The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ญาสุมินทร์ สุปันตี, 2022-11-16 07:44:17

กบฏบวรเดช

กบฏบวรเดช



11 ตลุ าคม พ.ศ.2476

“กบฏบวรเดช” การกบฏครง้ั แรก
ในหนา้ ประวตั ศิ าสตร์ไทย



กบฏบวรเดช(2476)

จดั ทำโดย

นางสาวภทั รวดี เฝือไชยศรี 6427209002044

นางสาวนันท์นภัส เรอื งจิตร 6427209002065

นางสาวเขมมกิ า ชูสงคราม 6427209002070

นายนจั ติรัตน์ จรดำ 6427209002130

กลุ่มสฎ.2402.1601 รปศ.

เสนอ

อาจารย์อยบั ซาดัดคาน

รายงานฉบับนเี้ ปน็ สว่ นหน่ึงของการเรยี นวชิ าการเมอื งการปกครองและหลกั รฐั ธรรมนญู

สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศ์ าสตรแ์ ละสังคมศาสตร์

มหาวิทยาลยั ราชภฏั สุราษฎรธ์ านี

ภาคเรยี นที่3 ปีการศึกษา2564



คำนำ

รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการเมืองการปกครองและหลักรัฐธรรมนูญ โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
ศึกษาความรู้ที่ได้จากเร่ืองกบฏบวรเดช ซึ่งรายงานนี้มีเน้ือหาเกี่ยวกับความรู้จากกบฏบวรเดช ตุลาคม 2476 ซึ่ง
ได้แก่ ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง , หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง , เหตุแห่งกบฏ , การเตรียมการของฝ้าย
รัฐบาล , แผนลอบสังหารที่วังปารุสก์ , เหตุการณ์กบฏ , 12 ตุลาคม "กรุงเทพตอบโต้" , 13 ตุลาคม "กบฏอ่อน
กำลงั " , 14 ตุลาคม "รัฐบาลรกุ ไล"่ , 15-24 ตลุ าคม "กบฏแตกพา่ ย" และพระบรมวงศ์เสด็จหนีไปชายแดน

ผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำรายงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจและ ต้องขอขอบคุณ
อาจารย์ อยับ ซาดัคคาน ผู้ให้ความรู้และแนวทางการศึกษา เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอด
ผู้จดั ทำหวังว่ารายงานฉบบั นจ้ี ะใหค้ วามรู้ และเปน็ ประโยชนแ์ ก่ผ้อู า่ นทุก ๆ ท่าน

คณะผจู้ ัดทำ
14 พฤศจกิ ายน 2565



สารบญั

คำนำ....................................................................................................................................... ค
สารบญั ................................................................................................................................... ง
สารบญั ภาพ ............................................................................................................................จ
กบฏบวรเดช ตลุ าคม 2476......................................................................................................1

ก่อนเปลย่ี นแปลงการปกครอง ...........................................................................................................................1
หลังเปลีย่ นแปลงการปกครอง............................................................................................................................1
เหตุแหง่ กบฏ .......................................................................................................................................................3
การเตรียมการของฝ่ายรัฐบาล ...........................................................................................................................4
แผนลอบสงั หารที่วังปารสุ ก์ ...............................................................................................................................5
เหตกุ ารณ์กบฏ ....................................................................................................................................................5

12 ตุลาคม "กรุงเทพตอบโต"้ ........................................................................................................................6
13 ตุลาคม "กบฏอ่อนกำลงั " .........................................................................................................................7
14 ตุลาคม "รฐั บาลรุกไล่" .............................................................................................................................8
15–24 ตุลาคม "กบฏแตกพา่ ย" ....................................................................................................................8
พระบรมวงศเ์ สด็จหนีไปชายแดน.....................................................................................................................10
ผลลพั ธ์..............................................................................................................................................................12

บรรณานกุ รม........................................................................................................................... ง



สำรบัญภำพ

ภาพท่ี 1 พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จ้าบวรเดช อดีตเสนาบดีกลาโหม ผู้นำการกบฏ .................................................3
ภาพท่ี 2 พันเอกพระยาศรีสิทธสิ งคราม รองแมท่ ัพกบฏ..........................................................................................4
ภาพท่ี 3 แผนที่แสดงกองกำลังทหารทั้งสองฝ่าย สีแดงคือกองกำลงั กบฏ................................................................6
ภาพท่ี 4 ทหารช่างอยธุ ยาตกเป็นเชลยถกู ควบคุมโดยทหารม้าฝา่ ยรัฐบาล ถือปืนตดิ ดาบปลายปืนอยู่แถวหลงั ...11
ภาพท่ี 5 อนสุ าวรยี ป์ ราบกบฏ................................................................................................................................12

1

กบฏบวรเดช ตุลาคม 2476

กบฏบวรเดช เป็นการกบฏด้วยกำลงั เพื่อล้มลา้ งรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนา การกบฏเรมิ่ ขึ้นเมื่อ 11
ตลุ าคม พ.ศ. 2476 นับเป็นการกบฏครงั้ แรกในประวตั ศิ าสตรไ์ ทยหลงั การการปฏิวตั ิสยาม สาเหตเุ กดิ มาจากความ
ผิดหวังตำแหน่งทางการเมืองของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช และมีความขัดแย้งระหว่างระบอบเก่ากับ
ระบอบใหมเ่ ขา้ มาสมทบ

กอ่ นเปลยี่ นแปลงการปกครอง
พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช เป็นเจ้านายผู้กล่าวโจมตีระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มา

ตั้งแต่สมยั รชั กาลท่ี 6 พระองคม์ ีความชงิ ชังต่อการปกครองของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์
เจ้าบวรเดชเคยวางแผนยึดอำนาจจากพระมงกุฎเกลา้ แล้วจะทูลเชิญเจา้ ฟ้าบริพัตรสขุ ุมพันธุ์ เจ้านายผูม้ ากบารมี
และมีความเด็ดขาดขึ้นเปน็ กษัตริย์แทน แต่พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเสดจ็ สวรรคตเสียก่อน เจ้าฟ้าบริพัตร
สขุ ุมพันธุ์ไม่รับตำแหน่งกษัตรยิ ์ เจา้ ฟา้ ประชาธปิ กจึงไดเ้ สวยราชย์

พระองค์เจ้าบวรเดชเป็นทหารมีความสามารถและมอี ุปนิสัยแข็งกรา้ ว และรู้กันดวี า่ ทรงเป็นผู้นิยมระบอบ
ทหาร จึงเป็นที่เกรงใจของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าซึง่ เคยเปน็ ทหารรุน่ นอ้ งอย่างมาก พระองคเ์ จ้าบวรเดชได้
เป็นเสนาบดีกลาโหมในรัชกาลใหม่ ถึงกระนั้นก็ยังมีความขัดแย้งกับระบอบการปกครอง พระองค์เจ้าบวรเดช
ตอ้ งการขึน้ เงนิ เดือนทหารแตแ่ พม้ ตใิ นท่ปี ระชมุ สภาเสนาบดี พระองค์จงึ ลาออกจากตำแหน่งเสนาบดีกลาโหม

เมื่อลาออกจากราชการแล้ว พระองค์เจ้าบวรเดชพยายามยุให้อดีตลูกน้องในบัญชาให้ยึดอำนาจการ
ปกครอง ทรงเรยี กพันเอกพระยาพหลพลหยุหเสนาและพันเอกพระยาศรสี ิทธิสงครามมาถามความเหน็ เรื่องระบอบ
การปกครอง ทั้งคู่ต่างลงความเห็นว่าระบอบปัจจุบันไม่เหมาะแก่ยุคสมัย ควรจะเปลี่ยนแปลงเป็นประชาธปิ ไตย
แต่ทง้ั คู่มีความเหน็ ไม่ลงรอยกันในเรือ่ งของวธิ ีการท่ีจะใชเ้ ปลยี่ นแปลงการปกครอง

หลังเปลยี่ นแปลงกำรปกครอง
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช อดีตเสนาบดีกลาโหม ผู้นำการกบฏเมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง

สำเร็จ พันเอกพระยาพหลฯเสนอชื่อพระองค์เจ้าบวรเดชในที่ประชุมคณะราษฎรเพื่อเป็นหัวหน้ารัฐบาลแต่หลวง
ประดิษฐ์มนูธรรมคดั ค้านดว้ ยเหน็ ว่าพระองค์เจ้าบวรเดชมีอปุ นิสัยเป็นเผด็จการและยงั เปน็ เจ้า ท่ีประชุมจึงปักตก
หลวงประดษิ ฐ์มนธู รรมเสนอชอื่ พระยามโนปกรณนิติธาดาเปน็ ประธานกรรมการราษฎร (เทยี บเทา่ นายกรัฐมนตรี)
ตัง้ แตน่ ้นั มาพระองคเ์ จ้าบวรเดชจงึ ผดิ ใจกบั พระยาพหล และเกลียดชังหลวงประดษิ ฐ์มนธู รรม

2

ทางด้านพระยาศรีสทิ ธสิ งครามกถ็ กู เชญิ ให้เข้ารว่ มรัฐบาลคณะราษฎร แต่พระยาศรีสิทธฯิ ปฏเิ สธเพราะไม่
พอใจที่คณะราษฎรใช้วิธีการรนุ แรงเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระยาทรงสุรเดชไม่พอใจที่พระยาศรีสิทธิฯทำตัว
เหินห่างกบั คณะราษฎร จึงสง่ั ย้ายพระยาศรีสทิ ธฯิ ไปอยู่กระทรวงธรรมการ นยั ว่าเปน็ การลงโทษทางอ้อมเมื่อพระ
ยามโนปกรณนิติธาดาได้เป็นประธานกรรมการราษฎร ก็เกิดความขัดแย้งกับส่วนใหญ่ของคณะราษฎร หลวง
ประดิษฐม์ นูธรรมเสนอแผนเค้าโครงเศรษฐกิจท่เี รยี กว่า "สมุดปกเหลือง" ซึ่งจะทำใหร้ าษฎรทกุ คนมงี านทำ ชาวนา
มีบำนาญเช่นเดียวกับข้าราชการ พระยามโนปกรณฯมองว่าคณะราษฎรคิดก้าวหน้าเกินไป และโจมตีหลวง
ประดิษฐม์ นูธรรมอย่างรนุ แรงว่าเปน็ คอมมวิ นิสต์ พระยามโนปกรณฯประกาศยุบสภา ออกพระราชบัญญัติว่าด้วย
คอมมิวนิสต์และใช้เล่นงานหลวงประดิษฐ์มนูธรรมจนต้องออกไปอยู่ต่างประเทศ คณะราษฎรสายหลวงประดษิ ฐ์
มนูธรรมจึงหมดอำนาจการเมอื ง ฝา่ ยเจ้าเร่มิ มอี ำนาจเพม่ิ ขึ้นและยุยงใหพ้ ระยามโนปกรณฯแยกตวั จากคณะราษฎร
มเี หตใุ หพ้ ระยาพหลฯโกรธพระยาทรงสุรเดชถึงขน้ั จะใชม้ ีดทำกับขา้ วไลฟ่ ัน พระยาทรงสุรเดชหลบออกมาหาพระ
ยาฤทธิ์อัคเนย์และพระประศาสน์พิทยายุทธบอกว่า "ไอ่พจน์มันกลัดมันเป็นบ้า อยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว" ทั้งสามยื่น
ใบลาออกจากตำแหนง่ ราชการทงั้ หมดเม่อื 10 มถิ นุ ายน 2476 อ้างวา่ สขุ ภาพไม่อำนวย สง่ ผลให้พระยาพหลฯต้อง
ลาออกจากผู้บัญชาการทหารบกด้วยเพื่อรักษามารยาท ตำแหน่งทหารที่เคยเป็นของสี่เสือคณะราษฎรจึงว่างลง
ท้งั หมด กล่มุ เจา้ เห็นเป็นโอกาสทีจ่ ะส่งคนของตนขนึ้ แทน ในวนั ที่ 18 มิถุนายน มีพระบรมราชานญุ าติใหส้ ีเ่ สือออก
จากตำแหนง่ โดยมีผลในวันที่ 24 มิถุนายน พลตรีพระยาพชิ ยั สงครามจะไดเ้ ป็นผู้บญั ชาการทหารพันเอกพระยาศรี
สิทธิสงครามจะได้เปน็ เจ้ากรมยุทธการทหารบก พนั โทหลวงพบิ ูลสงครามจะได้เปน็ ผู้ช่วยผู้บญั ชาการทหารบกพัน
เอกพระยาศรสี ิทธสิ งคราม รองแม่ทัพกบฏ

มรี ายงานลับมาถงึ หลวงพิบูลสงครามว่า พระยาศรสี ิทธสิ งครามเตรยี มโยกย้ายนายทหารสายคณะราษฎร
ออกจากตำแหนง่ คมุ กำลงั ทัง้ หมด ทำให้ในวนั ท่ี 20 มถิ นุ ายน พระยาพหลฯ หลวงพิบูลฯ และหลวงศุภชลาศัย ชิง
ก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลพระยามโนปกรณนิติธาดาโดยใช้การที่พระยามโนปกรณฯปิดสภามาเป็นข้ออ้างต่อ
สาธารณชน พันโทประยรู ถามว่าทำไมทำเชน่ นี้ หลวงพิบลู สงครามตอบพนั โทประยูรวา่ "ประยูร จำเป็นต้องทำ ไม่
มีทางเลี่ยง เพราะเจ้าคุณศรีสิทธิสงครามเล่นไม่ซือ่ หักหลัง เตรียมสั่งย้ายนายทหารผู้กุมกำลังทั้งกองทัพ พวกกอ่
การจะถูกตดั ตีนมอื และถกู ฆ่าตายในที่สุด" ประยูรระบุว่าหลงั จากน้ันพระยาศรีสทิ ธิฯ "หนา้ เหยี้ มเกรยี ม ตาแดงก่ำ
เป็นสายเลือด น่งั กดั กรามพูดว่าหลวงพิบูลสงครามเลน่ สกปรก

3

ภาพท่ี 1 พระวรวงศเ์ ธอ พระองค์เจา้ บวรเดช อดีตเสนาบดกี ลาโหม ผนู้ ำการกบฏ

เหตุแหง่ กบฏ
รฐั บาลคณะราษฎรไม่ได้ไวว้ างใจในตัวพระองค์เจ้าบวรเดชผมู้ ีอทิ ธิพลในสายทหารบกมากเท่าไหร่ รัฐบาล

ชอบส่งสายไปแยม้ พรายให้พระองคว์ างตวั อยู่เฉยๆ แลว้ จะทรงไดด้ ิบได้ดเี องในภายหลงั พระองค์เจ้าบวรเดชก็ทราบ
ดวี ่าตวั เองตกอยู่ในฐานะไมเ่ ปน็ ท่ไี วว้ างใจ ความไมพ่ อใจเหล่านท้ี ับถมอยู่ในใจของพระองคเ์ จ้าบวรเดชเร่ือยมาเมื่อ
พระยาพหลพลพยหุ เสนาได้เป็นนายกรฐั มนตรกี ็เชิญหลวงประดิษฐ์มนธู รรมกลับประเทศ เมอ่ื ตั้งกรรมการสอบสวน
ซึ่งประกอบด้วยชาวต่างชาติแล้วพบว่าหลวงประดิษฐ์มนูธรรมไม่มีความคิดเป็นคอมมิวนิสต์ หลวงประดิษฐ์มนู
ธรรมจึงได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลของพระยาพหลฯ พระองค์เจ้าบวรเดชและพวกเจ้ารับไม่ได้ที่หลวง
ประดิษฐ์มนูธรรมจะกลับมาเปน็ รฐั มนตรี มองว่าหลวงประดษิ ฐ์มนูธรรมจะดำเนินนโยบายที่สร้างความเดอื ดร้อน
ตอ่ เช้อื พระวงศ์และขุนนางเกา่ จงึ กล่าวโจมตีวา่ รัฐบาลเอาคอมมิวนสิ ตม์ าเปน็ รฐั มนตรีพนั โทหลวงพบิ ูลสงครามและ
นาวาตรหี ลวงศภุ ชลาศยั จงึ สง่ จดหมายมาปรามพระองค์ความวา่ :

บัดนี้ปรากฏข่าวตามทางสืบสวนวา่ ท่านได้มีการประชุมและคิดอยู่เสมอในอันท่ีจะให้เกิดความไมส่ งบแก่
บา้ นเมอื ง และทำให้รัฐบาลเปน็ กงั วล ซงึ่ เปน็ เหตุให้การบรหิ ารบ้านเมอื งไม่ก้าวหนา้ ไปเท่าท่ีควรจะเป็น ในฐานะท่ี
ข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงขอเตือนให้ท่านสงบจิตเสีย หากท่านยังขืน
จุ้นจ้านอีก คณะก็ตกลงจะกระทำการอย่างรุนแรง และจะถือเอาความสงบของบ้านเมืองเท่านั้นเป็นกฎหมายอนั

4

สูงสุดในการกระทำแกท่ ่าน ที่กล่าวมาน้ีไม่ใชก่ ารข่เู ข็ญ แตเ่ ปน็ การเตอื นมาเพ่อื ความหวงั ดเี มอ่ื พระองค์เจ้าบวรเดช
ทรงได้รบั จดหมายเช่นน้ี พระองคท์ รงตรัสกับนายทหารท่ีบ้านวา่ "ฉนั กต็ ั้งใจจะเป็นพลเมอื งทสี่ งบ แตเ่ ขาไม่ให้สงบ"
หนงั สือทำนองคล้ายกันน้ยี งั ถูกสง่ ถงึ บุคคลอืน่ ๆอีกหลายคน อาทิ กรมหมืน่ เทวะวงศว์ โรปการ, พระองค์เจ้าทศศิริ
วงศ์, หมอ่ มเจ้าไขแสงรพี รพพี ัฒน์, หม่อมเจ้าโสภณภราไดย สวัสดวิ ตั น์, พลตำรวจโทพระยาอธิกรณ์ประกาศ, พัน
โทประยูร ภมรมนตรี เป็นต้น เห็นไดช้ ัดว่าการก่อการกบฏของพระองค์เจา้ บวรเดชในครั้งนี้ เกิดจากความมุ่งหวงั
อำนาจทางการเมืองมากกว่าอย่างอื่น นับตั้งแต่สมัยที่ทรงลาออกจากเสนาบดกี ลาโหมก่อนการเปลี่ยนแปลงการ
ปกครองแล้ว เมื่อทรงพลาดพลั้งจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ทรงมุง่ หวงั การถูกกีดกันจากอำนาจทางการเมือง
เปน็ เหตุท่ีกระตุ้นใหพ้ ระองค์ก่อการยดึ อำนาจจากคณะราษฎร

ภาพท่ี 2 พนั เอกพระยาศรีสทิ ธิสงคราม รองแมท่ ัพกบฏ

การเตรียมการของฝ่ายรฐั บาล
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พันเอกพระยาทรงสุรเดช มันสมองด้านทหารของคณะราษฎร

มองเหน็ ความเปน็ ไปได้ท่ีจะเกิดการต่อตา้ นด้วยกำลังจากฝ่ายตรงข้ามขึน้ ในไม่ช้าก็เร็ว จึงได้ส่ังให้กองทัพหัวเมือง
ทง้ั หมดสง่ อาวุธส่วนใหญ่เข้ามาทีก่ รงุ เทพโดยอ้างว่าจะสง่ อาวุธท่ใี หมก่ ว่าไปให้ ทำให้ทหารหัวเมืองตกอยู่ในสภาพ
ขาดแคลนอาวุธ

5

ฝ่ายรัฐบาลกไ็ ด้รู้ลว่ งหนา้ ถึงการกบฏคร้งั นี้ถึง 2 วนั เมือ่ พนั เอกพระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรี
ไดไ้ ปตรวจเยยี่ มมณฑลทหารราชบรุ ี มีนกั บนิ ชอ่ื เรืออากาศโทขนุ ไสวมัณยากาศ บังคบั เครอื่ งบนิ ลงจอดทสี่ นามและ
ไดย้ น่ื จดหมายฉบบั หน่งึ ให้แก่ พลตรพี ระยาสรุ พนั ธเสนี สมหุ เทศาภบิ าลมณฑล แล้วแจง้ วา่ เปน็ สาสน์จากพระองค์
เจา้ บวรเดช พระยาพหลพลพยุหเสนาเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อหน้าก็เดาออกทนั ทีวา่ เปน็ สาสน์ที่ส่งมาเพื่อ
เชญิ ชวนให้กอ่ การกบฏ จึงรีบเดนิ ทางกลบั จงั หวัดพระนครในวันรงุ่ ขน้ึ เพื่อดำเนนิ การต่อตา้ นทนั ที11 ตลุ าคม "กบฏ
ยดึ ทุ่งดอนเมือง"

แผนลอบสังหารทีว่ ังปารุสก์
นอกจากการใช้กำลังทหารเข้าล้มลา้ งอำนาจของรฐั บาลแล้ว ฝ่ายกบฏยังวางแผนเข้าสังหารบุคคลสำคญั

ของคณะราษฎรซ่ึงพกั อยใู่ นวังปารุสกวนั อีกดว้ ย เพอื่ ให้รฐั บาลเกดิ ภาวะสุญญาก่อนที่คณะกู้บ้านเมืองจะยกทัพลง
มาถึงกรุงเทพ แผนสังหารผู้นำรฐั บาลในกรุงเทพถูกกล่าวถึงโดยนายพโยม โรจนวิภาต ซึ่งอ้างตนเปน็ สายลับฝ่าย
ราชสำนักในพระนคร ได้ทราบว่ามีผู้ก่อการอีกกลุ่มหนึ่งในพระนครที่มีเจตนาจะล้มล้างรัฐบาลมีแผนการ
นอกเหนือไปจากการยกกำลงั เข้ามาของทหารฝ่ายหัวเมือง โดยนายพนั ตรที หารมา้ คนหนึง่ ซึ่งมีบรรดาศกั ด์ิขนุ ได้
วา่ จ้างยอดมอื ปืนจากต่างจังหวดั เขา้ มาในกรงุ เทพเพื่อมากำจัดหลวงพบิ ูลสงคราม โดยวางแผนให้มือปืนลอบเข้าไป
เข้าดักรอบริเวณหนา้ ห้องนอนในวงั ปารุสก์ เมื่อเสียงสัญญาณของกองทัพหัวเมืองที่ยกมาถึงกรงุ เทพดังข้ึน พันโท
หลวงพิบูลสงครามจะพรวดพราดออกมาจากห้องนอนและถูกกำจัดทิ้ง ในการนี้ นายพันตรีได้ว่าจ้างมือปืนอีกชดุ
เพื่อดกั รอเกบ็ มอื ปืนชุดแรกเพื่อปิดปาก อย่างไรกต็ าม พวกเขารอจนเช้ากไ็ มม่ ีวี่แววของคณะกู้บ้านเมือง จึงยกเลิก
แผนการไป จนทราบภายหลังว่า คณะกู้บ้านเมืองเลื่อนแผนการออกไปหนึ่งวัน โดยจะเดินทางถึงกรุงเทพในวันท่ี
12 ตุลาคม

เหตุการณก์ บฏ
11 ตุลาคม พ.ศ. 2476 เพียงสิบวันหลังหลวงประดิษฐ์มนูธรรมเดินทางกลับประเทศสยาม พระองค์เจ้า

บวรเดชได้นำกำลังเข้าแจง้ ต่อข้าราชการหวั เมอื งว่า รัฐบาลคณะราษฎรจะเอาระบอบคอมมวิ นิสต์มาใช้และจะไม่มี
กษัตริยจ์ ึงต้องนำทหารเข้าไปปราบปราม อย่าได้ทำการขัดขวาง[6] พระองค์เจ้าบวรเดชเป็นผู้นำกองกำลังกบฏท่ี
ชื่อว่า คณะกู้บ้านเมือง ซึ่งประกอบด้วยทหารโคราช (กองพันทหารราบที่ 15, กองพันทหารราบที่ 16, กองพัน
ทหารม้าที่ 4, กองพนั ทหารปนื ใหญ่ที่ 3 และ กองพนั ทหารปืนใหญ่ที่ 4) ทหารเพชรบุรี (กองพนั ทหารราบที่ 14),
ทหารอบุ ลราชธานี (กองพันทหารราบที่ 18)

6

พันเอกพระยาศรีสิทธิสงครามนำกำลัง 2 กองพันทหารช่างจากสระบุรีเป็นทพั หน้าลงมายึดทุ่งดอนเมือง
โดยมีกองทหารม้าของร้อยเอกหลวงโหมรอนราญตามลงมาสมทบ และเข้ายึดกรมอากาศยานที่ดอนเมืองเป็น
กองบัญชาการ พระยาศรสี ิทธสิ งครามสง่ กองหน้ามายดึ สถานีรถไฟหลกั ส่ี และส่งนาวาเอกพระยาแสงสิทธิการถือ
หนงั สอื ถึงพระยาพหลฯความว่า "คณะรฐั มนตรปี ลอ่ ยให้คนดูหมิ่นพระบรมเดชานภุ าพ และเอาหลวงประดิษฐ์มนู
ธรรมกลับมาเพ่ือดำเนนิ การปกครองแบบคอมมิวนสิ ต์ จึงขอให้คณะรฐั บาลถวายบังคมลาออกภายในหนึ่งชวั่ โมง มิ
เชน่ นนั้ จะใชก้ ำลังบงั คบั และจะเขา้ ยึดการปกครองชัว่ คราว"

คณะรัฐบาลประชุมกันที่วังปารุสก์แล้วก็ลงความเห็นว่าเหตุผลของฝ่ายกบฏฟังไม่ขึ้น และสมควร
ปราบปราม เวลาค่ำ นายกรัฐมนตรีออกประกาศไปยงั ทั่วประเทศวา่ พระองค์เจ้าบวรเดช พระยาศรีสิทธิสงคราม
พระยาเทพสงคราม เป็นกบฏต่อแผ่นดิน พยายามล้มล้างระบอบประชาธิปไตยขอเลิกรัฐธรรมนูญ และสถาปนา
ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ดังเดิม "ในพระนครเหตุการณ์เรียบร้อย อย่าฟังคำสั่งผู้ใดทั้งสิ้นนอกจากข้าพเจ้า
พระยาพหลพลพยหุ เสนาฯ

ภาพท่ี 3 แผนท่แี สดงกองกำลงั ทหารทัง้ สองฝา่ ย สีแดงคือกองกำลงั กบฏ
12 ตุลาคม "กรุงเทพตอบโต"้

เมื่อรัฐบาลทราบว่าทุ่งดอนเมืองโดนทหารกบฏยึดเป็นที่แน่ชัดแล้ว จึงประกาศกฎอัยการศึกในวันที่ 12
ตุลาคม พ.ศ. 2476 ในพื้นที่จังหวัดใหญ่ทหารบกพระนครในวันเดียวกัน รัฐบาลประกาศแก้กฎอัยการศึกขยาย
พื้นที่บังคับใช้เป็นทั่วมณฑลพระนครกับมณฑลอยธุ ยาพันเอกพระยาทรงสุรเดชปฏิเสธที่จะเป็นผู้บังคับกองผสม
พนั โทหลวงพิบลู สงครามจงึ รับอาสาเป็นผบู้ ังคับกองผสมปราบกบฏแทน

ในวันเดยี วกนั เมือ่ ชาวพระนครทราบขา่ ววา่ การกบฏจากทหารหวั เมอื ง พลเมืองท่ีเชอ่ื ม่ันในระบอบใหม่ได้
ออกมาชุมนมุ กันชว่ ยเหลืองานฝา่ ยรฐั บาลเป็นจำนวนมาก ทหารกองหนุนจำนวนมากเขา้ มารายงานตัวกบั รัฐบาล
ทง้ั ท่ยี ังไมม่ ีหมายเรียกระดมพลทหารกองหนนุ แต่ประการใด

7

พันโทหลวงพิบูลสงครามนำกองผสมซึ่งประกอบด้วย 3 กองพันทหารราบ และ 1 กองพันทหารปืนใหญ่
เคลอ่ื นขบวนทัพจากลานพระบรมรูปทรงม้าไปยงั ลานสินค้าของบริษัทปูนซีเมนต์สยามท่ีสถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งอยู่
ห่างจากสถานีรถไฟบางเขนไปประมาณ 5 กิโลเมตรเศษ จากนั้นจึงเอาปืนใหญ่ภูเขาแบบ 63 ขนาดลำกล้อง 75
มม. ระยะยิงไกล 6 กโิ ลเมตร มาตัง้ เรียงแถวหน้ากระดานอยบู่ นถนนประดิพัทธิ์ ก่อนจะเรมิ่ ระดมยิงใส่ทหารกบฏ
ในเวลาราว 14 นาฬกิ า ยิงได้ 40 นัดพบวา่ กระสุนลงทุ่งนำ้ หมดจงึ หยดุ ยงิ กองทหารกบฏของหลวงโหมรอนราญจงึ
เดินลุยนำ้ เคลอ่ื นลงมายดึ สถานีรถไฟบางเขนไวไ้ ด้

13 ตุลาคม "กบฏอ่อนกำลัง"
ฝ่ายรฐั บาลส่งพนั ตรีหลวงเสรเี ริงฤทธ์เิ ป็นตวั แทนมาเจรจาใหฝ้ ่ายกบฏเลิกราไปเสยี และจะขอพระราชทาน

อภัยโทษให้ แต่ทางฝ่ายกบฏกลับจับกมุ หลวงเสรีเรงิ ฤทธไ์ิ ปขงั ไว้ทอี่ ยุธยา ในเวลา 12 นาฬกิ าฝ่ายกบฏสง่
นาวาอากาศเอกพระยาเวหาสยานศิลปสิทธ์ิ, นาวาอากาศโทพระยาเทเวศวรอำนวยฤทธ์ิ และเรือเอกเสนาะ
รกั ธรรม เปน็ คนกลางถอื หนังสอื ของพระองค์เจา้ บวรเดชมาเจรจากบั รฐั บาล โดยยนื เงื่อนไขทง้ั หมด 6 ขอ้

1.ต้องจัดการในทุกทางที่จะอำนวยผลให้ประเทศสยามมีพระมหากษัตริย์ปกครองประเทศภา ยใต้
รฐั ธรรมนญู ชัว่ กัลปาวสาน

2.ตอ้ งดำเนินการตามรัฐธรรมนูญโดยแท้จริง โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ คือ การต้ังและถอดถอนคณะรัฐบาลต้อง
เปน็ ไปตามเสียงของหมู่มาก

3.ข้าราชการซึ่งอยู่ในตำแหน่งประจำการทัง้ หลายและพลเรือนต้องอยู่นอกการเมือง ตำแหน่งฝ่ายทหาร
ตัง้ แต่ผบู้ ัญชาการทหารบก ผบู้ ญั ชาการทหารเรอื ลงไปตอ้ งไม่มหี น้าทท่ี างการเมอื ง

4.การแต่งตั้งบุคคลในตำแหน่งราชการ จักต้องถือคุณวุฒิและความสามารถเป็นหลัก ไม่ถือเอาความ
เก่ียวข้องในทางการเมืองเป็นความชอบหรอื เปน็ ข้อรงั เกียจในการบรรจเุ ลอ่ื นตำแหน่ง

5.การเลือกตงั้ ผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ตอ้ งถวายให้พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเลือก

6.การปกครองกองทัพบกจักต้องให้มหี น่วยผสมตามหลกั ยทุ ธวิธี เฉลี่ยอาวุธสำคัญแยกกันไปประจำตาม
ท้องถ่ิน มใิ ห้รวมกำลงั ไว้เฉพาะแหง่ ใดแหง่ หนึง่

8

ฝ่ายรัฐบาลยืนกรานไม่ยินยอมตามคำขาดดังกล่าว ทำให้การสู้รบดำเนินต่อไป ขณะเดียวกัน ที่แนวหนา้
ของทหารกบฏที่บางเขนเริ่มเกิดความขัดสน ทหารของร้อยเอกหลวงโหมรอนราญไม่ได้รับเสบียงและกระสุนมา
หน่ึงวันเต็ม ขณะน้ันเป็นฤดูน้ำหลาก เน่อื งจากสองข้างทางรถไฟถูกน้ำท่วมหมดทำใหก้ ารขนสง่ กำลังบำรุงมาแนว
หนา้ ของฝ่ายกบฏต้องอาศยั เรือพายเท่านัน้ หลวงโหมรอนราญจงึ เดนิ เท้าตามทางรถไฟย้อนขนึ้ ไปยงั กองบัญชาการ
ทด่ี อนเมอื งเพื่อขอเสบียง เม่ือเข้าไปในกองบญั ชาการกพ็ บนายทหารชนั้ ผ้ใู หญต่ ั้งวงด่มื สุราและเลน่ บลิ เลยี ดอยู่

14 ตลุ าคม "รัฐบาลรกุ ไล"่
14 ตลุ าคม ทหารฝา่ ยรฐั บาลได้เคลือ่ นกำลังรกุ คบื เข้ามาปะทะทหารฝ่ายกบฏท่ียึดสถานีรถไฟบางเขน โดยใชห้ วั รถ
จกั รหุ้มเกราะดันหลงั รถข.ต.บรรทกุ รถถังเคลื่อนที่เข้าหาพรอ้ มกันทง้ั 2 ราง นอกจากนีแ้ ล้วยงั มเี หล่าทหารราบอยู่
ในรถพว่ งคนั หลงั อกี จำนวนหน่งึ ผลจากการปะทะในชว่ งเช้าสง่ ผลใหฝ้ ่ายรัฐบาลสูญเสยี พันตรหี ลวงอำนวยสงคราม
ผู้บังคับกองพันที่มีความสำคัญมากไป หลวงพิบูลสงครามจึงรีบแก้สถานการณ์ทีก่ ำลังจะเพลี่ยงพล้ำทันที โดยสั่ง
การให้ไปนำรถสายพานติดตั้งปืนใหญ่ต่อสู้อากาศ QF 2-pounder จากประเทศอังกฤษ ที่เพิ่งผ่านการตรวจรับ
มาแลว้ จำนวน 2 คนั มาเขา้ สูส่ นามรบจรงิ ทนั ที

อำนาจการยิงของปนื กลต่อต้านอากาศยานขนาด 40 มม. อัตรายิง 115 นัดต่อนาที เป็นเรื่องที่น่าตกใจ
มาก กระสุนปืนทำให้รังปืนกลของฝ่ายกบฏเกิดรูขนาดใหญ่ รวมทั้งปืนก็ยิงได้เร็วและรุนแรงต่อเนื่อง ทหารกบฏ
ทั้งหมดไม่เคยเจออาวธุ ทนั สมยั แบบนมี้ าก่อน จงึ พากันหนีตายทงิ้ ท่มี ั่นว่งิ หนีเอาตวั รอดกลับไปยังหลักส่ี ทหารราบ
จากฝ่ายรฐั บาลจึงสามารถเข้ายดื พนื้ ท่ีทุ่งบางเขนไว้ได้โดยละมอ่ ม

ขบวนรถไฟฝ่ายกบฏของพันตรหี ลวงพลเดชวิสัย กองพันทหารราบที่ 17 อบุ ลราชธานี เดินทางมาถึงดอน
เมอื งในชว่ งค่ำ ไดข้ า่ ววา่ สถานการณ์ฝา่ ยกบฎกำลังเพลยี่ งพล้ำจงึ ไม่ยอมจอดขบวนรถไฟทสี่ ถานดี อนเมือง ให้ขบวน
รถไฟขบั เลยสถานีดอนเมืองไปประมาณสามกโิ ลเมตรแล้วใส่เกียร์ถอยหลงั กลับไปที่เมืองโคราช ระหว่างทางไดแ้ วะ
รื้อทางรถไฟแถวปากช่องออกเพ่ือทำคุณไถ่โทษ

15–24 ตลุ าคม "กบฏแตกพ่าย"
15 ตุลาคม ฝา่ ยรัฐบาลไดห้ นุนกำลงั พรอ้ มอาวุธหนักนำขึน้ รถไฟ มที ง้ั รถเกราะและปนื กล รกุ ไล่ฝา่ ยปฏิวัติ

จนเกือบประชดิ แนวหนา้ ฝ่ายกบฏท่สี ถานีหลกั ส่ี นอกจากนี้ ฝา่ ยกบฏขาดกำลังเสรมิ มาสมทบ เพราะทหารเพชรบุรี
ที่ร่วมก่อการถูกหน่วยทหารราชบุรีตรงึ กำลังไว้ ทหารจากนครสวรรค์และพิษณุโลกก็ถูกขัดขวางจากหน่วยทหาร
ลพบรุ แี ละหนว่ ยทหารปราจีนบุรี พระองค์เจา้ บวรเดชเห็นว่าสู้ฝ่ายรัฐบาลไมไ่ ด้แลว้ จึงส่ังให้ถอนกำลังกลับไปต้ังรับ
โคราช และมอบหมายพนั เอกพระยาศรีสิทธิสงครามเปน็ ผู้บัญชาการรบหนว่ ยระวังหลงั ค่อยๆถอยร่อนจากหลักส่ี
มาดอนเมอื ง

9

16 ตุลาคม เวลาตสี าม ทหารกบฏเริ่มถอนกำลังออกจากดอนเมอื ง สว่ นหนา้ ทัพกบฏเดนิ ทางถึงสถานีปาก
ช่อง(กม.180)ในเวลาบ่ายโมง ก็ไปต่อไม่ได้เนื่องจากทางรถไฟขาดต้องใช้เวลาซ่อมแซม กองพันทหารราบที่ 4
ฝา่ ยรัฐบาลเข้าควบคมุ พน้ื ท่ีดอนเมอื งในเวลาบา่ ยสอง นาวาตรหี ลวงศภุ ชลาศยั คมุ เรือสุรยิ มณฑลไปยดึ เมืองอยุธยา
ไว้ไดส้ ว่ นทหารกบฎทางเพชรบุรีกถ็ อยรน่ กลับเขา้ เมอื งเพชรบุรียดึ เปน็ ทีม่ ัน่ เอาไว้

17 ตุลาคม เวลาเช้ามืด กบฎคนสำคัญในโคราชตัวปล่อยตัวพันตำรวจเอกพระขจัดทารุณกรรม ผู้บังคับ
การตำรวจโคราชและพวกจากทีค่ ุมขัง บอกให้รีบหนีไปก่อนที่ทัพกบฏจะมาถึงเมือง ผู้บังคับการตำรวจโคราชใช้
โอกาสนีน้ ำกำลังเข้ายึดเมืองจากพวกกบฏทนั ทอี ย่างงา่ ยดาย[6] ต่อมาเวลาสิบนาฬกิ า ชาวโคราชต่างตื่นตกใจเม่ือ
มีขบวนรถไฟบรรทุกทหารของพันตรีหลวงพลเดชวิสัยเคลื่อนเข้ามา พันตรีหลวงพลเดชวิสัยมอบตัวต่อพระขจัด
ทารณุ กรรม อา้ งวา่ ถูกหลอกใหร้ ่วมกอ่ การกบฏ ขณะนีพ้ วกกบฏกำลังถอยร่นมายงั โคราช เม่ือผู้การตำรวจโคราชได้
หารือกับหลวงพลเดชวิสัยแล้ว เห็นว่ากำลังทีม่ ีอยู่คงจะต้านทานทัพกบฏไม่ไหว ควรถอนกำลังออกจากโคราชไป
รวมกับกำลังใหญฝ่ ่ายรัฐบาลที่เมืองอุบล ส่วนทางด้านกรุงเทพ รัฐบาลส่งกองพันทหารราบที่ 6 ขึ้นมาสมทบกอง
พนั ทหารราบท่ี 4 ทด่ี อนเมือง และเริม่ ปฏิบตั กิ ารกวาดลา้ งทัพกบฏต่อไป ขณะเดยี วกนั หน่วยข่าวกรองของจังหวัด
ขอนแกน่ ได้รับทราบข่าวจากแถลงการณร์ ัฐบาลว่าฝา่ ยกบฏแตกพา่ ยไปทางโคราช ผู้ว่าราชการจงั หวัดขอนแก่นจึง
ทำลายทางรถไฟเพื่อขดั ขวางการลำเลยี งทหารมาสขู่ อนแกน่

18 ตุลาคม ทหารรฐั บาลเข้ายึดสถานีชุมทางภาช(ี กม.90)ในเวลาบ่ายส่ีโมง พระองค์เจ้าบวรเดชถอยไปอยู่
สระบุรี กองกำลังรักษาเมืองโคราชของพระขจัดทารุณกรรมและหลวงพลเดชวิสัยต้านทานกบฏไม่ไหวจริงตามคาด
จึงถอนกำลังออกไปยังเมืองอุบล พระองค์เจ้าบวรเดชแค้นที่พันตรีหลวงพลเดชวิสัยทรยศ จึงให้พลตรีพระเสนา
สงครามคมุ กำลัง 400 นายไปยึดเมอื งบรุ ีรัมย์เพ่อื ใชต้ เี มอื งอบุ ลต่อไป

19 ตุลาคม ทหารรัฐบาลเข้ายึดสระบุรีไว้ได้ แนวหลังของทหารกบฏถอยไปรวมกันสถานีแก่งคอย
(กม.125) ขบวนรถไฟของพระองคเ์ จ้าบวรเดชเดนิ ทางถึงเมอื งโคราช พระยาศรสี ทิ ธิสงครามสัง่ การหน่วยระวงั หลัง
เร่งถอดรางรถไฟบรเิ วณหลักกิโลเมตรที่ 141-144 ซึ่งเป็นช่วงทางโคง้ และแคบใกล้กบั สถานีหินลับ ให้ทหารตั้งรัง
ปนื กลบนหนา้ ผาเปน็ ระยะ

20 ตุลาคม ทหารรัฐบาลเข้ายึดสถานีแก่งคอย(กม.125) ทหารรัฐบาลจากจังหวัดอุดรธานีเจ็ดสิบนาย
เดินทางมาถึงขอนแก่นและเคลอื่ นกำลงั พลไปรกั ษาสะพานรถไฟขา้ มแม่น้ำชี เพ่ือไมใ่ หท้ หารกบฏเดนิ เท้าข้ามมายัง
เมอื งขอนแก่นได้

10

21 ตุลาคม ทหารรัฐบาลรุกคืบได้ทีละเล็กน้อย แนวหลังของทหารกบฏถอยไปรวมกันที่ปากช่อง
(กม.180) ทางพระองค์เจ้าบวรเดชเม่ือทราบวา่ ทหารขอนแก่นกับอดุ รธานีเข้ากับฝ่ายรฐั บาล จึงส่งร้อยเอกหลวง
โหมรอนราญนำกำลังไปยดึ เมอื งขอนแก่น

22 ตลุ าคม รอ้ ยเอกหลวงโหมรอนราญถูกเรียกตวั กลับมานครราชสีมาเพราะมขี า่ วว่ากองกำลงั ของรัฐบาล
รกุ คบื เข้ามาแล้ว หลวงโหมรอนราญเสนอให้ทหารยดึ อำนาจจากข้าราชการฝา่ ยพลเรอื นในโคราช แตพ่ ระองค์เจ้า
บวรเดชดำริว่า "เวลานี้ใครๆ ก็แลเห็นว่าเราแพ้แล้วทัง้ นนั้ จะยึดอำนาจการปกครองบา้ นเมอื งเราก็ไม่มีนายทหาร
มากพอจะให้ไปควบคุม โทษผดิ เท่าน้ีกพ็ อแลว้ อยา่ ใหม้ ากกวา่ น้ีเลย พระองคเ์ จา้ บวรเดชเรมิ่ วางแผนเสด็จลี้ภัยไป
ยังอินโดจีนของฝรั่งเศส นายทหารชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายกบฏก็วางแผนเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศตามความถนัด
พระยาศรีสิทธิสงครามไม่ทราบความจริงจึงปักหลักที่ผาเสด็จต่อไป ในค่ำวันนั้น กองส่วนหน้าฝ่ายรัฐบาลเริ่ม
เคลือ่ นพลถงึ หลกั กโิ ลเมตรท่ี 140

23 ตุลาคม เกิดการสู้รบบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 141-144 ตลอดทั้งวัน เมื่อตกค่ำ หน่วยของว่าทีร่ อ้ ยตรี
ตุ๊ จารเุ สถยี ร สามารถสังหารพันเอกพระยาศรสี ิทธิสงคราม

24 ตลุ าคม พนั โทหลวงพิบลู สงครามเดนิ ทางถงึ แก่งคอยในชว่ งสายเพอื่ รับฟงั รายงาน

25 ตุลาคม พระองค์เจ้าบวรเดชและพระชายาทรงขึ้นเครื่องบินจากนครราชสีมาหนีไปยังเมืองไซ่ง่อน
ทหารรฐั บาลเข้ายึดเมืองนครราชสมี าไวไ้ ด้

พระบรมวงศเ์ สด็จหนไี ปชายแดน
ทหารชา่ งอยธุ ยาตกเปน็ เชลยถกู ควบคุมโดยทหารมา้ ฝา่ ยรัฐบาล (สวมหมวกกะโล่) ถอื ปืนติดดาบปลายปืน

อย่แู ถวหลงั

16 ตุลาคม เครื่องบินฝ่ายกบฏบินมาทิ้งใบปลิวที่วังไกลกังวลเพื่อทูลว่าการยึดอำนาจล้มเหลว ในค่ำวัน
ต่อมา เมื่อพระบาทสมเด็จประปกเกล้าฯทราบว่าทหารเพชรบุรียอมจำนนต่อรัฐบาลแล้ว และรัฐมนตรีกระทรวง
ยุติธรรมกำลงั เดินทางลงมาเข้าเฝา้ ก็ทรงตื่นตระหนกรีบเสด็จลงเรือพระที่นั่งศรวรุณ ซึ่งเป็นเรือยนต์ลำเลก็ อย่าง
กะทันหันพร้อมกบั สมเดจ็ พระนางเจา้ รำไพพรรณี, สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวัสดวิ ดั นวศิ ิษฎ์, พระเจ้าว
รวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี, พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช, หม่อมเจ้าประสบศรี จิรประวัติ,
หม่อมเจ้ากมลีสาณ ชุมพล, หม่อมเจา้ ครรชิตพล อาภากร, หม่อมเจา้ นนทยิ าวดั สวสั ดวิ ัตน์, หม่อมเจ้าเศรษฐพันธ์
จักรพนั ธุ์ พร้อมทหารรักษาวังอีก 6-7 นาย มุ่งหน้าจงั หวัดสงขลา

11

เนอ่ื งจากเรือไม่พอน่ัง หม่อมเจา้ ศุภสวัสด์วิ งศ์สนิทและเจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่ ตอ้ งนำทหารรักษาวัง
บางส่วนขึ้นไปยึดขบวนรถไฟจากสถานีวังก์พงในช่วงบ่าย เจ้ากาวิละวงศ์เป็นพนักงานขับรถ ขบวนรถไฟพิเศษนี้
ออกจากหัวหนิ เวลาตีหนงึ่ ของวนั ที่ 18 ตุลาคม มีผู้โดยสารประกอบด้วย: กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ, หม่อมเจ้า
จงจติ รถนอม ดิศกลุ , หม่อมเจา้ พนู พศิ มัย ดิศกลุ , หมอ่ มเจ้าพิไลยเลขา ดศิ กลุ , กรมพระยานรศิ รานุวัดติวงศ์พร้อม
พระธิดา, กรมหมื่นอนุวัตจาตุรนต์, หม่อมเจ้าศุภสวสั ดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน์, พลโทพระยาวิชิตวุฒไิ กร, พระยาอศิ
ราธริ าชเสวี และทหารรักษาวังสองกองร้อย

เมื่อนายเล้ง ศรีสมวงศ์ ผู้จัดการพาณิชย์ ฝ่ายการเดนิ รถ กรมรถไฟหลวง ทราบข่าว จึงรีบสง่ โทรเลขแจ้ง
สถานีรายทางล่วงหนา้ ว่า ทหารหลวงลักขบวนรถจกั รออกจากวังกพ์ ง ให้ทำการสกัดก้ัน พนักงานกรมรถไฟจึงไป
ถอดรางรถไฟช่วงก่อนถึงสถานปี ระจวบคีรีขันธ์ ขบวนรถไฟพเิ ศษไปต่อไมไ่ ด้ตอ้ งหยุดระหวา่ งทาง ทหารหลวงต้อง
ชว่ ยกันถอดรางทว่ี ง่ิ ทผี่ ่านมาแล้วมาตอ่ เพอ่ื ให้รถไฟเดินต่อไปได้ เม่ือขบวนรถไฟมาถงึ สถานีประจวบครี ีขนั ธ์ก็ถูกกัก
รถไม่ให้เดินทางต่อจนเกือบจะยิงกัน สมุหราชองครักษ์จึงโทรเลขไปยังรัฐมนตรีมหาดไทย พระยาอุดมพงศ์เพ็ญ
สวสั ดิร์ ีบนำความเขา้ แจง้ นายกรฐั มนตรี พระยาพหลพลหยหุ เสนาสง่ั การอนญุ าตให้รถไฟเดินได้ตลอดสายทาง

ทางด้านเรือพระทีน่ ั่งศรวรุณน้ำมันหมดที่ชุมพร ต้องขึ้นฝ่ังรอจนกระทั่งถึงเช้าวันที่ 19 ตุลาคม จึงได้พบ
กบั ไดพ้ บกบั เรือวลยั ของบรษิ ทั อิสต์เอเชยี ติก กัปตนั เรือวลยั ชาวเดนมาร์กเชญิ คณะของในหลวงขนึ้ เรอื วลยั และพ่วง
เรือพระที่นั่งศรวรุณไปยังสงขลา ตกเย็นวันเดียวกันนั้น ขบวนรถไฟก็ไปถึงสงขลา พระบรมวงศ์ส่วนหน้ารีบไป
จดั แจงสถานท่ีในพระตำหนักเขาน้อยเตรียมรับในหลวง เรือวลยั เดินทางมาถงึ อา่ วสงขลาในเช้าวนั ถัดมา

ภาพท่ี 4 ทหารชา่ งอยธุ ยาตกเป็นเชลยถกู ควบคมุ โดยทหารม้าฝ่ายรัฐบาล ถือปนื ตดิ ดาบปลายปนื อยแู่ ถวหลัง

12

ผลลพั ธ์
อนสุ าวรีย์ปราบกบฏ

25 ตุลาคม พระบาทสมเด็จประปกเกล้าฯมีพระราชกระแสจากพระตำหนักเขาน้อย จังหวัดสงขลา
แนะนำให้รัฐบาลประกาศอภัยโทษใหแ้ ก่ผูร้ ว่ มก่อการจลาจลตลอดจนนายทหารและบคุ คลที่ไม่ใช่หัวหนา้ หรือคน
สำคัญในการกระทำครั้งนี้เสียโดยเร็ว แต่ถูกแต่รัฐบาลปฏิเสธโดยอ้างหลักการที่ว่าจำต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เสียก่อน

29 ตุลาคม รัฐบาลจัดตั้งศาลพเิ ศษขึ้นพิจารณาพพิ ากษาคดีเกี่ยวกับการกบฏและจลาจล คำพิพากษาถอื
เป็นเด็ดขาดไมม่ ีอุทธรณ์ฎีกา มีผู้ถูกจับกุมกวา่ หกร้อยคน มีการส่งฟ้อง 318 คน ใช้เวลาพิจารณาความนานนบั ปี
พบว่ามคี วามผดิ ตอ้ งโทษ 296 คน ในจำนวนนต้ี ้องโทษประหารชีวิต 6 คน จำคกุ ตลอดชีวิต 244 คนอย่างไรก็ตาม
พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ ทรงปฏิเสธการลงพระนามใหป้ ระหารชวี ิตตามคำพพิ ากษา จึงนำตัวไปประหารไม่ได้

ภาพท่ี 5 อนุสาวรยี ป์ ราบกบฏ

13

รัฐบาลได้จัดให้มีรัฐพิธีให้แก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 17 คนคราวปราบกบฏบวรเดช ในการนี้ได้ทำหนังสือขอ
พระราชานุญาตใิ ชพ้ นื้ ท่ีสนามหลวงในการประกอบพธิ ี พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯปฏิเสธทนั ที ทรงรับส่ังให้ไป
ใช้สถานที่อืน่ แต่รัฐบาลยังคงยืนกรานที่จะใช้พื้นท่ีสนามหลวง ทำให้พระองค์ยนิ ยอมตามนั้น รัฐบาลจัดสร้างเมรุ
ชั่วคราวสนามหลวง ซึ่งเดิมพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่ทรงยินยอมให้ใช้พื้นที่ทุ่งพระเมรุนี้ แต่ทาง
คณะราษฎรยนื กรานที่จะสรา้ งเมรชุ ่ัวคราวบนทุ่งพระเมรุ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าจงึ ต้องทรงยนิ ยอม แต่ระบุ
ถ้อยคำด้วยท่วงทำนองว่า "ทรงไมข่ ัดข้อง แต่ขอให้เป็นทีเ่ ข้าใจว่า พระราชดำริในเรื่องนี้เป็นไปอกี อย่างหนึง่ นี่ถือ
เป็นคร้ังแรกในประวตั ิศาสตรท์ ี่มกี ารจัดพิธีศพสามัญชนบนท้องสนามหลวง ซ่งึ ก่อนหน้านน้ั จะใช้เปน็ ทป่ี ระกอบพิธี
สำหรับเชอ้ื พระวงศ์เทา่ น้นั

สามปีให้หลังในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2479 ได้มีพิธีเปิดอนุสาวรีย์ปราบกบฏหรือ “อนุสาวรีย์พิทักษ์
รฐั ธรรมนูญ” ท่ีบรเิ วณหลักส่ี บางเขน ซง่ึ เปน็ หน่ึงในพนื้ ท่สี รู้ บ เพอื่ เป็นอนสุ รณ์ระลกึ ถึงเหตุการณ์ปราบกบฏบวร
เดชเพอื่ พทิ ักษ์รัฐธรรมนูญ แต่ปจั จุบันนยิ มเรียกชอ่ื เพยี งตามแหลง่ ทตี่ ัง้ วา่ “อนุสาวรียห์ ลกั ส”่ี

ภายหลังการสละราชสมบตั ิและเข้าสู่รัชกาลใหม่ รัฐบาลได้ทูลขอพระราชทานอภัยโทษจากประหารชวี ติ
เปน็ จำคกุ ตลอดชีวิต และจากจำคุกตลอดชีวิตเปน็ ถกู เนรเทศไปเกาะตารุเตาในปีพ.ศ. 2482ตอ่ มาได้มกี ารปล่อยตัว
บรรดาผู้ได้รับโทษกรณีกบฏบวรเดชทั้งหมดออกจากเรือนจำพ.ศ. 2487 ซึ่งเป็นผลจากการนิรโทษกรรมโดย
คณะรฐั มนตรชี ุดพนั ตรคี วง อภัยวงศ์



บรรณานกุ รม
ชาญวทิ ย์ เกษตรศริ ิ. ประวัตศิ าสตรก์ ารเมอื งไทย 2475-2500, (กรุงเทพฯ: มลู นธิ ิโครงการตำราหลวง
มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, 2544), น. 152-164 สืบคน้ 14 พฤศจิกายน 2565/ จาก
https://th.wikipedia.org/wiki


Click to View FlipBook Version