การแสดงศลิ ปวฒั นธรรม
มรดกภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ 9 จังหวดั ภาคเหนอื ตอนลา่ ง
โครงการเชดิ ชเู กียรติศลิ ปนิ ทอ้ งถิ่น
เครอื ขา่ ยมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ
9 จงั หวัดภาคเหนอื ตอนลา่ ง
วนั ที่ 2 กรกฎาคม ๒๕๖๕
ณ อาคารอุทยานองค์สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
จงั หวดั พษิ ณโุ ลก
จดั โดย คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
ร่วมกบั สํานักงานวฒั นธรรมจังหวัด 9 จงั หวดั ภาคเหนอื ตอนล่าง
โครงการเชิดชเู กยี รติศลิ ปินท้องถ่นิ
เครอื ขา่ ยมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมทอ้ งถิ่น 9 จังหวัดภาคเหนอื ตอนลา่ ง
ความเปน็ มาและวัตถปุ ระสงค์
โครงการเชดิ ชูเกยี รติศิลปนิ ท้องถ่ิน เครือขา่ ยมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมท้องถนิ่ 9 จงั หวดั ภาคเหนือตอนล่าง
จัดทำขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการดำเนนิ งานร่วมกับหน่วยงานภายนอกทุกภาคสว่ น
ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชม และสังคมท้องถิ่น โดยร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น
ใหส้ อดคล้องกับยุทธศาสตร์ของชาติ นโยบายมหาวิทยาลัย และความเชี่ยวชาญของคณะฯ และเผยแพร่ความรู้ องค์ความรู้
นำไปสู่การอนุรักษ์ สืบสาน สร้างความรู้ ความเข้าใจ และการนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมตามยุคสมัย อันจะก่อให้เกิด
ความภาคภมู ิใจในความเป็นไทย สร้างสรรค์ผลงาน และพฒั นาต่อยอดไปสู่การสร้างคุณค่า โอกาส และมูลค่าเพิ่มทาง
เศรษฐกจิ ในงานดา้ นศลิ ปวัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นให้เกิดขน้ึ กับชุมชน มหาวทิ ยาลัย และประเทศในอนาคต
ส่งเสริมอัตลักษณ์นิสิต “พหุภาษา รู้คุณค่าวัฒนธรรมท้องถิ่น” อีกทั้งยังมีการเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำฐานข้อมูล
ทางวชิ าการด้านการทำนบุ ำรุงศิลปวฒั นธรรมเพื่อให้เปน็ แหลง่ เรยี นรแู้ กน่ ิสิต ประชาชน และผูท้ ี่สนใจ ได้ศึกษาเรียนรู้
และเผยแพรใ่ นรปู แบบข้อมลู ออนไลน์ ในฐานะเป็นองค์กรเผยแพร่องค์ความรู้ทางวิชาการด้านภาษาและศิลปะการแสดง
ส่ชู ุมชน มคี วามร่วมมือดา้ นศิลปวฒั นธรรม ส่งเสริมการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม อนรุ กั ษ์ ฟื้นฟู และสืบสานศลิ ปวัฒนธรรม
และภูมิปัญญาท้องถิ่น ระหว่างคณะมนุษยศาสตร์กับหน่วยงานภายนอก มีเครือข่าย มีส่วนร่วม อันจะนำไปสู่การ
พัฒนาชาติตามหลักการ Soft Power โดยใช้ศิลปวัฒนธรรม เป็นแรงขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อื่นๆ ทั้งสังคม เศรฐกิจ
และจากการดำเนินโครงการนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสร้างความเข้มแข็งให้กับศิลปวัฒนธรรมมรดกภูมิปัญญา
ท้องถิ่นในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยนเรศวร 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เพื่อขยายผลไปสู่ความเข้มแข็งของการ
พัฒนามหาวทิ ยาลัยดา้ นทำนุบำรุงศลิ ปวฒั นธรรมต่อไป
สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการดำเนินงาน ร่วมกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด 9 จังหวัดภาคเหนือ
ตอนล่าง และชุมชนท้องถิ่น จัดประชุมระดมความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะ และร่วมกันวางแนวทางการทำนุบำรุง
ศิลปวัฒนธรรม เพื่ออนุรักษ์ พื้นฟู และสืบสานศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ในเขตพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ
ตอนล่าง จัดเสวนาทิศทางการขับเคลื่อนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนา
ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น” โดย 1) นายอนุกูล ใบไกล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรม กรมส่งเสริม
วัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม 2) รองศาสตราจารย์ ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
3) นางสวุ ิมล เกตุศรบี ุรนิ ทร์ วฒั นธรรมจังหวัดพษิ ณุโลก
พิจารณาคัดเลือกผลงานของศิลปินท้องถิ่น สาขาวรรณศิลป์ สาขาดนตรีและศิลปะการแสดง ที่มีผลงานโดดเดน่
ให้ไดร้ ับรางวลั เชดิ ชูเกียรติศลิ ปนิ มรดกภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน “ศรสี วุ รรณภงิ คาร” และเผยแพร่ผลงานการแสดงศิลปวัฒนธรรม
ประจำจงั หวัด อนั เปน็ มรดกภมู ิปัญญาจากศลิ ปินท้องถนิ่ เพอื่ ใหท้ ราบความเปน็ มาของศลิ ปและวัฒนธรรมการแสดงพื้นบ้าน
สร้างความรู้ ความเข้าใจ อันจะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทยแก่นิสิต บุคลากร ประชาชนผู้ท่ีสนใจ รวมไปถึง
การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น จำนวน 9 ชุดการแสดง จากทุกจังหวัด 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง
สถานท่จี ดั ณ อาคารอทุ ยานองคส์ มเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร
สารบญั หนา้
การแสดงศลิ ปวฒั นธรรม มรดกภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน 9 จงั หวดั ภาคเหนอื ตอนตอนล่าง ๑
ชุดการแสดงศิลปวัฒนธรรมมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น จังหวัดพษิ ณโุ ลก “เรงิ รำมังคละลลี า” ๔
โดย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
ภาพการแสดง “เริงรำมงั คละลลี า” ๖
๘
ชดุ ท่ี 1 การแสดงมรดกภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ จังหวดั พิษณโุ ลก การแสดงมรดกภูมิปัญญา
“เก้ง” กลุ่มชาติพนั ธุ์ม้ง ๑๐
ภาพการแสดง “เก้ง” กลุ่มชาตพิ ันธม์ุ ง้ ๑๒
๑๔
ชุดที่ 2 การแสดงมรดกภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ จังหวัดตาก “ระบำกระทงสาย” ๑๖
ภาพการแสดง ระบำกระทงสาย ๑๘
๒๐
ชุดที่ 3 การแสดงมรดกภมู ิปัญญาท้องถน่ิ จงั หวัดอทุ ัยธานี “เพลงพ้นื บา้ นทา่ โพ ชุดเพลงรำวง
โบราณ”
ภาพการแสดง “เพลงพ้นื บา้ นทา่ โพ ชุดเพลงรำวงโบราณ”
ชุดที่ 4 การแสดงมรดกภูมิปัญญาท้องถิน่ จังหวัดพิจิตร การแสดงลิเกเรอ่ื ง “พิจติ ร พิสมัย”
ภาพการแสดง ลิเกเรื่อง “พิจติ ร พิสมัย”
ชุดที่ 5 การแสดงมรดกภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ จงั หวัดนครสวรรค์ “เต้นกำรำเคียว”
ภาพการแสดง “เต้นกำรำเคยี ว”
ชดุ ที่ 6 การแสดงมรดกภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ จังหวดั กำแพงเพชร “ระบำ ก.ไก่”
ภาพการแสดง “ระบำ ก.ไก่”
ชุดที่ 7 การแสดงมรดกภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น จังหวัดสโุ ขทัย “ระบำสุโขทัย”
ภาพการแสดง “ระบำสโุ ขทัย”
ชุดที่ 8 การแสดงมรดกภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น จงั หวดั เพชรบูรณ์ “ดนตรีพื้นบา้ นตบุ๊ เกง่ ”
ภาพการแสดง “ดนตรพี นื้ บา้ นตุ๊บเก่ง”
ชดุ ท่ี 9 การแสดงมรดกภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น จังหวดั อุตรดิตถ์ “สะล้อ ซอซิง ดน้ สด”
ภาพการแสดง “สะล้อ ซอซิง ด้นสด”
การแสดงศิลปวฒั นธรรม
มรดกภูมิปัญญาท้องถน่ิ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนลา่ ง
การแสดงมรดกภมู ิปญั ญาทอ้ งถนิ่ จงั หวดั พิษณุโลกv
ชดุ การแสดง “เริงรำมงั คละลลี า”
โดย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร
การแสดง “เริงรำมังคละลีลา” เป็นการแสดงดนตรีและการรำพื้นบ้านมังคละ นรูปแบบขบวนและระบำ
โดยการเรยี งร้อยศิลปะการแสดงมังคละชุดต่าง ๆ ได้แก่ รำพุทธบูชานเรศวรมังคลาปุระ รำมงั คละสราญ มงั คละรำเพลิน
รำไม้มวยมงั คละ รำมังคละเสลาลลี า และเสน่หน์ างโกรก๊ ผสมผสานกับแนวคิดในการเผยแพรป่ ระเพณีปักธงชัย
การแต่งกายและท่ารำทป่ี รากฏในการแสดงนี้ มีแนวคิดทสี่ ะท้อนเอกลกั ษณ์และศิลปวฒั นธรรมพนื้ บา้ นของ
จังหวัดพิษณุโลก เช่น การนุ่งผ้าลายดอกปีบ ผ้าทอพ้ืนเมืองประจำจังหวัดพิษณุโลก ท่ารำท่ีปรากฏในการแสดง เช่น
ทา่ ลีลาบางแก้ว ทา่ ไกเ่ หลืองหางขาว ทา่ ปักธงชยั ท่าเด็ดดอกปีบ ท่าหน่มุ สามล้อป้อสาวเรือนแพ ท่าไมม้ วย ท่าเสน่ห์
นางโกร๊ก เปน็ ต้น
ชื่อ - สกลุ ผู้ออกแบบและกำกบั การแสดง ดร.รงุ่ นภา ฉิมพุฒ ตำแหนง่ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะการแสดง
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร
ชอื่ - สกลุ ผู้ฝึกซ้อมและควบคุมการแสดง คณาจารย์ภาควชิ าศิลปะการแสดง และสาขาวชิ าดรุ ิยางคาสตร์ไทย
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร
ชอ่ื - สกลุ ผแู้ สดง นิสิตภาควชิ าศิลปะการแสดง และนิสิตสาขาวิชาดุรยิ างคศาสตร์ไทย
คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร
๑
ภาพการแสดง “เริงรำมงั คละลลี า”
๒
ภาพการแสดง“เริงรำมงั คละลลี า”
๓
จงั หวดั พิษณโุ ลก
ชื่อชดุ การแสดงมรดกภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ “เกง้ ” กลุ่มชาติพนั ธมุ์ ง้
การแสดงมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นจังหวัดพิษณุโลก “เก้ง” กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง เป็นการเล่นดนตรีแคนหรือ
“เกง้ ”ของชาวเขากลุ่มชาติพันธุ์ม้ง จะใช้เล่นในงานพิธีกรรมงานศพของชาวเขาเผ่าม้ง ซ่ึงเรียกดนตรีช้ินน้ีว่า “เก้ง”
โดยชาวเขาเผ่ามง้ มคี วามเชอื่ ว่าการเป่าเก้งเปน็ การเปา้ เพ่ือสง่ วิญญาณของผู้ตายไปสสู่ วรรค์ ปจั จบุ ันวัฒนธรรมการเป่า
แคนหรือเก้งเปลี่ยนแปลงไป โดยจะมีการนำแคนหรือเก้งไปใช้เป่าในหลาย ๆ งาน แม้แต่นำไปเล่นในงานรื่นเริงก็มี
ซง่ึ การเป่าแคนหรือเกง้ ของชาวเขาเผ่ามง้ นี้ จะมที ่าเต้นประกอบการเป่า มลี ลี าและอารมณ์ทีน่ า่ สนใจ
ชอ่ื - สกลุ ผู้สนับสนุนการแสดง ตำแหน่ง รองคณบดฝี า่ ยกิจการนิสติ และศิษย์เก่าสมั พนั ธ์
ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ วา่ ที่ร้อยตรี ดร.โสภณ ลาวรรณ์ คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร
ช่ือ - สกลุ นักแสดง
๑. นายเปรี่ยทง้ ฤทธเ์ิ นติกุล
2. นายเฟ้ืย ซึ่หวา้
๔
ภาพการแสดง “เกง้ ” กลมุ่ ชาตพิ นั ธม์ุ ง้
๕
จังหวัดตาก
ชือ่ ชุดการแสดงมรดกภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ “ระบำกระทงสาย”
การแสดง “ระบำกระทงสาย” เป็นศิลปะการแสดงของชาวจังหวัดตาก สะท้อนวิถีชีวิตและความเชื่อประเพณี
ลอยกระทงสาย การแสดงชุดนี้ได้กล่าวถึงประเพณี ๑ เดียวในโลก นั้นคือประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง
เปน็ ประเพณีทเ่ี ป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตาก ทา่ รำเลา่ วถิ ชี ีวิตเร่มิ ต้ังแตฝ่ ่ายชายเป็นผู้แบกหามเข่งช่วยกันไปหากะลา
จากนนั้ ก็จะนำกะลามาขัดใหส้ วยงาม จงึ เกดิ เป็นท่ารำของฝา่ ยชาย
ฝ่ายหญิงเป็นผู้ทำเชื้อไฟ ฟั่นด้ายเป็นรูปตีนกา ลักษณะ คือ การนำด้ายมาชุบเทียนไขและขดเป็นเกลียว
แยกเปน็ ๓ ขา คลา้ ยตีนกา เพ่อื ให้สามารถวางไว้บนกะลาทม่ี ีเชื้อเพลงิ เปน็ เทียนไข เกดิ เป็นท่าราํ ของฝ่ายหญงิ
จากนั้น พอถึงวันลอยกระทง ชาวบ้านจะนำกะลาที่เตรียมไว้ จุดไฟแล้วปล่อยลงสอยเป็นจังหวะไปตามลำน้ำปงิ
อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เกิดเป็นท่ารำของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง นิยมแสดงในงานประเพณีลอยกระทงสายไหล
ประทปี ๑,๐๐๐ ดวง และในโอกาสสำคญั ต่าง ๆ เพอื่ เผยแพรศ่ ลิ ปวัฒนธรรมประเพณลี อยกระทงสายจงั หวดั ตาก
ชื่อ - สกุล ผสู้ นบั สนนุ การแสดง ตำแหน่ง วฒั นธรรมจงั หวัดตาก
นางประสพสุข กันภยั
ตำแหน่ง อธกิ ารบดวี ทิ ยาลยั นอรท์ เทิรน์
ชื่อ - สกลุ ผู้อำนวยการแสดงโดย ตำแหน่ง รองอธกิ ารบดฝี ่ายกิจการนกั ศึกษา วทิ ยาลัยนอร์ทเทิรน์
1. ผศ. ดร.ไตรรตั น์ ยนื ยง
๒. ดร.หสั ชัย ตั้งม่งั มี คณะศึกษาศาสตร์
คณะศึกษาศาสตร์
ชอ่ื - สกลุ นกั แสดง คณะบริหารธุรกิจ
๑. นายกรกช บุญชู คณะบริหารธรุ กจิ
2. นางสาวนนั ทพร แซเ่ ฮอ่ คณะบริหารธุรกิจ
3. นางสาวรตั นา ยนื ยงคีรีมาส คณะบรหิ ารธรุ กจิ
4. นายโชคชัย สทิ ธินิธกิ ลุ คณะสหเวชศาสตร์
5. นายสมเกยี รติ พนาอนันต์โชติ คณะสหเวชศาสตร์
6. นายเลิศลักษณ์ ศิษย์กลั ยา คณะนิตศิ าสตร์และรฐั ศาสตร์
7. นางสาวสนุ ารี ชมพู สำนักศลิ ปวฒั นธรรม
8. นางสาววรรณี พลากจิ จรสั แสง
9. นางสาวณัฐชยา พชรจรสั แสง
๑๐. นายภทั รพล โพธิตชิ ยั
โทรศพั ท์ผ้คู วบคุมหรอื ผู้ประสานงานการแสดง มือถอื ๐๘ ๙๕๒๘ ๒3๕๘
๖
ภาพการแสดง“ระบำกระทงสาย”
๗
จงั หวดั อทุ ยั ธานี
ช่อื ชุดการแสดงมรดกภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน “เพลงพ้ืนบา้ นทา่ โพ ชดุ เพลงรำวงโบราณ”
การแสดง “เพลงพนื้ บา้ นทา่ โพ ชุดเพลงรำวงโบราณ” เป็นการร้องเล่นสืบสานของชาวบ้านไทย โดยเฉพาะ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ในสมัยนั้นประกาศให้การรำโทน หรือการรำวง
ของไทยเป็นวัฒนธรรมของชาติ เนื้อหาของเพลงรำวงส่วนมากเป็นเนื้อหาของนิทานชาดก วรรณคดีไทย นิทาน
พืน้ บ้าน โดยมบี ทบาทของตัวละครประกอบในบทเพลงด้วยเพ่อื ความสนุกสนาน
ชอื่ - สกุล ผู้สนบั สนุนการแสดง
นางประภัสสร ตรีศิลา ตำแหน่ง วัฒนธรรมจังหวดั อทุ ัยธานี
ช่อื - สกลุ ผู้ฝกึ ซ้อมและควบคมุ
นายสรุ พงศ์ ทิพย์ศริ ิ ตำแหนง่ หัวหน้ากลมุ่ อนรุ ักษ์เพลงพ้ืนบา้ นทา่ โพ
ชือ่ - สกลุ นักแสดง
๑. นายสุรพงศ์ ทิพย์ศิริ
๒. นางสําเริง นวกลุ
๓. นางพสิ มัย บวั เหมือน
๔. นางกําหนด อนิ ทโฉม
๕. นางสุนยี ์ สขุ สวุ รรณ
6. นางณฐั กาญจน์ พิมพส์ ที า
๗. นางทัศนีย์ พินธวุ งษ์
8. นางลัดดา ชืน่ ดอนกลอย
9. นางสมจิตร ทพิ ย์ศริ ิ
๑๐. นางถาวร เกิดน้อย
11. นางขนษิ ฐา นธุ รุ ัมย์
โทรศพั ท์ผู้ควบคมุ หรือผู้ประสานงานการแสดง มอื ถอื ๐๙ ๐๖๘3 ๑60๑
๘
ภาพการแสดง “เพลงพื้นบา้ นทา่ โพ ชดุ เพลงรำวงโบราณ”
๙
จังหวัดพิจิตร
ชอ่ื ชุดการแสดงมรดกภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ การแสดงลิเก เรอื่ ง “พิจติ ร พิสมยั ”
การแสดงลิเกเรื่อง "พิจิตร พิศมัย" จากลิเกคณะ ป.ปากควาย จังหวัดพิจิตร ได้มีคณะลิเกมาตั้งแต่คร้ัง
บรรพบุรุษและสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนราว พ.ศ. ๒๕๐๐ คณะลิเกรุ่นแรก ๆ ของจังหวัดพิจิตร ได้แก่ คณะแก้วมณี
คณะแพงสวรรค์ คณะสีนวล เทียนทอง คณะ ส.พูนสวัสดิ์ คณะ ช.โพธิ์ทอง และคณะแสงธรรม เป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน
คณะลิเกในจังหวัดพิจิตรมีจํานวนมากขึ้น ประมาณ ๒๘ คณะ ส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานร่วมกลุ่มพบได้ที่อำเภอตะพานหิน
และอำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งลิเกคณะ ป.ปากควาย เป็น ใน ๒๘ คณะ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดพิจิตร การแสดงลิเก
เร่ือง "พิจิตร พิศมัย" จากลิเกคณะ ป.ปากควาย เป็นการเล่าถึงของดีและสถานท่ีท่องเท่ียวของจังหวัดพิจิตรพร้อม
เชญิ ชวนใหท้ กุ ทา่ นไปสมั ผัสกบั มนต์เสน่หข์ อง “พจิ ติ ร พิสมยั ”
ชื่อ - สกุล ผู้สนับสนุนการแสดง ตำแหนง่ วฒั นธรรมจังหวดั พจิ ติ ร
นางสาวพรพรรณ กลนิ่ เกษร ตำแหนง่ หัวหน้าคณะลิเก ป.ปากควาย
ชื่อ - สกุล ผู้ฝกึ ข้อมและควบคุม
นายมณฑล อโหสิ
ชอ่ื - สกลุ นกั แสดง มอื ถือ ๐๘ ๑๗๘๕ ๕๑๐๕, ๐๘ ๑๔๗๔ ๒๕๐๕
1. นายมณฑล อโหสิ
๒. นายภาคภมู ิ เขตชะเอม
3. นางสาวณฐั กาญจน์ พรหมมาสะ
๔. นางสาวนติ ยา เครนิยม
โทรศพั ท์ผูค้ วบคมุ หรือผู้ประสานงานการแสดง
๑๐
ภาพการแสดงลเิ กเรื่อง “พจิ ติ ร พิสมยั ”
๑๑
จังหวัดนครสวรรค์
ชอื่ ชดุ การแสดงมรดกภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ “เตน้ กำรำเคียว”
การแสดง “เต้นกำรำเคียว” เป็นการละเล่นพื้นบ้านของพี่น้องเกษตรกรภาคกลาง เกิดขึ้นในสมัย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลท่ี ๕) ผู้ประพันธ์คำร้อง/ทำนอง คือ หลวงศรีบุรีขวัญ นำมาร้อง/
เล่น ที่หมู่บ้านสระทะเลเป็นแห่งแรก การเล่น/การร้อง นิยมเล่นในฤดูเกี่ยวข้าว ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว สถานที่
เล่นในแปลงนาที่เกี่ยวข้าว เวลาที่นิยมเล่นตั้งแตเ่ วลา ๑๕.๓๐ น. เป็นต้นไป (เพื่อผ่อนคลายการปวดหลังของคนทีกัน
เกย่ี วขา้ วมาทัง้ วัน)
เดิมชาวสระทะเล เรียกการละเล่นแขนงนี้ว่า “เต้นกำ” ต่อมานายธนิต อยู่โพธิ์ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร
ในขณะนั้น นำศิลปินของกรมศิลปากร มาเรียนรู้การร้อง/การรำ จากคุณตา คุณยาย เห็นว่ามีเคียวเป็นอุปกรณ์
ในการเล่นร่วมด้วย จึงเพิ่มคำว่า “รำเคียว” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา การละเล่นแขนงน้ี กรมศิลปากรนำออกเผยแพร่
ตั้งชื่อใหม่ว่า “เต้นกำรำเคียว” จนปัจจุบันในการเล่นไม่มีดนตรีประกอบ ใช้การปรบมือและร้องชัดซ่า ของลูกคู่
ฝ่ายชาย เป็นจังหวะ
ชอ่ื - สกุล ผูส้ นบั สนุนการแสดง ตำแหน่ง วฒั นธรรมจังหวดั นครสวรรค์
1. นางปรชี ญา พรมชู ตำแหนง่ นายกองคก์ ารบริหารสว่ นตำบลสระทะเล
2. นายศตั คุณ นลิ สนธิ
ชอื่ – สกุล ผู้ฝึกซ้อมและควบคมุ ตำแหนง่ ประธานกลุ่มอนรุ ักษ์การละเล่นพ้ืนบ้าน ตำบลสระทะเล
นายคฑาวฒุ ิ มีมุข
ชื่อ - สกุล นักแสดง การแสดงไม่มดี นตรีประกอบ แตใ่ ช้การปรบมือเป็นจงั หวะ
1. นายเฉลมิ ทองขาว (พ่อเพลง) 1. นางสาลี ทองขาว (แมเ่ พลง)
๒. นายคฑาวฒุ ิ มีมขุ 2. นางสาวเลก็ ทองขาว
๓. นายสุนทร มหี วาน ๓. นางหม่ัน ก้อนจนั ทร์เทศ
๔. นายเสถียร วนิ ิจสร ๔. นางละออง มีมุข
๕. นายประชุม บวั อุไร ๕. นางจวง บัวสขุ
6. นางบญุ ชู กอ้ นจันทร์เทศ
โทรศพั ท์ติดต่อผคู้ วบคมุ หรือผู้ประสานงานการแสดง
1. นายคฑาวฒุ ิ นลิ สนธิ มือถือ ๐๘ ๔๘๑๐ ๘๖๘๖
2. นายศตั คณุ มีสุข มือถือ ๐๙ ๘๖๕๓ ๙๕๑๙
๑๒
ภาพการแสดง “เตน้ กำรำเคยี ว”
๑๓
จงั หวดั กําแพงเพชร
ชื่อการแสดงมรดกภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ “ระบำ ก.ไก”่
ศิลปะการแสดง “ระบำ ก.ไก่” แสดงโดย ชมรมรักษ์วัฒนธรรมตำบลไตรตรึงษ์ ระบำ ก.ไก่ เป็นการแสดง
พนื้ บ้านของชาวบ้านในตำบลไตรตรึงษ์ ซึ่งเป็นเมืองเก่าของจังหวัดกาํ แพงเพชร การแสดงชุดนี้ได้รับการสืบทอดรุ่นต่อรุ่น
มานานนับร้อยปี โดยมีคุณแมเ่ สนอ สิทธิ เป็นผูถ้ ่ายทอดให้ นางสาวสุขศรี สทิ ธิ นำมาสอนให้เด็ก เยาวชน และผู้สนใจ
ได้ร่วมสืบทอด แต่เดิมเนื้อหาของบทร้อง เป็นการโต้ตอบเชงิ เก้ียวพาราสีกันธรรมดา ไม่มีการเล่นคำและอักษรดังเช่น
ทุกวันนี้ จนเมื่อมีการเรียนการสอนในโรงเรียนจึงนำอักษร ก - ฮ มาเล่น และสัมผัสอย่างมีชั้นเชิงมากขึ้น การแสดง
ระบำ ก.ไก่ นักแสดงในงานรื่นเริงต่าง ๆ ของท้องถิ่น เช่น วันตรุษและวันสงกรานต์ ปัจจุบันชาวบ้านในชุมชน
คุณธรรมบ้านวังพระธาตุได้นำมาใช้เป็นชุดการแสดงตอ้ นรับนักท่องเทย่ี วและแสดงในงานสาํ คญั ๆ ของจังหวัด
ช่อื -สกุล ผสู้ นับสนนุ การแสดง
1. นางสาวนชุ รินทรภ์ ทั ร์ ธีระบญุ ยะ ตำแหน่ง วัฒนธรรมจังหวดั กำแพงเพชร
๒. องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลไตรตรึงษ์
ชื่อ-สกุล ผู้ฝึกขอ้ มและควบคมุ
นางสาวสุขศรี สิทธิ
ชอื่ -สกุล นักแสดง
1. นางสาวสุขศรี สิทธิ
๒. นางสำรวย อปุ จะ๊
๓. นางสำอางค์ สุวรรณวรกจิ
๔. นางพสิ มยั รอดวงษ์
๕. นางลมโชย กอบธญั กจิ
6. นางประนอม สาสนนั ท์
7. นางสพุ รรษา ระงับจิต
8. นางจงรกั โกรทช์
9. นางสาวผาสุข ก่งิ วาที
1๐. นางสิรินาถ นิ่มตรง
โทรศัพท์ตดิ ต่อผคู้ วบคมุ หรือผู้ประสานงานการแสดง มอื ถือ ๐๘ ๑๒๕๕ ๕๕๕๐
๑๔
ภาพการแสดง “ระบำ ก.ไก”่
๑๕
จังหวดั สุโขทยั
ช่อื ขดุ การแสดงมรดกภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ “ระบำสุโขทัย”
การแสดง “ระบำสุโขทัย” พบในระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๘ - ๒๐ เป็นยุคสมัยทีช่ นชาติไทยเร่ิมสร้างสรรค์
ศิลปะด้านนาฏศิลป์และดนตรีให้เป็นสมบัติประจำชาติ โดยอาศัยหลักฐานอ้างอิงที่กล่าวไว้ในเอกสาร และหลัก
ศิลาจารึก การแต่งทํานองกระบวนท่าร่าและเครื่องแต่งกายประดิษฐานใหม้ ีลักษณะท่ีอ่อนชอ้ ยงดงาม ตามแบบอย่าง
ของศิลปะสมยั สุโขทัย ระบำสโุ ขทยั เปน็ ระบำโบราณคดีเกิดจากแนวคิดของนายธนิต อยู่โพธ์ิ อดตี อธบิ ดีกรมศิลปากร
ซึ่งได้พบภาพเขียน ภาพปั้นและภาพจําหลักตามโบราณวัตถุสมัยตา่ ง ๆ ทั้งที่พบในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง
จึงได้นำมาประกอบแนวคิดประดิษฐ์สร้างเครื่องดนตรี โดยมอบหมายให้นายมนตรี ตราโมท ผู้เชี่ยวชาญดุริยางค์ไทย
กรมศิลปากร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง เป็นผู้แต่งทำนองเพลงเก่าสุโขทัยมาดัดแปลง ผู้ประดิษฐ์ท่า รำ
คอื ทา่ นผหู้ ญิงแผ้ว สนทิ วงศ์เสนีย์ ผู้เชยี่ วชาญศลิ ป์ไทย กรมศลิ ปากร
ชื่อ - สกลุ ผ้สู นบั สนนุ การแสดง ตำแหนง่ วัฒนธรรมจงั หวัดสโุ ขทยั
นางบญุ ชู สาดี
ช่ือ - สกุล ผคู้ วบคุมหรือผูป้ ระสานงานการแสดง ตำแหน่ง นกั วชิ าการวฒั นธรรมชำนาญการ
นายสมเจตน์ กฤษฎี มือถือ ๐๙ ๙๐๑๘ ๖๑๖๕
ชือ่ - สกลุ ผปู้ ระสานงาน
นางสาวเกสรา บญุ ชยั เรืองขจร
ชอ่ื - สกลุ นกั แสดง
1. นางสาวกัญจนพร โพธิ์โต
๒. นางสาวหนงึ่ ฤทัย วงคแ์ ก้วหล้า
๓. นางสาวศภุ ัชฌา กลอ่ งชู
๑๖
ภาพการแสดง “ระบำสโุ ขทัย”
๑๗
จังหวัดเพชรบรู ณ์
ชื่อชดุ การแสดงมรดกภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ “ดนตรีพนื้ บ้านตุ๊บเก่ง”
การแสดง "ตุ๊บเกง่ " เป็นดนตรีพื้นบ้านของเมืองเพชรบูรณ์ ทีจ่ ดั เปน็ ดนตรีพธิ ีกรรมใช้บรรเลงเพ่ือเพ่ิมความขลัง
ความศักดิ์สิทธขิ์ องพธิ ีกรรม มีตน้ กำเนิดไม่ตำ่ กวา่ ๑๐๐ ปจี ากบ้านป่าแดง ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และได้
ถ่ายทอดหรือเผยแพร่ออกไปสู่ชุมชนอื่น ๆ โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ โดยพบที่ บ้านนางั่ว บ้านสะเดียง
และบ้านป่าเลา นอกจากนั้นยังมีการค้นพบว่าเคยมีการเล่นใน บ้านนาเลา บ้านห้วยไคร้ และบ้านท่าด้วง ชื่อ “ตุ๊บเก่ง”
มาจากเสียงของเครื่องดนตรีท่ีสำคัญ ๒ ชนิดในวง นน่ั คือ “ตบั ” คอื เสียงของกลอง และ "เกง่ " คือ เสยี งของฆอ้ งกระแต
ดนตรีตุ๊บเก่งเล่นเป็นวงผสม ประกอบด้วยเครื่องดนตรี ๓ ชนิด ๕ ชิ้น ได้แก่ ปี่แต ๑ เสา กลองเดิน 1 ใบ
กลองออก ๑ ใบ และฆ้องราว ๑ ชุด ประกอบด้วย ฆ้องกระแต ๑ ใบ และฆ้องโหม่งต่างขนาดกัน ๒ ใบ ดนตรีมีลักษณะ
เจื้อยแจ้ว ช่วงเสียงแคบต่ำ ทํานองเพลงมี ๓ ลักษณะ คือ ลักษณะช้าราบเรียบ ลักษณะกระชับ เร็วขึ้น และลักษณะ
จังหวะเร็ว โดยมีปี่แตเป็นตัวดำเนินทำนอง ซึ่งจะต้องมีการทำเสียงได้อย่างต่อเนื่องกันตลอดเพลง ส่วนเครื่องดนตรี
ชนิดอื่นจะเป็นตัวให้จังหวะ ปี่แตจะต้องบรรเลงทํานองเพลงให้สัมพันธ์กับกระสวน จังหวะกลองเดินและกลองออก
ซึง่ จะมลี ักษณะเฉพาะของแต่ละเพลง เพลงท่ีเลน่ จะเรียบง่ายไมซ่ ับซ้อน เป็นเพลงทอ่ นเดียวบรรเลงซ้ำไปเรอื่ ย ๆ ซึง่ ใน
แต่ละเที่ยวผู้เป่าจะคิดต้นทำนองออกไป ส่วนฆ้องกระแตใ่ บเล็กเสียงสูง และฆ้องขนาดกลางเสียงค่อนข้างต่ำและฆ้อง
ขนาดใหญ่เสียงต่ำ จะเป็นตัวยืนแนวจังหวะให้กบั วง วิธีการสร้างเครื่องมือนัน้ นักดนตรีจะเป็นผูส้ ร้างขึ้นเพื่อเอาไว้ใช้
เองเปน็ สว่ นตัว โดยสรา้ งตามลกั ษณะของดนตรีพ้นื บ้าน คอื ใช้วสั ดุทีม่ ีอยูใ่ นท้องถ่ินของตนเอง วธิ กี ารสร้างก็เรียบง่าย
ไมพ่ ิถพี ิถนั หรอื ไม่ก็จะได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรษุ อีกทหี นึ่ง
ช่ือ - สกุล ผู้สนับสนนุ การแสดง ตำแหนง่ วฒั นธรรมจังหวดั เพชรบูรณ์
นางเยาวภา โตสงวน
ชือ่ - สกุล ผู้ฝกึ ซอ้ มและควบคมุ ตำแหน่ง หัวหนา้ วงดนตรี โทรศัพท์ ๐๙ ๗๑๓๐ 8๔๒1
นายนฤเทพ แสงนก
ชือ่ - สกุล นักแสดง
๑. นายนฤเทพ แสงนก
๒. นายชิต ออ่ นตา
๓. นายสมัย ครุฑวงศ์
๔. นายนิคม สีใส
5. นายออม เทียนทอง
โทรศัพทผ์ ูค้ วบคุมหรอื ผูป้ ระสานงานการแสดง
นางสาววลยั ศรี เตม็ ธนนั มือถือ ๐๘ ๓๙๒๑ ๓๗๑๕
๑๘
ภาพการแสดง “ดนตรพี น้ื บ้านตุบ๊ เกง่ ”
๑๙
จังหวัดอุตรดติ ถ์
ช่ือชดุ การแสดงมรดกภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน “สะล้อ ซอซงิ ดน้ สด”
ศิลปวัฒนธรรมซอล้านนา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นคณะซอที่ได้รับการสืบทอดการขับซอมาจาก
ซอลอ่ งน่าน ท่ปี ัจจุบนั ยังร้องขับขานงานบุญประเพณี ซอพื้นบ้านท่าปลาแฝงด้วยคติธรรมสอนแสดงให้เห็นความสัมพันธ์
ของมนษุ ยก์ ับมนษุ ย์ มนุษย์กบั ธรรมชาติ และมนุษย์ที่อยู่กบั ความเช่อื ไว้อย่างชัดเจน และไดถ้ ่ายทอดสเู่ ดก็ และเยาวชน
ในพ้นื ที่เป็นท่ีประจักษ์ สบื มา
ชื่อ - สกุล ผ้สู นับสนุนการแสดง ตำแหน่ง วัฒนธรรมจังหวดั อุตรดิตถ์
นายสุรพันธ์ เจริญทรพั ย์
ชอ่ื - สกุล ผฝู้ กึ ซอ้ มและควบคมุ ตำแหนง่ หวั หนา้ คณะการแสดง
นางประนอม กาวใิ จ
ช่ือ - สกลุ ผู้ประสานงานการแสดง ตำแหนง่ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพเิ ศษ
นางสาวอมรวรรณ ตรเี นตร
ชื่อ - สกลุ นักแสดง
1. นางประนอม กาวิใจ
2. นายเวช โนจักร
3. นายไตรรงค์ อนิ ธจนั ทร์
4. นายจฑุ าวุฒิ ใจคาํ
5. นายณัฐสิทธิ์ คดิ อ่าน
โทรศัพทผ์ คู้ วบคุมหรอื ผู้ประสานงานการแสดง มอื ถือ ๐๖ ๕๕๑๙ ๔๘๙๓
๒๐
ภาพการแสดง “สะลอ้ ซอซึง ด้นสด”
๒๑
หนว่ ยทำนบุ ำรุงศิลปวัฒนธรรม งานกจิ การนสิ ติ และศิษยเ์ กา่ สมั พันธ์
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร อำเภอเมอื งพษิ ณโุ ลก จังหวดั พิษณโุ ลก 65000
E-mail: [email protected] โทรศพั ท์ 0 5596 2021