บทเรยี นออนไลน์เก่ียวกบั ชา่ งยนต์
การตรวจเช็คชว่ งลา่ งรถยนต์
ชว่ งลา่ งรถยนตถ์ อื เป็นสิ่งสำคัญหรอื เปน็ โครงสรา้ งหลักของรถยนต์เลยกว็ า่ ได้ แตป่ ญั หาก็คือ ถ้าอยา่ งเรา ๆ ที่
ทำหนา้ ที่เพียงเป็นผู้ขบั รถไม่มีความรู้ดา้ นช่างซึ่งไม่พอต่อความปลอดภัยในการใชร้ ถของเราอยา่ งแน่ ๆ ในวันน้ี
เราจะพากันไปดู วธิ ีการตรวจเช็คชว่ งล่างรถยนตไ์ ด้ดว้ ยตนเองงา่ ย ๆ จากการสังเกต ผู้ขบั ขไ่ี ม่มีความรเู้ รื่องชา่ ง
อยา่ งเราๆ ก็สามารถเข้าใจได้ รอู้ ยา่ งนแ้ี ล้ว ก็ไปรว่ มศกึ ษากันได้เลย
การตรวจเชค็ ระบบปรบั อากาศรถยนต์
1.ตรวจดูนำ้ ยาแอร์
ในช่วงหน้ารอ้ นระบบแอรค์ ุณจะมปี ญั หาบ่อยท่สี ุด หากในชว่ งที่อากาศยังไมร่ ้อนแอร์น้ันก็มีความเย็นปรกติ แต่
เม่ือเข้าอากาศร้อนแอร์จะมคี วามเย็นตำ่ ลง ใหล้ องทำการเปิดฝากระโปรงและตรวจสอบระดับนำ้ ยาแอร์ การดู
ระดับน้ำยาแอร์จะอยรู่ ะหวา่ งบริเวณแผงระบายความรอ้ นทางดา้ นหนา้ รถ จะมีชอ่ งตรวจสอบนำ้ ยา โดยสังเกต
ช่องท่เี ป็นกระจกใส ถา้ เราเห็นฟองอากาศ แสดงว่าน้ำยาแอรเ์ ร่ิมนอ้ ยแล้ว แตถ่ า้ หากนำ้ ยาแอรม์ ปี ริมาตรคง
ปรกติมนั จะมีลกั ษณะใสและไม่มฟี องอากาศแม้แตน่ ดิ เดย่ี ว
2.ตรวจดูรอยรวั่ ของระบบ
ระบบแอรจ์ ะไม่สามารถร่ัวเองได้ แตถ่ า้ มีการสึกหรอหรือหมดสภาพของอุปกรณ์ อาจจะแผงระบายอากาศรวม
ไปจนถึงโอริงตวั เราจะรไู้ ด้อย่างไรวา่ แอร์รถรัว่ หรือไม่ ทำได้งา่ ยๆ โดยดูจากรอยรัว่ ทีน่ ้ำยา อาจมคี ราบสกปรก
ทใ่ี กลก้ ับทอ่ แอร์คราบเหลา่ นีเ้ กิดจากนำ้ ยาแอร์ แต่หากตรวจดแู ล้วไมพ่ บรอยรว่ั แตน่ ้ำยาแอรม์ ันความผดิ ปรกติ
เป็นไปได้ 2 กรณี 1. นำ้ ยาแอร์อยู่ในระดับต่ำ 2. อุปกรณใ์ นระบบเสียหายท่ีไมใ่ ช่ชุดท่อแอรร์ ่วั ควรรบี ตดิ ตอ่
ทางชา่ งโดยตรง
3.ลา้ งแอร์ เป่าฝนุ่
รถยนตห์ ลายๆรนุ่ ในปัจจบุ นั การลา้ งแอรส์ ามารถทำได้ง่ายขึน้ โดยไมต่ ้องถอดตู้แอร์ออกมาใหย้ ุ่งยาก และ
ค่าใชจ้ ่ายตอ่ คร้งั เมื่อเขา้ ร้านหรืออู่ ราคานา่ จะประมาณไมเ่ กิน 1,500 บาทต่อครั้ง ทำปลี ะครงั้ ถอื วา่ เปน็ การใช้
เงนิ ไมเ่ ยอะเลย
4.ล้างอัดฉดี
มนั จะเก่ยี วอะไรกบั การลา้ งอัดฉีดรถละเน้ีย จรงิ ๆแล้วมคี วามเก่ียวข้องอยู่ด้วยครับ แนะนำให้ไปรา้ นลา้ งอัดฉดี
แล้วให้ทำการอดั ฉดี ส่วนหน้าแผงระบายความรอ้ น อาจจะมเี ศษฝุ่นเศษอะไรตา่ งๆในสว่ นลกึ ของแผงระบาย
ความร้อน การลา้ งอัดฉดี เปน็ วธิ ที ่ชี ่วยได้ ถงึ แมม้ นั จะไม่เกี่ยวกับระบบปรับอากาศรถยนต์โดยตรง แต่การขจดั
คราบฝนุ่ และเศษวัศดุเลก็ ๆออกไปการระบายความรอ้ นของน้ำยาแอร์ก็อาจจะเร็วขึ้นและแอร์กเ็ ย็นเรว็ ข้ึน
จากท่เี ราตรวจเช็คจดุ ต่างๆแล้วให้เขา้ ตรวจสอบอีกครั้งเป็นการเช็กซำ้ อีกที หากเราไมม่ ีความรู้รายละรายเอียด
เบือ้ งลึก แนะนำใหป้ รึกษาชา่ งที่ไวใ้ จได้ แตถ่ ือวา่ เปน็ ข้อดีส่วนหนึง่ ในการตรวจเชค็ ดว้ ยตนเองก่อนนำรถยนต์
เข้าเราเขา้ อู่ครบั เพือ่ จะไดร้ ูว้ า่ มอี ะไรเสียหายจากภายนอกจุดไหนบ้างและช้นิ สว่ นไหนท่ีควรทำการรบี เปลยี่ น
การตรวจเช็คฝาสบู ของเครือ่ งยนต์
ฝาสบู นั้น เปน็ ช้นิ สว่ นของเคร่ืองยนต์ท่ีใชป้ ิดเส้ือสูบ ประกอบด้วยช่องนำ้ ระบายความร้อน ห้องเผาไหม้ ครบี
และวาลว์ ประกบกบั เสอ้ื สบู โดยมปี ะเก็นฝาสบู อยู่ตรงกลาง ซง่ึ เป็นจุดทร่ี ับความร้อนจากการจดุ ระเบิดในห้อง
เผาไหม้แบบเต็มๆ ทำให้อณุ หภมู บิ รเิ วณนส้ี ูงมาก จงึ ต้องใช้วธิ กี ารระบายความร้อนจากตรงนีอ้ อกไปใหเ้ ยน็ ลง
เคร่อื งยนตจ์ ะไดท้ ำงานไดเ้ ต็มประสทิ ธภิ าพตลอดการใชง้ าน ซึ่งเปน็ หน้าทข่ี องหม้อนำ้ นนั้ เอง
วิธกี ารสังเกตอาการฝาสูบโก่ง สามารถตรวจสอบไดไ้ ม่ยากนัก แคล่ องสตารท์ เครอ่ื งยนตแ์ ล้วเปิดฝา
หมอ้ น้ำทิ้งไว้ เมื่อเครื่องยนต์เรม่ิ รอ้ นให้สังเกตทีห่ ม้อนำ้ วา่ มีฟองนำ้ ดันขนึ้ มาหรือไม่ หากมฟี องน้ำดนั ขึ้นมาไม่
มากแสดงว่ารถเรมิ่ มีอาการฝาสูบโก่ง แต่ถา้ หากมีอาการมากอาจสง่ ผลทำใหฟ้ องน้ำดันออกมาจากหม้อนำ้
แสดงว่ารถฝาสูบโกง่ สาเหตุยงั มีหลายประการ บางคร้ังอาจเกิดจากนำ้ ในหมอ้ น้ำหรือ หม้อพักมนี ้ำมนั เคร่ืองเขา้
ไปเจอื ปน หากพบคราบนำ้ มันเครอื่ งในถงั พกั หม้อน้ำ สนั นิษฐานได้วา่ ประเกน็ ฝาสบู อาจจะโก่งหรอื ร่วั ส่งผลให้
นำ้ มันเครื่องรวั่ ไหลเขา้ สหู่ ม้อน้ำ นอกจากนี้ ยงั มีเรื่องประเก็นฝาสูบทช่ี ำรดุ เคร่ืองยนต์ร้อน เหล่าน้ีเป็นสาเหตุ
ใหฝ้ าสบู โกง่ ได้
วิธดี ูแลรักษาฝาสบู
การดแู ลรักษาหม้อนำ้ ดแู ลรักษาประเก็นฝาสบู และเส้ือสูบ เป็นอกี วิธหี นงึ่ ทช่ี ่วยยืดอายุการใชง้ านของฝาสบู
เพราะรถยนตป์ ัจจบุ นั มักทำงานที่อณุ หภมู ิคอ่ นขา้ งสงู เมื่อหน้าปัดรถแจง้ เตือนว่ารถเรมิ่ ร้อน ควรรีบตรวจสอบ
และแก้ไขทันที
การเลอื กใช้นำ้ มันที่มคี า่ ออกเทนที่เหมาะสมเป็นอกี วธิ งี า่ ยๆทีช่ ่วยดแู ลรักษาประเก็นฝาสูบ เพราะน้ำมันท่ีมีค่า
ออกเทนต่ำมากเกินไปสำหรับเคร่ืองยนต์อาจทำให้เคร่ืองยนต์เกิดการจุดระเบิดกอ่ น แตไ่ ม่ว่าจะเปน็ การจุด
ระเบดิ ซ้ำหรือจุดระเบิดก่อน ความดนั และอณุ หภมู ิในกระบอกสูบที่เกิดข้นึ ก็จะสูงขึน้ อย่างผดิ ปกตสิ ง่ ผลให้
ประเกน็ ฝาสบู ไดร้ ับความเสยี หาย
การดแู ลรกั ษาเครอื่ งยนต์
เรอื่ งพื้นฐานของการมีรถ นน่ั คอื การดูแลรกั ษารถยนตใ์ ห้อยูใ่ นสภาพพร้อมใชง้ านอยู่เสมอ มจี ดุ สำคญั ไหนบา้ ง
ท่ตี อ้ งดูแลเป็นพิเศษ Chobrod รวบรวมมาให้ กับวธิ ีการบาํ รุงรกั ษารถยนตเ์ บ้ืองตน้ เพ่ือถนอมอายกุ ารใชง้ าน
รถของคณุ มาดูกนั วา่ คุณไดป้ ฏิบตั ติ ามวิธเี หลา่ นหี้ รือเปลา่ ? พรอ้ มคำแนะนำและข้อควรระวงั
1. ระดับนำ้ มนั เครื่อง
การตรวจเชก็ ระดบั นา้ มนั เครือ่ ง อ่นุ เครอื่ งยนตจ์ นถงึ อณุ หภมู ิทางานแลว้ ดบั เครือ่ ง เชก็ ระดบั นา้ มนั เคร่ืองโดยใชก้ า้ นวดั
ระดบั นา้ มนั เคร่อื ง
วิธดี ูแลรกั ษารถยนต์ เชก็ ระดับน้ำมนั ดว้ ยก้านวัด
• พ่อื ให้การตรวจเช็กถูกต้อง รถควรอย่ใู นแนวระดับเคร่ืองยังรอ้ น และทำการวัดหลังจากดับเคร่อื ง 2-3
นาที เพื่อให้นำ้ มนั เครอ่ื งไหลกลบั ลงดา้ นลา่ งก่อน
• ดึงกา้ นวัดนำ้ มันเครื่องออก เช็กน้ำมนั เครื่องท่ีติดกับกา้ นวัดดว้ ยผา้
• เสยี บกา้ นวัดน้ำมันเคร่ืองคนื กลบั จุดเดิม
• ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึง่ เพอ่ื ตรวจสอบระดบั นำ้ มันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถา้ ระดบั นำ้ มันเครือ่ งอยู่
ระหวา่ ง "F" กบั "L" แสดงวา่ ระดับนำ้ มนั เครอื่ งปกติ
ข้อควรระวัง
• หลีกเล่ยี งการเตมิ น้ำมันเคร่ืองมากเกินไป เพราะอาจ ทำให้เครื่องยนตเ์ สียหายได้
• ตรวจเชก็ ระดบั นำ้ มันเครื่องที่กา้ นวัดอกี คร้ังหลงั เติม น้ำมันเคร่อื งลงไป
2. นำ้ หลอ่ เยน็
ควรตรวจเช็กระดับนำ้ หลอ่ เยน็ ให้อยู่ในระดบั Full อยู่เสมอ โดยตรวจเช็กในขณะทด่ี ับเครือ่ งและเครอ่ื ง
เย็น ถ้าระดับน้ำลดลงเป็นปริมาณมาก กอ็ าจจะมปี ัญหาอย่างใดอย่างหนง่ึ เกิดขนึ้ ได้ ซง่ึ จำเปน็ อย่างยิ่ง ที่จะตอ้ ง
พจิ ารณาหาสาเหตุ หรือนำรถเขา้ ศูนยบ์ รกิ าร เพื่อตรวจเช็กสาเหตุ (อยา่ ลมื เติมน้ำก่อนนำรถไป)
3. ระดับนำ้ กล่นั แบตเตอรี่
ควรตรวจเช็กระดับนำ้ กลั่น แบตเตอร่ี ให้อยู่ในตำแหน่ง UPPER/LEVEL และไม่ควรเตมิ เกิน กว่าระดบั
UPPER/LEVEL เพราะถ้าเตมิ มากเกินไป น้ำยาอเิ ลคโทรไลทซ์ ่งึ เปน็ สารละลายกรด ซัลฟูริค จะเจอื จางทำให้
ประสิทธภิ าพการทำงานลดลง นอกจากน้ี น้ำยาอิเลคโทรไลทอ์ าจจะกระเด็นออกทาง รูระบายไอ และไปกัด
กรอ่ นช้ินส่วนตา่ งๆ ในห้องเคร่ืองยนตไ์ ด้
ขอ้ ควรระวัง
• ปดิ ฝาเติมนำ้ กล่ันให้แนน่
• ขว้ั แบตเตอร่ีทีข่ ้ัวบวกและลบขันแนน่
• แบตเตอรย่ี ดึ แน่นกับฐานท่ีตงั้
4. ระดับนำ้ มนั เบรก
• ควรตรวจเช็กด้วยสายตา สังเกตดทู ่ีกระปุกน้ำมนั เบรกมคี ำวา่ MAX และ MIN ระดับน้ำมนั เบรกควร
อยทู่ ี่ระดบั MAX อย่เู สมอ สาเหตุที่เป็นไปได้ ที่มีผลทำให้ปรมิ าณน้ำมนั เบรกในกระปุกน้ำมันเบรก
ลดลงตำ่ ลงมี 2 ข้อ คือ
• มีการร่วั ของนำ้ มันเบรกออกจากระบบเบรก
• การสกึ หรอของผ้าเบรก ซึ่งระดับนำ้ มนั เบรกจะลดลงน้อย และชา้ มาก ในกรณีนี้ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งเตมิ
น้ำมันเบรกถ้าพบว่าระดับนำ้ มันเบรกในกระปุก น้ำมนั เบรก ลดลงต่ำลงรวดเรว็ ควรนำรถเขา้
ศูนย์บรกิ าร เพื่อตรวจ เช็กสาเหตุ
5. ระดบั นำ้ มนั คลัทช์
ควรตรวจเชก็ ดว้ ยสายตา สงั เกตดทู ี่กระปุกน้ำมนั คลทั ช์ จะมีคำว่า MAX กบั MIN ระดบั น้ำมนั คลัชท์ ควรอยู่
ทีร่ ะดบั MAX เสมอ ถ้าพบว่าระดบั น้ำมันคลัทชใ์ นกระปกุ ลดลงต่ำลง ควรนำรถเข้าศูนย์ บริการ เพ่ือตรวจเช็ก
หาสาเหตุ
6. ระดบั นำ้ มนั เกยี ร์ AUTO
ควรตรวจเชก็ ขณะท่เี ครื่องยนตต์ ดิ อยู่ โดยการดึงกา้ นวัดนำ้ มันเกยี ร์ AUTO ออกเชก็ น้ำมันเกยี ร์ ทตี่ ิดก้านวดั
ด้วยผา้ แลว้ เสียบก้านวัด น้ำมันเกยี ร์คืนกลับจุดเดมิ ดึงก้านวดั ออกมาอกี คร้ังหนงึ่ เพื่อตรวจระดับน้ำมนั เกียร์ที่
ปลายก้านวดั ถ้าระดับนำ้ มนั เกยี รอ์ ย่ทู ่ีขดี F พอดี แสดงวา่ ระดับนำ้ มนั เกยี ร์ปกติ
7. ตรวจเชก็ ระดับนำ้ มนั POWER
ควรตรวจเชก็ ขณะที่เคร่ืองยนตต์ ิดอยู่ โดยการหมุนฝาปิดกระปุกนำ้ มันPOWER จะตดิ อยู่กับฝากระปกุ น้ำมัน
POWER ที่ก้าน วดั จะมีคำวา่ HOT และ COLD อยู่คนละด้าน ถ้าวดั ตอนท่ี เครือ่ งยนตย์ งั เย็นอยใู่ ห้ดดู ้าน
COLD ถ้าวดั ตอนเคร่อื งรอ้ นให้ดูด้าน HOT
นำ้ มัน Power อกี หนึง่ จุดทค่ี วรดแู ล
ถา้ เปน็ รุ่นใหมใ่ ห้ดทู ีก่ ระปุกน้ำมัน POWER จะเปน็ พลาสติกใส ที่กระปุกจะมคี ำวา่ HOT และ COLD อยู่คนละ
ดา้ น และมีขีดระดับ MAX กับ MIN อยดู่ ้วยระดับน้ำมนั POWER ควรอยรู่ ะดบั MAX เสมอ ถา้ ดตู อน
เคร่อื งยนตเ์ ย็นให้ดดู า้ น COLD และถา้ ดูตอน เครอ่ื งยนตร์ ้อนใหด้ ดู า้ น HOT
8. ตรวจเชก็ สภาพของสายพาน
โดยวธิ ีการมองดูทสี่ ายพานถ้าพบรอยแตกเกดิ ขึ้น ควรทำการเปลี่ยนแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะใช้รถได้อย่าง
ปลอดภยั นอกจากนกี้ ็ควรตรวจดคู วามตงึ ของสายพานดว้ ย โดยการใช้นิว้ กดลงบนสายพานตรงกลาง ระหว่าง
มู่เลส่ องขา้ ง ถา้ สามารถกดลงได้เล็กน้อย ประมาณ 10 มม. ก็นา่ จะพอใช้ได้ (ถา้ ไม่แนใ่ จควรใหช้ ่างตรวจสอบ
เพราะการตรวจดว้ ยวิธีดังกลา่ ว ผู้ตรวจตอ้ งมคี วามชำนาญ พอสมควร)
9. ตรวจเช็กสภาพภายในห้องเคร่อื ง
โดยวธิ กี ารมองดูรอบๆภายในหอ้ งเคร่ือง ให้สังเกตดูว่า มอี ะไรผดิ ปกตหิ รือไม่ เช่น ท่อยางหม้อน้ำมีคราบ
นำ้ ซึมหรือไม่ สายไฟภายใน หอ้ งเคร่ืองเรียบร้อยดหี รือไม่ มหี นูข้ึนมากัดหรือไม่ มีคราบ นำ้ มันเครอ่ื งร่ัวซึม
หรอื ไม่ เปน็ ตน้
10. ตรวจเชก็ ระบบไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณตา่ งๆ
เปิดไฟทง้ั หมดดูว่าทำงานตามปกตหิ รือไม่ มหี ลอดไหนไมต่ ิด หรอื ไม่ ถ้าพบว่ามไี ฟหลอดไหนไม่ติดควร
เปลีย่ น ให้อยู่สภาพพร้อมใชง้ าน หรอื นำรถเข้าศนู ย์บริการเพ่ือตรวจเชก็
11. ตรวจเช็กท่ปี ดั น้ำฝน
ยางปัดน้ำฝนเมือ่ ใช้ไประยะหนงึ่ ก็อาจมีการเสอ่ื มสภาพ ซึ่งเนอื่ งมาจากสาเหตเุ หลา่ น้ี
การดแู ลรถยนตเ์ บือ้ งตน้ ตรวจเช็กว่าท่ีปัดน้ำฝนอยใู่ นสภาพพรอ้ มใช้งานหรือไม่
• ผิวสมั ผสั ส่วนปลายมกี ารสึกหรอ จากการทำงานปกติของ ใบปดั
• มีสงิ่ สกปรก และหินทรายละเอยี ดอยู่ระหวา่ งยางใบปดั กบั กระจกทำให้ยางปดั นำ้ ฝนสึกหรอ
• เมือ่ ใบปัดน้ำฝนผา่ นการใชง้ านนานๆ ยางใบปัดนำ้ ฝน จะแข็งตัว การยดื หยนุ่ จะลดลง และความ
บกพร่องในการ ปัดจะเกิดขึ้น เน่อื งจากหนา้ สมั ผสั ระหวา่ งยางใบปดั กับ กระจกไม่ดี รวมทง้ั อาจเกดิ
จากใบปดั น้ำฝนเกดิ อาการ ส่ันเตน้ หรอื อาการอื่นๆ ถ้าพบอาการเหลา่ น้ีควรเปล่ียนยางปัดนำ้ ฝนใหม่
12. ตรวจเช็กยาง
ควรเชก็ แรงดันลมยางอย่เู สมอๆ โดยใช้ ความดนั ลมยางตามทผี่ ้ผู ลติ กำหนด และควรเชก็ ขณะท่รี ถ ยงั
ไมไ่ ดใ้ ชง้ าน(ยางยังไมร่ อ้ น) ถ้าลมยางอ่อนผดิ ปกติ ควรนำไปตรวจสอบว่า มตี ะปูตำหรือไม่ ดูสภาพยางด้วยตา
ดูท่ีผิวยางมรี อยแตกเลก็ ๆ หรือไม่ ดูการสกึ หรอของดอกยาง กลา่ วคอื ดอกยางสึกมากไปหรอื ยัง หรือมีการสกึ
หรอผดิ ปกติ เช่น ลึกเฉพาะตรงกลางหน้ายาง (เติมลมมากเกนิ ไป) สึกเฉพาะขอบยางทั้ง 2 ขา้ ง (ลมยางอ่อน
เกนิ ไป) หรือสึก ดา้ นใดด้านหนงึ่ ฯลฯ ซ่ึงกรณเี หล่านี้ ควรปรึกษาช่าง เพราะ ควรจะมกี ารตรวจเชก็ ช่วงล่าง
และศนู ย์ล้อ เอาเลบ็ มือกดดู ท่ีเนอื้ ยางวา่ นิ่ม หรือ แข็ง ถ้ายางหมดสภาพ เนอื้ ยางจะกดไมล่ งจะแข็งมาก
การดูแลรักษาเคร่อื งยนต์ หมัน่ ดแู ลรถเพ่ือใหพ้ ร้อมใชง้ านอยเู่ สมอ
คำตอบคอื : ขน้ึ อยูก่ บั รถของทา่ นวา่ ใหม่หรือเกา่ มสี ภาพเปน็ อยา่ งไร ถา้ เปน็ รถใหม่ๆ ทำอาทิตย์ละคร้งั ก็
พอแล้ว แต่ถา้ เป็นรถเก่าสภาพไม่ดีนักก็อาจต้องทำทกุ วัน
คำแนะนำ
ข้อควรระวังในการบำรุงรักษารถดว้ ยตัวของทา่ นเอง ก่อนอ่นื ต้องแน่ใจวา่ ได้ปฏบิ ัตติ ามข้อควรระวังท่ใี ห้ไว้
ในส่วนนีอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ไม่เช่นนัน้ แล้วจะทำให้เกดิ ปัญหาขึ้นได้ คำแนะนำในส่วนนใ้ี ช้ เฉพาะในการบำรุงรักษา
รถ เฉพาะส่วนทีบ่ ำรงุ รักษางา่ ยๆการทำงานใดๆ เกี่ยวกบั รถยนต์ของทา่ นควรจะใชค้ วามระมดั ระวงั เพื่อไม่ให้
เกิดอบุ ตั ิเหตขุ น้ึ ตาม คำแนะนำ หรอื คำเตือนดังต่อไปนี้
• ขณะเครอื่ งยนตก์ ำลงั ทำงาน ระวังอย่าให้มือ, เสื้อผา้ และเครอื่ งมือตา่ งๆเขา้ ใกลใ้ บพัด และสายพาน
ขบั เครื่องยนต์ (ควรถอดแหวน, นาฬิกา และเนคไท ออกก่อนทำการ ตรวจซ่อม)
• หลังจากใชร้ ถให้ระวงั อย่าสัมผสั กบั เคร่อื งยนต์, หม้อน้ำและท่อไอเสยี เนือ่ งจากความร้อนของสิ่ง
เหลา่ นี้
• อย่าสบู บหุ รี่ ใกล้นำ้ มันเช้ือเพลิง เนอ่ื งจากไอน้ำมนั เชอื้ - เพลิงจะไวไฟมาก
• ใหร้ ะมัดระวงั อันตรายจากน้ำกรด และไอน้ำกรดจากแบตเตอรี่ เมอ่ื ทำงานอยกู่ บั แบตเตอร่ี
• อยา่ เขา้ ใตท้ ้องรถโดยมเี พยี งแมแ่ รงรองรบั เทา่ น้ัน ควรใชข้ าตงั้ รองรับเสยี ก่อน
• ใชอ้ ุปกรณป์ ้องกันตาขณะทำงานในทท่ี ่ีอาจมีของตก มีการพ่นหรอื ละอองของเหลวกระเด็นออกมาไม่
วา่ จะอยบู่ นหรือใต้รถกต็ าม
• ควรระมดั ระวังเมื่อมกี ารเติมน้ำมนั เบรก เนอ่ื งจากนำ้ มนั เบรกเป็นอันตรายต่อตาของทา่ น และทำลาย
สีรถได้ ถา้ น้ำมันเบรกกระเด็นเข้าตาหรอื โดนสรี ถให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดโดยทนั ที
• จำไวว้ ่าสายจากแบตเตอรีแ่ ละสายไฟจดุ ระเบดิ มีกระแส หรือแรงดันไฟสงู มาก จะต้องระมดั ระวงั อย่า
ให้เกดิ การลัดวงจร
• กอ่ นปิดกระโปรงหนา้ ตรวจสอบใหแ้ น่ใจว่า ไม่ลมื เคร่ืองมืออุปกรณ์ตา่ งๆ ไว้
• ถ้าทา่ นทำน้ำมันต่างๆ หกรดโดนชิน้ สว่ นต่างๆ ใหร้ ีบลา้ งออกโดยน้ำสะอาดเพ่ือป้องกันช้ินส่วน หรือสี
เสยี หาย
• อย่าเติมน้ำมันเกยี ร์อัตโนมตั มิ ากเกนิ มิฉะนั้นระบบเกียร์อาจเสียหายได้
• อยา่ เตมิ นำ้ มนั พวงมาลยั เพาเวอรม์ ากเกนิ มฉิ ะนั้นระบบพวงมาลัยเพาเวอร์อาจจะเสยี หายได้
และท้ังหมดนีก้ ็คอื วิธกี ารดูแลรักษารถยนต์เบอื้ งตน้ รักรถให้ถกู วิธี ดแู ลรกั ษาให้ถกู จดุ อาจจะดูมีจดุ ท่ีตอ้ งใส่
ใจมากมาย ทงั้ ข้อควรปฏิบัตแิ ละขอ้ ควรระวงั แต่ก็เพื่อใหร้ ถของคณุ มีสภาพที่พรอ้ มใช้งาน และยืดอายุใหร้ ถอยู่
ค่บู ุญกบั คุณไปนาน ๆ และวธิ ีดแู ลรถยนต์ทกุ วิธีทั้งหมดกเ็ ป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ไม่ต้องไปถงึ อู่ซ่อมกส็ ามารถดูแล
รักษาไดด้ ว้ ยตัวเอง