บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนพนมศึกษา ที่ พิเศษ/2566 วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขออนุมัติใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เรียน ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา สิ่งที่แนบมาด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เนื่องด้วยข้าพเจ้า นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี ต าแหน่ง ครู คศ.2 โรงเรียนพนมศึกษา ได้รับ มอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่การสอนตามค าสั่งที่ 120/2566 เรื่องมอบหมายงานสอน ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2566 ซึ่งทางกลุ่มบริหารงานวิชาการได้มอบหมายให้ครูทุกคน จัดท าแผนการจัดการเรียนรู้ อย่างน้อยคนละ 1 รายวิชานั้น ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานสายการสอนประจ ากลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ได้จัดท าแผนการจัดการเรียนรู้ ในรายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 บัดนี้ ข้าพเจ้าได้ด าเนินการจัดท าแผนการจัดการเรียนรู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขออนุมัติใช้ แผนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ ลงชื่อ ( นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี ) ครู คศ.3 ลงชื่อ ลงชื่อ ( นายธีระศักดิ์ ยอดมณีย์ ) ( นางสาวณัฐิญา คาโส ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นผู้อ านวยการ อนุมัติ ไม่อนุมัติ ................................................................................................................................. ลงชื่อ ( นางผกา สามารถ ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ........../......../...........
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 รหัสวิชา ส32103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 20 ชั่วโมง / ภาคเรียน จ านวน 0.5 หน่วยการเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 การก าหนดการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ รายการตรวจสอบและกลั่นกรอง การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ความคิดเห็น ความคิดเห็น 1........................................................................... ............................................................................. 2………………………………………………………………… ลงชื่อ......................................... ( นายธีระศักดิ์ ยอดมณีย์ ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ 1............................................................................. ................................................................................ 2…………………………………………………………………… ลงชื่อ......................................... ( นางณัฐิญา คาโส ) หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ลงชื่อ................................................ ( นางผกา สามารถ ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา
ค าอธิบายรายวิชา รายวิชาประวัติศาสตร์ 3 ส 32103 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 20 ชั่วโมง จ า น ว น 0 . 5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ คุณค่าและประโยชน์ของวิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ สากล อารยธรรมลุ่มแม่น้ าไทกรีส – ยูเฟรทีส ไนล์ หวางเหอ สินธุ และอารยธรรมกรีก โรมัน การติดต่อระหว่างโลก ตะวันออกกับโลกตะวันตกที่มีผลต่อพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทาง สังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักในความส าคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์สากล มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการท างาน ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย มีความรับผิดชอบ ตัวชี้วัด ส 4.1 ม. 4-6/1 ม. 4-6/2 ส 4.2 ม. 4-6/1 รวม 3 ตัวชี้วัด
โครงการสอน (Course Syllabus) 1. ชื่อวิชา ประวัติศาสตร์ 3 2. รหัสวิชา ส32103 3. จ านวนหน่วยการเรียนรู้ 0.5 หน่วยกิต 4. กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5. ประเภทวิชา พื้นฐาน 6. จ านวนคาบ : สัปดาห์ 1คาบ : สัปดาห์ 7. ค าอธิบายรายวิชา ศึกษา วิเคราะห์ ความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลง ของมนุษยชาติ ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ คุณค่าและประโยชน์ของวิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มี ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์สากล อารยธรรมลุ่มแม่น้ าไทกรีส – ยูเฟรทีส ไนล์ หวางเหอ สินธุ และอารย ธรรมกรีก โรมัน การติดต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตกที่มีผลต่อพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลง ของโลก เหตุการณ์ส าคัญต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน การขยาย การล่าอาณานิคม ของประเทศในยุโรปไปยังทวีปอเมริกา แอฟริกาและเอเชีย และผลกระทบ ความร่วมมือและความขัดแย้ง ของมนุษยชาติในโลก สถานการณ์ส าคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักในความส าคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์สากล มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการท างาน ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย มีความรับผิดชอบ 8. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8.1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 8.2. ซื่อสัตย์สุจริต 8.3. มีวินัย 8.4. ใฝ่เรียนรู้ 8.5. อยู่อย่างพอเพียง 8.6. มุ่งมั่นในการท างาน 8.7. รักความเป็นไทย 8.8. มีจิตสาธารณะ 9. สมรรถนะของผู้เรียน 9.1. ความสามารถในการสื่อสาร 9.2. ความสามารถในการคิด 9.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 9.4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 9.5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
10.เนื้อหาสาระ ล าดับที่ ชื่อหน่วยการเรียน มาตรฐานการ เรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 เวลาและการแบ่งยุค สมัยทาง ประวัติศาสตร์สากล ส 4.1 ม.4- 6/1 เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ของสังคมมนุษย์ที่มีปรากฏในหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์สากล ท าให้ได้ข้อมูลที่แสดง ถึงการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ 5 15 2 การสร้างองค์ความรู้ ใหม่ทาง ประวัติศาสตร์สากล ส 4.1 ม.4- 6/2 การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทาง ประวัติศาสตร์สากล โดยใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์อย่างเป็นระบบ ย่อมท า ให้ผลการศึกษานั้นมีคุณค่า และเป็นที่ ยอมรับในวงวิชาการ 5 15 สอบกลางภาค 20 3 อารยธรรมของโลก ยุคโบราณ ส 4.2 ม.4- 6/1 อารยธรรมลุ่มแม่น้ าไทกรีส-ยูเฟรทีส ไนล์ หวางเหอ สินธุ และอารยธรรมกรีก โรมัน และการติดต่อระหว่างโลก ตะวันออกและตะวันตก มีอิทธิพลทาง วัฒนธรรมต่อกัน และมีผลต่อ การพัฒนาและเปลี่ยนแปลงของโลก 10 30 สอบปลายภาค 20 รวม 20 100 11. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ - ใบงาน - ใบกิจกรรม - หนังสือเรียนประวัติศาสตร์สากล 4-6 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องสมุดโรงเรียน - อินเตอร์เน็ต 12. เกณฑ์การประเมินผล คะแนน 0 – 49 ได้ผลการเรียน 0 คะแนน 50 - 54 ได้ผลการเรียน 1 คะแนน 55 - 59 ได้ผลการเรียน 1.5 คะแนน 60 - 64 ได้ผลการเรียน 2 คะแนน 65 - 69 ได้ผลการเรียน 2.5 คะแนน 70 - 74 ได้ผลการเรียน 3 คะแนน 75 - 79 ได้ผลการเรียน 3.5 คะแนน 80 - 100 ได้ผลการเรียน 4
โรงเรียนพนมศึกษา ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อน าไปออกแบบการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับความสามารถของนักเรียน 2. เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 รหัสวิชา ส32103 ภาคเรียนที่ 1/2566 ชื่อผู้สอน นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี สรุปผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพื้นฐานที่ใช้ในการเรียนวิชานี้ ระดับคุณภาพของ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน GPA ของกลุ่ม จ านวนคน ร้อยละ ปรับปรุง ต่ ากว่า 2.00 10 7.69 พอใช้ 2.00 – 2.50 19 14.61 ดี สูงกว่า 2.50 101 77.69
แนวทางการจัดกิจกรรม ผลสัมฤทธิ์ ทางการ เรียน ร้อยละ กิจกรรมแก้ไขหรือพัฒนา ในแผนการเรียนรู้ จ านวน เครื่องมือ/ เดิม เป้าหมาย วิธีการประเมิน ดี 77.69 80.00 1. กิจกรรมการเรียนการสอนด าเนิน เช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ในชั้น เรียน 2. ให้นักเรียนกลุ่มนี้เป็นผู้ด าเนินการ เฉลยแบบฝึกหัดตามสมควร 3. ให้นักเรียนกลุ่มนี้เป็นผู้ช่วยเหลือ เพื่อนในเรียน การท าแบบฝึกต่าง ๆ เป็น ผู้อธิบาย (ผู้ช่วยครู) สอนเพื่อนกลุ่มอ่อน ที่ยังไม่เข้าใจ 4. ให้แบบฝึกพิเศษเพิ่มเติม 5. ท าชิ้นงานเพิ่มเติ่ม 1. แบบฝึกหัดท้าย บท 2. แบบบันทึกการ เก็บคะแนน 3. แบบบันทึกหลัง การสอน 4. แผนการจัดการ เรียนรู้ 5. ชิ้นงาน พอใช้ 14.61 20 1. กิจกรรมการเรียนการสอนด าเนิน เช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่นๆในชั้น เรียน มีการทดลอง ใบงาน แบบฝึกหัด 2. ให้นักเรียนกลุ่มนี้จับคู่ประกบตัวต่อ ตัวกับนักเรียนกลุ่มเก่ง 3. ให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมจากสื่อการ เรียนรู้ในสถานที่ต่างๆ 4. นักเรียนกลุ่มเก่งน าความรู้ที่ได้จาก การท าแบฝึกหัดพิเศษเพิ่มเติมมาสอน ต่อนักเรียนที่อยู่กลุ่มพอใช้ 1. แบบฝึกหัดท้าย บท 2. แบบบันทึกการ เก็บคะแนน 3. แบบบันทึกหลัง การสอน 4. แผนการจัดการ เรียนรู้ 5. ชิ้นงาน ปรับปรุง 7.69 0 1. กิจกรรมการเรียนการสอนด าเนิน เช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ เพิ่มเติม แบบฝึกคู่ขนาน 2. ให้นักเรียนกลุ่มนี้จับคู่ประกบตัวต่อ ตัวกับนักเรียนกลุ่มเก่งและปานกลาง 3. จัดสอนซ่อมเสริมในเนื้อหาที่ไม่ผ่าน เกณฑ์การประเมิน หรือยังไม่เข้าใจแก่ นักเรียนกลุ่มนี้ 1. แบบฝึกคู่ขนาน 2. แบบบันทึกการ เก็บคะแนน 3. แบบบันทึกหลัง การสอน 4. แผนการจัดการ เรียนรู้ 5. ชิ้นงาน
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายขันติพงศ์ ทองสงฆ์ 2 เด็กชายจตุพร มีมาก 3 นายณัฐพล พันพิจิตร์ 4 นายธนภูมิ รักเหล็ก 5 นายพุฒิเมธ แก้วผง 6 นายภูริณัฐ อ้นเขาวงค์ 7 นายภูวิศ สิงห์ศรีดา 8 นายยุทธพงค์ ช่างพูด 9 นายศักดิ์ชัย สุขอุ่น 10 นายสิรภัทร สุวรรณรังษี 11 นางสาวกรวิการ์ เขียมวัชระ 12 นางสาวฉัฐกนก พลอยประทุม 13 นางสาวชนิกานต์ เบ็ญจรัตน์ 14 นางสาวชลิดา สาคร 15 นางสาวณัฎฐณิชา รอดหยู่ 16 นางสาวณัฐณิชา รอดเจริญ 17 นางสาวธนัญญา ศรีรักษา 18 นางสาวนภัทรสร เรืองศรี 19 นางสาวนภัสสร คงแก้ว 20 นางสาวนวลณภา ชูพล 21 นางสาวนิชาภัทร ชูนุ้ย 22 นางสาวปณิตตรา สุดเส้ง 23 นางสาวปิยาพัชร หนูมี 24 นางสาวพรนภัส แสตมป์ 25 นางสาวพิมพ์อักษิพร วนะกรรม 26 นางสาวฟ้าใส นุชทรัพย์ 27 นางสาวรุ่งนภา เหล็กเนตร 28 นางสาววชิรญา นวลขาว 29 นางสาววรรณพร ธาระมนต์
30 นางสาววราภรณ์ พูนจันทร์ 31 นางสาวสิรยากร สมคิด 32 นางสาวสิริกัลยา ชาตรีทับ 33 นางสาวสิริมา นวลละออง 34 นางสาวสุจิรา ทับเมือง 35 นางสาวสุภัสสร แซ่ตัน 36 นางสาวสุภาวดี นาภรณ์ 37 นางสาวหทัยกานต์ ผลบรรจง 38 นางสาวอลิสา ศิริ ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 3
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 2 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายกัณฑ์อเนก สาริพัฒน์ 2 นายจักรภัทร ฤทธิกุล 3 นายธนกฤต แซ่จู้ 4 นายธาราวิน วิเศษกลิ่น 5 นายภาคภูมิ ดวงแก้ววิเศษ 6 นายภาณุพงศ์ อภิโมทย์ 7 นายภาณุภักดิ์ พึ่งผล 8 นายรักษ์กวี จันทร์เมือง 9 นายรัชชานนท์ คงรบ 10 นายอภิวัฒน์ รัตนชัย 11 นางสาวกัลยารัตน์ ศรีนุ้ย 12 นางสาวกาญจนาวรรณ ทิมรัตน์ 13 นางสาวขนิษฐา แก่นสาร 14 นางสาวจันทิมาพร เจริญพร 15 นางสาวโชติมา แสงทองย้อย 16 นางสาวญารินทร์ดา เชี่ยวหมอน 17 นางสาวณัฐกานต์ ศรีรักษา 18 นางสาวทักษิณา แจ่มกมล 19 นางสาวนภัสสร หนอนแก้ว 20 นางสาวนลินทิพย์ วัชนะ 21 นางสาวนิตยา คงวุธ 22 นางสาวพรพชร พันธุ์สิน 23 นางสาวพัชรพร ชัยธรรม 24 นางสาวพิชญาภา มากแก้ว 25 นางสาวพิมพ์พิสชา จัตตามาศ 26 นางสาวพิมพิศา เพชรา 27 นางสาวแพรววา รัตนพันธ์ 28 นางสาวรุ่งนภา ชุมมะ 29 นางสาวสิริชนก ช่วยผล
30 นางสาวสุภาวดี ทองสัมฤทธิ์ 31 นางสาวโสรญา สุดเส้ง 32 นางสาวอภิญญา อินธิดา 33 นางสาวอัญชิสา ปรีชา 34 นางสาวอาลิษา ทองวิเศษ 35 นางสาวอุมาพร ถาพร ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 3
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 3 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายกิตติมล ชุมชุ่ม 2 นายขจรยศ วรภูมิ 3 นายณรงค์ศักดิ์ รักสุข 4 นายธีรศักดิ์ วังฉาย 5 เด็กชายปฏิพัฒ เดชะ 6 นายพงศกร ทองดอนยอด 7 นายภัคพล หมานเหตุ 8 นายภูวนัย นกขุ้ม 9 นายรัชตพงษ์ มากมูล 10 นายศุภณัฐ ทิพย์เดช 11 นายสุทธิภัทร ทองดอนยอด 12 นายอาทิตย์ ปานปริเยศ 13 เด็กหญิงกชอร มณีรัตน์ 14 นางสาวกนกพร เพ็ชรมณี 15 นางสาวกวิสรา นกขุ้ม 16 นางสาวกัญญาณัฐ บุญช่วย 17 นางสาวกัลยา วงศ์สุบรรณ 18 นางสาวกุลปริยา ทัดดอกไม้ 19 นางสาวจตุพร กลับศรี 20 นางสาวชญาณี บัวบาน 21 นางสาวชญานิศ ทิมเทศ 22 นางสาวฐานิตา ช่วยศรี 23 นางสาวณัฐณิชา รักกะเปา 24 นางสาวดาราณี บูรพา 25 นางสาวนันทิกานต์ ศรีวารินทร์ 26 นางสาวบวรรัตน์ สมเพ็ชร 27 นางสาวเบศจมาศ ขวดแก้ว 28 นางสาวภัทรนันท์ ศรชนะ 29 นางสาวศิรภัสสร คงเพชร
30 นางสาวสุตาภัทร พลขัน ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย หมายเหตุ ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 3
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 4 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายกฤติเดช ดวงเกิด 2 นายกิตติภพ เวชรินทร์ 3 นายจักรินทร์ แป้นด าเนิน 4 นายเจตพล สุขอุ่น 5 นายเจษฎาภรณ์ สมคลองศก 6 นายณัฐศักดิ์ จันทร์ลีเล็ด 7 นายเดชอนันต์ ชูแฉล้ม 8 นายเดชานุวัตร พัฒนะ 9 นายตรังค เรืองศรี 10 นายทศพร จินดาวงค์ 11 นายธนาวัตร เส้งเซ่ง 12 นายนนท์นันต์ นะเจ๊ะ 13 นายนิพนธ์ ประหารภาพ 14 นายบัณฑิต บัวแก้ว 15 นายปณวัฒน์ ทศราช 16 นายปวริศร์ ชูชาติ 17 นายพัชรพล เสนาะกรรณ์ 18 นายพีรพงษ์ เกิดหนู 19 นายพีรพัฒน์ อินทรชิต 20 นายภัครพล กล่อมเมฆ 21 นายภานุวัฒิ แก้วมุกดา 22 นายวรากรณ์ ฉิมบ้านดอน 23 นายศิวกร แก้วคง 24 นายสุทธิชาติ วงศ์หน้อย 25 นายสุทธินันท์ ศรีสวัสดิ์ 26 นายอนัน คณะแนม 27 นายอนันศักดิ์ ภูมิพิทักษ์ 28 นายอนุพงศ์ พัฒนะ 29 นายอนุศักดิ์ สังข์ทอง
30 นายอภิสิทธิ์ ส าภา 31 นางสาวกมลวัลย์ สุขนิตย์ 32 นางสาวชนิสรา เทพบุรี 33 นางสาวฐิติมา กุลทอง 34 นางสาวณัฐณิชา คงเกษตร 35 นางสาวธนัชพร คงสะอาด 36 นางสาวหรัญญา บุญลึก ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 3
การวัดผลและประเมินผล การวัดผลการเรียนรู้ 1. การวัดผลระหว่างเรียน 50 คะแนน 2. การวัดผลกลางภาคเรียน 20 คะแนน 3. การวัดผลปลายภาคเรียน 30 คะแนน 4. รวมการวัดผลตลอดภาคเรียน 100 คะแนน การประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินผล การเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 4 ดีเยี่ยม 80 – 100 3.5 ดีมาก 75 – 79 3 ดี 70 – 74 2.5 ค่อนข้างดี 65 – 69 2 น่าพอใช้ 60 – 64 1.5 พอใช้ 55 – 59 1 ผ่าน 50 – 54 0 ต่ ากว่าเกณฑ์ 0 – 49 การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผลการ ประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน ดีเยี่ยม หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนที่มี คุณภาพดีเลิศอยู่เสมอ ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มี คุณภาพเป็นที่ยอมรับ แต่ยังมีข้อบกพร่องบาง ประการ ไม่ผ่าน หมายถึง ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน หรือ ถ้ามีผลงาน ผลงานนั้นยังมีข้อบกพร่องที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลายประการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 รหัสวิชา ส32103 ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศึกษาฯ หน่วยการเรียนรู้ที่1 เวลาและการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สากล เรื่อง กาลเวลา ผู้สอน นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี เวลา 1 ชั่วโมง .............................................................................................................................................................................. 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด ส 4.1 ม.4-6/1 ตระหนักถึงความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึง การเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ 2. สาระส าคัญ การศึกษาเวลาตามระบบของไทยและสากล มีผลต่อการศึกษาและการท าความเข้าใจประวัติศาสตร์ ของสังคมมนุษย์ในแต่ละยุคสมัย 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ ( K ) กระวนการ ( P ) เจตคติ ( A ) 1 รู้และเข้าใจเวลาระบบต่างๆ ของสากล / 2 ค านวณเวลาตามระบบต่างๆ ของสากลได้ / 3 ตระหนักถึงความส าคัญของกาลเวลาใน ชีวิตประจ าวัน / 4. สาระการเรียนรู้ 1) เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์ สากล 2) ตัวอย่างเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ของสังคมมนุษย์ที่มีปรากฏในหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ 3) ความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ 5. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. การน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการการเรียนรู้ 1. ผู้สอน ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ต่อไปนี้ 3 ห่วง ประเด็น ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัว 1. เนื้อหา/สาระที่สอน วิเคราะห์หลักสูตร ก าหนดเนื้อหาเหมาะสม กับมาตรฐานตัวชี้วัด บริบทของท้องถิ่นเวลา และวัยของผู้เรียน ผู้เรียนเข้าใจง่าย สอดคล้องกับมาตรฐาน และตัวชี้วัดที่ก าหนดไว้ ในหลักสูตร เรียงล าดับเนื้อหาจาก ง่ายไปหายากเป็นเนื้อหา ที่ใกล้ตัวผู้เรียน 2. เวลา ก าหนดเวลาเหมาะสม กับกิจกรรมและเนื้อหา และวัยของผู้เรียน จัดการเรียนรู้ได้ตาม กระบวนครบถ้วนตามที่ วางแผนไว้ วางแผนการใช้เวลาใน แต่ละกิจกรรมให้ รอบคอบเพื่อรองรับการ เปลี่ยนแปลงระหว่างจัด กิจกรรม 3. กิจกรรมการเรียนการ สอน ก าหนดกิจกรรมการ เรียนรู้เหมาะสมกับเวลา ที่ก าหนด -ต้องการให้ผู้เรียนได้ ปฏิบัติกิจกรรมอย่าง ทั่วถึงตามความสามารถ -ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ -ก าหนดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ชัดเจนจากง่าย ไปหายากและใช้สอย แทนได้ -ครูมีความรอบรู้ในเรื่อง ที่สอนจึงท าให้การเรียนรู้ ของผู้เรียนมี ประสิทธิภาพ 4. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ -ก าหนดแหล่งเรียนรู้ได้ เหมาะสมกับเนื้อหา กิจกรรมวัยเรียน งบประมาณเวลาที่ ก าหนด -จัดเตรียมสื่ออุปกรณ์ เอกสารต่างๆ เหมาะสม กับกิจกรรมปริมาณ เพียงพอกับจ านวน นักเรียน -ต้องการให้นักเรียนใช้ แหล่งเรียนรู้ให้เกิด ประโยชน์และคุ้มค่า -ใช้สื่ออุปกรณ์ได้ ประหยัดคุ้มค่าและมี ประสิทธิภาพต่อการ เรียนรู ้ -จัดเตรียมแหล่งเรียนรู้ไว้ ให้พร้อมก่อนการสอน -จะเตรียมสื่ออุปกรณ์ให้ พร้อมก่อนการจัด กิจกรรมการจัดการ เรียนรู้ - มีล าดับขั้นตอนการใช้ สื่อแต่ละชนิดอย่าง ชัดเจน -จัดเก็บอุปกรณ์อย่าง เป็นระบบ
- มีความช านาญในการ ใช้สื่ออุปกรณ์ 5. การวัดผล ประเมินผล มีการออกแบบการวัด และประเมินผลได้ เพียงพอกับตัวชี้วัดและ เหมาะสมกับเวลาและวัย ผู้เรียน มีการออกแบบเครื่องมือ วัดและประเมินผลที่ สอดคล้องกับเนื้อหาที่ ต้องการวัดบรรลุตัวชี้วัด ที่ก าหนดไว้ในหลักสูตร วางแผนการวัดและ ประเมินผลเป็นขั้นตอน ชัดเจนแบบประเมินผลมี การตรวจสอบวัดและ ปรับปรุงมีความเชื่อมั่น เที่ยงตรงในการวัดตาม ตัวชี้วัด เงื่อนไขความรู้ 1. ความส าคัญและเป้าหมายของเศรษฐศาสตร์ 2. จิตวิทยาในการสอน เงื่อนไขคุณธรรม มีความรัก มีเมตตาศิษย์ มีความรับผิดชอบมีความยุติธรรมและตรงต่อเวลา 2 คุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงที่เกิดกับผู้เรียน ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัว 1 นักเรียนใช้เวลาในการท า กิจกรรมการเรียนรู้ได้พอดีกับเวลา ที่ก าหนด นักเรียนมีเหตุผลในการตอบ ค าถาม 1. นักเรียนรู้จักการวางแผนการ ท างาน 2. นักเรียนศึกษาความรู้ก่อนตอบ ค าถามและสรุปความรู้เพื่อให้ได้ ค าตอบที่ถูกต้อง เงื่อนไขความรู้ กาลเวลา เงื่อนไขคุณธรรม 1. ความรับผิดชอบมีวินัยในการท างาน 2. เกิดความรักชาติศาสน์กษัตริย์ 3. เกิดการใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการท างาน
ส่งผลต่อความสมดุล มั่นคง ยั่งยืนใน 4 มิติดังนี้ มิติวัตถุ มิติสังคม มิติสิ่งแวดล้อม มิติวัฒนธรรม มีความรู้ในการเลือกสื่อ ในการศึกษาค้นคว้า ข้อมูล 1. มีความรู้ในการ วางแผนการท างาน ให้ตรงตาม ประเพณี 2. มีความรู้ในการ วางแผนการท างาน เป็นกลุ่ม มีความรู้ในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ในการท าชิ้นงาน อย่างประหยัด ใช้ภาษาและมีบุคลิกภาพ เหมาะสม มีทักษะในการเลือกซื้อ ได้ตรงตามเป้าหมายที่ จะศึกษา 1. มีทักษะในการ ตอบค าถาม 2 มีทักษะในการ ฟังขณะที่ผู้อื่น แสดงความคิดเห็น 1. ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการท า ชิ้นงานอย่างเหมาะสม 2 ออกแบบชิ้นงานได้อย่าง เรียบร้อยสวยงาม ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการ ท างาน ตระหนักถึงผลที่ใช้ อุปกรณ์ในการท างาน เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เรียบร้อยหลังจากที่ใช้ งานแล้ว มีความรับผิดชอบ ในการท างาน ตระหนักและใช้ทรัพยากรที่ มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่าง คุ้มค่าที่สุดมาดูวิธีการ ท างานโดยไม่ต้องพิมพ์ สืบทอดและเผยแพร่องค์ ความรู้เกี่ยวกับการตั้งถิ่น ฐานในสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ได้อย่างเข้าใจ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนัก ) นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 1. ครูน าแผนที่โลกมาให้นักเรียนดู แล้วถามความรู้ว่านักเรียนรู้จักแหล่งอารยธรรมโบราณที่ใดบ้าง พร้อมทั้งให้นักเรียนชี้แผนที่ประกอบ 2. ครูเชื่อมโยงความส าคัญของเวลาต่อชีวิตประจ าวันของนักเรียน 3. นักเรียนระดมสมองถึงความรู้เรื่องภูมิหลังและพัฒนาการของชาติไทยกับแหล่งอารยธรรมโลก 4. นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับเวลาในประวัติศาสตร์ และท าใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับเวลาในประวัติศาสตร์ เสร็จแล้วครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยค าตอบในใบงาน
5. นักเรียนศึกษาเรื่อง แหล่งอารยธรรมโลก ที่นักเรียนสนใจ 1 เรื่อง แล้วให้นักเรียนน าข้อมูลแหล่ง อารยธรรมโลกที่นักเรียนสนใจ มาแลกเปลี่ยนกัน 6. นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง การนับและการเทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย 7. ครูให้นักเรียนช่วยกันหาค าตอบจากกรณีตัวอย่างที่ครูก าหนดให้ เพื่อให้นักเรียนฝึกค านวณการนับ และเทียบศักราชต่างๆ ของไทย 8. ครูให้นักเรียนน าข้อมูลเวลาตามแหล่งอารยธรรมโลกที่นักเรียนสนใจ มาค านวณเวลาให้เป็นระบบ ของไทย 8. สื่อ / วัสดุอุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์สากล ม.4-ม.6 2. แผนที่โลก 3. ใบความรู้เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับเวลาในประวัติศาสตร์ 4. ใบความรู้เรื่อง การนับและการเทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย 5. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับเวลาในประวัติศาสตร์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. เหตุการณ์ส าคัญทางประวัติศาสตร์ 9. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนท าใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการท างาน รายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน ประจำ หน่วยกำรเรียนรู้ที่1 ค ำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกค ำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงค ำตอบเดียว 1. พุทธศักราช เกิดก่อนคริสต์ศักราชกี่ปี ก. 245 ข. 453 ค. 543 ง. 1124 2. พ.ศ.2467 อยใู่นช่วงพทุธศตวรรษที่เท่ำไร ก. 26 ข. 25 ค. 24 ง. 23 3. ฮิจเรำะห์ศักรำช เป็ นกำรใช้ศักรำชโดยคนที่นับถือศำสนำใด ก. ศำสนำฮินดู ข. ศำสนำคริสต์ ค. ศำสนำอิสลำม ง. ศำสนำยูดำห์ 4. มหำศกัรำชเป็นศกัรำชที่ไทยไดแ้บบอยำ่งมำจำกชำติใด ก. ลังกำ ข. ขอม ค. อินเดีย ง. จีน 5. ยคุประวตัิศำสตร์เริ่มเมื่อไร ก. รู้จักท ำกำรเกษตร ข. มีกำรต้งัชุมชนข้ึน ค. มีกำรใช้โลหะเป็ นอำวุธ ง. มีกำรบันทึกเป็ นลำยลักษณ์อักษร 6. ข้อใดคือลักษณะของมนุษย์ยุคหินกลำง ก. รู้จกักำรทำ เครื่องป้ันดินเหนียว ข. ใชข้วำนหินหรือขวำนกำ ป้ัน ค. ใชห้ ินกะเทำะในกำรล่ำสตัว์ ง. มีชีวติเร่ร่อนตำมแหล่งสตัวช์ุกชุม 7. สร้ำงที่พักด้วยดินเหนียว รู้จักรอกำรเก็บเกี่ยว หมำยถึงมนุษย์ในข้อใด ก. ยุคโลหะ ข. ยคุหินเก่ำ ค. ยุคหินกลำง ง. ยคุหินใหม่ 8. ศิลปวฒันธรรมตะวนัตกและตะวนัออก มำบรรจบเป็นคร้ังแรกที่ใด ก. เปอร์เซีย ข. ลุ่มน้ำ สินธุ ค. ลุ่มน้ำ ฮวงโห ง. ลุ่มน้ำ อิรวดี 9. ชุมชนบ้ำนเชียง จัดอยใู่นยคุใด ก. ยุคหินแรก ข. ยุคหินเก่ำ ค. ยุคหินกลำง ง. ยุคหินใหม่ 10. รูปแบบกำรด ำเนินชีวิตและกำรปกครองของประเทศในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ ไดร้ับอิทธิพลจำกศำสนำใดมำกที่สุด
ก. คริสต์ ข. อิสลำม ค. ยูดำห์ ง. ถูกทุกข้อ 11. กำรคน้พบสิ่งใดทำ ใหม้นุษยก์ำ้วเขำ้สู่สมยัประวตัิศำสตร์ ก. มนุษย์ค้นพบไฟ และกำรใช้ภำษำพูด ข. มนุษย์ประดิษฐ์ภำษำเขียนและกำรบันทึก ค. มนุษยม์ำอยรู่วมกนัเป็นสงัคมและรู้จกักำรเพำะปลูก 12. สมยัประวตัิศำสตร์ของโลกตะวนัตกเริ่มที่แหล่งอำรยธรรมใด ก. อำรยธรรมกรีก ข. อำรยธรรมโบรำณ ค. อำรยธรรมลุ่มแม่น้ำ สินธุ ง. อำรยธรรมลุ่มแม่น้ำ ไทกริส-ยูเฟรทีส 13. ข้อใด ไม่ใช่ควำมเจริญของมนุษย์ยุคหินใหม่ ก. กำรใช้เครื่องมือหินขัด ข. เร่ร่อนเก็บของป่ำล่ำสตัว์ ค. กำรต้งัถิ่นฐำนเป็นสงัคมเมือง ง. รู้จักท ำภำชนะเครื่องป้ันดินเผำ 14. ช่วงเวลำสมยัก่อนประวตัิศำสตร์ใชส้ิ่งใดเป็นเกณฑใ์นกำรแบ่งยคุสมยั ก. ประเภทของปศุสัตว์ ข. ที่อยอู่ำศยัของมนุษย์ ค. อำณำจักร หรือรำชวงศ์ ง. เครื่องมือเครื่องใช้ของมนุษย์ 15. ช่วงเวลำกบัยคุสมยัทำงประวตัิศำสตร์เหมือนหรือแตกต่ำงกนัอยำ่งไร ก. เหมือนกนั ช่วงเวลำเป็นสิ่งที่กำ หนดยคุสมยั ข. เหมือนกนัยคุสมยัเป็นสิ่งที่กำ หนดช่วงเวลำ ค. ต่ำงกนัช่วงเวลำกล่ำวถึงเวลำ แต่ยคุสมยักล่ำวถึงสภำพสงัคม ง. ต่ำงกนัช่วงเวลำแบ่งจำกจำ นวนปีทุกๆ 10 ปีหรือร้อยปีแต่ยคุสมยัแบ่งจำกพัฒนำกำร ทำงประวัติศำสตร์
1. ค 2. ข 3. ค 4. ข 5. ง 6. ก 7. ง 8. ข 9. ง 10. ค 11. ข 12. ง 13. ข 14. ข 15. ง เฉลย
ล ำดับ ที่ ชื่อ – สกุล มีควำมตั้งใจ ในกำร ท ำงำน มีควำม รับผิดชอบ ตรงต่อเวลำ ควำมสะอำด เรียบร้อย ผลส ำเร็จ ของงำน รวม 20 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 เกณฑ์กำรให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ = ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง = ปรับปรุง ให้ 1 คะแนน แบบสังเกตพฤติกรรมกำรท ำงำนรำยบุคคล
เกณฑ์กำรตัดสินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ 17-20 13-16 9-12 5-8 ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง
เรื่อง ควำมรู้เกยี่วกับเวลำในประวัตศิำสตร์ ประวัติศาสตร์ คือวิชาที่ว่าด้วยเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาแล้วผ่านไปตามกาลเวลา เป็นเรื่อง ที่มีความส าคัญ ควรแก่การศึกษาและมีผลกระทบต่อท้องถิ่นชุมชน สังคมโลก ได้มีการบันทึกไว้ เพื่อให้ ชนรุ่นหลังรับรู้ความรู้เกี่ยวกับเวลาในประวัติศาสตร์จึงท าให้รู้และเปรียบเทียบช่วงเวลาของการเกิดเหตุการณ์ ว่าผ่านมานานแล้วเพียงไร ศักราช หมายถึง ปีที่ตั้งขึ้นตามเหตุการณ์ วรรษ หมายถึง ปี ทศวรรษ หมายถึง เวลาในระยะ 10 ปี ศตวรรษ หมายถึง เวลาในระยะ 100 ปี สหัสวรรษ หมายถึง เวลาในระยะ 1,000 ปี ศก หมายถึง ยุค สมัย ปี วิธีนับปี ปีนักษัตร หมายถึง การนับปีที่ก าหนด 12 ปีเป็น 1 รอบ คือ ชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ กุน การนับเวลามี 2 แบบ คือ 1. นับตามปรากฏการณ์ของดวงอาทิตย์ที่โลกโคจรรอบ เรียกว่า นับทำงสุริยคติ เป็นการนับแบบ สากลในปัจจุบัน และนับตามดวงจันทร์ที่โคจรรอบโลก เรียกว่า นับทำงจันทรคติเป็นการนับ เวลาแบบโบราณของดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบันยังมีใช้บ้างในทาง พระพุทธศาสนาและโหราศาสตร์ 2. นับตามก าเนิดของศาสนาที่ส าคัญ คือ ใบควำมรู้
- พุทธศักราช (พ.ศ.) เริ่มจากปีที่พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพาน โดยพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นทางการ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2455 - คริสต์ศักราช (ค.ศ.) เริ่มจากปีที่พระเยซูประสูติ แตกต่างจากพุทธศักราช 543 ปี - ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.) เริ่มจากท่านนบีมูฮัมหมัดอพยพจากเมืองเมกกะไปยัง เมืองเมดินะ แตกต่างจากพุทธศักราช 1,122 ปี
เรื่อง กำรนับและกำรเทยีบศักรำชในประวัตศิำสตรไ์ทย ใบควำมรู้ ไปแล้ว 1 ปี พ.ศ. ใช้กันแพร่หลายในประเทศที่ประชาชน นับถือพระพุทธศาสนา เช่น ไทย ลาว พม่า และ กัมพูชา โดยมีการเริ่มใช้ พ.ศ. มาตั้งแต่สมัยอยุธยาใน สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และใช้อย่างเป็น ทางการในสมัยรัชกาลที่ 6 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยเริ่มนับ พ.ศ.1 เมื่อพระพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว 1 ปี ม.ศ. เป็นศักราชที่เริ่มใช้ในอินเดียโดย พระเจ้ากนิษกะ แห่งราชวงศ์กุษาณะทรงตั้งขึ้น และต่อมาได้แพร่หลายไปยังดินแดนที่ได้รับ อารยธรรมอินเดีย มหาศักราชพบได้มากใน จารึกสมัยสุโขทัยและจารึกในดินแดนไทยรุ่น แรกๆ การเทียบมหาศักราชเป็น พ.ศ. ให้ บวกด้วย 621 จ.ศ. เป็นศักราชของพม่าสมัยพุกามก่อนแพร่ เข้ามาในดินแดนประเทศไทย นิยมใช้ใน หลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยต่างๆ ทั้งสมัย สุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้น และล้านนา การเทียบจุลศักราชเป็น พ.ศ. ให้บวกด้วย 1181 ร.ศ. เป็นศักราชที่พระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชด าริขึ้นใช้ในกลาง รัชสมัยของพระองค์ โดยเริ่มนับ ร.ศ.1 ในปีที่สถาปนา กรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี คือ พ.ศ. 2325 การเทียบรัตนโกสินทร์ศกเป็น พ.ศ. ให้บวก ด้วย 2324 กำรนับศักรำชแบบ ไทย พ.ศ. ม.ศ. จ.ศ. ร.ศ.
เรื่อง ควำมรู้เกี่ยวกับเวลำในประวัติศำสตร์ คำ ชีแ้จง ให้นักเรียนตอบค าถามที่ก าหนดให้ถูกต้อง 1. วิชาที่เกี่ยวกับเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เป็นมาแล้วผ่านไปตามกาลเวลา เรียกว่า 2. ระยะเวลาในช่วง 10 ปี เรียกว่า 3. ระยะเวลาในช่วง 100 ปี เรียกว่า 4. ปีอธิกสุรทินมีจ านวน วัน และเดือนกุมภาพันธ์มี วัน 5. ในรอบ 1 ปี มีชื่อเดือนที่ลงท้ายว่า “ คม ” เดือน คือเดือน 6. พุทธศักราช เกิดก่อนคริสต์ศักราช ปี 7. คริสต์ศตวรรษที่ 17อยู่ในระยะ ค.ศ. ถึง ค.ศ. 8. ปีนี้ตรงกับรัตนโกสินทร์ศกใด 9. ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามนับจ านวนปีเป็น 10. ปีที่นักเรียนเกิดคือ พ.ศ. ตรงกับ ค.ศ. ใบงำนที่ 1.1
เรื่อง ควำมรู้เกี่ยวกับเวลำในประวัติศำสตร ์ คำ ชีแ้จง ให้นักเรียนตอบค าถามที่ก าหนดให้ถูกต้อง 1. วิชาที่เกี่ยวกับเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เป็นมาแล้วผ่านไปตามกาลเวลา เรียกว่า ประวัติศาสตร์ 2. ระยะเวลาในช่วง 10 ปี เรียกว่า ทศวรรษ 3. ระยะเวลาในช่วง 100 ปี เรียกว่า ศตวรรษ 4. ปีอธิกสุรทินมีจ านวน 366 วัน และเดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน 5. ในรอบ 1 ปี มีชื่อเดือนที่ลงท้ายว่า “ คม ” 7 เดือน คือเดือน มกราคม มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม สิงหาคม ตุลาคม ธันวาคม 6. พุทธศักราช เกิดก่อนคริสต์ศักราช 543 ปี 7. คริสต์ศตวรรษที่ 17อยู่ในระยะ ค.ศ. 1601 ถึง ค.ศ. 1700 8. ปีนี้ตรงกับรัตนโกสินทร์ศกใด 266 (2551-2325) 9. ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามนับจ านวนปีเป็น ฮิจเราะห์ศักราช 10. ปีที่นักเรียนเกิดคือ พ.ศ. ตรงกับ ค.ศ. (เฉลยตามอายุของนักเรียน) ใบงำนที่ 1.1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 รหัสวิชา ส32103 ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศึกษาฯ หน่วยการเรียนรู้ที่1 เวลาและการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สากล เรื่อง ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ผู้สอน นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี เวลา 3 ชั่วโมง .............................................................................................................................................................................. 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด ส 4.1 ม.4-6/1 ตระหนักถึงความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ 2. สาระส าคัญ ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติตามกาลเวลา และสามารถ เปรียบเทียบเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ไทย สากล และภูมิภาคที่ส าคัญของโลก 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ ( K ) กระวนการ ( P ) เจตคติ ( A ) 1 อธิบายวิธีการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สากลและ ภูมิภาคที่ส าคัญของโลก / 2 ตระหนักถึงความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์ / 3 เปรียบเทียบเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ไทย สากล และ ภูมิภาคที่ส าคัญของโลกที่แสดงถึงความสัมพันธ์ในการ ต่อเนื่องของกาลเวลา / 4. สาระการเรียนรู้ 1) เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์ สากล 2) ตัวอย่างเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ของสังคมมนุษย์ที่มีปรากฏในหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ 3) ความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ 5. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. การน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการการเรียนรู้ 1. ผู้สอน ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ต่อไปนี้ 3 ห่วง ประเด็น ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัว 1. เนื้อหา/สาระที่สอน วิเคราะห์หลักสูตร ก าหนดเนื้อหาเหมาะสม กับมาตรฐานตัวชี้วัด บริบทของท้องถิ่นเวลา และวัยของผู้เรียน ผู้เรียนเข้าใจง่าย สอดคล้องกับมาตรฐาน และตัวชี้วัดที่ก าหนดไว้ ในหลักสูตร เรียงล าดับเนื้อหาจาก ง่ายไปหายากเป็นเนื้อหา ที่ใกล้ตัวผู้เรียน 2. เวลา ก าหนดเวลาเหมาะสม กับกิจกรรมและเนื้อหา และวัยของผู้เรียน จัดการเรียนรู้ได้ตาม กระบวนครบถ้วนตามที่ วางแผนไว้ วางแผนการใช้เวลาใน แต่ละกิจกรรมให้ รอบคอบเพื่อรองรับการ เปลี่ยนแปลงระหว่างจัด กิจกรรม 3. กิจกรรมการเรียนการ สอน ก าหนดกิจกรรมการ เรียนรู้เหมาะสมกับเวลา ที่ก าหนด -ต้องการให้ผู้เรียนได้ ปฏิบัติกิจกรรมอย่าง ทั่วถึงตามความสามารถ -ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ -ก าหนดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ชัดเจนจากง่าย ไปหายากและใช้สอย แทนได้ -ครูมีความรอบรู้ในเรื่อง ที่สอนจึงท าให้การเรียนรู้ ของผู้เรียนมี ประสิทธิภาพ 4. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ -ก าหนดแหล่งเรียนรู้ได้ เหมาะสมกับเนื้อหา กิจกรรมวัยเรียน งบประมาณเวลาที่ ก าหนด -จัดเตรียมสื่ออุปกรณ์ เอกสารต่างๆ เหมาะสม -ต้องการให้นักเรียนใช้ แหล่งเรียนรู้ให้เกิด ประโยชน์และคุ้มค่า -ใช้สื่ออุปกรณ์ได้ ประหยัดคุ้มค่าและมี ประสิทธิภาพต่อการ เรียนรู ้ -จัดเตรียมแหล่งเรียนรู้ไว้ ให้พร้อมก่อนการสอน -จะเตรียมสื่ออุปกรณ์ให้ พร้อมก่อนการจัด กิจกรรมการจัดการ เรียนรู้
กับกิจกรรมปริมาณ เพียงพอกับจ านวน นักเรียน - มีล าดับขั้นตอนการใช้ สื่อแต่ละชนิดอย่าง ชัดเจน -จัดเก็บอุปกรณ์อย่าง เป็นระบบ - มีความช านาญในการ ใช้สื่ออุปกรณ์ 5. การวัดผล ประเมินผล มีการออกแบบการวัด และประเมินผลได้ เพียงพอกับตัวชี้วัดและ เหมาะสมกับเวลาและวัย ผู้เรียน มีการออกแบบเครื่องมือ วัดและประเมินผลที่ สอดคล้องกับเนื้อหาที่ ต้องการวัดบรรลุตัวชี้วัด ที่ก าหนดไว้ในหลักสูตร วางแผนการวัดและ ประเมินผลเป็นขั้นตอน ชัดเจนแบบประเมินผลมี การตรวจสอบวัดและ ปรับปรุงมีความเชื่อมั่น เที่ยงตรงในการวัดตาม ตัวชี้วัด เงื่อนไขความรู้ 1. การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ 2. จิตวิทยาในการสอน เงื่อนไขคุณธรรม มีความรัก มีเมตตาศิษย์ มีความรับผิดชอบมีความยุติธรรมและตรงต่อเวลา 2 คุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงที่เกิดกับผู้เรียน ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัว 1 นักเรียนใช้เวลาในการท า กิจกรรมการเรียนรู้ได้พอดีกับเวลา ที่ก าหนด นักเรียนมีเหตุผลในการตอบ ค าถาม 1. นักเรียนรู้จักการวางแผนการ ท างาน 2. นักเรียนศึกษาความรู้ก่อนตอบ ค าถามและสรุปความรู้เพื่อให้ได้ ค าตอบที่ถูกต้อง เงื่อนไขความรู้ ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ เงื่อนไขคุณธรรม 1. ความรับผิดชอบมีวินัยในการท างาน 2. เกิดความรักชาติศาสน์กษัตริย์ 3. เกิดการใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการท างาน
ส่งผลต่อความสมดุล มั่นคง ยั่งยืนใน 4 มิติ ดังนี้ มิติวัตถุ มิติสังคม มิติสิ่งแวดล้อม มิติวัฒนธรรม มีความรู้ในการเลือกสื่อ ในการศึกษาค้นคว้า ข้อมูล 1. มีความรู้ในการ วางแผนการท างาน ให้ตรงตาม ประเพณี 2. มีความรู้ในการ วางแผนการท างาน เป็นกลุ่ม มีความรู้ในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ในการท าชิ้นงาน อย่างประหยัด ใช้ภาษาและมีบุคลิกภาพ เหมาะสม มีทักษะในการเลือกซื้อ ได้ตรงตามเป้าหมายที่ จะศึกษา 1. มีทักษะในการ ตอบค าถาม 2 มีทักษะในการ ฟังขณะที่ผู้อื่น แสดงความคิดเห็น 1. ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการท า ชิ้นงานอย่างเหมาะสม 2 ออกแบบชิ้นงานได้อย่าง เรียบร้อยสวยงาม ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการ ท างาน ตระหนักถึงผลที่ใช้ อุปกรณ์ในการท างาน เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เรียบร้อยหลังจากที่ใช้ งานแล้ว มีความรับผิดชอบ ในการท างาน ตระหนักและใช้ทรัพยากรที่ มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่าง คุ้มค่าที่สุดมาดูวิธีการ ท างานโดยไม่ต้องพิมพ์ สืบทอดและเผยแพร่องค์ ความรู้เกี่ยวกับการตั้งถิ่น ฐานในสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ได้อย่างเข้าใจ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ (วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ: เทคนิคการจัดทีมแข่งขัน) 1. ให้นักเรียนนับ 1- 4 เพื่อก าหนดหมายเลขประจ าตัว 2. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวกับประเด็นความรู้ที่ตรงกับหมายเลขที่นักเรียนนับ โดยให้นักเรียน ช่ัวโมงที่1
ที่นับหมายเลขเดียวกันร่วมกันศึกษาและสรุปความรู้ ดังนี้ - หมายเลข 1 การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ตะวันตก : สมัยก่อนประวัติศาสตร์ - หมายเลข 2 การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ตะวันตก : สมัยประวัติศาสตร์ - หมายเลข 3 การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ตะวันออก : จีน - หมายเลข 4 การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ตะวันออก : อินเดีย 3. นักเรียนในแต่ละหมายเลขร่วมกันสรุปความรู้ และซักถามข้อสงสัยกับสมาชิกในกลุ่มจนเกิด ความเข้าใจตรงกัน 4. ให้นักเรียนรวมกลุ่มใหม่ กลุ่มละ 4 คน โดยในแต่ละกลุ่มจะต้องมีสมาชิกครบทั้ง 4 หมายเลข แล้วให้แลกเปลี่ยนความรู้และซักถามกันในกลุ่ม 5. ให้นักเรียนท าใบงานที่ 2.1 เรื่อง การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ 6. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมและทบทวนความรู้ แล้วนัดหมายให้นักเรียนเตรียมความพร้อม เพื่อเล่นเกมเก็บแต้ม ในชั่วโมงเรียนต่อไป 1. นักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้จากที่ได้ศึกษาในชั่วโมงที่ผ่านมา 2. ครูสอบถามเกี่ยวกับความพร้อมก่อนการเล่นเกมเก็บแต้ม แล้วอธิบายวิธีการเล่นเกมเก็บแต้ม (เอกสารประกอบการสอน เกมเก็บแต้ม) 3. ให้นักเรียนเล่นเกมตามวิธีการเล่นเกม โดยมีครูคอยให้ค าแนะน า หรือสังเกตพฤติกรรมการร่วม กิจกรรมของนักเรียน 4. นักเรียนร่วมกันสรุปผลการเล่นเกมเก็บแต้ม ครูให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท ากิจกรรม ร่วมกัน 5. ให้นักเรียนกลุ่มที่ชนะในการเล่นเกมส่งตัวแทนออกมาบอกถึงการเตรียมความพร้อมในการเล่นเกม และให้เพื่อนปรบมือชมเชยในความสามารถของเพื่อนๆ 6. ให้นักเรียนร่วมกันเล่นเกมฉันคือ.... (เอกสารประกอบการสอน เกม ฉันคือ...) โดยครูก าหนด เวลาในการเล่นเกมประมาณ 20-30 นาที (ก าหนดโดยพิจารณาจากความพร้อมของนักเรียน) ช่ัวโมงที่ 2-3
7. ให้นักเรียนสรุปผลคะแนนจากการเล่นเกม และความรู้ที่ได้รับ 8. ครูชมเชยในความสามารถและการท างานร่วมกันอย่างสมานสามัคคีของนักเรียนทุกกลุ่ม 9. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาเรื่อง ตัวอย่างเวลาและยุคสมัยที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์สากล ในหนังสือเรียน แล้วเปรียบเทียบและสรุปความรู้ 10. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันจัดท าผังมโนทัศน์แสดงการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติที่เป็นผลจาก เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ 11. ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอผลงานการออกแบบผังมโนทัศน์หน้าชั้นเรียน นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 8. สื่อ / วัสดุอุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์สากล ม.4-ม.6 2. เกมเก็บแต้ม 3. เกมฉันคือ 4. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. ห้องเทคโนโลยีสารสนเทศ 9. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ นักเรียนท าใบงานที่ 2.1 ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนร่วมกันจัดท าผังมโนทัศน์ แสดงการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ ที่เป็นผลจากเวลา และยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์ แบบประเมินผังมโนทัศน์แสดงการ เปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติที่เป็นผล จากเวลา และยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนน าเสนอผลงาน แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน แบบทดสอบหลังเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ล ำดับ ที่ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหาสาระ 2 ความคิดสร้างสรรค์ รวม ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) / / เกณฑ์กำรตัดสินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ 7-8 5-6 3-4 1-2 4 หมำยถึง ดีมำก 3 หมำยถึง ดี 2 หมำยถึง พอใช้ 1 หมำยถึง ปรับปรุง แบบประเมินผังมโนทัศน์แสดงกำรเปลี่ยนแปลงของมนุษยชำติทเี่ป็ นผลจำก เวลำ และยุคสมัยทำงประวัติศำสตร์
ล ำดับที่ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 เน้ือหำละเอียดชดัเจน 2 ควำมถูกต้องของเน้ือหำ 3 ภำษำที่ใชเ้ขำ้ใจง่ำย 4 ประโยชน์ที่ได้จำกกำรน ำเสนอ 5 วิธีกำรน ำเสนอผลงำน รวม ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) / / เกณฑ์กำรให้คะแนน กำรนำ เสนอผลงำนสอดคลอ้งกบัรำยกำรประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน กำรนำ เสนอผลงำนสอดคลอ้งกบัรำยกำรประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 3 คะแนน กำรนำ เสนอผลงำนสอดคลอ้งกบัรำยกำรประเมินบำงส่วน ให้ 2 คะแนน กำรน ำเสนอผลงำนไม่สอดคลอ้งกบัรำยกำรประเมิน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์กำรตัดสินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ 17-20 13-16 9-12 5-8 4 หมำยถึง ดีมำก 3 หมำยถึง ดี 2 หมำยถึง พอใช้ 1 หมำยถึง ปรับปรุง แบบประเมินกำรน ำเสนอผลงำน
เกมเก็บแต้ม กำรเตรียมกำรเล่มเกมเก็บแต้ม 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 6 กลุ่ม โดยให้มีจ านวนสมาชิกเท่าๆ กัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาสืบค้นข้อมูลแหล่งอารยธรรมโลก และตั้งค าถามเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก กลุ่มละ 4 ค าถาม พร้อมเฉลย เพื่อให้นักเรียนมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการสร้าง ความรู้ได้ด้วยตนเอง 3. นักเรียนส่งค าถามพร้อมเฉลยที่ผู้ด าเนินการเล่นเกม วิธีกำรเล่มเกมเก็บแต้ม 1. นักเรียนนั่งเป็นกลุ่มทั้งหมด 6 กลุ่ม 2. ผู้ด าเนินเกมเริ่มเล่นเกมโดยคัดเลือกค าถามที่นักเรียนส่งมาและให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือก ค าถาม โดยตอบเรียงล าดับตั้งแต่กลุ่มที่ 1 เป็นต้นไป 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มตอบค าถาม 4. กลุ่มใดที่ตอบถูกจะได้คะแนนข้อละ 1 คะแนน และจะได้เปิดป้ายเพื่อเลือกแต้มสะสมคะแนน ซึ่งจะมีแต้มให้สะสมคะแนนตั้งแต่ 0 – 5 แต้ม 5. กลุ่มที่ได้แต้มคะแนนมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ กติกำกำรเล่นเกมเก็บแต้ม 1. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มใช้เวลาในการตอบค าถามข้อละ 30 วินาที 2. นักเรียนสามารถศึกษาเพิ่มเติมจากเนื้อหาได้ เอกสำรประกอบกำรสอน
ค ำถำมเกมเก็บแต้ม 1. ชุมชนบ้านเชียง จัดอยู่ในยุคใด ก. ยุคหินแรก ข. ยุคหินเก่ำ ค. ยุคหินกลำง ง. ยคุหินใหม่ 2. ระบบเงินตรำของจีน เป็นอตัรำเดียวกนัทวั่จกัรวรรดิในสมยัรำชวงศใ์ด ก. โจว ข. จิ๋น ค. ถัง ง. ฮนั่ 3. สิ่งใดไม่ใช่สิ่งประดิษฐท์ ี่ชำวจีนคิดข้ึนมำ ก. เข็มทิศ ข. นำฬิกำแดด ค. หลอดไฟ ง. เครื่องตรวจแผน่ดินไหว 4. ระบบเศรษฐกิจของจีนไดร้ับกำรผอ่นคลำยใหเ้ป็นเสรีนิยมมำกข้ึนในสมยัผนู้ำ ใด ก. จู เอ็น ไล ข. ซุนยัดเซ็น ค. เหมำ เจ๋อ ตุง ง. เติ้ง เสี่ยวผงิ 5. วรรณกรรมเรื่องรำมำยณะและมหำภำรตะของอินเดีย สะท้อนแนวคิดเรื่องใดเป็ นส ำคัญ ก. ระเบียบวินัย ข. ควำมสำมัคคี ค. ควำมกตัญญู ง. ควำมรับผดิชอบต่อหนำ้ที่ 6. กษตัริยอ์ินเดียพระองคใ์ดที่ทรงเผยแผพ่ระพทุธศำสนำไปยงัดินแดนต่ำงๆในเอเชีย ก. พระเจ้ำพิมพิสำร ข. พระเจ้ำอชำตศัตรู ค. พระเจ้ำมิลินทรรำชำ ง. พระเจ้ำอโศกมหำรำช 7. แนวควำมคิดของกลุ่มเมโสโปเตเมียมองฐำนะของตนในสำยตำพระเจำ้เหมือนอะไร ก. ขนม ข. ของเล่น ค. ของขวัญ ง. ลูกของพระองค์ 8. ชำวสุเมเรียนจำรึกอักษรภำพ (คูนิฟอร์ม)ลงบนวัสดุอะไร ก. ไม้ ข. หิน ค. ดินเหนียว ง. กระดำษ
9. ข้อใดเป็ นผลงำนของสถำปัตยกรรมแบบเรอเนสซองก์ ก. หอเอนปิ ซำ –อิตำลี ข. หอไอเฟล – ฝรั่งเศส ค. วิหำรเวสมินเตอร์ -อังกฤษ ง. วิหำรเซนต์ปี เตอร์ - อิตำลี 10. ข้อใดเป็ นผลงำนของลีโอนำโด ดำวินชี ก. ยูโทเปี ย ข. โมนำลิซำ ค. สำวน้อยเต้นระบ ำ ง. เรือกลไฟ
เฉลยเกมเก็บแต้ม 1. ง 2. ข 3. ค 4. ง 5. ง 6. ง 7. ข 8. ค 9. ง 10. ข ----------------------------------------------------------
เกมฉันคือ กำรเตรียมกำรเล่มเกมฉันคือ 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน ตามความสมัครใจ 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เกี่ยวกับยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ 3. นักเรียนตั้งค าถามเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก กลุ่มละ 4 ค าถาม พร้อมเฉลย เพื่อให้นักเรียน มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ได้ด้วยตนเอง 4. นักเรียนส่งค าถามพร้อมเฉลยที่ผู้ด าเนินการเล่นเกม วิธีกำรเล่มเกมฉันคือ 1. นักเรียนนั่งเป็นกลุ่มทั้งหมด 6 กลุ่ม 2. ผู้ด าเนินการเล่มเกม (หัวหน้าห้อง) คัดเลือกค าถามที่นักเรียนส่งมาและให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกค าถาม โดยผู้ด าเนินการเล่มเกมจับฉลากเลือกกลุ่มจะได้ตอบค าถาม 3. กลุ่มที่ตอบถูกจะได้คะแนนข้อละ 2 คะแนน และถ้าไม่แน่ใจว่าจะตอบได้หรือไม่ สามารถ โยนให้กลุ่มใดเป็นผู้ตอบแทนก็ได้ 4. กลุ่มที่ได้คะแนนมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ กติกำกำรเล่นเกมฉันคือ 1. ค าถามทุกข้อจะต้องมีค าว่า ฉันคือ 2. แต่ละกลุ่มใช้เวลาในการตอบค าถามข้อละ 30 วินาที 3. นักเรียนสามารถดูเนื้อหาได้ 4. กลุ่มใดที่ถูกเพื่อนโยนให้ตอบค าถามจะต้องตอบค าถามนั้นถึงแม้จะตอบไม่ได้ก็ตาม เอกสำรประกอบกำรสอน
เรื่อง กำรแบ่งยุคสมัยทำงประวัติศำสตร์ คำ ชีแ้จง ให้นักเรียนตอบค าถาม หรืออธิบายให้ได้ใจความ 1. มนุษย์ได้สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ มากมาย มีจุดมุ่งหมายส าคัญอย่างไร 2. หลักเกณฑ์ส าคัญที่นักปราชญ์ใช้ในการแบ่งยุคสมัยของการศึกษาประวัติศาสตร์คือ โดยใช้ เป็นเครื่องก าหนดแยกย่อยลงไปอีก 3. จุดเด่นของมนุษย์ยุคหินเก่า คือ 4. จุดเด่นของมนุษย์ยุคหินใหม่ คือ 5. มนุษย์ในยุคหินเก่า หินกลาง หินใหม่ มีความเป็นอยู่และการด ารงชีวิตที่ต่างกัน แต่มีสิ่ง หนึ่งที่คล้ายกัน คือ 6. แหล่งอารยธรรมส าคัญของอียิปต์โบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่ ตัวอย่างศิลปกรรมที่ส าคัญ ได้แก่ 7. ค าว่า“ เมโสโปเตเมีย ( MESOPOTAMIA ) ” หมายถึง ปัจจุบันอยู่ในประเทศ 8. มรดกส าคัญที่ชาวฮีบรูมอบให้แก่ชาวโลก คือ 9. แหล่งอารยธรรมส าคัญของอินเดียโบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่ลุ่มแม่น ้า ตัวอย่างศิลปกรรมที่ส าคัญ ได้แก่ 10. แหล่งอารยธรรมส าคัญของจีนโบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่ ใบงำนที่ 2.1
เรื่อง กำรแบ่งยุคสมัยทำงประวัติศำสตร์ คำ ชีแ้จง ให้นักเรียนตอบค าถาม หรืออธิบายให้ได้ใจความ 1. มนุษย์ได้สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ มากมาย มีจุดมุ่งหมายส าคัญอย่างไร เพื่อเอาตัวรอด และเพื่อความสะดวกสบาย 2. หลักเกณฑ์ส าคัญที่นักปราชญ์ใช้ในการแบ่งยุคสมัยของการศึกษาประวัติศาสตร์คือ ลายลักษณ์- อักษร โดยใช้ เครื่องมือเครื่องใช้ เป็นเครื่องก าหนดแยกย่อยลงไปอีก 3. จุดเด่นของมนุษย์ยุคหินเก่า คืออาศัยอยู่ในถา้ ล่าสตัวโ์ดยใชอ้าวุธหนิย่อย รูจ้กัใชไ้ฟ มีการฝังศพ 4. จุดเด่นของมนุษย์ยุคหินใหม่ คือ สร้างบ้านเรือนริมแมน่้า รูจ้กัการเพาะปลูก ทอผา้ทา ภาชนะดนิเผา 5. มนุษย์ในยุคหินเก่า หินกลาง หินใหม่ มีความเป็นอยู่และการด ารงชีวิตที่ต่างกัน แต่มีสิ่ง หนึ่งที่คล้ายกัน คือ เครื่องมอืเครื่องใชท้า ดว้ยหนิ 6. แหล่งอารยธรรมส าคัญของอียิปต์โบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่ ลมุ่แมน่้า ไนล์ ตัวอย่างศิลปกรรมที่ส าคัญ ได้แก่ พีระมิด สฟิงซ์มมัมี่ 7. ค าว่า“ เมโสโปเตเมีย (MESOPOTAMIA) ” หมายถึง ดินแดนระหว่าง 2 แม่นา้ ปัจจุบันอยู่ในประเทศ อิรัก 8. มรดกส าคัญที่ชาวฮีบรูมอบให้แก่ชาวโลก คือ ศาสนายูดาห์ คริสต์ อิสลาม 9. แหล่งอารยธรรมส าคัญของอินเดียโบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่ลุ่มแม่น ้า สินธุ ตัวอย่างศิลปกรรมที่ส าคัญ ได้แก่ เมืองโบราณทเี่มืองฮารัปปา เมืองโมเฮนโจ-ดาโร สุสานทัชมาฮาล 10. แหล่งอารยธรรมส าคัญของจีนโบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่ ล่มุแม่นา้ ฮวงโห ใบงำนที่2.1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 รายวิชา ประวัติศาสตร์ 3 รหัสวิชา ส32103 ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศึกษาฯ หน่วยการเรียนรู้ที่2 การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์สากล เรื่อง วิธีการทางประวัติศาสตร์ ผู้สอน นางสุรีวัลย์ วรรณรัศมี เวลา 2 ชั่วโมง .............................................................................................................................................................................. 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด ส 4.1 ม.4-6/2 สร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ อย่างเป็นระบบ 2. สาระส าคัญ การศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ในอดีตโดยค านึงถึงมิติของเวลา และพฤติกรรมของมนุษย์ที่ส าคัญซึ่ง ก่อให้เกิดผลต่อสังคมส่วนรวม การศึกษาประวัติศาสตร์จึงมีความส าคัญอย่างยิ่งต่อมนุษย์ในการตามหารอย อารยธรรมโลก โดยการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ ( K ) กระวนการ ( P ) เจตคติ ( A ) 1 อธิบายความหมายและความส าคัญของประวัติศาสตร์ได้ / 2 บอกความส าคัญและอธิบายขั้นตอนของวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ได้ / 3 ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ทาง ประวัติศาสตร์ได้ / 4 ตระหนักในความส าคัญของการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ ในการสืบค้นความเป็นมาของเรื่องราวต่างๆ / 4. สาระการเรียนรู้ 1. ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ โดยน าเสนอตัวอย่างทีละขั้นตอนอย่างชัดเจน 2. คุณค่าและประโยชน์ของวิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีต่อการศึกษาทางประวัติศาสตร์ 3. ผลการศึกษา หรือโครงงานทางประวัติศาสตร์ 5. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. การน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการการเรียนรู้ 1. ผู้สอน ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ต่อไปนี้ 3 ห่วง ประเด็น ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัว 1. เนื้อหา/สาระที่สอน วิเคราะห์หลักสูตร ก าหนดเนื้อหาเหมาะสม กับมาตรฐานตัวชี้วัด บริบทของท้องถิ่นเวลา และวัยของผู้เรียน ผู้เรียนเข้าใจง่าย สอดคล้องกับมาตรฐาน และตัวชี้วัดที่ก าหนดไว้ ในหลักสูตร เรียงล าดับเนื้อหาจาก ง่ายไปหายากเป็นเนื้อหา ที่ใกล้ตัวผู้เรียน 2. เวลา ก าหนดเวลาเหมาะสม กับกิจกรรมและเนื้อหา และวัยของผู้เรียน จัดการเรียนรู้ได้ตาม กระบวนครบถ้วนตามที่ วางแผนไว้ วางแผนการใช้เวลาใน แต่ละกิจกรรมให้ รอบคอบเพื่อรองรับการ เปลี่ยนแปลงระหว่างจัด กิจกรรม 3. กิจกรรมการเรียนการ สอน ก าหนดกิจกรรมการ เรียนรู้เหมาะสมกับเวลา ที่ก าหนด -ต้องการให้ผู้เรียนได้ ปฏิบัติกิจกรรมอย่าง ทั่วถึงตามความสามารถ -ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ -ก าหนดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ชัดเจนจากง่าย ไปหายากและใช้สอย แทนได้ -ครูมีความรอบรู้ในเรื่อง ที่สอนจึงท าให้การเรียนรู้ ของผู้เรียนมี ประสิทธิภาพ 4. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ -ก าหนดแหล่งเรียนรู้ได้ เหมาะสมกับเนื้อหา กิจกรรมวัยเรียน งบประมาณเวลาที่ ก าหนด -จัดเตรียมสื่ออุปกรณ์ เอกสารต่างๆ เหมาะสม กับกิจกรรมปริมาณ -ต้องการให้นักเรียนใช้ แหล่งเรียนรู้ให้เกิด ประโยชน์และคุ้มค่า -ใช้สื่ออุปกรณ์ได้ ประหยัดคุ้มค่าและมี ประสิทธิภาพต่อการ เรียนรู ้ -จัดเตรียมแหล่งเรียนรู้ไว้ ให้พร้อมก่อนการสอน -จะเตรียมสื่ออุปกรณ์ให้ พร้อมก่อนการจัด กิจกรรมการจัดการ เรียนรู้
เพียงพอกับจ านวน นักเรียน - มีล าดับขั้นตอนการใช้ สื่อแต่ละชนิดอย่าง ชัดเจน -จัดเก็บอุปกรณ์อย่าง เป็นระบบ - มีความช านาญในการ ใช้สื่ออุปกรณ์ 5. การวัดผล ประเมินผล มีการออกแบบการวัด และประเมินผลได้ เพียงพอกับตัวชี้วัดและ เหมาะสมกับเวลาและวัย ผู้เรียน มีการออกแบบเครื่องมือ วัดและประเมินผลที่ สอดคล้องกับเนื้อหาที่ ต้องการวัดบรรลุตัวชี้วัด ที่ก าหนดไว้ในหลักสูตร วางแผนการวัดและ ประเมินผลเป็นขั้นตอน ชัดเจนแบบประเมินผลมี การตรวจสอบวัดและ ปรับปรุงมีความเชื่อมั่น เที่ยงตรงในการวัดตาม ตัวชี้วัด เงื่อนไขความรู้ 1. วิธีการทางประวัติศาสตร์ 2. จิตวิทยาในการสอน เงื่อนไขคุณธรรม มีความรัก มีเมตตาศิษย์ มีความรับผิดชอบมีความยุติธรรมและตรงต่อเวลา 2 คุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงที่เกิดกับผู้เรียน ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัว 1 นักเรียนใช้เวลาในการท า กิจกรรมการเรียนรู้ได้พอดีกับเวลา ที่ก าหนด นักเรียนมีเหตุผลในการตอบ ค าถาม 1. นักเรียนรู้จักการวางแผนการ ท างาน 2. นักเรียนศึกษาความรู้ก่อนตอบ ค าถามและสรุปความรู้เพื่อให้ได้ ค าตอบที่ถูกต้อง เงื่อนไขความรู้ วิธีการทางประวัติศาสตร์ เงื่อนไขคุณธรรม 1. ความรับผิดชอบมีวินัยในการท างาน 2. เกิดความรักชาติศาสน์กษัตริย์ 3. เกิดการใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการท างาน