05.แบบประเมิน

องค์ประกอบท่ี ๑
การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ติ น

รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มของครผู ้ชู ่วย
โรงเรยี นดมี ากอปุ ถมั ภ์ สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานนทบุรี เขต ๒

สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

องคป์ ระกอบท่ี ๑ การประเมินผลการปฏบิ ัติตน

เกณฑ์การประเมิน บนั ทกึ การปฏิบัติ หลักฐาน/แหลง่ ข้อมูล
๑. วินยั และการรักษาวินยั

๑.๑ การแสดงออกทางอารมณ์ ขา้ พเจ้าแสดงออกทางออกทางอารมณ์  จากการสัมภาษณ์
กิรยิ า ท่าทาง และพดู สื่อสารได้ ในเชงิ บวก ไม่แสดงอารมณใ์ นเชงิ ลบ  รูปภาพ
เหมาะสมกับกาลเทศะต่อผ้เู รียน เพือ่ ใหน้ ักเรียนได้เหน็ วา่ เมือ่ นักเรยี น
เตบิ ใหญจ่ ะต้องมวี ุฒิภาวะและรู้จัก
กาลเทศะ อีกทงั้ ข้าพเจ้าพดู สอื่ สาร
เหมาะสมกับนกั เรียน

๑.๒ การแสดงออกทางอารมณ์ ขา้ พเจา้ พดู ส่ือสารได้เหมาะสมตอ่  จากการสัมภาษณ์
กิริยาท่าทาง และพดู ส่ือสารได้ เพ่ือนครู ตอ่ ผู้บงั คับบัญชา ผู้ปกครอง  รูปภาพ
เหมาะสมกับกาลเทศะตอ่ อีกท้งั นักการภารโรงอยา่ งรจู้ ัก
ผบู้ งั คับบญั ชา เพ่ือนร่วมงาน กาลเทศะ
ผู้ปกครอง และบุคคลอ่นื

๑.๓ การมเี จตคติเชงิ บวกกบั ข้าพเจ้ามีความจงรักภกั ดตี ่อชาติ  จากการสัมภาษณ์
ประเทศชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ทข่ี า้ พเจ้าเป็น  รูปภาพ
ข้าราชการครเู พ่อื ทจ่ี ะตอบแทนคุณ
แผน่ ดนิ ด้วยการพฒั นาเดก็ ใหเ้ ป็นกาลัง
สาคัญในการพฒั นาประเทศชาติใน
อนาคต

เกณฑก์ ารประเมิน บนั ทึกการปฏิบัติ หลักฐาน/แหล่งข้อมลู

๑.๔ การปฏบิ ัตติ ามกฎ ระเบยี บ ข้าพเจ้าปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมาย  จากการสมั ภาษณ์
หลกั เกณฑ์ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ความเป็น ระเบียบแบบแผน หลกั เกณฑแ์ ละวิธี  สมุดลงเวลาปฏิบัติงาน
ข้าราชการ ปฏบิ ัตริ าชการ โดยเป็นบคุ คลทเี่ คารพ  รูปภาพ
และปฏิบัติตามกฎหมาย รกั ษา
ระเบียบวนิ ยั ของทางราชการ กระทา
ตนเป็นแบบอย่างทีด่ ี มหี ลกั ในการ
ปฏิบตั ิหนา้ ทข่ี องครอู ยา่ งชดั เจน
ยุติธรรม

๑.๕ การปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบียบ ขา้ พเจา้ รกั ษาวินัยท่ีเปน็ ข้อหา้ มและข้อ  จากการสัมภาษณ์
หลกั เกณฑท์ ี่เกยี่ วข้องกบั ความเปน็ ขอ้ ปฏบิ ัตอิ ย่างเคร่งครดั อยูเ่ สมอ โดย  สมุดลงเวลาปฏบิ ตั ิงาน
ขา้ ราชการครู ศึกษาพระราชบญั ญัติ ระเบยี บ  ภาพกจิ กรรม
ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ เพอ่ื เตอื นตนมิให้
กระทาความผิดทางวินยั ราชการ

๑.๖ การปฏิบัตติ ามกฎหมาย ขา้ พเจา้ เป็นขา้ ราชการครูอีกท้งั เปน็  จากการสัมภาษณ์
แมพ่ มิ พข์ องชาติ ขา้ พเจา้ ไดป้ ระพฤติ  ภาพกจิ กรรม
ปฏบิ ัติตนตามกฎหมายของประเทศ
อาทิ กฎหมายจราจร หรอื การใชส้ ิทธิ
ในการเลือกตงั้

เกณฑก์ ารประเมนิ บนั ทึกการปฏบิ ัติ หลักฐาน/แหลง่ ข้อมลู

๒. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม  จากการสัมภาษณ์
 ภาพกจิ กรรม
๒.๑ การปฏบิ ัติตนตามหลักศาสนา ขา้ พเจ้าปฏิบัติตนตามหลักคาสอนทาง
ท่ีนบั ถืออย่างเคร่งครัด พระพทุ ธศาสนา โดยการกระทาแต่  จากการสัมภาษณ์
ความดี ท้งั กาย วาจา และใจ มั่นทาบุญ  ภาพกจิ กรรม
สวดมนต์ ทาสมาธิ ทาจิตใจให้สงบและ
แผ่เมตตาอยู่เสมอๆ

๒.๒ การเข้ารว่ ม ส่งเสริม ข้าพเจ้าเขา้ ร่วมพธิ กี รรมทาง
สนับสนุนศาสนกิจของศาสนาท่ีนับ พระพุทธศาสนา ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ
ถอื อยา่ งสมา่ เสมอ ศาสนกจิ ของพระพุทธศาสนาอย่าง
สม่าเสมอ

๒.๓ การเห็นความสาคญั เข้าร่วม ข้าพเจา้ ปฏบิ ตั ติ นโดยไดย้ ึดม่ันในหลัก  จากการสัมภาษณ์
ส่งเสริม สนบั สนนุ เคารพกิจกรรม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามหลกั จารีต  ภาพกจิ กรรม
ท่ีแสดงถงึ จารตี ประเพณี ประเพณี วฒั นธรรมทอ้ งถ่ินหรอื ชมุ ชน
วัฒนธรรมทอ้ งถ่ินหรือชมุ ชน คืออนุรกั ษ์จารีตประเพณี วฒั นธรรม
ทอ้ งถน่ิ หรอื ชุมชน

๒.๔ การเห็นความสาคญั เขา้ ร่วม ข้าพเจ้าเห็นความสาคญั เขา้ รว่ ม  จากการสัมภาษณ์
สง่ เสริม สนับสนนุ กิจกรรมทแ่ี สดง สง่ เสริม สนับสนุน กิจกรรมทแี่ สดงถึง  จากการสังเกต
ถงึ จารตี ประเพณี วัฒนธรรมของ จารตี ประเพณี วฒั นธรรมของชาติ  ภาพกจิ กรรม
ชาติ ได้แก่ การอนรุ กั ษ์การใชภ้ าษาไทย

อยา่ งถกู ตอ้ ง และสัง่ สอนศษิ ยใ์ หม้ ีเจต
คตทิ ีด่ ตี อ่ ภาษาประจาชาติ

เกณฑก์ ารประเมนิ บนั ทกึ การปฏบิ ัติ หลกั ฐาน/แหล่งขอ้ มลู

๒.๕ การมีจิตบริการ และจติ ข้าพเจา้ ไดแ้ สดงถึงความมีนา้ ใจและให้  จากการสมั ภาษณ์
สาธารณะ ความช่วยเหลือตอ่ เพื่อนรว่ มงานและ  จากการสังเกต
นกั เรยี นตามความเหมาะสม  ภาพกจิ กรรม

๒.๖ การต่อตา้ นการกระทาของ ข้าพเจา้ ได้ทาการอบรมสั่งสอนศษิ ยใ์ ห้  จากการสัมภาษณ์
 จากการสังเกต
บคุ คลหรือกลมุ่ บคุ คลทผ่ี ลตอ่ ความ เป็นคนดขี องประเทศชาติ และ  ภาพกิจกรรม

มัน่ คงของชาติหรอื ผลกระทบเชงิ สามารถดารงชีวิตได้อยา่ งมีความสขุ ใน

ลบต่อสังคมโดยรวม สังคมประเทศชาติ

 ๓. จรรยาบรรณวชิ าชพี ขา้ พเจ้าพัฒนาบุคลกิ ภาพของตนเอง  จากการสมั ภาษณ์
อยู่เสมอ โดยยอมรับความคดิ ของผูอ้ ่ืน  จากการสังเกต
๓.๑ การพฒั นาวิชาชพี และ พรอ้ มท้ังปรบั ปรุงเปลี่ยนแปลง  ภาพกิจกรรม
บคุ ลกิ ภาพอย่างต่อเนือ่ ง บุคลกิ ภาพเพ่อื ให้เหมาะสมกบั การเปน็
ขา้ ราชการครู โดยแต่งกายสะอาด
สุภาพเรยี บร้อยและเหมาะสมกับ
กาลเทศะ

๓.๒ การมวี ิสยั ทศั น์ ร้แู ละเขา้ ใจ มุ่งหวงั ความเจรญิ กา้ วหน้าโดยกาหนด  จากการสมั ภาษณ์
 จากการสงั เกต
สนใจ ติดตามความเปล่ียนแปลง เป้าหมายในกาปฏิบตั งิ าน และ  ภาพกจิ กรรม

ดา้ นวทิ ยาการ เศรษฐกจิ สังคม การศึกษาตอ่ โดยมีการตดิ ตามขา่ วการ

การเมืองของไทย และนานาชาติใน เคล่ือนไหวทางการศกึ ษาในเรอ่ื ง

ปัจจุบัน ความกา้ วหน้าในวิชาชพี อยู่เสมอ เพอื่

จะได้นามาวางแผนและปรับตวั เพ่อื

ความก้าวหน้าในวชิ าชพี

เกณฑ์การประเมิน บนั ทึกการปฏิบัติ หลักฐาน/แหล่งข้อมลู

๓.๓ การไม่อาศัยวชิ าชพี แสวงหา ขา้ พเจ้าเห็นคุณคา่ และความสาคัญของ  จากการสมั ภาษณ์
ผลประโยชนท์ ่ีไมถ่ ูกต้อง การเปน็ ครทู ่ีดีอยเู่ สมอ โดยมคี วามรัก  จากการสงั เกต
และศรทั ธาในวชิ าชีพครู พงึ กระทาตน  ภาพกิจกรรม
ให้เป็นแบบอย่างที่ดีตอ่ ศษิ ย์ ทง้ั
ทางตรงและทางอ้อม

๓.๔ การม่งุ มนั่ ตอ่ การพฒั นา ขา้ พเจา้ มุ่งม่นั ในการทางาน โดยไม่มี  จากการสมั ภาษณ์
ความร้คู วามสามารถของผูเ้ รียน ความยอ่ ทอ้ ต่อปญั หาและอปุ สรรคที่  จากการสงั เกต
เกิดข้นึ เพื่อพัฒนาความรู้  ภาพกจิ กรรม
ความสามารถของผเู้ รยี นตามความ
สนใจ

๓.๕ การใหค้ วามสาคญั ต่อการเขา้ ขา้ พเจ้าเขา้ รว่ มการประชุม/การอบรม  จากการสมั ภาษณ์
ร่วม ส่งเสริม สนับสนนุ กจิ กรรมที่ ความรู้ท่เี ก่ียวขอ้ งกับการศกึ ษาอยู่  จากการสังเกต
เก่ยี วข้องกับวิชาชีพครอู ยา่ ง เสมอ เมอ่ื เสรจ็ ส้ินการจดั กิจกรรม  ภาพกจิ กรรม
สม่าเสมอ ขา้ พเจ้าทาการบนั ทกึ และสรปุ ผลการ  เกียรตบิ ตั ร
เขา้ รว่ มกจิ กรรม นาความรทู้ ี่ได้รบั มา
พัฒนาตนเองและผู้เรียน และรายงาน
ผลใหผ้ ู้บรหิ ารรับทราบอยู่เสมอ

๓.๖ รกั เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ข้าพเจา้ มีความรกั และศรัทธาใน  จากการสัมภาษณ์
 จากการสงั เกต
สง่ เสรมิ สนับสนุน ให้บรกิ ารผเู้ รียน วชิ าชพี ครู พึงกระทาตนใหเ้ ปน็  ภาพกิจกรรม

ทุกคนด้วยความเสมอภาค แบบอย่างทีด่ ตี ่อศษิ ยท์ ั้งทางตรงและ

ทางออ้ มสง่ เสรมิ สนับสนนุ ชว่ ยเหลือ

ศิษย์ด้วยความเสมอภาค

เกณฑก์ ารประเมิน บนั ทกึ การปฏบิ ัติ หลักฐาน/แหลง่ ข้อมลู

๓.๗ การประพฤติปฏบิ ัตติ นเป็นท่ี ขา้ พเจ้าดารงตนดว้ ยความสภุ าพอ่อน  จากการสมั ภาษณ์
ยอมรบั ของผู้เรยี น ผบู้ ริหาร เพือ่ น น้อม สารวมในกิรยิ ามารยาท และการ  จากการสงั เกต
ร่วมงาน ผปู้ กครอง และชุมชน แสดงออกดว้ ยปยิ วาจา แต่งกาย  ภาพกจิ กรรม
สะอาด เรียบรอ้ ย และถกู กาลเทศะ

๓.๘ การไม่ปฏบิ ตั ติ นทส่ี ่งผลเชิงลบ ข้าพเจา้ ปฏบิ ัติตนตามจรรยาบรรณ  จากการสัมภาษณ์
 จากการสังเกต
ตอ่ กายและใจของผู้เรียน วิชาชพี ครอู ย่างเครง่ ครัด ไมแ่ สดง  ภาพกจิ กรรม

อารมณ์ในเชงิ ลบ ที่จะทาใหส้ ่งผลเชงิ

ลบตอ่ นกั เรยี นทง้ั กายและใจ

๓.๙ การทางานกบั ผู้อนื่ ไดโ้ ดยยึด ขา้ พเจา้ ปฏบิ ัติงานตา่ ง ๆ ทท่ี าง  จากการสมั ภาษณ์
หลักความสามคั คี เกอ้ื กลู ซง่ึ กัน โรงเรียนมอบหมาย ให้ความรว่ มมือกบั  จากการสงั เกต
และกัน คณะครู ในการทากิจกรรมตา่ ง ๆ ทัง้  คาสั่งปฏบิ ัตหิ น้าท่ี
ในและนอกสถานศกึ ษาดว้ ยความเต็ม  ภาพกิจกรรม
ใจ

๓.๑๐ การใช้ความรคู้ วามสามารถ ขา้ พเจ้าต้ังใจปฏบิ ตั หิ น้าทใี่ นการ  จากการสมั ภาษณ์
 จากการสงั เกต
ทมี่ ีอยู่ นาใหเ้ กดิ ความเปลยี่ นแปลง ถา่ ยทอดความรู้ ทักษะที่ตนเองมีใหก้ ับ  คาสั่งปฏิบัตหิ น้าที่

ในทางพฒั นาให้กบั ผเู้ รยี น โรงเรียน นกั เรยี นโดยมิไดป้ ิดบงั พยายามศึกษา

หรอื ชมุ ชนในดา้ นใดด้านหนึง่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พิม่ เตมิ เพอ่ื พัฒนา

(ด้านการอนุรักษ์ศลิ ปวัฒนธรรม ตนเอง ติดตามขา่ วสาร และเขา้ อบรม

ภมู ปิ ัญญา และส่ิงแวดลอ้ ม) เทคนคิ ใหม่ ๆ นามาช่วยพฒั นาการ

เรียนการสอน ให้กบั นกั เรยี นเพื่อให้

นกั เรยี นเปน็ บคุ คลทีม่ คี วามรทู้ กั ษะ

และทนั ต่อเหตกุ ารณ์สามารถนาความรู้

ท่ไี ด้ไปพฒั นาชุมชนและท้องถน่ิ

เกณฑ์การประเมิน บนั ทึกการปฏบิ ัติ หลกั ฐาน/แหลง่ ข้อมูล
 จากการสัมภาษณ์
๓.๑๑ การยดึ ม่ันในการปกครอง ข้าพเจ้ามคี วามจงรักภกั ดี ตอ่ สถาบนั  จากการสงั เกต
ระบอบประชาธปิ ไตยอันมี ชาติ ศาสนาและพระมหากษตั ริย์ยึด  ภาพกิจกรรม
พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข มัน่ ในการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตย โดยมีพระมหากษตั รยิ ์  จากการสมั ภาษณ์
เปน็ ประมขุ ประพฤติตนให้เป็นสมาชกิ  จากการสังเกต
ที่ดขี องสังคมและมจี ติ สาธารณะมี  ภาพกจิ กรรม
ความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม โดย
ชว่ ยเหลือเพ่ือนรว่ มงานโดยไม่หวัง
ผลประโยชนแ์ ละส่งิ ตอบแทนใด ๆ
ท้งั สน้ิ

๔. การดารงชวี ติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

๔.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั ขา้ พเจา้ ตระหนักถงึ คณุ ค่าของการ
หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดาเนนิ ชวี ิตตามหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง
และพยายามน้อมนาหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ น
ชวี ติ ประจาวนั เพือ่ ความผาสกุ ของ
ตนเองในปัจจบุ นั และอนาคต

เกณฑก์ ารประเมนิ บันทึกการปฏบิ ตั ิ หลักฐาน/แหลง่ ข้อมลู

๔.๒ มีการนาหลกั ปรชั ญาของ ข้าพเจา้ นาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ  จากการสมั ภาษณ์
 จากการสังเกต
เศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้กับการ พอเพยี งมาสอดแทรกในใบงานของ  ภาพกิจกรรม

จดั การเรยี นรูใ้ นห้องเรยี น นกั เรยี น พบวา่ นกั เรยี นมคี วามรคู้ วาม

เข้าใจในหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี ง สามารถนาหลักของความ

พอเพียง คอื พอประมาณ มเี หตุผล มี

ภูมคิ ุ้มกนั ท่ีดใี นตัว บนเงอ่ื นไขของ

ความรคู้ ่คู ณุ ธรรม นกั เรียนนาไป

ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้

๔.๓ มกี ารนาหลกั ปรชั ญาของ ขา้ พเจ้าดาเนินชีวิตโดยยดึ หลักปรัชญา  จากการสัมภาษณ์
เศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรับใช้กับ ของเศรษฐกจิ พอเพียงมาเปน็ แนวทาง  จากการสังเกต
ภารกจิ ทไ่ี ด้รบั มอบหมายอ่นื ในการทางานให้มีประสทิ ธิภาพ

๔.๔ มกี ารนาหลกั ปรชั ญาของ ข้าพเจา้ ดาเนนิ ชวี ติ โดยยดึ หลักปรัชญา  จากการสัมภาษณ์
เศรษฐกิจพอเพยี งไปปรบั ใช้กบั การ ของเศรษฐกิจพอเพยี งของ ในหลวง  จากการสงั เกต
ดารงชวี ิตของตนเอง เปน็ แนวทางในการดาเนินชวี ติ เช่น  รูปภาพ
การทารายรับรายจา่ ยเพื่อความคุมการ
ใช้จา่ ยแต่ละเดือน

๔.๕ เปน็ แบบอย่างในการนาหลกั ข้าพเจ้าปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอย่างทดี่ แี ก่  จากการสมั ภาษณ์
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไป ลูกศิษย์ ใช้ชวี ิตบนสายกลาง ยึดหลัก  จากการสังเกต
ปรับประยกุ ต์ใชก้ ับภารกิจต่าง ๆ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชใ้ น
หรือการดารงชีวติ ของตน การดาเนนิ ชวี ิตและเป็นผใู้ ฝ่รู้ ใฝเ่ รียน
และใฝพ่ ัฒนาตนเองอย่างตอ่ เนื่อง

เกณฑก์ ารประเมนิ บันทกึ การปฏิบตั ิ หลักฐาน/แหลง่ ขอ้ มูล

๕. จติ วิญญาณความเปน็ ครู  จากการสมั ภาษณ์
 จากการสงั เกต
๕.๑ การเข้าสอนตรงเวลาและสอน ข้าพเจ้าปฏบิ ัติหนา้ ทที่ ่ีได้รับมอบหมาย  ภาพกจิ กรรม

เตม็ เวลา อย่างเตม็ ความสามารถ เตม็ เวลา เอาใจ

ใส่ต่อการปฏิบตั หิ น้าท่อี ย่างสม่าเสมอ

โดยมีการวางแผนการสอนล่วงหน้า

จดั ทา และจัดหาส่ือ จดั กจิ กรรมโดย

เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ ไมล่ ะทงิ้ การสอน

กลางคนั มีการปรับปรุงพัฒนางานการ

สอนอยู่เสมอ

๕.๒ การตระหนกั ในความรู้และ ข้าพเจ้ารูแ้ ละตระหนักในหนา้ ที่ของครู  จากการสัมภาษณ์
ทักษะท่ถี กู ตอ้ ง รวมถงึ สง่ิ ทด่ี ี ๆ ใหเ้ วลาในการอบรม ส่งั สอน ทง้ั ความรู้  จากการสังเกต
ใหก้ บั ผู้เรียน หรอื ทกั ษะในการใชช้ วี ิต คณุ ธรรม
จริยธรรม เม่ือศษิ ยต์ ้องการคาแนะนา
หรอื การชว่ ยเหลอื ก็ให้ความชว่ ยเหลอื
ด้วยความเตม็ ใจและไมป่ ฏบิ ัตติ ่อ
นกั เรยี นอยา่ งไมเ่ ปน็ ธรรม

๕.๓ การสรา้ งความเสมอภาคเปน็ ขา้ พเจา้ พยายามเรยี นร้แู ละศึกษา  จากการสมั ภาษณ์
ธรรมกับผู้เรยี นทกุ คน ผู้เรยี นเป็นรายบคุ คล เพื่อจะได้ทราบ  จากการสงั เกต
ความตอ้ งการ สภาพสงั คม เศรษฐกจิ
ครอบครัวของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล
แลว้ นาผลท่ไี ดไ้ ปใช้ในการจัดกจิ กรรม
การเรียนการสอนให้เหมาะสมกับ
ผเู้ รียนเป็นรายบุคคล ทาใหน้ กั เรียนมี
ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนที่ดขี น้ึ

เกณฑ์การประเมนิ บนั ทึกการปฏิบัติ หลกั ฐาน/แหลง่ ข้อมลู

๕.๔ การร้จู กั ให้อภัย ปราศจาก ข้าพเจา้ ตั้งใจปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีในการ  จากการสัมภาษณ์
อคติ ช่วยเหลอื สง่ เสรมิ สนบั สนุน ถ่ายทอดความรใู้ หแ้ ก่นักเรยี น เพ่ือให้  จากการสงั เกต
ให้ผ้เู รียนประสบความสาเร็จ ตาม นกั เรยี นประสบความสาเร็จ ตาม
ศักยภาพความสนใจหรือความ ศักยภาพ ความสนใจหรอื ความตัง้ ใจ
ตั้งใจ โดยปราศจากอคติต่อนักเรียน

๕.๕ การเป็นทพี่ ง่ึ ให้กบั ผู้เรียนได้ ขา้ พเจ้าเสยี สละเวลาตนเอง มีความมุ่ง  จากการสัมภาษณ์
ตลอดเวลา มานะและคอยช่วยเหลือ เปน็ ทป่ี รกึ ษา  จากการสังเกต
เกยี่ วกับปัญหาของผ้เู รียนในด้านตา่ ง ๆ  สอ่ื โซเชียลมีเดยี
เปน็ กาลังใจและใหค้ าแนะนา เช่น เปิด
โอกาสใหน้ ักเรียนสามารถติดต่อ
สอบถามไดต้ ลอดเวลาผา่ นส่ือโซเชียล
มเี ดีย

๕.๖ การจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ ขา้ พเจา้ ปฏิบตั หิ น้าทีด่ ้วยจิตวิญญาณ  จากการสัมภาษณ์
การใฝ่รู้ ค้นหา สรา้ งสรรค์ เป็นการทาหน้าท่ีด้วยใจ ประพฤตติ น  จากการสังเกต
ถา่ ยทอด ปลกู ฝัง และเป็น เป็นแบบอย่างท่ดี ี และจัดกจิ กรรมที่
แบบอย่างทีด่ ขี องผูเ้ รียน ส่งเสริมการใฝร่ ู้ กระตุ้นความสนใจ
ของนักเรยี นตลอดเวลาเพ่อื ปลูกฝงั ให้
นกั เรยี นเปน็ คนใฝร่ ูแ้ ละสรา้ งสรรค์
ผลงานไดอ้ ยา่ งดีเยย่ี ม

๕.๗ การทุ่มเทเสยี สละในการ ขา้ พเจ้าอทุ ศิ เวลาให้กบั ราชการ ไม่ว่า  จากการสมั ภาษณ์
จดั การเรียนรู้ให้กบั ผเู้ รยี น การสอนน้นั จะอยู่ในเวลาราชการหรอื  จากการสงั เกต
นอกเวลาราชการ จนกว่านกั เรยี นจะมี
ความรูอ้ ย่างเต็มเป่ยี ม เสียสละท้งั เวลา
และทนุ ทรัพย์ เพ่ือผลจะเกิดกับนักเรียน
และสงั คม

เกณฑ์การประเมิน บนั ทกึ การปฏิบตั ิ หลกั ฐาน/แหล่งขอ้ มูล

๖. จิตสานกึ ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชพี ครู  จากการสัมภาษณ์
 จากการสังเกต
๖.๑ การมีเจตคตเิ ชิงบวกกบั ขา้ พเจา้ เห็นคณุ ค่าและความสาคัญของ
วิชาชีพครู การเป็นครทู ี่ดีอยเู่ สมอ โดยมีความรัก
และศรทั ธาในวิชาชีพครู พึงกระทาตน
ให้เป็นแบบอย่างที่ดีตอ่ ศิษย์ทง้ั ทางตรง
และทางออ้ ม

๖.๒ การมุง่ มนั่ ทมุ่ เทใน ขา้ พเจ้าพยายามศกึ ษาหาความรู้  จากการสมั ภาษณ์
การสร้างสรรคน์ วัตกรรมใหม่ ๆ เพ่มิ เติมอยเู่ สมอ จากแหลง่ เรยี นรตู้ ่าง ๆ  จากการสังเกต
เพื่อให้เกิดการพัฒนาวชิ าชพี และ เช่น หนังสือ สอื่ สงิ่ พิมพ์ โทรทศั น์  ภาพกจิ กรรม
ใหส้ ังคมยอมรบั อินเทอรเ์ นต็ เป็นตน้ เพ่อื นาความรมู้ า  ส่ือการสอน
ผลิตสื่อการสอนและนามาพฒั นา
วิชาชพี ตอ่ ไป

๖.๓ ประพฤติปฏิบตั ติ นในการ ขา้ พเจา้ ประพฤตติ นยึดหลกั คณุ ธรรม  จากการสัมภาษณ์
รกั ษาภาพลกั ษณ์ในวิชาชีพ และจรรยาบรรณวชิ าชีพ รักษา  จากการสังเกต
ภาพลักษณใ์ นวิชาชีพอย่างเสมอมา  รปู ภาพ

๖.๔ การปกปอ้ ง ปอ้ งกนั มใิ หผ้ รู้ ่วม ขา้ พเจ้าคอยให้คาปรกึ ษาแนะนาผูร้ ว่ ม  จากการสัมภาษณ์
วิชาชพี ประพฤติปฏิบัตใิ นทางทจ่ี ะ วชิ าชพี ใหป้ ระพฤตปิ ฏิบตั ติ นเปน็  จากการสังเกต
เกิดภาพลักษณเ์ ชงิ ลบต่อวิชาชพี แบบอยา่ งที่ดีและยึดมัน่ ปฏิบัตติ นตาม  ภาพกิจกรรม
จรรยาบรรณวิชาชีพครูอยา่ งเครง่ ครดั

เกณฑ์การประเมิน บันทึกการปฏิบตั ิ หลักฐาน/แหล่งขอ้ มลู

๖.๕ การจัดกจิ กรรมสง่ เสริมการใฝ่ ขา้ พเจ้าปฏบิ ตั หิ นา้ ทดี่ ว้ ยใจซึง่ ทาให้  จากการสัมภาษณ์
รู้ ค้นหาการสรา้ งสรรค์ ถ่ายทอด เกดิ ความรัก ศรัทธาและยดึ มน่ั ใน  จากการสงั เกต
ปลกู ฝงั และเปน็ แบบอย่างทด่ี ีของ อุดมการณ์แหง่ วชิ าชีพ มุ่งมน่ั ทุม่ เทใน  ภาพกิจกรรม
เพ่ือนร่วมงานและสังคม การทางาน ประพฤตติ นเปน็ แบบอย่าง
ท่ดี ียอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของเพอื่ น
ร่วมงาน และปรบั ปรุงในส่วนที่ตนเอง
บกพรอ่ ง ให้ดีมากขน้ึ กวา่ เดิม

องค์ประกอบท่ี ๒
การประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน

รายงานผลการปฏิบัตงิ านการเตรียมความพร้อมและพฒั นาอย่างเข้มของครูผู้ชว่ ย
โรงเรยี นดมี ากอุปถัมภ์ สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานนทบุรี เขต ๒

สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

องค์ประกอบที่ ๒ การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน

เกณฑ์การประเมนิ บันทึกการปฏิบตั ิ หลักฐาน/แหลง่ ขอ้ มลู
๑. การจัดการเรียนการสอน

๑.๑ การนาผลการวเิ คราะห์ ขา้ พเจา้ วเิ คราะหม์ าตรฐานการจดั การ  แผนการจัดการเรยี นรู้

หลกั สตู ร มาตรฐานการเรียนรู้ และ เรยี นรแู้ ละสาระการเรียนรู้ข้าพเจา้ ได้

ตัวชี้วัด หรอื ผลการเรยี นร้มู าใช้ใน ศกึ ษาจุดประสงค์รายวิชาเพอ่ื

การจัดทารายวิชาและออกแบบ เตรียมการสอนให้ครอบคลมุ เนอื้ หา

หน่วยการเรยี นรู้ และเพอ่ื ให้เกิดผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน

โดยไดจ้ ดั ทาแผนการเรียนแบบมุง่ เน้น

สมรรถนะครบและครอบคลมุ เนือ้ หา

ทุกหนว่ ยการเรยี น

๑.๒ การออกแบบการเรยี นรโู้ ดย การออกแบบการจดั การเรียนรขู้ า้ พเจา้  แผนการจดั การเรยี นรู้

เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ เพ่อื ให้ ไดศ้ ึกษามาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ี

ผเู้ รยี นมีความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะ วัดเพื่อเตรยี มการสอนให้ครอบคลมุ

ประจาวชิ า คุณลักษณะอันพงึ เนือ้ หา และเพ่ือใหเ้ กิดผลสมั ฤทธิ์

ประสงค์ และสมรรถนะทีส่ าคัญ ทางการเรยี น โดยได้จดั ทาแผนการ

ตามหลักสูตร เรียนแบบมงุ่ เน้นสมรรถนะครบและ

ครอบคลมุ เนื้อหาทุกหนว่ ยการเรียน

และผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง

เกณฑ์การประเมนิ บันทึกการปฏิบัติ หลักฐาน/แหลง่ ข้อมลู

๑.๓ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขา้ พเจา้ จัดการเรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเปน็  จากการสัมภาษณ์
อานวยความสะดวกในการเรยี นรู้ สาคญั อาศยั กระบวนการเรยี นรู้ ที่  จากการสงั เกต
และส่งเสริมการเรยี นรู้ ดว้ ยวธิ กี าร หลากหลาย กระบวนการเรียนรูท้ ี่
ทห่ี ลากหลายโดยเน้นผูเ้ รยี นเป็น จาเป็นสาหรบั ผ้เู รยี น อาทิ
สาคัญ กระบวนการเรียนรแู้ บบบูรณาการ
เรยี นรจู้ ากประสบการณ์จริง
กระบวนการปฏบิ ัติ ลงมอื ทาจรงิ

๑.๔ การเลอื กและใชส้ ื่อ เทคโนโลยี ข้าพเจ้าเลือกใช้ส่อื เทคโนโลยี  สอื่ การสอน
 ใบความรู้
และแหล่งเรียนรู้ ท่สี อดคลอ้ งกับ การศกึ ษาทาให้การเรียนการสอน มี  ใบงาน

กิจกรรมการเรยี นรู้ ความหมายมากขึน้ ทาใหผ้ ู้เรยี น

สามารถเรยี นไดส้ นุกสนาน และ

สอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรยี นรู้

๑.๕ การวัดและประเมนิ ผลการ ขา้ พเจา้ ใชก้ ารวดั และการประเมนิ ผลที่  แผนการจัดการเรียนรู้
เรยี นรู้ ด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย หลากหลายสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการ
เหมาะสม และสอดคล้องกับ เรียนรู้ บันทกึ การประเมินผลและ
ตวั ช้ีวัดและจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ศกึ ษาหาสาเหตแุ ละปัญหาท่เี กดิ ข้ึนใน
หนว่ ยน้ัน ๆ เพื่อนามาปรับปรุง
พฒั นาการจัดการเรียนการสอนคร้งั
ต่อไป

๑.๖ คุณภาพผเู้ รยี น ไดแ้ ก่ การเรยี นรู้ของผู้เรยี นท่แี สดงออกถึง  แบบบนั ทกึ คะแนน
๑) ผลสมั ฤทธทิ์ างวชิ าการของ ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะตาม
ผเู้ รียน หลกั สูตรสถานศึกษา และมีพฒั นาการ  แบบบนั ทกึ คุณลักษณะอัน
๒) คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ตามวยั มีสมรรถนะทีส่ าคญั และ พึงประสงค์
ของผ้เู รียน คุณลกั ษณะ ท่พี ึงประสงค์

เกณฑก์ ารประเมนิ บนั ทึกการปฏิบัติ หลักฐาน/แหลง่ ขอ้ มลู

๒. การบริหารจัดการชั้นเรยี น  จากการสมั ภาษณ์
 จากการสังเกต
๒.๑ การจัดบรรยากาศที่ส่งเสรมิ ขา้ พเจา้ เชือ่ วา่ บรรยากาศในช้ันเรียน  ภาพกจิ กรรม
การเรียนรู้ กระบวนการคิด ทักษะ เปน็ ส่วนหนึ่งทส่ี ่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นเกดิ
ชีวติ และพัฒนาผู้เรยี น ความสนใจในบทเรียนและเกิดแรงจูงใจ
ในการเรยี นรู้เพม่ิ มากขนึ้ ในชน้ั เรียน
ขา้ พเจ้าสรา้ งบรรยากาศทีอ่ ิสระเพอ่ื ให้
นกั เรยี นได้คดิ ได้ตดั สนิ ใจดว้ ยตนเอง
และทาให้นกั เรยี นทากจิ กรรมด้วยความ
ต้งั ใจไมร่ ้สู ึกตงึ เครยี ด

๒.๒ การดาเนนิ การตามระบบดแู ล ข้าพเจ้าจัดกิจกรรมดูแลชว่ ยเหลอื  แบบบันทึกระบบดแู ล
ชว่ ยเหลือนกั เรยี น
ช่วยเหลือผ้เู รยี น โดยมีการศึกษา นกั เรยี น โดยการศกึ ษาและสารวจ

และรวบรวมขอ้ มลู ผู้เรยี น ติดตามพฤตกิ รรมของผ้เู รียนเป็น

รายบุคคลเพอื่ แกป้ ัญหาและพัฒนา รายบุคคล โดยการออกเย่ยี มบ้าน

ผเู้ รียน นกั เรยี น และดาเนนิ การชว่ ยเหลือ

นกั เรยี นตามสภาพจรงิ

๒.๓ การอบรมบม่ นสิ ยั ให้ผ้เู รยี นมี ข้าพเจา้ ไดม้ ีการปลูกฝงั คุณธรรม  สมั ภาษณน์ กั เรยี น
คุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอัน จริยธรรมทดี่ ีงามให้เกดิ ข้นึ กบั ผ้เู รียน  จากการสังเกต
พึงประสงค์และค่านิยมท่ดี งี าม โดยมกี ารอบรมคณุ ธรรม จรยิ ธรรมใน

ทุกคร้ังทมี่ กี ารจดั กจิ กรรมการเรียน
การสอนในแตล่ ะระดบั ชน้ั ตลอดเวลา
ที่จดั กิจกรรมการเรยี นการสอนมีการ
สอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมใหเ้ กิด
ข้ึนกับผู้เรยี น

เกณฑก์ ารประเมิน บันทกึ การปฏบิ ตั ิ หลกั ฐาน/แหล่งขอ้ มูล

๓. การพัฒนาตนเอง ข้าพเจา้ หม่ันศึกษาและพฒั นาตนเอง  จากการสมั ภาษณ์
อยเู่ สมอ ควรรว่ มกจิ กรรมการ  จากการสงั เกต
๓.๑ การพัฒนาตนเองเพอ่ื ให้มี ฝึกอบรมหรอื กจิ กรรมการแลกเปล่ียน  คาส่งั ปฏิบตั งิ าน
ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะดว้ ย เรยี นรกู้ บั เพื่อนครูทัง้ ในและนอก  ภาพกิจกรรม
วิธีการตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม โรงเรยี นอยา่ งต่อเนอ่ื ง

๓.๒ การมีส่วนรว่ มในชุมชนการ ขา้ พเจา้ แลกเปล่ยี นเรียนรู้และหา  จากการสมั ภาษณค์ รู
เรยี นรทู้ างวิชาชพี แนวทางในการแก้ไขปัญหารว่ มกันกบั  จากการสงั เกต
ครู ผู้บรหิ าร ผูป้ กครอง เพ่ือนรว่ ม
วชิ าชีพ

 ๔. การทางานเปน็ ทมี ข้าพเจา้ เชอ่ื ว่าการทางานเป็นทมี นนั้ จะ  จากการสมั ภาษณค์ รู
๔.๑ หลักการทางานเป็นทีม ประสบผลสาเรจ็ ได้อยา่ งดี ข้าพเจา้ ยึด  จากการสังเกต
หลกั ตอ่ ไปนี้  ภาพกิจกรรม

๑) เขา้ ใจการทางานของตนเอง
และผอู้ ่ืน

๒) สรา้ งและโฟกสั เป้าหมายร่วมกนั
๓) ตรงไปตรงมา จริงใจต่อกนั ให้
การสนับสนนุ กนั
๔) เป็นผูน้ าทดี่ ี และเปน็ ผู้ตามท่ีมี
วนิ ยั

เกณฑ์การประเมิน บันทึกการปฏบิ ัติ หลักฐาน/แหล่งข้อมูล

๔.๒ การพัฒนาทมี งาน ข้าพเจา้ ไดเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมที่องค์กร  จากการสมั ภาษณค์ รู
วิชาชีพทั้งภายในและภายนอกองค์การ  จากการสังเกต
จดั ขน้ึ เพือ่ แลกเปลยี่ นเรียนรกู้ ับบคุ คล  ภาพกิจกรรม
ในแวดวงอาชีพครู และแลกเปลี่ยน
ความร้แู ละร่วมกนั พฒั นาสื่อการเรียนรู้
ตลอดจนสร้างเครอื ขา่ ยการทาง
วิชาการ ในรปู แบบช่องทางต่าง ๆ เพือ่
แลกเปลย่ี นความรใู้ นระหวา่ งองคก์ ร

๕. งานกจิ กรรมตามภารกจิ บริหารงานของสถานศึกษา

มคี วามรู้ความเขา้ ใจภาระงานของ ขา้ พเจ้ามคี วามกระตอื รอื ร้นในการ  คาสง่ั แต่งตงั้
สถานศึกษาเกย่ี วกบั งานบรหิ าร ทางานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายจากงาน คณะกรรมการดาเนนิ
ท่ัวไปหรอื งานบรหิ ารวชิ าการ หรอื บรหิ ารวิชาการ เพือ่ ให้งานสาเรจ็ ลลุ ่วง โครงการตา่ ง ๆ
งานกิจการนกั เรยี น หรืองาน ไปได้ด้วยดี
บริหารงบประมาณหรืองานบรหิ าร
ทรัพยากรบุคคล และมีสว่ นรว่ ม
ปฏิบัติงานทไี่ ด้รับมอบหมายได้
อยา่ งเหมาะสม

เกณฑก์ ารประเมิน บนั ทกึ การปฏิบัติ หลกั ฐาน/แหลง่ ข้อมูล

๖. การใชภ้ าษาและเทคโนโลยี  จากการสมั ภาษณ์
 จากการสงั เกต
สามารถใชภ้ าษาและเทคโนโลยใี น ขา้ พเจ้าให้ความสาคัญเกีย่ วกบั  สือ่ การสอน
 ภาพกิจกรรม
การปฏบิ ตั งิ านตามหน้าท่แี ละความ เทคโนโลยีและนาเทคโนโลยมี าให้ใน

รบั ผดิ ชอบ การจัดการเรยี นการสอน เช่น สอ่ื

มลั ติมเี ดีย สอ่ื การสอน PowerPoint

เกมส์ตา่ ง ๆ คอมพวิ เตอรจ์ ึงชว่ ยในการ

เรยี นการสอน ชว่ ยใหก้ ารเรยี นการ

สอนเป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

ผ้เู รยี นสามารถทาความเขา้ ใจและเห็น

ภาพไดช้ ัดเจนและสามารถศกึ ษาได้

อยา่ งรวดเร็ว

ภาคผนวก

รปู ภาพองคป์ ระกอบการประเมนิ

หวั ขอ้ ท่ี ๑. วนิ ยั และการรักษาวินยั

การแสดงออกทางอารมณ์ กริ ิยา ท่าทาง และพดู สอื่ สารไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะตอ่ ผเู้ รียน

การแสดงออกทางอารมณ์ กริ ยิ าท่าทาง และพดู ส่ือสารไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะต่อผ้บู งั คบั บญั ชา
เพอ่ื นร่วมงาน ผปู้ กครอง และบุคคลอ่ืน

การมเี จตคตเิ ชิงบวกกบั ประเทศชาติ
การปฏบิ ัตติ ามกฎ ระเบียบ หลกั เกณฑท์ ี่เกี่ยวข้องกบั ความเปน็ ข้าราชการ

การปฏิบตั ติ ามกฎ ระเบยี บ หลกั เกณฑ์ทเี่ กย่ี วข้องกบั ความเป็นขา้ ราชการครู
การปฏิบตั ิตามกฎหมาย

หัวขอ้ ท่ี ๒. คุณธรรม จรยิ ธรรม

การปฏิบัตติ นตามหลักศาสนาท่ีนบั ถืออย่างเครง่ ครัด
การเข้ารว่ ม ส่งเสริม สนับสนุนศาสนกจิ ของศาสนาทีน่ บั ถอื อยา่ งสม่าเสมอ

การเห็นความส่าคัญ เข้าร่วม ส่งเสริม สนับสนุน เคารพกิจกรรมทีแ่ สดงถึงจารีตประเพณี
วฒั นธรรมท้องถิ่นหรือชุมชน

การเห็นความสา่ คัญ เข้าร่วม ส่งเสริม สนับสนุน กิจกรรมทแี่ สดงถงึ จารีต ประเพณี วฒั นธรรมของชาติ

การมจี ติ บริการ และจติ สาธารณะ

การตอ่ ตา้ นการกระท่าของบคุ คลหรอื กลุ่มบคุ คลที่ผลต่อความมั่นคงของชาติ
หรอื ผลกระทบเชิงลบตอ่ สงั คมโดยรวม

หัวขอ้ ที่ ๓. จรรยาบรรณวิชาชีพ

การพัฒนาวิชาชีพและบคุ ลิกภาพอยา่ งต่อเนอ่ื ง

การมวี ิสัยทัศน์ รแู้ ละเขา้ ใจ สนใจ ตดิ ตามความเปล่ยี นแปลงดา้ นวทิ ยาการ
เศรษฐกจิ สงั คม การเมืองของไทย และนานาชาตใิ นปจั จุบนั

การไม่อาศัยวิชาชพี แสวงหาผลประโยชน์ทีไ่ ม่ถูกต้อง
การมุ่งมัน่ ตอ่ การพัฒนาความรู้ความสามารถของผูเ้ รยี น

การให้ความสา่ คญั ตอ่ การเขา้ ร่วม ส่งเสริม สนบั สนุนกจิ กรรมทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั วิชาชพี ครูอย่างสม่าเสมอ
รัก เมตตา เอาใจใส่ ชว่ ยเหลอื ส่งเสริม สนับสนนุ ใหบ้ ริการผเู้ รยี นทกุ คนด้วยความเสมอภาค

การประพฤตปิ ฏิบตั ิตนเปน็ ทีย่ อมรบั ของผ้เู รยี น ผ้บู ริหาร เพ่ือนร่วมงาน ผ้ปู กครอง และชมุ ชน
การไม่ปฏิบัตติ นทส่ี ่งผลเชิงลบต่อกายและใจของผเู้ รยี น

การท่างานกับผูอ้ ่ืนไดโ้ ดยยึดหลักความสามคั คี เก้ือกูลซึ่งกนั และกนั

การใช้ความรู้ความสามารถทีม่ อี ยู่ นา่ ใหเ้ กดิ ความเปลี่ยนแปลงในทางพฒั นาให้กับผเู้ รียน
โรงเรยี น หรือชุมชนในดา้ นใดด้านหนง่ึ (ดา้ นการอนุรักษศ์ ลิ ปวฒั นธรรม ภูมิปัญญา และสิง่ แวดลอ้ ม)

การยดึ มั่นในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ

หัวข้อที่ ๔. การดา่ รงชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
มกี ารน่าหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปปรบั ใชก้ บั การจัดการเรยี นรู้ในห้องเรยี น

มกี ารนา่ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปปรบั ใชก้ บั การด่ารงชีวติ ของตนเอง

หวั ข้อที่ ๕. จติ วญิ ญาณความเป็นครู

การเข้าสอนตรงเวลาและสอนเต็มเวลา
การเป็นทพี่ ึ่งใหก้ บั ผ้เู รยี นได้ตลอดเวลา

หวั ขอ้ ที่ ๖. จิตสา่ นกึ ความรับผิดชอบในวชิ าชีพครู

การมุ่งม่ันทุ่มเทในการสรา้ งสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพอื่ ใหเ้ กิดการพัฒนาวชิ าชพี และใหส้ ังคมยอมรับ
ประพฤติปฏิบตั ติ นในการรกั ษาภาพลักษณ์ในวิชาชีพ

การปกป้อง ปอ้ งกนั มิให้ผูร้ ว่ มวิชาชพี ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิในทางทจี่ ะเกิดภาพลักษณเ์ ชิงลบต่อวิชาชพี

การจัดกิจกรรมส่งเสริมการใฝ่รู้ ค้นหาการสรา้ งสรรค์
ถา่ ยทอดปลกู ฝังและเปน็ แบบอย่างท่ดี ขี องเพือ่ นรว่ มงานและสงั คม

หวั ข้อที่ ๒. การบรหิ ารจดั การชน้ั เรยี น

การจัดบรรยากาศท่สี ง่ เสรมิ การเรียนรู้ กระบวนการคิด ทักษะชีวิตและพฒั นาผ้เู รยี น

หัวขอ้ ที่ ๓. การพฒั นาตนเอง

การพฒั นาตนเองเพ่อื ใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ ทักษะด้วยวธิ กี ารต่างๆ อยา่ งเหมาะสม

การพัฒนาตนเองเพ่อื ใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ ทักษะด้วยวธิ กี ารตา่ งๆ อย่างเหมาะสม

หวั ขอ้ ที่ ๔. การท่างานเปน็ ทมี

หลักการท่างานเปน็ ทีม
การพฒั นาทีมงาน

หัวข้อที่ ๖. การใช้ภาษาและเทคโนโลยี

สามารถใชภ้ าษาและเทคโนโลยใี นการปฏบิ ัตงิ านตามหนา้ ทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบ