ระเบียบโรงเรยี นขลุงรัชดาภเิ ษก
วา่ ด้วยการวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้
ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนตน้ และระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายพทุ ธศักราช 2552
(ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช 2564)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาจนั ทบรุ ี ตราด
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
ระเบียบโรงเรยี นขลุงรัชดาภิเษก
วา่ ดว้ ยการวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนต้นและระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาตอน
ปลายพทุ ธศักราช 2552 (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช 2564)
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551
ตามท่ีกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ไดป้ ระกาศให้ใชห้ ลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช
2551 ตามคำสง่ั กระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ สพฐ 1239 / 2560 ลงวนั ท่ี 7 สิงหาคม 2560 เร่อื ง ใหใ้ ช้หลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ในฐานะท่โี รงเรียนเป็นผรู้ บั ผดิ ชอบจดั การศกึ ษา
จะต้องจัดทำหลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ัตใิ นการวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นของสถานศึกษา เพือ่ ใหบ้ ุคลากร
ท่เี ก่ียวข้องทุกฝา่ ยถือปฏิบตั ิร่วมกัน และเปน็ ไปในแนวเดียวกนั จงึ วางระเบยี บไว้ดงั ต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบน้เี รียกว่า “ระเบยี บโรงเรียนขลุงรัชดาภิเษก” ว่าดว้ ยการวดั ผลและประเมนิ ผล
การเรียน พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั ชัน้
มธั ยมศึกษาตอนตน้ และระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย
ขอ้ 2 ระเบยี บน้ีให้ใช้บังคบั ตัง้ แตป่ ีการศึกษา 2564 เปน็ ต้นไป
ขอ้ 3 ใหย้ กเลกิ ระเบยี บ ข้อบงั คับ ท่ขี ัดแยง้ กับระเบียบนี้ ใหใ้ ชร้ ะเบยี บนแ้ี ทน
ข้อ 4 ให้ใช้ระเบียบนี้ควบคู่กับหลักสูตรโรงเรียนขลุงรชั ดาภเิ ษกระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้นและ
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลายพุทธศกั ราช 2560 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช 2564) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
ข้อ 5 ให้ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นรกั ษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี
หมวด 1
หลกั การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. ให้สถานศึกษามหี นา้ ทวี่ ัดผลและประเมินผล ตัดสิน และอนมุ ตั ผิ ลการเรยี นทกุ ระดบั ชนั้ โดยความ
เหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ในเร่ืองของเกณฑ์ และแนวดำเนนิ การวัดผลและ
ประเมนิ ผลการเรียน
2. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นต้องสอดคลอ้ ง และเป็นไปตามมาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ช้วี ัด/
ผลการเรียนรู้ ท่ีกำหนดในหลักสตู ร
3. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ มจี ุดมุ่งหมายเพ่ือปรับปรงุ พฒั นาผู้เรียน พฒั นาการจดั การเรียนรู้
และการตัดสนิ ผลการเรียนการวดั และประเมินผลการเรยี นต้องประกอบดว้ ย การวัดผลและประเมนิ ผล เพือ่
ปรับปรุงพัฒนาผเู้ รยี นปรบั ปรุงการเรยี นการสอน วัดผลและประเมนิ ผลเพื่อตัดสินผลการเรียน
4. การวัดผลและประเมินผล เป็นสว่ นหนง่ึ ของกระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องดำเนนิ การด้วย
เทคนคิ วธิ ีการที่หลากหลาย เพ่ือใหส้ ามารถวัดผลและประเมนิ ผลผู้เรยี นได้อย่างรอบดา้ น ท้ังด้านความรู้
ความคิด กระบวนการ พฤตกิ รรม เจตคติ และเหมาะสมกับส่งิ ทต่ี อ้ งการวดั ธรรมชาติของวชิ า และธรรมชาติ
ของผู้เรียน
โดยตั้งอยบู่ นพื้นฐานความเท่ียงตรง ยุติธรรม และเชอ่ื ถอื ได้
5. การประเมนิ ผู้เรียนพิจารณาจากพฒั นาการของผเู้ รยี น ความประพฤติ การสังเกตพฤตกิ รรม การ
เรียนรู้ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ผลงานของนักเรยี น การทดสอบควบค่กู บั กระบวนการเรียนรู้ ตามความเหมาะสม
ของแตล่ ะระดับและรูปแบบการจดั การศกึ ษา
6. กลมุ่ สาระการเรียนร้ทู กุ กลุม่ จะตอ้ งกำหนดเกณฑ์เฉลี่ยของแต่ละกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โดยกำหนดให้
เพ่ิมข้นึ ทุกปี เพือ่ ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นให้สงู ขน้ึ
7. ครูผู้สอนทุกคนจะตอ้ งใชเ้ กณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล ระหว่างเรียน กลางภาค และปลายภาค
เรียน ใหเ้ ปน็ ไปตามท่ีแต่ละกลมุ่ สาระการเรียนร้กู ำหนด
8. จดั ให้มกี ารวัดและประเมินผเู้ รียนในด้านต่างๆ ดังนี้
8.1 วดั ผลและประเมินผลการเรียนตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
8.2 วัดผลและประเมนิ ความสามารถของผเู้ รียนในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสอ่ื ความในแต่
ละภาคเรียน
8.3 วดั และประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผู้เรียน ในแต่ละภาคเรียน
8.4 วัดและประเมินการร่วมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ที่กำหนดตามหลกั สูตร
9. การวัดและประเมินผลตอ้ งมีหลกั ฐานชดั เจน ผมู้ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งสามารถตรวจสอบได้
10. ใหม้ ีการเทยี บโอนผลการเรยี นระหวา่ งสถานศึกษา และการศึกษาในรปู แบบต่างๆ
หมวดท่ี 2
วธิ ีการวดั และประเมนิ ผลการเรียน
ขอ้ 1 การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ให้ถอื ปฏบิ ตั ิดังนี้
1.1 ให้มีการวดั และประเมนิ ผลเป็นรายวิชา โดยแจ้งให้ผเู้ รยี นทราบเก่ยี วกับมาตรฐานการ
เรียนรตู้ วั ชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ วิธกี ารจัดการเรียนรู้ และวธิ ีการวัดและประเมินผล
1.2 ให้มีการวดั และประเมินผลก่อนการเรยี นทกุ รายวิชา
1.3 การวดั และประเมนิ ผล ตอ้ งครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณธรรม
จรยิ ธรรม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชี้วัด/ ผลการเรียนรู้
1.4 การวัดและประเมนิ ผล ต้องใช้วิธกี ารท่ีหลากหลาย เปน็ การวดั และประเมนิ ผลตาม
สภาพจรงิ เน้นการปฏบิ ตั ิ ดำเนนิ การอย่างตอ่ เนือ่ ง ควบคูไ่ ปในกิจกรรมการเรียนร้ขู องผู้เรียน ท้งั นตี้ อ้ ง
สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้วี ัด/ ผลการเรยี นรู้
1.5 ให้มกี ารวัดและประเมนิ ผลระหวา่ งภาคเรียน โดยดำเนินการใน 3 สว่ นดังนี้
1) ให้มกี ารวัดและประเมินผลระหวา่ งเรยี นเปน็ ระยะ เพื่อประเมินพฒั นาการของ
ผเู้ รียน และเพอื่ เก็บคะแนนทกุ ตัวชีว้ ดั / ผลการเรียนรู้ ถ้าพบวา่ ผูเ้ รียนไม่ผ่านเกณฑ์ของ ตวั ชวี้ ดั / ผลการ
เรยี นรู้ใด ให้ผู้สอนวินจิ ฉยั ข้อบกพรอ่ งของการเรยี นรู้ และซอ่ มเสริมจนนักเรียนผา่ นเกณฑต์ ามท่ีกลุ่มสาระการ
เรียนรู้กำหนดไว้ สำหรับตัวชวี้ ดั / ผลการเรียนรู้ ขอ้ ใดท่ีมกี ารซอ่ มเสริมจนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ แล้ว ให้
คะแนนไม่เกนิ ครง่ึ หนึ่งของคะแนนเต็มในขอ้ นั้น ทงั้ น้จี ะตอ้ งได้รับการประเมนิ ผา่ นทกุ ตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้ มี
เกณฑ์และวิธกี ารเก็บคะแนนใหเ้ ปน็ ไปตามแผนการวัดและประเมนิ ผลของแตล่ ะรายวิชาทีก่ ลุม่ สาระการเรียนรู้
กำหนดไว้
2) ให้โรงเรยี นจดั ให้มกี ารสอบกลางภาค หากผเู้ รียนไดค้ ะแนนรวมไม่ผา่ นเกณฑ์
การประเมินของกล่มุ สาระการเรียนร้กู ำหนด ให้ครูผสู้ อนดำเนนิ การซอ่ มเสรมิ ตาม ตัวชว้ี ัด / ผลการเรยี นรู้ ที่
ไม่ผา่ น ผลการซ่อมเสริมให้ไดค้ ะแนนไม่เกินคร่ึงหน่ึงของคะแนนเตม็ ของข้อสอบทง้ั ฉบบั
3) ใหโ้ รงเรยี นแต่งตง้ั คณะกรรมการ การประเมินคณุ ลกั ษณะด้านคณุ ธรรม
จริยธรรม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยมกี ารประเมินตลอดทุกภาคเรยี น หากพบว่าผเู้ รียนไม่ผ่านเกณฑ์
ท่ีกำหนด ต้องจดั กิจกรรมเพอื่ พัฒนาผเู้ รยี น ใหม้ ีการพฒั นาข้ึนจนผ่านเกณฑ์
1.6 ใหม้ กี ารวัดและประเมินผลปลายภาคเรียน เพือ่ ตรวจสอบการเรียนโดยวดั ให้
ครอบคลมุ ตวั ชวี้ ัด / ผลการเรียนรู้ ที่สำคญั
1.7 การตัดสินการเรียน ให้นำคะแนนระหวา่ งภาคเรียน คะแนนกลางภาค รวมกับคะแนน
ปลายภาคเรยี น โดยผา่ นมาตรฐานตัวชวี้ ดั ครบทุกตวั ตามอตั ราส่วนทีก่ ำหนด โดยความเห็นชอบของ
คณะกรรมการสถานศึกษา
1.8 ใหใ้ ช้ตวั เลขแสดงระดับผลการเรียนในแต่ละรายวชิ า ดงั น้ี
ชว่ งคะแนนเปน็ ร้อยละ ระดับผลการเรียน ความหมายของผลการประเมนิ
80 - 100 4 ดเี ยยี่ ม
75 - 79 3.5 ดมี าก
70 - 74 3 ดี
65 - 69 2.5 ค่อนขา้ งดี
60 - 64 2 น่าพอใจ
55 - 59 1.5 พอใช้
50 - 54 1
0 - 49 0 ผ่านเกณฑ์ขนั้ ต่ำ
ต่ำกว่าเกณฑ์ขนั้ ต่ำ
1.9 ใหใ้ ช้อกั ษร แสดงผลการเรียนท่มี เี งือ่ นไขในแตล่ ะรายวิชา ดงั นี้
มส หมายถึง ผเู้ รยี นไม่มีสทิ ธเิ์ ขา้ รบั การวดั ผลปลายภาคเรียน มี 2 กรณี ดงั นี้
(1) กรณีผู้เรยี นได้ผลการเรยี น “มส” เพราะมเี วลาเรยี นไม่ถงึ ร้อยละ 80 แต่ไม่น้อย
กว่ารอ้ ยละ 60 ของเวลาเรียนในแตล่ ะรายวิชา และไม่ได้รบั การผ่อนผนั ให้เขา้ รับการวัดผลปลายภาคเรยี น
(2) กรณผี ู้เรียนได้ผลการเรยี น “มส” และมีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ 60 ของเวลา
เรยี นทั้งหมด
ร หมายถึง รอการตดั สนิ และยงั ตัดสนิ ผลการเรียนไมได เนื่องจากผูเรียนไมมขี
อมูล ผลการเรยี นรายวชิ านั้นครบถวน ไดแก ไมไดวดั ผลระหวางภาคเรียน/ปลายภาคเรยี น ไมไดสงงานท่ีมอบ
หมาย ใหทํา ซึง่ งานนั้นเปนสวนหนง่ึ ของการตดั สินผลการเรยี น หรอื มเี หตุสดุ วิสยั ท่ที ําใหประเมนิ ผลการเรียน
ไมได้
2. การวัดและประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียนสื่อความ ให้ถอื ปฏบิ ตั ิดังนี้
2.1 ใหโ้ รงเรียนแตง่ ตงั้ คณะกรรมการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี นส่ือความ
ตามเกณฑ์ทโ่ี รงเรียนกำหนด
2.2 ให้มีการวัดและประเมินเปน็ ระยะ เพ่ือพัฒนาปรับปรงุ ผเู้ รียน และตดั สนิ ผลการ
ประเมนิ เมอื่ สน้ิ ภาคเรยี น เพอ่ื พจิ ารณาการผ่านเกณฑ์
2.3 ให้ใช้เกณฑ์แสดงระดบั ผลการประเมนิ ดังนี้
ช่วงคะแนนเป็นร้อย ระดบั ผลการประเมิน ความหมายของผลการประเมนิ
80 - 100 3 ดีเยย่ี ม
65 - 79 2 ดี
50 - 64 1 ผา่ นเกณฑ์
0 - 49 0 ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน
3.การวดั และประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใหถ้ ือปฏิบัตดิ ังน้ี
3.1 ใหโ้ รงเรียนแตง่ ต้งั คณะกรรมการเป็นผปู้ ระเมิน ตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษากำหนด
3.2 ใหม้ ีการประเมินเป็นระยะ เพ่อื พฒั นาปรบั ปรงุ ผู้เรยี น และประเมนิ เมือ่ สนิ้ ภาคเรียน
เพื่อพจิ ารณาการผ่านเกณฑ์
3.3 ใหใ้ ช้เกณฑ์แสดงระดบั ผลการประเมนิ ดังนี้
ช่วงคะแนนเปน็ ร้อย ระดบั ผลการประเมิน ความหมายของผลการประเมนิ
80 - 100 3 ดีเยยี่ ม
65 - 79 2 ดี
50 - 64 1 ผ่านเกณฑ์
0 - 49 0
ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
4. การวัดผลและประเมนิ ผลการเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ใหถ้ ือปฏิบตั ิดังน้ี
4.1 ใหผ้ รู้ ับผดิ ชอบกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น เปน็ ผู้วัดและประเมินผลตามเกณฑ์ท่โี รงเรียน
กำหนด
4.2 ใหม้ ีการวัดผลและประเมินผลผู้เรยี นตามจุดประสงคข์ องกิจกรรมอย่างตอ่ เน่ือง เพอื่
พัฒนาปรบั ปรุงผูเ้ รียน และประเมินเมอื สิ้นภาคเรียน เพือ่ พิจารณาการผ่านเกณฑ์
4.3 ใหใ้ ชต้ ัวอักษรแสดงผลการประเมิน ดงั นี้
ผ หมายถงึ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ
มผ หมายถงึ ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ
หมวดที่ 3
การตัดสินผลการเรียนและการเปลีย่ นผลการเรยี น
1. การตัดสินผลการเรยี น หลักเกณฑ์การวัดผลและประเมินผลการเรียนร้เู พ่อื ตดั สินผล
การเรียนตามระเบยี บโรงเรยี นขลุงรชั ดาภิเษก วา่ ด้วยการวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ระดับช้ัน
มัธยมศกึ ษาตอนต้นและระดับช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายพุทธศักราช 2552 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2564)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ใหถ้ อื ปฏิบตั ดิ งั นี้
1) ตัดสนิ ผลการเรยี นเปน็ รายวชิ า ผู้เรียนตอ้ งมเี วลาเรยี นตลอดภาคเรียนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อย
ละ 80 ของเวลาเรียนทงั้ หมดในแต่ละรายวชิ า
2) ผู้เรียนตอ้ งได้รบั การประเมนิ ทกุ ตวั ช้ีวดั / ผลการเรียนรู้ และผ่านเกณฑ์การประเมินผล
ทุกตัวชีว้ ัด/ ผลการเรยี นรู้ โดยผ่านไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 หรือมคี ุณภาพในระดับผา่ นขึ้นไป
3) ผู้เรียนตอ้ งไดร้ ับการตัดสนิ ผลการเรียนทุกรายวชิ า
4) ผเู้ รยี นตอ้ งได้รับการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น มีผลการประเมินระดบั
คุณภาพ ผ่าน ขนึ้ ไป
5) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น มผี ลการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
ผ่าน ข้ึนไป
2. การให้ระดบั ผลการเรียน ใหถ้ อื ปฏิบัตดิ งั นี้
2.1 พิจารณาตัดสินผลการเรยี นเป็นรายวชิ าเม่อื สน้ิ ภาคเรียน และพจิ ารณาตัดสนิ ผู้เรียน
ได้หนว่ ยกิต เฉพาะผูไ้ ดร้ ะดับผลการเรียน 1 ถึง 4 เท่านนั้
2.2 ผเู้ รียนตอ้ งได้รบั การประเมนิ ทกุ ตวั ชว้ี ดั / ผลการเรียนรู้ และผา่ นเกณฑท์ ุกตวั ชีว้ ดั /
ผลการเรยี นรู้
2.3 วัดผลปลายภาคเรยี นเฉพาะผู้ที่มีเวลาเรยี นตลอดภาคเรยี น ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80
ของเวลาเรยี นท้งั หมดในรายวชิ านั้น ยกเวน้ ในกรณที ่ีมเี วลาเรยี นไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 และมเี หตจุ ำเป็น ให้
อยใู่ นดลุ พินจิ ของผ้อู ำนวยการโรงเรยี นในการพจิ ารณาอนญุ าต
2.4 ผูเ้ รยี นทม่ี เี วลาเรยี นไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นในรายวิชานัน้ และไม่ไดร้ ับ
อนญุ าตใหเ้ ขา้ วดั ผลปลายภาคเรยี น ให้ไดผ้ ลการเรยี น “มส”
2.5 ผู้เรยี นทไี่ มไ่ ด้รบั การวดั ผลปลายภาคเรียน ยกเวน้ กรณขี ้อ 2.4 ให้ได้ผลการเรยี น
“ร”
2.6 ผู้เรยี นทีท่ ุจรติ ในการสอบ หรอื ทจุ ริตในงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ในรายวชิ าใดครงั้ ใด
กต็ ามใหไ้ ดค้ ะแนน 0 ในคร้งั นน้ั
2.7 การประเมินผลการรว่ มกิจกรรม ร่วมกจิ กรรมท้ังในและนอกโรงเรียน พิจารณา
เวลาที่รว่ มกจิ กรรมครบรอ้ ยละ 80 ของเวลาทง้ั หมด และผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ให้ไดผ้ ลการประเมินเป็น
“ผ” ถา้ เวลาเรียนไมค่ รบร้อยละ 80 และ / หรอื ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินให้ได้ผลการประเมนิ “มผ”
2.8 การประเมินการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น และการประเมินคณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์ ประเมินโดยเกณฑ์ทีโ่ รงเรยี นกำหนด ถ้าผ่านเกณฑใ์ ห้ไดร้ ะดับผลการประเมนิ เป็น “ดีเย่ียม” “ดี”
“ ผ่าน” หรอื “ไมผ่ ่าน”
2.9 การเลอ่ื นชัน้ เมือ่ สิ้นปีการศึกษา ผู้เรยี นจะไดร้ บั การเล่ือนช้ัน เมอ่ื มีคุณสมบตั ิ
ดงั ตอ่ ไปนี้
1) รายวชิ าพื้นฐาน และรายวชิ าเพิ่มเติม ได้รับการตดั สินผลการเรยี นในระดบั
ผ่านตามเกณฑ์ทโี่ รงเรียนกำหนด
2) ไดร้ บั การประเมนิ ผล และมีผลการประเมนิ ในระดบั ผา่ นตามเกณฑท์ ี่
โรงเรยี นกำหนด ในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น
3) ระดบั ผลการเรยี นเฉลย่ี ในปีการศกึ ษานัน้ ไม่ต่ำกว่า 1.00
4) ผู้เรยี นมผี ลการเรียน 0, ร, มส . ในรายวิชาพนื้ ฐานและรายวชิ าเพ่ิมเติมรวมกนั
ไม่เกิน 3 รายวชิ า หลงั จากสอบแก้ตัวครั้งที่ 2 และเรยี นซำ้ แล้ว
ถ้าผเู้ รยี นมีข้อบกพรอ่ งเพียงเลก็ นอ้ ย และโรงเรียนพิจารณาเหน็ วา่ สามารถพฒั นา และสอนซ่อนเสรมิ
ไดใ้ หอ้ ยใู่ นดลุ พนิ ิจของผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น ทจ่ี ะผ่อนผันให้เลือ่ นช้นั ได้
2.10 การสอนซอ่ มเสรมิ ให้ดำเนินการในกรณีต่อไปนี้
1) ผ้เู รยี นมีความรู้ / ทกั ษะพื้นฐานไม่เพียงพอทจ่ี ะศกึ ษาในแต่ละรายวิชานนั้ ให้
สอนซ่อมเสริมปรับความรู้ / ทกั ษะพ้นื ฐาน
2). ผูเ้ รยี นไมส่ ามารถแสดงความรู้ ทกั ษะกระบวนการ หรอื เจตคติ /
คณุ ลักษณะที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีว้ ดั / ผลการเรยี นรู้ ในการประเมินผลระหวา่ งเรียน
3) ผู้เรียนทไี่ ดร้ ะดับผลการเรยี น “0” ให้สอนซอ่ มเสรมิ กอ่ นสอบแกต้ วั
2.11 การเรียนซ้ำช้นั
ใน 1 ปีการศกึ ษา ถา้ ผเู้ รียนมผี ลการเรียน 0, ร, มส ในรายวชิ าพ้นื ฐานและ
รายวชิ าเพ่ิมเติมเกนิ 3 วชิ า หลงั จากสอบแก้ตัวครั้งที่ 2 และเรยี นซ้ำแลว้ ให้โรงเรียนแต่งตง้ั คณะกรรมการ
พิจารณาการเรยี นซ้ำช้ันของผเู้ รียน โดยมคี ณะกรรมการ ประกอบดว้ ย รองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ
เปน็ ประธานกรรมการ หัวหน้าระดบั ช้ัน หัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรทู้ ุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ หวั หน้ากิจกรรม
พัฒนาผเู้ รียน โดยมนี ายทะเบียน เป็นกรรมการและเลขานกุ าร และหวั หน้างานวดั ผลเป็นกรรมการและ
ผ้ชู ่วยเลขานุการ เม่อื คณะกรรมการพิจารณาแลว้ เหน็ ว่าจะทำให้เปน็ ปญั หาตอ่ การเรยี นของผเู้ รยี นในระดบั ช้ัน
ทสี่ ูงข้นึ ใหน้ ำผลการพิจารณาเสนอผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น ท้ังน้ี ผอู้ ำนวยการโรงเรียนใชด้ ลุ ยพนิ ิจพจิ ารณาตาม
เสนอ
3. การเปลย่ี นระดับผลการเรียน ใหถ้ อื ปฏิบตั ิดังน้ี
3.1 การเปลีย่ นระดับผลการเรียน “0”
ใหโ้ รงเรียนจัดสอนซอ่ นเสริมในตวั ช้ีวัดทีผ่ ูเ้ รียนไมผ่ ่าน แล้วจึงจัดสอบแก้ตัว และให้
สอบแกต้ ัวไดไ้ ม่เกนิ 2 ครง้ั ท้ังนต้ี อ้ งดำเนินการใหเ้ สรจ็ สิ้นภายในภาคเรียนถดั ไป ถ้าผเู้ รยี นยังไม่มาดำเนนิ การ
ตดิ ต่อขอแกต้ วั ตามระยะเวลาทีท่ างโรงเรยี นกำหนด หรือยังดำเนินการไมเ่ รียบรอ้ ย โดยมีเหตุสดุ วิสยั ให้อยู่ใน
ดุลพินจิ ของผู้อำนวยการโรงเรียน
การสอบแกต้ วั ให้ไดร้ ะดบั ผลการเรียนไมเ่ กิน “1” ถ้าสอบแก้ตวั แลว้ ยังไดร้ ะดบั ผล
การเรียน “0” อกี ถ้าเปน็ รายวชิ าพน้ื ฐานใหเ้ รยี นซำ้ ในรายวิชานั้น ถ้าเป็นรายวิชาเพ่มิ เติมให้อยใู่ นดุลพินิจของ
ผู้อำนวยการโรงเรยี น ให้เรยี นซ้ำหรือเปลยี่ นรายวิชาใหม่
3.2 การเปลี่ยนผลการเรยี น “ร” แยกเป็น 2 กรณี ดงั น้ี
1) กรณไี ดผ้ ลการเรยี น “ร” เพราะเหตสุ ุดวสิ ัย เมอ่ื ผ้เู รียนแก้ไขปัญหาเรียบร้อย
แล้วให้ได้ระดับผลการเรยี นตามปกติ ( ต้งั แต่ 0-4 )
2) กรณไี ดผ้ ลการเรยี น “ร” โดยไม่ใชเ่ หตุสุดวิสัย เมอ่ื ผูเ้ รียนแก้ไขปญั หาเรยี บร้อย
แลว้ ใหไ้ ดร้ ะดบั ผลการเรียน 0 หรอื 1
ถ้าผู้เรียนไม่ดำเนนิ การแกไ้ ข “ร” ให้ผู้สอนนำข้อมูลท่ีมอี ย่ตู ดั สนิ ผลการเรยี น
ยกเวน้ มเี หตุสดุ วสิ ัย ใหอ้ ยใู่ นดุลพินิจของคณะกรรมการวชิ าการ
3.3 การเปล่ยี นผลการเรยี น “มส” แยกเปน็ 2 กรณีดังนี้
1) กรณีท่ีผู้เรียนไดผ้ ลการเรยี น “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถงึ ร้อยละ 80 ของ
เวลาเรยี นท้ังหมด แต่มีเวลาไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 ของเวลาเรียนท้งั หมด ให้โรงเรียนจัดใหผ้ เู้ รยี นเรียนเพ่มิ เตมิ
โดยใชช้ ั่วโมงสอนซ่อมเสริม หรอื เวลาว่าง หรือวนั หยุด หรอื มอบหมายงานให้ศกึ ษาด้วยตนเองจนมเี วลาเรยี น
ครบรอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นท้ังหมด แล้วจงึ สอบให้เป็นกรณพี ิเศษ ผลการสอบแก้ตัว “มส” ให้ได้ระดบั ผล
การเรยี นไมเ่ กิน “1” หากไดผ้ ลการเรียน “0” ใหด้ ำเนินการแก้ “0” ตามระเบยี บน้ี
การแก้ “มส” ในกรณีน้ี ให้ดำเนนิ การไดไ้ มเ่ กนิ 2 ครั้ง ทั้งนตี้ อ้ งดำเนนิ การให้
เสรจ็ สิ้นภายในภาคเรียนถดั ไป โดยตอ้ งดำเนนิ การคร้งั ที่ 1 และครั้งที่ 2 ใหเ้ สร็จสน้ิ ภายใน 1 เดอื น หลงั จาก
เปดิ ภาคเรียน ถา้ ผู้เรียนยังไมด่ ำเนินการตดิ ตอ่ ขอแก้ตัวระยะเวลาทโี่ รงเรยี นกำหนด ใหด้ ำเนินการเรียนซ้ำใน
รายวิชาน้ัน หรือดำเนนิ การไม่เรยี บร้อยโดยมเี หตุสุดวสิ ยั ใหอ้ ยใู่ นดลุ พินิจของคณะกรรมการวิชาการ
2) ผเู้ รียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรยี นไมถ่ งึ รอ้ ยละ 60 ของเวลาเรียน
ทงั้ หมด ถ้าเปน็ รายวิชาพื้นฐานให้เรยี นซำ้ ในรายวิชาน้นั ถ้าเป็นรายวิชาเพ่ิมเติมใหอ้ ยู่ในดลุ พนิ ิจของ
ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น ให้เรียนซ้ำในรายวชิ านน้ั หรือเปลีย่ นรายวชิ าใหม่แล้วแต่กรณี ในกรณที ่ีเปล่ียนรายวชิ า
เรียนใหม่ ใหห้ มายเหตุในหลักฐานแสดงผลการเรยี นดว้ ยวา่ เรียนแทนรายวชิ าใด
3.4 การเรยี นซำ้ ให้อยู่ในดลุ พนิ ิจของผอู้ ำนวยการโรงเรียนทจ่ี ะกำหนดชว่ งเวลาใน
การเรียนซำ้ ให้เหมาะสม และตอ้ งประเมินผลการเรยี นตามที่ระเบยี บกำหนดไว้ การเรยี นซำ้ จะได้รับระดบั ผล
การเรียนตามขอ้ 3 ในหมวดที่ 4
3.5 การเปลีย่ นผลการเรยี น “มผ” เปน็ “ผ” ให้ผูเ้ รียนทำกิจกรรมเสรมิ เพอื่ ให้ผา่ นตาม
เกณฑ์ทีก่ ำหนดโดยให้ผลการประเมนิ เป็น “ผ ระยะเวลาในการแก้ “มผ” ใหด้ ำเนินการไดไ้ มเ่ กิน 2 ครงั้ ทง้ั นี้
ให้ดำเนินการใหเ้ สรจ็ สนิ้ ภายในภาคเรียนถัดไป ถ้าผเู้ รียนยงั ไม่มาดำเนินการติดตอ่ ขอแก้ตวั ตามระยะเวลาท่ี
โรงเรยี นกำหนด หรอื ดำเนินการไมเ่ รยี บรอ้ ยโดยมเี หตผุ ลสุดวิสยั ให้อยู่ในดลุ พินิจของคณะกรรมการวิชาการ
ขยายเวลาออกไปได้แตไ่ ม่เกิน 1 ภาคเรียน
หมวดท่ี 4
การสอนซ่อมเสริม การเรยี นเลื่อนช้ัน และการเรียนซำ้
1. การสอนซอ่ มเสรมิ ถอื เปน็ ส่วนหนง่ึ ของกระบวนการจัดการเรยี นรู้ และเปน็ การใหโ้ อกาสแก่
ผ้เู รยี นได้มีเวลาเรียนรสู้ ่ิงต่างๆ เพ่มิ ข้ึนจนสามารถบรรลุ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวัด/ ผลการเรยี นรู้ ที่
กำหนดไว้ การสอนซอ่ มเสรมิ เป็นการสอนกรณพี เิ ศษนอกเหนอื ไปจากการสอนตามแผนจัดการเรียนรปู้ กติ
เพอื่ แก้ไขข้อบกพร่องทพ่ี บในผู้เรียน โดยจัดกระบวนการเรียนรูท้ ่ีหลากหลาย และคำนงึ ถึงความแตกต่าง
ระหว่างบคุ คลของผ้เู รียน ดำเนนิ การโดยครูประจำวิชา ให้ดำเนนิ การในกรณตี ่อไปนี้
1.1 ผู้เรียนมคี วามร/ู้ ทักษะพื้นฐานไม่เพยี งพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชานน้ั ให้สอน
ซอ่ มเสรมิ ปรบั ความรู้ / ทกั ษะพืน้ ฐาน
1.2 ผูเ้ รยี นไมส่ ามารถแสดงความรู้ ทักษะกระบวนการ หรือเจตคติ/ คุณลักษณะที่กำหนดไว้
ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ช้ีวัด/ ผลการเรียนรู้ ในการประเมนิ ผลระหว่างเรยี นต่ำกว่าเกณฑ์ทกี่ ลุ่มสาระการ
เรยี นรู้กำหนด(ต้องไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 50) ครูประจำวิชาต้องสอนซอ่ มเสริมเพือ่ พัฒนาผเู้ รยี นให้ผ่านเกณฑ์การ
ประเมินทกุ ตวั ชวี้ ัด/ ผลการเรยี นรู้
1.3 ผูเ้ รียนท่ีได้ระดับผลการเรยี น “0” ใหค้ รปู ระจำวชิ าดำเนินการสอนซอ่ มเสริมกอ่ น
ให้ผ้เู รียนสอบแก้ตัว
1.4 ผ้เู รยี นที่มีผลการเรียนไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ โรงเรยี นสามารถจดั สอนซ่อมเสริมใน
ภาคฤดรู อ้ นได้ ท้ังนี้ให้อยูใ่ นดลุ พินิจของผู้อำนวยการโรงเรียน โดยคณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รและงาน
วิชาการ
2. การเล่ือนชั้น ผู้เรยี นจะได้รบั การเลอื่ นชั้นเม่อื ส้ินปีการศึกษา โดยมคี ุณสมบตั ติ ามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
1) ผูเ้ รียนมผี ลการเรยี น 0, ร, มส ในรายวิชาพืน้ ฐานและรายวชิ าเพ่ิมเตมิ รวมกัน ต้องไม่เกิน 3
รายวิชา หลังจากสอบแก้ตวั ครงั้ ที่ 2 และเรยี นซ้ำแลว้
2) ไดร้ บั การประเมนิ และมีผลการประเมินในระดบั ผ่านตามเกณฑท์ ่ีโรงเรียนกำหนด ใน
การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น
3) ระดับผลการเรียนเฉลย่ี ในปีการศกึ ษานนั้ ไม่ตำ่ กว่า 1.00
ถา้ ผู้เรียนมีขอ้ บกพร่องเพยี งเล็กนอ้ ย และโรงเรยี นพจิ ารณาเหน็ ว่าสามารถพฒั นา และสอน
ซ่อนเสริมไดใ้ หอ้ ยูใ่ นดุลพินจิ ของผู้อำนวยการโรงเรยี น ทจี่ ะผ่อนผันให้เลอ่ื นชัน้ ได้
3. การเรียนซำ้ โรงเรยี นจะจดั ใหเ้ รยี นซ้ำใน 2 กรณีดังน้ี
3.1 เรยี นซ้ำเปน็ รายวิชา หากผเู้ รยี นสอนซ่อมเสรมิ และสอบแกต้ ัว 2 ครง้ั แล้วไม่ผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ ใหเ้ รียนซ้ำรายวิชานั้น ท้งั น้ีใหอ้ ย่ใู นดุลพินิจของคณะกรรมการวชิ าการ ในการจัดให้เรียนซ้ำ
ในช่วงใดชว่ งหนึ่งทีส่ ถานศกึ ษาเหน็ วา่ เหมาะสม เช่น พกั กลางวนั วันหยดุ ชว่ั โมงวา่ ง หลงั เลกิ เรยี น ภาคฤดู
รอ้ น เปน็ ตน้
3.2 เรยี นซ้ำช้ัน โรงเรียนจะพิจารณาเมอื่ ส้ินปกี ารศึกษาโดยแบ่งการเรยี นซำ้ ช้ัน ออกเป็น 2
ลกั ษณะ คือ
1) ผเู้ รียนมีระดับผลการเรียนเฉล่ียในปีการศึกษานน้ั ตำ่ กว่า 1.00 และมแี นวโนม้ ว่า
จะเป็นปญั หาตอ่ การเรียนในระดบั ชน้ั ที่สูงขึ้น
2) ผู้เรียนมีผลการเรยี น 0, ร, มส . ในรายวชิ าพื้นฐานและรายวชิ าเพม่ิ เตมิ รวมกนั เกิน 3
รายวิชา หลงั จากสอบแก้ตวั ครั้งท่ี 2 และเรียนซำ้ แลว้
ทงั้ น้ี หากเกิดลกั ษณะใดลักษณะหนงึ่ หรือทง้ั สองลักษณะ ให้โรงเรียนแตง่ ตั้งคณะกรรมการ
พจิ ารณา หากเห็นว่าไมม่ ีเหตุผลอันสมควรกใ็ หเ้ รียนซ้ำช้ัน ใหใ้ ช้ผลการเรียนใหมแ่ ทน หากพิจารณาแล้วไม่ต้อง
ซำ้ ช้ัน ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินจิ ของคณะกรรมการวชิ าการ ในการแกไ้ ขผลการเรียน ทั้งนี้ คณะกรรมการต้อง
ดำเนนิ การพจิ ารณาและแจง้ ผ้ปู กครองนกั เรียนทราบภายในเดอื นมีนาคมของทกุ ปี
หมวดที่ 5
การจบหลกั สตู ร
1. การอนุมตั กิ ารจบหลักสตู ร
1) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น
1.1) เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานและเพ่มิ เติมไม่นอ้ ยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเปน็ รายวชิ า
พื้นฐาน 66 หนว่ ยกติ รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ไม่นอ้ ยกวา่ 11 หนว่ ยกติ
1.2) ต้องได้หนว่ ยกิต ตลอดหลกั สูตรไม่นอ้ ยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเปน็ รายวชิ า
พ้นื ฐาน 66 หนว่ ยกิต และรายวชิ าเพิม่ เติมไม่น้อยกวา่ 11 หนว่ ยกติ
1.3) ผ่านการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ตามท่ีโรงเรยี นกำหนด มี
ผลการประเมนิ ระดับ “ผ่าน” ข้ึนไป
1.4) ผ่านการประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ตามท่ีโรงเรียนกำหนด มี
ผลการประเมนิ ระดับ “ผ” ขนึ้ ไป
1.5) เข้าร่วมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน มผี ลการประเมินผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ
ตามท่โี รงเรยี นกำหนด ผลการประเมนิ “ผ”
1.6) ผ่านการประเมนิ โครงงานจากคณะกรรมการอยา่ งนอ้ ย 1 โครงงาน และมี
ผลการประเมนิ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่โรงเรยี นกำหนด ผลการประเมินเปน็ “ผ”
1.7) ผูเ้ รียนต้องรายงานสรปุ ผลการปฏบิ ัตงิ านความคิดริเรมิ่ สร้างสรรคแ์ ละ
สาธารณะประโยชน์ และมผี ลการประเมินผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ตามที่โรงเรยี นกำหนด ผลการประเมินเป็น
“ผ”
2) ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย
2.1) เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน และเพม่ิ เติมไมน่ อ้ ยกว่า 81 หนว่ ยกติ โดยเปน็
รายวิชาพ้ืนฐาน 41 หนว่ ยกติ และรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ไมน่ ้อยกว่า 40 หน่วยกติ
2.2) ตอ้ งได้หนว่ ยกติ ตลอดหลักสูตรไม่นอ้ ยกวา่ 77 หนว่ ยกติ โดยเปน็ รายวิชา
พน้ื ฐาน 41 หนว่ ยกิน และรายวชิ าเพิม่ เตมิ ไมน่ ้อยกวา่ 36 หนว่ ยกิต
2.3) ผ่านการประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ตามท่โี รงเรียนกำหนด
มีผลการประเมินระดับ “ผ” ขึ้นไป
2.4) ผา่ นการประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ตามทีโ่ รงเรียนกำหนด มีผล
การประเมนิ ระดับ “ผ” ขนึ้ ไป
2.5) เข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน มผี ลการประเมินผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
ตามทโี่ รงเรยี นกำหนด ผลการประเมินเปน็ “ผ”
2.6) ผา่ นการประเมินโครงงานจากคณะกรรมการอย่างน้อย 1 โครงงาน และมี
ผลการประเมินผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน ตามทโี่ รงเรยี นกำหนด ผลการประเมนิ เปน็ “ผ”
2.7) ผู้เรยี นตอ้ งรายงานสรปุ ผลการปฏบิ ตั งิ านความคดิ ริเริม่ สรา้ งสรรคแ์ ละ
สาธารณะประโยชน์ และมีผลการประเมินผา่ นเกณฑ์การประเมิน ตามที่โรงเรียนกำหนด ผลการประเมิน
เปน็ “ผ”
2. ให้ผู้อำนวยการโรงเรียน เปน็ ผ้อู นุมตั ิผลการเรียน และการจบหลักสูตร