The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติหลวงปู่เหรียญ พระธรรมเทศนาและวิธีเจริญสมถวิปัสสนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-02-08 21:07:11

ประวัติหลวงปู่เหรียญ พระธรรมเทศนาและวิธีเจริญสมถวิปัสสนา

ประวัติหลวงปู่เหรียญ พระธรรมเทศนาและวิธีเจริญสมถวิปัสสนา

Keywords: ประวัติหลวงปู่เหรียญ

ประวัตหิ ลวงปู พระธรรม
เทศนา
และ

วธิ เี จรญิ สมถวิปส สนา

ฉลองอายุ ๙๑ ป
หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ

วนั ท่ี ๘ มกราคม ๒๕๔๖

พระสธุ รรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

ประวตั ิหลวงปู พระธรรมเทศนา

และ

วธิ ีเจรญิ สมถวปิ สสนา

ฉลองอายพุ ระสธุ รรมคณาจารย
(หลวงปเู หรียญ วรลาโภ) ครบ ๙๑ ป

รวบรวมโดย ๒
http://worralapo.cjb.net

http://www.geocities.com/worralapo

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

คํานํา

หนงั สืองานฉลองอายุ ๙๑ ป หลวงปเู หรียญ วรลาโภ ทท่ี า นเหน็ อยูน้ี อาจแปลกกวาหนังสอื
ธรรมะเลม อน่ื ๆ ของหลวงปูท่ีทา นเคยไดรับ หรอื พบเห็นมากอ น ซ่ึงการจดั ทําหนงั สอื ในครงั้ น้ี เปนการ
ทําไฟลหนงั สือขน้ึ มาใหดาวนโ หลดอา นทางอินเทอรเนต (E-Book) หรือ หากตองการพมิ พเปน รปู เลม ก็
สามารถทาํ ไดเ ชน กัน แลวแตค วามสะดวก

หนงั สือเลมนเี้ ปน หนงั สอื ทไ่ี ดรวบรวม ประวัติหลวงปูฉบับยอ ซง่ึ ไดล งอยใู นเวบไซตหลวงปู
เหรยี ญ (http://www.geocities.com/worralapo หรอื http://worralapo.cjb.net) ซง่ึ ไดรับอนุญาตสรางจาก
หลวงปูต้ังแตป  พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๒ และ ธรรมะของหลวงปูที่อยตู ามเวบไซตตางๆ ทีไ่ ดมีผศู รทั ธาใน
หลวงปูพิมพเผยแพร ถงึ แมวา บางพระธรรมเทศนาจะจดั พิมพไดไมค รบท้ังบท หรือตกหลน ไปในบาง
ประโยคดงั ทผ่ี จู ัดพิมพเขยี นแจงไว แตก แ็ สดงถึงความศรทั ธาไดเปน อยา งดี รวมถงึ ธรรมะสน้ั ๆทไี่ ดมผี ูตัด
ตอนออกมาเปนขอคดิ ท่ีนาสนใจ โดยนําทง้ั หมดมารวมกนั ข้นึ มา จัดทําเปน ไฟลหนังสอื ไฟลน้ี

หวังวาหนังสือฉบบั น้จี ะเปนประโยชนแกผ ูท ส่ี นใจ และ สามารถนําธรรมะ วิธกี ารปฏิบัติสมถ
วปิ สสนา ไปใชใ นชวี ิตประจําวนั ไดเ ปนอยา งดี ขออนุโมทนากับทา นทงั้ หลายทไ่ี ดมสี ว นในการจัดพิมพ
ธรรมะหลวงปู ซึ่งหากมีขอผดิ พลาดประการใด ทางผจู ดั ทํากต็ อ งขออภัยไว ณ ท่นี ้ีดวย

ขออาํ นาจคณุ พระศรีรตั นตรยั จงดลบันดาลใหท านผูสนใจสามารถฝกกาย วาจา ใจ ของตนให
สําเร็จตามแนวทางแหง องคสมเด็จพระสัมมาสมั พุทธเจา และ มคี วามสขุ สวัสดีตราบจนกวาจะเขา สพู ระ
นพิ พาน เทอญ

ผจู ัดทาํ

http://www.geocities.com/worralapo ๓

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรียญ วรลาโภ)

นามเดิม หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ
สมณศักดิ์ วัดอรัญบรรพต อ.ศรเี ชียงใหม จ.หนองคาย

เกิด เหรียญ ใจขาน
พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)
สถานทเ่ี กิด วนั ท่ี ๘ มกราคม ๒๔๕๕
บดิ า ตรงกับวันพุธ ข้ึน๒คา่ํ เดือนย่ี ปช วด
มารดา ตําบลบานหมอ อําเภอศรเี ชยี งไหม จงั หวัดหนองคาย
นายผา ใจขาน
พนี่ อ ง นางพิมพา ใจขาน
รวมบิดา มารดาเดียวกัน ๗ คน (เสียชวี ติ แตย งั เลก็ ๖ คน)
อาชพี เดิม รวมบดิ าเดยี วกนั แตตางมารดา ๒ คน
ออกบวช กสิกรรม
สถานท่ีบวช เดือนมกราคม ๒๔๗๕
พระอุปชฌาย อุโบสถวดั บานหงษท อง อําเภอทาบอ จงั หวดั หนองคาย
พระกรรมวาจาจารย ทานพระครวู าปดฐิ วตั ร
สังกัดเดิม พระอาจารยพ รหม
ญัตตใิ หม มหานกิ าย
แปรญตั ติใหมเ มอ่ื ธรรมยุติกนิกาย
สถานทีแ่ ปรญัตติ วนั ท่ี ๑๙ เมษายน ๒๔๗๖
พระอุปช ฌาย วัดโพธิสมภรณ จังหวดั อดุ รธานี
พระกรรมวาจาจารย ทา นเจา คณุ ธรรมเจดยี 
พระครปู ระสาทคณานกุ จิ

http://www.geocities.com/worralapo ๔

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

ประวตั ิหลวงปู

กอนบวช - พรรษาแรก

หลวงปไู ดเลาไวใ นอัตตโนประวตั ไิ วว า ทา นเกดิ ในครอบครวั ใจขาน เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2455
ครอบครัวมอี าชพี ทํานา ทาํ สวนและเล้ยี งสัตว มพี ี่นอ งดว ยกัน 7 คนแตไ ดเ สียชวี ิตต้งั แตยงั เล็กทุกคน
เมื่อหลวงปมู ีอายไุ ด 10 ขวบ มารดาทานก็ไดเสยี ชีวติ ลง ไมน านบดิ าทานก็มีภรรยาใหม หลวงปูจงึ ไดไ ป
อยูอ าศัยกับคุณยายจนอายุได 13 ปเ รียนหนงั สอื จบ ทานจงึ ไดย ายไปอยูกับบดิ า ชวยบดิ าและมารดา
ทํางานรวมกบั พี่นอ ง ทเี่ ปน ลกู ของมารดาใหมอยางขยันขนั แขง็

คร้ันเมือ่ ทานมีอายไุ ด 20 ป กม็ ีความปรารถนาจะออกบวช โดยพิจารณาเห็นวาชีวติ นเี้ กดิ มาแลว
ทาํ งานไมร จู ักจบจกั สน้ิ ตายแลว กไ็ มไดอ ะไรตดิ ตัวไป โลกนีม้ ีทั้งสขุ และทุกข แตค วามสขุ ทีว่ านเี้ ปน ความ
สขุ ช่วั คราวท่ไี มย ั่งยืน มันเปนเพียงเหยอ่ื ลอ ใหคนเราติดอยูในทุกขเทานน้ั คนเราเกิดมาแลว ท่สี ุดกต็ อง
ตายดวยกันทกุ คน รางกายน้เี มื่อจิตละไปแลว กต็ องแตกสลายออกจากกนั ไมมอี ะไรเปน ชิ้นเปน อนั เลย
เมือพิจารณาดังนแ้ี ลว ทา นจงึ ไปขออนญุ าตบดิ าและมารดาเพอ่ื ขอลาบวช

เม่ือทา นบดิ าไดอนญุ าตแลว ทา นกไ็ ดบ วช ณ อุโบสถวดั บา นหงษท อง มที า นพระครวู าปดิฐวตั ร
เปนพระอปุ ช ฌาย มีพระอาจารยพรหม เปนพระกรรมวาจาจารย เมอื่ เดอื นมกราคม 2475 บวชแลว จงึ
กลบั มาอยูว ดั โพธ์ิชยั บา นหมอ โดยทา นอาจารยว ัดโพธิ์ สอนใหท า นภาวนาอนสุ ต1ิ 0 ทา นก็ไดทอ งเอา
แลว บริกรรมไปเรื่อยๆต้ังแตพุทธานุสติ ธรรมานุสติ ไปจนถงึ อปุ สมานุสติแลวจงึ ตง้ั ใหม

คร้นั ถึงเดอื นพฤษภาคมปน ัน้ เอง ทา นจงึ ไดไปจําพรรษาอยู ณ วัดศรสี มุ ัง ทา นจึงไดเ ขาไปเรยี น
ถามวิธเี จริญภาวนา กับทา นอาจารยบุญจนั ทร รองเจา อาวาส ซงึ่ ไดรับคําสอนใหเลือกเอากรรมฐานบทใด
บทหน่ึง ท่ถี กู กับนิสัยของตน บรกิ รรมเฉพาะบทเดยี วเทา น้นั พรอ มกับแนะนาํ ใหบ รกิ รรมพทุ โธเปน
อารมณ ทานจงึ ไดบ รกิ รรมพทุ โธมาตง้ั แตน้ัน พอถึงเดอื นธนั วาคมสอบนกั ธรรมเสรจ็ ทานจงึ ไดเ ดนิ ทาง
กลับวัดโพธช ยั

ในระหวา งน้ันบิดาทา นไดน ําหนังสือของทานพระอาจารยสิงห ขันตยาคโม มาถวายหลวงปู เมอ่ื
อา นแลว ทา นรสู ึกสนใจในเรอ่ื งกายานปุ ส สนา ซึ่งในหนงั สือไดแ นะนํา ใหพ จิ ารณากายแยกยอ ยไปเปน
สว นตา งๆ ใหสตไิ ดรวู า รา งกายนไ้ี มไ ดมีอะไรเปนของตนสกั อยา งเดียว เมอื่ ทา นพิจารณาไดด ังนจ้ี ึงมีดําริ
จะออกไปอยใู นปา

แตท านกย็ งั ไมอาจตัดสินใจไดเ พราะใจหนึ่งอยากสกึ ไปครองเรอื น แตอ ีกใจหนง่ึ อยากออก
ปฏบิ ัตธิ รรมตามทีต่ ้งั ใจไว ทานจงึ ไดน งั่ สมาธติ ดั สนิ ใจ แลวทา นก็ไดคําตอบวา ไมสึกถงึ 3 ครัง้ ซ่งึ ไมน าน
ทานจึงได ออกจากวดั ไปอยปู าที่ ผาชนั รมิ ฝง แมน ํา้ โขง พรอมกับศึกษาตอ กับทา นอาจารยกู ธัมมทนิ โน
ซ่ึงทา นก็ไดร บั ฟงจนเขาใจดี

http://www.geocities.com/worralapo ๕

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

ธรรมยุติ พรรษาท่ี ๑ - ๕

ครั้นป 2476 หลวงปไู ดพบกบั ทานอาจารยบ ญุ มา ฐติ เปโต ทา นอาจารยบุญมาไดพ าทา นไปบวช
เปน ธรรมยุติท่ีวัดโพธิสมภรณ อดุ รธานี ในพรรษาแรก ทา นไดไ ปจําพรรษาอยทู ีว่ ดั ปาสาระวารี
จ.อดุ รธานี เมอ่ื ออกพรรษาแลวทานจงึ ไดธุดงคขนึ้ ไปพักวิเวก ที่ถา้ํ ผาปู และถ้าํ ผาบ้ิง จงั หวัดเลย

พอป 2477 ทา นจึงไดก ลับลงมาจาํ พรรษาที่วดั อรัญวาสี จ.หนองคาย ในพรรษาน้ี ทา นเลา วา
ทานไดตั้งใจบาํ เพญ็ เพยี รอยางหนกั ซึ่งทานมคี วามตั้งใจดงั นคี้ ือ 1.จะไมน อนกลางวนั 2.เมือ่ ค่าํ ลงจะทํา
ความเพียร จนถงึ 4 ทมุ จงึ จาํ วัด พอถงึ ตี 2 จึงลุกข้นึ ทําความเพียรตอ จนถึงสวา ง พอออกพรรษา ทา น
จึงไดธ ดุ งคไปอยทู ถ่ี ํ้าผาบงิ้ อีก พอถงึ เดือนหก จงึ กลบั มาทวี่ ดั ปาบานคอ ในวนั ออกพรรษาปนน้ั เอง ทาน
กเ็ กดิ รักผหู ญงิ เขาคนหนง่ึ ทานจงึ ไดร ีบหนีกลับมาอยูที่วดั อรญั ญบรรพต แตก ็ไปเกิดรกั ใหมจ นทา นตดั
สินใจวาจะลาสึก และจึงไดเ ดนิ ทางไปหาพระอุปช ฌายเพือ่ ลาสกึ แตใ นคนื วนั น้ันเอง ทา นไดพจิ ารณาเหน็
ถึงความทุกขในโลก จนในท่ีสดุ ทา นจงึ คลายจากความอยากสึกลง จากนน้ั ทานจงึ ไดก ลับไปจําพรรษาท่ี
วัดปาสาระวารีอกี ครงั้ เปน พรรษาที่ 3 พอยา งเขา เดือน 10 ทานกล็ ม ปวยลง พอออกพรรษา บิดาจึงได
พาทานกลับมารักษาตวั ทว่ี ัดอรัญญบรรพต ทานเลา วา เจบ็ คร้งั น้ันเกอื บเอาชีวติ ไมรอด

ครั้นตอ มาการภาวนาก็ทาํ ใหจติ สงบลงเรอ่ื ยๆ จนสงบดแี ลว แตพอมเี รือ่ งตา งๆเขามากระทบ
เชน ทางตา ก็ทําใจจติ ใจหวน่ั ไหว แกอยา งไรกไ็ มตก ทานจงึ ไดคดิ ถึงทา นอาจารยม ัน่ ทงั้ ๆท่ที า นไมไ ดร ู
จกั เลย เพียงแตเคยไดยนิ มาวาทานเปน ผปู ฏิบัติดี ปฏิบตั ชิ อบ หลวงปจู งึ ไดช วนเพอ่ื นภิกษุรูปหน่งึ เดนิ
ทางมาหาทานอาจารยม่นั ดวยกนั ท่ี จ.เชยี งราย

ในคืนวนั หนงึ่ ทยี่ งั เดนิ ไปไมถ งึ หมบู า น จงึ นอนอยูในปาขางทาง คืนน้นั ทา นไดนมิ ติ เห็นทาน
อาจารยมน่ั พอถงึ รงุ เชา ทา นกไ็ ดท ราบวาเพื่อนภกิ ษุกไ็ ดน ิมติ เหน็ ทา นอาจารยม ่ันเชน กนั พอสอบถามถึง
ลักษณะท่ปี รากฏก็ทราบวา เปนเชนเดยี วกัน ถือวาเปนนมิ ิตหมายอันดี ทําใหท านแนใ จวา จะตอ งไดพ บ
ทานอาจารยม่นั อยา งแนน อน

ครน้ั เม่ือเดนิ ทางไปถึง จ.เชยี งใหม ไปทีว่ ดั เจดียหลวง ไดพบกับหลวงตาเกต ซง่ึ ไดพ าทา นไปพบ
พระอาจารยม น่ั ท่ีปาละเมาะใกลๆ โรงเรยี นแมโ จ ในวันนั้นทา นอาจารยไดใ หโ อวาทแกหลวงปูว า
ธรรมดาเขาทํานาทาํ สวน เขาไมไ ดทําใสบ นอากาศเลย เขาทาํ ใสพนื้ ดนิ นแ้ี หละจึงไดรบั ผล ฉนั ใด
โยคาวจรผบู าํ เพ็ญเพียรท้งั หลาย ควรพิจารณารางกายนแ้ี หละเปน อารมณ จนเกดิ นิพพิทาความ
เบ่ือหนา ยในนามในรูปน้ี ดว ยอํานาจแหงปญญานัน้ แหละ จึงจะเปน ทางหลดุ พน ได ไมควรติดใน
ความสงบโดยสวนเดียว

พรรษาท่ี ๖ - ๑๘

ในพรรษาท่ี 6 ทานไดรบั การแตงต้งั จากทา นพระอาจารยม น่ั ใหจ าํ พรรษาท่ี อ.พราว จ.เชยี งใหม
พรอ มกบั พระอาจารยเ นยี ม และพระอาจารยอ อ นศรี ครัน้ ออกพรรษาแลวจงึ ไดอ อกธดุ งค ไปบนเขาดอย

http://www.geocities.com/worralapo ๖

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเ หรยี ญ วรลาโภ)

พระเจา พรอมกับทานพระอาจารยมนั่ และพระรูปอื่น รวม 6 รปู ดวยกัน นบั ต้ังแตหลวงปไู ดพบทา นพระ
อาจารยม ั่น ในป 2481 เปนตนมา หลวงปูกย็ ิ่งเลอื่ มใสทา นพระอาจารยมั่นมากข้ึนตามลําดับ ทานจงึ ตัด
สินใจธดุ งคอ ยทู างภาคเหนอื ตอ จําพรรษาท่เี ชียงใหมร วมทัง้ ส้ิน 10 ป และ อ.เถนิ จ.ลาํ ปาง อีก 3 ป ซ่ึง
ในครง้ั น้นั มพี ระอาจารยทีร่ วมธุดงคด วยทางภาคเหนือ ไดแก ทา นพระอาจารยมนั่ ทานพระอาจารยก ู
หลวงปสู มิ หลวงปูชอบ และหลวงปขู าว เปน ตน

โดยในพรรษาที่ 7-9 ไดอ ยูจําพรรษากบั ทานอาจารยกู และทานอาจารยสมิ ทวี่ ัดสันตนเปา
จ.เชียงใหม และในพรรษาท่ี 10 ไดจําพรรษาอยทู ี่สาํ นกั สงฆแ มห นองหาร กับหลวงปชู อบ ซ่งึ ในพรรษา
นน้ั หลวงปูชอบไดม าชวนใหทานไปธุดงคท ่ีประเทศพมา แตท านลองนงั่ สมาธแิ ลว เห็นวา หนทางไม
ปลอดโปรง ทา นจึงไดปฏเิ สธหลวงปชู อบไป ซึง่ ในภายหลัง ทา นไดพบกับหลวงปชู อบอกี ครัง้ ทานจึงได
ถามถึงการไปพมา ซึง่ ไดรับคาํ ตอบวาไปพมา คร้ังนัน้ ไดร บั ความลําบากมาก

ตั้งแตพรรษาท่ี 11-14 ทานไดอ ยจู าํ พรรษาทสี่ าํ นักสงฆ ในระหวางนีท้ านไดพบกับหลวงปูช อบ
และหลวงปูข าว จึงไดช วนกนั ไปวเิ วกตามเขาและถา้ํ แตในภายหลังหลวงปขู าวไมส บาย ทา นจงึ กลบั ลง
มา แตไ มนานหลวงปูช อบกช็ วนขึ้นไปอกี ทา นเลา วา ในคืนหนึ่ง ขณะทีน่ ั่งสมาธิอยู กเ็ กิดความรูส กึ ในจติ
วา "ระวงั อยา ประมาท คืนนเ้ี สือใหญมา" ทานจึงไดนง่ั สมาธิอยู กไ็ มเ ห็นมอี ะไร นานเขา ทา นจึงจําวดั รุง
เชาทานกไ็ ดไปปฏบิ ัตทิ านอาจารยชอบ พรอมเรียนถามทา นวา เห็นนิมติ อะไรหรอื ไม กไ็ ดร บั คําตอบวา
เหน็ อบุ าสกมาบอกใหระวงั เสอื ทานจงึ ไดน ง่ั สมาธิคอยแตไมมีอะไรเกดิ ขน้ึ เมื่อหลวงปูเ หรียญทราบดงั
นั้นแลว ทา นจงึ ไดไปสาํ รวจรอบๆที่พัก ก็ไดเหน็ รอยเสอื คุยดินเปนระยะๆ เม่ือทานออกบณิ ฑบาต ก็เหน็
รอยเสอื อยตู ามทาง ทานจึงไดแ ผเ มตตาให ซ่ึงหลงั จากน้ันกไ็ มมเี สือไปหาอกี เลย

ในพรรษาท่ี 15 และ 17-18 ไดจําพรรษาอยูที่ อ.เถิน จ.ลําปาง ซ่งึ ระหวา งท่ีหลวงปไู ดจาํ พรรษา
อยูที่ จ.ลาํ ปาง นี้ กไ็ ดพาบิดาไปบวช ณ วดั เชตวนั จ.เชียงใหม และไดอ ปุ การะทานมาโดยตลอด สวนใน
พรรษาที่ 16 หลวงปไู ดไปจาํ พรรษาท่ี จ.เชียงใหม ไมนานทา นกไ็ ดไ ปธุดงคต อทป่ี ระเทศลาว ทนี่ ัน่ ทาน
ไดเ ห็นนิมิตอนาคตของประเทศลาว ไดความวาตอไปประเทศลาวจะหาความสงบไดยาก ทา นจึงเดนิ ทาง
กลับประเทศไทย

เม่อื หลวงปูกลับมาประเทศไทย ทา นกไ็ ดเจอกับหลวงปเู ทสก ซ่งึ หลวงปูเทสกก ไ็ ดช วนทา นไป
เผยแผธรรมะทางภาคใต ซ่ึงในการเดินทางครนั้ น้ัน มที ัง้ พระและเณร รวมทั้งหมด 9 รูป ในระหวา งเดิน
ทางทางเรือ ทา นกไ็ ดพ ิจารณาเห็นธรรมะดังน้ี

"เรือทนี่ ายชา งตอ ดแี ลว อยา งแขง็ แรง
เมอื่ ถกู คลื่นกระทบแลว ไมเสียหายฉนั ใด

จิตของบคุ คลใดเม่อื ฝกฝนใหด แี ลว
คลื่นของกเิ ลสกระทบเขายอ มไมหวัน่ ไหวก็ฉนั นั้น"

http://www.geocities.com/worralapo ๗

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรียญ วรลาโภ)

พรรษาท่ี ๑๙ - ปจจุบนั

ดังนัน้ ในพรรษาที่ 19-20 ทานจึงจําพรรษาที่สํานกั สงฆ ต.ตะกวั่ ทงุ จ.พังงา 2 พรรษา เมอ่ื ออก
พรรษาแลวจึงไปวเิ วกตามถาํ้ ใน จ.พงั งานน้ั เอง ครัน้ เมอ่ื ใกลจ ะเขาพรรษาก็ไดม ีผนู ิมนตใ หจาํ พรรษาที่
เมอื งพังงา ขณะท่ที า นไดไ ปบําเพญ็ อยูท่ีถํา้ หลักเมอื ง หนาถ้าํ มีศาลเจาพอ หลกั เมอื งตงั้ อยู มกี ารขอบตั ร
ขอเบอร ทรงเจา ฆาสัตวส ังเวยทกุ ป วนั แรกกอนทีท่ านจะเขาถ้าํ ทา นจงึ เขาไปในศาล เห็นหิน 2 กอ นฝง
ดินอยู แตพนดินอยสู วนหน่ึง ทานจึงสวมรองเทา ขึ้นไปเหยียบหนิ ทั้ง 2 กอนแลวกลา ววา ไดยินวาเจาพอ
หลักเมอื งมาอาศยั อยูท นี่ ้หี รือ ถา มาอยทู ี่นี่จรงิ ขอใหเ จาพอคอยฟง ธรรมะนะ อาตมาจะแสดงธรรมใหญาติ
โยมฟงอยูหนาถํ้าน้แี หละ แลวทา นกเ็ ขาไปในถาํ้ บาํ เพ็ญสมณธรรมได 2 เดือน ก็มีโยมเขาไปสรา งศาลา
หลังเลก็ ๆให ตอ มากม็ ีผซู อ้ื ที่ดินจัดทําเสนาสนะใหอ ยจู าํ พรรษา มพี ระจําพรรษาดวยกนั 5 รูป มญี าตโิ ยม
ไปนง่ั สมาธแิ ละฟง ธรรมทกุ คนื

ในวันอุโบสถวันหนึ่ง มีชายคนหนงึ่ ซึ่งไปดกู ารเขา ทรงมา มาจําศีลอโุ บสถท่วี ัด เลา วาในวนั ท่มี ี
การเขา ทรงกนั เจา พอ ในรา งคนทรงบอกวา ตอ ไปอยา มาขอเบอร และฆา สตั วส งั เวยอีกเพราะมนั เปน
บาป มีคนถามวา เมื่อกอ น เจา พอ ยงั บอกลูกหลานอยู ทาํ ไมจึงวา มนั บาป เจา พอ ตอบวา เมอื่ กอนทานยัง
ไมร ูวาบาปเปน อะไร แตพอไดฟ ง ธรรมจากพระกรรมฐานท่มี าแสดงทหี่ นา ถ้ํา ทา นจงึ รูว ามันเปน บาป แลว
บอกวา ตอ ไปถาจะเอาของมาสงั เวยก็ขอใหเอา ขนม ผลไม มาบวงสรวง ตอนนี้ทา นก็จาํ ศลี ภาวนาอยู
เสมอ หลวงปูบ อกวา การไปเผยแผพ ระพทุ ธศาสนาในครงั้ นัน้ ไดผ ลมากพอสมควร

ทานไดอ ยบู ําเพญ็ สมณกจิ ท่ีสํานักสงฆน้นั มาจนขออนุญาตสรา งวดั ไดสาํ เร็จ ต้งั ช่อื วา วัดประชา
สันติ อยูวดั น้ไี ด 6 ป จงึ ยา ยมาอยู วัดสันติวราราม อีก 2 ป จึงยายกลับไปอยวู ัดอรญั ญบรรพต ตง้ั แตป
2502-ปจจบุ ัน

http://www.geocities.com/worralapo ๘

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

บญุ ญาพาชวี ิตรอด

โดย หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ
วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม จ.หนองคาย

๓ เมษายน ๒๕๓๗

ตอนไ้ี ปพึงพากันตง้ั ใจ สาํ รวมจติ ใจของตวั ใหแ นว แน อยภู ายใน อยาใหใ จมันคดิ สงออกไปขา ง
นอก เวลาน้ีเปนเวลาทเี่ รา มาชมุ นุมกันเพ่ืออบรมจิตใจโดยเฉพาะ เพราะจติ ใจนเี้ ปน เร่อื งที่ อบรมฝกฝน
ไดยาก แตก ็ไมเหลอื วสิ ยั สาํ หรบั ผูมคี วามหม่นั ความขยัน มคี วามเพยี ร มันเปน การยากสาํ หรบั ผูไมข ยนั
หมน่ั เพยี ร ไมเอาใจใส ตอ จิตใจของตวั เอง ไมวางานส่ิงใดทัง้ หมด ถา หากวาเอาใจจดจอ เขา ไปแลว มนั ก็
ดําเนินไปได จะใหยากลาํ บากอยางไร ก็ ถา หากวา อยูในวสิ ัยที่เราจะทาํ ไดแ ลว เราเอาใจฝกใฝเขา ไป ใช
โยนโิ สมนสิการ พินิจพิจารณาหาทางแกไขอุปสรรคตางๆ ทเ่ี กดิ ขึน้ นั้นใหมนั ลุลวงไป ถา มนั ไมเ หลือวสิ ยั
จรงิ ๆ มันกเ็ ปน ไปได การทค่ี นเราจะฝา ฟน อปุ สรรคตา งๆ ไปไมไ ดน้นั กเ็ พราะมนั ขาดความเพียรความ
เอาใจใส อนั นีแ้ หละสําคัญ ไมวาการงานสิง่ ใด ถา หากวา เราไมเอาใจใสแลว มนั จะไมสาํ เร็จผลเลย

ทีนง้ี านเก่ยี วกบั การฝก ฝนอบรมจติ ใจนี้ มันกย็ ่งิ ตอ งการความ เอาใจใสเ ปนพิเศษเลย หมาย
ความวา ตนเองพยายามดูตนเองใหม าก ที่สุดเทาทจี่ ะมากได เพราะตามธรรมดาแลว บคุ คลผูปลอยให
ความหลงครอบงําจติ ใจแลว มนั ลมื ตวั ไมรูวาตัวเปน อยา งไร ไมรวู าจติ ใจของตนมันเปนอยา งไร จิตใจของ
ตนมันหลงไปอยู มันเหน็ ผิดเปน ชอบไปอยู ก็ไมร ตู วั เอง นแ่ี หละคนเราถาปลอยให ความหลงครอบงําไป
แลว เปนอยางนน้ั ดงั นนั้ วธิ ีแก มนั ก็อยทู ส่ี ติ สัมปชญั ญะ เราหมนั่ ระลกึ เขามาหากายหาจติ นี่ มาควบคุม
จิตน้ี ใหต ้ังอยูภายใน ถาหากวา ควบคุมเฉยๆ มันหยุดมนั นิ่งไมได กต็ องบริกรรม พทุ โธ แทน จิตใจผูก
พนั อยูกบั พุทโธ คณุ อันประเสริฐน้ัน ถาหากวา ทาํ ไดอยางนี้ ความหลงความเขาใจผดิ ตางๆ นานานนั้ มัน
ก็ จะระงับไปโดยลําดับ เพราะมนั มารตู วั รตู วั น่ีหมายความวา เรารูว า อารมณตางๆ ทเ่ี กิดขึน้ ในจติ น้ี
ลวนแตเปนของไมเทย่ี ง เกดิ ขึ้นแลว ก็ดบั ไป เราจะไปเอาจริงเอาจงั กับความคดิ ความนึกตา งๆ เหลา น้ี
ไมไดเลย เพราะมันไมจีรังย่งั ยืน มีแตก ารทาํ ใจสงบลงเปน หนงึ่ ใหได อันน้แี หละเปน ส่งิ ทีอ่ ุนใจของเรา

เมอื่ ใครทําใจใหส งบลงไปไดแลว ผนู ้ันก็ไดรบั ความ อุน ใจ ความสงบนีห้ มายถงึ ความอมิ่ ใจ
มันอ่ิมทุกสิ่งทกุ อยาง มันไมอยากไดอะไรในขณะทีใ่ จสงบอยนู ้ัน เพราะฉะน้นั เม่อื มนั มอี ิ่มได มนั ก็สบาย
ไมใชหรอื คิดดูใหดี เหตุท่มี ันไมสบายนั้น ก็เพราะมันหวิ จิตนม่ี นั หิวอยูเรื่อย มนั หวิ อารมณ มนั หิวเร่อื งดี
เรอื่ งชวั่ ตา งๆ นานา ในโลก เหตุน้ันมันจงึ หาความสุขสบายไมได ดงั นน้ั การทเ่ี รามา พยายามทาํ ใจให
สงบนี่ ก็เพือ่ ทจ่ี ะระงับความหิวของจิตใจนน้ั เอง ใหม นั คอ ยสงบไปโดยลาํ ดับ แลวการที่เรามาใชป ญ ญา
พิจารณา เหตุผลตางๆ ที่จิตใจมันยึดม่ันถือมั่นอยูนั้น อันน้ันมนั เปนวธิ กี าร ท่ีจะละอปุ าทานความยดึ มน่ั
ถอื มั่นใหห มดไปสิน้ ไป แตล าํ พังสมาธินั้น เพียงแตร ะงบั ความอยากความหิวไปไดช่ัวระยะหนงึ่ เทา น้ันเอง
สวนท่ีจะละความอยากความหวิ ใหมันขาดเดด็ ออกไปจากจิตใจได ตอ งอาศยั ปญ ญา

http://www.geocities.com/worralapo ๙

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

ปญญาน้ันกต็ องเกิดจากสมาธิ ไมใ ชวา ปญ ญาที่เรา นึกเดาเอา นกึ คาดคะเนไปตามอาการ
ตา งๆ อยา งนั้นไมใ ช ปญ ญา ในทนี่ ้หี มายถงึ ปญญาเกดิ จากใจทสี่ งบตงั้ มนั่ อยภู ายใน เม่อื ใจตงั้ ม่ัน อยู
ภายในแลว มนั กผ็ องใส มนั กไ็ มมวั หมอง เมื่อมนั ผอ งใสแลว เราจะคิดนกึ ถงึ เร่ืองอะไร มันกเ็ หน็ มนั ก็รู
เรือ่ งน้นั โดยแจม แจงได เหมอื นอยางไฟฟา ที่ไสม ันก็ยงั ดีอยู หวั เทียนกด็ ี อยา งนแ้ี หละ ไมเสียอะไร พอ
กดสวติ ชเ ทาน้ัน มันก็สวาง มองเห็นวัตถสุ ิง่ ของ ตางๆ อยูในรศั มีแหง ความสวางนัน้ ไดโดยชดั เจน ขอน้ี
ฉนั ใด ปญญากเ็ ปนเชนนน้ั แหละ เม่ือใจสงบผองแผวดแี ลว เราพิจารณา เรื่องอะไรมันก็เหน็ ชดั ไปในเร่ือง
นน้ั เพราะวา กระแสจติ มนั ใสสะอาด กระแสจติ มนั สวาง ดงั นนั้ มนั จึงรูความจริงของเรอ่ื งน้นั ไดต าม ความ
เปนจรงิ

แตวา ความรูในการเจรญิ วปิ สสนานี้ พระศาสดาก็ทรง สอนให ยกขันธหา นีแ้ หละข้นึ มา
พจิ ารณากอ นส่ิงอืน่ ทั้งหมด ทง้ั น้ี ก็เพราะวา จิตใจมนั ยดึ มัน่ ถอื มนั่ อยูใ นขนั ธหาน้ี วาเปน ตัวเปนตน เปน
เราเปนเขา มนั จะหลงละเมอไปในเร่ืองตา งๆ ภายนอกโนน กเ็ พราะมันหลงขนั ธหานก้ี อ น มนั สาํ คญั ผดิ
ในขันธห านแ้ี ลว มนั จึงไดห ลงผิดไปในอารมณอ่นื ภายนอก เหน็ อารมณตา งๆ ภายนอก เปน ตวั เปน ตนไป
เปนดีเปน ช่วั ไปหมดเลย กเ็ พราะมนั หลงขันธห า นแี้ ล ถา มันรูแจงในขนั ธห านต้ี ามเปนจรงิ มนั ไมสาํ คัญ
วาเปน ตัว เปน ตนเปนเราเปน เขาแลว ปลอยวางไวตามสภาพเหลาน้แี ลว มนั จะไมหลงผิดไปในเร่อื งใดๆ
ท้งั หมดเลย เพราะวาส่งิ ตางๆ ภายนอกโนนมันกอ็ าศัยดวงจติ น้ีตา งหาก เปนผูไปยดึ ไปถอื ไปสมมตมิ นั
ขึน้ วา อันนน้ั ดีอนั น้ีช่ัว สิ่งนน้ั นารักสิง่ น้ีนาชงั มนั ออกไปจาก ดวงจติ ดวงน้ี ซงึ่ มีขันธหา น้ันแหละเปน
เครื่องสอ งไป เปนเครือ่ ง ดําเนนิ ไปตามความนยิ มสมมติของโลก เชน อยา งวา สัญญาอยา งน้ี กค็ วามจํา
หมายน่ี มันจําผิดไปดวยอาํ นาจแหงความรผู ดิ มนั จาํ วา สิ่งนีไ้ มสวย มนั กเ็ ห็นวา สวยวางามอยา งน้แี หละ
ส่ิงนไี้ มส วยไมง าม นาเกลียดนาชัง มนั ก็เห็นไปวา นาเกลียดนา ชงั เหน็ ไปตามสมมติ นิยมของโลก เหตุ
นัน้ มนุษยเราถงึ ไดเ บียดเบยี นซ่งึ กนั และกนั ประหัตประหารซ่ึงกันและกนั ก็เพราะมนั หลงสมมตนิ เี่ อง
แหละ

เมื่อมีผมู าเจริญวปิ ส สนาโดยลาํ ดับไป มาแจกแจง ขนั ธหา นอ้ี อก ใหม ันเห็นเปน ของวางของ
เปลาจากสตั วจ ากบุคคล เหน็ วาไมม ีสัตวไ มม บี คุ คลอยใู นขันธหานเ้ี ลย เชนนแ้ี ลว มนั ก็จะไมหลงสมมติ
เหลาน้นั มนั กจ็ ะมองเห็นแตเ พียงวา เรือ่ งดีเรอ่ื งชวั่ ตา งๆ นน้ั มันกม็ ีการเกิดข้ึนแลว ก็ดบั ไปเทา นัน้ เอง
ไมม ีอะไรเปนตัวเปนตนเลย แตถ าวาไปตามสมมตแิ ลว มันกม็ ดี มี ชี ัว่ อยูน น้ั แหละ แตถาเราจะ ไปยึดเอา
แตด แี ตช วั่ ไปตามสมมตอิ ยูน้นั มนั กพ็ น ทุกขไ มไ ดเลย จติ ใจมนั ก็เอียงซายเอยี งขวาไปอยูอ ยา งน้นั เด๋ียวก็
รกั เดยี๋ วก็โกรธ เดย๋ี วก็พยาบาทเบียดเบียนกันและกันนี่ เมอื่ หากวาไปยดึ เอาสมมุตนิ ่นั มาเปนอารมณ
แลว มนั ก็จะไปอยางนั้นแหละ วถิ ชี วี ิตของคนเรานี่ แตท ่คี นเราจะกลายเปน คนเกเรเปน คนช่วั กลายเปน
อนั ธพาล ชอบเบียดเบยี นแตบคุ คลอนื่ และสัตวอ่ืนไปนน้ั ก็เพราะเหตทุ มี่ นั หลงสมมตบิ ัญญตั ิอยา งวา นี้
แหละ ไมไดเจรญิ ปญญาวปิ สสนา เหน็ แจงในขนั ธหา ตามเปน จริง นีท่ าํ ใหคนเสียคนไป ทาํ ใหคนเรานัน้
ตกอยใู ตอาํ นาจของกิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความอจิ ฉาพยาบาทเบยี ดเบยี นซึง่ กัน
และกนั เมอ่ื น่ีมันลวนตัง้ แต มนั เหน็ ขันธหาเปน ตวั เปนตนทั้งนน้ั แหละ มนั จึงไดสาํ คัญวา ตนนั้นวเิ ศษกวา
คนอน่ื ตนนัน้ มกี ําลงั แข็งแรงกวา คนอน่ื เราไมก ลวั ใคร จะชกจะตอยจะตจี ะอะไรก็เอาทงั้ นน้ั เมื่อมนั โกรธ
จดั ขึน้ มาแลว นแี่ หละความถือวามตี ัวมีตนมนั มผี ลรา ยอยางน้เี องแหละ ใหพ ากัน เขาใจ

http://www.geocities.com/worralapo ๑๐

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเ หรยี ญ วรลาโภ)

การท่เี รามาเจรญิ ภาวนาเพง พิจารณาใหเ ห็นขนั ธห า ลงไปวา เปน อนิจจัง ทุกขงั อนัตตา ไม
ใชต ัวตนเราเขาอยา งน้แี ลว มนั จะทาํ ใหกิเลสเหลา นี้ออ นลงไปเปน ลาํ ดบั ใครดา วาติเตยี น มนั กก็ าํ หนดรู
ทันวา เขาไมไ ดดา เรา ไมไดวาเรา เขาดา รปู นต้ี า งหาก รปู น้ี ไมใชของเรา เม่อื รูปนไี้ มใชข องเรา เราจะไป
โกรธทาํ ไมเลา จะไปหวงมันไวท าํ ไม หวงไวไ ดแลวมนั ก็ไมย ง่ั ยืนอะไร รูปนมี้ ันก็แปรปรวนไป ในทสี่ ดุ มัน
กแ็ ตกดับลง การหวงไวโดยไมชอบดว ย เหตผุ ลอยางนน้ั รงั แตจ ะเปน เหตใุ หส รางบาปสรา งกรรมใสต ัว
เอง และบุคคลอน่ื กอ ทกุ ขใ หแ กก นั และกนั ไมมีทีส่ ้ินสุดลงได นีโ่ ทษ อยางหยาบทบ่ี ุคคลถือม่นั วา เปน ตวั
เปน ตนเปน เราเปน เขา มันก็ เปน ไปอยา งน้แี หละ เพราะฉะนนั้ เราเปนนักภาวนานี่ ก็ตอ งพจิ ารณา ใหมัน
เห็นแจง ลงไป เราจะไปนงั่ อยูเฉยๆ ทําไม นงั่ ภาวนาอยเู ฉยๆ ไมคดิ ไมพจิ ารณาไมก าํ หนดรูอะไร ความ
จรงิ ของขนั ธห า มีอยา งไรก็ ไมดาํ ริตริตรอง ใหเ หน็ แจง ประจกั ษดวยใจของตนเอง เชน นม้ี นั ก็ จะไปปลงไป
วางขนั ธหา ลงไดอยา งไร มันกจ็ ะถอื มนั่ วา เปน ของตวั อยูน น่ั แหละ หวงไมยอมใหใครมาติมาวา นิดหนึง่ ก็
ไมได ใครมาวา นดิ หน่ึงก็เกิดโมโหโทโสข้ึนเลย ลืมความดีทุกส่ิงทุกอยางไปเลย ถาหากวา ไมมีผมู าก้ัน
กลางไว เดีย๋ วก็จะไดส งั หารกันลงไป ยอยยบั ลงไปดว ยกนั ทงั้ สองฝาย ไมม ใี ครดีกวา ใคร เหลวกันทั้งหมู
เลย ทเี ดียวละ ถา เปนหมูก็ดี นี่แหละโทษทค่ี วามหลงใหลยึดม่นั ถอื ม่ัน ในขนั ธหา วาเปนตัวเปน ตน พากัน
พจิ ารณาเอา

เหตุที่คนเราจะพน ทุกขใ นสงสารไมไดน่ี กเ็ พราะมัน ไมย อม ไมย อมพากเพียรพยายามปลง
วางขนั ธห านี้ มแี ตยดึ แตถ ือ เอาไวอยอู ยางนนั้ ถือไวเ ทาไรก็ยงิ่ สะสมกเิ ลสใหห นาขึน้ เทา น้ัน กไ็ ม
สามารถทีจ่ ะทําความดใี หส งู ข้นึ ไปไดเ ลย เพราะวากิเลสเหลา น้นั มัน มาขัดขวางอยูเร่อื ยไป จะทาํ ความดี
คือวาทําใจใหสงบระงบั จาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง เหลา น้นี ะ มันทําไปไมไ ด มันเปน อยางน้นั
ผทู จี่ ะบรรเทากเิ ลสเหลาน้ีลงไดนัน้ จะตอ งมาปลอ ยวาง ขันธหานี้ลงไปอยา ไปสําคญั วาเปนเราเปนของ
ของเรา น่แี หละมนั ถึง จะบรรเทากิเลสเหลานน้ั ลงได ไมเ ชนน้นั แลว ใครจะทาํ ความดีอยางไร สักเทา ไรก็
ไมม ีทางทจี่ ะบรรเทากิเลสใหเ บาบางลงไปไดเลย ใหก นั เขาใจ เราจะหวงไวทาํ ไม หวงขนั ธหานี้ หวงไว
ไดม นั กไ็ มเ ปน ไป ตามใจหวงั อยูไ ปคนื วันปเ ดอื นลวงไปๆ มนั กท็ รดุ โทรมไปโดย ลาํ ดบั ในทีส่ ดุ มันก็แตก
สลายออกไปจากกันไป ก็ดังที่เรารูๆ เหน็ ๆ กนั อยู มนั ก็มีเทาน้ีเอง ความเปน ไปแหง ชวี ิตนี้ แลวทาํ ไมเรา
ถงึ จะมาหวงกนั ไวอ ยา งน้ี ไมสมควรเลย

หากวาเราเชอ่ื พระปญญาตรสั รูของพระพุทธเจาจรงิ ๆ มนั ก็ควรทีจ่ ะนอมตวั ลงสคู ําสอนของ
พระองค ละอัตตานทุ ฏิ ฐลิ งไป ความเห็นวา มีตัวตนมีเรามเี ขาน่ี ควรละจรงิ ๆ เพียรละมันไปเรอื่ ยๆ ถา ไม
ปลอ ยวางความเห็นอยางวา นแ้ี ลว จติ สงบลงไมไดเลย จิตจะ สงบลงไปไดก็เพราะเราวางคาํ วาตวั ตนเรา
เขาลงไป เม่ือวางลงได อยางนี้ สุข มันก็ไมยนิ ดีไปตามสขุ ทุกขเ กดิ ขน้ึ มนั ก็ไมย นิ รายไปตาม มสี ตคิ ุมจิต
ใหเ ปนกลางอยูอยา งน้นั นีแ่ หละจติ จะรวมลงไปได มนั ตอ งปลอ ยวางความสขุ ความทกุ ข อนั เกิดข้นึ ใน
กายในจติ นี้ลงไป

การทีม่ นั เกิดเวทนาข้ึนในใจนนั้ แหละ คอื ลักษณะแหงความทกุ ข มันเกดิ ความกระวนกระวาย
ข้นึ ในใจ มนั กม็ ี บางทกี ็เกดิ จากอํานาจของกเิ ลส ไมใขเ กิดจากโรคภัยเบยี ดเบียนรา งกาย พอนงั่ ภาวนา
ลงไปอยางนี้ หากวา กิเลสมนั ยังหนาอยู มนั ก็จะแสดงอิทธิพล ของมันออกมา ปน จิตใหห ว่นั ไหวกระทบ
กระทั่งกบั รางกาย กายก็รสู กึ วา อดึ อดั ขัดของไปตา งๆ นานา เจ็บโนน ปวดนี้ คันตรงนนั้ อะไร มันกม็ อี ยู

http://www.geocities.com/worralapo ๑๑

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

นัน่ แหละ นมี่ นั เปน อยูนนั้ แหละ ถาเรานอ มใจลงสูค วามสงบแลว กเิ ลสมันไมย อม มนั ไมยอมใหกดหัวมนั
ลง มนั กด็ ิ้น ถา หากวา ตนมีสติเขมแขง็ ควบคมุ จติ ไวไ ด ไมห วน่ั ไหวไปตามอาการของกเิ ลส นัน่ จิตมนั ก็
สงบลงได เมือ่ มนั สงบลงไดแลว มนั กล็ ะสุขละทกุ ข จิตที่สงบลงไปเปน สมั มาสมาธนิ ่นั มันยอ มไมย ดึ ถอื
เอาความสขุ ความทกุ ข มนั มีสตกิ าํ หนดรวู า จิตนี้เปน กลางอยูอยางนน้ั ไมยินดี ในความสุข ไมยนิ รา ยใน
ความทกุ ข อยา งนจี้ งึ จะชอื่ วา สัมมาสมาธิ การตง้ั จิตไวช อบ ใหเ ขาใจกนั

ถา ยงั ไปหว่นั ไหวความสุข หรือความทกุ ขทเี่ กดิ ข้ึนใน ระหวา งภาวนาเพง พนิ จิ อยนู ัน้ เชน น้ี
แลว ไมม ีทางจติ มันจะรวมลงได มแี ตมันจะกระเด็นออกไปขา งนอกโนน ไหลไปตามอารมณต า งๆ ใน
อดีตทลี่ วงแลว มาบา ง อนาคตบา ง ไปเรือ่ ยเปอ ยไปแลว เปน อยา งนั้น เพราะฉะนนั้ ผภู าวนาใหพ ึงเขาใจ
ไมใชวา นง่ั ภาวนา ลงไปแลว อยา งน้ี มนั จะสบายไปเลยไมต อ งออกแรงอะไร จงึ จะ ชื่อวาตนภาวนาเปน
อยาไปเขา ใจอยางนัน้ กเ็ พราะวามันมีกเิ ลสเปน มารอยใู นหัวใจนแ่ี หละ พระพุทธเจาจงึ สอนใหภาวนา
เมือ่ มนั มีกเิ ลส เปนตัวมารอยูในใจแลว อยา งน้ี เวลาเราภาวนากําหนดใจจะละมัน อยา งนี้ มนั ก็ตอ งเลน
งานเราแนน อนละ มันไมอ ยากหนีจากเรา เปนอยา งนั้น เราก็ตองรไู ว เม่อื เรารอู ยา งน้ีแลว เหน็ วา กิเลส
มนั แสดงปาฏิหาริยอ ะไรออกมา มันก็ไมหว่ันไหว เราพยายามตั้งสติ ประคองจติ ใหแนว แนอ ยู ไมต อง
เสยี ใจดใี จกับอารมณต างๆ เหลาน้นั มแี ตโนมเขา สูความสงบอยา งเดยี ว มแี ตน อมจิตลงใหเปนกลางลง
ไป มุงตอความเปนกลางนัน้ เปน ท่ตี ั้งเลยทีเดยี ว สขุ ก็ไมยดึ ถอื เอา ทกุ ขไมยึดถือเอา เพราะวาสุขทกุ ขม ัน
เปน สังขาร มันมีเกิด มันมีดับ อยูน้ัน ไมแ นนอนเลย ลองสังเกตดู ความสุขเมื่อมันเกิดข้ึนไปๆ มันกด็ ับลง
ได เดย๋ี วก็ทกุ ขเกดิ ข้ึนมาแทน แลว ทกุ ขเกดิ ขน้ึ มา ก็ไมใ ช วา มันจะตง้ั ย่งั ยนื อยูตลอดไป ประเด๋ียวประ
ดาวมนั ก็ดับไป แลวก็ สขุ เกดิ ขนึ้ มาแทน สลับกันไปอยอู ยางนี้แหละ

เมื่อผมู ปี ญ ญามาเจริญวปิ สสนา มาเหน็ แจงวา อารมณ แหง ความสุขความทุกขน ี่ เปน ของไม
เทย่ี งไมยั่งยืนอะไรเลย เกิด แลวดบั ไปอยูอยา งนนั้ เม่อื เห็นแจงอยา งนแี้ ลว กไ็ มยนิ ดียนิ ราย ไปกับสุขกบั
ทกุ ข ดังกลา วมาแลว นัน้ แหละ เราฝก จติ สอนจติ น้ใี หเปน ใหรูเทาสขุ รูเ ทา ทุกขอยอู ยา งน้แี หละ การ
ภาวนาอยาไปเขาใจไป อยา งอน่ื เมอ่ื จิตใจมันรเู ทาอารมณต างๆ ดังกลา วมานีไ้ ดแ ลว มนั รวมเปนหนึ่ง
ลงไปไดแลว นั้นแหละมันถงึ จะพบกบั ความสขุ ทแ่ี ทจริง ถา หากวายังปลอยวางอารมณต างๆ เหลา นนั้ ยัง
ไมได มนั กย็ ังไมได พบความสขุ อนั แนนอน ขอใหเ ขาใจอยางนัน้

เราอยา ไปมุง อยา ไปมุง อยากใหมคี วามสขุ อยา งโนน อยา งนี้ การภาวนาอยาไปมุงอยางนัน้
ใหม งุ แตวาเราจะกาํ หนดปลอยกาํ หนด วางขันธหาน้ลี งไป จะไมใ หจติ นีส้ าํ คญั วา ขันธหา นี้เปน ตวั เปนตัน
เปนเรา เปน เขาอะไร นี่ใชปญญาสอนจติ เขา ไป ถาเมอื่ จิตตงั้ ม่นั ลงไปไดแลว สดุ แลว แตเราจะมอี ุบาย
อยา งไรมาสอนจิตน้ีใหม ันปลงมันวางขนั ธห า เราก็หาอุบายตางๆ มาสอนจติ น้ีเขา ไปเรื่อยๆ เปน อยา งนัน้
ใครคนอ่นื น้นั จะสอนเราใหเ ราละกิเลสตณั หาไปไดโดยเราท่ไี มต อ งทําความเพียร เพงพินจิ อะไรเลยอยาง
น้ี เปน ไปไมได ถึงพระพุทธเจา พระองคก็ ไมสามารถท่ีจะไปสงั่ สอนคนใหห ลุดพนจากกิเลสโดยลําพงั
อานภุ าพ แหงคําสอนเทา น้ัน ถา ผนู นั้ ไมมีอุบายแยบคายในใจแลว กไ็ มมีทางท่ีมนั จะหลุดพน ไปได กใ็ ห
เขาใจกันอยางน้ี

เพราะฉะนั้นในขณะทฟ่ี ง ธรรมอยู เราก็มอี บุ ายแยบคาย อยใู นใจสอนใจของตนไปในตัว ให
ปลงใหว าง น่ีมันตองชวยตัวเอง เขาไปไมใ ชว าจะไปฟงแตเสยี งท่ีทานพูดไปเทา นน้ั แลว ไมก ระทําอบุ าย

http://www.geocities.com/worralapo ๑๒

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

แยบคายในใจอยา งนี้ มนั กไ็ มบ รรลุผลตามเปา หมาย มันสงบอยูได แตเวลาท่ที านอธบิ ายธรรมะใหฟ ง เทา
นนั้ พอหยดุ แสดงธรรมแลว มนั ก็ พุง ไปเหมอื นเดิมอยางนแ้ี หละ ตนผูที่ไมม อี บุ ายแยบคายในใจ ไมฉลาด
สาํ รวมจติ ไมฉลาดประคับประคองจติ ของตนใหเปน ปกตอิ ยู มนั จะ ตั้งมั่นเสมอไปไมไดเลย ดงั นั้นแหละ
ใหพ ากันเขาใจ เราตอ งมีอบุ าย แยบคายในใจ สอนใจของตนน้ใี หม ันได ผูอนื่ สอนนนั้ ถา ตนไมส มคั รใจ จะ
ละจะถอนแลว มนั ก็ถอนไมไดห รอก ถาหากวาตนเองสอนตนเอง เขา ไปแลว อยางน้ี มนั มีทางท่จี ะละจะ
ถอนได เปน อยางนน้ั

เพราะฉะนน้ั จงึ วาทุกคนขอใหมอี บุ ายสอนจิตใจของตนใหไ ด ถา ใจของตนมันมากไปดว ย
กิเลสชนดิ ไหน ก็พยายามสอนใจใหมนั เห็นโทษของกเิ ลสชนิดน้นั ใหม ากๆ จนมนั เกดิ นพิ พทิ าความเบ่ือ
หนา ย ขึน้ มา เชนอยางผมู ากไปดวยความรักอยางนี้ ก็ตอ งสอนใจของตน ใหเ หน็ โทษแหงความรกั วา มัน
เปน บอเกิดแหงทุกข อยางนั้น อยางนนั้ อยางนน้ั เราก็ตอ งใชป ญญาสอนจิตใหม ันรฤู ทธเ์ิ ดชแหง ความรกั
วา มันเปนทุกขแกบ คุ คลผูตกเปนทาสแหง ความรักไดอยางไรบาง นี่ถาเรา เพงพิจารณาไป กจ็ ะรูจ ะเหน็
ไดแ นน อนเลย อยา งเชนท่ีพระศาสดา ทรงแสดงไวในธมั มจกั รกปั ปวัตนสูตร บคุ คลผมู ัวเมาอยใู นกามสุข
สมบัติเหลานน้ั นั้น มันเปนไปเพือ่ ใหไดส รา งบา นสรา งเรือน ใหได ขวนขวาย ในการงานตางๆ หลาย
อยา งหลายประการ เพราะการ สรา งบา นสรางเรือนมนั เปนกงั วล มันไมม โี อกาสทจี่ ะไดหาทางพน จาก
ทุกขได มีแตม วั เมาอยูในกามคุณ อันเปนของไมเ ที่ยงแทแนนอนน้นั เสยี เปนสวนมาก

พระศาสดากท็ รงชแี้ จงแนะนาํ สั่งสอนใหผฟู ง ท้งั หลายน้นั ไดคดิ ไดพิจารณาอยางน้ีแหละ แต
ถา ผใู ดฟง แลวไมเอาไปคดิ ไป พิจารณา ผูนน้ั กจ็ ะไมเหน็ โทษแหงกามคณุ ตามทพ่ี ระศาสดาทรง แสดงไว
แมบ ุคคลผทู ่ีมากไปดวยความโกรธก็เหมือนกันแหละ ถา หากวา ตนของตนเองไมพ ิจารณาใหเ ห็นโทษ
แหง ความโกรธนัน้ มนั กล็ ะความโกรธไมไ ด แมวา ทา นจะแนะนําสงั่ สอนช้โี ทษแหง ความโกรธใหฟ งสกั
เทา ใด เทา ใดกต็ าม แตถ าตนเองไมน อ มเขา ไปคิด ไปตรองพจิ ารณาดูวา ความโกรธมนั ใหโทษอยางที่
ทานแสดงมานั้น หรอื ไม ถา ตนไมน อมเขา ไปคดิ ไปตรองอีกทหี นึ่งน้นั มนั ก็จะไม เหน็ โทษแหง ความโกรธ
น้นั แหละ มนั จะยดึ จะถืออยอู ยางน้ัน อนั ตน ตอแหง ความโกรธทแี่ ทจรงิ ก็อยา งท่วี ามาแลว นัน่ แหละ คือ
มันสําคญั วา ขันธหา เปนตวั เปน ตนเปน เราเปน เขานี่ มนั เลยเกดิ หย่ิงข้ึนมาเลยวา ไอเรามันกค็ นหน่งึ
แหละ ใครจะมาดูถูกดูหมิน่ ไมไ ดเลย นม่ี นั เกดิ หย่งิ ข้นึ มาอยางนี้ในใจนะ มันยึดเอาอารมณ อยา งนไ้ี วใน
ใจ พอวามใี ครมาดูถูกดูหม่ินดา วาติเตยี นขนึ้ มาอยา งใด อยางหนง่ึ นี่ แนนอนละมนั ก็ลุกเปนไฟข้ึนเลย
ความโกรธน้ันมันก็ ลกุ ขนึ้ อยา งแรง เปน อยา งนัน้

ดงั นั้น ถา ใครมาภาวนาพจิ ารณาใหเหน็ ขันธหา น่ี วา ไมใ ช ตวั ตนเราเขาตามทพ่ี ระพุทธเจา
ทรงสงั่ สอนน้ัน มันตองบรรเทา ความโกรธไดแนนอนทเี ดยี ว กเ็ พราะวา เมอ่ื เรามองเหน็ วา รูปกาย อนั นี้
ไมใชข องเราแลว อยา งน้ี จะไปหวงมนั ไวท ําไม หวงไวม ันก็ เปน ทกุ ขเ ปลา ๆ นี่ หวงไวแ ลว มนั ก็ไมย ง่ั ยืน
ตลอดไปน่ี แมนามธรรม ความรูสึกนกึ คิดทางจิตใจ สัญญาอารมณค วามจําความหมาย เร่ืองดีเรอ่ื งชว่ั
ตา งๆ หมนู นี้ ะ สังขารความคิดความปรงุ แตง ในใจ หมนู ี้ ลองเพงดซู ิวามันเปน ของเที่ยงไหม มันมีตวั มตี น
ไหม อันเรื่อง หมูน ีน้ ะ เมื่อเพง ดดู วยปญญาแลว ตองเหน็ แจม แจง ในใจวา มนั ไมม ตี ัวตนจริงจังอะไรเลย
มันเกดิ ข้ึนแลว มันก็ดบั ไปเทา น้ันเอง นามธรรมกด็ ี ถา หากวา ผูภ าวนาทง้ั หลายมาเจรญิ ปญญาวปิ สสนา
เสมอๆ ไป บาํ รุงความคดิ ความเห็นใหม ันแจมแจง ในเรอื่ งขันธห า ตามเปนจรงิ อยางวานีแ้ ลว แนน อนละ

http://www.geocities.com/worralapo ๑๓

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรียญ วรลาโภ)

ตอ งบรรเทาความโกรธลง ไดเ ลย แลว มานะทิฏฐิความถือตนตา งๆ กเ็ บาลงไปตามกนั มานะ นีแ่ หละมัน
เปน กิเลสท่สี งเสริมใหความโลภ ความโกรธมนั เกิดขนึ้ ถา กาํ หนดละมานะความเหน็ วามีตัวมตี นลงไดเ สีย
ไอกเิ ลสเหลา น้นั มนั ก็เบาบางไปตามกนั เปนอยา งน้ันใหเ ขา ใจ

เพราะฉะนน้ั ส่งิ ตา งๆ ดงั กลา วมาน้นี ะ มนั เปนสงิ่ ไมเ หลือ วิสัยเลย ซึ่งทุกคนถาหากวา เพยี ร
พยายามเพง พินิจเขามาภายใน จิตใจ ทาํ ใจใหส งบลงไปไดแลว เพง พจิ ารณาดูแลว ยอ มเหน็ ได แนนอน
เลยทเี ดียว เห็นรปู เห็นนามนี่เองแหละ ไมใ ชเ หน็ อยา งอน่ื กเิ ลสทัง้ หลายมันก็เกดิ ขน้ึ จากจิตใจทม่ี าหลง
รูปหลงนามดังกลาวมา น้นั เอง

เม่อื กลาวโดยสรปุ แลว ถาผใู ดมารแู จงในนามในรปู น้ีแลว ปลอยวางไวต ามสภาพอยา งนีแ้ ลว
กิเลสเหลา นน้ั มนั จะไมงอกงาม เจรญิ ขึ้นในจติ ใจไดเ ลย อยางเชนความรักอยา งนี้ ไมทราบวา จะรกั ไป
ทําไม รปู นมี้ ันก็ไมเทยี่ ง ทั้งไมสะอาดดวยอยางนี้ ทงั้ เปนทุกข แปรปรวนไปอยูอ ยางน้นั ทัง้ รูปน้ีและรปู
อ่ืน ไมทราบวา จะรกั มนั ไปทาํ ไม เมื่อมันเหน็ ชดั ลงไปอยา งน้ีแลว มนั กบ็ รรเทาความรักลงได แมความ
โลภก็เหมือนกันแหละ ไมท ราบวาจะไปแยงชิงเอาสมบัตผิ อู ่ืน มาเปน ของตนทาํ ไมละ ในเม่อื รา งกายอันนี้
นามรูปนี้มนั ไมใ ชต ัวตน แลวมนั ไมย ั่งยืนอะไรแลว จะไปแยงชงิ เอามาทาํ ไม ใหเ ปน กรรม เปน เวรเปน
บาปเปลาๆ มนั รูมันเห็นข้นึ มาอยางนแี้ ลว ความโลภมันก็ เบาบางลงไป ความโกรธกเ็ หมอื นกัน ขอใหพา
กันพจิ ารณาดูใหด ี ความหลงก็เหมือนกนั ความหลงกห็ มายถงึ ความไมรูแ จง ในความดี ความชวั่ น้ันเอง
แหละ เห็นดีเปน ชวั่ ไป เห็นชวั่ เปน ดไี ป เหน็ สขุ กลายเปน ทุกขไป เห็นทุกขกลายเปนสุขไปอยา งนน้ี ะ นี่
แหละเรยี กวา หลง ไมร ูจ รงิ ตามเปน จรงิ เหน็ ของไมเ ท่ยี งวา เปน ของเทีย่ งไป

อยา งนี้ ถาหากวา เจริญปญญาวิปส สนาใหเ กดิ ข้ึนแลว อยา งนี้ มันจะเหน็ แจงตามเปน จรงิ
เลย ส่ิงใดไมเที่ยง มนั ก็เหน็ วา ไมเทยี่ งตามเปน จริง ไมไดเหน็ วา มนั เท่ยี งเลย สงิ่ ใดมนั เปน ทุกข มันทนได
ยากลําบาก มันก็เหน็ วา เปน ทกุ ขท นไดย ากลาํ บากตาม สภาพความเปนจริง สิง่ ใดมนั เปนอนัตตาไมใชต ัว
ตนบงั คับไมไ ด ไมเ ปนไปตามใจหวงั มันกเ็ ห็นชัดตามเปนจริงอยา งนนั้ เห็นชดั วา ทกุ สิ่งทกุ อยางท่ีมี
ความเกดิ ขน้ึ เปน ธรรมดา สิง่ เหลา นนั้ ยอมไมอยู ในอํานาจบังคบั บัญชาของผูใด มันยอมแปรปรวนไดต าม
กาลเวลา ของมนั ถึงเวลามันแตกมันดับมันกแ็ ตกดบั ไป ใครจะมีอาํ นาจ บาตรใหญสักเทา ใดมาตา นทาน
ไมใหม นั แตกมนั ดบั ไมไ ดเ ลย นีเ่ รียกวา กฎอนัตตา มนั มปี ระจาํ อยกู ับโลกสนั นวิ าสอนั นแี้ ตไหนแตไ รมา
แตบ ุคคลผหู ลงผเู มาแลว มันหากไมรูแจง อยา งวา น้ี มันจงึ ได สําคัญวาเปน ตวั เปน ตนเปน เราเปน เขาไป
จึงไดสรางกิเลสพนั หา ตัณหารอยแปด ใหบ งั เกิดขึ้นในจติ ใจ จึงไดประสบกบั ความทุกข เปน ผล วนเวยี น
ไปในวฏั ฏสงสารนี้ไมม ที ีส่ ้นิ สดุ

เพราะฉะนัน้ ทกุ คนเมอ่ื ทราบอยา งน้แี ลว กข็ อใหพากนั ตั้งสตสิ ัมปชัญญะควบคุมจติ ของตน
ไวใหไ ด เพียรเพงเขามา ภายในน่ี อยา สงใจออกไปขางนอก แม ยืน เดิน นงั่ นอน กนิ ดื่ม พูดจาทาํ การ
งานอะไรกต็ าม เราตอ งพยายามนอมสตเิ ขาเพง จิต ประคองจติ ใหมนั ตงั้ อยูภายใน อยา ใหม ันดิน้ ไปตาม
อารมณภายนอก ใครพดู เรื่องอะไรดชี ั่วอยางไรๆ ก็ตาม อยา ใหใจมันฟุงไปตาม คําพดู หรืออารมณทเ่ี ขา
แสดงออกมานั้น ใหจ ิตของตนมนั ตง้ั เปน ปกติ มองเหน็ อารมณตางๆ เหลาน้ัน เสียงตา งๆ เหลา น้นั เกิด
ขึ้น แลวดับไปเทานน้ั แหละ ไมม ดี มี ีชั่วอะไร ดีชัว่ เปนแตเ พียงแคสมมุติ บดั น้ีเรายกจิตใหเลยสมมุติไป ให
มนั เปน ปรมัตถธรรม ปรมัตถธรรมน่ี ไมมอี ะไรเปนแกนเปนสาร เกดิ ขึ้นแลวแปรปรวน แตกดับไป วา ง

http://www.geocities.com/worralapo ๑๔

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

จากสตั วจ ากบคุ คล นี่ ปรมตั ถธรรม ธรรมอนั ยิง่ เรายกจติ ขึ้นสูป รมตั ถธรรมอยา งนี้เร่ือยไป อยาไปตดิ อยู
เพยี งแค สมมตุ ิเทา นัน้

คนสว นมากนัน้ ไปติดอยแู คสมมุตเิ ทา น้ันแหละ มันเลย สมมตุ ิไมได ท่เี ปน ทั้งนก้ี เ็ พราะอะไร
เลา ก็เพราะขาดความเพียร ความพยายามทําสมาธิภาวนา ทํากท็ ําพอแตเพียงขอไปทีเทา นัน้ ไมเอาจรงิ
เอาจงั ธรรมดาผทู ีเ่ อาจริงเอาจังน่ี เม่ือน่ังภาวนา ลงไปอยางน้ี จิตมนั ทาํ ทาวาจะไมสงบอยางน้ี อธษิ ฐาน
ใจลงไปเลย เอา ถา หากวา ทําจติ นี้ใหส งบลงไมได เราจะไมล ุกจากที่น่ังนีเ่ ลย ตายกบั นีแ่ หละอยางน้ี
อธษิ ฐานใจมัน่ ลงไปอยา งน้นั แลว ก็ทํา ความเพยี รเพง พินิจลงไปเลย เอามนั จะไมสงบก็ลองดูซิ เราจกั ไม
ลกุ จากทีน่ ง่ั นีเ้ ลย มันจะเจ็บจะปวดมนั จะเปนอยา งไร ก็ให มนั เปนไป ถามันยงั ไมเบื่อไมหนายตอความ
เทยี่ งแทแ นน อนของ สงั ขารรางกายนแ้ี ลว กใ็ หม ัน ลองดซู ิ นี่คนสว นมากใจไมถงึ กลัวตาย ถา อดกลั้นทน
ทานอยางวา นกี่ ลัวมนั จะตาย น่นั แหละ กลวั แตต ายอยู มนั กเ็ ลยไม จิตไมมีอํานาจเหนือกิเลสไดเ ลย การ
ทีจ่ ิตจะมอี าํ นาจเหนือกิเลสไดนะ มนั ตอ งไมกลวั ตาย ตอ ง เอาตายไวเบือ้ งหลังเลย แตค วามจริงมนั ไม
ตายหรอก แตต นเอง ไปกลัวลวงหนา ไวเ ฉยๆ นี่ มันทกุ ขเวทนาเขา ไปจริงๆ มันกลวั ตาย แลว มนั ก็จติ
รวมลงเทา นน้ั เองแหละ จติ มนั กร็ วมลง เราถือ ความสัตยมน่ั ไวใ นใจเลยอยางนี้ เมอื่ มนั เหน็ วา ถา ขนื ไม
รวมลงน่ี มันจะตายจริงๆ อยา งนี้ มันกร็ วมลงซิ น่นั แหละ เราตอ งเอาลง ไปมันถงึ ขัน้ นั้น

การนง่ั สมาธิภาวนานน่ั นะ ดฟู ง จากประวตั ิของ พระพุทธเจาเปนไงเลา พระองคก ท็ รงตง้ั พระ
หฤทัยอธิษฐาน มหาปธานความเพยี ร 4 อยา งน่นั ถาหากวาไมบรรลุ สมั มาสมั โพธญิ าณนต้ี ราบใดแลว
เราจะไมลกุ จากท่นี ั่งนเี้ ลย ตอจากน้นั กจ็ ึงไดท ําความเพยี รเพง พินจิ ลงไป ในทีส่ ดุ พระองคก็ ตรสั รใู นญาณ
ที่ 1 ญาณที่ 2 ญาณท่ี 3 เปนญาณสดุ ทา ย เรียกวา อาสวกั ขยญาณ ปรีชาหยง่ั รูว า อาสวะกิเลสนอ ยใหญ
ท้งั หลาย หมดส้นิ ไปแลว เมื่อนัน้ แหละพระองคจ ึงไดคลายออกจากสมาธิ แตพวกเราเหลา พทุ ธบริษทั ก็ไม
ถึงกับที่วา เราจะตอ งอธิษฐานใจ ถา หากวา ละอาสวะกเิ ลสไมห มดสิน้ จะไมล ุกจากทน่ี ่งั นเ้ี ลย กไ็ มถงึ ขนาด
นน้ั หรอก ความจรงิ นะ เราเอาเพยี งแควา ใหใ จมันรวมลง เปน หนง่ึ เทาน้นั แหละ ใหมนั ละนวิ รณ 5 ลงไป
ใหไ ด น่ีกย็ ังนับวาดี อยแู ลว

นแ่ี หละทเ่ี รียกวา อบุ ายทีแ่ นะนําพรํา่ สอนนีน่ ะ ถา หากวาใครเบอื่ ทกุ ขในวัฏฏสงสารจรงิ จงั
แลว กเ็ อา ตั้งอกตงั้ ใจลง ทาํ ความเพยี รลงไปอยาไปกลวั ตาย ไมตายหรอก มีแตม ันจะจติ ใจ หนักแนน สงบ
เยือกเย็นตอ ไป ใจตง้ั มนั่ หนักแนนแลว มันกไ็ มหวน่ั ไหว ตอ อํานาจของความชั่วรา ยตา งๆ ทมี่ ันกระทบ
กระทง่ั มา จิตใจกจ็ ะ มิไดหวั่นไหว ปญญากจ็ ะเกิดขึ้นรเู ทาทนั รูเทา ทนั สังขารทง้ั ภายนอก ทงั้ ภายในทง้ั
หยาบทงั้ ละเอยี ดตามความเปนจรงิ เมอ่ื รูเทาแลวก็ ปลอ ยวางเทานั้นเองแหละ ไมใ ชอยา งอื่น ท่ีวาไมรู
เทานัน้ มนั ไมย อม ปลอ ยวาง เปน อยา งนั้น ถา รเู ทาแลวก็ตองปลอยวาง ถา ปลอ ยวาง ไดจ รงิ จิตมันก็รวม
ลง

ก็ใหสังเกตเอาตรงน้แี หละการภาวนานะ ถามันจิตรวมลง ไมไ ดเ ลยอยา งนี้แสดงวา มันปลอ ย
วางไมได เรากต็ อ งเพียรพยายาม เพงพนิ ิจไปจนใหเ ต็มความสามารถของตนของตน ดงั แสดงมา สมควร
แกเวลาขอยุติลงเพียงเทา นี้

คุณ ปราโมทย สันตยากร และคุณอรนุช สันตยากร ผพู มิ พ
จากเวป บันทกึ ลับภิกษุนริ นาม

http://www.geocities.com/worralapo ๑๕

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรียญ วรลาโภ)

ชีวิตจะพนภัย อาศัยธรรมของหลวงปู

โดย หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ
วดั อรญั บรรพต อ.ศรเี ชยี งใหม จ.หนองคาย

ก็พงึ่ พากนั ตง้ั ใจเกิดมาในโลกนีม้ ันหาความสะดวกสบายไดยากเต็มที ถา จะพจิ ารณาใหเกิด
นิพพิทา ความเบื่อหนาย อยา ไปเห็นแกอามสิ สขุ เล็ก ๆ นอ ย ๆ เหลา นนั้ มาเปนเครอื่ งติเคร่ืองผูกพันอยู
ในโลกอันนี้ พระพุทธเจา ทรงสส่ั อนพทุ ธบรษิ ัททัง้ หลายกเ็ พอ่ื ทจ่ี ะใหพทุ ธบรษิ ัททง้ั หลายตืน่ ตวั เหน็ วา ภยั
มันมีอยรู อบดาน เชน อทุ กภัย ภยั คือนา้ํ ทว มก็ปรากฏอยแู ลว มันก็นําความเสยี หายมาใหแ กประชาชน
เอา ! ทาํ นาไวนาไวน ํา้ ทวมขาวกต็ าย เลี้ยงปลาไวใ นบอ นํ้าทวมนานาํ้ ทว มมาปลาก็หนี ปลูกพชื ตา งไวท่ี
ลมุ นาํ้ ทว มก็ตาย ในบา นเรอื นท่ีปลูกอยูในทตี่ ่าํ นาํ้ ทวมกอ็ ยไู มไ ด เดือดรอนกนั ตองอพยพหนนี าํ้ น่ีเรียก
วา "อุทกภยั " บางรายกป็ ลูกบา นอยูริมแมน ้ํา นํา้ ลนฝง มาอยางรนุ แรง พดั เอาบา นที่ไมแข็งแรงใหพ งั ไป
เลย ขา วของมวลใดก็ไมมเี หลอื ..หมูนี้นะ..ควรเอามาเปนอารมณพิจารณาใหเห็นวา ภัยดงั กลา วมาน้ี มัน
มีประจําโลก พระพุทธเจาจงึ ไดทรงยกเอามาเปรยี บเทียบทางธรรมวา คนเรานหี่ ลับใหลไมร ตู น่ื ไมตืน่
กลัวตอภยั ทง้ั หลาย เหมือนคนนอนหลบั นอนใหลกลางคนื แลว นํ้าหลากมาพดั พาเอาบานเอาชองเสีย
หายไป ตวั เองกจ็ มนาํ้ ตาย อนั น้ีฉันใดก็อยา งนัน้ แหละ.. ผใู ดปลอ ยใหความโลภ โกรธ หลง กิเลสตา ง ๆ
ทวมทน จติ ใจแลว ใจกม็ ืดมนอนธการ ทําคณุ งามความดอี ะไรก็ไมไ ด กิเลสมันบงั คบั ไมใ หท ําความดี ไมให
ฝก ตน กเิ ลสมนั บงั คบั จติ ใหย ดึ ใหค ลอ งอยูในขนั ธทงั้ ๕ อันนี้ หรอื อยูในโลกสงสารอนั น้ี กเ็ ปนไปตาม
อาํ นาจของกเิ ลสน้นั เชนนี้ ผกู ไ็ มพ น จากทุกขไ ดเลย ตายแลวจิตวญิ ญาณกเ็ รรอนอยูในโลกอันน้ี ไมไดทาํ
บุญกุศลกไ็ มม ีสิ่งอาํ นวยความสุขความสบาย ใหล ะโลกนไี้ ปแลวกต็ กทกุ ขไดย ากลาํ บาก จะไปเกดิ กบั คน
ก็ไปเกดิ ไมไดเ พราะบญุ นอ ย

ดงั นั้นพระบรมศาสดาจงึ ไดท รงตกั เตอื นใหพทุ ธบริษทั มสี ตสัมปชชัญญะต่นื ตัววา ภยั ท้ัง
หลายมันมอี ยทู ั้งภายนอกภายในนอกจากอทุ กภัยแลว กอ็ คั คีภยั เด๋ยี วไป ๆ มาหนอ ยไดขา ววา ไฟไหม. .
มันไมใช ไหมกระตอ บกระแตบ ธรรมดานะไหมต ึกไหมลามสิบชนั้ ยส่ี บิ ชั้นโนน พังพินาศลงมาอยา งนี.้ .คน
กท็ าํ งานอยูก ต็ าย ตกึ มันพังลงทับเอา โจรภยั เอา..วนั ดีคนื ดโี จรไดจ อ งมองเหน็ บา นไหนพอไดปลนมันก็
ปลน เอาขดั ขนื กฆ็ า เจาของซะ ตายแลว คน เอาทรพั ยสมบตั ขิ องผูน้นั ไป สงครามภัย เอา ..วนั ดคี ืนดกี ็นอน
ก็เกดิ สงครามขึน้ มารบราฆาฟนกัน ผูทไ่ี มม สี ว นเกย่ี วของดวยก็พลอยมาตาย ตายดวยลูกระเบิดบา ง ตาย
ดว ยการอพยพหนลี ูกกระสุน ตายนอนกลางดินกนิ กลางหญา โรคภัยเบยี ดเบยี นเอา ตายอยูกลางดนิ
กลางหญา ..หมูน น้ี ะ ..นแี่ หละเรยี กวา โจรภัย สงครามภัย มันมแี ตภ ยั โลกสนั นวิ าทอนั นี้ มนั มภี ยั ภายในได
แก ความแก ความเจ็บ ความตาย อนั นก้ี เ็ ปนภัยประจําอยกู บั ชีวติ หลีกเลยี่ งไมพน จริง ๆ แตภยั ภายนอก
นน้ั บางคนอาจจะไมไดพ บตลอดชวี ติ กไ็ ด ไดพ บก็ไมไ ดพ บมากก็มี สว นภัยภายในน่ี ไมม ีใครพนไดสัก
คนเดียวเลย จะเปน คนช้ันสงู ชนั้ กลาง ชั้นตา่ํ อะไรก็เวนไมไดเลย จาํ เปน อยูนานปน านเดอื นไป รายกาย

http://www.geocities.com/worralapo ๑๖

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

นม้ี นั ก็ทรุดโทรมลงเรอ่ื ย ๆ ไป เมือ่ รา งกายทรดุ โทรมลง หมายความวา ธาตุท้งั ๔ มนั ออ นกาํ ลงั ลง แลว
มันกเ็ ปนบอ เกิดแหงโรคภัยไขเ จบ็ นีแ้ หละ เชน เมอื่ ความชราครอบงําเขา มาแลว รบั ประทานอาหารเขา
ไปไฟธาตกุ ย็ อยไมค อ ยดีเทาไหรน ัก มันไฟธาตมุ ันออ นกเ็ กดิ ทองอืดทองเฟอ ขึ้นบา ง บางคนก็ทอ งผกู ไม
ขบั ถายสะดวก บดั นีก้ ็ปลอยใหมนั ทองผกู อยูนน้ั อาหารเกากท็ ําพษิ ใหเกดิ โรคภยั ไขเจบ็ ตา ง ๆ ข้ึนมา..
หมนู ี้นะ..กล็ องพจิ ารณาดวู า ความชราภาพนนี่ ะ มนั เปน อยางนน้ั แหละ..เวลายังหนุม ยังแนนนะ มันกแ็ ข็ง
แรงดี เพราะธาตุนาํ้ ธาตุไฟ ธาตลุ มอะไรมันก็สมบรู ณอยเู ต็มท่ี เนอ่ื งจากบญุ กศุ ลทีท่ าํ มาแตกอนน้นั มัน
ยงั ไมห มด มันยงั อุปถมั ภบํารงุ ธาตุท้ัง ๔ อนั นีใ้ หม ีกําลังเรยี วแรงดอี ยู คร้ันพอบญุ เกา น้นั มนั หรอย หรอลง
ไป ธาตทุ ้ัง ๔ ก็ออนแอลงเหมือนกันแหละ อะไรก็ออนแอลงหมด แตถ า ผูใ ดรูจ ักบํารงุ ธาตอุ นั น้ไี วก ็ยังชว่ั
หนอ ย พอไดอยยู ืดไปไดส กั หนอ ยเทานน้ั แหละ แตถ งึ จะบํารงุ ใหด ีอยางไรมนั กไ็ มฟงหรอก แตว ามันให
โอกาสไดบ าํ เพญ็ กศุ ลคุณงามความดไี ปไดอ ยูนานพอสมควร ผูใ ดรจู กั รักษารางกายสงั ขารอนั นี้ไหเ ปน
ปกตอิ ยูได ดงั นั้นแหละทกุ คนอยา ไปทอ งผกู ตองพยายามหายาระบายมาไวรับประทาน ตอนรับประทาน
ยาระบายนต้ี องรับประทานหัวรุงต้งั แตต ี ๔ ไป ไฟธาตมุ นั ยอยอาหารหมดไปแลว ยานมี้ ันเพยี งแตไปขับ
อาหารเกาออกไปเทา นั้นเอง เมือ่ ลาํ ไสกระเพาะมนั สะอาดแลว มันกไ็ มเปนทเี่ กิดแหง เช่อื โรคตา ง ๆ อยา ง
นี้นะ..โรคภยั ทัง้ หลาย สังเกตดแู ลว มันเกดิ กับอาหารนี่แหละเปนสว นมากเลย บางคนก็ดื่มเหลา มาก ๆ
เขา ไป หรอื วาสูบบุหร่ีมาก ๆ เขา หรอื สบู กญั ชา ยาฝน เฮโรอนี อะไรหมูนี.้ .มนั ลว นแตเ ปน บอ เกิดแหง
โรคภัยทั้งนั้นเลย ไมใ ชเ ปน ของดี

ดังน้นั เมอ่ื ผใู ดรวู ารา งกายอันนี้มีคุณคามหาศาลตอตัวเองมากมาย เพราะการไดเกดิ มาเปน
มนุษยแตละชาตนิ ยี้ ากนกั ยากหนา หรอื เกดิ มาแลวจะมอี วัยวะรา งกายสมบรู ณอยา งนี้มนั ก็หายากเหมือน
กัน เมอ่ื ผใู ดไดร างกายนี้สมบรู ณอยางวาน้ีละก็ กอ็ ยาไปทําใหร างกายอนั นว้ี บิ ตั ิลงดว ยการบรโิ ภคส่งิ ท่กี อ
ใหเกดิ โรคภัยอนั รา ยแรงตาง ๆ ดงั กลา วมานัน้ ในอาหารบางอยา งกเ็ หมือนกนั นะตอ งเลอื ก อาหารอะไร
มนั แสลงกบั โรคในกายตวั เองนะก็อยาไปรับประทาน แมจะอยากอยา งไรกไ็ มเอา เพราะมันใหแตโทษไม
ไดใ หคุณตอ รา งกาย เชน น้ี ผใู ดตืน่ ตวั ไดอ ยา งน้ี ปฏิบตั ิรางกายใหถูกตองตามสขุ อนามัยอยา งวาน้แี ลวก็
จะมอี ายุยืนไปพอสมควร ถา ผใู ดประมาทอยางวา นนั้ แหละ บริโภคอาหารก็ไมร ะมัดระวงั และกห็ าของ
เสพยต ิดชอบบริโภคของเสพยต ดิ ดังกลา วมานัน้ จนตดิ งอมแงมแลวก็ชวี ติ ของผูน้ันไมมีความหมายอะไร
เลย แมจะหาเงินหาทองสรางเน้ือสรางตัวอะไรกไ็ มไ ดเลย เพราะวา คนเสพของเสพยติดดังกลาวมานนั้
แลว มนั กําลงั กายก็ลดนอยถอยลง กําลงั ใจก็ไมเข็มแข็ง เพราะวา รางกายมนั ชํารุดลงไป นี่แหละจติ ใจก็
ชาํ รดุ ลงไปดวยกนั ธรรมดาปุถุชนมันเปนอยางนั้น กข็ องเสพยตดิ เหลา นนั้ พระพุทธเจา ตรัสวา มนั เปน
โทษในทางจิตใจ ใจขนุ มัว ใจเศราหมอง เปน อยา งนน้ี ะ พระองคเ จา รแู จง แทงตลอดแลวจึงไดท รงบัญญตั ิ
หา มไว เราผูเ ปนบรษิ ทั ของพระองคน ะ ก็ควรทีจ่ ะทําตามนะ ควรถา มีใจเด็ดเดี่ยวไมร ูอํานาจแกต ณั หา ดงั
กลา วมานั้น แลวก็จะพน ทุกขตามพระศาสดาไปได ในที่สุดกจ็ ะเปนการปฏบิ ตั ใิ กลตอพระนิพพาน ผใู ด
เวนจากความชั่วตา ง ๆ ดงั วานั้น เวนจากโทษอ่นื ๆ มาแลว ก็มาเวนจากของเสพยติดใหโ ทษ ดังกลาว
มาน้ี ชวี ติ ก็บริสุทธิ์สดใส รางกายกป็ ราศจากโรคภยั อนั รา ยแรง ก็มีกาํ ลงั วงั ชาไดป ระกอบความเพยี ร
สาํ หรับผทู ี่ทาํ ความเพยี รทางจิตใจ ก็สามารถทาํ ความเพียรได น่ังภาวนาไดน าน ทําการงานการกุศล
อะไรก็ทาํ ไดแ ข็งแรง เชนอยางวา ผูท ี่ทําหนาท่เี ปน แมครัวทํางานอยูใ นวดั วาอารามอยางนนี้ ะ ถา รา งกาย

http://www.geocities.com/worralapo ๑๗

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเ หรยี ญ วรลาโภ)

แข็งแรงดมี ันกม็ ีกําลงั ทาํ ได มนั ก็เปนบุญกศุ ลอนั มากมาย ถาผูใ ดไมร จู กั รักษาสุขภาพอนามยั ของตวั เอง
แลว แมอ ายุยงั อยใู นวยั หนมุ วยั กลางคน เชน น้ีกอ็ อนแอทอแท ไมสามารถจะทําการทํางานอันเปนบุญ
เปน กศุ ลไดกม็ ี อันหมูน้ีแหละ..มันตองใหเ ขาใจ ใหฉ ลาด พระพุทธเจาสอนใหมีความฉลาด อยา งวานี้
แหละ ฉลาดรจู ักรกั ษากาย รักษาวาจา รักษาจิตใจ ใหบรสิ ทุ ธจิ์ ากบาปจากโทษตา ง ๆ แลวกใ็ หมีสุขภาพ
อนามัยดี เวนเสยี แตกรรมเวรหนหลงั มี มันตามสนองเอา อันน้ันแทม นั แกไ มตก กต็ ามเรอื่ งมัน ถาผูใดมี
กรรมมีเวรมาแตกอ น รตู ัวแลว ก็อดกท็ นเอา อธิษฐานใจละเวน ไมทําชั่ว ๕ อยา งนน้ั ตอไปอกี แลวชาตติ อ
ไปก็จะเปน ผูมีสขุ ภาพรา งกายสมบรู ณด ี ผใู ดไมม บี าปติดตวั นะ..นั้นแหละ แตส ําหรับชาตินี้แลวบาปกรรม
ตามสนองเอาแลวไป ไมต อ งเศรา โศกเสียใจ ฝกใจของตนใหต ั้งม่นั อยูใ นบุญในคุณใหไ ด พจิ ารณาใหเหน็
วา ภยั ทั้งหลายมนั เกดิ จากมนั มเี หตุมปี จจัยมา ไมใชไ มมเี หตไุ มมีปจจยั เออ..อคั คภี ยั อทุ กภัย โจรภัย
ตาง ๆหมนู ้ีนะ..ถาบคุ คลใดมกี รรมมีเวรมาแตช าตกิ อนแลว มันก็ประสบภยั เหลานี้ไมอ ยางใดกอ็ ยางหนง่ึ
หรอื หลายอยาง ผูใ ดไมม เี วรไมม ีมาแตก อ น บางทีกพ็ นจากภัยตาง ๆ เหลานัน้ ไปได มนั ตอ งเรยี นรไู ป
หมดเลยเปนอยา งนัน้ ภัยภายนอกนน้ั แหละกไ็ มม ีปจ จยั กรรมมีเวร กรรมชว่ั เวรชวั่ แตชาติกอ นท่ตี นได
ทาํ มาบา ง และบางทกี อ็ าจจะเกดิ จากเหตปุ จจุบันนก้ี ็ได ไมต องอาศยั กรรมเวรแตหนหลงั อนั ภยั ธรรมชาติ
น้มี นั ไมวา หละ คนมีกรรมมีเวรหรอื ไมม ีกรรมไมมเี วรมนั อาจไดประสบเหมือนกนั หมดเลย แตวา ภัยมัน
เกิดจากกรรมเวรจรงิ ๆ กค็ อื ทําใหรา งกายชาํ รดุ ทรดุ โทรมโรคภยั อันรา ยแรงเบียดเบยี นรักษาอยา งไรก็ไม
หาย อนั นี้แทม ันเวนไมไดแ นน อนเลย ดังนน้ั พระศาสดาจงึ ไดทรงสอนใหเวนจากกรรมเวร ดงั กลา วมา
แลว น้นั มันถงึ จะมีความสขุ ความเจรญิ ยง่ิ ๆ ขึ้นไป ถา หากวา ไดท อ งเทีย่ วไปในสงสาร ก็ไปดี เกิดดี ตาย
ดี เกิดมาแลวกไ็ ดทําบุญกุศลไดท าํ ความดตี าง ๆ บญุ กุศลมันพาไปสสู ถานที่พาไปเกิดในสถานท่มี โี อกาส
จะไดท าํ บญุ กศุ ลตาง ๆ ขึ้นชอ่ื วาบญุ แลว นะ..เปน อยางนีแ้ หละ..มันยอ มอํานวยความสะดวกสบายใหแกผ ู
สั่งสมบญุ กศุ ลนน้ั ๆ ไมใ ชวาจะไปหาเกิดเอาไดต ามประสงคเ มอื่ ไรคนเรานะ..เมื่อเราทําบุญกศุ ลความดี
ชาํ ระกาย วาจา ใจ ใหส ะอาดในชวี ติ น้ี ในโลกนีแ้ ลว กไ็ มตองปรารถนาใหไปเกิดทด่ี ีถงึ สขุ อะไรตอ อะไร
หรอก เม่ือจติ ใจมันสะอาดปราศจากบาปอกศุ ลแลว เมือ่ ตายลงไปจติ ออกจากรา งนไี้ ปแลวบุญกศุ ลมันก็
นําไปเองแหละ นําไปบังเกดิ ทม่ี คี วามสขุ ความสบายตามกําลังของบุญทีต่ นกระทําแตใ นโลกน้ี.. มันเปน
อยางนัน้ ..เร่ืองมนั นะ..

ดังนั้นทกุ คนควรพากันตื่นตวั เม่อื บคุ คลต่นื ตวั ไดล ะช่วั ออกไปจาก กาย วาจา ใจ ใหหมดทํา
คุณงามความดีเขา ไปแลว ทนี เี้ มอ่ื หมดอายุสังขารลงไปแลว ก็บุญใหมทท่ี ํานี่มนั ก็นาํ ไปเกิดทม่ี คี วามสขุ
ยิ่งกวานี้ ที่ไมมโี จรภัย อคั คีภยั อุทกภยั สงครามภัย อะไรนะมนั ไมมี อยา งเชน สวรรค อยางน้ีไมมีนะ ไม
มีภัยเหลานเ้ี ลย..นนั้ แหละ มีแตมรณะภยั เม่อื บญุ กศุ ลหมดลงหรือวาอายุในสวรรคชั้นน้นั หมดลง ดังนน้ั
มันกต็ อ งไดเคลอ่ื นไปจากท่นี ัน่ ดงั นนั้ มนั หลกี ไมพนอีกเหมอื นกัน แตวา ก็ยงั ดกี วาผมู กี รรมมีเวรอยใู นโลก
อันน้ี เสวยแหง กรรมเวรท่ีตนทํามานมี้ ันแสนทุกขแ สนยากลาํ บากจริง ๆ นะ ควรพากันตืน่ ตัว มนั กไ็ มใช
อ่ืนไกลแหละโทษ ๕ ประการนะ อยา งใดอยางหนงึ่ หรอื หลายอยา งนัน้ แหละทบ่ี ุคคลลว งเกินมาแตช าติ
กอนโนน เชน ฆา สัตว ทรมานสตั วใ หเ จบ็ ใหปวด ใหอ ดนา้ํ อดอาหารอะไรตอ อะไร ทุบตีแขง หัก ขาหัก
เสยี องคอะไรหมนู ้.ี .กรรมที่ทรมานสตั วนัน่ แหละ เทาที่พระพุทธเจาทรงนาํ แสดงมานะนํามาใหต กแตงให
คนเราเกดิ มาในโลกอนั นมี้ ีอวยั วะรางกายไมสมบรูณอ ยางนี้ เอา..กรรมที่ไปลักไปลอชอ โกงเอาสมบัติของ

http://www.geocities.com/worralapo ๑๘

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเ หรียญ วรลาโภ)

ผอู น่ื มาเปนของตน มนั ก็ดลบนั ดาลใหเ ปนคนมที รัพยสมบตั ิมาแลว กถ็ ูกโจรเขามาจี้มาปลนเอา หรือไม
เชนน้ันกถ็ ูกนักเลงดีมาหลอกลวงใหห ลงกลเขา เสยี เงนิ เสยี ทองเปน ลาน ๆ หมนู .้ี . มีผวั มเี มียมาอยา งน้ี
ถา ไปแตช าติกอ นไดไปทําชจู ากผวั จากเมียแลว ก็ น่ันแหละกรรมนัน่ แหละตามมา สนองเอา บางทีกเ็ มียก็
วิ่งไปตามชายชู บางทีผวั ก็ไปติดหญิงอ่นื ท้งิ ใหเมยี กบั ลกู นอ ยอยูบานโดยลาํ พัง อยูดวยความอดอยาก
ทุกขย าก นแ่ี หละโทษแหง กาเมสุมิจฉาจาร อนั นม้ี นั ก็แนนอนแลว บางคนเกดิ มามลี ิ้นไกส ัน้ พดู รัว ๆ พดู
ไมรเู รื่อง อนั น้ีกเ็ พราโทษมุสาวาท บคุ คลบางคนชอบพูดเท็จ คอื พูดไมจริงนนั้ แหละเพื่อท่ีจะใหค นผูฟง
น้นั เขา ใจผดิ จากความเปนจริงไป บางทกี่ ็พูดหลอกลวงเอาเงินเอาทองเขาอะไรหมูนี้แหละ.. หรือวา ตนได
ทําอยา งน้ันอยา งน้ีแลว ตนไดท ําผิดทําไมดีอยา งนั้นอยางน้ี เวลาเขาจับได มาถามปฏิเสธไมไดเอา ไมไ ด
ลัก หรอื เจา ของบา นตามทนั ก็ปฏิเสธวาไมไ ดเอา แลวกโ็ กหกเอาดอ้ื ๆ ไปอยา งน้ัน บางคนกไ็ ปเลนชูจาก
ผัว เมื่อผวั จับได ผัวไตถามก็ปฏเิ สธวาไมไ ดเลน สาบถสาบานใหผัววา อยางโนนอยา งน.้ี .หมนู ี้ กรรมหมูน้ี
แหละมันตามคนเรานะอยางวา บางคนก็ด่ืมเหลา เมาสรุ า กญั ชา ยาฝน เฮโรอีน เขา ไปแลว อันกรรมเวร
ดังกลาวมานต้ี องไปตกนรกกอ นนะ เมอื่ พน จากนรกแลวบาปกรรมยังไมห มดมนั กต็ ามสนองเอาอีกอยาง
นี้นะ ไมใชว า ทาํ บาปกรรมในชาตนิ ี้ตายไปแลวมาเกดิ เปนคนอกี มาเสวยบาปกรรมอันเปนคนนี้ทีเดยี วเลย
ไมใ ชน ะ เออ ตองไปนรกกอ น พนจากนรกมาแลว กจ็ งึ มาเกดิ เปน คนบาป กรรมไมหมดมนั กม็ าติดตาม
มาใหผ ลตอ อยางนีน้ ะ จนไดรบั ทุกขทรมาน แตต อนไปตกนรกน่ันเมือ่ มาเกิดเปน คนแลวระลกึ ชาตหิ น
หลังไมไ ดเ หมอื นกบั วาตนไมไ ดไ ปสูนรกเลย เหตุนน้ั คนเราจงึ ไมเข็ดไมห ลาบนน้ั เองแหละ เรื่องมนั นะ ถา
ผใู ดระลึกชาตหิ นหลังไดก็คงจะเข็ดหลาบไป มนั รเู ร่อื ของตนวา ไปทนทุกขทรมานอยใู นนรกอยใู นเปรต
อะไรหมนู นี้ ะ.. นานแสนนานอะไรหมูนก้ี เ็ บ่อื หนา ย มนั อาจจะเวน ความช่วั เหลา น้ีได แตคนสวนมากมนั
ระลึกชาตหิ นหลงั ไมได เหตดุ ังนัน้ มนั จึงไมเบอ่ื หนาย หากบางคนกก็ รรมเวรมันหมดแลวแตชาติกอน ๆ
โนน บญุ นํามาตกแตง ใหเ กดิ เปน คน มามอี วยั วะรางกายสมบรู ณดี ก็เลยนึกวาตนนั้นไมม ีบาปมีกรรม
อะไร นกึ วา ตนน้ันมีความสขุ มาก โรคภัยไขเจบ็ กไ็ มเ บียดเบียน เงนิ ทองขาวของอะไรก็มมี าก เกยี รติยศ
ชอื่ เสียงก็โดง ดงั มคี นนับหนาถอื ตาไดเปน ใหญใ นเศรษฐกจิ บาง ไดเปน ใหญใ นการเมอื งบา ง อะไรตาง ๆ
หมนู ้ี ก็ลืมตวั เลยนึกวา ตนไมไดไ ปตกนรกมาแตกอ นระลึกไมได มันจงึ ไมเบ่อื หนา ยตอ ความช่วั บางคนมี
เงนิ มีทองเทา ไหร แทนทจ่ี ะรกั ษาศีลใหบ รสิ ุทธ์ิ ไมเ ลย..ไมร ูนีม่ ันเมา เมาในลาภในยศนะ มีเงินมที อง
เอา..ซ้ือน้าํ ด่ืมอันชัน้ เยี่ยมมาดม่ื กันเชน เบยี ร เนาะ..อะไรตอ อะไร เหลาราคาแพง ๆ เอามาดื่มกันสนกุ
สนาน นี่แหละความไมเชื่อในพระปญญาตรสั รขู องพระพทุ ธเจา ความหลง ความเมา ความไมไดนึกถงึ คํา
สอนของพระพทุ ธศาสนา แลว มนั กเ็ ปนไปตามอาํ นาจของกิเลส เลยไมก ลัวบาปกลัวกรรมอะไรเลย นเี่ ปน
อยา งนน้ั แหละ คนเรานะ ผใู ดต่ืนตัวไดร ูส ึกตวั ไดเชื่อพระปญญาตรสั รขู องพระพุทธเจาวา เมื่อทาํ ความชว่ั
ดังกลา วมาน้นั แลว หากไมล ะไมว างทําเร่ือยไปจนตลอดชีวติ ลงไปแลวอยา งนี้ ก็มีหวังไดไปตกนรกแน
นอนเลย แตถ า ผูใ ดทํามาครง่ึ ๆ กลาง ๆ แลว รูสึกตวั ไดไมไดทาํ ไปตลอดชีวติ ไป อยางนี้แลวอธิษฐานใจ
ละเวนเสยี แลวทาํ ความดใี หย ิ่ง ๆ ขนึ้ ไปอยางนเ้ี มื่อทําบญุ กศุ ลอบรมจติ ใหสูงขึน้ ไป

เปนอยางวา น้พี ระศาสดากไ็ มท รงสอนใหล ะบาปเลย พระองคพ ิจารณาเหน็ แลว บาปทเี่ ปน ลหุ
กรรมเปนกรรมเบา บุคคลสามารถละได เหตุนนั้ พระองคไ ดจ งึ สอนใหละ คําวาสอนใหล ะ หมายความวา
มนั ไดทํามาแลว ไดท าํ บาปมาแลว แตกอ นไมตื่นตวั ไมร ตู วั เมอื่ ไดฟงคําสอนของพระพทุ ธเจา แลวตนื่ ตัว

http://www.geocities.com/worralapo ๑๙

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเ หรียญ วรลาโภ)

ไดก ลวั บาป บัดน้ีแลว ก็เพยี รพยายามละไดอยู พระองคก็ไดต รัสไว เวน เสียแตอ นนั ตริยกรรม กรรม ๕
อยางน้ัน เชน ฆาพอ ฆาแม ฆาพระอรหันต ทํารายพระพทุ ธเจาจนถงึ ยงั โปโลหิตใหหอขนึ้ ไป ทาํ สงฆให
แตกจากกนั เชนน้นี ะ กรรม ๕ อยางนหี้ ลกี ไมพ น เลยผนู ้ัน รูต วั แลว ทาํ ความดีอยา งไรในชาตนิ เ้ี ทาใดกพ็ น
ไมไดเลย ตายแลว กไ็ ปสอู เวจีมหานรก เม่ือพนจากอเวจีมหานรกมาโนนแหละ ถึงจะมาเสวยผลบุญทต่ี น
ทํา ใหเ ขา ใจมันเปน อยา งน้ี ดังนัน้ นะทกุ คนกใ็ หพ จิ ารณาดูใหมนั เห็น เม่อื ผูใ ดไดพ ิจารณาถึง พระพทุ ธเจา
ถึงพระคณุ ของพระองคค วามดขี องพระองคท ่กี ระทาํ มา พระองคจ ะไดเ ปน ผวู ิเศษไดอ ยา งนน้ั เพราะพระ
องคละบาปไมทาํ บาป ๕ ประการนี้ แลวแถมกย็ ังรักษาอโุ บสถศีลตอนเปน พระโพธสิ ตั ว พระองคก็รักษา
ศีลอุโบสถ แมแ ตเ ปน สัตวเดรัจฉานพระองคก็รักษาศลี อโุ บสถ กม็ ีบางชาตนิ ะเชนชาติทเี่ ปนพญานาคชอื่
วา ภรู ทิ ัตตะ ชาติน้นั กไ็ ดเ สดจ็ จากเมืองนาคขน้ึ มาไดร กั ษาศีล ๘ อยูพน้ื ชมพูทวีปทีเ่ ปนทอ่ี ยูข องมนษุ ยน ี้
แหละเปนอยางน้ัน เพราะฉะน้ันบญุ บารมขี องพระองคจึงไดแกกลา มาโดยลําดบั ในที่สุดก็เตม็ ได ถาหาก
วา พระองคไดทาํ แตบ าป ๕ อยางนี้ อยา งใดอยา งหนงึ่ หรือหลายอยางมาในทุกชาตทิ กุ ภพมาอยา งน้ีไม
ไหว กไ็ มไดเ ปน พระพทุ ธเจา หรอก มแี ตจ ะไปเสวยวิบากกรรมอยูในนรกอบายภมู อิ ยางวานัน้ แหละ จะ
เอาโอกาสทไ่ี หนมาสรา งบารมี เหตุที่นี้ก็เพราะพระองคพ ระองคล ะกรรมช่วั ๕ ประการนนั้ เสียแลว ดบั
ขนั ธบรรลัยไปกต็ อ งไปเกิดบนสวรรค บางชาติกไ็ ปเกิดนรกไปเกิดพรหมโลกชาติใดทีอ่ อกบวชเปนฤาษี
บาํ เพ็ญกสณิ ฌานอยใู นปา ไดบรรลุกสณิ ฌานหมดอายสุ งั ขารกไ็ ปเกดิ พรหมโลก แตดูเหมอื นจะมีนอ ย
หรอกที่ไปเกดิ พรหมโลกเพราะวาพระโพธิสัตวทัง้ หลายนั้น ถา ไปเกดิ ในพรหมโลกแลวอายุยนื ยาวนาน
ไมไดส รางบารมี จึงใหไ ปเกิดสวรรคเปนสว นมากเลย ฉะนน้ั หมดอายบุ นสวรรคแลวก็ลงมาเกดิ ในโลกนี้ ก็
มาสรางบุญบารมีเพ่มิ เติมลงไปเรอื่ ย ๆ มันเปน อยา งนนั้ แหละ และตอ งนกึ ถงึ พระพุทธเจาบอย ๆ ผใู ดมัน
ไมนึกถงึ ประวตั คิ วามเปนมาของพระพทุ ธเจา แลว นแี่ หละเปนเหตุทไ่ี มใหเชอ่ื คาํ สอนของพระองค แม
ปฏิญาณตนเปน ชาวพุทธนบั ถือพระพทุ ธศาสนามาแตอ อ นแตออกโนนกต็ ามนะ อันนับถอื ศาสนากอ็ ีก
เรอ่ื งหนึง่ อันปฏบิ ัติตามคําสอนก็อีกเรื่องหนึง่ นบั ถือเฉย ๆ เพยี งแคก ราบไหวเ ทานี้ อนั นก้ี ไ็ ดชอ่ื วา นับ
ถอื พระพทุ ธศาสนาเหมอื นกัน แตวาปอ งกนั บาปกรรมไมไ ดน ับถือแคน้ันนะ ตอ เมอื่ ไดลงมือประพฤติ
ปฏบิ ตั ติ ามเชอื่ คาํ สอนของพระพุทธเจา วาพระองคต รัสวา สิ่งนี้เปนบาป เราตองเชื่อวาเปน บาปจริง ๆ
เลย แลวก็พิจารณาใหเ หน็ ดว ยปญ ญาของตวั เองดว ย ไมใชเ พยี งแตเชอ่ื ตามที่พระองคเจา ไดแสดงตามท่ี
บัญญตั ิไวเ ทา นนั้ พิจารณาเหน็ ดวยปญญาของตนแลวก็ ออ..ยกตวั อยา งเชน วา ทรงบญั ญตั ิหามฆา สตั ว
ตัดชีวิตอยางนี้นะ เมื่อพิจารณาโดยเหตุผลแลวก็วาสตั วท ั้งหลายเกิดมากย็ อมรักชีวิตของตนไมอยากให
ใครมาเบยี ดเบยี นทําลายใหมันตายไปเองหมด หมดอายุก็ตายไปเอง ก็เปนอยา งน้หี มดทุกประเภทเลย
สตั วท เี่ กดิ มาในโลกน้ี ทัง้ มนษุ ยก็ดี ทัง้ สตั วเ ดรัจฉานกด็ ี เปนอยางนี้ รักชวี ิตของตวั เองหมดเลย เมอื่ เปน
เชน นแ้ี ลว หากวา มนษุ ยผใู ดผูหนง่ึ ไปจับสัตวม าจะฆา มนั มันก็กลวั ตาย แตม นั พูดไมได สัตวท ้ังหลายนะ
มแี ตมันดน้ิ การท่มี นั ดิ้นนน่ั แหละเรยี กวา มนั กลัวตายนะ มนั ไมอยากตาย แตมนษุ ยมนั ไมมคี วามเมตตา
กรุณาเลย นึกอยากจะกนิ เนื้อของมันเทา นั้นเอง..เชน น้แี หละ แลว บัดน้เี มอ่ื เวลาหากวา คนอ่นื จะมาทบุ
มาตตี นละ ตนกย็ งั กลวั ตายเหมอื นกันน้ี ตนกย็ งั ปอ งกันตนเต็มท่ีเลย ถา หลกี หนีไมพ น แลว แลว จงึ ยอม
ตาย ถา หากวาบุคคลน้นั มานกึ ถงึ สตั วอ ืน่ แลว กม็ าเทยี บกับตวั เองไดอยา งนแี้ ลว เปนอนั ไมฆา สตั วแน
นอนเลย มนั เปนอยางน้นั โดยเหตผุ ลแลว เปนอยา งนแ้ี หละ แตคนเรามนั ไมไดพจิ ารณาเทียบเขากับเรา

http://www.geocities.com/worralapo ๒๐

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

ใสก ัน มแี ตอ าศัยแตค วามอยาก อาศยั แตอ วชิ ชา ความไมร เู หตุรูผลในพุทธบัญญตั ิตา ง ๆ เหลา น้ัน ไมได
สนใจเลย เหตดุ งั นั้นมนั จงึ ลวงศีลนั้นไปได เมอ่ื ลว งศีลไปไดแ ลว บาปกรรมที่ทาํ นั้นไมใ ชม ันใหผ ลปุบ ปป
ทนั ทเี ลย มนั ไมใ หผ ลมากอน มันใหส บายสบายไปอยางนนั้ แหละ เพราะวา บญุ เกาทที่ าํ มาแตก อนนั้นยัง
ใหผ ลอยู บาปกรรมทีท่ ํามันจงึ ใหผ ลไมได แตเ ม่อื เวลาบุญเกาท่ีทํามาแตก อนนัน้ มนั หมดลงเม่ือใดแลว ก็
บาปทท่ี าํ นีม้ นั กไ็ ดโ อกาสแลว พระพทุ ธเจา จงึ ตรัสวาบาปกรรมอนั นนี้ ะมันจะไปใหผ ลเวลาจวนจะตาย
เม่ือบญุ เกา มันหมดลงไป บาปกรรมอนั นมี้ ันก็ฉดุ ฆา ดวงจติ น้ไี ปเกิดเปนสตั วน รกบาง เปนเปรตบาง เปน
อสรุ กายบาง เปน สตั วเดรจั ฉานบาง ตามบาปตามทีท่ าํ น้นั มากหรอื นอย หนกั หรอื เบา กเ็ ปน อยา งน้ีแหละ
ทพี่ ระพทุ ธเจาตรัสรูแ จงแทงตลอดมา

ดังน้ัน เราผเู ปน ชาวพุทธนี่ ควรทีจ่ ะเช่อื พระปญญาตรัสรูของพระพุทธเจาแท ๆ ไมค วรจะไป
เชือ่ ตัณหาความอยากอนั มีอวิชชาเปน เพอ่ื น ชกั จูงใหไ ปทําบาปทาํ กรรมทาํ เวรใสตัวเอง แลว ตายแลวไป
ไดรับทุกขท นทรมานอยูในโลกหนา ตอไป ไออยางนี้น่ีมันกไ็ ดช ่ือวา เปนผทู าํ รายตัวเอง ไมปรารถนาดีตอ
ตัวเอง ไมร ักตวั เอง ไมต องการอยากจะยกยอตวั เองใหพนจากทกุ ขต าง ๆ เหลาน้ี นาเสียดายจรงิ ๆ นะ
การเกดิ มาเปน มนษุ ยแ ลว นะ ควรพากันพจิ ารณาตรติ รองใหด ี มนั บญุ กุศลมมี ันจงึ ไดเ กิดมาเปน มนุษย
ขอใหค ดิ อยา งนี้ เม่อื บญุ มาตกแตงรา งกายนใี้ หแลวเราตองใชกายวาจาอนั น้ี บาํ เพญ็ บุญกุศลคณุ งาม
ความดีใหเ ปน ประโยชนต นและประโยชนผ อู ื่น เชน นี้มันจงึ คอ ยเรียกวาถูกตอ ง จึงคอ ยเหมาะสมความเกดิ
มาเปน มนุษยส มกับวา ผูมีบญุ ถา เราอาศยั บุญเกาแลว สรางบุญใหมเ พ่ิมเตมิ เขา อยา งนน้ี ะ เหมอื นอยาง
บคุ คลผูม ีทนุ มรี อนกอนหน่ึงแลว นก้ี ็ลงทุนคา ทาํ การคา ขายนาํ กําไรมาเพ่ิมของเกาใหม ากข้ึนโดยลาํ ดบั ผู
มีปญญาทําการคา ไป ไปแลว กไ็ ดก าํ ไรเพ่ิมเตมิ มาเร่ือย ๆ ในที่สดุ ก็ไดเ ปนเศรษฐไี ด อนั นี้ฉันใดก็อยางนัน้
แหละ ผูมีบญุ มีกศุ ลเปนทนุ รอนมาแตชาตกิ อ นแลว มาตกแตงอัตภาพรา งกายนใ้ี หแ ลว หากรจู ักใชกาย
วาจาทํากุศลคณุ งามความดี รูจักละเวนจากกรรมอันชวั่ ดังกลา วมานัน้ ได ชีวิตของผนู ั้นก็ไดชื่อวา ไมเ ปน
หมัน เกิดมาแตล ะชาตกิ ็ไดโ อกาสสง่ั สมบญุ บารมใี หเต็มความสามารถเลยทีเดียวนะ เพราะมนั ไมม บี าป
มาสกดั กั้นทางเดนิ แหงชวี ิต ผนู ัน้ ก็ดําเนนิ ไปตามทางท่ไี มเ ปน บาปเปน โทษ เดินตามทางแหง ความสุข
ความเจรญิ อาศัยบุญเกาน้นั นะ หนนุ สงขอใหเขาใจ อันบญุ นจ้ี งึ ชื่อวาเปน มติ รเปน สหายอันสนทิ สนมใกล
ชิดจรงิ ๆ เลย ใกลชดิ กวา มติ ร กวาญาติ กวาสหายภายนอกเปนไหน ๆ เพราะวามติ รสหายภายนอกนั้น
นะ ไมใชวาจะไดค บกันอยูต ลอดเวลา นาน ๆ จงึ ไดพบกนั ครง้ั หน่งึ นาน ๆ จึงไดช ว ยเหลอื กนั คร้งั หน่งึ
บญุ กุศลท่ีบคุ คลกระทาํ ใหเ กดิ ใหม ใี นจิตใจของตัวเองชาตกิ อ นแลว พอเกดิ มาชาตนิ ี้ บุญกศุ ลนน้ั ก็มา
เตือนจิตใหถ ึงนกึ ตวั เองได เชนวาแตช าตกิ อ นบุคคลไดย ินไดฟงคาํ สอนของพระพทุ ธเจาวา คนเราเกิดมา
แลวก็ตองแก ตอ งเจ็บ ตองตาย ตองพลดั พรากจากของรักของชอบใจ ผใู ดทาํ กรรมอนั ใดก็ยอ มไดร ับผล
แหง กรรมอันนน้ั จาํ แลวเอาไปคดิ ไปกรองจนละความช่ัวไดทาํ ความดีใหเกดิ มีในตน เมือ่ ตายจากชาตินั้น
แลวหากวา ไดโ อกาสมาเปน คนอีก น้แี หละบุญกุศลอนั นั้นนะเปน อปุ นิสัยปจจัยตดิ ตามมาตักเตอื นจิตใจให
ระลกึ ถึงความแก ความเจ็บ ความตายได ระลกึ ถึงความพลัดพรากจากกันได ระลกึ ถึงบญุ และบาป ผใู ด
ทาํ บุญยอ มอํานวยผลใหเ ปนสขุ จริง ผใู ดทําบาปยอมอาํ นวยผลใหเ ปนทุกขจ ริง บญุ เกา นน้ั มาเตอื นใจให
เกดิ ความเช่ืออยางน้ี เรอ่ื งมันนะ

http://www.geocities.com/worralapo ๒๑

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

บุคคลทไี่ มไ ดส ดบั ตรบั ฟงคาํ สอนของพระพทุ ธเจามาแตก อ น ไมสนใจในบาปบุญคณุ โทษ
ตามคาํ สอนของพระพุทธเจานี้ แมไ ดส นใจทาํ บุญทาํ ทานมาตามประเพณีเทา นั้นเองนะ ท่ีจะนอ มเขา คํา
สอนพระองคพ จิ ารณาใหเ ห็นบาปเหน็ บญุ จรงิ ๆ ไมมอี ยา งนน้ี ะ ผเู ชนนน้ั เกดิ มาในชาตนิ ้มี ันก็ไมสนใจใน
เรื่องบาปบุญคุณโทษอะไร ไมส นใจท่ีจะฟงธรรมคาํ สอนของพระพทุ ธเจา อนั สมกบั ท่ีวา ผูใดทาํ กรรมอนั
ใดก็ยอมไดรบั ผลแหง กรรมอันนัน้ นะ มันเปน ความจริงแท ๆ แลว ผไู ดสนใจในศีลธรรมมาแตชาติกอน
มันเปนอุปนิสัยปจจัยตดิ ตามมา พอมาชาตินี้เม่อื ไดมาเกดิ เปนมนษุ ยไดพบพระพทุ ธศาสนา ไดฟ ง คํา
สอนของพระพุทธเจาก็ตืน่ ตวั ไดบญุ เกามาสมทบดวย ท้ังบญุ ใหมทท่ี าํ ในปจจบุ ันมาสมทบเขาไปอกี ก็ทาํ
ใหม ศี รทั ธาแรงกลาข้นึ ในอันท่จี ะปฏิบตั ิตามคําสอนของพระพทุ ธเจา ใหยิ่ง ๆ ขนึ้ ไป นมี้ นั มเี หตุปจจัย
อยางน้ี..คนเรานะ ..ฉะนัน้ ทกุ คนอยาไปลมื บุญเกาของตวั เอง อยา งผูทีไ่ ดบ วชในพทุ ธศาสนาอยางนก้ี ็
เหมือนกนั นะ แตช าตกิ อนตนเองคงไดยนิ ดีในการบวช ถา ไมไ ดบ วชกด็ ี ก็ไดเปน เจาภาพบวชลูก บวช
หลาน บวชญาติมติ รผูมีศรทั ธาทง้ั หลาย นัน่ ความยนิ ดใี นการบวชอยางนีม้ นั ก็เปน นิสัยปจจยั ติดตามมา
เมื่อมาพบพระพทุ ธศาสนาในชาติน้กี ย็ ินดใี นการบวช ผูไมไดยินดใี นการบวชเรยี นในพระพุทธศาสนามา
แตก อน ไมไ ดเ ปนเจา ภาพในการบวชนาค บวชอะไรเลยอยา งน้ี ตัวเองก็ไมไดบ วช เพียงแตยินดใี นการ
ทาํ บญุ ทาํ ทานไปกับเพ่ือนธรรมดาเฉย ๆ พดู เชนนนั้ แลวถงึ เกิดมาในชาติน้ีก็ไมมจี ติ ยินดีจะบวชเรียนน้ี
เลย ไมม คี วามสามารถแลว เปนอยางนแี้ หละ เหตุปจ จยั ของชวี ติ พิจารณาใหเ ขาใจ เมอื่ ผูใ ดไดพจิ ารณา
ใหเ ขาใจอยา งนีแ้ ลว มนั ก็สามารถละบาปบําเพญ็ บญุ ไดด ังกลา วมานนั้ แหละ ชาํ ระกายวาจาใจของตนให
สะอาดปราศจากบาปอกุศลตางๆ เมอ่ื กายวาจาใจปราศจากบาปอกุศลตา ง ๆ แลว บญุ กุศลอนั นยี้ ง่ิ ดล
บันดาลใหชอบบุญชอบกุศลยิ่ง ๆ ขน้ึ ไป ไมม ถี อยหลงั บญุ กศุ ลอนั น้ีมนั กด็ ลบันดาลใหเบ่อื หนา ยในความ
เกดิ ความแก ความเจบ็ ความตายอันน้ี ใหเ บือ่ หนายในบาปกรรมความชวั่ ทั้งหลาย เหน็ เขาทาํ ความชวั่
ทง้ั หลายก็ไมพ อใจ ไมชอบเลย นบ่ี ุญกศุ ลมนั ดลบันดาลมนั เปน อยา งนนั้ เห็นเขาทาํ กุศลคณุ งามความดี
ชอบใจปรารถนาทจ่ี ะทําบัดน้ี นนั่ แหละ พระพทุ ธเจา จึงตรสั วา บคุ คลคบคนเชนใดก็เปนเชน คนนั้น ตง้ั แต
กอ นเคยคบนกั ปราชญบ ัณฑติ มา เคยไดท าํ บุญกุศลคุณงามความดีกบั นักปราชญ นักปราชญท า นก็ชกั จูง
แนะนําอยางน้ี มนั ก็เปนอุปนสิ ัยปจ จยั ตดิ มา บญุ กุศลกส็ งใหม าเกิดเปนมนุษย เกิดมาแลว กใ็ หไปบนั ดาล
ใหไปพบนักปราชญบณั ฑติ ใหย ินดเี หล่ือมใสในนกั ปราชญบ ัณฑิตนน้ั เบื่อหนายตอ คนพาล บัดน้ี นแ่ี หละ
อนุภาพของบญุ กศุ ลขอใหเขาใจกนั ไมใ ชว า ไมมีเหตุผลนะการทําบุญทํากศุ ลมีเหตผุ ลดงั กลาวมานี้ ถาจะ
พรรณนาไปมันก็มากมายคุณคาแหงบญุ แหง กศุ ลความดีนแ้ี หละ

ดังน้นั ก็ขอใหพาเขา ใจไวว า บคุ คลจะพนั ทุกขไปไดในขัน้ ใด ๆ ก็อาศัยบญุ กุศลนี้ทงั้ นน้ั เลย
จะถงึ ปรินิพานก็เพราะทาํ บุญกุศลใหเ ต็มบริบูรณ เมื่อส่งั สมบุญกุศลใหเ ตม็ บรบิ ูรณแ ลว สวนมากก็บุญ
กุศลดลบันดาลใหออกบวชในตาํ ราทานกลาวไว ดงั พระสาวกของพระพทุ ธเจา ในครัง้ พทุ ธกาลทานผูมี
บารมอี นั แกก ลาเตม็ มาแลว พอไดฟง ธรรมคาํ สอนของพระพุทธองคจบลงเทา นน้ั แหละ บางทานก็สําเร็จ
อรหนั ตเ ลยแตย ังไมไดบวช แตบางทา นบางเหลากย็ ังไมสําเร็จแตม ศี รัทธาบวชอยางแรงกลา อยา งน้ีแหละ
ก็ขอบวชกบั พระศาสดาเลย เหมอื นอยา งพระรัฐบาล ช่อื รฐั บาลนะ เปน ลกู เศรษฐีพอไดฟ ง คาํ สอนของพระ
พุทธเจาแลว พระองคก ็ตรัสวา การท่ีบคุ คลจะพนทกุ ขไปไดนั้นก็ตอ งอาศัยการบวชจะพนทกุ ขไปโดยจริง
จงั แลว อยางนี้ ผูครองเรือนนีย้ อมมจี ติ หว งใยอาลัย กิจการงานตาง ๆ ไมม โี อกาสท่จี ะชําระจติ ใจให

http://www.geocities.com/worralapo ๒๒

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

บริสทุ ธจิ์ ากกิเลสได ทานไดฟ งอยางน้แี ลว ทา นก็ โอ. . เปน ความจรงิ เลยมีทรพั ยสมบตั มิ ากเทาไดกย็ ิง่ เปน
ทกุ ขหลายเทานน้ั ตายแลวก็เอาตดิ ตวั ไปไมไดเลย อยา งนี้ เอา..อยาเลยเราจะขอบวชกบั พระศาสดาซะ
เลย ขอบวชกับพระองค พระองคก ็รับสัง่ ใหไ ปลาบิดามารดาซะกอน ทา นก็ไปลาบิดามารดา บดิ ามารดา
ไมอนุญาตทีแรก เม่ือไมอ นุญาตทา นกอ็ ดขา วไมย อมทานขา วเลย ถาไมอ นญุ าตกใ็ หตายไปเลย โนน เลย
ทานผูมบี ุญบารมีแกก ลา กใ็ จเดด็ ใจเดย่ี ว พอ แมก ลัวลูกจะตายก็เลยตองอนญุ าตใหไ ปบวชได ทานก็รบั
ประทานอาหารมีกาํ ลงั ดีแลว กห็ าเครอื่ งบริขาร เสรจ็ แลวก็ไปบวชกบั พระศาสดา พระองคกบ็ วชให บวช
ใหแ ลว ทานก็บําเพ็ญเพียรไปไมนานกไ็ ดสําเรจ็ อรหันต และกไ็ ดส าํ เรจ็ อรหนั ตก ็ไดม าโปรดมารดาบิดา
ใหมีศรทั ธาเลอ่ื มใสในพุทธศาสนาทัง้ อดตี ภรรยาดว ยหมูน้ี อันน้ีประวตั ิของพระรฐั บาลก็พอเอาเปนตัว
อยา งไดสาํ หรับคนมั่งมีศรสี ุขมเี งินมที องมากๆ ผมู บี ญุ บารมแี กกลา มนั ก็สมควรจะพจิ ารณาใหร ูใหเ ห็น
ตามความเปนจริงอยา งทีว่ านแี้ หละ แลว ก็ควรจะถอนตัวออกไปแสวงหา นริ ามติ รสขุ สขุ ท่ไี มตอ งอิง
อาศัยอามสิ คอื ส่ิงของ อนั นเ้ี ปน สุขอนั บริสุทธ์ิสดใสจรงิ ๆ ไมอิงไมอาศัยรูป เสียง กลน่ิ รส เครือ่ งสมั ผสั
ตา ง ๆ และอาศัยความบริสุทธเิ์ ทา น้นั เอง การชาํ ระอาสวะกเิ ลสใหหมดส้ินไปจากจิตดวงนี้ จติ ดวงน้กี ็พงึ
ตนเองได หมายความวาอยา งนนั้ ไมไปพงึ รูป รา งกายที่เคยเกิด เคยแกเ จ็บตายมาแตก อ นไมเอาแลว มนั
ไมเท่ยี งไมยง่ั ยืนอะไรเลยรปู กายธาตุ ๔ ดนิ นํ้า ลม ไฟ เงนิ ทองขา วของอะไรตอ อะไร ลว นแตเ ปนของให
มีความสขุ ชัว่ คราวเทา นั้น ไมไ ดอ าํ นวยความสุขใหย ั่งยืนอะไรเลย ใหพจิ ารณาเหน็ อนั นี้คนมีบญุ มากแลว
ตอ งการความสขุ อันเปนแกน สาร เหจนุ ้ันจึงไดลามารดาบดิ าออกบวช พวกเราไดช ่อื วามีบญุ ทีไ่ ดม าบวช
ในพทุ ธศาสนาน้ี ดังน้ัน บญุ อนั น้มี นั กย็ ังเปนโลกียอยู หากวาเราไมพ ยายามสั่งสมบุญน้นั ใหม ากขึ้นไป
กวานม้ี นั จะสูอ ํานาจกิเลสไมไ ด ผบู วชเขามาแลว สึกออกไปกเ็ พราะมันสูอํานาจกิเลสไมไ ดน ้ันเอง เรือ่ งมัน
นะ

ดังนั้นควรพากนั บาํ เพ็ญสมาธิปญญาใหเ จริญแกก ลา ข้ึน สาํ รวมในศีลใหบริสุทธ์เิ ขา ไป ไมท อ
ไมถ อยแลว บญุ กุศลมากขนึ้ โดยลาํ ดบั เม่ือบญุ กุศลมากขึ้นแลวมนั ก็สูอ ํานาจกเิ ลสไดบ ัดนี้ กิเลสกค็ รอบงํา
จติ ไมไ ดมันเปน อยางนน้ั ถา เปนคฤหสั ถ บําเพญ็ บญุ กุศลมาก ๆ เขาไปแลว มนั กเ็ ปน เหตใุ หเ บ่ือหนา ยใน
บาปในโทษไมทาํ บาปแลว ไมทําบาปเพราะปากเพราะทองไมทาํ บาปเพราะลาภยศสรรเสรญิ เยินยอตา ง
ๆ ไมเอา จะพยายามชําระตนใหบ รสิ ุทธ์ิจากบาปจากโทษใหได แลวตนจะไดป ระสบความสขุ อันเปนแกน
สารทที่ านเรียกวานริ ามิตรสขุ คือสุขปราศจากเหยอ่ื ลอ ใหติดอยใู นทุกขดงั แสดงมา

ถอดเทปโดย
คณะนักเรียนโรงเรยี นทาบอ อ.ทา บอ จ.หนองคาย

สนับสนุนโดย
พระวีรชาติ ธมมฺ รตโน

เรยี บเรยี งโดย
คณุ พงศพิพฒั น ดาํ รงวัฒนกลุ

http://www.geocities.com/worralapo ๒๓

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

จติ เปนแกนของชีวติ

โดย หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ
วัดอรัญบรรพต อ.ศรเี ชยี งใหม จ.หนองคาย

สุดทายก็มาอยูท่ภี าวนา เพราะการภาวนานม้ี ันเปนการฝกจิต จิตท่กี วดั แกวงเลอ่ื นลอย ทาํ ให
สงบลงตัง้ มัน่ ลงไป จติ ดวงเดียวเทา น้ีแหละเปน แกนของชวี ติ เมือ่ เราฝก ตนเองใหตั้งมัน่ อยใู นกศุ ลธรรม
ได ก็ยอ มเอาชนะความชว่ั ท้ังหลายได ความชว่ั กิเลสทัง้ หลายก็ไมมาครอบงําจติ ใจ ตัง้ แตเ ราเทยี วเกดิ
เทยี วตายมาในสงสาร นสี่ วนมากกไ็ มไดฝก ฝนอบรมตน เกดิ มาชาตใิ ดกอ็ ยูไปตามยถากรรม หากินไป
อยูไ ปหมดบญุ หมดกรรมและกอ็ ายหุ มดลงแลวกต็ ายไป ตายไปแลว กไ็ ปหาทเ่ี กิดใหม เปนอยอู ยางนี้
แหละ พระพุทธเจายงั ตรสั วา วัฏฏะโตโลโก โลกมนั หมนุ โลกคือหมูมนษุ ย ยอ มหมนุ ไปตามกรรม สุด
แลวแตทาํ กรรมอนั ใดไว กรรมอันนั้นมันก็พาหมนุ ไป เกิด แก เจ็บ ตาย ถา ทาํ กรรมดี กรรมดกี พ็ าหมนุ ไป
ทางดี ทํากรรมชว่ั กรรมช่ัวมนั ก็หมุนไปพาไปทางชัว่ ชวี ติ ของมนุษยแ ละสัตวท ้งั หลายนี่ มนั ยอ มหมุน
เปน วงกลมอยอู ยางน้ี หาทางออกจากทกุ ขไมได เพราะเมือ่ ยงั ไมไดฟงคาํ สอนของพระพุทธเจาตราบใด
แลว ไมร จู ากทางออกจากทุกขเ ลย สตั วทง้ั หลายจงึ งว นอยูแตในโลกอันน้ี ก็ถงึ มศี าสนามพี ระพุทธเจามา
บังเกดิ ปานน้ี ทรงแสดงธรรมไว แตคนก็ยังไมสนใจ คลา ย ๆ ก็วา เห็นเปนของไมสําคญั ไมดอี ะไร เงนิ
โนนดกี วา ด้นิ หาแสวงหาแตเงนิ ทองขา วของกนั กส็ ําคัญวาเมอ่ื มีเงนิ แลวกม็ คี วามสุข มนุษยสว นมากมัน
ด้ินแสวงหาแตความสุขในปจ จุบนั น้เี ทาน้ันเอง ไมค ดิ ถงึ อนาคตเบื้องหนา ที่ตนจะพึ่งเล่อื นลอยไปหาที่
เกดิ อยูร่ําไป ไมคํานึงถงึ ทางทีไ่ ปสอู นาคตเบอื้ งหนา ยังไกลแสนไกล แตส ว นทีล่ ว งมาแลว มันก็หมดมาแลว
ไมคิดที่จะสรางยานพาหนะนําตนใหไปทส่ี ขุ สบาย ก็แตต นไดมคี วามสขุ อยใู นปจจุบันน้กี ็พอใจแลว

ดังนั้นคนเรามันจึงยากจนขน แคนเกดิ มา คนจนหลาย ๆ ในโลกเหลา นี้ เน่ืองจากมันเกียจ
ครานทําความดี ในการฝก กาย วาจา จติ ใหตรงตามคําสอนของพระพุทธเจา เมอื่ ไปสั่งสมกรรมชว่ั คอื สง่ั
สมกิเลสตาง ๆ แลว กเิ ลสเหลานั้นมันก็พาจติ นี้ไป เล่ือนลอยไป หาท่เี กิดแตท่ีอยากลาํ บาก ถาบาปไม
มาก ก็พาเกิดเปนสตั วส่ิงเดรัจฉาน ไดร บั ทุกขท นทรมานเปน สัตวเดรจั ฉาน มนุษยก จ็ ะเบียดเบียนไปฆา
ชาํ แหละ เอาเน้อื มาขายเลี้ยงชีวติ นแ่ี หละชวี ิตของสตั วโลก ผทู ่ไี มร ูหนทางออกจากทุกข มันกว็ นมาหา
ทุกขอยรู า่ํ ไป เปน อยางนั้น ทางออกจากทกุ ขทพี่ ระพทุ ธเจา แนะนาํ ส่ังสอนไว การใหท านก็เปน การออก
จากความโลภความตระหน่ีหวงแหน เพราะความโลภความตระหนีเ่ ปน เหตใุ หทาํ บาปแลว มันจะไปสทู ุกข
ถาผูใดใหท านอยู ไอความโลภอยากไดสมบตั ขิ องคนอน่ื มาเปน ของตนมนั ก็ไมมี ตนหาไดเ ทา ไรก็บริโภค
ใชสอยเทา นน้ั เชนน้ีก็ไมไดทําบาป นีแ่ หละทานจงึ วา การทําบุญใหทานเปนทางออกจากทุกขส ายหนึง่
การรกั ษาศีลใหบรสิ ทุ ธิ์ อันน้ีกย็ ่ิงเปนหนทางออกจากทกุ ขส งู ขนึ้ ไปกวา ทานน้นั อกี เพราะวาศีลนปี้ อ งกัน
บาป ปองกันไมใหค นทําบาปดว ยกาย วาจา ใจ เมื่อผใู ดม่ันในศีล เช่ือมั่นในศีลวา จะพาตนใหพ น ทุกข พน
จากนรกอบายภมู ิ อยา งน้ีแลวกค็ นผูน ้ันกไ็ มไ ดทําบาป เมอ่ื ไมท ําบาปแลว บาปกไ็ มน ําไปสูทกุ ข เม่อื ละ

http://www.geocities.com/worralapo ๒๔

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

โลกนไ้ี ป กไ็ ปบันเทิงในสวรรคเ ทานน้ั แหละก็พดู กันมาบอ ย ๆ เรื่องหมนู ้แี หละ และตายจากมนุษยนีไ่ ป
เกดิ สวรรค มันกพ็ น ทกุ ขไปข้ันหนึง่ ทกุ ขข องมนุษยน ก้ี ไ็ มใชยอ ย ทกุ ขเ พราะเสวยวบิ ากกรรมทต่ี นทํามา
แตกอ นก็พอแรง ทุกขเพราะความแก ความเจ็บ ความปวยไข ความแสวงหาทรัพยส นิ เงนิ ทองขาวของ
มาเล้ียงอัตภาพอนั น้ี ก็เปน ทุกขไ มใชน อย

เม่ือบคุ คลมีศลี แลว ไมทําบาปแลว หาเล้ียงชีพแตโ ดยทางท่ีสจุ รติ เชนนั้นแลว ตายแลวมันก็ไป
สวรรคเ ทา นน้ั ละมันไมม บี าป ไมมบี าปนาํ ไปสูท ุกขแ ลว แตก ารรักษาศีลการไมเ บียดเบยี นบคุ คลอนื่ สตั ว
อ่ืนเปนบุญกุศล แตค นไมร จู ักบุญนะ นกึ วา รกั ษาเฉย ๆ รักษาศีล นึกวา ไมเ ปนบุญกศุ ล ก็เมือ่ ละบาปไป
แลว บญุ มนั ก็ยอ มเกิดขนึ้ เปน ธรรมดาเปนอยางง้ัน ผใู ดไหวพระภาวนาไมท อ ไมถ อยฝกฝนจติ ของตนให
สงบบรรเทาเสียซ่งึ ความโลภ โกรธ หลง เสยี ได รสู กึ ตวั ไดว า ดวงจติ นม้ี าอาศยั อยูใ นรา งกายอนั นเ้ี ปนของ
ไมเท่ียงมันจึงไดร ับทุกข จงึ ไดเ สวยทกุ ขท รมานอยอู ยา งนแ้ี หละ หนอยหน่งึ กเ็ จ็บโนน ปวดนส่ี ารพัด แต
คนเราเกดิ มาแลวมีโรคภัยเบียดเบียน อยากไปเห็นคนเจ็บคนปว ยตองไปท่โี รงพยาบาล สารพดั จะคน
ปวย ไปแสดงบตั รนต้ี องเขาควิ กนั ยาวเหยยี ดเลยโรงพยาบาลใหญ ๆ บางคนไปคอยอยูต ั้งครึ่งวันจงึ ได
ตรวจตราก็มี ครึ่งวนั จงึ ไดตรวจโรค เพราะคนปวยมีมาก แตม นษุ ยนะ หากไมเบอื่ ไมห นา ยความเจบ็ ปว ย
ไขตาง ๆ หมูน้ี เจบ็ ก็เจบ็ อยูรองครวญคราง กร็ อ งอยูอยา งนั้นละ แตไ มม ีอบุ ายความคดิ นึกในใจวาทํา
อยางไรหนอเราจึงจะพน จากทุกขเหลานีไ้ ป ไมคดิ เลย เพราะฉะนั้นมันจึงออกจากทุกขไ มไ ดน ั่นแหละ ถา
ผใู ดเจ็บปวดไมส บายอยา งไงแลว มากาํ หนดพิจารณา เออ..ก็เพราะเหตวุ า จติ น่มี าถือม่นั ในขันธ ๕ อนั นี้
วา เปนตวั เปนตน เปน เรา เปน เขา ไมแ ตว าชาติน้ี ชาตหิ ลงั ๆ ลวงมาแลวนับชาติไมถว น มันกม็ าถอื เอา
ขันธ ๕ เปน ท่ีพงึ่ ทอี่ าศัย สาํ คัญวา เปนของตวั ของตน บัดนีข้ นั ธ ๕ ไมเที่ยงกว็ ิบัติแปรปรวนไป จติ ท่ี
อาศัยอยใู นขันธ ๕ น้กี เ็ ปน ทุกขทนทรมาน แตม ันกไ็ มใชวา เปนทกุ ขอ ยตู ลอดเวลา นแี่ หละทีค่ นจะหลงตดิ
อยใู นโลกอันน้ีแหละ เม่ือโรคภัยหายไปแลวรา งกายก็สมบูรณดขี ึ้นมากน็ กึ วา ตนสบายแลว ก็ยิ่งเพรดิ
เพลินย่ิงมัวเมาน่ี แตมันก็หาไดห ายไปเดด็ ขาดแลว ๆ ไปเลยไมตกไป หายไปชว่ั คราวชวั่ ระยะหนึ่ง ไป ๆ
เดย๋ี วมันก็เกดิ ขน้ึ มาอีก ก็ไดร ับทกุ ขเวทนาอยอู ยา งน้นั แหละ คนเราถาไมเ จ็บไมปวยมันก็ไมต าย กอนจะ
ตายมันตอ งเจ็บปวยซะกอน รา งกายมนั จะทรดุ โทรมลงไปเยียวยารักษาอยางไรกไ็ มห าย เมือ่ เวลาจวนจะ
ตายแลวมานกึ ถึงพุทโธแลว มานึกไมไ ด เพราะทกุ ขเวทนามนั ครอบงาํ จิตใจพอแรง นึกไมออกซ้ําเปน ไร
เวน เสยี ผทู ่ีไดภ าวนาอยแู ตยังมชี ีวติ ดีอยู ภาวนาพทุ โธจนตดิ นิสัย จนใจเขม แขง็ ต้งั มั่นอยูดวยดี ถา ทําได
อยา งน้ีเวลามีชีวติ อยดู ี ๆ เม่ือเวลาโรคภัยไขเ จบ็ เบยี ดเบียนเจ็บปว ยลงจะตาย มันกร็ ะลึกได เพราะใจที่
ฝก แตย ังดี ๆ อยอู ยางน้มี ันเขม แข็ง มนั ตง้ั มน่ั ทั้งพิจารณาเหน็ วา ธาตุ ๔ ขันธ ๕ นี้มนั ไมพ นจาก ความ
แก ความเจบ็ ความตาย มนั มีอยูอยางนี้เปน ธรรมดา ภาวนาพุทโธแลว ก็พจิ ารณาถงึ ความจริงของราง
กายอันนี้ ทุกวันทุกคืนไป มันก็เหน็ แจงดว ยญาณอันเกดิ จากสมาธนิ ยั เห็นวา ธาตุ ๔ ขนั ธ ๕ อันน้ไี มม ี
สาระแกนสารอะไรเลย ไอที่ไดอ าศยั มันอยูน่ีมันยังไมแ ตกไมด ับ เพราะอาศัยบญุ กศุ ลท่ีทาํ มาแตชาติกอน
มาหลอ เล้ยี งไวส มประกอบกนั กบั อาหารในปจจุบนั หลอ เลี้ยงไวถา จะอาศัยแตอ าหารอยา งเดยี วไมไ ด
อาศัยบุญกศุ ลแตชาติกอ นนนั้ มันอยไู มไ ด ถามนั อยูไดมนั กไ็ มเจ็บ ไมไข ไมตาย คนเราอาหารมกี ินอยู
ตลอดไป นกึ ใหดีพจิ ารณาใหเ หน็ เหตุท่มี ันยงั อยูไ ดก เ็ พราะอาศัยบุญเกา มาหลอเล้ยี งไวกับอาหารการ
บรโิ ภคปจ จุบนั น้ี สมทบกนั เขา ไปอีก ถาบญุ เกาหมดลงแลวอาหารก็ดิบรบั ประทานไมไ ด แมแ ตน ํ้ายัง

http://www.geocities.com/worralapo ๒๕

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

กลืนไมล ง เอามาพอ ไดเ อาสําลีชุบน้ําหยอดใสปากให เพ่อื ใหน าํ้ มนั ไปทาํ ใหช บุ คอหายใจสะดวกสัก
หนอย มนั เปนอยางน้นั เวลาคนเราใกลจ ะตาย

ดังนั้นอยา พากันไปน่ิงนอนใจ แนน อนเราทกุ คน เรยี กวา ถูกคนดีๆ ยังไมต าย เอาสาํ ลจี มุ นา้ํ
แลว ก็หยอดใสป ากให แนน อนแหละถงึ วาระนนั้ มาแลว นอนทอดหายใจแขมวๆ อยู บางคนก็หายใจปลา
ปลาที่เอาขน้ึ มาบนบกหายใจงาบๆๆ มันไมไ ดม ีน้าํ แลวมันอยูไมไ ดปลา เม่ือหนึ่งกห็ มดลมหายใจเงียบไป
คนเรามนั กไ็ มผิดอะไรจากสตั วเทาไรนักเวลาจวนจะตาย ดงั นน้ั เราตองเตรียมตวั ไวภ าวนาไวเ สมอๆ ใช
ปญญาพิจารณาวา คําวา ตายๆ น้ี อะไรมันตาย เม่อื ใจตั้งม่นั แลว มนั กร็ ไู ด วา ไอธ าตทุ ง้ั ๔ มนั ไม
ปรองดองสามัคคีกัน บางทธี าตุไฟตองออนลง บางทธี าตลุ มก็ออนลง เม่ือธาตเุ หลานม้ี ันออ นแอลงไปแลว
มันก็ไมมกี ําลงั รบั ประทานอาหารอะไรไมไ ด ไอค นเราทจ่ี ะรบั ประทานอาหารอยนู ีไ่ ดเพราะธาตไุ ฟมันแรง
มนั ทาํ ใหอยากอาหาร ธาตุไฟนน้ี ะ ธาตุลมมันมีมนั ชว ยกลนื อาหารลงไปในทองในใสก ็เพราะธาตุลมน้ี
แหละคนเราเมื่อลมมันออ นลงไปแลว ก็เลยไมม ีกาํ ลงั แมแตก ลืนขาวนก้ี ไ็ มล ง กลนื นาํ้ ก็แทบไมลงเลย ให
พจิ ารณาใหถงึ ลักษณะแหง ความตาย มันมีอาการอยางไร เม่ือเราพิจารณาดไู ปบอยๆ กเ็ กิดญาณความรู
แจง ข้ึนมา โอ…ความตายมนั เปนอยางนีๆ้ หนอ ลงความแลว ไมใ ชเ ราตาย บดั นี้ เราไมไ ดอยูในขันธ ๕
นัน้ ขันธ ๕ ไมไ ดม อี ยใู นเรา หมายความวา จติ ไมใ ชขันธ ๕ ขันธ ๕ ไมใ ชจิต ขันธ ๕ น่เี ม่ือจิตถอดออกไป
แลว มันก็นอนทอดอยูบ นพืน้ เอาไฟเผากเ็ หลอื แตเถา กบั กระดูกเทานั้นเอง จิตน่กี ม็ บี ญุ และบาปนําไป อือ
…ไมใชอ ยูกบั กระดกู นน้ั หามิได แตความเหน็ ของแขกอินเดีย เขาเห็นวาคนตายลงไปแลว จติ วิญญาณ
มันผูกพนั อยูกบั รปู กับรา ง อนั นีไ้ มไ ปไหน เอาไปเผาไฟแลว เหลือแตก ระดูก เอากระดูกมาบดใสครกให
ละเอยี ดแลวเอาใสขันไปโปรยลงน้ําโนน ใหป ลากินใหมนั หายไปเลย จติ มนั จะไดไมมาหวงอยกู บั กระดกู น้ี
ไอค วามเห็นของแขกอินเดยี มันปราศจากเหตุผล น่ันแหละ มนั จงึ มีลัทธขิ ้นึ มา ๑๐๘

จิตนเี้ มอ่ื มนั ออกจากรา งนแ้ี ลวหากวาจิตผูใดเวลาจะตายมีความหว งใยอะไรอยกู บั ลกู กับรา ง
กบั บา นกบั ชอ งกับทรพั ยสมบตั ิ จริงอยอู ันนี้ เมอื่ จิตนอี้ อกจากรา งแลวไปไหนไมได กต็ องวนเวียนอยกู บั
สงิ่ ทีต่ นขอ งใจ อาลัย หวงแหนน่ันแหละ ไมใ ชไปอยูก บั กระดกู นั้นหรอก ไปอยูกบั ทีจ่ ติ ตรงมันหว งตรง
ไหนมนั ก็ไปขอ งอยตู รงน้นั อยางที่ในนทิ านทานกลา วไว คนโบราณเอาเงนิ ไปฝงไวในดิน ตายแลวก็เกิด
เปน งเู ฝาไหเงนิ อยูนน้ั เปนอยา งงี้แหละ เพราะดเู ฉย ๆ เอาเงินนน้ั ไปใชจายอะไรก็ไมไ ด เฝา อยเู พราะจิต
มนั หวงแหน นัน่ แหละคนทไี่ มไดภาวนา ไมไดม องเหน็ ความจริงของทรพั ยส มบัตกิ เ็ พราะวา ธาตุทัง้ หลาย
เปนอนจิ จงั ทกุ ขงั อนตั ตา เพราะไมเ คยคิด เคยพจิ ารณาสกั ทเี ลย เวลาใดกว็ า แตของกู ของเรา ของกูอยู
อยางนนั้ เม่อื ตายลงมนั จึงหนีจากสมบัติเหลานน้ั ไมไดเลยไดท นทุกขทรมาน กลวั คนจะมาพบมาเอาไป
อยูอยางนัน้ แหละ นแี้ หละการภาวนามนั มปี ระโยชน มีประโยชนจรงิ ๆ เม่อื ฝกจิตน้ีใหตง้ั ม่ันลงไปแลว ตัง้
มน่ั อยภู ายใจแลว มนั กผ็ อ งใส เมอ่ื นกึ ถงึ รา งกายสวนไหนมันก็เหน็ รา งกายสวนน้นั นกึ ถึงความไมเ ที่ยงมา
มนั ก็ปรากฏวารางกายนีแ้ ตกสลายลงไป แสดงภาพใหเห็นวา ไมเ ทีย่ งอยางนีแ้ หละ แตท จ่ี รงิ มันกไ็ มแตก
จริง ๆ หรอกเพยี งแตมันแสดงภาพใหร ูเทานั้นแหละ มันเปน สปั วธาตมุ ันก็แสดงธาตเุ มอื่ ตายแลว เอาไฟ
เผาแลว มันกล็ งเปนธาตุดิน กระดกู ก็ธาตดุ นิ นนั้ หละ เถาตาง ๆ มนั ก็ธาตดุ ิน มนั ก็เปน อยา งนั้นแหละ ใช
ปญ ญาญาณหย่งั รพู จิ ารณามนั ใหถ งึ ความจรงิ อยางวา นี้แหละมันกห็ ายหวงบดั นแ้ี หละ หายหว งคาํ วา
เปนตัวเปนตนนะไมห วงแลว ทําจิตใหเ ปน อเุ บกขาในปจ จบุ ันนี้ เมอื่ ยังไมตายก็ จิตก็ยงั เปน อเุ บกขาอยู

http://www.geocities.com/worralapo ๒๖

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรียญ วรลาโภ)

ไมไ ดย นิ ดียินรายกบั รางกายอนั น้ี เพราะเหน็ วาไมใ ชของเราจริงจัง ของมนั จะตอ งแตกตอ งดับอยู เวลา
มนั ยังไมแตกไมดบั น่ี ก็เพราะบุญกุศลที่ทาํ แตก อ นมารักษาบาํ รงุ ไว เพือ่ ใหจิตดวงน้ีไดสรา งบุญบารมีให
แกกลาเพอ่ื สง่ั สมบุญ ใหบ ญุ นจี้ ะไดนาํ ตนออกจากทุกขเ ทา นอ้ี ันน้แี หละ

ทางออกจากทุกขกค็ อื บญุ กุศล ดว ยสติปญ ญาอยางวา มาแลวน้ันแหละ ไมใ ชอยางอนื่ ใดไมใช
ทางเดนิ แบบทางเดนิ ดว ยเทาน้ี คอื ญาณความรูน้นั เองเปน ทาง เม่ือญาณความรเู กดิ ขึน้ แลว มันก็เหน็ วา
รางกายทกุ สว นไมว า สวนทเี่ ปนรูปท้ัวสว นท่เี ปนนามธรรมไมม รี ูปรา งเปน แตค วามรสู ึกเฉยๆ น่ีไมใ ชข อง
เราท้ังน้ันเลย จติ เมื่อมนั เกดิ ญาณความรูขนึ้ มนั กเ็ ห็นอยางนีแ้ หละ เห็นอยางน้เี รือ่ ยไปเลยทีเดยี ว เมอ่ื
รักษาความเหน็ ความรูอ ันน้ไี วไดต ลอดไป เมอ่ื เวลาความตายมาถงึ เขามันก็ไมห ว่นั ไหวอะไรแลว ญาณ
ความรูม นั เปน สักขพี ยานแลว วาไมใ ชเราตายไมใ ชเขาตาย เวลาน้ีธาตุ ๔ ขันธ ๕ มนั กาํ ลังจะแตกจะดบั
อยู มนั เหน็ เปน สภาวะธาตเุ ทา นน้ั นะบดั น้ีแหละ ไมไ ดเหน็ วา รางกายน้เี ปนตวั เปน ตนเลยเม่อื มนั เห็นอยู
อยางน้ีรูอ ยอู ยา งน้จี นหมดลมหายใจ จิตมันก็ไมไ ดของอยใู นโลกนี้แลว ถงึ แมว า ยงั ไมเ ขา สูนพิ พาน มันก็
จติ กห็ ลุดออกจากโลกอันนี้ ก็บังเกดิ สคุ ติโลกสวรรค หรอื ผูทไี่ ดฌ านโลกยี เ ขา ไปกไ็ ปเกดิ พรหมอยใู น
พรหมโลกโนน อนั มนั ก็เปนการพนั ทุกขไปขั้นหนึง่ ทกุ ขจ ากความเปนมนุษยน ี่ไปเปน เทวดา เมอื่ เปน
เทวดาแลวความทกุ ขเหมอื นอยา งอยูเ กิดเปนมนุษยอยนู ก่ี ด็ ับไปพอเปน เทวดาแลวมีรางกายอนั ละเอียด
ออ นบุญกศุ ลตบแตง ให อาหารกเ็ ปน อาหารทพิ ยไมห ยาบคายเหมอื นอาหารมนษุ ย จะไปไหนมาไหนก็
คลองแคลวดี โรคภัยไขเจ็บกไ็ มเบียดเบียน มคี วามสุขสนกุ สนาน พวกทีเ่ กิดเปน เทวบุตร เทวดา นีแ่ หละ
เรยี กวา พนจากทกุ ขอ นั เปน มนุษยน ี่กไ็ ปเสวยสุขจากการเปนเทวบุตรเทวดา แตค วามสขุ ของเทวบตุ ร
เทวดามนั กย็ งั ไมเทย่ี งอยเู หมือนกนั แตว ามนั สขุ ไปไดน าน นานกวา สขุ มนุษยน้ีหลายรอยหลายพันเทา
เพราะเทวบตุ รเทวดาน้ีอายยุ ืน ยืนอยูด ว ยความสขุ ถา คนเรามีทกุ ขม โี รคภัยเบยี ดเบียนแลว ไมย นื ละ อายุ
เหตุทบ่ี นสวรรคจะมีอายุยนื ก็เพราะเหตวุ าไมม ีโรคภัยเบยี ดเบียน คนผไู ปสูส วรรคแ ลว ไมมีบาปติดตามไป
มแี ตบุญติดตามไปหลอเล้ยี งรักษาเพราะเหตนุ ัน้ จงึ ไมเ ปนทกุ ขเ ดือดรอน แตถาเมื่อหมดบญุ นั้นแลว กอ็ ยู
ไมไ ด กเ็ คลื่อนจากที่นน้ั ไปหาที่เกดิ ใหมอีก พระพทุ ธเจา ทรงแสดงไววาถา จากจุติจากสวรรคกต็ อ งมาเกิด
ในโลกนี้ ถาคนมบี ญุ นะ มาเกิดก็มักจะมาเกิดในสมยั ที่มพี ระพุทธเจามาบงั เกดิ ในโลก และไดม าสรางบุญ
สรางบารมี เหมอื นอยา งบริษทั ของพระพทุ ธเจาท่ีตดิ ตามพระองคม าแตเปนพระโพธิสตั ว ยกตวั อยา งเชน
นางวิสาขา อนาถาบิณฑติ มหาเศรษฐี หรือคนอนื่ ๆ ซึ่งไมคอ ยจาํ ช่อื ได ทา นเหลา น้ันกม็ ีบุญไดสรา งบญุ
กศุ ลมามากแตก อน บุญนน้ั กน็ าํ มาเกดิ รวมกบั พระพุทธเจา กไ็ ดเ ปน พทุ ธอปุ ฐาก ไดอ ุปฐากพระพทุ ธเจา
และพระสงฆ เพราะวา คนเชนนั้นเปนมีบญุ เงนิ ทองก็เปน กา ยเปนกองไมอดไมอ ยาก ทําบญุ ทาํ ทานไปเทา
ไหรก ย็ ิง่ หล่งั ไหลมาเทมาอนั เงนิ ทองขา วของ เปนอยางนน้ั

เพราะฉะนัน้ ในพุทธศาสนาขององคส มเด็จสัมมาสัมพุทธเจา พระองคใดมาตรสั รูใ นโลกแลว
กพ็ ระองคมีบรษิ ทั บริวารตดิ ตามมาบังเกดิ อปุ ถัมภบ าํ รุงใหพระพทุ ธศาสนานีเ้ จรญิ รุง เรือง น่ีแหละพวกเรา
ก็นบั วามบี ุญอันหนง่ึ แตวา บญุ ไมแรงเหมอื นอยางคนครัง้ นนั้ เราก็ไดเ กิดมาพบพุทธศาสนาน้ี ไดฟงคํา
สอนของพระพุทธเจาแลวตื่นตวั กัน กเ็ ลยตัง้ อกตงั้ ใจฝก ฝนอบรมตน เพราะมองเหน็ วา กายกับจติ น่ี จิตน่ี
สําคญั จติ นี่แหละทองเท่ยี วไปเกิดทโ่ี นนเกดิ ทน่ี ่ี แตรางกายไมไปเกดิ ไหนแลว แตกดับลงไปไฟเผากเ็ หลอื
แตเถากับกระดูกก็คือธาตดุ นิ นั้นแหละ สวนดวงจติ น่ีมนั ไมห ยดุ บญุ กรรมบาปกรรมท่ีทาํ มันก็นําไปเกดิ อีก

http://www.geocities.com/worralapo ๒๗

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

ถาบุญนาํ ไป เกิดไปกไ็ ปสรางบารมแี หละ ถา ไปเกิดเปนเทวดาก็สรางบารมอี ยสู วรรค กม็ ีพญาอนิ ทรน ี้ก็
สรา งพระเกตแุ กวจลุ มณเี จดียไ วบ นหลงั เขาสุเมรรุ าชอนั เปนทต่ี ั้งเมอื งสวรรคชน้ั ดาวดึงส แลว บรรจุพระ
เกศาธาตกุ บั เครือ่ งทรงของพระองคตอนออกบวชทแ่ี รก แลว ก็พระเขย้ี วแกว ตอนเมอื่ พระองคปรินิพพาน
แลวนพี้ ญาอนิ ทรมาเอาจากโทณพราหมไปบรรจไุ วใ หพ วกเทวดาทัง้ หลาย ๖ ชัน้ ฟา ไดล งมากราบมาไหว
ในวัน ๘ ค่ํา ๑๕ ค่ํา น้ันเปน สถานทเ่ี ทวดาสรา งบารมี แลวกต็ อนทีพ่ ระองค พระพทุ ธเจา พระองคใ ดพระ
องคห นึ่งมาบงั เกิดในโลก แลว เสดจ็ ขึน้ ไปแสดงพระอธธิ รรมโปรดพทุ ธมารดา เทวดาเหลานน้ั ก็พลอยได
ฟง พระองคไปอยูจําพรรษา ๓ เดอื น ๓ เดือนในมนุษยก ็ทรงโปรดเทวดาไดบ รรลมุ รรคผลมากมายกา ย
กอง นีอ่ ยาไปเขา ใจวา สวรรคนะ จะไมม ีมรรคมผี ล มี แตเทวดาผูใดตง้ั แตเ ปน มนษุ ยน่ไี ดภ าวนา ไดเจริญ
ไตรลกั ษณญาณอยูเสมอ ๆ เห็นความไมเ ทย่ี งของขันธ ๕ อนั นเี้ ปน อารมณอ ยูอยา งน้ัน เกิดนิพทิ าขน้ึ
เปนครงั้ เปน คราว เบ่ือหนา ย อยากจะไปใหพ น จากขนั ธ ๕ นไี่ ปยนิ ดีตอพระนิพพาน ถา ผใู ดไดบ ําเพ็ญ
เพยี รภาวนาอยา งนีต้ ั้งแตเ ปน มนุษยแลวมศี ลี บริสทุ ธิ์แลว ตายแลวไปเกดิ สวรรคช ั้นฟา อยา งวานนั้ เมื่อ
พระพทุ ธเจา ข้ึนไปแสดงธรรม เทวดาเชนนี้แหละมาฟงเทศนมกั จะไดบรรลุมรรคผลเลย เทวดาจาํ พวกใด
ทีไ่ มภาวนามแี ตใ หท านรักษาศลี ธรรมดาตายแลวไปเกดิ เปนเทวดา ปญญาก็ทบึ ฟงพระอธธิ รรมอันเปน
ธรรมท่ีละเอียดก็เขา ใจไดเ ล็กนอย ไมมาก สว นทา นผูใ ดไดภ าวนาตงั้ แตท ่ีเปน มนุษยแลว ทรงแสดงพระ
อธิธรรมเทวดาเหลานน้ั ไดฟง และพจิ ารณารตู ามเหน็ ตามไปได กจ็ ึงสามารถบรรลมุ รรคผลได มนั เปน
อยา งนั้น เร่ืองมนั นะ ดงั น้นั ไมเ สียทีหรอกพวกเราฝก ฝนอบรมตนเนย่ี เอากันไปเถดิ เราจะไดพ บกบั
ความสขุ อันเปน แกน สารในอนาคต

ปจจบุ นั นี้เรากพ็ บอยแู ตพบไมมากขอใหท าํ ไปเรอ่ื ย ๆ บนกุศลอันนมี้ นั สง ทาํ ใหไปเกดิ บน
สวรรคแลวมีอายุยนื ยาวนาน แลวบัดนม้ี ีพระพุทธเจา พระองคใดพระองคห น่งึ มาตรสั ในโลกแลว เสดจ็ ขึน้
ไปแสดงพระอธธิ รรมอยา งท่ีวานั้น กไ็ ดฟ ง พระอธธิ รรมเทศนาของพระพุทธเจา น่ีกด็ วยอํานาจบญุ บารมี
น้ันแหละ ทาํ ใหเทวดาน้ันมีอายุม่ันอายยุ นื ยาวนาน อยางในภทั รกัปปต อไปน้นี ะ ถา ภัทรกปั ปน ีห้ มดลง
กปั ปใหมตัง้ ขนึ้ มาจะมีพระพุทธเจามาบงั เกิดตัง้ ๑๐ พระองคโ นน ถาหากผูที่ปฏิบัติธรรมอยใู นพทุ ธ
ศาสนาของพระพทุ ธเจาโคดมนแี้ ลว ตายแลว ไปเกดิ สวรรคอยางเชนวามาแลวน้ันอายุยนื ยาวนานไป จน
วา ถงึ พระศรีอรยิ เมตตรัยมาตรสั รใู นโลก พระองคท รงเสด็จไปแสดงพระอธธิ รรม พวกเทวดาเหลา น้ันอาจ
จะไดบ รรลมุ รรคผลดับขันธเ ขา สนู พิ พานไปกไ็ ด หรอื ไม ไมส ามารถบรรลมุ รรคผลในพระศรีอรยิ เมตตรยั
ก็จะมีอายยุ นื ตอไปถงึ กัปปต อไปนนั้ ซ่ึงมีพระพุทธเจา บงั เกิด ๑๐ พระองค พระพทุ ธเจาเสด็จไปทรง
แสดงพระอภิธรรม เทวดาเหลา นัน้ อาจไดฟ ง ธรรมและบรรลุมรรคผลเขา สูนพิ พานไปอาจจะมี น้นั แหละ
เพราะฉะนั้นเราไดเกิดเปน มนุษยอ ยา งน้ีแลวก็อยาพากนั ประมาท ใหทําความเพยี รไป แมว าจะไมบ รรลุ
นิพพานในปจ จุบันนบี้ ุญบารมียังไมเต็ม ก็เปนอุปนิสัยอนั สําคญั ทที่ าํ ใหเราบรรลุมรรคผลบนสวรรคช้ันฟา
กไ็ ด ดังน้ันเม่อื ไดยนิ ไดฟ ง แลวก็ขอใหพากันตั้งอกต้ังใจทาํ ความสงบตอไปจนกวาจะสมควรแกเวลา

ถอดเทปโดย คุณ พงศพ ิพฒั น ดํารงวฒั นกุล

http://www.geocities.com/worralapo ๒๘

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

กุศลธรรม อกุศลธรรม อพยากตธรรม

โดย หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ
ณ บา นลานทอง

๒๔ มถิ นุ ายน ๒๕๔๓

พระพุทธเจา ทรงแสดงธรรมทีล่ ะเอยี ดมาก ทรงไปแสดงไวในสวรรคช ัน้ ดาวดึงส เพราะเหตวุ า
เทวดามกี ายละเอียด จติ ใจผอ งใส เพราะบนสวรรคไมม กี ารทาํ บาป คนทไ่ี ปเกิดบนสวรรคนั้นตอนเปนคน
ก็เวน โทษ ๕ ประการตลอดชีวติ (คอื อยใู นศลี ๕ ไมล ะเมิดศีลหา)

กุศลาธรรมา คือ ธรรมอันเปน กศุ ล
อกศุ ลาธรรมา คือ ธรรมอันเปน อกุศล
อพยากตธรรมมา คอื ธรรมอันไมใชบญุ ไมใชบ าป เปนกลางๆ ไมดีไมช ัว่ ไมเ ปนกุศลไมเ ปน
อกุศล
พระพุทธเจาทรงตรัสวา ธรรม มีอยู ๓ ประการนี้ แตว า แตกกิง่ กา นสาขาไปไดม ากมาย แตก

รมเงาใหคน สตั ว ไดอ าศยั
กุศลธรรม

คอื ธรรมอนั ดี พระพุทธเจา ทรงสง เสริมใหบคุ คลทาํ ก็คอื ไมท ําบาป ๕ ประการ (หนง่ึ ) และ
ไมท ําบาปอื่นอกี (หนึง่ ) ก็ไดชอื่ วาเปนบญุ เปนกุศล ศลี หาทําใหค นฉลาด คนไมฉ ลาดรกั ษาศีลหาไมไ ด
ใครรักษาไดก เ็ ปน บุญกุศลของคนนัน้ ไดช่ือวา มบี ญุ กุศล ความดเี ปนทร่ี ั้งจิตใจ

ใหนกึ ดูวา พวกเรามีศีลหา บรสิ ทุ ธ์ไิ หม ถา มี ก็แสดงวาเรามกี ศุ ลธรรม (คอื ความฉลาด) อยูใ น
ใจ ใจมคี วามฉลาด หาทางเล่ียงจากโทษบาปทั้งหลายได ใครยังเลย่ี งไมไดก็เพราะขาดปญญา ขาดความ
ฉลาด เมื่อมปี ญญาแลว ปญ ญากม็ าสอนจติ มีปญญาเอาตวั รอดจากบาปผูมปี ญญาเอาตวั รอดจากบาปได
ถงึ จะไมเ จรญิ ดวยลาภ ยศ สรรเสรญิ ฯลฯ ก็ตาม ขอใหมีปญญาเชนนี้ ปราชญท้ังหลาย มีพระพทุ ธเจา
เปน ตน ยอ มสรรเสริญวา มปี ญ ญาเอาตัวรอดจากทกุ ขได

ถา เทศนเรอ่ื งอืน่ จะไมใ กลการพน ทุกข จึงนําเรอ่ื ง บุญ-บาป มาเทศนใ หฟ ง บุญ-บาป กอ็ ยทู ่ี

จิตใจเรานี้เอง รงั ของบุญ-บาป กอ็ ยูท่จี ิตเราเอง ใหภ าวนาดจู ติ ของเราเอง สังเกตดู จิตของเราเปน บุญ
หรอื กศุ ล หรือเปน กลางๆ ไมบ ญุ ไมบ าป หรือวาเปน บาปอยางเดียว หรอื วา จิตของเราเปน ท้งั บญุ และบาป
หรอื อยางใดอยา งหนึง่ หรอื สองอยางหรอื ทัง้ สามอยา ง ฯลฯ

จิตทีเ่ ปน อกุศล ใครมาวา ก็โกรธแลว ถามสี ตสิ มั ปชญั ญะกจ็ ะรตู ัววา จติ เปน อกุศลอยู ยังโกรธ
คนอยู กต็ อ งละความโกรธดวยการเจริญเมตตา ทาํ ความรูสกึ เอ็นดตู อเพื่อนรว มทุกข เกดิ แก เจ็บ ตาย
อารมณต างๆ นัน้ เม่อื ใจไมยึดถอื มนั กด็ บั ไป

http://www.geocities.com/worralapo ๒๙

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

ฟงธรรมมาเยอะแยะแลว ควรชาํ ระกายใจใหส ะอาด ไมใหค วามเศรา หมองเกดิ ขึ้นในจิตใจ ขอ
เตือนพุทธบรษิ ัททัง้ หลาย เพราะวาชวี ติ คอื จติ ดวงนี้ เมื่อไดเ สวยผลบญุ ทีท่ าํ ก็มีความสุข ไปเกิดท่ีใดก็มี
ความสุข เกิดภพใด ชาติใด จติ ใจก็มีความสุขอยใู นภพที่เกิดน้นั และจิตบาปอกุศล กจ็ ะหนว งเหนย่ี วใหไ ป
เกิดที่ต่ํา ไมม ีทางพาไปสทู ี่สูง ทดี่ ี หลวงปเู คยเทศนวา นรกอยใู ตดินน้เี อง ในตําราทา นวาไวแ ตไ มร ูอ ยูลกึ
แคไ หน มีสาํ นกั งานของยมพบาล มสี ํานักงานของนายนริ ยบาล ควบคมุ สัตวน รก สอบสวนสตั วน รก แลว
ก็บอกวา นี่เปนกรรมของเธอเอง เธอทาํ มาเอง ตอนนีก้ ็ตองเสวยผลของกรรมนนั้ ของเธอเอง (น่ีคือคําตัด
สนิ โทษ) วาแลว ก็จะโยนลงนรกไปนายนริ ยบาลเองกเ็ ปนทุกขเ พราะตองคอยควบคมุ สัตวนรกอยู สวน
ยมพบาลผเู ปนใหญนั้นไมค อ ยทุกขเ พราะมหี นาทีส่ อบสวนสตั วนรก การสอบสวน ก็คือ ถามวาเคยทํา
บาปอะไรบาง เคยฆาสตั วไ หม ตวั เลก็ หรือใหญแ คไ หน ฆา สัตวเลก็ ก็บาปเล็กหนอ ย ฆา สตั วใหญกบ็ าป
มาก บาปมากก็ตองตกนรกนาน

ดังน้ี พวกเราควรพากันสะดุงหวาดกลัว อยา เหน็ แกป ากทอง อยาเหน็ แกค วามสนุกสนานช่วั
คราว สขุ ในโลกน้ันสุขชั่วคราวเทา นั้น ไมย ง่ั ยืนอะไรเลย เปรยี บดังการรบั ประทานอาหาร พอกินอม่ิ ก็

สบาย แลวความอมิ่ กห็ ายไป ก็ทกุ ขอ กี เพราะหิวอกี
เปน นักปฏิบตั ิธรรม ตอ งพจิ ารณาใหเ หน็ ทุกอยางวาไมเทย่ี ง ไมยั่งยนื ควรรูเทาและอาศัยของ

ไมเ ทยี่ งนี้ (กายก็ไมเที่ยง จติ ก็อาศัยกายอยู อาหารทอี่ าศัยยงั กายก็ของไมเทย่ี ง) ของไมเ ทย่ี งกบั ของไม
เทีย่ งมาบาํ รุงกนั ถาเทยี่ งแลว กไ็ มตองบํารงุ กัน เปน อยูอ ยางไรกเ็ ปนอยางน้ัน แตในโลกนีไ้ มม ีอะไรเทย่ี ง
มแี ตพระนพิ พานที่เทย่ี ง ไมว ิบตั ิ ไมผ ันแปร เราก็ตอ งทําใจใหยินดีในพระนพิ พาน ดวยการไมยดึ ถือในตวั
ตนขันธ ๕ อนั ไมเ ที่ยง

ตัณหา เปน ปจจยั ใหเ กิด อุปาทาน เม่อื อยาก ก็ยึดไมไ ดค ราวน้ี ตอ ไปกจ็ ะตองเอาใหได ผู

ปฏิบัติธรรมทง้ั หลาย ขอใหเ ขาใจ อยาคิดวา เปนผูครองเรือนปฏบิ ัติธรรมอันลกึ ซึง้ ไมไ ด
พระโสดาบนั มีสาม-ี ภรรยา-ลูก ทําไรน า ทาํ งาน คาขาย ตามความสามารถอยู แตทานไมทํา

บาป ขอทานกเ็ ปน พระโสดาบันได (เคยมคี นโรคเรือ้ น ฟงเทศนจากพระพุทธเจา กบ็ รรลโุ สดาบนั แลว

กราบปฏิญาณตนถงึ พระพทุ ธ พระธรรมและพระสงฆ พระอนิ ทร ไดย ินขาวเรอ่ื งน้ีเขา กล็ งมาทดสอบ ให
ปฏิเสธคุณพระพทุ ธพระธรรม และพระสงฆแลว จะหายาแกโรคเรื้อนมาใหห ายจากโรค ชายโรคเรอื้ นนัน้ ก็
ตอบพระอินทรว า ทานเปนใคร จงึ มาแนะใหขาพเจาถอนตัวจากที่พ่งึ อันประเสริฐคอื พระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ ขา พเจาถอนไมไ ด หาไดห วั่นไหวกับโรคภยั ไขเ จบ็ เหลา นไี้ ม พระอนิ ทรฟ งดงั นี้ จงึ ไปกราบตอ
พระพุทธเจา วา ผนู ้ีบรรลุโสดาบันแลว จริงๆ ดว ย (ไดไ ปสมั ภาษณม าแลว )

ขอใหเ ขา ใจ มรรคผล ธรรมวิเศษ ไมไดอ ยทู ี่รา งกาย แตจติ เอารา งกายเปนอารมณ เห็นวา

กายนไ้ี มเท่ียงหนอ เมื่อโรคภัยมากระทบรา งกาย กม็ ากระทบจิต จิตก็เดอื ดรอ น
พระโสดาบนั อาจจนกาย แตทรพั ยภ ายในไมจ นเลย ความเหน็ ของพระโสดาบนั กค็ อื สงิ่ ใดมี

ความเกิดขนึ้ แลว ส่ิงทงั้ ปวงยอ มมคี วามดับไปเปน ธรรมดา ดวยอาํ นาจแหงปญญา ใครไดบรรลคุ วามเหน็
เชน นี้ ดว ยปญญาอันบรสิ ทุ ธ์ิ แลว ทานผูน ้นั กจ็ ะบรรลุพระโสดาบนั ความเหน็ อยา งน้ี ตองเกิดจาก ศลี
เมื่อศลี บริสุทธิ์ กน็ อ มเปน สมาธิ แลว ก็สงบขึน้ … (ขออภยั ทจ่ี ดุ ๓ จุดไวต รงนีค้ ือจดไมทัน จาํ ไมไ ดแลว

http://www.geocities.com/worralapo ๓๐

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเ หรยี ญ วรลาโภ)

วา หลวงปกู ลาวตอ วา อยางไรคะ - deedi) เหน็ อนิจจงั ทกุ ขงั อนัตตา นี่เรียกวา พระโสดาบนั รุกขเทวดา
สองแมล กู ไดฟ ง ธรรมจากพระพุทธองคด ว ยใจสงบดว ยความเคารพ ฟง จบ กบ็ รรลุโสดาบันได

มรรคผล อยกู ับผมู ีบุญ ผมู บี ญุ แกกลา กจ็ ะบรรลุ เบ่อื หนายคลายความยดึ ถอื แลว กว็ าง จติ ใจ
ก็รวมเขาสมู รรค ถอนออกจากความสงบกร็ ูแจง วา "ธรรมท้งั หลายเกดิ ขน้ึ แลวก็ดับไป ทง้ั สงั ขารทม่ี ี
วญิ ญาณครองและสังขารทไี่ มมีวิญญาณครอง เปน ธรรมดา เห็นแลว มปี ญญาแลว กเ็ บอ่ื หนาย

ความเบ่อื หนาย มหี ลายขนั้ ตอน เมื่อเบอ่ื หนา ยแลว ก็ไมทาํ บาป เพราะทําบาปแลว ตองลง
นรก ถา หากไมทําบาปแลว ไมมีกนิ ก็ยอมตายไปซะดกี วาตกนรก ใจนนั้ ไมต าย มีแตก ายทตี่ าย เมื่อรเู ชนน้ี
ก็จะไมห วาดกลวั ตอ ความตาย

เมอ่ื จิตเห็นแจง ตามปญญา กจ็ ะไมเ ดือดรอ นแลว ใกลต ายลมหายใจก็จะส้ันเขา ๆ ลมหายใจ
หมดเสียงดงั 'พอ็ ก' แสดงวา จติ ออกจากกายแลว หมด นีส่ าํ หรับคนสามัญ แตพ ระอริยเจา ท้งั หลาย
นพิ พาน ไมมีเสยี งดังพอ็ ก มแี ตเ งียบไปเฉยๆ เพราะวาจติ ไมไ ดห วงกงั วลอะไรแลว วางทกุ อยา งเรยี บ
รอ ยหมดเลย

กศุ ลธรรม คอื ความฉลาด คอื อยูในศีลหา เปนผูมีปญญา มคี วามฉลาด
อกุศลธรรม คอื ความไมฉ ลาด คนไมฉลาดชอบทาํ แตบ าปแตก รรมใสตัวเอง
อพยากตธรรม คอื เวลาปกติ ใจกลางๆ ไมใชบญุ ไมใ ชบาป

คณุ deedi - - [email protected] ผูพ ิมพ
จากเวป e a s y d h a r m a

http://www.geocities.com/worralapo ๓๑

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

พระธรรมเทศนา

โดย หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ
ณ บา นนวธานี
๔ ตลุ าคม ๒๕๔๒

...
จติ ของคนมธี รรมอยู ๓ อยาง เปน ธรรมในใจของผเู วยี นวาย ตายเกิดท้ังหลาย นัน่ คือ ธรรมท่ี

เปนกศุ ล ธรรมท่เี ปนอกุศลและธรรมที่เปน อพั ยากตะ (หรอื อัพยากฤต- พจนานุกรมพทุ ธศาสนฉบบั
ประมวลศัพท)

เมอ่ื ใดจิตเปนกศุ ล เมอื่ นนั้ กเ็ กิดความสขุ อม่ิ เอม ถาอกุศลเกดิ ก็คิดไมด ี ทํารา ยกนั และเม่อื ไมมี
เหตุ (คอื เหตดุ หี รอื เหตุช่ัว) มากระทบ ใจก็วางเฉยอยู เวลาเชนนก้ี จ็ ะทาํ อะไรตอ อะไรไปโดยซ่ือๆ ไมมี
ระเบยี บอะไร

พระพทุ ธเจา น้นั มีจํานวนมากเทาเมล็ดทรายในมหาสมทุ ร แตล ะพระองค ตอ งสรางบารมยี าว
นานมาก นับเปน อสงไขยกัป แตธรรมะของพระพุทธเจา ทุกพระองคท ีม่ าตรัสรทู ี่ทรงสอนเหมอื นกนั ก็คือ
ใหละความชวั่ ใหทําความดแี ละใหท าํ จติ ใจใหผอ งใสบรสิ ทุ ธ์ิ

ดงั น้นั ขอใหคิดใหด ี การไดมาพบพระพทุ ธศาสนานน้ั เปน ลาภอันประเสริฐ บางศาสนาเปน
ศาสนาท่ีฆา สตั วต ัดชีวิตเพือ่ บวงสรวงเทพเจา แตพ ระพุทธองค ไดตรัสอธิบายการ "บูชายัญ" ในพระพทุ ธ
ศาสนาวา การบชู ายญั ใหไ ดผ ลดีนนั้ ตองเอาเกวยี นออกไปหาซอ้ื เส้ือผา เครอ่ื งนุงหมและอาหาร ใหเ ต็ม
แลว นาํ ไปแจกตามบา นนอยบา นใหญ ใหผ ูค นไดร างกายอบอนุ ไดอ ่ิม อาหาร เทาน้ีคือการบูชายัญที่ให
ผลดี

การบูชายญั ที่สงู ข้ึนไปอกี ก็คือ การไมท ําบาป ไมเ บียดเบียนกัน ไมผ ดิ ศลี สวนการบูชายัญท่ีสูง
ที่สดุ กค็ ือการเจริญภาวนา เจรญิ สมาธิ ใหไ ดถงึ ฌาน ๘ (ไมแนใจนะคะ จดมาตามนี-้ deedi) แลว ดําเนนิ
วิปสสนาตอ ใหเ หน็ อนิจจงั ทกุ ขัง อนัตตา นีเ่ ปนการบชู ายัญท่ีสงู ท่สี ุด

การละชั่ว ก็คือการรักษาศีล การทําความดี ก็คือการใหทาน การชําระจิตใจใหผองใส ก็คือทําใจ
ใหสะอาด อยาสะสมความชั่ว ไวในใจ ภาวนา พิจารณา ทําใจที่ฟุงเลื่อนลอยใหสงบแลวเจริญวิปสสนา
เพงพิจารณาธาตุ ๔ ขันธ ๕ วาเที่ยงหรือไมเที่ยง ทุกขหรือสุข เปนตัวตน หรือไม เมื่อพิจารณาแลวก็จะ
ละวาง บรรเทาทกุ ขในใจไปไดเปน สว นใหญ

สมัยพุทธกาล เมือ่ พระพุทธองคทรงแสดงธรรมเหลา น้ีใหแกพราหมณ พราหมณต างก็ไดบ รรลุ
โสดาปต ตผิ ลกนั มากมาย ถึงพระพทุ ธศาสนา เปน สรณะ กลบั ไปปลอยแพะแกะหมวู ัวควายทเ่ี ล้ียงไวฆา
บชู ายัญ ดดั แปลงโรงบชู ายัญเปนอยา งอื่นตอไป

พระพุทธศาสนานั้น ตง้ั ขนึ้ เพ่อื สงเคราะหแกผ ทู ี่มีวาสนาบารมีแกก ลา ใหไดพน ทุกข ผูท่ียัง
วาสนาบารมีไมแกก ลา บริบูรณก็ไดเ ปน พระโสดาบนั ไป และผทู ีบ่ ารมวี าสนายงั ออ นแตไ มหลงกจ็ ะมาถูก

http://www.geocities.com/worralapo ๓๒

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเ หรียญ วรลาโภ)

ทาง โลกของเรามีของคู ดีชวั่ สุขทุกข เกดิ ตาย บาปบญุ สวรรคก ับพรหมคกู ัน แตพ ระนพิ พานมี ๑ ไมมี


พระนิพพาน เปน ธรรมอยางยิง่ เปน ธรรมสูงสุด ทําใหรูจักทุกข ไมต องเกดิ แกเจ็บตายอกี ทําใหผู
ท่มี ีปญ ญาไดอ อกจากทุกข ไมตองเวียนวาย ตายเกดิ อีก นี่คือปณิธานของพระพทุ ธเจา ถา เปนผูท ีว่ าสนา
บารมยี ังออ นน้นั สวรรคน รกก็จะไมเช่อื สงสยั ในนรกสวรรค เพราะอวชิ ชาและตณั หายังครอบงาํ จิตอยู
(ถงึ ตอนนี้ หลวงปทู า นพดู ขนึ้ มาวา "อยากลัวหลวงปเู หน่อื ย หลวงปูไ มเหนือ่ ย แตวา คอแหบ เปน หวัดลง
คอ ไมต อ งกลัวหลวงปูเ หนื่อย")

ชวี ติ คนเราขนึ้ อยกู ับ ปจจยั ๔ ขาดปจ จัยสไี่ มไ ด แตเ ม่อื แสวงหา โดยสุจริตไมได ความไมร กู ็พา
ใหแ สวงหาในทางทจุ ริต ถา ผูรแู ลว ก็จะไมเ ปน เชนนนั้

ปจจัยส่ี เปน เครอ่ื งดํารงชวี ติ ในโลก แตผ มู ีปญญาจะหามาโดยชอบ โดย ไมต องหลอก ลวง คด
โกงหรือฆา ใคร แตหาดวยสตปิ ญ ญา การงานในโลก มอี ยู ๒ อยาง การงานใดเหน็ วาไมม ีโทษจึงจะเขา ไป
จับไปทํา (สมั มา อาชโี ว) ขอใหพ วกเราเลอื กการงานท่ไี มทําอะไรเบยี ดเบียนตนและผอู ื่น อะไรที่ไมเปน
ไปเพ่ือโทษแกคนอ่ืนและตัวเอง สวน มจิ ฉาอาชโี ว นนั้ ก็คอื เลีย้ งชพี ในทางทจุ รติ ขาดสติ ขาดปญญา

สัมมาทฏิ ฐิ เปน ทางดับทุกขในวฏั สงสาร
มจิ ฉาทิฏฐิ เปน ทางไปสูท กุ ข
ในกาลทไี่ มม พี ระศาสนา เช่อื กนั วาทาวมหาพรหมเปนใหญใ นมนษุ ยแ ละ เทวดาท้งั หลาย ทั้งน้ี
เพราะมีผทู ่เี พง กสิณ เพงอะไรตออะไร ไปเห็น พระพรหมเขา ฤาษีเหลานน้ั ก็มาสอนใหค นปฏบิ ตั ิตามท่ี
ตวั ไปเห็นมา คนในสญุ ญกปั ก็ตอ งเชอ่ื ฤาษี เชอื่ ผูออกบวช (เพราะถอื วาประเสริฐ สอนอยา งไรกต็ าม
หมด) สรางโรงบชู ายัญกนั ข้ึน
ขอใหพวกเราเขา ใจเอาไว ทกุ วนั นีม้ ีลทั ธติ างๆ มากมาย ใหคิดตามหลกั ทีพ่ ระพทุ ธองคทรงส่ัง
สอน ดีชัว่ สุขหรอื ทุกขเ กิดจากการกระทาํ ของเรา ทัง้ นั้น ไมใ ชจากปจ จัยภายนอกใดๆ ท้ังสนิ้ พระพุทธ
เจาทุกๆ พระองคท รงสอนเหมือนกนั ๓ อยางนี้ คอื ใหล ะช่ัว ทาํ ดแี ละทําจติ ใจใหผ อ งใส แมรายละเอยี ด
อน่ื ๆ ในคําสอนอาจแตกตา ง กนั บาง
ความช่วั มี ๕ ขอ (ฆาสัตวท าํ รา ยสตั ว ลักทรพั ย ประพฤตผิ ดิ ในการ ฯลฯ) การละบาปทง้ั ปวงกค็ อื
การละ ๕ ประการน้ี ใหเขา ใจโทษ ๕ ประการน้ี ใหด ี ถาไมส ํารวมระวงั ประพฤตลิ วง ตายไปกล็ งนรกลูก
เดียว แตถา สํารวม ระวงั ตายไปกไ็ ปสวรรคลกู เดียว (สีเลนะ สุคตงิ ยันติ) สวรรค เปน สถานที่มีสุข
เพราะไมมบี าปรบกวน นรก เปน สถานทบ่ี าป
ผูสรางบารมียังไมเต็ม ยงั ไมถึงพระนพิ พาน กไ็ ปพกั ผอนอยูบ นสวรรค สบาย ไมต อ งด้นิ รน แสวง
หา ซือ้ ขาย กนิ บุญท่ีทาํ มา (อานสิ งสของศีล) บญุ กศุ ล จะดลบันดาลวมิ าน อาหารการกนิ ผานงุ หมและ
อายุขยั (ต้งั แตห น่งึ พันปจ น หกพนั ป) แลวแตบุญกศุ ลท่สี รางไวต อนอยบู นโลก สวรรคจ งึ มี ๖ ชั้น บญุ
กุศลมากกข็ น้ึ ช้นั สงู ๆ ขนึ้ ไป ละเอยี ดประณีตยง่ิ ๆ ขน้ึ ไป
พระพุทธองคท รงแสดงธรรมดว ยปญ ญาวเิ ศษที่รูแจง โลกทัง้ ๓ คอื กามโลก รปู โลกและอรปู โลก
ในกามโลกมดี ีชัว่ สขุ ทุกขทกุ แบบ รูปโลกกค็ อื ผปู ฏบิ ัตฌิ าน ๔ เปน รปู พรหม

http://www.geocities.com/worralapo ๓๓

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

พระนิพพาน ไมใ ชด นิ นํา้ ลม อากาศ ไมใ ชรูป ไมใชนามธรรม พระพุทธองคทรงปฏเิ สธไวทั้ง
หมด แตพระนพิ พานเปน ดวงจิตที่ละ อาสวะกเิ ลสใหข าดจากกันโดยสนิ้ เชงิ (จดมาอยา งนี้ ถาจดผดิ พลาด
ตอง ขออภัยดวยนะคะ- deedi) พระนิพพานอยทู ี่จิตดวงเดียวนเี้ ทานนั้ ถาภาวนาและสาํ รวมจติ อยูท่ีเดียว
แลว ก็จะไมเ ปน ทุกข พอมองเห็นทางเขา พระนพิ พานไดรําไร เปนของรู เฉพาะตัว พระนิพพานคอื ละ
โลภะ โทสะ โมหะ หมดสน้ิ กเิ ลส

สัตวโลกทั้งหลาย ยอ มหมุนไปตามกระแสของโลก โลก (รูป เสยี ง กลน่ิ รส สัมผสั ) ท้ังหลายท้ัง
ส้ิน ไหลเขา สูธรรมอนั เดยี วคือ จิต ดงั นั้น ใครหามใจตวั ไมใ หไหลไปตามกระแสโลกได ผูนนั้ กจ็ ะมีความ
สุข รูดว ยตนเอง คนอื่นไมรู เม่อื วปิ สสนาญาณเกดิ ไตรลกั ษณก็มีอยพู รอ มแลว ทีจ่ ิต ถาปญญาแกก ลา ก็
จะรเู ร่อื ยๆ ไป ถา ปญญายังออ น กจ็ ะรูๆ หลงๆ ไปอยู

พระพุทธองคจงึ ทรงสอนใหม คี วามเพียร เพอ่ื จะไดไ มหลงและจะได รจู รงิ การทําจิตใหสงบเปน
การฝก จติ ใหสะอาดและมปี ญญา ถาไมสงบ ปญญาก็เกดิ ไมไ ด สมาธิมี ๓ ขนั้ ขณิกสมาธิ อปั ปนาสมาธิ
และอุปจารสมาธิ คนสวนมากจะได กันแคอ ปุ จารสมาธิ คือ สงบเฉยี ดฌาน

คนท่ีมาเกดิ ในยคุ ของพระพุทธองค (สมยั ทรงมพี ระชนมอย)ู น้ันลวนวาสนา บารมีแกก ลา จึง
บรรลุมรรคผลไดงา ยๆ พรอ มกับจตุสัมภิทาญาณ จึงถงึ พรอมทุกอยาง เมื่อทําสมถะจนจติ นง่ิ แลว ก็ให
นกึ ถงึ ขันธ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เมอื่ จติ สงบตองคดิ ถาไมค ดิ ปญญากไ็ มเกดิ ตองนึก
จิตท่สี งบไปแลว คอื ความรอู นั เดียวเทา นั้นเอง พอจติ สงบ กเิ ลสก็ดับ (คือสงบ แตไมใ ชขาดตอน) นิวรณ
๕ ดับ จติ ก็ผอ งใสสะอาด พอนึกอยากรูอะไร ปญญาก็จะสวางออกมาใหรู เชน ขันธ ๕ เปน อยา งไรหนอ
ก็รขู น้ึ มา เห็นรูป แจกออกเปน กองๆ ผม ขน เล็บ ฟน หนัง ฯลฯ ไหนตวั ตนเราเขากนั เมอื่ ไมใ ชของเรา
แลว จะไปยดึ ไปถอื ไวทําไม เม่ือรู กค็ ลายความยึดถอื ไมร ัก ไมหลง ไมโ กรธ ไมห ลงใหลไปในลัทธติ า งๆ
เม่ือคลาย ปญ ญากเ็ หมอื นถนนหนทางท่ปี รับปรงุ ดแี ลว ก็เดนิ ทางไปได สบายๆ
*******************************
?-ถามหลวงปู

คนตายแลวกลบั มาใหเ หน็ ไดอ กี ไหม

- ไมแน เพราะไปหลายคติ แลว แตคน และนิมติ ตา งๆ ก็ไมแนนอน บางอยา ง ก็จรงิ บางอยางก็
ไมจริง
การไหวเ จาท่เี จาทาง บนบานศาลกลาว

- พทุ ธไมนยิ ม ไมเอา อยา ไปสนใจเรือ่ งพวกนี้ คนตายท่มี บี ุญมากไปสวรรค เคากไ็ มอ ยากมายงุ
กับเราแลว คนบุญนอ ยก็ไปเกิดเปน ผี ไมมีอํานาจอะไร
*******************************

คุณ deedi - - [email protected] ผพู ิมพ
จากเวป e a s y d h a r m a

http://www.geocities.com/worralapo ๓๔

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

อานภุ าพแหงบุญกุศล

โดย หลวงปูเหรียญ วรลาโภ
ณ ศาลากาญจนาภเิ ษก
๒๕ มถิ นุ ายน ๒๕๔๓

บุญกศุ ล ยอมอํานวยผลใหตราบเทาถงึ ชรา พระพทุ ธเจา ทรงตรัสไว คอื มศี รัทธา เชื่อบุญ-
บาป ตัง้ ใจบาํ เพ็ญบญุ กุศล กจ็ ะทําใหรางกายปกติ แข็งแรง จิตใจตั้งมั่นไมท กุ ขร อน คนมีบญุ ใจไมรอน

ใจไมท ุกข ลองสงั เกตตัวเองวาตง้ั แต ต้ังใจทําดี ความโกรธ ความใจรอน ความโมโหโทโสเบาลงหรือเปลา
อันน้ีตองพจิ ารณาเอง คนอ่ืนรใู หไ มไ ด ตวั รูข องตัว

บุญ บาป ทกุ ข มีใจเปน ใหญ สาํ เร็จแลว ดวยใจ ใหพากันรกั ษาจิตใจ ฝก สตริ ักษาใจ ใหม าก
กวาทรัพยภายนอก ไมเ ชนนัน้ กิเลสตัณหา กจ็ ะมาพาไป ดงึ ไปใหส ขุ อยกู ับความสุขในโลก อันไมย ่ังยืน

ตณั หา คอื เหตใุ หทกุ ขเ กดิ
สมทุ ัย คอื เหตใุ หทกุ ขเ กิด
นโิ รธ คอื ความดับทกุ ข (เม่อื ดับตณั หาได ทกุ ขในใจกห็ มดลง)
ศลี -สมาธ-ิ ปญญา คือ ทางปฏิบัติเพื่อความดับไปของทุกขท งั้ ปวง

การกนิ การนอน การราเรงิ มหรสพตางๆ เปนเพียงสุขชว่ั คราว ไมย งั่ ยืน ยอ มแตกดับไปเปน
ธรรมดา เพราะฉะนั้นทุกคนท่ีปฏบิ ัติธรรม อยา ไปหลงไหลในความสขุ ชว่ั คราวน้นั แตค วามสุขช่วั คราวนี้
ไมม ีก็ไมได เพยี งแตว าเมอ่ื มีมาแลว ก็ใหร เู ทา ถาไมร เู ทา กจ็ ะเปนทุกข พอมนั หายไปทุกขใ หญก จ็ ะเกดิ
ขึน้ สรางเนื้อสรางตวั ใหเ ปน ฝง ฝา อยเู ยน็ เปน สขุ และอาศัยความสขุ ชัว่ คราวนี้เอง ถายงั กนิ อาหารอรอย
อยู ยงั ไมเบอ่ื อาหาร ความสขุ ใน การนอนหลบั กส็ ขุ ชนิดหนึ่ง ยงั เปน เครอ่ื งบาํ รงุ รา งกายกําลังใหแ ข็งแรง
ใครนอนไมหลับ ๓ คืนกแ็ ยเ ลย โรยแรง ทาํ การงานกอ็ อ นแอ ไมเ ขมแขง็ ดงั นั้น จึงตองอาศัยความสุขชวั่
คราวเหลานี้ พยายามนอนใหหลบั ถา ยงั ไมห ลบั ก็ไปหาหมอใหตรวจเสีย เพื่อหมอจะไดแกไ ขใหน อน
หลับได

กายน้เี ปน อยูแสนยากลาํ บาก การมีชวี ิตอยจู นวนั นี้นบั เปน วาสนานาบุญทท่ี ํามาแตห นหลงั
ใหอยเู ย็นเปนสขุ ปราศจากโรคภยั ไมเ จบ็ รายแรง ผมู ีกุศลในใจ คือ มบี ุญในใจ หนักแนน ใครดาวา ติ
เตียน ก็ไมเสยี ใจ ไมโ กรธ ไมเ กลียด เพราะวาใจมบี ญุ เปนเครื่องอยู ตรงกนั ขา มกบั ใจท่มี ีกิเลสเปนเครอ่ื ง
อยู กเิ ลสอยูในใจใคร ก็มีแตป น จิตใจใหเดอื ดรอนวนุ วาย ควรกาํ หนดละกเิ ลสใหเ สมอ บรรเทาโกรธ
พยายามเจริญเมตตาใหม าก ใหสัตวท ั้งหลายมองเหน็ เราเปน เพื่อน สตั วทงั้ หลายเหน็ เรา เปนมติ รก็
เลื่อมใสยินดี อยากผกู มิตร (นี่เปน อานสิ งสแ หงการเจริญเมตตา) ยอมเปน ทร่ี ักของมนษุ ยแ ละเทวดาทั้ง
หลาย แมเ ทวดาแสนสงู ในชนั้ ฟา ก็จะมีจติ เมตตาตอ ผมู ีใจดมี คี ณุ ธรรม และใหการอารักขาไมใ หม ี
อนั ตรายใด เพราะวา เทวดาพรอมดว ยเมตตาธรรมและคณุ ธรรม จะเหน็ วา เทวดาไมมีการทะเลาะเบาะ

http://www.geocities.com/worralapo ๓๕

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรียญ วรลาโภ)

แวง ตา งคนตา งเสวยผลบญุ ของตน สวรรคไ มมกี ารคาขาย ไมสะสมเงินทองเพราะวา สวรรค เปนที่อยู
ของผมู บี ุญ

เพราะฉะน้นั ใหพ ากันอารกั ขาจิตใจทุกอริ ยิ าบถ ยนื เดินนง่ั นอน ใหใจต้ังมน่ั อยูในพทุ ธคณุ
กอ นนอนใหไหวพ ระกอน นงั่ สมาธิ เอาสตเิ ขา ไปตั้งอยูในใจ รวบรวมจิตใหต ัง้ ม่ันอยูในบุญ คุณ มี
สมั ปชัญญะ คอื รูตวั เสมอ วา ขณะน้เี รากําลังทําอะไรอยู ตองกาํ หนดดูรูตัวเสมอ เวลาเกิดอะไรกไ็ มต กใจ
ไมหวัน่ ไหว เพราะวามีสติสมั ปชัญญะตามรกั ษาจติ ใจอยู แตถา ปลอ ยกเิ ลส ตัณหา ครอบงาํ จติ ใจ เกิด
อะไรข้ึนกจ็ ะสะดุง กลัว สตั วด ุรา ยมพี ิษไมจาํ เปน ตอ งไปฆา แกงเคา ท่ีแทไ มคิดวา เราเองมพี ษิ ย่ิงกวาพิษงู
เชน โกรธใครก็ใชว าจาทม่ิ แทงเคา ใหเจบ็ อกเจ็บใจย่งิ กวา โดนพษิ งูกดั เพราะวา เจบ็ ที่ใจไมใช เจบ็ ท่ีกาย

โบราณจึงบอกวา "เจบ็ อน่ื หมื่นแสน… เจบ็ จนตายเพราะพูดเหน็บใหเจบ็ ใจ อันออ ยตาล
หวานล้ินแลวสิน้ ซาก แตล มปากหวานหไู มร หู าย … เจ็บจนตายเพราะพดู เหน็บใหเ จ็บใจ" (ท่ี จุด ๓ จดุ
คือ จดไมทันคะ - deedi)

เคยไหม วาใครใหเ จ็บใจ ผูปฏิบตั นิ ้นั ใครทาํ เราเราใหอภยั ไป ไมผกู เวรผูกกรรม ขอใหตางอยู
เย็นเปน สุข รกั ษาตนใหพนจาก ทกุ ขภัยทง้ั ปวงเถดิ ทาํ อยา งนี้ รกั ษาบุญไวในใจ บญุ กร็ ักษาใจเราใหไมด ุ
ราย จิตใจก็สมํา่ เสมอ เบิกบานดวยบุญกุศล ไมออนแอทอแท จากหนุมตราบเฒา ชรา

บุญ ยอ มรกั ษาผปู ระพฤติธรรม บุญ กุศล ตราบเฒาชรา

คุณ deedi - - [email protected] ผพู ิมพ
จากเวป e a s y d h a r m a

http://www.geocities.com/worralapo ๓๖

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

วธิ ีเจรญิ สมถะและวปิ สสนา

โดย หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ
วัดอรญั บรรพต อ.ศรีเชียงใหม จ.หนองคาย

น่งั ขัดสมาธิเอาขาขวาทับขาซาย ตง้ั กายใหต รง อยากม มาก อยา เงยมากใหพ อดี ตง้ั สติเฉพาะ
หนาทําความรูต ัวท่วั พรอม ตอ จากน้นั กต็ ง้ั จติ อธษิ ฐานถึงคณุ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ เอาเปน ท่ีพ่งึ
อันประเสริฐ โดยอธษิ ฐานวาดวยอาํ นาจแหงคณุ พระรตั นตรยั น้ี ขอใหจ ิตของขา พเจา สงบเปน หนง่ึ และ
ขอใหมปี ญ ญารูแจงเห็นจริงในธรรมของจริงที่พระพทุ ธเจาทรงแสดงไวดแี ลว น้นั ตอจากน้นั กน็ กึ พทุ โธ
ธัมโม สงั โฆ สามคร้ัง แลวก็ต้งั สตกิ ําหนดดูลมหายใจเขา หายใจออกเสมอไป พยายามควบคมุ จิตใหรอู ยู
แตล มหายใจเขาออกเทา น้ัน ไมคดิ ไปทางอ่ืน แตคดิ วา เมอ่ื หายใจเขาไปแลว ไมอ อกกต็ าย เม่อื หายใจ
ออกไปแลว ไมกลับเขากต็ าย ชีวิตนม้ี อี ยูแคล มหายใจเขา ออกเทาน้นั เมื่อลมหายใจหยดุ เวลาไหน กต็ อง
ตายเวลานั้น แตเ ราก็รไู มไ ดว าลมหายใจนจี้ ะหยุดลงเมือ่ ใดน้ัน จึงตองระวังจิตไมใ หคดิ ไปในทางบาป
อกศุ ล และไมใหจ ิตผกู พนั อยูกับสงิ่ ใดๆ ในโลก แมแ ตรา ยกายน้กี ็ไมใ ชของเรา ส่ิงอืน่ จะเปนของเรามาแต
ไหน กําหนดรูเ รือ่ งน้ีอยูในใจเสมอไป จนใจสงบลงเปนหนึ่ง

ลกั ษณะของใจท่สี งบ
ในขณะทีจ่ ิตรวมลงเปน หนึ่งนัน้ จะปรากฏคลา ยกบั เคลิม้ หลบั ไปหนอยหน่งึ แลวกร็ ูสกึ ตัววา

จติ ตงั้ มน่ั อยูใ นปจจบุ ัน พรอมดวยสตไิ มวิตกวิจารณอ ะไรตอไป มีสตปิ ระคองจิตที่สงบอยนู น้ั ใหสงบอยใู น
ปจ จุบันเรือ่ ยไป

ทําความรูเ ทานมิ ิตหากมนั เกดิ ข้ึน
ในขณะทีท่ าํ ความสงบอยูนั้น เม่ือเผลอสติจติ จะพลกิ ไป ในขณะนนั้ อาจจะเกดิ นิมิตอยา งใด

อยางหน่ึงขน้ึ กไ็ ด ตองระวังใหดี เม่อื นิมติ เกิดข้นึ จะเปน เร่อื งดหี รอื เรือ่ งไมดีกต็ าม ใหกาํ หนดรูเทา นมิ ิตน้นั
ตามเปน จรงิ วา นมิ ิตนก้ี ็เปน แตสัญญาอารมณเทานัน้ ครั้นเกิดขน้ึ แลว ก็ดับไปไมเ ที่ยงไมยั่งยนื ไมค วรยึด
ถอื วาเปน นน่ั เปนน่ี แลวกาํ หนดจติ ใหต ั้งอยใู นปจ จุบนั ไมใสใจกบั นิมติ น้นั ถึงเวลาแลว มนั ก็จะดับไปเอง
บางคนภาวนาไมเ กิดนิมิตอะไรก็มี ทง้ั น้เี พราะเปน ไปตามอุปนสิ ัยของแตละบคุ คล ขอ สาํ คัญอยทู ี่การทํา
ใจใหสงบนน้ั แหละ เปน หวั ใจของสมถะภาวนา

วปิ ส สนาภาวนา
การทาํ ใจใหสงบนบั วา เปนบทบาทอันสาํ คญั ทั้งน้ี เพราะวาใจที่ไมส งบยอ มไมมปี ญญารแู จง

ซ่ึงธรรมของจรงิ ได ดงั น้นั พระบรมศาสดาจงึ ทรงสอนใหเ จริญพระกมั มฏั ฐานบทใดบทหนง่ึ เปน อารมณ

http://www.geocities.com/worralapo ๓๗

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

จนใจสงบลงเปนหนง่ึ กอ นแลว จงึ เจรญิ วปิ ส สนาตอ เชน เจรญิ อานาปานสติดังกลา วมาแลวน้นั เมอื่ ทาํ ใจ
ใหส งบไดแลว กก็ าํ หนดพิจารณาขันธหา นีแ้ หละ ใหเหน็ เปนของไมเ ที่ยง เปน ทกุ ขทนไดย าก และเปน
อนตั ตา ไมใ ชตัวตนเราเขา คาํ วา ตวั ตนก็เปนแตส มมตุ ิขึ้นเพือ่ ตดิ ตอ สังคมกันเทาน้นั ถาไมส มมุติขึ้นกต็ ดิ
ตอ สังคมกันไมไ ด

ขนั ธหา นนั้ ยน ลงเปนสอง คือ รูป ๑ นาม ๑ ธาตสุ ี่ คอื ดนิ นํ้า ลม ไฟ ประชุมกันเปนกายนี้
เรียกวา รปู ความที่จติ เสวยอารมณทเ่ี กดิ ขึน้ ในระหวา งกายกบั จิตกระทบกัน เรียกวา เวทนา คือ เปนสขุ
บา ง เปน ทุกขบ าง เปนไมสุขไมท ุกขบาง ความจําไดห มายรู คือ จาํ รูป เสยี ง กล่ิน รส สมั ผัส เรยี กวา
สญั ญา เจตสกิ ธรรม คืออารมณท่เี กิดกบั ใจ เปน สว นดีเรยี กกุศล เปนสวนชัว่ เรยี กอกศุ ล เปนสว นกลางๆ
ไมดไี มช่ัวเรยี ก อพั ยากฤต เรยี กวา สังขาร ความรสู กึ อารมณใ นเวลาทีร่ ปู มากระทบตา เสียงกระทบหู
กลนิ่ กระทบจมูก รสกระทบล้ิน เย็นรอน ออ นแข็ง กระทบกาย อารมณท ั้งหา นั้นกระทบใจ เรยี กวา
วญิ ญาณ

ความกาํ หนดพิจารณารูปกบั นามนี้ กระจายออกไปใหเ ห็นตามความเปน จริง แลวปลอยวาง
ไมถ อื ม่นั วาเปนตัวเปนตน เปน เราเปน เขา นนั่ แหละเรยี กวา วปิ สสนา ใหพ งึ สนั นษิ ฐานดวู า รปู ไดแกส ่งิ
ท่ีมองเห็นดว ยตาทง้ั หมด ทั้งทม่ี ีใจครองกด็ ี และไมมีใจครองกด็ ี เรียกวา รปู ทงั้ น้ัน สวนนามธรรมน้นั
หมายเอาสิ่งทร่ี ูดว ยใจ นามธรรมไมมีรปู ราง ดงั น้นั จึงรูไดแตท างใจเทานน้ั เพราะวา ใจหรอื จิตก็ไมมีรปู
รา งเหมอื นกนั แตมนั ก็มีอิทธพิ ลสามารถทาํ กายน้ีใหเคลือ่ นไหวไปมาได และสามารถบังคบั กายวาจาให
ทําดหี รือทาํ ช่วั ได การท่จี ะรจู ักจิตน้ีไดโ ดยแจม แจง กเ็ พราะกาํ หนดละอารมณทเ่ี ปนอดีตอนาคตเสยี แลว
เพงอยูในปจจบุ ันนี้จนจิตรวมลงเปน หนง่ึ นน่ั แหละ จะรูวา จติ คืออะไร

การเจริญสมถะก็ดี และการเจริญวิปสสนาก็ดี ก็เพอ่ื มุง ชาํ ระจิตดวงน้ีใหบ ริสุทธ์ิหมดจดจาก
กเิ ลสเครื่องเศราหมองทง้ั หลาย

เพราะฉะนัน้ ผูปฏบิ ัติธรรมท้งั หลายจงึ สมควรเจรญิ ใหมาก กระทาํ ใหมาก จักเปน ไปเพือ่
ความรยู ิ่ง เพ่ือความเห็นจริงในธรรมทคี่ วรรูควรเห็นคือ อรยิ สจั ธรรมทัง้ ส่ี ไดแ ก ทกุ ข เหตใุ หท ุกขเ กดิ
ความดบั ทุกขแ ละขอ ปฏิบัติใหถ งึ ความดับทุกข อันทกุ ขน น้ั หมายเอาความ เกิด แก เจ็บ ตาย และความ
โศกเศรา เสยี ใจ พไิ รราํ พนั ตา งๆ ความคบั แคนใจ ความเหย่ี วแหงใจ ความพลดั พรากจากของรักของชอบ
ใจกด็ ี ความไดรวมกบั บุคคลซง่ึ ไมเ ปน ทรี่ ักทช่ี อบใจก็ดี และความปรารถนาสง่ิ ใดไมไดสมหวงั กด็ ี ทัง้ หมด
นล้ี วนแตเปน ทุกขทัง้ น้นั สวนความเกดิ แก เจ็บ ตายนน้ั ทรงสอนใหกําหนดรูเทา ตามเปน จรงิ แลวอด
กลั้นทนทานตอ ทุกขเวทนานัน้ ๆ เสมอไป สว นความโศกเศรา เปนตน นน้ั ทรงสอนใหก าํ หนดละ และ
บคุ คลสามารถละได ถา อบรมปญ ญาใหเ กิดขนึ้ และตณั หาคือความอยากนั้น ทรงสอนใหล ะ ในขั้นตนน้ี
ทรงสอนใหล ะตัณหาคอื ความอยากกระทําไปในทางบาปอกุศล เชน ฆาสัตว ลกั ทรัพย ประพฤตผิ ดิ ใน
กาม พูดเท็จ ด่ืมสุราเมรัย กญั ชายาฝน เฮโรอนี และอ่นื ๆ ซ่ึงเปนของเสพติดใหโ ทษ ตัณหาประเภทน้ี
ควรเพยี รพยายามละใหไ ด ถา ไมล ะแลว มันจะพาใหไ ดรบั ทุกข ทัง้ ในปจจุบัน และเบ้ืองหนาตอ ไปไมมสี น้ิ
สุด สวนความอยากประเภทอนื่ นนั้ คอยเอาไวละทีหลัง ถาละตัณหาตอนตนนั้นไมได ตัณหาประเภทอ่นื ๆ
ก็ละไมไ ดเชน เดียวกนั ดังนน้ั จึงสมควรพยายามละตัณหาประเภทตน น้ันใหได จงึ จะพน จากทุกขใ น
อบายภมู ิทั้งสีม่ นี รกเปน ตนได เราเกดิ มาในชาติน้ีเปนบุญลาภอนั ประเสรฐิ ท่ีไดม าพบพระพทุ ธศาสนา

http://www.geocities.com/worralapo ๓๘

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

ของพระสมั มาสมั พุทธเจา ผูป ระเสรฐิ ในโลก สมควรทจี่ ะลงมอื ปฏิบตั ติ ามคาํ สอนของพระองคโ ดยความไม
ประมาท กเิ ลสบาปธรรมจะไดนอยเบาบางจากดวงจิตของตน การที่คนเราจะพน ทกุ ขไปไมไ ด กเ็ พราะไม
ปฏบิ ัตติ ามคําสอนของพระพุทธเจานัน้ เอง

เพราะฉะนัน้ ทานผใู ดอยากพนจากทกุ ขภัยในวัฏสงสาร จงต้ังใจปฏิบัติตามคําสอนของพระ
พทุ ธเจา โดยความไมป ระมาทเถดิ

จากเวป http://www.nongkhaiweb.com

http://www.geocities.com/worralapo ๓๙

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

เคล็ดปฏิบตั ิสมาธิ

โดย หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ
วัดอรญั บรรพต อ.ศรีเชียงใหม จ.หนองคาย

นงั่ สมาธพิ งึ พากันต้งั สติใหแนวแนอยูภายใน พยายามควบคมุ จติ อยาใหม ันหลงคดิ นึกไปใน
อารมณทมี่ นั เคยคิด เคยนึก เคยเกาะ เคยของมาแตกอ นใหกาํ หนดลงเอาปจ จุบันนเ้ี ปนทต่ี ั้งเลยทีเดียว
ชวี ิตนจี้ ะมีอยเู ฉพาะลมหายใจเขา หายใจออก อยูท่ปี จ จุบันๆนี้เทา น้ัน ใหก าํ หนดจาํ กัดลงเลย เพราะวา ท่ี
ลวงมาแลว มันกล็ ว งมาแลว นะชีวติ แลวอนาคตก็ยังไมไ ดไปถึง มันก็ยังไปไมถ ึง ไมต องไปคาํ นึงหามนั
การงานอะไรท่ที าํ ลว งมาแลวผิดหรือถกู มนั กไ็ ดลวงมาแลวไมตอ งไปคํานงึ หามนั

เวลาน้เี ปน เวลาพักผอ นของจิตใจ ขอใหเ ตือนตนอยางนี้ เวลาน้เี ปน เวลาพกั ผอนของจิตใจใน
ขณะน้ี เบื้องตน นี้ กอ็ ยากคิดอยากรูนน้ั รนู ี้ เหน็ น้นั เห็นนก้ี อ น คอื พยายามตง้ั สตกิ าํ หนดลมหายใจเขา
หายใจออก อธษิ ฐานจิตถงึ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ วา เปนทพ่ี งึ ทร่ี ะลึกของตนแลว ก็พยายาม
ประกอบจิตน้ี ใหห ยุดคดิ หยดุ นกึ ใหก ําหนดรูเฉพาะแตลมหายใจเขาหายใจออกเทานีก้ อ น เพราะเวลานี้
ใหเ ขา ใจวาเราพักผอนจติ ใจ คาํ วาพักผอ นคอื หยุดคดิ หยุดนึกในการงานตางๆเลย วางจิตลงใหส บาย
สบาย ไมตองกงั วลขางหนา ขางหลังอะไรเลย กําหนดรูอยูแตป จ จบุ ันเทานั้น เอาปจ จบุ นั น้เี ปนหลกั เลย
ชีวิตน้กี ใ็ หก ําหนดวามีอยแู คป จ จุบันๆนีเ้ ทา นั้นแหละ

ในเบือ้ งตน เรากร็ ูไมไ ดว า จะไปถงึ ไหน เบื้องหลงั มนั ก็ลวงมาแลว ดงั นั้นเราตอ งกําหนดรู
เฉพาะปจ จุบันเทา นนั้ เองคือการทาํ สมาธนิ ี่ สาํ คัญอยทู ่ีสตนิ ้ันแหละขอใหไดพ ากนั จําเอาไวใหดี สตแิ ปลวา
ความระลกึ ไดค อื ระลึกเขาไปในจติ เลยทีเดยี วระลึกใหหยั่งเขา ไปใหม ันถงึ จติ อยาใหมนั ระลกึ เฉไปทางอื่น
จติ นตี้ ง้ั มน่ั อยไู มไดกเ็ พราะมนั ขาดสติ สติไมไดเ ขา ไปควบคมุ อยูใกลช ิด สตนิ นั้ ระลึกออกไปจากจิต เม่ือ
จิตน้ี ปราศจากสตแิ ลว มนั กว็ าเหว เรร อ นหาอารมณอยางอ่ืนคดิ สายไปตามความชอบใจ มันก็เปนอยาง
นัน้ แตจ ติ นี้นะ ถา มสี ติเปนเคร่อื งสอนอยูแลว ไมไปไหนแลว ที่มันอยากคิดเพราะคิดอะไรมาแตก อ นนั้น
สตหิ า มไวแ ลวทนั กห็ ยดุ

ขอใหสตมิ ันเขม แข็งเสยี อยา งเดียวหายใจเขาก็กําหนดรู หายใจออกกก็ าํ หนดรูอ ยูในปจ จุบนั
นั้นเลย อยางน้ัน ไมไ ดรสู ง่ิ อ่นื ๆใดท้งั หมด ถา หากใครสามารถท่จี ะเพงเขาไปภายในใหเกิดแสงสวาง
เหมอื นอยางเราฉายไฟเขาไปในถ้าํ มดื ๆอยางน้ี แสงไฟฉายนนั้ มันจะเปน ลาํ สวา งเขา ไปภายในจะมอี ะไร
อยใู นน้นั กม องเห็นไดเ ลยอันนก้ี ็เหมอื นกันแหละ ถาเราสามารถทีจ่ ะกําหนดต้งั สติ แลว เพงตามลมหายใจ
เขา ออกเขาไปภายในใหม ันสวา งเขา ไปถึงจิตใจและกม็ องเหน็ อัตภาพรา งกาย อวัยวะนอยใหญภายในรา ง
กายไดย ่งิ ดเี ลยถาทาํ ไดอ ยางน้ี

ถาหากวา เราไมส ามารถจะทําไดอยางน้ี ก็ตั้งสติเพงเขาไปหาความรอู ยางเดยี วเทา นั้น รอู ยู
ตรงไหน สตกิ ใ็ หห ย่งั ไปถึงน่ัน ก็ใชไดเ หมือนกนั เม่ือจติ มันสงบ มันคลายจากอารมณตางๆออกไปแลว

http://www.geocities.com/worralapo ๔๐

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

มันปลอดโปรง ถงึ แมวา จะไมสวา งไสวเตม็ ที่ แตม นั กม็ ีเงาแหง ความสวา งปรากฏอยใู นจิตนน้ั เองแหละ
จิตไมเ ศรา หมองหมายความวาอยางนน้ั แหละเบิกบาน ถา หากมนั คลายอารมณต า งๆออกไปแลวนะ
ลักษณะของจิตน้จี ะเบกิ บานผอ งแผว ไมมกี งั วลใดๆ อิ่มอยูภ ายใน ไมปรารถนาอยากจะคิดไปไหนมา
ไหนแลว ทีน้ีถาจติ คลายอารมณเ กา ออกไปหมดแลวนะ แตก ารท่จี ติ จะคลายอารมณเกา ออกไปได กต็ อ ง
อาศัยสติน่ันแหละ เขาไปควบคมุ จติ ไมใ หคิดไปในอารมณตา งๆ

อันเมอื่ จติ นไ้ี มม โี อกาศที่จะคิดไปในอารมณต า งๆแลว มนั กค็ ลายทงิ้ ไปหมด อารมณท ่เี ราเก็บ
เอาไวเ ปน อยางนั้นเพราะวา มนั ไมม ีทต่ี อมันกค็ ลายออกไปเทานัน้ เอง ดัง้ นั้น อยา ไปเขาใจวิธีอน่ื เลยพระ
พุทธเจาทรงสอนใหกาํ หนดลมหายใจเขา ออกน่ี เพง กําหนดรูแ ตลมหายใจเขา ออกนี่แหละ ความคิดฟงุ
ซานตางๆจะคอยเบาไปๆหมดไปลําดบั เพราะวา จติ เราไมส งเสริมมนั แลวนี่ จิตเรามาจองอยเู ฉพาะแตลม
นี้ จิตน้ไี มสงเสริมความคิดเสียแลว ทนี จ้ี ะคดิ ดคี ดิ ชว่ั อยางไรไมเอา ในขณะนี้ปลอ ยทง้ิ ไมใ ชเ วลาคดิ เวลา
นี้เวลาสงบ เวลาเพง เวลากําหนดรู ไมใชเวลาคดิ ใหม ีสติเตอื นจิตอยา งน้ีเสมอไป จติ นเี้ มือ่ ถูกสตเิ ตือน
เขาบอยๆมนั ก็รูต วั รูตวั แลว มันกค็ ลาย มันกป็ ลอ ยวางอารมณไ มสง เสรมิ ไมคดิ ไมปรุงไปอกี มันสําคัญ
เรอื่ งสมาธนิ ส่ี ําคัญมากทเี ดียว เรอื่ งปญ ญาน้นั มกั เกิดจากสมาธิ ดังนน้ั เม่ือเราไมสามารถจะทาํ สมาธใิ ห
บงั เกดิ ข้ึนไดป ญ ญาน้นั ก็เกิดไมได ปญ ญาในท่นี ้เี กดิ จากสมาธิ ปญ ญาทีเ่ กิดจากจากสมาธนิ ีเ้ ปนปญ ญาท่ี
แจงในธาตุส่ี ขนั ธหา ในนามในรูปไมป รารถนารอู ยางอนื่

ในการปฏบิ ัติสมาธิแรกๆอยาไปสงสัยคลางแคลงใจวา เอะ ทาํ ไมเราจึงปฏบิ ตั ไิ มไ ด ทาํ ไมจึง
ไมสงบ? กาํ หนดลมหายใจก็กําหนดแลว มันกย็ ังไมส งบอยา งน้ี อยาไปสงสยั ใหนกึ วา เราทํายงั ไมพอก็
แลวกันแหละ เราทาํ ยงั ไมม ากพอ คอื วาเรายังกําหนดลมหายใจเขา หายใจออกน้ี ยังไมพอ เราจะตองทาํ
อีก

http://www.geocities.com/worralapo ๔๑

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ)

ธรรมะหลวงปู

จิตดวงน้เี มือ่ มันถูกอวิชชาครอบงํา ย่าํ ยเี อา มนั ก็หลงไป ทําดไี ปบา ง ทําชั่วไปบาง พูดดี
บา ง พดู ชว่ั บา ง เวลาใดมันรูตวั มันก็พดู ดี เวลาใดมนั ลืมตวั มันกพ็ ดู ชวั่ -ทาํ ชั่ว (โทษแหง ความ
รกั )

น่ีแหละเร่อื งวปิ สสนานะมนั ตอ งเหน็ แจง จริงๆ เหน็ แจง ในใจวาขันธหานไ้ี มควรยดึ ไม
ควรถือ เพราะวา มนั ไมเทยี่ ง ขืนยึดถือไวมนั ก็เปนทุกข เพราะมันแปรปรวนไปอยเู สมอ มันไมอยู
ในบงั คบั บญั ชาของผใู ด อันน้นี ะ ความรคู วามเห็นอยา งวานี้มันจะเปน ไปได มันก็ตองอาศยั
ปญญา อาศัยสมาธเิ ปนฐานที่ต้ังของปญญา

(ผลเปนสขุ จริงดว ยปญ ญา)

รางกายมันกไ็ มว ามันเปน ทุกข แตวามันหากมีลกั ษณะของทกุ ข ปรากฏใหจติ รูอยู คือ
ความไมเทยี่ งของรา งกายน้นั ไมมจี ติ นี้มาครองอาศัยอยแู ลว มันจะไมม ีใครรับรคู วามทกุ ขของ
รางกายอนั น้เี ลย ก็เพราะจติ น้มี าครองอยูน ี่ จิตจึงเปน ผูรบั รู ความทุกข ความเปลี่ยนแปลงของ
รา งกายน้ี

(ความไมเทีย่ งแท)

พระพุทธเจาไมไ ดสอนใหค นเราจาํ เอาคาํ สอนของพระองคไ วเฉยๆ เม่ือจาํ ไดแลว ใหลง
มอื ดัดแปลงกาย วาจา ใจ ของตนใหเ ปนไปตามคําส่ังสอนน้นั ถา ตนดดั แปลงกาย วาจา ใจ ให
ตรงไปตามคําสอนแลว กพ็ ยายามรักษาความรู ความเหน็ ทีเ่ ปน ศลี เปน ธรรมนัน้ ไว

(ความดับทกุ ข)

เกินพอดี

คูครองเรือนก็สรางสมความรักเอาจนเกนิ พอดี อนั เปน เหตุใหประพฤตินอกใจกันและกัน
ทางประเวณี พดู ตรงๆกว็ าไปเลนชูกบั ผัวเลน ชกู ับเมยี น่นั เอง น่ีเรียกวา ความรักมนั เกินพอดี ถา
เปนภิกษุสามเณรก็ความรักเกนิ ขอบเขต กเ็ ปน เหตใุ หลวงสกิ ขาบทวนิ ัยนอ ยใหญท้ังหลาย
พรหมจรรยก ็อับเฉาลง เหมือนพระจันทรใ นขางแรม เจริญไปไมได

http://www.geocities.com/worralapo ๔๒

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

หอบทกุ ข

การฝกจติ ใหเขา ถงึ ความสงบนี้ เปน สงิ่ จําเปนจรงิ ๆ ใหถือเปนเรื่องจาํ เปน ถาปลอยจิตให
เล่อื นลอยไปตามอาํ นาจของกิเลสก็มแี ตทกุ ข อยูในปจ จบุ นั นกี้ ็ทกุ ขใ จหนักใจมาก ละโลกนไ้ี ปสู
โลกหนา กท็ ุกข หอบเอากองทุกขเหลา นีไ้ ปดว ย มันเปนอยา งนั้น มันทกุ ขห ลาย บางคนก็ถงึ ฆา
ตวั ตาย ไมม ีทางออก ผไู มเชื่อคาํ สอนของพระพุทธเจา ผูไ มปฏบิ ตั ติ ามคาํ สอน ใหไหวพ ระ น่ัง
สมาธภิ าวนา ขค้ี รา นไมเ อา ไมน ง่ั แลวเพราะใจมันลอย ใจมันไปยึดถอื แตเ รอื่ งภายนอก แลว จะมี
แกใจมาไหวพระ นั่งภาวนาสํารวมใจใหส งบอยภู ายในจะไดอยางไร การท่ีภาวนาจติ ใจใหมนั สงบ
ลงไปได ก็เพราะมนั เตือนใจของตนใหละเร่ืองภายนอกอยเู สมอ ในเวลาทไ่ี มไ ดน ่ังสมาธภิ าวนา ก็
ตอ งเตอื นใจใหล ะอารมณท ม่ี ากระทบทางตา ทางหู ทางจมูก ทางล้ิน ทางกาย ทางใจ มนั กระทบ
มาเวลาใด เราก็พิจารณากําหนดละมันในเวลานน้ั ไปเรอ่ื ยๆ ใหจติ นีเ้ ปน ปกติอยเู สมอ ไมใหจิตน้ี
มนั เปลี่ยนแปลงหวน่ั ไหวไปตามอารมณท ่ีมากระทบ เชน "ตา" เปนตนน้ันก็ตองระมัดระวังอยู
อยา งนี้เสมอไป

พรหมของลกู

ไมล ําเอยี งเพราะความรัก กห็ มายความวา อยางวา มีลูกหลายคน รกั คนใดมากๆ กแ็ บง
สมบตั ใิ หลูกคนนนั้ มากกวาคนอื่นๆ นี่เรยี กวา ลอุ ํานาจแกค วามรกั ถาไมล าํ เอียงเพราะรกั แลว ก็
หมายความวา มีเมตตากรุณาเหมือนกันหมด ลูกทุกคนบางคนก็มนี สิ ัยไมด ๆี เราก็เมตตามัน
เพราะมันไดมาเกดิ กบั เราแลว อยางนี้แหละ ก็สงเคราะหไ ปตามกาํ ลงั ทีส่ งเคราะหไ ด ถาคนทเ่ี สยี
จริงๆ ทําดีไมไ ดจ ริงๆ มนั เหลอื วสิ ัย ก็วางอเุ บกขาลง ไมต อ งไปโกรธไปเกลียดอะไร ก็กรรมของ
เขาสรา งมาอยางนนั้ เราจะทาํ อยางไรได ฝก อยางไรจะใหมันดี มันกด็ ไี มไ ดอยา งน้ี ถาขืนโกรธไป
โมโหโทโสไป เสียใจกับลกู คนนั้นอยู ก็เปนทุกขเปลาๆ เสยี ใจอยา งไรลูกก็ทาํ ดีไมได เพราะวา
นสิ ัยไมดีแตก อ น แตชาติกอนโนน แหละ ถา หากวาผูเปน พอแมไ มรูจกั วางอุเบกขาลง ไมนึกถึง
กรรมของสัตวแ ลว มันก็เปนทกุ ข

http://www.geocities.com/worralapo ๔๓

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

เกดิ จากตม

สาเหตุที่จะมศี าสนาบังเกดิ ขนึ้ ในโลก มีผสู รางบารมปี รารถนาเปนพระพทุ ธเจาในโลก ก็
เน่อื งมาจากคนท้ังหลายไมร จู ักหนทางออกจากทุกข เมอ่ื ไดป ระสบกบั ความทกุ ขแ ลวก็รองไห
ราํ ไร ตีอกชกหวั ตางๆ นานาตายไปพรอ มดวยกบั ความทกุ ข หอบเอาความทกุ ขติดตัวไปดว ย
อยา งน้ีแหละ บุคคลยงั ไมร ูแจงในโลกนตี้ ามเปน จริงอยา งน้ัน บัดนัน้ ใหพากันเขาใจ เหตุจะมี
ศาสนาข้ึนมาน่กี ็เพราะมันมีทกุ ขน แี่ หละ

จรจัด

แตคนสว นมากแยจ รงิ ๆ ไมยอมที่จะขมจติ เพง จติ ใหเ ขาถงึ ความสงบ มีแตย อม ตกเปน
ทาสของตัณหา ปลอ ยจิตใหฟุงไปภายนอกอยอู ยา งน้ัน และจะไมใหม นั เกดิ อีกทําอยา งไร แลวผู
ที่ยดึ อารมณแ ตภ ายนอกจนตลอดถึงวนั ตายอยางนี้ ตายก็เอาไปไหนไมไ ด แลว จติ ก็วกเวยี นอยู
กับสง่ิ ที่ตนรกั ตนชอบใจ เมอื่ บุคคลไปมีจติ เลอ่ื นลอยฟุงซา นอยางน้นั ก็ไมไดทาํ บญุ เมือ่ ไมไดท าํ
บุญแลวจิตใจก็เรร อนพเนจรเหมอื นคนไมม หี ลักไมมแี หลง ไมม บี า นอยูเ ปน ของตวั เปนคนจรจัด
อาศัยบา นคนนัน้ อาศยั บา นคนน้ี อาศยั ศาลาวดั อาศยั สถานทสี่ าธารณะเปน ท่หี ลบั ท่นี อน ไปขอ
ทานเขากนิ อยอู ยางนนั้ จิตใจทไ่ี มไดฝก ฝนใหเ ขา ถงึ ความสงบ ไมท ําบุญกุศล ไมท าํ ความดใี ห
เปน ประโยชนต นและผูอน่ื หรอื ทํากน็ ดิ ๆหนอ ยๆ อยางนี้มนั ก็สอู ํานาจกเิ ลสไมได เมอื่ ตายลง
อยางน้ี กเิ ลสมนั ก็จงู ไปตามประสงคแลว ถา ทาํ บาปมาก มนั ก็ไมไดม าลอ งลอยอยูกับโลกมนษุ ย
นแ้ี ลว บาปกรรมฉุดคราไปสอู บายภมู ิ พิจารณาใหเ ห็นดวยตนเอง

สุขชั่วคราว

ชีวติ นอี้ ยาไปหลงความสุขช่วั คราว อยาไปติดอยกู บั ความสขุ ชว่ั คราวน้ี แลวจะไมไดพ บ
ความสุขอันไพบูลยเลย ผใู ดติดอยใู นความสขุ ชัว่ คราว ตดิ อยใู นการกิน ไมไดก ินอาหารอนั อรอ ย
ไมไดฆ า สัตวม าทําอาหารกินมันไมอรอย นนั่ เรยี กวา ตดิ ในการกนิ อันเปนเหตใุ หท าํ บาป ติดใน
การนอน ไดนอนมากก็ถือวาดี รา งกายจะไดสมบรู ณ ถานอนนอ ยกลวั รา งกายจะซบู ผอม ไมได
ตองนอนใหมากๆ เรียกวาติดในการนอน ไมแบงเวลาประกอบความเพยี รทางจติ เลย ก็เลยไมได
ผลในจิตใจ ไมไดช ําระกิเลสออกจากจิตใจน้ี ลองสงั เกตดู

http://www.geocities.com/worralapo ๔๔

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ)

คล่นื ซัด

บคุ คลผไู มมสี มาธิจิต ไมท าํ จิตใหสงบแลว อะไรกระทบกระท่งั มนั มันก็ไมร สู ึกตวั ทานวา
จิตมากระทบเขา มีแตว า เจ็บอยา งเดียวเทานั้น แทนทจี่ ะวนิ ิจวิฉัยวา มันเจ็บเพราะอะไรๆ มนั ถึง
เจ็บอยางนี้ มันคดิ ไมไ ดเ ลย เมอ่ื มันเจบ็ หนักๆเขา มีแตร องครวญครางไป ด้ินรนกระสับกระสา ย
ไปเนั้นเอง อันน้ที านจึงเรยี กวา คนเราอันดวงจติ นม้ี นั ตกไปตามกระแสของกเิ ลสตณั หา เหมือน
กับบุคคลทีเ่ ดินทางโดยเรือกระแสของกิเลสตัณหา เหมือนกบั บุคคลทเ่ี ดินทางโดยเรือเดิน
มหาสมุทรลงสทู ะเล คลนื่ ซดั ไปทองมหาสมทุ รทะเลนนั้ นะ สดุ แลว แตคลืน่ มันจะซัดไปไหนกต็ าม
มนั

http://www.geocities.com/worralapo ๔๕

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปเู หรียญ วรลาโภ)

อนุโมทนา

หนังสือฉบบั นไ้ี ดน าํ ประวตั ิ และ ธรรมะมาจากเวบไซตห ลวงปูเ หรยี ญ วรลาโภ
(http://worralapo.cjb.net) ซึง่ เชนเดยี วกนั ครับ ตอ งขออนโุ มทนากับทุกๆทานทพ่ี มิ พธรรมะดวยนะครบั
ไดแ ก

คุณ พงศพพิ ัฒน ดาํ รงวฒั นกุล
คณุ ไกรฤกษ ศิลาคม
คณุ ศิริพร เวชกระจาง
คณุ ไพรสน รจุ ิคุณ
คุณ พจวรรณ แยมพกิ ุลสกุล
คณุ deedi จากเวป easydharma (http://www.geocities.com/easydharma/)
ชมรมพุทธศาสน มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร วทิ ยาเขตกาํ แพงแสน และเจา ของเวบไซตตา งๆ ที่
ลงบทเทศนาธรรมของหลวงปูไว
หากมขี อผิดพลาดประการใดหรือมีขอสงสยั ตอ งการเสนอแนะ กรณุ าสง E-mail ถึงผมไดท่ี
[email protected] เพอื่ ใชใ นการปรบั ปรงุ และแกไ ขตอ ไป
ผมตองขอกราบขอบพระคุณหลวงปเู หรยี ญ วรลาโภ (พระสธุ รรมคณาจารย) และทานพระ
อาจารยส มชาย สุขุมาโล เปน อยางย่ิงทที่ า นไดเ มตตามอบธรรมะและหนงั สือในการจดั สรางเวบไซตครง้ั นี้
และทจ่ี ะลืมไมไดค ือผทู ่ีใหการสนบั สนุนในการสรา ง website หลวงปู ไดแกคุณพอ คุณแม และ
คณุ อา รวมถึงพ่เี ปก ซ่งึ เออื้ เฟอรปู ภาพในการจัดสรา ง และพีส่ ุมติ ร ผทู ี่ทาํ ใหผมไดร จู กั กับหลวงปู ผม
ตองขอกราบขอบพระคณุ และรว มอนโุ มทนากบั ทกุ ๆทา นมา ณ ทน่ี ดี้ วย

ผจู ัดทํา

http://www.geocities.com/worralapo ๔๖

ฉลอง ๙๑ ป พระสุธรรมคณาจารย (หลวงปูเ หรียญ วรลาโภ)

"อะไรท่เี ปนประโยชนกบั คนหมูมากกจ็ งทาํ เถดิ "

คาํ กลาวใหอ นุญาตจัดสรางเวบไซตธรรมะและประวัตหิ ลวงปู
คอื ปฐมบทแหง เวบไซต

หลวงปูเหรยี ญ วรลาโภ แหง นี้

http://www.geocities.com/worralapo ๔๗


Click to View FlipBook Version