เนื้อหา....
1. การดาเนินการเกย่ี วกบั ผลติ ภัณฑ์ท้องถิน่
2. ศูนย์บริการส่งเสริมเศรษฐกจิ ฐานราก
3. การจัดการเครือข่าย OTOP
4. การพฒั นาเยาวชนเพ่ือการอนุรักษ์และสืบสาน
ภูมิปัญญาท้องถน่ิ
5. การคดั สรรค์สุดยอดหนึ่งตาบลหน่ึงผลติ ภัณฑ์
ไทย
2
ตามแนวความคดิ การจดั การผลติ ภณั ฑท์ อ้ งถนิ่ เกดิ ขน้ึ จากหลกั ปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลย
เดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ใหป้ ระชาชนทุกระดบั ดาเนินชวี ติ แบบทางสายกลาง
อยใู่ นความพอเพยี ง เพอ่ื ใหส้ ามารถอยรู่ อดไดใ้ นโลกปัจจบุ นั ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงไป
อยา่ งรวดเรว็ ซง่ึ การดาเนินชวี ติ ประกอบดว้ ยคุณลกั ษณะ 3 ประการ ไดแ้ ก่ ความ
พอประมาณ ความมเี หตุผล และการมภี มู คิ ุม้ กนั ทด่ี ี จากคุณลกั ษณะของความ
พอประมาณ เน้นใหป้ ระชาชนมคี วามเป็นอยทู่ ไ่ี มเ่ กนิ ความจาเป็น นาทรพั ยากรทม่ี ี
อยมู่ าผลติ เพอ่ื การอุปโภค บรโิ ภคในครวั เรอื น หากมเี หลอื ใหน้ าไปจาหน่ายเพอ่ื
สรา้ งรายไดแ้ ก่ตนเองและครอบครวั จงึ ก่อใหเ้ กดิ ผลติ ภณั ฑท์ อ้ งถนิ่ ขน้ึ
4
5
การจดั ประเภทผลติ ภณั ฑ์ เม่ือปี พ.ศ. 2544 – 2548 จดั
กลุ่มประเภทผลติ ภณั ฑ์ OTOP ออกเป็ น 6 กล่มุ ดงั นี้
1) ประเภทอาหาร
2) ประเภทเคร่ืองดื่ม
3) ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย
4) ประเภทเคร่ืองใช้และเครื่องประดบั ตกแต่ง
5) ประเภทศิลปะประดษิ ฐ์และของที่ระลกึ
6) ประเภทสมุนไพรทไ่ี ม่ใช่อาหารและยา
6
หน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้องกบั การขบั เคลื่อนตามโครงการ
หน่ึงตาบลหนึ่งผลติ ภัณฑ์
1. ส่วนกลาง
- กระทรวงมหาดไทย
- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข
- กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน
- กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และภาคเอกชน
- สานักงานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา
- สานักนายกรัฐมนตรี
2. ส่วนภูมภิ าค
- คณะอนุกรรมการ หนึ่งตาบล หนึ่งผลติ ภณั ฑ์ จงั หวดั
- คณะอนุกรรมการ หนึ่งตาบล หนึ่งผลติ ภัณฑ์ อาเภอและกง่ิ อาเภอ
7
ภารกจิ หลกั ของกลไกส่วนภูมภิ าคเกย่ี วข้องกบั
การคดั เลือกผลติ ภณั ฑ์ดเี ด่นของ ตาบลต่างๆ เพื่อเสนอ
ต่อ กอ.นตผ การบูรณาการแผนงานและงบประมาณ
ของส่วนราชการทเี่ กยี่ วข้องในภูมภิ าค เพ่ือพฒั นา
คุณภาพมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์และส่งเสริมการตลาดใน
ระดบั พืน้ ที่ โดยมขี ้นั ตอนการดาเนินงาน ดังนี้
8
9
ปัจจยั สำคญั ในกำรดำเนินงำนตำมโครงกำรหน่ึงตำบลหนึ่งผลิตัฑั ์
1. ในระบบรำชกำร มีจงั หวดั เป็นฐำนของระบอบกำรปกครอง โดยไม่ได้
สรำ้ งระบบช่วยเหลือต่ำงๆ ไว้รองรบั โดยตรง มีเพียงหน่วยงำนเลก็ ๆ
คอยรองรบั เรือ่ งรำวต่ำงๆ ตลอดจนติดตำมกำรฟื้ นฟทู ้องถิ่น
ว่ำมีควำมก้ำวหน้ำไปเพียงใด สำนักงำนเลก็ ๆ ของจงั หวดั นี้จะทำกำร
ออกสำรวจเพื่อประเมิน รวบรวมข้อมลู ข่ำวสำรเท่ำนัน้
2. บริษทั จงั หวดั ต้องกำรกำรมีส่วนรว่ มของบริษทั ในท้องถิ่น
หำกบริษทั เหล่ำนัน้ ต้องกำรมีส่วนร่วมในกำรพฒั นำ เพรำะ
จงั หวดั เชื่อว่ำบริษทั ในท้องถิ่นจะรบั ผิดชอบและร่วมแก้ปัญหำ
กบั ประชำชนในพืน้ ที่โดยตรง
3. ผนู้ ำ ผนู้ ำมีส่วนสำคญั ต่อควำมสำเรจ็ ของโครงกำร ผนู้ ำในที่นี้หมำย
รวมถึง กำนัน ผใู้ หญ่บำ้ น และผนู้ ำธรรมชำติที่มำจำกัำคประชำชน
เช่น จำกสหกรฑชำวนำ ผบู้ ริหำรโรงงำน ผบู้ ริหำรสถำนที่อ่ืนๆ ซึ่งผนู้ ำ
เหล่ำนี้จะทรำบถึงควำมต้องกำรของชมุ ชน และสำมำรถเป็นตวั แทน
ควำมต้องกำรของชมุ ชนได้
4. องคกรประชำชน ได้แก่ สหกรฑของกล่มุ เกษตรกรต่ำงๆ หอกำรค้ำ
กล่มุ ผบู้ ริโัค เป็นต้น กล่มุ เหล่ำนี้เป็นตวั แทนของผลประโยชน
ประชำชนต่ำงๆ เพื่อกำรผลิต กำรวำงแผนกลยทุ ธต่ำงๆ ด้ำน
กำรตลำด เป็นต้น
กำรจดั ทำฐำนข้อมลู ผผู้ ลิตและผปู้ ระกอบกำร OTOP
กรมกำรพฒั นำชมุ ชนได้รบั มอบหมำยให้จดั ทำฐำนข้อมลู ผ้ผู ลิต
ผปู้ ระกอบกำร OTOP เพ่ือตรวจสอบควำมถกู ต้องของข้อมลู และเพิ่มเติม
ข้อมลู ผผู้ ลิตและผปู้ ระกอบกำร OTOP ทงั้ ผปู้ ระกอบกำรรำยเดิม และ
ผปู้ ระกอบกำรรำยใหม่ เพ่ือให้ได้ข้อมลู ท่ีเป็นปัจจบุ นั โดยกรมกำรพฒั นำ
ชมุ ชนได้ดำเนินกำรลงทะเบียนผ้ผู ลิต และผปู้ ระกอบกำร OTOP ทกุ ๆ 2 ปี
ข้อมลู ที่เป็นปัจจบุ นั ดงั กล่ำวจะนำไปใช้ประโยชนสำหรบั กำรกำหนด
แผนกำรส่งเสริมและพฒั นำได้อย่ำงเหมำะสม
1. เป็ นช่องทำงในกำรเชื่อมโยงกำรใช้ทรพั ยำกรจำกแหล่งทุน แหล่ง
ผลิต แหล่งตลำด แหล่งควำมรทู้ งั้ ัำครฐั และเอกชน
2. เป็นกลไกขบั เคล่ือนให้มีกำรเพิ่มประสิทธิัำพกำรบริหำรจดั กำร
แหล่งทนุ กล่มุ อำชีพ กล่มุ ผผู้ ลิต ผปู้ ระกอบกำร OTOP สำหรบั สร้ำงงำน สรำ้ ง
อำชีพ และสรำ้ งรำยได้แก่ชมุ ชน เพื่อส่งต่อให้ประชำชนในหม่บู ำ้ นมีควำม
มนั่ คงทำงเศรษฐกิจ ด้วยกำรสนับสนุนและส่งเสริมเชื่อมโยงกำรพฒั นำชมุ ชน
ระหว่ำงทวิัำคีกำรพฒั นำในระดบั อำเัอ
ภารกจิ ของศูนย์บริการส่งเสริมเศรษฐกจิ ฐานราก
1. ด้ำนกำรศึกษำ
2. ด้ำนกำรให้บริกำร
3. ด้ำนกำรสนับสนุนส่ือ วสั ดุ อปุ กรฑ และควำมรู้
4. ด้ำนกำรสนับสนุนสถำนท่ี
5. ด้ำนกำรส่งเสริมกำรประกอบอำชีพ
6. ด้ำนกำรแลกเปล่ียนเรียนรู้
7. ด้ำนกำรประสำนงำน
รูปแบบการให้บริการของศูนย์บริการส่งเสริมเศรษฐกจิ ฐานราก
กำรให้บริกำรของศนู ยฯ มีรปู แบบต่ำงๆ ได้แก่ กำรบริกำร ฑ
ที่ตงั้ ของศูนยฯ ผ้รู บั บริกำรสำมำรถมำขอรบั บริกำรได้ อีกรปู แบบหนึ่ง
คือ กำรจดั กิจกรรมเคลื่อนที่ ตำมควำมต้องกำรของชุมชน อำจเป็ นใน
รปู แบบของกำรอบรมอำชีพระยะสนั้ กำรให้คำปรึกษำกำรสร้ำงอำชีพ
กำรสรำ้ งรำยได้ เป็นต้น และในรปู แบบสดุ ท้ำยคือ กำรให้บริกำรผ่ำนส่ือ
เช่น วิทยุ โทรทศั น เป็นต้น
บทบาทหลกั ศูนย์บริการส่งเสริมเศรษฐกจิ ฐานราก
1. ค้นหาความต้องการของผู้รับบริการด้านภูมปิ ัญญา ฝี มือ ทกั ษะ วสั ดุ อปุ กรณ์
หรือความคดิ สร้างสรรค์ทมี่ อี ย่ใู นท้องถิน่ เพื่อนามาต่อยอดให้เกดิ ประโยชน์ใน
การประกอบอาชีพ
2. สนับสนุนองค์ความรู้ด้านต่างๆ ให้ผู้รับบริการสามารถนามาใช้ประโยชน์ได้
3. สนับสนุนช่องทางการตลาด เพ่ือแนะนาให้ผ้ผู ลติ ผู้ประกอบการ มชี ่องทาง
สาหรับการจาหน่ายสินค้าในราคาท่ีมกี าไร และลดความเส่ียงในการประกอบ
อาชีพ
1. เพ่ือเป็นรำกฐำนทำงเศรษฐกิจของชมุ ชน และสรำ้ งให้เกิดกำร
หมนุ เวียนรำยได้ัำยในชมุ ชนอย่ำงยงั่ ยืน
2. เพ่ือเพิ่มศกั ยัำพในกำรแข่งขนั ให้กบั ผลิตัฑั ์ OTOP โดยกำร
เปล่ียนค่แู ข่งให้เป็นค่คู ้ำ
3. เพ่ือให้เกิดพลงั ในกำรพฒั นำกำรผลิต คฑุ ัำพมำตรฐำนของ
ผลิตัฑั ์ และพฒั นำในเชิงปริมำฑกำรผลิต
4. เพื่อมีเครือข่ำยในกำรเพ่ิมประสิทธิัำพกำรผลิต และกำรส่งเสริม
ตลำดทงั้ ัำยในและัำยนอกประเทศ
ข้ันตอนการดาเนินงาน
1. จดั ทำฐำนขอ้ มลู รวบรวมรำยชื่อผผู้ ลิต ผปู้ ระกอบกำร OTOP
2. เสริมสร้ำงควำมเข้ำใจเก่ียวกบั ควำมสำคญั ประโยชน และควำมจำเป็ นของ
กำรจดั ตงั้ เครอื ข่ำย OTOP ในระดบั ต่ำงๆ (อำเัอ จงั หวดั )
3. กำหนดโครงสร้ำง บทบำท หน้ำที่ ขอบเขตควำมรบั ผิดชอบของเครือข่ำย
และควำมสมั พนั ธต่ำงๆ ท่ีเชื่อมโยงต่อกนั
4. คดั เลือกคฑะกรรมกำรเครือข่ำย ในจำนวนที่เหมำะสม เพื่อรบั ผิดชอบใน
กำรบริหำรและประสำนงำนเครอื ข่ำย
5. กำหนดแนวทำงและเป้ ำหมำยกำรดำเนิ นงำนของเครือข่ำยเพ่ือเป็ น
เคร่ืองมือในกำรดำเนินงำนของเครือขำ่ ย
6. ประกำศรำยช่ือและจดั ทำทะเบยี นคฑะกรรมกำรเครือข่ำยจดั ส่งจงั หวดั และ
กรมกำรพฒั นำชมุ ชน
ข้ันตอนการดาเนินงาน
1. ัำรกิจของเครือข่ำย OTOP ระดบั อำเัอ มดี งั น้ี
1) สง่ เสรมิ การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ OTOP ในระดบั อาเภอใหม้ คี ุณภาพ
มาตรฐาน มีการพัฒนานวัตกรรมเพ่ือนามาใช้ในการพัฒนา
ผลติ ภณั ฑด์ ว้ ย
2) สง่ เสรมิ การตลาด และธุรกจิ สนิ คา้ OTOP ภายในจงั หวดั
3) เสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ระบบ Cluster OTOP (การสรา้ งเครอื ขา่ ย
ประเภทผลติ ภณั ฑ์ OTOP) ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล
4) เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพความสามคั คี และความเป็นเอกภาพของ
เครอื ขา่ ย OTOP ระดบั อาเภอ
5) สง่ เสรมิ และสนบั สนุนใหเ้ กดิ ผผู้ ลติ ผปู้ ระกอบการรายใหม่ เขา้ สรู่ ะบบ
2. ัำรกิจของเครือข่ำย OTOP ระดบั จงั หวดั มดี งั น้ี
1) สง่ เสรมิ การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ OTOP ในระดบั จงั หวดั ใหม้ คี ุณภาพ
มาตรฐาน มกี ารพฒั นานวตั กรรมเพอ่ื นามาใชใ้ นการพฒั นาผลติ ภณั ฑด์ ว้ ย
2) สง่ เสรมิ การตลาด และธุรกจิ OTOP ภายในจงั หวดั
3) สง่ เสรมิ การจดั ตงั้ ศนู ยจ์ าหน่ายและกระจายสนิ คา้ OTOP จงั หวดั
4) บรหิ ารจดั การระบบ Cluster OTOP ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล
5) สง่ เสรมิ ศกั ยภาพ ความสามคั คี และความเป็นเอกภาพของเครอื ขา่ ยใน
ทุกระดบั
6) จดั ระบบขอ้ มลู และกลไกในการพฒั นา OTOP ภายในจงั หวดั
7) จดั ระบบขอ้ มลู และกลไกพฒั นา OTOP ใหส้ ามารถใชป้ ระโยชน์ในการ
สนบั สนุนการพฒั นาผลติ ภณั ฑไ์ ด้
3. ัำรกิจของเครอื ข่ำย OTOP ระดบั ประเทศ มดี งั น้ี
1) สนบั สนุนการบรหิ ารนโยบายยทุ ธศาสตร์ OTOP
2) สนบั สนุนการบรหิ ารจดั การระดบั เครอื ขา่ ยทกุ ระดบั
3) เสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ OTOP ทกุ มติ ิ
4) สง่ เสรมิ การบรหิ ารจดั การธรุ กจิ OTOP
5) เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพ ความสามคั คี และความเป็นเอกภาพของเครอื ข่าย
ทกุ ระดบั
6) บรหิ ารจดั การระบบ Cluster OTOP ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธผิ ล
7) จดั ระบบขอ้ มลู และกลไกการพฒั นา OTOP ใหส้ ามารถใชป้ ระโยชน์ใน
การสนบั สนุนการพฒั นา OTOP
8) สง่ เสรมิ และสนบั สนุนให้ OTOP สรา้ งคุณประโยชน์แก่สมาชกิ และใหม้ ี
บทบาทในการเป็นกลมุ่ อาชพี
การดาเนินงาน
1. กิจกรรมพฒั นำศกั ยัำพเยำวชนด้ำนกำรอนุรกั ษและสืบสำน
ัมู ิปัญญำท้องถิ่น กระทำโดยจดั ค่ำยเยำวชน OTOP ให้เยำวชนได้
เรียนร้คู วำมเป็นมำของ OTOP ฝึ กปฏิบตั ิผลิตัฑั ์ OTOP ทงั้ 5
ประเัท เรียนร้แู ละบนั ทึกเกี่ยวกบั ัมู ิปัญญำท้องถิ่น เรียนร้กู ำรเพิ่ม
มลู ค่ำของผลิตัฑั ์และกำรพฒั นำผลิตัฑั ์ท่ีมีอย่ใู นชมุ ชนด้วย
2. กิจกรรมเพิ่มพนู ทกั ษะเยำวชนด้ำนกำรอนุรกั ษและสืบสำนัมู ิ
ปัญญำท้องถิ่น ทำกำรคดั เลือกเยำวชนที่ผำ่ นกิจกรรมพฒั นำ
ศกั ยัำพเยำวชนด้ำนกำรอนุรกั ษและสืบสำนัมู ิปัญญำท้องถ่ินแล้ว
เพ่ือให้เรียนรกู้ ำรทำผลิตัฑั ์ท่ีเป็นัมู ิปัญญำจำกครัู มู ิปัญญำ โดย
เยำวชนจะได้เรียนรตู้ งั้ แต่ประวตั ิควำมเป็นมำของกำรผลิต
ผลิตัฑั ์ กำรหำวตั ถดุ ิบ เทคนิคกำรผลิตสินค้ำที่เป็นเอกลกั ษฑ
เฉพำะถิ่น รวมถึงช่องทำงกำรจดั จำหน่ำยด้วย โดยให้เยำวชนนำ
ควำมรเู้ รื่องกำรบนั ทึกัมู ิปัญญำมำใช้เป็นส่วนหนึ่งในกำรอนุรกั ษ
และสืบสำนัมู ิปัญญำท้องถ่ินของตน
3. กิจกรรมพฒั นำศกั ยัำพเยำวชน OTOP ด้ำนกำรวำงแผนธรุ กิจ
คดั เลือกเยำวชนท่ีเคยเข้ำร่วมโครงกำรพฒั นำเยำวชนเพื่อกำร
อนุรกั ษและสืบสำนัมู ิปัญญำท้องถิ่นและพฒั นำอำชีพแล้ว
(ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมำ) เพ่ือเข้ำรบั ฟังควำมรใู้ นกำรเตรียม
ควำมพร้อมส่กู ำรเป็นผปู้ ระกอบกำรร่นุ ใหม่เรียนร้กู ำรเขียนโครงกำร
ท่ีมีประสิทธิัำพ กำรวำงแผนธรุ กิจเบอื้ งต้น กำรศึกษำดงู ำนกล่มุ
ผผู้ ลิต ผปู้ ระกอบกำร OTOP ท่ีประสบควำมสำเรจ็ กำรพฒั นำช่อง
ทำงกำรจดั จำหน่ำยสินค้ำ OTOP กำรนำเสนอแผนธรุ กิจ กำรฝึ กกำร
จดั บธู แสดงสินค้ำ และกำรนำเสนอผลิตัฑั ์ และสืบสำนัมู ิปัญญำ
ท้องถ่ินของตน
หลกั เกฑ์ในกำรพิจำรฑำ 3 ด้ำน ได้แก่
1. หลกั เกฑ์ด้ำนผลิตัฑั ์และควำมเข้มแขง็ ของ
ชมุ ชน
2. หลกั เกฑ์ด้ำนกำรตลำดและควำมเป็นมำ
ของผลิตัฑั ์
3. หลกั เกฑ์ด้ำนคฑุ ัำพผลิตัฑั ์
จำกหลกั เกฑ์ทงั้ 3 ด้ำน นำมำกำหนดกรอบในกำรจดั
ระดบั ผลิตัฑั ์ ออกเป็น 5 ระดบั ดงั นี้
ระดบั 5 ดำว เป็นสินค้ำที่มีคฑุ ัำพมำตรฐำนหรือมีศกั ยัำพในกำร
ส่งออก
ระดบั 4 ดำว เป็นสินค้ำที่มีศกั ยัำพเป็นที่ยอมรบั ระดบั ประเทศ
และสำมำรถพฒั นำส่สู ำกล
ระดบั 3 ดำว เป็นสินค้ำที่มีคฑุ ัำพระดบั กลำงท่ีสำมำรถพฒั นำสู่
ระดบั 4 ดำวได้
ระดบั 2 ดำว เป็นสินค้ำท่ีสำมำรถพฒั นำส่รู ะดบั 3 ดำว มีกำร
ประเมินศกั ยัำพเป็นระยะ
ระดบั 1 ดำว เป็นสินค้ำที่ไม่สำมำรถพฒั นำส่รู ะดบั 2 ดำวได้
เนื่องจำกมีจดุ อ่อนมำกและพฒั นำยำก
ตวั อย่างสินค้า OTOP ภาคเหนือ
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39