The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสัมภาษณ์ ภาค ค ครูผู้ช่วย สพฐ. ปี 2564 โดย ธิดารัตน์ สีหะเกรียงไกร วิชาเอกภาษาไทย ศธจ.มุกดาหาร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tidaratana.s, 2022-04-20 06:37:20

แผนการจัดการเรียนรู้_สำนวนไทย ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสัมภาษณ์ ภาค ค ครูผู้ช่วย สพฐ. ปี 2564 โดย ธิดารัตน์ สีหะเกรียงไกร วิชาเอกภาษาไทย ศธจ.มุกดาหาร

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้,ภาษาไทย,สำนวนไทย,ครูผู้ช่วย

1

คานา

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทย ท15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ฉบับนี้จัดทาขึ้นเพ่ือเป็น
เอกสารประกอบการสมั ภาษณ์การประเมนิ ภาค ค ความเหมาะสมกับตาแหน่ง วิชาชีพและการปฏิบัติงานใน
สถานศึกษา สาหรับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย สังกดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ปพี ทุ ธศกั ราช 2564 โดยเอกสารฉบับนี้
ประกอบดว้ ย ความสาคญั ของรายวิชาภาษาไทย สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิชาภาษาไทย คาอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา โครงการสอน และแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อใช้
ประกอบการสาธติ การสอน

ผ้จู ดั ทาหวังเป็นอย่างยงิ่ ว่าเอกสารฉบบั นจี้ ะเปน็ เอกสารท่ีใช้ประกอบการสาธิตการสอน เพ่ือให้ผู้อ่าน
สามารถเข้าใจกระบวนการในการสอนได้อย่างชัดเจนและครอบคลุม รวมถึงเป็นประโยชน์ในการนาไปใช้ใน
การจัดการเรียนรู้ต่อไป

ธดิ ารตั น์ สีหะเกรียงไกร
ผู้จดั ทา

สารบญั 2

เร่ือง หน้า

คานา 1
ความสาคญั ของการเรยี นวิชาภาษาไทย 2
สาระ / มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ัด 5
คาอธิบายรายวิชา 6
โครงสรา้ งรายวิชา 11
โครงการสอน (หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 13 ภาษาไทยใหข้ อ้ คิด) 17
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 (หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 13)
ภาคผนวก

1

ความสาคญั ของการเรียนวิชาภาษาไทย
ตามหลักสตู รแกนกลาง

การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

เป็นเอกลักษณ์ของชาติเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้าง
บุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเคร่ืองมือในการติดต่อสื่อสารเพ่ือสร้างความเข้าใจและ
ความสัมพนั ธท์ ่ดี ีต่อกัน ทาใหส้ ามารถประกอบกจิ ธุระ การงาน และดารงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้
อย่างสันติสุข และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพื่อ
พัฒนาความรู้ พัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนาไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคงทาง
เศรษฐกิจ นอกจากน้ียังเป็นสื่อแสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี และสุนทรียภาพ
เปน็ สมบตั ิลา้ ค่าควรแก่การเรียนรู้ อนรุ ักษ์ และสบื สานใหค้ งอยูค่ ูช่ าตไิ ทยตลอดไป

เรียนรู้อะไรในภาษาไทย
ภาษาไทยเปน็ ทักษะทต่ี ้องฝึกฝนจนเกดิ ความชานาญในการใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร การเรียนรู้อย่าง

มีประสทิ ธิภาพ และเพอ่ื นาไปใชใ้ นชีวติ จริง
การอ่าน การอ่านออกเสียงคา ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คาประพันธ์ชนิดต่างๆ
การอา่ นในใจเพ่ือสร้างความเข้าใจ และการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้จากสิ่งที่อ่าน เพื่อ
นาไป ปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั
การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคาและรูปแบบต่างๆ

ของการเขียน ซงึ่ รวมถึงการเขียนเรยี งความ ยอ่ ความ รายงานชนดิ ตา่ งๆ การเขียนตามจินตนาการ
วิเคราะหว์ ิจารณ์ และเขยี นเชิงสร้างสรรค์

การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น
ความรูส้ กึ พดู ลาดบั เรือ่ งราวต่างๆ อย่างเป็นเหตเุ ป็นผล การพดู ในโอกาสต่างๆ ท้ังเป็นทาง

หลักการใช้ภาษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้อง
เหมาะสมกับโอกาสและบุคคล การแต่งบทประพันธ์ประเภทต่างๆ และอิทธิพลขอ ง
ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย

วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมูล
แนวความคิด คุณค่าของงานประพันธ์ และความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทาความเข้าใจบทเห่
บทร้องเลน่ ของเด็ก เพลงพนื้ บ้านทเี่ ปน็ ภูมปิ ัญญาที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด
ค่านยิ ม ขนบธรรมเนียมประเพณี เร่ืองราวของสงั คมในอดีต และความงดงามของภาษา เพื่อให้
เกิดความซาบซึ้งและภูมใิ จในบรรพบุรษุ ทีไ่ ดส้ งั่ สมสบื ทอดมาจนถงึ ปัจจุบัน

2

สาระ / มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวัด

สาระท่ี 1 การอา่ น ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่อื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ
มาตรฐาน ท 1.1 แก้ปญั หาในการดาเนินชีวิตและมนี สิ ัยรักการอา่ น
ท 1.1 ป.5/1 อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง
ตัวช้วี ัด ท 1.1 ป.5/2 อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความท่ีเป็น

การบรรยายและการพรรณนา
ท 1.1 ป.5/3 อธิบายความหมายโดยนยั จากเรื่องที่อา่ นอย่าง

หลากหลาย
ท 1.1 ป.5/4 แยกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จากเร่ืองทอี่ ่าน
ท 1.1 ป.5/5 วเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับเร่อื งทอ่ี า่ นเพื่อ

นาไปใช้ในการดาเนินชวี ติ
ท 1.1 ป.5/6 อา่ นงานเขียนเชิงอธบิ าย คาสง่ั ขอ้ แนะนา

และปฏิบตั ิตาม
ท 1.1 ป.5/7 อ่านหนงั สือทมี่ ีคณุ ค่าตามความสนใจอย่างสมา่ เสมอและ

แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเร่อื งท่ีอ่าน
ท 1.1 ป.5/8 มีมารยาทในการอา่ น

สาระที่ 2 การเขียน ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน
มาตรฐาน ท 2.1 เรื่องราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงาน
การศกึ ษาค้นคว้าอย่าง มีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั ท 2.1 ป.5/1 คดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั และครึง่ บรรทดั
ท 2.1 ป.5/2 เขียนส่ือสารโดยใช้คาไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน และเหมาะสม
ท 2.1 ป.5/3 เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพื่อใช้

พัฒนางานเขียน
ท 2.1 ป.5/4 เขยี นยอ่ ความจากเรือ่ งท่อี ่าน
ท 2.1 ป.5/5 เขียนจดหมายถงึ ผปู้ กครองและญาติ
ท 2.1 ป.5/6 เขยี นแสดงความร้สู ึกและความคิดเห็นได้ตรงตามเจตนา
ท 2.1 ป.5/7 กรอกแบบรายการต่างๆ
ท 2.1 ป.5/8 เขยี นเรื่องตามจนิ ตนาการ
ท 2.1 ป.5/9 มมี ารยาทในการเขียน

3

สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด

และความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
ตวั ชว้ี ดั ท 3.1 ป.5/1 พดู แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และความรู้สกึ จากเรือ่ งท่ี

ฟังและดู
ท 3.1 ป.5/2 ตงั้ คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผลจากเรอ่ื งที่ฟงั และดู
ท 3.1 ป.5/3 วิเคราะหค์ วามน่าเช่อื ถอื จากเรอื่ ง ท่ฟี ังและดู

อย่างมเี หตุผล
ท 3.1 ป.5/4 พูดรายงานเรอื่ งหรือประเด็นที่ศกึ ษาคน้ ควา้ จากการฟงั

การดู และการสนทนา
ท 3.1 ป.5/5 มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู

สาระที่ 4 หลกั การใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา

และพลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิ
ของชาติ
ตัวช้วี ัด ท 4.1 ป.5/1 ระบชุ นิดและหนา้ ทข่ี องคาในประโยค
ท 4.1 ป.5/2 จาแนกส่วนประกอบของประโยค
ท 4.1 ป.5/3 เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถ่นิ
ท 4.1 ป.5/4 ใช้คาราชาศัพท์
ท 4.1 ป.5/5 บอกคาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย
ท 4.1 ป.5/6 แต่งบทร้อยกรอง
ท 4.1 ป.5/7 ใช้สานวนได้ถกู ตอ้ ง

4

สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ ง

เห็นคุณค่าและนามาประยุกต์ใช้ในชีวติ จริง
ตัวชว้ี ัด ท 5.1 ป.5/1 สรปุ เรือ่ งจากวรรณคดหี รอื วรรณกรรมทอ่ี า่ น

ท 5.1 ป.5/2 ระบุความรู้และข้อคิดจากการอา่ นวรรณคดแี ละ
วรรณกรรมท่สี ามารถนาไปใช้ในชวี ติ จริง

ท 5.1 ป.5/3 อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรม
ท 5.1 ป.5/4 ทอ่ งจาบทอาขยานตามทก่ี าหนดและบทร้อยกรองทีม่ ี

คณุ ค่าตามความสนใจ

รวม 33 ตวั ชวี้ ดั

5

คาอธิบายรายวชิ า

รายวชิ าพน้ื ฐาน รหสั วิชา ท15101 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 160 ชัว่ โมง/ปีการศกึ ษา

ศกึ ษาคาทม่ี พี ยญั ชนะควบกลา้ คาท่ีมีอักษรนา คาท่ีมีตัวการันต์ อักษรย่อและเคร่ืองหมายวรรคตอน
ข้อความที่เป็นการบรรยายและพรรณนา ข้อความที่มีความหมายโดยนัย การอ่านบทร้อยกรองเป็นทานอง
เสนาะ สามารถแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเร่ืองที่อ่าน โดยวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรือ่ งที่อ่าน เช่น วรรณคดีในบทเรียน บทความ บทโฆษณา งานเขียนประเภทโน้มน้าวใจ ข่าวและเหตุการณ์
ประจาวัน สามารถอา่ นงานเขยี นเชงิ อธบิ าย คาสง่ั ข้อแนะนา และปฏบิ ตั ิตามได้ การคัดลายมือ และการเขียน
สื่อสารในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ คาขวัญ คาอวยพร คาแนะนาและคาอธิบายแสดงข้ันตอน การเขียนจดหมา ย
การเขียนย่อความ การเขยี นแสดงความรูส้ ึก การเขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดไปพัฒนางาน
เขยี น การกรอกแบบรายการ การเขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการ การพูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้า
การพูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และความรู้สึกจากเรื่องที่ฟังและดู รวมถึงวิเคราะห์ความน่าเช่ือถือ ต้ัง
คาถาม ตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเร่ืองที่ฟังและดูได้ รู้จักชนิดของคา ได้แก่ คาบุพบท คาสันธาน คาอุทาน
ประโยคและส่วนประกอบของประโยค˜ ภาษาไทยมาตรฐาน˜ ภาษาถ่ิน คาราชาศัพท์ คาท่ีมาจาก
ภาษาต่างประเทศ กาพย์ยานี 11 สานวนที่เป็นคาพังเพยและสุภาษิต มีความรู้ สรุปเรื่องและข้อคิดจาก
วรรณคดีและวรรณกรรม นิทานพ้ืนบ้าน นิทานคติธรรม เพลงพ้ืนบ้าน วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียน
และตามความสนใจท่องจาบทอาขยานตามทีก่ าหนดและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณค่าตามความสนใจ

โดยวิธีการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง การอ่านจับใจความ ใช้ กระบวนการทางภาษา
กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการกลมุ่ ให้เกิดองคค์ วามรู้ ความเข้าใจ มีมารยาทในการฟัง ดู พูด อ่าน
และเขยี น เพื่อใหต้ ระหนักในคุณค่าของภาษาไทย เข้าร่วมหรือจัดกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม

เพ่ือให้มีความความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ ทักษะและลักษณะตามมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่ม
สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ดงั นี้

รวมทั้งหมด 33 ตัวช้วี ัด
ท 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7, ป.5/8

ท 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7, ป.5/8, ป.5/9
ท 3.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
ท 4.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7
ท 5.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4

6

โครงสรา้ งรายวชิ า
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท15101 เวลา 80 ชัว่ โมง
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐาน สาระการเรียนรู้ จานวน น้าหนัก
ที่ การเรียนรู้ การเรียนรู/้ ชวั่ โมง คะแนน
- คาท่ีมพี ยญั ชนะควบกลา้
ตัวชี้วดั -คาที่มีอกั ษรนา 8 10
-คาทมี่ ีตวั การันต
1 ทบทวนอา่ น ท1.1 ป.5/1 -อกั ษรยอและเครื่องหมายวรรคตอน

เขยี นเรียนรู้ ท1.1 ป.5/2

หลกั ภาษา

2 ฝกึ อา่ นเขียน ท4.1 ป.5/1 -ทบทวนชนิดของคา (คานาม คากรยิ า คา 8 10

เรยี นรูภ้ าษา สรรพนาม คาวิเศษณ์) 6 8

(1) -คาบุพบท 6 8
3 4
-คาเชือ่ ม 4 6

-คาอทุ าน

3 ฝกึ อา่ นเขยี น ท 4.1 ป.5/1 -ระบชุ นิดและหนา้ ท่ขี องคาในประโยค

เรยี นรูภ้ าษา ท 4.1 ป.5/2 -จาแนกส่วนประกอบของประโยค

(2) -เขยี นสอื่ สารโดยใช้คาได้ถกู ตอ้ งชัดเจน

และเหมาะสม

ท 2.1 ป.5/2

4 ฝึกอ่านเขียน ท 1.1 ป.5/2 -ประโยคและขอ้ ความทเ่ี ป็นการบรรยาย

เรียนรู้ภาษา และการพรรณนา

(3) -เขียนแสดงความรู้สกึ และความคดิ เห็นได้

ท 2.1 ป.5/6 ตรงตามเจตนา

5 เรยี นรู้คา ท 4.1 ป.5/3 -เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษา

พินจิ ความ ถ่นิ

6 คา ท 4.1 ป.5/5 -คาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย

ต่างประเทศ (บาลีสนั สกฤต/จนี /เขมร/องั กฤษ)

ในภาษาไทย

7

หนว่ ย ชอื่ หนว่ ย มาตรฐาน สาระการเรียนรู้ จานวน นา้ หนัก
ที่ การเรยี นรู้ การเรยี นรู/้ ชวั่ โมง คะแนน

ตัวช้ีวดั

7 เรยี นรู้ ท 4.1 ป.5/4 -การใช้คาราชาศพั ท์ 6 6
-คาสภุ าพ 6 6
ระดบั ภาษา -อ่านงานเขยี นเชิงอธิบาย คาส่ัง
ขอ้ แนะนา และปฏิบตั ิตาม 4 6
8 รจู้ กั เอกสาร ท 1.1 ป.5/6 -กรอกแบบรายการต่าง ๆ
-การตั้งคาถาม-ตอบคาถามเชงิ เหตุผลจาก
หลากรูปแบบ เรื่องทีฟ่ ังและดู
-วิเคราะห์ความนา่ เชอ่ื ถือจากเร่อื งทฟี่ ัง
ท 2.1 ป.5/7 และดูอย่างมีเหตุผล

9 เสพสือ่ อยา่ ง ท3.1 ป.5/1

สร้างสรรค์ มี ท3.1 ป.5/2

วจิ ารณญาณ ท3.1 ป.5/3

(1) ท3.1 ป.5/4

ท3.1 ป.5/5

10 เสพสื่ออยา่ ง ท1.1 ป.5/3 -อธบิ ายความหมายโดยนัยจากเร่อื งที่อา่ น 7 6
อย่างหลากหลาย (บทความ ข้อเขยี น จาก 4 6
สร้างสรรค์ มี ท1.1 ป.5/4 แหลง่ ต่าง ๆ)
-แยกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเห็นจากเรอื่ งท่ี
วิจารณญาณ ท1.1 ป.5/5 อา่ น
-วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับ
(2) เร่อื งที่อา่ นเพื่อนไปใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ
การอา่ นจับใจความ
11 การเขียน ท2.1 ป.5/1 -การคดั ลายมอื ตวั บรรจงครึง่ บรรทัด
จดหมาย ท2.1 ป.5/2 -การเขียนส่ือสาร
ท.2.1 ป.5/5 -การเขยี นจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ
12 ร้อยกรอง ท 2.1 ป.5/9
ร้อยคุณคา่ ท4.1 ป.5/6 -การแต่งบทร้อยกรอง (กาพยย์ านี 11) 6 8
ภาษาไทย -ระบุข้อคิดจากการอ่านวรรณกรรม (บท
ท5.1 ป.5/2 อาขยานหลัก วิชาเหมอื นสนิ ค้า)
ท5.1 ป.5/4 -อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง
-อธิบายความหมายของคา

ท1.1 ป.5/1

ท1.1 ป.5/2

หนว่ ย ชือ่ หน่วย มาตรฐาน 8
ที่ การเรยี นรู้
13 ภาษาไทยให้ การเรียนร/ู้ สาระการเรียนรู้ จานวน น้าหนัก
ข้อคดิ ชว่ั โมง คะแนน
ตัวช้วี ัด
14 เรียนรู้ 68
วรรณกรรม ท.4.1 ป.5/7 -สานวน สุภาษติ คาพังเพย
68
ท 5.1 ป.5/1 - เรยี นรวู้ รรณคดีและท่องบทอาขยาน
80
ท 5.1 ป.5/2 เรอื่ ง โคลงโลกนติ ิ 40
30
ท 5.1 ป.5/3 -ระบุข้อคดิ จากการอา่ นวรรณกรรม 30

ท 5.1 ป.5/4 160 100

ท5.1 ป.5/1 -เรยี นรปู้ ระเภทของวรรณกรรม

ท5.1 ป.5/2 -สรปุ เรอ่ื งจากวรรณกรรม

ท5.1 ป.5/3 -ระบขุ ้อคิดจากวรรณกรรม

ท 1.1 ป.5/8 (นิทานกระเช้าสีดา)

-นทิ านพ้ืนบ้าน 4 ภาค /ต่างประเทศ

รวมตลอดภาคเรียน

คะแนนเก็บจากผลงาน

คะแนนทดสอบระหวา่ งเรียน

คะแนนสอบปลายภาคเรียน

รวมคะแนนตลอดปี

9

โครงสรา้ งรายวชิ า
รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท15101 เวลา 80 ช่ัวโมง
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน สาระการเรียนรู้ จานวน นา้ หนัก
ท่ี การเรียนรู้ การเรยี นร้/ู ตัวชีว้ ัด ช่วั โมง คะแนน

1 เขยี นสือ่ สาร ท1.1 ป.5/1 -คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั 88

ผ่านภาษา ท2.1 ป.5/1 และครงึ่ บรรทดั

ท2.1 ป.5/2 -เขียนส่อื สารโดยใช้คาได้ถูกต้องชัดเจน

ท2.1 ป.5/3 และเหมาะสม (การเขียนคาขวญั การ

เขยี นอวยพร)

-การใชพ้ จนานกุ รม

-มีมารยาทในการเขียน

2 วรรณคดี ท1.1 ป.5/1 -เรยี นรูแ้ ละทอ่ งบทอาขยานวรรณคดี 8 12

มีคณุ ค่า ท 1.1 ป.5/2 เรอื่ งสังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์

นา่ พนิ ิจ ท5.1 ป.5/1 -คาไวพจน์

ท5.1 ป.5/2 -อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ย

ท5.1 ป.5/3 กรองได้ถกู ตอ้ ง

ท5.1 ป.5/4 -อธิบายความหมายของคาได้

3 ย่อความให้ ท2.1 ป.5/2 เขยี นย่อความจากเร่ืองท่ีอ่าน (นิทาน 5 10

ไดค้ วาม ท 1.1 ป.5/4 ความเรียงประเภทตา่ ง ๆ)

4 ผูร้ ู้ดเี ปน็ ผู้ ท5.1 ป.5/1 -เรียนรู้และทอ่ งบทอาขยาน 8 10

เจรญิ ท5.1 ป.5/2 ผ้รู ดู้ ีเปน็ ผู้เจริญ

ท3.1 ป.5/1 -พดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็

ท3.1 ป.5/4 และความร้สู กึ จากเรื่องท่ฟี ังและดู

ท3.1 ป.5/5 -พดู รายงานเรือ่ งหรอื ประเดน็ ท่ีศึกษา

คน้ ควา้ จากการฟงั การดู และ

การสนทนา

-มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด

5 กาเนดิ ท5.1 ป.5/1 -เรยี นรู้วรรณคดี เร่ือง ราชาธิราช ตอน 8 10

มะกะโท ท5.1 ป.5/2 กาเนดิ มะกะโท

ท 5.1 ป.5/3 -มคี วามสามารถในการเขียนสอื่ สารผ่าน

ท2.1 ป.5/2 การทากิจกรรมในบทเรียน

10

หนว่ ย ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน สาระการเรยี นรู้ จานวน นา้ หนัก
ที่ การเรยี นรู้ การเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด ช่ัวโมง คะแนน

6 สร้างสรรค์ ท 2.1 ป.5/3 -เขยี นแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพ 8 12

ประพนั ธ์ ท 2.1 ป.5/8 ความคิดเพ่อื ใช้พฒั นางานเขียน

เร่ืองราว ท 1.1 ป.5/7 -เขียนเร่อื งตามจินตนาการ

ท 1.1 ป.5/8 -อ่านหนงั สอื ท่ีมคี ุณคา่ ตามความสนใจ

อย่างสม่าเสมอและแสดงความคดิ เห็น

เกยี่ วกบั เรื่องที่อา่ น

-มีมารยาทในการอ่าน

7 เถลงิ ประเทศ ท 5.1 ป.5/1 -เรยี นรู้เกย่ี วกับเพลงชาติไทยและ 8 10

ชาติไทยทวีมี ท 5.1 ป.5/2 ต่างชาติ

ชยั ชโย ท 5.1 ป.5/3 -ฝกึ ร้องเพลงชาติให้ถูกต้อง

ท 5.1 ป.5/4 -การคัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั

ท 2.1 ป.5/1 รู้จักเพลงพ้ืนบ้าน/ฝกึ ร้องเพลงพ้นื บ้าน

8 ตนเปน็ ทพี่ ึ่ง ท 5.1 ป.5/1 -เรยี นรู้และทอ่ งบทอาขยาน เรอื่ ง ตน 10 10

แหง่ ตน ท 5.1 ป.5/2 เปน็ ทพี่ ึ่งเป็นตน

ท 5.1 ป.5/3 การเขียนเรยี งความ โดยใช้การใช้

ท 5.1 ป.5/4 แผนภาพความคิด

ท2.1 ป.5/2 พดู ในประเดน็ เกีย่ วกบั ตนเปน็ ทพ่ี งึ่

ท 3.1 ป.5/1 แห่งตน

9 รู้เสพ ท 3.1 ป.5/1 -รจู้ ักคอนเทนตห์ รือ่ สอ่ื ออนไลน์ประเภท 8 10

รสู้ รา้ งสรรค์ ท 3.1 ป.5/3 ต่าง ๆ

เท่าทัน ท 3.1 ป.5/4 -เรียนรู้วธิ ีรู้เท่าทันส่ือ

คอนเทนต์ ท 3.1 ป.5/5 -สร้างสรรคค์ อนเทนต์ด้วยตนเองโดย

บรู ณาการความรู้ภาษาไทย (การพูด

เขยี น อา่ น) เช่น การรายงานขา่ ว ทา

คลปิ ให้ความรู้

10 เรยี นรู้ผ่าน ท 2.1 ป.5/1 เรยี นรูว้ ิธกี ารศึกษาค้นคว้าเกย่ี วกบั 9

โครงงาน ท 2.1 ป.5/2 ปญั หาภาษาไทยผ่านการลงมือทา 10

ท 3.1 ป.5/4 โครงงาน

ท 3.1 ป.5/5

รวมตลอดภาคเรียน 80 100

โครงกา
รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 13 ภาษาไท

หนว่ ย ชอื่ หน่วย แผนการจดั การ มาตรฐาน สาระสาคญั
ที่ การเรียนรู้ เรยี นรู้ การเรียนรู/้
สานวน หมายถงึ ถ้อยค
ตวั ชวี้ ดั ทีก่ ะทัดรัด คมคายกนิ ใจ
ผู้ฟัง มีความหมายลกึ ซึ้ง
13 ภาษาไทยให้ แผนการจดั การ ท.4.1 ป.5/7 สุภาษิต คือ คากล่าวทมี่
ข้อคิด เรียนรูท้ ่ี 1 คตสิ อนใจ มจี ดุ มุ่งหมาย
เพ่ือการสัง่ สอน คา
พงั เพย คือ ถอ้ ยคาท่ี
เปรียบเทยี บเหตุการณ์
หรอื เร่ืองราวตา่ งๆ ท่ีพบ
เหน็ ไดใ้ นการดารงชวี ติ
ของผคู้ นในอดตี

11

ารสอน
15101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5
ทยใหข้ ้อคิด (จานวน 6 ชั่วโมง)

จานวน กิจกรรมและ การวดั และประเมนิ ผล
ช่วั โมง สื่อการสอน
วธิ ีการวดั เครอื่ งมอื

คา 1 1. ทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรู้ 1. ทดสอบก่อน 1.แบบทดสอบกอ่ น

จ ที่ 13 ภาษาไทยใหข้ ้อคดิ เรียน เรียน หน่วยการ

ง 2.กจิ กรรมกลุม่ และสือ่ ประกอบ ให้ เรยี นรู้ที่ 13

มี นกั เรยี นจบั คสู่ านวนกบั ภาพหรือ 2. สังเกต 2.แบบบนั ทกึ

ย ความหมาย พฤติกรรมใน คะแนนการ

3. สนทนาและอภปิ รายเกีย่ วกับ การปฏิบตั ิงาน ปฏิบัติงานกลุ่ม

สานวน สุภาษติ คาพงั เพย กลุม่

3. ใบงานจับคู่สานวนไทยและ 3.ประเมิน 3. แบบประเมนิ

บ ความหมายของสานวนไทย คะแนนจากใบ คะแนนใบงาน

4. ใบความรเู้ รือ่ ง สานวน สุภาษิต คา งาน

พงั เพย 4. ประเมนิ 4.แบบประเมนิ

5. หนังสอื สานวนไทย คณุ ลักษณะอัน คณุ ลกั ษณะอันพึง

พงึ ประสงค์ ประสงค์

หนว่ ย ชอ่ื หน่วย แผนการจัดการ มาตรฐาน สาระสาคัญ
ท่ี การเรียนรู้ เรียนรู้ การเรยี นรู/้

ตวั ช้ีวัด

แผนการจัดการ ท.4.1 ป.5/7 สานวน หมายถงึ ถ้อยค
เรียนรูท้ ี่ 2 ทีก่ ะทดั รัด คมคายกนิ ใจ
ผู้ฟงั มคี วามหมายลกึ ซ้ึง
สุภาษิต คอื คากลา่ วทีม่
คติสอนใจ มจี ุดมงุ่ หมาย
เพือ่ การสัง่ สอน คา
พงั เพย คอื ถ้อยคาท่ี
เปรียบเทยี บเหตกุ ารณ์
หรือเร่อื งราวต่างๆ ทพ่ี บ
เหน็ ได้ในการดารงชีวิต
ของผ้คู นในอดีต

12

จานวน กิจกรรมและ การวัดและประเมนิ ผล
ชั่วโมง สือ่ การสอน
วิธกี ารวดั เครื่องมอื

5.แบบประเมิน 5.แบบประเมิน
สมรรถนะของ สมรรถนะของ
ผเู้ รียน ผ้เู รียน

คา 1 1. ใบงาน “จบั คู่สานวนไทยและ 1.สังเกต 1.แบบสงั เกต

จ ความหมายของสานวนไทย” พฤติกรรมใน พฤติกรรมในการ

ง 2. ปูายเคร่อื งหมาย ถูก/ผิด ประกอบ การปฏบิ ัติงาน ปฏิบตั งิ านกลุ่ม

มี กจิ กรรมนาเข้าสู่บทเรยี น กล่มุ 2. แบบประเมิน

ย 3. กิจกรรมกลุ่ม (ให้นักเรยี นคน้ คว้า 2. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ

และจัดทาผลงานลงในกระดาษพรฟู คณุ ลักษณะอัน ประสงค์

เรอ่ื ง สานวนไทยตามหมวดต่าง ๆ พึงประสงค์ 3.แบบประเมิน

เช่น สานวนท่ีเกีย่ วกบั การพูด สานวน 3.ประเมนิ สมรรถนะของ

บ ท่มี ีคาวา่ นา้ เป็นต้น) สมรรถนะของ ผเู้ รยี น

4. กิจกรรมการด์ เกมทบทวนความรู้ : ผู้เรียน

“ชงิ ชยั ! สานวนไทย”

หน่วย ช่ือหนว่ ย แผนการจดั การ มาตรฐาน สาระสาคัญ
ที่ การเรยี นรู้ เรยี นรู้ การเรยี นร้/ู

ตัวชี้วัด

แผนการจัดการ ท.4.1 ป.5/7 สานวนไทย หมายถึง
เรยี นรู้ท่ี 3 ถอ้ ยคาทก่ี ะทดั รดั คม
คายกนิ ใจผฟู้ งั มี
ความหมายลึกซ้ึง
สภุ าษติ คอื คากลา่ วทม่ี
คติสอนใจ มีจดุ มุง่ หมาย
เพ่ือการส่ังสอน คา
พังเพย คือ ถ้อยคาท่ี
เปรียบเทยี บเหตุการณ์
หรือเรื่องราวตา่ งๆ ทพี่ บ
เหน็ ได้ในการดารงชวี ิต
ของผคู้ นในอดตี

13

จานวน กิจกรรมและ การวัดและประเมนิ ผล
ชั่วโมง ส่อื การสอน
วิธกี ารวดั เครื่องมือ

1 1. ใบความรู้เร่ือง สานวน สุภาษติ 1. สังเกต 1.แบบบันทึก

คาพังเพย พฤตกิ รรมใน คะแนนการ

2. ส่อื ประกอบกจิ กรรมเกม “ภาพ การปฏิบัตงิ าน ปฏบิ ัตงิ านกลุ่ม

บอกใบ้ทายสานวน” กลุ่ม

มี 3.ภาพ/ปาู ยข้อความ จาก ส่ือ 2.ประเมนิ 2. ใบงานประเภท

ย ออนไลน์ ข่าว ละคร การ์ตนู ฯลฯ คะแนนจากใบ เตมิ คาตอบ

4. ปาู ยสานวนไทย งาน

5. ใบงาน “เติมสานวนจาก 3. ประเมิน 3.แบบประเมิน

สถานการณ์” คุณลกั ษณะอัน คณุ ลักษณะอันพงึ

บ 6. กิจกรรมเกมกระดาน “ภารกิจพิชิต พงึ ประสงค์ ประสงค์

สานวนไทย”

4.ประเมิน 4.แบบประเมนิ

สมรรถนะของ สมรรถนะของ

ผู้เรยี น ผู้เรียน

หน่วย ช่ือหนว่ ย แผนการจดั การ มาตรฐาน สาระสาคัญ
ที่ การเรยี นรู้ เรยี นรู้ การเรียนรู/้

ตัวชวี้ ัด

แผนการจัดการ ท.4.1 ป.5/7 โคลงโลกนติ ิเปน็ สุภาษิต
เรียนรู้ท่ี 4 ท 5.1 ป.5/1 เก่าแกท่ ม่ี มี าต้งั แต่สมยั
โบราณ ไดม้ ีการแปล
ท 5.1 ป.5/2 จากคมั ภีร์ตา่ ง ๆ แตง่
ท 5.1 ป.5/3 เป็นคาโคลงรวมเปน็
ท 5.1 ป.5/4 เรื่องเรียกว่า โคลง
โลกนิติ ต่อมาในสมัย
พระบาทสมเดจ็ พระนั่ง
เกล้าเจ้าอยู่หวั (รัชกาลท
3) ได้โปรดเกลา้ ฯ ให้
ชาระโคลงโลกนิติข้ึนมา
ใหม่

14

จานวน กจิ กรรมและ การวัดและประเมนิ ผล
ชวั่ โมง สื่อการสอน
วิธีการวดั เครื่องมอื

ต 1 1. หนงั สอื วรรณคดีลานาช้นั ป.5 1.การสงั เกต 1.แบบสงั เกตและ
2. สื่อประกอบการสอนเร่ือง โคลง และประเมินผล ประเมินผล
โลกนติ ิ พฤติกรรม พฤตกิ รรม
รายบุคคล รายบุคคล
2.ประเมิน 2.แบบประเมนิ
คุณลกั ษณะอนั คุณลกั ษณะอนั พงึ
พงึ ประสงค์ ประสงค์
3.ประเมิน 3.แบบประเมนิ

ที่ สมรรถนะของ สมรรถนะของ
ผู้เรยี น ผูเ้ รียน

หน่วย ช่ือหนว่ ย แผนการจดั การ มาตรฐาน สาระสาคัญ
ที่ การเรยี นรู้ เรยี นรู้ การเรียนรู/้

ตัวชวี้ ัด

แผนการจัดการ ท.4.1 ป.5/7 โคลงโลกนติ เิ ป็นสุภาษิต
เรียนรู้ท่ี 5 ท 5.1 ป.5/1 เกา่ แก่ทมี่ ีมาต้ังแต่สมัย
โบราณ ได้มีการแปล
ท 5.1 ป.5/2 จากคมั ภรี ์ต่าง ๆ แตง่
ท 5.1 ป.5/3 เป็นคาโคลงรวมเปน็
ท 5.1 ป.5/4 เรื่องเรียกวา่ โคลงโลก
นิติ ตอ่ มาในสมยั
พระบาทสมเด็จพระนัง่
เกล้าเจ้าอยู่หวั (รัชกาลท
3) ได้โปรดเกลา้ ฯ ให้
ชาระโคลงโลกนติ ิขึ้นมา
ใหม่

15

จานวน กจิ กรรมและ การวัดและประเมนิ ผล
ช่วั โมง สอื่ การสอน
วิธกี ารวดั เครื่องมอื

ต 1 1. หนงั สอื วรรณคดลี านาชั้น ป.5 1.การสังเกต 1.แบบสงั เกตและ
2. ส่อื ประกอบการสอนเรอ่ื ง โคลง และประเมินผล ประเมนิ ผล
โลกนิติ พฤติกรรม พฤติกรรม
3. ใบงาน “ถอดความหมายโคลงโลก รายบคุ คล รายบุคคล
นติ ิ” 2.ประเมิน 2.แบบประเมิน
คุณลักษณะอนั คุณลกั ษณะอนั พงึ
พึงประสงค์ ประสงค์
3.ประเมนิ 3.แบบประเมิน

ท่ี สมรรถนะของ สมรรถนะของ
ผูเ้ รียน ผเู้ รียน

า 4.ประเมนิ 4.แบบประเมนิ
คะแนนจากใบ คะแนนจากใบงาน
งาน

หน่วย ช่ือหนว่ ย แผนการจดั การ มาตรฐาน สาระสาคัญ
ที่ การเรยี นรู้ เรยี นรู้ การเรียนรู/้

ตัวชวี้ ัด

แผนการจัดการ ท.4.1 ป.5/7 โคลงโลกนติ เิ ป็นสุภาษิต
เรียนรู้ท่ี 6 ท 5.1 ป.5/1 เกา่ แก่ทมี่ ีมาต้ังแต่สมัย
โบราณ ได้มีการแปล
ท 5.1 ป.5/2 จากคมั ภรี ์ต่าง ๆ แตง่
ท 5.1 ป.5/3 เป็นคาโคลงรวมเปน็
ท 5.1 ป.5/4 เรื่องเรียกวา่ โคลงโลก
นติ ิ ตอ่ มาในสมยั
พระบาทสมเด็จพระนัง่
เกล้าเจ้าอยู่หวั (รัชกาลท
3) ได้โปรดเกลา้ ฯ ให้
ชาระโคลงโลกนติ ขิ ึ้นมา
ใหม่

16

จานวน กิจกรรมและ การวัดและประเมินผล
ชัว่ โมง ส่ือการสอน
วิธีการวัด เครอื่ งมือ

ต 1 1. หนงั สอื วรรณคดีลานาชัน้ ป.5 1.สังเกต 1.แบบสงั เกต

2. สอ่ื ประกอบกจิ กรรม “คน้ คาโคลง พฤตกิ รรมใน พฤติกรรมในการ

คน้ ความคดิ ใน โคลงโลกนิติ” การปฏิบตั ิงาน ปฏบิ ตั งิ านกลุ่ม

3. ใบงาน “โคลงโลกนติ ิที่ฉนั ชอบ” กลุ่ม 2.แบบประเมนิ

2.ประเมนิ คุณลักษณะอันพึง

คุณลักษณะอนั ประสงค์

พงึ ประสงค์ 3.แบบประเมิน

3.ประเมิน สมรรถนะของ

ท่ี สมรรถนะของ ผู้เรยี น

ผเู้ รยี น 4.แบบประเมิน

4.ประเมิน คะแนนจากใบงาน

คะแนนจากใบ 5.แบบทดสอบหลัง

งาน เรียน หนว่ ยการ

5.ทดสอบหลัง เรียนรู้ท่ี 13

เรยี น หนว่ ย

การเรยี นรู้ท่ี 13

17

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 วชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท15101
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 13 เร่อื ง ภาษาไทยให้ข้อคิด เวลาเรียน 1 ชั่วโมง
สอนวันที่ เวลา น.

1. สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด
สาระที่ 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา
และพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติ
ของชาติ
ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ท4.1 ป.5/7 ใชส้ านวนไดถ้ กู ต้อง

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) บอกความหมายของสานวน สภุ าษติ คาพังเพยได้ (K)
2) เปรียบเทยี บสานวน สุภาษติ คาพังเพยกบั เหตุการณต์ ่าง ๆ
ในชีวิตประจาวัน ไดถ้ ูกต้อง (K)
3) ใช้สานวนไดเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ทก่ี าหนดให้ (P)
4) นกั เรยี นมีความใฝุรู้และมุ่งมัน่ ในการทางาน (A)

3. สาระสาคัญ
สานวนไทย เป็นถ้อยคาที่กะทัดรัด คมคายกินใจผู้ฟัง มีความหมายลึกซ้ึง สุภาษิตเป็นคากล่าวที่มีคติ

สอนใจ มีจุดมุ่งหมายเพื่อการสั่งสอน คาพังเพยเป็นถ้อยคาท่ีเปรียบเทียบเหตุการณ์ หรือเร่ืองราวต่าง ๆ
ที่พบเห็นได้ในการดารงชวี ติ ประจาวัน

4. สาระการเรยี นรู้
สานวน สุภาษติ คาพงั เพย

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝุเรียนรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทางาน

18

6. สมรรถนะของผู้เรียน
1. ทักษะในการสื่อสาร
2. ทักษะการคิด

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
จัดการเรียนการสอนโดยใชแ้ นวคิดสมองเปน็ ฐาน (Brain-based Learning : BBL)
1) ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm Up)
คุณครนู าเข้าส่บู ทเรียนดว้ ยกิจกรรม “ภาพนีม้ ีสานวน” มวี ธิ ีการทากิจกรรม คอื
1.1) คณุ ครูนาภาพปรศิ นาติดบนกระดาน หรอื นาขนึ้ บนจอภาพ แล้วใหน้ ักเรียนรว่ มกันทาย
ว่า เป็นสานวนใด นกั เรยี นตอบสานวนและความหมาย เพ่ือทบทวนเน้อื หาในช่วั โมงเรยี นที่ผ่านมา
1.2) หากนักเรียนทายถูกก็เลน่ ซา้ โดยเปลี่ยนภาพใหม่ ประมาณ 5-6 ขอ้
ตัวอยา่ ง

เฉลย : กนิ ปูนรอ้ นท้อง หมายถึง ทาอาการมพี ิรุธเองแสดงอาการเดอื ดร้อนข้ึนเอง

2) ขัน้ นาเสนอความรู้ (Present)
2.1) คณุ ครูแจ้งจดุ ประสงค์ ขอบข่ายเนอื้ หาและการทากิจกรรมใหน้ กั เรยี นทราบ
2.2) สอบถามนักเรยี น เพอื่ ทบทวนเนอื้ หาเดิม โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนลองยกตวั อยา่ ง
สานวนและความหมายท่ีจาได้ จากนน้ั คุณครใู ชค้ าถาม
- นกั เรยี นคดิ วา่ มีการนาสานวนไทยไปใช้เม่ือไหร่
- นักเรยี นเคยพบการใชส้ านวนในส่อื ประเภทใดบ้าง
คุณครูเปดิ ภาพขา่ วหรือส่ือประเภทอืน่ ๆ ท่มี กี ารนาสานวนไปใช้ พร้อมอธิบาย
ประกอบให้นกั เรยี นทราบวา่ มีการนาสานวนไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั เพอ่ื เปรยี บเทียบกับ
เหตกุ ารณ์เรอ่ื งราว เพ่ือการส่อื สาร เพื่อเป็นเทคนิคการนาเสนอ
คณุ ครยู กปาู ยขอ้ ความทีเ่ ป็นสานวนไทย แลว้ สอบถามนกั เรียน
- สานวนนห้ี มายความว่าอย่างไร
- นกั เรียนคิดว่าสานวนนเ้ี กีย่ วกับเหตกุ ารณใ์ ด
ในขั้นตอนน้ีใหน้ กั เรยี นใชใ้ บงานจากแผนการเรยี นรู้ท่ี 1 ประกอบได้
จากนนั้ ลองยกภาพเหตุการณ์จาก สอ่ื ออนไลน์ ข่าว ละคร การ์ตนู ฯลฯ แลว้ ให้
นกั เรียนลองคิดดูวา่ จะใช้สานวนใดให้เช่ือมโยงกับภาพ พรอ้ มบอกเหตุผล

19

3) ข้นั ลงมือเรียนรู้ ฝึกทา ฝกึ ฝน (Practice)
คุณครูพานักเรยี น ทากิจกรรม “คไู่ หนใช่เลย” มวี ิธีการทากิจกรรม คือ
3.1) คณุ ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กล่มุ ละ 3-4 คน
3.2) แจกอุปกรณป์ ระกอบการทากิจกรรม “คู่ไหนใชเ่ ลย” กลุ่มละ 1 ชุด
(กระดานสานวน+แผน่ ภาพสถานการณ์)
3.3) ให้แต่ละกลุ่มจบั คภู่ าพสถานการณ์กบั สานวนใหถ้ ูกต้อง โดยวางภาพลงบนขอ้ ความ
จับเวลา ไม่เกิน 10 นาที
3.4) เฉลยกิจกรรมรว่ มกันพรอ้ มอภปิ รายเหตผุ ลการเลือกจับคูภ่ าพกับสานวน

4) ขัน้ สรุปความรู้ (Summary)
คณุ ครแู จกใบงาน “เตมิ สานวนจากสถานการณ์” ให้นักเรยี นคนละ 1 ชุด

5) ขน้ั ประยกุ ต์ แลกเปลี่ยนรู้ (Apply)
5.1) คุณครูพานกั เรียน ทากจิ กรรมเกมกระดาน “ภารกจิ พิชติ สานวนไทย”
มีวธิ กี ารทากิจกรรม คอื
1. คุณครูแบ่งนกั เรียนเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน
2. แจกอุปกรณป์ ระกอบการทากิจกรรม
3. นักเรียนทอยลกู เต๋าแลว้ ใช้ตัวเดนิ เดินตามกระดานของเกมตามจานวนที่ได้
4. ทาภารกิจตามทไี่ ดร้ บั จากการด์ เกม ซึง่ มกี ารด์ 4 สี เดินไปตกในชอ่ งสไี หน
หยิบการด์ สนี น้ั
5. เลน่ ไปเรอื่ ย ๆ จนครบเวลาที่คุณครกู าหนด แล้วนับคะแนนตามตวั เลขบนการ์ด
ทีแ่ ต่ละคนไดร้ ับ
5.2) ครูและนักเรยี นสรุปการเรียนร้รู ่วมกัน โดยคุณครูใช้คาถาม ตอ่ ไปนเี้ พ่อื ชว่ ย
กระตนุ้ ความคิด
- นกั เรียนคดิ วา่ สานวนไทยมีประโยชน์ในเรื่องใดบา้ ง
- การเรยี นรสู้ านวนไทยสง่ ผลอย่างไรต่อการสอ่ื สาร
- นักเรยี นจะนาสานวนไทยไปใชใ้ นเหตุการณใ์ ดบ้าง เพราะอะไร
5.3) คุณครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ การเรียนในหนว่ ยการเรียนรู้ จะนาไปตอ่ ยอดในชัว่ โมงตอ่ ไป
(โคลงโลกนิต)ิ

20

8. ส่ือการเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้
1. ใบความรเู้ รอ่ื ง สานวน สุภาษติ คาพังเพย
2. สอื่ ประกอบกจิ กรรมเกม “ภาพน้ีมีสานวน”
3. ภาพ/ปาู ยข้อความ จาก สอื่ ออนไลน์ ข่าว ละคร การ์ตูน ฯลฯ
4. ปูายสานวนไทย
5. ใบงาน “เตมิ สานวนจากสถานการณ์”
6. อุปกรณ์ประกอบกจิ กรรมเกมกระดาน “ภารกจิ พชิ ติ สานวนไทย”
7. อุปกรณ์ประกอบกจิ กรรมเกมกระดาน “คูไ่ หนใช่เลย”

9. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์การวัด
พทุ ธิพิสยั (K) ตรวจใบงานประเภทเตมิ ใบงานประเภทเตมิ
1.บอกความหมายของ คาตอบ คาตอบ ได้คะแนน
สานวน สภุ าษิต คา ร้อยละ 70 ขึ้นไป
พังเพยได้ 1. สังเกตพฤตกิ รรมใน 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์
2. เปรียบเทียบสานวน การปฏบิ ตั ิงานกลุ่ม ในการปฏบิ ัติงานกลมุ่
สภุ าษิต คาพงั เพยกบั 2. ประเมินสมรรถนะของ 2. แบบประเมนิ 1. ประเมนิ การ
เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ใน ผู้เรยี น สมรรถนะของผเู้ รียน ปฏิบตั ิงานกลุ่ม
ชวี ิตประจาวนั ได้ถูกตอ้ ง รอ้ ยละ 70 ผา่ นเกณฑ์
ทักษะพิสยั (P) 2. อย่ใู นระดบั คณุ ภาพ
3. อธิบายการนาสานวน ดี ข้นึ ไป
ไปใชใ้ นสถานการณ์ต่างๆ
ได้

จิตพสิ ยั (A) 1. ประเมินคะแนน 1. แบบประเมินคะแนน 1. ประเมินการ
4. นกั เรยี นมีความใฝรุ ู้ ใบงาน ใบงาน ปฏิบตั งิ านกลุ่ม
และมุ่งมั่นในการทางาน 2. ประเมินคณุ ลักษณะ 2. แบบประเมนิ รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์ คุณลักษณะอันพึง 2. อยู่ในระดบั คณุ ภาพ ดี
ประสงค์ ขนึ้ ไป

21

10. บันทกึ ผลหลังการสอน
10.1 สรุปผลการเรียนการสอน
1. นักเรียนจานวน........................คน
ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ..............คน คิดเป็นร้อยละ.................................
ไม่ผ่านจดุ ประสงค์............................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................................
ไดแ้ ก่
1. ...........................................................................................
2. .........................................................................................
นักเรียนทีม่ ีความสามารถพิเศษได้แก่
1. ..........................................................................................
2. ..........................................................................................
10.2 ผลการจัดการเรียนรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 ปญั หา/อปุ สรรค /แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

10.4 ขอ้ เสนอแนะ
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชอ่ื
(นางสาวธิดารตั น์ สหี ะเกรยี งไกร)
ตาแหนง่ ครู

22

ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผทู้ ไี่ ด้รบั มอบหมาย
….............................................................................................................................................................
….............................................................................................................................................................
….............................................................................................................................................................
….............................................................................................................................................................

ลงช่อื
()

ตาแหนง่ ..............................................................
วันท.่ี .......เดอื น...................................พ.ศ..............

แบบบนั ทกึ การปฏบิ ตั งิ านกลุ่ม 23
กล่มุ ท.ี่ ................
สรปุ
กจิ กรรม เร่ือง…………………………………………………………..
รายการประเมิน

ท่ี ช่ือ – สกลุ ทางาน ่ีทไ ้ด ัรบมอบหมายอย่าง ผ่าน ไมผ่ า่ น
เ ็ตมความสามารถ (5)
แนะนาวิ ีธการทางานและช่วย
เหลือเพื่อก ุล่ม(5)
่รวมแสดงความคิดเห็น
ท่ีเ ็ปนประโยช ์น (5)
เ ็ปน ้ัทงผู้นาและ ้ผูตามใน
โอกาสที่เหมาะสม (5)

ผลรวมคะแนน (20)
้รอยละ (100)

1 เกณฑ์การประเมนิ
2 ร้อยละ 60 ผ่าน
3 น้อยกว่าร้อยละ 60 ไมผ่ ่าน
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13

เกณฑก์ ารให้คะแนน
15 – 20 คะแนน ดีมาก
10 – 14 คะแนน ดี
5 - 9 คะแนน ปานกลาง
น้อยกวา่ 8 คะแนน ปรับปรงุ

1 เลข ช่ือ – สกุล
2 ท่ี
3

1. มคี วามสามารถในการรบั -ส่งสาร การส่อื สาร 1. ความสามารถใน 2. ความสามารถใน 3 ประเมินสมรรถนะด้านท่ี ................................................
2. มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้
3.ใชว้ ิธกี ารส่ือสารท่ีเหมาะสมกบั สถานการณ์ การคดิ แบบประเมนิ ทักษะพสิ ยั
สรปุ คะแนน นกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษ
1.มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 13 เ
2.มคี วามสามารถในการคิดเป็นระบบ สร้างสรรค์
3.สามารถคิดอย่างมวี ิจารณญาณ
สรปุ คะแนน

1.แก้ปัญหาโดยใช้เหตผุ ล แก้ปญั หา 3. ความสามารถในการ 4. ความสามารถใน 5. ความสามารถใน ............ จานวนพฤติกรรมบ่งช้ี ...................................... ย (วัดสมรรถนะผเู้ รียน)
2.แสวงหาความรู้มาใช้ในการแกป้ ญั หา ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1
3.ตดั สินใจโดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น เรอ่ื ง ภาษาไทยให้ข้อคิด
สรปุ คะแนน
1.สามารถทางานกลุ่มรว่ มกบั ผูอ้ น่ื ได้ การใช้ทักษะชวี ิต การใชเ้ ทคโนโลยี
2.จัดการปัญหาและความขัดแย้งได้เหมาะสม
3.นาความรู้ที่ไดไ้ ปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั 24
สรุปคะแนน
1.เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวัย
2.มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
3.สามารถนาเทคโนโลยีไปใช้พฒั นาตนเอง
สรปุ คะแนน

รวมคะแนน ( คะแนนเตม็ ...................)
คะแนนเฉล่ีย
ระดับคุณภาพ

4
5
6
7
8
9
10
11
12
13

เกณฑ์การประเมินคะแนน : ดีมาก = 3 คะแนน , ดี = 2 คะแนน , พอใช้ =

ระดับคณุ ภาพ

ระดับคณุ ภาพ
ดีมาก / ผา่ นขน้ั สูง

ดี / ผา่ น
พอใช้
ปรบั ปรุง

25

= 1 คะแนน ปรับปรงุ = 0 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

มีคะแนนรอ้ ยละ 70 ขึ้นไป
มีคะแนนระหวา่ งร้อยละ 55 – 69
มคี ะแนนระหวา่ งรอ้ ยละ 45 – 54
มคี ะแนนตา่ กวา่ ร้อยละ 40

1 เลข
2 ท่ี

ชื่อ – สกุล

1.ยนื ตรงเข้าแถวเคารพธงชาติเปน็ พลเมอื งดขี องชาติ 1.รักชาติ ศาสน์ 2.ซอ่ื สตั ย์ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคด์ ้านที่ .......................................... แบบประเมนิ แบบประเมินค
กษตั ริย์ สุจริต นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษ
2.เข้าร่วมกจิ กรรมวันสาคญั ของชาติ หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 เ
3.เผยแพรเ่ กียรตคิ ณุ องค์พระมหากษตั รยิ ์ 3.มวี ินยั
4.เข้ารว่ มกจิ กรรมวันสาคัญทางศาสนา
1.พดู ความจริง ทาจรงิ ตามพูด
2.ประพฤตดิ ีตอ่ ผอู้ ื่นท้งั ทางกาย วาจา ใจ
3.ไมโ่ กงและหลอกลวงผอู้ น่ื
1.ตรงตอ่ เวลา
2.ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง ระเบยี บ ข้อบังคับของโรงเรยี น
3.ทากิจวัตรของตนเองตามกาหนดเวลา

4

1.ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น 4.ใฝเ่ รยี นรู้ .................. จานวนพฤตกิ รรมบ่งชี้ ...................................... คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
2.แสวงหาความรู้ท้งั ใน และนอกโรงเรยี น ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1
3.ใช้เวลาวา่ งแสวงหาประสบการณ์และคน้ หาความรู้ใหม่ๆ 5. อยอู่ ย่าง เรอ่ื ง ภาษาไทยให้ข้อคดิ
1.ดาเนนิ ชีวิตอยา่ งพอเพยี ง พอเพยี ง
2.ใชเ้ งินอยา่ งประหยัด และรจู้ ักอดออม
3.ขยนั ทามาเล้ียงชพี อย่เู สมอ 6. ม่งุ มน่ั ใน
1.ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั ิหน้าท่กี ารงาน การทางาน
2.ทางานสาเรจ็ ไดต้ ามเปาู หมาย
3.ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความต้ังใจ ขยัน ขันแข็ง 7. รกั ความ
1.ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณีไทย เปน็ ไทย
2.ใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารได้อย่างถูกต้อง
3.อนรุ ักษแ์ ละสบื ทอดภูมิปัญญาไทย 8. มีจิต
1.ช่วยเหลือผอู้ ่ืนโดยไม่หวงั ผลตอบแทน สาธารณะ
2.เขา้ ร่วมกจิ กรรมต่อโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม
3.รู้จักการให้และการรับอยา่ งมีเหตผุ ล 26

รวมคะแนน ( คะแนนเต็ม ...................)

คะแนนเฉล่ีย

ระดับคุณภาพ

3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13

ระดบั คะแนน ปฏิบตั ิเป็นประจา
3 หมายถึง ปฏิบตั บิ างคร้งั
2 หมายถึง ปฏิบัติน้อย
1 หมายถงึ ไม่ปฏิบัตเิ ลย
0 หมายถงึ

27

เกณฑก์ ารประเมิน ดเี ยีย่ ม
คะแนน 2.5 – 3.0 ดี
คะแนน 1.5 – 2.4 ผา่ น
คะแนน 1.0 - 1.4 ไม่ผา่ น
คะแนน 0 – 0.9

28

แบบทดสอบกอ่ นเรยี นประจาหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๑๓
รายวชิ า ภาษาไทย ท ๑๕๑๐๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ จานวน ๑๐ ข้อ
คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบที่ถูกตอ้ งทส่ี ุด

๑. ขอ้ ใดคือความหมายของสานวน ๕. ขอ้ ใดใช้สานวนเปรยี บเทยี บได้ถูกต้อง
“กิง้ กา่ ไดท้ อง” ก. บรษิ ทั ของเราลงทนุ ไปมากแต่ได้ผลกลับมา

ก. ลงทนุ มากแต่ได้ผลนอ้ ย น้อย เหมือนขชี่ า้ งจับตั๊กแตน
ข. คนทีไ่ ด้ดีแล้วหยิง่ ทะนง ข. บ้านสองหลงั นรี้ กั ใครก่ ลมเกลยี วกันเหมอื น
ค. การใช้ความเพียรทาสงิ่ ทย่ี าก
ง. คนที่เอาเปรียบผ้อู ืน่ ขมน้ิ กบั ปูน
ค. เขาเปน็ คนอ่อนแอเหมือนมะนาวไม่มีน้า
๒. ขอ้ ใดคอื ความหมายของสานวน ง. เขาทาผิดแล้วกลบเกลื่อนร่องรอยไมใ่ ห้ใครรู้
“นา้ ทว่ มทงุ่ ผกั บุ้งโหรงเหรง”
เหมือนช้างตายท้ังตัวเอาใบบวั มาปิด
ก. ไมค่ อ่ ยพดู ขอรอ้ งใคร
ข. เก็บความลับไวไ้ มอ่ ยู่ ๖. บุคคลในข้อใดคอื ผู้ทีช่ าระโคลงโลกนติ ิ
ค. พดู จาหว่านล้อมด้วยเหตุผลต่างๆ สานวนเก่าและแตง่ เพิ่มเตมิ
ง. พูดมากแต่หาสาระไม่ได้ ก. กรมพระยาดารงเดชานุภาพ
ข. กรมพระยาเดชาดศิ ร
๓. สานวนในขอ้ ใดมีความหมายคล้ายคลึงกัน ค. รชั กาลที่ ๒
ก. ยกเมฆ – ขม้นิ กบั ปนู ง. สนุ ทรภู่
ข. ตาเป็นสับปะรด - ตาบอดคลาช้าง
ค. เข็นครกขน้ึ ภเู ขา – ฝนทงั่ ให้เปน็ เขม็ ๗. โคลงโลกนิตมิ วี ัตถุประสงคใ์ นการแตง่ เพอื่ อะไร
ง. มะนาวไมม่ นี า้ – กงิ่ ทองใบหยก ก. เพอื่ ยอพระเกยี รตพิ ระมหากษตั ริย์
ข. เพอื่ ใช้ในพธิ กี รรม
๔. บคุ คลในขอ้ ใดมคี วามประพฤติตรงกบั สานวน ค. เพอ่ื เป็นข้อคิด คาส่ังสอน
“เก็บเบ้ียใตถ้ นุ ร้าน” มากท่สี ุด ง. เพ่ือเป็นบทละครสาหรบั การแสดง

ก. เมฆใชเ้ งินสุรยุ่ สรุ ่ายไมอ่ ดออม
ข. หมอกเกบ็ เงนิ วนั ละ ๕ บาทไวซ้ ือ้ หฟู งั
ค. ลมลงทุนซอ้ื ลูกแก้วมาขายแต่ก็ขาดทุน
ง. ฝนไปขอยมื เงนิ เพือ่ นหลายคน

29

๘. ความรู้ผู้ปราชญ์นั้น รักเรียน

ฝนทงั่ เทา่ เข็มเพยี ร ผา่ ยหนา้

คนเกียจเกลยี ดหนา่ ยเวียน วนจติ

กลอทุ กุ ในตะกรา้ เป่ยี มลน้ ฤๅมี

โคลงข้างตน้ ตรงกบั สานวนใด

ก. ฝนทัง่ ให้เปน็ เขม็

ข. ขา้ งนอกสุกใสข้างในเปน็ โพรง

ค. ใจดีส้เู สือ

ง. กบในกะลาครอบ

๙. ใบพอ้ พันห่อหุ้ม กฤษณา
หอมระรวยรสพา เพริศดว้ ย
คอื คนเสพเสน่หา นักปราชญ์
ความสขุ ซาบฤๅม้วย ดจุ ไม้กลน่ิ หอม

โคลงขา้ งตน้ ให้ขอ้ คิดในเรือ่ งใด
ก. การศึกษา
ข. การใช้จ่ายเงนิ
ค. การคบเพอ่ื น
ง. การเลือกคคู่ รอง

๑๐. งาสารฤาห่อนเห้ยี น หดคนื
คากลา่ วสาธชุ นยนื อย่างนั้น
ทุรชนกลา่ วคาฝืน คาเล่า
หัวเต่ายาวแลว้ สั้น เล่ห์ล้นิ ทรชน

คาทข่ี ีดเสน้ ใตค้ าใดหมายความวา่ “คนดี”
ก. งาสาร ข. สาธชุ น
ค. ทุรชน ง. ทรชน

30

แบบทดสอบหลังเรียนประจาหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๓

รายวชิ า ภาษาไทย ท ๑๕๑๐๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ จานวน ๑๐ ขอ้

คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งที่สุด

๑. ข้อใดคอื ความหมายของสานวน ๕. สานวนในข้อใดสอดคลอ้ งกบั สถานการณท์ ี่เกดิ
“ขี่ชา้ งจับตั๊กแตน” ขนึ้ กับสมชาย

ก. ลงทนุ มากแตไ่ ดผ้ ลนอ้ ย สมชายพาหญงิ คนรักไปรบั ประทานอาหารใน
ข. คนท่ไี ด้ดีแล้วหยง่ิ ทะนง โอกาสพเิ ศษ เมื่อถงึ เวลาจา่ ยเงนิ คา่ อาหาร
ค. การใช้ความเพยี รทาสิง่ ท่ียาก ปรากฏวา่ สมชายมีเงินไมพ่ อจ่าย เขาจงึ แก้ปญั หา
ง. คนทเ่ี อาเปรียบผอู้ น่ื โดยแอบถอดนาฬิกาจ่ายเป็นคา่ อาหารเพมิ่ เตมิ

๒. ขอ้ ใดคือความหมายของสานวน ก. ขายผา้ เอหนา้ รอด
“ควา่ บาตร” ข. นา้ พง่ึ เรือเสอื พงึ่ ปุา
ค. ช้ีโพรงให้กระรอก
ก. ไม่ยอมคบคา้ สมาคมด้วย ง. ใจไมไ้ สร้ ะกา
ข. คบคนเช่นใดเปน็ คนเชน่ น้ัน
ค. พดู จาหวา่ นล้อมดว้ ยเหตุผลต่างๆ ๖. บุคคลในข้อใดคือผู้ท่ชี าระโคลงโลกนติ ิ
ง. หาเรื่องเดอื ดรอ้ นใหต้ นเอง สานวนเกา่ และแตง่ เพ่มิ เติม
ก. กรมพระยาดารงเดชานภุ าพ
๓. สานวนในข้อใดไม่มีความหมายเกีย่ วกบั การพดู ข. กรมพระยาเดชาดศิ ร
ก. ปลาหมอตายเพราะปาก ค. รชั กาลท่ี ๒
ข. น้าทว่ มทุง่ ผักบงุ้ โหรงเหรง ง. สุนทรภู่
ค. มะนาวไม่มีนา้
ง. นา้ ซึมบอ่ ทราย ๗. โคลงโลกนติ มิ วี ตั ถุประสงคใ์ นการแต่งเพ่อื อะไร
ก. เพอ่ื ยอพระเกยี รตพิ ระมหากษัตริย์
๔. บคุ คลในขอ้ ใดมีความประพฤตติ รงกับสานวน ข. เพ่ือใช้ในพิธกี รรม
“ใจปลาซวิ ” มากที่สุด ค. เพื่อเป็นข้อคิด คาส่งั สอน
ง. เพื่อเปน็ บทละครสาหรับการแสดง
ก. เมฆเปน็ คนใจกวา้ งชอบเลยี้ งเพื่อนฝูง
ข. หมอกเปน็ คนไมย่ อมคนถา้ ใครรังแกจะส้คู ืน
ค. ลมเปน็ พดู ตรง ๆ ด้วยความจริงใจ
ง. ฝนเปน็ คนขอี้ าย ไม่กลา้ บอกความรู้สึกตวั เอง

31

๘. ผลเด่อื เม่อื สกุ ไซร้ มีพรรณ
ภายนอกแดงดูฉนั ชาดบา้ ย
ภายในยอ่ มแมลงวนั หนอนบอ่ น
ดุจดงั คนใจร้าย นอกนัน้ ดูงาม

โคลงข้างต้นตรงกบั สานวนใด
ก. ฝนท่ังให้เปน็ เขม็
ข. ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง
ค. ใจดสี ู้เสอื
ง. กบในกะลาครอบ

๙. ปลาร้าพันห่อด้วย ใบคา
ใบกเ็ หม็นคาวปลา คละคลงุ้
คือคนหมูไ่ ปหา คบเพ่อื น พาลนา
ไดแ้ ต่รา้ ยรา้ ยฟูุง เฟอื่ งใหเ้ สยี พงศ์

โคลงข้างต้นให้ข้อคดิ ในเรอ่ื งใด
ก. การศึกษา
ข. การใช้จ่ายเงิน
ค. การคบเพื่อน
ง. การเลอื กคูค่ รอง

๑๐. นาคีมพี ษิ เพีย้ ง สรุ โิ ย

เลอื้ ยบท่ าเดโช แช่มชา้

พิษน้อยหยง่ิ โยโส แมลงปอุ ง

ชแู ต่หางเองอ้า อวดอา้ งฤทธี

คาท่ขี ีดเส้นใต้คาใดหมายความวา่ “พระอาทติ ย์”
ก. สุริโย ข. เดโช
ค. โยโส ง. ฤทธี

32

เฉลยแบบทดสอบประจาหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑๓

แบบทดสอบก่อนเรียน

๑. ข ๒. ง ๓. ค ๔. ข ๕. ก
๖. ข ๗. ค ๘. ก ๙. ค ๑๐. ข

แบบทดสอบหลังเรยี น

๑. ค ๒. ค ๓. ง ๔. ก ๕. ง
๖. ข ๗. ค ๘. ค ๙. ก ๑๐. ข

33

ภาคผนวก

34

เกณฑก์ ารประเมนิ การปฏบิ ตั ิงานกลุม่

ระดับคุณภาพ

รายการประเมนิ 5 (ดีมาก) 4 (ด)ี 3 (พอใช)้ 2 (ปรบั ปรงุ )
ทางานทีไ่ ด้รับ
มอบหมายอยา่ ง สนใจในการเรียนมี สนใจในการเรยี นมี สนใจในการเรียน ไม่สนใจในการเรียน
เตม็ ความสามารถ
ความตง้ั ใจใน ความตัง้ ใจใน บา้ ง ไม่คอ่ ยมี ไมม่ คี วามตั้งใจใน
แนะนาวิธกี าร
ทางานและช่วย การศกึ ษาใบ การศึกษาใบความรู้ ความตัง้ ใจใน การศกึ ษาใบความรู้
เหลือเพื่อกล่มุ
ความรู้ และเอาใจ แตข่ ณะลงมือ การศกึ ษาใบ และการทางานครู
ร่วมแสดงความ
คิดเหน็ ทีเ่ ป็น ใส่ในการทางานให้ ปฏบิ ตั งิ านไปเล่น ความรู้ และการ ต้องคอยกากบั อยู่
ประโยชน์
ลุลว่ ง หรอื หยอกล้อกับ ทางานครูตอ้ ง ตลอดเวลา
เปน็ ทั้งผ้นู าและผู้
ตามในโอกาสที่ เพ่อื นกลมุ่ อืน่ คอยกากบั เปน็
เหมาะสม
ระยะ

พยายามสือ่ สาร สอ่ื สาร ชว่ ยเหลือ ส่ือสาร ชว่ ยเหลือ ไม่สอ่ื สาร ไม่สนใจ

ชว่ ยเหลอื แนะนา แนะนาและอธบิ าย แนะนาและ การทางานของเพื่อน

และอธิบายความรู้ ความรใู้ หเ้ พือ่ น อธบิ ายความรู้ให้ สมาชิกคนอื่น ๆ

ให้เพ่อื นสมาชิกคน สมาชกิ คนอื่น ๆ เพอ่ื นสมาชกิ คน

อืน่ ๆ ดว้ ยถอ้ ยคา เฉพาะคนทตี่ นเอง อื่น ๆ ด้วย

ที่เหมาะสม สนิทด้วย ถ้อยคาที่ไม่

เหมาะสม

(ตะโกน หรอื ด่า

เพ่ือนสมาชกิ )

แสดงความคิดเหน็ แสดงความคิดเหน็ ที่ ไมแ่ สดงความ ไมแ่ สดงความคิดเห็น

ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ เปน็ ประโยชน์และ คิดเหน็ แต่รบั ฟัง ไมร่ บั ฟังเพอ่ื นสมาชกิ

และรบั ฟังเพอ่ื น รบั ฟงั เพ่ือนสมาชกิ ความคดิ เหน็ จาก คนอนื่ ๆ

สมาชิกคนอื่นด้วย คนอน่ื ในบาง เพื่อนสมาชกิ คน

ความต้ังใจ ทกุ ประเด็น อื่น

ประเด็น

เปน็ ทั้งผู้นาและผู้ เปน็ ผนู้ าหรือผูต้ าม เป็นผู้นาหรือผู้ ไม่สนใจร่วมมือ

ตามในการ ในการทางาน อยา่ ง ตามในการทางาน ปฏิบตั งิ าน

ปฏบิ ตั ิงาน ใดอยา่ งหน่ึง เม่ือครกู ระตุ้น


Click to View FlipBook Version