โครงงานวิชา IS
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/16
เร่อื ง โครงงานทเี่ ป็นการศกึ ษาทฤษฎี หลักการ
หรอื แนวคิดใหม่ๆ ในการพฒั นาผลงาน
คณะผู้จัดทา
1 นางสาว ณัฐนิชา ทาสดี า เลขท2่ี 2
2 นางสาว ชนากานต์ เหล่าอรรคะ เลขที่ 24
3 นางสาว ดารนิ ทร์ ลุนเรยี ง เลขท่ี 25
4 นางสาว ทรรศกิ า บรรเทิงสุข เลขท่ี 32
5 นางสาว ฟ้าใหม่ ชมภูจันทร์ เลขท่ี 37
6 นางสาว พรปวณี ์ ประเสรฐิ ศลิ ป์ เลขที่ 40
ครูทป่ี รกึ ษาโครงงาน
ครูสริ ภิ รณ์ อรญั วารี
โรงเรยี นสตรรี าชินูทิศ อาเภอเมอื ง จังหวัดอุดรธานี
สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาอุดรธานี
ใบรบั รองรายงานการทาโครงงานทางวิชาการ
เร่อื ง โครงงานทเี่ ป็นการศกึ ษาทฤษฎี หลักการ
หรอื แนวคิดใหม่ๆ ในการพัฒนาผลงาน
ผู้ทาโครงงาน
1 นางสาว ณัฐนิชา ทาสดี า เลขท2ี่ 2
2 นางสาว ชนากานต์ เหล่าอรรคะ เลขท่ี 24
3 นางสาว ดารนิ ทร์ ลุนเรยี ง เลขที่ 25
4 นางสาว ทรรศกิ า บรรเทิงสุข เลขท่ี 32
5 นางสาว ฟ้าใหม่ ชมภจู ันทร์ เลขที่ 37
6 นางสาว พรปวีณ์ ประเสรฐิ ศลิ ป์ เลขท่ี 40
ความเห็นของอาจารย์ผพู้ ิจารณาเห็นชอบ
……………………………………………………………………
……………................................
……………………………………………………………………
……………................................
……………………………..
(.................................................... )
อาจารยท์ ป่ี รกึ ษาโครงงาน
วันท่ี 10. เดือน มนี าคม. พ.ศ. 2565
กิตติกรรมประกาศ
การทางานโครงงานคร้งั นีด้ าเนินการสาเร็จได้เพราะการสนับส
นุนของคณุ ครู สริ ิภรณ์ อรญั วารี
ท่ีคอยใหค้ าแนะนาและให้การชแี้ นะในการดาเนนิ งาน
ตลอดจนแนะนาสนบั สนนุ เอกสารต่างๆในการดาเนนิ กิจกรรมจนปร
ะสบความสาเรจ็
ขอกราบขอบพระคุณคณุ ครูทกุ ทา่ นในกลุ่มสาระการเรยี นรูค้ อ
มพิวเตอร์ ที่เอ้อื เฟ้ อื อุปกรณเ์ พ่อื ใชใ้ นการศกึ ษา
และโครงงานน้ีสาเรจ็ ลงไดด้ ้วยความร่วมมอื ของ คณุ ครูสิริภรณ์
อรญั วารี
ท้ายสดุ น้ี
คณะผจู้ ดั ทาโครงงานขอกราบขอบพระคุณคณะผู้บรหิ ารโรงเรียนที่ใ
หก้ ารสนบั สนนุ การทาโครงงาน
ทาใหพ้ วกเราได้แสดงความสามารถเต็มตามศกั ยภาพท่ีมอี ยู่ในการ
ทาสิง่ อนั จะเปน็ ประโยชนต์ ่อสังคมต่อไป
คณะผ้จู ัดทาโครงงาน
............../................./............
โครงงานทางวิชาการ
ช่อื โครงงาน : โครงงานท่เี ปน็ การศกึ ษาทฤษฎี
หลักการ หรอื แนวคิดใหมๆ่ ในการพัฒนาผลงาน
สาขาวชิ า : IS
ช่อื ผ้จู ัดทา :
1 นางสาว ณัฐนิชา ทาสดี า เลขท2ี่ 2
2 นางสาว ชนากานต์ เหล่าอรรคะ เลขท่ี 24
3 นางสาว ดารนิ ทร์ ลนุ เรยี ง เลขท่ี 25
4 นางสาว ทรรศกิ า บรรเทิงสุข เลขท่ี 32
5 นางสาว ฟ้าใหม่ ชมภจู ันทร์ เลขที่ 37
6 นางสาว พรปวีณ์ ประเสริฐศลิ ป์ เลขท่ี 40
ระดบั ชนั้ : มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/16.
ช่อื ครูทีป่ รกึ ษาโครงงานฯ : ครูสริ ภิ รณ์ อรญั วารี
บทคัดย่อ
การจัดทาโครงงานคร้งั นมี้ วี ัตถุประสงค์เพ่ือสร้างสิ่
งประดิษฐ์หรือเคร่อื งใช้ภายในเรอื น
และเพ่ือให้สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันไ
ด้
สารบัญ
หัวเร่อื ง หน้า
กิตติกรรมประกาศ ก
บทคัดย่อ ข
Abstract ค
บทที่ 1 บทนา 1
ที่มาของโครงงาน______________________________________________1
จดุ มุ่งหมายของการศกึ ษา__________________________________ 1
ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รับ 1
บทท่ี 2 เอกสารทเ่ี กีย่ วขอ้ ง 2
บทที่ 3 วิธีดาเนินการศกึ ษา 3
บทท่ี 4 ผลการศกึ ษาคน้ คว้า 4
บทท่ี 5 สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 5
เอกสารอ้างอิง 6
ภาคผนวก 7
บทที่ 1
บทนา
1.1 ทม่ี าของโครงงาน
เน่ืองจากในปัจจุบนั มหี ลายส่ิงเปลย่ี นไปเป็นอย่างมาก
จึงต้องมกี ารพฒั นาใหต้ รงตามความต้องการของคนในปัจจุบั
นที่ไมม่ ที ส่ี ้นิ สดุ และยังมเี พิ่มมากขึ้นเร่อื ยๆ
1.2 จุดม่งุ หมายของการศกึ ษา
เพ่ือให้ผู้คนในปัจจุบัน
สามารถนาเสนอแนวคิดใหม่ๆออกมาได้อย่างไม่มีท่ีสิ้น
สุด
1.4 ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รบั
ผู้คนสามารถออกแบบแนวคิดของตนเองได้โดยไม่
ต้องมกี ารลอกเรียนแบบ
บทที่ 2
เอกสารทีเ่ กี่ยวข้อง
บทท่ี 3
วิธดี าเนินการศกึ ษา
ข้นั ตอนในการจัดทาโครงงาน
1.คิดและเลือกหวั ขอ้ เร่อื งท่สี นใจ
2.แบง่ หนา้ ท่ขี องสมาชกิ ในกล่มุ
3.ศกึ ษาเอกสารท่ีเกี่ยวข้องกบั โครงงาน
4.เขยี นเคา้ โครงของโครงงาน
5.ปฏบิ ตั ิโครงงาน / สรา้ งโครงงาน
6.เขยี นรายงาน
7.การแสดงผล / นาเสนอโครงงาน
บทที่ 4 ผลการศกึ ษา ค้นคว้า
ผลการศกึ ษา
จากการศกึ ษาการทาโครงงานที่เป็นการศกึ ษาทฤษฎี
หลักการ หรอื แนวคิดใหมๆ่ ในการพฒั นาผลงาน
จะเห็นได้ว่าผู้คนสามารถออกแบบแนวคดิ ของตนเองไดโ้ ดยไ
มต่ ้องมกี ารลอกเรยี นแบบและนาเสนอแนวคดิ ใหมๆ่ ไดอ้ ย่างไ
มม่ ที ่สี ้ินสดุ
บทท่ี 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
เอกสารอ้างอิง
(ตัวอย่างการเขยี นเอกสารอ้างอิง)
เอกสารอ้างอิง
โกวิทย์ เวชชศาสตร์. (2539) แนวคิดเบ้ืองตน้ เก่ยี วกับโครงงานวิทยาศาสตร์
การประชุมสัมมนาทางวิชาการ คร้งั ท่ี 2
ประจาปี 2539 เร่ืองโครงงานวิทยาศาสตรเ์ พ่ือการพัฒนาท้องถิ่น
โดยสมาคมวิทยาศาสตรแ์ ห่งจังหวัดสุรินทร์
2 - 3 พฤศจิกายน 2539 ณ โรงแรมทองธารินทร์ จังหวัดสุรนิ ทร์, 4 - 8
-------------------------. (2542)
เอกสารประกอบการบรรยายการฝกึ อบรมเชิงปฏิบัตกิ ารอาจารย์ท่ปี รกึ ษาโ
ครงงาน
วิทยาศาสตร์ สาขาสุรนิ ทร์
สมาคมวิทยาศาสตรแ์ หง่ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์.(อัดสาเนา)
-------------------------. (2552)
ทาไมจึงตอ้ งสนับสนุนใหน้ ักเรยี นทาโครงงานวิทยาศาสตร์
วารสารวิทยาศาสตร์
ของสมาคมวิทยาศาสตร์แห่ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, ปีที่ 63
(4), 73 – 76
ขจิต ฝอยทอง. (2549) โครงงานภาษาอังกฤษ : อีก 1
ทางเลือกของการจัดการเรยี นการสอนภาษาอังกฤษ
[Online]. Available :
http://www.myfirstbrain.com/teacher_view.aspx?ID=56516
โครงงานสังคม ศาสนา วัฒนธรรม เร่อื ง ประเพณีขนั โตก [Online]. Available:
http://www.prc.ac.th/SBM/toke.htm
ปปปปปปปปป ปปปปปปปปปปปปป (2546)
:
โโโโโโโโโโโโโโโโโ. ปปปปปปปปปป
ปปปปปปปปปปปปป.
ภพ เลาหไพบลู ย์. (2540) แนวการสอนวิทยาศาสตร์
บรษิ ัทโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานชิ จากัด : กรุงเทพมหานคร.
สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551)
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑
สวุ ฒั น์ คล่องดี. (2534)
เทคนดิ การสอนโครงงานวิทยาศาสตร(์ ฉบบั ประสบการณ)์
บญุ ยไพศาลเจรญิ : สงิ หบ์ ุร.ี
ดอกอญั ชนั [ออนไลน์ ] :
David E.Newton (1982) basic skills in science J.Weston Watch,
Publisher Portland.
[Online]. Available:
http://www.curriculum51.net/viewpage.php?t_id=64
“Antioxidant power of phytochemicals from Psidium guajava
leaf.”[Onine]. Available:
http://www.sciencedirect.com.
ภาคผนวก
ภาพประกอบการทากิจกรรม
กิจกรรม
.........................................................................
......
ภาพแสดง.....................................................................
..................
กิจกรรมที่ 2
.........................................................................
......
ภาพแสดง.....................................................................
..................
กิจกรรมที่ 2
.........................................................................
......
ภาพแสดง............................................................................
...........
บัญชรี ายช่อื การแบ่งหนา้ ที่การทาโครงงานภายในกล่มุ
โครงงานเร่อื ง
...........................................................................................
........................................
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี
………………………...กล่มุ ...................................
ครูที่ปรกึ ษาโครงงาน 1.
................................................................................................
2.
................................................................................................
.
รายช่อื นักเรยี นผูท้ าโครงงาน
1. …………………………………….. เลขที่…..
2. …………………………………….. เลขท่ี…..
3. ปฏิทินการปฏิบัตงิ าน
ระยะเวลาปฏิบตั ิงาน
เดือน...............................วันท่ี
ที่ กิจกรรม* 12 5 91
.. 34 . 678 .0
1 ค้นคว้าหาขอ้ มูล
ปญั หาวิจัย
2 ทดลองเก็บข้อมูลเบ้อื งต้
น
3 เสนอเค้าโครงย่อ
4 ดาเนินการจัดเก็บขอ้ มูล
ตอนที่
4. 1………………………………
1 ………
ตอนท่ี
4. 2………………………………
2 ………
5 ดาเนนิ การวิเคราะห์ข้อมู
ล
6 เขยี นรายงาน 5 บท
คาอธิบายการเขยี นแบบรายงาน 5 บท
1 การเขยี นช่อื โครงงาน (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) ก.
เขยี นเปน็ ประโยคบอกเล่า โดยปรับมาจากคาถามวิจัย
ข. เขยี นใหไ้ ด้ความหมายรดั กุม และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย
และวิธีการที่ใช้ในการวิจัย
ค. เขียนช่อื ภาษาไทยไว้ก่อน แล้วเขียนช่อื ภาษาอังกฤษอีกบรรทัด
การต้ังช่ือเร่อื ง (The Title)
1) ช่อื เร่อื งที่ดี ต้องกระชับชัดเจน สามารถส่ือกับผอู้ ่านได้ว่า
ส่ิงท่ีอยู่ในรายงานคืออะไร
มีรายละเอียดเกย่ี วกับงานของเราในช่ือเร่อื งด้วย
ไม่ควรต้ังช่อื เร่ืองให้ดโู กเ้ ก๋ เกินความเปน็ จริง
2) ช่อื เร่อื ง
มักเปน็ ส่วนดึงดูดความสนใจจุดแรกของโครงร่างการทาโครงงานท้ัง
โครงการ จึงควรต้ังช่ือเร่อื งให้น่าสนใจ ทันต่อเหตุการณ์
พิจารณาแล้ว เป็นเร่อื งที่วิจัยได้ (researchable topic)
และควรแกก่ ารแสวงหาคาตอบ
3) โดยท่ัวไป หลักในการต้ังช่ือเร่ือง ทาได้โดยหยิบยกเอาคาสาคัญ (key
words) ของเร่อื งที่จะทาโครงงานออกมาประกอบกนั เป็นช่อื เร่อื ง
จะทาให้ช่อื น้ันส้ัน กระทัดรัด ชัดเจน และส่ือความหมาย
ครอบคลุมความสาคัญ ของเร่ืองท่ีจะศึกษาท้ังหมด
4) คาสาคัญ (key words) ควรเปน็ คาที่ใช้กันท่ัว ๆ ไป (technical
term) ในสาขาวิชาที่จะศึกษา จะชว่ ยใหบ้ รรลุหลักการ
ดังกล่าวข้างต้นได้ดียิง่ ข้นึ เชน่ คาว่าประสิทธิผล (effectiveness),
ปัจจัยเสี่ยง (risk factor), ความถูกต้อง (accuracy) เป็นต้น
ถ้าต้องมีท้ัง ช่ือเร่อื งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
ควรจะสอดคล้องไปด้วยกัน ในเชิงความหมาย
1. การเขียนบทคดั ย่อ
เปน็ การเขยี นสรุปการทางานโครงงานท้ังหมดต้ังแต่บทที่ 1 - 5 ดังน้ี
บทคัดย่อ
การเขยี นบทคัดย่อควรกล่าวถึง วัตถุประสงค์
วิธดี าเนินการหรือวิธีทดลอง ผลท่ีได้ และสรุปผลอยา่ งยอ่ -
ความยาวของเน้อื ความในบทคัดยอ่ ประมาณ คร่งึ หน้ากระดาษ)
เน้ือหาของบทคัดยอ่ จะเขียนในลักษณะเรียงความ บอกให้ทราบว่า
ได้ทาอะไร มีวัตถุประสงค์อยา่ งไร มีวิธกี ารดาเนินการอย่างไร ได้ผลอย่างไร
มีข้อสรุปอยา่ งไร (ลักษณะการเขียน ส้ันกะทัดรดั ได้ใจความ
หน่ึงยอ่ หนา้ ประมาณคร่ึงหน้ากระดาษ 300 - 350 คา )
(ตัวอย่างบทคัดย่อ)
บทคัดย่อ
โครงงานวิทยาศาสตร์ เร่อื ง
“ศึกษาการตัดใบข้าวโพดท่ีมผี ลกระทบต่อการเจรญิ เตบิ โตและผลผลิต”
จัดทาขึน้ เพ่ือศกึ ษา ผลของการตดั ใบข้าวโพด (แทนการทาลายศตั รูพืช)
ว่าจะสง่ ผลกระทบต่อการเจรญิ เตบิ โตและผลผลติ ของข้าวโพดหรอื ไม่
โดยแบง่ การศกึ ษาเปน็ 5 ขนั้ ตอน คอื ศึกษาการปลกู และบารุงรกั ษา
การตัดใบการเจรญิ เตบิ โต ผลผลติ และศกึ ษาสงั เกตสง่ิ อ่ืน ๆ
ท่ีอาจสงั เกตพบตง้ั แตเ่ รมิ่ ปลกู จนกระท่ังเกบ็ เกยี่ วผลผลติ จากการศกึ ษาพบว่า
ข้าวโพดพนั ธุ์ซปุ เปอรส์ วีทใชเ้ วลาปลูก 72 วันจงึ เกบ็ ผลผลติ ได้
ในการบารุงรกั ษาได้กาจัดวัชพืช ใส่ป๋ยุ สารวจแมลงและศตั รูพืชแตไ่ ม่ใชย้ าฆ่าแมลง
การตดั ใบในกล่มุ ควบคุม 1 กลมุ่ ไมต่ ัดใบ แตก่ ล่มุ ทดลอง 7 กลุ่มตดั ใบ ตัง้ แต่ 10% -
70% และกลุ่มควบคุม โดยเฉพาะการตดั ใบ 20% ใหผ้ ลผลติ ทดี่ ีที่สุด
สง่ิ ทีไ่ ด้ค้นพบจากการศกึ ษาครง้ั นี้ คือ ต้นข้าวโพดทต่ี ัดใบทุกระดับ จะไมค่ อ่ ยมีแมลง
หรอื ศตั รูพืชทาลายใบ
อกี ทงั้ ใบยังสเี ขียวเขม้ เปน็ มนั ซง่ึ ต่างกับกล่มุ ควบคุมทีไ่ ม่ตดั ใบจะถกู ทาลายจากศัตรูพชื ทุกต้
น และเม่อื ได้ทดลองปลกู ขา้ วโพดอกี 2
ครง้ั ในบรเิ วณสถานที่และเวลาใกล้เคยี งกับการปลกู ครงั้ แรกได้ผลปรากฏเหมือนการปลกู ครั้
งแรกทกุ ประการ
บทท่ี 1 บทนา
1.1 แนวคิดความเป็นมา ความสาคัญของโครงงาน
อธิบายความเปน็ มาและความสาคญั ของโครงงาน
เหตผุ ลที่เลือกทาโครงงานน้เี ร่อื งท่ีทาเปน็ เร่อื งใหม่
หรอื เคยมีผูศ้ ึกษาไว้บา้ งแล้ง ถ้ามผี ลเปน็ อย่างไร
(ควรอธบิ ายถึงความสาคญั ของงานที่ทาการทดลองหรอื ศึกษา
ลักษณะของปญั หา ความต้องการท่ีจะหาคาตอบในเร่อื งใด มีแนวคิด
มหี ลักการหรือทฤษฎีอยา่ งไรบา้ งท่ีจะนามาใช้ในการทดลอง/ศกึ ษา)
1.2 จุดมุ่งหมายของการศกึ ษา
เปน็ การบอกใหท้ ราบว่า ต้องการทาโครงงานเร่อื งน้นั เพ่อื อะไร
(เปน็ จดุ มุ่งหมายเฉพาะทต่ี ้องการทาการทดลองหรอื ศึกษา
บางคร้งั นยิ มนา “ตัวแปรต้น” ของการทดลอง/ศกึ ษา มาเขียน)
1.3 สมมติฐาน ของการทดลอง/การศกึ ษา ( ถ้ามี )
(ถ้าเปน็ การทดลองจาเปน็ ต้องมีสมมติฐาน
ถ้าเป็นสง่ิ ประดิษฐห์ รือการศกึ ษาประเภทสารวจ
อาจไม่ต้องมสี มมติฐานก็ได้)
(สมมติฐานเปน็ ข้อความทเ่ี ขยี นข้นึ เพ่อื พยายามอธิบาย
หรือคาดคะเนเหตุการณห์ รอื ปรากฏการณ์ล่วงหนา้
ซ่งึ สมมติฐานนจี้ ะคาดคะเนขน้ึ จากแนวคดิ หรือทฤษฎีที่นามาใชเ้ ปน็
แนวทางในการทดลอง/ศึกษา สมมติฐานทต่ี ้ังขน้ึ อาจถกู หรอื ผดิ ก็ได้
ท้ังนี้ข้ึนอยกู่ ับข้อมลู ท่ีได้จากการทดลอง/ศึกษา)
(การต้ังสมมติฐาน เปน็ การพยายามอธบิ ายปญั หาที่พบ
โดยการสรา้ งความสมั พนั ธ์ระหว่าง ตัวแปรต้น (เหต)ุ
กับตัวแปรตาม (ผล)
เพ่อื ช่วยขยายความสามารถในการอธิบายปรากฏการณ์หรอื เหตกุ าร
ณ์ท่ีเปน็ ปญั หาของการทดลอง/ศกึ ษาใหก้ วา้ งขวางท่ีสุด
ท้ังน้ีสมมติฐานจะช่วยเปน็ แนวคิดในการชแี้ นะแนวทางในการออกแ
บบการทดลอง/ศกึ ษา
และต้องสอดคล้องกับจดุ มงุ่ หมายของการทดลองด้วย)
1.4 ตัวแปรทศ่ี กึ ษา
7.4.1 ตัวแปรต้น ได้แก่……………………
7.4.2 ตัวแปรตาม ได้แก่……………………
7.4.3 ตัวแปรควบคุม ได้แก่……………………
1.5 นิยามเชิงปฏบิ ัติการ
การนยิ ามเป็นการให้ความหมายของตัวแปรต้น
และตัวแปรตาม ใหช้ ดั เจนสามารถวดั และสงั เกตได้
1.6 ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รบั
บทที่ 2 เอกสารที่เก่ยี วข้อง
เปน็ การรวบรวมสาระความรูท้ ี่เกี่ยวขอ้ งกับโครงงานท่ีทากา
รศึกษา
(การนาเสนอเอกสารควร ครอบคลมุ องค์ความรูพ้ ้นื ฐาน
และเฉพาะเร่อื งท่ีทาการศึกษา รวมท้ังวธิ กี ารเฉพาะ
และเทคนิควธิ ีท่ีนามาใชใ้ นการศกึ ษา/ทดลอง)
บทที่ 3 วิธดี าเนินการศกึ ษา
กิจกรรมท่ี 1
…………………………………………………………….
3.1 วัสดุ - อุปกรณ์ สารเคมี
(ควรเขียนแยกเปน็ หมวดหมู่ให้ชดั เจน)
3.2 วิธดี าเนินการศกึ ษา / ทดลอง
(ควรเขยี นให้เห็นภาพวิธีการทดลอง
หรอื ข้ันตอนการดาเนนิ งาน
หวั ใจของการทดลองคอื การออกแบบการทดลอง
ซ่ึงต้องเขียนใหเ้ หน็ ภาพของวธิ ีการ ซ่งึ ต้องมีท้ังตัวแปรต้น
ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคมุ )
บทที่ 4 ผลการศกึ ษา ค้นคว้า
เป็นการนาเสนอขอ้ มูลหรือผลการทดลองต่าง ๆ
ที่สังเกตรวบรวมได้ รวมท้ังเสนอผลการแปลข้อมลู
(นาผลการทดลอง/ศึกษาคน้ ควา้ มานาเสนอ
โดยขอ้ มลู ทีน่ ามาเสนอน้นั
ต้องเปน็ ขอ้ มลู ที่ได้จดั กระทาทางสถิติเรยี บรอ้ ยแล้ว
เชน่ นามาหาคา่ เฉล่ีย หาคา่ ร้อยละ
หรือคานวณด้วยสมการทางคณติ ศาสตรท์ ่ีสอดคล้องกนั ทางทฤษฎี
เขียนกราฟแสดงความสัมพนั ธ์ ฯลฯ
แล้วอภปิ รายแปลความหมายข้อมลู ที่ได้จากการวิเคราะห)์
(ลักษณะขอ้ มูลที่ได้อาจมที ้ังสองลักษณะคือ ขอ้ มลู ท่ีเปน็ ตัวเลข
หรือข้อมลู เชิงปรมิ าณ ควรแสดงในรูปแบบของตาราง
และแปลความหมายในรูปแบบของกราฟควบคกู่ ันไป
และขอ้ มูลอกี แบบคอื ข้อมูลเชงิ คุณภาพ
ควรนาเสนอในลักษณะของการบรรยาย
ด้วยข้อความกะทัดรัดเข้าใจงา่ ย อาจใช้ภาพประกอบการบรรยาย
หรอื แสดงในรูปแบบแผนภูมิ เปน็ ต้น)
บทท่ี 5 สรุปผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ
อธบิ ายผลสรุปท่ีได้จากการทาโครงงาน
ถ้ามกี ารต้ังสมมติฐานควรระบดุ ้วยวา่
ขอ้ มลู ท่ีไดส้ นบั สนนุ หรือคดั คา้ นสมมติฐานท่ีต้ังไวห้ รอื ยังสรุปไมไ่ ด้
นอกจากน้คี วรกล่าวถึงการนาผลการทดลองไปใชป้ ระโยชน์
อุปสรรคของการทาโครงงาน หรือขอ้ สงั เกตท่ีสาคญั
หรือข้อผดิ พลาดบางประการท่ีเกดิ ข้นึ ในโครงงานนี้
รวมท้ังขอ้ เสนอแนะเพ่ือปรับปรุงแก้ไข ซ่ึงอาจแยกนาเสนอ ดังน้ี
5.1 สรุปผลการทดลอง/การศกึ ษา
(การสรุปผลการทดลอง/ศกึ ษาน้ันเปน็ การสรุปผล
โดยตัดส่วนที่เปน็ ขอ้ มูลออก
แล้วอธบิ ายด้วยข้อความทก่ี ะทดั รัดครอบคลุมผลการทดลอง/ศกึ ษา
ท้ังหมด
ท้ังนี้ต้องครอบคลุมจดุ ประสงค์หรอื จดุ มงุ่ หมายของการทดลอง/ศกึ ษ
า)
5.2 อภิปรายผลการทดลอง/การศกึ ษา
(การอภปิ รายผลเปน็ การอ้างอิงแนวคดิ หลักการ ทฤษฎี
หรือผลงานที่มกี ารศกึ ษาไวแ้ ล้ว หรอื มีการศกึ ษามาก่อนหนา้ นแ้ี ล้ว
เปน็ การอภปิ รายเปรยี บเทียบ ความสมั พนั ธ์ สอดคล้องขดั แยง้
กับผลการศกึ ษาในคร้ังนี้อยา่ งไร)
5.3 ข้อคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะและประโยชน์
(ขอ้ คิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะเป็นการเสนอแนะแนวทางในการศกึ
ษาคน้ ควา้ ในโอกาสต่อไปอยา่ งไร
หรอื ปัญหาอปุ สรรคของการทาการทดลอง/ศกึ ษา
ขอ้ สังเกตข้อผิดพลาดท่ีสาคัญบางประการ
และข้อเสนอแนะใหม้ กี ารปรับปรุงแก้ไข
อันเปน็ ประโยชนต์ ่อการทดลอง/ศกึ ษาในอนาคต)
(ประโยชน์เปน็ การกล่าวถึงการนาผลการทดลอง/ศกึ ษาไปใชป้
ระโยชนใ์ นด้านใดได้บา้ ง)
เอกสารอ้างอิง
อ้างถึงหนงั สอื เอกสารตา่ ง ๆ ท่ีใชค้ น้ ควา้
เพ่อื ประโยชนใ์ นการทาโครงงาน
(เปน็ การกลา่ วถึงหนงั สือหรอื เอกสารต่างๆ
ที่ผูท้ าการทดลอง/ศึกษาใชค้ น้ ควา้ ประกอบการทาการทดลอง
โดยเขียนตามหลักการเขียน “บรรณานุกรม”ประกอบด้วย ช่อื ผู้แต่ง
วงเล็บปที ่ีแต่ง ช่อื หนงั สอื (ใช้ตัวเอน) สานกั พมิ พ์
จงั หวดั ที่ต้ังสานกั พมิ พ์ )และเขยี นเรยี งตามลาดับตัวอกั ษร
เรียงภาษาไทยก่อนภาษาต่างประเทศ
(ตัวอย่างการเขยี นเอกสารอ้างอิง)
เอกสารอ้างอิง
โกวิทย์ เวชชศาสตร์. (2542)
เอกสารประกอบการเรียนการบรรยายการฝึกอบรมเชิงปฏิบตั ิการ
อาจารยท์ ่ีปรกึ ษาโครงงานวิทยาศาสตร์ สาขาสุรนิ ทร์
สมาคมวทิ ยาศาสตร์แห่งประเทศไทย.
(อัดสาเนา)
ภพ เลาหไพบลู ย์. (2540) แนวการสอนวิทยาศาสตร์,
บรษิ ัทโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานชิ จากัด :
กรุงเทพฯ,.
สุวฒั น์ คล่องดี. (2534)
เทคนิดการสอนโครงงานวิทยาศาสตร์(ฉบับประสบการณ)์
บุญยไพศาลเจริญ : สงิ ห์บรุ .ี
ดอกอญั ชนั [ออนไลน์ ] :
David E.Newton (1982) basic skills in science J.Weston Watch,
Publisher Portland.