คิดหาหนทางในการใช้ยุทโธปกรณ์เพื่อเข้ามา ทำงานแทนที่กำลังพลชุดพิสูจน์ทราบ แต่เนื่องจาก วศ.ทร. ได้งบประมาณในแต่ละปีที่จำกัด ยานพิสูจน์ทราบ สารเคมีและวัตถุอันตราย (Unmanned Ground Vehicle :UGV) สามารถสั่งซื้อจากต่างประเทศนั้นมีราคาต่อ ๑ ชุด ประมาณ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งค่อนข้างราคาสูง ยานพิสูจน์ทราบสารพิษ สั่งซื้อจากต่างประเทศ
หน้า | ๘๓ แต่เนื่องจากองค์ความรู้และขีดความสามารถของกำลังพลของ วศ.ทร. เมื่อประเมินศักยภาพต่าง ๆ แล้ว สามารถประดิษฐ์ยานพิสูจน์ทราบสารเคมีและวัตถุอันตราย (Unmanned Ground Vehicle :UGV) ได้ และใช้ งบประมาณไม่มาก จึงได้ดำเนินการจัดสร้าง ยานพิสูจน์ทราบสารเคมีและวัตถุอันตราย ซึ่งใช้นามเรียกขานในการ ปฏิบัติการว่า “เสือดำ” ทั้งนี้ จะเป็นการใช้ยานดังกล่าวประกอบขึ้นรวมกับ ชุดบรรเทาสาธารณภัย วศ.ทร. สามารถใช้ทดแทนกำลังพลชุดพิสูจน์ทราบได้ (๒ นาย) โดยใช้กำลังพลควบคุมยานเพียงคนเดียว และยังติดกล้อง เพื่อส่งสัญญาณภาพพื้นที่เกิดเหตุและ ภาพชนิดและความเข้มข้นของสารเคมีมายังส่วนควบคุมเพื ่อเป็นข้อมูล ประกอบการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชา โดยเหตุผลที่สำคัญอย่างมากคือ ทำให้กำลังพลไม ่มีความเสี่ยงต่อการ สูญเสียชีวิตในการเข้าไปพิสูจน์ทราบสารพิษดังกล่าว และนอกจากนี้ยังประหยัดงบประมาณของชุดป้องกันที่สวมใส่ ของชุดพิสูจน์ทราบคู่แรก ซึ่งปัจจุบัน ชุดป้องกันระดับ A หรือ B มีราคาประมาณชุดละ ๕๐๐,๐๐๐ บาท รวม ๒ ชุด เป็นเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ในปี งป.๖๔ ทางหน่วยปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตรายได้ดำเนินการจัดทำ ยานพิสูจน์ทราบสารพิษ (เสือดำ ๑) เพื่อทดสอบทดลองใช้ยานดังกล่าวทดแทนชุดพิสูจน์ทราบคู่แรก ซึ่งจะได้ บทเรียนและอุปสรรคข้อขัดข้องอย่างมาก เป็นเหตุให้มีการพัฒนายานพิสูจน์ทราบสารพิษ (เสือดำ ๒) ให้มีขีด ความสามารถในการปฏิบัติการสภาวะที่มีความเสี่ยงต่อภัยจากสารเคมีและอันตรายได้มากขึ้น ยานพิสูจน์ทราบสารพิษ /Unmanned Ground Vehicle (UGV) / เสือดำ ๑
หน้า | ๘๔ การปรับปรุงยานพิสูจน์ทราบ เสือดำ ๑ ไปสู่ เสือดำ ๒ (Verion 1) ๑. จัดทำยานให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรับน้ำหนัก ระบบ รับ - ส่ง สัญญาณภาพจากยานพิสูจน์ทราบไปที่จอภาพ ของส่วนควบคุม จากเดิม ๑๐๐ เมตร เพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ เมตร และมีพื้นที่รองรับเครื่องตรวจสอบสารพิษ ให้ได้มีขนาดและน้ำหนักมากขึ้น ๒. เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากสายพาน เป็น ล้อขนาดใหญ่ ๖ ล้อ และมอเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งทำให้สามารถ ผ่านอุปสรรคพื้นที่หลุมหรือทางลาดชันได้มากขึ้น (จากความชัน ๑๕ องศา เป็น มากกว่า ๓๐ องศา) การพัฒนา ยานพิสูจน์ทราบเสือดำ ๒ (Verion 1) ข้อเสียของยานพิสูจน์ทราบสารพิษ เสือดำ ๒ (Verion 1) ๑. ตัวยานทำด้วยท่อ PVC ไม่สามารถรับน้ำหนักของชุดรับ - ส่งสัญญาณ และ เครื่องตรวจสอบสารพิษ และ แบตเตอรี่ ทำให้โครงสร้างมีลักษณะโค้งงอ บิดตัว ๒. ข้อต่อที่ไม่สามารถยึดแน่นได้เนื่องจากโครงสร้างเป็นท่อ PVC ทำให้เวลาบังคับเลี้ยวไม่เป็นไปตามทิศทาง ที่ต้องการ และการทรงตัวไม่มีเสถียรภาพมากพอ ๓. เวลาปฏิบัติการในที่มีแสงมาก จอมอนิเตอร์มีแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้อ่านค่าจากกล้องที่ส่อง ตรงหน้าจอ ไม่ขัดเจน
หน้า | ๘๕ ๒. การวางแผนเชิงกลยุทธ์ด้านการจัดการความรู้ ๒.๑ วัตถุประสงค์ขององค์ความรู้ที่มีการจัดการเพื่อให้เกิดวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ เพื่อลดความสูญเสียของกำลังพลชุดพิสูจน์ทราบในการเข้าพื้นที่อันตรายจากสารเคมีและวัตถุ อันตราย ในส่วนของการทำลายล้างพิษ ๒.๑.๑ ลดกำลังพลในการเข้าพิสูจน์ทราบสารพิษ ๒..๑.๒ การส่งข้อมูล สภาพแวดล้อม ความเข้มข้นและชนิดของสารพิษจากพื้นที่เกิดมายังส่วนควบคุม ๒.๑.๓ เพื่อลดระยะเวลา ลดขั้นตอน ในการสวมใส่ชุดป้องกัน ๒.๑.๔ ประหยัดงบประมาณในการสั่งซื้อจากต่างประเทศ ๒.๒ เป้าหมายหรือตัวชี้วัดขององค์ความรู้ที่มีการจัดการเพื่อให้เกิดวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ๒.๒.๑ เป้าหมาย (เชิงปริมาณ) ๒.๒.๑.๑ ได้ยานพิสูจน์ทราบสารพิษ /Unmanned Ground Vehicle (UGV) ตามวัตถุประสงค์ ใช้งานง่าย ประหยัดเวลา ทำให้การสนับสนุนกิจการด้านการบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพเรือเป็นไปอย่างสมบูรณ์ และเต็มประสิทธิภาพ ๒.๒.๑.๒ ไม่ต้องใช้กำลังพลในการเข้าพิสูจน์ทราบสารพิษ โดยปกติการเข้าพิสูจน์ทราบจะต้องใช้ กำลังพล ๒ นาย หากใช้ยานพิสูจน์ทราบสารพิษ ใช้กำลังพลควบคุมยานเพียง ๑ นาย ๒.๒.๑.๓ ลดเวลาเตรียมการในการปฏิบัติการเข้าพิสูจน์ทราบ เนื่องจากไม่มีขั้นตอนในการสวมใส่ ชุด (ปกติใช้เวลาในการสวมใส่ ๑๐ นาที) ซึ่งกำลังพลชุดพิสูจน์ทราบที่สวมชุดป้องกัน ระดับ A หรือ B จะต้องมา สวมใส่ชุดใกล้พื้นที่เกิดเหตุเพราะกำลังพลจะต้องใช้อากาศจากถังที่สะพายด้านหลังซึ่งความจุถังสำหรับหายใจมี เวลาปฏิบัติการไม่เกิน ๔๕ นาที หากใช้ยานพิสูจน์ทราบสารพิษสามารถเตรียมการได้ก่อนเข้าใกล้พื้นที่เกิดเหตุ ๒.๒.๑.๔ สามารถเพิ่มระยะเวลาในการปฏิบัติการในพื้นที่อันตรายได้นานมากขึ้น โดยระยะเวลา ขึ้นอยู่กับ ความจุของแบตเตอรี่ที่ใช้กับยานพิสูจน์ทราบ (ไม่ต่ำกว่า ๒ ชม.) ๒.๒.๑.๕ ลดการนำเข้าจากประเทศ โดยการจัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการจัดทำยานพิสูจน์ ทราบสารพิษเป็นเงินประมาณ ๑๑๗,๖๑๗.๐๐ บาท (ตามอนุมัติงบประมาณในการจัดทำโครงการวิจัย R to R) ซึ่งเมื่อให้กำลังพลเข้าพิสูจน์ทราบจะใช้ชุดป้องกันระดับ A หรือ B จำนวน ๒ ชุด เป็นเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท และ หากจัดหายานพิสูจน์ทราบสารพิษจากต่างประเทศ จะต้องใช้งบประมาณเป็นเงินประมาณ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๒.๒.๒ เป้าหมาย (เชิงคุณภาพ) ๒.๒.๒.๑ ลดการสูญเสียของกำลังพลซึ่งมีความเสี่ยงในการปฏิบัติการในพื้นที่อันตราย ๒.๒.๒.๒ ผู้บังคับบัญชาสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ โดยได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจ (สภาพแวดล้อม ชนิดและความเข้มข้นของสารพิษ) ได้ทันทีที่นำยานออกปฏิบัติงานตั้งแต่พื้นที่ตั้งจนถึงพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากยานพิสูจน์ทราบสารพิษสามารถส่งข้อมูลดังกล่าวมายังส่วนควบคุมโดยกล้องและระบบส่งสัญญาณภาพ ๒.๒.๒.๓ สามารถเคลื่อนที่ผ่านอุปสรรคได้มากขึ้น เช่น หลุม เนินสูงชัน บันได
หน้า | ๘๖ ตารางการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย ลำดับ รายละเอียดการเปรียบเทียบ การพิสูจน์ทราบสารพิษ คู่ที่ ๑ เสือดำ (Verion 2) หมายเหตุ ๑. การเตรียมการเข้าพิสูจน์ทราบ ๑๕ - ๒๐ นาที ไม่เกิน ๕ นาที ๒. จำนวนกำลังพลเข้าพื้นที่อันตรายของ ชุดพิสูจน์ทราบ จำนวน ๒ นาย ไม่มี ผู้ควบคุมยาน พิสูจน์ทราบ จำนวน ๑ นาย ๓. ระยะเวลาที่ใช้ในการชำระล้างสารพิษ ๕ – ๑๐ นาที ไม่เกิน ๑ นาที ๔. งบประมาณที่ใช้ในการจัดหา/ประกอบ ยานพิสูจน์ทราบสารพิษ จัดซื้อจากต่างประเทศ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๑๐๕,๐๑๗ บาท ๕. การจัดหาชุดป้องกันระดับ A/B จำนวน ๒ ชุด ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท - ใช้ยานพิสูจน์ ทราบทดแทน ๓. กระบวนการผลิตผลงาน ภาพที่ ๗ กระบวนการจัดทำยานพิสูจน์ทราบสารพิษ เสือดำ ๒ (Verion 2)
หน้า | ๘๗ ๓.๑ การออกแบบผลงาน/ นวัตกรรม การปรับปรุงยานพิสูจน์ทราบสารพิษจาก เสือดำ ๒ (Verion 1) ไปสู่ เสือดำ ๒ (Verion 2) โครงสร้างที่ทำด้วยวัสดุโลหะยานพิสูจน์ทราบสารพิษ เสือดำ ๒ (Verion 2) การยึดข้อต่อเพื่อให้มีความเสถียรในการบังคับทิศทางเสือดำ ๒ (Verion 2) การทดสอบการเคลื่อนที่ผ่านอุปสรรคของเสือดำ ๒ (Verion 2) การติดตั้งเครื่องวัดภายในกล่องเพื่อลดแสงสะท้อนของเสือดำ ๒ (Verion 2)
หน้า | ๘๘ ขั้นที่ ๑ การวางแผน (Plan : P) ๑. รวบรวมข้อมูล จากการฝึกประจำปี ทั้งการฝึกร่วมกับหน่วยงาน ใน ทร. เหล่าทัพอื่น และจาก ต่างประเทศ เกี่ยวกับรูปแบบการเข้าพิสูจน์ทราบขนาดของอุปกรณ์พิสูจน์ทราบ อุปกรณ์ส่งและขยายสัญญาณ ภาพ ในพื้นที่ ๒. ยานพิสูจน์สารพิษที่นำเข้ามาใช้ในการฝึก นำมาดำเนินการจัดการความรู้ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และถกแถลงกันในชุมชนนักปฏิบัติ ถึงรูปแบบที่เหมาะสม ที่สามารถตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ได้ ๓. ดำเนินการออกแบบยานพิสูจน์ทราบสารพิษรูปแบบ โครงร ่าง ขนาด และ ขั้นตอนการประกอบ รวมทั้งการยึดกับเครื่องวัดสารเคมีพิษ กล้อง และเครื่องส่งสัญญาณภาพ ๔. นำไปทดลองใช้ในการฝึกการปฏิบัติการ นชค. ประจำปี งป.๖๕ (ธ.ค.๖๔) ๕ . ประเมินผลการดำเนินการ และปรับปรุงพัฒนา ขั้นที่ ๒ การปฏิบัติตามแผน ๑. ตัวยานพิสูจน์ทราบ (เสือดำ ๒) จะออกแบบคล้ายรถล้อยาง ๖ ล้อ(ติดมอร์เตอร์ขับเคลื่อนทุกล้อ) ซึ่ง สามารถเคลื ่อนที ่ไปในภูมิประเทศไม ่ราบเรียบ มีแอ่งน้ำ เนินดิน เนินหิน บันไดเพื ่อทดแทน เจ้าหน้าที ่ในการ ปฏิบัติการพิสูจน์ทราบสารพิษ ซึ่งในการปฏิบัติงานปกติจะใช้ชุดป้องกันระดับ A หรือ ระดับ B จำนวน ๒ นาย โดยสามารถปฏิบัติงานได้นานมากกว่า ๑ ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ที่ใช้ขับมอเตอร์) ๒. ชุดกล้องเพื่อส่งสัญญาณภาพ ระยะไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ เมตร (ขึ้นอยู่กับภาครับ – ส่ง ที่ติดบนเสือดำ) จำนวน ๒ ชุด ๒.๑ ชุดส่งสัญญาณภาพเส้นทางและลักษณะของพื้นที่เกิดเหตุ ขณะที่ เสือดำเคลื่อนที่จากจุดปล่อยไป ยังพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งจะเป็นภาพสำหรับการนำทางให้กับเจ้าหน้าทีในการบังคับยาน ๒.๒ ชุดส่งสัญญาณที่จับภาพบนหน้าจอของเครื่องมือวัดสารพิษที่ติดตั้งกับยานซึ่งจะส่งสัญญาณภาพ ของ ชื่อสารและความเข้มข้นของสารพิษที่เครื่องมือตรวจสารพิษวัดได้แบบต่อเนื่อง เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ของ ภัยคุกคามจากสารพิษโดยสังเกตการณ์จากหน้าจอมอนิเตอร์ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่เกิดเหตุไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ เมตร และ ติดตั้งภายในกล่องเพื่อลดการสะท้อนของแสงแดด ๓. ติดตั้งแบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุประจุมากขึ้นบนยานเสือดำเพื่อเพิ่มระยะเวลาในการปฏิบัติการ โดย ปกติชุดป้องกันระดับ A หรือ B ระยะเวลาในการปฏิบัติจะมีขีดจำกัดซึ่งขึ้นอยู่กับถังอากาศที่สะพายหลังไป ซึ่งจะ สามารถบรรจุอากาศให้สามารถหายใจได้ โดยปกติใช้เวลา ๔๕ นาที ซึ่งหากมีงบประมาณสามารถใช้แบตเตอรี่ สำรองที่ติดไปกับยาน ใช้เวลาไม่ต่ำว่า ๑ ชั่วโมง ๔. ชุดรับสัญญาณ ประกอบด้วยภาครับ อุปกรณ์แปลงสัญญาณ และจอมอนิเตอร์ ซึ่งสามารถติดตั้งบนรถ บัญชาการหรือพื้นที ่ปลอดภัยซึ ่งห ่างจากพื้นที ่เกิดเหตุไม ่ต ่ำกว ่า ๔๐๐ เมตร เพื ่อให้ผู้บังคับบัญชาสามารถ สังเกตการณ์ ประกอบการตัดสินใจในการดำเนินภารกิจต่อไป โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการสูญเสียหากใช้กำลังพลเข้า พิสูจน์ทราบพื้นที่ดังกล่าว
หน้า | ๘๙ ๕. อุปกรณ์สำหรับบังคับทิศทางการเคลื่อนที่ของยานดัดแปลงจากอุปกรณ์บังคับทิศทางของอากาศยานไร้ คนขับ (UAV) ๖. ทำขั้นตอนการประกอบยานพิสูจน์ทราบโดยมีแนวทางการประกอบอุปกรณ์ ก่อน - หลัง ๗. ทำขั้นตอนการปฏิบัติของยานพิสูจน์ทราบในการประกอบกำลังในภารกิจของการปฏิบัติการ นชค. ขั้นที่ ๓ การนำไปใช้(Check:C) การฝึกปฏิบัติการ นิวเคลียร์ ชีวะ เคมี วศ.ทร. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ - ๒๕๖๕ โดย วศ.ทร. ได้นำ ยานพิสูจน์ทราบสารพิษ (เสือดำ) ไปทดลองใช้ ซึ่งผลจากการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลการฝึก จาก เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ในชุดปฏิบัติการ และผู้บังคับบัญชาที่กรุณาไปตรวจเยี่ยมการฝึกนั้นพบว่ายานพิสูจน์ทราบ สารพิษ (เสือดำ) สามารถเข้าทำการพิสูจน์ทราบในพื้นที่ไม่ราบเรียบได้อย่างดี โดยส่งภาพพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมทั้ง ภาพของชนิดและความเข้มข้นของสารเคมีพิษที่ตรวจพบ ซึ่งภาพดังกล่าวส่งมาที่ส่วนควบคุม เป็นระยะทางไม่ต่ำ กว่า ๔๐๐ เมตร ได้อย่างดี โดยไม่ต้องให้ชุดพิสูจน์ทราบคู่ที่ ๑ เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเป็นการลดการสูญเสียของ กำลังพล อีกทั้งยังประหยัดกำลังพลในการพิสูจน์ทราบ จำนวน ๑ นาย ตัวยานยังมีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายโดยกำลัง พลเพียงคนเดียวและทุกฝ่ายเกิดความพึงพอใจ ขั้นที่ ๔ การดำเนินการปรับปรุง พัฒนา(Action : A) การปฏิบัติการป้องกันทางด้าน นชค. นั้น มีการปฏิบัติ ๓ ด้าน คือ (๑) สงครามตามแบบหรือ การ ปฏิบัติการป้องกันสงคราม นิวเคลียร์ ชีวะ เคมี (๒) สงครามนอกแบบ หรือ การต่อต้านการก่อการร้ายที่ใช้อาวุธ ทำลายล้างสูง (๓) การช่วยเหลือประชาชนที่ประสพภัยจากสารเคมี หรือ การบรรเทาสาธารณภัยจากสารเคมีและ วัตถุอันตรายซึ่งจะต้องมียุทธวิธีในการเข้าพิสูจน์ทราบที่สามารถเข้าถึงเป้าหมายได้หลากหลายพื้นที่โดยเฉพาะการเข้า พิสูจน์ทราบพื้นที ่ที่เป็นอาคาร ซึ่งการเคลื่อนที่ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ เช่น บรรได พื้นที่สูงชัน ยานเสือดำยังไม่ สามารถเคลื่อนผ่านไปได้ แนวทางการปรับปรุง เสือดำ ๒ จะต้องลดข้อจำกัดทางด้านนี้ ซึ่งจะต้องออกแบบให้มี ความสอดคล้องกับพื้นที่ที่จะต้องเคลื่อนผ่านเพื่อไปพิสูจน์ทราบ ชนิดและความเข้มข้นให้สำเร็จภารกิจให้ได้ รวมทั้ง จะต้องขยายระยะทางและเวลาในการปฏิบัติการให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนหน่วยกำลังรบใน ทร. เป็นไปอย่าง ถูกหลักยุทธวิธี ส่งผลให้ หน่วยกำลังรบใน ทร.พร้อมปฏิบัติราชการ และสามารถปฏิบัติภารกิจบรรลุวัตถุประสงค์ ของกองทัพเรือ ๓.๒ เป้าหมายหรือตัวชี้วัดขององค์ความรู้ที่มีการจัดการเพื่อให้เกิดวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ๓.๒.๑ ลดจำนวนกำลังพลในชุดปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า ๑ นาย ๓.๒.๒ สามารถส่งข้อมูล ชนิดและความเข้มข้นของสารเคมีมายังส่วนควบคุมในระยะทางไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ เมตร ๓.๒.๓ ระยะเวลาในการปฏิบัติการพิสูจน์ทราบไม่ต่ำกว่า ๑ ชั่วโมง ๓.๒.๔ ประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อยานพิสูจน์ทราบไม่ต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๓.๓ ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน สามารถส่งข้อมูลของสภาพภูมิประเทศ ในพื้นที่อันตราย ชนิดและความเข้มข้นของสารเคมีในเวลาปัจจุบัน และต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า ๑ ชั่วโมง ทำให้ ผู้บังคับบัญชา/ ผบ.เหตุการณ์มีข้อมูลที่ถูกต้อง ทันเวลา ส่งผลให้สามารถลด ความสูญเสียของประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุทีมีสารเคมีและวัตถุอันตราย รั่วไหล
หน้า | ๙๐ ๓.๔ การใช้ทรัพยากร ๓.๔.๑ องค์บุคคล ด้านไฟฟ้าและอีเล็กทรอนิกส์ ใช้บุคคลากรภายกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ซึ่งจบจากนักเรียนจ่า ทหารเรือ แต ่มีพื้นฐานและมีความเชี ่ยวชาญทางด้านไฟฟ้าอีเล็กทรอนิกส์ และได้มีการปรึกษากับผู้ที ่มีความ เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมด้านการสร้างโครงสร้างของเสือดำ ซึ่งเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระ จอมเกล้าธนบุรี บางมด ๓.๔.๒ ด้านเงินทุน ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สวพ.ทร.ในโครงการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย (Routine to Research : R to R) เป็นเงิน ๑๐๕,๐๑๗.๐๐ บาท ๔. ผลการดำเนินการ ๔.๑ ผลที่เกิดตามจุดประสงค์ ๔.๑.๑ ไม่มีการสูญเสียหรือบาดเจ็บของกำลังพลชุดพิสูจน์ทราบในการเข้าพื้นที่อันตรายจากสารเคมีและ วัตถุอันตราย ๔.๑.๒ ลดจำนวนกำลังพลในการเข้าพิสูจน์ทราบ (๒ นาย) ๔.๑.๓ ลดระยะเวลา และ ลดขั้นตอน ในการสวมใส่ชุดป้องกันของชุดพิสูจน์ทราบ ๔.๑.๔ สามารถส่งข้อมูล สภาพแวดล้อม ความเข้มข้นและชนิดของสารพิษจากพื้นที่เกิดมายังส่วน ควบคุมในเวลาจริง ทำให้ ผู้บังคับบัญชา/ผบ.เหตุการณ์ มีการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว ๔.๑.๕ ประหยัดงบประมาณในการสั่งซื้อจากต่างประเทศ ๔.๒ ผลสัมฤทธิ์ ได้ยานพิสูจน์ทราบสารพิษ (เสือดำ ๒) ซึ่งสามารถทดแทนกำลังพลในภารกิจพิสูจน์ทราบสารพิษ ทำให้ลด ความเสี่ยงในการสูญเสียกำลังพล และทำให้ ผู้บังคับบัญชารับทราบสถานการณ์ในขณะนั้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ สามารถควบคุมและลดอันตรายจากสารเคมี ทำให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความปลอดภัยรวดเร็วยิ่งขึ้น
หน้า | ๙๑ ยานพิสูจน์ทราบสารพิษ (เสือดำ ๒) ๔.๓ ประโยชน์ที่ได้รับ ๔.๓.๑ ทร.บรรลุเป้าหมายด้านการบริหารจัดการเรื่อง Multi – Missions ความพร้อมในด้านการให้ความ ช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ(HA/DR) โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดสาธารณ ภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย ๔.๓.๒ สามารถนำไปใช้ในภารกิจร่วมกับ นย. (การป้องกันสงคราม นชค.) และ นสร.(การต่อต้านการก่อ การร้ายที่มีการใช้อาวุธทำลายล้างสูง) ๔.๓.๓ กำลังชุดปฏิบัติการวิทยาศาสตร์มีความปลอดภัย ๔.๓.๔ ประหยัดงบประมาณกองทัพเรือ ในการจัดหายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ ๔.๓.๕ จากองค์ความรู้ที ่ใช้ในการสร้างยานพิสูจน์ทราบสารพิษ “ เสือดำ ๒ “ถ ่ายทอดความรู้ให้กับ หน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่ดำเนินงานในลักษณะเดียวกัน ๔.๓.๖ สามารถนำไปใช้ในภารกิจของการขนส่งสิ่งของในพื้นที่อันตราย และ การลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ สารพิษในพื้นที่ที่มีอันตรายจากสารเคมี หรือภารกิจในการหาข่าวของหน่วยรบ ในพื้นที่ที่มีภัยคุกคามจากข้าศึก
หน้า | ๙๒ ๕. ปัจจัยความสำเร็จ ๕.๑ กำลังพลใน วศ.ทร. มีองค์ความรู้ทางด้านไฟฟ้าอีเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ กำลังพลที่จบจากนักเรียนจ่า ทหารเรือ และ องค์ความรู้ทางด้านช่าง ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการจัดระบบส่งสัญญาณภาพ และการดัดแปลง อุปกรณ์ในตัวรถพิสูจน์ทราบ รวมทั้งได้ปรึกษาขอองค์ความรู้จากอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านวัสดุในการ จัดทำโครงสร้างหลักของยานพิสูจน์ทราบ ๕.๒ สวพ.ทร. ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนด้านงบประมาณ และ ให้คำปรึกษาในการจัดทำโครงการ รวมทั้งช่วย ประสานงานกับหน่วยต่าง ๆ ในการขึ้นโครงการ ๕.๓ การนำปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องจากการฝึกในแต่ละครั้งมาถอดบทเรียนและแปลงมาสู่มาจัดหา/วิธีการ หรืออุปกรณ์ในการแก้ปัญหาดังกล ่าว ยังคงมีความสำคัญและเป็นปัจจัยที ่ช ่วยในการพัฒนาหน ่วยได้อย ่างมี ประสิทธิภาพ ๖. บทเรียนที่ได้รับ ๖.๑ การจัดทำโครงสร้างของยานพิสูจน์ทราบเสือดำ จะต้องตระหนักถึงโครงสร้างและน้ำหนักในการบรรทุก รวมไปถึง ระบบส่งกำลัง ให้เหมาะสมกับ ภารกิจของหน่วย ๖.๒ การส่งข้อมูลสภาพภูมิประเทศและผลการตรวจวัดจากยานพิสูจน์ทราบเสือดำ มาที่ส่วนควบคุมต้องมี ความสัมพันธ์ระหว่าง ระบบ รับ - ส่ง ระบบความถี่ และกำลังของเครื่องส่ง ซึ่งจะต้องไปคำนวณน้ำหนักที่สัมพันธ์ ในข้อ ๖.๑ ๖.๓ การคำนวณระบบส ่งกำลัง(มอเตอร์) จะเป็นสิ ่งที ่จะต้องมีความละเอียด ถ้าสามารถคำนวณน้ำหนักที่ เหมาะสมโดยได้รับข้อมูลจาก ๖.๑ ซึ่งส่งผลทำให้ประหยัดงบประมาณและทำให้ยานพิสูจน์ทราบมีแรงขับเคลื่อน ผ่านอุปสรรคได้อย่างดี ๗. การเผยแพร่ผลงาน ๗.๑ การเผยแพร่ ๗.๑.๑ เผยแพร่ภายใน ทร. ในพิธีเปิด และ เข้าร่วมสถานการณ์การฝึกใน ๓ การฝึก ได้แก่ (๑) การฝึก ปฏิบัติการสงครามนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี (๒) การฝึกปฏิบัติการสงคราม เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ ในการฝึก ร่วม/ ผสม คอบร้าโกลด์(๓) การฝึกบรรเทาสาธารณภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย ๗.๑.๒ เผยแพร่ในงาน KM DAY และการฝึกร่วมกับ ๓ เหล่าทัพ เช่น การฝึกต่อต้านการก่อการร้ายที่มี การใช้อาวุธทำลายล้างสูง การฝึกบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงกับเขตทวีวัฒนา ๗.๒ การยอมรับ - ได้รับการยอมรับจากหน่วยต่าง ๆ ที่ร่วมฝีก
หน้า | ๙๓ ส่วนที่ ๔ งานมอบหมายที่สำคัญ และงานสนับสนุนที่สำคัญ
หน้า | ๙๔ วศ.ทร. ร ่วมสนองพระราชดำริในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื ่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๕ ตามที่ได้รับมอบหมายจาก ทร. และ คณะปฏิบัติงานวิทยาการ จวบจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาร ่วม ๒๑ ปี การดำเนินงานได้สอดคล้องกับแผนแม ่บท โครงการ ซึ ่งปัจจุบันอยู ่ในระยะ ๕ ปีที ่เจ็ด (๑ ต.ค.๖๔ –๓๐ ก.ย.๖๙) เป็นแผนที ่ได้จัดทำขึ้นตามแนวทาง พระราชดำริ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีลักษณะ แผนการดำเนินงานที ่มีกรอบแนวคิดและทิศทางการดำเนินงาน ๓ กรอบ จำนวน ๘ กิจกรรมหลัก เพื ่อสนอง พระราชดำริในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรของประเทศเป็นองค์รวม ๓ ฐาน ได้แก่ ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากร ชีวภาพ และทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิปัญญา
หน้า | ๙๕ ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินงานภายใต้แผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ ๕ ปีที่เจ็ด ของคณะทำงาน อพ.สธ.- วศ.ทร. (ปี งป.๖๖) มีหัวข้อกิจกรรมและวัตถุประสงค์ ดังนี้ กิจกรรมที่ ๑ : การสำรวจเก็บรวบรวมทรัพยากร เก็บตัวอย่างน้ำผิวดิน น้ำทะเลและตะกอนดินเพื่อตรวจ คุณภาพ วัตถุประสงค์ ๑.๑ เพื่อสำรวจ รวบรวมทรัพยากร เก็บตัวอย่างน้ำผิวดิน น้ำทะเล และตะกอนดิน เป็นข้อมูลทาง กายภาพสนับสนุนงานและโครงการวิจัยที่อยู่ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๑.๒ เพื่อเฝ้าระวังและส่งเสริมคุณภาพน้ำทะเลชายฝั่ง และน้ำผิวดินที่เกิดตามสภาพธรรมชาติใน พื้นที่เกาะแสมสารและเกาะข้างเคียงรวม ๙ เกาะ และอ่าวสัตหีบ กิจกรรมที่ ๒ : การสำรวจเก็บรวบรวมตัวอย่างทรัพยากรชีวภาพเพื่อนำมาเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและศึกษาวิจัย นำทรัพยากรชีวภาพมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่า วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อสำรวจ รวบรวมตัวอย่างชีวภาพเพื่อนำ นำมาเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ๒.๒ เพื่อศึกษาวิจัยการนำตัวอย่างทรัพยากรชีวภาพ มาใช้ประโยชน์โดยการตรวจวิเคราะห์ ศึกษา พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่า กิจกรรมที่ ๓ : การนำทรัพยากรที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อไปปลูกคืนถิ่นเดิมหรือในสภาพแวดล้อมตาม ธรรมชาติและติดตามความก้าวหน้า วัตถุประสงค์ ๓.๑ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากร โดยการนำกล้ากล้วยไม้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และพืชพรรณ อื่น ๆ ไปปลูกคืนถิ่นเดิมเพื่อเพิ่มจำนวนและให้คงอยู่ตามสภาพป่าธรรมชาติ ๓.๒ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรโดยเฉพาะกล้วยไม้ถิ่นให้ คงอยู่ตามธรรมชาติ และเกิดความหวงแหนและเห็นคุณค่าของทรัพยากรที่มีอยู่นั้น กิจกรรมที่ ๔ : การจัดทำฐานข้อมูลต่าง ๆ ด้านคุณภาพน้ำผิวดินและน้ำทะเลของเกาะแสมสารและเกาะ ข้างเคียง บันทึกและรายงานในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ วัตถุประสงค์ ๔.๑ เพื่อได้ฐานข้อมูลต่าง ๆ ด้านคุณภาพน้ำผิวดินและน้ำทะเลของเกาะแสมสารและเกาะ ข้างเคียง บันทึกและรายงานในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ๔.๒ เพื่อเกิดความเชื่อมโยงของฐานข้อมูล (เชิงพื้นที่ที่ได้สำรวจ) และสามารถใช้ในการวิเคราะห์ ติตาม วางแผนการจัดการทรัพยากร กิจกรรมที่ ๕ : การผลิตสื่อประชาสัมพันธ์โครงการ อพ.สธ.-วศ.ทร. ผ่านเว็บไซด์และรูปแบบอื่น ๆ วัตถุประสงค์
หน้า | ๙๖ - เพื่อประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของคณะทำงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอัน เนื่องมาจากพระราชดำริฯ ของ วศ.ทร. และกิจการของ ทร. ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม กิจกรรมที ่ ๖ : การจัดแสดงนิทรรศการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื ่องมาจากพระราชดำริฯ ร่วมกับ อพ.สธ.-ทร. และหน่วยงานที่ร่วมสนองพระราชดำริ วัตถุประสงค์ ๖.๑ เพื่อร่วมสนับสนุนการจัดนิทรรศการโครงการ ฯ ๖.๒ เพื่อปฏิบัติราชการประชุมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ
หน้า | ๙๗ ก ล ้ ว ย ไ ม ้ พ ั น ธ ุ ์ เ อ ื ้ อ ง ม ั จ ฉ า Dendrobium palpebrae Lindl. ที ่ได้เก็บตัวอย ่างฝักจากอ ุทยาน แห ่งชาติน้ำตกคลองพลู จว.ตราด นำมาผ่านกระบวนการขยายพันธุ์โดย วิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื ่อ (Tissue culture) กล้ากล้วยไม้จะนำไปอนุบาล เลี้ยงให้มีขนาดต้นเต็มวัย มีลักษณะ สมบูรณ์ปราศจากโรค ก่อนนำไปปลูก ในแหล ่งเดิมหรือป ่าธรรมชาติเดิม ต่อไป