พืชป่าสมุนไพร Herbal Medicine สวนพฤกษศาสตร์พนางตุง สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 2566
พิกัดของพืชสมุนไพร ลำดับที่ N/X E/Y ชื่อสมุนไพร 1 0626924 0855005 กุ่มน้ำ 2 0626924 0855005 แคแตร/แคนา 3 0626924 0855005 ทองหลางน้ำ 4 0626923 0855016 หวายลิง 5 0626924 0855055 ย่านตรุด 6 0626924 0855055 เสม็ดขาว 7 0626942 0855022 หว้า 8 0626924 0855055 จิก 9 0626924 0855055 หญ้าด้วนกลอง (พญามุตกิด) 10 0626925 0855043 ไม้ควาด 11 0626924 0855055 ลุ่มนก 12 0626924 0855055 คล้า 13 0626926 0855076 ย่านลิเภา 14 0626926 0855076 เถาคัน 15 0626950 0855085 ก้างปลาขาว 16 0626951 0855090 หางไหลแดง 17 0626951 0855090 หยีน้ำ 18 0626951 0855090 สมอทะเล (คูระ) 19 0626951 0855090 ไม่ทราบชื่อ 20 0626992 0855161 กระท่อมขี้หมู
ลำดับที่ N/X E/Y ชื่อสมุนไพร 21 0626887 0855198 ปอทะเล 22 0626887 0855198 กะเม็ง 23 0626876 0855220 สมเสร็จ 24 0626995 0855310 กาฝากเสม็ด 25 0627078 0855276 ลำเพ็ง 26 0627068 0855243 ปอทะเล 27 0627090 0855192 เทียนน้ำ 28 0627090 0855192 แพงพวยน้ำ 29 0627090 0855192 เอื้องเพชรม้า 30 0627090 0855192 ผักเป็ดขาว 31 0627087 0855182 ขอบชะนางแดง 32 0627086 0855166 งวงช้าง 33 0627086 0855166 ไม่ทราบชื่อ 34 0627061 0855148 พรหมมิ 35 0627058 0855098 ไม่ทราบชื่อ 36 0627014 0855043 เตยทะเล (ปาหนัน) 37 0627014 0855043 อินทนินน้ำ 38 0627014 0855043 มะม้าวนา 39 0627003 0855036 สาคู 40 0627003 0855036 ชะมดต้น 41 0626993 0855054 เถาวัลย์เปรียง 42 0626973 0855001 รักน้ำ 43 0626964 0855991 รากไทยย้อย 44 0626899 0855081 ตีนเป็ดทะเล (ปะเนียงน้ำ) 45 0626899 0855081 สังวาลพระอิน (ต้นตายปลายเป็น) 46 0626899 0855081 เสม็ดแดง (เหม็ดชุน) 47 0626892 0855096 หรอม 48 0626892 0855096 บัว 49 0626831 0855131 กดน้ำ 50 0626814 0855130 มะพูด อ้างอิง: เบ็ญจวรรณ บัวขวัญ และคณะ. 2562. โครงการสำรวจความหลากหลายและภูมิปัญญาสมุนไพรสำหรับ สุขภาพระดับชุมชนจังหวัดพัทลุง สงขลา. ม.ป.ท.
กุ่มน้ำ ชื่อสามัญ: Crataeva ชื่อพฤกษศาสตร์: Crateva religiosa G.Forst. วงศ์: CAPPARACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ดอก ช่อดอกแบบช่อ กระจะ กลีบเลี้ยง 4 กลีบ ขนาดเล็ก รูปรีแคบ กลีบ ดอก 4 กลีบ รูปรีกว้าง มี ก้านกลีบ เกสรเพศผู้ จำนวนมาก ก้านชูอับเรณู สีแดงหรือม่วง ก้านชูเกสร เพศเมีย รังไข่ติดบนก้าน ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม ผลแข็ง ผิวเป็น สะเก็ดหยาบๆ กลมๆ หรือรูปรี มีหลายเมล็ด คล้ายรูปหัวใจเบี้ยว ใบประกอบมีใบย่อย 3 ใบ หูใบเล็ก ร่วงเร็ว ก้านใบย่อยสั้นมาก สรรพคุณ ราก ขับหนอง บำรุงธาตุ ทำงายบุพโพอันผูกเป้นก้อน แก้ปวดท้อง ขับโลหิตระดู รักษาโรคที่ เกี่ยวกับน้ำเหลือง ทำให้ร้อนแดง ขับลม เปลือก แก้สะอึก ขับลม ขับเหงื่อ แก้ในกองลม แก้ริดสีดวง ผอมแห้ง แก้กระษัย แก้ปวดท้อง ลง ท้อง บำรุงธาตุ ทำให้ร้อนแดง กระพี้ แก้ริดสีดวงทวารหนัก แก่น แก้นิ่ว ขับเหงื่อ ถอนพิษไข้ ใบ ขับเหงื่อ ทำให้ร้อนแดง ดอก แก้เจ็บในลำคอ แก้เจ็บตา แก้ตาแดง แก้ไข้อันกระทำให้หนาวๆ ร้อนๆ ผล แก้ไข้ ทั้งห้า แก้สะอึก แก้ลมขึ้นเบื้องสูง ขับเหงื่อ บำรุงธาตุ อ้างอิง: มานพ ผู้พัฒน์ และคณะ. 2563. พืชป่าสมุนไพร. กลุ่มงานพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. บริษัท ประชาชน จำกัด, กรุงเทพฯ.
จิกน้ำ ชื่อสามัญ: Indian oak, Freshwater mangrove ชื่อพฤกษศาสตร์: Barringtonia acutangula (L.) Gaertn. วงศ์: BARRINGTONIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้ต้น ขนาดกลาง สูง 6 – 8 เมตร ใบ รูปไข่กลับ หอก หรือรูปรี กว้าง 3 – 8 ซม. ยาว 6 – 16 ซม. ปลายใบทู่ โคน ใบสอบ ดอก สีชมพูแกมแดง ออกเป็นช่อห้อยลงจากปลาย กิ่งยาว ประมาณ 30 ซม. กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นท่อ สั้นๆ รูปสี่เหลี่ยม ปลายแยกเป็น 4 กลีบ โคนเชื่อมติดกัน และติด กับกลีบดอก ผล รูปสี่เหลี่ยม กว้าง 1 – 3 ซม. ยาว 2 – 6 ซม. ตัดภายในมีเมล็ดเดียว สรรพคุณ ราก เป็นยาระบาย ต้น แก้ปวดศีรษะ และเลือดออกตามไรฟัน แก้เสมหะพิการ เปลือกต้น เป็นยาเบื่อปลา เนื้อไม้ ขับระดูขาว ใบ แก้ท้องร่วง สมานบาดแผล แก้บิด เมล็ด แก้แน่น แก้อาเจียน แก้ไอ รัดมดลูกหลังการคลอดบุตร แก้ไข้ ตัวร้อน แก้เยื่อตาอักเสบ อ้างอิง: ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์. 2554. จิกน้ำ. สืบค้น 31 มีนาคม 2566, จาก https://shorturl.asia/uGfgN
ชุมเห็ดเทศ เทศ ชื่ออื่น: ขี้คาก ลับมืนหลวง หมากกะลิงเทศ ชื่อสามัญ: Candelabra bush, Ringworm bush. ชื่อพฤกษศาสตร์: Cassia alata L. วงศ์:FABACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้พุ่ม ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ ดอก ช่อ ออกที่ปลายกิ่ง สีเหลือง ผลเป็นฝัก สรรพคุณ ราก เป็นยาเบื่อพยาธิ ทำให้หัวใจเต้นปกติ ขับปัสสาวะ แก้กระษัยเส้น เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ พยาธิผิวหนัง และขับไส้เดือน ถ่ายพยาธิในลำไส้ ถ่ายเสมหะ แก้หิดและสิว แก้คุดทะราด แก้ โรคผิวหนัง ต้น ขับพยาธิไส้เดือน แก้คุดทะราด และกลากเกลื้อน แก้กระษัยเส้น ขับปัสสาวะ แก้ท้องผูก ทำ ให้หัวใจเป็นปกติ แก้โรคผิวหนัง สมานท้อง แก้มุตกิต เป็นยาเบื่อพยาธิ ใบ แก้กลากเกลื้อน แก้กระษัย ขับปัสสาวะ แก้ท้องผูก ทำให้หัวใจเป็นปกติ แก้โรคผิวหนัง สมาน ท้อง แก้มุตกิต เป็นยาเบื่อพยาธิ ดอก เป็นยาระบายอ่อนๆ เป็นยาถ่ายพยาธิ ทำให้ผิวหนังดี แก้กระษัยเส้น บำรุงหัวใจเป็นปกติ แก้ท้องผูก ขับปัสสาวะ ฝัก แก้พยาธิ เป็นยาระบายขับพยาธิตัดตืด ไส้เดือน ทั้งต้น ขับพยาธิไส้เดือนในท้อง รู้ถ่ายเองปิดเอง ถ่ายพิษตานซางเด็ก แก้โรคผิวหนัง ถ่ายเสมหะ เปลือก แก้โรคผิวหนัง แก้กลากเกลื้อน เป็นยาระบายท้อง สมานท้อง แก้มุตกิต ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แก้ตานซาง แก้ท้องขึ้น แก้นอนไม่หลับ ขับ พยาธิลำไส้ ถ่ายเสมหะ อ้างอิง: มานพ ผู้พัฒน์ และคณะ. 2563. พืชป่าสมุนไพร. กลุ่มงานพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. บริษัท ประชาชน จำกัด, กรุงเทพฯ.
เถาคันขาว/เขาคัน ขาวแ ชื่ออื่น: เถาคันขาว หุนแปขาว (ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ) เครือหุนแป เครือพัดสาม ส้มเขาคัน ชื่อสามัญ: True Virginia creeper, Virginia creeper, Victoria Creeper, Five-leaved ivy, Five-finger ชื่อพฤกษศาสตร์: Parthenocissus quinquefolia Planch. วงศ์:VITACEAE (องุ่น) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ลำต้น เถาคัน เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็กที่ชอบขึ้นเลื้อยพาดตามต้นไม้ใหญ่ ลำต้นมีลักษณะเป็นเถา ยาวได้มากกว่า 10 เมตร ลำต้นแตกกิ่งเถา มีลักษณะเป็นข้อๆ ซึ่งเป็นบริเวณแตกก้านใบ เถาโคน ต้นมีผิวขรุขระ และสากมือ ปลายเถาหรือเถาอ่อนมีขนปกคลุม เถาคันขาวมีโคนเถาสีขาวอม น้ำตาลอ่อน เถาอ่อนหรือปลายเถามีสีเขียว ใบ ใบเถาคัน เป็นใบประกอบ มีก้านใบหลักเรียวยาว แตกออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ใบย่อยแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดมีย่อย 3 ใบ และชนิดมีใบย่อย 5 ใบ แต่ละใบ ย่อยมีโคนใบเชื่อมติดกันที่ปลายก้านใบหลัก ใบย่อยแต่ละใบมีรูปไข่ โคนใบสอบแคบ กลางใบ ขยายกว้าง ปลายใบแหลม ขนาดใบกว้าง ประมาณ 2-4 เซนติเมตร และยาว ประมาณ 5-10 เซนติเมตร แผ่นใบมีสีเขียวสด ค่อนข้างหนา และสากมือด้วยขนที่ปกคลุม ขอบใบหยักเป็นฟัน เลื่อย เส้นกลางใบมองเห็นไม่ชัดเจนในชนิดเถาคันขาว แต่ใบด้านล่างเป็นสันนูนของเส้นกลางใบ และเส้นแขนงใบชัดเจน ดอก ดอกเถาคันออกเป็นช่อบริเวณซอกใบหรือข้อลำต้น แต่ละช่อมีดอกย่อยจำนวนมาก 10-40 ดอก ดอกย่อยมีขนาดเล็ก โดยดอกเถาคันขาว จะมีดอกอ่อนสีเขียว ดอกบานมีสีขาว ทั้งนี้ เถาคัน จะเริ่มติดดอกในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ผล ผลเถาคันขาว มีลักษณะกลม ผิวผลเรียบ และเป็นมัน ขนาดผลประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร เล็กกว่ามะเขือพวงเล็กน้อย เปลือกผลบาง เนื้อผลหนา ผลดิบมีสีเขียว ผลสุกมีสีดำ เนื้อผลสุก และนำจากเนื้อผลสุกมีสีม่วงแดง มีรสเปรี้ยวคล้ายผลองุ่น แต่บางรายงาน พบว่า เมื่อสัมผัสน้ำจาก เนื้อผลผิวหนังจะรู้สึกคัน จนเป็นที่มาของชื่อที่เรียกว่า “เถาคัน” ทั้งนี้ เถาคันจะติดผลในช่วงเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม
สรรพคุณ เถา (ต้มน้ำดื่ม) เป็นยาแก้โรคกษัย ยาฟอกเลือด ยาขับเสมหะ แก้กษัย ช่วยขับลม แก้อาการผอม แห้ง รักษาอาการช้ำใน ช่วยให้เส้นเอ็นคลายตัว แก้ฝีในท้อง แก้ริดสีดวงลำไส้ใช้เป็นยา คุมกำเนิด ใบ (ต้มน้ำดื่มหรือรับประทาน) แก้มะเร็ง แก้เลือดออกตามไรฟัน ช่วยลดไข้ รักษาแผลในจมูก ใบ (ใช้ทาหรือประคบภายนอก) ใบนำไปอังหรือย่างไฟให้พอเหี่ยว ก่อนใช้ประคบรักษาฝี แก้ อาการร้อนแดง ราก (ต้มน้ำดื่ม) รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ใช้เป็นยาขับพยาธิไส้เดือน ช่วยขับปัสสาวะ แก้โรค นิ่ว ใช้เป็นยาฟอกโลหิต ช่วยแก้ฟกซ้ำ ช่วยขับเลือดเสีย ช่วยขับน้ำคาวปลา ผลอ่อน (รสเฝื่อน ต้มน้ำดื่มหรือรับประทาน ) แก้กระษัย ขับลม ฟอกเลือด แก้ฟกช้ำภายใน แก้ ลมวิงเวียน หน้ามืด ขับเสมหะ แก้เลือดออกตามไรฟัน ผลอ่อน (ใช้ภายนอก ) ตำพอกฝี แก้แผลในจมูก ถอนพิษปวดบวม อ้างอิง: กลุ่มสารสนเทศการเกษตร สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร. 2563. ข้อมูลพรรณไม้. สืบค้น 10 มีนาคม 2566, จาก https://shorturl.asia/xgKa7
สมอทะเล/คูระ ชื่ออื่น: กระหุด (กลาง) คูระ กือเราะ คือรัก (มลายู-ใต) กุระ กุลา ชื่อสามัญ: - ชื่อพฤกษศาสตร์: Sapium indicum Willd. วงศ์:EUPHORBIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไมตน ขนาดเล็ก สูง 5-15เมตร ไมผลัดใบ เรือนยอดเปนพุม ปลายกิ่งเรียว ยาวยอยลง มีน้ํายางสีขาวเฉพาะที่ยอดออน ชอดอก และผลเปลือกเรียบ ถึงแตกเปนรองถี่ สีเทาคล้ํา ถึงเกือบดํา เปลือกชั้นในสีเหลือง ถึงสี น้ำตาลออน ดอกออกที่งาม ใบ หรือปลายกิ่ง เปนชอเชิงลด ยาว 4-8 เซนติเมตร ดอก มีขนาดเล็ก สีเขียว เปนดอกแยกเพศ ดอกเพศเมียออกเดี่ยวๆ ที่โคนกานชอดอก มีกานเกสร 3 อัน แยกกันเปนอิสระ ดอกเพศผูมีหลายดอกเรียงตลอดความยาวของกานชอดอก ออกดอกเดือน มกราคม-มีนาคม ใบเดี่ยว เรียงสลับแผนใบรูปขอบขนาน ถึงรูปใบหอก ขนาด 2-3 X 5-10 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ถึงเรียวแหลม โคนใบมนมีตอม 1 คูอยูชิดกานใบ ขอบใบหยักมน ใบหนาคลายหนัง ผิวใบเกลี้ยงทั้งสองดาน ดานบนสีเขียวเขมเปนมัน ทองใบสีชีด กานใบเรียวยาว 0.8-1.4 เซนติเมตร ผลเปนผลแหงแตก เปลือกหนาแข็ง มี 3 พู คอนขางกลม ปลายเปนติ่งแหลม เสนผานศูนยกลาง 2-3 เซนติเมตร ผลสีเขียวกอนที่จะเปลี่ยนเปนสีเทาอมน้ำตาล แตละผลมี 3 เมล็ด สรรพคุณ เมล็ด รสร้อน ขับพยาธิไส้เดือน เปลือกต้น ขับผายลม ราก แก้โลหิตระดูพิการมาไม่ปกติ ใบ ถ่ายอุจจาระธาตุ ถ่ายลมเป็นพิษ แก้โลหิตเป็นพิษ ผล แก้ลมพิษต่าง ๆ แก้ท้องเสีย แก้ธาตุพิการ แก้ซางขโมย อ้างอิง: มานพ ผู้พัฒน์ และคณะ. 2563. พืชป่าสมุนไพร. กลุ่มงานพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. บริษัท ประชาชน จำกัด, กรุงเทพฯ.
ปอทะเล ชื่ออื่น: ขมิ้นนางมัทรี ผีหยิก (เลย), บา (จันทบุรี), โพธิ์ทะเล (นนทบุรี) โพทะเล (กรุงเทพฯ ปอฝ้าย (ภาค กลาง) ปอนา ปอนาน ปอมุก ปอ ฝ้าย (ภาคใต้), ปอโฮ่งบารู (มลายู- นราธิวาส) ชื่อสามัญ: Coast cotton tree, Yellow mallow tree ชื่อพฤกษศาสตร์: Hibiscus tilliaceus L. วงศ์: MALVACEAE (วงศ์ชบา) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 เมตร ใบรูปหัวใจหรือรูปกึ่งกลางขนาด 5-20 x 5-18 เซนติเมตร ผิวใบด้านบนมีขนรูปดาวประปราย ด้านล่างปกคลุมด้วยขนรูปดาว หนาแน่น ก้านใบยาว 3-12 เซนติเมตร หูใบขนาดใหญ่ รูปใบหอก ปลายเรียวแหลม มีขน ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่งซึ่งใบร่วงไปทำให้ดูคล้ายเป็นช่อดอกแบบช่อกระจะ ริ้ว ประดับรูปถ้วย ปลายจักเป็นรูปสามเหลี่ยม 9-10 แฉก กลีบเลี้ยงรูประฆัง ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดใหญ่ สีเหลืองสด มีสีม่วงเข้มบริเวณตรงกลางด้านใน แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแดงอมส้มเมื่อใกล้โรย เกสรเพศผู้เชื่อมกันเป็นหลอด สั้นกว่ากลีบดอก ผลรูปกลมหรือรูปไข่ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2-1.5 เซนติเมตร มีขนหนานุ่ม เมล็ดรูปไต 5-7 เมล็ดต่อช่อง สรรพคุณ ใบ บดเป็นผงใส่แผลสด แผลเรื้อรัง เปลือก ทำให้อาเจียน แช่น้ำดื่มแก้โรคทางเดินอาหาร ราก แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ระบายท้อง อ้างอิง: สวนพฤกษศาสตร์คลองไผ่ สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. 2566. ข้อมูลพรรณไม้. สืบค้น 8 มีนาคม 2566, จาก http://www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/kpb.htm
เสม็ดขาว ชื่อสามัญ: Cajuput tree, Milk wood,Paper bark tree ชื่อพฤกษศาสตร์: Melaleuca quinquenervia (Cav.) S.T. Blake วงศ์: MYRTACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้ต้น สูง 5 - 25 เมตร เปลือกชั้นนอกสีขาวนวล เป็น แผ่นบาง ๆ เรียงซ้อนกันเป็นปึกหนานุ่ม เปลือกชั้นใน บาง สีน้ำตาล ยอดอ่อน กิ่งอ่อน ใบอ่อน มีขนสีขาวเป็นมันคล้ายเส้นไหม ใบเดี่ยว เรียง สลับ แผ่นใบรูปหอก กว้าง 1.5 - 4 ซม. ยาว 5 - 10 ซม. ปลายใบและโคนใบแหลม ดอก ขนาดเล็ก ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง สีขาว กลีบเลี้ยงยาว 0.3 ซม. โคนกลีบติดกัน กลีบดอกยาว 0.2 – 0.3 ซม. รูปช้อนแกมรูปไข่ กลับเกสรเพศผู้จำนวนมากยาวพ้นกลีบดอกเป็นพู่ ผล เป็นผลแห้งแตก รูปถ้วย กว้างและยาวประมาณ 0.4 ซม. สรรพคุณ ใบสดมีรสขมหอมร้อน ใช้นำมากลั่นเป็น “น้ำมันเขียว” มีสรรพคุณ ดังนี้ 1) ใช้รับประทาน ช่วยขับเสมหะ แก้หลอดลมอักเสบ 2) น้ำมันที่สกัดได้จากใบใช้เป็นยาดมเพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ 3) ใช้รับประทานเป็นยาขับลม แก้จุกเสียด ท้องอืด ท้องขึ้น ถ้ากินมากจะเป็น ยาขับพยาธิ และมีฤทธิ์ทำให้ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร 4) ใช้ทำเป็นยาหม่องแก้ปวดศีรษะ ปวดหู และใช้อุดฟันแก้ปวดฟัน 5) ช่วยขับเหงื่อ ช่วยแก้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อในกระเพาะลำไส้ ช่วยแก้ลมชัก 6) ใช้ภายนอกเป็นยารักษาโรคผิวหนัง ใช้ฆ่าเชื้อโรค และช่วยรักษาสิว 7) ใช้เป็นยาทาแก้ปวดเมื่อย บวม ทาแก้เคล็ด รักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคปวดข้อรูมาติซั่ม 8) ใช้ทาไล่ยุง ฆ่าหมัด ฆ่าเหา และฆ่าแมลง ใบและเปลือก เมื่อนำมาตำรวมกันใช้เป็นยาพอกแผลที่กลัดหนอง จะช่วยดูดหนองให้แห้งได้ หรือ ใช้ทาฆ่าเหา ฆ่าหมัด และไล่ยุงก็ได้ หรือจะใช้ใบสดตำพอกแก้เคล็ดขัดยอกฟกบวมเลยก็ได้ อ้างอิง: นิจศิริ เรืองรังษีและ ธวัชชัย มังคละคุปต์. 2547. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1. กรุงเทพฯ : บี เฮลท์ตี้.
ย่านตุด ชื่ออื่น: คดสัง จุด ชุด เบน เปือย หญ้ายอดดำ ชื่อสามัญ: - ชื่อพฤกษศาสตร์: Combretum trifoliatum Vent. วงศ์: COMBRETACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้เถาหรือพรรณไม้พุ่มเลื้อย สูงประ มาณ 3-5 ม. ส่วนกิ่งอ่อนจะมีขนนุ่มสีน้ำ ตาลแกมเหลือง เมื่อแก่ผิวจะเกลี้ยง ใบ ออกเป็นใบเดี่ยว ตรงข้อเดียวกัน รูปรี หรือรูปหอก กว้าง 3-3.5 ซ.ม. ยาว 8-16 ซ.ม. ปลายใบ แหลมมีติ่งสั้นโคนใบมน เนื้อ ใบหนาและมัน ด้านบนใบค่อนข้างเกลี้ยง ด้านล่างมีตุ่มหรือแถบของ ขนนุ่ม ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด หรือง่ามใบ ยาว 8-20 ซ.ม. ดอกมีสีขาวหรือขาวอม เหลือง มีกลิ่น หอม ผล ไม่มีก้าน ลักษณะรูปรีแคบ กว้าง 1-1.5 ซ.ม. ยาว 3-3.5 ซ.ม. ผิวเกลี้ยง มีสีดำหรือน้ำตาล เป็นมัน มีครีบปีกแข็ง ปีกกว้างประมาณ 3-4 มม. สรรพคุณ ราก ปรุงเป็นยาชงแก้ตกขาว ใช้ชำระล้างอวัยวะสืบพันธุ์สตรี เปลือกและราก ฝนกับน้ำซาวข้าว กินเป็นยาสมานลำไส้ แก้บิด แก้ท้องร่วง หรือดองเหล้ากินแก้ ปวดท้อง แก้จุกเสียด ผล ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือน ต้มน้ำอมแก้เหงือกบวม และปากเปื่อย นำผลมาผสมกับเมล็ด ข้าวโพด แล้วทำให้สุก นำมาปั้นเป็นยาลูกกลอน เอามาเคี้ยวเป็นยาบำรุงและรักษาเหงือก ทั้งต้น รักษาโรคบิด ขับพยาธิ ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 2566. คดสัง. สืบค้น 22 มีนาคม 2566, จาก https://apps.phar.ubu.ac.th/phargarden/main.php?action=viewpage&pid=29