ประวัติศาสตร์เป็ นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับอดีต โดยศึกษาถึง พฤตก ิ รรมของมน ุ ษย ์ ตามบริบทของช่วงเวลาที่เกิดขึ้นซึ่งมีผล ต ่ อมน ุ ษยชาตเ ิ มอ ื ่ เหต ุ การณ ์ น ้ ั นเปลย ี ่ นแปลงไป ประวัติศาสตร์ซ ้ารอยไม่มีจริง เพราะ ถ ึ งเหต ุ การณ ์ ท ี ่ เกิดขึ้นจะคล้ายกับในอดีตแต่ บริบทของสถานการณ์ บ ุ คคลกไ็ ม ่ เหมือนเดิม
ซองจดหมายส่วน พระองค์ ร.5
ภาพพระราชพิธีฉลองสิริ ราชสมบัติครบ 60 ปีปี ภาพพระบาทสมเดจ ็ พระปกเกล ้ าเจ ้ าอย ่ ู ห ั ว (รัชกาลที่ 7) พระราชทานร ั ฐธรรมน ูญ ฉบับแรก แห่งราชอาณาจักรไทย
ภาพน ้าท่วม กร ุ งเทพมหานคร พ.ศ. 2485 ภาพพระบาทสมเด็จพระ จ ุ ลจอมเกล ้ าเจ ้ าอย ่ ู ห ั ว(รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสรัสเซีย
ภาพวาดแสดงสงคราม ย ุ ทธหัตถี ภาพวาดแสดงเหต ุ การณ ์ คณะราชท ู ตไทย น าโดยออกญาโกษาธิบดี (ปาน) เข้าเฝ้ า พระเจ ้ าหล ุ ยส ์ ท ี ่ 14 แห่งฝรั่งเศส
ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนตามล าดับ ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1การก าหนดหัวเรื่องที่จะศึกษา เลือกหัวข้อ หรือประเด็นทางประวัติศาสตร์ที่สนใจ โดย อาศ ั ยความร ้ ู จากการอ ่ าน หร ื อค ้ นคว ้ าและความสนใจอยากร ้ ู ก ็ จะท าให้เกิดควากระตือรือร้นในการศึกษาอย่างจริงจัง การกา หนดห ั วเร ื ่ องจะศ ึ กษาเร ิ ่ มจากเหต ุ การณ ์ ทม ี ่ ี ความส าคญ ั ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ
ขั้นตอนที่ 2การรวบรวมหลักฐาน หลักฐานที่เป็ นลายลักษณ์อักษร เป็ นหลักฐานที่ส าคัญ โดยเฉพาะในช ้ ั นต ้ น หร ื อปฐมภ ู ม ิ รองลงมาคอ ื หลก ั ฐานท ุ ตยภ ู ม ิ โดยผ ้ ู ศ ึ กษาจะต ้ องรวบรวมหลก ั ฐานส าคญ ั และศ ึ กษาให ้ มาก
ขั้นตอนที่ 3การประเมน ิ ค ุ ณค ่ าของหลก ั ฐาน หลังจากที่รวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชั้นต้น, ชั้น รอง จะต้องมีการวิเคราะห์ และประเมินค่าว่าหลักฐานชั้นต้นใด น ่ าเช ื ่ อถ ื อไม ่ใช ่ ของปลอม มค ี วามถ ู กต ้ องเทย ี ่ งตรง ถ ้ าเป็ น หลก ั ฐานช ้ ั นรองจะวเ ิ คราะห ์ ว ่ า ใครเป็ นผ ้ ู เขย ี น มค ี ุ ณสมบ ั ตใิ น การเขียนเพียงใด ขั้นตอนนี้มีความส าคัญมาก ถ้าเกิดความ ผด ิ พลาด จะทา ให ้ ข ้ อม ู ลไม ่ ถ ู กต ้ อง
ขั้นตอนที่ 4การวเ ิ คราะห ์ ส ั งเคราะห ์ จ ั ดหมวดหม ่ ู ข ้ อม ู ล การวิเคราะห์ ช่วยท าให้ประเด็นต่าง ๆ ได้รับการแยกแยะ ส ่ วนการส ั งเคราะห ์ จะเป็ นการรวมประเดน ็ แล ้ วน าเคราะห ์ ม ู ลมา วเ ิ คราะห ์ให ้ได ้ประเดน ็ ใหม ่ แล ้ วน ามาจ ั ดเป็ นหมวดหม ่ ู ให ้ ตรง กบ ั เร ื ่ องทศ ี ่ ึ กษา จ ั ดให ้ เป็ นระบบ เห ็ นความส ั มพน ั ธ ์ ของข ้ อม ู ล โดยให้ความส าคัญกับเวลาว่าเวลาใดมากก่อนหลัง
ข ้ น ั ตอนส ุ ดท ้ าย ข ้ น ั ตอนการเร ี ยบเร ี ยง / น าเสนอ เป็ นข ้ น ั ตอนทส ี ่ าคญ ั ทส ี ่ ุ ด ผ ้ ู ศ ึ กษาจะต ้ องน าข ้ อม ู ลต ่ าง ๆ ท ี ่ ได้ มาเรียบเรียง ให้ชัดเจนตรงประเด็น มีการวิเคราะห์ น าเสนอ ความร ้ ู ทไี ่ ด ้ จากการศ ึ กษา โดยภาษาทเ ี ่ ข ้ าใจง ่ าย ช ั ดเจน มก ี าร อ ้ างอง ิ ทไี ่ ปทม ี ่ าของข ้ อม ู ลโดยใช ้ เช ิ งอรรถและบรรณาน ุ กรม
1) หลักฐานที่เป็ นลายลักษณ์อักษร - พระราชพงสาวดารกร ุ งเก ่ า ฉบ ั บหลวงประเสร ิ ฐฯ เป็ นทย ี ่ อมร ั บเร ื ่ องของความถ ู กต ้ องเกย ี ่ วกบ ั เวลาศ ั กราช และ เหต ุ การณ ์ ทก ี ่ ล ่ าวถ ึ ง - พระราชพงสาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา มีการ ตรวจสอบและช าระในสมัยรัชกาลที่ 4 ทา ให ้ เข ้ าใจแหต ุ การณ ์ได ้ ง ่ ายถ ู กต ้ อง ช ั ดเจน
- หลักฐานที่บันทึกเป็ นตัวหนังสือ เช่น จารึก ต านาน พงศาวดาร ช ี วประวต ัิ เอกสารราชการจดหมายเหต ุ บ ั นทก ึ ส ่ วนบ ุ คคล ส ื ่ อส ิ ่ งพม ิ พ ์ วรรณกรรม และเวบ ็ ไซต ์ - หลก ั ฐานไม ่ ถ ู กบ ั นทก ึ เป็ นตว ั หน ั งส ื อเช่น หลักฐานทาง โบราณคดี (โบราณสถาน/โบราณวต ั ถ ุ) ค าบอกเล่า สื่อโสตทัศน์ หลักฐานด้านศิลปกรรม
- พระราชพงศาวดารกร ุ ง ธนบ ุ ร ี ฉบ ั บพน ั จ ั นทน ุ มาศ (เจิม) ให ้ ความร ้ ู เหต ุ การณ ์ ทเ ี ่ กด ิ ขน ึ ้ ต ้ ง ั แต ่ ก ่ อนเส ี ยกร ุ งศร ี อย ุ ธยาคร ้ ั งท ี ่ 2 จนถง ึ ส ิ ้ นส ุ ดสม ั ยกร ุ งธนบ ุ ร ี เป็ น หลักฐานที่ส าคัญเป็ นอย่างดี
หลักฐานที่เป็ นบันทึกของ ชาวต่างชาติ ที่ส าคัญ คือ จดหมาย เหต ุ ลาล ู แบร ์ เขย ี นโดยท ู ตฝร ั ่ งเศส ทเ ี ่ ข ้ ามากร ุ งศร ี อย ุ ธยาสม ั ยสมเดจ ็ พระนารายณ์มหาราช
หลักฐานที่เป็ นลายลักษณ์ อักษรอื่น เช่น รายงานการเข้ามาเผย แผ่ศาสนาคริสต์ของมิชชันนารี ซึ่งเล่า เรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ การ ปกครอง สภาพสังคมชีวิตความ เป็ นอย ่ ู ของคนไทย, รายงานการค้า ของบริษัทต่างชาติที่เข้ามาตั้งสถานี การค ้ าในกร ุ งศร ี อย ุ ธยา
หลักฐานที่ไม่เป็ นลายลักษณ์อักษร โบราณสถาน โบราณวต ั ถ ุ ต ่ างๆ ศ ิ ลปวต ั ถ ุ ต ่ างๆ ภาพเขย ี น การตั้งถิ่นฐานของชาวต่างชาติ ซึ่ง สามารถใช้ประกอบกับหลักฐานที่ เป็ นลายลักษณ์อักษรในการศึกษา ค้นคว้า
1) เป็ นของแท้ หรือของท าเลียนแนบ โดยพิจารณาจาก ส านวนการเขย ี น วส ั ด ุ ทใี ่ ช ้ในการเขย ี น ร ู ปแบบของตว ั เขย ี น เช ่ น ในสมย ั อย ุ ธยาน ิ ยมบ ั นทก ึ ลงในสม ุ ดข ่ อย 2) วต ั ถ ุ ประสงค ์ ของการจ ั ดท า เหต ุ ใดจ ึ งม ี การบ ั นท ึ กเร ื ่ องน ้ ั น ๆ 3) ช่วงระยะเวลาที่จัดท าหลักฐาน มีการบันทึกไว้เป็ นรายวัน ย่อมดีกว่าบันทึกเมื่อเวลาผ่านไปนานแล้ว ซึ่งอาจมีการหลงลืม
4) การศ ึ กษาภ ู มห ิ ลง ั ของผ ้ ู จ ั ดทา หลก ั ฐานน ้ ั น ๆ เช ่ น ผ ้ ู บ ั นทก ึ เป็ นบ ุ คคลทม ี ่ ค ี วามร ้ ู ในเร ื ่ องทบ ี ่ ั นทก ึ หร ื อไม ่ เป็ นผ ้ ู ทใี ่ กล ้ ช ิ ด อย ่ ู หร ื อในเหต ุ การณ ์ หร ื อไม ่ เป็ นคนไทยหร ื อคนต ่ างชาต ิ มก ี าร วางตัวเป็ นกลางทางการเมืองหรือไม่ 5) ร ู ปลก ั ษณ ์ ของหลก ั ฐาน ถ้า เป็ นการบันทึกส่วนตัว อาจมีการใส่ อารมณ ์ และความร ้ ู ส ึ กลงไป
การแยกแยะหลักฐานทางประวัติศาสตร์ 1) ความแตกต่างระหว่างข้อเท็จจริง กับความคิดเห็น 2) ความจริง (ความจริงหรือไม่เป็ นความจริง) กับ ข้อเท็จจริง (คา อธ ิ บายหร ื อเหต ุ ผล)
ความส าคัญของการตีความทางประวัติศาสตร์ 1. เพื่ออธิบายเรื่องราวที่ปรากฏในหลักฐาน 2. เพื่อตีความ วิเคราะห์ความส าคัญของหลักฐาน 3. เพื่อความเที่ยงตรง ไม่ล าเอียงในการวิพากษ์วิจารณ์ หลักฐาน 4. ช ่ วยอธ ิ บายความถ ู กต ้ องของหลก ั ฐานได ้ 5. เพื่ออธิบายหลักฐานให้เข้าใจง่ายขึ้น เกี่ยวกับสถานที่ ตัว บ ุ คคล
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ แบ่งตามความส าคัญของหลักฐาน 1) หลักฐานชั้นต้น (ปฐมภ ู ม) ิ คอ ื หลก ั ฐานทถ ี ่ ู กสร ้ าง บ ั นทก ึ หร ื อจ ั ดทา ขน ึ ้ จากผ ้ ู พบเห ็ นหร ื อเกย ี ่ วข ้ องกบ ั เหต ุ การณ ์ โดยตรง เช ่ น จาร ึ กจดหมายเหต ุ กฎหมายเอกสารราชการ โบราณสถาน โบราณวต ั ถ ุ
2) หลักฐานชั้นรอง (ท ุ ตย ิ ภ ู ม ิ) การน าเอาหลักฐาน ชั้นต้นมาเขียนตามแนวคิดที่ได้มาถ่ายทอด รวบรวม หลง ั จากเหต ุ การณ ์ น ้ ั นผ ่ านไปแล ้ ว ซ ึ ่ งผ ้ ู สร ้ างหร ื อจ ั ดทา ไม ่ได ้ อย ่ ู ในเหต ุ การณ ์ ขณะน ้ ั น เช ่ น ตา นาน คา บอกเล ่ า สื่อสิ่งพิมพ์ ต าราวิชาการ ชีวประวัติ เว็บไซต์ เป็ นต้น
ตัวอย่างหลักฐานที่เป็ นลายลักษณ์อักษร จารึก บ ั นทก ึ อก ั ษรลงวส ั ด ุ ทค ี ่ งทน เช ่ น แผนหิน (ศิลาจารึก) ใบลาน แผ่นเงิน เรื่องราวเน้นศาสนา บ้านเมือง กษต ั ร ิ ย ์ เป็ นหลก ั ฐานเก ่ าทส ี ่ ุ ดในไทย ใช ้ อก ั ษรทแ ี ่ ตกต ่ างกน ัไปตามย ุ ค สมัย เช่น ปัลลวะ ขอมโบราณ
จารึก มค ี วามน ่ าเช ื ่ อถ ื อส ู ง เพราะสร ้ างได ้ คร ้ ั งเดย ี วแก ้ไข หร ื อ แต ่ งเตม ิ ยากอย ่ ู ได ้ นาน น ั กประวต ั ศ ิ าสตร ์ จ ึ งให ้ ความส าคญ ั กบ ั หลักฐานชนิดนี้มาก ศ ึ กษาได ้ ยาก ต ้ องใช ้ ผ ้ ู เช ี ่ ยวชาญ ด้านภาษาศาสตร์ในการศึกษา
ต านาน - ม ุ ขปาฐะ ทบ ี ่ อกเล ่ าส ื บต ่ อกน ั มาแล ้ วบ ั นทก ึ เป็ นลาย ลักษณ์อักษรภายหลัง และผิดจากต้นฉบับไปเรื่อย ๆ - มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มาเกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่เป็ นเรื่องราวทางศาสนา, ก าเนิด บ้านเมือง และราชวงศ์, กษต ั ร ิ ย ์ และวร ี บ ุ ร ุ ษ (ท้าวแสนปม, พระร่วง) - พบได ้ ท ุ กภาคของไทย มค ี ุ ณค ่ าทางประวต ั ศ ิ าสตร ์ น ้ อย
พระราชพงศาวดาร - บ ั นทก ึ เร ื ่ องราวของพระมหากษต ั ร ิ ย ์ ลงบนสม ุ ดไทย ตามลา ดบ ั เหต ุ การณ ์ - เร ิ ่ มต ้ ง ั แต ่ สม ั ยอย ุ ธยาถง ึ สม ั ยร ั ชกาลท ี ่ 5 - มีการช าระภายหลัง คือ การน าเอา พระราชพงศาวดารเก่ามาตรวจสอบแก้ไข และเติมเรื่องใหม่เข้าไป
จดหมายเหต ุ -จดหมายเหต ุ ของชาวต ่ างชาต ิ คอ ื บ ั นทก ึ ของชาวต ่ างชาตท ิ เ ี ่ ข ้ า มาติดต่อกับไทยสมัยต่าง ๆ และเขียนเรื่องราวด้านการเมือง เศรษฐกิจ ส ั งคมในสม ั ยน ้ ั น เช ่ น จดหมายเหต ุ ของ บาทหลวงปาเลอกัวซ์(เรื่องเล่า กร ุ งสยาม), เยเรเมียส ฟานฟลีต - ประโยชน ์ได ้ ข ้ อม ู ลทห ี ่ ลากหลายกว ่ า หลักฐานไทย, มักบันทึกตามสิ่งที่พบเห็น (ปราศจากอคติ) - ข้อเสีย ไม่เข้าใจวัฒนธรรมแท้จริง
บ ั นทก ึ ส ่ วนบ ุ คคล - บ ั นท ึ กเหต ุ การณ ์ในอดต ี ท ี ่ ผ ้ ู บ ั นท ึ กมส ี่ วนเกย ี ่ วข ้ อง หร ื ออย ่ ู ใน เหต ุ การณ ์ น ้ ั น - ท าให ้ ร ้ ู จ ั กอธ ั ยาศ ั ยและความร ้ ู ส ึ กของผ ้ ู เขย ี น - ตัวอย่าง ไกลบ้าน, สาส์นสมเด็จ, บันทึก พระยาทรงส ุ รเดช
ชีวประวัติ - ประวัติชีวิต ผลงาน เหต ุ การณ ์ ส าคญ ั และความ เปลย ี ่ นแปลงในช ี วต ิ ของบ ุ คคล - พิมพ์แจกในงานศพ วาระ ส าคัญของชีวิต และพิมพ์จ าหน่าย เหมือนหนังสือทั่วไป
กฎหมาย กฎเกณฑ์ของสังคมที่บอกความสัมพันธ์ระหว่าง ประชาชนกับประชาชน และประชาชนกับรัฐเช ่ น ร ั ฐธรรมน ูญ, กฎหมายตราสามดวง, กฎหมายพระธรรมศาสตร์
วรรณกรรม - เร ื ่ องราวทผ ี ่ ้ ู แต ่ งจ ิ นตนาการ ขึ้น โดยน าเอาเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์มาประกอบ - สะท้อนวิถีชีวิต พิธีกรรม ค่านิยม ความเชื่อ หรือความคิดของ คนสมัยนั้น
งานเขียนทางประวัติศาสตร์ - ผลการศึกษาค้นคว้าของนัก ประวัติศาสตร์ หรือนักวิชาการสาขาอื่น ๆ - งานเขียนประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ตามแบบตะวันตก เริ่มขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เช่น วิทยานิพนธ์ ปริญญานิพนธ์ งานวิจัยทางประวัติศาสตร์
หลักฐานทางโบราณคดี -ร ่ องรอยทเ ี ่ ป็ นวต ั ถ ุ เกย ี ่ วข ้ องกบ ั มน ุ ษย ์ในอดต ี ซ ึ ่ งมน ุ ษย ์ ในอดีตได้สร้างหรือทิ้งไว้ - น ั กโบราณคด ีได ้ ส ารวจข ุ ดค ้ นมาศ ึ กษาและให ้ น ั ก ประวัติศาสตร์น าไปศึกษาต่อ เช ่ น โครงกระด ู ก เคร ื ่ องป ้ ั นดน ิ เผา ภาพวาดตามฝาผน ั ง ค ู น า ้ คน ั ดน ิ พระราชวง ั
หลักฐานด้านศิลปกรรม - มักได้รับแรงบันดาลใจจากความเชื่อทางศาสนา แบ่งตาม ร ู ปแบบศ ิ ลปะตามสมย ั ทส ี ่ ร ้ าง เช ่ น ศ ิ ลปะศร ี วช ิั ย ทวารวด ี ลพบ ุ ร ี ล ้ านนา อ ่ ู ทองอย ุ ธยา - เช ่ น ทศ ั นศ ิ ลป์ (ประติมากรรม, จิตรกรรม), ศิลปะการแสดง (ดนตรี, นาฏศ ิ ลป์ , เพลงพื้นบ้าน )
หลักฐานด้านค าบอกเล่า -ถ ่ ายทอดด ้ วยคา พ ู ดส ื บต ่ อกน ั มา - มก ั เปลย ี ่ นแปลงตามผ ้ ู เล ่ าและกาลเวลาจ ึ งต ้ องใช ้ ข ้ อม ู ล จากหลักฐานอื่นประกอบ -การหาข ้ อม ู ลได ้โดยการส ั มภาษณ ์ และเหมาะกบ ั การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เช ่ น น ิ ทาน ส ุ ภาษต ิ ช ี วประวต ัิ ขนบธรรมเน ี ยม
หลักฐานชั้นต้น หลักฐานชั้นรอง ลายลักษณ์อักษร ไม่เป็ นลายลักษณ์อักษร ลายลักษณ์อักษร ไม่เป็ นลายลักษณ์อักษร A บันทึกคณะราษฎร B จดหมายลาล ู แบร ์ C พระแก้วมรกต D คา บอกเล ่ ากร ุ งเก ่ า E ศิลาจารึกอักษรขอม F ลิลิตตะเลงพ่าย G ภาพวาดฝาผนังผาแต้ม H กฎหมายตราสามดวง A B C D E G F H
ข้อ 1 การจดบ ั นทก ึ ข ้ อม ู ลรายละเอย ี ดต ่ างๆ ท ้ ง ั ข ้ อม ู ลและ แหล ่ งข ้ อม ู ลให ้ ถ ู กต ้ อง เพอ ื ่ การอ ้ างอง ิ ทน ี ่ ่ าเช ื ่ อถอ ื อย ่ ู ใน ขั้นตอนใดขอวิธีการทางประวัติศาสตร์ 1. วเ ิ คราะห ์ ข ้ อม ู ล 2. ระบ ุ ประเดน ็ ปั ญหา 3. สร ุ ปองค ์ ความร ้ ู 4. รวบรวมข ้ อม ู ล
ข้อ 2 ข ้ น ั ตอนส ุ ดท ้ ายของวธ ิี การทางประวต ั ศ ิ าสตร ์ คอ ื ข ้ อใด 1. ให้ความหมายของงานที่ศึกษา 2. อธ ิ บายคา ตอบทม ี ่ ี เหต ุ ผลช ั ดเจน 3. เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของหลักฐาน 4. รวบรวมการสัมภาษณ์ของปราชญ์ชาวบ้าน
ข้อ 3 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ข้อใดที่น่าเชื่อถือน ้ อยทส ี ่ ุ ด 1. จารึกโบราณ 2. จดหมายเหต ุ 3. ต านานโบราณ 4. เครื่องปั้นดินเผา
ข้อ 4 ข้อใด ไม่ใช่ หลก ั ฐานทางประวต ั ศ ิ าสตร ์ประเภทวต ั ถ ุ 1. พระพท ุ ธร ู ปสมย ั เช ี ยงแสน 2. พระราชพงศาวดาร 3. ปราสาทหินพิมาย 4. โครงกระด ู ก
ข้อ 5 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ในข้อใดจัดได้ว่าเป็ น หลักฐานชั้นต้น 1. พระพท ุ ธร ู ป 2. พระไตรปิ ฎก 3. จดหมายเหต ุ วัน วลิต 4. เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง
ข้อ6 วิพากษ์วิธีการทางประวัติศาสตร์หมายถึงวิธีการใด 1. การตีความ 2. การประเมิน 3. การวิเคราะห์ 4. การสังเคราะห์
ข้อ 7 ข้อใดคือขั้นตอนแรกของวิธีการทางประวัติศาสตร์ 1. การค ้ นหาข ้ อม ู ลและรวบรวมหลก ั ฐาน 2. การตั้งค าถาม และ ก าหนดประเด็นของการศึกษา 3. การอธ ิ บายทม ี ่ เ ี หต ุ ผลและ มค ี า ตอบทช ี ่ ั ดเจน 4. การแสวงหาความหมายและ ความส ั มพน ั ธ ์ ของข ้ อม ู ล
ข้อ 8 พระราชพงศาวดารสม ั ยอย ุ ธยาฉบ ั บใดท ี ่ น ั กประวต ัิ ศาสตร ์ ยอมร ั บว ่ าม ี ข ้ อม ู ลถ ู กต ้ องท ี ่ ส ุ ด 1. ฉบับบริติชมิวเซียม 2. ฉบับพันจ ั นทน ุ มาศ (เจิม) 3. ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ 4. ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์
ข้อ 9การพิจารณาว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็ นของแท้หรือ ของทา เลย ี นแบบอย ่ ู ในข ้ น ั ตอนใดของวธ ิี การทางประวต ั ศ ิ าสตร ์ 1. การรวบรวมหลักฐาน 2. การประเม ิ นค ุ ณค ่ าของหลก ั ฐาน 3. การวเ ิ คราะห ์ ข ้ อม ู ลหลก ั ฐาน 4. การเร ี ยบเร ี ยงข ้ อม ู ลและน าเสนอ
ข้อ 10 “การใช้ภาษาที่ชัดเจน เข้าใจง่าย มีการอ้างอิงหลักฐานใน เชิงอรรถ...” คือขั้นตอนใดของวิธีการทางประวัติศาสตร์ 1. การรวบรวมหลักฐาน 2. การวเ ิ คราะห ์ ข ้ อม ู ลหลก ั ฐาน 3. การประเม ิ นค ุ ณค ่ าของหลักฐาน 4. การเร ี ยบเร ี ยงข ้ อม ู ลและน าเสนอ