The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การรู้เท่าทันสื่อ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ttangkwa21, 2022-03-17 11:16:09

แผนการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การรู้เท่าทันสื่อ

แผนการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การรู้เท่าทันสื่อ

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี



นางสาวภาณุดา เดชคุ้ม

เลขทป่ี ระจาตวั ผู้สอบ ๒๔๔๖๐๐๐๑๔
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓

รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู

เร่ือง การร้เู ทา่ ทนั สื่อ

โดย

นางสาวภาณุดา เดชคมุ้
เลขประจำตัวสอบ ๒๔๔๖๐๐๐๑๔

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร

กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์

บทนำ
ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตาม

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ นี้ได้กำหนดสาระการเรียนรู้ออกเป็น ๔ สาระ ได้แก่
สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพสาระท่ี ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ และสาระ
ท่ี ๔ เทคโนโลยี มีสาระเพิ่มเติม ๔ สาระ ได้แก่สาระชีววิทยาสาระเคมีสาระฟิสิกส์และสาระโลกดาราศาสตร์และ
อวกาศซงึ่ องค์ประกอบของหลกั สูตรท้ังในด้านของเนื้อหา การจดั การเรียนการสอน และการวดั และประเมนิ ผลการ
เรียนรู้นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น ให้มีความ
ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ สำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ได้กำหนดตัวชี้วัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง ท่ผี เู้ รยี นจำเป็นต้องเรียนเปน็ พ้ืนฐาน เพ่ือให้สามารถ
นำความรู้นี้ไปใช้ในการดำรงชีวิตหรือศึกษาต่อในวิชาชีพที่ต้องใช้วิทยาศาสตร์ได้โดยจัดเรียงลำดับความยากง่าย
ของเนื้อหาแต่ละสาระในแต่ละระดับชั้นให้มีการเชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการเรียนรู้และการจัดกิจกรรมการ
เรียนรูท้ ่ีส่งเสริมให้ผูเ้ รียนพฒั นาความคดิ ท้ังความคดิ เป็นเหตเุ ป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะหว์ จิ ารณ์ มีทักษะที่
สำคัญทั้งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรูด้ ้วย
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลหลากหลายและ
ประจกั ษ์พยานท่ตี รวจสอบได้

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการ
เรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ที่มุ่งหวังใหเ้ กิดผลสัมฤทธิ์ต่อผูเ้ รียนมากท่ีสุด จึงได้จัดทำตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ ขึ้น เพื่อให้สถานศึกษา ครูผู้สอนตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ได้ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา
หนังสือเรียน คู่มือครูสื่อประกอบการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผล โดยตัวชี้วัดและสาระการ
เรยี นร้แู กนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่จัดทำขึ้นนี้ได้ปรับปรุงเพื่อให้มีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกันภายในสาระการ
เรียนรู้เดียวกัน และระหว่างสาระการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตลอดจนการเชื่อมโยงเนื้อหา
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์ด้วย นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงเพื่อให้มีความทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลง
และความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการตา่ ง ๆ และทัดเทียมกับนานาชาติกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์สรุปเป็น
แผนภาพไดด้ ังนี้

เปา้ หมายของวิทยาศาสตร์
ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ด้วยตนเองมากที่สุดเพื่อให้ได้ทั้ง

กระบวนการและความรู้จากวิธีการสังเกต การสำรวจตรวจสอบ การทดลอง แล้วนำผลที่ได้มาจัดระบบเป็น
หลักการ แนวคิด และองคค์ วามรู้

การจดั การเรยี นการสอนวิทยาศาสตร์จึงมเี ป้าหมายทีส่ ำคญั ดังน้ี
๑. เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจหลักการ ทฤษฎแี ละกฎทเ่ี ป็นพนื้ ฐานในวิชาวทิ ยาศาสตร์
๒. เพื่อให้เข้าใจขอบเขตของธรรมชาติของวชิ าวทิ ยาศาสตร์และข้อจำกดั ในการศกึ ษา
วชิ าวิทยาศาสตร์
๓. เพือ่ ให้มีทักษะท่ีสำคญั ในการศกึ ษาค้นคว้าและคดิ ค้นทางเทคโนโลยี
๔. เพื่อให้ตระหนักถึงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยมี วลมนษุ ย์
และสภาพแวดลอ้ มในเชิงท่ีมีอิทธิพลและผลกระทบซ่ึงกันและกัน
๕. เพอื่ นำความร้คู วามเข้าใจ ในวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
ตอ่ สังคมและการดำรงชวี ิต
๖. เพื่อพัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแกป้ ญั หา และ
การจัดการ ทักษะในการสือ่ สาร และความสามารถในการตดั สนิ ใจ
๗. เพอ่ื ให้เปน็ ผู้ท่มี จี ิตวทิ ยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มในการใช้
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์

เรยี นรอู้ ะไรในวิทยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่เน้นการเชื่อมโยงความรู้กับ

กระบวนการ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้และ
แก้ปัญหาที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีการทำกิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติจริง
อย่างหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชนั้ โดยกำหนดสาระสำคัญ ดังนี้

วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิตการดำรงชีวิตของ
มนษุ ย์และสตั วก์ ารดำรงชวี ิตของพชื พันธกุ รรม ความหลากหลายทางชีวภาพและววิ ฒั นาการของสิง่ มชี ีวิต

วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ เรยี นรูเ้ กี่ยวกบั ธรรมชาติของสาร การเปลย่ี นแปลงของสารการเคล่ือนท่ี พลังงาน
และคลน่ื

วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกับ องค์ประกอบของเอกภพ ปฏิสัมพันธ์ ภายในระบบสุริยะ
เทคโนโลยีอวกาศ ระบบโลก การเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา กระบวนการ เปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ และผลต่อ
สิ่งมชี วี ติ และสิ่งแวดล้อม

เทคโนโลยี
การออกแบบและเทคโนโลยี เรียนรู้เกี่ยวกับ เทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิต ในสังคมที่มีการ

เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา
หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบ เชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง
เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม

วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับ การคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา เป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ในการ
แกป้ ัญหาท่พี บในชีวติ จริงได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัด
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3

สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต

และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอด
พลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและ
ผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแนวทางในการอนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาส่งิ แวดล้อมรวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจาก
เซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ี
ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ี
ทำงานสมั พนั ธก์ นั รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน
มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมสาร
พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทาง
ชวี ภาพและววิ ัฒนาการของสง่ิ มีชวี ิต รวมทงั้ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะ การ

เคลอ่ื นทีแ่ บบต่าง ๆ ของวตั ถุรวมท้งั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน
มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์

ระหว่างสสารและพลงั งาน พลังงานในชวี ิตประจำวัน ธรรมชาติ ของคลื่น ปรากฏการณ์
ที่เก่ยี วขอ้ งกับเสยี ง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ รวมทัง้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพกาแล็กซีดาว

ฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการ
ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายใน
สาระที่ ๔ เทคโนโลยี โลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ
มาตรฐาน ว ๔.๑ โลก รวมทัง้ ผลตอ่ ส่ิงมีชีวิตและสง่ิ แวดลอ้ ม

มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่าง
รวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ เพ่ือ
แก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิง
วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และ
ส่งิ แวดลอ้ ม
เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ
เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการ
แก้ปัญหาได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ร้เู ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม

โครงสร้างรายวิชา วิชาวิทยาการคำนวณ ม.3

หน่วย ช่ือหน่อยการ มาตรฐาน สาระสำคัญ ช้นิ งาน เวลา น้ำหนกั
ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นรู้/ (ชัว่ โมง) คะแนน
1 การจดั การ การรวบรวมข้อมูลเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของ ใบงาน
ขอ้ มลู และ ตวั ชีว้ ัด การจัดการข้อมูลและสารสนเทศดังนั้นควรมีความ ท่ี 1 เรื่อง 4 10
สารสนเทศ ว 4.2 ม.3/2 เข้าใจเกี่ยวกับลักษณะและประเภทของข้อมูล การจัดการ
ตลอดจนวิธีการรวบรวมข้อมูลเพื่อจะได้นำไป ข้อมูลและ 4 10
2 ความนา่ เชอื่ ถือ ว 4.2 ม.3/3 ประยกุ ตใ์ ช้งานอย่างถกู ตอ้ ง สารสนเทศ
ของข้อมูล
การประมวลผลข้อมูลเป็นการคำนวณหรือการ ใบงาน
เปรียบเทียบเพื่อให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบที่เป็น ที่ 2 เรื่อง
ประโยชน์ตรงตามความตอ้ งการ ความ
นา่ เชือ่ ถอื
การจัดการข้อมูลและสารสนเทศมีการนำ ของข้อมลู
ซอฟต์แวร์ต่างๆมาใช้ในการจัดการข้อมูลโดยมีทั้ง
ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลซอฟต์แวร์ที่ใช้
ในการประมวลผลข้อมูลและซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการ
นำเสนอข้อมูลเพื่อการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ
อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

การสืบค้นข้อมูลเป็นกระบวนการค้นหาข้อมูล
ตามท่ีตอ้ งการโดยใช้เครอ่ื งมอื ต่างๆอีกทั้งข้อมูลที่ได้
จะต้องมีการประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลเพอื่
คัดเลือกข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นข้อมลู ที่มีคุณค่ามี
ความน่าเชื่อถือเป็นการพิจารณาเพื่อคัดเลือกจาก
แหล่งขอ้ มลู ตา่ งๆซง่ึ จากการประเมินความน่าเชอ่ื ถอื
จะทำให้เราได้ข้อมูลที่มีคุณค่าและนำข้อมูลไป
ประยุกต์ใช้งานอยา่ งเหมาะสม

การรู้เท่าทันสื่อเป็นลักษณะสำคัญที่ครอบคลุม
ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ
ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศผ่านสื่อและ
เทคโนโลยดี ิจิทัลการเลือกรับวิเคราะหป์ ระเมินและ
นำขอ้ มลู ทไี่ ดร้ บั ไปใช้ในทางสรา้ งสรรค์

โครงสรา้ งรายวิชา วิชาวิทยาการคำนวณ ม.3

หนว่ ย ช่ือหน่อยการ มาตรฐาน เวลา น้ำหนัก
ที่ เรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
การเรยี นร/ู้ สาระสำคญั ช้นิ งาน
3 เทคโนโลยี 4 10
สารสนเทศ ตัวช้วี ดั
20
ว 4.2 ม.3/4 การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศโดยคำนึงถึง ใบงาน

ความปลอดภัยในการใช้งานเช่นการทำธุรกรรม ที่ 3 เรอื่ ง

ออนไลน์การซื้อสินค้าออนไลน์และการใช้งาน อาชีพใน

เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมีจติ สำนกึ และจริยธรรม อนาคต

ที่ดีคำนึงถึงผลกระทบที่อาจส่งผลต่อผู้อื่นภายใต้

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเทคโนโลยี

สารสนเทศหลายฉบับเช่นพระราชบัญญัติว่าด้วย

ก า ร ก ร ะ ท ํ า ค ว า ม ผ ิ ด เ ก ี ่ ย ว ก ั บ ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร์

พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซ

เบอรโ์ ดยพระราชบญั ญัติว่าด้วยการกระทําความผิด

เกยี่ วกับคอมพิวเตอร์พ.ศ 2550 และพระราชบญั ญตั ิ

ว่าด้วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับท่ี

2) พ.ศ.2560 หรือลิขสิทธ์ิเป็นผลงานที่เกิดจากการ

ใช้ปัญญาความรู้ความสามารถในการสร้างสรรค์

ผลงานซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภท

หน่ึงทกี่ ฎหมายใหค้ วามคุ้มครอง

สอบกลางภาค

โครงสร้างรายวชิ า วิชาวิทยาการคำนวณ ม.3

หน่วย ชื่อหน่อยการ มาตรฐาน สาระสำคัญ ช้ินงาน เวลา นำ้ หนกั
ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นรู้/ (ช่วั โมง) คะแนน
การทำให้อุปกรณ์หลายตัวสามารถสื่อสาร ใบงาน
4 แอพพลิเคชัน่ ตัวช้วี ดั แลกเปลี่ยนข้อมูลและการทำงานร่วมกันได้น้ัน ท่ี 4 เรือ่ ง 6 20
ว 4.2 ม.3/1 เรยี กว่าเทคโนโลยี IOT ต้องอาศัยความสามารถของ แอพพลเิ ค
smart device ซึ่งอุปกรณ์ที่มีหน่วยประมวลผล ช่ัน
หรือเซ็นเซอร์ภายในตัวเพื่อส่งข้อมูลผ่าน cloud
computing หรือ wireless network เป็นตัวกลาง
ในการรับส่งข้อมูลภายในเครือข่ายเพื่อประมวลผล
และอาศัย dashboard สำหรับแสดงผลและใช้
ควบคุมการทำงานจากผู้ใช้

Application เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมา
เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ b การ
ออกแบบมาเพื่อใช้ในงานหลายรูปแบบ ซึ่งการ
พัฒนาโปรแกรมในปัจจุบันใช้โปรแกรมภาษาไพ
ธอนเพราะเปน็ ภาษาที่อ่านแล้วเขา้ ใจง่ายไม่ซบั ซอ้ น

สอบปลายภาค 30
รวมคะแนน 100

อตั ราส่วนคะแนน
• คะแนนเก็บระหว่างภาคเรียน 50 คะแนน
- ก่อนกลางภาค 20 คะแนน
- หลังกลางภาค 30 คะแนน
• คะแนนสอบกลางภาค 20 คะแนน
• คะแนนสอบปลายภาค 30 คะแนน
• รวม 100 คะแนน

ลงช่ือ ..........................................................ครูผู้สอน
(นางสาวภาณดุ า เดชค้มุ )

โครงสรา้ งแผนการจดั การเรยี นรู้
รายวชิ า ว 23181 วิทยาการคำนวณ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอน/กระบวนการจัดการเรียนรู้ เวลา
(ช่ัวโมง)
การจัดการข้อมลู และ การรวบรวมข้อมูล - รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย
สารสนเทศ - วธิ ีการสอนแบบกระบวนการกลมุ่ 2
(Group Process) 2
การประมวลผลขอ้ มลู
- รูปแบบการสอนแบบการอภปิ ราย 2
การใชซ้ อฟต์แวรใ์ นการจัดการข้อมูล 1
ความนา่ เชื่อถือของ การสบื คน้ เพือ่ หาแหลง่ ขอ้ มลู - วธิ ีการสอนแบบกระบวนการกลมุ่
ข้อมูล (Group Process) 2
- วธิ กี ารสอนโดยใข้แนวคิดเชิงคำนวณ 1
การประเมนิ ความน่าเชอื่ ถอื ของขอ้ มูล (Computational ThinKing) 2
การรเู้ ทา่ ทนั ส่อื - รูปแบบการสอนแบบการอภปิ ราย 2
เทคโนโลยีสารสนเทศ การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ - วธิ กี ารสอนแบบกระบวนการกลมุ่
กฎหมายคอมพิวเตอร์ และลิขสทิ ธิ์ (Group Process)
- รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย
- วธิ ีการสอนโดยเนน้ การเรียนรแู้ บบร่วมมือ
(Collaborative learning)
- เทคนิคค่คู ดิ (Think Pair Share)
- รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย
- วิธกี ารสอนแบบกระบวนการกลมุ่
(Group Process)
- รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย
- วิธีการสอนแบบการใชค้ ำถาม
(Questioning Method)
- รปู แบบการสอนแบบการอภปิ ราย
- วธิ กี ารสอนแบบการใชค้ ำถาม
(Questioning Method)
- รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย
- วธิ ีการสอนแบบกระบวนการกลมุ่
(Group Process)

โครงสร้างแผนการจัดการเรยี นรู้
รายวชิ า ว 23181 วิทยาการคำนวณ
กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วธิ สี อน/กระบวนการจดั การเรียนรู้ เวลา
(ชัว่ โมง)
แอปพลเิ คชัน แนวคดิ และองคป์ ระกอบของ IOT - รปู แบบการสอนแบบบรรยาย (Lecture)
- วิธีการสอนแบบการใช้คำถาม 2
ซอฟตแ์ วร์ที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชนั (Questioning Method)
- วิธีการสอนโดยใขแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ 2
ซอฟตแ์ วรท์ ี่ใช้ในการพฒั นาแอปพลิเคช่นั (2) (Computational ThinKing)
2
- รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย

- วธิ ีการสอนแบบกระบวนการกลมุ่
(Group Process)
- วธิ ีการสอนโดยใช้การแสดงบทบาทสมมติ
(Role Playing)
- วิธกี ารสอนโดยใขแ้ นวคิดเชิงคำนวณ
(Computational ThinKing)
- รปู แบบการสอนแบบบรรยาย (Lecture)
- วิธีการสอนโดยใขแ้ นวคิดเชิงคำนวณ
(Computational ThinKing)

คำอธิบายรายวิชา
รายวิชา วิทยาการคำนวณ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้ันมธัยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1
รหสั วิชา ว 23181 เวลา 20 ชั่วโมง/ภาค

ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลและสารสารเทศ การใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ
ศึกษาเกี่ยวกับการประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การรู้เท่าทันสื่อ ศึกษาเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยี
สารสนเทศและกฎหมายคอมพวิ เตอร์ ศึกษาเกี่ยวกบั แอปพลิเคชัน เทคโนโลยี IoT และการพฒั นาแอปพลิเคชนั

โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์การ
แก้ปัญหา วางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเองผ่านกระบวนการคิด
และปฏบิ ัติ

เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเป็น
ขั้นตอน และเป็นระบบ มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการส่ื อสารเบี้องต้นใน
การแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธภาพ ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และ
นำเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิด
และจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการ
ตดั สินใจ และเป็นผู้มจี ิตวิทยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างสร้าง
สรรค์

ตวั ชว้ี ัด ว 4.2

ม.3/1 พฒั นาแอปพลิเคชันทีม่ กี ารบูรณาการกับวิชาอืน่ อยา่ งสร้างสรรค์
ม.3/2 รวบรวมขอ้ มลู ประมวลผล ประเมนิ ผลนำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตามวตั ถุประสงค์ โดยใช้
ซอฟตแ์ วร์หรือบริการบนอินเทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลาย
ม.3/3 ประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู วเิ คราะห์สอื่ และผลกระทบจากการให้ขา่ วสารทผี่ ิด เพื่อ
การใช้งานอย่างรู้เท่าทัน
ม.3/4 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมีความรบั ผิดชอบต่อสง้ คมปฏิบัติตามกฎหมาย
เกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์ใชล้ ขิ สิทธ์ขิ องผูอ้ น่ื โดยชอบธรรม

รวม 4 ตวั ช้วี ัด

แผนการจดั การเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ความน่าเชือ่ ถือของข้อมลู ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

เร่อื ง การร้เู ท่าทันสอ่ื เวลา 1 ช่วั โมง

รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ผ้สู อน นางสาวภาณดุ า เดชคุ้ม

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทีพ่ บในชีวติ จริงอย่างเป็นข้ันตอน

และเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หา
ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมจี ริยธรรม

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การป้องกนั ตนเองจากการถูกจูงใจจากเน้ือหาของสื่อ สามารถวเิ คราะห์เนื้อหาของส่อื อย่างมีวจิ ารณญาณ

เพือ่ ให้สามารถควบคมุ การตคี วามเน้ือหาของสื่อที่มปี ฏสิ ัมพันธด์ ้วยนนั่ คอื การที่ไม่หลงเชื่อเนอ้ื หาทไ่ี ด้อา่ น ได้ยนิ
ไดฟ้ ัง แตส่ ามารถคิด วเิ คราะห์ แยกแยะ และรจู้ กั ต้ังคำถาม การสืบค้นเพื่อหาแหลง่ ข้อมลู การประเมนิ ความ
น่าเชื่อถอื ของข้อมูล ความสามารถในการเข้าถงึ สื่อ ความเข้าใจการประเมินค่าสารสนเทศและเนอื้ หาในส่ือ การ
สรา้ ง การใช้ประโยชน์ และการเฝา้ ระวงั สารสนเทศและเน้ือหาในสอ่ื

3. ตัวชี้วัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ตวั ชี้วัด
ว 4.2 ม.3/3 ประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของข้อมูลวเิ คราะห์สื่อ และผลกระทบจากการให้ข่าวสารที่
ผิด เพื่อการใชง้ านอย่างร้เู ทา่ ทนั
จุดประสงค์
1. วเิ คราะห์ ตีความและประเมนิ ค่าสื่อเพื่อการรเู้ ท่าทันส่ือ (K)
2. หลกี เลย่ี งส่อื ทก่ี ่อโทษต่อตนเองและสังคม (P)
3. เห็นความสำคญั ของการรู้เทา่ ทันส่ือ (A)

4. สาระการเรียนรู้
ความรู้

1. องค์ประกอบการรู้เท่าทนั ส่ือ
2. รเู้ ท่าทันสื่อดิจิทัลและการรเู้ ท่าทนั สื่อ
3. การใช้สือ่ และปัญหาที่พบปัจจุบนั
4. ผลกระทบของข้อมูลท่ผี ิดพลาด

5. สมรรถนะสำคัญ
1. ความสามารถในการสื่อสาร
ทักษะการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
ทกั ษะการคิดอย่างเปน็ ระบบ
ทกั ษะการคิดวิเคราะห์
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
ทกั ษะการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

7. ภาระงาน
1. แบบฝึกหดั หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง การรู้เท่าทันส่ือ หนา้ 29-31

8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. วิธีการสอนแบบการใช้คำถาม (Questioning Method)
2. วิธีการสอนแบบการอภิปราย

ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน

1. ครสู อบถามนกั เรยี นว่า นกั เรียนเป็นคนนึงท่ปี ระสบปัญหาเหล่านี้ไหม ?
1) ชอบแชร์ข้อมลู ตา่ งๆในโลกออนไลน์ โดยไมต่ รวจสอบขอ้ เท็จจริง
2) ไม่รู้ความเป็นไปของบา้ นเมอื ง โดยเฉพาะข่าวท่ีเกย่ี วกบั การดำเนนิ ชีวติ
3) ตกเป็นเหยื่อของสนิ ค้า ท่โี ฆษณาเกินจริง จนทำให้ในแต่ละเดือนไมม่ เี งินเหลอื ใช้
เพื่อเปน็ การกระตุ้นความสนใจของผเู้ รยี น และเสรมิ ด้วยรูปภาพข่าวเกีย่ วกับการรูเ้ ท่าทนั ส่อื แจ้ง
นักเรียนวา่ ทา้ ยคาบจะมกี ารทดสอบเกบ็ คะแนน

ข้นั สอน
2. ครูให้นกั เรียนดรู ปู เกี่ยวกบั สือ่ สอบถามความคิดเห็นนักเรยี น และอธิบายเก่ียวกบั สอ่ื

3. ครถู ามนักเรยี นวา่ กอ่ นทีจ่ ะสามารถวเิ คราะห์ และร้เู ท่าทนั สื่อได้ ควรมีพ้นื ฐานความรู้ ความสามารถ
ดา้ นใดบา้ ง (แนวคำตอบ การใชค้ อมพิวเตอร์ ความสามารถในการค้นหาข้อมูลขา่ วสาร)

4. ครอู ธบิ ายเรอ่ื งการรู้เท่าทนั สอ่ื (Media Literacy) และองค์ประกอบของการรู้เทา่ ทันส่ือ 4
องค์ประกอบ 1) ความสามารถในการเข้าถงึ ส่ือ
2) ความเขา้ ใจการประเมินคา่ สารสนเทศและเนื้อหาในสื่อ
3) การสรา้ ง การใช้ประโยชน์และการเฝา้ ระวังสารสนเทศและเน้ือหาในส่ือ
4) การสะท้อนคดิ

5. ครูอธิบายเรือ่ งการร้เู ท่าทนั ส่ือดิจิทัล 8 ดา้ น ประกอบด้วย
1) การใชอ้ นิ เตอร์เน็ตอย่างปลอดภยั
2) การปอ้ งกันความเปน็ ส่วนตัวและข้อมูล
3) การรักษาความสมั พนั ธแ์ ละการสื่อสาร
4) การปกป้องข้อมูลและแกป้ ญั หาการถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์
5) การป้องกนั ข้อมลู และชอ่ื เสียงทางออนไลน์
6) การสร้างอตั ลักษณส์ ่วนตัวในโลกออนไลน์
7) ความรเู้ ท่าทนั ขอ้ มูลดจิ ทิ ัล
8) การใช้ข้อมูลดิจิทลั อย่างสร้างสรรคแ์ ละไม่ละเมิดลิขสิทธ์ิ

พรอ้ มยกตัวอย่างของแตล่ ะดา้ น
6. ครูส่มุ นกั เรยี นให้ยกตัวอย่างการรเู้ ทา่ ทันสื่อคนละด้าน (แนวคำตอบ ดา้ นการปกป้องความเป็นส่วนตวั

และข้อมลู ยกตัวอยา่ ง ไม่เปดิ เผยข้อมูลที่อยใู่ ห้กบั บุคคลทไ่ี ม่รูจ้ ัก ไม่โพสต์ข้อมูลบัตรประจำตวั
ประชาชนลง Facebook โดยเฉพาะท่ีอยแู่ ละเลขประจำตัวประชาชน เปน็ ตน้ )
7. ครอู ธิบายต่อในเรอื่ งการใช้สอ่ื และปญั หาท่ีพบในส่ือปัจจบุ ัน และผลกระทบของข้อมูลทผี่ ิดพลาด
8. จากน้ันครูใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นออนไลน์ เร่ือง การรเู้ ท่าทนั ส่อื
จำนวน 10 ขอ้ 10 คะแนน โดยแจ้งนักเรยี นถึงเกณฑ์การผา่ นตอ้ งมีคะแนน 50 % ขึ้นไป

ขั้นสรปุ

9. ครสู รุปให้นกั เรยี นเข้าใจว่า การรู้เทา่ ทันส่ือสารสนเทศคือ การไมห่ ลงเช่ือเน้อื หาทีไ่ ด้อา่ น ไดฟ้ ัง แต่
ต้องใช้ความคิดและประสบการณ์ในการวเิ คราะห์ รู้จักตง้ั คำถามว่าสง่ิ น้นั เป็นจรงิ หรอื ไม่ มหี ลกั อา้ งอิง
ให้เกิดความน่าเชือ่ ถือมากน้อยเพยี งใด

10. ครบู อกนักเรียนถึงประโยชน์ของการรเู้ ท่าทนั ส่ือและมอบหมายงานใหน้ กั เรียนกลบั ไปทำแบบฝึกหัด
รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนา้ 29-31 เปน็ การบา้ นเพ่ือจะได้
ทบทวนความรู้

11. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเพ่มิ เติม

9. สื่อการเรยี นรู้

1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2

เรื่อง การรเู้ ท่าทนั สอ่ื

2. หนงั สือแบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการ

เรยี นรทู้ ี่ 2 เร่อื ง การร้เู ท่าทนั สื่อ

3. สอ่ื ออนไลน์ เรือ่ งการรู้เท่าทนั ส่อื https://anyflip.com/lokgo/nhlx/

4. ส่อื PowerPoint เร่อื งการรู้เท่าทันส่ือ







5. แบบทดสอบหลังเรยี นเร่ือง การร้เู ทา่ ทันส่ือ (ทำออนไลน์)
https://docs.google.com/forms/d/1BYUw9bE_I4KlEYUokBMv

0

w6JJDlM2x1njsm8zIW-QcqQ/viewform?edit_requested=true







10. การวัดและประเมนิ ผล
10.1 การประเมินแบบฝกึ หัด เรื่อง การรเู้ ทา่ ทนั ส่ือ

จดุ ประสงค์ วธิ ีการประเมิน เคร่ืองมอื การประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ

1.บอกความหมายการรู้เท่า ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝกึ หัดรายวิชาพนื้ ฐาน บอกความหมายการรเู้ ทา่
ทันสือ่ ดิจิทลั และการรเู้ ทา่ Exercise หน้า 29-30 วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ทันส่อื ดจิ ิทัลและการรเู้ ท่า
ทันส่ือได้ (K) (วิทยาการคำนวณ) ม.3 ทันสอ่ื ได้ถูกต้อง 70% ขึน้
ตรวจแบบฝึกหัด หนา้ 29-30 ไป
2.วิเคราะห์สถานการณ์ Exercise หนา้ 29-30
การรเู้ ทา่ ทันส่ือ แบบฝกึ หดั รายวิชาพื้นฐาน วิเคราะห์สถานการณ์การ
สงั เกตความมวี นิ ัย วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี รเู้ ทา่ ทันสื่อได้ถูกต้อง 70%
3.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมัน่ ใน (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3 ขน้ึ ไป
ประสงค์ การทำงาน หนา้ 31
ระดับคุณภาพ 2
แบบประเมิน คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์

เกณฑ์การให้คะแนน

รายการประเมนิ คะแนนข้อยอ่ ย คะแนนรายข้อ
4
1.อธิบายความหมายขององค์ประกอบของการรูเ้ ทา่ ทันส่ือได้ 1 2

2.อธิบายความหมายของการรู้เทา่ ทันส่ือดิจิทัลและการรูเ้ ท่าทนั สือ่ 4
ได้ถูกตอ้ ง 5

3.บอกการร้เู ท่าทนั ดจิ ิทลั ในแต่ละด้านได้ถกู ต้อง 1 15

4.บอกลักษณะการทำผดิ การรู้เท่าทนั สือ่ ดจิ ิทลั จากสถานการณท์ ่ี
กำหนดได้ถกู ต้อง

คะแนนเต็ม

เกณฑก์ ารตัดสนิ 9 คะแนนขึน้ ไป = ผ่าน ต่ำกว่า 9 คะแนน = ปรบั ปรุง

10.2 แบบทดสอบหลงั เรียนเรื่อง การรู้เทา่ ทันสอื่

จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เคร่ืองมือการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ

1.วิเคราะห์ ตีความและ ตรวจแบบทดสอบหลัง แบบทดสอบหลังเรียนเร่อื ง วเิ คราะห์ ตคี วามและ
ประเมนิ ค่าสือ่ เพอื่ การรู้เท่า เรยี นเรอ่ื ง การรู้เท่าทัน การรเู้ ทา่ ทันสื่อ ประเมินค่าสอื่ เพอื่ การ
ทันสอ่ื (K) สือ่ รูเ้ ทา่ ทันสอ่ื ไดถ้ ูกต้อง
แบบทดสอบหลงั เรียนเร่ือง 50% ข้ึนไป
2.หลกี เล่ยี งส่อื ท่กี ่อโทษต่อ ตรวจแบบทดสอบหลัง การรู้เท่าทนั ส่ือ
ตนเองและสังคม (P) เรียนเรื่อง การรู้เท่าทนั หลีกเล่ียงสอ่ื ที่ก่อโทษตอ่
สอื่ แบบทดสอบหลงั เรยี นเร่อื ง ตนเองและสังคมได้ถูกต้อง
3.เหน็ ความสำคญั ของการ การรู้เทา่ ทันสื่อ 50% ขนึ้ ไป
รู้เท่าทันส่อื (A) ตรวจแบบทดสอบหลงั
เรยี นเรือ่ ง การรู้เท่าทัน เห็นความสำคัญของการ
สือ่ รู้เทา่ ทันสื่อได้ถูกต้อง
50% ขนึ้ ไป

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

รายการประเมนิ จำนวนขอ้ คะแนนรายข้อ
1
1.บอกลกั ษณะการทำผิดการรู้เทา่ ทันสอ่ื ดิจิทัลจากสถานการณ์ที่ 2
1
กำหนดได้ถูกต้อง
1
2.อธิบายความหมายของการรเู้ ท่าทนั ส่ือดจิ ิทลั และการรเู้ ท่าทนั สอ่ื 2 1

ไดถ้ ูกตอ้ ง 10 คะแนน

3.บอกการร้เู ทา่ ทนั ดิจิทัลในแตล่ ะด้านได้ถกู ต้อง 3

4.บอกลกั ษณะการทำผิดการรู้เทา่ ทนั สื่อดิจิทลั จากสถานการณ์ท่ี 3

กำหนดได้ถูกต้อง

รวม 10 ข้อ

เกณฑก์ ารตดั สิน 5 คะแนนขนึ้ ไป = ผ่าน ตำ่ กวา่ 5 คะแนน = ปรับปรุง

เกณฑก์ ารให้คะแนน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี น
เกณฑ์การประเมิน ดี = 2 พอใช้ = 1 ควรปรับปรุง = 0
การผา่ นการประเมินทุกรายการต้องได้ 1 ข้นึ ไป

เลขท่ี ชอื่ -สกุล คะแนน สรปุ

1 2 2 2 รวม ผ่าน ไม่ผา่ น
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17

เกณฑ์ ลงช่ือ ..................................................... ผ้ปู ระเมิน
การสนใจในการฟัง นางสาวภาณดุ า เดชคุ้ม
การปฏบิ ัติตามใบงาน ........../........../..........
การสนใจในการตอบคำถาม

คะแนนรวมพฤติกรรมไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60

แบบบันทึกหลังแผนการสอน

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ความน่าเช่ือถือของข้อมูล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เร่ือง การรเู้ ท่าทนั ส่อื เวลา 1 ชวั่ โมง
รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ผสู้ อน นางสาวภาณุดา เดชค้มุ

ผลการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………….…………….ผ้สู อน
(…………………………………)

ตำแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………
ความคิดเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ …………………………….ผู้บริหารสถานศกึ ษา
(…………………..…………………………)
ตำแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………


Click to View FlipBook Version