The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุปรายงานผลการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

สรุปรายงานผลการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

สรุปรายงานผลการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

สรุปรายงานผลการตรวจสอบการด าเนินงานโครงการอาหารกลางวัน ที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ------------------------------ การด าเนินงานระดับโรงเรียน จากการตรวจสอบ และการสังเคราะห์การตรวจสอบการด าเนินงานโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน จ านวน 1,858 แห่ง ผลการตรวจสอบสรุปได้ ดังนี้ 1. การส่งเสริม สนับสนุน และก ากับติดตามการด าเนินงานโครงการอาหารกลางวัน โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ มีการส่งเสริม สนับสนุน และก ากับติดตามการด าเนินงานโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนเป็นไปตามแนวทางที่ สพฐ. ก าหนด โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการอาหารกลางวันระดับโรงเรียน และคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง มีการส่งเสริม สนับสนุน และก ากับติดตามการด าเนินงานโรงเรียนในสังกัดตามที่ได้รับมอบหมาย ส่วนโรงเรียน ในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบางแห่ง ไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการหรือมีการแต่งตั้ง แต่ไม่ครบถ้วนตามแนวทางที่ก าหนด และ/หรือคณะกรรมการไม่มีการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ขอให้โรงเรียนในสังกัด ถือปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางการด าเนินงานโครงการ อาหารกลางวัน ที่ สพฐ. ก าหนด ดังนี้ 1. แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการอาหารกลางวัน ระดับโรงเรียน เพื่อส่งเสริม ให้ข้อเสนอแนะ ตรวจสอบ ก ากับติดตาม และแก้ไขปัญหาการด าเนินงานโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน ประกอบด้วย - ผู้อ านวยการสถานศึกษา ประธานกรรมการ - รองผู้อ านวยการสถานศึกษา รองประธานกรรมการ - ผู้แทนครู กรรมการ - ผู้แทนคระกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กรรมการ - ผู้แทนผู้ปกครอง กรรมการ - ผู้แทนนักเรียน กรรมการ - ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการ - ผู้แทนจากโรงพยาบาล/ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล กรรมการ - ครูผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน กรรมการและเลขานุการ - ครูผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ - ครูผู้รับผิดชอบงานพัสดุ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ทั้งนี้ จ านวนและองค์ประกอบของคณะกรรมการ ให้เป็นไปตามความเหมาะสมและสภาพบริบทของโรงเรียน 2. ควบคุม ก ากับดูแลคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยก ากับติดตามการด าเนินงานโครงการอาหารกลางวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ การด าเนินงานโครงการอาหารกลางวัน 2. การขอรับงบประมาณเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2.1 การจัดท าและการจัดส่งข้อมูลจ านวนนักเรียนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบว่า โรงเรียน ในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ มีการจัดท าข้อมูลจ านวนนักเรียนครบถ้วน ตรงตาม จ านวนนักเรียนในระบบ DMC ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 โดยจัดส่งข้อมูลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น / ได้ทัน...


-2- ได้ทันก่อนวันเปิดภาคเรียน อย่างน้อย 7 วันท าการ ส่วนโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาบางแห่ง ไม่จัดท าข้อมูลจ านวนนักเรียนในระบบ DMC ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 เพื่อจัดส่ง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งไม่ใช้ข้อมูล ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ในการพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณให้กับโรงเรียน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ละแห่งจะเป็นผู้ก าหนดระยะเวลาให้โรงเรียนด าเนินการจัดส่งข้อมูลจ านวนนักเรียน 2.2 การขอรับเงินงบประมาณเพิ่มเติม กรณีมีนักเรียนเพิ่มขึ้น พบว่า โรงเรียนในสังกัดส านักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ ได้รับเงินงบประมาณไม่เพียงพอ เนื่องจากมีนักเรียนรายใหม่เพิ่มเติม เพราะโรงเรียนบางแห่งไม่จัดท าโครงการขอรับเงินสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มเติม ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังก าหนด และบางแห่งไม่จัดท าโครงการขอรับเงินสนับสนุนจากองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นเพิ่มเติม เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งว่า ไม่มีเงินงบประมาณเพียงพอที่จะจัดสรรเพิ่มเติม ให้กับโรงเรียน ประกอบกับโรงเรียนบางแห่งไม่ทราบแนวทางการปฏิบัติในการขอรับเงินสนับสนุนเพิ่มเติม โรงเรียนจึงจ าเป็นต้องบริหารจัดการตามวงเงินที่ได้รับจัดสรรให้เพียงพอกับจ านวนนักเรียนรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น และ/หรือโรงเรียนบางแห่งมีเงินงบประมาณคงเหลือจากปีงบประมาณก่อนที่ยังไม่ส่งคืนองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น จึงสามารถน าเงินงบประมาณคงเหลือดังกล่าวมาใช้ในการจัดอาหารกลางวันให้กับนักเรียนรายใหม่ ที่เพิ่มขึ้น ข้อเสนอแนะ ขอให้โรงเรียนในสังกัด ถือปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางการด าเนินงานโครงการ อาหารกลางวัน ที่ สพฐ. ก าหนด คือ การขอรับงบประมาณเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันจากองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนต้องจัดท าข้อมูลจ านวนนักเรียนให้ครบถ้วน ตรงตามจ านวนนักเรียนในระบบ DMC ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 25xx และจัดส่งข้อมูลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยด าเนินการ ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กระทรวงมหาดไทยก าหนด 3. การรับเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3.1 การรับเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ ได้รับเงินอุดหนุน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครบ 200 วันต่อปีการศึกษา และครบถ้วนตรงตามข้อมูลจ านวนนักเรียน ที่จัดส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยโรงเรียนได้รับการปรับเพิ่มเงินอุดหนุน จากอัตรา 21 บาท/คน/วัน เป็นอัตรา 22 - 36 บาท/คน/วัน ตามขนาดของโรงเรียนตามที่กระทรวงศึกษาธิการก าหนด และโรงเรียน ในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบางแห่ง ได้รับเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจ าปีการศึกษา 2565 ไม่ครบถ้วนตรงตามจ านวนนักเรียน และจ านวนวัน ตามที่กระทรวงมหาดไทยก าหนด กล่าวคือ ได้รับเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันจากองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ไม่ครบ 200 วัน หรือไม่ครบถ้วนตรงตามจ านวนวันที่เปิดภาคเรียน และ/หรือได้รับไม่ครบถ้วน ตรงตามข้อมูลจ านวนนักเรียนที่จัดส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ/หรือไม่ได้รับการปรับเพิ่มเงิน โครงการอาหารกลางวันตามอัตรา และ/หรือไม่ได้รับการปรับเพิ่มตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 ตามระยะเวลา ที่กระทรวงมหาดไทยก าหนด 3.2 การรับเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีการศึกษา 2566 (ภาคเรียนที่ 1/2566) โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบางแห่ง ได้รับจัดสรรเงินอุดหนุน โครงการอาหารกลางวันครบถ้วน ตรงตามจ านวนนักเรียนที่มีอยู่จริง และได้รับทันวันเปิดภาคเรียน โดยโรงเรียน ได้มีการจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นหลักฐานการรับเงินครบถ้วนตามที่ / กระทรวง...


-3- กระทรวงมหาดไทยก าหนด และโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ ได้รับเงิน อุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน ภาคเรียนที่ 1/2566 ไม่ครบถ้วนตรงตามข้อมูลจ านวนนักเรียน และ ระยะเวลาตามที่กระทรวงมหาดไทยก าหนด โดยโรงเรียนบางแห่งยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ช่วงที่เข้าตรวจสอบเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2566) หรือได้รับเงินอุดหนุน แต่ไม่ครบถ้วน ไม่ตรงตามข้อมูลนักเรียนที่จัดส่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ/หรือโรงเรียนบางแห่ง มีเงินงบประมาณคงเหลือจากปีงบประมาณก่อนที่ยังไม่ได้ส่งคืนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงน าเงินงบประมาณ คงเหลือดังกล่าวมาใช้ในการจัดอาหารกลางวันให้กับนักเรียนรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น 3.3 การรับเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบว่า โรงเรียนได้รับ การจัดสรรเงินจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในลักษณะต่างๆ ดังนี้ 3.3.1 ได้รับครั้งละ 100 วันต่อภาคเรียน 3.3.2 ได้ภาคเรียนละ 2 ครั้งๆ ละ 50 วัน 3.3.3 ได้รับเป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือไม่มีการก าหนดระยะเวลาที่ชัดเจน และจ านวน ที่ได้รับในแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ข้อเสนอแนะ ขอให้โรงเรียนในสังกัด ถือปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางการด าเนินงานโครงการ อาหารกลางวัน ที่ สพฐ. ก าหนด ดังนี้ 1. กรณีโรงเรียนได้รับเงินโครงการอาหารกลางวัน ไม่ครบถ้วนตรงตามจ านวนนักเรียน และจ านวนวันตามที่กระทรวงมหาดไทยก าหนด โรงเรียนควรประสานติดตามทางถามทางวาจากับเจ้าหน้าที่ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากยังไม่ได้ผลให้มีการจัดท าหนังสือติดตามเป็นลายลักษณ์อักษร 2. กรณีที่โรงเรียนได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณค่าอาหารไม่เพียงพอ เนื่องจากมีจ านวน นักเรียนรายใหม่เพิ่มขึ้น ท าให้มีรายจ่ายจริงมากกว่างบประมาณที่ได้รับจัดสรร ให้โรงเรียนจัดท าโครงการ ขอรับงบประมาณเพิ่มเติมจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยก าเนินการให้เป็นไปตามระยะเวลา ที่กระทรวงมหาดไทยก าหนด 3. ขอให้โรงเรียนประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อติดตาม/สอบถามปัญหา อุปสรรค ในการจ่ายเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันให้กับโรงเรียน เพื่อให้โรงเรียนด าเนินการปรับปรุงแก้ไข หรือจัดท า เอกสารประกอบการเบิกเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันให้เป็นไปตามแนวทางที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก าหนด 4. การใช้จ่ายเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน 4.1 การจัดอาหารกลางวัน พบว่า โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ มีการจัดอาหาร กลางวันให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานครบ 100 วันต่อภาคเรียน หรือครบถ้วนตามจ านวนวันที่โรงเรียน มีการจัดการเรียนการสอน และโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบางแห่ง มีการจัดอาหารกลางวันให้นักเรียนไม่ครบ 100 วันต่อภาคเรียน และจัดอาหารกลางวันไม่ครบตามจ านวนวัน ที่จัดการเรียนการสอน เนื่องจากได้รับเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ครบ 100 วัน หรือไม่ครบตามวันที่จัดการเรียนการสอน 4.2 การก าหนดรายการอาหารกลางวัน 1) โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา มีการน าโปรแกรม Thai School Lunch หรือแนวทางการจัดอาหารกลางวัน “เด็กวัยเรียน” เมนูอาหารจานเดียวทางเลือก / หรือต ารับ...


-4- หรือต ารับอาหารส าหรับเด็กวัยเรียน ๕ ภูมิภาค หรือนักโภชนาการ ตามแนวทางที่ส านักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานก าหนด มาใช้ในการจัดท ารายการอาหารกลางวันให้กับนักเรียน รวมทั้ง มีการน าแนว ทางการจัดอาหารอื่นๆ มาปรับใช้ในการก าหนดรายการอาหารกลางวัน 2) โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ มีการก าหนดรายการ อาหารล่วงหน้าอย่างน้อย ๑ เดือน เพื่อให้อาหารมีความหลากหลายและมีคุณค่าครบถ้วนถูกหลักโภชนาการ ส่วน โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบางแห่ง ก าหนดรายการอาหารเป็นรายสัปดาห์ / 10 วัน/ 15 วัน ตามข้อตกลงการจัดจ้างประกอบอาหารของโรงเรียน หรือตามวัตถุดิบประกอบอาหาร ที่โรงเรียนสามารถจัดหาได้ในฤดูกาลนั้น อีกส่วนเกิดจากราคาวัตถุดิบประกอบอาหารมีการเปลี่ยนแปลง ท าให้ โรงเรียนไม่สามารถก าหนดรายการอาหารล่วงหน้าเป็นเวลานานได้ 3) การประเมินความพึงพอใจต่อรายการอาหาร/คุณภาพอาหาร พบว่า โรงเรียนในสังกัด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ มีการประเมินความพึงพอใจ โดยจัดท าแบบสอบถาม ผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพื่อรับปัญหาในการด าเนินการ รวมทั้ง แนวทางในการปรับปรุงคุณภาพอาหาร และโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา บางแห่งมีไม่มารจัดท าแบบสอบถามเพื่อประเมินความพึงพอใจ แต่มีการติดตามสอบถามด้วยวาจากับนักเรียน ต่อคุณภาพ และรสชาติอาหาร 4) การจัดสภาพแวดล้อมในการรับประทานอาหาร พบว่า โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ มีการจัดสภาพแวดล้อมในการรับประทานอาหารที่เหมาะสมให้แก่นักเรียน กล่าวคือ สถานที่และภาชนะที่ใช้ในการรับประทานอาหารมีความสะอาด ถูกสุขลักษณะ อาหารที่ปรุงส าเร็จ มีการจัดเก็บในภาชนะที่สะอาด รวมทั้ง มีการจัดหาน้ าดื่มให้นักเรียน มีการปิดประกาศ หรือประชาสัมพันธ์ รายการอาหาร คุณค่าและปริมาณสารอาหารให้นักเรียนหรือผู้ปกครองทราบ และมีการจัดคุณครูและเจ้าหน้าที่ ควบคุมดูแลการจัดอาหารและการรับประทานอาหารของนักเรียน ส่วนโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาบางแห่ง มีการจัดสภาพแวดล้อมในการรับประทานอาหารไม่เหมาะสม และการจัดอาหาร ไม่ถูกสุขลักษณะ 4.3 การด าเนินการจัดซื้อจัดจ้างอาหารกลางวัน 1) การจัดอาหารกลางวัน พบว่า โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ส่วนใหญ่ มีการจัดอาหารกลางวันให้นักเรียนเป็นไปตามแนวทางที่กรมบัญชีกลางก าหนด กล่าวคือ โรงเรียนมี การจัดหาอาหารกลางวันโดยวิธีจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร หรือวิธีจัดจ้างบุคคลเพื่อประกอบ อาหาร หรือวิธีจ้างเหมาประกอบอาหาร (ปรุงส าเร็จ ) และโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาบางแห่ง มีการจัดอาหารกลางวันไม่เป็นไปตามที่กรมบัญชีกลางก าหนด โดยโรงเรียนจัดให้ บุคคลภายนอกเข้ามาจ าหน่ายอาหารกลางวันให้กับนักเรียน และใช้วิธีแจกคูปองให้นักเรียนน าไปแลกอาหาร กลางวัน และผู้จ าหน่ายอาหารจะน าคูปองมาขอเบิกเงินค่าอาหารกลางวันกับโรงเรียนเป็นรายสัปดาห์ เนื่องจาก ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไม่ทราบแนวทางที่ก าหนด 2) การด าเนินการจัดซื้อจัดจ้าง พบว่า โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ส่วนใหญ่ มีการด าเนินการจัดซื้อจัดจ้างอาหารกลางวัน เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบางแห่ง ด าเนินการ จัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ กล่าวคือ / (1) กรณี...


-5- (๑) กรณีจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร พบว่า การจัดซื้อที่มีวงเงินเกิน 5,000 บาท โรงเรียนไม่มีการด าเนินการในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) การจัดซื้อ แก๊สหุงต้ม ไม่ด าเนินการจัดท าเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง แต่น ามาถัวเฉลี่ยในรายการจัดซื้อวัตถุดิบประกอบอาหาร วิธีการด าเนินการจัดซื้อจัดจ้างไม่ตรงตามข้อเท็จจริง และคณะกรรมการตรวจรับไม่ปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น (2) กรณีการจ้างบุคคลเพื่อประกอบอาหาร พบว่า การจัดจ้างที่มีวงเงินเกิน 5,000 บาท ไม่ได้ด าเนินการในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) การจ้างบุคคลเพื่อประกอบอาหาร โรงเรียนไม่ได้ด าเนินการจัดท าเอกสารการจัดจ้าง ผู้มีอ านาจไม่ลงนามในรายงานขอจ้าง/ใบสั่งจ้าง และรายงาน ขอจ้างมีเอกสารประกอบการพิจารณาไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง เป็นต้น (3) กรณีการจ้างเหมาประกอบอาหาร (ปรุงส าเร็จ) พบว่า การจัดจ้างที่มีวงเงินเกิน 5,000 บาท ไม่ได้ด าเนินการในระบบจัดซื้อจัดจ้างสภารัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ไม่จัดท ารายงานขอจ้าง หรือมีการจัดท ารายงานขอจ้างภายหลังการด าเนินการจัดจ้าง ไม่แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ และไม่ก าหนดขอบเขตของงานจ้าง (TOR) เป็นต้น 4.4 การเบิกจ่ายเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน พบว่า โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ มีการด าเนินการเบิก จ่ายเงินถูกต้องตามวัตถุประสงค์และแนวทางที่ก าหนด และมีหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายเงินครบถ้วน ถูกต้อง ตามระเบียบของทางราชการ และโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบางส่วน เบิก จ่ายเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันไม่ถูกต้องตามแนวทางที่ก าหนด และ/หรือหลักฐานประกอบการจ่ายเงิน ไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้องตามระเบียบที่ทางราชการก าหนด กล่าวคือ การจ่ายเงินไม่ได้รับอนุมัติจากผู้มีอ านาจ หรือมีการลงนามอนุมัติการเบิกจ่ายเงินในหลักฐาน ไม่ครบถ้วน การจัดซื้อวัสดุประกอบอาหารไม่แนบใบจัดซื้อ วัสดุเครื่องบริโภค ไม่มีใบส่งมอบงาน ไม่มีใบตรวจรับพัสดุ และไม่มีใบเสร็จรับเงินหรือใบส าคัญรับเงินหรือ ใบส าคัญรับเงินของผู้ขายหรือผู้รับจ้าง รวมทั้งไม่มีการประทับตรา “จ่ายเงินแล้ว” พร้อมทั้งลงนามผู้จ่ายเงิน และวัน เดือน ปี ที่จ่ายในใบเสร็จรับเงินตามที่ระเบียบก าหนด ข้อเสนอแนะ ขอให้โรงเรียนในสังกัด ถือปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางการด าเนินงานโครงการ อาหารกลางวัน ที่ สพฐ. ก าหนด ดังนี้ 1. การจัดอาหารกลางวันให้กับนักเรียน โรงเรียนต้องมีการจัดอาหารกลางวันให้นักเรียน ทุกคนได้รับประทานครบ 100 วันต่อภาคเรียน หรือครบตามวันที่เปิดภาคเรียน เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้ รับประทานอาหารกลางวันให้เป็นตามวัตถุประสงค์และแนวทางที่ก าหนด กรณีโรงเรียนจัดอาหารไม่ครบถ้วน ตามวันที่มีการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากโรงเรียนได้รับเงินงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ครบถ้วนตามจ านวนวันที่เปิดภาคเรียน หรือไม่ครบตามจ านวนนักเรียน ขอให้โรงเรียนประสานติดตามทางวาจา กับเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากยังไม่ได้ผลให้มีการจัดท าหนังสือติดตามเป็นลายลักษณ์อักษร 2. กรณีโรงเรียนด าเนินการจัดอาหารกลางวันไม่เป็นไปตามแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง ที่กรมบัญชีกลางก าหนด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาควรควบคุม ก ากับดูแลโรงเรียนในสังกัดถือปฏิบัติ ให้เป็นไปตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ.) 0405.2/ว116 ลงวันที่ 12 มีนาคม 2562 โดยการจัดอาหารกลางวันให้กับนักเรียนโรงเรียนสามารถด าเนินการได้ใน 3 กรณี ดังนี้ (1) กรณีการจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร (2) กรณีการจ้างบุคคลเพื่อประกอบอาหาร (3) กรณีการจ้างเหมาะประกอบอาหาร (ปรุงส าเร็จ) / 3. โรงเรียน...


-6- 3. โรงเรียนต้องจัดให้มีการประเมินความพึงพอใจต่อรายการ/คุณภาพอาหาร โดยผู้อ านวยการ สถานศึกษา ครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพื่อรับทราบปัญหา และแนวทาง ในการปรับปรุงคุณภาพอาหารให้มีคุณค่าครบถ้วนถูกหลักโภชนาการ รวมทั้ง นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรสชาติ และปริมาณอาหาร การปรับปรุงและพัฒนาอาหาร 4. การจัดสภาพแวดล้อมในการปรับประทานอาหาร โรงเรียนควรให้ความส าคัญ ในเรื่องของ ความสะอาด และถูกสุขลักษณะเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในส่วนของสถานที่ในการรับประทานอาหารการใช้ภาชนะ ให้เหมาะสมกับชนิดของอาหาร เพื่อให้อาหารที่รับประทานถูกสุขลักษณะ หากโรงเอาหารมีสภาพไม่เหมาะสม หรือมีการปฏิบัติที่ไม่ถูกสุขลักษณะ จะเป็นสาเหตุให้อาหารได้รับการปนเปื้อนจากเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรก โรงอาหารจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค การที่โรงเรียนให้ความส าคัญในเรื่องความสะอาด และความปลอดภัย ของอาหาร เป็นการป้องกันอันตรายต่างๆ ที่เกิดจากอาหารไม่สะอาด โรงเรียนจึงต้องจัดโรงอาหารและอบรมครู เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลอาหาร 5. การด าเนินการจัดซื้อจัดจ้างอาหารกลางวัน การด าเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ให้โรงเรียนถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 22 ข้อ 24 ข้อ 25 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 5.1 การซื้อหรือการจ้างที่มิใช่การจ้างก่อสร้าง ให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะ หนึ่ง หรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลหนึ่งรับผิดชอบในการจัดท าร่างขอบเขตของงาน หรือรายละเอียด คุณลักษณะของพัสดุที่จะจัดซื้อหรือจ้าง รวมทั้ง ก าหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอด้วย 5.2 การซื้อหรือการจ้าง ให้เจ้าหน้าที่พัสดุจัดท ารายงานขอซื้อหรือขอจ้างเสนอ ต่อผู้มีอ านาจเพื่อให้ความเห็นชอบ โดยต้องระบุรายละเอียดในการขอซื้อหรือจ้างให้ครบถ้วนตามที่ระเบียบ ก าหนด เมื่อผู้มีอ านาจให้ความเห็นชอบตามรายงานที่เสนอแล้ว เจ้าหน้าที่พัสดุจึงจะด าเนินการตามวิธีการซื้อ หรือจ้างนั้นต่อไป 5.3 ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ด าเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือ ผู้ตรวจรับพัสดุ เพื่อท าหน้าที่ตรวจรับวัตถุดิบเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร/ตรวจรับรายการอาหาร ตามรายการ อาหารในการส่งมอบทุกครั้ง โดยให้จัดท ารายงานผลการตรวสอบรับเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเป็นราย สัปดาห์หรือรายเดือนตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี โดยให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 166 ลงวันที่ 12 มีนาคม 2562 5.4 การซื้อหรือจ้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ต้องด าเนินการบันทึกข้อมูล การจัดซื้อจัดจ้างในระบบ e-GP ตามแนวทางการปฏิบัติของกรมบัญชีกลาง ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค 0421.4/ว 294 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 6. การเบิกจ่ายเงิน 6.1 การเบิกจ่ายเงินให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิก จ่ายเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและการน าเงินส่งคลัง พ.ศ. 2562 ข้อ 35 ข้อ 37 ข้อ 38 ข้อ 42 ข้อ 44 ข้อ 46 และข้อ 48 ดังนี้ (1) การจ่ายเงินให้ใช้จ่ายเฉพาะตามที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมติ คณะรัฐมนตรี อนุญาตให้จ่ายได้ หรือตามที่ได้รับอนุญาตตามกระทรวงการคลัง และต้องได้รับอนุมัติการจ่ายเงิน จากผู้มีอ านาจ / (2) ก่อนการจ่าย...


-7- (2) ก่อนการจ่ายเงินทุกครั้งให้ตรวจสอบหลักฐานการจ่ายว่า มีหลักฐาน การจ่ายครบถ้วน ถูกต้อง และได้รับอนุญาตจากผู้มีอ านาจ พร้อมทั้งจัดเก็บหลักฐานการเบิกจ่ายให้เป็นระบบ ในที่เหมาะสม และปลอดภัย (3) ให้เจ้าหน้าที่ผู้จ่ายเงินประทับตราว่า “จ่ายเงินแล้ว” โดยลงลายมือชื่อ รับรองการจ่ายและระบุชื่อผู้จ่ายเงินด้วยตัวบรรจง พร้อมทั้ง วัน เดือน ปี ที่จ่าย ก ากับไว้ในหลักฐานการจ่ายเงิน ทุกฉบับ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ (4) การจ่ายเงินของส่วนราชการ ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินหรือใบส าคัญรับเงิน ซึ่งผู้รับเงินเป็นผู้ออกให้ หรือรายงานการจ่ายเงินจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) หรือใบรับรองการจ่ายเงิน หรือเอกสารอื่นใดที่ทางกระทรวงการคลังก าหนดเป็นหลักฐานการจ่าย (5) การจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิ ให้เรียกหลักฐานการจ่ายให้ครบถ้วน ทุกรายการที่จ่ายเงินและตรวจสอบให้ถูกต้อง โดยใบส าคัญคู่จ่ายที่เป็นใบเสร็จรับเงินจากเจ้าหนี้บุคคลภายนอก อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังนี้ (5.1) ชื่อ สถานที่อยู่ หรือที่ท าการของผู้รับเงิน (5.2) วัน เดือน ปี ที่รับเงิน (5.3) รายการแสดงการรับเงินระบุว่าเป็นค่าอะไร (5.4) จ านวนเงินทั้งตัวเลขและตัวอักษร (5.5) ลายมือชื่อของผู้รับเงิน (6) กรณีส่วนราชการจ่ายเงินรายใด ซึ่งตามลักษณะไม่อาจเรียก ใบเสร็จรับเงินจากผู้รับเงินได้ ให้ผู้รับเงินลงชื่อในใบส าคัญรับเงินเพื่อใช้เป็นหลักฐานการจ่าย (7) กรณีข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างของส่วนราชการ การ จ่ายเงินไปโดยได้รับใบเสร็จรับเงินซึ่งมีรายการไม่ครบถ้วน ซึ่งตามลักษณะไม่อาจเรียกใบเสร็จรับเงินจากผู้รับเงิน ได้ ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างนั้น ท าใบรับรองการจ่ายเงิน เพื่อน ามาเป็นเอกสารประกอบการ เบิกจ่ายเงินต่อส่วนราชการ 6.2 การหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้ถือปฏิบัติตามประมวลรัษฎากร ดังนี้ (1) ตามมาตรา 50 มาตรา 5 และมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ก าหนดให้ส่วนราชการที่มีการจ่ายเงินให้กับนิติบุคคลตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป หรือบุคคลธรรมดาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 1 ส่งกรมสรรพากร ภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือน ที่จ่ายเงิน กรณีผู้จ่ายเงินมิได้หักภาษี ณ ที่จ่าย และน าส่ง ผู้จ่ายเงินต้องรับผิดร่วมกับผู้มีเงินได้ในการเสียภาษี ที่ต้องช าระตามจ านวนเงินภาษีที่มิได้หักและน าส่งนั้น ทั้งที่ ตามมาตรา 54 แห่งประมวลรัษฎากร (2) ตามมาตรา 40 (3) (4) (5) (6) (7) หรือ (8) แห่งประมวลรัษฎากร ก าหนดให้การจ่ายเงินได้อื่นๆ เช่น ค่าเช่า ค่าบริการ ค่าขนส่ง ค่าโฆษณา เป็นต้น ให้ออกหนังสือรับรองการหัก ภาษี ณ ที่จ่ายทันทีทุกครั้ง ที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 6.3 การปิดแสตมป์อากร ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 121 ก าหนดให้ การจ้างท า ของทุกจ านวน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท แห่งสินจ้างที่ก าหนดไว้ ต้องปิดอากรแสตมป์ 1 บาท ผู้รับจ้างเป็นผู้ที่ต้องเสียอากร ส าหรับสัญญาจ้างวงเงินตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป ต้องช าระอากรเป็นตัวเงิน แทนการปิดแสตมป์อากร 6.4 กรณีโรงเรียนเบิกจ่ายเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันเป็นเงินสดให้กับ นักเรียน เนื่องจากโรงเรียนไม่มีการจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนตามปกติ โดยโรงเรียนบางแห่งจัดให้มี / การจัดการ...


-8- การจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ และบางแห่งมีการจัดใบงานให้กับนักเรียนไปจัดท าที่บ้าน โดยโรงเรียน เข้าใจว่าสามารถจ่ายค่าอาหารเป็นเงินสดให้กับนักเรียนได้ตามแนวทางการจัดอาหารให้กับนักเรียนในช่วงของ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวไม่ถูกต้องตามแนวทางที่ส านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานก าหนด ในโอกาสต่อไป ขอให้ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ก ากับ ติดตาม โรงเรียนให้ด าเนินการให้เป็นไปตามคู่มือด าเนินงานโครงการอาหารกลางวัน ประจ าปีการศึกษา 2566 และถือ ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการน าส่งคลัง พ.ศ. 2562 โดยเคร่งครัด 6.5 กรณีโรงเรียนเบิกจ่ายเงินอุดหนุนอาหารกลางวัน โดยไม่มีการจัดท าเอกสาร หลักฐานประกอบการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน โดยการเบิกจ่ายมีเพียงการจดบันทึกรายการ จ่ายเงินค่าจัดซื้อวัตถุดิบประกอบอาหารกลางวันในแต่ละวัน หรือมีเพียงสัญญาเงินยืม เป็นหลักฐานประกอบการ เบิกจ่ายเงิน ซึ่งเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบที่ทางราชการก าหนดและในโอกาสต่อไป ขอให้ส านักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ก ากับ ติดตาม โรงเรียนด าเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่า ด้วยการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการน าเงินส่งคลัง พ.ศ. 2562 ข้อ 39 โดยการเบิกจ่ายเงินต้องมีหลักฐานการจ่ายไว้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ 5. การควบคุมและการรายงานผลการด าเนินงานโครงการอาหารกลางวัน 5.1 การควบคุมเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน พบว่า โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ สามารถควบคุม เงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันที่อยู่ในความรับผิดชอบได้ครบถ้วน ถูกต้อง และเงินอุดหนุนโครงการอาหาร กลางวัน คงเหลือ ณ วันตรวจตัดยอด ถูกต้องตรงกับยอดคงเหลือในรายงานคงเหลือประจ าวัน และทะเบียนคุม เงินนอกงบประมาณ และโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบางส่วน ที่มีการควบคุม เงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ตามที่ระเบียบก าหนด ส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมเงิน ที่มีอยู่ในความรับผิดชอบได้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง 5.2 การรายงานผลผลด าเนินงานโครงการอาหารกลางวัน พบว่า โรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาส่วนใหญ่ มีการรายงาน ผลการด าเนินงานโครงการอาหารกลางวันต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่โครงการ แล้วเสร็จ กรณีมีเงินเหลือจ่ายจากการด าเนินการ มีการน าส่งคืนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมการจัดส่ง รายงานฯ และโรงเรียนในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบางแห่ง รายงานผลการด าเนินงาน โครงการอาหารกลางวันไม่เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทยก าหนด กรณีมีเงินเหลือจ่ายไม่มีการน าส่งคืน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพร้อมกับรายงานผลการด าเนินงานโครงการอาหารกลางวัน ข้อเสนอแนะ ขอให้โรงเรียนในสังกัด ถือปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางการด าเนินงานโครงการ อาหารกลางวัน ที่สพฐ. ก าหนด ดังนี้ 1. เมื่อมีการรับและจ่ายเงินทุกประเภท จะต้องบันทึกรายการในระบบบัญชีของโรงเรียน ให้ครบถ้วน ถูกต้อง ตรงตามหลักฐาน เพื่อให้สามารถตรวจสอบเงินคงเหลือ ณ ขณะใดขณะหนึ่งว่าอยู่ในสถานะ ของเงินสด และเงินฝากธนาคาร จ านวนเท่าใด 2. การจัดท าทะเบียนคุมเงินนอกงบประมาณ ให้บันทึกควบคุมแยกตามประเภทของเงิน ที่ได้รับจัดสรร เพื่อให้สามารถควบคุมการใช้จ่ายเงินไม่ขาด/ เกินกว่าที่ได้รับจัดสรร และการใช้จ่ายเงิน ตรงตาม วัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน / 3. ตามหนังสือ...


-9- 3. ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0808.2/ว 4750 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2563 เรื่อง ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 256 ข้อ 7.5 ก าหนดว่าให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น แจ้งหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนรายงานผลการด าเนินงานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่โครงการแล้วเสร็จ และหากมีเงินเหลือให้ส่งคืนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในคราวเดียวกัน ส าหรับโรงเรียนที่มีเงินโครงการอาหารกลางวันเหลือจ่าย แต่ไม่มีการน าส่งคืนองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น รวมถือไม่มีการรายงานผลการด าเนินงานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขอให้ส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษามอบหมายให้ผู้ตรวจสอบภายในส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ตรวจสอบ จ านวนเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันที่เหลือ เพื่อน าส่งคืนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามระเบียบ ที่กระทรวงมหาดไทยก าหนด และในโอกาสต่อไป ขอให้ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ควบคุม ก ากับ ดูแลโรงเรียนในสังกัดให้ด าเนินการให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่ทางราชการก าหนด 4. ดอกผลที่เกิดจากการน าเงินฝากธนาคารเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันให้น าส่งคลัง เป็นรายได้แผ่นดิน ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0406.3/19505 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2553 เรื่องขอท าความตกลงวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับเงินที่ส่วนราชการได้รับอุดหนุนจากองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ------------------------------------------------------


Click to View FlipBook Version