คณิตศาสตร์ ม.1 เรื่อง สถิติ (Flips book)

ม.1 เ ่ลม 2 คณติ ศาสตร์หนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ (E-BOOK) รายวชิ าพน้ื ฐาน

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 2

ตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551

จัดทำโดย
นำงสำวอำทิตยำ สะปะ นิสิตชั้นปที ่ี 3 สำขำวชิ ำคณติ ศำสตร์

มหำวิทยำลยั มหำสำรคำม

สำรบัญ คณิตศำสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 1 เลม่ 2

เร่อื ง หน้ำ

สถิติ 1
3
1. การต้งั คาถามทางสถิติ 5

• ความหมายของคาถามทางสถิติ 7
• ประเภทของคาถามทางสถติ ิ 9
• แบบฝกึ ทกั ษะที่ 1
10
2. การเก็บรวบรวมข้อมลู 14
19
• ความหมายของขอ้ มลู 25
• แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 2 34
38
3. การนาเสนอขอ้ มลู และการแปลความหมายของขอ้ มลู 40

• การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยแผนภูมิรูปภาพ
• การนาเสนอข้อมลู ด้วยแผนภมู แิ ทง่
• การนาเสนอข้อมลู ด้วยกราฟเส้น
• การนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ยแผนภูมิรปู วงกลม
• แบบฝึกทักษะที่ 3

4. การนาความรเู้ กย่ี วกบั สถติ ิไปใชใ้ นชีวิตจรงิ

• แบบฝึกทักษะที่ 4

ควรรกู้ ่อนเรียน

กำรเก็บรวบรวมขอ้ มลู
⚫ ข้อมูลทเ่ี ป็นขอ้ เท็จจรงิ อาจเป็นขอ้ ความหรือตวั เลข ซ่ึงได้มาจากการเก็บรวมรวบโดยวิธีต่าง ๆ

เชน่ สงั เกต สอบถาม สัมภาษณ์ หรือทดลอง เป็นตน้
กำรจำแนกข้อมูล

⚫ เป็นการนาข้อมลู มาจดั ใหเ้ ป็นหมวดหมู่ หรือเรยี งลาดับในลักาณะต่าง ๆ ตามวตั ถปุ ระสงค์
ที่จะนาข้อมลู น้ัน ๆ ไปใช้ จากน้นั นาเสนอข้อมูลในรูปแบบตา่ ง ๆ
กำรนำเสนอข้อมูล

แผนภมู ิรูปภำพ แผนภมู แิ ท่ง

จำนวนผลไมแ้ ตล่ ะชนดิ ทีอ่ ยู่ในจำน จำนวนผ้เู ข้ำชมกำรแข่งขันกีฬำในมหำวิทยำลัย

แตงโม อง่นุ เลมอ่ น เชอร่ี จำนวนผูเ้ ข้ำชม (คน)

กำหนดรูปผลไม้ 1 รูป แทนจำนวนผลไม้ 1 ผล 500
400
300
200

100 ประเภท
0 กฬี ำ

ฟุตบอล ว่ิงแขง่ วำ่ ยน้ำ วอลเลยบ์ อล ตะกรอ้

แผนภูมิวงกลม กรำฟเส้น

จำนวนผูเ้ ขำ้ ชมกำรแข่งขันกีฬำในมหำวทิ ยำลัย จำนวนผ้เู ข้ำชมกำรแขง่ ขันกีฬำในมหำวิทยำลัย
จำนวนผู้เขำ้ ชม (คน)
27%
ตะกรอ้ ฟุตบอล
500
30%
400

20% 13% 300
10%
200

วอลเลยบ์ อล ว่งิ แข่ง 100 ประเภท
0
วำ่ ยนำ้ ฟุตบอล วงิ่ แข่ง วำ่ ยนำ้ วอลเลยบ์ อล ตะกร้อ กฬี ำ

1. กำรต้ังคำถำมทำงสถติ ิ

1.1 ควำมหมำยของคำถำมทำงสถิติ

คำถำมทำงสถติ ิ หมายถงึ คาถามท่ีมีคาตอบหรือคาดว่าจะได้รับคาตอบมากกว่า
1 คาตอบ ตามสภาพความเป็นจริง หรือคาถามท่ีถามความคิดเห็นของผู้ตอบแต่ละคน
รวมถึงคาถามท่ีต้องการคาตอบ ซ่ึงได้มาจากการรวบรวมข้อมูลพ้ืนฐานบางอย่าง แล้วนามา
จัดจาแนก คานวณ หรือวิเคราะห์เพื่อใชค้ าตอบน้ัน ซ่ึงจะเห็นไดจ้ ากตวั อยา่ งต่อไปน้ี

ตวั อยำ่ งที่ 1

จงพิจำรณำคำถำมต่อไปนี้ ว่ำเป็นคำถำมทำงสถติ หิ รือไม่ พร้อมทงั้ ใหเ้ หตุผลประกอบ
1) เดือนมกราคมมกี ่ีวนั
2) ประเทศทมี่ ีเปน็ กลุ่มสมาชกิ ของอาเซียนมีจานวนกีป่ ระเทศ
3) ตะวนั เกิดวันอะไร
4) นักเรียนห้องนี้เกดิ วนั อะไรบ้าง
5) จานวนนักเรียนทเี่ กิดวันศกุ ร์คิดเป็นรอ้ ยละเท่าไหร่ของจานวนนกั เรียนในห้องนี้

เฉลย 1) ไมเ่ ป็น เพราะมีคาตอบที่ถกู ตอ้ งเพียงคาตอบเดยี ว
2) ไมเ่ ป็น เพราะมคี าตอบที่ถกู ตอ้ งเพียงคาตอบเดียว
3) ไม่เป็น เพราะมีคาตอบทถี่ กู ตอ้ งเพยี งคาตอบเดียว
4) เปน็ เพราะ มคี าตอบมากกวา่ 1 คาตอบ ซ่ึงคาตอบที่เป็นไปได้ คือ

วันอาทิตย์ , วนั จันทร์ , วนั องั คาร , ... , วนั เสาร์
5) เปน็ เพราะ ต้องสารวจวันเกิดของนักเรียนท้ังห้องก่อน แล้วจึงมาคานวณว่า

มีนกั เรียนทเี่ กดิ วนั ศกุ ร์จานวนกคี่ น คดิ เปน็ รอ้ ยละเทา่ ไรของจานวนนักเรียนทัง้ หมด

ลองทำดู

จงพิจำรณำคำถำมตอ่ ไปนี้ วำ่ เป็นคำถำมทำงสถิตหิ รอื ไม่ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบ
1) วนั นี้มาวนิ มาโรงเรียนหรอื ไม่
2) นกั เรยี นหอ้ งน้ที ่ชี อบเลน่ ตะกรอ้ มจี านวนกีค่ น
3) โมบายตัง้ ใจจะปรักอบอาชีพอะไร
4) เม่ือวานน้อี ารใี ชเ้ วลาทาการบา้ นนานกี่ชวั่ โมง
5) จานวนนกั เรียนในห้องน้มี ีความสูง 150 – 157 เซนตเิ มตร จานวนก่คี น

1

ตวั อยำ่ งที่ 2

จงพิจำรณำคำถำมตอ่ ไปน้ี วำ่ เปน็ คำถำมทำงสถิตหิ รือไม่ ถำ้ เปน็ ให้บอกเหตผุ ล
ถ้ำไม่เป็นให้ปรบั แก้ให้เป็นคำถำมทำงสถิติ
1) เดือนเมษายนมีกวี่ นั
2) สุดาเกิดเดอื นอะไร
3) นารีได้รับเงินมาโรงเรียนวนั ละกีบ่ าท
4) ในรอบ 1 สปั ดาหท์ ีผ่ ่านมานกั เรยี นรบั ประทานไข่ไก่จานวนก่ีฟอง

เฉลย 1) ไม่เป็น ปรับแก้ให้เป็นคาถามทางสถิติ ได้ดังนี้ เดือนเมษายนมีความสาคัญ
ตอ่ วถิ ชี ีวิตของนักเรียนอย่างไร

2) ไม่เป็น ปรับแกใ้ ห้เป็นคาถามทางสถิติ ได้ดังน้ี นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 แตล่ ะคนเกิดเดือนอะไร

3) ไม่เปน็ ปรับแก้ใหเ้ ป็นคาถามทางสถิติ ได้ดังน้ี นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 แต่ละคนไดร้ บั เงินมาโรงเรียนวนั ละกบี่ าท

4) เป็น เพราะ ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลว่า ในแต่ละวันนักเรียนรับประทานไข่ไก่
จานวนก่ีฟอง จากนั้นมาคานวณว่า ใน 1 สัปดาห์ นักเรียนรับประทานไข่ท้ังหมด
จานวนกี่ฟอง

ลองทำดู

จงพจิ ำรณำคำถำมตอ่ ไปน้ี ว่ำเปน็ คำถำมทำงสถิตหิ รอื ไม่ ถ้ำเป็นใหบ้ อกเหตผุ ล
ถ้ำไม่เปน็ ให้ปรับแกใ้ หเ้ ปน็ คำถำมทำงสถติ ิ
1) ท่บี า้ นของนักเรยี นมีสตั ว์เล้ียงจานวนก่ีตวั
2) ในภาคเรียนท่แี ล้วนกั เรียนที่ได้ผลการเรยี นวชิ าคณติ ศาสตร์เกรด 3 ข้นึ ไปมกี คี่ น
3) โรงเรยี นอกั ษรวิทยาลยั มีครทู ้ังหมดกี่คน
4) ครอบครัวของนริสราทาสวนยางจานวนกไ่ี ร่

2

1.2 ประเภทของคำถำมทำงสถติ ิ

นักเรียนได้ทราบลักษณะคาถามทางสถิติมาแล้ว ต่อไปนี้นักเรียนจะมาเรียนรู้เก่ียวกับ
ประเภทของคาถามทางสถติ ิ ดังนี้

1) คำถำมขั้นพื้นฐำน เป็นคาถามท่ีทาให้ได้ชุดของคาตอบ 1 ชุด ซึ่งเป็นคาตอบ
ทผี่ ู้ตอบสามารถตอบได้ตามสภาพท่เี ปน็ จริงหรือตามความคิดเห็นของตนเอง เช่น ดัชนีมวลกาย
ของนักเรียนในหอ้ งนีเ้ ป็นเทา่ ใด เป็นตน้

2) คำถำมเชิงสรุป เป็นคาถามเพื่อหาขอ้ สรปุ เปน็ ภาพรวมทีต่ อ้ งใช้คาตอบต่อจากคาถาม
ขั้นพื้นฐานมาจัดจาแนก คานวณ หรือวิเคราะห์ก่อนขึงจะสรุปตอบเป็นภาพรวมได้ เช่น
นักเรียนในห้องน้ีที่มีดัชนีมวลกายอยใู่ นเกณฑอ์ ้วนก่คี น เปน็ ต้น

3) คำถำมเชงิ เปรียบเทียบ เปน็ คาถามที่ต้องใช้คาตอบจากคาถามข้ันพื้นฐานอย่างน้อย
2 ชุด นามาจัดจาแนก คานวณ หรือวิเคราะห์เปรียบเทียบกันเพ่ือหาข้อสรุป เช่น
จานวนนกั เรียนในห้องนม้ี ดี ัชนมี วยกายอยู่ในเกณฑ์อ้วนมากกว่าจานวนนักเรียนท่ีมีดัชนีมวยกาย
อยใู่ นเกณฑผ์ อมใชห่ รอื ไม่ เป็นตน้

4) คาถามเชงิ ความสัมพันธ์ เป็นคาถามที่ต้องใช้คาตอบจากคาถามข้ันพื้นฐานอย่างน้อย
2 ชุด เพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อน้ัน ๆ เช่น จานวนนักเรียนในห้องนี้มีดัชนีมวยกาย
อยู่ในเกณฑ์ปกติกับจานวนนักเรียนในห้องนี้มีดัชนีมวยกายอยู่ในเกณฑ์ผอม มีความสัมพันธ์กัน
หรือไม่ เป็นตน้

ตวั อย่ำงท่ี 3

จงพจิ ำรณำข้อมูลจำกสำนกั ป้องกนั กำรรักษำป่ำและควบคุมไฟป่ำ กรมป่ำไม้ พบว่ำระหว่ำง
เดอื นมกรำคม – พฤษภำคม พ.ศ. 2559 ได้เกดิ ไฟไหม้ปำ่ ท่ัวประเทศ ดังน้ี

เดอื น จำนวนครั้ง พน้ื ท่เี สยี หำย (ไร)่

มกราคม 74 3,779

กุมภาพันธ์ 318 11,791

มนี าคม 969 34,479

เมษายน 318 10,580

พฤษภาคม 25 1,584

รวม 1,704 62,213

ท่ีมา : สานักปอ้ งกนั การรักษาปา่ และควบคมุ ไฟปา่ กรมปา่ ไม้

จำกขอ้ มลู ข้ำงต้น จงต้งั คำถำมทำงสถิติที่เปน็ คำถำมขั้นพน้ื ฐำนและคำถำมเชิงสรุป

3

เฉลย คำถำมขนั้ พืน้ ฐำน : ตั้งแตเ่ ดือนมกราคม – พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เกิดไฟไหม้ป่า
ท่วั ประเทศเดือนละก่ีครงั้

คำถำมเชิงสรุป : การเกดิ ไฟไหมป้ ่าท่วั ประเทศระหว่างเดอื นมกราคม – พฤษภาคม
พ.ศ. 2559 มจี านวนท้ังหมดก่ีครงั้

ลองทำดู

ข้อมูลจำกกำรสำรวจสภำวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนโดยสำนักงำนสถิติ
แห่งชำติพบว่ำในปี พ.ศ. 2558 ครัวเรือนไทยมีรำยได้หลักจำกแหล่งต่ำง ๆ คิด
เปน็ รอ้ ยละ ได้ดังนี้

แหลง่ รำยได้ ร้อยละ
จากลกู ทแ่ี ต่งงานแลว้ 59
จากลกู ทีย่ งั ไม่ได้แตง่ งาน 24
จากสามหี รือภรรยา 10
จากแหล่งอนื่ ๆ (หลาน พน่ี อ้ ง ญาติ) 7

ทม่ี า : สานกั งานสถติ ิแหง่ ชาติ

จำกขอ้ มูลขำ้ งต้น จงต้ังคำถำมทำงสถติ ทิ ่เี ปน็ คำถำมขั้นพืน้ ฐำนและคำถำมเชงิ สรุป

4

แบบฝึกทกั ษะที่ 1

ระดับ พนื้ ฐำน

1. จงพจิ ารณาคาถามตอ่ ไปนี้ ว่าเป็นคาถามทางสถิตหิ รอื ไม่ ถ้าเป็นให้บอกเหตุผล
ถ้าไม่เป็นให้ปรบั แกใ้ ห้เป็นคาถามทางสถิติ

1) นักเรียนชอบออกกาลงั กายหรอื ไม่
2) นักเรียนชอบฟังเพลงของศลิ ปนิ ทา่ นใด
3) นักเรยี นในระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลายของโรงเรยี นมจี านวนเท่าไร
4) เมอื่ วานนม้ี ีนกั เรียนจานวนกค่ี นทีไ่ ม่ไดม้ าโรงเรียน
5) ภานเุ กดิ ปี พ.ศ. ใด
6) วนั น้ีหทั ยารับประทานอาหารอะไร
7) สชุ าติซ้อื โทรศัพท์ในราคาก่ีบาท

2. จากการวัดความสามารถในด้านภาอังกฤษของงประชาชนในกลุ่มประเทศอาเซียน
(ยกเว้นประเทศบรูไน) เมื่อปลายปี พ.ศ. 2558 โดยพิจารณาจากผลการทดสอบ
TOEFL ทม่ี ีคะแนนเตม็ 30 คะแนน ปรากฏดงั นีผ้ ลดงั นี้

ประเทศ ทกั ษะดำ้ นตำ่ ง ๆ

กำรอ่ำน กำรฟงั กำรพูด กำรเรียน

กัมพชู า 15 16 19 19

ฟลิ ปิ ปนิ ส์ 21 22 24 23

อนิ โดนเี ซยี 20 21 20 21

ลาว 15 16 20 18

มาเลเซีย 22 23 22 23

เมยี นมา 18 19 20 21

สงิ คโปร์ 24 25 24 25

ไทย 18 19 19 20

เวียดนาม 19 19 19 21

ทมี่ า : วารสารเศรษฐกิจและสงั คม

จากข้อมลู ขา้ งต้น จงตง้ั คาถามทางสถติ ทิ ่เี ป็นคาถามขั้นพ้ืนฐานและคาถามเชิงสรุป

5 มาอยา่ งละ 2 คาถาม

ระดับ กลำง

3. จงบอกว่าคาถามทางสถิติต่อไปนีเ้ ป็นคาถามทางสถิติประเภทใด พรอ้ มท้ังอธิบายเหตุผล
ประกอบ

1) นักเรียนในระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ชอบดารานักแสดงคนใดบา้ ง
2) นกั เรียนในระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ทอ่ี ยูช่ มรมดนตรไี ทยมจี านวนกี่คน
3) คุณครูแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมีจานวน
กค่ี น
4) ประชากรแต่ละคนในชมุ ชนของนักเรยี นประกอบอาชีพอะไร
4. จงต้ังคาถามทางสถิติเพื่อให้ได้คาตอบเป็นวิชาท่ีชอบในห้องเรียน 3 อันดับแรก
พร้อมทงั้ บอกเหตผุ ลที่ชอบของนกั เรียนในระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
5. จงตั้งคาถามทางสถติ ทิ ีเ่ ป็นคาถามขน้ั พ้ืนฐานและคาถามเชงิ สรปุ มาอย่างละ 4 คาถาม
6. จงต้งั คาถามทางสถติ ิเพือ่ ใหไ้ ดค้ าตอบในการเลือกโรงเรียนของผู้ปกครองให้ลูกเพื่อสอบ
คัดเลอื กเขา้ ศึกษาต่อในระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 พร้อมบอกเหตผุ ล

6

2. กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู

2.1 ควำมหมำยของข้อมลู

ข้อมลู หมายถึง ขอ้ เทจ็ จริง หรือสิ่งท่ียอมรับว่าเป็นข้อเท็จจริงของเรื่องท่ีสนใจ
ซงึ่ ไดม้ าจากการเกบ็ รวบรวมอาจเป็นไดท้ ้ังข้อความและตวั เลข เช่น น้าหนักของนักเรียนทุกคน
ในห้อง ปริมาณน้าฝนแต่ละเดือนของจังหวัดหน่ึง ความคิดเห็นของนักเรียนทุกคนในระดับ
ชนั้ มธั ยมศึกาปที ่ี 1 เกี่ยวกบั ความสามารถในการเรียนคณติ ศาสตร์ เป็นต้น

การเก็บรวบรวมข้อมูล สามารถดาเนินการได้หลายวิธี เช่น การบันทึกข้อมูล
การสังเกต การสอบถาม และการสมั ภาษณ์ เปน็ ตน้ ซ่งึ แต่ละวิธมี ีขอ้ ดแี ละขอ้ เสียทีแ่ ตกต่างกัน

กำรบันทึกข้อมูล ผู้ที่ทาการบันทึก ต้องเป็นผู้ลงมือปฏิบัติในเร่ืองใดเร่ืองหนึ่ง เช่น
นักเรียนได้รับมอบหมายจากผู้ปกครองให้ดูแลไก่และเก็บไข่ไก่ซึ่งเลี้ยงไว้จานวนหนึ่ง
ข้อมลู ทนี่ กั เรยี นบนั ทกึ ไว้ ไดแ้ ก่ ปริมาณอารท่ีใช้เล้ียงไก่ในแต่ละสัปดาห์และจานวนไข่ไก่ที่เก็บ
ไดใ้ นแต่ละวนั เปน็ ตน้

กำรสังเกต เป็นวิธีการที่ผู้สังเกตไม่ได้เป็นผู้ลงมือปฏิบัติในเร่ืองที่สนใจ เป็นที่ท่ีต้องใช้
เวลาในการดู ฟงั และทาความเข้าใจในสิง่ ทเ่ี กิดขนึ้ แลว้ บนั ทึกผลที่ได้จากการสังเกต

กำรสอบถำม ผู้สอบถาต้องเตรียมแบบสอบถามโดยมีการต้ังคาถาม จัดพิมพ์และทา
สาเนาไว้จานวนหนง่ึ ใหม้ ากเพียงพอกบั จานวนผ้ตู อบแบบสอบถามหรือผู้ให้ข้อมูลท่ีได้กาหนดไว้
และมีคาชี้แจงแนวปฏิบัติของผู้ตอบแบบสอบถามให้ชัดเจน แล้วนาแบบสอบถามให้ผู้ตอบ
แบบสอบถามซ่ึงผู้ตอบเขียนคาตอบหรือทาเครื่องหมายเลือกคาตอบ เม่ือนาแบบสอบถามน้ัน
กลบั คืนมา คาตอบทไ่ี ดจ้ ากแบบสอบถามเปน็ ขอ้ มูลที่สามารถนามาดาเนินการทางสถิตไิ ด้

กำรสัมภำษณ์ ผูส้ มั ภาษณม์ ีการทาเปน็ คาถามคล้ายแบบสอบถาม คือ มีการตั้งคาถาม
และทาเป็นรายการคาถาม แล้วนาไปสัมภาษณ์ผู้ท่ีถูกคัดลอกไว้ ผู้สัมภาษณ์ต้องถามตาม
ประเด็นคาถามที่กาหนดไว้และบันทึกคาตอบที่ได้ ในกรณีที่ผู้สัมภาษณ์ไม่สะดวกที่จะไปพบกับ
ผู้ตอบคาถามอาจใชก้ ารสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ก็ได้ จากนั้นจึงนาข้อมูลท่ีได้มาดาเนินการทาง
สถติ ติ อ่ ไป

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างมวี ธิ ีการอนื่ ๆ อีกท่ีไม่ได้กล่าวถึง แต่ในทางปฏิบัติผู้เก็บ
รวบรวมข้อมูลอาจเลือกใช้เพียงวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้ โดยเลือกวิธีการท่ีคิดว่าทาได้จริง ทาได้ง่าย
อยากไดข้ อ้ มลู ที่มากพอสาหรบั การวเิ คราะห์และตอบคาถามทางสถิตทิ ไ่ี ด้กาหนดขน้ึ ก่อนท่ีจะมา
เก็บรวบรวมขอ้ มูล

7

ลองคิดดู

จงบอกวธิ กี ำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ทีน่ อกเหนอื จำกกำรบันทึกขอ้ มลู กำรสังเกต
กำรสอบถำม และกำรสมั ภำษณ์ มำอย่ำงนอ้ ย 1 วธิ ี

ตวั อยำ่ งท่ี 4

จงพจิ ำรณำถำมต่อไปน้ี แลว้ ตอบวำ่ ต้องใช้กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ด้วยวิธกี ำรใด
1) นกั เรียนระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 มีวิธีการเดนิ ทางมาโรงเรียนอยา่ งไร
2) คณุ หมอต้องการทราบอาการของผปู้ ่วยแต่ละคนท่มี าโรงพยาบาลในวนั น้ี
3) อังสุมาตอ้ งการทราบว่าตน้ ไมท้ ่คี วรปลูกสงู ข้ึนสปั ดาห์ละกเ่ี ซนติเมตร
4) การร้องเพลงของกมลวรรณเปน็ อย่างไร

เฉลย วิธีเกบ็ รวบรวมข้อมูลของคาถามทางสถตใิ นแตล่ ะข้อ เป็นดังน้ี
1) การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยวธิ ีการสอบถาม
2) การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยวิธีการสมั ภาษณ์
3) การเกบ็ รวบรวมข้อมูลด้วยวธิ กี ารบันทึกขอ้ มูล
4) การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยวธิ ีการสงั เกต

ลองทำดู
จงพิจำรณำถำมตอ่ ไปน้ี แล้วตอบว่ำต้องใช้กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลดว้ ยวิธีกำรใด
1) ผจู้ ดั การทีมฟุตบอลทมี หนึ่งต้องการทราบรปู แบบการเล่นของนกั ฟุตบอลทีมคู่แข่ง
2) คุณครูต้องการทราบรายได้ต่อเดือนของผู้ปกครองของนักเรียนระดับ
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2
3) ในแต่ละเดอื นลูกสนุ ขั ทนี่ ติ าเล้ยี งมีนา้ หนกั เป็นเทา่ ไหร่
4) คุณครูต้องการทราบความคิดเห็นของนักเรียน 5 คน เกี่ยวกับการเรียนวิชาภา
อังกฤษ

8

แบบฝึกทักษะที่ 2

ระดับ พนื้ ฐำน

1. จงพิจารณาคาถามตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบว่าต้องใช้การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยวธิ กี ารใด
1) คุณครูต้องการทราบว่า นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1
มคี วามคดิ เหน็ อยา่ งไรเกี่ยวกับการสอบกลางภาคของวิชาภาษาไทย
2) คุณแม่ของอาทิตย์ต้องการทราบกิจกรรมหลังเลิกเรียนของอาทิตย์
ในแตล่ ะวัน
3) คณุ ครูในโรงเรียนเกดิ ปี พ.ศ. ใดบา้ ง
4) นักเรยี นในหอ้ งนมี้ ีขนาดรอบเอวกี่น้ิว
5) นกั เรยี นในห้องนีม้ สี ่วนสูงเกิน 150 เซนติเมตร จานวนกคี่ น
6) คุณครูที่เดินทางมาโรงเรียนด้วยรถโดยสารประจาทางมีจานวนกี่คน
และคดิ เป็นรอ้ ยละเทา่ ไรของจานวนครทู ้ังหมด

ระดบั กลำง

2. จงตงั้ คาถามทางสถติ ิ โดยใช้การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ด้วยวธิ กี ารบันทกึ ขอ้ มูล
จานวน 5 คาถาม

3. จงตงั้ คาถามทางสถิติ โดยใชก้ ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู ดว้ ยวธิ ีการสงั เกต
จานวน 4 คาถาม

4. จงตง้ั คาถามทางสถิติ โดยใชก้ ารเกบ็ รวบรวมข้อมูลดว้ ยวธิ ีการสอบถาม
จานวน 5 คาถาม

5. จงต้งั คาถามทางสถติ ิ โดยใช้การเก็บรวบรวมข้อมลู ดว้ ยวธิ กี ารสัมภาษณ์
จานวน 3 คาถาม

9

3. กำรนำเสนอข้อมูลและกำรแปลควำมหมำยขอ้ มลู

จงพจิ ารณาคาถามทางสถติ ิต่อไปน้ี
1) นักเรียนแตล่ ะคนในระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ชอบเรียนวชิ าอะไรมากทสี่ ุด
2) อุณหภมู เิ ฉลยี่ ในแต่ละเดอื นของจังหวดั ขอนแกน่ ในปี พ.ศ. 2555 เปน็ เทา่ ไร
3) ปรมิ าณการสง่ ออกขา้ วของประเทศไทยต้ังแต่ปี พ.ศ. 2555 - 2560 เปน็ เท่าไร
4) ความคิดเห็นของผู้ใหญ่ในสังคมไทยเกี่ยวกับการเล่นเกมของวัยรุ่นในปัจจุบันเป็น
อยา่ งไร
การท่ีจะได้มาซ่ึงคาตอบของคาถามทางสถิติในข้อ 1) - 4) ต้องมีการเก็บรวบรวม
ข้อมูลซึ่งข้อมูลที่ได้มานั้นมักจะไม่เป็นระเบียบ ทาให้พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อเปรียบเทียบ
ต่าง ๆ ท่ีต้องการทราบได้ไม่ชัดเจน จึงมีการจัดทาและนาเสนอข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ
เพ่ือให้น่าสนใจ อ่านข้อมูลได้ง่าย มีความเข้าใจและเห็นข้อเท็จจริงที่ต้องการทราบ
ได้อย่างรวดเร็ว ชดั เจน และสะดวกตอ่ การนาไปใช้
กำรนำเสนอข้อมลู หมายถงึ การนาเสนอผลการจัดระเบยี บขอ้ มูล เพอื่ ใหผ้ ู้รบั ขอ้ มูล
สามารถพิจารณารายละเอียดที่ต้องการทราบได้โดยง่าย ถูกต้อง และรวดเร็ว การนาเสนอ
ข้อมูลมีอยู่หลายวิธี แต่ละวิธีมีดวามเหมาะสมและมีข้อจากัดท่ีแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับข้อมูล
ที่รวบรวมมาได้ ซ่ึงมีรายละเอียดดังต่อไปน้ี

3.1 กำรนำเสนอขอ้ มลู ด้วยแผนภมู ริ ปู ภำพ

เป็นการนาเสนอข้อมลู ทใ่ี ชจ้ านวนของรปู ภาพแทนปริมาณทัง้ หมดของข้อมลู ท่ีตอ้ งการ
นาเสนอ ซึ่งผู้นาเสนอกาหนดให้ชัดเจนว่า รูปภาพ 1 รูป แทนส่ิงท่ีต้องการนาเสนอ
เปน็ จานวนเท่าใด ซงึ่ องคป์ ระกอบของแผนภมู ริ ูปภาพ มีดงั น้ี

ตัวอย่ำง

ช่ือแผนภูมิ จำนวนแอปเปล้ิ ทข่ี ำยได้ในวันจันทร์ - วนั ศกุ ร์
วนั จนั ทร์

วันองั คาร ตัวแผนภูมิ

วันพธุ

วันพฤหัสบดี
ข้อกาหนดของรปู วันศกุ ร์

กาหนดให้ 1 รปู แทนจานวนแอปเป้ลิ ทขี่ ายได้ 4 ผล

10

โดยรูปภาพทเ่ี ลือกมานนั้ ควรเปน็ รปู ภาพทีส่ ่ือความหมายตรงกับเนือ้ หาของการนาเสนอ เชน่
1) ใช้รูปบ้าน เม่ือต้องการนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการที่จะซื้อบ้านของคน

ในกรุงเทพฯ ซึ่งผู้นาเสนออาจใช้รูปบ้าน 1 รูป แทนจานวนบ้านท่ีต้องการ 100 หลัง
200 หลงั หรอื มากกวา่ ก็ได้ ทง้ั นแ้ี ล้วแตค่ วามเหมาะสมตามปรมิ าณขอ้ มูลทีต่ อ้ งการนาเสนอ

2) ใช้รูปเด็ก เม่ือต้องการนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับจานวนบุตรโดยเฉลี่ยของครอบครัว
ไทยในปี พ.ศ. 2560 ผู้นาเสนออาจใชร้ ูปเด็ก 1 รูป แทนจานวนบุตร 1 คน

แต่การนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิรูปภาพในบางคร้ัง จะมีข้อมูลท่ีเหลือบางส่วน
ซง่ึ ไมส่ ามารถแทนด้วยรูปภาพเต็มรูปได้ ผู้นาเสนอข้อมูลจะต้องพิจารณาใช้รูปภาพซ่ึงไม่เต็ม
รูปให้สอดคล้องกับข้อมูลท่ีเหลือ และการอ่านค่าข้อมูลในกรณีเช่นน้ี ค่าที่อ่านได้จะเป็น
ค่าประมาณ

วธิ ีกำรนำเสนอขอ้ มูลดว้ ยแผนภูมิรูปภำพ
1) ใช้รูปภาพท่ีสอื่ ความหมายใหต้ รงกับเนอื้ หาทีต่ ้องการนาเสนอ
2) กาหนดให้ชัดเจนว่ารูปภาพ 1 รปู แทนปริมาณขอ้ มลู ท่ีเป็นจริงจานวนเท่าใด
3) ระบชุ ือ่ แผนภมู ิไวด้ า้ นบนและแหลง่ ที่มาไวด้ ้านลา่ งของแผนภมู ิ
4) คานวณหาจานวนภาพท่ีจะต้องใช้นาเสนอข้อมูลในแต่ละรายการตามจานวน

ท่กี าหนดในข้อ 2)
5) ถ้าจานวนของข้อมูลที่เหลือไม่สามารถใช้ข้อมูลเต็มรูปได้ ผู้นาเสนอข้อมูลอาจนา

จานวนข้อมูลท่ีเหลือกับจานวนที่แทนด้วยรูปภาพ 1 รูป เขียนในรูปเศษส่วน จากน้ันจึง
สามารถเขยี นรปู แทนจานวนนี้ได้

6) ในกรณีท่มี ีเศษของข้อมูลบางรายการใกลเ้ ดยี งกัน รปู ภาพท่ีสร้างจะไม่เต็มรูปซึ่งจะ
ทาให้การอา่ นขอ้ มูลจากรูปภาพเกดิ ความคลาดเคล่ือนได้

วธิ กี ำรอ่ำนแผนภมู ริ ปู ภำพ
1) พิจารณาว่ารปู ภาพที่นาเสนอ 1 รปู แทนปริมาณของข้อมลู ที่เปน็ จริงจานวนใด
2) นับจานวนรูปภาพของรายการข้อมูลท่ีสนใจ ในกรณีท่ีมีรูปภาพไม่เต็มรูปผู้อ่าน

ขอ้ มูลจะต้องอ่านคา่ จากรูปน้นั ใหเ้ ป็นเศษสว่ น
3) นาจานวนท่ีแทนรูปภาพ 1 รูป คูณจานวนรูปภาพท้ังหมด และบวกกับจานวน

ขอ้ มลู จากรปู ภาพที่ไม่เตม็ รปู (ถา้ มี) จะไดป้ ริมาณของข้อมูลแต่ละรายการ

11

ตวั อยำ่ งที่ 5

ผลกำรแขง่ ขนั กฬี ำบำสเกตบอล เอ็นบเี อ ในวันท่ี 7 พฤศจกิ ำยน ปี พ.ศ. 2560
ระหว่ำงทีม Milwaukee Bucks กับทีม Cleveland Cavaliers ผลปรำกฎว่ำ
ทีม Cleveland Cavaliers เป็นฝ่ำยชนะไปด้วยคะแนน 119 - 124 คะแนน
ซง่ึ ทีม Cleveland Cavaliers มีคะแนนในแต่ละควอร์เตอร์ เป็นดงั นี้

จำนวนคะแนนในแต่ละควอร์เตอร์ของทมี Cleveland Cavaliers
ควอร์เตอร์ 1
ควอร์เตอร์ 2
ควอร์เตอร์ 3
ควอร์เตอร์ 4

กาหนดให้ 1 รูป แทน จานวนคะแนน 4 คะแนน

ที่มา : http://watch.nba.com

จำกแผนภมู ริ ูปภำพ จงตอบคำถำมตอ่ ไปน้ี
1) ในควอร์เตอร์ 1 ทีม Cleveland Cavaliers ทาคะแนนได้ก่ีคะแนน
2) ในควอร์เตอร์ 4 ทีม Cleveland Cavaliers ทาคะแนนไดก้ ค่ี ะแนน
3) ควอร์เตอร์ใดทที่ ีม Cleveland Cavaliers ทาคะแนนได้มากทีส่ ุด
4) ควอร์เตอร์ 2 และควอร์เตอร์ 3 ทีม Cleveland Cavaliers ทาคะแนนได้ต่างกัน
กค่ี ะแนน

เฉลย 1) 39 คะแนน
2) 30 คะแนน
3) ควอร์เตอร์ 1
4) 3 คะแนน

12

ลองทำดู

โรงเรียนแห่งหนึ่งเล้ียงไก่ไข่ไว้จำนวน 30 ตัว โดยครูผู้ดูแลได้มอบหมำยให้
นกั เรยี นเป็นผู้เก็บไข่ไก่และบันทึกขอ้ มูลไว้ทุกวนั ปรำกฏว่ำในช่วง 1-7 กันยำยน
พ.ศ. 2560 สำมำรถเกบ็ ไขไ่ กไ่ ด้มจี ำนวน ดงั น้ี

จำนวนไข่ไกท่ ี่เกบ็ ไดใ้ นชว่ ง 1-7 กันยำยน พ.ศ. 2560

1 กนั ยำยน พ.ศ. 2560
2 กนั ยำยน พ.ศ. 2560
3 กนั ยำยน พ.ศ. 2560
4 กนั ยำยน พ.ศ. 2560
5 กันยำยน พ.ศ. 2560
6 กันยำยน พ.ศ. 2560
7 กันยำยน พ.ศ. 2560

กาหนดให้ 1 รูป แทน จานวนไขไ่ ก่ 4 ฟอง
จำกแผนภูมิรปู ภำพ จงตอบคำถำมต่อไปนี้
1) วนั ที่ 1 กนั ยายน พ.ศ. 2560 นกั เรยี นเก็บไข่ไกไ่ ด้จานวนก่ฟี อง
2) วนั ท่ี 2 กนั ยายน พ.ศ. 2560 นักเรยี นเก็บไข่ไกไ่ ด้จานวนก่ีฟอง
3) วนั ที่ 1 - 3 กันยายน พ.ศ. 2560 นักเรียนเกบ็ ไข่ไกไ่ ด้มากกวา่

หรือน้อยกว่าวนั ท่ี 5 - 7 กนั ยายน พ.ศ. 2560 จานวนกีฟ่ อง
4) ในชว่ งวนั ที่ 1 - 7 กนั ยายน พ.ศ. 2560 นกั เรยี นเก็บไขไ่ กไ่ ด้

ทงั้ หมดจานวนกี่ฟอง

13

3.2 กำรนำเสนอข้อมลู ดว้ ยแผนภมู แิ ท่ง

กำรนำเสนอข้อมูลด้วยแผนภมู ิแท่ง เปน็ วิธีการนาเสนอข้อมลู โดยใช้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
โดยแต่ละรูปมีความกว้างเท่ากัน และใช้ความสูงหรือดวามยาวแสดงปริมาณของข้อมูล
นิยมเรียกรูปลี่เหลี่ยมมุมฉากแตล่ ะรปู ว่า "แทง่ “

ตวั อยำ่ ง

ชอื่ แผนภูมิ อำยุเฉลย่ี ของสตั ว์ 5 ชนดิ

อำยเุ ฉลี่ย (ป)ี

เสน้ แสดงจานวน 30 ตัวแผนภูมิ

24 ชนดิ ของสตั ว์
15

9
3
0

กระตำ่ ย แมว มำ้ หนู วัว

ขอ้ มูลแตล่ ะรายการ

แผนภูมิแท่งเหมาะสาหรับข้อมูลที่มีการจาแนกเป็นหมวดหมู่ เช่น จาแนกตามเวลา
สถานทห่ี รือบุคคล และผูน้ าเสนอม่งุ เนน้ ทจ่ี ะเปรียบเทยี บความแตกตา่ งของข้อมูลตามหมวดหมู่
ทไี่ ดจ้ าแนกไว้ โดยทว่ั ไปการเขียนแผนภมู แิ ทง่ นยิ มเขียนโดยใช้ความกว้างของแท่งแทนประเภท
ชนิด รายการ หรือกลุ่มของข้อมูล และความสูงของแท่งแทนปริมาณข้อมูลในแต่ละประเภท
ชนดิ รายการ หรอื กลุ่มของขอ้ มลู

ปัจจุบันการนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่งสามารถประยุกต์ใช้รูปอ่ืน ๆ เช่น
ทรงกระบอก ทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก เป็นตัน จุดเด่นของการนาเสนอข้อมูลด้วยวิธีน้ี คือ
มีความน่าสนใจ ผอู้ ่านสามารถรับรู้และเปรยี บเทียบข้อมลู ไดง้ ่าย แตก่ ม็ ขี อ้ จากัดคือ เม่ือข้อมูล
ในบางรายการมีค่าใกล้เคียงกันจะไม่สามารถเขียนแผนภูมิแท่งที่แสดงความสูงของแท่ง
ทแ่ี ตกต่างให้เหน็ ชัดเจนได้

วิธีกำรนำเสนอข้อมูลดว้ ยแผนภูมิแท่ง
1) กาหนดแกนทต่ี ้งั ฉากกัน 1 คู่ โดยทว่ั ไปจะให้แกนนอนแทนรายการท่ีจะนาเสนอและ
แก นตั้ง แ ท นป ริม า ณขอ ง ข้อ มูล โดย ก าห นดม า ตร า ส่ว นแ ท นป ริม า ณขอ ง ข้อ มูล
ตามความเหมาะสมและสร้างแท่งของแต่ละรายการที่นาเสนอให้มีความกว้างของแท่งเท่ากัน
และเวน้ ระยะห่างของแต่ละแท่งให้เท่ากัน

14

2) การจดั เรียงแทง่ สามารถจดั เรียงตามแนวตัง้ หรอื แนวนอนก็ได้ข้ึนอยู่กับการกาหนด
วา่ ให้แกนใดแทนปรมิ าณข้อมูล และแกนใดแทนรายการที่จะนาเสนอ

3) ระบุชอ่ื แผนภูมิไวด้ ้านบนและแหล่งที่มาไวด้ า้ นล่างของแผนภูมิ
4) การนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่งจะเริ่มดันที่ระดับเดียวกัน โดยปกติจะเริ่มจาก
คา่ 0 บนแกนแสดงปริมาณ ในกรณีท่ีปริมาณของข้อมูลมีจานวนมาก เพื่อให้การอ่านข้อมูล
ถกู ตอ้ ง จึงควรเขียนตัวเลขแสดงขอ้ มลู กากบั ไวท้ ส่ี ่วนปลายแท่งแต่ละแทง่ ด้วย
5) กาหนดสีแรเงา หรอื ตกแต่งแท่งให้สวยงาม

วธิ กี ำรอำ่ นแผนภูมแิ ท่ง
ใชค้ วามสมั พนั ธ์ของทัง้ 2 แกนประกอบกัน การอ่านแผนภมู ิแท่งจงึ มีดวามเปน็ ไปได้
2 ลกั ษณะ คือ
1) เร่ิมพิจารณาจากประเด็นท่ีสนใจก่อน แล้วจึงลากแนวต้ังฉากจากจุดปลายของแท่ง
ของประเด็นนั้นไปยังแกนบอกปริมาณ เพื่ออ่านค่าของข้อมูล (ยกเว้นกรณีท่ีมีข้อมูลกากับอยู่
กส็ ามารถอา่ นได้ทนั ที)
2) เริ่มพจิ ารณาจากปรมิ าณขอ้ มลู ทก่ี าหนดกอ่ น แลว้ ลากแนวตั้งฉากออกไป เพ่ือหาวา่
รปู ลีเ่ หล่ยี มของประเด็นใดท่ีมีจุดปลายของแทง่ ตรงกบั ระดบั นัน้ พอดี

ตวั อยำ่ งที่ 6

จำกกำรสำรวจสุขภำพ (ควำมสุข) ของคนไทย เม่ือปี พ.ศ. 2558 พบว่ำคะแนน
สุขภำพจิตโดยเฉล่ียของประชำชนที่ทำงำนตำมลักษณะทำงเศรษฐกิจ 3 กลุ่ม
เป็นดังน้ี

ลักษณะทำงเศรษฐกิจ

ภาคการบริหารและการค้า 31.86

ภาคการผลติ 31.21

ภาคเกษตรกรรม 31.62

0 10 20 30 40 คะแนนสขุ ภาพจิต

ทมี่ า : สานักงานสถติ ิแหง่ ชาติ

15

จำกแผนภมู แิ ท่ง จงตอบคำถำมต่อไปนี้
1) ประชาชนทีท่ างานอยใู่ นภาคเกษตรกรรมมีคะแนนสขุ ภาพจติ โดยเฉล่ียเปน็ เทา่ ใด
2) ประชาชนทท่ี างานอยู่ในภาคการผลิตมคี ะแนนสุขภาพจติ โดยเฉลีย่ เปน็ เท่าใด
3) ประชาชนท่ีทางานอยู่ในลักษณะทางเศรษฐกิจใดที่น่าจะมีความสุขมากท่ีสุด

เพราะเหตุใด

เฉลย 1) 31.62 คะแนน
2) 31.21 คะแนน
3) ภาคบรกิ ารและการค้า เพราะมคี ะแนนเฉลีย่ สขุ ภาพจิตมากทส่ี ดุ

ลองทำดู

ผลกำรสำรวจแรงงำนนอกระบบในปี พ.ศ. 2559 พบว่ำมีผู้ทำงำนท่ีไม่ได้รับ
กำรคุ้มครองหรือไม่มีหลักประกันทำงสังคมจำกกำรทำงำนท่ีเรียกว่ำ แรงงำน
นอกระบบมีจำนวน 21.3 ล้ำนคน แรงงำนเหล่ำนี้ทำงำนอยู่ในภูมิภำคต่ำง ๆ
และกรงุ เทพมหำนคร ซง่ึ มรี ำยละเอียดตำมแผนภมู แิ ท่งต่อไปนี้

จำนวนร้อยละของแรงงำนนอกระบบท่ีจำแนกตำมภูมภิ ำคและ
กรงุ เทพมหำนคร ในปี พ.ศ. 2559

ภำค

ใต้ 13.9
ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื
35.5

เหนือ 21.0

กลาง 22.6

กรงุ เทพมหานคร 7.0 จานวนแรงงาน
(รอ้ ยละ)
0 5 10 15 20 25 30 35 40 45

ท่มี า : สานกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

จำกแผนภมู แิ ทง่ จงตอบคำถำมต่อไปนี้
1) ภูมิภาคใดของประเทศท่ีมีจานวนแรงงานนอกระบบมากทีส่ ุด
2) แรงงานนอกระบบในภาดกลางรวมกบั ภาดใต้มจี านวนก่ีคน
3) แรงงานนอกระบบในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื มีจานวนทั้งหมดก่ีคน

16

ตัวอยำ่ งท่ี 7

ผลกำรสำรวจจำนวนประชำกรในเขตกรุงเทพมหำนครจำนวน 4 เขต ได้แก่
เขตสำยไหม เขตบำงแด เขตบำงเขน และเขตดอนเมือง ณ เดือนธันวำคม
พ.ศ. 2557 มรี ำยละเอียดดงั น้ี

จำนวนประชำกรในเขตกรุงเทพมหำนครจำนวน 4 เขต ได้แก่ เขตสำยไหม เขตบำงแค
เขตบำงเขน และเขตตอนเมอื ง ณ เดือนธนั วำคม พ.ศ. 2557

จำกแผนภมู แิ ท่ง จงตอบคำถำมตอ่ ไปน้ี
1) จานวนประชากรชายในเขตใดมีจานวนมากทส่ี ดุ
2) จานวนประชากรชายและหญิงรวมกันในเขตใดมจี านวนนอ้ ยที่สุด
3) จานวนประชากรชายในเขตบางเขนกบั จานวนประชากรหญงิ ในเขตตอนเมอื งต่างกัน

จานวนก่คี น
4) จานวนประชากรหญงิ ในเขตสายไหมกับจานวนประชากรหญงิ ในเขตบางแคต่างกนั

จานวนกี่คน
เฉลย 1) เขตสายไหม

2) เขตดอนเมอื ง
3) 6,672 คน
4) 849 คน

17

ลองทำดู
ผลกำรสำรวจร้อยละของผู้สูงอำยุเม่ือจำแนกตำมมูลค่ำกำรออม ประจำปี
พ.ศ. 2557 มรี ำยละเอยี ด ดังนี้

จำกแผนภูมิแทง่ จงตอบคำถำมต่อไปน้ี
1) จานวนรอ้ ยละของผู้สูงอายุเพศชายที่มูลค่าการออมน้อยกว่า 50,000 บาท

เท่ากับเท่าใด
2) จานวนร้อยละของผู้สูงอายุเพศชายส่วนใหญ่มีมลู คา่ การออมเปน็ เทา่ ใด
3) จานวนร้อยละของผู้สูงอายเุ พศหญิงส่วนใหญ่มมี ลู คา่ การออมเป็นเท่าใด
4) จานวนผู้สูงอายุเพศชายที่มูลค่าการออมตั้งแต่ 100,000 บาทข้ึนไป

มีจานวนเท่าใด

18

3.3 กำรนำเสนอขอ้ มลู ดว้ ยกรำฟเส้น

กำ ร น ำ เ ส น อ ข้อ มู ล ด้ ว ย ก ร ำ ฟ เ ส้ น เป็ น วิ ธี กา ร น า เส น อ ข้ อ มู ล โ ด ย ใ ช้ แ ก น ต้ั ง ฉ า ก
2 แกน มีแกนต้ัง แทนปริมาณของข้อมูลในแต่ละประเภท ชนิด หรือกลุ่ม และแกนนอน แทนรายการ
ท่ีจะนาเสนอ ใช้จุดตัดท่ีอยู่ระหว่างแนวเส้นที่ลากจากแกนตั้งและแกนนอนเป็นจุดแสดงข้อมูล
การเปรียบเทียบด่าของขอ้ มลู พจิ ารณาไดจ้ ากระดบั ความสงู ของจุดตัดเหลา่ น้นั

ตวั อยำ่ ง จำนวนเงนิ ค่ำโทรศัพทข์ องบำ้ นนำรีรัตน์ ตัวกราฟ
ต้ังแตเ่ ดอื นมนี ำคมถึงเดอื นกนั ยำยน ข้อมูลแต่ละรายการ
ช่อื กราฟ
อำยุเฉลยี่ (ป)ี
เสน้ แสดงจานวน
400
350
300
250
200

0 มี.ค เม.ย พ.ค มิ.ย ก.ค ส.ค ก.ย เดอื น

ข้อดีของการนาเสนอข้อมูลด้วยวิธีการนี้คือ สร้างได้ง่าย เปรียบเทียบค่าของข้อมูล
ได้ง่าย เหมาะกับการนาเสนอข้อมูลเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาและสามารถแสดง
ข้อมูลได้หลายชุดในภาพเดียวกันได้ แต่ก็มีข้อจากัดคือ ถ้าผู้นาเสนอกาหนดให้ สเกล 1 หน่วย
แทนปรมิ าณข้อมูลจานวนมาก จะแสดงค่าของขอ้ มูลได้ไม่ชัดเจนและไมส่ ามารถอา่ นคา่ ที่แท้จรงิ ได้
วธิ กี ำรนำเสนอขอ้ มลู ด้วยกรำฟเส้น

1) กาหนดแกนที่ตั้งฉากกัน 1 ดู่ โดยกาหนดให้แกนนอนแทนรายการท่ีจะนาเสนอ และแกนต้ัง
แทนปรมิ าณของข้อมูล โดยกาหนดมาตราสว่ นแทนปรมิ าณของขอ้ มลู ตามความเหมาะสม

2) ระบุช่อื กราฟไว้ดา้ นบนและแหล่งที่มาไวด้ า้ นลา่ งของกราฟ
3) หาจดุ ตัดของแนวต้ังฉากท่ีลากจากแกนนอน ซ่ึงแทนรายการที่จะนาเสนอ และแกนตั้งซึ่งแทน
ปรมิ าณของขอ้ มลู เปน็ คู่ ๆ จนครบทกุ คู่ จากนัน้ ใชจ้ ดุ ตัดเปน็ จุดแสดงตาแหนง่ ของข้อมลู
4) ลากส่วนของเสน้ ตรงเชอ่ื มจุดเหล่าน้นั จะได้เส้นกราฟแสดงข้อมลู ตามทต่ี อ้ งการ
5) กรณที ่มี ขี ้อมูลมากกวา่ 1 ชุด การนาเสนอขอ้ มูลจะใชล้ กั ษณะของเสน้ ท่แี ตกต่างกัน
เช่น ใช้สีเส้นที่แตกต่างกัน หรือเส้นประ เป็นต้น และต้องมีคาอธิบายท่ีชัดเจนว่าเส้นกราฟลักษณะใด
แสดงข้อมูลเก่ยี วกบั เร่อื งอะไร
6) ในกรณีท่ีขอ้ มูลแตล่ ะรายการมีจานวนมากและใกล้เคยี งกัน นักเรยี นสามารถย่นระยะ
เสน้ บอกปริมาณได้ โดยใช้เสน้ หยกั ( ) เพือ่ แสดงการละขอ้ มลู ในช่วงนั้น

19

ตวั อยำ่ งท่ี 8

อัตรำกำรวำ่ งงำนของแรงงำนในปี พ.ศ. 2553-2557 เป็นดังนี้

จำกข้อมูลข้ำงต้น จงนำเสนอขอ้ มลู โดยใชก้ รำฟเส้น
วธิ ที ำ การนาเสนอขอ้ มูลโดยใช้กราฟเสน้ มีขั้นตอน ดงั น้ี

1) ใหแ้ กนต้งั แทนอัตราการวา่ งงาน (%) และแกนนอนแทนระยะเวลา (พ.ศ.)
2) ตั้งชอ่ื กราฟเส้นวา่ "อัตราการว่างงานของแรงงานไทย ในปี พ.ศ. 2553

– 2557” และเขยี นทม่ี าไวด้ ้านล่างกราฟเสน้
3) ให้แกนในแนวต้งั เริม่ ต้นท่ี 0 แลว้ เพ่ิมขึ้นทลี ะ 0.2 จนถึง 1.2 และ

ให้แกนในแนวนอนเริ่มตน้ ที่ 2553 แล้วเพิม่ ข้นึ ทลี่ ะ 1 จนถงึ 2557
4) กาหนดจดุ ลงบนกราฟ ดงั นี้ (2553 , 1.04) , (2554 , 0.67) ,

(2555 , 0.66) , (2556, 0.72) และ (2557 , 0.84)
5) ลากสว่ นของของเสน้ ตรงเชอ่ื มจดุ แต่ละจุด
6) เขยี นตัวเลขแสดงคา่ ของข้อมลู กากับไว้ในแต่ละจุด

อัตรำกำรวำ่ งงำนของแรงงำนในปี พ.ศ. 2553-2557

20

ตัวอย่ำงท่ี 9

จำกกำรสำรวจจำนวนคนคนเกิดของจังหวัดลำพูดระหว่ำงปี พ.ศ. 2550 – 2559
จำแนกตำมเพศ มีรำยละเอยี ดดงั น้ี

จำกขอ้ มลู ขำ้ งต้น จงนำเสนอขอ้ มูลโดยใช้กรำฟเส้น
วิธีทำ การนาเสนอข้อมลู โดยใชก้ ราฟเสน้ มีขนั้ ตอน ดงั น้ี

1) ใหแ้ กนตั้งแทนจานวนคนเกดิ ของจงั หวัดลาพนู (คน) และแกนนอนแทน ปี (พ.ศ.)
2) ต้งั ชื่อกราฟเส้นวา่ "จานวนคนเกิดของจังหวดั ลาพนู ระหวา่ งปี พ.ศ. 2550 - 2559

จาแนกตามเพศ" และเขยี นทม่ี าไว้ด้านลา่ งกราฟเสน้
3) ให้แกนในแนวดงั้ เรม่ิ ดนั ที่ 0 แลว้ ย่นระยะไปที่ 1,300 แลว้ เพม่ิ ขนึ้ ทลี ะ 100 จนถึง

2,000 และใหแ้ กนแนวนอนเริ่มดันท่ี 2550 แล้วเพ่ิมขนึ้ ทลี ะ 1 จนถงึ 2559
4) กาหนดจดุ ลงบนกราฟ โดยใหจ้ ดุ สแี ดงแทนคูอ่ ันดบั ต่อไปน้ี (2550 , 1,785) ,

(2551 , 1,743) , (2552, 1,708) , (2553 , 1,734) , (2554, 1,651)
, (2555, 1,813) , (2556, 1,743) , (2557, 1,769) , (2558, 1,645) และ
(2559, 1,686)
และจุดสีน้าเงินแทนคู่อันดับต่อไปน้ี (2550 , 1,607) , (2551 , 1,650) ,
(2552, 1,549) , (2553, 1,622) , (2554 , 1,650) , (2555, 1,762)
, (2556 , 1,703) , (2557 , 1,704) , (2558, 1,670) และ (2559, 1,502)

21

5) ลากส่วนของเส้นตรงเช่อื มจุดสีแดงทุกจดุ โดยใช้เสน้ สีแดง และลากส่วนของเสน้ ตรงเชื่อมจุดสี
น้าเงินทกุ จดุ โดยใช้เสน้ สนี ้าเงิน

6) เขียนตัวเลขแสดงค่าของขอ้ มูลกากับไว้ในแตล่ ะจดุ

ลองทำดู

จำกกำรสำรวจจำนวนนักท่องเที่ยวท่ีเข้ำไปเท่ียวในเขตอุทยำนเวียงโกศัย จังหวัดแพร่ และ
อุทยำนปำงสดี ำ จังหวัดสระแก้ว ในปี พ.ศ. 2559 - 2559 ปรำกฏดังดำรำงต่อไปน้ี

22

วธิ กี ำรอำ่ นกรำฟเสน้
1) เลอื กรายการนาเสนอท่สี นใจในแกนนอน
2) จากจดุ บนแกนนอนที่เป็นรายการท่ีสนใจ แลว้ ลากเสน้ ตง้ั ฉากขน้ึ ไปตัดเส้นกราฟ
3) จากจุดท่ตี ดั เส้นกราฟให้ลากเสน้ ไปตดั แกนตัง้
4) อ่านคา่ ทีใ่ ดจ้ ากแกนตั้ง จะไดป้ ริมาณของข้อมูลท่สี นใจ

ตัวอยำ่ งที่ 10

มูลค่ ำกำ รส่ง ออกน้ำ มันดิ บขอ งประเท ศไ ทยใ นช่ว งเดื อนกุ มภ ำพัน ธ์ -ก รกฎ ำค ม
พ.ศ. 2560 มรี ำยละเอยี ดดงั นี้

มลู ค่ำกำรส่งออกน้ำมนั ดิบของประเทศไทยในชว่ ง
เดือนกุมภำพันธ-์ กรกฎำคม พ.ศ. 2560

จำกกรำฟเสน้ จงดอบคำถำมต่อไปนี้
1) มลู คา่ การส่งออกน้ามันดบิ ของประเทศไทยในชว่ งเดือนกุมภาพนั ธ์- กรกฎาคม
พ.ศ. 2560 สงู สดุ ในเดอื นใด และมีมลู ค่าเทา่ ไร
2) มลู ค่าการสง่ ออกนา้ มนั ดิบของประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมตา่ งกับเดือนน
มิถุนายน พ.ศ. 2560 เท่าไร
3) มลู ค่าการส่งออกนา้ มนั ดิบของประเทศไทยในเดอื นมนี าคมเพ่ิมขึ้นหรอื ลดลง
เมื่อเทยี บกบั เดือนกมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2560
4) ข้อมลู ท่ใี ช้ในการนาเสนอครง้ั นี้ ได้มาจากหน่วยงานใด

23

เฉลย 1) มลู คา่ การสง่ ออกนา้ มนั ดบิ ของประเทศไทยในช่วงเดอื นกมุ ภาพันธ์ - กรกฎาคม
พ.ศ. 2560 สูงสุดในเดอื นเมษายน และมีมลู คา่ 83.61 ล้านดอลลาร์สหรฐั

2) มูลค่าการส่งออกน้ามันดิบของประเทศไทยในเตือนกรกฎาคมต่างกับเดือน
มถิ ุนายน พ.ศ. 2560 อยู่ 1 ลา้ นดอลลารส์ หรัฐ

3) ในเดือนมีนาคม ประเทศไทยมีมูลค่าในการส่งออกน้ามันลดลงเม่ือเทียบกับ
เดือนกมุ ภาพันธ์

4) ขอ้ มลู ท่ใี ช้ในการนาเสนอครง้ั นไี้ ดม้ าจากอนาคารแห่งประเทศไทย

ลองทำดู

มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชำกำรและพัฒนำมำตรฐำนวิทยำศำสตร์ศึกษำฯ (สอวน.)
ได้จัดงบประมำณสนับสนุนโครงกำรโอลิมปิกวิชำกำรในปี พ .ศ. 2551-2558
มรี ำยละเอียดดังน้ี

จำกกรำฟเส้น จงตอบคำถำมต่อไปน้ี
1) กราฟเส้นนี้นาเสนอข้อมูลเก่ียวกบั อะไร
2) ปี พ.ศ. ใด ท่ี สอวน. มงี บประมาณสนบั สนนุ โครงการโอลิมปิกวชิ าการมากที่สุด

และเปน็ จานวนเงนิ ก่ีบาท
3) แนวโนม้ ในการจัดงบประมาณสนับสนุนโครงการโอลิมปิกวิชาการในปี พ.ศ. 2551

– 2558 เป็นอยา่ งไร
4) ข้อมูลที่นามาเสนอเป็นกราฟเส้นนี้ ได้มาจากหน่วยงานใด

24

3.4 กำรนำเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิรูปวงกลม

กำรนำเสนอขอ้ มลู ด้วยแผนภมู ริ ูปวงกลม เปน็ การนาเสนอข้อมลู ทใ่ี ชน้ าเสนอข้อมูล
เชิงปริมาณทตี่ ้องการแสดงใหเ้ ห็นภาพรวมและความแตกต่างระหวา่ งข้อมลู แต่ละรายการ

แผนภูมิรูปวงกลมเป็นการนาเสนอข้อมูลทั้งหมดลงในพ้ืนท่ีวงกลมหนึ่งวง โดยแบ่ง
พ้ืนที่ในวงกลมออกเป็น 100 ส่วนท่ีเท่า ๆ กัน แล้วมาคานวณว่าจานวนข้อมูลใน
แต่ละรายการคิดเป็นเทา่ ไรใน 100 สว่ นนน้ั

ตวั อย่ำง

ชือ่ แผนภูมิ จำนวนผู้ประกอบอำชีพต่ำง ๆ ทงั้ หมด 60,000 คน

ตวั แผนภมู ิ

วธิ ีกำรนำเสนอขอ้ มลู ดว้ ยแผนภมู ริ ปู วงกลม
ในระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 นกั เรยี นได้เรียนรู้การอา่ นขอ้ มลู จากแผนภมู ิรูปวงกลม

มาแล้ว จะพบว่า พื้นที่ในวงกลมจะถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ จากจุดศูนย์กลางของวงกลม
ตามสัดส่วนของปริมาณข้อมูลแต่ละรายการท่ีต้องการนาเสนอ การแบ่งพ้ืนท่ีในวงกลมนั้น
จะใชค้ วามสัมพันธ์ระหวา่ งขนาดของมุมที่จุดศูนย์กลางและพ้นื ท่ีของสว่ นของวงกลม กลา่ วคือ
ส่วนของวงกลมที่มีมุมที่จุดศูนย์กลางขนาดใหญ่กว่า จะมีพื้นท่ีมากกว่าส่วนของวงกลมที่มี
มุมท่ีจุดศูนย์กลางขนาดเล็กกว่า โดยมีอัตราส่วนของขนาดของมุมและอัตราส่วนของพื้นท่ี
ในวงกลมเป็นอัตราส่วนเดียวกัน โดยใช้หลักการที่ว่า มุมรอบจุดศูนย์กลางวงกลม
เท่ากับ 360°

มุมรอบจดุ ศูนยก์ ลางขนาด 360 องศา คิดเปน็ พื้นทีท่ ้ังหมดในวงกลม

การนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณหรือข้อมูลเชิงคุณลักษณะที่สามารถจัดประเภทของ
ข้อมูลและหาผลรวมของข้อมูลเชิงปริมาณท่ีต้องการนาเสนอท้ังหมดได้ สามารถใช้วิธี
การนาเสนอด้วยแผนภูมริ ูปวงกลมได้ ดงั นี้

25

1) หาผลรวมของข้อมูลเชิงปริมาณท่ีต้องการนาเสนอท้ังหมด และถือว่าผลรวมท่ี
ไดน้ ้นั แทนไดด้ ้วยพ้นื ท่ขี องวงกลม 1 วง ซงึ่ มมี มุ ที่จุดศูนย์กลางรวมกันเปน็ 360 องศา

2) คานวณหาขนาดของมมุ ท่จี ดุ ศนู ย์กลางของวงกลมตามสัดส่วนของขอ้ มลู ของแต่ละ
รายการยอ่ ย ซ่งึ คานวณได้จาก

ขนาดของมมุ ทจี่ ดุ ศูนยก์ ลางของรายการยอ่ ย = จานวนของขอ้ มลู รายการยอ่ ย × 360 องศา
ผลรวมของข้อมูลท้ังหมด

ผลรวมของมุมทจ่ี ดุ ศนู ยก์ ลางของทกุ รายการยอ่ ยจะเป็น 360 องตาพอดี
3) คานวณหาค่าร้อยละของพ้ืนท่ีรายการย่อยแต่ละรายการ ตามสัดส่วนของข้อมูล
ซงึ่ คานวณไดจ้ าก

รอ้ ยละของพื้นทขี่ องรายการยอ่ ย = จานวนของข้อมลู รายการยอ่ ย × 100
ผลรวมของขอ้ มลู ทั้งหมด

4) สรา้ งวงกลมและแบง่ ขนาดของมุมทจี่ ุดศูนยก์ ลางตามสตั สว่ นทีค่ านวณได้
5) ระบุชอ่ื ของแผนภูมิไว้ต้านบนและแหล่งทีม่ าไว้ด้านล่าง
6) เขียนคาอธิบายในแต่ละส่วนของพ้ืนท่ีวงกลมว่าแสคงข้อมูลเร่ืองอะไร พร้อมท้ัง
ระบุคา่ รอ้ ยละที่คานวณได้
เพ่ือให้นักเรียนมีความเข้าใจในวิธีการนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิรูปวงกลมย่ิงข้ึน
ให้นักเรยี น พิจารณาตวั อย่างต่อไปนี้

ตวั อย่ำงท่ี 11

จำกข้อมูลของบรษิ ัทจเี อ็มเอ็ม แกรมม่ี จำกัด (มหำชน) พบว่ำ ในปี พ.ศ. 2555
รำยได้ของอุตสำหกรรมภำพยนตร์ในประเทศไทยมำจำกภำพยนตร์ Hollywood
3,036 ลำ้ นบำท จำกภำพยนตรไ์ ทย 1,096 ลำ้ นบำท และภำพยนตร์สัญชำติอื่น
เช่น เกำหลี จีน ญี่ปุ่น 84 ล้ำนมำท จำกข้อมูลข้ำงต้น จงนำเสนอข้อมูลโดยใช้
แผนภมู ริ ปู วงกลม
วิธที ำ การนาเสนอขอ้ มูลโดยใช้แผนภูมิรปู วงกลม มีขั้นตอนดังนี้

1) หาผลรวมของข้อมูลเชิงปริมาณทีต่ อ้ งการนาเสนอทง้ั หมด
ผลรวมของรายไดท้ ้ังหมด เท่ากบั 3,036 + 1,096 + 84 ลา้ นบาท
= 4,216 ลา้ นบาท

26

2) หาขนาดของมมุ ทจี่ ุดศูนย์กลางและค่าร้อยละของพ้ืนทร่ี ายการย่อยในวงกลม

3) ตั้งชื่อแผนภูมิรูปวงกลมว่า "แหล่งรายได้ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศไทย
ปี พ.ศ. 2555" และเขยี นแหลง่ ทมี่ าไวด้ า้ นลา่ งของแผนภมู ริ ปู วงกลม
4) สร้างวงกลมและแบ่งขนาดของมุมที่จุดศูนย์กลางตามสัดส่วนที่คานวณได้และ
เขยี นคาอธิบายในแตล่ ะสว่ นของพื้นทวี่ งกลม

27

ลองทำดู

จำกรำยงำนกำรสำรวจกำรใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสือ่ สำรในสถำนประกอบกำร
ในปี พ.ศ. 2559 ของสำนักงำนสถิติแห่งชำติ พบว่ำ จำนวนลูกจ้ำงท่ีใช้คอมพิวเตอร์
ในกำรปฏบิ ตั งิ ำน ซงึ่ จำแนกดำมกิจกรรมทำงเศรษฐกิจ มีดังตอ่ ไปน้ี

กจิ กรรมทำงเศรษฐกิจ จำนวนลูกจำ้ ง (คน)

ธุรกิจการคา้ และการบรกิ าร 1,745,784

การผลิต 589,430

การกอ่ สรา้ ง 65,773

การขนส่งทางบก สถานทเี่ กบ็ สนิ คา้ 36,235

โรงพยาบาลเอกชน 48,502

ทม่ี า : สานักงานสถติ ิแหง่ ชาติ

จำกขอ้ มูลข้ำงตน้ จงนำเสนอข้อมูลโดยใช้แผนภมู ิรูปวงกลม

วิธกี ำรอำ่ นแผนภูมริ ปู วงกลม
การนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิรูปวงกลม จะมีการแสดงให้เห็นว่าแต่ละส่วนของวงกลม

ทถ่ี ูกแบ่งไวเ้ ป็นการนาเสนอขอ้ มลู ของรายการใด มีค่าร้อยละเปน็ เทา่ ไรหรือมีข้อมลู ทเ่ี ป็นจรงิ เทา่ ไร
โดยนักเรียนสามารถอ่านค่าของข้อมูล หรือร้อยละของข้อมูลในแต่ละรายการย่อยได้จากข้อความ
ประกอบในแผนภูมิ หรือจะเปรยี บเทียบจากขนาดของพ้ืนที่กไ็ ด้

ตัวอยำ่ งท่ี 12

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ทำกำรสำรวจควำมต้องกำรในกำรใช้น้ำมันปำล์มในประเทศไทย

ปี พ.ศ. 2558 พบวำ่ ควำมตอ้ งกำรใชน้ ้ำมันปำล์มในประเทศแบง่ ออกเป็น 3 ส่วนใหญ่

ดังนี้

สว่ นที่ 1 เพอ่ื ใชใ้ นกำรบริโภคในรปู แบบของนำ้ มันพืชทใี่ ชใ้ นกำรประกอบอำหำรและ

ใช้ เ ป็ น วั ต ถุ ดิบใ น อุ ต ส ำห กรรม อ ำห ำรต่ำง ๆ เ ช่ น ข น ม ข บเ คี้ ยว

บะหม่ีก่งึ สำเร็จรูป นมขน้ หวำน ครมี และเนยเทียม เป็นตนั

สว่ นที่ 2 เพ่ือใชเ้ ป็นวตั ถุดบิ ในกำรผลติ พลังงำนทดแทนทีเ่ รียกว่ำ "ไบโอดเี ซล"

ส่วนที่ 3 เพือ่ ใชเ้ ป็นวัตถดุ ิบในอตุ สำหกรรมตอ่ เนื่องตำ่ ง ๆ เชน่ สบู่ ผงซกั ฟอก

เครอื่ งสำอำง อำหำรสัตว์ เปน็ ตน้

โดยมสี ัดส่วนปรมิ ำณกำรใช้งำนดังกล่ำวขำ้ งดนั ดงั ตอ่ ไปนี้ 28

จำกแผนภูมิรูปวงกลม จงตอบคำถำมต่อไปน้ี
1) สัดสว่ นการใช้น้ามันปาล์มในประเทศไทยใชใ้ นด้านใดมากทีส่ ดุ
2) สดั สว่ นการใชน้ า้ มนั ปาล์มในประเทศไทยเพื่อผลิตไบโอดีเซลมากกว่าเพอ่ื ใช้ในอตุ สาหกรรมอาหาร

อื่น ๆ อย่รู ้อยละเทา่ ไร
3) สดั ส่วนการใช้นา้ มนั ปาล์มในประเทศไทยเพอ่ื ผลิตสบู่ตา่ งจากเพื่อใชผ้ ลติ นา้ มนั พืชอย่รู ้อยละเท่าไร

เฉลย 1) การบริโภคในรูปแบบของนา้ มนั พชื
2) สัดส่วนการใช้น้ามันปาล์มในประเทศไทยเพ่ือผลิตไบโอดีเซลมวกกว่าเพ่ือ

ใชใ้ นอตุ สาหกรรมอาหารอืน่ ๆ อยรู่ ้อยละ 11
3) สัดส่วนการใช้น้ามันปาล์มในประเทศไทยเพ่ือผลิตสบู่ต่างจากเพื่อใช้ผลิต

นา้ มนั พืชอยู่รอ้ ยละ 35

ตวั อยำ่ งท่ี 13

สวนดุสิตโพล มหำวิทยำลัยสวนดุสิต ได้ทำกำรสำรวจควำมคิดเห็นของผู้ใหญ่ที่มี
ควำมเปน็ ห่วงและมีควำมเหน็ ตอ่ เดก็ ในแง่มุมต่ำง ๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน
ทั้งสิ้น 1,380 คน ระหว่ำงวันท่ี 7 - 10 มกรำคม พ.ศ. 2557 สรุปผลโดยแสดง
เปน็ แผนภูมริ ปู วงกลม ดังนี้

29

คำถำมที่ 1 “จดุ เด่น” ของเดก็ ไทยในสายตาผู้ใหญ่ ณ วันนี้ เป็นอยา่ งไร

แผนภมู วิ งกลมที่ 1
คำถำมที่ 2 ทาอยา่ งไร “เดก็ ไทย” จงึ สามารถแข่งขนั กับเด็กตา่ งชาติได้

แผนภมู ิวงกลมที่ 2

30

คำถำมท่ี 3 “ความในใจ” ทีผ่ ใู้ หญ่อยากบอกเดก็ ไทย คืออะไร

แผนภูมวิ งกลมท่ี 3

จำกแผนภูมิรปู วงกลม จงตอบคำถำมตอ่ ไปนี้
1) ในสายตาผู้ใหญ่ ณ วันน้ี จดุ เด่นของเดก็ ไทยคอื เรื่องใดมากที่สุด
2) มผี ้ใู หญก่ คี่ นที่คิดวา่ จดุ เดน่ ของเดก็ ไทยคือ ฉลาด และไหวพริบดี
3) ในสายตาผใู้ หญ่คดิ ว่าทาอยา่ งไร เดก็ ไทยจงึ จะสามารถแข่งชนั กับเด็กต่างชาติ

ไดม้ ากท่ีสุด
4) จากคาถามที่ 2 ผ้ใู หญท่ คี่ ดิ วา่ ครตู ้องมีคุณภาพมากกว่าผใู้ หญ่ทีค่ ดิ ว่าเด็กต้องมี

ทักษะและพนื้ ฐานด้านภาษาตา่ งประเทศทด่ี ี เดก็ ไทยจึงสามารถแขง่ ขนั กับ
เดก็ ตา่ งชาตไิ ด้มีจานวนก่คี น
5) ผใู้ หญ่อยากจะบอกอะไรเดก็ ไทยมากท่สี ุด
6) จากคาถามท่ี 3 จานวนผู้ใหญท่ ่ีคดิ วา่ เด็กไทยตอ้ งตง้ั ใจเรียน รจู้ กั รบั ผิดชอบ
ในหนา้ ที่ รักประเทศชาตบิ า้ นเมอื ง และชว่ ยกันพัฒนาบ้านเมืองใหเ้ จรญิ
มที ัง้ หมดกคี่ น

31

เฉลย 1) ในสายตาผู้ใหญ่ ณ วันน้ี จุดเด่นของเด็กไทยคือ สามารถเรียนรู้

เทคโนโลยีตา่ ง ๆได้อย่างรวดเร็ว

2) จากแผนภมู ริ ปู วงกลมท่ี 1 จะพบว่า มผี ู้ใหญท่ คี่ ิดว่าเด็กไทยมีจุดเด่น คือ

ฉลาด และไหวพริบดี คดิ เปน็ 12%

เน่ืองจากมีผู้แสดงความคิดเหน็ จานวน 1,380 คน
12
คิดเปน็ จานวนผ้ใู หญ่ เทา่ กบั 100 × 1,380 = 165.6

หรอื ประมาณ 166 คน

3) ในสายตาผู้ใหญ่คิดว่า ครอบครัวต้องให้การสนับสนุน และปลูกฝังให้เด็กรัก

การเรยี น เด็กไทยจงึ จะสามารถแข่งขนั กับเดก็ ตา่ งชาติได้

4) จากแผนภูมิรูปวงกลมที่ 2 จะพบว่า จานวนผู้ใหญ่ท่ีคิดว่าครูต้องมีคุณภาพ

มากกวา่ จานวนผู้ใหญท่ ค่ี ดิ ว่าเด็กตอ้ งมที กั ษะและพื้นฐานดา้ นภาษาตา่ งประเทศทีด่ ีอยู่

22% เน่ืองจากมีผู้แสดงความคดิ เหน็ จานวน 1,380 คน
22
คิดเปน็ จานวนผูใ้ หญ่ เท่ากับ 100 × 1,380 = 303.6

หรอื ประมาณ 304 คน

5) ผูใ้ หญ่อยากจะบอกเดก็ ไทยวา่ ขอใหเ้ ป็นเดก็ ดี กตัญญู ประหยัด และไมฟ่ ุ่มเฟอื ย

6) จากแผนภมู ิรปู วงกลมท่ี 3 จะพบว่า จานวนผู้ใหญ่ทค่ี ดิ วา่ เดก็ ไทยตอ้ งตัง้ ใจเรียน

รูจ้ กั รับผดิ ชอบในหน้าท่ี รักประเทศชาตบิ า้ นเมือง และชว่ ยกันพัฒนาบา้ นเมอื ง

ให้เจริญรวมเปน็ 39%

เนอ่ื งจากมผี แู้ สดงความคดิ เห็นจานวน 1,380 คน
39
คดิ เปน็ จานวนผใู้ หญ่ 100 × 1,380 = 538.6

หรอื ประมาณ 539 คน

32

ลองทำดู

จงพิจำรณำแผนภูมริ ูปวงกลมตอ่ ไปนี้

ท่มี า : สานกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

จำกแผนภมู ิรปู วงกลม จงตอบคำถำมต่อไปน้ี
1) กลุ่มอตุ สาหกรรมใดท่ีทาธุรกิจพาณิชยอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์มากทส่ี ดุ
2) กลมุ่ อตุ สาหกรรมใดทท่ี าธรุ กิจพาณิชย์อเิ ล็กทรอนกิ สน์ ้อยทีส่ ดุ
3) ในปี พ.ศ. 2555 กลุ่มอดุ สาหกรรมแฟช่นั /เครอื่ งแต่งกาย

ทาธรุ กจิ พาณชิ ยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ คดิ เปน็ ก่เี ท่า (โดยประมาณ) ของ
กลุม่ อุตสาหกรรมสงิ่ พิมพ์และเครือ่ งใช้สานักงาน
4) ถา้ กลมุ่ อุตสาหกรรมทที่ าธุรกจิ พาณิชย์อิเลก็ ทรอนกิ สม์ จี านวน
2,000 ธรุ กิจ กลมุ่ อตุ สาหกรรมยานยนต์และผลติ ภัณฑจ์ ะมจี านวน
เท่าไร
5) ถา้ กล่มุ อุตสาหกรรมสนิ ค้าและอื่น ๆ มจี านวนธรุ กจิ 540 ธุรกจิ
กล่มุ อตุ สาหกรรมที่ทาธุรกจิ พาณิชย์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์จะมจี านวนเทา่ ไร

33

แบบฝกึ ทักษะท่ี 3

ระดบั พื้นฐำน

1. ผลการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงรายการ World Grand Prix ปี พ.ศ. 2560
ทกี่ รงุ เทพมหานคร ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติอิตาลี ผลปรากฏว่าทีมชาติ
ไทยเปน็ ฝา่ ยชนะ 3 : 0 เซต โดยผูเ้ ลน่ ทมี ชาติไทยท่ีเป็นผูท้ าคะแนนได้ มดี งั นี้

จำนวนคะแนนทผ่ี เู้ ล่นทมี ชำติไทยทำได้ในกำรแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงรำยกำร
World Grand Prix ปี พ.ศ. 2560 ท่ีกรงุ เทพมหำนคร

จากแผนภมู ิรูปภาพ จงตอบคาถามต่อไปน้ี
1) นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงของทมี ชาตไิ ทยคนใดที่ทาะแนนได้มากทีส่ ุด และทาได้

กีค่ ะแนน
2) นุตราทาคะแนนได้ก่คี ะแนน
3) พิมพชิ ยาทาคะแนนได้กี่คะแนน
4) อรดที าคะแนนได้มากกวา่ อจั ฉราพรกี่คะแนน
5) ตลอดการแขง่ ขันทัง้ 3 เซต นักกฬี าวอลเลยบ์ อลหญงิ ของทีมชาตไิ ทยทาคะแนนได้

รวมกนั ทง้ั หมดกีค่ ะแนน

34

ระดบั กลำง

2. จากการสารวจภาวะการทางานของประชากร โดยสานักงานสถิติแห่งชาติ
เม่ือปี พ.ศ. 2559 พบวา่ คา่ ร้อยละของแรงงานชายและหญงิ มีสดั สว่ นท่ีแตกต่างกัน
ในแตล่ ะอาชพี ดงั แผนภมู ิแทง่ ตอ่ ไปน้ี

จากแผนภูมิแท่ง จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้
1) แผนภมู นิ ี้แสดงร้อยละของผู้ทางานในก่ีกลมุ่ อาชพี
2) กลมุ่ อาชีพใดท่มี ีสดั สว่ นของคนทางานเปน็ ผูห้ ญิงน้อยท่ีสุด
3) เพศชายที่ทางานเปน็ เสมียน คิดเป็นร้อยละเทา่ ไรของจานวนผู้ทที่ างานเป็น

เสมยี นท้ังหมด
4) กลมุ่ อาชพี ใดบ้างท่มี สี ัดส่วนของผู้ท่มี งี านทาเปน็ ผหู้ ญงิ และผูช้ ายใกลเ้ คยี งกัน
5) กลุ่มอาชพี ใดบ้างท่สี ัดส่วนของผ้ทู ี่ทางานเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญงิ

35

3. ปริมาณการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยของผู้ประกอบการที่ต้ังอยู่ในภูมิภาค
ตะวันออกเฉียงเหนอื ของเดือนมกราคม - กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2560 มีรายละเอียดดงั นี้

ปริมำณกำรส่งออกข้ำวหอมมะลิไทยของผู้ประกอบกำรที่ตงั้ อยูใ่ นภมู ภิ ำค
ตะวันออกเฉยี งเหนอื ของเดอื นมกรำคม - กรกฎำคม ปี พ.ศ. 2560

จากกราฟเส้น จงตอบคาถามต่อไปน้ี
1) กราฟเสน้ น้ี นาเสนอขอ้ มูลเกีย่ วกับอะไร
2) เดอื นใดท่ีมีการสง่ ออกข้าวหอมมะลิมากทส่ี ุด และมีปริมาณเท่าไร
3) เดอื นใดท่มี ปี รมิ าณการส่งออกข้าวหอมมะลิลดลงจากเตอื นกอ่ นมากท่ีสุด

และลดลงเปน็ ปรมิ าณเท่าไร
4) แนวโน้มการสง่ ออกขา้ วหอมมะลขิ องผู้ประกอบการในภมู ภิ าคตะวันออกเฉยี งเหนือ

ของเดอื นมกราดม - กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2560 เป็นอย่างไร
5) การนาเสนอข้อมลู นี้ น่าจะมาจากคาถามทางสถิติวา่ อยา่ งไร

36

4. จานวนแรงงานผู้ประกนั งานในระหวา่ ง ปี พ.ศ. 2554 – 2559 มีดงั นี้

จากข้อมูลขา้ งต้น จงนาเสนอข้อมูลโดยใชก้ ราฟเส้นและแผนภมู ิวงกลม

ระดบั กลำง

5. มลู ค่าการส่งออกสินคา้ ท่สี าคัญของประเทศไทยในชว่ งกมุ ภาพนั ธ์ – กรกฎาคม
พ.ศ. 2560 มีรายละเอยี ด ดงั น้ี

จากข้อมูลข้างตน้ จงนาเสนอข้อมลู โดยใชก้ ราฟเส้น
6. จากการสารวจเนือ้ ที่ที่ใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร ปี พ.ศ. 2556 ของจังหวัด
แม่ฮ่องสอน โดยแบง่ เปน็ ประเภทการใช้ประโยชน์ ดงั แผนภูมิวงกลมต่อไปนี้

37

จากแผนภูมริ ปู วงกลม จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้
1) จานวนพื้นที่ทางการเกษตรมที ัง้ หมดกีใ่
2) จานวนพืน้ ทีท่ างการเกษตรด้านอ่นื ๆ มที ้ังหมดทไ่ี ร่
3) จานวนพ้นื ที่ทางการเกษตรสาหรบั ผลไม้ / ไมย้ ืนดนั คดิ เป็นรอ้ ยละเทา่ ไรของ

พื้นทีท่ างการเกษตรทง้ั หมด
4) จานวนพน้ื ท่ีทางการเกษตรสาหรบั นาข้าวคดิ เปน็ รอ้ ยละเท่าไรของพืน้ ที่ทาง

การเกษตรทงั้ หมด

4. กำรนำควำมร้เู ก่ยี วกับสถิติไปใชใ้ นชีวิตจริง

ปกตินักเรียนจะได้รับข่าวสารท่ีมีข้อมูลทางสถิติอยู่บ่อย ๆ ข้อมูลข่าวสารทางสถิติ
บางอย่าง สามารถทาความเขา้ ใจได้งา่ ยแต่ข่าวสารบางอยา่ งก็มคี วามซับซอ้ นและเขา้ ใจไดย้ าก
ซ่งึ อาจนาไปสู่ความเข้าใจที่ผิดพลาด โดยอาจเกิดจากการนาเสนอข้อมูลทางสถิติท่ีผู้นาเสนอ
ขอ้ มูลขาดความระมัดระวังในการนาเสนอ หรืออาจเกิดจากวิธีการนาเสนอข้อมูลที่ไม่ตรงกับ
ขอ้ มลู ท่ีไปเกบ็ รวบรวมมา

นักเรียนจะมที กั ษะการอ่านและการแปลความหมายข้อมูลทางสถิติได้ดี นักเรียนต้องมี
การฝึกอภปิ ราย ฝึกแลกเปล่ียนความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารทางสถิติ ซ่ึงจะเป็นวิธีการ
หนึง่ ทท่ี าใหน้ ักเรยี นเกิดการเรยี นรู้ และมีความสามารถในการพิจารณาข่าวสารมากขึน้

ตัวอย่ำงท่ี 14

จงอำ่ นและวิเครำะหข์ อ้ มูลต่อไปนี้

กำรสำรวจควำมพ่งึ พอใจตอ่ ผลกำรดำเนนิ งำนในภำพรวม

ของรฐั บำลพลเอกประยุทธ์ จนั ทร์โอชำ เมอื่ ครบ 3 ปี

ผลการสารวจ พบวา่ ประชาชนใหค้ ะแนนความพง่ึ พอใจต่อผลการดาเนินงานในภาพรวมของ

รฐั บาลอยู่ที่ 7.01 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน และเม่ือพิจารณาถึงสัดส่วนของประชาชน

ร้อยละ 68.1 ระบุว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด (ซ่ึงในจานวนนี้มีความพึงพอใจ

มากท่ีสุดร้อยละ 13.6 และมากร้อยละ 54.5 ส่วนสัดส่วนผู้ท่ีระบุว่าพึงพอใจปานกลาง มีร้อยละ

26.8

และน้อยร้อยละ 3.8 ขณะท่ีน้อยที่สุดและไมพ่ งึ พอใจเลยมีรอ้ ยละ 0.3 ตามลาดับ

เมอ่ื พิจารณาเปน็ รายภาค พบวา่ ประชาชนภาคใต้ให้คะแนนความพึงพอใจต่อผลดาเนินงาน

ในภาครวมของรัฐบาลมากที่สุดอยู่ที่คะแนน 7.46 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน รองลงมา

ได้แก่ ภาคกลาง (7.22 คะแนน) ภาคเหนือ (6.92 คะแนน) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (6.86

คะแนน) และกรุงเทพมหานคร (6.56 คะแนน) ตามลาดบั 38

จำกข้อมลู ขำ้ งต้น จงตอบคำถำมตอ่ ไปน้ี
1) จานวนประชาชนที่ให้คะแนนความพึงพอใจต่อผลการดาเนินงานในภาพรวมของ

รฐั บาลในระดบั มากมีจานวนร้อยละเทา่ ไร
2) จานวนประชาชนทใี่ ห้คะแนนความพงึ พอใจต่อผลการดาเนนิ งานในภาพรวมของ

รฐั บาลในระดบั นอ้ ยทส่ี ดุ และไมพ่ ึงพอใจเลยมจี านวนรอ้ ยละเท่าไร
3) คะแนนความพงึ พอใจต่อผลดาเนนิ งานในภาครวมของรัฐบาลในภาคใตก้ บั

กรุงเทพมหานครต่างกันเท่าไร
4) ถา้ ตอ้ งการนาเสนอขอ้ มูลคะแนนความพึงพอใจตอ่ ผลดาเนินงานในภาครวมของ

รฐั บาลเมอ่ื พิจารณาเป็นรายภาค ควรใชก้ ารนาเสนอด้วยวธิ ใี ด เพราะเหตใุ ด

ลองทำดู

จงอำ่ นและวเิ ครำะหข์ ้อมูลตอ่ ไปน้ี

กำรสำรวจควำมคิดเห็นของประชำชนเกยี่ วกบั
ควำมตอ้ งกำรให้รัฐบำลดำเนนิ กำรเพ่อื เป็นของขวญั ปีใหม่ ในปี พ.ศ. 2560

ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลดาเนินการ
เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2560 ใน 5 อันดับแรก คือ การแก้ปัญหาสินค้าอุปโภค
/ บริโภคไม่ให้มีราคาแพง (ร้อยละ 60.5) รองลงมาได้แก่ การแก้ปัญหาหนี้สินของ
ประชาชน (ร้อยละ 35.3) การแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรไม่ให้มีราคาตกต่า /
พยุงราคา (ร้อยละ 34.3) การจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบ้ียต่า (ร้อยละ 20.2) และ
การแก้ปญั หาว่างงาน / จดั หาอาชพี (ร้อยละ 15.4)

เม่อื พจิ ารณาเปน็ รายภาค พบว่า ประชาชนในภาคกลาง (ร้อยละ 66.6) ภาคใต้
(ร้อยละ 62.0) ภาคเหนอื (ร้อยละ 57.5) และกรงุ เทพมหานคร (ร้อยละ 57.2) ระบุว่า
ต้องการให้รัฐบาลดาเนินการแก้ปัญหาสินค้าอุปโภค / บริโภคไม่ให้มีราคาแพง เพื่อเป็น
ของขวัญปีใหม่ในปี พ.ศ. 2560 มากกว่าเร่ืองอ่ืน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ
การแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรไมใ่ หม้ ีราคมตกต่า / พยงุ ราคา (รอ้ ยละ 58.7)

ทม่ี า : สานักงานสถติ แิ หง่ ชาติ

จงขอ้ มูลข้ำงต้น จงตอบคำถำมตอ่ ไปนี้
1) สิ่ ง ท่ี ป ร ะ ช า ช น ต้ อ ง ก า ร ใ ห้ รั ฐ บ า ล ด า เ นิ น ก า ร เ พื่ อ เ ป็ น ข อ ง ข วั ญ ปี ใ ห ม่

พ.ศ. 2560 ใน 5 อันดบั แรก ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง
2) จานวนประชาชนที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาสินค้าอุปโภค / บริโภคไม่ให้มีราคา

แพงกบั จดั หาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยตา่ ตา่ งกันอยู่ร้อยละเทา่ ไร

39

3) ส่งิ ทีป่ ระชาชนตอ้ งการใหร้ ัฐบาลดาเนนิ การมากทส่ี ดุ เพอ่ื เปน็ ของขวัญปใี หม่
พ.ศ. 2560 เมอื่ พจิ ารณาเป็นรายภาค ไดแ้ ก่ เรื่องอะไร

4) ผลสารวจความตอ้ งการให้รฐั บาลดาเนนิ การเพอื่ เปน็ ของขวัญปใี หม่ในปี พ.ศ. 2560
ควรนาเสนอขอ้ มลู ด้วยวิธกี ารใด เพราะเหตุใด

แบบฝกึ ทกั ษะที่ 4

ระดับ พ้ืนฐำน

1) จงอ่านและวเิ คราะหข์ ้อมลู ตอ่ ไปน้ี

ควำมคิดเห็นเกยี่ วกบั กำรพบเหน็ กำรซ้อื ขำยยำเสพติด
เม่ือสอบถามประชาชนเก่ียวกับการพบเห็นการซื้อขายยาเสพติดในชุมชน / หมู่บ้าน
ผลสารวจ พบว่า ประชาชนร้อยละ 3.1 ระบุว่าพบเห็นการซ้ือขายยาเสพติดได้ง่าย
(ซึ่งในจานวนนี้ใด้ให้เหตุผลว่า พบเห็นการซ้ือขายยาเสพติดได้ทั่วไปเหมือนซ้ือของกิน
- ของใช้ พบเห็นการซ้ือขายยาเสพติดแบบเปิดเผยไม่เกรงกลัว กฎหมาย พบเห็นการซ้ือขาย
ยาเสพติดใช้ระยะเวลาไม่นานประมาณ 1-2 ช่ัวโมง มีการซ้ือขายยาเสพติดตาม ร้านค้าใน
ชุ ม ช น / ห มู่ บ้ า น แ ล ะ เ ห ตุ ผ ล อ่ื น ๆ เ ช่ น เ จ้ า ห น้ า ท่ี ไ ม่ เ ข้ ม ง ว ด เ ป็ น พื้ น ท่ี
ที่ควบคุมยาก / ลบั ตาคน เป็นตัน) ขณะท่ีประชาชนร้อยละ 1.0 ระบุว่าพบเห็นการซ้ือขาย
ยาเสพติดได้ยาก (ซึ่งในจานวนน้ีได้ให้เหตุผลว่าเจ้าหน้าที่เข้มงวด ต้องไปซ้ือนอกชุมชน
/ หมู่บ้าน มีการต้ังจุดตรวจจุดสกัดเพิ่มข้ึน) ส่วนประชาชนร้อยละ 33.9 ระบุว่าไม่พบเห็น
แต่ทราบว่ามีการซ้ือขายยาเสพติด และประชาชนร้อยละ 62.0 ระบุว่าไม่พบเห็นและไม่
ทราบว่ามีการซอื้ ขายยาเสพตดิ
เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายภาค ป.ป.ส. พบว่า ประชาชนในกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 7.8
ระบุว่า พบเห็นการซ้ือขายยาเสพติดได้ง่ายในสัดส่วนที่สูงกว่าภาคอื่น รองลงมา ได้แก่
ภาค 9 (ร้อยละ 5.9) ภาค 8 (ร้อยละ 3.2) และภาค 4 (ร้อยละ 2.9) ส่วนภาค 1 และ
ภาค 7 มสี ัดสว่ นเท่ากนั (รอ้ ยละ 2.6) ขณะท่ภี าคอื่นมปี ระมาณรอ้ ยละ 1-2
เม่ือพิจารณาเป็นรายภาคภูมิศาสตร์ พบว่า ประชาชนในกรุงเทพมหานคร
ร้อยละ 7.8 ระบุว่าพบเห็น การซอื้ ขายยาเสพติดไดง้ า่ ยในสดั ส่วนที่สูงกว่าภาคอ่ืน รองลงมา
ได้แก่ ภาคใต้ (ร้อยละ 4.6) ภาคกลาง (ร้อยละ 2.3) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
(ร้อยละ 2.1) และภาคเหนอื (ร้อยละ 0.8)

ทมี่ า : สานกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

40

ระดบั กลำง

2. จงวิเคราะห์ขา่ วสารที่นาเสนอขอ้ มลู ทางสถติ ติ อ่ ไปนี้

สภำพน้ำในอำ่ งเก็บน้ำขนำดใหญ่ ณ วันที่ 7 กันยำยน พ.ศ. 2560 หน่วย : ล้ำนลูกบำศกเ์ มตร

จากข่าวสารข้างต้น จงอภิปรายร่วมกันว่า การนาเสนอข้อมูลน้ียังขาดความสมบูรณ์และ
ความถูกตอ้ งหรอื ไม่ หรอื ทาให้เกิดการรบั รขู้ อ้ มลู ข่าวสารท่ีคลาดเคล่อื นหรือไม่อย่างไร

41