รายงาน
เร่อื ง การวเิ คราะหค์ ุณคา่ วรรณกรรมเรื่องความสขุ ของกะทิ
เสนอ
คณุ ครูสายฝน โหจันทร์
นางสาวณนหทัย โดย
นางสาวอรวณั ณ์ กิจเจริญ ชั้น ม.๖/๓ เลขท่ี ๖
นางสาวเบญญาพร นลิ นามะ ชนั้ ม.๖/๓ เลขที่ ๑๐
นางสาวปภสั กร นพิ ทั ธเ์ จรญิ วงศ์ ชัน้ ม.๖/๓ เลขท่ี ๑๒
นางสาวตะวัน บุญเสม ชัน้ ม.๖/๓ เลขท่ี ๒๕
ดาวอบุ ล ชัน้ ม.๖/๓ เลขที่ ๓๐
รายงานนเี้ ปน็ ส่วนหนึง่ ของวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน (ท๓๓๑๐๒)
ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔
โรงเรยี นมารยี อ์ ุปถัมภ์ อ.สามพราน จ.นครปฐม
ก
คำนำ
รายงานเรื่อง การวิเคราะห์คุณค่าวรรณกรรมเรื่องความสุขของกะทิ เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทย
พื้นฐาน (ท๓๓๑๐๒) ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์วรรณกรรม
เรื่องความสุขของกระทิที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน สืบเนื่องจากคณะผู้จัดทำ
ศึกษาเรื่องการวิเคราะห์คุณค่าวรรณกรรมเรื่องความสุขของกะทิ จากหนังสือเรื่องความสุขของกะทิและ
งานวิจัยกลวิธีการแต่งและแนวคิดในนวนิยายชุด ความสุขของกะทิ โดยงามพรรณ เวชชาชีวะ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ แล้วพบว่ามีประเด็นที่น่าสนใจ และต้องการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว
จึงนำมาจัดทำรายงาน โดยมีขอบขา่ ยเน้ือหาดังน้ี การวิเคราะหว์ รรณกรรม วรรณกรรมเรอ่ื งความสุขของกะทิ
และบทวเิ คราะห์คณุ ค่าวรรณกรรมเรื่องความสขุ ของกะทิ ทั้งน้คี ณะผจู้ ดั ทำได้ศึกษาคน้ คว้า และรวบรวมข้อมูล
จากหนังสือเรื่องความสุขของกระทิและงานวิจัยกลวิธีการแต่งและแนวคิดในนวนิยายชุด ความสุขของกะทิ
โดยงามพรรณ เวชชาชีวะ อาศัยกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และเชื่อมโยง จนสำเร็จ
เปน็ รายงานเล่มน้ี
คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มน้ี จะเอื้อประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อย
และขอนอ้ มรับขอ้ เสนอแนะตา่ ง ๆ เพ่ือนำไปเพิม่ เตมิ หรือแก้ไขต่อไป
คณะผู้จัดทำ
๓ / ๑๑ / ๖๔
สารบญั ข
เรอ่ื ง หนา้
คำนำ ก
สารบัญ ข
บทนำ ๑
๑.เรอื่ ง การวิเคราะห์คุณคา่ วรรณกรรมเรื่องความสุขของกะทิ ๒
๒
๑.๑ ความหมายของการวเิ คราะห์วรรณกรรม ๒
๑.๒ ความสำคัญของการวิเคราะหว์ รรณกรรม ๒
๑.๓ ประเภทของวรรณกรรม ๒
๑.๔ หลกั การวเิ คราะหว์ รรณกรรม
๒.วรรณกรรมเร่อื งความสุขของกะทิ ๓-๔
๒.๑ ทมี่ าของวรรณกรรมเรอ่ื งความสขุ ของกะทิ ๓
๒.๒ ประวตั ิผ้แู ตง่ ๓
๒.๓ เนอื้ หา ๓
๒.๔ ตวั ละคร ๔
๓.บทวิเคราะห์คุณค่าวรรณกรรมเรอ่ื งความสุขของกะทิ
๓.๑ คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ ๕-๑๒
๓.๒ คุณค่าด้านเนื้อหาสาระ ๕
๓.๓ คุณคา่ ดา้ นสงั คม
๓.๔ การนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั ๖-๑๐
๓.๕ ทัศนะของ เขยี นที่มีต่อ “ความสขุ ของกะทิ ๑๐
๔.บทสรุป ๑๑
บรรณานกุ รม
๑๑-๑๒
๑
บทนำ
เนื่องจากวรรณกรรมเรื่อง ความสุขของกะทิ ได้รับความนิยมและเป็นที่จดจําในแวดวงของผู้อ่าน
เป็นตัวอย่างวรรณกรรม สร้างสรรค์ยอดเยี่ยมที่แตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ โดยใช้กลวิธีการแต่งและสื่อแนวคิด
ที่สร้างสรรค์อย่างน่าสนใจ จึงได้รับรางวัลซีไรต์ของประเทศไทย ประจําปี ๒๕๔๙ ทางคณะผู้จัดทำจึง
มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์วรรณกรรมเรื่อง ความสุขของกะทิ ที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์
ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน
คณะผู้จัดทำศึกษา เรื่อง การวิเคราะห์คุณค่าวรรณกรรมเรื่องความสุขของกะทิจากหนังสือ
เรื่อง ความสุขของกะทิ และงานวิจัยกลวิธีการแต่งและแนวคิดในนวนิยายชุด ความสุขของกะทิ แล้วพบว่า
มีประเด็นที่น่าสนใจ และต้องการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม จึงนำมาจัดทำรายงาน โดยมีประเด็นหลัก ๆ ดังนี้
เรื่อง การวิเคราะห์วรรณกรรม วรรณกรรมเรื่องความสุขของกะทิ และบทวิเคราะห์คุณค่าวรรณกรรม
เรื่องความสุขของกะทิ ซึ่งได้รับความนิยมและเป็นที่จดจําในแวดวงของผู้อ่านเป็นตัวอย่างวรรณกรรม
สร้างสรรค์ยอดเยี่ยมที่แตกต่างจากนวนิยายเร่ืองอื่น ๆ เพราะความสุขของกะทิบอกเล่าเรื่องราวของน้องกะทิ
เด็กหญิงวัย ๙ ขวบ ที่กำลังจะต้องสูญเสียแม่ ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แม่ของกะทิเองรู้ตัวดีว่า
ไมส่ ามารถเลี้ยงดูกะทิได้ จงึ ได้ฝากฝงั กะทิให้คุณตากับคุณยายเลี้ยง กะทติ วั น้อยของเราเติบโตมาด้วยความรัก
ของตาและยาย และมีชีวิตอย่างสุขสบายในบ้านหลังน้อยริมคลองอันอบอุ่น ในเรื่องความสุขของกะทิ
ตัวละครหลักของ “กะทิ” มีครอบครัวที่เอาใจใส่ ดูแลกะทิด้วยความรัก และความห่วงใยจากใจจริง กะทิ
มีคุณตาที่เคยประกอบอาชีพทนาย ซึ่งสามารถเรียกเสียงหัวเราะจากกะทิและครอบครัวได้อยู่เสมอๆ คุณยาย
ของกะทิเป็นคนที่เคร่งครดั และเป็นคนหัวโบราณ แต่ถึงจะเป็นคนท่ีดเู หมือนจะดุและเจ้าระเบียบ แต่คุณยาย
ก็สอนกะทิเรื่องต่างๆ นานา อาทิเช่น การทำอาหาร หรือจะเป็นการอยู่ในสังคม นอกจากนี้ในเรื่องยังมี
ตัวละครอื่นอีกมากมาย อย่างพี่ทองก็เป็นคนที่เข้าอกเข้าใจกะทิเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีบุญคุณต่อกะทิ
เพราะพ่ที องเคยช่วยชีวิตกะทิไวค้ ร้ังสมัยทก่ี ะทยิ ังเปน็ เด็กเล็ก น้าฎา และนา้ กนั ต์ ซ่ึงเปน็ คนทีห่ ่วงใยกะทิ ท้ังยัง
คอยหาสิ่งดีๆ ให้กะทิอยู่เสมอๆ เป็นอีกคนที่พูดปลอบใจกะทิในยามที่กะทิเศร้า และที่ขาดไม่ได้ก็คือ
แม่ของกะทิ ที่ถึงแม้จะจากไปก่อนวัยอันควรแต่ก็จัดสิ่งต่างๆ ไว้ให้กะทิอย่างดี ด้วยความรัก และเอาใจใส่
ซึ่งเรื่องราวต่างๆ มีประเด็นสะท้อนสภาพสังคมที่น่าสนใจ คณะผู้จัดทำจึงนํามาวิเคราะห์ใน
ประเดน็ ดงั ทก่ี ลา่ วมาขา้ งต้น ซึง่ สามารถติดตามได้จากรายงานเลม่ น้ี
๒
รายงาน เร่อื ง การวเิ คราะห์คณุ คา่ วรรณกรรมเร่ืองความสขุ ของกะทิ
๑. การวเิ คราะหว์ รรณกรรม
๑.๑ ความหมายของการวเิ คราะหว์ รรณกรรม
จากการศึกษาความหมายของการวเิ คราะห์วรรณกรรมสรปุ ไดว้ ่า การพิจารณา การวเิ คราะห์แยกแยะ
และประเมินค่าเน้ือหาที่ได้อา่ นซงึ่ จะเกิดประโยชน์ต่อผูว้ เิ คราะห์และสามารถนำไปประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ต่อ
ชวี ติ ประจำวันอย่างไรบ้าง
๑.๒ ความสำคญั ของการวิเคราะห์วรรณกรรม
นอกจากนี้การวิเคราะห์วรรณกรรม ยังมีความสำคัญเพราะช่วยให้การอ่านมีความเข้าใจยิ่งขึ้นของ
การวิเคราะห์วรรณกรรมนั้นจะมีความเข้าใจซาบซึ้งและเห็นประโยชน์ของวรรณกรรมเรื่องนั้นๆมีรสชาติ
เหมาะสมกับเนื้อเรื่องเป็นอย่างดี เช่น ทำให้เกิดความสดชื่น เบิกบาน ขบขัน เพลิดเพลิน ขบคิด เศร้าโศก
ปลุกใจ หรืออารมณ์อะไรก็ตามที่ผู้เขียนต้องการสร้างให้เกิดขึ้นในตัวผู้อ่าน นั่นคือ ความสำคัญของผู้เขียนท่ี
ทำใหผ้ อู้ ่านเกิดความรู้สึกในจิตใจและเกดิ จินตนาการสรา้ งภาพคิดในสมองไดด้ ี
๑.๓ ประเภทของวรรณกรรม
จากการศึกษาสามารถแยกได้เปน็ ๒ ประเภท
๑.วรรณกรรมรอ้ ยแกว้
๒.วรรณกรรมร้อยกรอง
๑.๔ หลักการวิเคราะห์วรรณกรรม
จากการศึกษา หลักในการวิเคราะห์วรรณกรรมนั้นจะมีการปฏิบัติอย่างกว้างแต่ละประเภท
ผู้วิเคราะห์ต้องนำแนวการวิเคราะห์ไปปรับใช้ ให้เหมาะสมกับงานเขียนแต่ละชิ้นงานซึ่งมีลักษณะแตกต่างกัน
ไปจึงสามารถสรปุ ไดว้ ่าหลกั การวเิ คราะห์วรรณกรรมนั้นจะข้นึ อยู่กับงานเขียนแต่ละชิน้ งาน
๓
๒. วรรณกรรมเรือ่ งความสขุ ของกะทิ
๒.๑ ท่มี าของวรรณกรรมความสุขของกะทิ
ความสุขของกะทิเป็นนวนิยายขนาดสั้นของ งามพรรณ เวชชาชีวะ วรรณกรรมเรื่องนี้เคย
ได้รับรางวัลซีไรต์ของประเทศไทย วรรณกรรมความสุขของกะทิช่วยเปิดมุมมองต่างๆของเด็กคนนึง
ที่ต้องสูญเสียแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับแต่เด็กคนนี้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขเพราะมีครอบครัวที่ดีและ
ให้ความอบอุ่น
๒.๒ ประวตั ิผู้แต่ง
งามพรรณ เวชชาชีวะ เป็นผู้แต่งวรรณกรรมเรื่องความสุขของกะทิ เกิดเมื่อ ๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๖
ที่กรุงลอนดอนเป็นบุตรีคนกลางของ ศาสตราจารย์นายแพทย์ อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับศาสตราจารย์แพทย์
หญิง สดใส เวชชาชีวะ มีพี่สาวคือ ศาสตราจารย์แพทย์หญิง อลิซ วัชรสินธุ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชและ
มีน้องชายคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจบการศึกษาปริญญาตรีจากภาควิชาภาษาฝรั่งเศษ คณะศิลปะศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๒๘
๒.๓ เน้ือหา
ความสุขของกะทิบอกเล่าเรื่องราวต่างๆของน้องกะทิ เด็กหญิงวัย ๙ ขวบที่กำลังจะต้องสูญเสียแม่
ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงกะทิเติบโตมาด้วยความรักของตาและยายกะทิใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและ
มีความสุขทุกคนในครอบครัวให้ความอบอุ่นกับกะทิเป็นอย่างดีดั้งนั้นความสุขของกะทิให้ข้อคิดว่าทุกคน
เกดิ มายอ่ มมีทัง้ ความสขุ และความทุกขแ์ ละเมื่อทกุ คนมีความทุกข์ทุกคนจะก้าวผ่านความทุกขน์ ั้นปได้อย่างไร
๒.๔ ตวั ละคร
- กะทิ เป็นเด็กอารมณ์ดี นิสยั ดี รักครอบครัว แตล่ กึ ๆของใจกะทชิ อบเกบ็ ความทุกข์ไว้ในใจเพยี ง
ผเู้ ดียว
- แม่ แมข่ องกะทปิ ่วยเปน็ โรคกลา้ มเนอ้ื อ่อนแรงและในสุดท้ายก็เสยี ชวี ติ ลง
- ยาย ยายเลยี้ งดูกะทิต้ังแต่แม่ของกะทเิ สยี ดว้ ยความรักและความห่วงใย
-ตา กลบั มาใช้ชวี ติ เรยี บง่ายและตาเลยี้ งดูกะทิในบา้ นท่ีแสนอบอุน่ และให้ความรกั ที่ดีให้กับกะทิ
- นา้ ฎา หญิงสาวผู้เป็นเลขาให้ณภัทรและกลายเป็นเม่ือขวาในทกุ เรื่องใหเ้ ธอจนถงึ วาระสดุ ทา้ ย
- น้ากันต์ หนุ่มโสด พดู นอ้ ย เก็บตัว
๔
- ลุงตอง เป็นลูกพี่ลูกน้องกับณภัทรแม่ของกะทิโดยนิสัยเป็นคนใจดีรักพี่น้องและพวกพ้องมาก
ผูกพนั กบั ณภัทรมาตงั้ แต่เล็กๆรักสวยรกั งามชอบจัดดอกไม้เปน็ พเิ ศษเป็นคนมีอารมณข์ นั
- พ่ที อง เด็กวดั วยั ๑๔ ปที องมนี สิ ัยชอบช่วยผูอ้ นื่ โดยธรรมชาติและโดยการอบรมของหลวงลงุ
๕
๓. บทวเิ คราะห์คุณคา่ วรรณกรรมเร่อื งความสุขของกะทิ
๓.๑ คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ วรรณคดีที่ได้รับยกย่องว่าดีเด่นต้องมีกลวิธีการประพันธ์ที่ดีเยี่ยม และให้คำ
เหมาะสมกับลกั ษณะหนา้ ที่ของคำ ถูกต้องตรงความหมาย เหมาะสมกับเน้ือเรื่องและมีเสียงเสนาะ ซึ่งผู้อ่าน
จะเกิดจินตนาการตามเนื้อเรื่องได้ จะต้องเข้าใจสำนวนโวหารและภาพพจน์ เสมือนได้ยินเสียง ได้เห็นภาพ
เกิดอารมณส์ ะเทือนใจ มีความรู้สกึ คล้อยตาม เช่น
๑. การใช้โวหาร
๑.๑ บรรยายโวหาร เป็นการเล่าเรื่อง เล่าเหตุการณ์ที่มีเวลาสถานที่ ซึ่งแสดงให้เห็นความสัมพันธ์
ต่อเนื่องกัน การบรรยายมีจุดมุ่งหมายให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเรื่องราวนั้นๆเกิดขึ้นและดำเนินไปอย่างไร
เร่ืองราวดงั กลา่ วอาจเกดิ ข้ึนจรงิ หรือเปน็ เรื่องทีเ่ กิดจากจินตนาการของกวกี ไ็ ด้
๑.๒ พรรณนาโวหาร เป็นการให้รายละเอียดของเรื่องราว เพื่อให้ผู้อ่านเห็นสภาพหรือลักษณะ
ที่ละเอียดลออและพรรณนาความรู้สึกกระทบอารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่ านทั้งนี้การพรรณนาทำให้ผู้อ่านผู้ฟัง
มองเหน็ ภาพ การพรรณนาจงึ มกั แทรกอยใู่ นการเล่าเร่ืองหรอื การบรรยาย
๑.๓ เทศนาโวหาร คือ โวหารทีม่ งุ่ ในการส่ังสอน โน้มนา้ วจิตใจผอู้ ่านให้คล้อยตาม
๑.๔ สาธกโวหาร คือ โวหารที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความชัดเจนด้วยการยกตัวอย่างประกอบ
เพื่ออธบิ ายสนับสนุนความคดิ เห็นใหน้ า่ เชื่อถือ
๑.๕ อุปมาโวหาร คือ โวหารเปรียบเทียบสิ่งหน่งึ กบั อกี ส่ิงหนงึ่ เพ่ือให้ผู้อา่ นเข้าใจมากขนึ้
๒.การใช้ภาพพจน์ เป็นการพลิกแพลงภาษาให้แปลกออกไปกว่าที่เป็นอยู่ปกติ ทำให้เกิดรสกระทบ
ความรู้สึกและอารมณต์ ่างกับภาษาทใี่ ชอ้ ยา่ งตรงไปตรงมา ดังน้ี
๒.๑ อุปมา คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งคล้ายหรือเหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง โดยมีคำแสดงความเปรียบ
เชน่ เปรยี บ ประดจุ ดจุ ดง่ั เหมือน ราวกับ ราว เพยี ง เพีย้ ง ฯลฯ
๒.๒ อุปลักษณ์ คือการเปรียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากการอุปมาโดยอุปลักษณ์
มักใชค้ ำวา่ เป็น คอื ในการเปรียบ
๒.๓ สญั ลักษณ์ คอื การเปรยี บเทยี บสงิ่ หนึง่ แทนอกี ส่งิ หนึ่ง โดยไม่มีคำแสดงความเปรียบ
๖
๒.๔ อติพจน์ คือการใช้ถ้อยคำที่กล่าวผิดไปจากความเป็นจริง โดยกล่าวถึงสิ่งหนึ่งเปรียบเทียบกับ
ส่งิ ทีด่ ูเกนิ มากกวา่ ความจริง
๒.๕ บคุ คลวัต คอื การกล่าวถึงส่ิงที่ไม่มชี ีวติ จติ ใจให้มีการกระทำเหมือนมนุษย์
๒.๖ สทั พจน์ คอื การใชค้ ำเลียนเสียงธรรมชาติ
๓. การเล่นเสียง คือการเลือกสรรคำที่มีเสียงสัมผัสกัน ได้แก่ การเล่นเสียงอักษร เสียงสระ และเสียง
วรรณยุกต์ เพื่อเพิ่มความไพเราะและแสดงความสามารถของกวีที่แม้จะเล่นเสียงของคำแต่ยังคงความหมายไว้
ดงั บทประพันธ์
๓.๑ การเล่นเสียงอักษร คือ การใช้คำที่มีเสียงพยัญชนะเดียวกันหลายๆ พยางค์ติดกันเพื่อความ
ไพเราะ
๓.๒ การเล่นเสียงสระ คือ การใช้สัมผัสสระที่มีเสียงตรงกัน ถ้ามีตัวสะกดก็ต้องเป็นตัวสะกดใน
มาตราเดียวกนั แมจ้ ะใชพ้ ยัญชนะมาใชเ้ ลน่ สัมผัสเสยี งสระอีก
๓.๓ การเล่นเสยี งวรรณยกุ ต์ คือ การใช้คำท่ีไล่ระดบั เสียง ๒ หรือ ๓ ระดับ เปน็ ชุดๆ
๓.๔ อื่นๆ เช่น การเล่นคำซ้ำ การเล่นคำพ้องเสียง การเล่นคำพ้องความหมาย การเล่นคำตรงข้าม
การเล่นคำเชงิ ถาม
๔. รสทางวรรณคดีไทย รสทางวรรณคดีที่ มีอยู่ ๔ ชนิด คือ เสาวรจนี นารีปราโมทย์ พิโรธวาทัง
สัลลาปงั คพิไสย
ความสขุ ของกะทิเป็นวรรณกรรมท่ีใชภ้ าษาเรียบงา่ ย ช่วยให้เดก็ ๆ ทำความเขา้ ใจเร่ืองการสูญเสียและ
ความหมายของการมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่น่าหดหู่ใจ เพราะถึงแม้การสูญเสียแม่จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่เนื้อหาใน
วรรณกรรมน้ันชวนให้คดิ ว่า สง่ิ ท่ีทำให้ ‘คนท่ีจากไป’ เป็นที่น่าจดจำ กค็ อื การกระทำเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ และ
สิ่งนน้ั ทำให้คนที่นึกถงึ พวกเขามคี วามสุข เหมือนกบั ประโยคหนึ่งในหนังสอื ทีว่ ่า
“แม่ของกะทิ เคยให้ความช่วยเหลือหลายคร้งั โดยเฉพาะคา่ เลา่ เรยี น แมด่ จู ะทำให้คนรอบข้างมคี วามสุข
ได้ อย่างน่าชน่ื ชม” ความสขุ ของกะทิ เขา้ ใจ เรื่องราวและเข้าถงึ อารมณท์ สี่ อ่ื อกมาได้
๓.๒ คุณค่าดา้ นเน้ือหาสาระ
เนื้อหา หมายถึง ใจความของเรื่อง รายละเอียดที่ปรากฏอยู่ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ของ วรรณคดีและ
วรรณกรรม เนื้อหาจึงประกอบด้วย ฉาก ตัวละคร เหตุการณ์ต่างๆ บทสนทนาของตัวละคร การพิจารณา
คุณค่า ด้านเนื้อหา จึงต้องพิจารณาองค์ประกอบเหล่านี้ว่ามีครบถ้วนหรือไม่ สมจริงอย่างไร มีเหตุผลเพียงใด
๗
มคี ุณคา่ ต่อผู้อ่านอย่างไร ในด้านเนือ้ หานอกจากเน้ือเร่ืองสนุกสนาน แลว้ ยังต้องมีความไพเราะของคำประพันธ์
ด้วย เนื้อหาที่ดีจะต้องอ่านแล้วประทับใจ ในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง การพิจารณาคุณค่าด้านเนื้อหา
จะมุง่ ไปพจิ ารณาองคป์ ระกอบของเน้ือหาว่ามีคุณค่าหรือเปน็ ประโยชน์ อย่างไร
การพจิ ารณาคุณค่าด้านเนื้อหา มแี นวทางในการพจิ ารณาดังต่อไปน้ี
๑. รปู แบบ
๒. องคป์ ระกอบของเรื่อง
๒.๑ สาระ
๒.๒ โครงเรอ่ื ง
๒.๓ ตวั ละคร
๒.๔ ฉาก
๒.๕ กลวธิ ีการแต่ง
๑. รปู แบบ
ความสุขของกะทิ ได้รับความนิยมและยกย่องว่ามีคุณค่าควรแก่การศึกษาและเป็นตัวอย่างของการ
ประพนั ธว์ รรณกรรมประเภทบันเทงิ คดี เปน็ งานเขียนทมี่ งุ่ ให้ความบนั เทิงแก่ผอู้ ่านเปน็ สำคญั ผูเ้ ขยี นจะผูกเป็น
เรื่องราวมีตัวละคร ฉาก และเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อมุ่งประเทืองอารมณ์แก่ผู้อ่าน บางเรื่องอาจแฝงความรู้และ
คณุ ค่าทางจริยธรรมไว้ดว้ ย
๒. องค์ประกอบของเรื่อง
๒.๑ สาระ
โดยในเรอ่ื งความสุขของกะทิน้ีไมเ่ พยี งแต่เล่าเรื่องที่มแี ต่ความสขุ สนุกสนานแต่ยงั เล่าและสะท้อนชีวติ
จรงิ ของคนเรานัน้ ก็คือความสูญเสยี หรือความตาย ซึ่งการสอดแทรกเนอื้ หาเกยี่ วกับความตายไวใ้ นวรรณกรรม
เยาวชนน้ัน อาจเป็นวธิ ีท่ีนมุ่ นวลในการชว่ ยให้เด็กๆ ทำความเขา้ ใจกับการสูญเสยี ได้ เพราะทุกวันนี้ ความตาย
ปรากฏให้เหน็ กนั แบบรายวันในช่วงโรคระบาด ทีบ่ างคนอาจสญู เสียคนใกลต้ วั , เดก็ สูญเสียพ่อแม่ หรือหลาน
สูญเสียปูย่ า่ ตายาย -- เด็กๆ เหน็ ภาพข่าวความตายจากส่อื รอบตวั อยา่ งหลีกเลย่ี งไม่ได้
๒.๒ โครงเรื่อง
๘
การวางโครงเรื่องวรรณกรรมความสุขของกะทินั้น มีการเปิด ดำเนินเรื่อง และปิดเรื่อง การลำดับเหตุการณ์
ผู้แตง่ ใช้กลวธิ ีการลำดับเหตุการณ์หลายแบบ ได้แก่ ศลิ ปศาสตร์ปรทิ ศั น์ ปที ่ี ๖ฉบับท่ี ๑๒ การลำดับเหตุการณ์
ก่อนหลัง การย้อนอดีตสลับไปมากับเรื่องปัจจุบัน และการกล่าวถึงเหตุการณ์ ต่างสถานที่สลับกันไปมา
การลำดบั เหตกุ ารณท์ ี่นิยมใชแ้ ละทำใหเ้ ร่ืองดำเนนิ ไปอยา่ งน่าสนใจและชวนให้ ติดตามอา่ นคอื การดำเนนิ เร่ือง
ตามลำดับเหตุการณ์ก่อนหลัง โดยเริ่มต้นด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาหนึ่ง แล้วค่อย ๆ ดำเนินเรื่อง
ไปตามลำดับเหตกุ ารณ์ทเ่ี กิดขน้ึ ในเวลา ตอ่ มา
๒.๓ ตัวละคร
กะทิ หรอื ณกมล พจนวทิ ย์ เดก็ หญิงอารมณด์ ี ช่างซักถาม ช่างสงั เกต ขณะเดยี วกนั ก็เปน็ เด็กท่ีเก็บงำ
ความทุกข์ไว้กบั ตัวด้วย กะทิชอบฟังเพลงมากจนถงึ ขั้นสนใจไปเรยี นร้องเพลง แถมยังชอบวาดรูป ดูงานศิลปะ
อ่านหนังสือ และถ่ายรูป เรียกว่ามีพลังงานความเป็นศิลปินอยู่ในตัวเต็มเปี่ยม เธอมีสัตว์เลี้ยงตั วโปรดเป็น
หมาป๊ักทีไ่ ด้รับเปน็ ของขวญั วนั เกดิ เธอตง้ั ชอ่ื ใหม้ ันว่าฟาโรห์ ตามหนงั สอื อารยธรรมไอยคุปต์ ท่กี ะทกิ ำลังอ่าน
ตา หรือ พิทักษ์ พจนวิทย์ คณุ ตาของกะทิ ผู้สรา้ งสสี นั ในเร่อื งไมน่ ้อย คณุ ตาเปน็ คนใจดี ขี้เล่น ช่างคุย
และช่างแซว (ถึงขั้นเปิดสงครามน้ำลายกับยายได!้ ) แต่ขี้เล่นขนาดนี้ ดีกรีเรื่องงานไม่ธรรมดา เพราะตาเป็นถงึ
ทนายความมือหนึ่งที่ช่วยคนมาแล้วมากมาย ต่อให้ปลดเกษียณ ย้ายมาอยู่ที่บ้านริมคลองแล้ว ก็ยังเป็นที่
ปรึกษาให้ชาวบา้ นได้เสมอ
ยาย หรือ ลัดดา พจนวิทย์ คุณยายของกะทิ ตัวละครที่ทำอาหารอร่อยที่สุดในเล่ม ยายเคยเป็น
เลขานุการในโรงแรมห้าดาวอยู่นาน ทำให้ยายมีทักษะหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องภาษา ที่รู้ทั้งภาษาอังกฤษ
และภาษาฝรงั่ เศส นอกจากน้ียังไดค้ วามเจ้าระเบียบมาจากการทำงานอีกตา่ งหาก
น้าฎา หรือ โฉมชฎา หญิงสาวคนสวย อดีตผู้ช่วยของแม่กะทิ ที่ทำงานด้วยกันมาตั้งสมัยที่น้าฎา
ฝกึ งาน จนกระทัง่ เรยี นจบก็ยงั ได้ทำงานด้วยกันต่อ เธอเปน็ คนมีหวั คิด และเปน็ ธรุ ะดูแลกะทแิ ทนแม่ของเธอได้
จนนา้ ฎาเปรียบเหมอื นคนในครอบครวั นจ้ี ริงๆ
น้ากันต์ รุ่นน้องชมรมเทนนิสของแม่กะทิ เป็นนักเขียนบทโฆษณา เขาไม่ค่อยพูด แต่กลับรับบทด้าน
การส่อื สารได้เปน็ อย่างดี
แม่ของกะทิ หรือ ณภัทร พจนวิทย์ ตัดสินใจแยกทางกับสามี (แอนโทนี่) ตั้งแต่กะทิยังอยู่ในท้อง แม่
กะทิเริ่มเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) ตั้งแต่อายุ 33 ปี ตอนที่กะทิเพิ่งอายุ 4 ขวบ เธอตัดสินใจออกจาก
บา้ นรมิ คลอง ไปพกั รักษาตวั ที่บา้ นริมทะเลตลอดระเวลา 5 ปี เธอใชท้ ุกนาทที ี่เหลืออยู่ในชวี ติ อย่างมีค่า บันทึก
เร่ืองราวต่างๆ ไว้ใหก้ ะทิ ลกู สาวสดุ ทร่ี ักเพียงคนเดยี ว
๙
พี่ทอง หรือ สุวรรณ วินัยดี เด็กหนุ่มผิวคล้ำ ฟันขาว จนกะทิชอบแซวว่าเห็นฟันของพี่ทองเด่นมาแต่
ไกล พี่ทองเกิดในครอบครัวที่พ่อกับพี่ชาย 3 คนนับถือศาสนาอิสลาม แม่นับถือศาสนาพุทธ ทองเป็นลูกคน
สุดท้อง แมเ่ ลยต้งั ใจให้นบั ถือศาสนาพุทธดว้ ย จึงพามาฝากไว้กับหลวงลุงต้ังแต่เด็ก ทองคลุกคลีมากับแม่น้ำลำ
คลอง จึงวา่ ยนำ้ เก่งตามแบบฉบบั ของเดก็ ริมคลอง
ลุงตอง หรือ ทิฆัมพร วงศ์ภิรมย์ นักจัดดอกไม้คนเก่ง ลุงตองตัวท้วมๆ ผมบางหนอ่ ยๆ เป็นคนนา่ รกั ท่ี
ช่วยทำให้ครอบครัวของกะทิมีสีสนั ขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะ “การบอกเส้นทาง” ที่อธิบายได้ละเอียดยิบทุกคร้งั
แตไ่ มเ่ กย่ี วกบั ทางทีไ่ ปสกั ครั้ง! เรยี กเสียงหัวเราะคนในรถได้เสมอ
๒.๔ ฉาก
ฉากที่ปรากฏในหนังสือความสุขของกะทินั้นมีอยู่ ๔ ฉากหลักๆได้แก่ บ้านริมคลอง บ้านชายทะเล
และบ้านกลางเมอื ง โดยการบรรยายแต่ละฉากน้นั บรรยายได้อยา่ งสมจริง ทำใหเ้ น้อื เร่ืองนนั้ มีความสมจริงมาก
ยงิ่ ขน้ึ ไม่เพียงแต่ฉากที่เปน็ สถานท่ีเท่านนั้ รวมถงึ ฉากท่ีกะทินน้ั ต้องเสียแม่ไปผู้แต่งก็สามรถบรรยายออกมาได้
อยา่ งดรี สู้ ึกเศร้าและคลอ้ ยตามบรรยากาศในตอนนนั้ ไป
๒.๕ กลวธิ กี ารแต่ง
วิธีการเขียน คือจะมีชื่อตอนแต่ละตอน ซึ่งเป็นตอนสั้นๆ จากชื่อตอนก็จะมีคำถามหรือคำพูดหรือ
ความรู้สึกของเด็กหญิงกะทิ เป็นต้นว่าตอนที่ 9 ชื่อตอนว่า “กระถางธูป” ใต้ชื่อตอนอยู่ในเครื่องหมายคำพูด
“เหลือเพียงเสียงของแม่ทกี่ ะทจิ ำได้ด”ี เป็นวิธีการดำเนนิ เรื่องอีกลกั ษณะหนึ่งซ่งึ น่าสนใจมาก เป็นการนำเสนอ
ที่แสดงออกให้เห็นถึงความผูกพันและความรักของครอบครัวและในขณะเดียวกันยังสะท้อนให้เห็นถึง
วัฒนธรรมไทยทั้งเก่าและใหม่ ผ่านทางเรื่องเล่าที่ราบรื่น กลมกลืน จนสามารถทำให้กะทิมีความสุขจนลืม
เรือ่ งราวเศรา้ ๆท่ีมีอยู่ในขณะน้นั ไปเลยกว็ า่ ได้ซึ่งเปน็ การนำเสนอหาดูและอา่ นได้ยากมาก ทำให้งานประพันธ์ท่ี
มีคุณค่าน่าสนใจนั้น นอกจากจะมีวิธีใช้ถ้อยคำภาษาและแสดงช้ันเชิง การแต่งอย่างดีแล้ว ยังต้องวิเคราะห์ถึง
เนื้อหาสาระและแนวความคิดที่มีประโยชน์ต่อคนอ่านอีกด้วย เนื้อหาสาระที่ดีนั้นอาจเป็นในแง่การให้ความรู้
ให้ความคิดเห็น คติ คำสอน ข้อเตือนใจ ชี้ช่องให้มองเห็นความจริง ความดี ชี้ทางแก้ปัญหา แนะสิ่งที่ควร
ปฏิบัติหรือ สิ่งที่ควรละเว้น กลวิธีการเขียนอาจชี้แนะโดยตรงหรือทางอ้อมก็ได้แล้วแต่กลวิธีของผู้เขียน ว่าจะ
ทำได้แนบเนียนน่าสนใจเพียงใด ให้งานประพันธ์ที่มีคุณค่าน่าสนใจนั้น นอกจากจะมีวิธีใช้ถ้อยคำภาษาและ
แสดงชั้นเชิง การแต่งอย่างดีแล้ว ยังต้องวิเคราะหถ์ ึงเน้ือหาสาระและแนวความคิดท่ีมีประโยชน์ต่อคนอ่านอีก
ด้วย เนื้อหาสาระที่ดีน้ันอาจเป็นในแงก่ ารให้ความรู้ ให้ความคิดเห็น คติ คำสอน ข้อเตือนใจ ชี้ช่องให้มองเห็น
ความจริง ความดี ชี้ทางแก้ปัญหา แนะสิ่งที่ควรปฏิบัติหรือ สิ่งที่ควรละเว้น กลวิธีการเขียนอาจชี้แนะโดยตรง
หรือทางอ้อมก็ได้แล้วแต่กลวิธีของผ้เู ขียน วา่ จะทำได้แนบเนยี นน่าสนใจเพียงใด ข้อที่นา่ สังเกตคือ งานเขียนที่
ดนี ั้นไม่จำเป็นต้องสอนศลี ธรรมหรือคุณธรรมโดยตรง ผูเ้ ขยี นอาจใช้กลวธิ ีตา่ ง ๆ เพอื่ ใหค้ นอ่านเกิดความคิดได้
๑๐
ด้วยตนเอง ดังนน้ั กอ่ นการวิจารณ์ คนอ่านจงึ ต้องพยายามทำความเขา้ ใจ จับความหมายและสรุปแนวความคิด
ท้งั หลายของผูเ้ ขียนใหไ้ ด้เสยี กอ่ น หลกั สำคญั มอี ยอู่ ยา่ งหนง่ึ วา่ งานประพนั ธ์ท่ีดคี วรมเี น้อื หาสาระมุ่งสร้างสรรค์
มิใชม่ งุ่ ทำลาย
๓.๓ คณุ คา่ ดา้ นสังคม
คุณค่าด้านสังคม นั้นคือ ภาพสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่สะท้อนมาจากวรรณคดีและ
วรรณกรรมโดยแทรกไว้ในเน้ือเร่ือง เชน่ ประเพณี ความเช่อื คา่ นยิ ม ความเป็นอย่กู ารประกอบอาชีพ วรรณคดี
และวรรณกรรมจงึ เปน็ เสมือนกระจกสะท้อนสภาพสังคมในแต่ละยุคสมัยซ่งึ เป็นหลกั ฐานท่ีบอกเล่าเรื่องราวใน
อดีตแกค่ นรุ่นหลังได้เปน็ อยา่ งดี โดยวรรณกรรมเร่อื งความสุขนีส้ ะท้อนให้เห็นถึง ๔ ดา้ นหลักๆไดแ้ ก่
๑. สะทอ้ นให้เหน็ ถงึ สังคมวถิ ีเช้าบา้ นและวิถคี นกรงุ โดยวธิ ีชาวบา้ นท่ีเห็นได้จากในหนังสือคอื ชาวบ้าน
ที่พักอาศยั อยรู่ ิมคลองสะท้อนให้เห็นถึงความเรียบง่ายอยู่อยา่ งพอเพียง จะเหน็ ไดจ้ ากการเดนิ เรือก็จะใช้เรือใน
การเดินทาง วิธีการทำกบั ข้าวทีใ่ ช้กระต่ายชว่ ยในการขูดมะพร้าวท่ีให้ความสดของกะทิมากกว่าการซื้อน้ำกะทิ
แต่ในสังคมเมืองนั้นผู้คนแต่คนในเมืองส่วนมากมักจะอาศัยอยู่คอนโด และสภาพสิ่งแวดล้อม-ชนบท
มสี ิ่งแวดลอ้ มท่ดี กี วา่ ในเมอื ง ซง่ึ มแี ต่ ควนั พิษจากทอ่ ไอเสยี
๒. ในวรรณกรรมยงั สะท้อนเก่ยี วกับวฒั นธรรมไทย วัฒนธรรมทเี่ ก่ียวกบั อาหารไทย ซงึ่ สะทอ้ นใหเ้ ห็น
ความเป็นอยู่ของคนไทยในชนบทที่มีความสุข ดังนี้ พี่ทองเอาหม้อจากวัดมาส่งคืนอย่างนอบน้อม ยายชี้มือ
ไปท่ีกระตา่ ยขดู มะพรา้ วที่มุมครวั มมี ะพร้าวผ่าซีกวางรออยแู่ ล้ว พ่ีทองควา้ กระตา่ ยกับกะละมัง ใส่มะพร้าวได้
ก็เดินพรวด ๆ ไปใต้ถุน เสียงยายร้องตามหลังว่าขูดละเอียดไว้ คลุกขนมต้มขาวสองฝาที่เหลือจะคั้นกะทิ
ทำแกงบวด (ความสขุ ของกะทิ. ๒๕๕๓ก : ๓๓)
๓. สะท้อนถึงสังคมวิถีพุทธของคนไทย เช่น ตัวอย่างเรื่องการทำบุญที่ไม่ได้ทำบุญเฉพาะในวันปีใหม่
และวันสงกรานต์ ดังนี้ ยายร้องทักพี่ทองที่เดินเข้ามาในครัว เมื่อตอนสาย ยายแกงหมูเทโพ หม้อใหญ่โตไป
ถวายเพล ถือเป็นการท าบุญปีใหม่ ทั้ง ๆ ที่ตาท้วงว่าคนแถวนี้จะทำบุญใหญ่กันตอนสงกรานต์ ยายพูดลอยๆ
ฟังคล้าย ๆ เผ่ือวา่ ตอนนน้ั ไมอ่ ยแู่ ถวน้ี มศี รทั ธาตอนน้ี ใครจะทำไม (ความสุขของกะท.ิ ๒๕๕๓ก : ๓๓)
๔. สะท้อนถึงสถาบันครอบครัว ความสุขของกะทิให้แนวคิดว่าความรักของคนในครอบครัวเป็น
ความรักที่ ยิ่งใหญ่ การมีสายเลือดเดียวกันเป็นความผูกพันที่แนบแน่น และทำให้มีความเข้าใจกัน ดังเช่น
กะทิ แม้ว่าจะเกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อ กะทิก็ไม่โทษแต่ก็แสดงออกว่ารักพ่อ ดังนี้ กะทิกอดพ่อ
เมื่อตอนลากันในวันนั้น และไม่นึกโทษพ่อเลย ถ้าต่อมาพ่อ จะจำไม่ได้ว่ากะทิลาพ่อตอนไหน ท่ามกลาง
ความเศรา้ โศกเสยี ใจนี้ (ความสขุ ของกะทิตอน ในโลกใบเลก็ . ๒๕๓๓ค :๑๐๐)
๑๑
๓.๔ การนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั
การนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเรื่องความสุขของกะทินั้นได้รับความสนุกสนาน
และความบันเทิงทำให้พวกเขาสนุกไปกับอ่านหนังสือ ในเรื่องยังแฝงด้วยข้อคิดดี ๆ ในการดำเนินชีวิต
เช่น ทำให้รู้ว่าครอบครัวคือความรักที่ดีที่สุด ให้มีความอดทนและต้องไม่ให้ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เข้ามา
ในชีวิต เป็นต้น เพื่อเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้เด็ก ๆ รวมไปถึงผู้ใหญ่ทุก ๆ คนให้หันมา
อ่านหนังสือกันมากขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะด้านการอ่านและเพิ่มพูนความรู้ให้กับตนเอง
สามารถเปิดโลกทัศน์ของตนเองให้กว้างมากขึ้น ซึ่งใช้เวลาว่างให้เกิ ดประโยชน์และเกิดคุณค่า
มากที่สุด และเนื้อหาในเรื่องยังสะท้อนสังคมทั้งในด้านต่างๆและทำให้คนอ่านนั้นตระหนักและ
สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ เช่น วิถีชีวิตริมคลองในชนบทและวิถีชีวิตในเมืองที่ทำให้
เห็นถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดและเป็นสภาพสังคมที่มอี ยู่จรงิ ทำให้ผู้อ่านตระหนักถึงชีวิตความเป็นจริง
ของมนุษย์ ชี้ให้เห็นว่าการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย มีความพอเพียง พึ่งพาธรรมชาติเป็นหลักย่อมสร้าง
ความสุขทแ่ี ท้จรงิ ใหเ้ กิดข้นึ ได้ และคนเราทกุ คนตอ้ งมีความทุกข์ ตอ้ งผา่ นเรื่องเลวรา้ ยมาบ้าง สำคัญคือ เราจะ
จัดการและก้าวพ้นความทุกข์ ปัญหานั้นๆไปได้อย่างไร ดังนั้น เรา จะได้รับข้อคิดที่ปลุกจิตสำนึกที่ถูกต้อง
และดีงามใน ด้านการดำเนินชีวิตตามแบบของคนไทย และ การปฏิบัติตามหลักศาสนา ผู้อ่านจะได้ซึมซับ
แนวคิดที่มีคุณค่าต่าง ๆ ผ่านตัวละครและ เหตุการณ์ในเรื่อง ทำให้คนเรารู้ว่าการท่ีเรามีความสุขน้ัน ความสุข
ของคนรอบขา้ งก็คอื ความสขุ ของเรา ดงั ประโยคที่วา่ “แม่ของกะทเิ คยให้ความชว่ ยเหลือหลายครั้ง โดยเฉพาะ
ค่าเล่าเรยี น แมด่ ูจะทำให้ คนรอบข้างมคี วามสขุ ไดอ้ ย่างน่าชนื่ ชม”
๓.๕ ทศั นะของผู้เขียนที่มตี อ่ “ความสุขของกะท”ิ
ทรรศนะ น้ันหมายถึงความคิดเห็น ซึ่งเป็นความคิดเห็นในระดับผิวเผิน หรืออาจจะเรียกอีกอย่างว่า
มุมมอง ซึ่งก็มีคำหลายๆ คำท่ีสามารถบ่งบอกว่าข้อความน้ันๆ เป็น ทรรศนะ เช่น คำว่า น่าจะ คงจะ อาจจะ
หรือควรจะ เมื่อมันเป็นความคิดเห็นโดยผิวเผิน ดังนั้น ทรรศนะจึงยังไม่สามารถจะนำมาอ้างอิงได้
เนื่องจากว่าทรรศนะมันยังไม่ใช่ความจริงมันคือความคิดของคนแต่คนซึ่งแตกต่างกันไป โดยวรรณกรรมเรื่อง
ความสุขของกะทินั้นเป็นวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน ประเภทนวนิยาย ประจำปี 2549
ไดร้ บั การแปลเป็นภาษาตา่ งๆและได้มนี ักเขียนหลายท่านได้ให้ความคิดเห็นสั้นๆกบั วรรณกรรมนี้ไวด้ งั นี้
"งดงามและสะอาดสะอา้ น กนิ ใจ จับใจ" วาณชิ จรุงกจิ อนันต์
"เรียบงา่ ย สวยงาม สนั้ แตส่ ั่นอารมณ์" วินทร์ เลยี ววาริณ
"วิธีการนำเสนอเรื่องสะเทือนอารมณ์ลึกซึ้ง" เอริก้า วากเนอร์ (สนพ.อัลแลนแอนด์อัลวิน
ออสเตรเลยี )
๑๒
"สวยงามลึกซึ้ง เต็มไปด้วยความหมาย เศร้า แต่ให้ความหวัง เป็นอัญมณีน้อยที่เปี่ยม
พลงั " เคทลนิ ดลุย (สนพ.อเธเนียมบคุ๊ ส์ไซมอนแอนด์ซูสเซอร์ สหรัฐฯ)
"ใช้คำน้อย แต่เป็นงานเขียนที่รุ่มรวยและอบอุ่น" คริสทีน เบเคอร์ (สนพ.กาลิมารเยาวชน
ฝรง่ั เศษ)
"เป็นวรรณกรรมชน้ิ งาม ไร้จริต ประทบั ใจ" อวั ร์ซลู า่ เฮ็กเคล (สนพ.เซซลิ เี ดรสเลอร์ เยอรมน)ี
"ไม่ใชห่ นงั สอื แนวแฟนตาซีตามสมยั นยิ ม แต่เตม็ ไปดว้ ยอารมณอ์ บอุน่ ลึกซึ้ง"
ฮิโรโกะ โยโกงาว่า (สนพ.โคดันฉะ ญี่ปุ่น) และที่ขาดไปไม่ได้เลยผู้แต่งวรรณกรรมเรื่องความสุขของ
กะทินั้นเอง คุณงามพรรณ เวชชาชีวะที่ต้องการเล่าเรื่องราวของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่ชีวิตของเธอได้ผ่านท้ัง
ความสขุ และความทุกข์ ความผูกพนั และการพลัดพราก แต่เธอกส็ ามารถผา่ นอุปสรรค์นนั้ ได้ ด้วยกำลังใจของ
คนรอบขา้ ง ซึ่งผเู้ ขียนต้องการสื่อใหเ้ หน็ ว่าตัวละครเอก คือกะทิต้องการทิ้งอดีตไวใ้ ห้เป็นเพียงเงา และท่านเอง
ได้บอกว่า ความสุขที่ได้ระหว่างการเขียนเร่ืองนี้มากล้น และความสุขเพิ่มขึ้นเมื่อผลงานปรากฏออกมาเป็น
หนงั สอื หวังหมดใจว่าจะสรา้ งความบันเทิงให้กบั ผู้อ่านได้ แม้ในชว่ งเวลาไม่เกนิ หนงึ่ ชั่วโมง ถ้าถูกใจก็สัญญาว่า
จะมงี านเขียนอน่ื ตามมา ถ้าไมถ่ กู ใจก็จะกลับไปกม้ หนา้ แปลหนงั สอื ต่อไปโดยดี
บทสรุป
รายงานเรื่อง”คุณค่าวรรณกรรมเรื่องความสุขของกะทิ”คณะผู้จัดทำได้ค้นคว้าและวิเคราะห์คุณค่า
ของวรรณกรรมในด้านวรรณศิลป์ ด้านเนื้อสาระ ด้านสังคม การนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและทัศนะ
ของผู้เขียนที่มีต่อ “ความสุขของกะทิ” พบว่าในด้านวรรณศิลป์นั้นเป็นวรรณกรรมที่ใช้ภาษาได้เรียบง่าย
สั้นกระชับและลึกซึ้งง่ายต่อการทำความเข้าใจถึงอารมณ์ที่ผู้แต่ต้องการจะสื่อออกมา คุณค่าทางด้านเนื้อหา
สาระพบประเด่นหลัก ๒ หัวข้อด้วยกัน ได้แก่ ๑. รูปแบบ และ ๒. องค์ประกอบของเรื่อง โดยองค์ประกอบ
ของเรื่องนั้นเราได้แยกย่อยออกมาเป็น ๕ ประเด็นด้วยกัน ๒.๑ สาระ ๒.๒ โครงเรื่อง ๒.๓ ตัวละคร ๒.๔ ฉาก
และ ๒.๕ กลวิธีการแต่ง ต่อมาด้านสังคมในเรื่องความสุขของกะทินั้นสะท้อนให้เห็น ๔ ด้านหลักๆด้วยกัน
ได้แก่ ๑.สะท้อนให้เห็นถึงสังคมวิถีเช้าบ้านและวิถีคนกรุง ๒.สะท้อนเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย
๓. สะท้อนถึงสังคมวิถีพุทธของคนไทย และ ๔.สะท้อนถึงสถาบันครอบครัว และสุดท้ายการนำไปประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจำวันพบประเด่นหลักคือวรรณกรรมเรื่องความสุขของกะทินั้นสะท้อนภาพสังคมที่ทำให้ตระหนัก
และสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ ชี้ให้เห็นว่าการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย มีความพอเพียง
พึ่งพาธรรมชาติเป็นหลักย่อมสร้างความสุขที่แท้จริงให้เกิดขึ้นได้ และคนเราทุกคนต้องมีความทุกข์ ต้องผ่าน
เรอ่ื งเลวรา้ ยมาบ้าง แตท่ สี่ ำคัญคอื เราจะกา้ วพน้ ความทุกข์ของปัญหานนั้ ๆไปได้อยา่ งไร อย่างสุดท้ายทศั นะของ
ผูเ้ ขียนท่ีมตี อ่ “ความสขุ ของกะท”ิ พบวา่ วรรณกรรมเรื่องความสุขของกะทินั้นเป็นวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอด
เยยี่ มแห่งอาเซียน ประเภทนวนิยาย ประจำปี 2549 ไดร้ บั การแปลเป็นภาษาตา่ งๆและได้มีนักเขียนหลายท่าน
ไดใ้ หค้ วามคิดเหน็ ส้นั ๆกบั วรรณกรรมนี้ไว้ และท่ีขาดไปไม่ได้เลยผู้แต่งวรรณกรรมเร่ืองความสขุ ของกะทินั้นเอง
คุณงามพรรณ เวชชาชีวะที่ต้องการเล่าเรื่องราวของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่ชีวิตของเธอได้ผ่านทั้งความสุขและ
ความทุกข์ ความผูกพัน และการพลัดพราก แต่เธอก็สามารถผ่านอุปสรรค์นั้นได้ ด้วยกำลังใจของคนรอบข้าง
ซึ่งผู้เขียนต้องการสื่อให้เห็นว่าตัวละครเอก คือกะทิต้องการทิ้งอดีตไว้ให้เป็นเพียงเงา และท่านเองได้บอกว่า
ความสุขที่ได้ระหว่างการเขียนเรื่องนี้มากล้น และความสุขเพิ่มข้ึนเมื่อผลงานปรากฏออกมาเป็นหนังสือ
หวังหมดใจว่าจะสร้างความบันเทิงให้กับผู้อ่านได้ แม้ในช่วงเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ถ้าถูกใจก็สัญญาว่าจะ
มงี านเขียนอืน่ ตามมา ถ้าไม่ถกู ใจก็จะกลับไปกม้ หนา้ แปลหนงั สอื ตอ่ ไปโดยดี
บรรณานกุ รม
(๒๕๖๐). เรยี กใช้เมื่อ ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก www.dek-d.com: https://sites.google.com
(๑๕ มถิ ุนายน ๒๕๖๐). เรียกใชเ้ มอ่ื ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก amarinbooks.com: https://amarinbooks.com/
AMARINBOOKS TEAM. (ม.ป.ป.). บทบาทของตวั ละครใน “ความสุขของกะทิ” ทที่ ำให้เรื่องราวกลมกลอ่ ม. เรยี กใช้เมื่อ
๒๕๖๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก amarinbooks.com: https://amarinbooks.com
Jiang Nannan (พสั วี). (๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔). กลวธิ กี ารแต่งและแนวคดิ ในนวนยิ ายชุด. เข้าถงึ ได้จาก
http://arts.hcu.ac.th/upload/files
คนพันธุ์ N. (๒๕๕๘). เรยี กใชเ้ มือ่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก www.bangkokbiznews.com:
https://www.bangkokbiznews.com
ความรู้พ้นื ฐานเกยี่ วกับการวเิ คราะห์วรรณคดี. (ม.ป.ป.). เรยี กใชเ้ มอ่ื ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก www.enlightenth.com:
https://www.enlightenth.com
ความสุขของกะท.ิ (๗ มกราคม ๒๕๕๒). เรยี กใช้เมอ่ื ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก hilight.kapook.com:
https://hilight.kapook.com
งามพรรณ เวชชาชวี ะ ซไี รต์หญงิ คนที่ 5. (๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕). เรยี กใช้เม่ือ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก
www.happyreading.in.th: https://www.happyreading.in.th
นอ้ งอนิ ทร.์ (๑๖ มกราคม ๒๕๖๒). "ความสขุ ของกะทิ" รอยยม้ิ ในวยั เยาว์ กับความเศร้าทีเ่ ราตา่ งตอ้ งเจอ. เรียกใช้เมื่อ ๕
พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก นอ้ งอินทร:์ https://www.naiin.com/news-activities/2252
นางวันวสิ าข์ อังศุเกยี รตถิ าวร. (ม.ป.ป.). การวเิ คราะหว์ จิ ารณว์ รรณกรรม หลกั เหตผุ ลน าคมความคิด. เรียกใช้เม่ือ ๕
พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก chomlearning/media/TH10.pdf:
http://110.164.59.3/chomlearning/media/TH10.pdf
นางวนั วสิ าข์ อังศเุ กยี รตถิ าวร. (ม.ป.ป.). การวเิ คราะหว์ ิจารณว์ รรณกรรม หลักเหตุผลน าคมความคดิ . เรียกใช้เมื่อ ๕
พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก http://110.164.59.3/chomlearning/media/TH10.pdf:
http://110.164.59.3/chomlearning/media/TH10.pdf
นางสาวเกศดา เพ็งวิชัย. (๕ ตลุ าคม ๒๕๕๖). วิจารณ์วรรณกรรม ความสขุ ของกะทิ. เรียกใชเ้ มือ่ ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก
kadsada.blogspot.com: http://kadsada.blogspot.com
นายภทั รวรรธน์ ปจิ จวงค์. (ม.ป.ป.). การวิเคราะห์วรรณคดีด้านวรรณศิลป.์ เรียกใช้เมือ่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔ จาก
sites.google.com: https://sites.google.com
รุจโิ รจน์ ยอดขำ. (ม.ป.ป.). ความสขุ ของกะทิ…กบั ชวี ติ ทเี่ ขม. เรียกใชเ้ มื่อ ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก
http://human.tru.ac.th/human_culture/download/c0024.pdf:
http://human.tru.ac.th/human_culture/download/c0024.pdf
รู้จัก งามพรรณ เวชชาชีวะ นักเขยี นซไี รต์ ความสขุ ของกะทิ. (๑๒ มกราคม ๒๕๕๒). เรยี กใช้เม่ือ ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก
hilight.kapook.com: https://hilight.kapook.com
ลลติ า บุบผามะตะนัง. (๒๕๕๖). มองประสบการณช์ ีวิตผา่ นรปู เลม่ . เรยี กใช้เมอ่ื ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก
http://meiwlalittakikkok.blogspot.com: http://meiwlalittakikkok.blogspot.com/
วรรณกรรมไมเ่ คยเกา่ “ความสุขของกะท”ิ . (๒๕๖๓). เรียกใชเ้ ม่ือ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก intrend.trueid.net:
https://intrend.trueid.net/article/
วรรณคดีและวรรณกรรม. (๒๕๕๑). เรียกใชเ้ มอ่ื ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก academic.obec.go.th:
http://academic.obec.go.th/
วัฒนา พรหมจรรย.์ (๒๒ มิถนุ ายน ๒๕๕๕). ความสขุ ของกะทิ วรรณกรรมที่น่าอา่ น. เรยี กใช้เมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก
www.gotoknow.org: https://www.gotoknow.org
สำนักงานพมิ พ์ประพนั ธส์ าสน์ ชมุ ชนคนรกั การอา่ น. (ม.ป.ป.). งามพรรณ เวชชาชวี ะ. เรยี กใช้เมอื่ ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก
www.praphansarn.com: http://www.praphansarn.com
สุภาวดี ไชยชะลอ. (๒๕๖๔). ‘ชั่วนิรนั ดร์’ กับ ‘ความสุขของกะท’ิ ชวนเด็กเข้าใจคณุ คา่ ของชวี ิตผา่ น ‘ความตาย’ ใน
วรรณกรรมเยาวชน. เขา้ ถึงไดจ้ าก www.thairath.co.th: https://www.thairath.co.th
หลกั การพิจารณาคณุ คา่ วรรณคดแี ละวรรณกรรม. (ม.ป.ป.). เรยี กใช้เมื่อ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก www.sena.ac.th:
http://www.sena.ac.th
อ.บุญกวา้ ง ศรีสุทโธ. (ม.ป.ป.). อ.บุญกวา้ ง ศรีสุทโธ. เรียกใช้เมือ่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก sites.google.com:
https://sites.google.com
อริสา พรหมลา. (๒๕๕๗). การวจิ ารณว์ รรณกรรมและวรรณคดี. เรยี กใชเ้ ม่ือ ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก sites.google.com:
https://sites.google.com
อรสิ า พรหมลา. (๒๕๕๗). การวิจารณ์วรรณกรรมและวรรณคดี. เรยี กใชเ้ มื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก sites.google.com:
https://sites.google.com
อริสา พรหมลา. (๒๕๕๗). การวจิ ารณว์ รรณกรรมและวรรณคดี. เรยี กใชเ้ มือ่ ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก sites.google.com:
https://sites.google.com
อลงกรณ์ พลอยแกว้ . (๒๕๖๔). การวเิ คราะห์วจิ ารณว์ รรณกรรม. เรยี กใช้เมอ่ื ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก
www.trueplookpanya.com: https://www.trueplookpanya.com
อลงกรณ์ พลอยแก้ว. (ม.ป.ป.). การวเิ คราะห์วิจารณว์ รรณกรรม. เรยี กใชเ้ มอื่ ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ จาก
www.trueplookpanya.com: https://www.trueplookpanya.com
อาจารยศ์ ริ ลิ กั ษณ์ บตั รประโคน. (๒๕๕๒). เรยี กใช้เมอ่ื ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จาก http://www.uniserv.buu.ac.th :
http://www.uniserv.buu.ac.th/