The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือเล่มเล็ก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pitchaya.mild, 2021-09-10 03:45:45

หนังสือเล่มเล็ก

หนังสือเล่มเล็ก

รา่ ยยาวมหาเวสสนั ดรชาดก
กณั ฑ์มัทรี

จัดทำโดย
นางสาวพิชยา วชิรธาวนิ

ชัน้ ม.๕/๔ เลขที่ ๒๑

เสนอ
อาจารยช์ งิ ชัย เตยี เจริญ
เป็นส่วนหนึ่งของรายวชิ าภาษาไทย ท๓๒๑๐๑
ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

รา่ ยยาวมหาเวสสนั ดรชาดก
กณั ฑ์มัทรี

คำนำ

หนังสอื เลม่ เล็กเล่มนจ้ี ดั ทำขนึ้ เพื่อเปน็ ส่วนหน่ึงของวิชา ภาษาไทย
(ท๓๒๑๐๑) ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๕ เพอ่ื ให้ไดศ้ ึกษาหาความรู้ในเร่อื งราวของ
รา่ ยยาวมหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑม์ ัทรี โดยไดศ้ ึกษาผ่านแหลง่ ความรูต้ ่างๆ
อาทิเช่น หนงั สอื และแหล่งความรจู้ ากเวบ็ ไซต์ตา่ งๆ โดยหนงั สอื เลม่ เลก็ นม้ี ี
เน้ือหาเกี่ยวกบั ความร้ทู วั่ ไปของเนอ้ื เร่ือง เรอ่ื งย่อ คณุ ค่าของเรือ่ งดา้ น
ตา่ งๆ การนำข้อคิดทไี่ ด้จากเรื่องไปใชแ้ ละลกั ษณะคำประพันธป์ ระเภทร่าย
ยาว

ผ้จู ัดทำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งวา่ การจัดทำหนงั สือเลม่ เล็กนี้จะมี
ข้อมลู ท่เี ป็นประโยชน์ต่อผู้ท่ีสนใจศึกษา หากผิดพลาดประการใดขออภยั มา
ณ ที่นด้ี ว้ ย

พชิ ยา วชริ ธาวิน

สารบญั หน้า

คำนำ ๑
๑.ความรทู้ ่ัวไปเกยี่ วกับเนอื้ เร่ือง ๑

๑.๑ประวัตผิ ู้แต่ง ๕
๑.๒.ท่ีมาของเรอื่ ง ๖
๑.๓.จุดมุ่งหมาย ๗
๑.๔.ลกั ษณะคำประพนั ธ์
๒.ตัวละคร ๑๑
๓.เร่ืองยอ่ ๑๓
๔.คุณคา่ ของเรื่อง ๑๓
๔.๑.ดา้ นเนอ้ื หา ๑๔
๔.๒.ดา้ นวรรณศิลป์ ๑๗
๔.๓.ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม ๑๙
๕.การนำข้อคดิ ทไ่ี ด้จากเรอื่ งไปใช้ ๒๐
๖.คำประพันธ์ประเภทร่ายยาว ๒๑
๗.แหลง่ ทีม่ า

ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กณั ฑ์มัทรี

๑.ความร้ทู วั่ ไปเก่ียวกับเนอ้ื เร่อื ง
๑.๑.ประวัติผู้แต่ง

เจ้าพระยาพระคลงั (หน)

เจา้ พระยาพระคลัง (หน) เปน็ กวเี อกคนหนงึ่ ในสมยั ต้น
รตั นโกสนิ ทร์ มีนามเดมิ วา่ หน เกิดเมื่อใดไม่ปรากฏหลกั ฐานแน่ชดั
นา่ จะอยู่ในชว่ งปลายสมัยกรุงศรอี ยุธยา และถงึ แก่อสญั กรรม ใน
สมยั รชั กาลท่ี ๑ พ.ศ. ๒๓๔๘ ผลงานด้านวรรณคดีท่ีท่านได้แตง่ ไว้
หลายเร่อื งด้วยกนั

เจา้ พระยาพระคลงั เป็นบตุ รเจา้ พระยาบดินทรส์ ุรนิ ทร์ฦๅ
ชยั (บญุ ม)ี กบั ท่านผู้หญิงเจริญ มีบตุ รธดิ าหลายคน ทมี่ ชี ื่อเสยี งคือ
เจา้ จอมพุ่ม ในรัชกาลท่ี ๒ เจ้าจอมมารดานม่ิ พระมารดาสมเดจ็ ฯ



กรมพระยาเดชาดิศร (มั่ง) ในรัชกาลท่ี ๒ นายเกต และนายพดั ซึง่
เป็นกวแี ละครูพิณพาทย์ เป็นตน้ สกลุ บุญ-หลง

รับราชการมีหลักฐานระบุไดว้ ่าท่านไดร้ ับราชการมาตง้ั แต่
สมยั กรงุ ธนบรุ ี มีบรรดาศักดเ์ิ ปน็ หลวงสรวชิ ิต ตำแหน่งนายด่าน
เมอื งอทุ ยั ธานี ครนั้ เม่อื ถงึ ปลายรัชกาล ที่เหตรุ ะสำ่ ระสายเกดิ
จลาจลในพระนคร ทา่ นไดล้ อบส่งคนนำหนังสือแจ้งเหตภุ ายในพระ
นครไปถวายสมเด็จเจา้ พระยามหากษัตรยิ ์ศึก ภายหลังคือ
พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลก ซึง่ กำลงั ยกกองทัพไปตี
เขมรหลวงสรวิชติ (ในเวลาน้ัน) ออกไปรบั สมเดจ็ เจ้าพระยามหา
กษตั ริยศ์ ึกถงึ ทุ่งแสนแสบ แล้วบอกข้อราชการตา่ งๆ จากน้ันสมเด็จ
เจ้าพระยามหากษัตริยศ์ ึกไดเ้ ข้ามาปราบเหตจุ ลาจลในพระนคร
แลว้ ทรงปราบดาภิเษกข้ึนครองราชยส์ มบัติ เป็นปฐมกษตั ริยแ์ หง่
ราชวงศจ์ กั รี เมือ่ เหตุการณ์ในพระนครสงบเรยี บรอ้ ย พระเจ้าอยูห่ ัว
จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้ังให้ท่านเป็นพระยาพิพัฒน์
โกษา และในท่สี ดุ เม่ือตำแหน่งเจ้าพระยาพระคลังว่างลง ได้รับพระ
กรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้เลื่อนข้ึนเป็นเจา้ พระยาพระคลัง เปน็ เสนาบดี
จตุสดมภ์กรมท่า มีหน้าท่คี วบคมุ บงั คบั บญั ชากิจการทางหัวเมือง
ชายทะเลทงั้ หมด

นอกจากมคี วามสามารถในเชงิ บริหารกิจการบา้ นเมือง
และเป็นนกั รบแลว้ ยังมคี วามสามารถในเชิงอักษรศาสตร์เป็นที่ยก
ย่องว่าเป็นกวฝี ปี ากเอก มสี ำนวนโวหารไพเราะ ท้ังร้อยกรอง
หลากหลายชนดิ และสำนวนรอ้ ยแกว้ ที่มีสำนวนโวหารไพเราะไม่แพ้
กนั



ผลงาน
-แตง่ ในสมยั กรงุ ธนบุรี (ลิลติ เพชรมงกุฎ,อิเหนาคำฉนั ท์)
-แตง่ ในสมยั กรงุ รัตนโกสนิ ทร์ {สามกก๊ (เป็นผู้อำนวยการ

แปล), ราชาธริ าช (เปน็ ผู้อำนวยการแปล), กากีกลอนสุภาพ, รา่ ย
ยาวมหาชาติ กัณฑ์กมุ ารและกณั ฑ์มัทร,ี ลลิ ิตพยุหยาตราเพชรพวง,
โคลงสุภาษิต, กลอนและร่ายจารกึ เรื่องสร้างภูเขาที่วดั ราชคฤห,์
ลิลิตศรวี ชิ ัยชาดก, สมบัติอมรนิ ทร์คำกลอน}



๑.๒.ท่ีมาของเรอ่ื ง

มีความเช่อื วา่ พระพุทธเจา้ เสวยพระชาติมาหลายชาติ ทั้ง
คนทง้ั สตั วเ์ ดรัจฉาน โดยแต่ละชาตพิ ระองคไ์ ดบ้ ำเพ็ญบารมีแตกตา่ ง
กนั ออกไป ซงึ่ มหาเวสสนั ดรชาดกเป็นชาติสดุ ท้ายก่อนจะประสตู มิ า
เปน็ พระพุทธเจา้ ในชมพทู วปี (ชาตสิ ดุ ท้ายก่อนพระองค์จะเสดจ็ ดับ
ขนั ธ์ปรนิ ิพพาน) และมกี ารบำเพ็ญบารมดี ้วยการใหท้ าน โดยบริจาค
ลกู และบรจิ าคเมียเป็นทาน (บุตรทารทาน) สำหรับที่มาที่ไปของ
มหาเวสสนั ดรชาดก เร่ิมตน้ ขึ้นเมือ่ พระพุทธเจ้าเสดจ็ ไปที่เมือง
กบิลพัสด์ุ พร้อมกบั พระอรหันต์สองรปู เพื่อจะไปเทศนาโปรดพระ
บดิ าและพระญาติ แตพ่ ระญาติเกดิ อัตตา ไม่ยอมไหวพ้ ระพุทธเจ้า
พระพทุ ธเจ้าจงึ แสดงปาฏิหารย์ โดยการเหาะเหนิ เดินอากาศ ทำให้
ฝุ่นใตพ้ ระบาทาปลิวมาติดหัวพระญาติ และมีฝนโบกขรพรรษตกลง
มาสเู่ บ้อื งลา่ ง ฝนโบกขรพรรษเป็นฝนท่มี สี แี ดงใสบริสุทธร์ิ าวกกับ
ทับทมิ ถ้าตอ้ งการเปยี กฝนนั้น ฝนกจ็ ะเปยี กเนื้อตวั ตามปกติ แตถ่ า้
ไมต่ ้องการเปียกฝน เมด็ ฝนนั้นกจ็ ะระเหยหายไปทนั ที

เมอ่ื เกิดฝนโบกขรพรรษขึน้ พระอรหนั ตท์ ี่ตามพระพทุ ธเจา้
ไปจึงถามวา่ ฝนนเี้ กิดขึ้นได้อย่างไร พระองค์จึงบอกวา่ ฝนนี้เคยเกดิ
มาแลว้ ในคร้ังท่ีพระพุทธเจ้าเสวยพระชาตเิ ป็นพระเวสสันดร
พระพทุ ธเจ้าเลยถือโอกาสน้ีเล่าวา่ พระองคส์ ามารถระลกึ ชาตไิ ด้
โดย ๑๐ ชาติสดุ ทา้ ยหรอื ทศชาติ ไดแ้ ก่ เตมยี ์ชาดก มหาชนกชาดก
สุวรรณสามชาดก เนมิราชชาดก มโหสถชาดก ภรู ิทตั ชาดก



จันทชาดก นารทชาดก วิทูรชาดก และเวสสันดรชาดก ซึง่ แต่ละ
ชาติพระองค์ไดบ้ ำเพญ็ บารมีในรูปแบบทแ่ี ตกต่างกันออกไป
สำหรับชาตสิ ดุ ท้าย คอื เวสสันดรชาดก ประกอบด้วย ๑๓ กณั ฑ์

๑.๓.จดุ ประสงคใ์ นการแต่ง

ในสมัยพระเจ้าทรงธรรม โปรดเกล้าใหแ้ ตง่ กาพยม์ หาชาติ
เพ่ือใช้สำหรบั เทศน์ แต่เนื้อความในกาพยม์ หาชาติค่อนข้างยาว ไม่
สามารถเทศนใ์ หจ้ บภายใน ๑ วนั จงึ เกดิ มหาชาติข้นึ ใหม่อีกหลาย
สำนวน เพือ่ ใหเ้ ทศนจ์ บภายใน ๑ วนั มหาชาตสิ ำนวนใหมน่ ี้
เรียกว่า มหาชาติกลอนเทศน์ หรือ รา่ ยยาวมหาเวสสนั ดรชาดก

ตอ่ มาในสมยั พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าฯโปรดเกลา้
ฯใหม้ ีการชำระและรวบรวมมหาชาตกิ ลอนเทศสำนวนตา่ ง ๆ แลว้
คัดเลือกสำนวนท่ีดีทส่ี ุดของแตล่ ะกัณฑ์ นำมาจดั พิมพ์เปน็ ฉบับของ
หลวง ๒ ฉบบั คอื ฉบบั หอพระสมุดวชริ ญาณ และ ฉบับ
กระทรวงศึกษาธกิ าร



๑.๔.ลักษณะคำประพันธ์

แตง่ เปน็ ร่ายยาว มพี ระคาถาภาษาบาลีนำ และพรรณนา
เน้ือความโดยมีพระคาถาสลบั เป็นตอน ๆ ไปจนจบกัณฑ์ คำ
ประพนั ธ์ประเภทรา่ ยยาว หน่ึงบทจะมีกีว่ รรคก็ได้ แตส่ ่วนมากมี
๕ วรรคขึน้ ไป วรรคหนง่ึ ๆ มตี ัง้ แต่ ๖ คำขึ้นไป ถึง ๑๐ คำหรอื
มากกวา่ มีบังคับเฉพาะระหว่างวรรค คอื คำสุดทา้ ยของวรรคจะส่ง
สัมผัสไปท่คี ำท่ี ๑ ถงึ ๕ ของวรรคตอ่ ไป เมือ่ จบตอนมักมีคำสรอ้ ย
เช่น “น้นั แล” “นี้แล” ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก เป็นร่ายยาว
สำหรับเทศน์ จะมีคำศัพท์บาลีขน้ึ กอ่ น แลว้ แปลเป็นภาษาไทย
แล้วจงึ มีรา่ ยตาม ในระหว่างการดำเนนิ เร่ืองจะมคี ำบาลีคั่นเป็น
ระยะ ๆ คำบาลนี ้นั มคี วามหมายเกย่ี วเนือ่ งกบั ข้อความท่ตี ามมา

แผนผงั ร่ายยาว



๒.ตวั ละคร

๒.๑.พระเวสสนั ดร

พระเวสสันดรเป็นพระโอรสของพระเจ้ากรงุ สัญชัยและพระ
นางผุสดแี หง่ เมืองสีพี พระเวสสันดรมักจะบริจาคทานด้วยวิธีตา่ งๆ
มาตง้ั แตเ่ ด็ก ต่อมาเมื่ออภเิ ษกกบั พระนางมทั รี และมลี กู คือ
พระกัณหา และพระชาลี พระองค์ได้ตงั้ โรงทานจำนวนมาก และ
บรจิ าคชา้ งปจั จยั นาเคนทร์ซง่ึ เป็นช้างเผอื กคู่บ้านคเู่ มอื งให้กับทูต
ของเมืองอ่นื ที่มาขอช้างเชือกนี้ ทำใหช้ าวเมืองไม่พอใจจึงเรียกร้อง
ใหพ้ ระเจ้ากรุงสญั ชัยเนรเทศพระเวสสันดรออกจากเมือง พระ
เวสสันดร พระนางมัทรีและลูก ๆ จงึ ตอ้ งออกจากเมืองไปอยใู่ นปา่
ซ่ึงพระเวสสนั ดรไดบ้ ำเพ็ญเพียรภาวนาประพฤติพรหมจรรยอ์ ยู่ใน
อาศรมท่เี ขาวงกต การที่พระเวสสันดรบำเพ็ญบารมโี ดยการบริจาค
ทานอยเู่ ป็นนิจ แสดงถงึ ความเปน็ ผมู้ ีจติ ใจดงี าม มคี วามเมตตา
กรุณาและการอดทนอดกลัน้ อารมณ์โกรธได้ การเสยี สละประโยชน์
ส่วนตนเพื่อประโยชน์สว่ นรวม มงุ่ มัน่ บริจาคทาน ทัง้ ทรัพย์สนิ
สิง่ ของมคี ่าแมก้ ระทง้ั บุตร ภรรยา และชีวิต หากมีผใู้ ดใดต้องการ
ดว้ ยปรารถนาพระโพธญิ าณ



ลกั ษณะนิสยั
-มองการณ์ไกล จากบท ....ถงึ แมน้ จะมติ รสั กับนางมง้ั จะมิ
เปน็ การ จำจะเอาโวหารการหงึ เขา้ มาหักโศกใหเ้ ส่ือมลง….
-ปากจดั จากบท ....เออก็เมื่อเช้าเจา้ จะเขา้ ป่านา่ สงสาร
ปานประหนึง่ วา่ จะไปมิได้ ทำร้องไห้ฝากลกู มริ แู้ ล้ว คร้นั คลาด
แคลว้ เคลอ่ื นคล้อยเข้าสู่ดง ปานประหนึ่งวา่ จะหลงลืมลูกสละผวั ต่อ
มืดมวั จึ่งกลบั มา ทำเป็นบีบน้ำตาตีอกว่าลกู หาย ใครจะไม่รแู้ ยบ
คายความคิดหญงิ ....
-การเสยี สละประโยชน์ส่วนตนเพ่อื ประโยชน์สว่ นรวม จาก
บท....อันสองกมุ ารนี้ไซร้เป็นแต่ทานพาหริ กะภายนอกไม่อม่ิ หนำ่ พ่ี
จะใครใ่ ห้อชั ฌัตกิ ทานอีกนะเจา้ มัทรี....



๒.๒.พระนางมทั รี

พระนางมทั รเี ปน็ พระราชธดิ าแห่งกษตั ริย์มทั ทราช อภเิ ษก
สมรสกบั พระเวสสันดร มีพระโอรสชอ่ื พระชาลีและมีพระธิดาชือ่
พระกณั หา พระนางตามเสด็จพระเวสสันดรไปยังเขาวงกต ได้
ปรนนบิ ตั ริ บั ใชแ้ ละทำตามหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
เพียบพร้อมไปดว้ ยคุณสมบัติตา่ งๆทงั้ การเป็นแมท่ ่ีประเสรฐิ ของลกู
รกั และเลี้ยงดลู ูกด้วยความทะนถุ นอม ดูแลเอาใจใส่และให้ความ
อบอนุ่ แก่ลูก และการเปน็ ภรรยาที่ดีของสามี คือมีความอ่อนน้อม
นอบนอ้ ม และอดทน เปน็ กลั ยาณมิตรของสามี สนบั สนนุ เป้าหมาย
ชีวิตอนั ประเสริฐที่พระสวามีไดต้ ัง้ ไว้ และมีคุณธรรมสำคัญคือ
ซอ่ื ตรง มีความนบั ถือ เชือฟังและจงรกั ภักดี เมือ่ พระเวสสันดรกล่าว
เชงิ บรภิ าษพระนาง พระนางกท็ ูลช้ีแจงโตต้ อบด้วยถ้อยคำนมุ่ นวล
กลา่ วช้ีแจงความบรสิ ทุ ธ์ิ และทลู ขอประทานโทษต่อสามี แสดงถงึ
ความมีวัฒนธรรมและจรยิ วัตรอนั งดงามของนางกษตั รยิ ์ มิได้ใช้
ถ้อยคำรนุ แรงผดิ กลุ สตรีและผิดธรรมเนยี มแบบอย่างของภรรยาทด่ี ี
แม้เม่ือพระเวสสนั ดรประทานสองกมุ ารแก่ชูชกเปน็ บุตรทาน ก็
อนุโมทนาดว้ ยแสดงถึงความดีงามของพระนาง ทที่ รงมนี ำ้ พระทัย
ศรทั ธาในการบรจิ าคทานเชน่ เดยี วกับพระเวสสนั ดร



ลักษณะนิสัย
-ซื่อสัตย์ต่อพระเวสสนั ดร จากบท ....อน่งึ น้องเป็นเอกองค์
อัครบรจิ าริกากรแห่งพระเวสสนั ดรราชฤๅษี อนั จำจากพระบรุ มี า
อยู่ไพร นอ้ งน้ีก็ตั้งใจสุจริตติดตามมาด้วยกตเวที….
-รกั เดยี วใจเดยี ว จากบท ....เมื่อแรกจากไอศวรรย์มาอยู่
ดงก็ปลงจติ มิไดค้ ิดเปน็ สอง….
- ดูแลลูก จากบท ....โอพระจอมขวญั ของแมเ่ อ่ย เจ้ามิ
เคยได้ยากย่างเท้าลงเหยยี บดิน รินกม็ ิได้ไต่ไรก็มไิ ด้ตอม เจา้ เคย
ฟังแต่เสียงพี่เลีย้ งเขาขับกลอ่ มบำเรอด้วยดุรยิ างค์ ยามบรรทมธลุ ี
ลมก็มิไดพ้ ดั มาแผว้ พาน แมส่ ูพ้ ยาบาลบำรงุ เจ้าแต่เยาวม์ า เจา้ มิได้
ห่างพระมารดาสักหายใจ....
-รกั ลูก จากบท ....โอ้เจ้าดวงสุรยิ ันจนั ทรทัง้ คู่ของแมเ่ อ่ย
แม่ไม่รู้เลยวา่ เจา้ จะหนีพระมารดาไปสู่พาราใดไมร่ ทู้ ่ี หรือวา่ ขา้ มนที
ทะเลวนหิมเวศประเทศทิศแดนใด ถา้ รู้แจง้ ประจักษ์ใจแม่ก็จะตาม
เจ้าไปจนสดุ แรง....

๑๐

๓.เน้อื เรอ่ื งย่อ

พระนางมัทรีฝันรา้ ยว่ามบี ุรุษมาทำร้าย จงึ ขอให้พระ
เวสสนั ดรทำนายฝนั ให้ แต่พระนางกย็ ังไม่สบายพระทัย ก่อนเข้าป่า
พระนางฝากพระโอรสกับพระธิดากับพระเวสสนั ดรให้ชว่ ยดูแล
หลังจากนั้นพระนางมัทรกี ็เสด็จเข้าปา่ เพอ่ื หาผลไม้มาปรนนิบัติพระ
เวสสนั ดรและสองกุมาร ขณะที่อยู่ในป่า พระนางพบวา่ ธรรมชาติ
ผิดปกตไิ ปจากที่เคยพบเหน็ เชน่ ตน้ ไม้ท่เี คยมผี ลกก็ ลายเป็นต้นท่ีมี
แตด่ อก ต้นทเ่ี คยมีกง่ิ โนม้ ลงมาให้พอเกบ็ ผลได้ง่าย ก็กลับ
กลายเปน็ ตน้ ตรงสงู เก็บผลไม่ถึง ท้งั ท้องฟ้าก็มืดมดิ ขอบฟ้าเปน็ สี
เหลอื งให้รูส้ กึ หวั่นหวาดเป็นอย่างยิ่ง ไม้คานที่เคยหาบแสรกผลไม้ก็
พลัดตกจากบ่า ไม้ตะขอทใี่ ชเ้ ก่ยี วผลไม้พลัดหลุดจากมือ ยงิ่ พาให้
กังวลใจย่ิงข้ึนบรรดาเทพยดาทัง้ หลายตา่ งพากนั กงั วลว่า หากนาง
มทั รีกลับออกจากปา่ เรว็ และทราบเร่ืองท่ีพระเวสสนั ดร ทรงบริจาค
พระโอรสธิดาเป็นทาน ก็จะต้องออกตดิ ตามพระกุมารทงั้ สองคืน
จากชูชก พระอนิ ทรจ์ งึ สง่ เทพบริวาร 3 องคใ์ ห้แปลงกายเปน็ สตั ว์
รา้ ย 3 ตัว คอื ราชสีห์ เสอื โคร่ง และเสือเหลือง ขวางทางไม่ให้
เสด็จกลับ

๑๑

อาศรมได้ตามเวลาปกติ เม่ือล่วงเวลาดกึ แล้วจึงหลกี ทางให้
พระนางเสดจ็ กลับอาศรม เม่ือพระนางเสดจ็ กลับถงึ อาศรมไม่พบ
สองกุมารก็โศกเศร้าเสยี พระทัย เทีย่ วตามหาและร้องไห้คร่ำครวญ
พระเวสสนั ดรทรงเหน็ พระนางเศรา้ โศก จึงหาวิธีตดั ความทุกข์โศก
ด้วยการแกล้งกล่าวหานางว่าคดิ นอกใจคบหากับชายอ่นื จึงกลบั
มาถึงอาศรมในเวลาดกึ เพราะทรงเกรงวา่ ถ้าบอกความจรงิ ใน
ขณะท่พี ระนางกำลงั โศกเศร้าหนักและกำลงั อ่อนล้า พระนางจะเปน็
อนั ตรายได้ ในท่ีสุดพระนางมทั รที รงคร่ำครวญหาลูกจนส้ินสตไิ ป
คร้ันเมื่อฟ้นื ขึ้น พระเวสสนั ดรทรงเลา่ ความจรงิ วา่ พระองคไ์ ด้
ประทานกมุ ารท้ังสองแก่ชูชกไปแล้วด้วยเหตผุ ลทจ่ี ะทรงบำเพ็ญ
ทานบารมี พระนางมัทรีจงึ ทรงคอ่ ยหายโศกเศรา้ และทรง
อนโุ มทนาในการบำเพญ็ ทานบารมีของพระเวสสันดร

๑๒

๔.คุณค่าของเรอ่ื ง

๔.๑.ด้านเนอ้ื หา
ความรู้

-ทศนัขเบญจางค์ กระพุ่มมือ (สิบน้ิว) กราบแบบเบญจาง
คประดิษฐ์ คือให้อวัยวะทง้ั ๕ ได้แก่ เข่าทงั้ ๒ มือทั้ง ๒ และ
หนา้ ผากจรดลงกับพื้น

-เบญจางคจรติ เบญจกลั ยาณี คอื หญิงท่มี ลี ักษณะงาม ๕
ประการ ไดแ้ ก่ ผมงาม เนอื้ งาม(คือ เหงือกและริมฝีปากแดงงาม)
ฟันงาม ผวิ งาม และวยั งาม (คือ ดูงามทุกวัย)

-การทำทาน
*ทานพาหริ กะ(ทานภายนอก)ได้แก่ ข้าวของตา่ งๆ (เงนิ
ทอง ลูก เมีย)
*อชั ฌัติกทาน(ทานภายใน)ไดแ้ ก่ เลอื ดเน้ือ อวัยวะต่างๆ

ขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากเร่ือง

๒.๑.การทำบุญ/ทำทาน พระเวสสันดรทรงทำทานไดท้ ุก
อยา่ งทงั้ ทานพาหริ กะและอชั ฌัติกทาน

๒.๒.เสยี สละเพือ่ ประโยชนส์ ว่ นรวม พระเวสสนั ดรทที่ รง
ปรารถนาพระโพธิญาณแม้จะตอ้ งให้บตุ รเป็นทาน

๒.๓.ความซื่อสัตยข์ องสามีภรรยาทำให้ชวี ิตครอบครวั มี
ความสขุ พระนางมัทรีมคี วามจงรักภักดตี ่อพระเวสสันดรมาก

๒.๔.ความรกั ของพ่อแม่เป็นความรกั ทย่ี งิ่ ใหญ่ พระนางมัทรี
ออกตามหาสองกุมาร

๑๓

๔.๒.ดา้ นวรรณศลิ ป์
๑.โวหาร

-บรรยาย จากบท ....( ภิกขฺ เว ) ดกู รสงฆผ์ ทู้ รงพรหมจารี
เมอื่ สมเดจ็ พระมัทรีกำสรดแสนกมั ปนาทเพยี งพระสันดานจะขาดจะ
ดบั สูญ (ปริเทวิตฺวา) นางเสวยพระอาดรู พนู เทวษในพระอุรา นำ้
พระอสั สชุ ลนาเธอไหลนองครองพระเนตร ทรงพระกนั แสงแสน
เทวษพิไรร่ำ ตั้งแตป่ ระถมยามค่ำไม่หย่อนหยดุ แต่สักโมงยาม นาง
เสดจ็ ไตเ่ ต้าติดตามทุกตำบล

-พรรณนา จากบท ....ควรจะสงสารเอ่ยด้วยต้นหวา้ ใหญ่
ใกล้อาราม งามด้วยกิ่งก้านประกวดกัน ใบชอมุ่ ประชมุ ชอ่ เปน็ ฉตั ร
ช้ันด่ังฉตั รทอง แสงพระจันทร์ดนั้ สอ่ งต้องน้ำค้างท่ีขงั ให้ ไหลลง
หยดย้อย เหมือนหน่ึงนำ้ พลอยพรอ้ ยๆพราย ๆ ต้องกับแสงกรวด
ทรายทใ่ี ตต้ ้นอร่ามวามวาวดูเป็นวงวนแวว ดง่ั บคุ คลเอาแก้วมา
ระแนงแกล้งมาโปรยโรยรอบปรมิ ณฑลก็เหมอื นกัน งามด่ังไม้
ปรชิ าตในเมืองสวรรค์มาปลูกไว้….

-อุปมา จากบท ….อุปมาเสมอื นหนึง่ พฤกษาลดาวัลย์
ยอ่ มจะอาสญั ลงเพราะลูกเป็นแท้เทย่ี ง....

-สาธก จากบท ....อปุ มาแม้นเหมือนสีดาอันภกั ดตี ่อสามี
รามบัณฑติ ....

๑๔

๒.ภาพพจน์

-อปุ มา จากบท....มัทรสี ตั ยาสวามภิ กั ดิ์รกั ผวั เพยี งบิดาก็
วา่ ….

-บุคคลวตั จากบท ....ทงั้ อาศรมก็หมองศรเี สมือนหน่ึงว่าจะ
เศรา้ โศก....

-สทั พจน์ จากบท ....ดะดุ่มเดินเมลิ มุ่งละเมาะไม้มอง
หมอบ แตย่ า่ งเหยยี บเกรียบกรอบกเ็ หลยี วหลงั ....

๓.ลลี าการประพันธ์

-พโิ รธวาทัง (โกรธ) จากบท ....เออก็เม่ือเช้าเจา้ จะเข้าปา่
น่าสงสารปานประหน่ึงวา่ จะไปมิได้ ทำร้องไห้ฝากลูกมิรูแ้ ล้ว ครั้น
คลาดแคลว้ เคลื่อนคลอ้ ยเขา้ สู่ดง ปานประหน่งึ วา่ จะหลงลืมลกู ผวั
ต่อมืดมวั จง่ึ กลับมา....

-สลั ลาปังคพิไสย (ความโศกเศรา้ ) จากบท ....โอเหตุไฉน
เหงาเงียบเมื่อยามนี้ ทั้งอาศรมกห็ มองศรเี สมือนหนึง่ วา่ จะเศรา้ โศก
เออชะรอยวา่ พระเจา้ ลกู จะวโิ ยคพลัดพรากไปจากอกพระมารดา
เสียจรงิ แลว้ กระมงั ในครง้ั น.ี้ ...

๑๕

๔.รสวรรณคดี

-รทุ รรส (รสแหง่ ความโกรธเคือง) จากบท ....ตั้งแต่เกล้า
กระหม่อมฉันตกมาเป็นข้าน้อย พระองคเ์ ห็นพิรุธร่องรอยรา้ วรานท่ี
ตรงไหน ทอดพระเนตรสงั เกตไวแ้ ต่ปางก่อนจึงเคืองค่อนด้วยคำ
หยาบยอกใจเจ็บจิตเหลือกำลัง....

-ศฤงคารรส (รสแหง่ ความรกั ) จากบท ....โอ้เจา้ ดวงสรุ ิยนั
จนั ทรทั้งคู่ของแม่เอ่ย แม่ไมร่ ู้เลยวา่ เจา้ จะหนีพระมารดาไปสู่พารา
ใดไม่รู้ท่.ี ...

-ภยานกรส (รสแห่งความกลวั ) จากบท ....พอประจวบจวน
พญาพาฬมฤคราช สะดุ้งพระทยั ไหวหวาดวะหวดี วง่ิ วน แวะ
เขา้ ข้างทางพระทรวงนางสน่ั ระรัวริกเต้นด่งั ตีปลา....

๕.การเล่นเสียง

-พยญั ชนะ จากบท....อตุ สาหะตระตรากตระตรำเตร็ดเตร่
หาผลาผลไม้....

-สระ จากบท....นางกถ็ งึ วิสญั ญสี ลบลงตรงหน้าฉาน ปาน
ประหนึง่ วา่ พมุ่ ฉตั รทองอนั ต้องสายอัสนีฟาด ขาดระเนนเอนแล้วก็
ล้มลงตรงหน้าพระท่ีนัง่ เจ้านนั้ แล....

๖.การเล่นคำ
-การซำ้ คำ จากบท ....สดุ สานนยั นาทแี่ มจ่ ะตามไปเล็งแล

สุดโสตแล้วทแ่ี ม่จะซบั ทราบฟังสำเนยี ง สุดสุรเสียงท่ีแมจ่ ะรำ่ เรยี ก
พไิ รร้อง สดุ ฝีเท้าทแ่ี ม่จะเย้ืองยอ่ งยกย่างลงเหยียบดนิ กส็ ุดสิ้นสดุ
ปัญญาสุดหา สุดค้นเห็นสดุ คิด....

๑๖

๔.๓.คุณคา่ ด้านสังคมและวฒั นธรรม

๑.สภาพสังคม
-ชายเปน็ ใหญก่ วา่ หญิง ภรรยาตอ้ งทำตามสามี
-การปกครองแบบกษตั รยิ ์ กษตั ริยเ์ ปน็ ใหญ่ในแผ่นดนิ

สามารถฆา่ ใครก็ได้
จากบท....เจ้าเป็นเพียงเมียควรหรือมาหมน่ิ ได้ ถ้าแม้นพ่ี

อยูใ่ นกรงุ ไกรเหมอื นแต่ก่อนเก่า หากว่าเจา้ ทำเชน่ นี้ กายของมัทรี
ก็จะขาดสะบนั้ ลงทันตาด้วยพระกรเบ้ืองขวาของอาตมานี้แล้วแล

๒.ประเพณี
-งานศพ พระเวสสนั ดรคดิ วา่ พระนางมทั รตี ายใน

ปา่ ซึง่ ในการจัดงานพิธจี ะตอ้ งมีพระเมรุทอง กลอง แตรสังข์และพิณ
พาทย์ ฉากบังเพลงิ ฉัตรเงนิ และฉตั รทอง เทียน

จากบท....เจา้ จะเอาป่าชัฏนห่ี รือมาเป็นปา่ ชา้ จะเอา
พระบรรณศาลานห่ี รอื เป็นบริเวณพระเมรทุ อง จะเอาแต่เสียง
สาลิกาอนั รำ่ ร้องนน้ั หรือมาเป็นกลองประโคมใน จะเอาแต่เสียง
จักจั่นและเรไรอันร่ำร้องนน่ั หรือมาต่างแตรสังข์และพณิ พาทย์ จะ
เอาแตเ่ มฆหมอกในอากาศน่ันหรือมากนั่ เป็นเพดาน จะเอาแต่ยงู
ยางในป่าพระหมิ พานต์มาต่างฉตั รเงินและฉตั รทอง จะเอาแตแ่ สง
พระจันทร์อันผดุ ผ่องมาต่างประทปี แก้วโอภาส

๑๗

๓.ความเชื่อ
-การทำบุญ พระเวสสันดรให้กัณหาชาลเี ปน็ ทานถอื เปน็
บญุ อนั ยง่ิ ใหญ่ จากบท....อันสองกุมารน้ีพ่ีให้เป็นทานแก่พราหมณ์
แต่วันวานนแี้ ล้ว พระนอ้ งแกว้ เจ้าอย่าโศกศลั ย์ จงตง้ั จติ ของเจ้านนั้
ใหโ้ สมนสั ศรทั ธา ในทางอันก่อกฤดาภินิหาร....
-เทวดา/นางฟ้า ทุกชัน้ รวมทงั้ พระอนิ ทรท์ ่ีอย่บู นสวรรคช์ ้ัน
ดาวดงึ สอ์ อกมายกยอ่ งในการทำทานบารมี จากบท....ฝา่ ยฝงู อมร
เทเวศทกุ วมิ านมาศมนเทียรทุกหมูไ่ ม้ กย็ ิม้ แยม้ พระโอษฐ์ ตบ
พระหตั ถอ์ ยู่ฉาดฉาน ร้องสาธกุ ารสรรเสริญทานบารมี ท้ังสมเด็จ
อมรินทร์เจา้ ฟา้ สรุ าลยั อนั เป็นใหญใ่ นดาวดึงส์สวรรค์ ก็มาโปรย
ปรายทพิ ยบปุ ผากรอง ทั้งพวงแกว้ และพวงทองกโ็ รยรว่ งจากกลีบ
เมฆกระทำสักการบูชาแกส่ มเดจ็ นางพระยามัทรี ท้าวเธอทรง
กระทำอนโุ มทนาทาน ( เวสสฺสนตฺ รสสฺ ) แหง่ พระเวสสันดรราชฤๅษี
ผูเ้ ป็นพระภสั ดา ( อิติ เมาะ อิมนิ า ปกาเรน ) ดว้ ยประการดังนี้
แลว้ แล....

๑๘

๕.การนำขอ้ คิดทไี่ ดจ้ ากเร่ืองไปใช้

ความรักของพ่อแม่เปน็ ความรักทีย่ ิ่งใหญ่

ถา้ พูดถงึ เร่ืองความรักแลว้ ความรกั ท่ยี ่ิงใหญ่ท่ีสดุ คงเป็น
ความรักของพ่อแม่ไมว่ า่ จะยุคสมยั ไหน ในคำประพนั ธ์หรือแม้แต่ใน
ชาดกกก็ ลา่ วถึงความรักของพ่อแม่ท่านเป็นผูใ้ ห้กำเนิด เล้ียงดู
อบรมส่ังสอน ทำทกุ อยา่ งเพื่อลกู ไดแ้ มจ้ ะยากลำบากขนาดไหนก็
ตามแต่ความรกั ของทา่ นก็ไม่เคยเปลีย่ นแปลง

รักของพ่อแม่น้เี ป็นรักแทท้ ย่ี ่งั ยืน สงิ่ แรกท่ีทา่ นนึกถงึ คือลูก
แล้วตัวเราเองทำอะไรให้ท่านไดบ้ ้าง บา้ งคนคดิ ว่ารอใหโ้ ต ทำงาน
หาเงินไดก้ ่อนด้วยเหตผุ ลของแตล่ ะบุคคล สำหรบั ผู้เขียนคิดว่าไม่
จำเปน็ ต้องรอเวลาเพราะไมว่ า่ จะเปน็ วัยไหนหรอื เวลาอะไรกต็ ามเรา
สามารถแสดงความรกั และตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ได้ เราไม่
สามารถรู้ได้ว่าอนาคตจะเปน็ อย่างไร เราจะได้ไม่ต้องมานกึ เสยี ใจว่า
มอี ะไรท่ีอยากจะทำใหพ้ ่อแม่อีกท้ังมากมาย อย่างในวัยเดก็ เช่ือฟัง
คำสอน ร้จู กั หน้าท่ีของตนเอง วัยเรยี นก็ตั้งใจเรยี นพยายามทำให้
เต็มที่ ชว่ ยงานท่านเทา่ ทเ่ี ราจะช่วยได้ ร้จู กั แบ่งเวลาให้พอ่ แม่การ
พดู คยุ ทำกจิ กรรมร่วมกนั สรา้ งความสัมพันธท์ ี่ดใี นครอบครัวอยา่ คดิ
วา่ คนละวัยแล้วละเลยท่าน เมอื่ เราเลก็ ทา่ นเล้ียงดูเรา พอเราโตข้นึ ก็
เปน็ หนา้ ทีท่ ่ีจะตอ้ งเล้ยี งดูท่าน ทำให้ดีทสี่ ุดในความสามารถของเรา

จงเป็นลูกท่ที ำให้พ่อแมภ่ มู ิใจ รักท่านใหม้ ากเท่าท่ที า่ นรัก
เรา กอดท่านไวใ้ หแ้ นน่ เพราะไมม่ ีออ้ มกอดไหนอบอุ่นเท่าน้ีอีกแล้ว
รกั ท่ีสดุ ของชีวติ จากลูก

๑๙

๖.คำประพนั ธ์ประเภทร่ายยาว

ความกตญั ญู

กตญั ญูสามคำจำได้งา่ ย มีความหมายแสนยง่ิ ใหญใ่ นชีวติ

พึงสถติ ถว้ นทว่ั ทกุ ตวั ตน ประเสริฐสดุ ของคนนนั้ หรือคือพ่อแม่

รักแท้เล้ยี งดเู สมอมา คอยนำพาต้งั แตเ่ ล็กจนเตบิ ใหญ่

จงึ บชู าให้เหมือนพระในบ้าน ดูแลท่านกอ่ นทำการใด

อกี ในใจยงั มคี ำครผู ู้สอนสั่ง วิชาการฝังในจิตติดกมล

กลายเป็นบัวพน้ น้ำได้เพราะครู บรรดาผชู้ ่วยเหลือแลเกอ้ื หนุน

พระคุณของท่านต้องทดแทน เปน็ แบบแผนมงคลของชีวติ

น่าชนื่ ชมคิดดีทำดนี ้ีแล

๒๐

แหลง่ ทม่ี า

สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา. (๒๕๖๑). หนงั สือเรยี น
รายวิชาภาษาไทย วรรณคดีวจิ กั ษ์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ตามหลักสตู รแกนกลาง
การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. (พมิ พ์ครัง้ ที่
๑๒). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.

Thanyarat Khotwanta. (๒๒/๙/๒๕๖๓). “มหาเวสสันดรชาดก
กณั ฑ์มัทรี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 วชิ าภาษาไทย”. [ระบบออนไลน]์ .
แหลง่ ทมี่ า https://blog.startdee.com. สบื คน้ เมื่อ ๑๕/๗/
๒๕๖๔.

โรงเรยี นเตรียมอดุ มศกึ ษา. “มหาเวสสันดรชาดก (กัณฑม์ ัทร)ี –
e-Learning”. [ระบบออนไลน]์ . แหล่งทีม่ า http://e-
learning.triamudom.ac.th › courses › unit02. สบื คน้ เมื่อ
๑๕/๗/๒๕๖๔.

Paritachumkaew. (๓๐/๖/๒๕๖๑). “รา่ ยยาวมหาเวสสนั ดรชาดก
กัณฑม์ ทั ร”ี . [ระบบออนไลน]์ . แหล่งทมี่ า https://
paritachumkaew.wordpress.com.สืบค้นเมอ่ื ๑๕/๗/
๒๕๖๔.

๒๑


Click to View FlipBook Version