The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mthavatchai, 2020-08-26 09:04:37

หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร2

หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร2

หลวงพ่อกวย ชุตนิ ธโร

วดั โฆษติ าราม ชัยนาท

หลวงพ่อกวย ชุตนิ ฺธโร

วดั โฆษติ าราม บ้านแค ต.บางขดุ อ.สรรคบรุ ี จ.ชัยนาท

หลวงพอ่ กวย ชุตนิ ฺธโร เดิมชื่อเดก็ ชายกวย ป้ันสน เกิด
วนั ที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๘ ปี มะเส็ง ณ หมู่บา้ น บา้ นแค หมู่
๙ ต.บางขดุ อ.สรรคบุรี จ.ชยั นาท เป็นบตุ รของคุณพอ่ ตยุ้ ป้ันสน
บา้ นเดิมอยวู่ เิ ศษชยั ชาญ จ.อ่างทอง มารดาชื่อคุณแม่ตว่ น เดชมา เป็ น
คนบา้ น แค ทา่ นท้งั สองมีบตุ รและธิดาดว้ ยกนั ๕ คน

คนท่ี ๑ ช่ือนายตุ๊ ป้ันสน คนที่ ๒ ชื่อนายคาด ป้ันสน คน
ที่ ๓ ชื่อนายช้ืน ป้ันสน คนท่ี ๔ ชื่อนางนาค ป้ันสน คนที่ ๕ พระกวย
ชุตนิ ฺธโร

เดก็ ชายกวย ป้ันสน เป็นบุตรคนสุดทอ้ งของบิดามารดา
ถือวา่ เป็นบตุ รคนเล็กท่ี ก็เป็ นทีร่ กั รกั ใคร่ของบิดามารดา เมื่อโตข้ึน
บิดา มารดาจงึ ไดน้ ามาฝากไวก้ บั หลวงป่ ขู วด ณ วดั บา้ นแค เพอื่
เรียนหนงั สือ ในสมยั น้นั บา้ นเมืองยงั เป็นป่ าเป็ นดง จะหาโรงเรียน
เรียนก็ยาก เพราะห่างไกลความเจริญ หลวงป่ ขู วด ไดไ้ ต่ถามถึงวนั
เดือน ปี เกิดของเดก็ ชายกวย ตลอดจนลกั ษณะผวิ พรรณ การ เดิน
และการพดู จา เดก็ ชายกวยมีวนั เดือนปี เกิดของมหาบรุ ุษ แสดงวา่ วนั
ขา้ งหนา้ จะไดด้ ีเป็นเจา้ คนนายคน ลกั ษณะสีผวิ สีผวิ ขาว เหลือง
แบบคนมีปัญญา สีผวิ ต่างจากบิดามารดา ริมฝีปากเลก็ แสดงวา่ เป็ น
คนพดู นอ้ ย ประกายตากลา้ แขง็ เด็ดเดี่ยว แสดงวา่ เป็น คนเดด็ เดี่ยว
เดด็ ขาด แตเ่ จา้ อารมณ์ การเดินกแ็ คล่วคล่องปราดเปรียว

หลวงป่ ขู วดไดพ้ อใจและรบั ไวเ้ ป็นศิษย์ไดส้ อนหนงั สือ
ก.กา สระ ตวั สะกด การันต์ แลว้ เรียนบวก, ลบ, คูณ, หาร จนคล่อง

เด็กชายกวยยงั ไดอ้ ่านหนงั สือธรรมบท บทสวดมนตต์ ่าง ๆ ของพระ
เดก็ ชายกวยก็ท่องไดท้ ้งั ๆ ท่อี ายเุ พยี ง ๖-๗ ขวบเทา่ น้นั หลวงป่ ขู วด
จึงไดใ้ หเ้ ด็กชายกวยเรียนหนงั สือขอม เรียนสูตร, สน นาม อีก
มากมาย เดก็ ชายกวยกเ็ รียนได้ จาได้

หลวงป่ ูขวดไดท้ ุม่ สติปัญญาในการสอนเด็กชายกวยจน
เตม็ กาลงั เพราะรู้ในชะตาของเดก็ ชายกวยวา่ วนั ขา้ งหนา้ อาจจะได้
บวชในพระศาสนา จะไดเ้ ป็นใหญ่เป็นโต ท้งั ๆ ท่ีหลวงป่ ขู วดชรา
ภาพมากแลว้

ตอ่ มา หลวงป่ ขู วดกม็ รณภาพ บดิ ามารดาจงึ ไดน้ า
เดก็ ชายกวยมาเรียนหนงั สือขอมต่อกบั อาจารยด์ า วดั หวั เด่น ซ่ึงใกล้
ๆ กบั วดั บา้ นแค เมื่อเรียนหนงั สือขอมจนแตกฉานแลว้ บิดามารดา
จึงไดพ้ าเดก็ ชายกวยมาเรียนทโ่ี รงเรียนวดั พร้าว ต.ดอนกา อ.สรรค
บุรี โดยเดินทางไปเรียนเพราะไม่ไกลนกั ไดส้ อบไล่ ช้นั ป.๑ และ ป.
๒ เด็กชายกวยแทบจะไม่ไดค้ วามรูอ้ ะไรเพม่ิ เตมิ เลย เพราะเดก็ ชาย
กวยไดเ้ รียนมากบั หลวงป่ ขู วดและอาจารยด์ ามาแลว้ แถมยงั มี
ความรู้มากกวา่ รุ่นเดียวกนั มากนกั ภาษาขอมกเ็ ขยี นได้ อ่านได้

แตกฉาน เด็กชายกวยจึงเบอ่ื ที่จะเรียนในโรงเรียนอีก จงึ ไดช้ ่วยบิดา
มารดาประกอบอาชีพทาไร่ไถนา

ระหวา่ งทีน่ ายกวยทาไร่ไถนาน้ี นาย กวยคดิ ถึงแต่หลวง
ป่ ูขวด คดิ ถึงแต่วดั การทาไร่ทานาหาไปใชไ้ ปไม่มีแก่นสาร หา
ประโยชน์อะไรไม่ได้ ช่วงน้ีตามคาบอกเล่าของผเู้ ฒ่าผแู้ ก่ บอกวา่
นายกวยไม่ไดป้ ระพฤตเิ ป็นคนเกเร เหมือนกบั คนเมืองสรรคบุรี
สมยั น้นั จากคาบอกเล่าของหลวงพอ่ กวยเอง เม่ือถามถึงชีวติ ในวยั
หนุ่ม ทา่ นเล่าวา่ ท่านเป็นคนซน คอื ซุกซน ชอบยงิ กระสุน (รูปร่าง
คลา้ ยธนู แตใ่ ชล้ ูกดินยงิ ) คือบา้ นไหนตอนกลางคนื ไม่ยอมปิ ดประตู
หนา้ ตา่ งใหด้ ี ทา่ นจะแกลง้ เอาคนั กระสุนยงิ เพอ่ื เตอื นใหเ้ จา้ ของ
บา้ นปิ ดประตูหนา้ ตา่ งใหด้ ี

ในวยั หนุ่มน้นั ทา่ นไดพ้ ดู กบั บดิ ามารดาวา่ ถา้ ตวั เองได้
บวชเม่ือไรจะบวชไม่สึก ซ่ึงทา่ นเคยเล่าใหค้ ุณยา่ ฉวย เทยี นจนั คน
หวั เด่น ผเู้ ป็ นพข่ี องคุณยายฉาย ซ่ึงเป็นผทู้ ีด่ ูแลท่านก่อนมรณภาพ
อายยุ า่ ฉวยมากกวา่ หลวงพอ่ ๓-๔ ปี ทา่ นไดเ้ ล่าถึงมูลเหตุของการ
บวชไม่สึกวา่ ตอนสมยั ท่านหนุ่ม ๆ ท่านมีคนรกั อยเู่ หมือนกนั ท่าน

เคยข้ึนหาคนรกั ของท่านในตอนกลางคืน โดยปี นหนา้ ตา่ งเขา้ ไปหา
ท่านไมไ่ ดพ้ ดู ไวว้ า่ ข้นึ หาบ่อยหรือไม่ และไมไ่ ดบ้ อกวา่ คนรกั ของ
ทา่ นช่ืออะไร

คืนวนั หน่ึงเดือนหงาย พระจนั ทร์เตม็ ดวง ทา่ นนดั กบั
คนรกั ของทา่ นวา่ จะไปหา แตเ่ มื่อทา่ นไปแลว้ ปรากฏไม่กลา้ เขา้ ไป
หา เพราะแสงจนั ทร์สวา่ งมากกลวั วา่ ทพี่ อ่ ตาจะเห็น ท่านไดค้ อย
จนกระทง่ั เดือนตก คือดึกมากแลว้ ท่านไดป้ ีนข้นึ ไปหาคนรกั ของ
ท่าน ปรากฏวา่ คนรักของทา่ น คอยทา่ นจนหลบั ไป ทา่ นไดเ้ ขา้ ไปดู
คนรกั ของทา่ นนอนหลบั อยู่ ผมผา้ ยงุ่ เหยงิ นอนอา้ ปากน้าลายไหล
ผา้ ผอ่ นเปิ ดคลา้ ยคนตาย คลา้ ยซากศพ หาความงามไมไ่ ดเ้ ลย ท่านได้
ถอยหลงั ออกมาแลว้ ปี นหนา้ ตา่ งกลบั และทา่ นไม่ไดไ้ ปหาคนรัก
ของทา่ นอีกเลย และไม่มคี นรกั อกี ความตอนน้ีคลา้ ยคลึงกบั เรื่อง
ของพระยสะในพทุ ธกาล แสดงวา่ หลวงพอ่ ไม่ยนิ ดีในกามคุณต้งั แต่
ก่อนบวช

เม่ือทา่ นอายคุ รบบวช บดิ ามารดาท่านจงึ ไดจ้ ดั การ
อุปสมบทให้ แตน่ ายกวยไดพ้ ดู กบั บดิ ามารดาวา่ ถา้ จะบวชใหต้ นก็

ขอใหบ้ วชกนั ที่วดั ไม่ใหจ้ ดั พิธีใหญ่โต ไม่ตอ้ งมีการแห่ แหน ให้
เปลืองเงินเปลืองทอง โดยท่านใหเ้ หตุผลของครูบาอาจารยค์ อื หลวง
ป่ ูขวดและอาจารยด์ าวา่ "พระเทศน์ก็ตอ้ งรูจ้ กั เวลา ผศู้ รทั ธาก็ตอ้ ง
รูจ้ กั กาลงั " บดิ ามารดาจงึ ไดพ้ านายกวยไปหาอุปัชฌาย์ คือ พระ
ชยั นาทมุนี จดั การโกนหวั บวชให้ มีหลวงพอ่ ปา เป็นพระ
กรรมวาจาจารย์ พระอาจารยห์ ร่ิงเป็ นอนุสาวนาจารย์ บวชเมื่อวนั ที่
๕ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ เวลา ๑๕ นาฬิกา ๑๗ นาที อายุ ๒๐
ปี ณ วดั โบสถ์ ต.โพธ์ิงาม อ.สรรคบุรี จ.ชยั นาท มีฉายาวา่ ชุตินฺธโร
แปลวา่ "โลกน้ีมีแต่ความวนุ่ วายของโลก หนกั ไปดว้ ยกิเลส ตณั หา
คอื โลภ โกรธ หลง ทงั่ ส้ิน ถา้ ท่านผใู้ ดตดั กิเลส ตณั หาไดก้ ็จะถึงซ่ึง
ฝ่ังพระนิพพาน"

เมื่อบรรพชาอุปสมบทแลว้ กก็ ลบั มาจาพรรษาอยวู่ ดั
บา้ นแค ตอนน้นั หลวงป่ มู า เป็ นเจา้ อาวาสอยู่ พระกวย ชุตินฺธโร จึง
หดั เทศน์เวสสนั ดรชาดก กนั ฑก์ ุมาร, ทานกณั ฑ์ ในแถบน้นั สมยั น้นั
ไม่มีใครสูท้ ่านไดเ้ ลย ท่านเทศนแ์ หล่หญิงหมา้ ยกล่าวถึงพระนาง
มทั รี และเทศนแ์ หล่ชายหมา้ ย กล่าวถึงพระเวสสนั ดรตอ้ งไปอยปู่ ่ า

หิมพานต์ ถา้ ไม่มีพระนางมทั รีตามเสด็จไปดว้ ย ก็จะเป็นชายหมา้ ย
ส่วนพระนางมทั รี กจ็ ะเป็นหญิงหมา้ ย ทา่ นเทศนแ์ หล่ถึงการเป็ น
หญงิ หมา้ ยชายหมา้ ย มีแตค่ นนินทาวา่ ร้าย คงจะไม่ดีสามีถึงไดท้ ิง้
คร้นั แตง่ ตวั คนเขากว็ า่ คงอยากจะมีผวั จนตวั สน่ั คร้นั ไม่แต่งตวั คน
เขาก็วา่ รูปร่างข้รี ิ้วข้ีเหร่ สามีถึงไดท้ ิ้ง ส่วนชายหมา้ ยน้นั ก็น่าสงสาร
มีแต่คนเขาวา่ คงจะไม่ดีเมียถึงไดท้ ง้ิ คงจะเป็นคนเกเร เป็นนกั เลง
สุรา หรือนกั เลงการพนนั จะอยจู่ ะกินก็อด ๆ อยาก ๆ ลูกเตา้ หรือก็
ขะมุกขะมอม บา้ นกผ็ กุ ็พงั เพราะขาดกาลงั ใจ ทา่ นแหล่ขนาดหญิง
หมา้ ย ชายหมา้ ย ไม่อาจนง่ั ฟังบนศาลา ตอ้ งหลบไปแอบฟังทใ่ี ต้
ตน้ ไม้ บางคนนงั่ น้าตาไหลเป็นบาง บางคนร้องไหโ้ ฮ

ช่ือเสียงของทา่ นในการเทศนท์ านกณั ฑน์ ้นั โด่งดงั มาก
แตก่ ณั ฑอ์ ื่น ๆ หลวงพอ่ ก็เทศนไ์ ม่ดีนกั เพราะการเทศนเ์ วสสนั ดร
ชาดกน้นั พระนกั เทศนต์ อ้ งตลกคะนอง แตห่ ลวงพอ่ ไม่ชอบตลก
คะนอง ปัจจบุ นั ใบในการเทศน์ของทา่ นยงั อยทู่ ี่วดั หลวงพอ่ เขยี น
ไวว้ า่ พระกวยสรา้ งถวาย แลว้ ตอกตรารูปสิงห์ชูคอเอาไว้

อยตู่ ่อมาหลวงพอ่ ไดห้ ยดุ เทศนโ์ ดยหลบหรือแอบไป
เรียนวิชาแพทยโ์ บราณกบั หมอเขียน หมอเขยี นคนน้ีสามารถรักษา
โรคระบาด หรือโรคห่าได้ ตอนน้นั คนเป็ นโรคระบาดทบ่ี า้ นโคก
ชา้ ง ผคู้ นลม้ ตายเป็นจานวนมาก หมออ่ืน ๆ ก็ตาย เหลือหมอเขยี น
คนเดียว สามารถรักษาโรคห่า, โรคไขท้ รพษิ ได้

ในวนั ท่ี ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๒ พระกวยไดม้ าเรียน

ปริยตั ิธรรม เพอื่ ใหเ้ จริญในศาสนา ไดม้ าอยวู่ ดั วงั ขรณ์ ต.โพธ์ิชนไก่

๒ พรรษา ในพรรษาตอ่ มาไดเ้ รียนธรรมโท แต่พอสอบไล่ เป็ นไข้

ไม่สบายเลยไม่ไดส้ อบ จงึ มาคดิ ไดว้ า่ ปริยตั ิธรรมก็เรียนมา

พอสมควร จงึ อยากจะเรียนวปิ ัสสนากรรมฐานและอาคมตลอดจน

วธิ ีทาเคร่ืองรางของขลงั จงึ ไดเ้ ดินทางไปเรียนวิชากบั หลวงพอ่ ศรี

วริ ิยะโสภิต แห่งวดั พระปรางค์ จ.สิงห์บรุ ี

หลวงพอ่ ศรีองคน์ ้ีเชี่ยวชาญในวปิ ัสสนากรรมฐานมาก
เก่งที่สุดในจงั หวดั สิงหบ์ รุ ีในขณะน้นั หลวงพอ่ ไดเ้ รียนวชิ าทา
แหวนน้ิว ซ่ึงแหวนน้ิวของหลวงพอ่ ศรี วดั พระปรางค์ ใตท้ อ้ งวงจะ

ตอกตวั ขอมอ่านวา่ อิติ ของหลวงพอ่ กเ็ ช่นกนั และไดเ้ รียนวชิ าอีก
หลายอยา่ ง

ไดจ้ าพรรษาอยวู่ ดั หนองตาแกว้ ต.โคกชา้ ง อ.เดิมบาง
นางบวช จ.สุพรรณบรุ ี ที่วดั ตาแกว้ น้ี หลวงพอ่ ไดป้ ลูกตน้ สมอไว้ ๑
ตน้ ปัจจุบนั ยงั อยู่ หลวงตาสมาน เคยไปอยวู่ ดั หนองตาแกว้ ไดน้ าไก่
แจเ้ อาไปนอนบนตน้ สมอ ปรากฏวา่ ไก่ไม่ยอมนอน ไม่ทราบวา่
หลวงพอ่ ไดล้ งวชิ าอะไรไว้ ท้งั ๆ ทีห่ ลวงพอ่ เพง่ิ อายุ ๒๘ ปี พรรษา
ได้ ๘ พรรษา แสดงวา่ หลวงพอ่ เป็นผมู้ ีอาคมต้งั แตย่ งั เป็นพระหนุ่ม
ไดจ้ าพรรษาทีว่ ดั หนองตาแกว้ ๑ พรรษา

ในวนั ที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๗ ไดม้ าจาพรรษาทว่ี ดั
หนองแขม ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชยั นาท อีก ๑ พรรษา ไดเ้ รียน
แพทยแ์ ผนโบราณตอ่ กบั โยมป่ วน บา้ นหนองแขม และเรียนแพทย์
แผนโบราณต่อกบั หมอใย บา้ นบางน้าพระ ในขณะทพ่ี กั จาพรรษาที่
วดั หนองแขม ไดม้ ีเพอื่ นภิกษชุ ่ือ แจม่ ไดเ้ ดินทางท่องเท่ยี ว ไปพบ
ตาราเป็นสมุดขอ่ ยอยใู่ นโพรงไม้ แตเ่ อามาไมไ่ ด้ เพราะตาราน้นั มี
อาถรรพณ์แรงมาก คลา้ ยมีเทพและเทวดารกั ษา จงึ ไดม้ าชกั ชวนพระ

กวยใหไ้ ปดู ปรากฏวา่ มีตาราอยโู่ พรงไมจ้ ริง มีรอยคนเอาพวงมาลยั
ดอกไม้ ธูปเทยี นมาบชู าใตโ้ คนไม้

พระภิกษกุ วย จึงไดจ้ ดุ ธูปบอกเล่าและอธิษฐานวา่

"ถา้ จะใหข้ า้ พเจา้ เอาตาราน้ีไปเก็บรกั ษาไว้ ขอธูปท่ีจดุ น้ี
ใหไ้ หมใ้ หห้ มดดอก"

แตป่ รากฏวา่ ธูปไดไ้ หมไ้ ม่หมด พระภกิ ษกุ วยจึงไดเ้ สี่ยง
สตั ยอ์ ธิษฐานข้ึน มาใหม่วา่

"ถา้ หากวา่ ทา่ นจะใหต้ าราน้ีใหข้ า้ พเจา้ เอาไปเกบ็ รกั ษา
ไว้ ขา้ พเจา้ จะนาเอาตาราน้ีไปทาประโยชน์แก่วดั และช่วยเหลือ
ประชาชนเทา่ น้นั "

แลว้ ก็จุดธูปข้ึนเป็ นคร้ังสุดทา้ ยปรากฏวา่ ธูปไดไ้ หม้
หมดท้งั ๓ ดอก หลวงพอ่ จึงไดก้ รวดน้าอุทศิ ส่วนกุศลใหเ้ จา้ ของ
ตาราและอญั เชิญเอาตาราน้นั มาเกบ็ ไวต้ ่อมามีคนร่าลือกนั วา่ มีคน ๆ
หน่ึงไดน้ าตาราชุดน้ีมาเก็บไวใ้ นบา้ น ไดเ้ กิดเหตวุ บิ ตั ิ เจบ็ ไขล้ ม้ ตาย
จงึ เอาตาราชุดน้ีมาทง้ิ ไวด้ งั กล่าว

พระภิกษกุ วย เมื่อไดข้ ่าวดงั น้นั กม็ าเปิ ดตาราดู กป็ รากฏ
วา่ มีลายลกั ษณ์อกั ษรบอกไวใ้ นตาราวา่ ตาราน้ีหา้ มเอาไปไวบ้ า้ น
ใคร ๆ ท้งั ส้ิน มิฉะน้นั จะฉิบหาย พระภกิ ษุกวยจึงไดศ้ กึ ษาตารายนั ต์
และคาถาจากตาราเล่มน้ี ปัจจุบนั ตาราเล่มน้ียงั อยทู่ ว่ี ดั หนา้ ปกเขยี น
วา่ “ครูแรง” ดว้ ยสีแดง ปกติไม่มีใครกลา้ หยบิ ตอ้ ง ผเู้ ขยี นเคยขอรอ้ ง
ใหท้ ่านอาจารยส์ ารวย เจา้ อาวาสหยบิ มาใหด้ ู ๑ คร้งั ผมไดจ้ ุดธูป
บอกเล่าหลวงพอ่ และเจา้ ของตาราขอสมาโทษ ไดข้ อสมาตอ่ หลวง
พอ่ วา่

"ผมไอค้ รู ศิษยค์ นเลก็
ของหลวงพอ่ ตอนหลวงพอ่ มีชีวติ
อยู่ ผมไม่กลา้ ที่จะล่วงเกินหลวงพอ่
แมแ้ ตน่ อ้ ย เคารพหลวงพอ่ ดุจบิดา
แต่วนั น้ี อาจเอ้ือมเปิ ดตาราของ
หลวงพอ่ เปรียบเสมือนครูบา
อาจารยข์ องหลวงพอ่ ขอหลวงพอ่

จงอยา่ ไดถ้ ือโกรธ หากพระมนตบ์ ทใด หลวงพอ่ จะให้ ขอให้ผมจา
ไดเ้ พยี งทอ่ งแค่ ๓ คร้ัง"

ผมไดเ้ ปิ ดตาราดู ในตารามีพระมนตแ์ ละยนั ตต์ ่าง ๆ
มากมายหลายร้อยยนั ต์ เป็นยนั ตก์ นั อาวธุ , กนั กระทา, กนั คุณ, กนั
ของ คาถากม็ มี ากมายหลายบท เป็นภาษาของคนโบราณ แตม่ ีบท
หน่ึงเขยี นไวว้ า่ พระมนตพ์ ระพทุ ธเจา้ ชนะมาร ใชเ้ รียกนางแม่ธรณี
ใชท้ าน้ามนต์ ฆราวาสหา้ มเรียน ในพระมนตน์ ้ีไดเ้ ขยี นถึงการใช้
มนตใ์ นทางทดี่ ี และใชไ้ ปในทางที่ร้าย คอื มนตด์ า ผมเลยตดั สินใจ
อธิษฐานขอเรียนท่องเพยี ง ๒ คร้ัง กจ็ าไดแ้ ลว้ ปิ ดตารามอบคืนให้
ท่านอาจารยส์ ารวย

เรื่องตารายนั ตท์ ี่หลวงพอ่ คดั ลอกและเรียนมาน้ี ปัจจบุ นั
อยทู่ ี่อาจารยเ์ หวยี น มณีนนั คนทาทอง ต.ปากน้า อ.เดิมบาง จ.
สุพรรณบุรี ๑ เล่ม เกบ็ รักษาอยทู่ ่ีวดั ท่าทอง แขวนไวใ้ นกุฏิไมม่ ีใคร
กลา้ ยงุ่ อยทู่ ีอ่ าจารยต์ ้วั ๑ เล่ม อยทู่ อ่ี าจารยแ์ สวง วดั หนอง อีดุก อ.
สรรคบุรี จ.ชยั นาท ๑ เล่ม ส่วนท่วี ดั มีหลายเล่ม มีอยเู่ ล่มหน่ึงเป็ น
ตาราภาษาไทย มองดูก็ธรรมดา หลวงพอ่ ห่อปกไวอ้ ยา่ งดี ใส่พานไว้

บชู าหนา้ ปกเขยี นวา่ ทางมรรคผล ลายแทงนิพพานเขียนโดยหลวง
พอ่ สด วดั ปากน้า รบั หนงั สือไว้ พ.ศ. ๒๕๐๒ ปี น้นั หลวงพอ่ สด
มรณภาพแลว้ ตาราน้ีปัจจบุ นั ยงั อยใู่ นพานหนา้ โตะ๊ หมู่ท่าน กรุณา
อยา่ ไปแตะตอ้ ง บางคนกลบั ไปบา้ นไม่สบายเพอ้ คลงั่ ปวดหวั กม็ ี
เขา้ ใจวา่ หลวงพอ่ ไดศ้ ึกษาตาราเล่มน้ีในบ้นั ปลายของชีวติ

เมื่อหลวงพอ่ ออกจากวดั หนองแขมแลว้ ไดไ้ ปจาพรรษา
ที่วดั บางตาหงาย อ.บรรพตพสิ ัย จ.นครสวรรค์ ไดม้ าเรียนวชิ ากบั
หลวงพอ่ เดิม วดั หนองโพ ไดเ้ รียนวชิ าทา แหวนแขน, ตะกรุด, มีด
หมอ และอ่ืน ๆ และไดเ้ รียนวชิ ารกั ษาโรคกระดูกหกั จากหลวงพอ่
เคน วดั ดงเศรษฐี จ.อุทยั ธานี เขา้ ใจวา่ หลวงพ่อคงจะเรียนวชิ ากบั
หลวงพอ่ องคอ์ ื่น ๆ อีก เพราะในตารารกั ษาไข้ ยงั ไดก้ ล่าวถึงครูของ
ท่านองคห์ น่ึงคอื หลวงพอ่ พวง วดั หนองกระโดน กบั หลวงพอ่ กนั
วดั เขาแกว้ ก็เขา้ ใจวา่ ชอบพอกนั เพราะหลวงพอ่ เคยทาพระพมิ พ์
ยอดขนุ พล แลว้ นาเหรียญหลวงพอ่ กนั กดลงไปดา้ นหลงั

ศษิ ยร์ ่วมรุ่นของหลวงพอ่ ท่เี ป็ นท่รี ู้กนั คอื หลวงป่ พู มิ พา
วดั หนองตางู อ.บรรพตพสิ ยั คอื คร้ังหน่ึง พระโชน วดั หวั เด่น ไดไ้ ป

กราบหลวงป่ ู หลวงป่ ไู ดพ้ ดู วา่ สรรคบรุ ี ไม่รู้จกั ท่านกวยหรือ พระ
โชนไดพ้ ดู วา่ เป็นศษิ ยค์ รบั หลวงป่ ูหวั เราะชอบใจใหญ่เลย ไดพ้ ดู วา่
"ทา่ นกวยเขาใจจริง" เรียนวชิ ามาดว้ ยกนั เขาใจจริง เขาไม่กลวั อะไร

จากคาบอกเล่าจากพระภิกษแุ บนและพระหลวงตา
ตลอดจนศษิ ยร์ ุ่นเก่าไดพ้ ดู ตรงกนั วา่ หลวงพอ่ กวยตอนท่อี ยทู่ ว่ี ดั ก็
เป็นพระทีม่ ีอาคมเหมือนพระทวั่ ๆ ไป แต่เมื่อท่านกลบั มาจากเรียน
วชิ าจากเมืองเหนือ (หมายถึง นครสวรรค)์ เม่ือท่านกลบั มาท่านเก็บ
ตวั พดู นอ้ ย มีจิตมหศั จรรย์ วาจาสิทธ์ิ เหนือกวา่ พระทว่ั ไป

เร่ืองท่หี ลวงพอ่ ไปเรียนวชิ ามากบั หลวงพอ่ เดิมน้ี มี
หลกั ฐานคือมีรูปถ่ายของหลวงพอ่ เดิม มีจารดว้ ยลายมือ พบในกุฏิ
ของหลวงพอ่ หลกั ฐานอีกอยา่ งหน่ึงคอื ลุงลอน คนสกั ยนั ตแ์ ทน
หลวงพอ่ กม็ ี มี ๒ รูป สมยั น้นั เดินไป หลงั สงคราม หลวงพอ่ จะไป
เรียนวชิ าทาทอง เล่นแร่แปรธาตุ แต่หลวงพอ่ เดิมไม่สอนให้ ในช่วง
น้ีไม่ปรากฏหลกั ฐานวา่ หลวงพอ่ กลบั วดั บา้ นแคเม่ือไร แตก่ ่อน พ.ศ.
๒๔๘๔

เมื่อหลวงพอ่ กลบั มาอยวู่ ดั บา้ นแค หลวงพอ่ ไดท้ าการ
สกั ใหศ้ ิษย์ มีช่ือเสียงโด่งดงั มาก ขนาดสกั กนั ท้งั กลางวนั กลางคืน
ทางเดินสมยั ก่อนตอ้ งเดินเทา้ เอา ลาบากมาก อยา่ งดีกข็ ่จี กั รยาน รถ
๒ แถว มีเขา้ วดั ๑ คนั ออก ๑ คนั เท่าน้นั มีศษิ ยส์ กั มาก ไดจ้ ดบญั ชี
ไว้ ๔ หม่ืน ๔ พนั คน แลว้ หลวงพอ่ ก็ไมไ่ ดจ้ ดชื่อศิษยอ์ ีกเลย ไม่ถาม
แมแ้ ตช่ ื่อ ศิษยส์ กั ของหลวงพอ่ หลายคนยงิ ไม่ออก เป็นเรื่องแปลก
มาก ท่ีคนธรรมดาจะยงิ ไม่ออก

ต่อมา หลวงพอ่ เห็นวา่ สมควรแก่เวลา หลวงพอ่ ไดห้ ยดุ
สกั หลวงพอ่ ไดพ้ ดู กบั ศษิ ยว์ า่ ถา้ ท่านไม่เลิกสกั หลงั คากุฏิท่าน
สามารถเอาแบงคร์ อ้ ยมามุงหลงั คาแทนได้ (สมยั น้นั แบงค์ ๕๐๐
แบงค์ ๑,๐๐๐ ยงั ไม่มี) แลว้ หลวงพอ่ กท็ าแต่เรื่องรางของขลงั เช่น
ตะกรุด, มีดหมอ, แหวนแขน, พระพมิ พ์ ฯ

ในสมยั น้นั เมื่อเสือ (หมายถึงโจร) เดินผา่ นวดั หลวงพอ่
ตอ้ งยงิ ปื นถวายทกุ คร้ัง ท้งั กลางวนั กลางคนื

ในวนั ท่ี ๑ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๙๑ หลวงพอ่ ไดร้ ับแต่งต้งั
ใหเ้ ป็ นเจา้ อาวาส เขา้ ใจวา่ หลวงพอ่ คงจะกลบั วดั บา้ นแคมากอ่ นหนา้

น้ีหลายปี เพราะจากคาบอกเล่าของคนเก่าเล่าไวว้ า่ ในสมยั
สงครามโลกคร้ังท่ี ๒ พ.ศ. ๒๔๘๔ หลวงพอ่ ไดม้ าอยทู่ ่ีวดั บา้ นแค
แลว้ ไดน้ าตะกรุดของครูบาอาจารยม์ าแจก เป็นของหลวงพอ่ ศรี วดั
พระปรางคก์ ็มี เป็นของหลวงพอ่ เดิมก็มี เป็นงากม็ ี ท่หี ลวงพอ่ ทาเอง
ก็มี เพราะมีคนมาขอกนั มาก ตลอดจนสมยั น้นั มีเสือเขา้ มาปลน้ บา้ น
กนั มากมาย บา้ นเมืองขา้ วยากหมากแพง ผคู้ นเดือดร้อน บา้ งก็
เจบ็ ป่ วย ไม่มีหมอ ไมม่ ียา พระกวยก็ช่วยจนสุดกาลงั คนก็เรียกกนั
วา่ อาจารยก์ วยบา้ ง หลวงพอ่ กวยบา้ ง หลวงพอ่ คร่าเคร่งสกั ใหศ้ ษิ ย์
บา้ ง แจกเคร่ืองรางบา้ ง พระบา้ ง, ตะกรุดบา้ ง, รักษาโรคบา้ ง
บา้ นเมืองกเ็ กิดขา้ วยากหมากแพง หลวงพอ่ จงึ ตดั สินใจถือธุดงควตั ร
ขอ้ ฉนั อาการเพยี งม้ือเดียวมาตลอด ต้งั แต่ พ.ศ. ๒๔๘๔ เรื่อยมา

ในวนั ท่ี ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ไดร้ บั แตง่ ต้งั เป็นพระ
กรรมวาจาจารย์ (คู่สวด)

ผลงานทางศาสนา

หลวงพอ่ ไม่ชอบการก่อสรา้ ง ชอบความเป็ นอยแู่ บบ
สมถะ แมก้ ฏุ ิของหลวงพอ่ ก็เป็นไมท้ รงไทยโบราณ แต่การก่อสรา้ ง
น้นั หลวงพอ่ ยกหนา้ ทใ่ี หก้ รรมการวดั แมก้ ารก่อสร้างกใ็ ห้
กรรมการวดั และชาวบา้ นทา ยกเวน้ ส่วนท่ยี ากจึงจา้ งช่างทา ฉะน้นั
ทางวดั จึงมีแตก่ ุฏเิ ก่า ๆ ที่สร้างใหม่กม็ ีมีแตพ่ ระอุโบสถ, ศาลาทาบุญ
กฏุ ชิ ุตนิ ฺธโร ท่ศี ิษยส์ รา้ งถวายเทา่ น้นั

วนั ท่ี ๕ ธนั วาคม ๒๕๑๑ ไดร้ ับพระราชทานสมณศกั ด์ิ
เป็นพระครูช้นั ประทวน และมรณภาพเม่ือวนั ท่ี ๑๒ เมษายน พ.ศ.
๒๕๒๒ อายุ ๗๔ ปี ๕๔ พรรษา ดว้ ยอาการสงบ

ก่อนหนา้ น้ี ในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ หลวงพอ่ ไดเ้ ขา้ รับการ
รกั ษาทโี่ รงพยาบาลพญาไท หมอไดว้ นิ ิจฉนั โรค วา่ หลวงพอ่ เป็ น
โรคขาดอาหารมาเป็นเวลา ๓๐ ปี ไดใ้ หส้ ารอาหารประเภทโปรตีน
กบั หลวงพอ่ เป็นเวลาถึง ๑ เดือน กย็ งั ไม่เพยี งพอกบั ความตอ้ งการ
ของร่างกาย

เมื่อกลบั วดั หลวงพอ่ ก็ยงั ไดฉ้ นั อาหารเพยี งวนั ละ ๑ คร้งั
เช่นเดิม โดยไม่เปล่ียนความต้งั ใจ หลวงพอ่ ยงั คงคร่าเคร่งในการ
สร้างและปลุกเสกวตั ถุมงคล ดูเหมือนจะหนกั กวา่ เก่า สุขภาพหลวง
พอ่ มองดูภายนอกก็แขง็ แรง ไม่มีโรคภยั เบียดเบียน

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ หลวงพอ่ ไดว้ งปฏิทนิ
วนั ท่ีทา่ นเริ่มเจบ็ เอาไวด้ ว้ ยสีน้าเงิน และวงปฏทิ นิ วนั ทที่ ่าน
มรณภาพเอาไวด้ ว้ ยตวั หนงั สือสีแดง คือวนั ที่ ๑๑ มีนาคม และ ๑๑
เมษายน ๒๕๒๒ พร้อมท้งั เขียน พระคาถา นะโมตาบอด ใหไ้ วเ้ ป็ น
คาถาแคลว้ คลาดและกาบงั หลวงพอ่ เขยี นวา่

"อาตมาภาพพระกวย " นะตนั โต นะโมตนั ติ ตนั ติ ตนั โต
นะโม ตนั ตนั " จะมรณภาพ วนั ท่ี ๑๑ เมษายน เวลา ๗ นาฬิกา ๕๕
นาที"

พอวนั ท่ี ๑๑ มีนาคม หลวงพอ่ กล็ ม้ ป่ วย ไม่มีโรคอะไร
เพยี งแต่ไม่มีกาลงั ฉนั อาหารไม่ได้ ไม่ยอมไปโรงพยาบาล มีอาการ
ไขแ้ ทรก ฉนั อาหารแทบไม่ไดเ้ ลย ไม่มีรสชาติ บางคร้งั ทา่ นพน่ ขา้ ว
ออกจากปาก ไม่ยอมฉนั แลว้ หยบิ แผน่ ตะกรุดข้ึนมาจาร บางคร้งั ก็

จบั สายสิญจน์ ปลุกเสกวตั ถุมงคล กลางคนื กจ็ บั สายสิญจนป์ ลุกเสก
วตั ถุมงคล บางคนื ถึงสวา่ ง ร่างกายของทา่ นปกตกิ ผ็ อมมากอยแู่ ลว้
กลบั ผอมหนกั เขา้ ไปอกี

เม่ือมีศษิ ยม์ าเยย่ี ม ศิษยเ์ ห็นทา่ น หลายคนร้องไห้ ทา่ น
ไม่ชอบ แทบทุกคนจะรอ้ งไห้ ท่านจะดุศษิ ยว์ า่

"มึงร้องไหท้ าไม กไู ปดี เป็นห่วงแต่พวกมึงนนั่ แหล่"

ช่วงหวยใกลจ้ ะออก ท่านไดเ้ ขยี นเลขหวย 3 ตวั เอาไวใ้ น
ฝ่ ามือ ใครทีไ่ ปเยย่ี มทา่ น คนไหนมีโชคลาภ ท่านจะแบมือใหด้ ู
ในช่วงน้นั (ความจริงตอนน้ีไม่อยากเล่า)

ผมไดเ้ ขา้ ไปเยย่ี มท่าน เป็นการกราบลาคร้ังสุดทา้ ย นึก
ข้ึนมาคร้งั ใดน้าตาไหลทุกท่ี พอผมข้นึ บนั ไดกุฏิ ตอนน้นั อาจารยต์ ้วั
ไดม้ าบอกวา่ ถา้ เขา้ ไปเยยี่ มท่าน หา้ มไม่ใหร้ ้องไห้ ท่านไม่ชอบ
เดี๋ยวทา่ นดุเอา ผมก็เขา้ ใจ ช่วงน้นั ผมงานยงุ่ ไม่ไดม้ าเยยี่ มท่านเสีย
นาน เม่ือเขา้ ไปหาทา่ น ไดเ้ ขา้ ไปกราบทีป่ ลายเทา้ ผมไม่แน่ใจวา่

ทา่ นจะจาผมไดห้ รือไม่ เพราะทา่ นผอมไปมาก ผมไดถ้ อดตะกรุด
แม่ทพั ที่ท่านทาใหท้ า่ นดู เผอื่ ทา่ นจาผมไมไ่ ด้ ทา่ นอาจจาตะกรุดได้

เมื่อทา่ นเห็นผม น้าตาทา่ นไหล ท่านพดู วา่ "ไอค้ รู มึง
ทาไมพ่งึ มา กคู อยมึงต้งั นานแลว้ "

พอผมเห็นน้าตาท่านไหล และทา่ นพดู วา่ ท่านคอยผมต้งั
นานแลว้ ผมรอ้ งไหโ้ ฮ ไม่เกรงใจใครแลว้ อาจารยต์ ้วั ไดด้ ึงผมใหไ้ ป
ร้องไหข้ า้ งนอก กลวั ทา่ นจะสะเทือนใจมากไป เม่ือสงบดีแลว้ ผมได้
เขา้ ไปหาท่านใหม่ ทา่ นใหเ้ ดก็ ชายท่ไี ปหยบิ ห่อพระมาใหผ้ ม ๒ ห่อ
ห่อดว้ ยผา้ ยนั ตค์ า่ ยกล ห่อหน่ึงเป็นพระพมิ พส์ รรค์ อีกห่อหน่ึงเป็น
พระสมเดจ็ หลงั รูป เตม็ องค์ พมิ พใ์ หญ่ ท่านพดู วา่ หลงั รูปเอาไวแ้ บ่ง
กนั ใช้ พระสรรคใ์ หเ้ อาเก็บไว้ แลว้ ท่านกไ็ ม่พดู อะไรอีกเลย ท่าน
หลบั ตาเขา้ สมาธิ

วนั ท่ี ๑๐ เมษายน กลางคนื มีศษิ ยม์ าเฝา้ ท่านเตม็ ไปหมด
ตอนเชา้ ยง่ิ มาก เพราะท่านจะมรณภาพ แต่ทา่ นก็ไมม่ รณภาพ ทา่ น
ผอมมากมีแต่หนงั หุม้ กระดูก มีแต่ประกายตาทีส่ ดใสเท่าน้นั
จนกระทงั่ ตกกลางคืนทา่ นกไ็ ม่มรณภาพ

คอ่ นสวา่ งวนั ท่ี ๑๒ เมษายน ๒๕๒๒ ทางกรรมการวดั
และศิษยใ์ กลช้ ิดไดป้ ระชุมปรึกษากนั วา่ สงสยั ในกฏุ ิทา่ นจะลง
อาถรรพณ์เอาไว้ ตลอดจนตาราอกั ขระเลขยนั ต์ ตลอดจนรูปครูบา
อาจารย์ คงจะไม่มีใครกลา้ มารับทา่ นแน่ อยากเห็นทา่ นไปดี จึง
ปรึกษากนั นาทา่ นออกมาทหี่ อสวดมนต์ เมอ่ื เตรียมที่เสร็จเรียบรอ้ ย
แลว้ อุม้ ทา่ นมาจาวดั ท่เี ตยี งที่หอสวดมนต์ ทา่ นลืมตาข้นึ เป็ นการสงั่
ลา คร้ังสุดทา้ ย แลว้ หลบั ตาพนมมือ

เกิดอศั จรรย์ ระฆงั ใบใหญ่ที่หอสวดมนตไ์ ดข้ าดตกลง
มา ดงั หงา่ ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ดงั ยาวนาน ศิษยท์ อ่ี ยศู่ าลาเขา้ ใจวา่ ท่าน
มรณภาพแลว้ จึงไดต้ รี ะฆงั คอื คาดวา่ มีคนตรี ะฆงั เมื่อจบั เวลาดู เป็ น
เวลา ๗ นาฬิกา ๕๕ นาที จบั ชีพจรท่านดู ปรากฏวา่ ทา่ นมรณภาพ
แลว้ ตรงกบั วนั ท่ี ๑๒ เมษายน ซ่ึงวนั ท่ี ๑๓ เมษายน เป็ นวนั ข้นึ ปี
ใหม่ของคนไทยโบราณ

ศษิ ยม์ ากนั เตม็ ไปหมดมืดฟ้ามวั ดิน ทางวดั ไดจ้ ดั สวด
อภิธรรม ๑๐๐ วนั กลางคนื ไดน้ าเทปทท่ี า่ นเทศน์ นามาเปิ ดใหศ้ ษิ ย์

ฟัง ไอเ้ จก็ หมาของทา่ นร้องโหยหวน มนั วง่ิ ไปทว่ั มนั ไม่รู้วา่ หลวง
พอ่ อยทู่ ี่ไหน

ปัจจุบนั ในวนั ท่ี ๑๒ เมษายนของทุกปี เป็นวนั ทาบญุ
ประจาปี เพอ่ื อุทิศและระลึกถึงหลวงพอ่ ไดจ้ ดจาวนั น้ีไว้ จะอยใู่ กล้
หรือไกล ในวนั ท่ี ๑๒ เมษายนทุกปี ควรจะทาบุญใส่บาตรหรือ มา
กราบหลวงพอ่ ทว่ี ดั หรือนาผา้ ป่ ามาทอด เพอื่ ระลึกถึงหลวงพอ่ ขอ
จงปฏบิ ตั ิใหไ้ ดท้ กุ ปี ท่านจะมีแตค่ วามสุขความเจริญ ชีวติ จะไม่
ตกต่าเหมือนกบั คาพรของหลวงพอ่ ท่ีเคยใหไ้ ว้

"ขอศิษยท์ ้งั หลาย จงอยา่ อด อยา่ อยาก อยา่ ยาก
อยา่ จน อยา่ ต่ากวา่ คน อยา่ จนกวา่ เขา"

จากประวตั ิของหลวงพอ่ ไม่ปรากฏวา่ ท่านมาอยจู่ า
พรรษาทีว่ ดั บา้ นแคเม่ือใด แต่ตอ้ งก่อนสงครามคอื ๒๔๘๔ แน่นอน
ในช่วงน้ี หลวงพอ่ ยงั ไดเ้ รียนวชิ าเพม่ิ เตมิ กบั หลวงพอ่ อ่ิม วดั หวั เขา
อ.เดิมบาง จ.สุพรรณบรุ ี ไดเ้ รียนวชิ าทาผงจินดามณี, เรียนวชิ ามือ
ยาว ฯ และยงั ไดเ้ รียนวชิ าทาผา้ ขอด ไปไดก้ ลบั ได้ และตะกรุด

กระดูกงจู ากหลวงพอ่ แบน วดั เดิมบาง อ.เดิมบาง จ.สุพรรณบุรี
อาจารยท์ ่าน ๒ องคน์ ้ี มีหลกั ฐานแน่ชดั แมข้ ณะทพ่ี กั จาพรรษาที่วดั
บางตาหงาย อ.บรรพตพสิ ยั ยงั ไดเ้ รียนวชิ าเพม่ิ เติมกบั หลวงพอ่ พวง
วดั หนองกระโดนดว้ ย ในตารารักษาไขไ้ ดก้ ล่าวถึงเอาไว้ ก่อน
มรณภาพตอนท่ีท่านลม้ เจบ็ ท่านไดพ้ ดู กบั ศษิ ยว์ า่ ถา้ จะใหว้ ดั ของ
ทา่ นรุ่งเรืองทางอาคมเหมือนสมยั ทท่ี า่ นมีชีวติ อยู่ ตอ้ งนิมนตศ์ ิษย์
ทา่ นบวชอยทู่ ีว่ ดั น้ีถึง ๓ องค์ ทางศิษยไ์ ดถ้ าม ท่านวา่ ใครบา้ ง ทา่ น
ตอบวา่ อาจารยเ์ ม่า (บา้ นอยใู่ กลว้ ดั จนั่ เจริญศรี) คนหน่ึง อีกคนหน่ึง
คอื อาจารยจ์ ต๊ิ (ชิต) (คนบา้ นแค) แลว้ ท่านก็หยดุ พดู เหมือนทา่ นจะ
นึกไดว้ า่ การนาคนทีม่ อี าคมถึง ๓ คน มาอยรู่ วมกนั น้นั เป็ นไปได้
ยาก (อาจารยเ์ ม่า สาเร็จวิชา บงั ฟัน, บีบถว้ ยปนู ขาวใหป้ ากถว้ ยเขา้ มา
รวมกนั ได,้ หลวงตาจต๊ิ ปัจจุบนั บวชอยู่ ไม่ทราบวดั สาเร็จวชิ าหิน
เบา เสกกอ้ นหินโยนลงน้าลอยได)้

ครูและอาจารย์ของหลวงพ่อ

ต่อไปจะขอกล่าวถึงครูบาอาจารยข์ องหลวงพอ่ เท่าทม่ี ี
กลกั ฐานแน่ชดั ตลอดจนมนตแ์ ละคาถาท่หี ลวงพอ่ เรียนมา วา่ เรียน
มาจาก สายไหน หรืออาจารยอ์ งคใ์ ด ถา้ ไม่กล่าวถึงอาจารยข์ องทา่ น
พระประวตั ิก็จะไม่สมบรู ณ์ แตจ่ ะขอกล่าวถงึ อาจารยห์ รือครูบา
อาจารยท์ ี่สอนทางวปิ ัสสนาและอาคม ตลอดจนการทาเครื่องราง
ของขลงั เทา่ น้นั

แตเ่ ดิมเมื่อ หลวงพอ่ บวชต้งั แต่พรรษาแรก อายทุ ่าน ๒๐
ปี พอพรรษาต่อ ๆ มาท่านก็เรียนเทศน์มหาชาติและเรียนนกั ธรรม
จนกระทงั่ พรรษา ๘ หรือ อายทุ ่านได้ ๒๘ ปี ท่านจงึ เรียนวปิ ัสสนา
กรรมฐาน ครูบาอาจารยข์ องท่านเท่าที่ทราบมีดงั น้ี

๑. หลวงพอ่ ศรี วริ ิยะโสภติ หรือหลวงพอ่ สี อดีตเจา้ อาวาสวดั พระ
ปรางค์ อ.บางระจนั จ.สิงห์บุรี หลวงพอ่ ไดม้ าเรียนวปิ ัสสนา จะเรียน
อยกู่ ่ีพรรษาไม่แน่ชดั แตม่ ีหลกั ฐานแน่ชดั คอื ปี แรกทีเ่ รียนวปิ ัสสนา
ไดพ้ กั จาพรรษาที่วดั หนองตาแกว้ อ.เดิมบางนางบวช หลวงพอ่ ได้

ปลูกตน้ สมอไว้๑ ตน้ , ขดุ สระไว้๑ สระ ปัจจุบนั ศกั ด์ิสิทธ์ิมาก ไดจ้ า
พรรษาทีว่ ดั น้ีเพยี ง ๑ พรรษา เท่าน้นั แสดงวา่ หลวงพอ่ ไดเ้ รียน
วปิ ัสสนาและอาคมเพยี งปี เดียวกส็ าเร็จ นอกจากน้นั หลวงพอ่ ศรียงั มี
ศิษยท์ ่ีเป็ นพระมีวชิ าดีหลายองค์ เช่น หลวงพอ่ ทอง วดั พระปรางค์
, หลวงพอ่ หร่า วดั วงั จกิ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี หลวงพอ่ เฟ่ือง วดั
แหลมคาง, หลวงพอ่ ฟัง วดั สะเดา สิงหบ์ ุรี, พระครูพมิ พ์ วดั สนาม
ชยั อ.สรรคบรุ ี, หลวงพอ่ บวั วดั แสวงหา อ่างทอง, หลวงพอ่ แพ วดั
พกิ ุลทอง หลวงป่ ปู รง วดั ธรรมเจดีย์ จ.สิงหบ์ ุรี ฯ หลวงพอ่ ศรีน้ี
ปัจจบุ นั เหรียญท่านรุ่นแรกและรุ่นเดียวของทา่ นมีราคาแพงมาก
แพงอนั ดบั ๑ ของจงั หวดั สิงหบ์ ุรี เมื่อทา่ นมรณภาพ ไดท้ าฌาปนกิจ
ปรากฏวา่ มีดาวข้นึ ในเวลากลางวนั แมร้ ูปหล่อทา่ นกบั สถูปทเี่ ก็บอฐั ิ
ของทา่ นปัจจบุ นั ศกั ด์ิสิทธ์ิมาก

๒. หลวงพอ่ เดิม วดั หนองโพ หลวงพอ่ ไดเ้ ดินทางมาเรียนวชิ า
เพมิ่ เตมิ กบั หลวงพอ่ เดิม แต่ไม่ไดพ้ กั ทว่ี ดั หลวงพอ่ เดิม แตพ่ กั ทีว่ ดั
บางตาหงาย อ.บรรพตพสิ ยั เฉพาะที่พกั จาพรรษาที่วดั บางตาหงาย
ท่านอยถู่ ึง ๗ พรรษา สมยั น้นั พระครูพมิ พย์ งั เด็ก ไดเ้ ป็นเดก็ วดั ห้ิว

ปิ่ นโตให้ เมื่อหลวงพอ่ กลบั มาแลว้ ยงั เดินทางไปเรียนวชิ าเพม่ิ เติม
อยเู่ สมอ สมยั น้นั เดินดว้ ยเทา้ เคยเดินไปกบั ลุงลอน ยงั มีหลกั ฐานรูป
ถ่ายท้งั ท่ีวดั และที่ลุงลอน หลวงพอ่ ไดเ้ รียนวชิ าทามีดหมอ, ตะกรุด
, และแหวนแขน เร่ืองแหวนแขนน้ี หลวงพอ่ เดิมทาเป็ นและเก่งดว้ ย
กบั หลวงพอ่ กนั วดั เขาแกว้ น้นั ชอบพอกนั ยงั เคยพบรูปถ่ายหลวง
พอ่ กนั ที่กุฏิหลวงพอ่ ศษิ ยร์ ่วมอาจารย์ คือ หลวงป่ พู มิ พา วดั หนอง
ตางู อ.พรรพตพสิ ัย

๓. ครูบาอาจารยอ์ งคอ์ ื่น ๆ นอกจากหลวงพอ่ ศรี วดั พระปรางค์
, หลวงพอ่ เดิม วดั หนองโพ แลว้ ยงั มีอาจารยอ์ งคอ์ ่ืน ๆ อีกหลายองค์
แต่ไม่มีหลกั ฐานแน่ชดั วา่ หลวงพอ่ เรียนมาเม่ือไรตอนไหน แต่ใน
ตาราคาถาของหลวงพอ่ ไดเ้ ขยี นเอาไวช้ ดั แจง้ คือ

หลวงพอ่ แบน วดั เดิมบาง หลวงพอ่ ไดเ้ ขียนผา้ ยนั ต์ และ
ผา้ ขอดแบบเดียวกนั และไดเ้ ขยี นช่ือเจา้ ของตาราเอาไว,้

หลวงพอ่ อิ่ม วดั หวั เขา อ.เดิมบาง หลวงพอ่ ไดน้ าพระ
ถอดพมิ พแ์ บบของหลวงพอ่ อิ่ม, ทาผา้ ยนั ตแ์ บบเดียวกนั และเขียน
ชื่อ หลวงพอ่ อิ่มเอาไว,้

หลวงพอ่ พวง วดั หนองกระโดน นครสวรรค์ หลวงพอ่
เขยี นคาถาเอาไว้ และเขียนช่ือเจา้ ของเอาไว้ คือหลวงพอ่ พวง,

หลวงพอ่ เคน วดั ดงเศรษฐี จ.อุทยั หลวงพอ่ เล่าใหห้ มอ
เฉลียว เดชมา เอาไวว้ า่ เคยมาเรียนแพทยแ์ ผน โบราณ และต่อ
กระดูก,

ครูฟ้งุ , ครูจาปี ศิษยใ์ นสายหลวงพอ่ ปาน วดั บางนมโค
อยธุ ยา ถ่ายทอดวชิ าสะเดาะกมุ ารในทอ้ งให้ หลวงพอ่ และวชิ าถอน
คุณถอนของพอกแป้ง ใหห้ ลวงพอ่ ,

ครูลุน, ครูเพง็ อาจารยแ์ หล่ม วดั ท่าชา้ ง เป็ นศิษยส์ าย
หลวงพอ่ กลนั่ วดั พระญาติ อยธุ ยา ถ่ายทอดวชิ าอาบวา่ นยา, วชิ าหิน
เบา, วชิ าสกั , โดยเฉพาะวชิ าสกั และอาบวา่ นยาน้ี ทาใหห้ ลวงพอ่ โด่ง
ดงั เป็ นทย่ี อมรับของศิษย์ มีหลายคนท่สี กั ยนั ตจ์ ากหลวงพอ่ ไป ยงิ
ไม่ออก

นายปาน ถ่ายทอดวชิ าลงนะและตวั เฑาะของหลวงพอ่
โต วดั วหิ ารทอง, นอกจากน้นั หลวงพอ่ ยงั ไดส้ ืบทอดคาถาและยนั ต์

ของหลวงพอ่ เฒ่า วดั คา้ งคาว วดั น้ีอยใู่ กลว้ ดั หลวงพอ่ ยนั ตแ์ ละคาถา
น้ีตรงกบั หลวงป่ ูศขุ ไดศ้ ึกษาตาราเล่มเดียวกบั หลวงพอ่ เฒ่า วดั
คา้ งคาว หลวงพอ่ เฒ่ามีพรรษาแก่กวา่ (ในอาเภอสรรคบุรี หลวงพอ่
เฒ่าดงั มาก ดงั กวา่ หลวงพอ่ ปากคลองและดงั กวา่ หลวงพอ่ ) หลวง
พอ่ ยงั ไดต้ าราเสกผา้ อาบเป็นกระตา่ ย, ยงั ไดว้ ชิ าจระเข้ และเสือสมิง
สามารถทาได้ ปัจจุบนั มีศิษยท์ ท่ี าไดจ้ ริง ๑ คน และรูค้ าถาน้ี ปลุกได้
แต่แปลงร่างไม่ได้ อีก ๑ คน ก็ขอยตุ ิครูบาอาจารยข์ องทา่ นแต่เพยี งน้ี
เอาเฉพาะท่ีมีลายมือของทา่ นเขยี นบอกเอาไว้

ปฏปิ ทาของหลวงพ่อ

ตอ่ ไปจะขอกล่าวถึงปฏปิ ทาของหลวงพอ่ จะบอกกล่าว
เพยี งสงั เขป พอสรุปเป็ นขอ้ ๆ ไดด้ งั น้ี คือ

๑. พดู นอ้ ย หลวงพอ่ เป็นพระท่พี ดู นอ้ ย กบั คนทว่ั ไปจะพดู นอ้ ย พดู
สุภาพ ระวงั ตวั ถามคาหน่ึงตอบคาหน่ึง แต่ถา้ เป็นศิษยใ์ กลช้ ิด ทา่ น
จะพดู มึงกู ใชภ้ าษาแบบเก่า ถา้ เป็นหญงิ ท่านจะพูดวา่ อีหนู, หนู
, คุณหนู

๒. ชอบเล้ียงสตั ว์ หลวงพอ่ ชอบเล้ียงสตั ว์ โดยปล่อยใหอ้ ยอู่ ยา่ ง
อิสระ ยกเวน้ ลิง ท่ีชอบมากคอื สุนขั หรือหมา คอื หลวงพอ่ ชอบ
ธรรมชาตจิ ึงปลูกตน้ ไมด้ ว้ ย

๓. รกั และเมตตาศษิ ย์ หลวงพอ่ จะเมตตาตอ่ ศษิ ย์ ไม่วา่ ยากดีมีจน ไม่
วา่ คนดี หรือคนบา้ ไม่วา่ คนหรือหมา ทา่ นเมตตา เท่าเทยี มกนั ไม่
เลือกแมด้ ีหรือเลว ตดิ ผง หรือเป็นหญิงหาเงิน ท่านไม่เคยแสดง
อาการรงั เกียจ ดูเหมือนจะเมตตาคนบา้ คนจน คนมีปัญหามากกวา่
คนปกตดิ ว้ ยซ้า

๔. ชอบแจกวตั ถุมงคล หลวงพอ่ ไม่ชอบการจาหน่ายวตั ถุมงคล
โดยเฉพาะวตั ถุมงคลท่ีทา่ นทาข้นึ ทา่ นชอบใหค้ นมีปัญหา ทกุ ขร์ อ้ น
ทางใจ ใครที่จะมาเช่าบูชาเอาไปมาก ๆ ท่านจะไม่ให้ แมค้ นยากคน
จน แมช้ อบ หรือมีความจาเป็นทา่ นกใ็ ห้ ไม่คานึงถึงความยากลาบาก
ในการทา หรือตน้ ทุนการทา

๕. ชอบสรา้ งวตั ถุมงคล หลวงพอ่ ไม่ชอบการจาหน่ายวตั ถุมงคล
โดยเฉพาะวตั ถุมงคลท่ที า่ นทาข้นึ ท่านชอบใหก้ บั คนมีปัญหาทุกข์
ร้อนทางใจ ใครท่ีจะมาเช่าบูชาเอาไปมาก ๆ ท่านจะไม่ให้ แมค้ นยาก

คนจน แมช้ อบหรือมีความจาเป็ นท่านกใ็ ห้ ไม่คานึงถึง ความ
ยากลาบากในการทา หรือตน้ ทุนการทา

๖. ชอบเกบ็ ตวั เร้นลบั หลวงพอ่ ไม่ชอบรบั นิมนต์ ไม่วา่ งานอะไร
ท้งั ส้ิน ชอบอยแู่ ตใ่ นกฏุ ิ ถา้ ไม่จาเป็นจริง ๆ จะไม่รบั กิจนิมนต์

๗. ชอบคนจริง หลวงพอ่ ชอบศษิ ยท์ ่ีเป็นคนจริง ใจถึง ทา่ นจงึ เล้ียง
หมาเอาไว้ เอาไวข้ ่ศู ิษยท์ ี่มาหา เพราะทา่ นจะทาพระ คือ ถา้ ศิษย์
จาเป็ นจริง ๆ ต้งั ใจมาหาทา่ นจริง ก็จะพยายามตอ่ สูก้ บั หมา คอื
ป้องกนั คนรบกวนทา่ นมากเกินไป และหมาท่านน้ี ท่านหา้ มไม่ให้
ศษิ ยด์ ูหมาใหใ้ ครดว้ ย ยกเวน้ ท่านจะดูใหเ้ อง แต่ถา้ เป็ นผหู้ ญงิ ท่าน
จะดูใหอ้ ยา่ งดี

๘. เป็ นผคู้ งแก่เรียน หลวงพอ่ เป็นพระท่ชี อบศกึ ษาคน้ ควา้ ชอบเรียน
เวทมนต์ คาถา อกั ขระ เลขยนั ต์ วชิ าตา่ ง ๆ เคร่ืองราง ชนิดต่าง ๆ
หลวงพอ่ สามารถทาไดท้ กุ แบบ มีตาราเลขยนั ตย์ าว ๓-๔ วา ไม่รูว้ า่ กี่
เล่ม คดั ลอกโดยลายมือทา่ น คร้งั หน่ึงท่ี บางตาหงาย อ.บรรพตพสิ ยั
เขานิมนตพ์ ระมาสวดแกอ้ าถรรพณ์, เสนียดจญั ไร มีพระระดบั หลวง
พอ่ มาหลายองค์ ทางเจา้ ภาพเป็ นคนใหญค่ นโต ไดน้ ิมนตห์ ลวงป่ ู

หลวงพอ่ แตล่ ะองคส์ วดมนต์ พอนิมนตม์ าถึงหลวงพอ่ กวย หลวง
พอ่ สามารถวา่ คาถาได้ ๓-๔ ชว่ั โมง โดยไม่จบ จนเจา้ ภาพตอ้ งนิมนต์
ใหจ้ บ เพราะเกรงใจท่าน เร่ืองน้ีหลวงพอ่ เจย้ วดั หว้ ย, หลวงตาสมาน
วดั หวั เด่น ยนื ยนั ได้

๙. ชอบใหท้ าน หลวงพอ่ ชอบใหท้ าน คือท่านคงชอบ เคารพ และ
ศรทั ธา ในพระมหากจั จายน์,พระสิวลีและพระเวสสนั ดร ทา่ นจะอุม้
บาตรพรอ้ มขา้ วตอก, ขา้ วสาร, เกลือ, พระพมิ พ,์ สตางคเ์ หรียญฯ
นาเอามาแจกเป็นทาน ในงานประจาปี หรืองานผา้ ป่ า เป็นประจา ถา้
เจอคนแก่ ทา่ นจะใหค้ นแก่เอ้ือมใหห้ ยบิ ของในบาตรท่าน ทา่ นจะ
พดู วา่ อยากไดอ้ ะไรกห็ ยบิ เอา แก่แลว้ ไปแยง่ กบั เขา เด๋ียวเขาจะ
เหยยี บเสียตาย เก่ียวกบั เร่ืองใหท้ านน้ี แมห้ วยบางคร้งั ทา่ นก็บอก
วธิ ีการบอกของท่านคอื ถา้ มีคนมาขอหวยไม่ยอมไป ทา่ นจะจดใส่
กระดาษมว้ นให้ หรือบางทีกไ็ ม่มว้ นและโยนให้ ให้ตรง ๆ เลย ไม่
ใบ้

๑๐. ไม่หวงลาภสกั การะ หลวงพอ่ เป็นพระทไ่ี ม่สนใจเงนิ ทอง ใคร
ถวายทา่ นก็รับ แลว้ วางไวข้ า้ งตวั พอศิษยห์ รือแขกกลบั ทา่ นกล็ กุ เขา้

กฏุ โิ ดยไม่สนใจเงินทอง ตอ้ งมีกรรมการวดั หรือพระมาคอยเก็บ ถา้
ไม่จาเป็นจริง ๆ ท่านจะบอกปัด หรือท่านจะลองใจ คนมานิมนตก์ ็
ไม่รู้ ท่านจะพดู วา่ ไปหาแพ ซิ (หลวงพอ่ แพ วดั พกิ ลุ ทอง) ไปหาจวน
ซิ (หลวงพอ่ จวน วดั หนองสุ่ม) หรือพดู วา่ ไป หาเช้ือ ซิ (หลวงพอ่
เช้ือ วดั ใหม่บาเพญ็ บุญ) ทา่ นจะพดู วา่ นิมนตเ์ ขาไปปลุกเสกซิ ของ
จะขายดีคอื วตั ถุมงคลกจ็ ะจาหน่ายดี โดยทา่ นจะบอกทางใหเ้ สร็จ
โดยท่านจะถ่อมตนวา่ เอาท่านไปปลุกเสก คนเขาไม่มีใครรู้จกั ท่าน
ของกจ็ ะขายไม่ดีคอื วตั ถุมงคลก็จะ จาหน่าย ไม่คอ่ ยได้ เพราะไม่มี
ใครรู้จกั ทา่ น

๑๑. ฉนั อาหารม้ือเดียว หลวงพอ่ ถือธุดงควตั ร ขอ้ ฉนั อาหารเพยี ง
เวลาเดียว เป็นเวลาถึง ๓๐ กวา่ ปี จนกระทงั่ มรณภาพ ก่อนมรณภาพ
๑ ปี หลวงพอ่ ไดเ้ ขา้ รบั การรกั ษาทโ่ี รงพยาบาลพญาไท หมอได้
วนิ ิจฉยั วา่ หลวงพอ่ เป็นโรคขาดอาหารมา ๓๐ กวา่ ปี ไดใ้ หโ้ ปรตีน
ช่วย เม่ือกลบั วดั แลว้ ทางแพทยข์ อใหท้ า่ นฉนั อาหาร ๒ เวลา ท่านก็
ไม่ยอม

๑๒. ไม่ลงใหใ้ คร หลวงพอ่ เป็นพระท่มี ีความมนั่ ใจในตวั เองสูงมาก
ไม่ประจบ หรือลงใหใ้ คร เขา้ ใจวา่ ทา่ นเคยลงใหค้ รูบาอาจารยท์ า่ น
มามากแลว้ แมพ้ ระผใู้ หญเ่ มื่อไปเจอกนั ในงานสาคญั ๆ ทา่ นกไ็ ม่เขา้
ไปกราบ ไม่เขา้ ไปพดู คุยดว้ ย แมศ้ ิษยห์ รือผเู้ คารพนบั ถือท่าน เป็ น
คนใหญ่คนโตระดบั นายอาเภอหรือทหารระดบั นายพนั นายพล
ท่านก็ไม่สนใจ ไม่ตอ้ นรบั พเิ ศษ ไม่ถามช่ือ ถา้ ไม่พอใจ บางทที า่ น
ยงั พดู มึง กู คอื คร้ังหน่ึงนายอาเภอมาหาท่าน เมื่อเจอทา่ นอยทู่ วี่ หิ าร
ดา้ นล่างไดไ้ ตถ่ ามทา่ นวา่ หลวงตา กุฏิหลวงพอ่ กวย อยทู่ ่ีไหน ท่าน
ไดช้ ้ีไปทก่ี ุฏทิ า่ นและนายอาเภอกข็ ้ึนกฏุ ไิ ปหาท่าน ปรากฏวา่ โดน
หมากดั ทา่ นกข็ ้นึ ตามไป พอนายอาเภอทราบวา่ ทา่ นคอื หลวงพอ่
กวย ไดต้ อ่ วา่ ทา่ นทท่ี ่านปลอ่ ยใหห้ มากดั และไดแ้ นะนาตวั วา่ เป็ น
นายอาเภอ แทนท่ที า่ นจะพดู ดีดว้ ย ท่านกลบั พดู วา่ "แลว้ ใครใชใ้ ห้
มึงมาหากู" งานน้ีเขา้ ใจวา่ นายอาเภอ คงจะด่าทา่ นแหลกลาน

๑๓. มน่ั ใจจงึ แจก หลวงพอ่ ไดส้ รา้ งวตั ถุมงคล, พระพมิ พ์ เพอ่ื ให้
ศิษยไ์ วป้ ้องกนั ตวั เพอื่ บาบดั ทุกขท์ างใจ เพอ่ื ความร่ารวย เพอ่ื
ความสุขความเจริญ ก่อนท่ีหลวงพอ่ จะมอบวตั ถมุ งคลใหใ้ คร หลวง

พอ่ ตอ้ งทดลองดกู ่อนวา่ กนั มีด กนั ปื นไดห้ รือไม่ เช่น หลวงพอ่ จะ
จารอกั ขระไวท้ ต่ี น้ ไม้ ตน้ ทีค่ นชอบเอาปื นยงิ แลว้ หลวงพอ่ จะคอย
ฟังดูวา่ จะยงิ ออกหรือไม่ออก บางคร้ังกล็ องเสกก่ิงไมใ้ บไม้ ใหค้ น
ทดลองยงิ ดู โดยลองดูวา่ คาถาบทน้ีจะขลงั ใชไ้ ดจ้ ริงหรือไม่ เมื่อ
ตอนจะสกั กล็ องสกั ใหค้ นทมี่ ีคนหมายปองชวี ติ วา่ จะยงิ ออก
หรือไม่ หรือเขา้ หรือไม่ แมพ้ ระสมเดจ็ ของท่านเมื่อทาออกมาใหม่ ๆ
ท่านจะลองใหค้ นท่มี ีหน้ีสินจะลม้ ละลาย หรือ คนยาก คนจน เป็ น
ตน้ แลว้ ท่านกค็ อยดูวา่ เขาจะดีข้นึ หรือไม่ เม่ือเห็นวา่ ดีจงึ แจก
ออกไป

๑๔. อุปนิสยั แปลก หลวงพอ่ เป็นพระท่ีมีอุปนิสยั หรือปฏปิ ทาแปลก
จากพระทว่ั ๆ ไป ในบางอยา่ ง เช่น ไม่ชอบจาหน่ายวตั ถุมงคล ชอบ
แจกชอบให้ แต่ใหเ้ อาไปใชเ้ อาไปบชู า มีบางคนไดม้ าหาท่านมาขอ
เช่าวตั ถุมงคลจากทา่ น บางคร้งั ทา่ นตอบไม่มีเฉย ๆ ก็เคย เขา้ ใจวา่ ไม่
ชอบใหเ้ ช่า คอื ทา่ นไม่ชอบจาหน่ายของ รูส้ ึกทา่ นละอายใจแตถ่ า้ ขอ
เฉย ๆ โดยไม่นบั ถือจริง ๆ บางคร้ังทา่ นกต็ อบไม่มี เฉย ๆ ก็เคย การ
เขา้ ไปขอวตั ถุมงคล ถา้ ขอโดยไม่เกรงใจ เช่น ทา่ นจะออกมาพบศษิ ย์

ตอ่ เม่ือฉนั ขา้ วเชา้ และประมาณ ๑๐ โมงเชา้ ถา้ ศิษยค์ นไหนมาหา
แบบไม่เกรงใจ คือเรียกทา่ นแบบไม่เกรงใจ คือจะเช่าของหรือขอ
ของวตั ถุมงคลนนั่ แหละ แต่ทาแบบไม่เกรงใจ คอื เรียกทา่ น บางคร้ัง
ท่านจะยงิ เอาดว้ ยคนั กระสุน กเ็ คยมี นบั วา่ หลวงพอ่ เป็ นพระทีแ่ ปลก
กวา่ พระทว่ั ไป คอื เอาคนั กระสุนยงิ ศษิ ย์ กเ็ คยมี

กข็ อยตุ ิปฏิปทาของหลวงพอ่ เพยี งน้ี เร่ืองปฏปิ ทาของ
หลวงพอ่ น้ีมีบางคนไม่ชอบท่าน เช่น ท่านเล้ยี งหมาเอาไวข้ ่ศู ษิ ย์
บางคร้งั ก็กดั จริง ๆ ทาใหศ้ ษิ ยบ์ างคนไม่พอใจท่าน อีกขอ้ หน่ึงทค่ี น
ไม่ชอบทา่ นคือพบยาก เขาวา่ หลวงพอ่ ไม่คอยตอ้ นรบั แขก เขาเลย
ไปหาหลวงพอ่ องคอ์ ่ืน เขาไม่เขา้ ใจวา่ หลวงพอ่ กาลงั พมิ พพ์ ระอยู่
หรือทาตะกรุดอยู่

ผู้วิเศษเมืองสรรค์

คุณวเิ ศษในตวั ของหลวงพอ่ น้นั ลูกศิษยย์ กยอ่ งวา่ หลวง
พอ่ คอื ผวู้ เิ ศษเมืองสรรรค์ อยา่ งแทจ้ ริง เมืองสรรคบรุ ี คืออาเภอ
สรรคบุรี จงั หวดั ชยั นาท เกจิอาจารยข์ องเมืองน้ีทจี่ าได้

รุ่นป่ มู ี ๑ องคค์ ือ หลวงพอ่ เฒ่า (ป้ัน) วดั คา้ งคาว

ส่วนรุ่นพอ่ มี ๓-๔ องค์ คอื หลวงพอ่ คง วดั ใหม่บาเพญ็
บญุ หลวงพอ่ ปล้ืม วดั สงั ฆาราม หลวงพอ่ โต วดั วหิ ารทอง และ
หลวงพอ่ โม วดั จนั ทาราม

ส่วนรุ่นสุด ทา้ ยหรือรุ่นลูกมี ๓ องค์ คอื หลวงพอ่ กวย
วดั โฆษิตาราม หลวงพอ่ เช้ือ วดั ใหม่บาเพญ็ บญุ และองคส์ ุดทา้ ยคอื
หลวงพอ่ พมิ พ์ วดั สนามชยั

หลงั จากหลวงพอ่ พมิ พม์ รณภาพไปแลว้ กย็ งั ไม่ปรากฏ
วา่ มีเกจิอาจารยท์ า่ นใดท่คี นเมืองสรรคย์ อมรับอยา่ งเตม็ ปาก ใน
จานวนเกจอิ าจารยท์ ่ีกล่าวมามีเพยี ง ๒ ทา่ นที่มีดวงจิตมหศั จรรยจ์ น
ศิษยย์ อมรบั และต้งั ฉายาใหว้ า่ เป็นผวู้ เิ ศษ ไม่วา่ จะบนบาน บอกเล่า

อยา่ งไร ใกลไ้ กลแคไ่ หน ถา้ รู้ถา้ ช่วยไดท้ ่านจะชว่ ยทนั ที ท่านผนู้ ้นั
คือหลวงพอ่ เฒ่า วดั คา้ งคาว และหลวงพอ่ กวย วดั โฆษิตาราม

สาหรบั หลวงพอ่ เฒ่าน้นั รู้จกั ในวงแคบเฉพาะอาเภอ
สรรคบรุ ีเพราะเป็นพระรุ่นป่ ูและไม่ไดส้ ร้างวตั ถุมงคลอะไรไว้
มากมาย โดยเฉพาะเหรียญ เพงิ่ มาสร้างสมยั หลวงพอ่ กวยและหลวง
พอ่ กวยกป็ ลุกเสกให้

วตั ถุมงคลที่สร้างสมยั ก่อนน้นั กม็ ี ผา้ แดง ผา้ อาฬารว
ยกั ษ์ (ผา้ ยนั ตค์ า่ ยกล) และผา้ ขอด ปัจจบุ นั กช็ ารุดเกือบหมดแลว้
ส่วนหลวงพอ่ กวยน้นั ไดด้ าเนินรอยตามอาจารยป์ ่ คู อื หลวงพอ่ เฒ่า
วดั คา้ งคาว แตช่ ีวติ เป็นของนอ้ ย วนั เวลาของทา่ น ทา่ นไดท้ มุ่ เทเวลา
สรา้ งเคร่ืองรางของขลงั ใหศ้ ิษย์ ทา่ นมีปฏปิ ทาสนั โดษ ชอบเก็บตวั
เร้นลบั เพอ่ื ท่จี ะไดใ้ ชเ้ วลาอนั นอ้ นนิดน้ีไดส้ รา้ งวตั ถุมงคลท่เี ป็นของ
จริงใหศ้ ิษย์ แมห้ นงั สือพระเคร่ืองจะมาขอนาพระประวตั ิของท่าน
ไปลงตีพมิ พ์ ท่านกป็ ฏเิ สธ ท่านเกรงวา่ คนจะมารบกวนทา่ นมากไป
จนไม่มีเวลาทาของวเิ ศษใหศ้ ิษยไ์ ดค้ ุม้ ครองตน ก่อนจะกล่าวถึง
อภนิ ิหารในดวงจติ ของทา่ น จนท่านไดร้ บั ฉายาน้ี จะขอกล่าวคุณ

วเิ ศษในตวั ท่านที่ทา่ นเรียนวชิ ามา จะขอเรียงลาดบั เป็นขอ้ ๆ เท่าทจ่ี า
ไดด้ งั น้ี

๑. ท่านมีมนั สมองมาก ศีรษะแบบศีรษะชา้ ง ตรงกลางเป็น
ลอน แลว้ โหนกหนา้ โหนกหลงั ทา่ นสามารถทอ่ งจดจาคาถาโองการ
ตา่ ง ๆ ท่ียาวได้ ขณะเป็นเดก็ วดั เรียนแคป่ ระถม ๒ ท่านสามารถจดจาวนั
เวลาทีผ่ า่ นมาได้ แมจ้ ะนานแสนนาน คลา้ ยสมองของทา่ น รีวายแบบ
เทปได ้้สามารถบอกเวลาเกิด, เวลาบวช เวลาไปที่ใด สามารถบอกได้
บอกออกมาเป็ นวนั เดือน ปี เวลาเทา่ ไร กี่นาฬิกา นาที

๒. มีหูทิพย์ ตาทิพย์ รู้เหตกุ ารณ์ล่วงหนา้ ได้ รู้อดีตได้ ใคร
จะมาเร่ืองอะไรทา่ นรู้ล่วงหนา้ ได้ ท่านจะไปสวดมนต์ ไปชา้ ไปเร็ว
ท่านรู้ หวยจะออกอะไร ท่านรู้ ใครมาหาท่าน ทา่ นรู้ แมท้ า่ นลม้ เจบ็ จะ
มรณภาพ ท่านก็รู้

๓. ยงิ กระสุนทางคดได้ หายตวั ได้

๔. เป่ าแหวนเขา้ นิ้วผอู้ ่ืนไดแ้ มน้ ง่ั อยไู่ กล

๕. ทาใหถ้ ่ายรูปไม่ติดได้

๖. ทาใหค้ นทม่ี าหาจาท่านกไ็ ด้ จาท่านไมไ่ ดก้ ไ็ ด้
๗. เสกสะเกด็ ไมใ้ หป้ ื นยงิ ไม่ออกก็ได้
๘. ขอดผา้ ใหป้ ื นยงิ ไม่ออกกไ็ ด้
๙. เรียกมดลงรูได้
๑๐. เสกขา้ วใหไ้ ก่กิน ใครกินไก่, กินไข่ไก่ เป็ นข้กี ลากก็ได้
๑๑. เอาเชือกผกู หินแลว้ ลองตศี ิษย์ ศษิ ยไ์ ม่เจบ็ กท็ าได้
๑๒. คนกาลงั ยงิ ปื นบอกใหย้ งิ ไม่ออกกไ็ ด้
๑๓. เอามือบบี หวั แม่มือตวั เองทาใหค้ นปวดหวั หายปวดหวั ได้
๑๔. เอามีดถากไม้ ทาใหค้ นกระดูกหกั หายได้
๑๕. ภรรยาปวดทอ้ ง จะคลอดลูก ทาใหไ้ ปปวดทส่ี ามีได้
๑๖. ใครมาตามใหพ้ น่ ป่ วง ใหค้ นท่ีมาตามกินน้ามนต์ คนทีเ่ ป็ นป่ วง
อยทู่ างบา้ นหายได้

๑๗. เสกคนเป็นจระเขไ้ ด้

๑๘. สามารถแปลงร่างเป็นเสือได้

๑๙. สามารถเสกกา้ นกลว้ ยเป็นงูเขยี ว

๒๐. สามารถเสกผา้ รดั เอวเป็ นงเู ห่าได้

๒๑. สามารถเสกใบแจงเป็นตวั ต่อได้

๒๒. สามารถตดั กระดาษแดงใส่ธูปเป็นปลากดั กดั กนั ได้

๒๓. สามารถหยบิ ถ่านแดง ๆ ในเตาได้

๒๔. สามารถหยบิ ของในท่ีไกลได้

๒๕. ทา่ นเป็ นผมู้ ีวาจาสิทธ์ิ บางคร้ังเป็ นทนั ตาเห็นเลย
๒๖. ปลุกเสกวตั ถุมงคลลอยน้าได้ เสกใหล้ อยในอากาศกไ็ ด้
๒๗. พดู กบั ตอ่ ใหไ้ ปตอ่ ยคนได้ พดู กบั เต่าใหไ้ ปตามคนได้
๒๘. ส่งพระใหศ้ ิษยท์ างเมลอ์ ากาศโดยไม่สอดซองตดิ
แสตมป์ ได้

๒๙. ศิษยโ์ ดนทารา้ ยอยใู่ กลไ้ กลแค่ไหนสามารถรูไ้ ด้

ยงั มีคุณวเิ ศษของหลวงพอ่ น้ีมีหลกั ฐาน ผทู้ ไ่ี ดว้ ชิ าไปดงั น้ี

นายเฉือน ป้ันสน คนหนองแขม สามารถขอดชายผา้ ยงิ ไม่ออก,

หมอ เฉลียว เดชมา ไดว้ ชิ าตไี ม่เจบ็ , เสือผา่ น อน้ ฉ่า
, หมอแจ๋ ไดว้ ชิ าบงั ไพรหายตวั ได,้ หลวงตาจ๊ดิ สามารถเสกหินลอย
น้าได,้ นายยทุ ธ ยม้ิ จู เรียกมดลงรูได,้ นายแดง สวา่ งศรี ไดค้ าถา
หวั ใจแมลงป่ อง สามารถจบั แมลงป่ องไดไ้ ม่ตอ่ ย, นายชยั คนทางวดั
คา้ งคาว ได้ คาถาหวั ใจนาคราช สามารถจบั งูไดง้ ูไม่กดั อาจารยเ์ ห
วยี น มณีนยั คนทา่ ทอง สามารถผา่ ไมร้ วกไดด้ ว้ ยมือ, อาจารยต์ ๋ี
สานกั สงฆ์ เขาเขยี ว นงั่ บนน้าได,้ อาจารยเ์ ม่าบีบถว้ ยแบบถว้ ยสงั ค
โลก ใหป้ ากถว้ ยรวมเขา้ มาหากนั ได,้ ใชม้ ีดบงั ฟันก็ทาได้

สรุปคณุ วเิ ศษของหลวงพ่อ

๑ เป็นผมู้ ีลาภ หลวงพอ่ เป็ นพระทีอ่ ุดมลาภ ท่านไดป้ ฏบิ ตั ิตน
เหมือนพระเวสสนั ดร, ปฏิบตั ิตนเหมือน พระสีวลีเถระ, เหมือน
พระสงั กจั จายน์ ชอบทาทานเป็นท่สี ุด และยงั ไดต้ ดิ ตอ่ กบั พระสิวลี
ได้ แมท้ ี่กระถางธูปทา่ น ท่านกท็ าธงพระสิวลีบชู าอยู่ ทา่ นสวด คาถา
บชู าทุกวนั ทาใหท้ า่ นเป็ นพระท่อี ุดมลาภ มีคนมาขอหวยท่าน ถา้
ท่านเห็นวา่ พอมีโชคลาภทา่ นจะเขียนใหต้ รง ๆ เลย กบั คนใกลช้ ิด
กบั ทา่ น ถา้ ไปไหนดว้ ยกนั ถามท่านวา่ เลขไหนดี ท่านจะบอก
ออกไปเลย แมก้ ่อนทท่ี ่านจะมรณภาพ ทา่ นยงั เขียนเลขไวใ้ นฝ่ ามือ
ถา้ ใครมีโชคมีลาภมาเยย่ี มท่าน ทา่ นจะแบมือใหด้ ู แมม้ รณภาพไป
แลว้ ใครบขู ารูปท่านอยู่ ขอโชคขอลาภจากท่าน ทา่ นใหไ้ ด้ จะให้
เลย มีคนถูกหวยเพราะบชู ารูปทา่ น มีเป็นร้อยคน บางคนไดส้ ่งเงิน
มาทาบุญมลู นิธิ ตก ๑ หม่ืนบาท เพราะถูกหวยจากการขอพรท่าน มี
คนถูกหวยกนั มาก ชนิดไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ผมเคยไปวดั มีคนมา
แกบ้ นชื่อเรณู บา้ นอยทู่ างวดั คา้ งคาว ถูกหวยติดตอ่ กนั ๑๘ งวด
เกี่ยวกบั การทท่ี ่านเป็นผอู้ ุดมลาภน้ี เม่ือมีคนบชู ารูปทา่ นจะปรากฏ

วา่ มีความสุข ความเจริญ ซ้ือง่าย ขายคล่อง สมกบั คาพรของทา่ นท่ี
เคยใหแ้ ก่ศษิ ยไ์ วค้ ือ "ขอใหอ้ ยา่ อด อยา่ อยาก อยา่ ยาก อยา่ จน อยา่ ต่า
กวา่ คน อยา่ จนกวา่ เขา"

๒. เป็นผคู้ งแก่เรียน หลวงพอ่ เป็นพระทชี่ อบศกึ ษาคน้ ควา้ เรียนมา
มากไม่วา่ ตารายา, ตารายนั ต,์ คาถาอาคม เรียนมาแทบทกุ บท แทบ
ทกุ ยนั ต์ ปัจจบุ นั ตารายาของทา่ นท่ีทา่ นเรียนเอาไว้ จดใส่สมุดเล่ม
หนา ๆ เอาไวต้ ก เกือบ ๑ ร้อยเล่ม ตารายนั ตต์ า่ ง ๆ มีเก็บไวเ้ ป็นตู้ จด
เองกบั มือ คาถายาว ๆ ทอ่ งไดห้ มด เครื่องรางทาไดเ้ กือบทุกชนิด ทา
ไดข้ ลงั ดว้ ย ไม่วา่ ผลดั แหวนแขน, ตะกรุด, เชือก คาดเอว, ผา้ ยนั ต์
, กุมารทอง, รกั -ยมฯ

วตั ถุมงคลรุ่นแรก ๆ ทา่ นทาเองกบั มือดว้ ย เช่นพระหิน
แกะ, กระเบ้อื งแกะ, กุมารทอง กระดูกผแี กะ ทา่ นยงั เคยทา ตวั พ.
พาน ท่ที าจากกา้ นธูปพนั ดว้ ยสายสิญจน์ มอบใหศ้ ิษยใ์ กลช้ ิด คือ
หมอเฉลียว เดชมา, กบั นายที ทาใหไ้ วค้ นละตวั เมื่อหมอเฉลียวถาม
ทา่ นวา่ หลวงพอ่ ทาเป็น น่าจะทาออกแจกมาก ๆ หลวงพอ่ ตอบวา่

"เอาไวใ้ หห้ ลวงตาเยน็ เอาไวส้ ร้างโบสถม์ งั่ ไปทาซะหมดทกุ อยา่ ง
ไดอ้ ยา่ งไร"

หลวงพอ่ ยงั สามารถทาเครื่องรางของขลงั ไดอ้ ศั จรรย์
คอื สามารถเตอื นภยั ได้ สิ่งน้นั คอื แหวนแขน สามารถเตือนภยั รัด
แขนได้ ไม่ปรากฏมีมาก่อน

สรุปไดค้ อื หลวงพอ่ เป็นพระทีช่ อบศกึ ษาทางอาคมมาก
ไม่วา่ วชิ าตารายา, ตารายนั ต,์ อาคม ทป่ี รากฏช่ือของครูบาอาจารย์
เจา้ ของยนั ต์ เจา้ ของอาคม ท่มี ีอยเู่ ป็ นหลกั ฐานยนื ยนั ไดแ้ ละเป็ นท่ีรู้
จกั คือ หลวงพอ่ โต วดั วหิ ารทอง, หลวงพอ่ เดิม วดั หนองโพ, หลวง
พอ่ แบน วดั เดิมบาง, หลวงอิ่ม วดั หวั เขา, หลวงพอ่ พวง วดั หนอง
กระโดน, หลวงพอ่ กลนั่ วดั พระญาติ ฯ เฉพาะที่เป็นยนั ตต์ า่ ง ๆ
กนั ภยั กนั ปื น, คา้ ขาย, เมตตา, กนั กระทา, หายตวั , กนั ยมฑูต, กนั
เพล้ีย, กนั หนอน, ยนั ต์ ปลุกใหต้ ืน่ ฯ เฉพาะที่เป็นยนั ตต์ า่ ง ๆ ทหี่ ลวง
พอ่ เรียนมา มีหลายร้อยยนั ต์ ทา่ นไดเ้ ขยี นผา้ ยนั ยนั ต์ เอาไวย้ นั ตล์ ะ
๑-๒ ผนื ไดผ้ า้ ยนั ตถ์ ึงหลายร้อยผนื แมแ้ ต่อาคมแปลก ๆ ท่านก็เรียน
เอาไว้ ทเี่ ด่นท่ีสุด คอื คนปวดหวั ปวดทอ้ ง ถา้ ไปบอกท่าน ทา่ นจะ

เอามือบีบนิ้วโป้งทา่ น ปรากฏวา่ คนปวดหวั ปวดทอ้ งหาย คนจะ
ออกลูก จะใหส้ ามีปวดแทน ทา่ นกท็ าได้ นบั วา่ หาไดย้ าก แมว้ ชิ า
ช้นั สูงสุด เช่น ผกู หุ่นพยนตเ์ ป็นสตั วต์ ่าง ๆ เสกกา้ นกลว้ ยเป็นงูเขยี ว
, วชิ าเสือสมิง, วชิ าแปลงร่างเป็ นจระเข้ หลวงพอ่ กท็ าได้

๓. เป็นผมู้ ีดวงจติ มหศั จรรย์ หลวงพอ่ เป็ นพระทม่ี ีเมตตาตอ่ ศิษยต์ ่อ
คนทวั่ ไป เมื่อหลวงพอ่ ฝึกจติ จนไดห้ ูทพิ ย,์ ตาทพิ ย์เม่ือทราบวา่ ศษิ ย์
หรือผเู้ คารพนบั ถือ ตกทุกขไ์ ดย้ าก เดือดรอ้ น ขอโชคขอลาภ เมื่อ
ท่านทราบถา้ ช่วยไดจ้ ะช่วยทนั ที ไม่วา่ เร่ืองเลก็ เรื่อง ใหญ่ เรื่องไกล
เรื่องใกล้ หรือเรื่องไม่เป็นเร่ือง ถา้ ช่วยไดจ้ ะช่วยเลยไม่ลงั เล ถา้ เป็ น
เรื่องดี เร่ืองคา้ เร่ืองขายยงิ่ ชอบช่วย จติ ของทา่ นกวา้ งไกลมาก แมอ้ ยู่
ตา่ งประเทศก็ช่วยได้ เคยมีศิษยข์ องทา่ นไปรบทีล่ าว ถูกลอ้ มอยู่ ทา่ น
เคยถอดจติ เดินนาหนา้ ศษิ ยฝ์ ่ าวงลอ้ มออกไปได้ เพยี งแคร่ อ้ งขอให้
ท่านช่วย บางคนตดั รูปท่านในหนงั สือเอาไปบูชา รูปไม่ไดป้ ลุกเสก
ขอพรต่อท่าน ซ้ือหวยถูกได้ บางคนไดข้ อพรตอ่ รูปท่านในหนงั สือ
ยงั ถูกหวยได้ บางคนก็ไปสมคั รงาน เขารบั วฒุ ิ ปวส. แต่ศิษยท์ า่ นจบ
วฒุ ิ ปวช. คือวฒุ ิต่ากวา่ ไดบ้ อกเล่าทา่ นปรากฏวา่ เขารับ ซ่ึงแปลก

มากท้งั ๆ ท่วี ฒุ ิ ปวส. กม็ ีตวั ใหเ้ ลือก เรื่องจติ ของทา่ นท่เี มตตาศิษย์
และคนทวั่ ไปน้ี เมอ่ื ทา่ น สรา้ งวตั ถุมงคล ทา่ นจงึ ไม่มีขอ้ หา้ ม ไม่วา่
คน ๆ น้นั จะดีหรือบา้ จะประกอบอาชีพอะไร ก็บชู าของทา่ นได้ ไม่
วา่ จะเป็นนกั รอ้ ง, ดารา, ผหู้ ญงิ บาร์, หมอนวด หรือโสเภณี ใชไ้ ด้
หมด ผชู้ ายจะเป็นเสือเป็นโจร หรือเป็นพวกรถไฟ, เรือเมล,์ ลิเก
, ตารวจ, ก็ใช้ ได้ เพราะจะทาใหผ้ นู้ ้นั ไดป้ ระพฤตปิ ฏิบตั เิ ป็ นคนดีข้นึ
ในเวลาต่อมา สรุปคือ หลวงพอ่ เป็ นผมู้ ีลาภ, มีวชิ าดี, มีเคร่ืองรางดี, มี
จิตดี

การสร้างและการปลกุ เสกวัตถุมงคล

หลวงพอ่ เป็ นพระทีช่ อบทาวตั ถุมงคลเอง เช่นทาพระ
เน้ือดินเอง ทาพระเน้ือผงเอง มีความต้งั ใจทาสูงมาก แม่พมิ พพ์ ระ
สมเดจ็ เป็นแม่พมิ พท์ ใ่ี ชม้ ือบบี เอง ทาทีละ ๑ องค์ ส่วนแม่พมิ พพ์ ระ
เน้ือดินใชแ้ ม่พมิ พด์ ิน โดยมากใชว้ ิธีถอดพมิ พจ์ ากของเก่า เคยมีศิษย์
ไดพ้ ระกรุ องคต์ น้ แบบที่ใชถ้ อดพมิ พ์ เช่น พมิ พส์ รรค์ ส่วนแม่พมิ พ์
ชนิดดิน เม่ือพมิ พ์ ไม่ชดั เจน ทา่ นจะเก็บรวม ๆ ไวก้ บั พระชนิด
ชดั เจน ถา้ เป็ นแม่พมิ พพ์ ระสมเด็จ ทา่ นจะโยนลงสระน้า แม่พมิ พ์

สมเด็จปรกโพธ์ิ ๙ ใบ ดา้ นหนา้ ท่านตดั ใจทิ้งไม่ได้ ไดใ้ หอ้ าจารยต์ ้วั
เก็บรกั ษาไว้ปัจจุบนั อาจารยต์ ้วั กท็ าพระออกจาหน่ายพมิ พป์ รกโพธ์ิ
๙ ใบ แต่เปล่ียนยนั ตข์ า้ งหลงั คือแกะพมิ พใ์ หม่ ส่วนแม่พมิ พเ์ น้ือดิน
ทีไ่ ม่สวย มีหลายพมิ พ์ หมอเฉลียว เดชมา เก็บรักษาไว้

ตะกรุด ท่านจะจารเองทุกดอก มว้ นเองทุกดอก ทาสาย
เอง บางดอกทา่ นจะถกั หุม้ เอง ส่วนมีดยคุ แรก ทา่ นตีเองกบั พอ่ แก่อุย้
กบั ลูกเขย คอื ลุงคล่ี ยมิ้ จนั ทร์ คนบา้ นคู ยคุ ตอ่ มาเป็ นช่างพยหุ ะ คือ
พอ่ แก่อุย้ ตาย มีดน้ีท่านใส่ดา้ มเองทกุ เล่ม แหวนแขน ท่านทาเอง ลง
รกั เอง ทาเองทุกวง ปลดั ยคุ แรก เป็นชนิดไม้ ทา่ นเหลาเอง จารเอง
ยคุ ตอ่ มา เป็ นตะกว่ั นม ผสมเงิน ทา่ นสงั่ ทาบา้ ง หล่อเองบา้ ง จาร
บา้ งๆ ไม่จารบา้ ง วตั ถุมงคล เช่น เหรียญรุ่น ๑,๒ รูปหล่อ บูชารุ่น
๑,๒ รูปหล่อเล็กรุ่น ๑,๒ ทา่ นดาเนินการเองทกุ อยา่ ง ตดิ ตอ่ ช่างสงั่
ทาออกแบบ ยกเวน้ เหรียญรุ่น ๓ ท่านใหศ้ ษิ ยอ์ อกแบบ คือศษิ ยเ์ ขา
ชอบโล่ฝรัง่ ส่วนรูปหล่อรุ่น ๒ ชนิดเล็ก ศษิ ยก์ ด็ าเนินการเอง เขา
ชอบรูปหล่อฉีดเขาวา่ สวยดี

ส่วนผสมของพระเน้ือดิน จะผสมแร่วิเศษ และผงวเิ ศษ
ของทา่ น แต่พระเน้ือผงก็ผสมแร่วเิ ศษ และผงวเิ ศษเช่นกนั บางพมิ พ์
มีเกศาของทา่ น, ของครูบาอาจารยข์ องทา่ น พระพมิ พป์ รกโพธ์ิ ๙ ใบ
มีเกศาผมู้ ีบุญสูงมากผสมอยู่ ส่วนแร่วิเศษน้นั ทา่ นมาเอาทีด่ อนเจดีย์
๑ แห่ง ทา่ นมาเอง, แตใ่ หศ้ ิษยเ์ ป็นคนลงไปงมให้ ไดท้ ี่เมืองเก่า
สุโขทยั , ทา่ นมาเอาแร่ทีเ่ หมืองแม่เมาะ จ.ลาปาง ๑ แห่ง ขณะเหมือง
ปิ ดแลว้ ท่านไดไ้ ปพดู กบั คนเฝา้ ประตเู ขาใหเ้ ขา้ ไป ปัจจุบนั แร่น้ี ยงั มี
อยใู่ นตพู้ พิ ธิ ภณั ฑ์ ๒ คร้ังหลงั ท่านมากบั หมอเฉลียว เดชมา ส่วนผง
วเิ ศษน้นั ทา่ นทาเอง โดยใชด้ ินสองพองผสมกบั เคร่ืองยาท่ีทา่ นปลูก
เอง ปลุกเสกเอง รดน้าดว้ ยอาคม แต่บางอยา่ งก็หาเอามา เครื่องยาท่ี
ใช้ ทาผงดินสอ สาหรบั ทาผงปถมงั มีดอกเสน่ห์จนั ทร์ท้งั ๕, ผกั ราช
พฤกษเ์ มลด็ มะกล่าขาว ท่านปลูกเอง,

ดีท้งั ๕ มีดีงู, ดีไก่, ดีเตา่ ฯ ดีน้ีท่านปลุกเอาไว้ ถา้ บา้ น
ไหนเกิดอาเพศหนกั ๆ ทา่ นจะใหเ้ อาไปแขวนไวใ้ นบา้ นจะแกไ้ ด้ ไม้
คนั ทรง ท่านเอามาตีระฆงั ก่อนแลว้ ค่อยป่ นผสมทาผงดินสอผสมกบั
เครื่องยาอีกหลายอยา่ ง ผเู้ ขยี นดูไม่ออก ปัจจบุ นั เคร่ืองยาและแร่ ผม

เกบ็ รกั ษาไวจ้ านวนหน่ึง ผสมกบั ดินสอพอง ซ้ือจากสาวพรหมจารี
หลวงพอ่ ทาผงปถมงั , ผงมหาราช, ผงอิทธิเจ, ผงนะ ๑๐๘ ท่านทาเอง
หมด นอกจากผงของ ท่านยงั มีผงของครูบาอาจารยข์ องทา่ น ก่อน
สงครามโลกคร้ังท่ี ๒ พชี่ ายหมอเฉลียว เดชมา มาเรียนหนงั สือที่
กรุงเทพฯ ไดพ้ กั ทีว่ ดั ระฆงั โฆสิตารามไดพ้ บผงของสมเด็จโต
ประมาณ ๑ บาตร พระสมเด็จเกือบ ๑๐ องค์ ไดน้ าผงมาถวายหลวง
พอ่ พร้อมพระสมเด็จ ๒ องค์ หลวงพอ่ ไดน้ าผงของสมเดจ็ โตผสม
กบั ผงของทา่ นทาพระสมเดจ็ เวลาผสมทาทา่ นชุมนุมเทวดาเชิญ
พระอรหนั ต์ ปรากฏวา่ คนมากนั เตม็ ไปหมด พระก็จะทา คนก็จะมา
มายงุ่ ไปหมด ท่านไดพ้ ดู วา่ "ผงสมเดจ็ โตนี่ก็สาคญั เหมือนกนั ผสม
ทาพระไม่ไดเ้ ลย คนคอยจะมา แตก่ ูซิชกั จะราคาญแลว้ ไม่เป็นอนั ทา
อะไรไดเ้ ลย" เม่ือท่านเผลอ หนูก็คอยจะมากินผงท่าน แมพ้ ระ ท่าน
หนูกแ็ ทะกิน คา้ งคาวกม็ ารุมกิน แมเ้ ป็นสมเดจ็ แลว้ มนั ก็แทะ ผมมี
สมเดจ็ ท่ีหนูแทะ คา้ งคาวแทะเอาไว้ ๒-๓ องค์ สรุปคือพระของท่าน
กนั หนูและกนั คา้ งคาวไม่ได้ เม่ือหนูกินผงของท่าน เดก็ วดั เคยเอา
เหล็กหมาด (เหล็กแหลม) แทงติดพน้ื กระดานเลย แต่แทงไม่เขา้
นายทีเป็ นคนแทง


Click to View FlipBook Version