The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มรณกรรมฐาน หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-07-10 00:25:53

มรณกรรมฐาน หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

มรณกรรมฐาน หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

Keywords: มรณกรรมฐาน หลวงปู่สิม

การปฏบิ ตั ิ จติ ใจของเรากม็ คี วามปตี ยิ นิ ดขี น้ึ มา ดว้ ยอ�ำนาจ
คณุ พระพทุ ธเจา้ ดว้ ยอ�ำนาจคณุ พระธรรมเจา้ ดว้ ยอ�ำนาจ
คณุ พระสงั ฆเจา้ แต่ไม่ใช่เพยี งแต่ว่าพดู หรอื ว่าฟงั เทา่ นน้ั
ตอ้ งท�ำจติ ใจใหส้ งบระงบั ดว้ ย ใหจ้ ติ ใจตง้ั มน่ั เปน็ ดวงหนง่ึ
ดวงเดยี วภายในดว้ ย จึงจะเห็นผลด้วยตนเอง

ส่งิ ใดเมื่อเชอ่ื แนเ่ หน็ ผลด้วยตนเองแล้ว อนั นั้นแหละ
ไมเ่ ส่อื ม เป็นอจลศรัทธา-ศรทั ธาไม่เสือ่ ม ท่ีมันเสือ่ มได้
ลุ่มๆ ดอนๆ ดๆี รา้ ยๆ นี้ คือวา่ มนั ยังไมเ่ หน็ ด้วยตนเอง
อยา่ งวา่ มาบวชมาเรยี นบรรพชาอปุ สมบทในทางพทุ ธศาสนา
ไมว่ า่ บวชขาวบวชเหลอื ง บวชโกนผมไมโ่ กนผมอะไรกต็ าม
ถา้ ยงั ไมเ่ หน็ ผลดว้ ยตนเองนนั้ ทา่ นวา่ ยงั เปน็ ศรทั ธาหวั เตา่
คอื มนั ยงั หลบุ เขา้ หลบุ ออกอยู่ เดย๋ี วกบ็ วชเดย๋ี วกส็ กึ สกึ แลว้
กอ็ ยากบวช บวชแลว้ กอ็ ยากสกึ มนั เปน็ ศรทั ธาหวั เตา่ มนั ยงั
ไมเ่ ห็นผลด้วยตนเอง ถา้ เห็นผลดว้ ยตนเองแล้ว ในโลกนี้
ในโลกมนษุ ยน์ ไี้ มม่ เี พศใดดกี วา่ เปน็ สมณนกั บวช ไดท้ งั้
ประโยชนต์ น ไดท้ งั้ ประโยชนบ์ คุ คลผอู้ น่ื ถา้ มองเหน็ ผล
ด้วยตนเองก็อย่ไู ด้

พระบางองค์ ผปู้ ฏบิ ตั บิ างองค์ มาถามครบู าอาจารย์
วา่ ขา้ พเจา้ จะบวชไปไดไ้ หมในพทุ ธศาสนา อยากจะบวช
อยู่อย่างน้ี อันน้ีคือว่าไม่ท�ำไม่ปฏิบัติ แล้วไปถามเอา

50

มรณกรรมฐาน

กเิ ลสก็มอี ยู่ในใจของทกุ ๆ คน
แล้วทุกคนกร็ ูว้ ่ากิเลสของตวั มอี ะไร
เพียรละพยายามด้วยการปฏบิ ตั บิ ูชา
นง่ั สมาธภิ าวนาบ้าง เดนิ จงกรมบา้ ง
ถ้ามาเห็นวา่ โลกน้มี นั เป็นทกุ ข์เปน็ รอ้ น
กร็ บี ภาวนาเข้าใหม้ ันพน้ ทกุ ข์เสีย

มันกห็ มดเร่ือง

ทีเดียวมันก็ยากอยู่ การประพฤติปฏิบัตินั้นขึ้นกับการ
กระท�ำ เมอื่ ลงมอื กระท�ำปฏบิ ตั บิ ชู าภาวนาแลว้ ไมไ่ ดม้ าก
ก็ตอ้ งไดน้ ้อย อย่างเรานั่งสมาธิภาวนา เราเดินจงกรม
ตง้ั ใจท�ำจรงิ ๆ เดนิ จรงิ ๆ มนั เหน็ ผลดว้ ยตนเอง ผลมนั จะ
มาปรากฏในจิตใจ เมือ่ ใจสงบระงบั น่ันแหละ ใจจึงเกดิ
ศรทั ธาขนึ้ มา ใจสงบระงบั เยน็ สบายขนึ้ มา นเี่ หน็ ผลละ่
เมื่อเห็นผลด้วยตนเอง การท�ำการปฏิบัติก็ไม่ท้อถอย
แล้วกไ็ มต่ ้องไปถามใครละ่ ถามหวั ใจเรา

ตามกฎธรรมดากค็ อื วา่ ท�ำดยี อ่ มไดร้ บั ผลดี ใครท�ำชวั่
ย่อมได้รบั ผลชว่ั ผลทุกข์ ท�ำดไี ดร้ ับความสุข ท�ำชั่วไดร้ บั

51

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

ความเดอื ดรอ้ น กฏมนั มอี ยอู่ ยา่ งน้ี ถา้ ผปู้ ฏบิ ตั มิ ามองเหน็
หลกั นด้ี ว้ ยสตปิ ญั ญาของตวั เองแลว้ การปฏบิ ตั บิ ชู าภาวนา
ไม่ท้อถอย ไมเ่ ป็นศรทั ธาหัวเตา่ เรยี กวา่ เปน็ ศรทั ธาแท้
เชอื่ เลอ่ื มใสในคณุ พระพทุ ธเจา้ ภาวนาพทุ โธในใจไดท้ กุ เวลา
เชื่อเลื่อมใสในคุณพระธรรม เช่ือเล่ือมใสในคุณพระสงฆ์
ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบประกอบอยู่เสมอในส่ิงท่ีดีมีประโยชน์
ไม่มีทุกข์โทษประการใด จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนทุก
ดวงใจ จะต้องตั้งสัตย์อธิษฐานในใจของเราให้มั่นคง
หนักแน่นว่าเราจะปฏิบัติบูชาภาวนาไป จะได้มากน้อย
เท่าไรก็ตามก�ำลังความสามารถของเรา เอาชีวิตเป็น
แดนสดุ ท้าย ถา้ ชีวติ เรายงั มีอยู่ เราก็จะเจรญิ สมถภาวนา
วิปัสสนาภาวนา หรือเราจะต้ังใจอยู่ในเพศสมณสารูปนี้
ต่อไป

บางคนก็ถ้าเป็นหญิงก็มักจะว่าตัวเองไม่ได้บวชเป็น
พระเปน็ เจ้า ตงั้ ใจไว้บางคนกว็ ่า ชาตหิ น้าขอใหเ้ ปน็ ผู้ชาย
จะไดบ้ วชเปน็ พระเปน็ เณร ไมส่ �ำคญั อยา่ งนน้ั มนั อยทู่ ค่ี วาม
ตง้ั ใจ เพราะวา่ เป็นหญงิ เป็นชาย พระพุทธเจ้าไม่ได้เลือก
ไม่ได้เลือกชั้นวรรณะ พระธรรมวินัย พุทธศาสนา
ดูสมัยคร้ังพุทธกาล หญิงท่านก็บวชเป็นพระภิกษุณีได้
ท่านบวชแล้วท่านก็ภาวนาจนเป็นนักเทศน์นักปาฐกถา
แสดงธรรมเหมือนกบั พระภกิ ษฝุ า่ ยชาย ต่างแตว่ ่าสมยั น้ี

52

มรณกรรมฐาน

นุ่งขาวเรียกว่าแม่ขาว คือนุ่งผ้าขาวเขาก็ว่าเป็นแม่ขาว
เป็นชี บางแห่งก็เรียกว่าเป็นอุบาสิกา เป็นอะไรก็ตาม
ถ้าหม่ันขยันภาวนาท�ำความเพียรละกิเลสความโกรธ
ความโลภ ความหลง ในใจของตนนน่ั แหละ ใหม้ นั เบาไป
บางไป มันก็เปน็ สขุ จติ สขุ ใจ แมจ้ ะน่งุ สีนงุ่ ด�ำนุ่งอะไร
ก็ตาม จะอย่ใู นการงานใดๆ กท็ �ำได้

ถา้ เราดคู รง้ั พทุ ธกาลใหด้ ี ตวั อยา่ งฆราวาสญาตโิ ยม
ไดแ้ ก่ พทุ ธบดิ า พอ่ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นกไ็ มไ่ ดไ้ ปบวชไปเรยี น
ทไี่ หน ทา่ นกเ็ ปน็ พระเจา้ แผน่ ดนิ อยกู่ รงุ กบลิ พสั ด์ุ พระพทุ ธเจา้
เสด็จออกบรรพชา พุทธบิดาก็ไม่ไปไหน ก็อยู่น่ันแหละ
ปกครองบา้ นเมอื งอยตู่ ามธรรมดา เมอ่ื พระพทุ ธเจา้ ของเรา
ไดต้ รสั รู้แล้ว พน้ ทุกข์แลว้ ก็มาโปรดมาสอนโดยวธิ ีการ
ตา่ งๆ นานา จนเชอื่ เลอ่ื มใส ตอนแรกๆ กไ็ มเ่ ชอ่ื ไมเ่ ลอ่ื มใส
เมื่อพระพทุ ธเจา้ สอนไมใ่ ห้ท้อถอยก็เลยเช่ือเลื่อมใส ตงั้ ใจ
ปฏบิ ตั บิ ชู าภาวนาอยใู่ นหอปราสาทราชมณเฑยี ร ตน่ื เชา้ มา
ก็ตักบาตรถวายทานตามธรรมดา ภาวนาอยูท่ ี่หอปราสาท
ไดส้ �ำเรจ็ เปน็ พระโสดา เปน็ พระสกทิ าคา เปน็ พระอนาคา
สดุ ทา้ ยแกช่ ราตามธรรมดาสงั ขารทง้ั หลาย พระองคไ์ ปโปรด
กไ็ ดส้ �ำเรจ็ เปน็ พระอรหนั ตขณี าสพ จบพรหมจรรยด์ บั ขนั ธ์
เขา้ สนู่ ฤพานในปราสาทนั้นเอง พระพทุ ธองคข์ องเราก็ได้
ไปท�ำฌาปนกจิ พทุ ธบดิ า ทา่ นอยใู่ นหอปราสาทราชมณเฑยี ร

53

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

ท่านก็ภาวนาได้ ละกิเลสได้ คือไม่ใช่เอาผ้าสีผ้าเหลือง
ผา้ ขาวไป มนั เอาจติ เอาจติ ละกเิ ลสตดั กเิ ลสไดล้ ะ่ เปน็ อนั วา่
ไปได้พ้นได้

กเิ ลสก็มีอยใู่ นใจของทกุ ๆ คน แล้วทกุ คนกร็ ู้ว่ากิเลส
ของตวั มอี ะไร เพยี รละพยายามดว้ ยการปฏบิ ตั บิ ชู า นงั่ สมาธิ
ภาวนาบา้ ง เดนิ จงกรมบา้ ง ถา้ มาเหน็ วา่ โลกนม้ี นั เปน็ ทกุ ข์
เปน็ รอ้ น กร็ บี ภาวนาเขา้ ใหม้ นั พน้ ทกุ ขเ์ สยี มนั กห็ มดเรอ่ื ง
ถา้ ไมพ่ น้ ทุกขม์ าเกิดอีก ตายไปแลว้ มาเกดิ ใหม่อกี มนั ก็
เหมือนเราเกิดมาชาตินี้แหละ ทุกข์ยากล�ำบากร�ำคาญ
ขนาดไหน ไปนอนอยใู่ นทอ้ งแมต่ ง้ั ๙ เดอื น ๑๐ เดอื นนะ่
ไมใ่ ชเ่ ปน็ ความสบาย แมค้ ลอดมาแลว้ กม็ าอยใู่ นกองอจุ จาระ
ปสั สาวะ กวา่ จะยนื เดนิ นงั่ นอนไปมาได้ เรยี กวา่ ชาตคิ วาม
เกดิ เปน็ ทกุ ข์

ใหพ้ ากนั ก�ำหนดใหไ้ ด้ มองใหเ้ หน็ วา่ นชี่ าตคิ วามเกดิ
เปน็ ทกุ ขจ์ รงิ ๆ จนกระทงั่ บดั นี้ เวลานกี้ ย็ งั มคี วามทกุ ขอ์ ยู่
ในร่างกายสังขาร บางคนก็เจ็บไข้ได้ป่วย บางคนก็
เปน็ หวดั คดั จมกู โรคในรา่ งกายของคนเรานนั้ ผหู้ นง่ึ ๆ
มันก็มีโรคอย่างหนึ่งประจ�ำอยู่ จะมีความสุขอย่างไร
มันไม่มีแหละ ที่สุขเราว่าสุข มันสมมุติเอาต่างหาก
ความจรงิ รปู ขนั ธน์ ม้ี นั เปน็ กอ้ นทกุ ข์ กองทกุ ข์ จติ ใจของ

54

มรณกรรมฐาน

ผู้ใดมาภาวนาท�ำใจให้สงบต้ังมั่น ก็จะมีสติมีสมาธิ
มปี ญั ญามญี าณอันวเิ ศษเกิดข้ึนในใจ ละกเิ ลสทุกอย่าง
ทุกประการให้หมดไปสิ้นไป

ฉะนนั้ อบุ ายธรรมตา่ งๆ ทก่ี ลา่ วมาน้ี เมอื่ วา่ เราทา่ น
ทง้ั หลายพากนั ไดส้ ดบั รบั ฟงั แลว้ ไดค้ วามจรงิ แจง้ ในจติ ของ
ตนอยา่ งใด จงก�ำหนดจดจ�ำน�ำไปประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ กค็ งได้
รับความสขุ ความเจริญ

เอวงั ก็มดี ้วยประการฉะน้ี


55

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร




Click to View FlipBook Version