The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างการสอน.การงาน 2.64 pdf

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by norapong638644, 2021-11-14 04:56:23

โครงสร้างการสอน.การงาน 2.64 pdf

โครงสร้างการสอน.การงาน 2.64 pdf

โครงสรา้ งการสอน
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี

รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั วิชา ๒๑๑๐๒
ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒

ชื่อผจู้ ดั ทา นายนรพงษ์ แพนศรี

โรงเรียนอุบลรตั นราชกัญญาราชวทิ ยาลัย นครราชสมี า
อาเภอเมือง จงั หวัดนครราชสมี า

สังกัดสานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษานครราชสมี า
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน

บนั ทึกขอ้ ความ

ส่วนราชการ ...................................... โรงเรยี นอุบลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลยั นครราชสมี า
ท่ี วันที่ ......... เดือน ............ พ.ศ. ๒๕๖๔
เรอื่ ง การจดั ทาโครงสรา้ งการสอน

เรียน ผ้อู านวยการโรงเรยี นอบุ ลรตั นราชกญั ญาราชวิทยาลยั นครราชสีมา

ด้วยข้าพเจ้า นายนรพงษ์ แพนศรี ตาแหนง่ ครูชานาญการไดด้ าเนนิ การจดั ทาโครงสร้าง
การ สอนรายวิชา การงานอาชพี รหสั วชิ า ง ๒๑๑๐๒ เพ่ือใชเ้ ปน็ แนวทางในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
ในภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ ตามรายละเอยี ดในเอกสารแนบท้าย

จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดพจิ ารณา

(ลงชื่อ)..................................................
( นายนรพงษ์ แพนศรี )
ตาแหน่ง ครู

แบบขออนมุ ัตโิ ครงการสอน
รายวิชา การงานอาชีพ 1(พ้นื ฐาน) รหสั วชิ า ง21102 จานวน 00 ช่วั โมง ปีการศึกษา 2640

กลมุ่ สาระการงานอาชพี และเทคโนโลยี โรงเรยี นอบุ ลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลัย นครราชสีมา

ขา้ พเจ้าและคณะได้วเิ คราะห์หลกั สตู รแกนกลาง รายการนิเทศ/ตรวจสอบ
การศึกษาขน้ั พ้นื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 และไดจ้ ัดทา ..............................................................................
โครงการสอนรายวชิ าการงานอาชีพ 1 ...............................................................................
รหสั วชิ า ง21102 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ...............................................................................
ภาคเรียนที่ 1 ตามรายละเอียดทแี่ นบด้วยน้ี
ลงชอ่ื ..................................................
ลงชื่อ.................................................. (นางสรุ ีพร ทองศรี)
(นายนรพงษ์ แพนศร)ี
หวั หนา้ กลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี
ผ้จู ัดทา/ผใู้ ช้ ………………../…………………./………………….
ตรวจสอบและกลั่นกรอง

.................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..................................................

(นางวัลภา โพธิโต)
รองผ้อู านวยการฝา่ ยวิชาการ

………………../…………………./………………….

ตรวจสอบและกลน่ั กรอง

.................................................................................................................................................................

ลงช่อื ..................................................

(นายสุพล เชือ่ มพงษ์)
ผูอ้ านวยการ โรงเรียนอุบลรตั นราชกญั ญาราชวิทยาลัย นครราชสมี า

………………../…………………./………………….


สว่ นนา
๑.วิสยั ทศั น์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รยี นทุกคน ซึ่งเป็นกาลงั ของชาติให้เปน็ มนษุ ย์ที่มี
ความสมดุลทงั้ ด้านรา่ งกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานกึ ในความเปน็ พลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมท้งั เจต
คติ ที่จาเปน็ ตอ่ การศกึ ษาต่อ การประกอบอาชีพและการศกึ ษาตลอดชวี ติ โดยม่งุ เนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั บน
พ้นื ฐานความเชอ่ื วา่ ทุกคนสามารถเรียนรแู้ ละพัฒนาตนเองได้เตม็ ตามศักยภาพ

๒.หลกั การ

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน มหี ลกั การทสี่ าคัญ ดังนี้
๑. เปน็ หลกั สูตรการศึกษาเพือ่ ความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรยี นรู้

เป็นเป้าหมายสาหรบั พัฒนาเดก็ และเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคณุ ธรรมบนพ้ืนฐานของความเปน็
ไทยควบคู่กบั ความเปน็ สากล

๒. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือปวงชน ท่ีประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี
คุณภาพ

๓. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอานาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ให้สอดคลอ้ งกบั สภาพและความตอ้ งการของทอ้ งถ่ิน

๔. เป็นหลักสูตรการศกึ ษาทม่ี โี ครงสรา้ งยืดหยนุ่ ทง้ั ด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจดั การเรยี นรู้
๕. เป็นหลักสูตรการศกึ ษาทีเ่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ
๖. เป็นหลักสูตรการศึกษาสาหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก
กลุม่ เป้าหมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์

๓.จุดหมาย

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข
มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกาหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน เม่ือจบ
การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ดังนี้

๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ีพึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตน
ตามหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ีตนนับถอื ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

๒. มีความรู้ ความสามารถในการสือ่ สาร การคดิ การแก้ปญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และมที กั ษะชวี ติ
๓. มสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ทด่ี ี มีสุขนิสยั และรักการออกกาลงั กาย
๔. มคี วามรกั ชาติ มจี ิตสานกึ ในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยดึ มน่ั ในวิถีชวี ติ และ การปกครอง
ตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ
๕. มจี ิตสานกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย การอนุรักษ์และพฒั นาสง่ิ แวดล้อม มีจิต
สาธารณะทม่ี ่งุ ทาประโยชน์และสร้างส่ิงทด่ี ีงามในสังคม และอยู่รว่ มกนั ในสงั คมอย่างมีความสุข



๔.สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ในการพัฒนาผู้เรยี นตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน มุ่งเนน้ พฒั นาผ้เู รียนให้มคี ุณภาพ
ตามมาตรฐานท่กี าหนด ซึง่ จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสาคัญและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ดังนี้

๔.๑ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน มุง่ ให้ผเู้ รียนเกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดงั นี้

๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร เปน็ ความสามารถในการรับและสง่ สาร มวี ัฒนธรรมในการใชภ้ าษา

ถา่ ยทอดความคิด ความรคู้ วามเข้าใจ ความรู้สกึ และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสารและ

ประสบการณอ์ นั จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพฒั นาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาตอ่ รองเพอื่ ขจัดและลด

ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรบั หรอื ไมร่ บั ขอ้ มลู ข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง ตลอดจนการ

เลือกใชว้ ิธีการส่อื สาร ท่มี ีประสทิ ธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบทีม่ ตี อ่ ตนเองและสงั คม

๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง

สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพือ่ นาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ

เพอ่ื การตดั สนิ ใจเกย่ี วกับตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ท่ีเผชญิ ได้

อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสมบนพื้นฐานของหลกั เหตผุ ล คณุ ธรรมและข้อมลู สารสนเทศ เขา้ ใจความสมั พันธ์และการ

เปลยี่ นแปลงของเหตุการณต์ า่ ง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามร้มู าใช้ในการป้องกันและแก้ไข

ปัญหา และมกี ารตดั สนิ ใจท่มี ีประสิทธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบที่เกดิ ขึน้ ต่อตนเอง สังคมและสง่ิ แวดลอ้ ม

๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิตเปน็ ความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ใน

การดาเนินชวี ิตประจาวัน การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การเรียนรู้อยา่ งตอ่ เน่อื ง การทางาน และการอยรู่ ่วมกันใน

สงั คมดว้ ยการสร้างเสรมิ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปญั หาและความขดั แย้งตา่ ง ๆ อย่าง

เหมาะสม การปรับตวั ใหท้ นั กบั การเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จกั หลกี เล่ียง

พฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทีส่ ่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อนื่

๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมี

ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร

การทางาน การแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม

๔.๒ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้

สามารถอยูร่ ว่ มกับผอู้ ื่นในสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ในฐานะเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ดังน้ี

๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ซอื่ สัตยส์ จุ รติ

๓. มวี นิ ัย ๔. ใฝ่เรยี นรู้

๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. มุง่ มน่ั ในการทางาน

๗. รักความเป็นไทย ๘. มจี ติ สาธารณะ



๕. บทบาทของผู้สอนและผ้เู รยี น
การจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียน

ควรมีบทบาท ดังนี้
๕.๑ บทบาทของผู้สอน
๑) ศึกษาวเิ คราะห์ผูเ้ รยี นเปน็ รายบคุ คล แล้วนาข้อมูลมาใชใ้ นการวางแผน

การจัดการเรยี นรู้ ท่ีท้าทายความสามารถของผเู้ รียน
๒) กาหนดเป้าหมายท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดขนึ้ กับผูเ้ รียน ดา้ นความรู้และทกั ษะ

กระบวนการ ทีเ่ ป็นความคดิ รวบยอด หลกั การ และความสัมพนั ธ์ รวมทง้ั คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรูท้ ี่ตอบสนองความแตกตา่ งระหว่างบุคคลและ

พัฒนาการทางสมอง เพื่อนาผู้เรียนไปสู่เปา้ หมาย
๔) จัดบรรยากาศทเี่ อ้ือต่อการเรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือผเู้ รยี นใหเ้ กิดการเรยี นรู้
๕) จดั เตรียมและเลือกใชส้ อ่ื ใหเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม นาภมู ิปัญญาท้องถนิ่

เทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมมาประยกุ ต์ใช้ในการจัดการเรยี นการสอน
๖) ประเมนิ ความกา้ วหน้าของผเู้ รียนดว้ ยวิธกี ารทหี่ ลากหลาย เหมาะสมกับ

ธรรมชาติของวชิ าและระดบั พฒั นาการของผเู้ รยี น
๗) วเิ คราะหผ์ ลการประเมนิ มาใชใ้ นการซ่อมเสรมิ และพฒั นาผ้เู รยี น รวมท้งั

ปรบั ปรุงการจัดการเรียนการสอนของตนเอง
๕.๒ บทบาทของผเู้ รียน
๑) กาหนดเปา้ หมาย วางแผน และรับผิดชอบการเรยี นรู้ของตนเอง
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เขา้ ถงึ แหล่งการเรยี นรู้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ข้อความรู้

ต้งั คาถาม คิดหาคาตอบหรอื หาแนวทางแกป้ ัญหาดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ
๓) ลงมือปฏบิ ัติจริง สรปุ สง่ิ ท่ไี ด้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนาความร้ไู ปประยุกตใ์ ช้

ในสถานการณต์ า่ ง ๆ
๔)มีปฏิสมั พนั ธ์ ทางาน ทากิจกรรมรว่ มกบั กล่มุ และครู
๕)ประเมนิ และพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ของตนเองอยา่ งต่อเนอื่ ง

๖. พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ( ฉบับท่ี ๒ ) พ.ศ. ๒๕๔๕

หมวด ๔ แนวการจดั การศกึ ษา

มาตรา ๒๒ การจัดการศกึ ษาตอ้ งยดึ หลักวา่ ผู้เรียนทกุ คนมีความสามารถเรียนรู้และพฒั นา
ตนเองได้ และถอื ว่าผ้เู รียนมีความสาคญั ที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาตอ้ งส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รียนสามารถ
พัฒนาตามธรรมชาตแิ ละเตม็ ตามศักยภาพ

มาตรา ๒๓ การจัดการศกึ ษา ทง้ั การศกึ ษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษา
ตามอธั ยาศยั ตอ้ งเนน้ ความสาคญั ทง้ั ความรู้ คณุ ธรรม กระบวนการเรียนรู้ และบูรณาการตามความ
เหมาะสมของแต่ละระดบั การศึกษาในเร่อื งต่อไปนี้


(๑) ความร้เู รอื่ งเกยี่ วกับตนเอง และความสัมพนั ธ์ของตนเองกับสงั คม ไดแ้ ก่ ครอบครวั ชมุ ชน

ชาติ และสังคมโลก รวมถงึ ความร้เู กีย่ วกบั ประวัติศาสตร์ความเปน็ มาของสังคมไทยและระบบการเมอื ง
การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ

(๒) ความรแู้ ละทกั ษะดา้ นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รวมทงั้ ความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์
เรือ่ งการจัดการ การบารงุ รกั ษาและการใช้ประโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มอย่างสมดุลย่ังยืน

(๓) ความรเู้ ก่ียวกบั ศาสนา ศิลปะ วฒั นธรรม การกฬี า ภูมิปญั ญาไทย และการประยกุ ตใ์ ช้

ภูมิปัญญา
(๔) ความรู้ และทกั ษะดา้ นคณิตศาสตร์ และด้านภาษา เน้นการใช้ภาษาไทยอย่างถูกตอ้ ง

(๕) ความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพและการดารงชวี ติ อย่างมีความสขุ
มาตรา ๒๔ การจดั กระบวนการเรียนรู้ ให้สถานศึกษาและหน่วยงานท่ีเกย่ี วข้องดาเนินการ
ดงั ตอ่ ไปนี้

(๑) จัดเน้ือหาสาระและกจิ กรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน
โดยคานงึ ถึงความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล

(๒) ฝึกทกั ษะ กระบวนการคิด การจดั การ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกตค์ วามรู้
มาใช้เพอ่ื ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา

(๓) จัดกิจกรรมใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัตใิ ห้ทาได้ คิดเปน็

และทาเป็น รักการอ่านและเกดิ การใฝ่รู้อยา่ งตอ่ เนือ่ ง
(๔) จดั การเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรดู้ ้านต่าง ๆ อย่างไดส้ ดั สว่ นสมดลุ กนั

รวมทง้ั ปลูกฝงั คุณธรรม ค่านิยมท่ีดีงามและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ไวใ้ นทุกวชิ า
(๕) สง่ เสริมสนบั สนนุ ให้ผู้สอนสามารถจดั บรรยากาศ สภาพแวดล้อม สอ่ื การเรยี น และอานวย

ความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และมีความรอบรู้ รวมทั้งสามารถใชก้ ารวจิ ยั เปน็ สว่ นหนง่ึ ของ

กระบวนการเรียนรู้ ทง้ั น้ี ผู้สอนและผเู้ รียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกนั จากส่ือการเรยี นการสอนและแหลง่
วิทยาการประเภทต่าง ๆ

(๖) จดั การเรยี นรใู้ ห้เกดิ ข้นึ ได้ทกุ เวลาทุกสถานที่ มกี ารประสานความรว่ มมอื กับบดิ ามารดา
ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชนทกุ ฝ่าย เพื่อรว่ มกนั พัฒนาผเู้ รียนตามศักยภาพ

มาตรา ๒๕ รัฐตอ้ งส่งเสริมการดาเนนิ งานและการจัดตัง้ แหล่งการเรยี นรูต้ ลอดชวี ติ ทกุ รูปแบบ

ได้แก่ หอ้ งสมุดประชาชน พิพิธภณั ฑ์ หอศลิ ป์ สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ อทุ ยาน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศูนยก์ ารกฬี าและนนั ทนาการ แหล่งขอ้ มลู และแหลง่ การเรยี นรอู้ นื่ อย่าง

พอเพียงและมีประสิทธิภาพ
มาตรา ๒๖ ให้สถานศึกษาจดั การประเมินผูเ้ รยี นโดยพจิ ารณาจากพฒั นาการของผู้เรียน

ความประพฤติ การสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี น การรว่ มกจิ กรรมและการทดสอบควบคู่ไปในกระบวน

การเรยี นการสอนตามความเหมาะสมของแตล่ ะระดับและรปู แบบการศกึ ษา
ให้สถานศึกษาใช้วิธกี ารทห่ี ลากหลายในการจดั สรรโอกาสการเข้าศกึ ษาต่อ และใหน้ าผลการประเมิน

ผ้เู รียนตามวรรคหนึ่งมาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย
มาตรา ๒๗ ใหค้ ณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐานกาหนดหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา

ข้นั พื้นฐานเพ่อื ความเปน็ ไทย ความเป็นพลเมอื งที่ดขี องชาติ การดารงชีวิต และการประกอบอาชพี

ตลอดจนเพอื่ การศึกษาต่อ



ใหส้ ถานศึกษาขัน้ พ้ืนฐานมีหน้าท่ีจัดทาสาระของหลักสตู รตามวัตถุประสงค์ในวรรคหน่งึ
ในส่วนที่เกย่ี วกับสภาพปญั หาในชมุ ชนและสงั คม ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์เพอื่ เป็น
สมาชิกท่ีดีของครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ

มาตรา ๒๘ หลักสูตรการศึกษาระดบั ต่าง ๆ รวมทั้งหลักสูตรการศกึ ษาสาหรบั บุคคลตาม
มาตรา ๑๐ วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ตอ้ งมีลักษณะหลากหลาย ทั้งนี้ ใหจ้ ัดตามความเหมาะสม
ของแตล่ ะระดบั โดยมุ่งพฒั นาคุณภาพชีวิตของบุคคลให้เหมาะสมแกว่ ัย และศกั ยภาพ

สาระของหลักสูตร ทง้ั ทเ่ี ปน็ วิชาการ และวชิ าชพี ต้องม่งุ พัฒนาคนใหม้ คี วามสมดุล ทัง้ ดา้ น
ความรู้ ความคิด ความสามารถ ความดงี าม และความรับผิดชอบตอ่ สงั คม

สาหรับหลักสตู รการศึกษาระดบั อดุ มศกึ ษา นอกจากคุณลกั ษณะในวรรคหนึ่ง และวรรคสองแล้ว
ยงั มคี วามมุ่งหมายเฉพาะทจ่ี ะพัฒนาวิชาการ วิชาชพี ช้นั สงู และการค้นควา้ วิจัย เพือ่ พัฒนาองคค์ วามรู้
และพัฒนาสงั คม

มาตรา ๒๙ ให้สถานศกึ ษาร่วมกบั บุคคล ครอบครวั ชุมชน องคก์ ารชมุ ชน องคก์ รปกครอง
ส่วนทอ้ งถิน่ เอกชน องค์กรเอกชน องคก์ รวิชาชพี สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบนั
สังคมอื่น ส่งเสรมิ ความเข้มแข็งของชมุ ชนโดยจัดกระบวนการเรยี นรู้ภายในชุมชน เพ่อื ใหช้ ุมชนมกี าร
จดั การศึกษาอบรม มกี ารแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร และรูจ้ กั เลอื กสรรภูมปิ ัญญาและวทิ ยาการตา่ ง ๆ
เพือ่ พฒั นาชุมชนให้สอดคลอ้ งกบั สภาพปัญหาและความตอ้ งการ รวมทัง้ หาวธิ กี ารสนับสนนุ ให้มีการ
แลกเปลีย่ นประสบการณก์ ารพัฒนาระหวา่ งชมุ ชน

มาตรา ๓๐ ให้สถานศกึ ษาพฒั นากระบวนการเรียนการสอนท่ีมีประสทิ ธิภาพ รวมทงั้ การ
สง่ เสริมให้ผู้สอนสามารถวิจยั เพือ่ พัฒนาการเรยี นรู้ทีเ่ หมาะสมกับผู้เรยี นในแตล่ ะระดับการศกึ ษา



โครงสรา้ งการสอนรายวิชา การงานอาชีพ รหสั วชิ า ง ๒๑๑๐๒

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี จานวน ๑ หนว่ ยกติ

จดุ หมายรายวชิ า
1. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเร่ืองการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้า
2. สามารถใชเ้ คร่อื งมือซอ่ มแซมเบ้อื งตน้ เคร่ืองใช้ภายในบ้านได้
3. มีความรู้ความเข้าใจในการประดิษฐ์ของใช้อยา่ งงา่ ยได้

4. มคี วามรคู้ วามเข้าใจในการเลอื กอาชพี ท่เี หมาะสมกับตนเอง

คาอธบิ ายรายวิชา

ศึกษาวเิ คราะหข์ ั้นตอนการทางาน ตามกระบวนการทางาน ตามลาดับขน้ั ตอนที่วางแผนไว้ การใช้
อุปกรณ์เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ภายในบา้ น งานช่าง งานประดษิ ฐ์ การซอ่ มแซมอุปกรณแ์ ละเครือ่ งมือเครอ่ื งใช้ รจู้ กั

การวางแผนการทางานเปน็ รายบคุ คลและเปน็ กลุ่ม
โดยใช้ทกั ษะกระบวนการกล่มุ ในการทางานร่วมกนั ด้วยความเสยี สละ ในการใชอ้ ปุ กรณเ์ ครื่องใชไ้ ฟฟ้า

ภายในบ้าน งานชา่ ง งานประดิษฐ์ การซอ่ มแซมอปุ กรณแ์ ละเครื่องมือเครอ่ื งใช้ ร้จู กั การวางแผนการทางาน

เปน็ รายบุคคลและเปน็ กลุ่ม
เพ่อื ให้เกดิ ความตระหนกั และเหน็ คุณค่าของการทางาน สามารถนาความรไู้ ปประยกุ ต์ใช้ใน

ชีวิตประจาวนั มีความสามารถในการตัดสินใจ มีจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสมและมีจติ สานึก
ในการใช้พลงั งาน ทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ ม

ตวั ช้ีวัด
ง.๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๑ ม.๑/๓

รวม ๓ ตัวชวี้ ัด

โครงสรา้ งรายวิชาพนื้ ฐาน

รหัสวิชา ง๒๑๑๐๒ รายวิชาการงานอาชพี 2 กลุม่ สาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกติ ภาคเรียนท่ี ๒

อัตราส่วนคะแนนระหวา่ งภาคเรยี น 80:20

ลาดับ ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั

ท่ี เรยี นรู้ เรียนร/ู้ (ช่ัวโมง) คะแนน

ตัวชว้ี ัด

๑ การใช้ มฐ.ง๑.๑ วิธีการเลอื กและวิธกี ารใช้งานเคร่ิองใช้ ๑๐ ๓๕

เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ม.๑/๑ ไฟฟา้ ไดเ้ หมาะสมและมีประสิทธิภาพ

ม.๑.๒

ม.๑.๓

๒ งานชา่ ง มฐ.ง๑.๑ การซ่อมแซมอุปกรณแ์ ละเคร่อื งมอื ๑๐ ๔๕

ม.๑/๑ เครือ่ งใช้ตามหลกั การทาใหก้ ารทางานมี

ม.๑.๒ ประสิทธภิ าพและ

ม.๑.๓ ฝึกทักษะการซอ่ มแซมเปน็ พน้ื ฐานในการ

ประกอบอาชีพ

๓ งานประดษิ ฐ์ มฐ.ง๑.๑ การทางานประดิษฐ์ให้ประสบความสาเร็จอยา่ งมี ๑๐ ๔๕
ม.๑/๑ คุณภาพน้ัน การทางานจะตอ้ งรูจ้ ักเลือกใช้
เคร่ืองมอื เครื่องใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เนอ่ื งจากงาน
ม.๑.๓ ประดิษฐ์หลายๆชนดิ ไมส่ ามารถปฏิบัติไดเ้ พียง

ลาพงั คนเดียว จาเปน็ ตอ้ งปฏบิ ัติร่วมกับผู้อนื่ จะ

ช่วยทาใหง้ านบรรลเุ ป้าหมายทก่ี าหนดและมี

คุณภาพ

๔ งานอาชีพ มฐ.ง๑.๑ การประกอบอาชีพจะประสบความสาเร็จได้ ผู้ ๑๐ ๓๕
ม.๑/๑ ประกอบอาชีพนน้ั จะต้องศึกษาขอ้ มูลของลักษณะ
ม.๑.๒ งานอาชพี ตามความสนใจและความถนัด มเี จตคติ
ท่ดี ีต่ออาชีพนั้น และเห็นถึงความสาคญั ของอาชพี
ม.๑.๓ ในการสรา้ งรายไดเ้ ล้ยี งชพี ตนและครอบครวั

๔๐ ๑๖๐

คะแนนจรงิ ๘๐

สอบกลางภาค ๑๐

สอบปลายภาค ๑๐

รวมคะแนน ๑๐๐

การวัดการประเมินผล

การวัดและการประเมนิ ผล ตลอดจนการตดิ ตามผลเพอื่ กาพฒั นาการเพื่อพฒั นาการเรียนการสอน

และการจดั ให้ผูเ้ รียนไดเ้ รียนหรือไดเ้ ลอ่ื นชัน้ ระหว่างปีหรอื ปลายปตี ามความสามารถของผู้เรยี นได้ทดสอบ

เปน็ ระยะและหรอื ทดสอบเมื่อจบแตล่ ะบทเรียนตามหลักการจัดประสบการณแ์ ละเนือ้ หาวชิ าท้ังนี้เปน็ ไปตาม

ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการประเมนิ ผลการเรียน เช่น อตั ราสว่ นระหวา่ งคะแนน

ระหว่างภาค:ปลายภาค = ๘๐:๒๐


Click to View FlipBook Version