The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุปเศรษฐศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jirakitlertkaruna, 2022-03-12 14:16:39

สรุปเศรษฐศาสตร์

สรุปเศรษฐศาสตร์

สรุประบบเศรษฐกจิ
ระบบเศรษฐกจิ คือ ลกั ษณะการดาํ เนินกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของแต่ละสงั คม เพื่อบรรลุจดุ หมายสูงสุดทาง
เศรษฐกิจ สิ่งแวดลอ้ มและปัจจยั ต่างๆ แบง่ ออกเป็น 4 ระบบ ดงั น้ี
ระบบคอมมิวนิสต์
ลกั ษณะเดน่

-รัฐบาลเป็นเจา้ ของปัจจยั การผลติ อยา่ งส้ินเชิง
-รัฐบาลเป็นผูท้ าํ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ท้งั ส้ิน
-เอกชนไม่มสี ิทธิทาํ กจิ กรรมเศรษฐกจิ ใดๆ
ขอ้ ดี
-เอกชนไมต่ อ้ งรบั ผดิ ชอบทางดา้ นเศรษฐกจิ
-ทรพั ยากรถูกควบคุมการใชจ้ ากรัฐบาลทาํ ให้ไมถ่ กู ทาํ ลาย
ขอ้ เสีย
-ประชาชนไมม่ ีสิทธิเสรีภาพทางเศรษฐกจิ (รฐั บาลทาํ ท้งั หมด)
-สินคา้ และบริการมนี อ้ ยและดอ้ ยคณุ ภาพเพราะไม่มกี ารแขง่ ขนั
-ผลผลิตต่าํ เพราะประชาชนไมม่ ขี วญั และกาํ ลงั ใจในการทาํ ธุรกิจ
ระบบสังคมนยิ ม
ลกั ษณะเด่น
-รัฐบาลเป็นเจา้ ของปัจจยั การผลิตที่สําคญั
-รัฐบาลทาํ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ทม่ี ขี นาดใหญร่ ายไดส้ ูงเกย่ี วขอ้ งกบั ประชาชน
-เอกชนมีสิทธิทาํ ธุรกิจต่างๆ ทร่ี ัฐบาลไม่ทาํ (ธุรกิจขนาดเลก็ )
-รัฐบาลจดั สวสั ดิการใหแ้ ก่ประชาชน
ขอ้ ดี
-การกระจายรายไดด้ ี เพราะรายไดส้ ่วนใหญเ่ ป็นของรฐั บาลประชาชนจะมีรายไดไ้ มแ่ ตกตา่ งกนั มาก
-ประชาชนไดร้ บั การคุม้ ครองผลประโยชน์จากรัฐบาลในรูปของสวสั ดิการและสินคา้ บริการทรี่ ัฐบาลทาํ
ขอ้ เสีย
-เอกชนถกู จาํ กดั สิทธิเสรีภาพบางส่วน
-รฐั บาลตอ้ งจดั สรรงบประมาณมาทาํ ธุรกจิ และมกั จะขาดทนุ กิจกรรมต่างๆ มีคณุ ภาพตา่ํ

ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม
ลกั ษณะเดน่

-ระบบทุนนยิ มกบั สงั คม
-กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ส่วนใหญเ่ ป็นของเอกชนเหมือนทนุ นิยม
-รัฐบาลเขา้ มาทาํ ธุรกจิ เพอ่ื คมุ้ ครองผลประโยชน์ให้แก่ประชาชน
-ปัญหาทางเศรษฐกจิ ไดร้ ับการแกไ้ ขจากรฐั บาลและเอกชน
-รัฐบาลจดั สวสั ดกิ ารใหแ้ กป่ ระชาชน
ขอ้ ดี
-ประชาชนมเี สรีภาพทางเศรษฐกจิ
-สินคา้ และบริการมมี าก คณุ ภาพดี และราคาถกู
-ประชาชนไดร้ ับการคุม้ ครองผลประโยชน์จากรฐั บาลในรูปของสวสั ดิการธุรกิจทีจ่ าํ เป็นแกก่ ารครองชีพ
-เอกชนมีกาํ ลงั ใจในการทาํ ธุรกจิ เพราะมกี าํ ไรเป็นแรงจงู ใจ
ขอ้ เสีย
-รฐั บาลตอ้ งจดั สรรงบประมาณมาทาํ ธุรกิจมกั จะขาดทนุ
ระบบทุนนยิ ม / เสรีนยิ ม
ลกั ษณะเด่น
-เอกชนเป็นผดู้ าํ เนินกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ
-เอกชนเป็นเจา้ ของปัจจยั การผลติ โดยมีกฎหมายรบั รอง
-มีการแข่งขนั ทางดา้ นคณุ ภาพประสิทธิภาพราคาและการบริการ โดยมีกาํ ไรเป็นแรงจูงใจ
-ราคาสินคา้ ถูกกาํ หนดโดยกลไกแห่งราคา (อปุ สงค-์ อปุ ทาน)
ขอ้ ดี
-เอกชนมเี สรีภาพทางเศรษฐกิจ
-สินคา้ และบริการมมี ากคุณภาพดี ราคาถูก
-รฐั บาลไม่ตอ้ งจดั สรรงบประมาณมาทาํ ธุรกจิ
ขอ้ เสีย
-การกระจายรายไดไ้ มด่ ี เพราะรายไดส้ ่วนใหญต่ กแกน่ ายทนุ
-ประชาชนอาจมีปัญหาจากราคาสินคา้ และสินคา้ ขาดแคลนเน่ืองจากนายทนุ รวมตวั กนั
-การใชท้ รัพยากรฟ่ ุมเฟื อย

สรุปตลาดและประเภทของตลาด
ตลาด หมายถึงการท่ีผซู้ ้ือและผูข้ ายตดิ ตอ่ กนั ได้ จนสามารถทาํ การแลกเปลีย่ นซ้ือขายสินคา้ กนั ได้
ตลาดแข่งขนั สมบรู ณ์
ตลาดประเภทน้ีมอี ยูน่ อ้ ยมากในโลกแห่งความเป็นจริง อาจกล่าวไดว้ ่าเป็นตลาดในอดุ มคตขิ องนกั
เศรษฐศาสตร์ ตลาดชนิดน้ีเป็นตลาดทรี่ าคาสินคา้ เกดิ ข้นึ จากแรงผลกั ดนั ของอุปสงคแ์ ละอุปทานโดยแทจ้ ริง
ไม่มปี ัจจยั อืน่ ๆมาผลกั ดนั ในเรื่องราคา มีผูซ้ ้ือและผูข้ ายจาํ นวนมาก สินคา้ ท่ซี ้ือหรือขายจะตอ้ งมลี กั ษณะ
เหมอื นกนั และสามารถใชแ้ ทนกนั ได้
ตลาดแข่งขนั ไม่สมบรู ณ์
ตลาดประเภทน้ีสินคา้ ทีซ่ ้ือขายในทอ้ งตลาดส่วนมากมลี กั ษณะไม่ เหมอื นกนั ทาํ ให้ผูซ้ ้ือเกดิ ความพอใจ
สินคา้ ของผขู้ ายคนหน่ึงมากกว่าอกี คนหน่ึง นอกจากน้ี ผูซ้ ้อื หรือผูข้ ายในธุรกจิ มนี อ้ ยเกนิ ไปจนกระทงั่ มี
อิทธิพลเหนือราคาท่ีจาํ หน่าย ตลาดแขง่ ขนั ไมส่ มบูรณืแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
1.) ตลาดก่งึ แขง่ ขนั ก่ึงผกู ขาด ตลาดประเภทน้ีมีลกั ษณะท่ีสาํ คญั คือ มผี ูซ้ ้ือและผูข้ ายเป็นจาํ นวนมาก และท้งั
ผซู้ ้ือและผูข้ ายต่างมีอสิ ระเตม็ ท่ีในการท่ีจะวางนโยบายการขายและการซ้ือของตนโดยไมก่ ระทบกระเทอื น
คนอื่น
2.) ตลาดท่ีมผี ูข้ ายนอ้ ยราย ตลาดประเภทน้ีจะมผี ขู้ ายเพียงไมก่ ่ีราย และผูข้ ายแตล่ ะรายจะขายสินคา้ เป็น
จาํ นวนมาก เม่ือเทยี บกบั ปริมาณสินคา้ ท้งั หมดในตลาด ถา้ หากวา่ ผขู้ ายรายใดเปลีย่ นราคาหรือนโยบายการ
ผลิตและการขายแลว้ ก็จะกระทบกระเทือนตอ่ ผผู้ ลิตรายอน่ื ๆ
3.) ตลาดผกู ขาด คือตลาดท่มี ผี ูข้ ายอยู่เพียงคนเดยี ว ทาํ ให้ผขู้ ายมอี ิทธิพลเหนือราคาและปริมาณสินคา้ อยา่ ง
สมบูรณใ์ นการที่จะเพม่ิ หรือลดราคาและควบคุมจาํ นวนขายท้งั หมด

สรุปความสัมพันธ์ทางเศรษฐกจิ
กลไกราคา หมายถงึ ภาวะการณ์เปลยี่ นแปลงในระดบั ราคาสินคา้ และบริการอนั เกิดจากแรงผลกั ดนั ของอปุ
สงคแ์ ละอุปทาน เมือ่ ผูผ้ ลติ พยายามปรับปรุงการผลติ และบริการใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผูบ้ ริโภค
ดงั น้นั จะเห็นไดว้ า่ ราคาสินคา้ และบริการเป็นตวั แปรสาํ คญั ในการกาํ หนดอุปสงคแ์ ละอุปทาน ตลอดจนเป็น
กระบวนการปรับเปลี่ยนราคาใหเ้ ขา้ สู่จดุ ดุลยภาพ

อุปสงค์ (Demand)
อปุ สงค์ คอื ปริมาณความตอ้ งการซ้ือสินคา้ และบริการชนดิ ใดชนิดหน่ึงของผูบ้ ริโภคท่ีเตม็ ใจจะซ้ือและซ้ือ
หามาได้
กฎของอปุ สงค์ หมายถึง ผูบ้ ริโภคมีความตอ้ งการซ้ือสินคา้ และบริการในราคาตา่ํ (ราคาถูก) ในปริมาณ
มากกวา่ ซ้ือสินคา้ ในราคาสูง(ราคาแพง)
อปุ ทาน (Supply)
อุปทาน หมายถึง ปริมาณสินคา้ และบริการท่ีผูข้ ายหรือผผู้ ลิตยินดขี ายหรือผลติ ให้แก่ผซู้ ้ือ
กฎของอุปทาน หมายถึง ผูผ้ ลิตมคี วามตอ้ งการเสนอขายสินคา้ และบริการในราคาสินคา้ และบริการที่สูง
(ราคาแพง) ในปริมาณมากกวา่ ราคาสินคา้ และบริการทต่ี ่าํ (ราคาถูก)

ดุลยภาพ (Equilibrium)

กลไกราคาทาํ งานโดยไดร้ บั อิทธิพลจากท้งั ผูผ้ ลิตและผูบ้ ริโภค ซ่ึงเราจะสงั เกตเห็นไดว้ ่า ณ เวลาใด เวลาหน่ึง
ถา้ ปริมาณความตอ้ งการหรือปริมาณอุปสงคต์ อ่ สินคา้ ในตลาดมมี ากเกินกวา่ ปริมาณสินคา้ ทผ่ี ูผ้ ลติ จะยนิ ดี
ขายให้ ราคาสินคา้ กม็ ีแนวโนม้ ท่ีจะปรบั ตวั สูงข้ึน เนื่องจากการขาดแคลนของสินคา้ แต่ถา้ ปริมาณสินคา้ ที่
ผผู้ ลิตประสงคจ์ ะขายให้ผบู้ ริโภค หรือปริมาณอปุ ทานของสินคา้ มมี ากกวา่ ปริมาณสินคา้ ท่ีผูบ้ ริโภคประสงค์
จะซ้ือ ราคาสินคา้ น้นั กจ็ ะมแี นวโนม้ ลดต่าํ ลง เมือ่ ปริมาณอปุ สงคแ์ ละปริมาณอุปทานเทา่ กนั ราคาสินคา้ จงึ จะ
อยนู่ ิ่ง หรือทีเ่ รียกวา่ มีเสถยี รภาพไม่ปรบั ข้ึนลงอกี ยกเวน้ วา่ จะมีปัจจยั อ่นื ๆทีท่ าํ ใหต้ ลาดตอ้ งเปล่ยี นแปลง
อปุ สงค์ส่วนเกนิ และอุปทานส่วนเกนิ

-ภาวะอปุ สงคส์ ่วนเกนิ หรืออุปทานส่วนขาด คือ ถา้ สินคา้ ใดเป็นที่ตอ้ งการมาก จะทาํ ใหร้ าคาสินคา้ และ
บริการสูง ส่งผลให้สินคา้ และบริการขาดตลาด อุปสงคส์ ่วนเกนิ จะเกิดข้ึนไดก้ ็ตอ่ เมื่อราคาสินคา้ ต่าํ กว่าจดุ
ดลุ ยภาพ ซ่ึงหมายถงึ ความตอ้ งการซ้ือมมี ากกวา่ ปริมาณสินคา้ และบริการทีผ่ ผู้ ลิตทาํ การผลิตออกมาขาย

-ภาวะอปุ ทานส่วนเกนิ หรืออปุ สงคส์ ่วนขาด คอื ถา้ สินคา้ ใดเป็นที่ตอ้ งการนอ้ ยจะทาํ ให้การบริโภคสินคา้
และบริการต่าํ ส่งผลใหส้ ินคา้ และบริการลน้ ตลาด อปุ ทานส่วนเกินจะเกดิ ข้ึนกต็ ่อเมือ่ ราคาสินคา้ อยู่เหนือจุด
ดลุ ยภาพ ซ่ึงหมายถึงความตอ้ งการซ้ือสินคา้ และบริการมนี อ้ ยกวา่ ปริมาณสินคา้ และบริการทผ่ี ูผ้ ลิตผลิต
ออกมาขาย

การเงิน
ความหมายของเงนิ เงนิ หมายถงึ ส่ิงทใี่ ชเ้ ป็นส่ือกลางในการแลกเปลยี่ น และเป็นท่ยี อมรบั ในการชาํ ระหน้ี
ไดต้ ามกฎหมาย เงนิ ประกอบดว้ ย เหรียญกษาปณ์ ธนบตั ร เงนิ ฝากกระแสรายวนั ซ่ึงสามารถสง่ั จ่ายดว้ ยเชค็
และบตั รเครดิต เป็นบตั รทส่ี ามารถนาํ ไปซ้ือสินคา้ และบริการไดส้ ะดวก
หนา้ ที่ของเงนิ
1. เป็นสื่อกลางในการแลกเปลีย่ น เงนิ ใชเ้ ป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนการตกลงซ้ือขาย เพราะเงนิ มีอาํ นาจ
ซ้ือ ทาํ ใหผ้ ถู้ ือเงินสามารถซ้ือหาสินคา้ และบริการได้
2. เป็นเคร่ืองวดั มูลค่า หนว่ ยของเงินสามารถใชเ้ ป็นมาตรฐานในการวดั มูลคา่ ของสินคา้ และบริการทาํ ให้
ทราบว่าสินคา้ และบริการแต่ละชนิดมมี ูลคา่ แตกต่างกนั
3. เป็นมาตรฐานในการชาํ ระหน้ภี ายหนา้ เช่น การกยู้ ืมเงิน การประกนั ภยั
4. เป็นเครื่องรักษามูลค่า เงินเป็นสินทรพั ยร์ ูปแบบหน่ึงทีค่ นทว่ั ไปนิยมเกบ็ สะสม เพราะเงนิ เป็น ทรัพยส์ ินท่ี
มีสภาพคล่องมากทส่ี ุด

เงินเฟ้อ (Inflation)
คอื ภาวะที่ระดบั ราคาสินคา้ โดยทว่ั ๆ ไปเพ่มิ สูงเรื่อยๆ อยา่ งตอ่ เนื่องหากสินคา้ มีระดบั ราคาสินคา้ สูง ณ เวลา
ใดเวลาหน่ึงกย็ งั ไมถ่ ือว่าเกิดเงนิ เฟ้อ จาํ เป็นตอ้ งสูงข้นึ เร่ือยๆ โดยอาจมีสินคา้ บางชนิดราคาสูงข้นึ ขณะที่
ราคาสินคา้ บางชนิดคงทีห่ รือลดตา่ํ ลง แตเ่ มื่อรวมราคาสินคา้ ท้งั หมดโดยเฉลยี่ แลว้ สูงข้ึน
เงนิ ฝื ด (Deflation)
คอื ภาวะท่ีระดบั ราคาสินคา้ และบริการโดยทวั่ ๆ ไปลดลงเรื่อยๆ และตอ่ เน่ืองผลของภาวะเงนิ ฝืดจะตรงขา้ ม
กบั ภาวะเงนิ เฟ้อ กลา่ วคือผูม้ ีรายไดป้ ระจาํ และเจา้ หน้ีจะไดร้ ับประโยชน์ส่วนพอ่ คา้ นกั ธุรกจิ และผูถ้ อื หุน้
จะเสียเปรียบ

นโยบายการเงิน
คือ มาตรการทางการเงนิ ชนิดหน่ึงที่ธนาคารกลาง(แบงก์ชาติ) เป็นผูค้ วบคุมเพื่อรกั ษาเสถียรภาพทางการเงนิ
ภายในประเทศ ตวั อยา่ งเช่น หากเศรษฐกิจภายในประเทศกาํ ลงั เขา้ สู่ภาวะเงนิ เฟ้อหรือเงินฝืดน้นั ธนาคาร
กลางจะประกาศนโยบายทางการเงนิ ออกมา เพือ่ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เงนิ ฝืดหรือเงนิ เฟ้อมากเกนิ ไป

สรุปสหกรณ์
ความหมายของสหกรณ์ สหกรณ์ คอื องคก์ ารของบรรดาบคุ คล ซ่ึงรวมกล่มุ กนั โดยสมคั รใจในการดาํ เนิน
วิสาหกิจท่ีพวกเขาเป็นเจา้ ของร่วมกนั และควบคมุ ตามหลกั ประชาธิปไตย เพ่ือสนองความและความหวงั
ร่วมกนั ทางเศรษฐกจิ สงั คม และ วฒั นธรรม
สหกรณ์ 7 ประเภท
1.) สหกรณก์ ารเกษตร คือ สหกรณ์ทจ่ี ดั ต้งั ข้ึนในหม่ผู ูม้ อี าชีพทางการเกษตร รวมกนั จดั ต้งั ข้นึ และจด
ทะเบียนเป็นนิตบิ คุ คลต่อนายทะเบียนสหกรณ์ โดยมจี ุดมงุ่ หมายเพ่อื ใหส้ มาชิกดาํ เนินกจิ การร่วมกนั และ
ช่วยเหลอื ซ่ึงกนั และ กนั เพ่อื แกไ้ ขความเดอื ดรอ้ นในการประกอบอาชีพของสมาชิก และชว่ ยยกฐานะความ
เป็นอยขู่ องสมาชิกใหด้ ีข้ึน
2.)สหกรณ์ประมง สหกรณป์ ระมง คอื สหกรณ์ท่ีจดั ต้งั ข้ึนในหมู่ชาวประมง เพอื่ แกไ้ ขปัญหาและอุปสรรค
ในการประกอบอาชีพ ซ่ึงชาวประมงแตล่ ะคนไม่สามารถแกไ้ ขให้ลลุ ่วงไปไดต้ ามลาํ พงั บุคคลเหล่าน้ีจงึ
รวมกนั โดยยดึ หลกั การชว่ ยตนเองและช่วยเหลอื ซ่ึงกนั และกนั

3.) สหกรณน์ ิคม คือ สหกรณก์ ารเกษตรในรูปแบบหน่ึง ทมี่ กี ารดาํ เนินการจดั สรรทด่ี นิ ทาํ กนิ ใหร้ าษฎร การ
จดั สร้างปัจจยั พ้นื ฐาน และสิ่งอาํ นวยความสะดวกให้ผูท้ ่ีอยู่อาศยั ควบคไู่ ปกบั การดาํ เนนิ การจดั หาสินเช่ือ
ปัจจยั การผลิตและสิ่งของท่ีจาํ เป็น การแปรรูปการเกษตร การส่งเสริมอาชีพ รวมท้งั กิจการใหบ้ ริการ
สาธารณูปโภคแก่สมาชิก
4.) สหกรณ์รา้ นคา้ คอื สหกรณ์ที่มีผูบ้ ริโภครวมกนั จดั ต้งั ข้นึ เพอื่ จดั หาสินคา้ เครื่องอปุ โภคบริโภคมา
จาํ หน่ายแกส่ มาชิกและบคุ คลทว่ั ไป โดยจดทะเบยี นตามกฎหมายสหกรณใ์ นประเภท สหกรณร์ า้ นคา้ มี
สภาพเป็นนิตบิ คุ คลซ่ึงสมาชิกผูถ้ ือหุน้ ทกุ คนเป็นเจา้ ของ สมาชิกลงทนุ ร่วมกนั ในสหกรณ์ดว้ ยความสมคั รใจ
เพ่อื แกไ้ ขความเดือดรอ้ นในการซ้ือเครื่องอุปโภคบริโภคและเพือ่ ผดุงฐานะทางเศรษฐกจิ ของตนและหมู่
คณะ
5.) สหกรณอ์ อมทรพั ย์ คือ สถาบนั การเงนิ แบบหน่ึงที่มสี มาชิกเป็นบคุ คลซ่ึงมอี าชีพอยา่ งเดียวกนั หรือท่ี
อาศยั อยใู่ นชมุ ชนเดยี วกนั มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือส่งเสริมให้สมาชิกรูจ้ กั การออมทรัพย์ และใหก้ ยู้ มื เมื่อเกิดความ
จาํ เป็นหรือเพื่อกอ่ ให้เกิดประโยชนง์ อกเงยและได้ รบั การจดทะเบียนตามพระราชบญั ญตั สิ หกรณ์ สามารถ
กูย้ มื เงนิ ไดเ้ มอ่ื เกดิ ความจาํ เป็นตาม หลกั การชว่ ยตนเอง และช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั

6.) สหกรณบ์ ริการ คอื สหกรณ์ทจี่ ดั ต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั สิ หกรณ์ โดยมีประชาชนไม่นอ้ ยกวา่ 10 คน ที่
มีอาชีพอย่างเดยี วกนั ไดร้ บั ความเดอื ดร้อนในเรื่องเดียวกนั รวมตวั กนั โดย ยดึ หลกั การประหยดั การชว่ ย
ตนเองและชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และกนั เพือ่ แก้ ปัญหาต่างๆ รวมท้งั การส่งเสริมให้เกดิ ความมน่ั คงในอาชีพ
ตอ่ ไป
7.)สหกรณเ์ ครดิตยูเนีย่ น คือ สหกรณ์อเนกประสงค์ ต้งั ข้ึนโดยความสมคั รใจของสมาชิกทอ่ี ยใู่ นวงสัมพนั ธ์
เดยี วกนั เชน่ อาศยั ในชุมชนเดยี วกนั ประกอบอาชีพเดียวกนั หรือในสถานทีเ่ ดยี วกนั หรือมกี ิจกรรมร่วมกนั
เพอ่ื การรู้จกั ช่วยเหลือตนเองอยา่ งตอ่ เนื่อง โดยมุ่งเนน้ ใหส้ มาชิกประหยดั และออม เพอ่ื การรู้จกั ช่วยตนเอง
เป็นเบ้ืองตน้ และเป็นพ้นื ฐานในการสรา้ งความมน่ั คง แก่ตนเองและครอบครวั

สรุปเศรษฐกิจพอเพยี ง
เศรษฐกิจพอเพยี ง หมายถงึ ปรัชญา ท่พี ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวทรงช้ีแนะแนวทางการดาํ เนินชวี ติ และ
การปฏิบตั แิ ก่ประชาชน โดยยดึ หลกั “ทางสายกลาง” ทา่ มกลางมรสุมเศรษฐกจิ ที่ตอ้ งเผชิญอยูใ่ นปัจจุบนั
สรุป ความหมายเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ความมีเหตุผล คอื ตดั สินใจกระทาํ ส่ิงต่าง ๆ เพื่อให้เกดิ ความพอเพยี งตอ้ งใชเ้ หตุผล และพจิ ารณาดว้ ยความ
รอบคอบ
ความพอเพยี ง คือรู้จกั พอประมาณ พออยู่ พอมี พอกนิ พอใช้ ประหยดั และไมเ่ บยี ดเบียนตนเอง และผอู้ นื่
การมีภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี ี คอื เตรียมใจให้พรอ้ มรับผลกระทบและความเปล่ียนแปลงที่จะเกดิ ข้ึนในอนาคต
การมคี วามรู้ คือนาํ ความรูม้ าใชใ้ นการวางแผนและดาํ เนินชีวติ
การมีคณุ ธรรม คอื มคี วามซ่ือสตั ยส์ ุจริต สามคั คี และช่วยเหลอื ซ่ึงกนั และกนั

3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข

ห่วงท่ี 1 คอื พอประมาณ หมายถงึ พอประมาณในทกุ อยา่ ง ความพอดไี มม่ ากหรือวา่ นอ้ ยจนเกนิ ไปโดยตอ้ ง
ไมเ่ บียดเบยี นตนเองหรือผูอ้ น่ื ให้เดือดร้อน
ห่วงที่ 2 คอื มีเหตผุ ล หมายถึง การตดั สินใจเก่ียวกบั ระดบั ของความพอเพียงน้นั จะตอ้ งเป็นไปอย่างมี
เหตุผลโดยพจิ ารณาจากเหตปุ ัจจยั ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ตลอดจนคาํ นงึ ถึงผลทีค่ าดว่าจะเกดิ ข้นึ จากการกระทาํ น้นั ๆ
อยา่ งรอบคอบ
ห่วงท่ี 3 คือ มีภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั เอง หมาย ถึง การเตรียมตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบและการเปล่ยี นแปลงดา้ น
การตา่ งๆ ทีจ่ ะเกดิ ข้นึ โดยคาํ นึงถึงความเป็นไปไดข้ องสถานการณต์ า่ งๆ ที่คาดวา่ จะเกิดข้นึ ในอนาคตท้งั ใกล้
และไกล

เงอื่ นไขที่ 1 เงื่อนไขความรู้ คือ มคี วามรอบรู้เกี่ยวกบั วิชาการตา่ งๆรอบดา้ น ความรอบคอบท่ีจะนาํ ความรู้
เหลา่ น้นั มาพจิ ารณาใหเ้ ช่ือมโยงกนั เพือ่ ประกอบการวางแผนและมีความระมดั ระวงั ในข้นั ตอนปฏิบตั ิ

เง่อื นไขท่ี 2 เงอื่ นไขคุณธรรม คือ มีความตระหนกั ในคุณธรรม มีความซื่อสตั ยส์ ุจริตและมีความอดทน มคี วามเพียร ใช้
สตปิ ัญญาในการดาํ เนินชีวติ

สรุปแผนพฒั นาเศรษกิจและสังคมแห่งชาติ ท้งั 12 ฉบบั

ฉบบั ที่ 1 พ.ศ.2504-2509 เนน้ เฉพาะดา้ นเศรษฐกิจเป็นสาํ คญั โดยเฉพาะการลงทุนใน ส่ิงกอ่ สร้างข้นั
พ้ืนฐานในรูปแบบของระบบคมนาคมและ ขนส่ง ระบบเขอื่ นเพ่ือการชลประทานและพลงั งานไฟฟ้า
สาธารณูปการ ฯลฯ รฐั ท่มุ เททรัพยากรเขา้ ไปเพื่อการปู พ้นื ฐานใหม้ ีการลงทุนในดา้ นเอกชนเป็นหลกั

ฉบบั ท่ี 2 พ.ศ.2510-2514 ยดึ แนวทางแผน 1 โดยขยายขอบเขตของแผนให้ครอบคลุมถึงการพฒั นาของรฐั
โดยสมบูรณก์ ระจายให้บงั เกดิ ผลไปทวั่ ประเทศเนน้ เขตทรุ กนั ดารและห่างไกลความเจริญและมโี ครงการ
พเิ ศษนอกเหนือไปจากหนา้ ที่ปกตขิ องกระทรวงและกรมตา่ งๆ เชน่ โครงการพฒั นาภาค โครงการเร่งรัด
พฒั นาชนบทและโครงการชว่ ยเหลือชาวนา ฯลฯ

ฉบบั ที่ 3 พ.ศ.2515-2519 -รกั ษาเสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ โดยรักษาอตั ราการขยายตวั ของปริมาณเงนิ ตรา,
รกั ษาระดบั ราคาสินคา้ ทจ่ี าํ เป็นตอ่ การครองชีพ, รกั ษาเสถียรภาพทางการเงินระหว่างประเทศ, ส่งเสริมการ
ส่งออก, ปรับปรุงโครงสรา้ งการนาํ เขา้ -ปรบั ปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและยกระดบั การผลติ เร่งรดั การ
ส่งออกและทดแทนสินคา้ นาํ เขา้ ปรบั งบลงทุนในโครงการกอ่ สรา้ งมาสนบั สนุนการลงทุนเพอ่ื ใชป้ ระโยชน์
จากโครงการข้นั พ้ืนฐานทม่ี ีอยู่ -กระจายรายไดแ้ ละบริการทางสังคม โดยลดอตั ราการเพม่ิ ประชากร กระจาย
บริการเศรษฐกิจและสังคมสู่ชนบท ปรบั ปรุงสถาบนั และองคก์ รทางดา้ นเกษตรและสินเช่ือ รักษาระดบั ราคา
สินคา้ เกษตร

ฉบบั ที่ 4 พ.ศ.2520-2524 เนน้ การฟ้ืนฟูเศรษฐกิจของประเทศโดยมุ่งขยายการผลิตสาขาเกษตร, ปรบั ปรุง
โครงสรา้ งอุตสาหกรรมการผลิตเพอื่ ส่งออก, กระจายรายไดแ้ ละการมีงานทาํ ในภมู ภิ าค, มาตรการกระตนุ้
อุตสาหกรรมทีซ่ บเซา, รักษาดลุ การชาํ ระเงนิ และการ ขาดดุลงบประมาณ -เร่งบรู ณะและปรับปรุงการ
บริหารทรัพยากรหลกั ของชาติ รวมท้งั การนาํ เอาทรพั ยากรธรรมชาตมิ าใชโ้ ดยเฉพาะทด่ี ิน แหลง่ น้าํ ป่ าไม้
และแหล่งแร่, เร่งรัดการปฏิรูปทดี่ นิ , จดั สรรแหลง่ น้าํ ในประเทศ, อนุรักษท์ ะเลหลวง, สาํ รวจและพฒั นา
แหลง่ พลงั งานในอ่าวไทยและภาคใตฝ้ ่ังตะวนั ออก

ฉบบั ที่ 5 พ.ศ.2525-2529 ยดึ พน้ื ทเ่ี ป็นหลกั ในการวางแผนกาํ หนดแผนงานและโครงการใหม้ ีผลทางปฏบิ ตั ิ
ท้งั ภาครฐั และภาคเอกชน เช่น พ้นื ท่ีเป้าหมายเพ่ือพฒั นาชนบท,ชายฝั่งทะเลตะวนั ออกพ้นื ทเี่ มืองหลกั เนน้
การรกั ษาเสถียรภาพทางเศรษฐกจิ การเงนิ ของประเทศ เป็นพิเศษโดยการเร่งระดมเงินออม, สร้างวนิ ยั ทาง
เศรษฐกิจ การเงิน และการปรับโครงสรา้ งเศรษฐกจิ ตา่ ง ๆ เชน่ ปรับ โครงสร้างการเกษตร ปรบั โครงสร้าง
อตุ สาหกรรมเพอ่ื การส่งออกและกระจายอตุ สาหกรรมไปสู่ส่วนภมู ิภาค, ปรบั โครง สรา้ งการคา้ ต่างประเทศ
และบริการ, ปรับโครงสร้างการผลิตและการใชพ้ ลงั งาน เนน้ ความสมดุลในการแกไ้ ขปัญหาเศรษฐกจิ และ
สงั คมของ ประเทศ เนน้ การแกป้ ัญหาความยากจนในชนบทลา้ หลงั กาํ หนดพ้นื ทเี่ ป้าหมาย 286 อาํ เภอและ

ก่งิ อาํ เภอ เนน้ การแปลงแผนไปสู่การปฏบิ ตั เิ ชน่ มีระบบการบริหารการ พฒั นาชนบทแนวใหม่ประกาศใช้
พ.ศ. 2527 เนน้ บทบาทและการระดมความร่วมมือจากภาคเอกชน

ฉบบั ท่ี 6 พ.ศ.2530-2534 เนน้ การขยายตวั ของระบบเศรษฐกจิ ควบคู่ไปกบั การรกั ษาเสถยี รภาพของการเงิน
การคลงั โดยเนน้ การระดมเงินออมในประเทศ เนน้ การใชจ้ า่ ยภาครัฐอยา่ งประหยดั และมีประสิทธิภาพและ
เนน้ บทบาทภาคเอกชนในการพฒั นา เนน้ การพฒั นาฝีมือแรงงานและคณุ ภาพชีวติ เนน้ การเพ่มิ บทบาท
องคก์ รประชาชนในทอ้ งถน่ิ เพื่อพฒั นาทรพั ยากร ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม เริ่มแผนหลกั การพฒั นา
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทบทวนบทบาทรฐั ในการพฒั นาประเทศ มแี ผนพฒั นารัฐวิสาหกิจ มุ่งปรบั
โครงสรา้ งการผลติ และการตลาดของประเทศใหก้ ระจายตวั มากข้ึน เนน้ การนาํ บริการพ้นื ฐานทม่ี อี ยู่แลว้ มา
ใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งเต็มท่ี พฒั นาเมอื งและพ้ืนท่ีเฉพาะ กระจายความเจริญสู่ภูมภิ าค ขยายขอบเขตพฒั นา
ชนบทครอบคลุมทว่ั ประเทศ เขตลา้ หลงั 5,787 หมู่บา้ น เขตปานกลาง 35,514 หม่บู า้ น และเขตกา้ วหนา้
11,612 หมู่บา้ น

ฉบบั ท่ี 7 พ.ศ.2535-2539 เนน้ การรกั ษาอตั ราการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ อย่างต่อเน่ือง และมเี สถียรภาพ เนน้
การกระจายรายได้ และการพฒั นาไปสู่ภูมภิ าคและชนบท เนน้ การพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ คณุ ภาพชีวติ และ
สิ่งแวดลอ้ ม เนน้ การพฒั นากฎหมาย รัฐวิสาหกจิ และระบบราชการ

ฉบบั ท่ี 8 พ.ศ.2540-2544 เป็นจดุ เปล่ยี นสาํ คญั ของการวางแผนพฒั นาประเทศท่ีให้ความสาํ คญั กบั การมี
ส่วนร่วมของทกุ ภาคส่วนในสงั คม และมุง่ ให้ “คนเป็นศูนยก์ ลางการพฒั นา” และใชเ้ ศรษฐกจิ เป็นเครื่องมอื
ช่วยพฒั นาใหค้ นมคี วามสุขและมคี ณุ ภาพชีวติ ทด่ี ีข้ึนพร้อมท้งั ปรบั เปล่ยี นวิธีการพฒั นาแบบแยกส่วนมา
เป็นบรู ณาการแบบองคร์ วม เพ่ือให้เกิดความสมดลุ ระหวา่ งการพฒั นาเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม
อยา่ งไรกต็ ามในปี แรกของแผนฯ ประเทศไทยตอ้ ง ประสบวิกฤตเศรษฐกจิ อยา่ งรุนแรง และส่งผลกระทบตอ่
คนและสังคมเป็นอย่างมาก จงึ ตอ้ งเร่งฟ้ื นฟเู ศรษฐกจิ ให้มีเสถยี รภาพมน่ั คง และลดผลกระทบจากวกิ ฤตที่
ก่อใหเ้ กิดปัญหาการวา่ งงานและความยากจนเพม่ิ ข้นึ อย่างรวดเร็ว การพฒั นาศกั ยภาพของคน การพฒั นา
สภาพแวดลอ้ มของสังคมให้เอ้ือต่อการพฒั นาคน การเสริมสร้างศกั ยภาพการพฒั นาของภูมภิ าคและชนบท
เพ่ือ ยกระดบั คุณภาพชีวติ ของประชาชนอย่างทว่ั ถึง การพฒั นาสมรรถนะทางเศรษฐกจิ เพอ่ื สนบั สนุนการ
พฒั นา คนและคณุ ภาพชีวิต การจดั หาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม -การพฒั นาประชารัฐ เป็นการ
พฒั นาภาครฐั ใหม้ สี มรรถนะ และพนั ธกจิ หลกั ในการเสริมสร้างศกั ยภาพและสมรรถนะ ของคนและมีส่วน
ร่วมในการพฒั นาประเทศ การบริหารจดั การเพื่อใหม้ กี ารนาํ แผนพฒั นาฯไปดาํ เนินการ ใหเ้ กดิ ผลในทาง
ปฏิบตั ิดว้ ยแนวทางการแปลงแผนไปสู่การปฏิบตั ิ

ฉบบั ท่ี 9 พ.ศ. 2545 - 2549 เป็นแผนทไ่ี ดอ้ ญั เชิญแนวปรชั ญาของเศรษฐกจิ ควบค่ไู ปกบั กระบวนทรรศน์
การพฒั นาแบบบูรณาการเป็นองคร์ วมทมี่ ี “คนเป็นศนู ยก์ ลางการพฒั นา” ต่อเนื่องจากแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี 8
โดยยึดหลกั ทางสายกลาง ฉบบั ที่ 9 สรุปไดว้ ่า ประสบความสําเร็จทน่ี ่าพอใจ เศรษฐกจิ ของประเทศขยายตวั
ไดอ้ ย่างต่อเน่ืองในอตั ราเฉล่ยี รอ้ ยละ 5.7 ตอ่ ปี เสถียรภาพทางเศรษฐกิจปรับตวั สู่ความมน่ั คง ความยากจน
ลดลง ขณะเดยี วกนั ระดบั คณุ ภาพชวี ิตของประชาชนดขี ้ึนมาก อนั เน่ืองมาจากการดาํ เนินการเสริมสรา้ ง
สุขภาพอนามยั การมหี ลกั ประกนั สุขภาพท่ี มกี ารปรับปรุงท้งั ดา้ นปริมาณและคณุ ภาพ โดยครอบคลมุ คน
ส่วนใหญข่ องประเทศ และการลดลงของปัญหายาเสพติด

ฉบบั ที่ 10 พ.ศ. 2550 - 2554 ประเทศไทยยงั คงตอ้ งเผชิญกบั การเปลีย่ นแปลงท่ีสาํ คญั ในหลายบริบท ท้งั ท่ี
เป็นโอกาสและขอ้ จาํ กดั ตอ่ การพฒั นาประเทศ จงึ ตอ้ งมกี ารเตรียมความพร้อมของคนและระบบให้มี
ภูมคิ มุ้ กนั พร้อมรบั การเปลยี่ นแปลงและผลกระทบที่อาจเกิดข้นึ โดยยงั คงอญั เชิญ “ปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง” มาเป็นแนวปฏบิ ตั ิในการพฒั นาแบบบรู ณาการเป็นองคร์ วมทมี่ ี “คนเป็นศนู ยก์ ลางการพฒั นา”
ต่อเนื่องจากแผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ 8 และแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี 9 และให้ความสาํ คญั ตอ่ การรวมพลงั สงั คมจาก
ทุกภาคส่วนใหม้ ีส่วนร่วมดาํ เนินการใน ทกุ ข้นั ตอนของแผนฯ พรอ้ มท้งั สรา้ งเครือขา่ ยการขบั เคลอ่ื น
ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาสู่การปฏิบตั ิ รวมท้งั การตดิ ตามตรวจสอบผลการดาํ เนินงานตามแผนอยา่ งตอ่ เน่ือง

ฉบบั ท่ี 11 พ.ศ.2555-2559 ตามวสิ ัยทศั น์ 3 พนั ธกจิ 3 วตั ถุประสงค์ 4 เป้าหมายหลกั และ 7 ยุทธศาสตร์
ตามการศกึ ษาจากบริบทตลอดจนจุดแขง็ จดุ อ่อนโอกาสและภยั คกุ คามของประเทศไทย วสิ ัยทศั น์ "ประเทศ
มีความมน่ั คงเป็นธรรม และมีภมู คิ ุม้ กนั ตอ่ การเปล่ียนแปลง" 3 พนั ธกจิ ไดแ้ ก่ การพฒั นาฐานการผลิตและ
บริการ การสร้างความเป็นธรรมและ ลดความเหลอื่ มล้าํ ทางเศรษฐกจิ สงั คม และสร้างภูมิคมุ้ กนั จาก
วกิ ฤตการณ์ 3 วตั ถุประสงค์ เพ่ือให้ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ มอดุ มสมบรู ณ์อย่างยง่ั ยืน คนไทยอยรู่ ่วมกนั
อย่างสนั ตสิ ุข และพร้อมเชิญกบั การเปลี่ยนแปลงไดอ้ ยา่ งเป็นสุข 4 เป้าหมายหลกั ไดแ้ ก่ เศรษฐกจิ มคี วาม
เขม้ แข็งสมดุล ความสามารถในการแขง่ ขนั สูงข้นึ มหี ลกั ประกนั สงั คมทท่ี ว่ั ถงึ และสงั คมไทยมคี วามสุข
อย่างมีธรรมาภิบาล 7 ยุทธศาสตร์ ไดแ้ ก่ การสร้างฐานการผลิตให้เขม้ แขง็ สมดุล อยา่ งสรา้ งสรรค์ การสร้าง
สภาพแวดลอ้ มที่เอ้อื อาํ นวยตอ่ การผลติ การคา้ การลงทุน การพฒั นาคณุ ภาพคน ท้งั ความรู้คคู่ ุณธรรม สังคม
มนั่ คงเป็นธรรม มพี ลงั และเอ้อื อาทร เนน้ การผลติ และบริโภคทเี่ ป็นมติ รกบั ส่ิงแวดลอ้ ม มีความมน่ั คงของ
พลงั งานและอาหาร และเพม่ิ ขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ จะเหน็ ไดว้ ่า แผนฉบบั ที่ 11 น้นั
เนน้ การ "ต้งั รบั " มากกว่า "รุก" โดยเนน้ การป้องกนั ปัญหาจากวกิ ฤตการณ์ท่ีอาจเกดิ ข้นึ ในอนาคต เพราะเรา
เพ่งิ ผา่ นวิกฤตการณ์เศรษฐกจิ โลก และวกิ ฤตการณ์ทางการเมืองภายในประเทศมาหมาดๆ การเนน้
"ภมู คิ มุ้ กนั " น้นั เป็นเพยี งเป้าหมายข้นั ตา่ํ เหมือนคนทปี่ ลอดโรค เพราะมภี ูมติ า้ นทานโรค แตไ่ ม่ไดบ้ อกวา่
สุขภาพแข็งแรงมกี าํ ลงั วงั ชาดีเพยี งไร เชื่อวา่ พวกเราไม่ไดต้ อ้ งการเพียงให้ประชาชนพอมกี นิ ประชาชนควร

จะ "กนิ ดีอยู่ดี" และมี "คณุ ภาพชวี ติ " ที่ดขี ้ึนกวา่ เดมิ อกี นยั หน่ึง ผลโดยรวมประเทศไมค่ วรมีสถานะเพยี ง
เกณฑเ์ ฉล่ยี ของประเทศอาเซียนดว้ ยกนั หรือเพียงแตด่ กี ว่า พมา่ ลาว กมั พชู า บา้ ง แต่เราควรจะต้งั เป้าหมาย
ให้ประเทศไทยมีความ "มงั่ คง่ั " อย่ใู นช้นั แนวหนา้ ของอาเซียน ทจี่ ะแข่งขนั กบั ประเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย
และสิงคโปร์ได้ และตวั อย่างที่ดๆี ของประเทศนอกอาเซียนอน่ื ๆ เช่น เกาหลี และจนี เป็นตน้

ฉบบั ท่ี 12 พ.ศ.2560-2564 แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 จะยึดหลกั “ปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง” ต่อเน่ืองจากแผนพฒั นาฯ ฉบบั ก่อนหนา้ ไดก้ าํ หนดเป้าหมาย ยทุ ธศาสตร์และแนว
ทางการพฒั นาประเทศในระยะ 5 ปี ซ่ึงจะเป็นแผนที่มีความสําคญั ในการวางรากฐานการพฒั นาประเทศไปสู่
สังคมที่มคี วามสุขอย่างมน่ั คง มงั่ คง่ั และยงั่ ยนื สอดคลอ้ งตามยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เป็นกรอบการพฒั นา
ประเทศในระยะยาว รัฐบาลมนี โยบายในการสรา้ งความมนั่ คงและเขม้ แขง็ ใหก้ บั ระบบเศรษฐกิจของ
ประเทศ รวมท้งั เร่งสรา้ งสังคมที่มีคณุ ภาพ โดยการขจดั อปุ สรรคต่าง ๆ ทม่ี ีต่อการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจ
และการลดความเหลอ่ื มล้าํ ทางสังคม ตลอดจนการวางแผนการพฒั นาในดา้ นตา่ ง ๆ ในระยะยาว ครอบคลุม
ถงึ การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ เพอื่ เพ่มิ ขดี ความสามารถในการแข่งขนั การสรา้ งความมน่ั คง มงั่ คง่ั ทาง
เศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ เป็นสิ่งสําคญั ท่ีประเทศจะตอ้ งมีทศิ ทางและเป้าหมายการพฒั นาระยะยาวที่
ชดั เจน โดยทกุ ภาคส่วนในสังคมตอ้ งร่วมมอื กนั อยา่ งเขม้ แขง็ เพ่ือผลกั ดนั ให้เกดิ ผลสัมฤทธ์ิอย่างตอ่ เน่ือง
และสอดรบั กบั การปฏริ ูปประเทศท่ีมงุ่ สู่ความ “มน่ั คง มงั่ คง่ั และยงั่ ยนื ” ในอนาคต เนน้ ให้ “คนเป็น
ศนู ยก์ ลางการพฒั นา” สร้างความมน่ั คงของชาติ พฒั นาคนทุกวยั ใหเ้ ป็น คนดี คนเก่ง

สรุปธนาคารแห่งประเทศไทย
มีเป้าหมายสําคญั 3 ประการ
1.มาตราการทางการเงนิ ท่ีใชเ้ พื่อรักษาเสถยี รภาพทางการเงนิ มี 2 กรณีคอื กรณีสภาวะเงนิ เฟ้อและเงนิ ฝืด
2.มาตรการทางการเงินที่ใชเ้ พ่ือเสริมสร้างความมน่ั คงของสถาบนั การเงิน
3.มาตรการทางการเงนิ ในการส่งเสริมการพฒั นาทางเศรษฐกิจและสังคม
บทบาทหนา้ ทข่ี องธนาคารแห่งประเทศไทย มี 9 ประการ (ตามพระราชบญั ญตั ธิ นาคารแห่งประเทศไทย
พ.ศ.2485 ทแี่ กไ้ ขเพิ่มเตมิ พ.ศ. 2551)
1.ออกและจดั การธนบตั รของรฐั บาลและบตั รธนาคาร
2.กาํ หนดและดาํ เนนิ นโยบายการเงนิ
3.บริหารจดั การสินทรัพยข์ องธนาคารแห่งประเทศไทย
4.เป็นนายธนาคารและนายทะเบียนหลกั ทรพั ยข์ องรัฐบาล
5.เป็นนายธนาคารของสถาบนั การเงนิ
6.จดั ต้งั หรือสนบั สนุนการจดั ต้งั ระบบการชาํ ระเงนิ
7.กาํ กบั และตรวจสอบสถาบนั การเงนิ
8.บริหารจดั การอตั ราแลกเปล่ยี นเงนิ ตราภายใตร้ ะบบการแลกเปลีย่ นเงินตรา รวมท้งั บริหารจดั การ
สินทรัพยใ์ นทุนสาํ รองเงนิ ตรา ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยเงนิ ตรา
9.ควบคุมการแลกเปลยี่ นเงินตามกฎหมายว่าดว้ ยการควบคมุ การแลกเปลยี่ นเงิน

ตราธนาคารแห่งประเทศไทย คือ พระสยามเทวาธิราชในเหรียญเส้ียว อฐั โสฬส

สรุปการคลงั ภาครัฐ

การคลงั ภาครฐั (Public Finance) หมายถงึ การคลงั ในส่วนของรัฐบาล หรือการคลงั ในกจิ กรรมทร่ี ัฐบาลเป็น
เจา้ ของ การคลงั ภาครัฐ หรือการคลงั ของรฐั บาลเป็นเรื่องเกย่ี วกบั กิจกรรมทางการคลงั การเงนิ ต่างๆ ของ
รัฐบาลทถี่ อื เป็นหน่วยท่ีสําคญั หน่วยหน่ึงของระบบสังคม เน่ืองจากมผี ลผูกพนั และกระทบไม่เฉพาะชีวิต
ความเป็นอยูข่ องคนในปัจจุบนั เทา่ น้นั แตย่ งั มกั จะส่งผลกระทบและผูกพนั ถึงคนในอนาคตหรือในยุคตอ่ ไป
ดว้ ย

การคลงั ภาครัฐครอบคลมุ ถงึ ปัญหาทางเศรษฐกจิ ของประเทศแทบทุกประการแบง่ ปัญหาไดเ้ ป็น 4 ประการ
ใหญ่ๆ คอื
1) ปัญหาการจดั สรรทรพั ยากร (Resource Allocation)
2) ปัญหาการกระจายรายไดป้ ระชาชาติ (Income Distribution)
3) ปัญหาการทาํ ให้คนมงี านทาํ (Full Employment)
4) ปัญหาเสถยี รภาพของระดบั ราคาและการพฒั นาเศรษฐกจิ (Price-Level Stability and Economic Growth)

การคลงั เป็นเร่ืองทม่ี เี น้ือหาเก่ียวกบั การเขา้ ไปมีบทบาทในทางเศรษฐกิจของรัฐบาลในดา้ น
ตา่ งๆ รวม 4 ดา้ น คือ
1)การจดั สรรทรัพยากร (The Allocation Function)
2) การกระจายรายไดป้ ระชาชาติ (The Distribution Function)
3) การรกั ษาเสถยี รภาพและความเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ (The Stabilization Function)
4) การประสานงบประมาณ (Coordination of Budget Functions)

สรุปคือการคลงั ภาครฐั หรือการคลงั รฐั บาลประกอบดว้ ยการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี พฤตกิ รรม กิจกรรมการ
ดาํ เนินงาน ตลอดจนแนวปฏบิ ตั ติ ่างๆ เกีย่ วกบั การหารายได้ การใชจ้ า่ ยสาธารณะ การภาษอี ากร การก่อหน้ี
สาธารณะ การใชจ้ า่ ยของรฐั บาล บทบาทของรัฐบาลในระบบเศรษฐกจิ นโยบายการเงนิ และนโยบายการ
คลงั ระดบั ประเทศ และ/หรือระดบั ทอ้ งถ่นิ รวมท้งั การศกึ ษาผลกระทบจากกิจกรรมการดาํ เนินการต่างๆ
ทางการคลงั ของรัฐบาลที่มตี ่อสงั คมและประเทศโดยส่วนรวม

สรุปเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ

เศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ หมายถงึ การดาํ เนนิ การตดิ ต่อกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศ
ประกอบดว้ ย การคา้ การลงทุน การเงนิ

สาเหตุของการค้าระหว่างประเทศ

ประเทศต่าง ๆ มคี วามแตกต่างกนั ในดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละมีความสามารถในการผลติ ไม่เหมอื นกนั มี
ความแตกต่างกนั ในดา้ นลกั ษณะทางกายภาพ เช่น สภาพดนิ สภาพอากาศ และภูมปิ ระเทศตา่ งกนั
ประโยชน์การค้าระหว่างประเทศ

1. เพือ่ ตอบสนองความตอ้ งการของผูบ้ ริโภคภายในประเทศ

2. ทาํ ใหเ้ กดิ การแบง่ งานกนั ทาํ

3. เกิดการแข่งขนั กนั ดา้ นคุณภาพของสินคา้ และบริการ

4. เกดิ ความชาํ นาญเฉพาะอย่างในการผลิตสินคา้ ทีถ่ นดั อยา่ งตอ่ เน่ือง
นโยบายการค้าระหว่างประเทศ

1. นโยบายการคา้ แบบเสรี หมายถึง นโยบายที่รฐั บาลสนบั สนุนให้มกี ารคา้ ระหว่างประเทศแบบไมม่ ี
ขอ้ จาํ กดั เช่นไม่มีการต้งั กาํ แพงภาษขี าเขา้ ไมม่ ขี อ้ จาํ กดั ทางการคา้

2. นโยบายการคา้ แบบคุม้ กนั หมายถึง นโยบายการคา้ ที่รฐั บาลมีมาตรการต่างๆเพ่อื จาํ กดั การนาํ เขา้ และ
ส่งออกของสินคา้ เช่นการต้งั กาํ แพงภาษี การกาํ หนดโควตา้ การนาํ เขา้ และส่งออก การสนบั สนุนเพื่อลด
ตน้ ทุนการผลิตและการผลิตสินคา้ หลายๆอยา่ งเพอื่ ใชภ้ ายในประเทศเอง

ดุลการคา้ ระหว่างประเทศ หมายถึง การเปรียบเทียบมลู คา่ สินคา้ ส่งออกกบั มลู ค่าสินคา้ นาํ เขา้ ของประเทศใน
ระยะเวลา 1 ปี

ประเภทของดลุ การค้า

1. ดุลการคา้ เกินดุล หมายถึง มลู ค่าสินคา้ ส่งออกมากกวา่ สินคา้ นาํ เขา้

2. ดลุ การคา้ ขาดดุล หมายถึง มูลค่าสินคา้ ส่งออกนอ้ ยกวา่ มลู คา่ สินคา้ นาํ เขา้

3. ดุลการคา้ สมดลุ หมายถึง มูลค่าสินคา้ นาํ เขา้ เท่ากบั มูลค่าสินคา้ ส่งออก

ดุลการชาํ ระเงนิ หมายถึง บญั ชีท่ีแสดงรายรับและรายจ่ายเงนิ ตราตา่ งประเทศภายในเวลา 1 ปี

แบง่ เป็น 3 บญั ชี คอื

1. บญั ชีเดินสะพดั คือ บญั ชีที่แสดงรายการรบั -รายจ่ายเกี่ยวกบั สินคา้ และบริการ ไดแ้ ก่

ดลุ การคา้ คอื มลู คา่ สินคา้ เขา้ และมูลค่าสินคา้ ออก

ดุลบริการ คือ รายรับและรายจ่ายจากคา่ ขนส่ง บริการ ค่าประกนั ภยั เป็นตน้

2. บญั ชีเงนิ โอนและบริจาค เป็นบญั ชีที่แสดงรายรับและรายจา่ ยเกย่ี วกบั เงนิ ไดเ้ ปล่าของรฐั บาลและเอกชน
3. บญั ชีทุนเคลอื่ นยา้ ย เป็นบญั ชีท่แี สดงการเคลื่อนยา้ ยทนุ ระหวา่ งประเทศ

4. บญั ชีทุนสํารองระหว่างประเทศ เป็นบญั ชีแสดงยอดสุทธิระหว่างรายรบั และรายจา่ ยของประเทศ
ลักษณะดลุ การชําระเงนิ

1. ดลุ การชาํ ระเกนิ ดลุ หมายถงึ รายรับมากกว่ารายจา่ ย

2. ดุลการชาํ ระขาดดลุ หมายถงึ รายรบั นอ้ ยกวา่ รายจา่ ย

3. ดลุ การชาํ ระเงินสมดุล หมายถึง รายรบั เทา่ กบั รายจา่ ย
ความสําคัญของดุลการชําระเงนิ และทุนสํารองระหว่างประเทศ

1. มีผลตอ่ ทุนสาํ รองระหว่างประเทศ คอื ถา้ ดุลการชาํ ระเกนิ ดลุ ทุนสาํ รองระหวา่ งประเทศเพิม่ ข้นึ แตถ่ า้ ดุล
การชาํ ระขาดดุล ทุนสํารองระหว่างประเทศลดลง

2. ทนุ สํารองระหวา่ งประเทศ ไดแ้ ก่ ทองคาํ เงินตราต่างประเทศ หลกั ทรพั ยท์ ธ่ี นาคารกลางถอื ไว้ และทุน
สํารอง I.M.F

การแกไ้ ขดลุ การชาํ ระเงินขาดดุล เชน่ 1.ลดการนาํ สินคา้ เขา้ 2. ส่งเสริมใหม้ สี ินคา้ ออกมากทสี่ ุด 3. ส่งเสริม
ใหม้ ีการลงทุนจากตา่ งประเทศ 4. ประชาชนไม่ใชจ้ า่ ยฟ่ ุมเฟื อย 5. ประชาชนไมใ่ ชจ้ ่ายฟ่ ุมเฟื อย 6. ส่งเสริม
ใหม้ กี ารท่องเทีย่ วจากตา่ งประเทศ 7. รฐั บาลควรลดรายจ่ายท่ไี มจ่ าํ เป็น 8. กเู้ งินจากต่างประเทศ

แหล่งท่ีมา
ระบบเศรษฐกจิ
https://lipzaza852.wordpress.com/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%
90%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C/%E0%B8%A
3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9
%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/
ตลาดและประเภทของตลาด
http://119.46.166.126/self_all/selfaccess11/m5/economics5_2/socialeconomic/lesson2/item2_3.php
ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจ
https://th.wikibooks.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A3%E
0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%
B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8
%81%E0%B8%B4%E0%B8%88
การเงิน
https://th.trade.z.com/content-detail?id=0cf88353-041b-4012-b823-56b4b0b55e14
https://sites.google.com/site/ngeinfexlaeangeinfud/
สหกรณ์
http://cai.ku.ac.th/aboutco-op.html
เศรษฐกจิ พอเพยี ง

https://sites.google.com/site/hikhwamrusersthkicphxpheiyng/srup-sersthkic-phx-pheiyng

แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
https://sites.google.com/site/socialstudiesbykrupichet/srup-phaen-phathna-sersthkic-laea-sangkhm-haeng-
chati-chbab-thi-1-12

ธนาคารแห่งประเทศไทย

https://www.bot.or.th/Thai/AboutBOT/RolesAndHistory/Pages/History.aspx

การคลงั ภาครฐั
https://sites.google.com/site/sersthsastrbeuxngtn22001001/9-kar-khlang-laea-nyobay-kar-khlang

เศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ
https://sites.google.com/site/siriyakr508/sersthkic-rahwang-prathes

จดั ทาํ โดย

นางสาว เพชรชริน มะลิคง 640610152
นาย กฤษดา พากเพียรทรัพย์ 640610275

นาย จิรกิตต์ิ เลศิ กรุณา 640610276
นาย ปวนั รตั น์ เกตคุ ง 640610286
นาย สมเดช เนตรนุช 640610299


Click to View FlipBook Version