Gammar M.2
Name
Nitipoom Ubonbarn
Class
M.2/9
Number
14
present simple
present continuous
present perfect
past simple
past continuous
รายงานเลม่ นีจ้ ดั ทาขนึ้ เพ่ือเป็นสว่ นหน่งึ ของ
วิชาภาษาองั กฤษชนั้ มเพ่อื ไดศ้ กึ ษาหาความรู้
ในเร่อื ง……..และไดศ้ กึ 2/9ดว้ ยษาอยา่ งเขา้ ใจ
เพ่ือเป็นประโยชนก์ บั การเรยี น
ผจู้ ดั ทำหวงั วำ่ รำยงำนเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์
กบั ผอู้ ำ่ น หรือนกั เรียน นกั ศึกษำ ที่กำลงั หำ
ขอ้ มูลเรื่องน้ีอยู่ หำกมีขอ้ แนะนำหรือ
ขอ้ ผิดพลำดประกำรใด ผจู้ ดั ทำขอนอ้ มรับไว้
และขออภยั มำ ณ ท่ีน้ีดว้ ย
ผจู้ ดั ทำ
นิติภมู ิ อบุ ลบำน
Present simple
Present simple tense คือรูปคำกริยำที่ใชก้ บั ขอ้ เทจ็ จริงทวั่ ไป สิ่งที่เป็นกิจวตั ร หรือแผนกำร
และตำรำงเวลำ ซ่ึงจะใชค้ ำกริยำช่อง 1 (เช่น go, come, eat) อยำ่ งเช่น
I go to school every day.
ฉนั ไปโรงเรียนทุกวนั
แตถ่ ำ้ ประธำนเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 เรำจะตอ้ งใชค้ ำกริยำรูป s/es แทน (เช่น goes, comes,
eats) อยำ่ งเช่น
He goes to school every day.
เขำไปโรงเรียนทุกวนั
• ถำ้ ประธำนเป็นพหูพจน์ (เช่น we, they, boys, teachers, cats, pens) หรือ
เป็นเอกพจน์บุรุษที่ 1 และ 2 (I และ you) เรำจะตอ้ งใชค้ ำกริยำรูปปกติ (เช่น go,
come, eat)
• ถำ้ ประธำนเป็นเอกพจน์บรุ ุษท่ี 3 (เช่น he, she, it, boy, teacher, cat, pen)
เรำจะตอ้ งใชค้ ำกริยำรูปทีเ่ ติม s/es (เช่น goes, comes, eats)
• . ประโยคทใี่ ช้ verb to be เป็ นคำกริยำหลกั
• ถำ้ ประโยคมี verb to be (is, am, are) เป็นคำกริยำหลกั เรำสำมำรถใช้ not หลงั
verb to be ไดเ้ ลย โดยเรำสำมำรถเขยี นย่อ is not ใหเ้ ป็น isn’t และยอ่ are not ให้
เป็น aren’t ได้ แต่สำหรับ am not น้นั เรำจะไม่ใชร้ ูปยอ่
• 1. ประโยคท่ใี ช้ verb to be เป็ นคำกริยำหลกั
• ถำ้ ประโยคมี verb to be (is, am, are) เป็นคำกริยำหลกั เรำจะข้นึ ตน้ ประโยคดว้ ย
verb to be
• โครงสร้ำง
Verb to be + subject + (object/complement)?
เน่ืองจำก present simple tense จะถกู ใชเ้ มื่อกล่ำวถึงส่ิงท่ีเป็นกิจวตั ร เรำจึงมกั จะเห็นคำบอก
เวลำจำพวกคำบอกควำมถ่ี (adverbs of frequency) ใน present simple tense
บ่อยๆ ซ่ึงคำเหล่ำน้ีน้นั ไดแ้ ก่
present continuous
present continuousก็คอื ปจั จบุ นั กาลทด่ี าเนนิ อยอู่ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ใช้
กลา่ วถงึ เหตกุ ารณ์ทกี่ าลงั กระทาอยใู่ นปจั จบุ นั ในขณะทพี่ ดู
is ใชก้ บั ประธานเอกพจน์ (he is, she's, it is, Jane's)
am ใชก้ บั I (I am, I'm)
are ใชก้ บั ประธานพหพู นจ์ (we are, they're, birds are)
รปู แบบอยา่ งยอ่ is not/isn’t, I’m not และ are not/aren’t
หมายเหตุ is,am,are ในโครงสรา้ ง Continuous Tenses นี้ ทาหนา้ ทเ่ี ป็ น
กรยิ าชว่ ย (Auxiliary หรอื helping verbs)
สว่ น Infinitive หรอื Verb1 ในโครงสรา้ ง Continuous Tense นนั้ มี
หลกั การเตมิ ing ดงั น้ี (อา่ นเพม่ิ เตมิ ) และมคี ากรยิ าบางคาทไ่ี มส่ ามารถ
นามาใชเ้ ตมิ ing ในรปู ของ Continuous Tense ได้ ซงึ่ เราเรยี กคากรยิ า
กลมุ่ นว้ี า่ Stative verbs1. ใชก้ ลา่ วถงึ เหตกุ ารณห์ รอื การกระทาทก่ี าลงั
ดาเนนิ อยใู่ นขณะทพี่ ดู และดาเนนิ ตอ่ เนอื่ งตอ่ ไปจนจบในอนาคต
มกั จะมกี รยิ าวเิ ศษณบ์ อกเวลา (Adverbs of Time) เหลา่ นมี้ าชว่ ยใน
ประโยค
• They are having lunch right now. (พวกเขากาลงั รบั ประทาน
อาหารกลางวนั อยตู่ อนน้ี
• Jim is talking on the phone at the moment. (จมิ กาลงั คยุ
โทรศพั ทอ์ ยใู่ นขณะน)้ี
• We’re making pizza at this moment. (พวกเรากาลงั ทาพซิ ซา่ อ
ยู่ ณตอนน)้ี
• They are not waiting for you. (พวกเขาไมไ่ ดก้ าลงั รอคณุ )
• Jack and Jane are going to school. (แจคและเจนกาลงั ไป
โรงเรยี น)
• Is baby drinking his bottle? (เด็กทารกกาลงั ดม่ื นมอยมู่ ยั้ )
• He’s fighting with his brother. (เขากาลงั ตอ่ สกู้ บั พชี่ ายของ
เขา)
• She’s not cooking right now. (เธอไมไ่ ดก้ าลงั ทาอาหารอยู่
ตอนน)ี้
• Are you listening to me? (คณุ กาลงั ฟนั ฉนั อยมู่ ย้ั )
2. ใชก้ ลา่ วถงึ เหตกุ ารณ์ทกี่ าลงั เกดิ ในชว่ งทพ่ี ดู แตไ่ มไ่ ดก้ าลงั เกดิ ใน
ขณะทพี่ ดู
• The stocks are dropping constantly due to bad
economy. (หนุ้ กาลงั ตกลงเรอื่ ยๆเนอ่ื งจากเศรษฐกจิ ไมด่ )ี
• John’s studying Thai at Thai language school. (จอหน์ กาลงั
เรยี นภาษาไทยทโ่ี รงเรยี นสอนภาษาไทย)
• I’m reading a really interesting book now. (ฉนั กาลงั อา่ น
หนงั สอื ทนี่ า่ สนใจจรงิ ๆอยตู่ อนน)ี้
• Prem’s studying hard to become a petroleum
engineer. (เปรมกาลงั เรยี นอยา่ งหนกั เพอื่ เป็ นวศิ วกรปิ โตรเลย่ี ม)
3. ใชก้ ลา่ วถงึ เหตกุ ารณ์หรอื การกระทาทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตอนั ใกล้ คอื
เกดิ ขน้ึ อยา่ งแนน่ อน (มกั จะมคี าบง่ บอกเวลาในอนาคต
เชน่ เดยี วกบั Future Simple Tense)
• Paul’s coming for dinner tonight. (พอลกาลงั จะมาทานขา้ วเย็น
คนื น)ี้
• Are you studying tomorrow? (คณุ จะเรยี นในวนั พรงุ่ นมี้ ยั้ )
• She’s teaching this topic now. (เธอกาลงั จะสอนหวั ขอ้ นต้ี อนน)้ี
• I’m seeing my dentist this evening. (ฉนั จะพบหมอฟนั ตอนเย็น
น)ี้
• He’s visiting his parents this weekend. (เขากาลงั จะไปเยย่ี ม
พอ่ แมข่ องเขาวนั หยดุ สดุ สปั ดาหน์ )้ี
• I’m having a birthday party tomorrow. (ผมกาลงั จะมงี านเลยี้ ง
วนั เกดิ พรงุ่ น)้ี
• We’re playing golf this afternoon. (พวกเรากาลงั จะเลน่ กอลฟ์
บา่ ยน)ี้
หมายเหตุ ** จะเห็นไดว้ า่ การใช้ Present Continuous Tense ในขอ้ นี้
จะคลา้ ยๆกบั Future Simple Tense แตจ่ ะแปลเป็ น “ กาลงั จะ “ หรอื จะ
แปลวา่ " จะ " ก็ได้ และจะตอ้ งเป็ นเหตกุ ารณ์ทเี่ กดิ ขน้ึ อยา่ งแนน่ อนใน
อนาคตอนั ใกล้ ถา้ ไมแ่ นน่ อนจะใช้ Future Simple Tense
ถา้ เขา้ ใจในหลกั การใชข้ องแตล่ ะ Tense ก็จะไมเ่ กดิ ความสบั สน สามารถ
ทจี่ ะนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง..
Past Simple Tense
Past Simple Tense คือ ประโยคอดีตกำล เป็นโครงสร้ำงประโยคท่ีเรำใชเ้ ล่ำเหตกุ ำรณ์ต่ำง ๆ
ในอดีต ที่สิ้นสุดไปแลว้ หรือกิจกรรมที่เรำเคยทำเป็นนิสยั แตว่ ำ่ เลิกทำไปแลว้
โดยปกติแลว้ กำรเขียนประโยคในรูปอดีตจะง่ำยมำก เพรำะพวกเรำ สำมำรถเติม -ed ทำ้ ยคำกริยำไดเ้ ลย
เช่น cook = cooked , paint = painted , kick = kicked แต่ถำ้ พวกเรำสังเกตดี ๆ
จะเห็นวำ่ กฎของกำรเติม -ed ท่ีกริยำ เพ่อื ใหเ้ ป็นรูปอดีตน้นั ค่อนขำ้ งซบั ซอ้ น เพรำะมีขอ้ ยกเวน้ บำงขอ้
ขอ้ ยกเวน้ ในกำรเติม -ed
1. ติมตวั สะกดตวั สุดทำ้ ยเพิ่มอีกหน่ึงตวั ก่อนเติม -ed อยำ่ งในคำวำ่ rip-ripped เรำจะตอ้ งเพม่ิ
ตวั p ก่อนที่เรำจะเติม -ed เน่ืองจำกเป็นคำกริยำที่มีพยญั ชนะ สระเสียงส้ัน และตวั สะกด รวม
เป็น 3 ตวั ซ่ึงกฎน้ียงั ใชก้ บั คำที่มีพยญั ชนะเป็นอกั ษรควบดว้ ย เช่น skip-skipped, ship-
shipped
2. ถำ้ กริยำคำน้นั ลงทำ้ ยดว้ ย y พวกเรำ จะตอ้ งเปลี่ยน y เป็น i ก่อนแลว้ เติม ed เช่น try-tried,
dry-dried, carry-carried เป็นตน้
3. กริยำที่ลงทำ้ ยดว้ ยตวั e อยแู่ ลว้ พวกเรำ เติมแค่ตวั d แทนกำรเติมท้งั -ed เช่น agree-
agreed, divide-divided, provide-provided
นอกจำกท่ีเรำจะเติม -ed หลงั คำกริยำตำมปกติ เพอื่ ใหค้ ำกริยำเป็นรูปอดีตแลว้ ในภำษำองั กฤษยงั มีกริยำ
บำงตวั ท่ีตอ้ งเปลี่ยนรูปไปเลยเม่ือเป็นรูปอดีต
ครูจิ๊บแนะนำวำ่ หำกพวกเรำอยำกจำกำรผนั ของคำกริยำเหล่ำน้ีใหไ้ ดข้ ้ึนใจ จะตอ้ งฝึกใชค้ ำกริยำเหล่ำน้ีใน
ชีวติ ประจำวนั เยอะ ๆ แลว้ พวกเรำก็จะจำไดเ้ องเลยค่ะ
ในกำรทำประโยคคำถำมใน was/were พวกเรำจะตอ้ งสลบั ตำแหน่งของประธำนกบั กริยำ
was/were เช่น
• Were you okay last night?
• When was the last time I saw you?
• What was his favorite car?
กริยาบอกการกระทา
ท่ีไมใ่ ช่ was/were เช่น move, polish, think เป็นตน้ พวกเรำ จะตอ้ งแยกกำรใชก้ ริยำตำม
ประธำนตำมน้ีนะคะ
ประโยคบอกเล่ำ
เรำสำมำรถใชค้ ำกริยำในรูปอดีตไดท้ นั ที
• Dylan woke up in the middle of the night.
• A stuntman parked his car in the driveway.
• Kids swam in the river.
ประโยคปฏิเสธ
เรำจะตอ้ งใชก้ ริยำช่วย did เขำ้ มำเสริมในประโยค ก่อนเติม not หนำ้ กริยำ ประโยคตวั อยำ่ งเช่น
• I did not apply for this job.
• We did not book a table at this restaurant.
• The locksmith had his keys stolen.
แตพ่ วกเรำตอ้ งจำใหไ้ ดน้ ะวำ่ พอมีกริยำช่วย did แลว้ กริยำหลกั ของประโยคน้นั เรำจะใชร้ ูปปกติ คือไม่
ตอ้ งเติม ed หรือเปลี่ยนรูปอีกแลว้ เช่น
• You did not prepare for the test. ไม่ใช่ You did not prepared
for the test.
• My father did not drink coffee this morning. ไมใ่ ช่ My father
did not drank coffee this morning.
•
past continuous
Past Continuous Tense คอื ประโยคอดีตกำลตอ่ เนื่อง ท่ีใชส้ ื่อสำรถึงส่ิงที่กำลงั เกิดข้ึนในอ
ดีด สิ้นสุดลงไปแลว้ ซ่ึงจะแตกตำ่ งจำก Past Simple Tense ท่ีไม่ไดใ้ หค้ วำมหมำยถึงกำรท่ี
กำลงั กระทำหรือกำรที่กำลงั เกิดข้ึนของสถำนะหรือกำรกระทำ
Past Continuous อำจจะไมใ่ ช่ประโยคหลกั ท่ีเรำจะไดใ้ ชก้ นั เป็นประจำ แต่ก็จะมีใชบ้ ำ้ งในกำร
เขียนเรื่องรำว บทควำมหรือในภำษำพูด
Verb หรือ กริยำในประโยคที่ใช้ past continuous tense หรือ อดีตกำลต่อเนื่อง มีอีกชื่อวำ่
past progressive tense มีโครงสร้ำงแบบน้ีนะคะ
Subject+ was/ were + V.ing
โครงสร้างดูไม่ยากเลยใช่ไหมคะ แต่ที่ครูจิ๊บเห็นบ่อย ๆ คือ เราอาจจะลืมเติม was, were ข้างหน้า
Verb ที่เติม -ing หรือบางคนกล็ ืมเติม ing ท่ีคากริยากนั ฉะนนั้ เราต้องระวงั เร่ืองโครงสร้างกนั ด้วย
นะประโยคบอกเล่า
was ใชก้ บั ประธำนที่มี 1 เดียว เช่น I หรือชื่อคนๆ เดียว เช่น Miranda, Jose, Lilly เป็นตน้
were ใชก้ บั ประธำนท่ีมีมำกกวำ่ 1 เช่น classmates, security guards และสรรพนำม
we, you, they
เมื่อเรำเลือก was/ were ไดถ้ กู ตอ้ งแลว้ เรำตอ้ งใส่-ing ที่คำกริยำต่อ เช่น
• They were driving fast when the accident happened.
• Brenda was cleaning her house when a bird tapped on
her window.
• The mailman fell when he was approaching our door.
ประโยคปฏเิ สธ
ครูจิ๊บจะอธิบำยวิธีกำรสร้ำงประโยคใน Past continuous tense ท่ีจำง่ำย ๆ แบบน้ีนะคะ เรำ
สำมำรถเติมคำวำ่ not หลงั was/were ไดเ้ ลย โดยที่เรำไม่ตอ้ งใชค้ ำอื่นเขำ้ มำช่วยในกำรทำประโยค
ปฏิเสธท่ีกริยำ เป็น was/ were
ประโยคคาถาม
ในกำรทำประโยคคำถำมใน was/were เรำจะตอ้ งสลบั ตำแหน่งของประธำนกบั กริยำ
was/were เช่น
Was/ Were + subject+ V.ing ?
Wh-question + was/ were + subject+ V.ing?
อยำ่ ลืมสลบั เอำ was/ were มำไวก้ ่อนหนำ้ ประธำนนะคะ
• What was she doing in her bedroom?
• Were you reading the book?
present perfect
Present Perfect Tense คอื โครงสร้ำงประโยคภำษำองั กฤษท่ีใชใ้ นกำรสื่อสำรสิ่งท่ีเกิดข้ึน
ต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั เพื่อแสดงใหเ้ ห็นถึงควำมต่อเนื่องของระยะเวลำของสถำนะหรือกำรกระทำท่ี
เกิดข้ึนหลกั กำรใช้ Present Perfect Tense คือ จะใชเ้ พือ่ บอก
1. เหตกุ ำรณ์ท่ีเกิดข้ึนในอดีตและยงั คงเกิดข้ึนตอ่ เนื่องมำจนถึงปัจจุบนั
• My grandparents have been married for four decades.
• I have studied here all my life.
2. เหตกุ ำรณ์ท่ียงั ดำเนินต่อเนื่องและยงั ไมส่ ิ้นสุด
• I have worked here since March.
• Children have played in the band since they were young.
3. เหตกุ ำรณ์ท่ีเกิดข้ึนโดยไมม่ ีเวลำกำหนดแน่ชดั ต้งั แต่อดีตถึงปัจจุบนั
• He has signed three contracts with this company.
• Jane has traveled in Europe twice.
4. เหตกุ ำรณ์ท่ีเพง่ิ จบไป มกั จะมีคำวำ่ just อยดู่ ว้ ย
• I have just finished doing my laundry.
• The attorney has just come out of the court.
5. ใชบ้ อกเหตกุ ำรณ์ที่ไมส่ ำคญั
• She has painted her house yellow.
• I have tasted those cookies.
เรำจะใชก้ ริยำช่วย has/ have กบั ประธำนที่ต่ำงกนั ออกไป
ประโยคบอกเล่า
has ใชก้ บั ประธำนที่มี 1 เดียว หรือชื่อคนๆ เดียว เช่น a preacher, a police officer
เป็ นตน้
have ใชก้ บั ประธำนที่มีมำกกวำ่ 1 เช่น reporters, newspaper, textbooks และ
สรรพนำม I, we, you, they
เม่ือเรำเลือก has/ have ไดถ้ กู ตอ้ งแลว้ เรำตอ้ งใส่คำกริยำช่อง 3 ต่อ เช่น
• She has lost her keys in another town.
• My mother has gone shopping at a supermarket.
ประโยคปฏเิ สธ
ครูจ๊ิบจะอธิบำยวิธีกำรสร้ำงประโยคใน Present perfect ท่ีจำง่ำย ๆ แบบน้ีนะคะ เรำสำมำรถเติม
คำวำ่ not หลงั has/ have ไดเ้ ลย โดยท่ีเรำไม่ตอ้ งใชค้ ำอ่ืนเขำ้ มำช่วยในกำรทำประโยคปฏิเสธ
Subject+ has/ have + not + V ช่อง 3
เรำลองมำดูตวั อยำ่ งประโยคกนั นะ
• People have not doubted the statement published by the
government.
• We have not just got back from the swimming pool.
ข้อสังเกต
รูปยอ่ ของ has not/ have not สำมำรถใชไ้ ดใ้ นภำษำพดู หรือภำษำท่ีไม่เป็นทำงกำรนะคะ
has not= hasn’t
have not = haven’t
ประโยคคาถาม
ในกำรทำประโยคคำถำม เรำจะตอ้ งสลบั ตำแหน่งของประธำนกบั กริยำ has/ have เช่น
has/ have + subject+ V ช่อง 3 ?
Wh-question + has/ have + subject+ V ช่อง 3?
อยำ่ ลืมสลบั เอำ has/ have มำไวก้ ่อนหนำ้ ประธำนนะคะ
• Has he ever listened to Martin?
• When have you started reading this book?