รายงานผลการดำเนินงาน วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2568 ณ ศกร.ระดับตำบลหนองแสง โครงการพัฒนาวิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผู้รับผิดชอบ นายณรงศักดิ์ พลแดง ครู กศน.ตำบล ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดมหาสารคาม
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร การพัฒนาทักษะด้านวิชาการวิชาศิลปศึกษา เป็นปัจจัยสำคัญในการเตรียมความพร้อมของนักศึกษาระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ให้สามารถพัฒนาตนเองอันจะส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาสูงขึ้น ตลอดจนสามารถในการ คิดวิเคราะห์ได้อย่างเป็นระบบจนสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน การศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพในอนาคต โครงการพัฒนาวิชาการวิชาศิลปศึกษา จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา โดยเน้นการเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับการใช้จริงในชีวิตประจำวันและสถานการณ์ทาง กลุ่มเป้าหมายคือ นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม. ปลาย จำนวน 415 คน ดำเนินการตามขั้นตอน/กิจกรรมดังนี้ ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดโครงการ วันที่ 13 มกราคม 2568 งบประมาณ จำนวน 50,905 บาท (ห้าหมื่นเก้าร้อยห้า บาทถ้วน) ผลการดำเนินการพบว่า มิติด้านความรู้ความเข้าใจของกลุ่มเป้าหมาย ผู้ร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจ ร้อยละ 90 มิติด้านความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย ผู้ร่วมโครงการมีความพึงพอใจ ร้อยละ 90 มิติด้านการนำความรู้ไปใช้ ของกลุ่มเป้าหมาย ผู้ร่วมโครงการสามารถนำความรู้ไปใช้ ร้อยละ 90 นายณรงค์สักดิ์ พลแดง ครูกศน.ตำบล
คำนำ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม ได้ดำเนินการตามนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานของสำนักงาน สกร. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ภายใต้หลักการ “ถูกต้อง รวดเร็ว ประโยชน์ ประหยัด” เพื่อให้ผู้เรียนเพิ่ม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้มีระดับสูงขึ้น และให้ผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานเพียงพอที่จะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น สามารถนำ กระบวนการที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม ได้เล็งเห็นความสำคัญ ของนักศึกษา จึงได้จัดโครงการพัฒนาวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย ขึ้น ในการนี้ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม จึงขอรายงานผลการ จัดโครงการพัฒนาวิชาการวิชา ศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้จะให้ประโยชน์ต่อผู้สนใจ และงานวิชาการ ขอขอบคุณท่าน ผู้อำนวยการ สกร.ระดับอำเภอวาปีปทุม และคณะครู สกร.ระดับอำเภอวาปีปทุม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งเสริม สนับสนุนให้การจัดกิจกรรมครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี จึงขอขอบคุณ มา ณ โอกาส นี้ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม 13 มกราคม 2568
สารบัญ หน้า บทสรุปผู้บริหาร ก คำนำ ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทนำ 1. หลักการและเหตุผล 1 2. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1 3. ขอบเขตของโครงการ 1 4. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1 บทที่ 2 วิธีดำเนินการ 1. รายละเอียดโครงการ 2 2. แนวคิดการประเมินโครงการ 2 3. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2 บทที่ 3 ผลการดำเนินงาน 1. ขั้นตอนการทำงาน 9 2. เครื่องมือในการเก็บข้อมูล 9 3. วิธีการเก็บข้อมูล 9 4. การวิเคราะห์ข้อมูล 9 5. เกณฑ์การประเมิน 10 บทที่ 4 สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ 1. สภาพการดำเนินโครงการ 11 2. ผลการดำเนินงานโครงการ 11 บทที่ 5 สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ 1. จุดเด่นของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครั้งนี้ 13 2. จุดที่ควรพัฒนาของโครงการ 13 3. ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาของโครงการ 13 4. สรุปค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 13 ภาคผนวก 14
บทนำ ๑. หลักการและเหตุผล จากนโยบายสำนักงาน จุดเน้นการดำเนินงานกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กำหนดให้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีหน้าที่ใน การจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง และการเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ รวมทั้งอาจจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้ในรูปแบบอื่นที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาบุคคลให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา เป็นคนดีมีวินัย รู้จักสิทธิควบคู่กับหน้าที่และ ความรับผิดชอบ ภูมิใจและตระหนักในความสำคัญของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จักรักษา ประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รู้จักความพอเพียง มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ใฝ่เรียนรู้ มีความรอบรู้รอบคอบ ระมัดระวัง มีคุณธรรม และมีความ ซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม มีความตระหนักในหน้าที่ที่จะจัดการศึกษาให้กับนักศึกษาให้ มีคุณภาพ จึงได้จัดกิจกรรมโครงการพัฒนาวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำภาคเรียน ที่ 2/2567 ขึ้น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้กับนักศึกษา 2. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1.เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้เพียงพอกับการศึกษาตามระดับชั้น 2.เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถทางด้านวิชาการเพิ่มขึ้น 3.เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนให้สูงขึ้น 3. ขอบเขตของโครงการ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นและมีความรู้ทักษะทางวิชาการ สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปวิเคราะห์ และปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้นักศึกษามีผลคะแนนการสอบปลายภาคเรียนที่ 2/2567 สูงขึ้น 4. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถทางด้านวิชาการเพิ่มขึ้น นักศึกษามีผลคะแนนการสอบปลายภาคเรียนที่ 2/2567 สูงขึ้น
บทที่ 2 วิธีดำเนินการ 1. รายละเอียดโครงการ 2. แนวคิดการประเมินโครงการ 3. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1. รายละเอียดโครงการ หลักการและเหตุผลของโครงการ ๑. หลักการและเหตุผล จากนโยบายสำนักงาน จุดเน้นการดำเนินงานกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กำหนดให้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีหน้าที่ใน การจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง และการเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ รวมทั้งอาจจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการเรียนรู้ในรูปแบบอื่นที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาบุคคลให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา เป็นคนดีมีวินัย รู้จักสิทธิควบคู่กับหน้าที่และ ความรับผิดชอบ ภูมิใจและตระหนักในความสำคัญของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จักรักษา ประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รู้จักความพอเพียง มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ใฝ่เรียนรู้ มีความรอบรู้รอบคอบ ระมัดระวัง มีคุณธรรม และมีความ ซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม มีความตระหนักในหน้าที่ที่จะจัดการศึกษาให้กับนักศึกษาให้ มีคุณภาพ จึงได้จัดกิจกรรมโครงการพัฒนาวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำภาคเรียน ที่ 2/2567 ขึ้น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้กับนักศึกษา 2. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1.เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้เพียงพอกับการศึกษาตามระดับชั้น 2.เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถทางด้านวิชาการเพิ่มขึ้น 3.เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนให้สูงขึ้น เป้าหมายของโครการ ด้านปริมาณ - นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน วิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายภาคเรียนที่ 2/2567 จำนวน 61 คน ด้านคุณภาพ นักศึกษามีผลคะแนนการสอบปลายภาคเรียนที่ 2/2567 สูงขึ้น
ระยะเวลาดำเนินการ วันที่ 13 มกราคม 2568 วงเงินงบประมาณทั้งโครงการ แผนงาน : ยุทธศาสตร์สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ ระดับอนุบาลจนการศึกษาขั้นพื้นฐาน กิจกรรมจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานงบเงินอุดหนุน ค่า กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รหัสงบประมาณ 203344500130041000184 จำนวน 5๐,๙๐๕ บาท.- (-ห้าหมื่นเก้าร้อยห้าบาทถ้วน-) เพื่อใช้จ่ายตามรายการต่อไปนี้ รายละเอียดดังนี้ ค่าวัสดุโครงการ 1. เอกสารประกอบการพัฒนาวิชาการวิชาศิลปศึกษา จำนวน 415 เล่มๆละ ๙๖ บาท เป็นเงิน ๓๙,๘๔๐ บาท 2. ค่าป้ายจำนวน 15 ป้ายๆละ 150 บาท เป็นเงิน 2,250 บาท 3. ค่าวัสดุ 8,815 บาท -ปากกา จำนวน 415 ด้ามๆละ 6 บาท เป็นเงิน 2,490 บาท -สมุด จำนวน 415 เล่มๆละ 10 บาท เป็นเงิน 4,150 บาท -กระดาษ เอ4 ขนาด 80 แกรม จำนวน 15 รีมๆละ 145 บาท เป็นเงิน 2,175 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๐,๙๐๕.- บาท หมายเหตุ ทุกรายการขอถัวจ่ายตามที่จ่ายจริง ผู้รับผิดชอบโครงการ 10.1 ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม 10.2 ศกร.ระดับตำบล 15 ตำบล เครือข่าย 11.1 องค์กรนักศึกษา 11.2 คณะกรรมการสถานศึกษา ศกร.ระดับตำบล 11.3 อาสาสมัคร ศกร.ระดับตำบล กิจกรรมในการดำเนินโครงการ กิจกรรมที่ 1 ประชุมวางแผน แต่งตั้งคณะทำงาน /มอบหมายงาน / จัดเตรียม วัสดุอุปกรณ์ กิจกรรมที่ 2 ดำเนินงานโครงการพัฒนาวิชาการวิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย
กิจกรรมที่ 3 สรุปรายงานผลการประเมินโครงการ -บัญชีผู้เข้าร่วมกิจกรรม -แบบประเมินโครงการ -แบบสังเกตพฤติกรรม รายละเอียดกิจกรรมการดำเนินโครงการ 1. กิจกรรมพัฒนาวิชาการวิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย 1.1 วัตถุประสงค์ 1.1.1. เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนให้มีฐานความรู้เพียงพอกับการศึกษาตามระดับชั้น 1.1.2. เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถทางด้านวิชาการเพิ่มขึ้น 1.1.3. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนให้สูงขึ้น 1.2 การดำเนินกิจกรรม 1.2.1 ประสานนักศึกษาพร้อมชี้แจงรูปแบบ/วิธีการ/ภารกิจนักศึกษาที่จะต้องปฎิบัติในการพบกลุ่มให้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ 1.2.2 อบรมให้ความรู้/มอบสื่อการเรียนรู้ให้กับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน 1.2.3 นักศึกษาเรียนรู้จากสื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 1.2.4 นิเทศติดตามการจัดกิจกรรม 1.2.5 สรุปรายงานผล 1.3 การประเมินผล โครงการพัฒนาวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย นักศึกษาที่ลงทะเบียนรายวิชาการวิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย สามารถพัฒนาตนเอง อันจะส่งผล ให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาสูงขึ้นตลอดจนสามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่าง เป็นระบบ มีการเก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 415 คน โดยมีวิธีวัดความสำเร็จของโครงการ 2 แบบ คือ 1.3.1 มิติด้านทะเบียนคุมสือของผู้เรียน 1.3.2 มิติด้านจัดทำบัญชีลงเวลาผู้รับสื่อ 1.3.3 มิติด้านความรู้ความเข้าใจของกลุ่มเป้าหมาย ใช้แบบสังเกต /สัมภาษณ์ 1.4 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.4.1 กลุ่มเป้าหมายมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น 1.42. ผลที่คาดว่าจะได้รับ นักศึกษาที่ลงทะเบียนรายวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย สามารถพัฒนา ตนเอง อันจะส่งผล ให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาสูงขึ้นตลอดจนสามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างเป็นระบบ
ระยะเวลาดำเนินงานตามโครงการ วันที่ 13 มกราคม 2568 ระยะเวลา กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ 9 ม.ค.2568 1. ประชุมวางแผน แต่งตั้งคณะทำงาน /มอบหมายงาน / จัดเตรียม วัสดุอุปกรณ์ ครู สกร.ระดับอำเภอ วาปีปทุม 13 ม.ค.2568 2. ดำเนินงานโครงการพัฒนาวิชาการวิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย นายณรงค์ศักดิ์ พลแดง ครู กศน.ตำบล 14 ม.ค. 2568 3. สรุปรายงานผลการประเมินโครงการ -บัญชีผู้เข้าร่วมกิจกรรม -แบบประเมินโครงการ -แบบสังเกตพฤติกรรม ครู สกร.ระดับอำเภอ วาปีปทุม ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. กลุ่มเป้าหมายมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น 2. ผลที่คาดว่าจะได้รับ นักศึกษาที่ลงทะเบียนรายวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย สามารถพัฒนาตนเอง อันจะส่งผล ให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาสูงขึ้นตลอดจนสามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างเป็นระบบ 2. แนวคิดการประเมินโครงการ หลักการแนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวกับการประเมินโครงการในการประเมินกิจกรรมโครงการพัฒนาวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผู้ประเมินได้ค้นคว้าพร้อมทั้งนำเสนอเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย รายละเอียดของกิจกรรม ประกอบด้วยหลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ เป้าหมายและวิธีดำเนินการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการประเมินกิจกรรม ประกอบด้วยความหมาย วิธีการ รูปแบบการประเมิน
หลักการแนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวกับการประเมินโครงการ ความหมายของการประเมินผลกิจกรรม กู้ด (Good, 1973) กล่าวไว้ว่า การประเมินผล คือ การเปรียบเทียบผลการปฏิบัติงานจริงกับผลที่คาดว่าจะได้รับ มีความแตกต่างเพียงใด สมคิด พรมจุ้ย (2542) เสนอไว้ว่า การประเมินผลเป็นกระบวนการที่ก่อให้เกิดสารสนเทศ เพื่อช่วยในการบริหาร ซึ่งผู้บริหารสามารถใช้ในการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นการตรวจสอบความก้าวหน้าของกิจกรรมหรือ แผนงาน ตลอดจนการพิจารณาผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมหรือแผนงานนั้น ๆ ว่ามีมากน้อยเพียงใด วัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายการประเมินผลกิจกรรม การบริหารแนวใหม่หรือการบริหารในระบบเปิด (Open System) ถือว่าการประเมินผลเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ซึ่งจุดมุ่งหมายของการประเมินผลกิจกรรมมีดังนี้ 1 เพื่อสนับสนุนหรือยกเลิก ถ้าเราประเมินผลแล้วกิจกรรมนั้น สำเร็จตามที่กำหนดวัตถุประสงค์ และเป้าหมายไว้ก็ ควรดำเนินการต่อไป แต่ถ้าประเมินผลแล้วกิจกรรมนั้นมีปัญหาหรือมีผลกระทบเชิงลบมากกว่า เราก็ควรยกเลิกไป 2 เพื่อทราบถึงความก้าวหน้าของการปฏิบัติงานตามกิจกรรม ว่าเป็นไปตามที่กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย หรือกฎเกณฑ์ หรือมาตรฐานที่กำหนดไว้เพียงใด 3 เพื่อปรับปรุงงาน โดยพิจารณาว่ากิจกรรมนั้นบกพร่องในเรื่องใด เมื่อเราทราบผลของการประเมินผล เราก็จะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ตรงประเด็น 4 เพื่อศึกษาทางเลือก (Alternative) โดยการประเมินผลจะเป็นการเปรียบเทียบทางเลือก ก่อนที่จะตัดสินใจเลือก ทางเลือกใดปฏิบัติ ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงให้น้อยลง 5 เพื่อขยายผล ในการนำกิจกรรมไปปฏิบัติ ถ้าเราประเมินผลกิจกรรมเป็นระยะสม่ำเสมอ ผลปรากฏว่ากิจกรรม นั้น บรรลุผลสำเร็จตามที่กำหนดวัตถุประสงค์ เราก็ควรจะขยายผลกิจกรรมนั้นต่อไป 3. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โครงการพัฒนาวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวาปีปทุม ดำเนินงานโดยใช้ข้อมูลแนวคิดและข้อค้นพบจากผลการวิจัยและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ในการพัฒนาวิชาการด้านศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องหลายฉบับที่สามารถนำมา เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้ 1. งานวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร งานวิจัยของ Smith (2018) ศึกษาเกี่ยวกับแนว ทางการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching) โดยพบว่าการใช้กิจกรรมกลุ่ม การ
สนทนา และบทบาทสมมติช่วยให้นักเรียนมีทักษะการสื่อสารที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความกังวลในการพูดภาษาอังกฤษใน สถานการณ์จริง 2. งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ การศึกษาของ Brown และคณะ (2020) ได้สำรวจผลกระทบของการใช้สื่อดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชันเรียนภาษาออนไลน์ และเกมเพื่อการศึกษา พบว่าเทคโนโลยีช่วย กระตุ้นความสนใจของนักเรียนและช่วยให้พวกเขาสามารถพัฒนาทักษะภาษาได้อย่างต่อเนื่อง 3. งานวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้แบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การศึกษาของ Johnson (2019) ได้กล่าวถึงวิธีการ เรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเรียนรู้ เช่น การใช้โครงงาน การอภิปราย และการให้ผู้เรียนมี โอกาสเลือกหัวข้อที่สนใจ พบว่าช่วยให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นและสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงได้ดีขึ้น 4. งานวิจัยเกี่ยวกับศิลปศึกษา Garcia และคณะ (2021) ศึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษที่มุ่งเน้นการพัฒนาให้ผู้เรียน สามารถใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง เช่น การสมัครงาน การสื่อสารในที่ทำงาน และการทำธุรกรรมต่าง ๆ พบว่า ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความมั่นใจมากขึ้น 5. งานวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมปลาย การศึกษาของ Wang (2022) ได้ระบุปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมปลาย เช่น แรงจูงใจในการเรียน การสนับสนุนจาก ครอบครัว และคุณภาพของครูผู้สอน โดยพบว่าปัจจัยเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อพัฒนาการด้านภาษาของนักเรียน จากงานวิจัยที่กล่าวมาข้างต้น สามารถสรุปได้ว่าการพัฒนาวิชาการด้านศิลปศึกษา ควรคำนึงถึงแนวทางการเรียนการสอนที่ ทันสมัย เน้นการสื่อสารจริง ใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อสนับสนุน และให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถนำความรู้ไป ใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สรุปการวิเคราะห์ข้อมูล 1.นักศึกษามีความรู้พื้นฐานเพียงพอกับการศึกษาตามระดับชั้น 2.นักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นในการทำงานและมีความรับผิดชอบมากขึ้น ประโยชน์ที่จะได้รับ 1. กลุ่มเป้าหมายมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น 2. ผลที่คาดว่าจะได้รับ นักศึกษาที่ลงทะเบียนรายวิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถพัฒนา ตนเอง อันจะส่งผล ให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาสูงขึ้นตลอดจนสามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างเป็นระบบ
บทที่ 3 ผลการดำเนินการงาน ในการจัดโครงการครั้งนี้ มีการดำเนินการขั้นตอนตามลำดับขั้นตอนดังนี้ 1. ขั้นตอนการทำงาน 2. เครื่องมือในการเก็บข้อมูล 3. วิธีการเก็บข้อมูล 4. การวิเคราะห์ข้อมูล 5. เกณฑ์การประเมิน 1. ขั้นตอนการทำงาน 1.1 การวางแผน 1.2 เก็บข้อมูล 1.3 วิเคราะห์ข้อมูล 1.4 สรุปผลข้อมูล 2. เครื่องมือในการเก็บข้อมูล 2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้เรียน 2.2 แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน 3. วิธีการเก็บข้อมูล (เก็บข้อมูลเมื่อใด อย่างไร) เก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 4. การวิเคราะห์ข้อมูล - กลุ่มเป้าหมายประชาชนทั่วไปในเขตอำเภอวาปีปทุม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ค่าเฉลี่ย (Mean) โดยใช้สูตร ดังนี้ = เมื่อ แทน ค่าเฉลี่ย X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในแต่ละด้าน N แทน จำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม Σ แทน ผลรวมของจำนวนทั้งหมด
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้สูตร ดังนี้ เมื่อ S.D. แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในแต่ละด้าน n แทน จำนวนผู้สอบถามจำนวนทั้งหมด Σ แทน ผลรวมของจำนวนทั้งหมด 5. เกณฑ์การประเมิน ให้ระบุว่ามีเกณฑ์การประเมินอย่างไร ซึ่งให้นำดัชนีวัดความสำเร็จของโครงการมาปรับเป็นเกณฑ์ใน การประเมิน สำหรับการแปลความหมายระดับคะแนนเฉลี่ยในช่วงคะแนนตามเกณฑ์ 5 ระดับแทน 5 ความหมายคือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุตในรายงานฉบับนี้ใช้ทฤษฎีการแปลความหมายของลิเศิร์ทสเกล (Likert Scale) มีสมการ คำนวณอันตรภาคชั้นของค่าเฉลี่ยมีค่าเท่ากับ 0.5 โดยใช้สมการ ความกว้างของอันตรภาคชั้น = ( คะแนนสูงสุด - คะแนนต่ำสุด ) จำนวนชั้น ทำให้เกณฑ์การแปลความหมายดังนี้ 4.51 - 5.00 ค่าเฉลี่ยมากที่สุด 3.51 - 4.50 ค่าเฉลี่ยมาก 2.51 - 3.50 ค่าเฉลี่ยปานกลาง 1.51 - 2.50 ค่าเฉลี่ยน้อย 1.00 - 1.50 ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ที่มา : ลิเคีร์ทสเกล (Likert 5cale) 5 ระดับ โดย เร็นสีส เอ. ลิเคีร์ท (Rensis A. Likert)
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน 1. สภาพการดำเนินงานโครงการ การจัดกิจกรรมโครงการพัฒนาวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม. ปลาย ครั้งนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตามแผนที่กำหนดและได้นำปัญหาและข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นมาปรับปรุงแก้ไข ให้กิจกรรมเหมาะสมกับผู้เข้าร่วมโครงการ โดยการประชุมปรึกษาหารือผู้บริหารสถานศึกษาเป็นระยะๆ ตลอด 2. ผลการดำเนินงานโครงการ 2.1 จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ ผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาวิชาการวิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เป้าหมาย 61 คน พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนให้สูงขึ้น 2.2 ความรู้ความเข้าใจและทักษะที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ กลุ่มเป้าหมายประชาชนทั่วไปในเขตอำเภอวาปีปทุม ตารางที่ 1 จำนวนและร้อยละของผู้เข้าร่วมโครงการ ประเภท จำนวน ร้อยละ ชาย 32 52.45 หญิง 29 47.54 รวม 61 100 ตารางที่ 2 จำแนกผู้เข้าร่วมโครงการ ประเภท จำนวน ร้อยละ เกษตรกร 36 59.01 ค้าขาย 7 11.47 รับจ้างทั่วไป 18 29.50 ครูและบุคลากร - - รวม 61 100
2.3 ความพึงพอใจผู้เข้าร่วมโครงการ ตารางที่ 3 ตารางแสดงค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรม ประเด็นวัดความพึงพอใจ ระดับความพึงพอใจ อันดับที่ x̅ S.D. ระดับ ด้านความพึงใจด้านเนื้อหา 4.96 0.25 มากที่สุด 2 ด้านความพึงพอใจด้านกระบวนการจัด กิจกรรม 4.97 0.22 มากที่สุด 1 ด้านความพึงพอใจต่อวิทยากร 4.94 0.30 มากที่สุด 3 ด้านความพึงพอใจด้านการอำนวยความ สะดวก 4.96 0.23 มากที่สุด 2 ค่าเฉลี่ยรวม 4.96 0.25 มากที่สุด สรุป จากตารางแสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย มีความคิดเห็นในการเข้า ร่วมกิจกรรมโครงการพัฒนาวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก โดยเรียงลำดับมากไปหา น้อยได้ดังนี้ อันดับที่ 1 ด้านความพึงใจด้านเนื้อหา อันดับที่ 2 ด้านความพึงพอใจต่อวิทยากร อันดับที่ 3 ด้านความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก อันดับที่ 4 ด้านความพึงใจด้านเนื้อหา 2.4 ผลการติดตามการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมายที่ร่วมโครงการพัฒนาทักษะวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย ความรู้ และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
บทที่ 5 สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ 1.จุดเด่นของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครั้งนี้ โครงการพัฒนาพัฒนาทักษะวิชาการ วิชาศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย มีความรู้ และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงขึ้น 2. จุดที่ควรพัฒนาของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครั้งนี้ ควรพัฒนาการจัดกิจกรรมที่หลากหลายและแปลกใหม่เสมอ 3. ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครั้งนี้ ควรให้ความรู้กับผู้เรียนให้หลากหลายกิจกรรม 4. สรุปค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน แผนงาน : ยุทธศาสตร์สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ ระดับอนุบาลจนการศึกษาขั้นพื้นฐาน กิจกรรมจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานงบเงินอุดหนุน ค่า กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รหัสงบประมาณ 203344500130041000184 จำนวน 5๐,๙๐๕ บาท.- (-ห้าหมื่นเก้าร้อยห้าบาทถ้วน-) เพื่อใช้จ่ายตามรายการต่อไปนี้ รายละเอียดดังนี้ ค่าวัสดุโครงการ 1. เอกสารประกอบการพัฒนาวิชาการวิชาช่องทางการพัฒนาอาชีพ จำนวน 415 เล่มๆละ ๙๖ บาท เป็นเงิน ๓๙,๘๔๐ บาท 2. ค่าป้ายจำนวน 15 ป้ายๆละ 150 บาท เป็นเงิน 2,250 บาท 3. ค่าวัสดุ 8,815 บาท -ปากกา จำนวน 415 ด้ามๆละ 6 บาท เป็นเงิน 2,490 บาท -สมุด จำนวน 415 เล่มๆละ 10 บาท เป็นเงิน 4,150 บาท -กระดาษ เอ4 ขนาด 80 แกรม จำนวน 15 รีมๆละ 145 บาท เป็นเงิน 2,175 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๐,๙๐๕.- บาท
ภาคผนวก 1. โครงการที่ได้รับอนุมัติ 2. คำสั่งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ 3. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการเช่น - ประชุมวางแผน แต่งตั้งคณะทำงาน /มอบหมายงาน / จัดเตรียม วัสดุอุปกรณ์ - ดำเนินงานโครงการพัฒนาวิชาการวิชาศิลปศึกษา - สรุปรายงานผลการประเมินโครงการ -บัญชีผู้เข้าร่วมกิจกรรม -แบบประเมินโครงการ -แบบสังเกตพฤติกรรม - รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ/ใบลงทะเบียน 4. ตัวอย่างแบบประเมินความพึงพอใจ ควรสำรวจความพึงพอใจให้ครอบคลุม - ด้านความพึงใจด้านเนื้อหา - ด้านความพึงพอใจต่อวิทยากร - ด้านความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก - ด้านความพึงใจด้านเนื้อหา 5. ภาพประกอบโครงการ ก่อนดำเนินการ/ระหว่างดำเนินการ/หลังดำเนินโครงการ ประมาณ 3-4 รูป - เรียงลำดับภาพก่อนหลัง - มีคำบรรยายใต้ภาพ (สถานที่ วัน เดือน พ.ศ.) 2 ภาพต่อ 1 หน้า หมายเหตุ อาจเพิ่มเติมหัวข้ออื่น ๆ ได้ตามความเหมาะสมกับลักษณะของโครงการได้ 6. ตัวอย่างแบบประเมินความพึงพอใจ ควรสำรวจความพึงพอใจให้ครอบคลุม - ด้านความพึงใจด้านเนื้อหา - ด้านความพึงพอใจต่อวิทยากร - ด้านความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก - ด้านความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรม
ภาคผนวก 1. โครงการที่ได้รับอนุมัติ
รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ/ผู้ที่ลงทะเบียนเรียนวิชา ศิลปศึกษา ระดับ ม.ปลาย
-
ภาพประกอบโครงการพัฒนาวิชาการวิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศกร.ระดับตำบลหนองแสง
ภาพประกอบโครงการพัฒนาวิชาการวิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศกร.ระดับตำบลหนองแสง
ตารางแสดงค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรม
บรรณานุกรม การเขียนบรรณานุกรมในภาษาไทยสำหรับหนังสือหรือบทความที่เกี่ยวข้องกับ "ชีวิตและสังคม" สามารถทำ ได้ตามรูปแบบต่างๆ ต่อไปนี้: 1. รูปแบบ APA (American Psychological Association) หนังสือ: นามสกุล, ชื่อย่อ. (ปีที่พิมพ์). ชื่อหนังสือ (ฉบับที่พิมพ์). สำนักพิมพ์. บทความ: นามสกุล, ชื่อย่อ. (ปีที่พิมพ์). ชื่อบทความ. ชื่อวารสาร, เลขที่เล่ม(หมายเลขฉบับ), หน้า. https://doi.org/xxxx ตัวอย่าง: กิดเดนส์, อ. (2013). สังคมศาสตร์(ฉบับที่ 7). สำนักพิมพ์โพลิตี. เดิร์คไฮม์, เอ. (1897). Le Suicide. Année Sociologique, 2, 1-48. 2. รูปแบบ MLA (Modern Language Association) หนังสือ: นามสกุล, ชื่อ. ชื่อหนังสือ. สำนักพิมพ์, ปีที่พิมพ์. บทความ: นามสกุล, ชื่อ. "ชื่อบทความ." ชื่อวารสาร, เล่มที่, ฉบับที่, ปีที่พิมพ์, หน้า. ตัวอย่าง: กิดเดนส์, แอนโธนี. สังคมศาสตร์. ฉบับที่ 7, สำนักพิมพ์โพลิตี, 2013. เดิร์คไฮม์, เอมิล. "Le Suicide." Année Sociologique, เล่ม 2, 1897, หน้า 1-48. 3. รูปแบบ Chicago (Chicago Manual of Style) หนังสือ: นามสกุล, ชื่อ. ชื่อหนังสือ. สถานที่พิมพ์: สำนักพิมพ์, ปีที่พิมพ์. บทความ: นามสกุล, ชื่อ. "ชื่อบทความ." ชื่อวารสาร เล่มที่ (ปีที่พิมพ์): หน้า. ตัวอย่าง: กิดเดนส์, แอนโธนี. สังคมศาสตร์. เคมบริดจ์: สำนักพิมพ์โพลิตี, 2013. เดิร์คไฮม์, เอมิล. "Le Suicide." Année Sociologique 2 (1897): 1-48.
คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา นางวิมลรัตน์ จันทร์ยาง ผู้อำนวยการ สกร.ระดับอำเภอวาปีปทุม นางสาวมนัญญา คำแพงศรี ครู นายคณพศ คณาสินธุ์ ครู นางวิลาสินี สวาศรี ครู นางบุญเลิง ศรีโง๊ะ ครูอาสาสมัครฯ นางเพียรพร ศรีสารคาม ครูอาสาสมัครฯ นางสาวสุชวดี ชัยศรี ครูอาสาสมัครฯ นางสาวศิรประภา หอมขจร ครูอาสาสมัครฯ คณะผู้ดำเนินการ นายณรงค์ศักดิ์ พลแดง ครู กศน. ตำบลหนองแสง นางสาวปริฉัตร จันทวะฤทธิ์ ครู กศน.ตำบลโคกสีทองหลาง นางกุหลาบ นาเจิมพลอย ครู กศน.ตำบลหนองทุ่ม นางสาวสุวิภา แสงหัวช้าง ครู กศน.ตำบลขามป้อม นายไกรวุฒิ คงแสนคำ ครู กศน.ตำบลงัวบา นายอนุวัฒน์ สีเผือก ครู กศน.ตำบลเสือโก้ก นายระมุล สุธรรม ครู กศน.ตำบลหนองแสน นางสาวอุมาวดี อัปมะทัง ครู กศน.ตำบลหนองไฮ นางสาวอรพิน ปะกินังเต ครูกศน.ตำบลหัวเรือ นางสาวบุญโฮม เอกศิริ ครู กศน.ตำบลประชาพัฒนา นางสาวปริยากร นาครัตน์ ครู กศน.ตำบลนาข่า นางศศิธร มูลเหลา ครู กศน.ตำบลแคน นางสาวปิยะพร ประนัดสุจ่า ครู กศน.ตำบลดงใหญ่ นายไกรษร เกตราช ครู กศน.ตำบลบ้านหวาย นางสาวเหมวรรณ ปะกิระนำ ครู ศรช.
คณะผู้จัดทำ (ต่อ) นางสาวเกษราภรณ์ เมิกข่วง ครู ศรช. นางสาวชลฤดี ชิณวงค์ ครู ศรช. นางสาวกนกพลอย มีชาญ ครู ศรช. นางสาวประจิตรา มหาประโพธิ์ ครู ศรช. นางอำพร แสงโทโพธิ์ ครู ศรช. นางสาวปณิชา ประวิสุทธิ์ ครู ศรช. นางสาวธนาวรรณ จันทร์ยาง ครู ศรช. นางสาวอินทร์ทิรา จันทวะฤทธิ์ ครู ศรช. นางสาวอมรรัตน์ สมพิทักษ์ ครูผู้สอนคนพิการ นางสาวนุชณภา ปริเตสัง ครูผู้สอนคนพิการ นางสาวปริชาติ ปะโปตินัง ครูผู้สอนคนพิการ นางเขมนันท์ ประกอบนันท์ ครูผู้สอนคนพิการ ผู้จัดพิมพ์รูปเล่ม นายณรงค์ศักดิ์ พลแดง ครู กศน. ตำบลหนองแสง นางสาวชลฤดี ชิณวงค์ ครู ศรช. นางสาวเหมวรรณ ปะกิระนำ ครู ศรช.