คำนำ
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดอัยยิการามได้ดำเนินการปรับปรุงตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ
ท่ี สพฐ.1239/2560 ส่งั ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2560 เรื่อง ใหใ้ ชม้ าตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวัด กลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) คำสั่งกระทรวงศกึ ษาธิการท่ี สพฐ. 30/2561 เรื่องให้เปลี่ยนแปลง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
เรื่อง การบริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โดย
กำหนดให้สถานศึกษาดำเนินการนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดไปสู่การปฏิบตั อิ ย่างมีประสิทธิภาพ และ
บรหิ ารจัดการหลกั สตู รให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ กบั ผูเ้ รียน ในสาระสำคญั ดงั น้ี
1. นำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
สาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
มาปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา (โครงสร้างเวลาเรียนและโครงสร้างหลักสูตรชั้นปี) และนำเสนอ
คำอธิบายรายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระ
การเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
2. ปรับช่อื หลกั สตู รสถานศึกษา เป็น “หลักสตู รโรงเรียนวัดอยั ยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
และกำหนดเป้าหมายการนำไปใช้ ดงั นี้
ปีการศึกษา 2561 ใช้หลักสูตรโรงเรียนวัดอัยยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในระดับชั้น
ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 , ประถมศึกษาปีท่ี 4 , มัธยมศึกษาปีที่ 1 และ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
ปีการศึกษา 2562 ใช้หลักสูตรโรงเรียนวัดอัยยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในระดับช้ัน
ประถมศึกษาปที ี่ 1-2 , ประถมศึกษาปีที่ 4-5 , มธั ยมศึกษาปที ี่ 1-2 และ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-5
ปกี ารศึกษา 2563 ใช้หลกั สูตรโรงเรยี นวัดอยั ยิการาม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ทกุ ชั้นเรยี น
ขอขอบคณุ ผู้ทมี่ ีสว่ นรว่ มทงั้ บุคคลภายในและภายนอกสถานศึกษา รวมท้งั ผูป้ กครองนกั เรียน ศษิ ยเ์ ก่า
และศิษย์ปัจจุบัน ที่ช่วยให้การปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาฉบับนี้ มีความสมบูรณ์และเหมาะสมต่อ
การจดั การศึกษาอยา่ งมีประสิทธภิ าพ
นายสุเทพ รจุ ิวิทยากุล
ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดอยั ยิการาม
เมษายน 2565
ประกาศโรงเรียนวดั อยั ยิการาม
เรื่องให้ใช้หลกั สูตรโรงเรยี นวัดอยั ยกิ าราม พทุ ธศักราช 2561
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551
ปรับปรุงตวั ชี้วัดกล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์
สาระภูมศิ าสตร์ ในกลุม่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
....................................................................................................................
ด้วยกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินการทบทวน
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อปรับปรุงเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและ
ลดความซำ้ ซอ้ นในเนื้อหาวิชา โดยได้กำหนดคำส่งั กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ.1239/2560 ส่ัง ณ วันที่ 7
สิงหาคม 2560 เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
คำส่งั กระทรวงศึกษาธิการท่ี สพฐ. 30/2561 เรอ่ื งใหเ้ ปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวัดกลุ่มสาระ
การเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการบริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษา
ข้นั พ้นื ฐาน ลงวนั ท่ี 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โดยกำหนดให้สถานศึกษาดำเนนิ การนำมาตรฐานการเรียนรู้
และตัวชว้ี ัดไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิอยา่ งมีประสิทธิภาพ และบริหารจดั การหลกั สตู รใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ กับผู้เรียน
สถานศึกษาจึงนำมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชีว้ ัด กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และ
สาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
มาปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา (โครงสร้างเวลาเรียนและโครงสร้างหลักสูตรชั้นปี) และนำเสนอ
คำอธิบายรายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระ
การเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ท้งั น้ีหลกั สตู รโรงเรยี นวดั อยั ยกิ าราม ไดร้ ับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียน เม่ือวันที่
4 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2561 จงึ ประกาศใหใ้ ชห้ ลักสูตรโรงเรยี นต้ังแต่บัดนี้เป็นต้นไป
(นางสาวสายสุดา หลกั ทรัพย์) (นายสุเทพ รุจิวิทยากลุ )
ประธานคณะกรรมการโรงเรียนวัดอยั ยกิ าราม ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวดั อัยยิการาม
ความนำ
สืบเนื่องจากการที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ได้ดำเนินการทบทวนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อปรับปรุงเปา้ หมายในการพัฒนา
คุณภาพผู้เรียนและลดความซ้ำซ้อนในเนื้อหาวิชา โดยได้กำหนดคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ.
1239/2560 สั่ง ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2560 เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการ
เรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) คำส่งั กระทรวงศึกษาธิการท่ี สพฐ. 30/2561 เรอ่ื งให้เปลี่ยนแปลง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เร่ืองการ
บริหารจัดการเวลาเรียนของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โดยกำหนดให้
สถานศึกษาดำเนินการนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ และบริหาร
จัดการหลกั สตู รให้เกิดประโยชนส์ ูงสุดกบั ผเู้ รียน
โรงเรียนวัดอัยยิการาม จึงนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) มาปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา (โครงสร้างเวลาเรียนและโครงสร้างหลักสูตรชั้นป)ี
และนำเสนอคำอธิบายรายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่ม
สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รวมทั้งปรับชื่อหลักสูตรสถานศึกษา เป็น
“หลกั สูตรโรงเรียนวดั อยั ยิการาม (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)” โดยกำหนดเป้าหมายในการนำไปใชด้ ังนี้
ปีการศึกษา 2561 ใช้หลักสูตร โรงเรียนวัดอัยยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในระดับช้ัน
ประถมศึกษาปีท่ี 1 , ประถมศึกษาปีที่ 4 , มธั ยมศึกษาปีที่ 1 และ มธั ยมศึกษาปีที่ 4
ปีการศึกษา 2562 ใช้หลักสูตร โรงเรียนวัดอัยยิการาม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในระดับชั้น
ประถมศึกษาปีท่ี 1 - 2 , ประถมศึกษาปที ี่ 4 - 5 , มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 - 2 และ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 - 5
ปีการศึกษา 2563 ใชห้ ลักสูตร โรงเรียนวดั อัยยกิ าราม ( (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ทกุ ชน้ั เรียน
วสิ ัยทศั นโ์ รงเรยี น
“โรงเรยี นวัดอยั ยิการาม” บรหิ ารจดั การแบบมีส่วนรว่ ม เปน็ แหลง่ เรียนรขู้ องชุมชน พัฒนานักเรียน
ให้มีคุณธรรม มีความรู้ ความสามารถเต็มตามศักยภาพ รู้จักใช้และอดออม มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
เห็นคุณค่าพัฒนาสิ่งแวดล้อม และ สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ก้าวไกลทันเทคโนโลยี ใช้อย่างมีคุณภาพ
ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข บุคลากรมีความรู้ความสามารถ
ในการจัดการเรยี นรู้และศรัทธาในวิชาชีพครู”
พนั ธกิจ
๑. ผู้เรยี นในเขตบริการไดร้ ับโอกาสทางการศึกษาท้ังในระดบั ปฐมวยั และระดับการศกึ ษา
ขั้นพืน้ ฐาน
๒. วางรูปแบบการบริหารแบบมีสว่ นร่วมตามหลักการบรหิ ารโดยใช้โรงเรยี นเป็นฐาน
(School Based Management : SBM)
๓. สง่ เสรมิ และพัฒนาโรงเรียนใหเ้ ปน็ แหล่งเรียนรทู้ ่ีมคี ณุ ภาพของชมุ ชน
๔. พัฒนาผ้เู รียนใหเ้ ป็นคนดีมีคุณธรรม จรยิ ธรรม นำความรู้ มสี ขุ ภาพกาย สขุ ภาพจิตท่ีดี
ร้คู ุณค่าการใชแ้ ละการออม เหน็ คณุ คา่ พฒั นาสิง่ แวดล้อมและสบื สานศิลปวฒั นธรรมไทย
๕. ส่งเสรมิ พัฒนาการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผเู้ รียนเป็นสำคญั
๖. สง่ เสรมิ การนำเทคโนโลยีทางการศกึ ษาและระบบเครอื ข่ายสารสนเทศมาใช้ในการบริหารและ
จัดการเรียนการสอน
๗. พัฒนาบุคลากรให้มคี วามรู้ความสามารถทันต่อการเปลี่ยนแปลงและศรทั ธาในวิชาชพี ครู
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนหลักสูตรการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน มุ่งใหผ้ เู้ รยี นเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังน้ี
1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรบั และส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัด
และลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง
ตลอดจนการเลอื กใชว้ ิธีการส่อื สาร ทม่ี ปี ระสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทีม่ ตี ่อตนเองและสงั คม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้
หรอื สารสนเทศเพือ่ การตัดสนิ ใจเกย่ี วกับตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์
และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและ
แก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคม
และสง่ิ แวดล้อม
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรูอ้ ย่างต่อเนือ่ ง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม
ด้วยการสร้างเสริมความสัมพนั ธอ์ ันดีระหวา่ งบคุ คล การจดั การปญั หาและความขดั แยง้ ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง
ประสงค์ท่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ื่น
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร
การทำงาน การแก้ปญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผเู้ รียน 8 ประการ
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หมายถงึ คณุ ภาพของผเู้ รยี นดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มท่ีกำหนดข้ึน
โดยพจิ ารณาจากสภาพของสงั คม และการเปล่ยี นแปลงของโลกยคุ ปจั จุบนั ซ่ึงทำใหม้ ีความจำเปน็ ต้องเน้นและ
ปลูกฝังลักษณะดังกล่าวให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียนทุกคนเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาในองค์รวมทั้งด้าน
สตปิ ญั ญา และคุณธรรม อันจะนำไปสคู่ วามเจริญก้าวหนา้ และความมนั่ คงสงบสขุ ในสังคม ดังน้ี
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2. ซอื่ สัตย์สจุ ริต
3. มวี ินยั
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งม่นั ในการทำงาน
7. รกั ความเปน็ ไทย
8. มีจิตสาธารณะ
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ประกอบดว้ ยตัวช้วี ัด 4 ข้อ ไดแ้ ก่
1.1 เป็นพลเมืองดีของชาติ พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติและอธิบาย
ความหมายของเพลงชาตไิ ดถ้ ูกต้อง
1.2 ธำรงไว้ซึ่งความเป็นไทย พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น เข้าร่วม ส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมที่สร้างความ
สามัคคี ปรองดองท่ีเปน็ ประโยชนต์ ่อ โรงเรยี น ชุมชนและสังคม
1.3 ศรัทธา ยึดมั่น ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา
ท่ตี นเองนบั ถือ (ศาสนาพทุ ธ) และปฏิบัติตนตามหลักของศาสนาทีต่ นนับถือ
1.4 เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์ พฤติกรรมบ่งชี้ เชน่ มีส่วนร่วมหรอื จดั กิจกรรมที่เก่ียวกับ
สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
2. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต
ประกอบดว้ ยตวั ชว้ี ดั 2 ข้อ ไดแ้ ก่
2.1 ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อตนเองทั้งทายกาย วาจา ใจ พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น ให้ข้อมูล
ที่ถูกต้องและเป็นจริงปราศจากความลำเอียง และปฏิบัติตนโดยคำนึงถึงความถูกต้อง ละอายและเกรงกลัว
ต่อการกระทำผิดและปฏิบตั ิตามคำมนั่ สญั ญา
2.2 ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ต่อผอู้ ่นื ทั้งทายกาย วาจา ใจ พฤตกิ รรมบ่งช้ี เชน่ ไมถ่ ือเอาส่งิ ของ
หรือผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรงและไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่
ถูกตอ้ ง
3. มีวินัย
ประกอบดว้ ยตัวชีว้ ัด 1 ขอ้ ได้แก่
3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม
พฤตกิ รรมบ่งช้ี เชน่ ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บังคบั ของครอบครัว โรงเรยี น และสังคม ไม่
ละเมิดสิทธิของผู้อื่น และตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันและรับผิดชอบในการ
ทำงาน
4. ใฝ่เรียนรู้
ประกอบด้วยตัวชี้วัด 3 ข้อ ไดแ้ ก่
4.1 ต้งั ใจเพยี รพยายามในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี เช่น ตัง้ ใจเรียน
เอาใจใส่และมคี วามเพียรพยายามในการเรียนรู้ และสนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนร้ตู ่าง ๆ
4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ งๆท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลอื กใชส้ อื่ อย่าง
เหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ สื่อ เทคโนโลยีต่าง ๆ
แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้สื่อได้อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์
ตรวจสอบจากสิ่งที่เรียนรู้ สรุปเป็นองค์ความรู้ และแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยวิธีการต่างๆเพื่อนำไปใช้
ในชวี ิตประจำวนั
5. อยู่อย่างพอเพียง
ประกอบดว้ ยตัวชว้ี ัด 2 ข้อ ไดแ้ ก่
5.1 ดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม พฤติกรรมบ่งชี้
เช่น ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น เงิน สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยั ด คุ้มค่า และเก็บรักษา
ดูแลอย่างดี รวมทง้ั การใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม ใช้ทรพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัด คุ้มคา่ และเก็บรักษา
ดูแลอย่างดี ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผลและไม่เอาเปรียบผู้อื่นและไม่ทำให้
ผูอ้ ่ืนเดอื ดรอ้ น พร้อมใหอ้ ภัยเม่อื ผอู้ ่ืนกระทำผิด
5.2 มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น วาง
แผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันบนพื้นฐานของความรู้ ข้อมูล ข่าวสารและรู้เท่าทันการ
เปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตวั เพ่ืออยูร่ ว่ มกบั ผูอ้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข
6. มุ่งม่นั ในการทำงาน
ประกอบดว้ ยตัวชว้ี ัด 2 ขอ้ ไดแ้ ก่
6.1 ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่การงาน พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ัติ
หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตั้งใจและรับผิดชอบในการทำงานให้สำเรจ็ และปรับปรุงและพฒั นาการทำงานด้วย
ตนเอง
6.2 ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย พฤติกรรมบ่งช้ี
เชน่ ทมุ่ เททำงาน อดทน ไมย่ ่อท้อต่อปัญหาและอปุ สรรคในการทำงาน พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการ
ทำงานใหส้ ำเรจ็ และชนื่ ชมผลงานดว้ ยความภาคภมู ิใจ
7. รักความเปน็ ไทย
ประกอบด้วยตวั ชวี้ ัด 3 ข้อ ไดแ้ ก่
7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทยและมีความกตัญญูกตเวที
พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น แต่งกายและมีมารยาทงดงามแบบไทย มีสัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ
รว่ มกจิ กรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณี ศลิ ปะ และวัฒนธรรมไทย และชกั ชวน แนะนำให้ผู้อ่ืนตามขนบธรรมเนียม
ประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย
7.2 เห็นคุณค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม พฤติกรรมบ่งชี้ เช่น
ใช้ภาษาไทยและเลขไทยในการสอ่ื สารได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสมและชักชวน แนะนำให้ผอู้ ื่นเหน็ คุณค่าของการ
ใชภ้ าษาไทยทีถ่ ูกตอ้ ง
7.3 อนรุ กั ษแ์ ละสืบทอดภูมิปญั ญาไทย พฤตกิ รรมบง่ ช้ี พฤตกิ รรมบ่งช้ี เชน่ นำภูมิปัญญาไทยมาใช้
ให้เหมาะสมในวิถีชีวิต ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาไทยและแนะนำ มีส่วนร่วมในการสืบทอดภูมิ
ปญั ญาไทย
8. มจี ิตสาธารณะ
ประกอบด้วยตัวช้ีวดั 2 ข้อ ไดแ้ ก่
8.1 ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจและพึงพอใจโดยไม่หวังผลตอบแทน พฤติกรรมบ่งช้ี
เช่น ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูทำงานด้วยความเต็มใจ อาสาทำงานให้ผู้อื่นด้วยกำลังกาย กำลังใจ
และกำลงั สตปิ ญั ญาโดยไมห่ วังผลตอบแทนและแบ่งปนั ส่ิงของ ทรพั ย์สิน และอ่นื ๆและช่วยแกป้ ญั หาหรือสร้าง
ความสุขให้กับผู้อ่นื
8.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีเ่ ปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม พฤติกรรมทบ่ี ง่ ชี้ เช่น ดแู ลรักษา
สาธารณสมบัติและส่ิงแวดล้อมด้วยความเตม็ ใจ เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีเปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชนและสังคม
และเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิ่งที่ดีงามของส่วนรวมตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความ
กระตอื รือรน้
กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทนำ
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นี้ได้กำหนด
สาระการเรียนรู้ออกเป็น 4 สาระ ได้แก่ สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ และสาระท่ี 4 เทคโนโลยี มีสาระเพิ่มเติม 4 สาระ ได้แก่ สาระ
ชวี วิทยา สาระเคมี สาระฟสิ ิกส์ และสาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ซ่งึ องคป์ ระกอบ ของหลักสูตรทั้งใน
ด้านของเนือ้ หา การจดั การเรียนการสอน และการวดั และประเมนิ ผลการเรียนร้นู ้ัน มีความสำคัญอย่างย่ิงใน
การวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของผู้เรียนในแตล่ ะระดับชัน้ ให้มีความต่อเน่ืองเชือ่ มโยงกัน ตั้งแต่ชน้ั
ประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 สำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้
กำหนดตวั ชีว้ ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง ท่ผี ูเ้ รียนจำเปน็ ตอ้ งเรยี นเป็นพื้นฐาน เพือ่ ใหส้ ามารถนำความรู้นี้
ไปใช้ในการดำรงชีวิตหรือศึกษาต่อในวิชาชีพที่ต้องใช้วิทยาศาสตร์ได้ โดยจัดเรียงลำดับความยากง่ายของ
เน้อื หาแต่ละสาระในแต่ละระดับชั้นใหม้ ี การเช่ือมโยงความรู้กบั กระบวนการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิดทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มี
ทักษะที่สำคญั ทัง้ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะในศตวรรษที่ 21 ในการค้นควา้ และสร้างองค์
ความรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูล
หลากหลายและประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
ตระหนกั ถึงความสำคัญของการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ทีม่ งุ่ หวังให้เกดิ ผลสัมฤทธติ์ ่อผเู้ รียนมากที่สุด จึงได้
จัดทำตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแ้ กนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรงุ
พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ขึ้น เพื่อให้สถานศึกษา
ครผู ้สู อนตลอดจนหนว่ ยงานต่าง ๆ ได้ใชเ้ ปน็ แนวทางในการพัฒนาหนงั สอื เรียน คูม่ ือครู ส่อื ประกอบการเรียน
การสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผล โดยตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พทุ ธศักราช 2551 ทีจ่ ัดทำขึ้นนีไ้ ดป้ รับปรงุ เพือ่ ให้มีความสอดคลอ้ ง และเช่อื มโยงกันภายในสาระการเรียนรู้
เดียวกัน และระหว่างสาระการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนการ
เชื่อมโยงเน้ือหาความรูท้ างวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตรด์ ้วย นอกจากน้ี ยังได้ปรบั ปรุงเพ่ือให้มีความทันสมัย
ต่อการเปลี่ยนแปลง และความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการตา่ ง ๆ และทัดเทียมกับนานาชาติ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีสรุปเป็นแผนภาพได้ ดงั นี้
เป้าหมายของวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ด้วยตนเอง
มากที่สุด เพื่อให้ได้ทั้งกระบวนการและความรู้ จากวิธีการสังเกต การสำรวจตรวจสอบ การทดลอง
แลว้ นำผลท่ีได้มาจัดระบบเป็นหลกั การ แนวคิด และองค์ความรู้
การจัดการเรยี นการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีจงึ มเี ปา้ หมายท่ีสำคัญ ดังน้ี
1. เพ่ือให้เขา้ ใจหลักการ ทฤษฎี และกฎท่ีเปน็ พน้ื ฐานในวชิ าวทิ ยาศาสตร์
2. เพื่อให้เข้าใจขอบเขตของธรรมชาติของวิชาวิทยาศาสตร์และข้อจ ำกัดในการศึกษา
วิชาวทิ ยาศาสตร์
3. เพื่อใหม้ ที กั ษะที่สำคัญในการศึกษาค้นควา้ และคิดคน้ ทางเทคโนโลยี
4. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุษย์
และสภาพแวดล้อมในเชงิ ทมี่ ีอิทธพิ ลและผลกระทบซ่ึงกันและกนั
5. เพอ่ื นำความรู้ ความเข้าใจ ในวิชาวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยไี ปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและ
การดำรงชวี ติ
6. เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา และการจัด
การทกั ษะในการส่ือสาร และความสามารถในการตัดสินใจ
7. เพื่อให้เป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์
เรียนรอู้ ะไรในวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่เน้นการ
เชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการ มีทกั ษะสำคัญในการคน้ คว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการในการ
สืบเสาะหาความรู้ และแกป้ ัญหาท่ีหลากหลาย ให้ผ้เู รียนมสี ว่ นร่วมในการเรียนรู้ ทกุ ขั้นตอน มีการ
ทำกิจกรรมดว้ ยการลงมือปฏบิ ตั จิ รงิ อยา่ งหลากหลาย เหมาะสมกบั ระดบั ช้ันโดยกำหนดสาระสำคญั ดังนี้
✧ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต
การดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์ การดำรงชีวิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ
และวิวฒั นาการของสง่ิ มีชวี ิต
✧ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร
การเคลอื่ นที่ พลังงาน และคลื่น
✧ วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ เรียนร้เู ก่ียวกบั องค์ประกอบของเอกภพ ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบ
สรุ ยิ ะ เทคโนโลยอี วกาศ ระบบโลก การเปลี่ยนแปลงทางธรณวี ิทยา กระบวนการเปล่ยี นแปลง ลม
ฟ้าอากาศ และผลต่อสิง่ มชี ีวิตและสิง่ แวดล้อม
✧ เทคโนโลยี
●การออกแบบและเทคโนโลยี เรียนรู้เกี่ยวกับ เทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคม
ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์
อื่น ๆ เพอื่ แก้ปญั หาหรือพฒั นางานอยา่ งมคี วามคดิ สร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สังคม และสิง่ แวดล้อม
●วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับ การคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา
เป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสอ่ื สาร ในการแก้ปญั หาท่ีพบในชวี ิตจริงได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต
กับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอดพลังงาน การ
เปลี่ยนแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติ
และสงิ่ แวดล้อมแนวทางในการอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปัญหาสง่ิ แวดล้อมรวมทง้ั นำความรู้ไป
ใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า
และออกจากเซลล์ ความสมั พนั ธข์ องโครงสร้างและหน้าท่ขี องระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ยท์ ่ที ำงานสัมพนั ธ์
กัน ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ งและหน้าทขี่ องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ทีท่ ำงานสมั พันธก์ ัน รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้
ประโยชน์
มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมสาร
พนั ธกุ รรม การเปล่ียนแปลงทางพนั ธกุ รรมทมี่ ีผลต่อส่งิ มชี วี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพ และ
วิวัฒนาการของส่ิงมีชวี ิต รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ
สสารกับโครงสรา้ งและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี
มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชวี ิตประจำวัน ผลของแรงทกี่ ระทำตอ่ วตั ถุ ลักษณะ
การเคลอ่ื นที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์
ที่เก่ียวข้องกับเสยี ง แสง และคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และววิ ฒั นาการของเอกภพกาแล็กซี
ดาวฤกษ์ และระบบสรุ ิยะ รวมท้งั ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลตอ่ สิ่งมีชีวิต และ
การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองคป์ ระกอบและความสมั พันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลง
ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัตภิ ัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผล
ต่อส่ิงมีชวี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคม ท่ี
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์
อื่น ๆ เพ่ือแกป้ ญั หาหรือพฒั นางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และส่งิ แวดลอ้ ม
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขัน้ ตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงานและการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม
โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษา
โครงสรา้ งเวลาเรียนระดับประถมศึกษาโรงเรียนวัดอัยยกิ าราม
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้/ เวลาเรยี น ป.5 ป.6
กิจกรรม ระดบั ประถมศกึ ษา
ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 160 160
160 160
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘0 ๘0
ภาษาไทย 200 200 200 160 ๖๐ ๖๐
๒๐ ๒๐
คณติ ศาสตร์ 200 200 200 160
120 120
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘0 ๘0 ๘0 ๘0
40 40
วทิ ยาศาสตร์ ๖๐ ๖๐ ๖๐ ๖๐
วิทยาการคำนวณ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ 80 80
สงั คมศกึ ษา ศาสนา
และวฒั นธรรม 120 120 120 120
ประวัตศิ าสตร์ 40 40 40 40
ศาสนาศีลธรรม จรยิ ธรรม
หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง วัฒนธรรม
และการดำเนนิ ชีวติ ในสังคม
เศรษฐศาสตร์
ภมู ิศาสตร์ 80 80 80 80
สุขศึกษาและพลศกึ ษา 40 40 40 80 80 80
ศิลปะ 40 40 40 80 80 80
40 40 40 80 80 80
การงานอาชีพและเทคโนโลยี 120 120 120 80 80 80
840 840 840 840 840 840
ภาษาต่างประเทศ
รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) --- ไมน่ อ้ ยกว่า 40 ชม. / ปี
--- 40 40 40
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ /กิจกรรม ๔๐ ๔0 ๔0 40 40 40
ภาษาจนี ๔๐ ๔0 ๔0 ---
--- ---
ของเล่นเชิงวทิ ยาศาสตร์ และ 40 40 40 40 40 40
สนุกกับโครงงาน 120 120 120 40 40 40
160 160 160
ภาษาอังกฤษแสนสนกุ 120 120 120
อา่ นออก เขียนได้ ลายมือสวย 120 120 120
120 120 120
ภาษาอังกฤษเพื่อการสอ่ื สาร ไม่น้อยกวา่ 1,000 ช่วั โมง 120 120 120
ไม่น้อยกว่า 1,000 ชว่ั โมง
คอมพวิ เตอร์
รวมเวลาเรยี น (เพ่มิ เตมิ )
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น
กจิ กรรมแนะแนว
กิจกรรมนักเรียน
- ลูกเสือ - เนตรนารี
- ชมุ นุม
- ลดเวลาเรยี น - เพ่ิมเวลารู้
กิจกรรมเพื่อสังคมและ
สาธารณประโยชน์
รวมเวลากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
รวมเวลาท้งั หมด
โครงสร้างหลักสตู รสถานศกึ ษา
โครงสรา้ งเวลาเรยี นระดับมัธยมศึกษาโรงเรยี นวดั อยั ยิการาม
เวลาเรยี น
กลมุ่ สาระการเรียนรู้/กจิ กรรม ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้
ม.1 ม.2 ม.3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ 120 (3 นก.)
120 (3 นก.)
ภาษาไทย 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
คณิตศาสตร์ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) ๘๐
๔๐
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
160 (4 นก.)
วิทยาศาสตร์ ๘๐ ๘๐ 40
วทิ ยาการคำนวณ ๔๐ ๔๐ ๘0
๔๐
สังคมศกึ ษา ศาสนา 80 (2 นก.)
80 (2 นก.)
และวฒั นธรรม 160 (4 นก.) 160 (4 นก.)
80 (2 นก.)
ประวตั ิศาสตร์ 40 40 120 (3 นก.)
880 (22 นก)
ศาสนาศีลธรรม จริยธรรม
40 (1 นก.)
หน้าทีพ่ ลเมอื ง วัฒนธรรม 40 (1 นก.)
40 (1 นก.)
และการดำเนินชีวิตในสงั คม
-
เศรษฐศาสตร์ ๘0 ๘0 40 (1 นก.)
40 (1 นก.)
ภมู ศิ าสตร์ ๔๐ ๔๐ 200 (5 นก.)
สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 120
ศิลปะ 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 120
ทศั นศิลป์
นาฏศลิ ป์
การงานอาชพี และเทคโนโลยี 80 (2 นก.) 80 (2 นก.)
ภาษาตา่ งประเทศ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
รวมเวลาเรยี น (พื้นฐาน) 880 (22 นก) 880 (22 นก)
รายวิชาเพมิ่ เตมิ
- โครงงานวิทยาศาสตร์เพือ่ สขุ ภาพ 40 (1 นก.) 40 (1 นก.)
- ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร 40 (1 นก.) 40 (1 นก.)
- ภาษาจีน 40 (1 นก.) 40 (1 นก.)
- ดนตรสี ากล - 40 (1 นก.)
- คอมพิวเตอร์ 40 (1 นก.) 40 (1 นก.)
- ดนตรีไทย 40 (1 นก.) -
รวมเวลาเรยี น (เพิ่มเติม) 200 (5 นก.) 200 (5 นก.)
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนักเรียน
- ลกู เสอื - เนตรนารี 120 120
- ชมุ นุม / ลดเวลาเรียน - เพ่ิมเวลารู้
กิจกรรมเพือ่ สังคมและ
สาธารณประโยชน์
รวมเวลากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 120 120
รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด ไมเ่ กนิ 1,200 ช่ัวโมง
รายวชิ าคอมพิวเตอร์เพิม่ เตมิ
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษา
ว ๑๑2๐๑ คอมพวิ เตอรเ์ สรมิ 1 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง
ว ๑22๐๑ คอมพวิ เตอร์เสรมิ 2 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง
ว ๑32๐๑
ว ๑42๐๑ คอมพิวเตอร์เสรมิ 3 เวลาเรียน 40 ช่ัวโมง
ว ๑52๐๑ คอมพวิ เตอร์เสริม 4 เวลาเรยี น 40 ชั่วโมง
ว ๑62๐๑ คอมพิวเตอรเ์ สรมิ 5 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง
ว 212๐2 คอมพิวเตอรเ์ สรมิ 6 เวลาเรยี น 40 ชัว่ โมง
ว 212๐4
ว 222๐2 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้
ว 222๐4
ว 232๐2 คอมพิวเตอร์เสรมิ 1 เวลาเรยี น 20 ชว่ั โมง
ว 2๓2๐4
คอมพวิ เตอรเ์ สริม 2 เวลาเรยี น 20 ช่ัวโมง
คอมพิวเตอรเ์ สรมิ 3 เวลาเรียน 20 ช่ัวโมง
คอมพวิ เตอรเ์ สริม 4 เวลาเรยี น 20 ชว่ั โมง
คอมพิวเตอรเ์ สริม 5 เวลาเรียน 20 ช่วั โมง
คอมพิวเตอรเ์ สริม 6 เวลาเรยี น 20 ชัว่ โมง
คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เตมิ
รหสั วิชา ว 11201 รายวชิ า คอมพิวเตอรเ์ สรมิ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ศึกษาการแกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใช้การลองผิดลองถูก เปรยี บเทียบแสดงลำดบั ข้ันตอนการทำงาน
หรือการแกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์ หรอื ข้อความ เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์
หรือสอื่ ใช้เทคโนโลยีในการสรา้ ง จัดเก็บ เรยี กใช้ข้อมลู ตามวัตถปุ ระสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง
ปลอดภยั ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใชค้ อมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรกั ษาอปุ กรณเ์ บ้ืองตน้ ใช้งานอยา่ งเหมาะสม
โดยใช้การแก้ปัญหาอย่างง่ายตามขั้นตอนการแก้ปัญหา มีทักษะในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและ
ซอฟตแ์ วรพ์ ้นื ฐานรวมถึงการสื่อสารเบ้ืองตน้
เพอื่ ให้ผู้เรียนมีความกระตือรอื ร้น สนใจทีจ่ ะเรยี นรู้ มีความคิดสรา้ งสรรค์เกี่ยวกบั เรอื่ งท่ีจะศึกษา
ตามทก่ี ำหนดให้หรอื ตามความสนใจ มสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเห็น และยอมรบั ฟังความคิดเห็นผู้อ่นื
แสดงความรับผิดชอบด้วยการทำงานที่ได้รับมอบหมายอยา่ งมุ่งมนั่ รอบคอบ ประหยดั ซ่อื สตั ย์ จนงานลลุ ว่ ง
เป็นผลสำเรจ็ และทำงานรว่ มกับผู้อ่นื อย่างมคี วามสุข
ผลการเรยี นรู้
1. บอกวิธีการแก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้การลองผดิ ลองถูกการเปรยี บเทียบ
2. บอกลำดบั ข้นั ตอนการทำงานหรือการแกป้ ัญหาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์หรือข้อความ
3. เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือสอ่ื
4. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้าง จดั เกบ็ เรยี กใชข้ ้อมลู ตามวัตถุประสงค์
5. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษา
อปุ กรณเ์ บอ้ื งตน้ ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม
6.บอกประโยชน์ ความหมาย ส่วนประกอบ และหน้าท่ี ของอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี
7. ปฏบิ ตั ิ ตามข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์รว่ มกันดแู ล รักษาอปุ กรณเ์ บือ้ งต้นและใช้งานอย่างเหมาะสม
8. สามารถเรยี กใช้โปรแกรมประมวลคำได้
9. อธบิ าย เคร่ืองมือของโปรแกรมประมวลคำไดอ้ ย่างถกู ต้อง
10. สรา้ งเอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word ได้
รวมท้งั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
โครงสรา้ งรายวชิ า
โครงสรา้ งรายวชิ า รหสั วชิ า ว 11201 รายวชิ า คอมพิวเตอร์เสรมิ 1
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต
ท่ี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
1. ขอ้ มูลน่ารู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
1. บอกวธิ กี ารแก้ปญั หา 1) การแก้ปัญหาอยา่ ง 10
2 เทคโนโลยีนา่ รู้ อย่างงา่ ยโดยใช้การลองผดิ ลอง ง่าย และการเปรียบเทียบ
ถูกการเปรียบเทยี บ ข้อมูล
3 การบำรุงรักษา
4 โปรแกรมประมวลผล 2. บอกลำดับข้ันตอนการ 2) ลำดบั ข้ันตอนการ
ทำงานหรอื การแกป้ ัญหาอย่าง ทำงาน การแก้ปญั หา และ
คำ งา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์หรอื สญั ลกั ษณ์ของข้อความ
ข้อความ
3) การเขยี นโปรแกรม
3. เขียนโปรแกรมอย่าง อย่างวงา่ ย
งา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรอื ส่อื
4. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการ 7. การใชเ้ ทคโนโลยใี น 10
สรา้ ง จดั เก็บ เรียกใช้ข้อมูล การสร้าง จดั เกบ็ และการ
ตามวตั ถปุ ระสงค์ เรยี นใช้ข้อมลู
5. ใชเ้ ทคโนโลยี 8. การใชเ้ ทคโนโลยี
สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย สารสนเทศอย่างปลอดภยั
ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงในการใช้ และการบำรงุ รกั ษาอย่าง
คอมพวิ เตอรร์ ว่ มกนั ดูแลรกั ษา เหมาะสม
อุปกรณ์เบ้อื งตน้ ใช้งานอย่าง 9. ประโยชน์
เหมาะสม ความหมาย ส่วนประกอบ
6. บอกประโยชน์ และหนา้ ที่ของอุปกรณ์
ความหมาย ส่วนประกอบ และ เทคโนโลยี
หนา้ ที่ ของอปุ กรณ์เทคโนโลยี
7.ปฏบิ ตั ิ ตามขอ้ ตกลงใน 7 การปฏบิ ัตติ าม 4
การใชค้ อมพวิ เตอรร์ ่วมกนั ดแู ล ขอ้ ตกลง การรกั ษาอุปกรณ์
รักษาอปุ กรณ์เบือ้ งตน้ และใช้ เบ้อื งตน้ ได้อยา่ งเหมาะสม
งานอยา่ งเหมาะสม
8. สามารถเรียกใช้ 8. เรียกใช้โปรแกรม 15
โปรแกรมประมวลคำได้ ประมวลผลคำ
9. อธิบาย เครอ่ื งมือของ 9. เครื่องมือของ
โปรแกรมประมวลคำได้อยา่ ง โปรแกรมประมวลผลคำ
ถูกตอ้ ง
ท่ี ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
(ชวั่ โมง) คะแนน
10. สรา้ งเอกสารด้วย 10. การสรา้ งเอกสาร
โปรแกรม Microsoft Word ได้ ดว้ ยโปรแกรม Microsoft
word
สอบปลายภาคเรียน 1
รวม 40
คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ
รหสั วชิ า ว 12201 รายวิชา คอมพิวเตอร์เสริม 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกติ
ศึกษาและเขยี นแสดงลำดับขน้ั ตอนการทำงานหรอื การแก้ปัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลกั ษณ์
หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื สือ่ และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
ใช้เทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จัดเกบ็ เรยี กใชข้ ้อมูลตามวัตถุประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยี
สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงในการใชค้ อมพิวเตอร์รว่ มกัน ดูแลรักษาอปุ กรณเ์ บ้ืองต้น
ใช้งานเบ้อื งตน้
โดยใชก้ ารแก้ปัญหาอยา่ งงา่ ยตามขน้ั ตอนการแก้ปัญหา มที ักษะในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารเบอื้ งต้น รวมถึงการใช้ซอฟตแ์ วรพ์ น้ื ฐานในการสรา้ งชน้ิ งานและนำเสนอขอ้ มูลอย่างเหมาะสม
เพอื่ ให้ผ้เู รียนมีความกระตอื รือร้น สนใจท่จี ะเรยี นรู้ มคี วามคดิ สร้างสรรคเ์ กีย่ วกับเรอ่ื งท่ีจะศึกษา
ตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น
แสดงความรับผดิ ชอบดว้ ยการทำงานท่ไี ด้รับมอบหมายอย่างมุ่งมน่ั รอบคอบ ประหยดั ซอื่ สัตย์ จนงานลุลว่ ง
เป็นผลสำเรจ็ และทำงานร่วมกับผอู้ น่ื อยา่ งมคี วามสขุ
ผลการเรยี นรู้
1. บอกลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแกป้ ญั หา อย่างง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์หรือข้อความ
2. เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื ส่อื และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
3. ใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้าง จดั หมวดหมู่คน้ หา จัดเกบ็ เรียกใช้ขอ้ มูลตามวัตถปุ ระสงค์
4. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏบิ ตั ิ ตามขอ้ ตกลงในการใชค้ อมพิวเตอรร์ ่วมกัน ดูแล รกั ษา
อปุ กรณเ์ บือ้ งต้น ใชง้ านอย่างเหมาะสม
5. บอกชือ่ และหนา้ ที่ของอปุ กรณ์พนื้ ฐาน และหลักการทำงานของคอมพิวเตอรไ์ ด้
6. ใช้โปรแกรมประมวลคำในการสร้างชิน้ งานและนำเสนอขอ้ มูลได้
รวมทัง้ หมด 6 ผลการเรยี นรู้
โครงสรา้ งรายวิชา
โครงสรา้ งรายวิชา รหสั วิชา ว 12201 รายวิชา คอมพวิ เตอร์เสริม 2
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกิต
ท่ี ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
(ชัว่ โมง) คะแนน
1. เทคโนโลยีนา่ รู้ 1. บอกลำดบั ขน้ั ตอนการ 1. ลำดับข้นั ตอนการ 10
2 การบำรุงรักษา
ทำงานหรือการแก้ปญั หา อยา่ ง ทำงานหรือการแกป้ ญั หา 10
งา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลักษณห์ รอื 5
อยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ
ข้อความ สญั ลกั ษณ์หรือขอ้ ความ
2. เขียนโปรแกรมอย่าง
2. การเขียนโปรแกรม
งา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรือสือ่
และตรวจหาข้อผดิ พลาดของ อยา่ งง่าย
3. เทคโนโลยีการสร้าง
โปรแกรม
3. ใช้เทคโนโลยีในการ จัดหมวดหมู่ การจดั เก็บ
สรา้ ง จดั หมวดหมู่ค้นหา
จัดเก็บ เรียกใชข้ อ้ มูลตาม และการใช้ขอ้ มูล
วตั ถุประสงค์
4. ใชเ้ ทคโนโลยี 4. เทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างปลอดภัย สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
ปฏบิ ตั ิ ตามข้อตกลงในการใช้
ปฏิบัติ ตามขอ้ ตกลงในการ
คอมพิวเตอรร์ ว่ มกนั ดแู ล ใชค้ อมพวิ เตอร์รว่ มกัน ดแู ล
รกั ษาอุปกรณ์เบ้อื งตน้ ใชง้ าน รกั ษาอปุ กรณเ์ บอ้ื งต้น
อย่างเหมาะสม
3 หน้าท่ขี องคอมพิวเตอร์ 5. บอกช่อื และหนา้ ทขี่ อง 5. ชอ่ื และหน้าทข่ี อง
อุปกรณ์พืน้ ฐาน และหลักการ อุปกรณพ์ น้ื ฐาน หลักการ
ทำงานของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ ทำงานของคอมพิวเตอร์
3 โปรแกรมประมวลผล 6.ใช้โปรแกรมประมวลคำ 6.โปรแกรมประมวลคำใน 14
คำ ในการสรา้ งช้ินงานและนำเสนอ การสร้างชน้ิ งานและ
ข้อมลู ได้ นำเสนอขอ้ มลู
สอบปลายภาคเรยี น 1
รวม 40
คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ
รหัสวิชา ว 13201 รายวชิ า คอมพิวเตอรเ์ สรมิ 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต
ศึกษาแนวคดิ หลกั ของการแกป้ ัญหาโดยใช้เหตผุ ล เงอ่ื นไข กฎเกณฑ์ วธิ ีการ และการใช้อลั กอริทมึ
ในการเรยี งลำดับข้นั ตอนของการแก้ปัญหา การใชเ้ กมการแกป้ ญั หา เพ่ือฝกึ การแกป้ ญั หาอย่างเป็นระบบการ
ทำงานของคอมพวิ เตอร์ เครอ่ื งมอื สำหรบั การเขยี นโปรแกรม การตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรมการเขยี น
โปรแกรม การคน้ หาขอ้ มูลโดยใชเ้ ครือข่ายอนิ เทอร์เนต็ การสืบคน้ ขอ้ มลู ผ่าน Search Engineการพิจารณา
ขอ้ มลู ความนา่ เชื่อถือ เปรียบเทียบขอ้ มูล การรวบรวมข้อมูล การกำหนดหวั ข้อและอปุ กรณ์ในการรวบรวม
ข้อมลู การใชซ้ อฟตแ์ วรน์ ำเสนอขอ้ มลู ในการทำงานต่าง ๆ การใชซ้ อฟตแ์ วรป์ ระมวลคำ การใชซ้ อฟต์แวร์ตาราง
ทำงาน การใชซ้ อฟตแ์ วรใ์ นการนำเสนอข้อมูล และแนวคิดที่เกยี่ วข้องกับการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย โดย
คำนงึ ถึงประโยชนแ์ ละผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และขอ้ ปฏิบัตใิ นการใช้อินเทอรเ์ น็ต โดยใช้
การแก้ปัญหาอยา่ งงา่ ยตามขั้นตอนการแก้ปัญหา มีทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอ่ื สาร
เบื้องตน้
เพื่อให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษา
ตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อ่ืน
แสดงความรับผดิ ชอบด้วยการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมายอย่างมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยัด ซื่อสัตย์ จนงานลุล่วง
เป็นผลสำเร็จ และทำงานร่วมกบั ผูอ้ ืน่ อยา่ งมีความสุข
ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายข้ันตอนอลั กอริทมึ ในการทำงานหรือการแก้ปญั หา อยา่ งงา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลกั ษณห์ รือข้อความ
2. เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื สอ่ื และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม
3. ใชซ้ อฟตแ์ วร์ รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมลู
4. ใชอ้ ินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้
5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฏบิ ตั ิ ตามขอ้ ตกลงในการใชอ้ ินเทอร์เนต็
6. อธิบายเครอ่ื งมือต่างๆ ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ได้
7. ใชโ้ ปรแกรมนำเสนอข้อมูล สร้างชน้ิ งานได้อยา่ งเหมาะสม
รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้
โครงสรา้ งรายวิชา
โครงสร้างรายวชิ า รหสั วชิ า ว 13201 รายวิชา คอมพวิ เตอรเ์ สรมิ 3
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกติ
ท่ี ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
(ชวั่ โมง) คะแนน
1. การเขียนโปรแกรม 1. อธิบายขนั้ ตอน 1. ขนั้ ตอนอลั กอริทึมในการ 12
งา่ ยๆ
อัลกอริทึมในการทำงานหรือ ทำงานหรอื การแกป้ ญั หา
การแก้ปญั หา อย่างงา่ ยโดยใช้ 2.โปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้
ภาพ สัญลกั ษณ์หรอื ข้อความ ซอฟตแ์ วร์
2. เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย 3.ซอฟต์แวร์ รวบรวม
โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรือส่ือ และ ประมวลผล และนำเสนอ
ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของ ขอ้ มูล
โปรแกรม
3. ใช้ซอฟต์แวร์ รวบรวม
ประมวลผล และนำเสนอข้อมูล
2 อนิ เทอรเ์ น็ตนา่ รู้ 1. ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ค้นหา 4. อนิ เทอร์เนต็ ค้นหา 12
ความรู้ ความรู้
2. ใช้เทคโนโลยี 5. เทคโนโลยีสารสนเทศ
สารสนเทศอย่างปลอดภัย อย่างปลอดภยั
ปฏิบตั ิ ตามข้อตกลงในการใช้
อนิ เทอรเ์ นต็
3 หน้าทขี่ องคอมพวิ เตอร์ 6. อธบิ ายเคร่อื งมอื ตา่ งๆ ใน 6.เครอ่ื งมอื ตา่ งๆ ใน 15
โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft
PowerPoint ได้ PowerPoint
7. ใชโ้ ปรแกรมนำเสนอข้อมูล 7.โปรแกรมนำเสนอ
สร้างช้ินงานไดอ้ ย่างเหมาะสม ขอ้ มูล สร้างช้ินงาน
สอบปลายภาคเรียน 1
รวม 40
คำอธิบายรายวชิ าเพิม่ เตมิ
รหัสวิชา ว 14201 รายวิชา คอมพิวเตอรเ์ สรมิ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแกป้ ญั หา การทำงาน การคาดการณ์ผลลพั ธ์จากปัญหาอย่างง่าย
ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื สอื่ และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและแก้ไข การใช้
อนิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ และประเมินความน่าเช่อื ถอื ของข้อมูล การรวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมลู และ
สารสนเทศโดยใชซ้ อฟต์แวร์ท่หี ลากหลาย เพ่อื แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวนั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปลอดภยั เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ทข่ี องตน การเคารพในสิทธขิ องผู้อื่น แจ้งผเู้ ก่ียวข้องเมื่อพบขอ้ มลู หรอื บุคคลท่ไี ม่
เหมาะสม
โดยใช้การค้นหาข้อมูลอย่างมีประสทิ ธิภาพและประเมนิ ความน่าเช่อื ถอื ตัดสนิ ใจเลือกขอ้ มูลใช้เหตุผล
เชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการทำงานร่วมกัน
เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมีความสนใจ มุ่งม่ันในสิง่ ท่ีจะเรียนรู้ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์เกยี่ วกบั เรือ่ งทจ่ี ะศึกษาตาม
ความสนใจของตนเอง แสดงความคดิ เหน็ ของตนเอง ยอมรบั ในข้อมลู ทม่ี ีหลกั ฐานอ้างอิงและรับฟังความคิดเหน็
ผู้อืน่ แสดงความรบั ผิดชอบดว้ ยการทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมายอย่างมุง่ มั่น รอบคอบ ประหยดั ซ่ือสัตย์ จนงาน
ลลุ ่วงเปน็ ผลสำเร็จ และทำงานร่วมกบั ผ้อู ืน่ อยา่ งสร้างสรรค์ ตระหนักในคณุ คา่
ผลการเรียนรู้
1. ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การอธบิ าย การทำงาน การคาดการณ์ผลลพั ธ์จากปัญหา อย่างง่าย
2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ ซอฟต์แวรห์ รอื สอื่ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด และแกไ้ ข
3. ใชอ้ ินเทอร์เนต็ ค้นหาความร้แู ละประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มลู
4. บอกประโยชน์และโทษจากการใชง้ านคอมพวิ เตอร์
5. ใช้ซอฟต์แวร์ท่หี ลากหลาย ในการรวบรวม ประเมิน นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ
6. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจ สิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้ง
ผูเ้ กี่ยวข้องเม่ือพบขอ้ มูลหรือบคุ คลที่ ไม่เหมาะสม
7. บอกชอื่ อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศ และหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้
8. สามารถบอกความหมายของโปรแกรมตารางคำนวณได้
9. สามารถป้อนขอ้ มลู ในโปรแกรมตารางคำนวณได้
รวมทัง้ หมด 9 ผลการเรียนรู้
โครงสร้างรายวชิ า
โครงสรา้ งรายวชิ า รหสั วชิ า ว 14201 รายวิชา คอมพวิ เตอร์เสรมิ 4
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
1. การแก้ปัญหา (ชั่วโมง) คะแนน
2 อนิ เตอรเ์ น็ตน่าสนใจ 1. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการ 1.เหตผุ ลเชิงตรรกะในการ 5
3 เทคโนโลยีสารสนเทศ
แกป้ ัญหา การอธบิ าย การ แกป้ ัญหา การอธบิ าย การ 5
4 โปรแกรมตาราง 15
คำนวณ ทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ ทำงาน การคาดการณ์
14
จากปญั หา อยา่ งงา่ ย ผลลัพธ์ 1
40
2. ออกแบบ และเขียน 2. ออกแบบ และเขียน
โปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ โปรแกรม
ซอฟตแ์ วร์หรือส่ือ และตรวจหา
ข้อผดิ พลาด และแก้ไข
3. ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู้ 3.อินเทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู้
และประเมนิ ความนา่ เช่ือถือ และประเมิน ความ
ของข้อมลู นา่ เชอื่ ถอื
4. บอกประโยชน์และโทษจาก 4.ประโยชน์และโทษจาก
การใชง้ านคอมพิวเตอร์ การใชง้ านคอมพวิ เตอร์
5. ใชซ้ อฟต์แวร์ทหี่ ลากหลาย 5.ซอฟตแ์ วร์ ในการ
ในการรวบรวม ประเมนิ รวบรวม
นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ 6. เทคโนโลยีสารสนเทศ
6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ อย่างปลอดภัย เข้าใจ สิทธิ
อย่างปลอดภยั เข้าใจ สิทธแิ ละ และหน้าทข่ี องตน เคารพใน
หน้าที่ของตน เคารพในสิทธิ สิทธิของผอู้ น่ื
ของผูอ้ น่ื แจ้งผเู้ ก่ยี วข้องเมือ่ พบ 7.ช่อื อปุ กรณเ์ ทคโนโลยี
ขอ้ มูลหรอื บุคคลท่ี ไมเ่ หมาะสม สารสนเทศ และหลกั การ
7. บอกชื่ออุปกรณเ์ ทคโนโลยี ทำงานของคอมพวิ เตอร์
สารสนเทศ และหลกั การทำงาน
ของคอมพิวเตอรไ์ ด้
8. สามารถบอกความหมาย 8. ความหมายของ
ของโปรแกรมตารางคำนวณได้ โปรแกรมตารางคำนวณ
9. สามารถป้อนขอ้ มูลใน 9.การป้อนขอ้ มลู ใน
โปรแกรมตารางคำนวณได้ โปรแกรมตารางคำนวณ
สอบปลายภาคเรยี น
รวม
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รหัสวชิ า ว 15201 รายวิชา คอมพวิ เตอร์เสรมิ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกติ
ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จาก
ปัญหาอย่างง่าย ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมกี ารใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะอย่างงา่ ย ตรวจหาข้อผิดพลาดและ
แกไ้ ข ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตค้นหาข้อมูล ตดิ ต่อส่ือสารและทำงานรว่ มกนั ประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถอื ของข้อมูลรวบรวม
ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย
เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน
เคารพในสิทธิของผูอ้ นื่ แจ้งผู้เก่ยี วขอ้ งเม่อื พบขอ้ มูลหรอื บุคคลที่ไมเ่ หมาะสม
โดยใชก้ ารค้นหาข้อมูลอยา่ งมีประสิทธิภาพและประเมนิ ความนา่ เชื่อถือ ตัดสินใจเลือกข้อมูล ใช้เหตุผลเชิง
ตรรกะในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการทำงานรว่ มกัน
เพื่อให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามท่ี
กำหนดให้หรือตามความสนใจ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น แสดงความ
รับผดิ ชอบด้วยการทำงานทไี่ ด้รบั มอบหมายอย่างม่งุ ม่ัน รอบคอบ ประหยดั ซอื่ สตั ย์ จนงานลุลว่ งเปน็ ผลสำเร็จ และ
ทำงานร่วมกบั ผอู้ ่นื อย่างมคี วามสขุ
ผลการเรียนรู้
1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การอธบิ าย การทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์จากปญั หา อยา่ งง่าย
2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมท่มี ีการใช้เหตผุ ล เชงิ ตรรกะอยา่ งง่าย ตรวจหาข้อผดิ พลาด และแก้ไข
3. ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ คน้ หาขอ้ มลู ติดต่อส่ือสาร และทำงานร่วมกัน ประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถอื ของข้อมูล
4. ใช้ซอฟต์แวร์บรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ท่ีหลากหลาย และโปรแกรมตารางทำงาน ในการรวบรวม ประเมนิ
นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์ เพอื่ แกไ้ ขปัญหาในชีวิตประจำวนั
5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มมี ารยาท เข้าใจสิทธิและหนา้ ท่ีของตน เคารพในสิทธิของ ผอู้ น่ื
แจง้ ผู้เก่ียวข้องเม่อื พบข้อมูลหรือบุคคล ท่ีไมเ่ หมาะสม
6. ใช้โปรแกรมตารางทำงานนำเสนอข้อมูลทเี่ หมาะสม
7. ขนั้ ตอนการใช้ฟังกช์ น่ั และใชส้ ูตรในการคำนวณได้
รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรียนรู้
โครงสร้างรายวชิ า
โครงสรา้ งรายวิชา รหสั วิชา ว 15201 รายวิชา คอมพวิ เตอร์เสรมิ 5
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกิต
ท่ี ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
1. การแกป้ ัญหา (ช่วั โมง) คะแนน
1. ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการ 1.เหตผุ ลเชิงตรรกะในการ 14
2 อนิ เตอร์เน็ตน่าสนใจ แก้ปัญหา การอธิบาย การ แก้ปญั หา การอธิบาย การ
ทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ ทำงาน การคาดการณ์
3 โปรแกรมตาราง จากปัญหา อย่างง่าย ผลลพั ธ์
คำนวณ 2. ออกแบบ และเขียน 2.การออกแบบ และเขียน
โปรแกรมที่มกี ารใชเ้ หตุผล เชิง โปรแกรมทม่ี กี ารใช้เหตุผล
ตรรกะอยา่ งงา่ ย ตรวจหา เชงิ ตรรกะ
ข้อผิดพลาด และแกไ้ ข
3. ใช้อินเทอร์เนต็ ค้นหาข้อมูล 3.อินเทอร์เนต็ ค้นหาข้อมูล 15
ติดต่อส่ือสาร และทำงาน ตดิ ตอ่ สื่อสาร และทำงาน
รว่ มกัน ประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถอื ร่วมกัน
ของข้อมูล 4.ซอฟต์แวร์บรกิ ารบน
4. ใช้ซอฟตแ์ วร์บรกิ ารบน อินเทอรเ์ นต็ และโปรแกรม
อนิ เทอร์เนต็ ที่หลากหลาย และ ตารางทำงาน ประเมิน
โปรแกรมตารางทำงาน ในการ นำเสนอข้อมลู และ
รวบรวม ประเมนิ นำเสนอ สารสนเทศ
ขอ้ มูลและสารสนเทศ ตาม 5.เทคโนโลยีสารสนเทศ
วตั ถุประสงค์ เพ่ือแก้ไขปัญหา อยา่ งปลอดภัย มมี ารยาท
ในชวี ติ ประจำวนั เขา้ ใจสทิ ธิและหนา้ ทข่ี องตน
5. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เคารพในสิทธขิ อง ผู้อ่ืน
อย่างปลอดภยั มมี ารยาท
เขา้ ใจสิทธแิ ละหนา้ ท่ีของตน
เคารพในสทิ ธิของ ผู้อื่น แจ้ง
ผู้เกี่ยวขอ้ งเมอ่ื พบข้อมลู หรือ
บคุ คล ท่ไี ม่เหมาะสม
6. ใช้โปรแกรมตารางทำงาน 6.โปรแกรมตารางทำงาน 15
นำเสนอข้อมลู ทเ่ี หมาะสม นำเสนอข้อมูล
7. ขน้ั ตอนการใช้ฟังกช์ ่นั และ 7.การใชฟ้ ังกช์ น่ั และใชส้ ูตร
ใช้สูตรในการคำนวณได้ ในการคำนวณ
สอบปลายภาคเรียน 1
รวม 40
คำอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เตมิ
รหสั วชิ า ว 16201 รายวิชา คอมพิวเตอร์เสริม 6 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ศึกษาการใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหาทพ่ี บในชวี ิตประจำวัน
ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่ายและตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรมใช้อินเทอร์เนต็ ในการค้นหาขอ้ มูล
อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกนั อย่างปลอดภัย เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ทีข่ องตน
เคารพในสิทธขิ องผอู้ นื่ แจ้งผู้เกี่ยวขอ้ งเมอ่ื พบข้อมูลหรือบคุ คลท่ไี มเ่ หมาะสม
โดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ หรอื เงอ่ื นไขทีค่ รอบคลมุ ทุกกรณี มาใช้พิจารณาในการ
แกป้ ัญหา ใช้แนวคดิ ของการทำงานแบบวนซ้ำ ใชเ้ ทคนิคการค้นหาขน้ั สงู ในการคน้ หาข้อมูลท่ีรวดเรว็ จาก
แหล่งขอ้ มูลท่นี า่ เช่อื ถือ การกำหนดรหัสผ่าน กำหนดสิทธกิ์ ารใช้งาน แนวทางการตรวจสอบและปอ้ งกนั มัลแวร์
และใช้ซอฟต์แวรป์ ระยุกตใ์ นการนำเสนอขอ้ มูลได้อย่างเหมาะสม
เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมีความกระตอื รือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรคเ์ กยี่ วกบั เรื่องทีจ่ ะศกึ ษา
ตามทีก่ ำหนดใหห้ รอื ตามความสนใจ มีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเห็นและยอมรับฟังความคิดเหน็ ผอู้ ่นื แสดง
ความรบั ผิดชอบดว้ ยการทำงานท่ไี ดร้ บั มอบหมายอย่างม่งุ มนั่ รอบคอบ ประหยัด ซ่ือสตั ย์จนงานลลุ ว่ งเป็น
ผลสำเร็จ และทำงานร่วมกนั กับผู้อน่ื อย่างมคี วามสุข
ผลการเรียนรู้
1. ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบ วธิ กี ารแกป้ ัญหาท่พี บในชีวติ ประจำวนั
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย เพื่อ แก้ปัญหาในชวี ติ ประจำวนั ตรวจหาข้อผิดพลาด ของโปรแกรม
และแก้ไข
3. ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาขอ้ มูลอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ
4. บอกวิธกี ารใชค้ อมพวิ เตอร์ในการคน้ หาขอ้ มูล
5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานร่วมกนั อย่าง ปลอดภยั เข้าใจสทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องตน เคารพ ในสิทธขิ องผู้อน่ื
แจง้ ผ้เู กีย่ วขอ้ งเมือ่ พบข้อมลู หรือบุคคลทไี่ ม่เหมาะสม
6. นำเสนอข้อมูลในรปู แบบทีเ่ หมาะสมโดยเลือกใชซ้ อฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์
รวมทง้ั หมด 6 ผลการเรียนรู้
โครงสรา้ งรายวชิ า
โครงสร้างรายวิชา รหสั วชิ า ว 16201 รายวิชา คอมพวิ เตอรเ์ สรมิ 6
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต
ท่ี ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
(ชวั่ โมง) คะแนน
1. การแกป้ ญั หา 1. ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการ 1.เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ การ 5
อธิบายและออกแบบ วธิ ีการ อธิบายและออกแบบ วธิ กี าร
แก้ปญั หาท่ีพบในชวี ิตประจำวนั แก้ปญั หา
2. ออกแบบและเขียน
โปรแกรมอยา่ งง่าย เพ่ือ 2.การออกแบบและเขยี น
แก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั โปรแกรมอยา่ งง่าย
ตรวจหาข้อผิดพลาด ของ
โปรแกรมและแกไ้ ข
2 อินเตอร์เนต็ น่ารู้ 3. ใช้อนิ เทอร์เน็ตในการค้นหา 4.อินเทอร์เนต็ ในการค้นหา 10
ข้อมูลอย่างมี ประสิทธภิ าพ ขอ้ มลู 5
3 ความปลอดภยั ของ 4. บอกวธิ กี ารใช้คอมพิวเตอร์
เทคโนโลยี 5.วิธกี ารใชค้ อมพิวเตอร์ใน
ในการค้นหาข้อมูล การค้นหาขอ้ มลู
5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 5.เทคโนโลยีสารสนเทศการ
ทำงานรว่ มกันอยา่ ง ปลอดภัย ทำงานร่วมกนั อยา่ ง
ปลอดภยั เข้าใจสิทธแิ ละ
เข้าใจสิทธิและหน้าทขี่ องตน หน้าที่ของตน
เคารพ ในสิทธขิ องผู้อื่น แจ้ง
ผ้เู ก่ยี วขอ้ งเม่ือพบข้อมูล หรอื
บุคคลทีไ่ ม่เหมาะสม
4. การนำเสนอข้อมลู 6. นำเสนอขอ้ มูลในรปู แบบที่ 6.การนำเสนอข้อมูลใน 14
เหมาะสมโดยเลือกใช้ซอฟต์แวร์ รูปแบบท่ีเหมาะสมโดย 1
ประยุกต์ 40
เลอื กใชซ้ อฟต์แวรป์ ระยุกต์
สอบปลายภาคเรยี น
รวม
คำอธิบายรายวิชาเพิม่ เตมิ
รหัสวชิ า ว ๒1๒02 รายวิชาคอมพิวเตอรเ์ สรมิ 1 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ
ศึกษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชวี ิตประจำวนั สาเหตหุ รือปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อการเปล่ียนแปลงของ
เทคโนโลยี ปัญหาหรอื ความต้องการในชีวติ ประจำวนั แนวคิดทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ปัญหา วิธีการแกป้ ัญหาและการ
วางแผนดำเนนิ การแก้ปัญหา พรอ้ มทง้ั หาแนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข การมีความรเู้ กย่ี วกับวัสดอุ ุปกรณ์
เครอื่ งมือ กลไก ไฟฟา้ หรืออเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ พ่ือแก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั
การออกแบบอัลกอริทมึ ที่ใชแ้ นวคดิ เชิงนามธรรมเพอ่ื แก้ปญั หาหรือการทำงานทพี่ บในชีวิตจริง การ
ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์หรอื วิทยาศาสตร์ การใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือ
บริการบนอินเทอร์เนต็ ท่หี ลากหลายในการรวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอขอ้ มลู สารสนเทศ
และใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ใชส้ ่ือและแหล่งขอ้ มูลตามข้อกำหนดและข้อตกลงโดยใช้การ
วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสนิ ใจเพอ่ื เลอื กใชเ้ ทคโนโลยี โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชวี ติ สังคม และ
สง่ิ แวดลอ้ ม ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ ทกั ษะ และทรัพยากรเพอื่ ออกแบบและสรา้ งผลงานหรับการแกป้ ญั หาใน
ชวี ิตประจำวันหรือการประกอบอาชีพ โดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม รวมทัง้ เลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์
และเครอื่ งมือได้อย่างถกู ต้อง เหมาะสม ปลอดภยั รวมทัง้ คำนึงถงึ ทรพั ย์สนิ ทางปัญญา
เพ่ือใหผ้ เู้ รียนตระหนักในคณุ คา่ ของความรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ี่ใช้ในชวี ิตประจำวันใชค้ วามรู้
และกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการดำรงชวี ติ และการประกอบอาชพี แสดงความช่นื ชม
ยกย่อง และเคารพสิทธใิ นผลงานของผ้คู ดิ คน้ เขา้ ใจผลกระทบทงั้ ดา้ นบวกและดา้ นลบของการพฒั นาทาง
วิทยาศาสตรต์ ่อส่ิงแวดลอ้ มและตอ่ บริบทอ่นื ๆ และศึกษาหาความร้เู พมิ่ เติม ทำโครงงานหรอื สร้างชิ้นงานตาม
ความสนใจ
ผลการเรียนรู้
1. อธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชีวติ ประจำวัน และวิเคราะห์สาเหตหุ รอื ปจั จัยท่ีส่งผลต่อ การ
เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี
2. ระบุปญั หาหรอื ความต้องการในชีวติ ประจำวัน รวบรวม วเิ คราะห์ขอ้ มูลและแนวคดิ ที่เกี่ยวขอ้ ง กับปัญหา
3. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา โดยวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ และตัดสนิ ใจเลือกขอ้ มลู ท่ีจำเป็น นำเสนอแนวทาง
การแก้ปัญหาใหผ้ ้อู ่ืนเข้าใจ วางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหา
4. ทดสอบ ประเมินผล และระบขุ ้อบกพรอ่ ง ท่เี กิดขน้ึ พรอ้ มทง้ั หาแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข และนำเสนอผล
การแก้ปัญหา
5. อธิบายความหมายของโปรแกรม Scratch ได้
6. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ยด้วยโปรแกรม scratch ได้
7.บอกส่วนประกอบพ้ืนฐานของโปรแกรม แต่ละสว่ นได้อย่างถูกตอ้ ง
8. สร้างและใชต้ วั แปรในการเขียนสคริปตไ์ ด้
รวมทงั้ หมด 8 ผลการเรียนรู้
โครงสรา้ งรายวิชา
โครงสรา้ งรายวชิ า รหัสวชิ า ว ๒1๒02 รายวชิ าคอมพิวเตอรเ์ สรมิ 1
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ
ท่ี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
(ช่ัวโมง) คะแนน
1. เทคโนโลยใี น 1. อธบิ ายแนวคิดหลกั ของ 1.แนวคิดหลกั ของ 5
ชวี ิตประจำวนั เทคโนโลยใี นชีวิตประจำวนั และ เทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวนั
วเิ คราะห์สาเหตหุ รอื ปจั จยั ท่ีสง่ ผล และวิเคราะห์สาเหตุปัจจยั ท่ี
ตอ่ การเปลี่ยนแปลงของ ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลง
เทคโนโลยี ของเทคโนโลยี
2. ระบปุ ญั หาหรอื ความต้องการ 2.ปญั หาหรอื ความต้องการ
ในชวี ติ ประจำวัน รวบรวม ในชวี ิตประจำวนั รวบรวม
วเิ คราะห์ข้อมลู และแนวคดิ ที่ วิเคราะห์ขอ้ มูล
เกีย่ วข้อง กับปญั หา 3.วธิ ีการแกป้ ัญหา โดย
3. ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา โดย วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ และ
วเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ และ ตดั สินใจเลือกขอ้ มูลทจ่ี ำเปน็
ตัดสนิ ใจเลือกข้อมูลท่ีจำเป็น นำเสนอแนวทางการ
นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ แกป้ ญั หา
ผู้อื่นเขา้ ใจ วางแผนและ
ดำเนินการแก้ปญั หา
2 การแกป้ ัญหา 4. ทดสอบ ประเมินผล และระบุ 4. การทดสอบ ประเมินผล 4
ข้อบกพรอ่ ง ที่เกิดขนึ้ พร้อมท้งั และระบุข้อบกพรอ่ ง แนว
หาแนวทางการปรับปรงุ แก้ไข ทางการปรับปรุงแก้ไข และ
และนำเสนอผลการแก้ปัญหา นำเสนอผลการแก้ปัญหา
3 โปรแกรม Scratch 5. อธิบายความหมายของ 5.ความหมายของโปรแกรม 10
โปรแกรม Scratch ได้ Scratch
6. ออกแบบและเขยี นโปรแกรม 6.ออกแบบและเขยี น
อย่างงา่ ยดว้ ยโปรแกรม scratch โปรแกรม Scratch
ได้ 7.สว่ นประกอบพื้นฐานของ
7.บอกส่วนประกอบพ้ืนฐานของ โปรแกรม
โปรแกรม แต่ละสว่ นไดอ้ ยา่ ง 8.การสรา้ งและใชต้ วั แปรใน
ถกู ต้อง การเขยี นสครปิ ต์
8. สร้างและใชต้ ัวแปรในการ
เขยี นสคริปต์ได้
สอบปลายภาคเรียน 1
รวม 20
คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ
รหสั วิชา ว ๒1๒04 รายวิชาคอมพิวเตอรเ์ สริม 2 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต
ศึกษาการออกแบบอัลกอรทิ ึมที่ใช้แนวคดิ เชิงนามธรรมเพอื่ แกป้ ญั หาหรอื อธิบายการทำงานท่ีพบใน
ชีวติ จรงิ การออกแบบและเขยี นโปรแกรมทมี่ ีการใช้ตัวแปร เงื่อนไข วนซ้ำ การออกแบบอลั กอรทิ มึ เพ่ือ
แกป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์อยา่ งง่าย การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ซอฟต์แวร์ Scratch, python,
java และ c เปน็ ต้น ศึกษาการรวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มลู ปฐมภมู ิ ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล
ตลอดจนใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั การจัดการอตั ลักษณ์ การพิจารณาความเหมาะสมของเน้อื หา
ใชส้ ่ือและแหล่งข้อมลู ตามข้อกำหนดและขอ้ ตกลงได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
โดยอาศัยกระบวนการเรยี นรูโ้ ดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem – based Learning) และการเรียนรู้
แบบใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน (Project-based Learning) เพอื่ เน้นใหผ้ ู้เรียนไดล้ งมือปฏบิ ัติ ฝึกทกั ษะการคดิ
เผชิญสถานการณ์การแกป้ ัญหาวางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และนำเสนอผ่านการทำกิจกรรม
โครงงาน เพอื่ ใหเ้ กิดทกั ษะ ความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะในการวเิ คราะห์โจทย์ปญั หา จนสามารถนำเอา
แนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกตใ์ ชใ้ นการสรา้ งโครงงานได้
เพอื่ ให้ผู้เรยี นมคี วามร้คู วามเขา้ ใจ การนำขอ้ มูลปฐมภมู เิ ข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วเิ คราะห์ ประเมิน
นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ไดต้ ามวัตถุประสงค์ ใช้ทักษะการคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชวี ิต
จริง และเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย เพื่อช่วยในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารอยา่ งร้เู ท่า
ทนั และรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ตลอดจนนำความรคู้ วามเขา้ ใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยไี ปใช้ให้เกิด
ประโยชนต์ อ่ สงั คม และการดำรงชีวติ จนสามารถพฒั นากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการ
แกป้ ัญหาและการจัดการทกั ษะในการสอ่ื สาร และความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผู้ท่ีมีจติ วทิ ยาศาสตร์
มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์
ผลการเรียนรู้
1. ออกแบบอัลกอริทมึ ท่ีใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรม เพื่อแก้ปญั หาหรอื อธบิ ายการทำงานทีพ่ บใน ชวี ิตจรงิ
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์
3. รวบรวมขอ้ มูลปฐมภมู ิประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้
ซอฟตแ์ วร์หรือบริการบนอนิ เทอร์เน็ต ทีห่ ลากหลาย
4. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ใช้สอ่ื และแหล่งขอ้ มลู ตามข้อกำหนดและขอ้ ตกลง
5. ร้แู ละเข้าใจความหมายและลกั ษณะสำคัญของโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
6. วิเคราะหล์ ักษณะสำคัญของภาษาไพทอนกับภาษาโปรแกรมอน่ื ๆ ได้
7. รู้และเขา้ ใจพนื้ ฐานการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอน
8. เขยี นโปรแกรมอย่างง่ายด้วยภาษาไพทอนได้
รวมทั้งหมด ๘ ผลการเรียนรู้
โครงสรา้ งรายวชิ า
โครงสร้างรายวชิ า รหสั วชิ า ว ๒1๒04 รายวชิ าคอมพิวเตอร์เสรมิ 2
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรยี น ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต
ท่ี ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
(ชัว่ โมง) คะแนน
1. การออกแบบ 1. ออกแบบอลั กอริทึมท่ีใช้ 1.อัลกอรทิ มึ ที่ใช้แนวคิดเชิง 5
อลั กอรทิ มึ แนวคดิ เชิงนามธรรม เพื่อ นามธรรม และการทำงานท่ี
แก้ปญั หาหรืออธบิ ายการทำงาน พบใน ชวี ิตจริง
ทพ่ี บใน ชวี ิตจริง 2.ออกแบบและเขยี น
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรม โปรแกรมอยา่ งง่ายเพอ่ื
อย่างงา่ ยเพื่อแกป้ ัญหาทาง แก้ปญั หา
คณติ ศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์
2 ขอ้ มูลปฐมภูมิ 3. รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ 3.ข้อมูลปฐมภมู ิประมวลผล 4
3 ภาษาไพทอน ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอ ประเมินผล นำเสนอขอ้ มูล 10
ข้อมูล และสารสนเทศตาม และสารสนเทศ
วตั ถุประสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ 4.เทคโนโลยสี ารสนเทศ
อยา่ งปลอดภัย การใช้ส่อื
หรอื บรกิ ารบนอินเทอร์เน็ต ที่ และแหล่งขอ้ มลู
หลากหลาย
4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง 5.ความหมายและลกั ษณะ
ปลอดภัย ใชส้ ่ือ และแหลง่ ขอ้ มูล สำคญั ของโปรแกรม
ตามขอ้ กำหนดและขอ้ ตกลง คอมพวิ เตอร์
5. รแู้ ละเข้าใจความหมายและ
ลักษณะสำคัญของโปรแกรม 6.ลักษณะสำคัญของภาษา
คอมพวิ เตอร์ ไพทอนกับภาษาโปรแกรม
อ่ืนๆ
6. วิเคราะหล์ ักษณะสำคญั ของ 7. พ้นื ฐานการเขียน
ภาษาไพทอนกับภาษาโปรแกรม โปรแกรมด้วยภาษาไพทอน
อื่นๆ ได้ 8.โปรแกรมอยา่ งง่ายดว้ ย
7. รแู้ ละเขา้ ใจพ้ืนฐานการเขียน ภาษาไพทอน
โปรแกรมด้วยภาษาไพทอน
8. เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยด้วย
ภาษาไพทอนได้
สอบปลายภาคเรียน 1
รวม 20
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม
รหสั วชิ า ว ๒2๒02 รายวิชาคอมพวิ เตอร์เสริม 3 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษาแนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อช่วย
แก้ปัญหา รู้จักองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสาร ใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความรบั ผดิ ชอบในการสร้างและแสดงสทิ ธใิ นการเผยแพรผ่ ลงานโดยใช้
กระบวนการแจกแจง การคิดหารูปแบบ การคดิ เชงิ นามธรรม การออกแบบข้ันตอนวิธี เพื่อให้การแก้ปัญหา
มีประสิทธิภาพ ประยุกต์ใชง้ านเทคโนโลยีการส่อื สารเพ่ือแก้ปญั หาเบ้ืองตน้ มคี วามรูพ้ ื้นฐานภาษาไพธอนซึ่ง
เป็นภาษาที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากนักพัฒนาโปรแกรมทั่วโลก ส่งผลให้ภาษาไพธอนมีความสามารถสูง
และรองรับงานดา้ นตา่ งๆ ไดม้ ากมาย อาทิเช่น ระบบฐานข้อมลู เกม แอพพลเิ คชัน เว็บแอพพลเิ คชัน
ผู้เรียนสามารถเลือกใช้แนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ผู้เรียน
ตระหนกั ในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีใช้ในชีวิตประจำวันใช้ความรู้และกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต และการประกอบอาชพี แสดงความชน่ื ชม ยกย่อง และเคารพสิทธิ
ในผลงานของผู้คดิ ค้น เขา้ ใจผลกระทบทงั้ ด้านบวกและด้านลบของการพฒั นาทางวิทยาศาสตร์ต่อส่ิงแวดล้อม
และต่อบรบิ ทอน่ื ๆ และศกึ ษาหาความรเู้ พม่ิ เติม ทำโครงงานหรือสร้างช้นิ งานตามความสนใจ
ผลการเรยี นรู้
1. คาดการณแ์ นวโน้มเทคโนโลยที ่ีจะเกิดข้ึน โดยพจิ ารณาจากสาเหตหุ รอื ปจั จัยท่ีส่งผลตอ่ การเปลี่ยนแปลง
ของเทคโนโลยีและวิเคราะห์ เปรียบเทยี บ ตัดสนิ ใจเลือกใชเ้ ทคโนโลยี โดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ีเกิดขนึ้ ต่อชวี ิต
สังคม และส่งิ แวดล้อม
2. ระบุปญั หาหรือความตอ้ งการในชมุ ชนหรือ ท้องถิ่น สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ ข้อมลู และ
แนวคดิ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับปญั หา
3. ออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หา โดยวิเคราะห์ เปรยี บเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลทีจ่ ำเป็น ภายใต้เง่ือนไขและ
ทรพั ยากรทม่ี ีอยู่ นำเสนอ แนวทางการแก้ปัญหาให้ผ้อู น่ื เข้าใจ วางแผน ขนั้ ตอนการทำงานและดำเนนิ การ
แกป้ ัญหา อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอน
4. ทดสอบ ประเมินผล และอธบิ ายปัญหาหรือ ข้อบกพร่องทเ่ี กดิ ขนึ้ ภายใตก้ รอบเงอื่ นไข พรอ้ มทง้ั หาแนว
ทางการปรบั ปรุงแก้ไข และ นำเสนอผลการแก้ปัญหา
5. เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยดว้ ยภาษาไพทอนได้
6. มีความเขา้ ใจเกยี่ วกบั คำส่ังเลือกทำและคำสง่ั วนซำ้ ในภาษาไพทอน
7. เขียนโปรแกรมทมี่ ีการตดั สินใจและทำซ้ำได้
8. เขียนโปรแกรมโดยใช้ฟงั ก์ชันได้
รวมท้งั หมด 8 ผลการเรียนรู้
โครงสร้างรายวชิ า
โครงสรา้ งรายวชิ า รหสั วชิ า ว ๒2๒02 รายวิชาคอมพวิ เตอร์เสริม 3
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรยี น ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
ท่ี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
(ชว่ั โมง) คะแนน
1. แนวโน้มเทคโนโลยี 1. คาดการณแ์ นวโน้มเทคโนโลยี 1.แนวโนม้ เทคโนโลยีทีจ่ ะ 4
ทจ่ี ะเกิดขึน้ โดยพิจารณาจาก เกิดขนึ้ การเปลย่ี นแปลง
สาเหตุหรือปัจจัยทส่ี ง่ ผลตอ่ การ ของเทคโนโลยีและวิเคราะห์
เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยแี ละ เปรียบเทยี บ ตัดสินใจ
วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ ตัดสินใจ เลอื กใช้เทคโนโลยี
เลอื กใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึง 2. ปญั หาหรอื ความต้องการ
ผลกระทบทเี่ กิดข้ึนตอ่ ชวี ิต สงั คม ในชมุ ชนหรอื ท้องถิน่
และส่ิงแวดล้อม ปัญหา รวบรวม วเิ คราะห์
2. ระบุปญั หาหรือความต้องการ ขอ้ มูลและแนวคิดที่
ในชุมชนหรือ ทอ้ งถิ่น สรุปกรอบ เก่ียวข้องกับปัญหา
ของปัญหา รวบรวม วเิ คราะห์
ข้อมูลและแนวคดิ ที่เกีย่ วข้องกับ
ปญั หา
2 ออกแบบวธิ กี าร 3. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา โดย 3. วธิ ีการแก้ปญั หา โดย 5
แกป้ ญั หา
วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ และ วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ และ
ตัดสนิ ใจเลือกข้อมูลทจี่ ำเปน็ ตัดสนิ ใจเลือกข้อมูลทจี่ ำเปน็
ภายใตเ้ ง่ือนไขและทรัพยากรทมี่ ี ภายใต้เง่ือนไข ขน้ั ตอนการ
อยู่ นำเสนอ แนวทางการ ทำงานและดำเนนิ การ
แกป้ ญั หาให้ผอู้ น่ื เข้าใจ วางแผน แกป้ ญั หา อย่างเป็นข้นั ตอน
ขนั้ ตอนการทำงานและ 4. การทดสอบ ประเมินผล
ดำเนินการแก้ปญั หา อย่างเปน็ และอธิบายปัญหาหรือ
ขนั้ ตอน ข้อบกพร่อง การปรับปรงุ
4. ทดสอบ ประเมินผล และ แกไ้ ข และ นำเสนอผลการ
อธิบายปญั หาหรอื ข้อบกพร่องที่ แก้ปัญหา
เกิดข้นึ ภายใตก้ รอบเง่ือนไข
พรอ้ มทัง้ หาแนวทางการปรับปรงุ
แก้ไข และ นำเสนอผลการ
แกป้ ญั หา
ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก
(ช่วั โมง) คะแนน
3 เขียนโปรแกรมภาษา 5. เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายด้วย 5.โปรแกรมอยา่ งงา่ ยด้วย 10
ไพทอน ภาษาไพทอนได้
6. มีความเขา้ ใจเก่ยี วกบั คำสง่ั ภาษาไพทอน
เลือกทำและคำสั่งวนซำ้ ในภาษา
ไพทอน 6.คำส่งั เลอื กทำและคำสั่ง
7. เขยี นโปรแกรมทม่ี ีการ
ตัดสินใจและทำซ้ำได้ วนซำ้ ในภาษาไพทอน
8. เขยี นโปรแกรมโดยใชฟ้ งั ก์ชัน
ได้ 7.โปรแกรมท่มี กี ารตัดสินใจ
สอบปลายภาคเรียน และทำซ้ำ
รวม 8.โปรแกรมโดยใชฟ้ ังกช์ ัน
1
20
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ
รหสั วิชา ว ๒2๒04 รายวิชาคอมพิวเตอร์เสรมิ 4 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
อธบิ ายแนวคิดเชิงคำนวณ การแกป้ ัญหาโดยใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ การเขยี นโปรแกรมทม่ี ีการใช้
ตรรกะและ ฟังกช์ นั องคป์ ระกอบและหลกั การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีส่ือสาร แนวทางการ
ปฏบิ ัตเิ มื่อพบเนื้อหา ท่ไี ม่เหมาะสม การออกแบบกราฟิค และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมคี วาม
รับผดิ ชอบ วธิ ีการสร้างและกำหนดสิทธิความเปน็ เจ้าของผลงาน
โดยนำความรแู้ นวคดิ เชิงคำนวณไปประยกุ ตใ์ ช้ในการเขยี นโปรแกรมหรอื การแก้ปญั หาในชีวิตจรงิ
สรา้ งและกำหนดสทิ ธิ์ การใช้ข้อมูล ตระหนักถงึ ผลกระทบในการเผยแพรข่ ้อมลู
เพอ่ื ใหเ้ กิดคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สามารถทำงานอย่างมีระเบียบ รอบคอบ รับผดิ ชอบ มคี วาม
เชอื่ มนั่ ในตนเอง มีความซ่อื สัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ในการทำงาน สมรรถนะสำคัญ ความสามารถในการ
ส่อื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี วิสัยทัศน์ น้อมนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ผลการเรียนรู้
1. ออกแบบอัลกอริทึมที่ใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณ ในการแก้ปญั หา หรอื การทำงานทพ่ี บในชีวิตจริง
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมทใี่ ชต้ รรกะ และฟังก์ชนั ในการแก้ปัญหา
3. อภิปรายองคป์ ระกอบและหลกั การทำงานของ ระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการส่ือสาร เพ่ือ
ประยกุ ต์ใชง้ านหรอื แกป้ ัญหาเบ้ืองตน้
4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความ รับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิในการเผยแพร่ ผลงาน
5. บอกประโยชน์ของคอมพิวเตอรก์ ราฟิกกับการประยกุ ตใ์ ชง้ านด้านต่างๆได้
6. สรา้ งผลงานจากโปแกรม Adobe Photoshop ได้ด้วยความประณตี รอบคอบและปลอดภยั ตระหนกั ถึง
คุณภาพของงาน และมจี รยิ ธรรมในการออกแบบ
รวมท้งั หมด 6 ผลการเรยี นรู้
โครงสรา้ งรายวชิ า
โครงสร้างรายวชิ า รหัสวชิ า ว ๒2๒04 รายวิชาคอมพวิ เตอรเ์ สรมิ 4
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรยี น ๒๐ ชัว่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
ท่ี ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
(ช่วั โมง) คะแนน
1. ออกแบบอัลกอริทมึ 1. ออกแบบอัลกอรทิ มึ ที่ใช้ 1.อัลกอรทิ มึ เชงิ คำนวณ 5
แนวคดิ เชิงคำนวณ ในการ การแกป้ ญั หา หรอื การ
แก้ปญั หา หรือการทำงานทพ่ี บใน ทำงาน
ชวี ิตจรงิ 2.โปรแกรมทใี่ ชต้ รรกะ และ
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ ฟงั ก์ชันในการแกป้ ญั หา
ใชต้ รรกะ และฟังก์ชนั ในการ
แกป้ ัญหา
2 ความปลอดภยั ของ 3. อภิปรายองคป์ ระกอบและ 3. องค์ประกอบและ 4
เทคโนโลยี หลกั การทำงานของระบบ หลกั การทำงานของ ระบบ
คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีการ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
สอื่ สาร เพอ่ื ประยุกตใ์ ช้งานหรือ การส่ือสาร ประยกุ ต์ใชง้ าน
แกป้ ญั หาเบ้ืองตน้ หรอื แกป้ ัญหาเบอ้ื งต้น
4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง 4.เทคโนโลยสี ารสนเทศ
ปลอดภัย มีความ รับผิดชอบ อย่างปลอดภัย มีความ
สร้างและแสดงสิทธิในการ รบั ผิดชอบ สร้างและแสดง
เผยแพร่ ผลงาน สิทธิในการเผยแพร่ ผลงาน
5. บอกประโยชนข์ อง 5.ประโยชนข์ อง
คอมพวิ เตอร์กราฟิกกบั การ คอมพวิ เตอร์กราฟกิ กบั การ
ประยกุ ตใ์ ชง้ านดา้ นต่างๆได้ ประยกุ ตใ์ ชง้ านด้านตา่ งๆ
3 โปแกรม Adobe 6. สร้างผลงานจากโปแกรม 6. ผลงานจากโปแกรม 10
Photoshop Adobe Photoshop ไดด้ ว้ ย Adobe Photoshop
ความประณีต รอบคอบและ คุณภาพของงาน และมี
ปลอดภัย ตระหนกั ถงึ คณุ ภาพ จรยิ ธรรมในการออกแบบ
ของงาน และมจี ริยธรรมในการ
ออกแบบ
สอบปลายภาคเรียน 1
รวม 20
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รหสั วิชา ว ๒3๒02 รายวิชาคอมพวิ เตอรเ์ สริม 5 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
ศกึ ษาและวเิ คราะหส์ าเหตหุ รอื ปัจจัยที่สง่ ผลต่อการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี และความสมั พันธ์ของ
เทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน ระบุปญั หาหรือความตอ้ งการของชุมชนหรือทอ้ งถนิ่ เพื่อพัฒนาอาชีพ สรุปกรอบของ
ปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา ออกแบบวิธีแก้ปัญหา ทดสอบ วิเคราะห์
และใหเ้ หตผุ ลของปญั หาหรอื ขอ้ บกพรอ่ งท่ีเกิดข้นึ ภายใต้กรอบเง่ือนไข พร้อมทง้ั หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข
และนำเสนอผลการแก้ปญั หา
มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ การใช้งานโปรแกรม Web Editor เช่น
Dreamweaver 8 เป็นต้น การสรา้ งและจัดการข้อความ การใช้และจดั การภาพกราฟกิ การสรา้ ง ตาราง การ
เชื่อมโยง การจัดการเฟรม การสร้างเลเยอร์ การสร้างฟอร์ม การสร้างมัลติมิเดีย การตกแต่ง เว็บเพจ ด้วย
Timeline และ Behaviors และการอัพโหลดเว็บไซต์เข้าสู่อินเตอร์เน็ต อธิบายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ
เก่ยี วกับการสร้างเว็บไซต์ การใชง้ านโปรแกรม Web Editor เชน่ Dreamweaver 8 เป็นต้น ปฏิบัติทักษะ
การสรา้ งและจดั การขอ้ ความ การใช้และจัดการ ภาพกราฟกิ การสร้างตาราง การเชอื่ มโยง การจัดการเฟรม
การสร้างเลเยอร์ การสร้างฟอรม์ การ สร้างมัลติมเิ ดีย การตกแต่งเวบ็ เพจ ด้วย Timeline และ Behaviors
และการอัพโหลดเวบ็ ไซต์เข้าสู่ อินเทอร์เน็ต และสร้างสรรคพ์ ฒั นาชิน้ งานด้านเวบ็ ไซต์ไดอ้ ย่างน้อย 1 ช้ินงาน
กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสร้างความตระหนัก
กระบวนการสร้างความรคู้ วามเขา้ ใจ การใหเ้ หตุผลอิงหลักการ และกระบวนการสรา้ งทักษะการฝึกปฏิบัติ ผ่าน
กระบวนการเรยี นรตู้ ามแนวคดิ Active Learning
เพ่ือให้เหน็ คุณค่าของการทำงานเกยี่ วกับเว็บไซต์ สามารถนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ใน ชีวิตประจำวัน
และประยุกต์ใช้กับวิชาอื่น ๆ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมในการทำงาน เกี่ยวกับงานด้าน
เว็บไซต์ และอินเทอร์เนต็
ผลการเรยี นรู้
1. วเิ คราะหส์ าเหตุ หรือปัจจัยท่ีส่งผลต่อการ เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีและความสัมพนั ธ์ ของเทคโนโลยกี บั
ศาสตร์อน่ื โดยเฉพาะ วทิ ยาศาสตร์หรือคณิตศาสตรเ์ พอื่ เป็นแนวทาง การแกป้ ญั หาหรือพัฒนางาน
2. ระบปุ ัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรอื ท้องถิ่น เพื่อพฒั นางานอาชพี สรุปกรอบของ ปัญหา รวบรวม
วิเคราะห์ขอ้ มลู และแนวคิด ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา โดยคำนึงถงึ ความถูกตอ้ ง ดา้ นทรัพยส์ นิ ทางปัญญา
3. ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหา โดยวเิ คราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสนิ ใจเลอื กขอ้ มูลท่จี ำเปน็ ภายใต้เง่ือนไขและ
ทรพั ยากรทมี่ อี ยู่ นำเสนอ แนวทางการแก้ปญั หาให้ผ้อู ื่นเข้าใจด้วยเทคนคิ หรือวธิ กี ารทีห่ ลากหลาย วางแผน
ขัน้ ตอน การทำงานและดำเนนิ การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็น ขน้ั ตอน
4. ทดสอบ ประเมนิ ผล วิเคราะหแ์ ละให้เหตุผล ของปญั หาหรอื ข้อบกพร่องท่ีเกดิ ขนึ้ ภายใต้ กรอบเงอื่ นไข
พรอ้ มทัง้ หาแนวทางการปรบั ปรุง แก้ไข และนำเสนอผลการแกป้ ัญหา
5. มีความรู้ ความเข้าใจ ความหมาย ความเป็นมาของ Webpage / Web site / Hone page / Web
browse
6. มีความรู้ ความเข้าใจการทำงานของโปรแกรม Adobe Dreamweaver
7. อธิบาย ขัน้ ตอนการสรา้ งเวบ็ เพจ็ ด้วยโปรแกรม Adobe Dreamweaver และสามารถนำมาประยกุ ตใ์ ช้
ในการสรา้ งเวบ็ ไซตใ์ นชวี ติ ประจำวันได้ปฏบิ ัตกิ ารสรา้ งเลเยอร์ได้
8. ปฏิบตั ิการการตกแต่งเวบ็ เพจ ดว้ ย Timeline และ Behaviors ได้
9. ปฏิบัติการอพั โหลดเว็บไซตเ์ ข้าสูอ่ นิ เทอรเ์ น็ตได้
10. สร้างสรรค์พัฒนาชิ้นงานดา้ นเว็บไซตไ์ ด้อย่างนอ้ ย 1 ชนิ้ งาน
รวม 10 ผลการเรียนรู้
โครงสรา้ งรายวชิ า
โครงสรา้ งรายวชิ า รหัสวิชา ว ๒3๒02 รายวชิ าคอมพวิ เตอรเ์ สริม 5
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
ท่ี ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
(ชัว่ โมง) คะแนน
1. วิธีการแก้ปญั หา 1. วเิ คราะหส์ าเหตุ หรือปัจจยั ที่ 1.สาเหตุ หรือปัจจยั ทีส่ ่งผล 9
ส่งผลตอ่ การ เปลีย่ นแปลงของ ต่อการ เปลีย่ นแปลงของ
เทคโนโลยแี ละความสัมพันธ์ ของ เทคโนโลยีและความสมั พันธ์
เทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ ืน่ ของเทคโนโลยีกบั ศาสตรอ์ นื่
โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์หรือ 2.ปญั หาหรอื ความตอ้ งการ
คณติ ศาสตร์เพ่ือเปน็ แนวทาง ของชุมชนหรือ ทอ้ งถนิ่ เพ่ือ
การแกป้ ัญหาหรือพัฒนางาน พฒั นางานอาชีพ กรอบของ
2. ระบปุ ัญหาหรอื ความต้องการ ปญั หา รวบรวม วเิ คราะห์
ของชุมชนหรอื ท้องถน่ิ เพือ่ ขอ้ มลู และแนวคดิ
พฒั นางานอาชพี สรปุ กรอบของ 3.วธิ ีการแกป้ ญั หา โดย
ปญั หา รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มลู วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ และ
และแนวคิด ท่เี กย่ี วขอ้ งกับปญั หา ตดั สนิ ใจเลือกขอ้ มูลทจ่ี ำเปน็
โดยคำนงึ ถึงความถกู ต้อง ดา้ น 4.การทดสอบ ประเมินผล
ทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา วเิ คราะห์ เหตุผล
3. ออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา โดย ขอ้ บกพรอ่ งทีเ่ กิดข้นึ ภายใต้
วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ และ กรอบเงอ่ื นไข การปรับปรงุ
ตัดสนิ ใจเลือกข้อมูลท่ีจำเป็น แก้ไข และนำเสนอผลการ
ภายใตเ้ งอื่ นไขและทรพั ยากรทมี่ ี แกป้ ัญหา
อยู่ นำเสนอ แนวทางการ
แกป้ ัญหาให้ผู้อนื่ เข้าใจดว้ ย
เทคนคิ หรอื วธิ ีการที่หลากหลาย
วางแผนขัน้ ตอน การทำงานและ
ดำเนินการแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็
ขนั้ ตอน
4. ทดสอบ ประเมินผล วเิ คราะห์
และใหเ้ หตุผล ของปัญหาหรอื
ข้อบกพร่องทเ่ี กดิ ข้ึนภายใต้
กรอบเงื่อนไข พร้อมท้ังหาแนว
ทางการปรับปรงุ แก้ไข และ
นำเสนอผลการแกป้ ญั หา
ท่ี ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก
(ชวั่ โมง) คะแนน
2 การสร้างเวบ็ ของ 5. มีความรู้ ความเข้าใจ 5. รู้ เขา้ ใจ ความหมาย 10
ตนเอง ความหมาย ความเปน็ มาของ ความเปน็ มาของ Webpage
Webpage / Web site / Hone / Web site / Hone page
page / Web browse / Web browse
6. มีความรู้ ความเข้าใจการ 6. รู้ เข้าใจการทำงานของ
ทำงานของโปรแกรม Adobe โปรแกรม Adobe
Dreamweaver Dreamweaver
7. อธิบาย ขนั้ ตอนการสรา้ งเว็บ 7.การสร้างเว็บเพ็จ ดว้ ย
เพจ็ ดว้ ยโปรแกรม Adobe โปรแกรม Adobe
Dreamweaver และสามารถ Dreamweaver
นำมาประยุกตใ์ ช้ในการสร้าง ประยุกตใ์ ช้ในการสรา้ ง
เวบ็ ไซตใ์ นชีวติ ประจำวนั ได้ เวบ็ ไซต์ในชวี ิตประจำวัน
ปฏิบตั กิ ารสรา้ งเลเยอรไ์ ด้ 8.การตกแต่งเวบ็ เพจ ด้วย
8. ปฏิบตั กิ ารการตกแต่งเว็บเพจ Timeline และ Behaviors
ด้วย Timeline และ Behaviors 9.การอพั โหลดเว็บไซต์เขา้ สู่
ได้ อินเทอร์เน็ต
9. ปฏบิ ตั กิ ารอพั โหลดเวบ็ ไซต์ 10.การพัฒนาช้นิ งาน
เข้าสู่อนิ เทอรเ์ น็ตได้
10. สร้างสรรค์พัฒนาชนิ้ งาน
ด้านเว็บไซตไ์ ด้อยา่ งน้อย 1
ชิน้ งาน
สอบปลายภาคเรียน 1
รวม 20
คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ
รหัสวชิ า ว ๒3๒04 รายวชิ าคอมพวิ เตอรเ์ สริม 6 กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ
ศึกษาการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการกับวิชาอื่นอย่างสร้างสรรค์ รวบรวมข้อมูลประมวลผล
ประเมินผล นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี
หลากหลาย ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล วเิ คราะห์สอ่ื และผลกระทบจากการให้ข่าวสารท่ีผิดเพื่อการใช้
งานอยา่ งรเู้ ทา่ ทนั ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั และมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย
เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ ใช้ลขิ สิทธิข์ องผอู้ ืน่ โดยชอบธรรม
โดยใชข้ ้ันตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชัน และใช้ซอฟต์แวร์ท่ีใชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชนั เช่น Python
ใชซ้ อฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ีหลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล
นำเสนอ ตรวจสอบและยืนยนั ขอ้ มูล โดยเทียบเคยี งจากข้อมูลหลายแห่ง ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมีความ
รบั ผดิ ชอบ โดยไมก่ ระทำผดิ กฎหมายคอมพวิ เตอร์ และใช้ลขิ สทิ ธ์ขิ องผู้อน่ื โดยชอบธรรม
เพื่อให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษา
ตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อ่ืน
แสดงความรับผิดชอบด้วยการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมุ่งม่ัน รอบคอบ ประหยัด ซื่อสัตย์จนลุล่วงเปน็
ผลสำเรจ็ และทำงานร่วมกับผอู้ ื่นอย่างมีความสุข
ผลการเรียนรู้
1. พัฒนาแอปพลเิ คชันที่มีการบูรณาการกบั วิชาอ่ืน อยา่ งสร้างสรรค
2. รวบรวมขอ้ มลู ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอ ข้อมลู และสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์โดยใช้ ซอฟต์แวร์
หรอื บรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ท่ี หลากหลาย
3. ประเมินความนา่ เชอ่ื ถอื ของข้อมูล วิเคราะหส์ ่ือ และผลกระทบจากการใหข้ ่าวสารที่ผิด เพ่ือการ ใช้งาน
อยา่ งรูเ้ ท่าทนั
4. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย และมี ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ปฏิบัตติ ามกฎหมาย เก่ียวกบั
คอมพิวเตอร์ใชล้ ิขสิทธ์ขิ องผูอ้ ่ืน โดยชอบธรรม
5. มีความรู้ ความเขา้ ใจ อธิบายความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
6. มีความรู้ ความเขา้ ใจ อธิบายองค์ประกอบหลกั ของกิจกรรมโครงงานคอมพวิ เตอร์
7. สามารถบอกขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
8. สามารถจัดทำชิน้ งานหรอื โครงงานอย่างงา่ ย ทมี่ ีการใช้เทคโนโลยชี ว่ ยอยา่ งมจี ิตสำนกึ และมคี วาม
รับผดิ ชอบ
รวม ๘ ผลการเรียนรู้
โครงสรา้ งรายวชิ า
โครงสรา้ งรายวิชา รหัสวิชา ว ๒3๒02 รายวิชาคอมพิวเตอร์เสริม 5
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรียน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
ท่ี ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
(ชั่วโมง) คะแนน
1. การพฒั นาแอปพลเิ ค 1. พัฒนาแอปพลเิ คชนั ที่มีการบรู 1.แอปพลิเคชันที่มกี ารบรู 5
ชนั ณาการกบั วชิ าอ่ืน อย่าง ณาการกับวิชาอ่นื
สร้างสรรค์ 2.ข้อมลู ประมวลผล
2. รวบรวมข้อมลู ประเมินผล นำเสนอ ขอ้ มูล
ประมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอ สารสนเทศตามวัตถุประสงค์
ข้อมูลและสารสนเทศตาม โดยใช้ ซอฟตแ์ วรห์ รอื
วัตถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ ซอฟต์แวร์ บรกิ ารบนอนิ เทอร์เน็ต
หรอื บรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตท่ี
หลากหลาย
2 ความนา่ เชอ่ื ถอื ของ 3. ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถอื ของ 3.ความน่าเชือ่ ถือของข้อมลู 5
ขอ้ มูล ขอ้ มลู วเิ คราะห์สอื่ และ วเิ คราะหส์ อ่ื และผลกระทบ
ผลกระทบจากการให้ขา่ วสารท่ี จากการใหข้ า่ วสารท่ีผิด เพือ่
ผดิ เพ่ือการ ใชง้ านอยา่ งรู้เท่าทนั การ ใชง้ านอยา่ งรเู้ ท่าทัน
4. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 4.เทคโนโลยีสารสนเทศ
อย่างปลอดภัย และมี ความ อย่างปลอดภยั และมี ความ
รับผดิ ชอบตอ่ สังคม ปฏิบัตติ าม รบั ผิดชอบตอ่ สังคม ปฏบิ ัติ
กฎหมาย เกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ใช้ ตามกฎหมาย เก่ียวกบั
ลขิ สิทธข์ิ องผู้อ่นื โดยชอบธรรม คอมพวิ เตอรใ์ ชล้ ิขสิทธิ์
3 โครงงาน 5. มีความรู้ ความเขา้ ใจ 5. รู้ เขา้ ใจ ความหมาย 10
คอมพวิ เตอร์ อธบิ ายความหมายโครงงาน โครงงานคอมพิวเตอร์
คอมพวิ เตอร์ 6.รู้ เข้าใจ องค์ประกอบ
6. มคี วามรู้ ความเข้าใจ หลกั ของกิจกรรมโครงงาน
อธิบายองคป์ ระกอบหลักของ คอมพิวเตอร์
กจิ กรรมโครงงานคอมพิวเตอร์ 7.ข้นั ตอนการทำโครงงาน
7. สามารถบอกข้นั ตอนการ คอมพิวเตอร์
ทำโครงงานคอมพวิ เตอร์ 8.ชิน้ งานหรอื โครงงานอยา่ ง
8. สามารถจัดทำชิน้ งานหรือ ง่าย ที่มกี ารใชเ้ ทคโนโลยี
โครงงานอย่างงา่ ย ทีม่ ีการใช้ ชว่ ยอยา่ งมีจิตสำนกึ และมี
เทคโนโลยชี ่วยอย่างมจี ิตสำนกึ ความรับผดิ ชอบ
และมคี วามรบั ผิดชอบ
สอบปลายภาคเรียน 1
รวม 20