The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-02-22 23:11:15

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์

Keywords: พุทธประวัติจากพระโอษฐ์

พทุ ธประวตั ิ

จาก

พระโอษฐ

www.buddhadasa.info

พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ

โดย

อ.ป.

ธรรมทานมลู นิธิ จัดพิมพดว ยดอกผลทุนพระยาลดั พลธี รรมประคลั

www.buddhadasa.infoเปนหนงั สอื อนั ดับทหี่ น่ึง ในหนงั สือชุด “ลัดพลีธรรมประคลั อนสุ รณ”

เปน การพมิ พครั้งที่ ๘ ของหนังสอื เลม นี้
จาํ นวน ๑,๐๐๐ เลม

(ลิขสิทธ์ิไมสงวนสําหรับการพิมพแจกเปนธรรมทาน, สงวนเฉพาะการพิมพจาํ หนาย)
พิมพที่ หางหุนสวนจาํ กัด การพิมพพระนคร

๙๒ - ๙๔ ถนนบุญศิริ นครหลวง ฯ โทร. ๒๑๒๓๓๗, ๒๒๑๖๗๔
นายบุญธรรม สุนทรวาที ผูพิมพและโฆษณา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๕

คณะธรรมทานไชยา

จดั พิมพ

พมิ พค รั้งทีแ่ รก ๑ พฤษภาคม ๒๔๗๙
พมิ พครั้งทส่ี อง ๑ มกราคม ๒๔๙๕
พิมพค รั้งทสี่ าม ๑๔ มกราคม ๒๔๙๘
พมิ พค ร้งั ที่ส่ี ๒๗ ตลุ าคม ๒๕๐๓
พิมพคร้ังทีห่ า ๑๐ ตุลาคม ๒๕๐๘
พมิ พครัง้ ท่ีหก ๒๓ มกราคม ๒๕๑๓
พิมพครง้ั ที่เจ็ด ๓ ธันวาคม ๒๕๑๓

www.buddhadasa.infoพมิ พคร้งั ทแ่ี ปด ๓ พฤศจิกายน ๒๕๑๕

www.buddhadasa.info

www.buddhadasa.info

www.buddhadasa.info

การรอยกรองหนังสอื เลม นี้

อทุ ิศ

เปนถามพลี แดพระผูมพี ระภาคเจา

และ
เพ่ือเปนรอยพระพทุ ธบาท แดเ พ่อื นสตั วผ ูเดนิ คน หาพระองค

www.buddhadasa.info

(๓)

ใจความสาํ คญั

เปนพระประวัติตรัสเลา ไมมีคําเรียบเรียงของผูแตงคละปน
เพราะเปนที่รวบรวมเฉพาะพระพุทธภาษิตที่ตรัสถึงประวัติของ
พระองคเอง, จากคัมภีรพระไตรปฏกลวน เลือกเก็บเอามา
รอยกรองใหเปนหมวดหมู ติดตอกันเปนลําดับ, มุงแสดง
หลักธรรมท่ีแนบอยูในพระชนมชีพของพระองค แทนการมุง
ทางตาํ นานประวัติ หรือนิยายประวัติ เพ่ือใหเปนหนังสือ
สงเสริมปฏิบัติธรรมเลมหนึ่ง เปนสวนใหญ รวมท้ังเปนแกน
แหงเร่ืองพุทธประวัติดวย, เปนสวนพิเศษ.

-ผูรวบรวม-

www.buddhadasa.infoมีปทานุกรมคําสําคัญ, , ลําดับหมวดธรรม อยูทายเลม

(๔)

พุทธประวัติจากพระโอษฐ

www.buddhadasa.info

(๕)

อักษรยอ

(เพอื่ ความสะดวกแกผ ทู ่ียังไมเ ขาใจในเรอื่ งอักษรยอ ทใ่ี ชห มายเลขแทนคมั ภรี  ซึง่ มอี ยูโดยมาก )

มหาว.ิ วิ. มหาวภิ งั ค วินยั ปฏ ก. ฉก.ฺ อํ. ฉักกนบิ าต อังคุตตรนกิ าย

ภกิ ขุนี.วิ. ภิกขุนีวิภงั ค ” สต.ฺ อํ. สัตตกนิบาต ”

มหา.วิ มหาวัคค ” อฏ.อํ อัฏฐกนบิ าต ”

จลุ ล.วิ. จลุ ลวัคค ” นว.อํ นวกนิบาต ”

ปริวาร.วิ ปริวารวัคค ” ทส.อ.ํ ทสกนิบาต ”

สีล.ที. สลี กั ขนั ธวัคค ทีฆนิกาย เอกาทส.อํ. เอกาทสกนิบาต ”

มหา.ที. มหาวคั ค ” ข.ุ ข.ุ ขุททกปาฐ ขุททก

นกิ าย

ปา.ท.ี ปาฏิกวคั ค ” ธ.ขุ. ธมั มบท ”

ม.ู ม. มลู ปณณาสก มัชฌมิ นกิ าย อุ.ข.ุ อุทาน ”

ม.ม. มชั ฌิมปณ ณาสก ” อิต.ิ ข.ุ อิติวุตตก ”

อปุ ร.ิ ม. อุปรปิ ณณสก ” สุตฺต.ขุ. สตุ ตนิบาต ”

สคาถ.สํ สคาถวคั ค สังยุตตนิกาย วิมาน.ข.ุ วมิ านวตั ถุ ”

นิทาน.สํ. นิทานวัคค ” เปต.ขุ. เปตวัตถุ ”

ขนฺธ.สํ. ขนั ธวารวัคค ” เถร.ขุ. เถรคาถา ”

สฬ.สํ. สฬายตนวคั ค ” เถรี.ขุ. เถรคี าถา ”
www.buddhadasa.infoเอก.อํ เอกนบิ าต องั คตุ ตรนิกาย นิท.ขุ.
มหาวาร.สํ. มหาวคั ค ” ชา.ข.ุ ชาดก ”
นทิ เทส ”

ทกุ .อ.ํ ทกุ นบิ าต ” ปฏสิ มฺ.ข.ุ ปฏิสัมภิทา ”

ติก.อ.ํ ตกิ นบิ าต ” อปทาน.ขุ. อปทาน ”

จตุก.อํ. จตกุ กนิบาต ” พทุ ธว.ข.ุ พุทธวงค ”

ปญจ.อํ. ปญ จกนิบาต. ” จรยิ า.ขุ. จริยาปฏ ก ”

ตวั อยา ง: ๑๔/๑๗๑/๒๔๕ ใหอ านวา ไตรปฏ ก เลม ๑๔ หนา ๑๗๑ ขอท่ี ๒๔๕

(พ.ม.) = เร่อื งเพมิ่ ใหม เมื่อพมิ พค รั้งท่ีสอง

(พ.ม.อ.) = เรอื่ งเพม่ิ ใหม เมื่อพิมพค ร้งั ทีส่ าม

ท. = ทัง้ หลาย

(๖)

คํานาํ

(เมื่อพมิ พค รั้งท่ี ๑ )
____________

พระประวัติตรัสเลา หรือพุทธประวัติจากพระพุทธโอษฐนี้ เลือกเก็บ

จากบาลีพระไตรปฎก รวบรวมเอามาเฉพาะตอนท่ีพระองคตรัสเลาถึง ป ร ะ วัติ

ของพระองคเอง.

พระประวัติของพระองคทุกๆ ตอน ทั้งท่ีทรงเลาเอง และเปนคําของ

พระสังคีติกาจารยผูรอยกรองบาลีพระไตรปฎก ยอมมีอยูเปนแหงๆ ตอนๆ

ไมติดตอกันไปจนตลอดเร่ืองเปนการลําบากแกผูศึกษา. สมเด็จพระมหาสมณะเจา

กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เคยทรงพบเหตุแหงความไมสะดวกขอน้ี ดังที่ตรัสไว

ในตอนคําปรารภ ท่หี นา หนงั สอื พทุ ธประวัตเิ ลม ๑ ของพระองควา :-

“…นาเสียดายวา เร่ืองพุทธพระวัติน้ัน ไมปรากฏในบาลีท่ีขึ้น สูสัง คีติ

จนตลอดเร่ืองสักแหงเดียว มีมาในบาลีประเทศน้ันๆ เพียงเปนทอนๆ เชนเรื่องประสูติ

มาในมหาปทานสูตรแหงทีฆนิกายมหาวรรค เรื่องคร้ังยังทรงพระเยาวมาในติกนิบาต

www.buddhadasa.infoอังคุตตรนิกาย เรื่องต้ังแตปรารภเหตุที่เสด็จออกบรรพชา จนภิกษุปญจวัคคียสําเร็จ
พระอรหัตตผล มาในปาสราสิสูตรแหงมัชฌิมนิกายมูลปณณาสก เร่ืองเสด็จออก

บรรรพชาแลว บําเพ็ญทุกกรกริยาจนไดตรัสรู มาในมหาสัจจกสูตร แหงมัชฌิมนิก า ย มูล

ปณณาสก เร่ืองต้ังแตตรัสรูแลวจนถึงอัครสาวกบรรพชา มาในมหาวรรคแหง วินัย

การทรงบําเพ็ญพุทธกิจน้ันๆ มาในพระสูตรตางๆ หลายสถาน, ตอนใกลจะปรินิพพาน

จนถึงปรินิพพานแลว มัลลกษัตริยในกุสินาราทําการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแลว

แบงพระสารีริกธาตุไวบาง แจกไปในนครอื่นบาง มาในมหาปรินิพพานสูตร แ หง

ทีฆนิกาย มหาวรรค.เปนอยางน้ี เขาใจวาพระคันถรจนาจารยมุงจะกลา ว เ ท ศ น า

บางอยาง จึงชักเร่ืองมากลา วพอเปน เหตปุ รารภเทศนา ท่ีเรียกวา “อตั ถุปปตต”ิ .

(๗)

(๘) พุทธประวัติจากพระโอษฐ-คาํ นาํ

อีกอยางหน่ึง ไดเร่ืองมาเพียงใด ก็รจนาไวเพียงน้ันเปนคราวๆ เพราะเหตุน้ี

ในปกรณเดียวควรจะเรียงเร่อื งไวในสตู รเดยี วกนั กย็ ังเรียงกระจายกันไว…”

แตในหนังสือพุทธประวัติท่ีพะรมหาสมณะเจาพระองคน้ี ทรงเรียบเรียง

นั้นทรงเก็บความในบาลีมาคละปนกันไป ทั้งที่ตรัสเลาโดยพ ร ะ โ อ ษ ฐเ อ ง

และที่เปนคําของสังคีติกาจารย บางแหงก็รวมทั้งอรรถกถา ท้ังไมไดทรงหมาย

เหตุไวใหชัดวาตอนไหนเปนคําตรัสเลา ตอนไหนเปนคําของรจนา เพราะทรง

แตงใหเปนหนังสือเลมใหมขึ้นตางหาก พรอมทั้งมีอธิบายและค ว า ม เ ห็น

สันนิษฐาน. สวนเร่ืองจากพระโอษฐ ที่ขาพเจารวบรวมมาน้ี เลือกเก็บและแปล

ออกเฉพาะตอนท่ีพระศาสดาตรัสเลาเรื่องของพระองคเอง จากบาลีอ ยา ง เ ดีย ว

ไมมีคําของพระสังคีติกาจารยหรือคันถรจนาจารยปนอยูเลย เพ่ือไมใหคละกัน

ดวยหวังวาจะเปนการสะดวกแกผูที่จะศึกษา และสันนิษฐานคัมภีรพุทธประวัติสืบไป,

แมเมื่อไปอานคัมภีรพุทธประวัติอ่ืนๆ ที่ทานรวบรวมข้ึนใหม เชน ปฐมสมโพธิ

เปนตนก็ดี ตลอดจนพุทธประวัติตางประเทศก็ดี จะเขาใจไดงายวา อะไรเปนแกน
และอะไรเปนเกร็ดของเรือ่ ง.

www.buddhadasa.infoเพราะฉะน้ัน เร่ืองพุทธประวัติจากพระโอษฐ ก็หมายความวาเรื่องท่ี

ทรงเลาเอง มีน้ําหนักย่ิงกวาบาลีธรรมดาทั่วไป เพ่ือใหไดหลักแหงพุทธประวัติ

แทๆ สําหรับศึกษาในข้ันแรกเสียกอน. ในลําดับตอไปจึงจะไดศึ ก ษ า ส ว น ท่ี

เปนคําของพระสังคีติกาจารย ตลอดมาจนถึงอรรถกถา และเรื่องเลากันปรัมปรา

อันเกี่ยวดวยพุทธประวัติทุกอยาง. เมื่อเปนเชนนี้ เราจะรูเรื่องพุทธประวัติ

ไดอยางทั่วถึง เปนหลักฐานมั่นคง, และรูวาไหนเปนแกน ไหนเปนกะพ้ี

ไหนเปน เปลือกเพยี งไรดวย, ซึง่ ถา มีโอกาสกค็ วรจะไดศ ึกษากันใหค รบทุกชนิด

คาํ นํา (๙ )
จากทีเ่ ปนหลักฐานท่ีสุด ไปหาท่ีมีหลักฐานเบาบาง. ในบัดน้ี ขอเชิญทานผูอาน
ศึกษาแกนแทข องพุทธประวัติ คือบาลจี ากพระพุทธโอษฐเปนขั้นแรก.

ขออุทิศกุศลเกิดแตการเผยแผธรรมอันน้ี เปนปฏิบัติบูชาแดพระผูมี
พระภาคเจาใจอภลิ ักขิตสมยั ตรงกบั วันประสตู ิ - ตรสั รู - นิพพานนีด้ วย.

อ.ป. เปรียญ และ น.ธ. เอก

ไชยา ๑ พฤษภาคม ๒๔๗๗

www.buddhadasa.info

คาํ นาํ

(เมือ่ พิมพค รั้งที่ ๒)

___________

ขาพเจาเห็นวาเปนการสมควรอยางยิ่ง ท่ีจะกลาวไวเสียในคราวนี้

ถึงมูลเหตุที่จะเกิดหนังสือเลมนี้ข้ึน. ในชั้นแรกที่สุด เนื่องจากขาพเจามีความ

สนใจในการคนหารองรอยแหงการศึกษาคนควา การปฏิบัติ และการเ ปน อ ยู

ประจําวัน ตลอดจนถึงวิธีการอบรมสั่งสอน และการแกปญหาเฉพาะห นา ตา ง ๆ

ของสมเด็จพระผูมีพระภาคเจา โดยประสงคจพนําเอาหลักเกณฑเหลาน้ันมามาใชใน

การท่ีจะทําความเขาใจในพระองค และทําตามรอยพระยุคลบาท หรือที่เ รีย ก

ต า ม ค ว า ม ห ม า ย อัน ก วา ง ข ว า ง อ ยา ง ห นึ่ง วา ก า ร ต า ม ร อ ย พ ร ะ อ ร หัน ต

ขาพเจาจึงพยายามเลือกเก็บเรื่องราวตาง ๆ ท่ีจะเปนประโยชนแกความมุงหมายอันนี้

เสมอมาจากท่ีทุกแหง. คร้ันไดมีการพยายามลองเก็บเรื่องราวจากพระไตรปฎก

โ ด ย ต ร ง ก็ไ ดพ บ เ รื่อ ง ร า ว อัน มีคา ม า ก ใ น ท า ง ที่จ ะ แ ส ด ง แ น ว ก า ร ป ฏิบัติ

และยังแถมอยูในพระพุทธภาษิตโดยตรงดวย, ขาพเจาจึงไดต้ังใจใหม คือในชั้นน้ี

จะเลือกเก็บเอาเฉพาะท่ีเปนพระพุทธภาษิตลวน ๆ กอนพวกหน่ึง เวนคํา พ ร ะ สัง คี-

ติกาจารยเสีย. ในที่สุดก็ไดเรื่องราวตางๆ ที่อยูในรูปตรัสเองพอแกความตอง
การจริง ๆ .

www.buddhadasa.infoสําหรับผูที่อยูนอกวัด ไมคุนกับพระไตรปฏกนั้น ควรจะทราบเสียกอน

วาพระไตรปฏกน้ัน พระสังคีติกาจารยผูรอยกรอง ทานเรียงเปนคําสอนของทานเอ ง

เลาเร่ืองราวตาง ๆ อันเก่ียวกับพระผูมีพระภาคเจา วาเมื่อประทับอยูที่นั่น ไ ดมี

เหตุการณเกิดข้ึนอยางน้ัน ๆ และไดตรัสถอยคําอยางน้ัน ๆ เปนเ รื่อ ง ๆ ไ ป

เปนสวนใหญ. ท่ีกลาวถึงพระสาวกหรือคนสําคัญบางคนโดยเฉพาะนั้น มีเปน

สวนนอย และนอกจากนั้นก็มีขอความพวกที่เปนคําอธิบายศัพทลึกซึ้งตาง ๆ คือพวกคัมภีร

นิเทศ. ในบรรดาสูตรตาง ๆ ทพี่ ระสังคตี ิกาจารยเลา เรื่องพระผูมี

(๑๐)

คาํ นํา (๑๑ )

พระภาคเจาโดยตรงน้ัน ก็มีนอยสูตรท่ีไดเลาถึงเร่ืองท่ีพระผูมีพระภาคเจา ตรัสเลา

ถึงพระประวัติ หรือการกระทําของพระองคเอง โดยพระองคเอง และยัง

แถมเปนการมีที่กระจัดกระจายอยูทั่วไป แหงละเล็กละนอย ที่น้ันบาง ท่ีนี้บา ง

เลยกลายเปนของที่ยังเรนลับ. ฉะนั้นเมื่อใครอยากทราบวา ถอยคําเฉพาะท่ี

พระองคไดตรัสเลาถึงเรื่องราวของพระองคเอง มีอยูอยางไรและเทาไรแลว

ผูนั้นจะตองทําการสํารวจพระไตรปฎก ผานไปทีละหนาทุก ๆ หนา ดวยความ

ระมัดระวัง และเลือกเก็บเอาออกมารวบรวมไว จนกวาการสํารวจจะทั่วตลอด

พระไตรปฎก แลวจึงเอาเรื่องทั้งหมดนั้นมาพิจารณาดูวา เรื่องอะไรเกิดกอ น

เกิดหลัง หรือคาบเกี่ยวกันอยางไร อีกตอหนึ่ง จึงจะไดเรื่องราวเหลานั้นต า ม

ความประสงค. ความยากลําบากอยูตรงท่ีเร่ืองราวเหลาน้ีมิไดรวมอยูท่ีตอนใด

ตอนหน่ึงของพระไตรปฎกดวยกันทั้งหมด แตไปมีแทรกอยูท่ีนั้นบางที่นี้บา ง

และบางแหงก็มีนิดหนอยและเรนลับ ตองตั้งอกตั้งใจเลือกเก็บกันจริงๆ :

เรื่องจึงตองใชเวลาแรมปในการเลือกเก็บ มารอยกรองใหติดตอกัน.

ในช้ันแรกทีเดียว ขาพเจามิไดมีความต้ังใจจะรวบรวมพระประวัติตรัส

เองเหลานี้ เพราะไมไดนึกคิดวาจะมีอยูโดยคิดเสียวา พระประวัติตา ง ๆ นั้น

มีเทาที่มีผูนํามารอยกรองและศึกษากันอยูแลวเทาน้ัน,และอีกอยางหน่ึงในขณะนั้น
www.buddhadasa.infoปญหาอยูอยางเดียว,การคนเรื่องจากพระไตรปฎก จึงมุงเลือกเก็บเฉพาะ
ขาพเจามุงมายแตจะคนหารองรอยของการปฏิบัติธรรมที่ยังเรนลับ เปน

เรื่องที่แสดงรองรอยของการปฏิบัติธรรมเรื่อยมา. เรื่องไดเปนไปเอง ในการท่ี

ไดพบเร่ืองการปฏิบัติธรรมที่ประสงคจะพบ จากบางตอนของคําตรัสเลาถึงการ

ปฏิบัติของพระองคเองในระยะตาง ๆ ท้ังในระยะที่ทรงทําความเพียรเพื่อตรัสรู

และตรัสรูแลวทําการสั่งสอนคนนานาชนิด. เรื่องที่ตรัสเลาถึงพระองคเอง

ในขณะท่ีทรงทําความเพียร เพ่ือตรัสรูนั้น เผอิญมีมากมาย เกินกวาท่ี

คํานาํ (๑๒ )

www.buddhadasa.info

(๑๒ ) พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ - คาํ นํา

ขาพเจาเคยนึกฝน และไดเกิดเปนเรื่องที่เปนประโยชนอ ยา ง ยิ่ง
แกบุคคลที่ประสงค จะ “ตามรอยพระยุคลบาท” ห รื อ ต า ม
รอยพระอรหันต; และไดทําใหเกิดความอิ่มใจแกข า พ เ จ า
เปนลนพนจนหายเหนื่อย. และขาพเจากลายืนยันเฉพาะในสวนนี้วา

ยังไมเคยมีใครที่ไดแตงหนังสือพุทธประวัติเลมใด ไดนําเอาเร่ืองราวตอนที่เปน
การคนควาทดลองกอนการตรัสรูของพระผูมีพระภาคเจา มาแสดงไวอยางครบถวน
เหมือนที่ขาพเจานํามาแสดงไวในหนังสือเลมนี้เลย. ทั้งนี้ไดแกขอความ
ต้ังแตหนา ๔๙ ถึงหนา ๑๐๔ แหงหนังสือเลมน้ี, และเปนขอความท่ีต รัส เ อ ง ลว น
โดยไมมีคําของพระสังคีติกาจารย และอรรถกาเขารวมอยูดวย เหมือนหนังสือ
พุทธประวัติทั้งหลาย ที่มีอยูแตกอนๆ โดยเฉพาะเรื่องราวภายใตหัว ขอ

วา “การทรงกําหนดสมาธิ นิมิตกอนตรัสรู”, “การทรงพยายามในญาณทัสนะ
เปนขั้น ๆ กอนการตรัสรู”, “การทรงทําลายความขลาดกอนตรัสรู”ฯลฯ

เหลานี้ ปรากฏวา เปนที่สบใจละอนุโมทนาแกเพื่อนักป ฏิบัติดว ย กั น
เปนอยางสูง ถึงกับใชเปนคูมือ. ถึงแมเร่ืองราวท่ีกลาวถึงเหตุการณหลังจากการ
ตรัสรูแลว เชนการทรมานเจาลัทธิตาง ๆ ในการสั่งสอน หรืออุบายวิธีแหงการ
สั่งสอน ก็ลวนแตเปนเรื่องแสดงรอยแหงการปฏิบัติธรรมอยูไมนอย อยาง
เดียวกัน.และยังมีเรื่องประเภทท่ีแสดงใหเราทราบถึง “ชีวิตประจําวัน” ของพระองค

www.buddhadasa.infoจนถึงกับทําใหเรารูสึกวา เราไดอยูใกลชิดกับพระองค ชนิดท่ีไดเห็นการเคลื่อนไหวเปน

ประจําวันของพระองคดว ย
การที่หนังสือเลมนี้เต็มไปดวยขอธรรมะ มากกวาเรื่องราวที่เปน

ประวัติน้ัน ก็เปนเพราะมูลเหตุที่มีการคนเพื่อหารองรอยแหงการปฏิบัติธรรมใน
พระชีวประวัติดังกลาวแลว นั่นเอง แลอีกประการหนึ่ง ซึ่งขาพเจาเพิ่งจะ
ตัดสินใจลงไปในภายหลังเมือ่ ไดพบความจริงอันนแี้ ลว กค็ ือ การต้ังใจวาจะให

คํานํา (๑๓ )

หนังสือเลมน้ีเปน “พุทธประวัติแหงการปฏิบัติธรรม” หรือ “พุทธประวัติที่มุง
แสดงไปในทางธรรม” นั้นเอง.

การรอยกรองหนังสือพุทธประวัติ เมื่อสังเกตดูเปนอ ยา ง ดีแ ลว
ปรากฏวา มีทางที่จะรอยกรองหนังสือพุทธประวัติไดถึง ๓ แนวดวยกันเปน

อยางนอย. แนวที่หน่ึง เปนหนังสือมุงโดยตรง ในการที่จะชักชวนคนใหเลื่อมใส

และโดยเฉพาะคนสวนใหญท่ีไมใชนักศึกษา ไดแกคนชาวบานทั่วๆ ไป ซึ่งตอง
หนักไปในทางปาฏิหาริย เชนหนังสือปฐมสมโพธิและลลิตวิศตระเปนตัวอยาง
จัดเปนหนังสือสรรเสริญพระคุณหรือ Gospel ไปพวกหนึ่ง ซึ่งนับวาเปนผล
ดีเลิศไปทางหนึ่ง คือยึดเหนี่ยวน้ําใจคนใหติดแนนในศาสนาของตนไ ดนั้น เ อ ง .
แตเน่ืองจากมุงหนักไปในทางปาฏิหาริยเกินไปนั่นเอง ทําใหเกิดความเบื่อหนายขึ้น
แกพวกนักศึกษาหรือนักปฏิบัติธรรมโดยตรง การมีหนังสือพุทธป ร ะ วัติ
แตประเภทนี้ประเภทเดียวจึงไมเปนหารเพียงพอ ทําใหตองมีประเภทอื่นดวย.

แนวที่สอง มุงแสดงไปในทางตํานานหรือประวัติศาสตร ซึ่งมุงแสดงแตเรื่องราว

ที่ใหคนทั้งหลายเห็นวาเปนความจริง และมีหลักฐานตามกฎเกณฑแหงวิชา
ประวัติศาสตรหรือวิทยาศาสตร อันเปนท่ีสบใจของนักศึกษาแหงสมัยปจจุบันน้ี
ซึ่งมีหนังสือพุทธประวัติ ของสมเด็จพระมหาสมณเจา กรมพระยาวชิรญาณวโรส

www.buddhadasa.infoหรือหนังสือ Life of Buddha ของดร. E.J. Thomas เปนตัวอยาง แตอยางไรก็ตาม
ทั้งสองแนวนี้ยังไมเปนที่สบใจของคนอีกพวกหน่ึง คือพวกนักปฏิบัติธรรมที่ใครจะ
ทราบวาพระองคทรงมีชีวิตแหงการปฏิบัติธรรมเปนมาต้ังแตออกผนวช จนถึงตรัสรู
ประกาศพระศาสนาและกระท่ังถึงวาระสุดทายคือการปรินิพพาน เปนอยางไร
โดยไมมีความสนใจในเรื่องการปาฏิหาริย หรือขอเท็จจริงทางปร ะ วัติศ า ส ต ร
เหตนุ จ้ี งึ เปน ความจําเปน ตามธรรมชาตทิ ่จี ะตองมีหนงั สอื พุทธประวัติแนวอ่ืนจาก

(๑๔ ) พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ - คํานํา

สองแนวนี้ตอไปอีก อันไดแก แนวที่สาม. แนวที่สาม มุงแสดงแตในทาง

ธรรมลวน ๆ คือแสดงขอธรรมะใหปรากฏชัดอยูทุก ๆ อากัปกิริยาของพระองค

เพื่อเปนหลักการแกผูหวังจะดําเนินตาม เราจะเห็นไดชัดเจนวา หนังสือ

พวกท่ีมุ งแสดงทางปาฏิหาริ ยก็แสดงหรื อเลือกแสดงให ละเอียดแต ตอนที ่จ ะ จ ูง ใ จ ค น

ไดดวยปาฏิหาริยแสดงคราว ๆ หรือกระโดดขามไปในตอนท่ีจะแสดงเปนธรรม-

บรรยาย และไมแสดงสวนที่เปนแงคิดทางตํานานหรือประวัติศาสตรเลย. และ

หนังสือพวกท่ีแสดงทางตํานานหรือประวัติศาสตรน้ันเลา ก็วินิจฉัยแตในแงที่จะเปน

ไปไดในทางตํานานหรือประวัติศาสตร ไมแสดงทางปาฏิหาริยหรือทางธรรมบรรยายเลย.

อันน้ีเปนการชี้ชัดถึงความตางออกไปของหนังสือพุทธประวัติ ประเภทท่ีมุงแสดงใน

ทางธรรม หรือช้ีรองรอยแหงการปฏิบัติธรรมโดยตรง ซึ่งขาพเจาปรารถนาอยางย่ิง

ในระยะท่ีทําการคนควา และไดตัดสินใจทําทันทีในเมื่อไดพบวามีอยูมากพอที่จะทําขึ้น

เปนหนังสือพุทธประวัติสักเลมหนึ่ง และก็ไดปรากฏข้ึนจริง ๆ ดังที่ทานไดเห็นอยูในบัดนี้.

ขาพเจายังไมอาจยืนยันวา หนังสือเลมนี้เปนหนังสือที่ควรจะถือไดวาเปนพุทธประวัติ

ที่มุงแสดงในทางธรรมโดยสมบูรณ เพราะเหตุวาขาพเจาทําไดเพียงในวงจํากัด คือ

เทาที่มีอยูในรูปแหงคําตรัสเลาและเทาท่ีจะเลือกเก็บเอามาจากพระไตรปฎก

โดยเฉพาะเทาน้ัน เพราะหลักการในการทํา หนังสือเลมนี้มีความจํากัดไวเพียงเทานี้.

www.buddhadasa.infoถาจะใหสมบูรณ ก็ตองไมจํากัดวาเทาท่ีตรัสไวจากพระโอษฐ แตตองรวบรวมเอา
ช้ันที่เปนคําสังคีติกาจารยทั่วไป และอรรถกถาและฎีกาทั่วไปเขามาดวย ซึ่งจะมี

เรื่องราวมากกวาหนังสือเลมที่ทานถืออยูนี้หลายเทานัก, แตอยางไรก็ตาม

ขาพเจาพอจะยืนยันไดวา สวนท่ีเปนคําตรัสเลาไวดวยพระองคเองน้ัน ขาพเจา

ไดพยายามรวบรวมมาจนหมดส้ิน, และพอใจที่จะยืนยันวา ดวยความมุงหมาย

ท่ีจะใหเปน หนังสอื ท่มี งุ แสดงไปในทางธรรม ดงั ทีก่ ลา วแลว.

คํานํา (๑๕ )

แมวาในหนังสือเลมน้ี มีเร่ืองราวบางตอนไปในทํานองป า ฏิห า ริย
ติดเจืออยูบาง เชนตอนอันวาดวยการอยูในช้ันดุสิต การจุติลงสูครรภ และการ
ประสูติเปนตนน้ัน ทานยอมเห็นไดอยูเองแลว วาเปนจํานวนเ พีย ง ๗ -๘ ห นา
ในหนังสือ ๓๕๗ หนา และย่ิงกวาน้ันทานยังจะเห็นไดสืบไปอีกวา ขอความท่ีเปน
ปาฏิหาริยตอนน้ี ถาใครพิจารณาดูใหดีแลวจะเห็นวา เปนสิ่งท่ีเราไมจําเปนจะตอง
ถือเอาตามตัวหนังสือเหลาน้ัน เพราะเปนสิ่งท่ีอธิบายใหเห็นเปนธรรมาธิษฐาน

ไดโดยงาย; เชนการท่ีพอประสูติออกมาก็ดําเนินได ๗ กาว ไปทางทิศเหนือ
เปลงคํายืนยันไดวาเปนผูชนะโลกท้ังปวง และไมมีการเกิดอีก; นี้เราเห็นไดวา

ผูกลาวมุงจะกลาวถึงการที่พระองคเกิดข้ึนเปนพระพุทธเจา ซ่ึงเปนการเกิดทางใจ
ตางหาก หาใชการเกิดทางเน้ือหนังไม, จํานวน กาว ๗ กาวนั้น พระอรรถกถาจารย
ใหคําอธิบายวา เปนการแสดงถึงขอปฏิบัติ ๗ ข้ันท่ีทําคนใหตรัสรู (เชนโพชฌงค ๗)
ก็มี, หรือนักวินิจฉัยบางทาน วาหมายถึงชนบทใหญ ๗ ชนบท ที่พระองคทรง

จาริกไปทําการประกาศคําสั่งสอนของพระองคก็มี, ที่วาเดินไปทางทิศเหนือ
ยอมหมายถึงการกลามุงหนาเขาไปประกาศตามกลุมศาสดาตาง ๆ ท่ีมีคนนับถือ
อยูกอนแลวในสมัยนั้น, ท่ีวาเปนผูชนะโลกทั้งหมด นี้เปนการยืนยันถึงขอท่ี
คําสอนนี้ เปนคําสอนสุดทายของโลก ท่ีใคร ๆ ไมอาจขุดคนคําสอนอันใด

www.buddhadasa.infoมาสอนโลกใหสูงย่ิงข้ึนกวานี้ไดอีกตอไป, และที่วาพระองคไมมีการเกิดอีก นั้น
ยอมหมายถึงขอท่ีพระองคไดทรงพบความจริงขอที่วา ท่ีแทไมมีคนเกิดคนตาย เพราะ
ไมมีคน, มีแตสังขารที่เกิดดับอยูตามธรรมดาเทานั้น. (สําหรับผูที่สนใจและวินิจฉัย
เร่ืองปาฏิหาริยตาง ๆ ทํานองนี้ ขาพเจาขอแนะใหอานหนังสือพุทธประวัติเลมหนึ่ง
ของสมเด็จพระมหาสมณเจา กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. สําหรับขาพเจาเองเห็นวา
ปาฏิหาริยนั้น เปนสิ่งท่ีจําเปนจะตองวินิจฉัย เพราะทานผูรอยกรองทานมุงหมาย
จะจูงใจคนดว ยอุบายวิธเี ชน นัน้ ทา นจึงไดด ดั แปลง หรอื รอ ยกรองขึ้นเชนน้ัน

(๑๖ ) พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ - คํานํา

ผูที่ตองการจะปฏิบัติธรรม ไมตองเอาใจใสก็ได โดยขามไปเอาใจใสในเรื่องการ

ปฏิบัติธรรมเสียทีเดียว. เร่ืองปาฏิหาริยตาง ๆ ก็เพื่อจูงคนเขามาหาการปฏิบัติ

ธรรมนี่เอง ก็เมื่อเราเขาถึงตัวการปฏิบัติธรรมเสียที่เดียวแลว จะมีปญหาอะไร

ดวยเรื่องอันเก่ียวกับปาฏิหาริย. ขืนไปวินิจฉัย ก็มีแตจะเสียเวลาจนหมดอายุ

แลวมิหนํายังจะมีทางวินิจฉัยผิดมากกวาถูก เพราะเปนเรื่องที่ทานมีความมุงหมาย

อีกอยางหนึ่งดังกลาวแลว. ฉะนั้น หนังสือพุทธประวัติเลมใด มุงแสดงไปในทาง

ปาฏิหาริย ก็ขอใหไดทาํ หนาที่ของหนังสือเลมนั้น ใหย่ิง ๆ ขึ้นไปก็แลวกัน).

แตยังมีขอพิเศษอยูขอหน่ึง สําหรับขอความที่เปนทํานองป า ฏิห า ริย

๗ - ๘ หนาที่พลัดเขามาอยูในหนังสือเลมที่ขาพเจารวบรวมขึ้นมานี้ ซ่ึงทานผูอานควรจะ

สังเกตไวดวย. ความแปลกอยูท่ีวา ขอความอันวาดวยเร่ืองการอยูในสวรรค

การจุติ และการประสูติ อยางมีปาฏิหาริยน้ี มีรวมอยูในบาลีอัจฉริยภูตธัมมสูตร

มัชฌิมนิกาย, แตเปนถอยคําของพระอานนทกลาว ทานกลาววาไดฟงขอความเชนนี้

มาจากพระพุทธโอษฐเอง แลวนํามาเลาอีกตอหนึ่ง, ไมเหมือนกับเ รื่ อ ง ร า ว

ตอนอ่ืน ๆ จากนี้ ซ่ึงเปนถอยคําท่ีพระสังคีติกาจารยท้ังหลาย ระบุลงไปวา พระผูมี

พระภาคเจาไดตรัสเลาเองโดยตรง. ทําไมพระสังคีติกาจารยท้ังหลายจึงรอยกรอง

ใหเร่ืองที่มีปาฏิหาริยรุนแรงเชนนั้น อยูในถอยคําของพระอานนทเสียชั้นหนึ่งกอน
(ซึ่งตามธรรมดาเราก็ทราบกันอยูแลววาในจํานวนพระสังคีติกาจารยทั้งหลายนั้น ก็มี

www.buddhadasa.infoพระอานนทรวมอยูดวยองคหน่ึง) แทนท่ีจะกลาวใหเปนคําที่พระองคตรัสโดยตรง

เหมือนสูตรอื่น ๆ , หรือยิ่งขึ้นไปกวาน้ัน เม่ือทานลองอานบาลีอัจฉริยภูตธัมมสูตร

ตอนน้ีดู ทานจะสงสัยตอไปวา ทําไมเรื่องจึงตองถูกจัดใหเปนวาใหพระอานนท

มากราบทูลเรื่องที่ทานไดฟงมาจากพระองคตอหนาภิกษุทั้งหลาย และตอพระพักตร

พระผูมีพระภาคเจาดว ยพรอมกันอีกครง้ั หนึ่ง. ปญหาขอ น้ี ไดเกิดแกขาพเจาแลว

คาํ นํา (๑๗ )

ในเมื่อไดพบเรื่องราวตอนน้ี และจะนํามารวมไวในหนังสือเลมน้ี. เมื่อขาพเจา

ยังคิดไมตกและเห็นวาเปนเรื่องไมมากมาย ก็ตัดสินใจในการที่จะรวบรวมเอา

มาแตก็ไดบันทึกไวใหทานผูอานไดตั้งขอสังเกตไวเปนพิเศษ เฉพาะตอนนี้แลว

ดังปรากฏอยูเชิงอรรถแหงเรื่องนั้นเอง. และใหสังเกตไวดวยวา เรื่องตอนน้ี

จัดเปนเรื่องจากพระโอษฐโดยออม ดังท่ีถอยคําในตัวเร่ืองตอนน้ัน ก็บงใหเห็นชัด

อยูแลว. รวมความวาในหนังสือเลมน้ีซึ่งมี ๓๕๗ หนา ๑ มีเร่ืองจากพระพุทธโอษฐ

โดยออ มเสีย ๗ หนา เศษ

ทีนี้ก็มาถึงเรื่องบางเร่ือง ที่ควรผนวกเขาไวในพุทธประวัติจากพระโอษฐ

คือเร่ืองตางๆ ที่คนภายนอกศาสนาเปนผูกลาว. ขาพเจาถือวาเร่ืองที่คนนอก

หรือคนท่ีเปนปฏิปกษตอกัน กลาวน้ัน เปนเรื่องที่มีความจริงอันจะพึงเชื่อถือได

ไมนอยกวาท่ีพระองคตรัสเอง. ขอน้ีโดยเหตุที่วา คนภายนอกที่เปนปฏิปกษ

ตอกัน ยอมลําเอียงเพื่อละโอกาสแตในทางที่จะสรรเสริญ ยอมไมลําเอียงในทางที่จะ

ตําหนิ. เมื่อมีความจําเปนที่จะกลาวออกมา ยอมไมลําเอียงไปในทางที่จะยกยอ

ใหเลิศลอย มีแตจะเพงตําหนิ เมื่อหาชองตําหนิไมได ก็ไดแตกลาวตามตรง. เราพอ

ที่จะถือเปนหลักไดวา เสียงสรรเสริญลับหลังของศัตรูนั้น มีความจริงอยางนอย

๑๐๐ เปอรเซ็นต. ดวยเหตุนี้ขาพเจาจึงถือวาเสียงจากคนนอกท่ีกลาวถึงพระองคนั้น

www.buddhadasa.infoมีน้ําหนักพอท่ีจะเช่ือถือไดเทากับทีพระองคตรัสเอง จึงไดนํามารวมไวในหนังสือ
เลมนี้ แตเพราะมิใชเปนเร่ืองออกจากพระโอษฐ จึงจัดไวในฐานะเปนเรื่องผนวก

ของพุทธประวัติจากพระโอษฐดังท่ีกลาวแลว. ท้ังหมดมีอยู ๒๗ หนาดวยกัน.

เฉพาะตอนนี้ มีเรื่องที่แสดงถึงพุทธอิริยาบถตาง ๆ อยางนาสนใจท่ีสุด และบาง

เร่อื งจะหาไมไ ดจ ากผอู ื่น, จึงขอใหนกั ศึกษาทาํ การศึกษาดวยความสนใจเปนพิเศษ.

๑. ในการพิมพค ร้ังท่ีสาม หนงั สือเพ่ิมข้นึ เปน ๓๙๖ หนา

(๑๘ ) พุทธประวตั จิ ากพระโอษฐ-คาํ นาํ

รวมความวา หนังสือเลมนี้ เกิดขึ้นเพราะมุงหมายจะรวบรวม

หลักแหงการปฏิบัติ อันจะพึงหาไดจากตัวอยางที่แสดงอยูที่พระวรกาย

ของพระพุทธองค, และถือเอาเฉพาะที่พระพุทธภาษิตตรัสเลาถึง

พระองคเอง เทาท่ีปรากฏอยูในพระไตรปฏก, มีเร่ืองปาฏิหาริยแทรกอยูเพียง

๗ สวน ในเรื่องราว ๓๕๗ สวน, มีเร่ืองราวท่ีเปนคํากลาวของคนนอก ซึ่งมีนํ้าหนัก

ควรเช่ือถือไดไ มน อยไปกวาท่ีพระองคต รสั เองรวมอยดู ว ย ๒๗ สว น ใน ๓๕๗ สวนนั้น.

หนังสือเร่ืองน้ี พิมพครั้งแรก เม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๙ มีเร่ืองรวมทั้งหมด

๑๕๑ เรื่อง, ในการพิมพครั้งนี้ ไดเพิ่มใหมอีก ๔๘ เรื่อง รวมทั้งหมดเปน

๒๓๖ เร่ือง, เร่ืองท่ีนํามาเพ่ิมเติมเขามาใหมในการพิมพคร้ังหลังนี้ เปนเรื่องที่

เพ่ิงคนพบหลังจากการพิมพครั้งแรกเม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๙ บาง, เปน เรื่องปลีกยอย

ซึ่งในการพิมพครั้งแรกเห็นวายังไมจําเปนจะตองนํามาใสไว แตในคร้ังนี้นํามาใสไว

ทั้งหมด เพื่อความสมบูรณของเรื่องบาง, รวมทั้งเรื่องซึ่งเปนพุทธประวัติ

จากพระโอษฐโดยออม คือบาลีอัจฉริยภูตธัมมสูตรที่กลาวขางตนน้ันดวย. เรื่องใด

เพิ่มเขาใหมในการพิมพคราวนี้ ไดทําเครื่องหมาย (พ.ม.) ไวที่สารบาญ

ทายชื่อเร่ืองน้ัน ๆ แลว.

ในการพิมพคร้ังน้ี ไดทําปทานุกรมทายเร่ืองอยางละเอียดท่ัวถึงยิ่งกวา

www.buddhadasa.infoคร้ังกอน จึงมีท้ังหมดดวยกันถึง ๑๘๘๘ คํา มีลักษณะแยกเปนพวก ๆ ในตัว คือ
คําท่ีเปนช่ือของบุคคลและสถานที่ นี้พวกหนึ่ง. คําที่เปนช่ือของเหตุการณตอนที่

สําคัญ ๆ ในพระชนมชีพ พวกหนึ่ง, ศัพทธรรมะตามปรกติพวกหนึ่ง, ศัพท

ธรรมะพิเศษ โดยเฉพาะคือคําบัญญัติของการปฏิบัติธรรมทางจิต สวนมาก

เก่ียวกบั สมาธิ และวปิ สสนา อีกพวกหนึง่ ซึง่ เปนทีส่ บใจของนกั ปฏิบัติธรรมท้ังหลาย.

คํานํา (๑๙ )

จากขอสังเกตท่ีไดจากการพิมพคร้ังที่หนึ่งน่ันเอง ทําใหขาพเจาไดทราบความสําคัญ
ของลําดับคํา หรือปทานุกรมทายเลม วามีอยูมากเพียงไร ในการพิมพครั้ง น้ี
จึงไดจัดใหชวยกันทําอยางละเอียด เทาที่จะทําได ซึ่งหวังวานักศึกษา จะไดพยายาม
ใชปทานุกรมทายเลมน้ีใหเปนประโยชนมาก เทากับความยากลําบากของผูทํา. ในการ
พิมพคร้งั แรก มเี พยี ง ๖๕๓ คํา

สําหรับหมวดธรรม ที่เปนพวก ๆ ไดเพิ่มขึ้นจากที่เคยมีในการพิมพ
คร้ังแรกเพียง ๖๙ หมวด เปน ๑๕๗ หมวด, ท้ังน้ีเนื่องจากการเพิ่มเนื้อเรื่อง
มากขึ้น และสาํ รวจเก็บเอามาอยา งทัว่ ถึงยิง่ กวาในการพมิ พคราวกอนดว ย.

สารบาญเร่ือง ไดจัดตามลําดับภาค และเรื่องในภาค ที่จัดเปลี่ยนแปลง
และเพิ่มเติมเขามาใหม เพื่อความสมบูรณ และสะดวกแกการศึกษา. ในการ
พิมพคราวนี้ ไดเพิ่มภาคนําขึ้นอีกภาคหนึ่ง เปนภาคพิเศษ, และในตัวเรื่อง
ก็ไดเพิ่มภาคข้ึนอีกภาคหนึ่ง จากที่เคยมีเพียง ๕ ภาค เปนมีข้ึน ๖ ภาค, โดยที่
จัดเรื่องอันเกี่ยวกับการปรินิพพานแยกออกไปเปนอีกภาคหน่ึง เพราะรวบรวมเรื่อง
มาไดมากขึ้น. และในภาคตาง ๆ ก็ไดโยกยายเร่ืองบางเรื่อง ใหไปอยูในภาคซึ่งควร
จะรวมอยู, และเร่ืองภาคผนวกอันวาดวยเรื่องตามเสียงคนภายนอกนั้น ก็ไดยกเอามา
ไวกอนหนาภาคอันวาดวยปรินิพพาน. ผูศึกษาจะตองทําความเขาใจเสียใหม
กันความสับสน.

www.buddhadasa.infoในการจัดทําตนฉบับพุทธประวัติจากพระโอษฐ ฉบับแกไขเพิ่มเติมนี้

ขาพเจารูสึกวา เปนการสมควรที่จะตองกลาวถึงความเหน็ดเหน่ือย ของเพื่อน
สหธรรมิก ๒-๓ รูปที่อาศัยอยูดวยกัน ในการชวยคัดลอกตนฉบับ, การทํา
ปทานุกรมทายเลม, การจัดลําดับหมวดธรรมและอ่ืน ๆ ไวในท่ีนี้ดวย. ขอให
กาํ ลงั ศรทั ธาปสาทะ และความเสียสละเหนด็ เหนือ่ ยรวมแรงกนั ในคราวน,ี้ จงเปน

(๒๐ ) พุทธประวตั จิ ากพระโอษฐ - คํานํา
อุปนิสัยแหงความเปน “สหายธรรมทาน” อันยิ่งขึ้นไปในอนาคตกาลนานไกล
และอุปนิสัยแหงความเสียสละเพื่องานเผยแพรพระศาสนา ย่ิงขึ้นในอนาคตอันใกล
นี้ดวย.

ในที่สุดนี้ ขาพเจาขออุทิศสวนกุศลอันเกิดแตความตรากตรําในงานชิ้นนี้
เปนถามพลีบูชาพระคุณแหงสมเด็จพระผูมีพระภาคเจา ดงท่ีเคยต้ังเปนปณิธานไวแลว
แตหนหลงั ทกุ ประการ.

อ.ป. เปรียญ และ น.ธ. เอก.

ไชยา ๑ ธนั วาคม ๒๔๔๙

www.buddhadasa.info

คํานํา

(เม่ือพิมพคร้งั ที่ ๓)
_________________

ในการพิมพคร้ังที่ ๓ นี้ ไมมีอะไรท่ีจะตองบอกกลาวเปนพิเศษ
นอกจากการเพิ่มเรื่องเขามาใหมอีก ๑๒ เร่ือง เทาท่ีเพ่ิงคนพบในระยะสุดทาย.
ดวยเหตุน้ี ปทานุกรมและหมวดธรรมทายเลม จึงเพิ่มขึ้นตามสวน ตามหนา
หนังสือที่เพ่ิมข้ึนจาก ๓๕๗ หนา เปน ๓๙๖ หนา โดยไมนับรวมปทานุกรม
และอ่ืน ๆ .

ขาพเจามีความสนใจที่จะกลาววา พุทธประวัติจากพระโอษฐ เทาที่
จะเลือกเก็บขึ้นมาได จากพระไตรปฏกฝายเถรวาทเรานั้น มีความสมบูรณ
เพียงเทาน้ี, เปนอันยุติการทําหนังสือพุทธประวัติจากพระโอษฐ ซึ่งทํามาเรื่อย ๆ
เทาที่เวลาวางจะอาํ นวยให เปนเวลานานถึง ๒๒ ป กันเสียที.

คําปรารภความสําคัญอยางอื่น ๆ ปรากฏชัดแจงอยูแลวในคํานําแหง
การพิมพคร้ังท่ีหน่ึง และครั้งที่สอง, ขอใหนํามาใชในโอกาสน้ีดวยโดยครบถวน.
ขาพเจาขอโอกาสปดฉากแหงการทําหนังสือพุทธประวัติจากพระโอษฐลง ดวยการ

www.buddhadasa.infoขอรองตอผูศึกษาทั้งหลาย ใหชวยกันทําการคนหารอยพระพุทธบาท สําหรับสัตว
ผูปรารถนาจะเดินตามรอยพระพุทธองค โดยวิธีที่ไดกลาวมาแลวในท่ีน้ัน ๆ ใหเต็ม
ตามความปรารถนาของตน ๆ สืบไป โดยเฉพาะในสมัยท่ีเราสมมติกันวา เปนยุค
ก่ึงพุทธกาลนีเ้ ปนพิเศษ.

อ.ป.

๑ เมษายน ๒๔๙๘

(๒๑)

คาํ นาํ

(เมอ่ื พมิ พครัง้ ท่ี ๖)

_________

การพิมพหนังสือพุทธประวัติจากพระโอษฐเปนครั้งท่ีหกนี้ ไดเปลี่ยนไป

เปนการพิมพดวย “ทุนพระยาลัดพลีธรรมประคัลภ” เปนเรื่องอันดับที่หนึ่ง

ของหนังสือชุด “ลัดพลีธรรมประคัลภอนุสรณ” มีรายละเอียดดังกลาวไวใน

คําปรารภตอนตน ของหนงั สอื นแ้ี ลว.

ในการพิมพครั้งน้ี มิไดมีการแกไขเพ่ิมเติมแตประการใด เพียงแตมี

การตรวจสอบการพิมพผิดพลาดตกหลน ของตัวเลขที่บอกหนาแหงที่ม า ใ น

พระไตรปฏก อยางท่ัวถึงอีกครั้งหน่ึง เทานั้น. ดังน้ัน ถาทานผูใดสังเกตเห็นความ

เปลี่ยนแปลงอันน้ี อยาไดเขาใจเปนอยางอ่ืน ขอใหถือเอาการแกไขใหมในครั้งน้ี

วาเปนการถกู ตอง.

กองตําราคณะธรรมทาน, ไชยา

www.buddhad๒๓aมกรsาคม ๒a๕๑๓ .info

(๒๒)

สารบญั ๑
พุทธประวัติจากพระโอษฐ

วิธีใชห นังสือเลม น้ี

ภาคนํา

ขอ ความใหเกดิ ความสนใจในพระพุทธประวตั ิ

โลกธาตหุ นง่ึ มีพระพุทธเจา เพียงองคเ ดยี ว

การปรากฏของพระตถาคต มีไดยากในโลก

โลกที่กาํ ลงั มัวเมา กย็ งั สนใจในธรรมของพระตถาคต
๑๐
การมธี รรมของพระตถาคตอยใู นโลก คือความสุขของโลก
๑๑
พระตถาคตเกิดข้ึนเพ่อื ความสุขของโลก ๑๒
พระตถาคตเกิดข้ึนในโลกเพอ่ื แสดงแบบแหง การครองชีวิต ๑๒
๑๓
อนั ประเสริฐแกโลก ๑๔
๑๕
พระตถาคตเกดิ ขน้ึ แสดงธรรมเพอ่ื ความรํางับ, ดับ, รู
ผูเช่ือฟง พระตถาคต จะไดรบั ประโยชนส ขุ สิ้นกาลนาน
ทรงขนานนามพระองคเ องวา “พทุ ธะ
เรอ่ื งยอ ทค่ี วรทราบกอน
เร่อื งสั้น ๆ ทีค่ วรทราบกอน (อกี หมวดหน่งึ )

ภาค ๑ ๑๙
เริม่ แตการเกดิ แหงสากยวงศเ ร่ืองกอ นประสตู ิ จนถงึ ออกผนวช. ๑๙
การเกดิ แหงวงศส ากยะ ๒๐
พวกสากยะอยูใตอาํ นาจพระเจา โกศล ๒๑
แดนสากยะข้ึนอยใู นแควน โกศล ๒๑
แดนสากยะขึ้นอยใู นแควน โกศล ๒๒
การจุติจากดุสิตลงสคู รรภ ๒๓
เกดิ แสงสวา งเนอื่ งดวย การจุตจิ ากดุสติ ๒๔
แผนดินไหว เนอ่ื งดวยการจุติ ๒๔
การลงสคู รรภ ๒๔
การอยใู นครรภ ๒๖
การประสูติ ๒๘
เกดิ แสงสวา ง เนอ่ื งดว ยการประสตู ิ ๒๘
แผน ดินไหว เน่ืองดวยการประสูติ ๒๙
ประกอบดวยมหาปุริสลกั ขณะ ๓๒ ๓๑
บุรพกรรมของการไดมหาปรุ ิสลกั ขณะ ๓๘
ประสตู ไิ ด ๗ วนั พระชนนีทิวงคต ๓๘
ทรงไดรบั การบาํ เรอ ๔๐
กามสขุ กบั ความหนา ย ๔๒
ทรงหลงกามและหลุดจากกาม ๔๒
ความรสู กึ ทถี่ งึ กับทาํ ใหอ อกผนวช ๔๕
การออกผนวช ๔๕
ออกผนวชเมอ่ื พระชนม ๒๙

ภาค ๒ ๔๙
๔๙
เรม่ิ แตออกผนวชแลว เทย่ี วเสาะแสวงหาความรู ทรมานพระองค ๕๑
จนไดต รสั รู. ๕๓

เสด็จสํานกั อาฬารดาบส ๕๔
๕๙
เสด็จสํานักอทุ กดาบส ๖๑
๖๕
เสดจ็ ไปอรุ ุเวลาเสนานคิ ม ๖๖
ทรงประพฤตอิ ตั ตกิลมถานุโยค (วัตรของเดียรถีย) ๖๗
อปุ มาปรากฏแจม แจง ๖๘
ทุกรกิรยิ า ๖๙
ทรงกลบั พระทันฉนั อาหารหยาบ ๗๓
ภกิ ษุปญ จวคั คียห ลีก ๗๗
ทรงตริตรกึ เพ่อื ตรสั รู ๗๘
ทรงเทีย่ วแสวงเพื่อความตรสั รู ๗๙
ทรงคอยควบคมุ วติ ก กอ นตรัสรู ๘๐
ทรงกาํ หนดสมาธนิ มิ ติ กอนตรสั รู ๘๑
ทรงกน้ั จิตจากกามคุณในอดีต กอนตรสั รู ๘๔
ทรงคนวธิ ีแหง อทิ ธบิ าท กอนตรัสรู ๘๖
ทรงคดิ คน เรอ่ื งเบญจขันธ กอนตรสั รู ๘๙
ทรงแสวงเนอ่ื งดวยเบญจขันธ กอ นตรสั รู ๙๐
ทรงคนลูกโซแ หงทุกข กอนตรัสรู ๙๔
ทรงพยายามในญาณทัศนะเปน ขัน้ ๆ กอ นตรสั รู ๑๐๔
ทรงทําลายความขลาด กอ นตรสั รู
ธรรมท่ที รงอบรมอยางมาก กอ นตรัสรู
วิหารธรรมที่ทรงอยมู ากทส่ี ดุ กอนตรัสรู
ทรงพยายามในเนกขัมมจิตและอนปุ พุ พวิหารสมาบตั ิ กอ นตรัสรู
ทรงอธิษฐานความเพียร

ความฝนครง้ั สาํ คญั กอนตรสั รู ๑๐๔
อาการแหง การตรัสรู ๑๐๖
สง่ิ ที่ตรัสรู ๑๐๙
เกดิ แสงสวางเนื่องดวยการตรสั รู ๑๑๒
แผน ดนิ ไหว เนื่องดวยการตรสั รู ๑๑๓
การรูสึกพระองควาไดตรัสรูแ ลว ๑๑๔

ภาค ๓ ๑๑๗
เริม่ แตตรัสรแู ลวทรงประกอบดว ยพระคณุ ธรรมตาง ๆจนเสดจ็ ไปโปรด ๑๑๗
ปญ จวคั คยบรรลผุ ล. ๑๑๘
ทรงเปนลูกไกต วั พี่ทสี่ ดุ ๑๑๙
ทรงเปน ผูขม อนิ ทรยี ไ ด ๑๒๑
ทรงมีตถาคตพลญาณสิบอยาง ๑๒๒
ทรงมเี วสารชั ชญาณส่ีอยา ง ๑๒๔
ทรงมีวธิ ี "รุก" ขา ศกึ ใหแ พภยั ตวั ๑๒๕
ทรงมีธรรมสีหนาททที่ ําเทวโลกใหส น่ั สะเทือน ๑๒๖
ทรงมธี รรมสหี นาทอยา งองอาจ ๑๒๘
ส่งิ ที่ใคร ๆ ไมอ าจทว งตงิ ได ๑๒๙
ไมทรงมีความลบั ท่ตี อ งใหใครชวยปกปด ๑๒๙
ทรงเปนอัจฉริยมนษุ ยในโลก ๑๓๑
ทรงตา งจากมนษุ ยธรรมดา ๑๓๑
ทรงบังคับใจไดเดด็ ขาด ๑๓๒
ไมท รงติดแมใ นนพิ พาน ๑๓๓
ทรงมีความคงท่ีตอ วสิ ยั โลก ไมมีใครยิง่ กวา ๑๓๔
ทรงยนื ยันในคณุ ธรรมของพระองคเ องได ๑๓๘
ทรงยืนยันพรหมจรรยของพระองควาบรสิ ทุ ธ์ิเตม็ ที่
ส่ิงทีไ่ มตองทรงรกั ษาอีกตอ ไป

ทรงฉลาดในเรื่องซงึ่ พน วสิ ยั โลก ๑๓๙
ทรงทราบทฏิ ฐิวตั ถทุ ีล่ กึ ซ้งึ (ทิฏฐิ ๖๒) ๑๔๐
ทรงทราบสวนสดุ และมัชฌิมา ๑๔๔
ทรงทราบพราหมณสัจจ ๑๔๕
ทรงทราบพรหมโลก ๑๔๗
ทรงทราบคตหิ า และนิพพาน ๑๔๙
ทรงแสดงฤทธ์ิได เพราะอิทธิบาทส่ี ๑๕๐
ทรงมีอทิ ธิบาทเพื่ออยูไดถ งึ กปั ป ๑๕๑
ทรงเปลง เสยี งคราวเดยี ว ไดยินตลอดทุกโลกธาตุ ๑๕๒
ทรงมปี าฎิหาริยสามอยา ง ๑๕๓
เหตุทีท่ ําใหไดท รงพระนามวา ตถาคต ๑๕๕
ทรงเปนสมั มาสัมพุทธะ เม่ือทรงคลองแคลว ใน อนุปุพพวิหารสมาบัติ ๑๕๖
ทรงปฏญิ ญาเปน อภสิ ัมพทุ ธะ เม่ือทรงทราบอรยิ สจั จห มดจดสิ้นเชงิ ๑๕๗
ไมท รงเปน สพั พญั ูทกุ อริ ยิ าบถ ๑๕๗
ทรงยนื ยันความเปนมหาบรุ ุษ ๑๕๘
ไมม ีใครเปรียบเสมอ ๑๖๐
ไมท รงอภิวาทผูใด ๑๖๑
ทรงเปนธรรมราชา ๑๖๑
ทรงเปนธรรมราชาท่ีเคารพธรรม ๑๖๒
ทรงคดิ หาที่พงึ่ สาํ หรับพระองคเ อง ๑๖๓
ทรงถกู พวกพราหมณตัดพอ ๑๖๕
มารทูลใหนพิ พาน ๑๖๖
ทรงทอ พระทัยในการแสดงธรรม ๑๖๖
พรหมอาราธนา ๑๖๗
ทรงเห็นสัตวด ุจดอกบัว ๓ เหลา ๑๖๙
ทรงแสดงธรรมเพราะเหน็ ความจาํ เปน ของสตั วบ างพวก ๑๗๐
ทรงเห็นลทู างท่ีจะชว ยปวงสตั ว ๑๗๐

ทรงระลึกหาผูรับปฐมเทศนา ๑๗๑
เสด็จพาราณสี – พบอปุ กาชีวก ๑๗๓
การโปรดปญจวัคคยี หรอื การแสดงปฐมเทศนา ๑๗๔
ทรงประกาศธรรมจกั รที่อิสิปตนมฤคทายวัน ๑๗๘
แผนดินไหวเน่อื งดวยการแสดงธรรมจกั ร ๑๗๙
เกิดแสงสวา งเนื่องดว ยการแสดงธรรมจักร ๑๗๙
จักรของพระองคไมมใี ครตา นทานได ๑๘๐
ทรงหมนุ แตจ กั รทีม่ ธี รรมราชา (เปนเจาของ) ๑๘๑
การปรากฏของพระองคคือการปรากฏแหงดวงตาอนั ใหญห ลวงของโลก ๑๘๒

ภาค ๔

เร่ืองเบ็ดเตลด็ ใหญน อ ยตา ง ๆตงั้ แตโปรดปญ จวัคคยี แ ลว ไปจนถงึ

จวนจะปรินพิ พาน. ๑๘๗

(ก. เก่ียวกบั การประกาศพระศาสนา ๒๓ เรื่อง) ๑๘๗

การประกาศพระศาสนา ๑๘๗

หลกั ทที่ รงใชใ นการตรสั (๖ อยา ง) ๑๘๘

อาการทท่ี รงแสดงธรรม ๑๘๙

ทรงแสดงธรรมดวยความระมัดระวังอยา งยิ่ง ๑๘๙

อาการท่ีทรงบัญญตั วิ นิ ยั ๑๙๐

หวั ใจพระธรรมในคาํ “บรภิ าส” ของพระองค ๑๙๒

ทรงเปนยามเฝา ตล่ิงใหปวงสตั ว ๑๙๔

ทรงสอนเชน เดยี วกับพระพุทธเจาทง้ั ปวง ๑๙๕

ทรงสามารถในการสอน ๑๙๖

ทรงสามารถย่ิง ในการสอน ๑๙๗

ส่งิ ท่ตี รัสรูแตไ มท รงนํามาสอนมีมากกวาที่ทรงนาํ มาสอนนัก ๑๙๙

คําของพระองค ตรงเปนอันเดียวกันหมด ๒๐๑

ทรงสอนเฉพาะแตเ รื่องทกุ ขกับความดับสนทิ ของทุกข ๒๐๑

ทรงมีหลกั เกณฑการฝก ตามลาํ ดบั (อยางยอ ) ๒๐๒
ทรงฝก สาวกเปน ลาํ ดับ ๆ ๒๐๖
เรื่องท่ไี มท รงพยากรณ ๒๑๑
เร่ืองทที่ รงพยากรณ ๒๑๓
ผฟู ง พอใจคาํ พยากรณข องพระองค ๒๑๔
ไมไ ดท รงพยากรณเ พือ่ ใหช อบใจผูฟ ง ๒๑๔
คําพยากรณนัน้ ไมต องทรงคิดไวกอน ๒๑๕
ทรงฆาผูท ่ีไมร บั การฝก ๒๑๖
เหตทุ ่สี าวกบางคนไมไดบรรลุ ๒๑๘
ทรงบัญญัตโิ ลกุตตรธรรมสาํ หรบั คนทวั่ ไป ๒๒๐

( ข. เกยี่ วกับสาวกของพระองค ๑๕ เรอื่ ง )

ทรงบริหารสงฆ จํานวนรอย ๒๒๓

ทรงรบั รองภกิ ษแุ ตบางรปู วาเปนคนของพระองค ๒๒๔

ทรงมศี ิษยท งั้ ท่ีดื้อ และไมดื้อ ๒๒๕

สาวกของพระองคห ลุดพน เพราะพิจารณาความเปนอนัตตาในเบญจขันธ ๒๒๖

สาวกของพระองคเสียชพี ไมเสียศีล ๒๒๖

ทรงขอใหส าวกเปน ธรรมทายาทอยาเปนอามสิ ทายาท ๒๒๗

ทรงถือวา ภิกษุสาวกทุกวรรณะ เปนสมณสากยปตุ ติยะโดยเสมอกนั ๒๒๘

ทรงมีคณะสาวกซึง่ มปี าฏิหารยิ  ๒๒๙

ทรงเปนพเี่ ลย้ี งใหแกสาวก ชัว่ ระยะจาํ เปน ๒๓๐

ทรงมีพระสารีบุตรเปนผรู องลาํ ดบั ๒๓๑

ทรงมีพระสารีบุตรเปนผูประกาศธรรมจักรเสมอดว ยพระองค ๒๓๒

มหาเถระผูม สี มาบตั แิ ละอภญิ ญาเทยี มพระองค ๒๓๓

สวนทส่ี าวกเขมงวดกวา พระองค ๒๓๔

เหตุท่ที ําใหมผี ูมาเปน สาวกของพระองค ๒๓๖

ไมทรงทาํ อโุ บสถกบั สาวกอกี ตอไป ๒๓๗

(ค. เก่ยี วกบั ความเปน อยสู ว นพระองค ๑๖ เรื่อง ) ๒๓๘
ไมท รงติดทายก ๒๓๙
ทรงเสพเสนาสนะปา เร่ืองไป เพ่ือใหเ ปนตวั อยา ง ๒๔๐
ทรงพอพระทัยความสามัคคเี ปน อยา งยิ่ง ๒๔๑
ทรงมีความสขุ ย่งิ กวา มหาราช ๒๔๒
ทรงฉันอาหารวนั หน่งึ หนเดียว ๒๔๒
ทรงฉนั อาหารหมดบาตรกม็ ี ๒๔๓
ทรงมีการประทม อยา งตถาคต ๒๔๔
ตัวอยางเพยี งสว นนอ ย ของความสขุ ๒๔๕
ทรงนบั พระองคว า เปน ผหู นง่ึ ในบรรดา ๒๔๗
ท่ปี ระทับนง่ั นอนของพระองค ๒๔๙
ทรงเปน สมณะสขุ ุมาลในบรรดาสมณะ ๒๕๐
ทรงทาํ นาทมี่ ีอมตะเปนผล ๒๕๒
การทรงหลีกเรน เปน พเิ ศษบางคราว ๒๕๒
การเสดจ็ สทุ ธาวาส ๒๕๓
ทรงมีฌานแนว แนช ัน้ พิเศษ ๒๕๔
กลั ยาณมติ รของพระองคเอง
๒๕๕
( ง. เกี่ยวกับลัทธิอื่นๆ ๑๖ เร่ือง ) ๒๕๖
พอดวงอาทิตยข น้ึ หง่ิ หอยกอ็ บั แสง ๒๕๗
ลทั ธิของพระองคก ับของผอู ืน่ ๒๕๘
ไมไ ดท รงติการบําเพ็ญตบะ ไปเสยี ตะพดึ ๒๕๙
ไมทรงตําหนิการบชู ายัญไปเสียทงั้ หมด ๒๕๙
บางกฎท่ีทรงยกเวนแกบางคน ๒๖๑
ทรง “ เยาะ “ ลทั ธิที่วา สขุ ทุกขเพราะกรรมเกาอยา งเดียว ๒๖๒
ทรง “เยาะ” ลทั ธทิ ่ีวา สขุ ทุกขเพราะการบันดาลของเจา นาย
ทรง “เยาะ” ลทั ธทิ ีว่ า สุขทกุ ขไ มม อี ะไรเปนเหตเุ ปน ปจ จยั

ทรงระบุลัทธมิ ักขลิวาท วาเปนลทั ธิทําลายโลก ๒๖๒

( จ. เก่ยี วกบั การทีม่ ผี ูอ่ืนเขาใจผดิ ๑๔ เรอื่ ง ) ๒๖๔
ทรงทาํ ผูมงุ รา ยใหแพภยั ตวั เอง ๒๖๕
ไมเคยทรงพร่นั พรึงในทา มกลางบรษิ ทั ๒๖๖
ทรงสมาคมไดอยางสนิทสนม ทกุ บรษิ ัท ๒๖๗
ทรงทาใหใ ครปฏเิ สธธรรมะที่พระองครบั รอง ๒๖๙
ทรงทา วา ธรรมทท่ี รงแสดงไมม ใี ครคา นได ๒๗๒
ทรงยืนยนั เอง และทรงใหส าวกยืนยนั วา มสี มณะในธรรมวนิ ยั นี้ ๒๗๓
โพชฌงคปรากฏ เพราะพระองคปรากฏ ๒๗๔
ไมไดทรงประพฤติพรหมจรรยเพื่อใหเ ขานับถือ ๒๗๕
พรหมจรรยนี้ มใิ ชมลี าภเปน อานสิ งส ๒๗๕
ทรงแกข อ ท่ีเขาหาวาเกียดกันทาน ๒๗๖
ทรงแกขอทถ่ี กู เขาหาวา ทรงหลง ๒๗๗
ทรงถูกตูเร่อื งฉนั ปลาฉนั เน้ือ ๒๗๘
แงท ี่เขากลาวหาพระองคอยางผิด ๆ ๒๘๐
มนุษยบุถุชน รูจกั พระองคน อยเกินไป
๒๘๖
(ฉ.เกีย่ วกบั เหตุการณพเิ ศษบางเร่ือง ๑๖ เรื่อง)
การทรงแสดงความพน เพราะสิน้ ตณั หา ๒๘๗
การเกิดของพระองค ไมก ระทบกระเทอื นถงึ กฎธรรมชาติ ๒๘๙
(การทรงแสดงไตรลกั ษณ) ๒๙๐
การทรงแสดงเหตุของความเจรญิ ๒๙๑
การตรัสเรื่อง “ทกุ ขน ใ้ี ครทําให ?” ๒๙๒
การสนทนากบั “พระเหมน็ คาว” ๒๙๓
การตอบคําถามของทัณฑปาณิสกั กะ
การสนทนากับ นิครนถ

ทรงสนทนากะเทวดา เรื่องวมิ ตุ ติของภกิ ษุณี ๒๙๕
การสนทนาเรื่องทสี่ ุดโลก ๒๙๕
การตรัสเรอื่ ง “มหาภูต” ไมหยง่ั ลงในทไ่ี หน ๒๙๗
การมาเฝา ของตายนเทพบตุ ร ๒๙๙
การมาของอนาถปณ ฑิกเทพบตุ ร ๓๐๐
การมาเฝาของจาตมุ มหาราช ๓๐๑
การขม ลจิ ฉวี ผูมวั เมาในปาฏหิ ารยิ  ๓๐๓

ผนวกภาค ๔

ตามเสียงคนนอกทีก่ ลาวถงึ พระองค ๓๐๘

ตามเสยี งกระฉอนท่วั ๆ ไป

: ทรงเปนสมั มาสมั พทุ ธะประกาศพรหมจรรยบรสิ ทุ ธ์ิ ๓๑๐

ตามเสยี งของผูสรรเสริญธรรมเทศนา: ทรงมีธรรมเทศนาเปนแสงสวา ง ๓๑๑

ตามเสียงของปริพพาชกวจั ฉโคตร : ทรงมคี ําสอนที่เปน แกน แทลว น ๓๑๑

ตามเสียงของคณกะโมคคลั ลานพราหมณ “โอวาทของพระโคดมเปน ยอด” ๓๑๒

ตามเสยี งของสัจจกะนิครนถ “เจอะพระโคดมแลว ไมม ีรอดไปได” ๓๑๓

ตามเสยี งของเจาลจิ ฉวี ทุมมุขะ : ทรงหกั ลางถอ ยคําของปรปกษไ ด

เหมอื นเด็ก ๆ รมุ กันตอยกามปู ๓๑๔

ตามเสียงของปรพิ พาชกคณะแมน ้าํ สปั ปน ี : ไมม ีชอ งทางท่ีใครจะขนั สู

พระผมู พี ระภาคเจา ๓๑๔

ตามเสยี งของปโ ลตกิ ะปรพิ พาชก : ทรงมคี ุณธรรมลกึ จนผูอื่นไดแ ตเ พียง

อนมุ านเอา ๓๑๕

ตามเสยี งสสั สการพราหมณ : ทรงมีคณุ ธรรมสงู ๔ ประการ ๓๑๘

ตามเสียงของหัตถกเทวบตุ ร : ทรงแออดั อยดู ว ยบรษิ ัทนานาชนิด ๓๑๙

ตามเสยี งของโลหิจจพราหมณ : ทรงมีอนามัยเปนอยางดี ๓๒๐

ตามเสยี งของโสณทัณฑพราหมณ : ทรงมคี ุณสมบัตสิ งู ทุกประการ ๓๒๑

ตามเสยี งของอุตตรมาณพ : ทรงประกอบดว ยมหาปรุ สิ ลกั ขณะ ๓๒ ๓๒๔

: ทรงมลี ีลาศสงา งดงาม ๓๒๕
: ทรงมมี รรยาทเปนสงา นา เล่ือมใส ๓๒๕
: ไมท รงต่นื เตน พระทัย ในบา น ๓๒๖
: ทรงฉันภัตตาหารในหมบู านเรียบรอยนัก ๓๒๖
: ไมทรงตดิ ในรสอาหาร ๓๒๗
: ทรงมีวัตรในบาตร ๓๒๗
: การเสด็จกลบั จากฉนั ในหมูบาน ๓๒๗
: ทรงนงุ หมกะทัดรัด ๓๒๘
: ทรงมงุ แตความเกือ้ กูลสตั ว ๓๒๘
: การแสดงธรรมดว ยพระสําเนียงมีองค ๘ ๓๒๘
ตามเสียงของพระเจา ปเสนทโิ กศล : ทรงมคี ณะสงฆท่ี
ประพฤติพรหมจรรยต ลอดชีวติ ๓๒๙
: ทรงมีคณะสงฆท ่ีพรอมเพรียง ๓๓๐
: ทรงมคี ณะสงฆทช่ี มุ ชน่ื ผองใส ๓๓๑
: ทรงมสี งั ฆบรษิ ทั ท่เี งยี บเสยี ง ๓๓๑
: ทรงชนะคนมุงรา ยท่ีเขา เฝา ๓๓๒
: ทรงชนะน้ําใจคน โดยทางธรรม ๓๓๓
: ทรงเสมอกบั พระเจา โกศลโดยวัย ๓๓๔
ตามเสยี งของคณกะโมคคลั ลานพรามหณ
: ทรงคบและไมท รงคบบุคคลเชนไร ๓๓๔

ภาค ๕ ๓๓๙
การปรินิพพาน ๓๓๙
แปดสบิ ปยงั ไมฟน เฟอ น ๓๔๐
ทรงทําหนา ท่ีพระพุทธเจา บริบูรณแ ลว ๓๔๑
เรอ่ื งเบ็ดเตลด็ กอนหนา ปรนิ พิ พาน : การตรสั ภกิ ษอุ ปรหิ านิยธรรม ๓๔๒
เสด็จสวนอมั พลฏั ฐิกา ๓๔๒
เสดจ็ เมอื งนาลันทา

เสด็จบา นปาฎลคิ าม ๓๔๓
เสดจ็ บา นโกฏคิ าม ๓๔๔
เสดจ็ หมบู านนาทกิ ะ ๓๔๔
เสด็จเมอื งเวสาลี ๓๔๕
เสด็จบา นเวฬุวคาม ๓๔๖
เสด็จทิวาวหิ าร ท่ปี าวาลเจดยี  ๓๔๖
ทรงปลงอายสุ ังขาร ๓๔๗
เสด็จปามหาวนั ๓๔๘
เสด็จบานภณั ฑคาม ๓๕๐
เสดจ็ บา นหตั ถิคาม โดยลาํ ดบั ๓๕๐
เสดจ็ เมืองปาวา ๓๕๑
เสด็จเมืองกสุ ินารา ๓๕๑
การปรนิ ิพพาน หรือ การประทบั สหี เสยยา คร้งั สดุ ทาย ๓๕๓
แผน ดินไหว เนอ่ื งดวยการปรินพิ พาน ๓๕๘
เราเหน็ พระองคไ ดชัว่ เวลาทย่ี งั ปรากฏพระกาย ๓๕๘
การปรนิ ิพพานของพระองคค ือความทุกขรอนของมหาชน ๓๕๙
สงั เวชนียสถานภายหลงั พทุ ธปรินิพพาน ๓๖๐

ภาค ๖

เรอ่ื งการบําเพ็ญบารมีในอดตี ชาติ

ซึง่ เต็มไปดว ยทิฏฐานุคตอิ นั สาวกในภายหลังพงึ ดาํ เนินตาม. ๓๖๕

ตองทองเทีย่ วมาแลว, เพราะไมรูอ รยิ สจั จ ๓๖๖

ตลอดวัฏฏสงสารของพระองคไมเ คยทรงบังเกิด ในชั้นสุทธาวาส ๓๖๖

ในวฏั ฏสงสารท่ีลวงมาแลว เคยทรงบชู ายัญญแ ละบาํ เรอไฟแลว อยา งมาก ๓๖๗

ทฏิ ฐานุคตแิ หงความดที ่ีทรงส่ังสมไวแ ตภพกอน ๆ ๓๖๘

เคยทรงบงั เกดิ เปนมหาพรหม สักกะ ฯลฯ ๓๗๑

ครั้งมีพระชาติเปนโชตปิ าลมาณพ ๓๗๒

คร้งั มีพระชาตเิ ปน พระเจา มหาสุทศั น ๓๗๕
ครงั้ มพี ระชาตเิ ปน ปุโรหิตสอนการบูชายัญญ ๓๗๗
ครัง้ มพี ระชาตเิ ปนพระเจา มฆเทวราช ๓๗๙
ครง้ั มีพระชาตเิ ปน มหาโควนิ ทพราหมณ ๓๘๒
ครง้ั มีพระชาตเิ ปนรถการ ชางทํารถ ๓๘๓
ครัง้ มพี ระชาตเิ ปนอกติ ติดาบส ๓๘๕
ครั้งมพี ระชาติเปน พระจนั ทกมุ าร ๓๘๗
คร้ังมพี ระชาตเิ ปน สังขพราหมณ ๓๘๗
ครัง้ มีพระชาติเปน เวลามพราหมณ ๓๘๘
ครง้ั มีพระชาติเปน พระเวสสันดร ๓๘๙
ครั้งมีพระชาติเปน มาตังคชฎลิ ๓๙๓
ครัง้ มีพระชาติเปนจฬู โพธิ ๓๙๔
คร้ังมพี ระชาติเปนเจาชายยุธัญชยะ ๓๙๕
ทสี่ ดุ แหง การทองเท่ียวของพระองค ๓๙๕
เรอื่ งเพ่มิ เตมิ ใหม ๑ เรือ่ ง ๓๙๖
การสนทนากบั ปรพิ พาชกชื่อมณั ฑิกะ และชาลกิ ะ ๓๙๖

ปทานกุ รม ๓๙๗
ของพุทธประวตั จิ ากพระโอษฐ ๒,๑๙๙ คํา (เรียงลาํ ดับตามหลักอักษรไทย)

ลําดับหมวดธรรม
ในหนังสอื พทุ ธประวตั จิ ากพระโอษฐ (เรยี งลาํ ดบั จากนอยไปหามากและตามลาํ ดับอกั ษร) ๔๔๗

วิ ธี ใ ช ห นั ง สื อ เ ล ม น้ี

(ก) มีวิธีลัดและไมชวนเบื่อสําหรับผูที่เปนนักธรรม หรือนักเทศน
อยูกอนแลว ในการที่จะใหไดรับประโยชนจากหนังสือเลมนี้ ใหยิ่งขึ้น
ไป คือ:-

(๑) อานเรื่องที่มีอยูในเลม เฉพาะตอนที่รูสึกวาไมเคยไดยินมากอน
อยางสนใจ ใหตลอดเสยี เทย่ี วหน่ึงกอน.

(๒) แลวใชเวลาครั้งตอ ๆ ไป เพียงแตเปดดูเฉพาะปทานุกรมทายเลม
ไปทีละคําตามลําดับของปทานุกรม เมื่อดูถึงคําใด ตองใหเน้ือความ
หรือความหมายของคํา ๆ น้ันปรากฏแจมแจงแกทานท้ังหลาย อยาง
ทั่วถึงและถูกตองทันที, เพราะทานเคยศึกษาธรรมะมามากแลว.
ถาเนื้อความไมปรากฏแจมแจงออกมาได ซึ่งจะเปนในตอนแรก ๆ
ก็หมายความวาทาน ยังไมคุนเคยกับหนังสือเลมนี้ก็ได หรือเพราะ
ทานยังไมรูความหมายแหงคํา ๆ นั้นก็ได ทานตองเปดดูเนื้อเรื่อง
ในเลม ตามตัวเลขซึ่งบอกหนาหนังสืออยูทายคํานั้นแลว. บางคํา

จะถึงกับทําใหทานฉงน คิดไมออก เชนคําวา การไถนา, เครื่อง

www.buddhadasa.infoดักปลา, ความมีขนตกราบแลว, ปู, ปูกามหัก, รองเจี๊ยบ ๆ,
ดังนี้เปนตน, ทานไมควรคิดเสียวาเปนเรื่องไมสําคัญสําหรับทาน.
ทานจะตองศึกษาจนทราบความหมายอันเรนลับของคําใหจนได,
เชนคําวา ปู หมายถึงคนเจาทิฏฐิอวดดีดวยลัทธิของตน ไดแก
เดียรถียอ่ืนบางคนที่มีทิฏฐิยักไปยักมา เหมือนปูชูกาม ดังน้ีเปนตน.
ซึ่งสรุปความไดวา คําวา ปู นั้น พระองคตรัสใชเปนคําเปรียบ
เรียกคนเจาทิฏฐิอวดดี. ถาทานดูปทานุกรมไปตามลําดับ แลวไมมี



๒ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ – วิธใี ชหนังสือเลมน้ี

อะไรที่รบกวนประสาทหรือรบกวนความสงสัยของทานเลย ก็แปลวา
ทานมีความรูธรรมะในแนวนี้อยางลึกซึ้งและทั่วถึง ชนิดที่ผูรวบรวม
ขอยอมเปนศษิ ย.
(๓) เมื่อทานจะเทศน หรือจะเขียนบทความบรรยายธรรมะ ทานอาจจะ
ไปติดอยูที่ความหมายของคําบางคํา ซึ่งไมแนใจวาจะมีความหมาย
อันแทจริงอยางไร ทานอาจใชการคนดูไดงาย ๆ จากปทานุกรมนี้,
หรือเม่ือทานสงสัยวาคํา ๆ น้ัน หรือเรื่องเร่ือง ๆ นั้น มีที่มาในเร่ืองอะไร
หรือสูตรใดกันแน ทั้งที่ทานเขาใจความหมายดีแลว แตอยากจะไดที่มา
อันเปนหลักฐาน หรืออยากทราบวาพระองคไดตรัสไวเองอยางไร
ทานสมควรที่จะเปดดูจนพบที่มา หรือพบพระพุทธภาษิตเรื่องนั้น ๆ,
ไมนานเทาใด ทานจะมีความคลองแคลว ตอการเทศน หรือการเขียน
ทีม่ ีหลักฐาน.

(ข) สําหรับผูที่เปนนักปฏิบัติธรรมทางใจโดยเฉพาะ ทานมีวิธีใช
หนังสือเลมนี้ ชนิดที่เพื่อนฝูงของทานไดเคยใชเปนประโยชนมาแลว
ดังนค้ี ือ:-

www.buddhadasa.info(๑) เลือกอานเฉพาะเรื่องที่ทานเห็นวาเปนเรื่องการปฏิบัติธรรม ตามรอย
พระยุคลบาทโดยตรง ใหท่ัวถึงทุกเรื่อง ดวยความสนใจเปนพิเศษ
เสียเที่ยวหน่ึงกอน เพราะอยางนอย จะตองมีเร่ืองท่ีทานไมเคยไดยิน
ไดฟงอยูบางเรื่อง
(๒) ใชเวลาเปนประจําวัน ทบทวนความจําและความเขาใจของทาน
โดยใชคําในปทานุกรมเปนหลัก แตตองเปนคําเฉพาะของเรื่องที่
เกี่ยวกับการเจริญภาวนาโดยตรง. ซึ่งอาจจะจัดทําในรูปการ

วิธีใชหนงั สือเลม นี้ ๓ ๓

สากัจฉา หรือใหผูอื่นชวยตั้งคําถาม แลวใหทานตอบ. เชนเขา
จะเปดปทานุกรมแลวเลือกคําข้ึนถามทานวา คําเหลานี้หมายความวา

อยางไร : การกําหนดรูกามสัญญา, ขอปฏิบัติเพื่อความเจริญ
แหงอิทธิบาท, ความปรากฏแหงแสงสวางอันใหญหลวง, ความ
เพงรูปจนเกินไป, ความมีอํานาจเหนือจิตในคลองแหงวิตก
ทั้งหลาย, จงกรมแกความขลาด, จําแสงสวางไดแตไมเห็นรูป,
จับนกกระจาบหลวมมือเกิน, ตรึกตามตรองตามนานเกินไปนัก,
“จับนกตายในมือ”, สมาธิเคลื่อน, สมาธินอย, อุพพิละ,
ฉัมภิตตั ตะ, ฯลฯ.

(๓) เลือกอานเฉพาะเรื่อง ที่อาจตอบปญหา ทางภาวนาไดเปนอยางดี
อยูเสมอ ๆ โดยเฉพาะคือเร่ืองตาง ๆ ท่ีทรงขวนขวายกอนหนาการตรัสรู
และเรื่องคุณธรรมตาง ๆ ที่เกิดมีในพระองค. คําบัญญัติบางคํา
เชนคําวา ปฐมฌาน เปนตน ตองอานคําที่เปนคําอธิบายดวยการ
ขบคิดไปอยางละเอียดทีละคํา ๆ ทุก ๆ คํา จนกวาจะหมดคําอธิบาย
ของคําบัญญัติคําเดียวนั้น. มีผูอานหนังสือเลมนี้ ตามปาตามเขา

www.buddhadasa.infoไดผลดีกวาการอา นตามบา นเมอื ง
(ค) สําหรับนักศึกษาทั่วไป โดยเฉพาะพวกที่ไมคุนกับวัด หรือไมเคย
บวชเรยี น จะตอ งศกึ ษาดว ยวิธีดังนี้คือ:-
(๑) ศึกษาเลาความเร่ืองราวแหงพุทธประวัติท่ัว ๆ ไป จากหนังสือชั้นตน ๆ
เลมอื่นเสียกอนพอสมควร, เพราะในหนังสือเลมนี้ เรียงไวแตเรื่อง
ท่ีเปนการตรัสเลาประเภทเดียวเทานั้น ถาทานไมเคยศึกษาพุทธประวัติ
มากอนเลย ทานอาจจะงงไปบางในท่ีบางแหง. แตก็ไมเหลือวิสัย

๔ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ – วธิ ใี ชหนังสอื เลมน้ี

ท่ีทานจะเขาใจ ถาพยายามตอไปอีกเพียงเล็กนอย ในการสังเกตขอความ
ท่ีเนอ่ื งกนั อย,ู หรือไตถามผูท่ีเคยเรยี นพุทธประวตั ิช้นั ตน ๆ มาแลว กไ็ ด.

(๒) อานหนังสือเลมนี้อยางคราว ๆ เสียชั้นหนึ่งกอน เพื่อใหรูแนวความ
ของเรื่อง เฉพาะสวนที่เปนทองเรื่อง หรือประวัติ วามีอยูอยางไร
วิธีที่สะดวกก็คือ อานสารบาญเรื่องดูหลาย ๆ เที่ยวกอน แลวจึง
เปดอานเรื่องบางเรื่องท่ีชวนสงสัย ดูเร่ือย ๆ ไป.

(๓) ใชปทานุกรมทายเลม เปนการออกปญหาถามทานเองอยูเสมอ
คําใดสงสัย หรือชวนคิด ก็เปดดูบอย ๆ จนไมมีคําที่ชวนสงสัย
มากเกินไป.

(ง) สําหรับอุบาสกอุบาสิกา ที่เคยชินกับการฟงเรื่องปฐมสมโพธิ
มามากแลว จะตองอานดวยใจที่เปนอิสระพอที่จะฟงเรื่องที่แปลกไปจาก
ที่ตนเคยไดยินไดฟง ไมปดประตูขังตัวเองอยูแตในหองที่มีอะไรซ้ําซาก
เพียงอยางเดยี ว.

www.buddhadasa.info(จ) สําหรับนักประพันธ ที่จะตองบรรยายชีวิตคนในแงตาง ๆ
จะตองอานดวยความระมัดระวัง เพื่อจะไดไมระบายสีที่ผิดพลาดลงไปใน
ชีวประวัติของพระพุทธองค ในเม่ือจะมีการเปรียบเทียบหรืออางถึง เมื่อทํา
ไดดีที่สุดในเรื่องนี้แลว นักประพันธจะเปนพวกที่ทําคําสอนหรือเรื่องราว
ของพระองคใหแพรหลายไดด ที ่สี ุดกวาพวกอนื่ .

…. …. ….

ภาคนํา

ขอความใหเ กดิ ความสนใจในพุทธประวตั .ิ

www.buddhadasa.info



ภาคนํา

มีเร่ือง:- โลกธาตุหน่ึงมีพระพุทธเจาเพียงองคเดียว - -การ
ปรากฏของพระตถาคตมีไดยาก -- โลกที่กําลังมัวเมา ก็ยังสนใจ
ในธรรมของพระตถาคต -- การมีธรรมของพระตถาคตอยูในโลกคือ
ความสุขของโลก -- พระตถาคตเกิดขึ้นเพื่อความสุขของโลก
-- พระตถาคตเกิดขึ้นในโลก เพื่อแสดงแบบแหงการครองชีวิต
อันประเสริฐแกโลก - - พระตถาคตเกิดขึ้นแสดงธรรมเพื่อความรํางับ
ดับ, รู -- ผูเชื่อฟงพระตถาคตจะไดรับประโยชนสุขสิ้นกาลนาน
-- ทรงขนานนามพระองคเองวา “พุทธะ” --เรื่องยอ ๆ ที่ควร
ทราบกอน - - เร่ืองส้ัน ๆ ที่ควรทราบกอน.

www.buddhadasa.info



พุทธประวัติจากพระโอษฐ

ภาคนาํ

ขอความใหเกิดความสนใจในพระพุทธประวัติ.

---------------

โลกธาตุหน่ึง มีพระพุทธเจาเพียงองคเดียว๑

อานนท! ภิกษุผูฉลาดในฐานะและอฐานะน้ัน ยอมรูวา ขอนี้มิใช
ฐานะ ขอนี้มิใชโอกาสที่จะมี คือขอที่ในโลกธาตุอันเดียว จะมีพระตถาคต

ผูอรหันตสัมมาสัมพุทธะ สององค เกิดขึ้นพรอมกัน ไมกอน ไมหลังกัน.

www.buddhadasa.infoนั่นมิใชฐ านะทจี่ ะมไี ด.

สวนฐานะ อันมีไดนั้น คือใน โลกธาตุอันเดียว มีพระตถาคต

ผูอรหันตสมั มาสัมพทุ ธะองคเดยี ว เกดิ ข้ึน. นัน่ เปนฐานะทจี่ ะมีได.

๑. บาลี พหุธาตกุ สตู ร อปุ ริ. ม. ๑๔/๑๗๑/๒๔๕.


๘ พุทธประวตั ิจากพระโอษฐ – ภาคนาํ

การปรากฏของพระตถาคต มีไดยากในโลก๑

ภิกษุ ท.! การมาปรากฏของ บุคคลเอก (ไมมีใครซ้ําสอง)

มีไดยากในโลก. ใครเลา เปนบุคคลเอก? ตถาคต ผูเปนพระอรหันตตรัสรู
ชอบเอง เปนบุคคลเอก (ไมมีใครซ้ําสอง). การปรากฏของบุคคลเอกนี้แล
มีไดย ากในโลก.

โลกที่กําลังมัวเมา ก็ยังสนใจในธรรมของพระตถาคต๒

ภิกษุ ท.! เพราะเหตุที่ตถาคต ผูอรหันตสัมมาสัมพุทธะเกิดขึ้น
จึงเกิดมีของ นาอัศจรรยไมเคยมี ส่ีอยางนี้ปรากฏข้ึน. สี่อยางอะไรเลา?

๑. ภิกษุ ท.! ประชาชนทัง้ หลาย พอใจในกามคณุ ยินดใี นกามคณุ
บันเทิงอยูในกามคุณ, ครั้นตถาคตแสดง ธรรมที่ไมเกี่ยวของกับกามคุณ
ประชาชนเหลา นน้ั ก็ฟง เงย่ี หฟู ง ตั้งใจฟง เพ่ือใหเขาใจท่ัวถึง. ภิกษุ ท.! น่ีคือ
ของนาอัศจรรย ไมเคยมี อยางที่หนึ่ง, มีขึ้นมา เพราะการบังเกิดของตถาคต
ผอู รหนั ตสัมมาสมั พทุ ธะ.

๒. ภิกษุ ท.! ประชาชนทั้งหลาย พอใจในการถือตัว ยินดีในการ
ถือตัว บันเทิงอยูในการถือตัว, ครั้นตถาคตแสดง ธรรมที่กําจัดการถือตัว

www.buddhadasa.infoประชาชนเหลานั้นก็ฟง เงี่ยหูฟง ตั้งใจฟง เพื่อใหเขาใจทั่วถึง. ภิกษุ ท.!

นี่คือของนาอัศจรรย ไมเคยมี อยางท่ีสอง, มีขึ้นมา เพราะการบังเกิดของ
ตถาคต ผอู รหันตสมั มาสัมพทุ ธะ.

๑. บาลี เอก, อ.ํ ๒๐/๒๙/๑๔๐. ตรัสแกภ กิ ษุทัง้ หลาย.
๒. บาลี จตุกกฺ . อ.ํ ๒๑/๑๗๗/๑๒๘. ตรสั แกภ ิกษทุ ัง้ หลาย ท่ีเชตวัน.

ขอ ความใหเ กิดความสนใจในพทุ ธประวตั ิ ๙

๓. ภิกษุ ท.! ประชาชนทั้งหลาย พอใจในความวุนวายไมสงบ

ยินดีในความวุนวายไมสงบ บันเทิงอยูในความวุนวายไมสงบ, ครั้นตถาคตแสดง

ธรรมที่เปนไปเพื่อความสงบ ประชาชนเหลานั้นก็ฟง เงี่ยหูฟง ตั้งใจฟง

เพื่อใหเขาใจทั่วถึง. ภิกษุ ท.! นี่คือของนาอัศจรรย ไมเคยมี อยางที่สาม,

มีข้ึนมา เพราะการบังเกิดของตถาคต ผูอรหันตสัมมาสัมพุทธะ.

๔. ภิกษุ ท.! ประชาชนทั้งหลาย ประกอบอยูดวยอวิชชา เปน

คนบอด ถูกความมืดครอบงําเอาแลว, ครั้นตถาคตแสดง ธรรมท่ีกําจัดอวิชชา

ประชาชนเหลานั้นก็ฟง เงี่ยหูฟง ตั้งใจฟง เพื่อใหเขาใจทั่วถึง. ภิกษุ ท.!

นี่คือของนาอัศจรรย ไมเคยมี อยางที่สี่, มีข้ึนมา เพราะการบังเกิดของตถาคต

ผูอรหันตสัมมาสัมพุทธะ.

การมีธรรมของพระตถาคตอยูในโลก คือความสุขของโลก๑

ภิกษุ ท.! เมื่อพระสุคตก็ดี ระเบียบวินัยของพระสุคตก็ดี ยังคงมีอยู
ในโลกเพียงใด อันนั้นก็ยังเปนไปเพ่ือความเก้ือกูลแกชนเปนอันมาก เพ่ือความสุข
ของชนเปนอันมาก เพื่ออนุเคราะหแกโลก, เพื่อประโยชน เพื่อความเกื้อกูล
เพอ่ื ความสขุ แกเ ทวดาและมนษุ ยทัง้ หลาย, อยูเพียงนัน้ .

ภิกษุ ท.! พระสุคตนั้นคือใครเลา? คือตถาคต บังเกิดขึ้นในโลกน้ี

www.buddhadasa.infoเปนพระอรหันตผูตรัสรูชอบเอง ถึงพรอมดวยวิชชาและจรณะ เปนผูไปดี รูแจงโลก

เปนสารถีฝกคนควรฝกไมมีใครยิ่งกวา เปนครูของเทวดาและมนุษย เปนผู

เบิกบานแลว จําแนกธรรมออกสอนสัตว. น้ีคือ พระสคุ ต.

ภิกษุ ท.! ระเบียบวินัยของพระสุคตนั้นคืออะไรเลา? คือตถาคตน้ัน
แสดงธรรมไพเราะในเบื้องตน ทามกลาง และท่ีสุด, ประกาศพรหมจรรย

๑. บาลี จตุกฺก. อ.ํ ๒๑/๑๙๗/๑๖๐.

๑๐ พุทธประวัติจากพระโอษฐ – ภาคนํา

พรอมทั้งอรรถะ พรอมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณสิ้นเชิง. ธรรมที่ตถาคต
แสดง พรหมจรรยท่ีตถาคตประกาศ น้ีแล คือ ระเบียบวินัยของพระสุคต.

ภิกษุ ท.! เม่ือพระสุคตก็ดี ระเบียบวินัยของพระสุคตก็ดี ยังคงมีอยู
ในโลกเพียงใด อันนั้น ก็ยังเปนไปเพื่อความเกื้อกูลแกชนเปนอันมาก เพื่อ
ความสุขของชนเปนอันมาก เพื่ออนุเคราะหแกโลก, เพื่อประโยชน เพื่อความ
เกอ้ื กูล เพอ่ื ความสุข แกเ ทวดาและมนษุ ยทั้งหลาย, อยเู พยี งนั้น.

พระตถาคตเกิดขึ้นเพื่อความสุขของโลก๑

พราหมณเอย! มีสมณพราหมณพวกหน่ึง กลางคืนแท ๆ ก็เขาใจ
ไปวากลางวัน๒ กลางวันแท ๆ ก็เขาใจไปวากลางคืน. ขอนี้ เรากลาววา
เปนเพราะสมณพราหมณเหลานั้น เปน ผูอยูดวยความหลง.

พราหมณเอย! สวนเราตถาคต ยอมเขาใจกลางคืนเปนกลางคืน
กลางวนั เปนกลางวัน.

พราหมณเอย! เมื่อใครจะเรียกผูใดใหเปนการถูกตองวา เปนสัตวผู
มีความไมหลงอยูเปนปรกติ และเกิดขึ้นเพื่อความเกื้อกูลแกชนเปนอันมาก
เพื่อความสุขแกชนเปนอันมาก เพื่ออนุเคราะหโลก, เพื่อประโยชน เพื่อความ
เกื้อกูล เพื่อความสุข ของเทวดาและมนุษยทั้งหลายแลว; เขาเมื่อจะเรียก

www.buddhadasa.infoใหถูกตองเชนนั้น พึงเรียกเราตถาคตนี้แล วาเปนสัตวผูมีความไมหลงอยูเปน

ปรกติ เกิดข้ึนเพื่อความเก้ือกูลแกชนเปนอันมาก เพ่ือความสุขแกชนเปนอันมาก
เพ่ืออนุเคราะหโลก. เพื่อประโยชน เพ่ือความเก้ือกูล เพ่ือความสุข ของเทวดา
และมนษุ ยทงั้ หลาย.

๑. บาลี ภยเภรวสูตร ม.ู ม. ๑๒/๓๗/๔๖. ตรัสแกช าณุสโสณีพราหมณ ท่เี ชตวัน.
๒. คาํ วา กลางคืน กลางวัน ในท่นี ้ี มไิ ดมคี วามหมายตามตัวหนังสอื .


Click to View FlipBook Version