เอกสารประกอบการเรียน
วชิ า นาฏศลิ ป์
เร่อื ง สร้างสรรค์การผลงานการแสดง
การประเมินการแสดงในโรงเรียน
และการประเมนิ คณุ ภาพการแสดง
โดย นางสาวพมิ พว์ ดี จันทรโกศล
ครชู ำนาญการพเิ ศษ
โรงเรยี นเบจญมราชรังสฤษฎ์ิ
สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๖
คำนำ
เอกสารประกอบการเรียน เร่อื ง การสร้างสรรค์ผลงานการแสดงนาฏศลิ ป์ การจดั การ
แสดงในโรงเรยี น การประเมินคุณภาพการแสดง ได้จัดทำข้นึ เพอื่ แก้ไขปญั หา เก่ียวกับการเรียน
การสอนวชิ า นาฏศิลป์ และสามารถใชค้ วบคปู่ ระกอบกิจกรรมการเรยี นการสอนได้ในขณะเวลา
เดียวกัน ช่วยให้นกั เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว โดยไดร้ วบรวมและสรปุ เน้ือหาสาระ
จากหนงั สือและแหลง่ ขอ้ มูลต่างๆ พรอ้ มรปู ภาพมาจัดทำเปน็ รูปเล่มท่สี มบรู ณ์
ซ่งึ นักเรียนสามารถนำไปศึกษาเพ่ิมเตมิ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรยี นได้ในโอกาสตอ่ ไป
พิมพ์วดี จนั ทรโกศล
การสร้างสรรค์ผลงานนาฏศิลป์
การแสดงนาฏศลิ ป์สามารถนำลีลาทา่ ทางตา่ งๆ ทีเ่ ปน็ ทา่ รำทส่ี ือ่ ความหมายตามหลัก
นาฏศิลป์ ท่าทางในชีวติ ประจำวนั มาสรา้ งสรรคอ์ อกมาเปน็ ชดุ การแสดงที่สวยงามต่างๆ หรอื ท่ารำ
ท่เี ลียนแบบทา่ ทางของสตั ว์ต่างๆ แล้วนำมาประดิษฐเ์ ปน็ ชดุ การแสดง ซึ่งการสรา้ งสรรค์ทา่ รำใน
การแสดงนาฏศลิ ป์ไทยนน้ั สามารถนำมาใช้ในเทศกาลหรอื วันสำคญั ตา่ งๆ เช่น วนั แม่แห่งชาติ วนั
พอ่ แหง่ ชาติ วนั สงกรานต์ วันลอยกระทง เปน็ ตน้
การสร้างสรรคผ์ ลงานการแสดงนาฏศลิ ปน์ ้ันมีหลักสาคัญๆดังน้ี
1) ควรเลอื กชุดการแสดงให้เหมาะสมกบั โอกาสทแ่ี สดง เช่น งานเฉลมิ ฉลองวนั เกดิ ของ
บุคคลสำคัญ งานวนั สถาปนาโรงเรยี น ควรเลือกชดุ การแสดงที่มคี วามหมายในการอำนวยอวยพร
ความเปน็ สริ มิ งคลแก่ผทู้ มี่ าร่วมงาน เชน่ รำอวยพร ฟอ้ นอวยพร ระบำกฤดาภินิหาร ระบำเทพ
บนั เทงิ เป็นต้น หรือเปน็ การแต่งบทร้องทำนองเพลงขน้ึ ใหมใ่ ห้มีความหมายตรงตามวตั ถุประสงค์
ของการแสดง
2) จดั ชดุ การแสดงตรงตามทผี่ ูจ้ ดั งานต้องการโดยคำนงึ ถึงรูปแบบของงาน ขนาดพนื้ ทีใ่ น
การแสดง ผู้แสดง เวลาทใี่ ช้ในการแสดง งบประมาณ เปน็ ตน้ เพ่ือทสี่ ามารถจดั การแสดงได้
เหมาะสมกับงานนั้นๆ ลลี าท่ารำท่ีใชต้ อ้ งมีความหมายตรงตามบทร้องและทำนองเพลง หรอื เรียง
รอ้ ยกระบวนทา่ รำทวี่ ิจติ รงดงาม นำเสนอข้ันตอนของการแสดงชดั เจน มกี ารแปรแถว และตั้งซุ้มที่
สวยงาม ผแู้ สดงมคี วามสามารถในการรา่ ยรำ เครือ่ งแตง่ กายเหมาะสมกบั รปู แบบของการแสดงรำ
อวยพร
การจัดการแสดงในวนั สำคัญของโรงเรยี น
ในการจดั การแสดงในวนั สำคญั ของโรงเรียน นักเรียนควรมีสว่ นรว่ มในการสร้างสรรค์
ผลงานการแสดงในโรงเรยี น ซ่ึงวันสำคญั ของโรงเรียนทนี่ ิยมจดั งาน เชน่ วันพ่อ วันแม่ วันไหวค้ รู
วนั สนุ ทรภู่ เปน็ ต้น จะมีการจดั การแสดงต่างๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั งานนั้นๆ เชน่ วนั พ่อและวันแม่
จัดการแสดงรำถวายพระพร วันสนุ ทรภู่จดั การแสดงละครทีเ่ ป็นบทประพนั ธ์ของท่านสุนทรภู่ การ
สร้างสรรค์การแสดงในงานวนั สำคัญของโรงเรียนจะตอ้ งคำนงึ ถึงเทคนิคที่ใชใ้ นการจดั การแสดง
ระยะเวลาในการจัดการแสดง ซ่งึ มีขอ้ ควรพิจารณา ดังน้ี
*การแสดงท่สี ร้างสรรค์ขน้ึ ต้องอย่บู นพน้ื ฐานของการอนุรักษแ์ ละพัฒนาโดยไม่ผิดจารตี
และวฒั นธรรมในการแสดง
*องค์ประกอบด้านเคร่ืองแตง่ กาย ดนตรี เทคนคิ การแสดง ระยะเวลาในการแสดงท่มี กี าร
ปรบั ปรุงเพ่มิ เติม มีเพอ่ื ให้การแสดงน่าสนใจ และตอ้ งมีความเหมาะสมไม่ผดิ รูปแบบหรือ
เอกลกั ษณ์ของ เรอ่ื งราวการแสดง
*ควรมีการฝึกซอ้ มการแสดงทั้งซอ้ มใหญ่ ซ้อมยอ่ ย เพอ่ื ให้การแสดงเกดิ ความสวยงาม
ราบร่นื ไม่มีอุปสรรคเมอื่ แสดงจริง
การจัดการแสดงในวนั สำคัญของโรงเรยี นควรคำนึงถึงสงิ่ ต่อไปน้ี
1) กำหนดชดุ การแสดงให้เหมาะสมกับวนั สำคัญของโรงเรยี น ควรเลือกชดุ การแสดงท่มี ี
เนอื้ หาสาระท่ีเกยี่ วข้องกบั วนั สำคญั นน้ั ๆ เช่น วันสงกรานตใ์ ชใ้ นการแสดงชุดระบำสงกรานต์ รำ
เถดิ เทิง วนั ลอยกระทงใช้การแสดงชุดประทีปสโุ ขทยั รำวง ระบำประทปี ทอง เป็นต้น
2) เวลาท่ใี ชใ้ นการแสดงไม่ควรใชเ้ วลานานจนเกนิ ไป เพราะจะทำให้ผู้ชมเกิดความเบอื่
หน่าย
3) การนำเสนอการแสดงควรใหม้ ีส่วนในการสบื สานวฒั นธรรมไทย
4) ต้องคำนึงถงึ องค์ประกอบต่างๆ ของการแสดง เชน่
- ความสามารถของผูแ้ สดง
- การแต่งกายมคี วามเหมาะสมสวยงามกบั ชุดการแสดง
- การใชท้ า่ รำในการสือ่ ความหมายตามบทรอ้ งได้เหมาะสมสวยงาม
- อุปกรณป์ ระกอบการแสดง ฉาก แสง สี เสียง มคี วามเหมาะสมกบั การแสดง
- ผูแ้ สดงมีการฝึกฝนอยเู่ สมอเพ่ือให้เกดิ ความพร้อมเพรยี งและสวยงาม ฉาก แสง สี
ประกอบการแสดง
การสร้างสรรค์ชุดการแสดงประจำโรงเรยี น
การแสดงประจำโรงเรยี นแตล่ ะโรงเรียนจะแตกต่างกันไป ขน้ึ อย่กู บั การนำไปใช้แสดง ซง่ึ
บางโรงเรียนจะมชี ุดการแสดงประจำโรงเรยี น แตบ่ างโรงเรยี นอาจไม่มชี ุดการแสดงประจำโรงเรียน
ส่วนใหญ่จะเป็นการแสดงทา่ ทางประกอบเพลงประจำโรงเรยี น แตใ่ นดา้ นการแสดงนาฏศลิ ป์และ
ละครนน้ั กต็ ้องข้นึ อยกู่ บั จุดมงุ่ หมายของโรงเรยี น ในการจัดชุดการแสดงประจำโรงเรยี นข้ึนเพอ่ื สื่อ
ความหมายและสร้างเอกลักษณ์ให้กบั โรงเรียน
แนวคิดในการสรา้ งสรรคช์ ุดการแสดงประจำโรงเรยี นมดี ังน้ี
1) สญั ลกั ษณ์ประจำโรงเรยี น เช่น รปู ปนั้ อนุสาวรีย์ สิ่งศกั ดิ์สทิ ธปิ์ ระจำโรงเรยี น เป็นต้น
นำมาเรยี งรอ้ ยเปน็ บทร้อง ใส่ทำนอง และประดษิ ฐ์ท่ารำ สร้างสรรค์การแต่งกายใหม้ ีความ
สอดคลอ้ งหรอื สื่อถงึ สัญลกั ษณข์ องโรงเรยี น
ทม่ี าภาพ: http://bangkrod.blogspot.com/2013/06/blog-
post.html
2) วถิ ชี ีวิต อาชพี ของคนในชุมชนท่ีโรงเรยี นตง้ั อยู่ การนำเอาวถิ ีชวี ิตการประกอบอาชพี
การทำมาหากินของคนในทอ้ งถ่นิ มาประดษิ ฐเ์ ป็นชดุ การแสดงจะทำให้ชดุ การแสดงของโรงเรยี นมี
คุณคา่ ตอ่ นกั เรียนและโรงเรยี น
ท่ีมาภาพ:
http://ilove8riew.com/event/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B
8%9E%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0
3) แรงบนั ดาลใจ การสร้างสรรคช์ ุดการแสดงอาจนำมาจากแรงบันดาลใจในเร่ืองต่างๆ ท่ี
ตอ้ งการส่งเสริม คุณธรรมจรยิ ธรรม แลว้ นำมาประดิษฐ์สร้างสรรค์เป็นชดุ การแสดงประจำ
โรงเรียนได้ เช่น ระบำเบญจศีล ระบำไตรรัตน์ ระบำศลิ ปวฒั นธรรม เป็นตน้
ระบำไตรรตั น์
ที่มาภาพ: http://www.banramthai.com/html/putta.html
4) นำส่งิ ทีม่ อี ยู่ในท้องถน่ิ ท่ีโรงเรยี นตงั้ อยมู่ าสรา้ งสรรค์เป็นชุดการแสดง เช่น ดอกไม้ ผลไม้
กระถาง ต้นไม้ เปน็ ตน้ มาแต่งเปน็ บทร้อง มกี ารใสท่ ำนองดนตรแี ละประดิษฐท์ ่ารำเปน็ ชุดการ
แสดงประจำโรงเรียน เช่น ระบำปทมุ มาลย์ ระบำดอกกล้วยไม้ ระบำผ้าขาวม้า ระบำแห่ดอกไม้
เป็นตน้
ระบำแห่ดอกไม้
ท่มี าภาพ: https://www.gotoknow.org/posts/116681
องคป์ ระกอบของการแสดงนาฏศลิ ป์ในแตล่ ะชนิด จะมีส่วนประกอบหลายอยา่ งเป็นการ
เสรมิ ให้การแสดงดูเด่น ตระการตายง่ิ ข้นึ สิ่งท่เี ปน็ องค์ประกอบในการแสดงมี 4 สว่ นหลัก คือ
1. เครือ่ งแต่งกาย จุดเด่นของเคร่ืองแต่งกายมี 4 สว่ น คือ
1.1 จุดเด่นเฉพาะชน้ิ เป็นสว่ นเฉพาะทรี่ ะบถุ งึ ลกั ษณะและฐานะของตัวละคร
1.2 ภาพรวมของเคร่อื งแต่งกาย จะเห็นว่าเครอื่ งแตง่ กายแต่ละชุดมีความแตกต่างกนั
สามารถระบไุ ดว้ ่าเปน็ ชดุ ใด ชาติใด
1.3 สีของเครื่องแต่งกาย จะเนน้ มากในตวั ละครที่เปน็ ตัวเอก มักจะใช้สีท่ีตรงข้ามกัน เช่น
ถา้ พระเอกใสส่ ีเขยี ว นางเอกจะใส่สีแดง หรือถ้าพระเอกใส่สแี ดง นางเอกก็จะใสส่ ีเขียว ตัวพอ่ แม่
มักใชส้ ีน้าเงนิ ฟ้า บานเย็น
1.4 วสั ดุ จะเปน็ ส่วนเสริมใหต้ วั ละครเด่นขึ้น เชน่ การใช้ผ้าทีม่ ีน้ำหนกั หรอื ผ้าทบ่ี างตาม
ลักษณะของชดุ การแสดง
2. อปุ กรณ์ เป็นส่วนที่จำเป็นในการแสดง ตัวละครบางตัวหรือชุดการแสดงบางชดุ ขาด
อุปกรณ์การแสดงไม่ได้ เชน่ พระรามถือศร หนุมานถือตรี ระบำดอกบวั ถอื ดอกบัว ฟอ้ นเทียนถอื
เทยี น ตารีกีปัสถือพัด
3. ดนตรี เปน็ สว่ นสร้างอารมณใ์ ห้กับผูช้ ม ท้งั นีข้ ้ึนอยกู่ บั ลักษณะของเสียงดนตรี วธิ กี าร
บรรเลงและ สำเนยี งดนตรี
4. การแสดง แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท คือ รำเด่ยี ว รำคู่ รำหมู่ พระราม (สีเขียว) นางสดี า
(สีแดง) ระบำฝร่ังคู่ ระบำดอกบัว ระบำกนิ รีรอ่ น
การประเมินคณุ ภาพของการแสดง
การจดั การแสดงนาฏศิลป์และการละคร นอกจากจะตอ้ งมกี ารวิพากษว์ ิจารณก์ ารแสดง
แล้วตอ้ งมีการ ประเมิน คณุ ภาพของการแสดงดว้ ย เพือ่ เป็นการสะท้อนถงึ คณุ ภาพของผู้นำเสนอ
ผลงานว่ามคี ณุ ภาพหรือไม่
หลกั ท่ใี ช้ในการประเมินคณุ ภาพด้านการแสดงมีดังนี้
1) การนำเสนอผลงานการแสดงจะตอ้ งกำหนดไวอ้ ยา่ งชดั เจนว่าการแสดงนนั้ เปน็ การ
แสดงแนวใด เปน็ การแสดงแนวอนุรกั ษห์ รอื การแสดงแบบสร้างสรรค์ขึ้นใหม่
2) ลลี าทา่ รำ การเคล่ือนไหวร่างกายของผ้แู สดงมีกระบวนทา่ รำที่ถูกตอ้ งตามแบบแผน
โดยพจิ ารณาจากประเภทของการแสดง
3) ลกั ษณะการแสดงมีความประณตี สวยงาม มคี วามสมดลุ กลมกลืนในการเคล่อื นไหวมี
ความถูกต้องชัดเจน
4) การแสดงนน้ั ควรใหป้ ระโยชนใ์ นด้านต่างๆ เชน่ ด้านสตปิ ัญญาสามารถนาไปปรับใชใ้ น
ชีวติ ประจาวนั ได้ ดา้ นอารมณ์ช่วยผอ่ นคลายความเครยี ด สรา้ งความบันเทงิ ด้านจติ ใจช่วยให้ผ้ชู ม
เกดิ มมุ มองใหม่ๆ และช่วยพัฒนาจิตใจให้สูงขน้ึ เปน็ ตน้
การประเมินคณุ ภาพองค์ประกอบของการแสดง
การประเมินคณุ ภาพองค์ประกอบของการแสดงสามารถประเมนิ จากสิ่งต่างๆ ดังนี้
1) การแต่งกาย แต่งกายไดถ้ กู ตอ้ งตามยคุ สมยั เคร่อื งแต่งกายเหมาะสมกบั ฐานะและ
บทบาทของตัวละคร
2) การแต่งหน้า แต่งหนา้ ได้เหมาะสมสวยงามกบั การแสดง มคี วามกลมกลืนกบั แสงสี
3) อุปกรณป์ ระกอบฉากหรืออปุ กรณ์ประกอบการแสดงถกู ตอ้ งตามแบบแผน ตามยุคสมัย
มีความสวยงาม กลมกลืนกับการแสดง
4) แสง สี เสยี ง มรี ะบบเสียงทช่ี ัดเจน ไมเ่ บาหรอื ดังจนเกินไปหรอื เสียงกอ้ ง การใหแ้ สง สี
ไม่ฉูดฉาด มี ความกลมกลืนกับฉากและเครื่องแตง่ กาย การประเมินคณุ ภาพด้านองคป์ ระกอบของ
การแสดงเปน็ ส่งิ ทีช่ ว่ ยสะทอ้ นใหเ้ หน็ ถึงความสามารถของผูจ้ ดั การแสดง ว่ามคี วามเข้าใจใน
องค์ประกอบของศิลปะหรือไม่ และสามารถนำมาใช้ประกอบการจดั การ แสดงใหม้ ีคุณภาพ มี
ความสวยงามและกลมกลืนเพียงใด
ตัวอยา่ งตารางการประเมนิ การแสดงละคร
เรือ่ ง………………………………………………………………………………………ช้ัน....................................
สมาชิก 1................................................................................
2...............................................................................
3..............................................................................
4...............................................................................
5..............................................................................
6..............................................................................
7..............................................................................
ท่ี หวั ขอ้ คะแนน หมายเหตุ
54321
1 ชอ่ื เร่ืองกบั การดาเนินเร่อื งเหมาะสม
2 ตวั ละครแสดงเหมาะสม
3 การแต่งกายเหมาะสม
4 ฉาก แสง สี เสียงเหมาะสม
5 อน่ื ๆ
รวมเกณฑ์การประเมิน
5 หมายถงึ ดมี าก 4 หมายถึง ดี
3 หมายถงึ พอใช้ 1-2 หมายถงึ ควรปรับปรงุ
ลงช่ือ..............................................................
(.............................................................) ผูป้ ระเมิน
การวิจารณ์และประเมินคุณภาพการแสดง
การวจิ ารณ์และประเมนิ คุณภาพการแสดงละครเป็นการตรวจสอบความถูกตอ้ งในด้าน
เนือ้ หา สาระ รปู แบบการแสดง และบทบาทของนกั แสดงว่ามคี วามถูกต้องหรือไม่ โดยกอ่ นการ
วิจารณ์และประเมินคุณภาพการแสดง ผู้วจิ ารณต์ อ้ งศกึ ษาองคป์ ระกอบของการแสดง ดงั นี้
1. สว่ นประกอบต่างๆของเรื่องสน้ั ไดแ้ ก่ เนื้อเรอื่ ง โครงเร่อื ง ตัวละคร บทสนทนา เวลา
และสถานที่
2. แกน่ ของเรอ่ื งหรอื แนวคิดหลกั
3. การนำเสนอเรอ่ื งท่วงทำนองในการแต่งบทละคร การใช้สำนวนโวหาร จากการพิจารณา
และวเิ คราะหส์ ่วนตา่ งๆ สามารถนาไปสปู่ ระเด็นในการวิจารณ์และประเมินคุณภาพการแสดงได้
ดงั น้ี
1) โครงเรือ่ ง โครงเร่อื งของละครสนั้ จะตอ้ งมเี หตกุ ารณท์ ี่ชัดเจน ไม่ซับซ้อน ซึ่งแนวทาง
การวจิ ารณโ์ ครงเร่ือง มีดังน้ี
- โครงเรือ่ งและเนอื้ เร่ืองซบั ซ้อนหรอื ไม่
- โครงเร่อื งและเนอื้ เรอ่ื งสอดคลอ้ งกันหรอื ไม่
- การจบเร่ืองประทับใจหรือไม่
2) แนวคิดหรือแก่นของเรือ่ ง ผปู้ ระพนั ธจ์ ะส่งสารให้แก่ผู้ชมผ่านแก่นหรอื แนวคิดของเรือ่ ง
ซ่ึงแนวทางการวจิ ารณแ์ นวคิดหรือแกน่ ของเร่อื งมดี ังนี้
- ผู้ชมละครได้แนวคดิ อะไรบ้างจากละครทช่ี ม
- ผชู้ มเห็นดว้ ยกบั แนวคิดของละครหรอื ไม่
3) ตวั ละครและบทสนทนา ตวั ละครและบทสนทนาต้องสอดคล้องสัมพันธ์กนั ซึ่งแนวทาง
การวิจารณ์ตัวละครและบทสนทนามีดงั นี้
- ลกั ษณะนิสัยของตัวละครคงท่ีหรือไม่
- บทสนทนาเหมาะสมแกต่ ามวัย ฐานะ และสภาพแวดลอ้ มของตวั ละครหรอื ไม่
- บทสนทนาเหมาะแกอ่ ารมณ์ ความรู้สึกของตวั ละครหรือไม่
- จากพฤตกิ รรมและบทสนทนาของตวั ละครทำใหผ้ ู้ชมเห็นบคุ ลิกลักษณะและนสิ ัยของตัว
ละคร เด่นชดั เพยี งใด
- ตวั ละครมีความคิด ความตอ้ งการเหมอื นมนุษย์ธรรมดาหรือไม่
- พฤติกรรมของตัวละครก่อให้เกดิ ผลดี ผลร้ายแก่ตวั ละครอย่างไร
4) ทศั นองคป์ ระกอบอนื่ ๆ ผ้วู จิ ารณต์ อ้ งศกึ ษารายละเอยี ดของเนอ้ื เร่ืองใหเ้ ข้าใจอย่างลกึ ซึง้
เพ่อื ซึง่ แนวทางการวิจารณ์ทศั นองค์ประกอบอ่ืนๆมีดังน้ี
1. การบ่งบอกเวลาและสถานท่ีในเรอื่ งมคี วามเหมาะสมกบั การดำเนนิ เรื่องเพยี งใด
2. การแต่งกายเหมาะสมกบั ฐานะและบุคลกิ ของตัวละครหรอื ไม่ การประเมินคณุ ภาพการ
แสดงจะทำให้เขา้ ใจการแสดง และองคป์ ระกอบตา่ งๆในการแสดงมากข้ึน การประเมินคุณภาพ
ของการแสดงจะตอ้ งพิจารณาจากสิ่งต่างๆดังน้ี
1) คุณภาพด้านการแสดง การประเมนิ คุณภาพดา้ นการแสดงจะต้องประเมนิ จากบคุ คลท่ี
เก่ียวข้องในการแสดง เชน่ ผู้กำกับการแสดง จะต้องมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ในการเลอื กบทละคร
เลือกตัวละครในการแสดง หรือผแู้ สดงจะต้องมีบคุ ลกิ ลกั ษณะเหมาะสมกบั เนือ้ เรอื่ งมีความตง้ั ใจ
รับผิดชอบในการแสดง และมีความสามารถในการแสดง การแสดงท่ีดมี คี ุณภาพนั้นจะเกิดขึน้ ได้
จากการรว่ มมือกันของทกุ ฝ่ายในการจัดการแสดง ทำใหก้ ารแสดงประสบความสำเร็จเป็นท่ี
ประทับใจแกผ่ ทู้ ีร่ บั ชม
2) คณุ ภาพด้านองคป์ ระกอบของการแสดง การประเมนิ คณุ ภาพด้านการแสดงจะตอ้ ง
คำนึงถึงองคป์ ระกอบตา่ งๆ ที่เก่ยี วข้องกบั การแสดงเพื่อที่จะประเมินคณุ ภาพไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
องคป์ ระกอบทเ่ี ก่ยี วข้องกับการแสดง มดี ังนี้
2.1 นาฏกรรม คือ งานทีเ่ กย่ี วกับการรำ การเต้น การแสดงท่าทาง หรอื การแสดงท่ี
ประกอบขน้ึ เป็นเร่ืองราวในละครหรือโขน ซ่ึงจะประกอบดว้ ยลีลาการแสดงของนกั แสดงหรอื ตัว
ละคร ตลอดจนทา่ ทาง การรา่ ยรำและการเคลื่อนไหวตา่ งๆ ในการแสดงนาฏศลิ ป์ให้ออกมา
ออ่ นช้อยงดงาม และส่อื ถึงอารมณ์ของการแสดงออกน้ันไดด้ ว้ ย
ทม่ี าภาพ: https://sites.google.com/site/natsilp1/khon
2.2 ดนตรี คือ เสียงท่ีประกอบกนั เปน็ ทำนองเพลง หรอื เคร่ืองบรรเลงที่มีเสียงดัง ทำให้
รสู้ ึกเพลดิ เพลินหรอื เกิดอารมณ์รกั โศกเศร้า รืน่ เริง ได้ตามทำนองเพลง ซ่ึงเป็นองคป์ ระกอบสว่ น
หนึ่งทสี่ ำคัญ ในการแสดง โดยดนตรีที่ใช้ประกอบในการแสดงนาฏศิลปแ์ ละละครนนั้ มีท้งั เคร่อื ง
ดนตรีประเภทดดี สี ตี เป่า ประกอบกนั ไปตามความเหมาะสมของรูปแบบการแสดงนาฏศิลปแ์ ละ
ละครประเภทตา่ งๆ โดยเฉพาะวงปพ่ี าทย์ ซ่ึงเป็นทน่ี ยิ มในการนำมาบรรเลงประกอบการแสดง
ละครหรอื โขน
ท่มี าภาพ: https://www.sanook.com/movie/82133/gallery/615593/
2.3 วรรณกรรม คอื งานประพันธ์ทีเ่ ปน็ เรอื่ งราว โดยใช้ภาษาเปน็ สอ่ื ให้ผูช้ มการแสดง
ละครเกิดจนิ ตนาการหรืออารมณ์ตามทผ่ี ูป้ ระพนั ธ์ตอ้ งการใหเ้ กิดขนึ้ จากบทละครท่เี ขียนให้
ตวั ละครแสดงออกมา ซ่งึ นับเปน็ ความงามที่เกดิ ขึ้นจากการประพนั ธ์วรรณกรรมทางด้านบทละคร
และบทภาพยนตร์ประกอบด้วย งาน เขยี นทงั้ รอ้ ยแก้วและร้อยกรองทม่ี ีการสัมผัสคลอ้ งจอง
การเลน่ คำ และเลน่ เสียงสงู ต่ำ เสมือนเสยี งดนตรีจากการพูดและแสดงอารมณ์ตามบทพดู ในการ
แสดงนาฏศลิ ป์หรอื ละครเรือ่ งน้นั ๆ
ทม่ี าภาพ: https://www.se-ed.com/product/
2.4 จติ กรรม คอื ศลิ ปะการวาดหรือวาดภาพท่แี สดงความรู้สกึ และถ่ายทอดเร่ืองราวต่างๆ
งานนาฏศลิ ปท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั งานจิตกรรม มีดังน้ี การตกแต่งฉากละครให้วิจิตรงดงามตาม
สถานการณ์ในบทละคร การเขยี นลวดลายในเคร่ืองแตง่ กาย การแตง่ หนา้ นักแสดง การนำ
เร่อื งราวจากภาพจติ กรรม เชน่ พทุ ธประวัติชาดก หรือเรื่องจากวรรณคดมี าสร้างเปน็ ละคร เช่น
เร่อื งอเิ หนา พระอภยั มณี หรอื ขุนชา้ ง ขนุ แผน ซึง่ ต้องมีในบทละคร
ท่มี าภาพ:
https://www.fashionartmusic.org/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%
E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%
A1%E0%B8%B1/%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0
%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.aspx?no=9786160838769
2.5 ประตมิ ากรรม คอื ศลิ ปะการป้ัน การแกะสลกั และการหล่อรูปตา่ งๆ งานนาฏศิลป์ท่ี
เกยี่ วข้องกับงานประติมากรรม มดี ังน้ี
การสรา้ งเคร่อื งแต่งกายและอุปกรณ์การแสดงต่างๆ เช่น การสร้างหัวโขน เคร่ืองประดับ
ตกแตง่ เวทที เี่ ปน็ รูปหลอ่ รูปป้นั และงานแกะสลักตา่ งๆ เปน็ ตน้ ซึ่งงานประติมากรรมในการแสดง
นาฏศลิ ป์จะมีลกั ษณะเป็นนนู ต่ำ นนู สูง หรอื ภาพลอยตวั ท่ีให้ความรู้สึกและสะท้อนอารมณท์ ี่
สอดคลอ้ งกบั สถานการณใ์ นบทละครเรื่องน้ันๆ ทำให้ผชู้ มการแสดงเกิดอารมณ์คล้อยตามไปกับ
การแสดง
ทมี่ าภาพ: https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/58240/-artfin-art-
2.6 สถาปัตยกรรม คอื ศิลปะแหง่ การกอ่ สร้างในงานนาฏศิลป์ ไดแ้ ก่ การสรา้ งฉากและ
เวทกี ารแสดง โดยฉากการแสดง หมายถึง การจำลองสถานทตี่ ามสถานการณข์ องเรือ่ งราวในการ
แสดงนาฏศลิ ป์ ท่ีจะชว่ ยกำหนดสถานท่ี บ่งชย้ี คุ สมยั ให้บรรยากาศและการแสดงเกิดความสมจรงิ
ส่วนเวทที ่ใี ช้เป็นสถานทใ่ี นการแสดงนาฏศิลป์ตอ้ งมขี นาดรูปร่างและการออกแบบที่เหมาะสมกับ
รูปแบบและประเภทของการแสดงนาฏศลิ ป์ ทำให้ผ้ชู ม ชมการแสดงได้ชดั เจน
รปู แบบเวทีการแสดงประกอบด้วย เวทีดไู ดด้ ้านเดยี ว สองด้าน สามด้าน สีด่ า้ น และเวที
แบบประเพณนี ยิ ม โดยการกอ่ สรา้ งฉากและเวทีการแสดงที่เหมาะสมและสอดคล้องกับ
องคป์ ระกอบตา่ งๆ ของนาฏศลิ ป์ จะชว่ ยเสริมสรา้ งใหก้ ารแสดงนาฏศิลปแ์ ละละครมีความสมบรู ณ์
ยงิ่ ขน้ึ
ทมี่ าภาพ: https://sites.google.com/site/xngkhprakxbnatsilpthiy/neux-hab/chak
บรรณานุกรม
ดษุ ฎี มีป้อมและนลิ วรรณ ถมังรกั ษ์สัตว์ คมู่ ือการสอน เพอื่ ครูผู้สอน ดนตรี – นาฏศิลป์
ม.6 วฒั นาพานชิ สำราญราษฎร์ กรุงเทพฯ
บญุ ส่ง วรวัฒน์ และคณะ ดนตรี – นาฏศิลป์ ม. 3 โรงพิมพว์ ฒั นาพานิช สำราญราษฎร์
กรุงเทพฯ.
สมุ นมาลย์ นม่ิ เนติพันธ์ และคณะ ดนตรี – นาฏศลิ ป์ ม. 3 อกั ษรเจรญิ ทศั น์ (อจท.)จำกัด
กรงุ เทพฯ.
อรวรรณ ชมวฒั นา , วรี ์สุดา บนุ นาค. นาฏศิลป์ ม.4 – 6. สถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ
(พว.)