The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นรกสวรรค์ในพระไตรปิฏก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-02-21 21:20:27

นรกสวรรค์ในพระไตรปิฏก

นรกสวรรค์ในพระไตรปิฏก

Keywords: นรกสวรรค์ในพระไตรปิฏก

ผลกรรบมทใเสนรชมิ า: ติหนา

เรื่องชาติกอน ชาตหิ นา นรก-สวรรค มีจรงิ หรอื ไม เปน คํา
ถามท่ีคนสนใจกนั มากและเปนขอกังวลคางใจของคนทวั่ ไป เพราะ
เปนความลับของชวี ิตทอ่ี ยใู นอวชิ ชา จงึ เห็นควรกลาวสรุปแทรกไว
ที่น้ีเล็กนอย เฉพาะแงวา มีจรงิ หรือไม พิสูจนไดอยางไร

๑. ตามคําสอนในพทุ ธศาสนา เม่อื วา ตามหลักฐานใน
คัมภีรแ ละแปลความตามตวั อักษรก็ตอบไดวา ส่งิ เหลา น้มี ี

๒. การพิสูจนเรื่องนไ้ี มมีทส่ี นิ้ สดุ ไมอาจแสดงใหเ ห็น
ประจักษแกผูไมร ู ไมวา ในทางบวกหรอื ในทางลบ คอื ไมวา ในแงม ี
หรือในแงไ มม ี เปนไปไดเ พยี งขัน้ เช่ือวา มี หรอื เชอื่ วาไมมี เพราะท้ัง
ผูเชอื่ และผูไมเ ชื่อ หรือผูพ ยายามพิสูจนว ามแี ละผูพ ยายามพสิ จู น
วาไมม ี ตา งก็ไมรูทีม่ าทไ่ี ปแหง ชีวิต ไมวาของตนหรอื ผูอ ่นื ตางก็มดื
ตออดีต รูไกลออกไปไมถ ึงแมเพยี งการเกิดคราวนีข้ องตนเอง แม
แตชีวิตตนเองที่เปนอยูขณะน้ีก็ไมรูและมองไมเห็นอนาคตแมเ พียง
วา พรงุ น้จี ะเปนอยางไร

๓. ถา จะพิสจู น หลกั มวี า สง่ิ ทีเ่ หน็ ตองดูดวยตา สิ่งท่ีได
ยิน ตองฟง ดวยหู สิง่ ที่ล้ิม ตองชิมดวยล้นิ เปนตน สง่ิ ที่เหน็ ถงึ จะใช
สิบหูและสิบล้นิ รวมกนั กพ็ สิ จู นไ มได หรอื ส่งิ ทีไ่ ดยนิ จะใชสิบตากับ
สิบจมกู รวมกัน กพ็ ิสจู นไ มได หรือสิง่ ทีเ่ หน็ สงิ่ ทไ่ี ดย นิ แตตาง
ระดับคลื่น ตา งความถี่ ก็ไมร ูกัน บางอยา งทีแ่ มวมองเหน็ สบิ ตา
คนรวมกนั ก็มองไมเห็น บางอยา งทค่ี า งคาวไดยนิ สิบหคู นรวมกัน

๕๐ นรก-สวรรคใ นพระไตรปฎก

ก็ไมไดยิน เปนตน ในแงท ีห่ นง่ึ การตายการเกิดเปน ประสบการณ
ของชีวิตโดยตรง หรอื แคบลงมาเปน ปรากฏการณข องจิต ซง่ึ ตอง
พิสูจนดวยชวี ติ หรือจิตเอง การพิสูจนจ ึงควรเปนไปดังน้ี

ก) พสิ จู นด ว ยจติ ทานใหตอ งใชจ ติ ทีเ่ ปน สมาธแิ นว แน
ถึงที่ แตถาไมย อมทําตามวธิ ีนี้ หรอื กลัววาท่วี า เห็นใน
สมาธิ อาจเปนการเอานมิ ติ หลอกตวั เอง กเ็ ลอ่ื นสวู ธิ ี
ตอ ไป

ข) พสิ ูจนด วยชวี ติ ต้ังแตเ กิดมาคราวนี้ คนที่อยูย งั ไม
เคยมใี ครตาย ดังน้ัน จะรูวาเกดิ หรอื ไม ตองพสิ ูจน
ดวยการตายของใครของคนน้นั แตวธิ นี ้ีไมป รากฏวามี
ใครกลาทดลอง

ค) เมอื่ ไมยอมพิสจู น ก็ไดเ พยี งข้ันแสดงหลักฐานพยาน
และช้แี จงเหตผุ ล เชน หาตัวอยางคนระลึกชาติไดแ ละ
สอบสวนกรณตี างๆ เชนนน้ั หรือแสดงเหตุผลโดยหา
ความจรงิ อ่นื มาเปรยี บเทยี บ อยา งเรอ่ื งวิสยั แหงการ
เห็น การไดยนิ ทีข่ ึ้นตอ ระดบั คลื่นและความถี่ เปน ตน
ดังไดก ลาวแลว ชวยใหเ หน็ วานาเชอ่ื เช่อื บาง หรอื เชอ่ื
มากขึ้น เปนตน ซงึ่ รวมอยูในขัน้ ของความเช่ือเทา นน้ั

๔. ไมวา ใครจะเช่อื หรอื ไมเชื่อ หรอื จะพยายามพสิ จู นใหกนั
และกันดไู ดแคไหนกต็ าม สง่ิ ที่หลีกเล่ียงไมไ ด ไมมใี ครหนพี น ทกุ
คนตองเกี่ยวของ และเปนทีส่ บื ตอออกไปของชีวติ ขา งหนา ท่ีเชือ่
หรือไมเชอ่ื วามีนัน้ ดว ย กค็ ือ ชีวิตขณะน้ี ทมี่ ีอยแู ลวน้ี ที่จะตอ ง
ปฏิบตั ติ อมนั อยา งใดอยางหน่ึง

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตโฺ ต) ๕๑

เมอ่ื เปน เชน น้ี สง่ิ ทคี่ วรเอาใจใสใ หม ากจงึ ไดแ กช วี ติ ปจ จบุ นั
และสําหรับพระพุทธศาสนาในฐานะที่เปนศาสนาแหงการปฏิบัติ
สิ่งที่เปน จดุ สนใจกวา และเปน ทส่ี นใจแท จึงไดแ กก ารปฏบิ ัตติ อ
ชีวิตท่ีเปน อยูน ้ี วา จะดําเนินชีวติ ทก่ี าํ ลังเปน ไปอยนู ีใ้ หด ไี ดอ ยา งไร
จะใชชีวิตทมี่ ีอยแู ลว นี้อยางไร เพ่ือใหเปน ชวี ติ ทเ่ี ปนอยอู ยางดี และ
เพื่อใหช วี ิตขางหนาถา มีก็ม่นั ใจไดว า จะสบื ตอออกไปเปน ชีวิตทดี่ ี
งามดว ย ดงั น้นั สิ่งท่ีควรกลา วถงึ จึงไดแกข อ สงั เกตและขอ เสนอ
แนะในทางปฏบิ ตั ดิ ังตอ ไปน้ี

• บาลชี นั้ เดมิ คอื พระสตู รทง้ั หลาย กลา วบรรยายเรอื่ งชาตกิ อ น
ชาติหนา นรก-สวรรค ไวน อ ยนกั ๑ โดยมากทานเพยี งเอย ถึงหรือ
กลาวถึงเทา น้นั แสดงถึงอัตราสว นของการใหความสนใจแกเ รื่องนี้
วามีเพียงเล็กนอ ย ในเมือ่ เทียบกบั คําสอนเกี่ยวกบั การดําเนินชีวติ
ในโลก หรือขอ ปฏิบัติจําพวกศีล สมาธิ ปญญา

• บาลเี มอ่ื กลา วถงึ ผลรา ยของกรรมชวั่ และอานสิ งสข องกรรมดี
ถากลาวถงึ การไปเกดิ ในนรกหรอื สวรรค มกั กลาวไวต อทา ยผลที่
จะประสบในชวี ติ น้ี โดยกลาวถงึ ผลในชวี ติ น้ี ๔-๕-๑๐ ขอ แลว จงึ
จบลงดว ยคาํ วา “เมอื่ กายแตกทาํ ลาย ภายหลงั มรณะ ยอมเขา ถึงอบาย
ทคุ ติ วนิ บิ าต นรก” หรอื “เขา ถงึ สคุ ติ โลกสวรรค” ๒ ขอสังเกตในเรอ่ื ง
นี้มี ๒ อยา ง คอื ประการแรก ทานถือผลในชีวติ ปจจุบนั เปน สําคัญ
และแยกแยะอยางชี้ชดั เปน อยา งๆ ไป สว นผลหลงั ตาย กลา วเพยี ง
ปดทา ยไวใ หครบรายการ ประการท่สี อง การตรสั ถึงผลดผี ลราย
เหลานั้น เปนไปในลกั ษณะแสดงขอเท็จจรงิ เกี่ยวกบั ความเปน ไป
ตามเหตปุ จจยั คือ เปนผลท่ีจะเกิดขน้ึ เองตามเหตุ ไมตองวอนหวงั

๕๒ นรก-สวรรคในพระไตรปฎก

เปนเรือ่ งของการรไู วใหเ กดิ ความม่นั ใจเทา น้นั ถึงไมต ้ังความ
ปรารถนา กย็ อ มเปนไปเชน นัน้

• สําหรับคนทไี่ มเชอื่ ในเม่อื ยังไดเ พียงแคเ ชอ่ื คอื เช่ือวาไมมี ยงั
ไมรแู จงประจกั ษจรงิ ยอ มไมอาจปฏเิ สธความสงสัยในสวนลกึ แหง
จิตใจของตนไดโดยเดด็ ขาด คนเหลานี้ เม่อื เรีย่ วแรง ความมวั เมา
ในวัยหนุมสาวเสอ่ื มไปแลว ถูกชราครอบงํา ความหวาดหว่ันตอ
โลกหนา กม็ ักไดช อ งแสดงตวั ซง่ึ เมอ่ื ไมไดเตรียมความดีไว กจ็ ะมี
ทุกขมาก ดังนัน้ เพ่ือความมั่นใจ ถงึ คนทไ่ี มเ ชอ่ื กค็ วรทาํ ดีไว จะมี
หรอื วาไมม ี ก็มน่ั ใจและโลงใจ

• สาํ หรบั คนท่เี ชอ่ื
ก) พึงใหความเช่อื นน้ั อิงหลักแหงความเปนเหตปุ จจัย

อยางแทจ รงิ คือ ใหมองผลในชาตหิ นาวาสบื ตอไปจากคณุ ภาพ
ของจิตใจทีไ่ ดส รา งข้ึนไวแ ลว ในชาติน้ี แลว เนน ทก่ี ารทํากรรมดใี น
ปจจุบัน เพอ่ื สรา งเสริมคุณภาพจติ คณุ ภาพชวี ติ ทีด่ งี าม เพือ่ ให
ชีวิตสืบตอ ไปขา งหนา เปน ชวี ิตทด่ี ีงามดวย

การเนนในแงน ้ี จะทําใหการเกีย่ วของกบั ชาติหนาหรอื
ความหวังผลชาติหนาเปนไปในรูปของความม่ันใจโดยอาศัย
ปจจุบันเปนฐาน และการหวังผลชาตหิ นานนั้ จะย่ิงทําใหเอาใจใส
ใหความสําคัญแกชวี ติ ที่เปนอยใู นปจจบุ นั มากข้ึน ไมเ สียหลกั ที่วา
ถึงจะยุงเกี่ยวกับชาตหิ นาอยา งไร กอ็ ยา ใหส ําคญั กวา ชาติที่เปนอยู
ขณะนี้ คืออยา ใหเ สียการกระทําในปจจุบัน และจะไดไ มเ นนการ
ทํากรรมดแี บบเปนการลงทนุ เพ่อื แสวงหาผลกาํ ไร

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยตุ ฺโต) ๕๓

ข) ความเชอื่ ตอชาตหิ นา นนั้ ควรชวยใหเ ลกิ หรือใหบรรเทา
การพ่ึงพาอาศัยอํานาจดลบันดาลหรือสิ่งลึกลับภายนอกลงดวย
เพราะการเชื่อชาติหนาหมายถึงการเช่ือกรรมดีท่ีตนกระทําและ
การที่จะตอ งกา วหนาเจริญสูงข้นึ ในสงั สารวฏั นน้ั สวนการรอหวงั
พ่ึงอํานาจภายนอก ยอมเปน การทาํ ตวั ใหออ นแอลง และเปนการ
กดตัวเองใหถอยจมลงหรอื ลา หลงั หางออกไปในสังสารวฏั หากผู
ใดถลําตัวหวงั พึ่งอํานาจเหลาน้ันไปบา งแลว ก็ควรรีบถอยตวั ออก
มาสรางเรย่ี วแรงกาํ ลังของตนเองขน้ึ ใหมโ ดยเร็ว

• สาํ หรบั ผูเ ช่อื หรอื ไมเ ชอื่ ก็ตาม จะตองพยายามกา วไปหรอื
ไดรับการสอนใหกาวไปถงึ ขน้ั เวน กรรมชั่ว ทํากรรมดี โดยไมต อง
ข้ึนตอ ความเชอ่ื หรือความไมเชอ่ื นั้นเลย คือทําดไี ดโ ดยไมตอ งหวัง
ผลชาติหนา หรือถงึ แมไ มเชื่อวา มีชาตหิ นา ก็จะไมท าํ ช่ัว ผลขนั้ น้ี
ทําใหเกิดข้นึ ไดโ ดย

๑) ฝกอบรมกุศลฉันทะ หรือธรรมฉันทะ ใหก ลาแขง็ คอื
ทําใหเ กิดความใฝธรรม รักความดงี าม ตองการความประณตี หมด
จด มงุ ใหทกุ ส่ิงทุกอยา งบรรลอุ ดุ มสภาวะของมนั ๓

๒) สรา งความใฝร ักในปติสขุ อันประณตี ลกึ ซง้ึ ภายใน และ
ใหความใฝปต สิ ุขประณตี หรือการไดป ระสบปต สิ ขุ ประณีตนนั้ เปน
เครื่องปอ งกันการทําชั่วและหนุนการทาํ ดีโดยตวั ของมนั เอง ทั้งนี้
เพราะการท่จี ะไดปติสขุ ประณีตน้นั ยอมมเี งื่อนไขอยูในตัววาตอ ง
เวนทุจรติ ประกอบสจุ ริต และการไดปต ิสุขประณตี นัน้ แลว ก็จะ
เปนแรงหนวงเหน่ียวไมใหหลงใหลกามถงึ ขน้ั ท่จี ะประกอบกรรมชัว่
รายได อยางไรก็ตาม สําหรับปติสขุ ประณตี ข้ันโลกยี อาจตอง

๕๔ นรก-สวรรคในพระไตรปฎก

ระมัดระวังบางท่ีจะไมใหติดเพลินมากเกินไปจนเสียงานหรือหยุด
ความกาวหนา ๔

๓) ฝกอบรมจิตปญญาใหเจริญถึงขั้นท่ีจะเปนอยูดวย
ปญญาหรอื ดําเนินชีวติ ดว ยปญญา คือ มีความรเู ทาทนั สภาวะ
ของโลกและชีวติ หรอื รูธรรมดาแหง สังขาร พอทีจ่ ะทําจิตใจใหเปน
อิสระไดบา งพอสมควร ไมห ลงใหลติดอามิสหรือกามวตั ถุถึงกบั จะ
ทํากรรมชั่วรา ย มองชีวติ จติ ใจของมนุษยอ ืน่ สตั วอ ื่นดวยความเขา
ใจ หยั่งเห็นทุกขส ขุ และความตองการของเขา พอที่จะทาํ ใหค ิดการ
ในทางที่เก้อื กูลชวยเหลือดวยกรณุ า ใจไมโนมนอ มไปในทางท่ีจะ
เบยี ดเบยี นผอู นื่

ขอ นน้ี บั เปน ขน้ั แหง การดาํ เนนิ ชวี ติ ของทา นผไู ดเ ขา ถงึ โลกตุ ตร-
ธรรม ซึง่ มีโลกุตตรสัมมาทิฏฐเิ กดิ ขนึ้ แลว หรืออยา งนอยกเ็ ปน ขัน้
ของผูดําเนนิ ชวี ติ ตามแนวปฏิบตั ิเพอ่ื เขาถึงโลกุตตรธรรมนั้น

ถาแมยงั ไมถ ึงข้ันทีจ่ ะเปนอยดู ว ยปญ ญาอยา งแทจ รงิ ก็
เปนอยูด วยศรัทธาท่เี ปนบพุ ภาคของปญญาน้ัน คือ ศรทั ธาที่
ประกอบดว ยปญญาและเปน ไปเพอื่ ปญ ญา ซึ่งเชื่อในวิถีทางแหง
การดําเนินชีวติ ดวยปญ ญา ม่นั ใจในชีวิตทเ่ี ปนอสิ ระดวยปญญา
นั้นวา เปนชวี ิตท่ีดีงามประเสรฐิ สุด และพยายามดําเนนิ ปฏปิ ทา
แหงการเปนอยดู วยปญ ญาทป่ี ระกอบดวยกรุณานนั้ ดว ยตนเอง๕

ความจรงิ หลกั ปฏิบัตทิ ั้งสามขอนเ้ี นอ่ื งถึงกัน ใชป ระกอบ
เสรมิ กนั ได โดยเฉพาะขอ ท่ี ๑) ตองใชใ นการทาํ สง่ิ ดงี ามทุกอยาง
จึงเปน ที่อาศัยของขอ ๒) และ ๓) ดวย

ถาปฏบิ ัติไดตามหลักสามขอ นี้ ความเช่ือเร่ืองผลกรรมใน
ชีวิตหนา ก็จะเปน เพียงสว นชวยเสริมความมน่ั ใจในการเวน ชว่ั -ทํา

พระพรหมคณุ าภรณ (ป. อ. ปยตุ โฺ ต) ๕๕

ดีใหม ่นั คงแนนแฟนยิ่งข้ึนสําหรับบางคน แตไมถึงกับเปนตัวตัดสนิ

เด็ดขาดวา ถา เขาจะไมไ ดรับผลนัน้ ในชาตหิ นา แลว เขาจะไมยอม

ทําความดีเลย

ถาออ นแอเกนิ ไป ไมสามารถฝก คนหรอื ฝก ตนใหป ฏิบตั ิ

ตามหลักสามขอ นี้ได การใชความเชอื่ ตอผลกรรมชาตหิ นาเปนเหตุ

จูงใจใหเ วน ช่ัวทาํ ดี ก็ยังดีกวาปลอ ยใหด าํ เนินชีวิตกันอยา งหลง

ใหลในการเสพเสวยกามวตั ถุ มงุ แตแสวงหาอามิสมาปรนเปรอตน

ซ่ึงมีแตจะทําใหการเบียดเบียนและความช่ัวรายนานาระบาดแพร

หลาย นาํ ชวี ิตและสงั คมไปสหู ายนะถายเดียว และถึงอยา งไร

ความเชื่อผลกรรมชาติหนา กจ็ ดั เขาในโลกยี สมั มาทิฏฐซิ งึ่ เปนจุด

เชื่อมตอใหกาวหนาไปในทางดีงามงา ยขนึ้

เม่ือทําความเขา ใจกนั อยางนแี้ ลว ก็ขอนําพุทธพจนแ หง

สําคัญท่ีกลาวถึงผลกรรมซึง่ สบื เน่ืองจากปจจุบันไปถึงภพหนาตาม
ที่ปรากฏในจูฬกัมมวิภังคสตู ร มาแสดงไว สรุปใจความไดด งั นี้๖

“ดูกรมาณพ สัตวท้งั หลายมีกรรมเปน ของตน เปน
ทายาทแหง กรรม มีกรรมเปนท่ีกาํ เนดิ มกี รรมเปน เผา
พันธุ มกี รรมเปน ที่พึ่งอาศยั กรรมยอ มจําแนกสตั วทง้ั
หลายใหท รามและประณตี ”
๑. ก. สตรีหรอื บรุ ษุ ผมู ักทําปาณาติบาต เปน คนเหย้ี มโหด
หมกมุน อยูในการประหัตประหาร ไรเ มตตาการณุ ย ดวยกรรมนัน้
ซึ่งถือปฏบิ ัตพิ รง่ั พรอ มถงึ ทแี่ ลว ตายไป ยอมเขาถงึ อบาย ทคุ ติ
วินิบาต นรก หรอื มฉิ ะน้นั หากมาสูค วามเปน มนุษย จะเกิด ณ ท่ี
ใดๆ ในภายหลงั กจ็ ะเปนคนมีอายสุ ้นั

๕๖ นรก-สวรรคในพระไตรปฎ ก

ข. สตรหี รอื บุรุษผูละเวน ปาณาติบาต มเี มตตาการุณย มกั
เก้ือกลู แกสรรพสัตว ดวยกรรมนนั้ ซึ่งถอื ปฏิบตั พิ ร่งั พรอ มถึงท่ีแลว
ตายไป ยอ มเขาถึงสคุ ติ โลกสวรรค หรือมฉิ ะนั้น หากมาสคู วาม
เปน มนษุ ย จะเกิด ณ ท่ใี ดๆ ในภายหลงั ก็จะเปน คนมีอายยุ ืน

๒. ก. สตรหี รอื บุรุษผูมีนิสัยชอบเบียดเบยี นทาํ รายสัตวท ้งั
หลาย ดวยมอื ไม ศสั ตรา ดว ยกรรมนน้ั ซึ่งถอื ปฏิบตั ิพร่ังพรอมถงึ ที่
แลว ตายไป ยอมเขาถึงอบาย ทคุ ติ วนิ ิบาต นรก หรอื มิฉะนั้น หาก
มาสูความเปนมนษุ ย จะเกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลงั ก็จะเปน คนมโี รค
มาก (ขี้โรค)

ข. สตรหี รือบรุ ษุ ผูไ มม ีนสิ ยั ชอบเบียดเบียนทํารายสตั วท้ัง
หลาย ดว ยกรรมนัน้ ซ่ึงถือปฏบิ ัตพิ ร่งั พรอมถึงท่แี ลว ตายไป ยอม
เขา ถงึ สคุ ติ โลกสวรรค หรอื มฉิ ะนัน้ หากมาสูค วามเปน มนุษย จะ
เกิด ณ ทีใ่ ดๆ ในภายหลัง ก็จะเปน คนมีโรคนอย (มีสุขภาพดี)

๓. ก. สตรีหรือบุรุษผูเ ปนคนมกั โกรธ เคยี ดแคน งาย ใครวา
กลา วนิดหนอยก็ขัดใจพลุงพลา น พยาบาท แสดงความข้ึงเคียดให
ปรากฏ ดว ยกรรมน้นั ซึ่งถอื ปฏิบัตพิ รงั่ พรอ มถงึ ท่ีแลว ตายไป ยอม
เขาถึงอบาย ทุคติ วนิ ิบาต นรก หรอื มฉิ ะนั้น หากมาสคู วามเปน
มนุษย จะเกิด ณ ทใ่ี ดๆ ในภายหลัง กจ็ ะเปน คนมผี วิ พรรณทราม
(ไมสวยไมง าม)

ข. สตรีหรอื บรุ ษุ ผไู มมกั โกรธ ดว ยกรรมนัน้ ซงึ่ ถอื ปฏิบัติ
พรั่งพรอมถงึ ทีแ่ ลว ตายไป ยอมเขาถึงสุคติ โลกสวรรค หรือมิ
ฉะนั้น หากมาสคู วามเปน มนุษย จะเกดิ ณ ท่ใี ดๆ ในภายหลัง กจ็ ะ
เปนคนนาเลือ่ มใส (มรี ปู รางทา ทางชวนใจนยิ ม)

พระพรหมคณุ าภรณ (ป. อ. ปยตุ ฺโต) ๕๗

๔. ก. สตรีหรือบรุ ุษผมู ใี จริษยา คนอนื่ ไดลาภไดรับความ
เคารพนบั ถือกราบไหวบ ชู า ก็ไมสบายใจ ทนไมได ดวยกรรมน้ัน
ซ่ึงถือปฏิบัติพรั่งพรอมถึงทีแ่ ลว ตายไป ยอ มเขา ถึงอบาย ทุคติ
วินิบาต นรก หรอื มฉิ ะนั้น หากมาสูความเปน มนษุ ย จะเกดิ ณ ท่ี
ใดๆ ในภายหลงั กจ็ ะเปน คนมศี กั ดานอย (ตา่ํ ตอ ยดอ ยอาํ นาจ)

ข. สตรหี รือบรุ ษุ ผไู มมใี จรษิ ยา ดวยกรรมนัน้ ซงึ่ ถือปฏิบัติ
พรั่งพรอ มถึงท่ีแลว ตายไป ยอ มเขาถงึ สุคติ โลกสวรรค หรือมิ
ฉะนั้น หากมาสูความเปนมนษุ ย จะเกดิ ณ ทใ่ี ดๆ ในภายหลงั กจ็ ะ
เปนคนมศี ักดามาก (มีเดช มอี าํ นาจมาก)

๕. ก. สตรหี รอื บรุ ษุ ผไู มบ ําเพญ็ ทาน ไมใหป น ขา ว นาํ้ ผา
นุงหม เปนตน ดว ยกรรมนั้น ซ่งึ ถอื ปฏบิ ัติพร่ังพรอมถงึ ที่แลว ตาย
ไป ยอ มเขา ถึงอบาย ทคุ ติ วินิบาต นรก หรือมิฉะนั้น หากมาสูความ
เปนมนษุ ย จะเกิด ณ ท่ีใดๆ ในภายหลัง ก็จะเปนคนมีโภคะนอ ย

ข. สตรีหรอื บุรุษผบู ําเพ็ญทาน ใหปน ขาว น้ํา ผานุง หม
เปนตน ดว ยกรรมนัน้ ซง่ึ ถือปฏิบัติพร่ังพรอมถึงทแ่ี ลว ตายไป ยอม
เขา ถึงสคุ ติ โลกสวรรค หรือมฉิ ะนนั้ หากมาสคู วามเปน มนุษย จะ
เกิด ณ ท่ใี ดๆ ในภายหลงั ก็จะเปน คนมีโภคะมาก

๖. ก. สตรหี รอื บุรษุ ผเู ปน คนแขง็ กระดาง เยอหยงิ่ ชอบดูถูก
คน ไมเ คารพนบั ถือ กราบไหว แสดงความเออ้ื เฟอ แกผทู ส่ี มควรได
รับการปฏิบัตเิ ชนน้นั ดว ยกรรมนัน้ ซึ่งถอื ปฏิบตั ิพร่งั พรอ มถึงที่
แลว ตายไป ยอมเขา ถึงอบาย ทุคติ วนิ ิบาต นรก หรือมฉิ ะนนั้ หาก
มาสคู วามเปนมนษุ ย จะเกิด ณ ท่ใี ดๆ ในภายหลงั กจ็ ะเปน คนมี
ตระกลู ต่าํ

๕๘ นรก-สวรรคในพระไตรปฎ ก

ข. สตรหี รอื บุรษุ ผูไมเ ปนคนแข็งกระดา ง ไมเ ยอ หย่ิง แสดง
ความเคารพนับถอื กราบไหว เอ้ือเฟอแกผ สู มควรไดรับการปฏิบตั ิ
เชนนัน้ ดวยกรรมน้ัน ซึง่ ถอื ปฏบิ ัตพิ ร่ังพรอมถงึ ที่แลว ตายไป ยอ ม
เขา ถงึ สคุ ติ โลกสวรรค หรอื มิฉะน้ัน หากมาสูความเปน มนษุ ย จะ
เกิด ณ ท่ใี ดๆ ในภายหลงั กจ็ ะเปน คนมีตระกลู สงู

๗. ก. สตรีหรือบุรุษผูไมเ ขา หา ไมส อบถามสมณะหรือ
พราหมณ วาอะไรดี อะไรชว่ั อะไรมโี ทษ ไมมีโทษ อะไรควร
ปฏิบัติ ไมค วรปฏิบตั ิ อะไรเมื่อทาํ จะเปน ไปเพอ่ื โทษทกุ ข อะไร
เม่ือทาํ จะเปนไปเพือ่ ประโยชนสุขช่วั กาลนาน ดวยกรรมนนั้ ซง่ึ ถือ
ปฏิบัติพรงั่ พรอมถึงทแ่ี ลว ตายไป ยอมเขา ถงึ อบาย ทุคติ วินบิ าต
นรก หรือมิฉะนัน้ หากมาสคู วามเปนมนุษย จะเกดิ ณ ทีใ่ ดๆ ใน
ภายหลัง ก็จะเปน คนทรามปญ ญา

ข. สตรีหรือบรุ ษุ ผูรจู ักเขา หาสอบถามสมณะหรือพราหมณ
วาอะไรดี อะไรช่วั เปนตน ดว ยกรรมนน้ั ซ่งึ ถือปฏบิ ัตพิ รงั่ พรอมถงึ
ทแี่ ลว ตายไป ยอ มเขา ถงึ สคุ ติ โลกสวรรค หรอื มฉิ ะนน้ั หากมาสู
ความเปน มนษุ ย จะเกดิ ณ ทใี่ ดๆ ในภายหลงั กจ็ ะเปน คนมปี ญ ญามาก

จะเห็นไดว า ในสตู รนี้ แมจ ะกลา วถงึ ผลท่จี ะประสบในชีวิต
ขางหนา แตก ็เนนทีก่ ารกระทําในปจ จบุ นั โดยเฉพาะการกระทําท่ี
มีลักษณะเปนความประพฤตปิ ฏบิ ตั อิ ยา งเปนประจํา เปน สว นแหง
การดําเนินชีวิตชนดิ ทจ่ี ะสรา งสมคณุ ภาพของจิตใจ ปรุงแตง
ลักษณะนสิ ยั และบคุ ลิกภาพได และเปนเหตุปจจัยโดยตรงแกผล
จําเพาะแตล ะอยาง

ท้ังน้ี ไมใชเ ปน อานสิ งสเฟอ ชนดิ ทว่ี า ทํากรรมดอี ะไรคร้งั
เดียว เชน ใหท านครั้งหน่งึ ก็มีผลมากมายไมม ีขอบเขต จะหวงั เปน

พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๕๙

อะไร ปรารถนาไดอ ะไร ก็ไดก็เปน อยา งนัน้ หมด ซงึ่ ถาเนนกนั นกั ก็
จะทําใหค นมุงแตจะทาํ บญุ กรรม แบบฝากเงินในธนาคารเฉยไวไป
รอรับดอกเบ้ีย หรอื แบบคนเลนลอตเตอรี่ ทีล่ งทุนทหี นง่ึ หวังผล
กําไรมหาศาล แลว เลยไมใ สใ จกรรมดีชนิดทเ่ี ปน ความประพฤติ
ปฏิบัติท่ัวไป และการดําเนนิ ชีวิตดีงามประจําวนั อยางทต่ี รสั ไวใน
สตู รนี้๗

รวมความวา สาระของจูฬกมั มวภิ ังคสตู รน้ี ก็ยงั คงยนื หลัก
การสําคญั ทว่ี า การนกึ ถงึ ผลกรรมที่จะไดประสบในชีวิตภพหนา
พึงเปนไปในลักษณะของความม่ันใจท่ีอาศัยกรรมคือคุณภาพจิต
ใจและคณุ ภาพแหง ความประพฤติ ทต่ี นมอี ยใู นปจจบุ ันน้ีเอง และ
การไดร ับผลหา งไกลเบ้อื งหนา นั้น มีลกั ษณะทส่ี ืบทอดตอ เนอื่ ง
ออกไปอยางมคี วามสมั พันธก นั ไดตามแนวทางแหง เหตปุ จจัย

หลักสําหรับวนิ จิ ฉยั ในเร่ืองนี้ อาจพูดอยางสนั้ ๆ ไดแ นว
หนึ่งวา ความเช่ือทถี่ ูกตอ งเกยี่ วกับผลกรรมในชาตหิ นา จะตอ ง
เปนความเชื่อที่มีลักษณะชวยเสริมธรรมฉันทะใหเขมแข็งแนน แฟน
ยิ่งข้ึน หากความเชื่อเกย่ี วกับผลกรรมในชาติหนา อยา งใด ไมชวย
เสริมธรรมฉันทะ แตก ลับเปนไปในทางสงเสรมิ โลภะหรือตณั หา
ถายเดียว ก็พึงเขาใจวา ความเชื่ออยางนั้น เปน ความเช่อื ท่ีคลาด
เคลื่อน และควรไดรบั การแกไ ข

คัดจากหนงั สอื พุทธธรรม ฉบับปรับปรงุ และขยายความ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
จดั พมิ พ พ.ศ. ๒๕๒๙ หนา ๑๙๘–๒๐๔

เชงิ อรรถ

๑ พระสตู รตอ กนั ๒ สตู ร คอื พาลปณ ฑติ สตู รและเทวทตู สตู ร เปน ทมี่ าสาํ คญั ของวรรณคดี
เกย่ี วกบั นรก สวรรค สมยั ตอ มา (ม.อ.ุ๑๔/๔๖๗–๕๐๓/๓๑๑–๓๓๓ และ ๕๐๔–๕๒๕/๓๓๔–
๓๔๖), เอย ช่ือนรก ๓ ขุม (ม.มู.๑๒/๕๖๕/๖๐๘); การไปเกดิ ในเทวโลกและอายุเทวดา
(เชน อง.ฺ จตุกกฺ .๒๑/๑๒๓/๑๖๙; อง.ฺ ตกิ .ฺ ๒๐/๕๑๐/๒๖๙, ๒๗๓; อง.ฺ อฏ ก.๒๓/๑๒๓-
๕/๒๕๗–๒๖๗; ๔๙/๖๓, ๖๖; ๑๒๕-๖/๒๔๓-๘; อภิ.วิ.๓๕/๑๑๐๓-๗/๕๖๖–๕๗๒)
และพึงดเู ร่อื ง วิญญาณฏั ฐติ ิ ๗ และสัตตาวาส ๙ (เชน ที.ปา.๑๑/๓๓๕/๒๖๕;
๓๕๓/๒๗๗; ๔๓๕/๓๑๑; ๔๕๗/ ๓๒๙; อง.ฺ สตฺตก.๒๓/๔๑/๔๑; ๒๒๘/๔๑๓)

๒ เชน อง.ฺ ปฺจก.๒๒/๒๑๑-๗/๒๘๑-๔; ๓๔/๔๑; อง.ฺ เอกาทสก.๒๔/๒๒๒/๓๗๐
๓ ดู พุทธธรรม บทที่ ๑๔ “ปญหาเกยี่ วกับแรงจงู ใจ”
๔ ดู พุทธธรรม บทท่ี ๑๕ “ความสุข”
๕ ศรทั ธาที่ออกผลเชน น้ัน ตองอาศัยความเชือ่ มนั่ ในทา นซึง่ เปนผนู ําแหง การ

ดําเนินชีวิตอสิ ระดวยปญญา คอื พระพุทธเจา เชอื่ มั่นในคาํ สอนของพระ
องค คือ พระธรรม เช่ือมั่นในชุมชนผปู ระพฤติปฏิบัติตามคาํ สอนนั้นและ
ประสบความสาํ เรจ็ ในการมีชีวิตทเ่ี ปนอิสระเชนนั้นดวย คอื พระสงฆ รวม
เรียกวา ศรทั ธาม่ันคงในพระรัตนตรยั ดู พุทธธรรม บทที่ ๑๑ “ชีวิตและคุณ
ธรรมพืน้ ฐานของอารยชน”
๖ เรยี กอกี อยางวา สภุ สูตร, ม.อุ.๑๔/๕๗๙–๕๙๗/๓๗๖–๓๘๕
๗ เน้อื หาของสูตรนี้ เปน การตอบปญหาของสุภมาณพ ซ่ึงเปน คนวรรณะ
พราหมณ การทพี่ ระพทุ ธเจา ตรัสตอบแกสุภมาณพอยา งน้ี มองในแงส มั พันธ
กับศาสนาพราหมณ มีขอ สังเกตอยางนอ ย ๒ ประการ คอื ประการแรก เปน
การแยงตอ คําสอนของพราหมณทว่ี า พรหมเปนผสู รางผบู นั ดาลชวี ติ มนุษย
และทกุ ส่ิงทุกอยาง โดยใหม องอยา งใหมว า การกระทําของคนน่ันเอง เปน
เครือ่ งสรางสรรคป รุงแตงชวี ิตของมนุษย ประการทีส่ อง ตามพธิ กี รรมของ
พราหมณ เชน การบูชายัญ ผปู ระกอบพธิ แี ละถวายทกั ษิณาแกพราหมณ จะ
ไดรับผลานิสงสมากมายมหาศาลชนิดที่จะมองไมเห็นความสัมพันธโดยทาง
เหตุปจจัยกับส่ิงทกี่ ระทํานน้ั เลย การตรัสผลของกรรมตามแนวแหง สตู รน้ี
เปนการสรางความเขาใจอยา งใหมใ นแงน น้ั ดวย

โปรยปกหลัง หนังสือ นรก-สวรรคในพระไตรปฎก

“…สาํ หรบั คําถามวา นรก-สวรรคห ลงั จากตายในพระไตร
ปฎ กมีไหม? เมอ่ื ถอื ตามตัวอกั ษรก็เปนอันวา ม…ี ”

มนุษยเ รานน้ั ทุกคน ถา วาดว ยใจจรงิ แลว ยอมมีเยอื่ ใยตอ
ชีวิตของตน ทกุ คนรกั ชวี ติ ของตน เราตอ งการใหชวี ิตของเราเปน
ชีวิตท่ีดีงาม เราตอ งการใหชีวิตของเราเปน ชีวิตท่บี ริสทุ ธ์ิ ถาเราได
พัฒนาจิตใจของเราใหส ูงขึ้น จนลกั ษณะนเี้ ดนชัดข้นึ เราก็ไมต อ ง
ไปนึกถึงผลตอบแทนขา งหนามากมาย

เวลาน้ีการสอนเร่ืองนรก-สวรรคมาติดกันอยูตรงนี้ คือ
มาตดิ เร่ืองคิดพสิ ูจนนรก-สวรรคว า มีจริงหรอื ไมจ รงิ จะไปเปนนัก
ปรัชญา เลยไมต องทาํ อะไร รอจนกวาฉันจะรวู า นรก-สวรรคมี
หรือไมมี ฉันจึงจะทําไดถูก ถาอยา งน้กี ็ไมตองทําแลว ตลอดชวี ติ น้ี
ตายกอ น เพราะนักปรชั ญาตายมาหลายชั่วอายุคนแลว ในระยะหา
พันปน้ีนักปรชั ญาตายไปกีค่ น และทีไ่ มใชนักปรัชญาคอยฟงนกั
ปรัชญาสอนอกี เทาไรกไ็ มร ู กเ็ ลยไมไ ดเ รอ่ื ง พวกเหลาน้ชี ีวิตเปน
หมันไปเสยี มาก


Click to View FlipBook Version