นายฉลองรัฐ ทองโบราณ

ก

เอกสารการประกอบการประเมินคดั เลอื ก
สาขา นกั ศกึ ษา กศน.

ประเภท ศษิ ย์เก่า กศน. ดเี ด่น ประจำปี ๒๕๖๕

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอกบนิ ทร์บรุ ี
สำนกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวดั ปราจีนบรุ ี

สำนกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั
สำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ

ขก

คำนำ

เอกสารประกอบการประเมินคัดเลือกสาขา นักศึกษา กศน. ประเภทศิษย์เก่า ดเี ดน่ ประจำปี ๒๕๖๕ จัดทำ
ขึ้นเพื่อประกอบการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการซึ่งเนื้อหาในเล่มเป็นการบันทึกข้อมูลหลักฐานร่องรอย
การปฏิบัตงิ านตามตวั ชวี้ ัดทกี่ ำหนด

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารประกอบการประเมินคัดเลือก สาขา นักศึกษา กศน. ประเภทศิษยเ์ ก่า
ดเี ดน่ ประจำปี ๒๕๖๕ เลม่ นี้ จะเป็นขอ้ มูลประกอบการพจิ ารณาและการประเมินสำหรบั คณะกรรมการ ตลอดจน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้า เรียนรู้ เกี่ยวกับงานการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัย ต่อไป

นางสาวจารุวรรรณ วงษ์ยาแดง
ครู กศน.ตำบลหาดนางแก้ว

คข

สารบญั

คำนำ หนา้
ตอนท่ี ๑ ขอ้ มูลทว่ั ไป
๔
ตอนที่ ๒ ขอ้ มลู การประเมนิ ๖
ด้านที่ ๑ การพัฒนาตนเอง ๖
๑๔
ดา้ นท่ี ๒ การมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม ๒๐
ด้านที่ ๓ การเป็นพลเมืองท่ีดี ๒๓
ด้านท่ี ๔ การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ๒๖
29
ดา้ นที่ ๕ จิตอาสาการทำความดีเพ่อื สงั คมและชมุ ชน ๓๘
ตอนที่ ๓ ผลงานทปี่ ระสบความสำเรจ็

ภาคผนวก

4

ตอนที่ ๑ ขอ้ มลู ทว่ั ไป

๑. ชือ่ (นาย / นาง /นางสาว /ชั้นยศ)…………....นายฉลองรฐั ...............................................................
นามสกลุ .......ทองโบราณ......อายุ....๕๘....ปี ระดบั การศกึ ษา........ปริญญาตรี.................................

๒. ท่ีอยปู่ ัจจบุ ัน เลขท.ี่ ...๔๘/๒.....หมู่ที.่ .....1......ตำบล/แขวง........นาแขม...........................................

อำเภอ/เขต.........กบินทร์บุรี.........................จังหวดั ........ปราจีนบุรี……..........................................
โทรศพั ท์.......................-........................................โทรสาร...............-.............................................

โทรศพั ทม์ ือถือ......087-6193080...............E-mail...............-..................................................
๓. อาชพี ...........ธรุ กจิ ส่วนตวั .........ตำแหน่ง.........ประธานสภาวฒั นธรรมอำเภอกบนิ ทร์บรุ ี................

สถานที่ทำงาน......สำนักงานสภาวฒั นธรรมอำเภอกบินทรบ์ ุรี..........หมทู่ .่ี ...........-.........................

ตำบล/แขวง..........กบนิ ทร์...........................อำเภอ/เขต.........กบนิ ทรบ์ ุรี......................................
จงั หวดั ...................ปราจนี บรุ ี........................โทรศพั ท์....... 087-6193080...............................

โทรสาร.........................-................................E-mail.........chaongnat.prachin@gmail.com....
4. สำเร็จการศึกษา จาก กศน. หลกั สูตร...การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน...ในระดบั ...มัธยมศกึ ษาตอนปลาย..

เมอ่ื ว/ด/ป......พ.ศ....2550.....ช่ือสถานศกึ ษา........กศน.อำเภอกบนิ ทร์บุรี...................................

จงั หวดั .........ปราจีนบุรี....................................................................................................................
5. การศกึ ษาสงู สุด จาก....มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช.....คณะรฐั ประศาสนศาสตรบัณฑติ .……..

๖. ประวตั ผิ ลงาน ทีใ่ ห้การสนบั สนนุ กิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย

ลำดบั ประวตั ิและผลงานทีเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม หนว่ ยงาน/องคก์ ร หมายเหตุ

ที่ ท่ีเข้ารว่ มกจิ กรรม

1. ได้รับการแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่ง ประธาน กศน.อำเภอกบินทรบ์ รุ ี เอกสารหลกั ฐาน/

กรรมการสถานศึกษา กศน.อำเภอกบนิ ทรบ์ รุ ี ประวัติผลงาน

2. ได้คัดเลอื กเป็นผูป้ ฏบิ ตั ิตงิ านทท่ี ำคุณประโยชน์ สำนักงาน กศน.จังหวัด (เอกสารหมายเลข ๑)

ดา้ นจติ อาสา กิจกรรมการประกวดการขยาย ปราจนี บุ รี

ผลโครงการจติ อาสา ประเภทผู้นำชมุ ชน

จติ อาสาดเี ด่น ระดบั จงั หวัด (รางวลั ชมเชย)

3. เป็นผู้สนับสนุน ส่งเสริมการประกวดการขยาย สำนักงาน กศน.จังหวัด

ผลโครงการจิตอาสา กิจกรรมชุมชนจิตอาสา ปราจนี บรุ ี

ดีเดน่ (รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1)

4 เป็นที่ปรึกษาและเห็นชอบกิจกรรม/โครงการ กศน.อำเภอกบนิ ทรบ์ ุรี

ต่างๆ กิจกรรมการศึกษานอกระบบและ

การศกึ ษาตามอธั ยาศยั

๕ เปน็ วทิ ยากรในการจดั กจิ กรรมการศกึ ษานอก กศน.อำเภอกบนิ ทรบ์ ุรี

ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอ

กบินทรบ์ รุ ี

5

๗. สถานศกึ ษา/หนว่ ยงานทเ่ี สนอ.......กศน.อำเภอกบนิ ทร์บุรี...............................................................

สงั กดั ......สำนักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดปราจีนบรุ ี.......
๘. ผลงานหรอื รางวัลทไ่ี ด้ยกย่อง

ลำดบั ผลงานหรือรางวัลทไ่ี ดย้ กย่อง หมายเหตุ
ที่
1. ได้รบั ประกาศนยี บัตร เปน็ บคุ คลภายนอกผู้เปน็ บุคคลต้นแบบดา้ นการ เอกสารหลกั ฐาน/
ประวัตผิ ลงาน
ดำรงชีวติ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม มีจติ สาธารณะ (เอกสารหมายเลข ๒)

ดเี ดน่

2. ได้รบั เกยี รตบิ ตั ร เป็นครูฝึกสอนการแสดงศิลปวฒั นธรรมพน้ื บา้ น สมโภช
ถวายรอยพระพทุ ธบาบาทคู่ เปน็ พทุ ธบูชาอำเภอกบนิ ทรบ์ รุ ีในงานเทศกาล
มาฆปรู มีศรปี ราจีน

3. ไดร้ ับเกียรติบัตร เป็นผูด้ ำรงอยใู่ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและบำเพ็ญประโยชน์
ตอ่ สงั คม ได้รับการยกยอ่ งใหเ้ ป็นตวั อย่างท่ีดีภายใต้โครงการเมืองไทยเมือง
คนดีของกรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

4 ได้รบั โลห่ ร์ างวลั วฒั นคุณาธร ผู้ทำคณุ ประโยชนต์ ่อกระทรวงวัฒนธรรม
ระดบั ประเทศ ด้านการเฝา้ ระวงั ทางวฒั นธรรม ประเภทองค์กร ประจำปี
๒๕๕๙ จากกระทรวงวฒั นธรรม

๕ ได้รับโลห่ ์รางวัลวัฒนคณุ าธร ผทู้ ำคณุ ประโยชนต์ ่อกระทรวงวฒั นธรรม
ระดบั ประเทศ ด้านการเฝ้าระวงั ทางวัฒนธรรม ประเภทบุคคล ประจำปี
๒๕๕๗ จาก กระทรวงวัฒนธรรม

6 ได้รบั ประกาศเกยี รติคณุ “บุคคลตน้ แบบด้านสุจริต”จากกระทรวง
วฒั นธรรม โดยศูนยค์ ุณธรรม(องค์การมหาชน)และองคก์ รภาคีสมัชชา
คุณธรรมภาคกลาง

7 ไดร้ ับรางวัลผชู้ ว่ ยผู้ใหญ่บ้านดีเด่นชนั้ ท่ี ๑ จังหวัดปราจนี บุรี

8 ได้รับรางวัลที่ ๒ การประกวดหมู่บ้านที่มผี ลงานดเี ด่นในการส่งเสรมิ
พระพทุ ธศาสนา

9 ได้รับรางวลั โลห่ ์สิงหท์ อง กระทรวงมหาดไทย

10 ได้รบั คัดเลือกเปน็ ปราชญ์เกษตรของแผ่นดินระดบั จงั หวัด ประจำปี 2566
สาขาปราชญ์เกษตรผู้นำชมุ ชนและเครือข่าย

6

ตอนท่ี ๒ ข้อมูลการประเมิน
ด้านท่ี ๑ การพัฒนาตนเอง

๑. แสวงหาความรูโ้ ดยการเข้ารับการอบรมเพม่ิ เติม
ข้าพเจา้ นายฉลองรฐั ทองโบราณ ไดแ้ สวงหาความรู้โดยการเขา้ รับการอบรมเพิ่มเติมท้งั ในหน่วยงาน
ภาครัฐและเอกชน ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ใหม่ ๆ หรือสิ่งที่เป็นความก้าวหน้าทางวิชาการ/วิชาชีพอยู่เสมอ
ให้ความสนใจและปรับตนเองให้ก้าวทันวิทยากรใหม่ๆ ตลอดเวลา มีการนำความรู้และวิทยาการใหม่ ๆ
มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้นำความรูท้ ี่ได้ที่มาพัฒนาในหมูบ่ ้านและให้ความรู้
แกป่ ระชาชนในพืน้ ท่ี อย่างเตม็ ความสามารถ ขา้ พเจา้ ยงั ได้นำมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง
สนับสนุนให้สถานศึกษามีส่วนร่วมบทบาทในการพัฒนาหมู่บ้าน โรงเรียน หน่วยงานราชการต่างๆ
เขา้ มามสี ว่ นร่วมในการไดพ้ ฒั นาในหลายด้าน ใหม้ คี วามเขม้ แข็ง มั่นคง สามารถเป็นแบบอย่างที่ดี

7

๒. แสวงหาความรู้จากสือ่ ตา่ ง ๆ
ข้าพเจา้ ไดพ้ ัฒนาตนเองด้วยความเพียรพยายามในการเรียนรู้ และเขา้ รว่ มกิจกรรม แสวงหาความรู้

จากแหล่งเรยี นรู้ และภมู ปิ ญั ญา ท้ังภายใน แหล่งเรยี นรู้ทีอ่ ยู่นอกสถานที่ จากหนว่ ยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
ทม่ี าส่งเสรมิ กจิ กรรม ในหมบู่ ้าน อย่างตอ่ เนื่อง ในการแสวงหาความร้ขู องข้าพเจ้า ไดศ้ กึ ษาหาความร้จู าก สื่อ
Facebook อินเทอร์เน็ต Line และมีจดบันทึกความรู้ วิเคราะห์เน้ือหาที่ได้รับ นำมาสรุปเป็นองค์ความรู้
ของตนเอง และไดแ้ ลกเปล่ียนเรียนรู้ สามารถนำมาถ่ายทอด เผยแพร่ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั

8

๓. แสวงหาความรูจ้ ากการเข้ารบั การศึกษาตอ่ ในระดับที่สูงขึน้
ข้าพเจ้าเข้ารับการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิร าช

คณะรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต (การบริหารการปกครองท้องที่) ทำให้ข้าพเจ้ามีความรู้ทางวิชาการ
ด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และสามารถนำความรู้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้อย่างมีคุณภาพ
สามารถนำความรู้ไปถา่ ยทอด ใหแ้ ก่ประชาชน

9

4. นำความรูไ้ ปใชก้ ับชมุ ชนและสงั คม

ข้าพเจา้ ไดน้ ำความรจู้ ากการศึกษาในระดับปรญิ ญาตรี มหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
คณะรัฐประศาสนศาสตรบัณฑติ (การบรหิ ารการปกครองท้องท)่ี มาประยุกตใ์ ช้กับชุมชนและสังคม

10

๕. นำความรไู้ ปใชเ้ พื่อประโยชนข์ องตนเอง
ข้าพเจ้านำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการประกอบอาชีพและการพัฒนาวิชาชีพของตน ในการ

ดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองและพัฒนาชุมชนให้มี
ประสทิ ธิภาพทด่ี ีข้ึน

11

๖. นำความรูไ้ ปขยายผลใหผ้ ู้อื่น
ขา้ พเจ้าไดเ้ ข้ารับการอบรมจากหน่วยงานราชการ เกยี่ วกับความรู้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ ๙ เพื่อน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้
ในชวี ิตประจำวนั และไดค้ วามรู้ท่ีไดร้ บั ไปเผยแพรใ่ หป้ ระชาชนในหม่บู ้านใกลเ้ คียงสถานศกึ ษา

12

๗. เปน็ ผทู้ ่ปี ระสบความสำเร็จด้านอาชีพ

ขา้ พเจ้าไดน้ ำความรู้จากการปฏิบัติงานและศึกษาดงู าน ได้นำองค์ความรไู้ ดม้ าประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนา
ตนเองและชมุ ชนในตำบล ซ่ึงไดร้ บั ตำแหนง่ งานดังต่อไปนี้

ลำดับ ป/ี พ.ศ. ตำแหนง่ หน่วยงาน/องคก์ ร

ที่ ทีไ่ ดร้ ับตำแหนง่

1. พ.ศ. ๒๕๕๑ ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลนาแขม สถาบัณพัฒนาองค์กรชมุ ชน

-ถึงปจั จบุ ัน (องคก์ ารมหาชน) กระทรวง

พัฒนาสังคมและความมนั่ คงของ
มนุษย์

2. พ.ศ. ๒๕๕๑ ประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลนา สำนักงานพฒั นาสังคมและความ

แขม-ถึงปจั จุบัน มน่ั คงของมนุษยจ์ ังหวดั ปราจนี บุรี

3. พ.ศ. ๒๕๕๑ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านหนองเอี่ยน ทวี่ ่าการอำเภอกบินทร์บรุ ี
-ถึงปจั จุบนั

4 พ.ศ. ๒๕๕๒ ประธานศูนย์ประสานงานองค์การชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ

ตำบลนาแขม-ถงึ ปจั จุบนั กบนิ ทรบ์ รุ ี

๕ พ.ศ. ๒๕๕๒ อาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด

-ถึงปัจจุบนั ปราจีนบรุ ี

6 พ.ศ. ๒๕๕๓ รองประธานศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้าน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านหนอง

หนองเอ่ียน-ถึงปัจจบุ ัน เอีย่ น ตำบลนาแขม

7 พ.ศ. ๒๕๕๔ ประธานเครือข่ายกลไกพัฒนาสังคมจังหวดั กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ

ปราจีนบุรี-ถึงปัจจุบนั กระทรวงพัฒนาสังคมและความ

มน่ั คงของมนุษย์

8 พ.ศ. ๒๕๕๔ คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการ สำนกั งานพัฒนาสังคมและความ

สงั คมจังหวดั ปราจีนบุรี-ถึงปัจจบุ นั มน่ั คงของมนุษย์จังหวัดปราจีนบรุ ี

9 พ.ศ. ๒๕๕๔ คณะกรรมการส่งเสริมการขับเคลื่อน สำนกั งานพัฒนาสงั คมและความ
สวัสดิการชุมชนจังหวัดปราจีนบุรี-ถึง ม่ันคงของมนษุ ย์จังหวดั ปราจนี บุรี
ปัจจุบัน

10 พ.ศ. ๒๕๕๔ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดปราจีนบุรี-ถึง สำนักงานสภาเกษตรกรจงั หวดั

ปัจจุบัน ปราจีนบุรี

11 พ.ศ. ๒๕๕๕ รองประธานศูนย์ประสานงานภาคพลเมอื ง สภาพัฒนาการเมืองสถาบัน

จงั หวัดปราจนี บรุ ี-ถึงปัจจุบนั พระปกเกลา้

12 พ.ศ. ๒๕๕๕ ประธานสภาวฒั นธรรมตำบลนาแขม ส ำ น ั ก ง า น ว ั ฒ น ธ ร ร ม จ ั ง ห วั ด

ปราจีนบรุ ี

13 พ.ศ. ๒๕๕๕ ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบล ระดับ สถาบัณพัฒนาองค์กรชุมชน
จงั หวัดปราจนี บรุ ี (องค์การมหาชน) กระทรวง
พัฒนาสังคมและความมั่นคง

ของมนุษย์

13

ลำดับ ป/ี พ.ศ. ตำแหน่ง หน่วยงาน/องคก์ ร

ที่ ท่ีได้รบั ตำแหนง่

14 พ.ศ. ๒๕๕๕ ประธานเครอื ข่ายป.ป.ช.(ภาคประชาสังคม) สำนกั งาน ป.ป.ช. ประจำจงั หวดั

จงั หวัดปราจนี บุรี-ถึงปจั จุบัน ปราจีนบรุ ี

15 พ.ศ. ๒๕๕๕ สมาชกิ สภาเกษตรจงั หวดั ปราจีนบรุ ี สำนกั งานสภาเกษตรจังหวดั

ปราจีนบุรี

16 พ.ศ. ๒๕๕๗ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา กศน. กศน.อำเภอกบนิ ทร์บุรี

อำเภอกบนิ ทรบ์ รุ ี-ถึงปจั จุบนั

17 พ.ศ. ๒๕๕๘ คณะกรรมการมลู นธิ สิ นุ ทรพิทยาคม วัดพระยาธรรม
18 พ.ศ. ๒๕๕๙
ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอกบินทรบ์ รุ ี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด
19 พ.ศ. ๒๕๕๙
-ถงึ ปจั จบุ ัน ปราจนี บรุ ี
20 พ.ศ. ๒๕๕๙
รองประธานสภาวัฒนธรรมจงั หวัด ส ำ น ั ก ง า น ว ั ฒ น ธ ร ร ม จ ั ง ห วั ด
21 พ.ศ. 2563
ปราจนี บรุ ี-ถึงปัจจุบนั ปราจีนบุรี

รองผู้อำนวยการโรงเรียนภูมิปัญญาท้องถิน่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด

ประจำอำเภอกบนิ ทรบ์ ุรี ปราจนี บุรี

ท่ปี รึกษาพัฒนาการจังหวัดปราจนี บุรี กรมการพฒั นาชมุ ชน

กระทรวงมหาดไทย

14

๒. การมคี ุณธรรมและจริยธรรม
๑. ปฏบิ ัติตนเปน็ คนมคี ุณธรรมจริยธรรมอยา่ งสม่ำเสมอ

ข้าพเจ้าเป็นบุคคลทีป่ ระพฤติปฏิบตั ิตนในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ดีโดยละเว้นต่อการประพฤตชิ ่ัว
และไมล่ ุ่มหลงอบายมุข เอือ้ เฟ้ือเผื่อแผ่ เสยี สละ เห็นแก่ประโยชน์สว่ นรวม มคี วามเมตตา กรุณา โอบออ้ มอารี
ต่อบุคคลอ่ืนโดยท่วั ไป มีความซื่อสตั ย์ สุจรติ ตอ่ ตนเองและผูอ้ ื่น เป็นแบบอย่างทดี่ ใี ห้แกป่ ระชาชน

15

๒. ปฏิบัติตนเป็นคนมคี ณุ ธรรมเป็นแบบอยา่ งทดี่ ีของครอบครัว
ข้าพเจา้ ทำตนให้เป็นแบบอย่างมคี ุณธรรมเลี้ยงดสู มาชิกในครอบครัวให้เป็นคนดีบำเพ็ญตนเปน็

ประโยชนต์ ่อสงั คม คนในครอบครวั รักใครก่ ลมเกลียวห่วงใยชว่ ยเหลือเกื้อกูล มคี วามเขา้ ใจซงึ่ กันและกัน รจู้ ัก
ฟังความคิดเห็นของคนอืน่ และรว่ มกนั แก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ รู้จกั เสยี สละไม่เหน็ แก่ตัว มคี วามซื่อสัตย์
สุจริตและไวว้ างใจกนั ให้เกยี รติกันสร้างความอบอุ่นและความสามัคคภี ายในครอบครัว รวมถึงญาตพิ ีน่ ้องของ
ข้าพเจา้ และประชาชนทกุ คนท่มี ีความยากจนข้าพเจ้าไดใ้ หค้ วามช่วยเหลือตลอด ทง้ั ในสถานศึกษา หนว่ ยงาน
ราชการ ภาคเอกชนท่ีขอความรว่ มมือทกุ อย่างขา้ พเจา้ ทำดว้ ยความเตม็ ความสามารถ ใหค้ วามช่วยเหลือ
ในทุกด้าน และคนท่ีอยู่เบ้อื งหลังของงานทกุ อย่างท่ีคอยให้กำลงั ข้าพเจ้า ก็คอื ครอบครัว ญาติพน่ี ้อง ประชาชน
ทุกคนทร่ี กั และเคารพทุกคนท่คี อยให้กำลงั ใจในการทำงาน

16

๓. ปฏิบัติตนเป็นคนมีคุณธรรมเป็นแบบอยา่ งทดี่ ีของชุมชนและสังคม
ขา้ พเจา้ เปน็ แบบอยา่ งที่ดีของชุมชนและสังคม โดย
๑. ปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของสังคมการอยู่ร่วมกันสังคมสมาชิกทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม

กฎระเบียบข้อบังคับของชุมชน รวมถึงต้องมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดซ่ึงทำให้อยู่ร่วมกันใน
สังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข

๒. รับฟังความคิดเหน็ ของผู้อืน่ ในการอยูร่ ว่ มกนั ย่อมต้องมกี ารทำกิจกรรมร่วมกันบางครงั้ อาจจะตอ้ งมี
การปรึกษาหารือ มีการระดมความคิด ซึ่งย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกนั ดังนั้นสมาชิกในสงั คมจะตอ้ งเป็น
คนที่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นที่มีเหตุผลดีกว่าประนีประนอมกันในความคิดไม่ยึดถือความคิดของตนเอง
ถูกตอ้ งเสมอไป

๓. เปน็ คนมีเหตผุ ลในการตัดสนิ ใจทำกจิ กรรมการงานใดๆกต็ ามจะต้องร้จู ักใช้ความคิด วเิ คราะห์อย่าง
มีเหตุผล เพ่อื ส่งผลใหง้ านนั้นมีประสิทธิภาพ

๔. ยอมรับมติของเสียงส่วนใหญ่เม่ือมีความขัดแย้งกันในการดำเนินกิจกรรมอันเกิดจากความคิดเห็น
แตกตา่ งกนั และจำเป็นตอ้ งตัดสินปัญหาดว้ ยเสยี งข้างมากน้นั ถา้ มติส่วนใหญ่ว่าอย่างไรถงึ แมว้ ่าไมต่ รงกับความ
คิดเห็นของตนเองแตเ่ รากต็ ้องปฏบิ ัติตาม

๕. มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมส่วนรวมในสงั คมประชาธิปไตยนั้นจะมีการรวมกลุ่มกนั ทำกิจกรรมต่างๆ ซง่ึ มี
ท้ังกลุ่มเล็กๆ จนกระท่งั สังคมใหญๆ่ ระดับประเทศ ดงั นัน้ สังคมประชาธิปไตยจึงตอ้ งศกึ ษาหาความรู้และทาง
ปฏิบตั ทิ ่ถี กู ต้อง เพือ่ เขา้ ไปมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมกลุ่มในระดับต่างๆ เช่น การร่วมกจิ กรรมบำเพ็ญประโยชน์แก่
สงั คม กจิ กรรมอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม กจิ กรรมสบื สานภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น เป็นต้น

๖. เห็นแก่ประโยชนส์ ่วนรวมการอยู่ร่วมกนั ในสังคมประชาธปิ ไตยน้ันในบางครั้งสมาชิกในสงั คมตอ้ ง
เสียสละผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม เป็นการส่งผลต่อความมั่นคงก้าวหน้าของสังคมและ
ผลประโยชน์ดงั กล่าวก็จะย้อนกลับมาทีส่ มาชิกของสังคมนั่นเอง

๗. เคารพในสิทธแิ ละเสรภี าพสมาชิกในสังคมประชาธิปไตยควรจะตอ้ งศึกษาถึงขอบเขตของสิทธิและ
เสรีภาพของตนเองตามกฎหมาย และควรรู้จกั เคารพในสิทธิและเสรภี าพของผู้อ่ืน

๘. ปฏิบัติตามหลักศีลธรรมการอยู่ร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยนั้นทุกคนจะต้องมีหลักศีลธรรม
ประจำใจเป็นบรรทดั ฐาน ไม่ลว่ งละเมิดศลี ธรรม เช่น ไม่ลักขโมยของผู้อื่น

๙. ยึดมนั่ ในวฒั นธรรม วัฒนธรรมเปน็ วถิ กี ารดำเนินชวี ิตของคนในสังคม เป็นการควบคมุ ให้สังคมเกิด
ความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย สมาชิกในสังคมประชาธิปไตยทุกคนจึงควรยึดมั่นในวัฒนธรรมซ่ึงเป็นสิง่ ที่ดีงาม
เปน็ การรวมความสามคั คีของกลมุ่ เป็นรากฐานสำคญั ส่วนหนึง่ ของประชาธิปไตย

17

๔. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้มคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรมตอ่ การประกอบอาชีพ
ข้าพเจา้ มีความประพฤติตรง ไม่เอนเอียง ไม่มเี ลห่ เ์ หลี่ยม มคี วามจรงิ ใจ ปลอดจากความรู้สึกลำเอียง

หรืออคติ เป็นผู้ที่มีความประพฤติตรงทั้งต่อหน้าที่ต่อวิชาชีพตรงต่อเวลาไม่ใช้เล่ห์กลคดโกงทั้งทางตรงและ
ทางออ้ ม รับรหู้ นา้ ทข่ี องตนเองและปฏิบัติอย่างเตม็ ท่ีถกู ตอ้ ง ซึง่ ข้าพเจา้ ไดป้ ระชุมชาวบ้านประจำทุกเดือนเพ่ือ
ประชุมชี้แจงเรื่องจากทางหน่วยงานราชการที่ได้แจ้งข่าวสารประจำเดือนทุกเดือนให้ชาวบ้านในหมู่บ้านใน
ตำบลของข้าพเจ้าทกุ เดือนตลอดจนผ้นู ำชมุ ชนทุกหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบา้ นได้ทราบเกี่ยวกับรายละเอียดข่าวสาร
ทันเหตุการณ์ทุกเดือนและในเรื่องการเบิกจ่ายเงินของกองทุนหมู่บ้านและโครงการต่างๆ ที่รับจัดสรรจาก
หน่วยงานที่มาสนับสนุนในหมู่บ้านของข้าพเจ้าอยู่เป็นประจำเพื่อความโปร่งใส และยุติธรรม ในการให้กู้ยืม
เงินกองทนุ หม่บู ้านต้องผ่านคณะกรรมการกองทนุ หมบู่ า้ นอยเู่ สมอ

18

๕. มบี ทบาทการให้ความรู้ในเรอื่ งคณุ ธรรมและจริยธรรมแก่ชุมชน
ข้าพเจ้าได้ให้ความรู้เรื่องคุณธรรมและจริยธรรมแก่ชุมชนในเรื่องหลักการครองตน ประกอบด้วย

หลักธรรมดงั ต่อไปน้ี
๑. เป็นผ้มู บี คุ ลิกภาพที่ดี คอื เป็นผมู้ ีสขุ ภาพกาย และสขุ ภาพจิตทดี่ ี
๒. ผมู้ กี ลั ยาณมติ รธรรม คือ ผู้มีคุณธรรมของมติ รท่ีดี ๗ ประการ คือ
๒.๑ เปน็ ผนู้ ่ารัก (ปิโย) คอื เปน็ ผมู้ จี ติ ใจกอปรดว้ ยเมตตากรุณาพรหมวหิ าร
๒.๒ เป็นผู้นา่ เคารพบูชา (คร)ุ คอื เป็นผู้ทส่ี ามารถเอาเปน็ ทพ่ี ่ึงอาศัยเป็นท่ีพงึ่ ทางใจ
๒.๓ เป็นผู้น่านับถอื น่าเจริญใจ (ภาวนีโย) ด้วยว่าเป็นผู้ไดฝ้ ึกฝนอบรมตนมาดีแล้ว ควรแก่

การยอมรับและยกย่องนับถือเอาเปน็ เย่ียงอย่างได้
๒.๔ เป็นผู้รู้จักพูดจาโดยมีเหตุผลและหลักการ (วัตตา) รู้จักชี้แจงแนะนำให้ผู้อื่นเข้าใจดี

แจม่ แจ้ง เปน็ ท่ีปรกึ ษาทด่ี ี
๒.๕ เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำที่ล่วงเกินวิพากษ์ วิจารณ์ ซักถาม หรือขอปรึกษาหารือ ขอให้

คำแนะนำต่างๆ ได้ (วจนกั ขโม)
๒.๖ สามารถแถลงชี้แจงเรื่องที่ลึกซึ้ง หรือเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนให้เข้าใจอย่างถูกต้อง และ

ตรงประเดน็ ได้ (คัมภรี ัญ จะ กะถัง กัตตา)
๒.๗ ไมช่ ักนำในอฐานะ (โน จัฏฐาเน นิโยชะเย) คือไม่ชกั จูงไปในทางเส่ือม (อบายมุข) หรือ

ไปในทางทเ่ี หลวไหลไร้สาระ หรือที่เป็นโทษ เปน็ ความทุกข์ เดอื ดรอ้ น

หลกั การครองงาน
หลกั การครองงาน ประกอบดว้ ยหลักธรรม คอื อทิ ธบิ าทธรรม ไดแ้ ก่

๑. ฉันทะ ความรักงาน คือ จะต้องเป็นผู้รักงานที่ตนมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่และทั้งจะต้องเอาใจใส่
กระตอื รือรน้ ในการเรยี นรู้งานและเพิ่มพนู วิชาความรูค้ วามสามารถในการทำกิจการงาน และมงุ่ มั่นทีจ่ ะทำงาน
ในหน้าทรี่ บั ผิดชอบหรือกิจการงานอาชีพของตนให้สำเรจ็ เรียบร้อยอยู่เสมอ

๒. วิริยะ ความเพียร คือ จะต้องเป็นผูม้ ีความขยันหมั่นเพียร ประกอบด้วย ความอดทน ไม่ย่อทอ้ ตอ่
ความยากลำบากในการประกอบกิจการงานในหน้าที่หรือในอาชีพของตนจึงจะถึงความสำเร็จและความ
เจรญิ ก้าวหน้าได้

๓. จิตตะ ความเป็นผู้มีใจจดจ่ออยูก่ ับการงานผูท้ ี่จะทำงานไดส้ ำเรจ็ ด้วยดีมปี ระสทิ ธิภาพนัน้ จะต้อง
เป็นผเู้ อาใจใส่ต่อกิจการงานท่ีทำ และมุง่ กระทำงานอย่างต่อเน่ืองจนกว่าจะสำเร็จไม่ทอดท้ิงหรือวางธุระเสีย
กลางคันไมเ่ ป็นคนจบั จดหรอื ทำงานแบบทำๆ หยุดๆ

๔. วมิ งั สา ความเปน็ ผูร้ จู้ กั พจิ ารณาเหตุสังเกตผลในการปฏบิ ัตงิ านของตนเองและของผูน้ ้อยหรือของผู้
อยู่ใต้บงั คับบญั ชาวา่ ดำเนนิ ไปตามนโยบายและแผนงานที่วางไวห้ รอื ไม่ ไดผ้ ลสำเร็จ หรอื มคี วามคบื หนา้ ไปตาม
วตั ถปุ ระสงคท์ ่ีกำหนดไวห้ รอื ไม่เพียงไร มีอุปสรรคหรอื ปญั หาที่ควรไดร้ ับการปรับปรงุ แกไ้ ขวิธกี ารทำงาน หรือ
วิธีการบริหารกิจการงานนั้นให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้อย่างไรขั้นตอนนี้เป็นการนำข้อมูลจากจากที่ได้
ติดตามประเมินผลงานหรือตรวจงานนั้นแหละมาวิเคราะห์วิจัยให้ทราบเหตุผลของปัญหาหรืออุปสรรค
ข้อขัดข้องในการทำงานแล้วพิจารณาแก้ไขปัญหาเหล่านั้นและปรับปรุงพัฒนาวิธีการทำงานให้ดำเนินไปสู่
ความสำเร็จใหถ้ งึ ความเจรญิ กา้ วหน้ายิง่ ๆ ขน้ึ ไปได้

19
หลักการครองคน
หลักการครองคน ประกอบด้วยหลักธรรมดังต่อไปนี้

๑. รจู้ กั หลกั ปฏิบัตติ อ่ กันด้วยดรี ะหว่างผบู้ ังคบั บญั ชากบั ลูกน้องหรือผู้อย่ใู ต้บังคับบัญชาตามหลักธรรม
ของพระพุทธเจ้า ชื่อ “เหฏฐิมทิศ” มีเนื้อความว่า “เหฏฐิมทิศ” คือ ทิศเบื้องต่ำ เจ้านาย หรือ
ผ้บู งั คบั บญั ชา พึงบำรุงบ่าว คอื ผู้ใต้บังคับบัญชา

๒. เป็นผู้มีมนุษยสัมพนั ธ์ (Human Relation)ที่ดี ด้วยคุณธรรมคือ พรหมวิหารธรรม และสงั คหวัตถุ
พรหมวิหารธรรม คณุ ธรรมเคร่อื งอยขู่ องผูใ้ หญ่ ๔ ประการ

๑. เมตตา คือ ความรัก ปรารถนาทจ่ี ะให้ผูอ้ นื่ อยดู่ มี ีสขุ
๒. กรุณา คือ ความสงสาร ปรารถนาให้ผมู้ ีทุกข์ เดอื ดรอ้ น ให้พน้ ทุกข์
๓. มทุ ติ า คือ ความพลอยยินดี ทผี่ อู้ ่ืนไดด้ ี ไมค่ ิดอจิ ฉารษิ ยากัน
๔. อุเบกขา คือ ความวางเฉยไม่ยินดียินร้ายเมื่อผู้อื่นถึงซึ่งความวิบัติ โดยที่เราก็ช่วยอะไร
ไมไ่ ดก้ ็ต้องปล่อยวางใจของเราเองดว้ ยปญั ญาตามพระพุทธพจนว์ ่า “สตั ว์โลกเป็นไปตามกรรม”
สงั คหวตั ถธุ รรม ๔ ประการ คือ
๑. ทาน รู้จกั ให้ปันสง่ิ ของของตนแก่ผู้อน่ื ท่ีควรให้ปัน
๒. ปยิ วาจา รู้จกั เจรจาออ่ นหวาน คือ กล่าวแต่วาจาทส่ี ุภาพออ่ นโยน
๓. อตั ถจรยิ า รจู้ กั ประพฤตสิ ง่ิ ทเ่ี ป็นประโยชน์แกผ่ ้อู น่ื
๔. สมานตั ตตา เป็นผู้มตี นเสมอ คือ ไม่ถือตวั เย่อหยงิ่ จองหอง อวดดี
คณุ ธรรม ๔ ประการนเ้ี ปน็ เครอื่ งยึดเหน่ียวจิตใจของผ้อู ่นื ไว้ได้และยังให้ความสมัคร สมานสามัคคีให้
เกดิ ข้นึ ระหว่างกันและกันด้วยหรอื จะเรยี กวา่ เปน็ “หลกั ธรรมมหาเสน่ห์” ก็ได้

v

20
๓. การเป็นพลเมืองทด่ี ี
1. เปน็ บคุ คลที่มีความจงรักภักดีตอ่ สถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์

ข้าพเจ้าเปน็ พลเมอื งดี เป็นบุคคลที่มคี วามจงรกั ภกั ดีต่อชาติ ศรทั ธา ยดึ ม่นั ในศาสนาและเคารพ
เทิดทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์

2. ประพฤติตนใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบ กฎเกณฑ์ กฎหมาย และข้อบงั คบั ตา่ งๆ ของสังคม
ดา้ นสังคม ได้แก่ การแสดงความคิดอย่างมีเหตุผลการรบั ฟังข้อคิดเหน็ ของผู้อื่นการยอมรับเม่ือผู้อ่ืน

มีเหตุผลที่ดีกว่าการตัดสินใจโดยใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ การเคารพระเบียบของสังคม การมีจิตสาธารณะ
เห็นแก่ประโยชนข์ องสว่ นรวมและรักษาสาธารณสมบัติ

ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การประหยัดและอดออมในครอบครัว การซื่อสัตย์สุจริตต่ออาชีพที่ทำ การ
พฒั นางานอาชพี ใหก้ ้าวหน้า การใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ต่อตนเองและสังคม การสรา้ งงานและสร้างสรรค์
สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมไทยและสังคมโลก การเป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ดี มีความ
ซ่อื สัตย์ยดึ ม่นั ในอุดมการณท์ ด่ี ตี ่อชาตเิ ป็นสำคญั

ด้านการเมืองการปกครอง ได้แก่ การเคารพกฎหมาย การรับฟังข้อคดิ เห็นของทุกคนโดยอดทนต่อ
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น การยอมรับในเหตุผลที่ดีกว่า การซื่อสัตย์ต่อหน้าที่โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์
ส่วนตน การกล้าเสนอความคิดเห็นต่อสว่ นรวม กลา้ เสนอตนเองในการทำหน้าที่สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรหรือ
สมาชกิ วุฒสิ ภา การทำงานอยา่ งเตม็ ความสามารถเต็มเวลา

21
3. รว่ มกจิ กรรมจติ อาสา

ข้าพเจ้าถือวา่ เปน็ พลเมืองทีด่ ี โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ กระบวนการมีส่วนร่วมในชุมชน และการ
จดั การตนเองภายในชุมชนท้องถ่ิน ที่ทำโดยประชาชนในชมุ ชนเองจนสามารถพึง่ ตนเองไดใ้ นท่ีสุด จิตอาสาซ่ึง
ชุมชนสามารถกระทำเองได้ เชน่ การจดั การขยะหรอื การทำความสะอาดภายในชุมชน การปลูกต้นไม้ หรืองาน
ต่างๆ ภายในชุมชนที่ประชาชนในชุมชนสามารถกระทำได้เองหรืองานอาสาต่างๆ ที่เกิดจากความร่วมแรง
ร่วมใจกันของคนในชมุ ชน

4. เปน็ แบบอยา่ งทีด่ ีใหแ้ ก่ชมุ ชนและสงั คม
ขา้ พเจา้ เป็นแบบอยา่ งท่ีดี ใหแ้ ก่คน ในครอบครวั โดยข้าพเจ้ามีความละอายต่อการกระทำชั่วเกรง

กลวั บาป(หิริ-โอตตปั ปะ) เปน็ คุณธรรมทส่ี ำคัญ ย่ิงทีค่ วรปลกู ฝงั แก่คนในครอบครวั เนอ่ื งจากบุคคลใดท่ีไม่
ประพฤตปิ ฏิบตั ติ ามคณุ ธรรมตามขอ้ น้ยี ่อมก่อใหเ้ กิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงตอ่ ตนเองและครอบครัว ช่อื เสียง
วงศ์ตระกลู สังคม และประเทศชาติ และอาจเป็นปญั หาระหว่างประเทศ หิริ คอื ความละอายตอ่ บาป
เปน็ ความรสู้ ึกไมอ่ ยากทำบาป เหน็ บาปเป็นของสกปรก
ทท่ี ำให้จิตใจเศร้าหมอง มีความวติ กกังวลจึงไมย่ อมทำบาป
ท้ังในท่ีลับและที่เปิดเผยมีความละอายแก่ใจตนเอง
โอตตัปปะ เป็นความเกรงกลัวต่อบาป เป็นความรู้สึก
กลวั ท่ีว่าเม่อื ทำบาปแลว้ บาปจะ สง่ ผลเปน็ ความทุกข์
ทรมานแก่เราทั้งชาตินี้และชาติหน้าจึงไม่ยอมทำบาป
บุคคลที่ไม่บาป คือ การไม่ฆ่าสัตย์ ไม่ลักขโมย
ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดเท็จ ไม่พูส่อเสียด
ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่คิดโลภมาก
ไม่คิดพยาบาท และไม่คิดเห็นผิด เป็นต้น

22

๕. เป็นผู้นำในการทำกจิ กรรมและจติ อาสาประชาธปิ ไตย
“จติ อาสา” ข้าพเจ้าถอื วา่ เป็นประชาธิปไตยในทอ้ งถ่นิ โดยผ่านกระบวนการเรยี นรู้ กระบวนการมสี ่วน

รว่ มในชุมชน และการจัดการตนเองภายในชมุ ชนทอ้ งถน่ิ ทที่ ำโดยประชาชนในชุมชนเองจนสามารถพ่ึงตนเอง
ไดใ้ นทสี่ ดุ จติ อาสาซึง่ ชมุ ชนสามารถกระทำเองได้

23
๔. การมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย
๑. เปน็ ผู้ใหก้ ารสนบั สนนุ การจดั กิจกรรม กศน.

ข้าพเจา้ เป็นผู้สนับสนุนในการจดั กิจกรรม กศน.อำเภอกบนิ ทร์บรุ ี เชน่ เป็นทีป่ รึกษาและเหน็ ชอบ
กิจกรรม/โครงการตา่ งๆ ในการจดั กิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

๒. เข้าร่วมในการจัดกจิ กรรม กศน.อยา่ งสม่ำเสมอ
ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมในการจัดกิจกรรม กศน.อำเภอกบินทร์บุรี อย่างสม่ำเสมอ ในการจัดกิจกรรม

การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน การศกึ ษาตอ่ เนือ่ ง การศกึ ษาต่อเนือ่ ง และการศึกษาตามอธั ยาศัย

24
๓. มีสว่ นรว่ มสนบั สนนุ ทรัพยากรในการจดั กจิ กรรม กศน.

ข้าพเจา้ ได้รว่ มจัดกจิ กรรมการศึกษาขน้ั พื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษา
ตามอธั ยาศัย เชน่ โครงการอบรมประชาธปิ ไตย กจิ กรรมการขยายผลโครงการจิตอาสา

๔. มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมท่ที ำประโยชน์ต่อการพฒั นาสถานศึกษา
ข้าพเจ้า มีส่วนร่วมในกิจกรรมพัฒนา กศน.อำเภอกบนิ ทรบ์ รุ ี และห้องสมุดประชาชนอำเภอกบนิ ทร์บุรี

โดยปรับแต่งภมู ิทศั น์ใหม้ ีความร่มร่นื สวยงาม ใหเ้ กิดความสะอาด น่าอยู่

25

๕. เป็นผเู้ ผยแพร่ และแสดงตนที่ประสบความสำเร็จจากการเรยี น กศน.
ขา้ พเจ้านำความรู้ที่ได้นำมาถ่ายทอดเผยแพร่ความรู้ ใหก้ ับนักศึกษา กศน.อำเภอเภอกบินทรบ์ รุ ี

และประชาชนในเขตพ้ืนทีอ่ ำเภอกบนิ ทร์บุรี

26

๕. จติ อาสาการทำความดีเพ่ือสังคมและชมุ ชน

๑. มีสว่ นรว่ มในการวางแผนพฒั นาสงั คมและชุมชน
ขา้ พเจา้ ไดร้ ว่ มประชุมวางแผนการดำเนนิ งานจัดกจิ กรรมเพอื่ พฒั นาสงั คมและชมุ ชน

2. รว่ มกิจกรรมจิตอาสาการทำความดเี พ่ือสงั คมและชมุ ชน
ข้าพเจ้า ได้ทำกิจ่กรรมจิตอาสาทำความดีเพื่อสังคมและชุมชน เช่น จัดทำโครงการบ้านพอเพียง

โดยการซ่อมแซมบ้านให้กับประชาชนในอำเภอกบินทร์บุรีและได้นำ ข้าวสาร และหน้ากากอนามัย
มาช่วยเหลอื ชาวบา้ นทป่ี ระสบกับความเดอื ดร้อนจากการระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019

27
3. แนะนำให้ผอู้ น่ื มารว่ มกิจกรรมจิตอาสาการทำความดเี พอื่ สังคมและชมุ ชน

ข้าพเจ้าได้แนะนำและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ร่วมกิจกรรมจิตอาสาทำความดีเพื่อสังคมและ
ชมุ ชน เชน่ ประชาสมั พันธใ์ หป้ ระชาชนในหมูบ่ า้ น

4. เปน็ แบบอย่างในการจัดกจิ กรรมจิตอาสาการทำความดีเพ่ือสงั คมและชุมชน
ข้าพเจ้าไดเ้ ปน็ แบบอย่างในการจัดกิจกรรมจิตอาสาทำความดีเพ่ือสงั คม เชน่ เปน็ ตัวแทนอาสาสมัคร

ของ กศน.อำเภอกบนิ ทรบ์ ุรี ในการขับเคลือ่ นกิจกรรมตา่ งๆ เชน่ กิจกรรมจติ อาสา อยา่ งมคี ณุ ภาพ

28

5. เปน็ ผู้นำในการจัดกิจกรรมจิตอาสาการทำความดเี พอ่ื สงั คมและชุมชน
ในฐานะทข่ี า้ พเจา้ เป็นผู้ชว่ ยผใู้ หญ่บา้ น ข้าพเจ้าได้จัดกิจกรรมจติ อาสาการทำความดีเพือ่ สงั คมและ

ชุมชน เช่น การพัฒนาทำความสะอาดหมบู่ ้าน วัด และชมุ ชน

29

ตอนท่ี ๓ ผลงานทปี่ ระสบความสำเร็จ

ชื่อผลงาน เป็นผทู้ ำคุณประโยชนต์ อ่ กระทรวงวัฒนธรรม ระดับประเทศ

๑. การยอมรับของสังคมและชุมชน
๑. ได้รบั เชญิ เปน็ วิทยากรเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์

ขา้ พเจา้ ไดน้ ำประสบการณค์ วามรู้ทไี่ ด้มาเผยแพร่ ใหก้ ับนักเรยี นนกั ศกึ ษา และประชาชนในชุมชน

30

2. เผยแพร่ความรู้ทางสื่อสารมวลชนและส่ืออ่นื ๆ
ข้าพเจา้ ได้เผยแพรค่ วามรู้ต่างๆ ผ่าน facebook

3. ไดร้ ับรางวัลจากหน่วยงานหรือองคก์ รตา่ งๆ

31
4. มีหน่วยงานอน่ื มาศึกษาดูงาน

ขา้ พเจ้ารองประธานศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านหนองเอยี่ น ได้จัดกจิ กรรมตา่ งๆ ในศูนยก์ ารเรียนรู้
ซึง่ มหี น่วยงานภาครัฐ/เอกชน โรงเรยี นในระบบ และนอกระบบมาศกึ ษาดงู านศนู ยก์ ารเรียนรเู้ ศรษฐกจิ
พอเพียงบ้านหนองเอี่ยน ตำบลนาแขม อำเภอกบินทร์บรุ ี จงั หวดั ปราจีนบุรี

5. มีบุคคลนำความรูท้ ี่ไดร้ บั ไปขยายผล
จากที่มหี น่วยงานภาครฐั /เอกชน โรงเรยี นในระบบ และนอกระบบมาศกึ ษาดูงานศนู ย์การเรียนรู้

เศรษฐกจิ พอเพยี งบา้ นหนองเอี่ยน ตำบลนาแขม อำเภอกบนิ ทรบ์ รุ ี จงั หวดั ปราจีนบุรี ผ้เู ข้ารว่ มศกึ ษาดูงาน
สามารถนำความรู้ที่ได้ไปขยายผล

32
๒. ผลงานมปี ระโยชนต์ อ่ องคก์ ร/ชุมชน
๑. มผี ลการปฏิบตั ิงานทีม่ ปี ระโยชนต์ ่อสมาชิก/องคก์ ร/ชมุ ชน

ข้าพเจ้ารองประธานศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านหนองเอี่ยน ตำบลนาแขม ได้จัดกิจกรรมต่างๆ
ในศูนย์การเรียนรู้ เช่น กิจกรรมการปลูกผักกระเฉด กิจกรรมการจักสาน กิจกรรมการเผาถ่าน ฯลฯ ทำให้
ประชาชนในตำบลใช้เวลาวา่ งใหเ้ กดิ

๒. มีความพึงพอใจของสมาชิกในองคก์ ร/ชุมชน
ประชาชนในตำบล และสมาชิกในกลุ่มศนู ย์การเรยี นรชู้ มุ ชนบา้ นหนองเอีย่ น ตำบลนาแขม มีความพงึ

พอใจในการจดั กิจกรรมต่างๆ

33

๓. มีหน่วยงาน/องคก์ ร/ชมุ ชนนำไปใช้
ขา้ พเจ้ารองประธานศูนยก์ ารเรยี นรูช้ ุมชนบ้านหนองเอ่ียน ตำบลนาแขม ได้จัดกจิ กรรมต่างๆ

ในศูนยก์ ารเรียนรู้ เชน่ กิจกรรมการปลกู ผักกระเฉด กจิ กรรมการจกั สาน กจิ กรรมการเผาถา่ น ปลกู ผกั
สวนครวั ฯลฯ ทำให้ประชาชนในตำบลใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ สามารถนำไปประกอบอาชพี และสร้างรายไดใ้ หก้ ับ
ครอบครวั

34

4. ได้รบั การยกย่องระดบั จังหวัด/ระดับภาค
4.1 ไดร้ ับเกียรตบิ ัตร เป็นผดู้ ำรงอยู่ในคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและบำเพ็ญประโยชนต์ อ่ สังคม ไดร้ บั

การยกยอ่ งให้เปน็ ตัวอย่างทด่ี ีภายใต้โครงการเมอื งไทยเมืองคนดขี องกรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

4.2 ไดร้ บั ประกาศเกียรติคณุ เปน็ บคุ คลทน่ี ำคุณธรรมดา้ นความพอเพยี งมาปฏบิ ตั ิ จนเกิดประโยชน์ตอ่
ตนเองและสังคมเป็นทป่ี ระจกั ษ์ “บคุ คลต้นแบบด้านสุจริต”จากกระทรวงวฒั นธรรม โดยศูนย์คุณธรรม
(องค์การมหาชน)และองคก์ รภาคีสมัชชาคุณธรรมภาคกลาง

35

4.3 ไดร้ ับรางวลั ผู้ช่วยผู้ใหญ่บา้ นดีเดน่ ช้ันที่ ๑ จังหวัดปราจนี บุรี

4.4 ไดร้ ับรางวัลท่ี ๒ การประกวดหมูบ่ า้ นท่มี ผี ลงานดเี ดน่ ในการสง่ เสริมพระพทุ ธศาสนา

36

4.5 ได้รบั คัดเลือกเปน็ ปราชญ์เกษตรของแผน่ ดินระดบั จงั หวัด ประจำปี 2566 สาขาปราชญเ์ กษตร
ผนู้ ำชุมชนและเครือข่าย

37

5. ได้รับการยกยอ่ งระดับประเทศ
5.1 ไดร้ ับโลห่ ร์ างวลั วฒั นคุณาธร ผทู้ ำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวฒั นธรรม ระดับประเทศ

ดา้ นการเฝ้าระวงั ทางวฒั นธรรม ประเภทบคุ คล ประจำปี ๒๕๕๗ จาก กระทรวงวัฒนธรรม

5.2 ได้รบั โลห่ ์รางวัลวฒั นคณุ าธร ผทู้ ำคุณประโยชนต์ อ่ กระทรวงวัฒนธรรม ระดับประเทศ
ดา้ นการเฝา้ ระวังทางวฒั นธรรม ประเภทองคก์ ร ประจำปี ๒๕๕๙ จากกระทรวงวฒั นธรรม

38

ภาคผนวก

39

- ประวัตผิ ลงาน ท่ีใหก้ ารสนับสนนุ กจิ กรรมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย
(เอกสารหมายเลข ๑)

เอกสารหลักฐาน/ประวัติผลงาน
- ผลงานหรือรางวัลทีไ่ ดย้ กยอ่ ง (เอกสารหมายเลข ๒)

เอกสารหลกั ฐาน/ประวตั ผิ ลงาน

40

คณะผูจ้ ดั ทำ

ทป่ี รกึ ษา ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอกบินทรบ์ ุรี
นางขนษิ ฐา ป้องชาติ
บรรณารักษช์ ำนาญการพเิ ศษ
นางจนิ ตนา ผาโท ครูผู้ชว่ ย
นายจำลอง ปัดนา

รวบรวม/เรยี บเรยี งข้อมลู
นางสาวจารวุ รรณ วงษ์ยาแดง ครู กศน.ตำบลหาดนางแก้ว

ออกแบบปก
นางสาวจารวุ รรณ วงษย์ าแดง ครู กศน.ตำบลหาดนางแกว้

41