24
ข่าวลวงและผลกระทบ
ลกั ษณะของข่าวลวงเชน่
• สรา้ งเรอื่ งราวเพ่ือให้เป็นจุดสนใจของสังคม
• สรา้ งความหวาดกลวั
• กระตุน้ ความโลภ
• สรา้ งความเกลยี ดชงั
• ส่งต่อกนั มาผา่ นเครอื ข่ายทางสังคม
• ไม่ระบแุ หล่งทม่ี า
• ขยายความต่อจากอคติของคนทั่วไปที่มีอยู่ก่อนแล้วเพ่ือ
หวังให้ตนเองไดร้ บั ผลประโยชน์ หรอื ใช้เพ่ือโจมตีคู่แข่ง
25 ข่าวลวงและผลกระทบ
ดั ง นั้ น ผู้ รั บ ข่ า ว ส า ร ต้ อ ง มี
วิจารณญาณเพ่ือป้องกันไม่ให้ตนเองและ
ผู้ อื่ น ต ก เ ป็ น เ ห ย่ื อ ข อ ง ข่ า ว ล ว ง เ พ่ื อ
ป้ อ ง กั น ค ว า ม เ สี ย ห า ย ต่ อ ต น เ อ ง แ ล ะ
สั งคม
26
กิจกรรม
ให้นั กเรียนยกตัวอย่างสถานการณ์ ข่าวลวงและ
วิเคราะห์ถึงวัตถุประสงค์และผลกระทบท่ีอาจเกิดข้ึนหาก
มกี ารแชรส์ ่สู ังคม
1
กฎหมายเก่ียวกับ
คอมพิวเตอร์
2
กฎหมายเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์
การออกข้ อกาหนดระเบียบและกฎหมายต่างๆท่ี
เก่ียวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้
ก า ร ใ ช้ ง า น เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ เ ป็ น ไ ป ด้ ว ย ค ว า ม
เรยี บรอ้ ย
3
กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
ประเทศไทยมีการออกพระราชบัญญั ติต่างๆท่ีเก่ียวข้ องกับ
เทคโนโลยสี ารสนเทศและมกี ารปรบั ปรุงให้ทันสมัยอยา่ งสมา่เสมอโดย
รายละเอยี ดต่างๆสามารถศึกษาไดจ้ ากพระราชบญั ญัติแตล่ ะฉบบั ดงั น้ี
พระราชบัญญัตกิ ารพัฒนาดิจิทัล
เพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอรพ์ .ศ. 2550
และแก้ไขเพ่ิมเติมฉบับท่ี 2 พ.ศ. 2560
4
กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
ตัวอย่างการกระทาที่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการ
กระทาความผดิ เกย่ี วกบั คอมพิวเตอรเ์ ช่น
• ส่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออีเมลให้บุคคลอ่ืน ซ่ึงก่อให้เกิดความ
เดือดร้อนหรือราคาญโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือ
ปฏิเสธการตอบรับได้โดยง่าย เช่น ส่ งอีเมลสแปม ส่ งข้ อความ
โฆษณามาทโ่ี ทรศัพทม์ ือถือ ฝากรา้ นในเครอื ข่ายทางสังคม
5 กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
• กดไลค์ (Like)เกย่ี วกบั การหม่ินสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
• กดแชร์ (Share) ข้อมูลท่ีมีผลกระทบต่อผู้อื่นทาให้เกิดความ
เสี ยหาย
• พบข้อมูลผิดกฎหมายในระบบคอมพิวเตอร์หรือในบัญชีเครือข่าย
ทางสังคมถึงแม้ไม่ไดเ้ ป็นเจ้าของข้อมูลก็ตาม แล้วเพิกเฉยโดยไม่
แจ้งไปยงั หน่ วยงานทร่ี บั ผดิ ชอบและลบข้อมลู ออกจากระบบ
6
กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
• ผู้ดูแลเพจหรือแอดมินเพจพบข้อความแสดงความ
คิดเห็นทผี่ ดิ พ.ร.บ แล้วเพิกเฉย
• โพสต์ส่ื อลามกอนาจารท่ีทาให้เกิดการเผยแพร่สู่
ประชาชนได้
• โพสต์เก่ียวกับเด็กเยาวชนแล้วไม่ปิดบังใบหน้ า
ยกเว้นกรณี ที่เป็ นการเชิดชู หรือช่ืนชมอย่างให้
เกยี รต
7
กฎหมายเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์
• ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสี ยชีวิตแล้วทาให้เกิดความเสื่ อมเสี ยช่ือเสี ยง
ถูกดหู ม่ิน เกลียดชงั ญาติสามารถฟ้องรอ้ งไดต้ ามกฏหมาย
• การโพสต์ดา่ ว่าผอู้ ื่นหรอื ข้อความเทจ็ เป็นความผดิ ทางอาญา
• ละเมดิ ลิขสิทธ์ผิ อู้ ื่น เชน่ ข้อความ เพลง รูปภาพ วิดทิ ศั น์
• แชรร์ ูปภาพของผอู้ ่ืนในเชงิ พาณิชยเ์ พื่อหารายได้
1
การใช้งานลิขสิ ทธ์ิ
ท่ีเป็นธรรม
2
กฎหมายเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์
ลิขสิทธ์ิ สิทธ์แิ ตเ่ พียงผเู้ ดยี ว ทจี่ ะกระทาการใดๆเกี่ยวกบั งานที่ผู้
สรา้ งสรรค์ไดร้ เิ ร่มิ โดยการใชส้ ตปิ ัญญาความรูค้ วามสามารถและความวิ
ริยอุตสาหะของตนเองในการสร้างสรรค์ ไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่น
โดยงานที่สร้างสรรค์ต้องเป็นงานตามประเภทท่ีกฎหมายลิขสิ ทธ์ิให้
ค ว า ม คุ้ ม ค ร อ ง โ ด ย ผู้ ส ร้ า ง ส ร ร ค์ จ ะ ไ ด้ รั บ ค ว า ม คุ้ ม ค ร อ ง ทั น ที ที่
สรา้ งสรรค์โดยไมต่ ้องจดทะเบยี นกรมทรพั ยส์ ินทางปัญญา
3
กฎหมายเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์
ผู้ใดต้องการใช้ผลงานที่มีลิขสิ ทธ์ิต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของ
ผลงาน เพราะกฎหมายให้ความคุ้มครอง แต่ก็มีข้อยกเว้นให้ใช้งานได้
บางอย่างโดยไม่ต้องขออนุญาตหรือที่เรียกว่าการใช้งานลิขสิ ทธ์ิท่ีเป็น
ธรรม เช่น ใชใ้ นการเรยี นการสอน การรายงานข่าว แ ต่ ทั้ ง น้ี ต้ อ ง ไ ม่
กระทบกบั เจา้ ของลขิ สิทธ์โิ ดยมีหลกั ในการพิจารณาดงั น้ี
4
กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
วัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานลิขสิ ทธ์ิ
การใช้งานลิขสิ ทธ์ิ ผู้นาไปใช้ต้องไม่มีวัตถุประสงค์เพ่ือการค้า
หรอื หากาไร ไมม่ ีเจตนาทจุ รติ และใชเ้ พ่ือประโยชน์ แกส่ ังคม
5
กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
ลกั ษณะงานอันมีลขิ สิทธิ
ผนู้ าไปใชต้ อ้ งพิจารณาระดบั ของการสรา้ งสรรค์ผลงาน การใช้
ความวิริยอุตสาหะหรือการใช้จินตนาการสูง เช่น นวนิ ยายหรือการ
รายงานเหตุการณ์ ท่ีเฉพาะ ไม่ควรนาผลงานเหล่าน้ี ไปใช้เพราะหาก
นาไปใช้จะถือว่าไม่เป็นธรรฒ
6
กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
ปรมิ าณของการนาไปใช้
การนาผลงานไปใช้ในปริมาณที่มากเกินไปหรือใช้ในปริมาณน้ อย
แต่เป็นส่ วนสาคัญ ถือว่าเป็นการใช้งานท่ีไม่เป็นธรรม เพราะกระทบต่อ
สิทธ์ทิ างกฎหมายของเจ้าของลขิ สิทธ์เิ กนิ สมควร
7
กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
ตัวอย่างการใชง้ านลิขสิทธ์ทิ ่เี ป็นธรรม
• การวิจัยหรือศึ กษางานโดยไม่แสวงหากาไรเช่นนั กเรียนสาเนา
ข้อความบางส่ วนในบทความเพ่ือทาแบบฝึกหัด
• ผู้สอนทาซา้ดัดแปลงผลงาน เพ่ือประกอบการสอนแจกจ่ายจานวน
จากัด เพ่ือประโยชน์ ในการเรียนการสอนและมีการอ้างอิงเจ้าของ
ลิขสิทธ์โิ ดยไมแ่ สวงหากาไร
8
กฎหมายเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์
• ในกรณีหนั งสือที่ไม่ไดพ้ ิมพ์จาหน่ ายเป็นเวลานานและการนาไปใช้
งานไม่กระทบตลาดเจ้าของลิขสิ ทธ์ิจนทาให้เจ้าของลิขสิ ทธ์ิขาย
ไม่ได้ เนื่ องจากหนั งสือไม่มีขายในทอ้ งตลาดแล้วกอ็ าจจะถือว่าเป็น
การใช้งานลขิ สิทธ์ทิ เ่ี ป็นธรรมได้
• การนางานลิขสิ ทธ์ิมาใช้เพื่อสั งคม โดยคัดลอกปรับเปลี่ยน
เพ่ิมเติมส่ิ งใหม่และมีการอ้างอิงในงานวิจัยเพ่ืออธิบายความ
คิดเห็นของผเู้ ขียน
9
กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์
• การคัดลอกคากล่าวหรือบทความโดยย่อและมีการอ้างอิงในการ
รายงานข่าว
• การเสนอรายงานหรอื ติชมวิจารณ์แนะนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ในปรมิ าณทสี่ มควรและมีการอา้ งองิ
• การทาซา้ โปรแกรมคอมพิวเตอรท์ สี่ รา้ งข้ึนโดยไมไ่ ดแ้ สวงหากาไร
ซ่ึงเจ้าของลิขสิ ทธ์ิเปิดโอกาสให้สาธารณะชนทาซา้ โดยไม่คิด
มลู ค่า
10
กฎหมายเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์
• การสาเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีไว้จาหน่ ายสามารถสารองไว้
เพื่อป้องกนั การสญู หาย
• การรายงานข่าว งานวรรณกรรมที่ตีพิมพ์เพ่ือวางจาหน่ ายที่รายงานไม่
เกิน 10% หรือ 1000 คาและใช้ภาพไม่เกินหกภาพและมีการอ้างอิงซ่ึง
เป็นการใช้งานในปรมิ าณพอสมควร ถือวา่ เป็นการใชง้ านทเ่ี ป็นธรรม
• การรายงานข่าวโดยใช้มิวสิ ควิดีโอประกอบไม่เกิน 10% หรือไม่เกิน 30
วนิ าทขี องผลงานนั้นโดยมกี ารอา้ งองิ เจา้ ของผลงาน
12
กฎหมายเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์
ตัวอย่างการใชง้ านลขิ สิทธ์ทิ ่ไี มเ่ ป็นธรรม
• การดาวน์ โหลดเพลงผอู้ น่ื ไปขาย
• สอนถ่ายเอกสารหนั งสือเรยี นเพื่อขายกบั ผเู้ รยี นจานวนมากทาให้
เจา้ ของลิขสิทธ์สิ ญู เสียรายได้
• ผู้นาไปใช้มีเจตนาทุจริต โดยการนางานท่ีมีลิขสิ ทธ์ิไปใช้โดยไม่
อ้างอิงหรือใช้ในลักษณะท่ที าให้ผู้อ่ืนเข้าใจว่าผลงานลิขสิ ทธ์ินั้ น
เป็นของตนเอง
13
กฎหมายเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์
• ผู้นาไปใช้มีเจตนาทุจริต โดยการนางานท่ีมีลิขสิ ทธ์ิไปใช้โดยไม่
อ้างอิงหรือใช้ในลักษณะที่ทาให้ผู้อื่นเข้าใจว่าผลงานลิขสิ ทธ์นิ ั้ นเป็น
ของตนเอง
• การใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอรแ์ บบทดลองใชอ้ ยา่ งตอ่ เน่ื องแม้ว่า
จะหมดอายกุ ารใชง้ าน
14
สรุ ปท้ายบท
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อยากมีความปลอดภัยและมีความสุข
นั้น ผใู้ ช้จาเป็นตอ้ งมีความรูค้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั เทคโนโลยแี ละมีศิลปะในการ
ใช้ชีวิตในสั งคมดิจิทัลที่มีความซับซ้อนได้อย่างเหมาะสม ก่อนท่ีจะใช้ข้อมูล
ต่างๆจะต้องประเมินความน่ าเช่ือถือโดยพิจารณาในประเด็นของ พรอมท์
ไดแ้ กก่ ารนาเสนอความสัมพันธ์ วตั ถุประสงค์ วธิ กี าร แหลง่ ทมี่ าและเวลา
15
สรุปทา้ ยบท
โดยต้องตรวจสอบความน่ าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลและต้อง
ตระหนั กถึงการให้เหตุผลท่ีถูกต้องและสอดคล้องกับความเป็นจริง
เพื่อให้สามารถนาไปแกป้ ัญหาได้ ผใู้ ชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศต้องมี
ความรอบคอบระมดั ระวงั รูเ้ ทา่ ทนั ส่ือและข่าวลวงตา่ งๆและปฏบิ ตั ิตามท่ี
กฎหมายกาหนด เพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้ อยอาจก่อปัญหาใหญ่
และอาจทาให้ชวี ติ เปลยี่ นไปในทางทไ่ี มเ่ หมาะสมได้
16
กิจกรรม
• นั กเรียนมีวิธีอย่างไรในการพิจารณาว่าข้อมูลที่ได้รับมามีความ
น่ าเชื่อถือ
• ตรรกะวิบตั ิคืออะไร
• ข่าวลวงมผี ลกระทบต่อสังคมอยา่ งไร
• ทาไมนั กเรยี นจึงตอ้ งมคี วามรูเ้ รอื่ ง พ.ร.บ วา่ ดว้ ยการกระทาความผดิ
เกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์
• นั กเรยี นสามารถใช้ผลงานทม่ี ีลขิ สิทธ์ขิ องผอู้ นื่ ไดห้ รอื ไม่อยา่ งไร