แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยการเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 การกำหนดการใช้แผนจัดการเรียนรู้ รายการตรวจสอบและกลั่นกรองการใช้แผนจัดการเรียนรู้ ความคิดเห็น ความคิดเห็น ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ลงชื่อ................................................. (นางสาวกนกวรรณ ทองเกตุ) หัวหน้ากลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ลงชื่อ................................................. (นางสาวณัฐิญา คาโส) หัวหน้าฝ่ายบริหารงานวิชาการ ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ลงชื่อ................................................. (นางสาวณัฐชยา ถนิมกาญจน์) รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ลงชื่อ................................................. (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนการสอน เพราะเป็น เอกสารหลักสูตร ที่ใช้ในการบริหารงานของครูผู้สอนให้ตรงตามนโยบายในการปฏิรูปการศึกษา กำหนดไว้ในแผน หลักคุณภาพการศึกษา สนองจุดประสงค์และคำอธิบายรายวิชาของหลักสูตร ในการบริหารงานวิชาการถือว่า “แผนจัดการเรียนรู้”เป็นเอกสารทางวิชาการที่สำคัญที่สุดของครู เพราะในแผนจัดการเรียนรู้ประกอบด้วย ๑. การกำหนดเวลาเรียน กำหนดการสอน กำหนดการสอบ ๒. สาระสำคัญของเนื้อหาวิชาที่เรียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๔. กิจกรรมการเรียนการสอน ๕. สื่อและอุปกรณ์ ๖. การวัดผลประเมินผล การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ถือว่าเป็นการสร้างผลงานทางวิชาการ เป็นผลงานที่แสดงถึงความ ชำนาญในการสอนของครู เพราะครูใช้ศาสตร์ทุกสาขาอาชีพของครู เช่นการออกแบบ การสอน การจัดการ และการประเมินผล ในการจัดทำแผนจัดการเรียนรู้นั้นจะทำให้เกิดความมั่นใจในการสอนได้ตรงจุดประสงค์การ เรียนรู้ เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนในรายวิชาที่รับผิดชอบสูงขึ้น ทั้งยังเป็นข้อมูลในการนิเทศติดตาม ตรวจสอบและปรับปรุงการเรียนการสอนได้อย่างมีระบบและครบวงจร ยังผลให้คุณภาพการศึกษาโดยรวม พัฒนาไปอย่างมีทิศทางบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร นางสาวอาชิรญาณ์ เกษสุวรรณ์ ครูผู้สอน
สารบัญ เรื่อง หน้า กำหนดการใช้แผน 1 คำนำ 2 วิเคราะห์หลักสูตร ▪ คำอธิบายรายวิชา 3 ▪ ตารางวิเคราะห์รายวิชา 4 ▪ โครงสร้างรายวิชา 7 วิเคราะห์ผู้เรียน ▪ ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ 8 ▪ แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล/ความถนัด/ความสนใจ 9 การวัดผลประเมินผล 17 แผนการจัดการเรียนรู้ ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 ▪ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9
คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชาพื้นฐาน การออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัส ว22103 เวลา 20 ชั่วโมง ศึกษาสาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีต่อมนุษย์และสังคม ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีต่อเศรษฐกิจ ผลกระทบจากการ เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อม ประเภท ของวัสดุอุปกรณ์เพื่อให้สามารถสร้างชิ้นงานได้ตรงกับความ ต้องการ มีความปลอดภัย และใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า เครื่องกลในการสร้างชิ้นงาน ได้แก่ รอก คาน ล้อและ เพลา พื้นเอียง ลิ่ม สกรู เครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน เครื่องมือวัด เครื่องมือตัด เครื่องมือ ยึดติด เครื่องมือเจาะ เสียงและอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียง อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียง ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดแสง วงจรไฟฟ้าและ การ ต่อตัวต้านทาน ประเภทและการต่อวงจรไฟฟ้า ความสัมพันธ์ของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ วิศวกรรมศาสตร์แนวคิด กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ระบบเทคโนโลยีการ คิดเชิงออกแบบ แนวคิดหลักของการคิดเชิงออกแบบ กระบวนการคิดเชิงออกแบบ และความคิดเชิงออกแบบ โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เน้นให้ผู้เรียน ได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์การแก้ปัญหาวางแผนการเรียนรู้ และ นำเสนอผ่านการทำ กิจกรรมโครงงาน เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ ความสัมพันธ์ของความรู้วิทยาศาสตร์ที่มีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยี ประเภทต่าง ๆ และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ส่งผลให้มีการคิดค้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า ผลของ เทคโนโลยีต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถใน การแก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการตัดสินใจ เป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์มี คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 รวม 5 ตัวชี้วัด
โครงสร้างหลักสูตรรายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22103 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลำดับ ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ข้อที่ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1. เทคโนโลยีกับชีวิต ว 4.1 ม.2/1 - การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของ เทคโนโลยี 2 10 2. วัสดุ อุปกรณ์ ทาง เทคโนโลยี ว 4.1 ม.2/5 - ความรู้เกี่ยวกับวัสดุ - เครื่องกลและเครื่องมือ ในการสร้าง ชิ้นงาน - เสียงและอุปกรณ์ ที่ทำให้เกิดเสียง - ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดแสง 8 20 3. กระบวนการ ออกแบบเชิง วิศวกรรม ว 4.1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 - กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ - กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 6 20 4. การคิดเชิงออกแบบ ว 4.1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 - กระบวนการคิดเชิงออกแบบ - ถอดความคิดเชิงออกแบบ 4 10 รวม 20 60 สอบกลางภาคเรียน 1 20 สอบปลายภาคเรียน 1 20 รวมทั้งหมด 20 100
ตารางวิเคราะห์รายวิชา รายวิชาพื้นฐาน การออกแบบและเทคโนโลยี รหัส ว22103 สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมี ความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึง ผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม ตัวชี้วัดชั้นปี ม. 1 ม. 2 ม. 3 1. อธิบายแนวคิดหลักของ เทคโนโลยี ในชีวิต ประจำวันและวิเคราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 2. ระบุปัญหาหรือความต้องการ ในชีวิตประจำวัน รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่ เกี่ยวข้องกับปัญหา 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดย วิเคราะห์เปรียบเทียบ และ ตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหา ให้ผู้อื่นเข้าใจ วางแผนและ ดำเนินการแก้ปัญหา 1. คาดการณ์แนวโน้ม เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นโดย พิจารณาจากสาเหตุหรือ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และวิเคราะห์ เปรียบเทียบ ตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบที่ เกิดขึ้นต่อชีวิต สังคม และ สิ่งแวดล้อม 2. ระบุปัญหาหรือความ ต้องการในชุมชน หรือ ท้องถิ่น สรุปกรอบของ ปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ ข้อมูลและแนวคิดที่ เกี่ยวข้องกับปัญหา 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่ จำเป็นภายใต้เงื่อนไขและ ทรัพยากรที่มีอยู่ นำเสนอ แนวทางการแก้ปัญหาให้ ผู้อื่นเข้าใจ วางแผนขั้นตอน การทำงานและดำเนินการ แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน 1. วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี และความ สัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับ ศาสตร์อื่น โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือคณิต ศาสตร์ เพื่อเป็นแนว ทางการแก้ปัญหาหรือ พัฒนางาน 2. ระบุปัญหาหรือความ ต้องการของชุมชนหรือ ท้องถิ่น เพื่อพัฒนางาน อาชีพ สรุปกรอบของ ปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ ข้อมูลและแนวคิดที่ เกี่ยวข้องกับปัญหา โดย คำนึงถึง ความถูกต้องด้าน ทรัพย์สินทางปัญญา 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่ จำเป็นภายใต้เงื่อนไขและ ทรัพยากรที่มีอยู่ นำเสนอ แนวทางการแก้ปัญหาให้ ผู้อื่นเข้าใจด้วยเทคนิคหรือ วิธีการที่หลากหลาย วางแผนขั้นตอน การ
ตัวชี้วัดชั้นปี ม. 1 ม. 2 ม. 3 4. ทดสอบ ประเมินผล และระบุ ข้อบกพร่อง ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้ง หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และนำเสนอผลการแก้ปัญหา 5. ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า หรืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อ แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและปลอดภัย 4. ทดสอบ ประเมินผล และ อธิบายปัญหา หรือ ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น ภายใต้ กรอบเงื่อนไข พร้อมทั้งหำ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข และนำเสนอผลการ แก้ปัญหา 5. ใช้ความรู้และทักษะ เกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า และ อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแก้ ปัญหาหรือพัฒนางานได้ อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย ทำงานและดำเนินการ แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน 4. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของ ปัญหาหรือข้อบกพร่องที่ เกิดขึ้นภายใต้ กรอบเงื่อน ไข พร้อมทั้งหาแนวทาง การปรับปรุงแก้ไข และ นำเสนอผลการแก้ปัญหา 5. ใช้ความรู้และทักษะ เกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้องกับ ลักษณะของงาน และ ปลอดภัย เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัดชั้นปี ม. 1 ม. 2 ม. 3 1. ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิด เชิงนามธรรมเพื่อแก้ปัญหาหรือ อธิบายการทำงานที่พบ ในชีวิตจริง 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรม อย่างง่าย เพื่อแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ 3.ร ว บ ร ว ม ข ้ อ ม ู ล ป ฐ ม ภ ู มิ ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอ ข ้ อ ม ู ลแ ละ สา ร สน เ ทศ ตาม วัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือ บ ร ิ ก า ร บ น อ ิ น เ ท อ ร ์ เ น ็ ต ที่ หลากหลาย 4.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภัย ใช้สื่อและแหล่งข้อมูล ตามข้อกำหนดและข้อตกลง 1. ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้ แนวคิดเชิงคำนวณในก าร แก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบ ในชีวิตจริง 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรม ที่ใช้ตรรกะและฟังก์ชันในการ แก้ปัญหา 3. อภิปรายองค์ประกอบและ หลั กการทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี การ สื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งาน หรือ แก้ปัญหาเบื้องต้น 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อ ย ่ า ง ป ล อ ด ภ ั ย ม ี ค ว า ม รับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิ ในการเผยแพร่ผลงาน 1. พัฒนาแอพพลิเคชันที่มีการบูรณา การกับวิชาอื่นอย่างสร้างสรรค์ 2. รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมูลและ สารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์โดย ใช้ซอฟต์แวร์ หรือบริการ บน อินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย 3.ประเมินความน่าเชื่อถือของ ข ้ อ ม ู ล ว ิ เ คร า ะ ห ์ สื ่ อ แ ล ะ ผลกระทบจากการให้ข่าวสารที่ ผิด เพื่อการใช้งานอย่างรู้เท่าทัน 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภัย และมีความรับผิดชอบ ต่อสังคม ปฏิบัติตามกฎหมาย เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ใช้ลิขสิทธิ์ ของผู้อื่นโดยชอบธรรม
โรงเรียนพนมศึกษา ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อนำไปออกแบบการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับความสามารถของนักเรียน 2. เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา การออกแบบละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22103 ภาคเรียนที่ 1/2566 ชื่อผู้สอน นางสาวอาชิรญาณ์ เกษสุวรรณ์ สรุปผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพื้นฐานที่ใช้ในการเรียนวิชานี้ ระดับคุณภาพของ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน GPA ของกลุ่ม จำนวนคน 161 ร้อยละ 100.00 ปรับปรุง ต่ำกว่า 2.00 - - พอใช้ 2.00 – 2.50 93 57.76 ดี สูงกว่า 2.50 68 42.24 แนวทางการจัดกิจกรรม ผลสัมฤทธิ์ ทางการ เรียน ร้อยละ กิจกรรมแก้ไขหรือพัฒนา ในแผนการเรียนรู้ จำนวน เครื่องมือ/ เดิม เป้าหมาย วิธีการประเมิน ดี - 70.00 1 กิจกรรมการเรียนการสอน ดำเนินเช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ในชั้นเรียน 2 ให้นักเรียนกลุ่มนี้เป็น ผู้ดำเนินการเฉลยแบบฝึกหัดตาม สมควร 3 ให้นักเรียนกลุ่มนี้เป็นผู้ช่วยเหลือ เพื่อนในเรียน การทำแบบฝึกต่าง ๆ เป็นผู้อธิบาย (ผู้ช่วยครู) สอนเพื่อน กลุ่มอ่อนที่ยังไม่เข้าใจ 3 ให้แบบฝึกพิเศษเพิ่มเติม 4. ทำชิ้นงานเพิ่มเติม 1 แบบฝึกหัด ท้ายหน่วยการ เรียนรู้ 2 แบบบันทึก การเก็บคะแนน 3 แบบบันทึก หลังการสอน 4 แผนการ จัดการเรียนรู้ 5 ชิ้นงาน พอใช้ - 30.00 1 กิจกรรมการเรียนการสอน ดำเนินเช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ เพิ่มเติมแบบฝึกคู่ขนาน 1 แบบฝึก คู่ขนาน
2 ให้นักเรียนกลุ่มนี้จับคู่ประกบตัว ต่อตัวกับนักเรียนกลุ่มเก่งและปาน กลาง 3 จัดสอนซ่อมเสริมในเนื้อหาที่ไม่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน หรือยังไม่ เข้าใจแก่นักเรียนกลุ่มนี้ 2 แบบบันทึก การเก็บคะแนน 3 แบบบันทึก หลังการสอน 4 แผนการ จัดการเรียนรู้ 5 ชิ้นงาน ปรับปรุง - - - -
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 1 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายจักรพันธ์ผุดบ่อน้อย 2 เด็กชายทศพร กลิ่นหอม 3 เด็กชายธนพล เรืองรัตน์ 4 เด็กชายธนพัฒน์ พรหมมาต 5 เด็กชายธนพันธ์ แดงกุล 6 เด็กชายธนภัทร อินทรบุตร 7 เด็กชายธนวัต ปิดประสาร 8 เด็กชายธิติภาณุ ศรัทธาสุข 9 เด็กชายนนท์ปวิธ สายควนเกย 10 เด็กชายปรเมศร กุลจู้ 11 เด็กชายปาณพัฒน์ ศรีกรด 12 เด็กชายพุฒิพัฒน์ รัตนบุรี 13 เด็กชายรัฐภูมิ คมกล้า 14 เด็กชายลิน - 15 เด็กชายวงศธร ธุรีราช 16 เด็กชายศรีหนาถ ศรีขวัญแก้ว 17 เด็กชายสมพัฒน์ ทองรอด 18 เด็กชายสุรชา อินแก้ว 19 เด็กหญิงกนิษฐา องอาจ 20 เด็กหญิงชนากานต์ อินสังข์ 21 เด็กหญิงฐิติมา เนาวกูล 22 เด็กหญิงณัฐณิชา นวลขาว 23 เด็กหญิงทัณฑิกา มุกแก้ว 24 เด็กหญิงธารฟ้า ธารายศ 25 เด็กหญิงปัทฐมาภรณ์ ธนะกรณ์ 26 เด็กหญิงพรพันธ์ แก้วคง
เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 27 เด็กหญิงพัฒร์ชริญ รสเกลี้ยง 28 เด็กหญิงพิมชนก สัตถาพร 29 เด็กหญิงรัชนีกร ชูดวง 30 เด็กหญิงรุ้งรดา รอดเจริญ 31 เด็กชายเกียรติศักดิ์ นาคทองคง ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 2 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายธนกฤต หล้าก่ำ 2 เด็กชายธนภัทร พลายแก้ว 3 เด็กชายธนภูมิ พูลสวัสดิ์ 4 เด็กชายธนวัฒน์ เกื้อผล 5 เด็กชายธนวัฒน์ อินคง 6 เด็กชายธาวิน รักมาศ 7 เด็กชายนรากรณ์ แสนสำราญ 8 เด็กชายพสธร มาทัพ 9 เด็กชายพิชญะ พรหมจันทร์ 10 เด็กชายพุทธิพงษ์ ทองดอนยอด 11 เด็กชายภูริณัฐ หนูจันทร์ 12 เด็กชายเลิศพิพัฒน์ คงแก้ว 13 เด็กชายวรเมธ สาคร 14 เด็กชายศิวัช สวนโน 15 เด็กชายสุชานนท์ กลับรินทร์ 16 เด็กชายสุวิรัตน์ วัฒนะบุตร 17 เด็กชายอภิสิทธิ์ บัวเเก้ว 18 เด็กหญิงกนกวรรณ แสนโยชน์ 19 เด็กหญิงกรณิกา พราหมนาค 20 เด็กหญิงบรรณสรณ์ สมใจเพ็ชร 21 เด็กหญิงบุษบา แป้นเผือก 22 เด็กหญิงปัณฑิตา อรุณเพชร 23 เด็กหญิงปิยะฉัตร ใจเอื้อ 24 เด็กหญิงมีนา ทับเพ็ง 25 เด็กหญิงเยาวลักษณ์ แก้วทอง 26 เด็กหญิงลลิตภัทร ชัยธรรม 27 เด็กหญิงวิรัชญา สกุล 28 เด็กหญิงสิริพร รัตนชัย 29 เด็กหญิงสุพัตรา ฤกษ์อุไร 30 เด็กหญิงสุภาณี ธุระกิจ 31 เด็กหญิงอาทิตยา สังข์เเก้ว
ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 3 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายก้องภพ สังข์เพชร 2 เด็กชายกัณตภณ คุณวิจิตร 3 เด็กชายกิตติพงค์ เสมเมือง 4 เด็กชายชาดา แก้วคงคา 5 เด็กชายชินวัฒร มั่งมี 6 เด็กชายธณภัทร นิตยรัตน์ 7 เด็กชายพงค์พิราม ศรีจันทร์ 8 เด็กชายพัชรพล มาทัพ 9 เด็กชายภาสกร สมคลองศก 10 เด็กชายวชิรวิทย์ นวลขาว 11 เด็กชายวิริทธิ์พล กองประดิษฐ 12 เด็กชายวีรภัทร ปรีชา 13 เด็กชายวุฒิชัย รอดเจริญ 14 เด็กชายสุกฤษฎิ์ จันทร์สว่าง 15 เด็กชายหัสนัย ลาภประเสริฐ 16 เด็กชายอธิรญาณ์ อำมณี 17 เด็กหญิงกัญญาพัชร สัมพันธ์ 18 เด็กหญิงคุณัญญา น้อยเสนา 19 เด็กหญิงจันทกานติ์ รพเรือง 20 เด็กหญิงชุติกาญจน์ มาดี 21 เด็กหญิงณิชารีย์ ฉายาจิตร์ 22 เด็กหญิงธนัญญา เพ็งสกุล 23 เด็กหญิงธัญวรัตน์ ยอดสุรางค์ 24 เด็กหญิงนิรินธนา มิสมร 25 เด็กหญิงพรนภัส ช่วยชนะ 26 เด็กหญิงพาทินธิดา แป้นเผือก 27 เด็กหญิงมลฤดี มากแก้ว 28 เด็กหญิงสิดาภัทร ผลบรรจง 29 เด็กหญิงสุทารัฐ คุ้มเอียด 30 เด็กหญิงเสาวลักษณ์ บัวทอง 31 เด็กหญิงอริสรา เเซ่ลิ้ม
ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 4 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายกรวิชญ์จันทร์ศร 2 เด็กชายณฐกร อภิโมทย์ 3 เด็กชายณรงค์กร ทิพย์บรรพต 4 เด็กชายณัฐพงษ์ พงษ์ศิลป์ 5 เด็กชายดนัย จรรย์ทัน 6 เด็กชายทิโนทัย หมายมี 7 เด็กชายธนพร เรืองเอียด 8 เด็กชายธนวัฒน์ ตรีศรี 9 เด็กชายนรวิชญ์ ณะจันทร์ 10 เด็กชายภาษกรณ์ ทองสัมฤทธิ์ 11 เด็กชายภูวดล อุบล 12 เด็กชายวรวิช หัสพันธ์ 13 เด็กชายศักดิ์นรินทร์ รัตนชัย 14 เด็กหญิงกนกรัชต์ ศรีพงศ์ 15 เด็กหญิงกานตรัตน์ เรืองอ่อน 16 เด็กหญิงกิ่งกานต์ โกหนด 17 เด็กหญิงขวัญจิรา สุทธิพิทักษ์ 18 เด็กหญิงนันท์นภัส สาคร 19 เด็กหญิงบัณติตา ใจงาม 20 เด็กหญิงปริชมน รักบางแหลม 21 เด็กหญิงพรรณพณัช ร่มเมือง 22 เด็กหญิงพรรวษา คงดี 23 เด็กหญิงพวงชมพู ทองจุ้ย 24 เด็กหญิงพัชรพร ชูนิล 25 เด็กหญิงพัฒนวดี น้อยเกษม 26 เด็กหญิงพิชชาพร แซ่ซัว 27 เด็กหญิงมิยาวดี อินดำ 28 เด็กหญิงยวิษฐา คำสวัสดิ์ 29 เด็กหญิงรวิพร วันโย 30 เด็กหญิงวริศรา สัมพันธ์ 31 เด็กหญิงศศินา มากแก้ว
32 เด็กหญิงศศิวิมล ประมวล 33 เด็กหญิงศิริรัตน์ รัตนชัย 34 เด็กหญิงสมพร เอี่ยมละออ 35 เด็กหญิงสุชญา สาคร 36 เด็กหญิงสุภาวดี ชำนาญเพ็ชร 37 เด็กหญิงเสาวนีย์ มิสมร 38 เด็กหญิงอรวรรณ บุญลึก 39 เด็กชายกฤตสนนท์ พุ่มด้วง ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี
แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 5 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายทวีศักดิ์ ศิริป้อ 2 เด็กชายธิติสรณ์ เพชรใฝ 3 เด็กชายธิปกรณ์ กลับรินทร์ 4 เด็กชายนรวัฒน์ ศรีรักษา 5 เด็กชายปฐมพงษ์ เสนาะกรรณ 6 เด็กชายพงศพัศ ทิมรัตน์ 7 เด็กชายยชญ์กุลทร แซ่ลิ่ม 8 เด็กชายรัชตะ พันเดช 9 เด็กชายวิทวัส แพ่งรักษ์ 10 เด็กชายวิรัชยา จอมประชา 11 เด็กชายสิหรัตน์ หับสุภา 12 เด็กหญิงกัญญ์วรา แก้วคง 13 เด็กหญิงจิรัชญา พืชผล 14 เด็กหญิงญาณัจฉรา สมสุข 15 เด็กหญิงญาณิสา พัฒน์มณี 16 เด็กหญิงธันปภัส รอดเจริญ 17 เด็กหญิงบัณฑิตา ดีสุดจิตร 18 เด็กหญิงปัญณ์ตวัน เพชรโชติ 19 เด็กหญิงปาณิสรา ม่วงมณี 20 เด็กหญิงพัชฎาภรณ์ ทองตำลึง 21 เด็กหญิงภิญญดา ฤทธิ์แก้ว 22 เด็กหญิงรัชฎาพร รักกะเปา 23 เด็กหญิงรุ่งนภา สะเทิน 24 เด็กหญิงวาเศรษฐี ฤทธิ์เเก้ว 25 เด็กหญิงศศิธร ศรีศาสนา 26 เด็กหญิงศิริมาศ สัตย์ซื่อ 27 เด็กหญิงสุนิสา ถาพร 28 เด็กหญิงอชิรญาณ์ ทองจันทร์ 29 เด็กหญิงอินทิรา พันสะ
ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี
แบบสรุปข้อมูลการวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ชื่อครูผู้สอน นางสาวอาชิรญาณ์ เกษสุวรรณ์ กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง กลุ่มอ่อน เด็กชายจักรพันธ์ผุดบ่อน้อย เด็กชายทศพร กลิ่นหอม เด็กชายธนพล เรืองรัตน์ เด็กชายธนพัฒน์ พรหมมาต เด็กชายธนพันธ์ แดงกุล เด็กชายธนภัทร อินทรบุตร เด็กชายธนวัต ปิดประสาร เด็กชายธิติภาณุ ศรัทธาสุข เด็กชายนนท์ปวิธ สายควนเกย เด็กชายปาณพัฒน์ ศรีกรด เด็กชายพุฒิพัฒน์ รัตนบุรี เด็กชายรัฐภูมิ คมกล้า เด็กชายลิน - เด็กชายวงศธร ธุรีราช เด็กชายศรีหนาถ ศรีขวัญแก้ว เด็กชายสมพัฒน์ ทองรอด เด็กชายสุรชา อินแก้ว เด็กหญิงกนิษฐา องอาจ เด็กหญิงชนากานต์ อินสังข์ เด็กหญิงฐิติมา เนาวกูล เด็กหญิงณัฐณิชา นวลขาว เด็กหญิงทัณฑิกา มุกแก้ว เด็กหญิงธารฟ้า ธารายศ เด็กหญิงปัทฐมาภรณ์ ธนะกรณ์ เด็กหญิงพรพันธ์ แก้วคง เด็กหญิงพัฒร์ชริญ รสเกลี้ยง เด็กหญิงพิมชนก สัตถาพร เด็กหญิงรัชนีกร ชูดวง เด็กหญิงรุ้งรดา รอดเจริญ เด็กชายเกียรติศักดิ์ นาคทองคง
แบบสรุปข้อมูลการวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ชื่อครูผู้สอน นางสาวอาชิรญาณ์ เกษสุวรรณ์ กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง กลุ่มอ่อน เด็กชายธนกฤต หล้าก่ำ เด็กชายธนภัทร พลายแก้ว เด็กชายธนภูมิ พูลสวัสดิ์ เด็กชายธนวัฒน์ เกื้อผล เด็กชายธนวัฒน์ อินคง เด็กชายธาวิน รักมาศ เด็กชายนรากรณ์ แสนสำราญ เด็กชายพสธร มาทัพ เด็กชายพิชญะ พรหมจันทร์ เด็กชายพุทธิพงษ์ ทองดอนยอด เด็กชายภูริณัฐ หนูจันทร์ เด็กชายเลิศพิพัฒน์ คงแก้ว เด็กชายวรเมธ สาคร เด็กชายศิวัช สวนโน เด็กชายสุชานนท์ กลับรินทร์ เด็กชายสุวิรัตน์ วัฒนะบุตร เด็กชายอภิสิทธิ์ บัวเเก้ว เด็กหญิงกนกวรรณ แสนโยชน์ เด็กหญิงกรณิกา พราหมนาค เด็กหญิงบรรณสรณ์ สมใจเพ็ชร เด็กหญิงบุษบา แป้นเผือก เด็กหญิงปัณฑิตา อรุณเพชร เด็กหญิงปิยะฉัตร ใจเอื้อ เด็กหญิงมีนา ทับเพ็ง เด็กหญิงลลิตภัทร ชัยธรรม เด็กหญิงวิรัชญา สกุล เด็กหญิงสิริพร รัตนชัย เด็กหญิงสุพัตรา ฤกษ์อุไร เด็กหญิงสุภาณี ธุระกิจ เด็กหญิงอาทิตยา สังข์เเก้ว
แบบสรุปข้อมูลการวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ชื่อครูผู้สอน นางสาวอาชิรญาณ์ เกษสุวรรณ์ กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง กลุ่มอ่อน เด็กชายก้องภพ สังข์เพชร เด็กชายกัณตภณ คุณวิจิตร เด็กชายกิตติพงค์ เสมเมือง เด็กชายชาดา แก้วคงคา เด็กชายชินวัฒร มั่งมี เด็กชายธณภัทร นิตยรัตน์ เด็กชายพงค์พิราม ศรีจันทร์ เด็กชายพัชรพล มาทัพ เด็กชายภาสกร สมคลองศก เด็กชายวชิรวิทย์ นวลขาว เด็กชายวิริทธิ์พล กองประดิษฐ เด็กชายวีรภัทร ปรีชา เด็กชายวุฒิชัย รอดเจริญ เด็กชายสุกฤษฎิ์ จันทร์สว่าง เด็กชายหัสนัย ลาภประเสริฐ เด็กชายอธิรญาณ์ อำมณี เด็กหญิงกัญญาพัชร สัมพันธ์ เด็กหญิงคุณัญญา น้อยเสนา เด็กหญิงจันทกานติ์ รพเรือง เด็กหญิงณิชารีย์ ฉายาจิตร์ เด็กหญิงธนัญญา เพ็งสกุล เด็กหญิงธัญวรัตน์ ยอดสุรางค์ เด็กหญิงนิรินธนา มิสมร เด็กหญิงพรนภัส ช่วยชนะ เด็กหญิงพาทินธิดา แป้นเผือก เด็กหญิงมลฤดี มากแก้ว เด็กหญิงสิดาภัทร ผลบรรจง เด็กหญิงสุทารัฐ คุ้มเอียด เด็กหญิงเสาวลักษณ์ บัวทอง เด็กหญิงอริสรา เเซ่ลิ้ม
แบบสรุปข้อมูลการวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ชื่อครูผู้สอน นางสาวอาชิรญาณ์ เกษสุวรรณ์ กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง กลุ่มอ่อน เด็กชายกรวิชญ์จันทร์ศร เด็กชายณฐกร อภิโมทย์ เด็กชายณรงค์กร ทิพย์บรรพต เด็กชายณัฐพงษ์ พงษ์ศิลป์ เด็กชายดนัย จรรย์ทัน เด็กชายทิโนทัย หมายมี เด็กชายธนพร เรืองเอียด เด็กชายธนวัฒน์ ตรีศรี เด็กชายนรวิชญ์ ณะจันทร์ เด็กชายภาษกรณ์ ทองสัมฤทธิ์ เด็กชายภูวดล อุบล เด็กชายวรวิช หัสพันธ์ เด็กชายศักดิ์นรินทร์ รัตนชัย เด็กหญิงกนกรัชต์ ศรีพงศ์ เด็กหญิงกานตรัตน์ เรืองอ่อน เด็กหญิงกิ่งกานต์ โกหนด เด็กหญิงขวัญจิรา สุทธิพิทักษ์ เด็กหญิงนันท์นภัส สาคร เด็กหญิงบัณติตา ใจงาม เด็กหญิงปริชมน รักบางแหลม เด็กหญิงพรรณพณัช ร่มเมือง เด็กหญิงพรรวษา คงดี เด็กหญิงพวงชมพู ทองจุ้ย เด็กหญิงพัชรพร ชูนิล เด็กหญิงพัฒนวดี น้อยเกษม เด็กหญิงพิชชาพร แซ่ซัว เด็กหญิงมิยาวดี อินดำ เด็กหญิงยวิษฐา คำสวัสดิ์
เด็กหญิงรวิพร วันโย เด็กหญิงวริศรา สัมพันธ์ เด็กหญิงศศินา มากแก้ว เด็กหญิงศศิวิมล ประมวล เด็กหญิงศิริรัตน์ รัตนชัย เด็กหญิงสมพร เอี่ยมละออ เด็กหญิงสุชญา สาคร เด็กหญิงสุภาวดี ชำนาญเพ็ชร เด็กหญิงเสาวนีย์ มิสมร เด็กหญิงอรวรรณ บุญลึก เด็กชายกฤตสนนท์ พุ่มด้วง
แบบสรุปข้อมูลการวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ชื่อครูผู้สอน นางสาวอาชิรญาณ์ เกษสุวรรณ์ กลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง กลุ่มอ่อน เด็กชายทวีศักดิ์ ศิริป้อ เด็กชายธิติสรณ์ เพชรใฝ เด็กชายธิปกรณ์ กลับรินทร์ เด็กชายนรวัฒน์ ศรีรักษา เด็กชายปฐมพงษ์ เสนาะกรรณ เด็กชายพงศพัศ ทิมรัตน์ เด็กชายยชญ์กุลทร แซ่ลิ่ม เด็กชายรัชตะ พันเดช เด็กชายวิทวัส แพ่งรักษ์ เด็กชายวิรัชยา จอมประชา เด็กชายสิหรัตน์ หับสุภา เด็กหญิงกัญญ์วรา แก้วคง เด็กหญิงจิรัชญา พืชผล เด็กหญิงญาณัจฉรา สมสุข เด็กหญิงญาณิสา พัฒน์มณี เด็กหญิงธันปภัส รอดเจริญ เด็กหญิงบัณฑิตา ดีสุดจิตร เด็กหญิงปัญณ์ตวัน เพชรโชติ เด็กหญิงปาณิสรา ม่วงมณี เด็กหญิงพัชฎาภรณ์ ทองตำลึง เด็กหญิงภิญญดา ฤทธิ์แก้ว เด็กหญิงรัชฎาพร รักกะเปา เด็กหญิงรุ่งนภา สะเทิน เด็กหญิงวาเศรษฐี ฤทธิ์เเก้ว เด็กหญิงศศิธร ศรีศาสนา เด็กหญิงศิริมาศ สัตย์ซื่อ เด็กหญิงสุนิสา ถาพร เด็กหญิงอชิรญาณ์ ทองจันทร์ เด็กหญิงอินทิรา พันสะ
การวัดผลและประเมินผล การวัดผลการเรียนรู้ 1. การวัดผลระหว่างเรียน 50 คะแนน 2. การวัดผลกลางภาคเรียน 30 คะแนน 3. การวัดผลปลายภาคเรียน 20 คะแนน 4. รวมการวัดผลตลอดภาคเรียน 100 คะแนน การประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินผล การเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 4 ดีเยี่ยม 80 – 100 3.5 ดีมาก 75 – 79 3 ดี 70 – 74 2.5 ค่อนข้างดี 65 – 69 2 น่าพอใช้ 60 – 64 1.5 พอใช้ 55 – 59 1 ผ่าน 50 – 54 0 ต่ำกว่าเกณฑ์ 0 – 49 การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผลการ ประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน ดีเยี่ยม หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนที่มีคุณภาพดี เลิศอยู่เสมอ ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ แต่ยังมีข้อบกพร่องบาง ประการ ไม่ผ่าน หมายถึง ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน หรือถ้ามี ผลงาน ผลงานนั้นยังมีข้อบกพร่องที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลายประการ
เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมไม่เกิน 81 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 63 หน่วย กิต และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด (2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 63 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 14 หน่วยกิต (3) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่าน เกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด (4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด สำหรับการจบการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับผู้มี ความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย ให้คณะกรรมการของ สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักเกณฑ์ในแนว ปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22103 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เทคโนโลยีกับชีวิต ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด 1.1 ตัวชี้วัด ว4.1 ม.2/1 คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้น โดยพิจารณาจากสาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และวิเคราะห์ เปรียบเทียบตัดสินใจ เลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อ ชีวิต สังคมและสิ่งแวดล้อม 2.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีได้ถูกต้อง (K) 2. ยกตัวอย่างเทคโนโลยีและวิเคราะห์ว่าเกิดจากปัจจัยต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีได้ถูกต้อง (K) 3. เขียนผลกระทบทางบวกและผลกระทบทางลบของเทคโนโลยีได้ (P) 4. เล็งเห็นถึงความสำคัญของผลกระทบทั้งทางบวกและผลกระทบทางลบในสร้างเทคโนโลยี (A) 3.สาระการเรียนรู้ 1. สาเหตุหรือปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความก้าวหน้า ของศาสตร์ต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ทำให้เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 2. เทคโนโลยีแต่ละประเภทมีผลกระทบต่อชีวิตสังคม และสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน จึงต้อง วิเคราะห์เปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย และตัดสินใจเลือกใช้ให้เหมาะสม 4.สาระสำคัญ มนุษย์ค้นพบและสร้างองค์ความรู้มากมายหลายสาขา เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสตร์ที่ส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมาก คือ วิทยาศาสตร์ เป็นความรู้ที่ เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต โดยมีวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการสืบเสาะหาความรู้นั้น อาศัยการสังเกตเป็นพื้นฐาน และคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ การอธิบายโครงสร้าง ความสัมพันธ์ ระเบียบ รูปแบบ หรือแบบแผนต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ในธรรมชาติรอบตัวและ ภาพที่อยู่ในสมอง เท่าที่มนุษย์จะสามารถรับรู้ได้ทั้งในเชิง นามธรรมและเชิงรูปธรรม โดยอาศัยการคำนวณ และโมเดลทางคณิตศาสตร์มาอธิบาย ดังนั้น การค้นพบทาง วิทยาศาสตร์ที่มีการอธิบายในรูปแบบของสมการทางคณิตศาสตร์ที่แม่นยำจะช่วยให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมาอีก มากมาย และเทคโนโลยีที่ พัฒนาขึ้นสร้างผลกระทบทั้งทางด้านมนุษย์และสังคม ด้านเศรษฐกิจ และด้านสิ่งแวดล้อม
5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการสื่อสาร - ทักษะการแลกเปลี่ยนข้อมูล 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทักษะการสังเกต 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - ทักษะการทำงานร่วมกัน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทักษะการสืบค้นข้อมูล 1. ซื่อสัตย์ สุจริต 2. มีวินัย รับผิดชอบ 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อยู่อย่างพอเพียง 5. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เทคโนโลยีกับชีวิต 2. นักเรียนสแกนคิวอาร์โค้ด เรื่อง การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เทคโนโลยีกับ ชีวิต โดยให้นักเรียนสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการดูคลิปวีดิโอลงในสมุดประจำตัวของตนเอง 3. ครูสรุปความรู้ร่วมกับนักเรียนจากการดูวีดิทัศน์ว่า“การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมีผลต่อการเปลี่ยน กิจกรรมของมนุษย์ โดยอำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในด้านต่าง ๆ เช่น วิวัฒนาการของ การสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันโดยเริ่มจากการส่งรหัสมอร์ส > จดหมาย > โทรศัพท์ > โทรสาร > อีเมล์ > โปรแกรม สนทนาออนไลน์ จะเห็นได้ว่าเป็นการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองให้มนุษย์สื่อสารได้หลากหลายรูปแบบ และทำให้การ สื่อสารเกิดประโยชน์สูงสุดกับมนุษย์” 4. นักเรียนสังเกตภาพพัฒนาการของยานพาหนะจากอดีตถึงปัจจุบันจากหนังสือเรียน เพื่อให้ นักเรียนเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของยานพาหนะจากอดีตถึงปัจจุบันที่มีผลกระทบที่ดีขึ้นต่อชีวิตมนุษย์ 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมกับนักเรียนว่า“ก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมได้มีการใช้ยานพาหนะที่ใช้แรงงานสัตว์เกิดขึ้น เพื่อตอบสนองการเดินทางหรือการขนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก แต่การเดินทางด้วยสัตว์เป็นไปอย่างล่าช้า จึงได้มีการ พัฒนายานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไอน้ำ ทำให้มนุษย์เดินทางได้เร็วขึ้น แต่เนื่องจากพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วย พลังงานไอน้ำต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักจึงส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นจึงได้มีการ พัฒนาและประดิษฐ์เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลขึ้น ซึ่งเป็นพาหนะที่มีคนนิยมใช้มากเพราะรวดเร็วและสะดวกสบาย แต่ ก็มีผลกระทบให้มีการใช้น้ำมันสูงขึ้น จนมีการพยากรณ์ว่าการผลิตน้ำมันจะเริ่มลดจำนวนลงหลังปี ค.ศ. 2020 จึงมี การค้นคว้าและพัฒนาพาหนะที่ใช้พลังงานทางเลือกโดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เป็นเชื้อเพลิงหลัก ดังนั้น พาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จึงนิยมจนถึงปัจจุบัน เพราะช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นและช่วยลด ปัญหาการใช้พลังงานเกินความจำเป็น”
ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน หรือตามความเหมาะสม โดยให้นักเรียนร่วมกันสืบค้นการเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยีที่มีผลกระทบทำให้สังคมมนุษย์ดีขึ้นจากทางอินเทอร์เน็ตที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง 2. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานำเสนอข้อมูลตามที่ได้สืบค้นหน้าชั้นเรียน โดยครูเปิดโอกาสให้เพื่อน ร่วมชั้นสามารถซักถามข้อสงสัยได้อย่างอิสระ โดยครูคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติมตามความเหมาะสม 3. ครูอธิบายกับนักเรียนว่า “การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยที่มีผลต่อ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง คือ 3 ปัจจัย ดังนี้ 1) การตอบสนองความต้องการของมนุษย์ 2) ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ และ คณิตศาสตร์ 3) การแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม” 4. นักเรียนดูภาพการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทางการสื่อสารและภาพการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี โทรศัพท์ในรูปแบบของนวัตกรรม พร้อมวิเคราะห์ถึงการเปลี่ยนแปลงจากอดีตสู่ปัจจุบัน 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์จากตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีของแต่ละกลุ่มว่า เทคโนโลยีดังกล่าวเกิดขึ้นจากปัจจัยต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีปัจจัยใด โดยให้นักเรียน วิเคราะห์และสรุปร่วมกัน ภายในกลุ่ม จากนั้นให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียน ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 6. ครูอธิบายกับนักเรียนว่า“เทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกสบายก็ก่อให้เกิดข้อเสียหลายอย่างต่อการใช้ ชีวิตของมนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรง 3 ด้าน คือ 1) ด้านมนุษย์และสังคม 2) ด้านเศรษฐกิจ 3) ด้านสิ่งแวดล้อม 7. นักเรียนแบ่งกลุ่ม (กลุ่มเดิม) และร่วมกันวิเคราะห์ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่แต่ละกลุ่ม คัดเลือกมาว่าเทคโนโลยีดังกล่าวส่งผลกระทบทั้งทางบวกและลบในแต่ละด้านอย่างไร ตามหัวข้อดังนี้ 1) ด้านมนุษย์และสังคม 1.1) ความต้องการของสังคม 1.2) ความก้าวหน้าของวิทยาการ 1.3) การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม 2) ด้านเศรษฐกิจ 3) ด้านสิ่งแวดล้อม 8. ครูอธิบายเกร็ดเสริมความรู้เกี่ยวข้องกับเนื้อหา (Design Focus) เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ว่า“วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา วัฒนธรรมในสังคมจะมีการเปลี่ยนแปลงเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสังคม นั้นมีโอกาสสัมผัสกับวัฒนธรรมภายนอกได้สะดวกมากหรือน้อย โอกาสที่วิทยาการต่าง ๆ เข้าสู่สังคมย่อมมีผลกระทบ
ต่อวัฒนธรรม ปัจจุบันวิทยาการต่าง ๆ ก้าวหน้าไปมาก ประกอบกับมีอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อกันถึงทั่วโลก จึงเกิดการ เปลี่ยนแปลงด้านวัฒนธรรมอย่างรวดเร็ว” ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 9. นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหาโดยให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะ (Design Activity) โดยให้นักเรียนพิจารณาภาพและวิเคราะห์ถึงข้อดีและข้อเสียของเทคโนโลยี พร้อมอธิบายถึงการ ทำงานของเทคโนโลยีนั้นว่าสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร 10. นักเรียนแบ่งกลุ่ม (กลุ่มเดิม) เพื่อทำใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง ผลกระทบของเทคโนโลยีโดยให้นักเรียนอ่าน และทำความเข้าใจเนื้อหาพร้อมตอบคำถามลงในประเด็นที่กำหนดให้อย่างถูกต้อง 11. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียน ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลการนำเสนอของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องจากการทำใบงานที่ 1.1.1 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีกับชีวิตว่า“เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เกิดจากปัจจัยสำคัญ ๆ ได้แก่ 1) การตอบสนองความต้องการของมนุษย์ 2) ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และ คณิตศาสตร์ 3) การแก้ปัญหาต่างที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีหรือเลือกใช้เทคโนโลยี สิ่งสำคัญ คือการประเมินว่าเทคโนโลยีนั้นส่งผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบด้านมนุษย์และสังคม ด้าน เศรษฐกิจ และด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไรเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยีหรือเลือกใช้ เทคโนโลยีนั้น ๆ ได้อย่างเหมาะสม” Note วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพื่อให้นักเรียน - มีทักษะการทำงานร่วมกันโดยใช้กระบวนการกลุ่มในการทำงานหรือการทำ กิจกรรมเพื่อให้เกิดการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันภายในกลุ่ม - มีทักษะการสืบค้นข้อมูล โดยให้นักเรียนแต่ละคนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เพื่อสืบเสาะหาความรู้ตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย - มีทักษะการสังเกต โดยให้นักเรียนสังเกตภาพพัฒนาการทางเทคโนโลยีจากอดีต จนถึงปัจจุบันจากหนังสือเรียนเพื่อนำไปปรับใช้ในการเรียนได้อย่างเหมาะสม - มีทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยให้นักเรียนพิจารณาเนื้อหาจากการสืบค้นหรือศึกษา ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
4. นักเรียนทำแบบฝึกหัดทบทวนความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาทักษะการคิดของผู้เรียน (Unit Activity) จากนั้นให้นักเรียนตอบคำถามลงในสมุดประจำตัว 5. นักเรียนตรวจสอบระดับความสามารถของตนเอง (Self-Check) โดยพิจารณาข้อความว่าถูกหรือผิด หากนักเรียนพิจารณาข้อความไม่ถูกต้อง ให้นักเรียนกลับไปทบทวนเนื้อหาตามหัวข้อที่กำหนดให้ 6. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เทคโนโลยีกับชีวิต เพื่อวัดความรู้ที่นักเรียน ได้รับหลังจากผ่านการเรียนรู้ 7.การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักความ พอประมาณ พอประมาณกับเวลา นักเรียนสามารถเรียนรู้ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของ เทคโนโลยีได้ทันเวลา พอประมาณกับสมาชิก นักเรียนสามารถแบ่งกลุ่ม เพียงพอต่อการร่วมกันทำงานเป็นกลุ่ม พอประมาณกับสถานที่ ห้องเรียนคอมพิวเตอร์เพียงพอกับจำนวนนักเรียน หลักมีเหตุผล ในการจัดการเรียนการสอน นักเรียนสามารถปฏิบัติแบบฝึกหัด จากเรื่อง การเปลี่ยนแปลง และผลกระทบของเทคโนโลยีได้ หลักการสร้าง ภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การจัดการเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เนื้อหา ได้เป็นอย่างดี ทุกคนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเรื่อง การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยีได้เป็น อย่างดี เงื่อนไขคุณธรรม รู้จักการทำงานร่วมกลุ่ม ซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยีหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยีกับชีวิต 2) ใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง ผลกระทบของเทคโนโลยี 3) เครื่องคอมพิวเตอร์ 8.2 แหล่งเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต
9.การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 9.1 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เทคโนโลยีกับชีวิต - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง 9.2 การประเมินระหว่างการจัด กิจกรรม 1) ผลกระทบของเทคโนโลยี - ใบงานที่ 1.1.1 - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตความซื่อสัตย์ สุจริต ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่าง พอเพียง และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 9.3 การประเมินหลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เทคโนโลยีกับชีวิต - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมินตามสภาพจริง
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง แนวคิดหลักของเทคโนโลยี และระบบทางเทคโนโลยี ******************************************************************************************************* คำชี้แจง : เติมข้อความหรือความหมายของคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง 1. แนวคิดหลักของเทคโนโลยี คือ 2. แนวคิดหลักของเทคโนโลยี มีดังนี้ 1) การพัฒนาแนวทางปฏิบัติในการแก้ปัญหา คือ 2) การตอบสนองความจำเป็นและความต้องการของมนุษย์ คือ 3. ระบบทางเทคโนโลยี คือ 4. องค์ประกอบหลักของเทคโนโลยี มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) 2) 3) 4)
เฉลย ใบงานที่ 1.1 เรื่อง แนวคิดหลักของเทคโนโลยี และระบบทางเทคโนโลยี ****************************************************************************************************** คำชี้แจง : เติมข้อความหรือความหมายของคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง 1. แนวคิดหลักของเทคโนโลยี คือ แนวคิดที่เป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์ในแต่ละยุคสมัยสร้างหรือพัฒนาเทคโนโลยี ขึ้นมาเพื่อใช้แก้ปัญหา สนองความต้องการ หรือเพิ่มความสามารถในการทำงานของมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพ มากขึ้น 2. แนวคิดหลักของเทคโนโลยี มีดังนี้ 1) การพัฒนาแนวทางปฏิบัติในการแก้ปัญหา คือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการแก้ปัญหา เมื่อมนุษย์พบเจอ กับปัญหาที่ยากเกินกว่าจะแก้ไขด้วยตนเองได้ ดังนั้นจึงมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการแก้ปัญหา โดยสิ่งสำคัญ สำหรับผู้ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ปัญหาต้องมี คือ ความรู้ ทักษะ และทรัพยากร 2) การตอบสนองความจำเป็นและความต้องการของมนุษย์ คือ การสร้างเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อใช้ตอบสนอง ความต้องการของมนุษย์ โดยสามารถจำแนกประเภทของเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 1. เทคโนโลยีที่จำเป็น (needs) คือ สิ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ เช่น ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เป็นต้น 2. เทคโนโลยีที่ต้องการ (wants) คือ สิ่งที่มนุษย์ขาดได้ในการดำรงชีวิต แต่สร้างเพื่อความสะดวกสบายใน การดำรงชีวิตของมนุษย์ เช่น โทรศัพท์ โทรทัศน์ รถยนต์ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เป็นต้น 3. ระบบทางเทคโนโลยี คือ ระบบที่ประกอบด้วยองค์ประกอบทางเทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกัน จนเกิดเป็นระบบ เทคโนโลยี 4. องค์ประกอบหลักของเทคโนโลยี มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ตัวป้อน (input) คือ ความต้องการหรือปัญหาที่เกิดจากความจำเป็นของมนุษย์ในการดำรงชีวิตอยู่ในสังคม อย่างมีความสุข โดยตัวป้อนจะตอบสนองความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ 2) กระบวนการเทคโนโลยี (technological process) คือ กระบวนการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจาก ทรัพยากรมาเป็นผลิตภัณฑ์ โดยมีขั้นตอนทั้งหมด 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1. ระบุปัญหาหรือความต้องการ 2. รวบรวมข้อมูล 3. เลือกวิธีการ 4. ออกแบบวิธีการ 5. ทดสอบ 6. ปรับปรุง แก้ไข และประเมินผล 7. นำเสนอผลงาน 3) ผลผลิต (output) หรือผลลัพธ์ (outcome) คือ ผลจากกระบวนการแก้ปัญหาที่ตอบสนองความจำเป็น (needs) หรือความต้องการ (wants) ของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากขึ้น 4) ผลสะท้อนกลับ (feedback) คือ การนำผลผลิตหรือผลลัพธ์มาวิเคราะห์และปรับปรุงให้สมบูรณ์ตามที่ ต้องการมากขึ้น
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดกล่าวถึงกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ก. การใช้เปลือกของกุ้งล็อบสเตอร์มาผลิตเป็น พลาสติกชีวภาพ ข. ฟ้าผ่า เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น จากอิเล็กตรอนจำนวนมากเคลื่อนที่ไปมา ระหว่างเมฆกับเมฆหรือระหว่างเมฆกับพื้นโลก ค. หุ่นยนต์เชื่อมโลหะในสายการผลิตของโรงงาน ง. โดรนปฏิบัติการพ่นสารเคมี ปุ๋ย ฮอร์โมนพืช 2. การนำความรู้วิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้สำหรับ การสร้างเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ คืออะไร ก. เทคโนโลยี ข. วิศวกรรม ค. นวัตกรรม ง. คณิตศาสตร์ 3. ข้อใดจัดเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา การขาดแคลนพลังงาน ก. หุ่นยนต์เชื่อมโลหะในสายการผลิตของโรงงาน ข. การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ค. การใช้เปลือกของกุ้งล็อบสเตอร์มาผลิต เป็นพลาสติกชีวภาพ ง. การใช้โดรนปฏิบัติการพ่นสารเคมี ปุ๋ย ฮอร์โมนพืช 4. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยี ก. การตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ข. การแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม ค. การเปลี่ยนแปลงทางสังคม ง. ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ 5. เทคโนโลยีใดที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการ ของมนุษย์ ทำให้มนุษย์ได้รับความสะดวกมากขึ้น ก. สมาร์ทโฟน ข. ยานอวกาศ ค. ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ง. ดาวเทียม 6. เทคโนโลยีใดที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลน พลังงาน ก. โดรน ข. ยานอวกาศ ค. กังหันลม ง. ดาวเทียม 7. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดรูปแบบ การค้นหาข้อมูลในห้องสมุดของนักเรียนที่ปลี่ยนไป ก. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ข. อินเทอร์เน็ต ค. ดาวเทียม ง. ยานอวกาศ 8. ข้อใดคือผลกระทบทางลบที่รุนแรงที่สุดที่เกิดจาก การใช้เทคโนโลยีที่ชาญฉลาด ก. การใช้พลังงานไฟฟ้าที่มากขึ้น ข. ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมลง ค. สายตาเสียจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ง. การยกเลิกการจ้างแรงงานคนในการทำงาน บางด้าน 9. ข้อใดคือผลกระทบทางบวกของการใช้เทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต ก. ทำให้ติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นได้อย่างล่าช้า ข. ทำให้ตลาดการค้าขายถดถอย ค. ทำให้ติดตามเคลื่อนไหวจากข่าวสารทั่วโลก อย่างรวดเร็ว ง. ทำให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลกระทบ ต่อสายตา 10. การลงมือสร้างเทคโนโลยีเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดของมนุษย์จะต้องทำสิ่งใด ก. วิเคราะห์เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียก่อนลงมือ สร้างเทคโนโลยี ข. สำรวจความต้องการของผู้ใช้งาน ค. เปรียบเทียบกับคู่แข่งก่อนลงมือสร้างเทคโนโลยี ง. คัดเลือกวัสดุที่ดีที่สุดในการสร้างเทคโนโลยี แบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22103 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 วัสดุ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับวัสดุ เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด 1.1 ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.2/5 ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า และ อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และปลอดภัย 2.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกสมบัติของวัสดุแต่ละประเภทได้ถูกต้อง (K) 2. เลือกวัสดุที่ใช้ในการสร้างชิ้นงานแต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสม (K) 3. บอกความแตกต่างของวัสดุศาสตร์และวัสดุวิศวกรรมได้ (K) 4. วางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย (P) 5. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเลือกวัสดุแต่ละประเภทในการพัฒนาชิ้นงาน (A) 3.สาระการเรียนรู้ 1. วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพื่อเลือกใช้ให้ เหมาะสมกับลักษณะของงาน 2. การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้ เรื่องกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เช่น LED มอเตอร์ บัซเซอร์ เฟือง รอก ล้อ เพลา 3. อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน หรือ พัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ ถูกต้องเหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรู้จักเก็บรักษา 4.สาระสำคัญ มนุษย์นำวัสดุจากธรรมชาติและวัสดุที่สร้างขึ้นและปรับปรุงจากความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้มีวัสดุหลากหลายประเภทที่มีคุณสมบัติที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น การเลือกใช้วัสดุ จากสมบัติของวัสดุแต่ละ ประเภท จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลให้ชิ้นงานนั้นตรงกับความต้องการ และ มีความปลอดภัย สามารถใช้ทรัพยากรได้ อย่างคุ้มค่า 5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการสื่อสาร - ทักษะการแลกเปลี่ยนข้อมูล 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 1. ซื่อสัตย์ สุจริต 2. มีวินัย รับผิดชอบ 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อยู่อย่างพอเพียง 5. มุ่งมั่นในการทำงาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทักษะการสังเกต 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - ทักษะการทำงานร่วมกัน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทักษะการสืบค้นข้อมูล 6.กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง วัสดุ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี 2. นักเรียนสังเกตภาพผลิตภัณฑ์จากวัสดุประเภทต่าง ๆ ในหนังสือเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องวัสดุ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี และเปิดโอกาสให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันภายในชั้นเรียนว่าภาพดังกล่าวประกอบด้วยวัสดุ ประเภทใดบ้าง 3. จากนั้นครูถามคำถามเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมมีผลต่อการ สร้างได้อย่างไร”(แนวตอบ : นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ครูผู้สอน เช่น การเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ มีผลต่อการสร้างนวัตกรรม ถ้าเลือกใช้ไม่เหมาะสม อาจจะส่งผลถึงปัญหาการใช้งานต่าง ๆ ได้ เป็นต้น) 4. ครูอธิบายกับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า“วัสดุมีหลากหลายประเภท ดังนั้นการใช้งานจึง จำเป็นต้องศึกษาหรือพิจารณาจากคุณสมบัติให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน เพื่อความปลอดภัยและใช้ทรัพยากรได้อย่าง คุ้มค่า” ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน หรือตามความเหมาะสม โดยให้แต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูล เรื่อง ประเภท ของวัสดุ จากหนังสือเรียน หรือสืบค้นเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตที่ เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง ซึ่งโดยทั่วไปประเภทของวัสดุสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้ 1) โลหะ 1.1) โลหะประเภทเหล็ก 1.2) โลหะนอกกลุ่มเหล็ก 2) อโลหะ 2.1) วัสดุจากธรรมชาติ 2.2) วัสดุสังเคราะห์
ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 2. ครูอธิบายกับนักเรียนว่า“นอกจากวัสดุประเภทโลหะและอโลหะยังมีวัสดุประเภทต่าง ๆที่นักเรียนควร รู้จัก เช่น วัสดุฉลาด วัสดุชีวภาพ วัสดุนาโน เป็นต้น” 3. เปิดโอกาสให้นักเรียนศึกษาความรู้และอภิปรายร่วมกันภายในกลุ่มเกี่ยวกับวัสดุต่าง ๆ ที่กล่าวมา 4. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมาอภิปรายเกร็ดเสริมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา (Design Focus) ดังนี้ “วัสดุฉลาด คือ วัสดุที่มีความสามารถในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอก เช่น มีรูปร่างเปลี่ยนแปลง ตามอุณหภูมิหรือมีแรงเคลื่อนไฟฟ้า เช่น เลนส์ของแว่นตากันแดดสามารถ ปรับสีได้เองตามความเข้มของแสงที่ เปลี่ยนแปลงไป ลวดนำทาง (Guide Wire) ในการผ่าตัดสายสวน (Catheter) ผ่านทางเส้นเลือด ถ้าหากวัสดุฉลาด เหล่านี้สามารถซ่อมแซมตัวเองหรือพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น จะเรียกวัสดุเหล่านี้ว่า วัสดุอัจฉริยะ ( Intelligent Materials) เช่น เส้นใยแก้วนำแสงที่มีข้อเสีย เรื่อง ความเปราะบางและแตกหักง่าย ดังนั้น เมื่อนำมาผสมกับวัสดุใน กลุ่มพอลิเมอร์จำรูป จนเกิดเป็นเส้นใยแก้วนำแสงอัจฉริยะชนิดใหม่ที่สามารถซ่อมแซม ตัวเองได้เมื่อเกิดการแตกหัก เสียหาย” “วัสดุชีวภาพ คือ วัสดุที่สามารถเป็นส่วนประกอบหรือฝังอยู่ภายในร่างกายมนุษย์เ พ ื ่ อ ใช้ เ ป ็ น ว ั ส ดุ ทดแทนส่วนต่าง ๆ ในร่างกายที่เสียหายจากโรคหรือสาเหตุอื่น ๆ เช่น ขาเทียม หรือกระดูกเทียมที่ทำจากโลหะผสมที่ เป็นมิตรต่อร่างกาย ได้แก่ โลหะไทเทเนียมผสม และโลหะผสมระหว่างโคบอลต์-โครเมียม” “วัสดุนาโน คือ วัสดุที่มีขนาดอย่างน้อยหนึ่งมิติเป็นขนาดนาโน (มีขนาดระหว่าง 1 ถึง 100 นาโน เมตร) โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ วัสดุนาโนจากธรรมชาติ เช่น พื้นผิวใบบัวใยแมงมุม เส้นขนตีนตุ๊กแกและวัสดุนาโนจาก การผลิต เป็นวัสดุนาโนที่ผลิตขึ้น เพื่อให้มีสมบัติหรือองค์ประกอบที่จำเพาะ เช่น อนุภาคนาโนของธาตุเงินมีฤทธิ์ในการ ฆ่าเชื้อโรค สามารถ นำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ หรือ อุปกรณ์ฟอกอากาศ และสารเฟอร์โรอิเล็กทริกสามารถ นำไปใช้งานทางด้านการเก็บข้อมูลของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” 5. นักเรียนสแกนคิวอาร์โค้ด เรื่อง วัสดุสังเคราะห์ จากหนังสือเรียนและอภิปรายความรู้เพื่อสรุปประเด็น สำคัญที่ได้จากการดูคลิปวีดิโอ ดังนี้ “วัสดุสังเคราะห์ คือ วัสดุที่สร้างจากการผสมกันของวัสดุหรือกระบวนการทางเคมี เพื่อให้เกิดวัสดุที่มี คุณภาพที่แตกต่างและดีขึ้น วัสดุสังเคราะห์ ได้แก่ 1) ไม้สังเคราะห์- นิยมนำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ และระแนงกันแดด 2) พลาสติก - นิยมนำมาผลิตภาชนะ ถุงพลาสติก และเครื่องใช้ไฟฟ้า 3) เซรามิก - นิยมนำมาผลิตภาชนะ เครื่องสุขภัณฑ์ แจกัน 4) แก้ว - นิยมนำมาผลิตภาชนะ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ กระจก 5) กระดาษ - นิยมนำมาผลิตกระดาษวาด กล่อง ผลงานศิลปะ 6) เส้นใยสังเคราะห์ - นิยมนำมาผลิตเชือก พรม เสื้อผ้า 7) ยางสังเคราะห์ - นิยมนำมาผลิตยางรถยนต์ สายพานลำเลียง ฉนวนหุ้มสายไฟ” ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 6. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม ให้เล่นเกม วัสดุอะไรเอ่ย โดยมีกติกา ดังนี้ “ครูเขียนชื่อวัสดุบนกระดาน ได้แก่ เหล็ก อะลูมิเนียม ไม้ ยาง ผ้า ไม้สังเคราะห์ พลาสติก เซรามิก แก้ว กระดาษ เส้นใยสังเคราะห์ ยางสังเคราะห์ และให้สมาชิกแต่ละกลุ่มสลับกัน ออกมาบอกชื่อผลิตภัณฑ์ และบอกว่าทำ
มาจากวัสดุใด ซึ่งคำตอบของแต่ละกลุ่มจะต้องไม่ซ้ำ กันและกำหนดเวลาให้แต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 5 วินาที โดยกลุ่มใดที่ ทำผิดกติกาจะต้องยุติการเล่นเกม กลุ่มที่ชนะจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่” 7. นักเรียนวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของวัสดุศาสตร์และวัสดุวิศวกรรมจากผังความคิดวัสดุศาสตร์และวัสดุ วิศวกรรมจากหนังสือเรียน โดยครูอธิบายเพิ่มเติมว่า “คุณสมบัติต่างๆ ของวัสดุเรียกว่า วัสดุศาสตร์ จึงเป็นความรู้ หลักการพื้นฐานสำหรับการประยุกต์ใช้งาน โดยการปรับปรุง คุณสมบัติของวัสดุต่าง ๆ แล้วนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ ต้องการจะเรียกว่า “วัสดุวิศวกรรม” 8. ครูถามนักเรียนว่า“นักเรียนรู้จักเส้นใยแก้วนำแสงหรือไม่” จากนั้นครูอธิบายเกร็ดเสริมความรู้ที่ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา (Design Focus) เรื่อง เส้นใยแก้วนำแสงว่า“เส้นใยแก้วนำแสง หรือ ไฟเบอร์ออปติก เป็นตัวกลาง ของสัญญาณแสงชนิดหนึ่งที่ทำมาจากแก้วซึ่งมีความบริสุทธิ์ สูงมาก เส้นใยแก้วนำแสงมีลักษณะเป็นเส้นยาวขนาดเล็ก มีขนาดประมาณเส้นผมของมนุษย์ เส้นใย แก้วนำแสงที่ดีต้องสามารถนำสัญญาณแสงจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ โดยมีการสูญเสียของสัญญาณแสงน้อยมาก เส้นใยแก้วนำแสงสามารถแบ่งตามความสามารถในการนำแสงออกได้เป็น 2 ชนิด คือ เส้นใยแก้วนำแสงชนิดโหมด เดี่ยว (Singlemode Optical Fibers) และเส้นใยแก้วนำแสงชนิดหลายโหมด (Multimode Optical Fibers)” 9. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม(กลุ่มเดิม) เพื่อร่วมกันทำใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง นักออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยให้ นักเรียนวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยวิเคราะห์คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสม และบอก ข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ 10. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลจากการนำเสนอผลงานของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องจากใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง นักออกแบบผลิตภัณฑ์ 3. ครูถามคำถามเพื่อตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจของนักเรียนว่า“วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติ ที่แตกต่างกันหรือไม่ แต่ละประเภทมีสมบัติเด่นอย่างไร” Note วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพื่อให้นักเรียน - มีทักษะการทำงานร่วมกันโดยใช้กระบวนการกลุ่มในการทำงานหรือการทำ กิจกรรมเพื่อให้เกิดการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันภายในกลุ่ม - มีทักษะการสืบค้นข้อมูล โดยให้นักเรียนแต่ละคนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เพื่อสืบเสาะหาความรู้ตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย - มีทักษะการสังเกต โดยให้นักเรียนสังเกตภาพผลิตภัณฑ์จากวัสดุประเภทต่าง ๆ และผังความคิดวัสดุศาสตร์และวัสดุวิศวกรรมจากหนังสือเรียนเพื่อนำไปปรับใช้ในการเรียน ได้อย่างเหมาะสม - มีทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยให้นักเรียนพิจารณาเนื้อหาจากการสืบค้นหรือศึกษา ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
(แนวตอบ : นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น วัสดุแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น โลหะมีความแข็ง ผิวมันวาว และเป็นตัวนำความร้อน แต่ไม้มีความ แข็ง ดูดซับเสียงดี นำความร้อนต่ำ ดังนั้นก่อนลงมือใช้งานควรศึกษาและพิจารณาให้ตรงกับงานที่ออกแบบเพื่อความ ปลอดภัยและความคุ้มค่าของการใช้ทรัพยากร เป็นต้น) 4. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับวัสดุว่า“วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติที่แตกต่างกัน เหมาะกับงานหรือผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญคือผู้อกแบบผลิตภัณฑ์ควรระบุคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ ให้ชัดเจน จึงสามารเลือกวัสดุที่เหมาะสม และไม่เกิดปัญหาเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์นั้น” 7.การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักความ พอประมาณ พอประมาณกับเวลา นักเรียนสามารถเรียนรู้ เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับวัสดุได้ทันเวลา พอประมาณกับสมาชิก นักเรียนสามารถแบ่งกลุ่ม เพียงพอต่อการร่วมกันทำงานเป็นกลุ่ม พอประมาณกับสถานที่ ห้องเรียนคอมพิวเตอร์เพียงพอกับจำนวนนักเรียน หลักมีเหตุผล ในการจัดการเรียนการสอน นักเรียนสามารถปฏิบัติแบบฝึกหัด จากเรื่อง ความรู้เกี่ยวกับ วัสดุได้ หลักการสร้าง ภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การจัดการเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เนื้อหา ได้เป็นอย่างดี ทุกคนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเรื่อง ความรู้เกี่ยวกับวัสดุได้เป็นอย่างดี เงื่อนไขคุณธรรม รู้จักการทำงานร่วมกลุ่ม ซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 วัสดุ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี 2) ใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง นักออกแบบผลิตภัณฑ์ 3) เครื่องคอมพิวเตอร์ 8.2 แหล่งเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต
9.การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 9.1 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง วัสดุ อุปกรณ์ทาง เทคโนโลยี - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อน เรียน ประเมินตามสภาพจริง 9.2 การประเมินระหว่างการจัด กิจกรรม 1) นักออกแบบผลิตภัณฑ์ - ใบงานที่ 2.1.1 - ตรวจใบงานที่ 2.1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตความซื่อสัตย์ สุจริต ความมีวินัย รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการ ทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
เรื่อง นักออกแบบผลิตภัณฑ์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ โดยวิเคราะห์คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด และเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสม และบอกข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ สมบัติ วัสดุที่เลือกใช้ ข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ ขวดน้ำผลไม้ - ใส - ทนต่อการกัดกร่อน จากกรดผลไม้ - เหมาะกับใส่ เครื่องดื่ม - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ ทำลายธรรมชาติ - ขวดแก้ว - เปราะ แตกหักง่าย - ต้นทุนสูงกว่าการใช้ ขวดพลาสติก จานใช้ครั้งเดียว เสื้อกันฝน ใบงานที่ 2.1.1
เรื่อง นักออกแบบผลิตภัณฑ์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ โดยวิเคราะห์คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด และเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสม และบอกข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ สมบัติ วัสดุที่เลือกใช้ ข้อจำกัดของ ผลิตภัณฑ์ ขวดน้ำผลไม้ - ใส - ทนต่อการกัดกร่อน จากกรดผลไม้ - เหมาะกับใส่ เครื่องดื่ม - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ ทำลายธรรมชาติ - ขวดแก้ว - เปราะ แตกหักง่าย - ต้นทุนสูงกว่าการใช้ ขวดพลาสติก จานใช้ครั้งเดียว - ใส่อาหาร - ไม่รั่วซึม - บรรจุอาหารร้อน ได้ ไม่ละลาย - ย่อยสลายได้ - วัสดุจากธรรมชาติ เช่น กระดาษ ใบไม้ กาบหมากกาบกล้วย - คุณภาพของวัสดุจาก ธรรมชาติบางครั้งยัง ไม่ดีพอ เสื้อกันฝน - เสื้อที่สามารถ กันฝนหรือน้ำได้ - พลาสติก - ถ้าทิ้งเป็นขยะ จะไม่ สามารถย่อยสลายใน ธรรมชาติได้ ใบงานที่ 2.1.1 เฉลย
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22103 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 วัสดุ อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องกลและเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด 1.1 ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.2/5 ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า และ อิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และ ปลอดภัย 2.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความสามารถของเครื่องกลแต่ละประเภทได้ (K) 2. เลือกใช้เครื่องกลและเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างชิ้นงานได้อย่างเหมาะสม (K) 3. บอกวิธีการดูแลรักษาเครื่องมือได้ถูกต้อง (K) 4. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องกลในการสร้างชิ้นงานได้ถูกต้อง (P) 5. ตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือ (A) 3.สาระการเรียนรู้ 1. วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพื่อเลือกใช้ให้ เหมาะสมกับลักษณะของงาน 2. การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้ เรื่องกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เช่น LED มอเตอร์ บัซเซอร์ เฟือง รอก ล้อ เพลา 3. อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน หรือ พัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรู้จักเก็บรักษา 4.สาระสำคัญ เครื่องกลและกลไกเป็นสิ่งที่ช่วยให้การสร้างชิ้นงานมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามที่ผู้ใช้ต้องการ รวมถึง การเลือกอุปกรณ์และเครื่องมือในการพัฒนาชิ้นงานต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรู้จักเก็บ รักษาให้ใช้งานได้เป็นอย่างดี 5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการสื่อสาร - ทักษะการแลกเปลี่ยนข้อมูล 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 1. ซื่อสัตย์ สุจริต 2. มีวินัย รับผิดชอบ 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อยู่อย่างพอเพียง 5. มุ่งมั่นในการทำงาน
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - ทักษะการทำงานร่วมกัน 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทักษะการสืบค้นข้อมูล 6.กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“นักเรียนเคยขับรถจักรยานหรือไม่ และ นักเรียนคิด ว่ารถจักรยานมีลักษณะการทำงานอย่างไร” (แนวตอบ: นักเรียนตอบตามความคิดเห็นส่วนตัว โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น จักรยานเป็นยานพาหนะประเภทรถมี 2 ล้อ มีโครงเหล็กเชื่อมล้อหน้ากับล้อหลังในทิศทางเดียวกัน มีคันบังคับด้วยมือ ติดตั้งอยู่บนล้อหน้า มีเบาะนั่งขี่ ขับเคลื่อนด้วยแรงถีบจากคนขี่โดยกดบันไดทั้งสองข้าง ทำให้ล้อเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ด้วยความเร็ว จักรยานจึงเป็นเครื่องกลที่ใช้ล้อ โดยเปลี่ยนพลังงานของคนขี่ให้เป็นพลังงานจลน์ของทั้งรถจักรยาน เป็น ต้น) 2. ครูถามคำถามกระตุ้นความคิด โดยใช้คำถามประจำหัวข้อเพื่อให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า “เครื่องกลมีส่วนช่วยในการ สร้างชิ้นงานอย่างไร” (แนวตอบ: นักเรียนตอบตามความคิดเห็นส่วนตัว โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น การ มีความรู้เรื่องเครื่องกลจะช่วยให้สร้างเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกในการทำงาน เป็นต้น) 3. ครูอธิบายกับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า“เครื่องกลเป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นมา เพื่อช่วยผ่อน แรงหรืออำนวยความสะดวกในการทำงานโดยอาศัยเครื่องกลประเภทต่าง ๆ” ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นักเรียนแต่ละคนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเครื่องกลในการสร้างชิ้นงาน ซึ่งเครื่องกลอย่างง่ายที่ช่วย อำนวยความสะดวกในการทำงาน มี 6 ประเภท ดังนี้ 1) รอก 1.1) รอกเดี่ยวตายตัว 1.2) รอกเดี่ยวเคลื่อนที่ 2) คาน 2.1) คานอันดับที่ 1 2.2) คานอันดับที่ 2 2.3) คานอันดับที่ 3 3) ล้อและเพลา 4) พื้นเอียง 5) ลิ่ม
6) สกรู 2. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมานำเสนอข้อมูลที่ได้สืบค้นหน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 3. ครูอธิบายเกร็ดเสริมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา (Design Focus) เรื่อง การได้เปรียบเทียบเชิงกลว่า “การได้เปรียบเทียบเชิงกล คือ อัตราส่วนระหว่างแรงต้าน (W) กับแรงพยายาม (E) ผลหรือตัวเลขจะสามารถบอกได้ว่า เครื่องกลชนิดนั้นผ่อนแรงได้หรือไม่ ดังนี้ - ถ้า M.A. = 1 แสดงว่า ไม่ผ่อนแรง เพราะ W=E (งานที่ได้จากเครื่องกลเท่ากับแรงกระทำ) - ถ้า M.A. > 1 แสดงว่า ได้เปรียบเชิงกล เพราะ W>E (งานที่ได้จากเครื่องกลมากกว่าแรงกระทำ) - ถ้า M.A. < 1 แสดงว่า เสียเปรียบเชิงกล เพราะ W<E (งานที่ได้จากเครื่องกลน้อยกว่าแรงกระทำ)” 4. เปิดโอกาสให้นักเรียน 3-4 คน อภิปรายร่วมกันภายใต้คำถาม“อุปกรณ์ใดบ้างที่เป็นเครื่องกล ประเภท ล้อ และมีการทำงานอย่างไร” 5. ครูสุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมาตอบคำถามหน้าชั้นเรียน (แนวตอบ : เครื่องกลประเภทล้อ ได้แก่ ลูกบิดประตู สเก็ตบอร์ด หรือรถวีลแชร์ เป็นต้น โดยมี หน้าที่ การทำงานดังนี้ - ลูกบิดประตู มีหน้าที่การทำงานคือ เมื่อบิดลูกบิด ซึ่งมีลักษณะเป็นล้อ จะไปทำให้แกนเพลาและดึง สลัดประตู ทำให้ประตูเปิด - สเก็ตบอร์ด มีหน้าที่การทำงานคือ แผ่นกระดานที่มีล้อติด ใช้เป็นเท้าวางบนแผ่นกระดาน 1 ข้าง และใช้เท้าที่แตะพื้นไถให้เกิดความเร็วในการเคลื่อนที่ - รถวีลแชร์ มีหน้าที่การทำงานคือ อุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้พิการหรือผู้ป่วยที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหว โดย ตัวผู้ใช้งานโดยใช้มือและแขนเข็นไป เหมาะกับผู้ที่มีกล้ามเนื้อลำตัวส่วนบนแข็งแรงมากพอ ช่วยให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้) 6. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องกลประเภทสกรูว่า “สกรู เป็นเครื่องกลที่ช่วยผ่อนแรงมีรูปร่างคล้าย บันไดเวียนวนรอบแกนอันหนึ่ง สกูรใช้สำหรับยกวัตถุหนัก ๆ ขึ้นสูง ๆ โดยแรงความพยายามเคลื่อนที่เป็นวงกลมขณะที่ แรงความต้านเคลื่อนที่ขึ้นลงในแนวดิ่ง เช่น สว่าน แม่แรง ตะปูเกลียว เป็นต้น” 7. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 6 กลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาจับสลากเรื่องอุปกรณ์น่ารู้ เพื่อ เลือกอุปกรณ์ 1 ชนิด จากนั้นให้นักเรียนสืบค้นและอภิปรายร่วมกันว่าอุปกรณ์ดังกล่าวใช้หลักการเครื่องกลประเภทใด โดยมีอุปกรณ์ดังนี้ 1) อุปกรณ์ช่วยขนย้ายอุปกรณ์ก่อสร้าง 2) เครื่องตัดกระดาษ 3) พัดลม 4) การขนย้ายของขึ้นรถ 5) สิ่ว 6) ตะปูเกลียว 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยครูร่วมอภิปรายและให้ข้อเสนอแนะ เพิ่มเติมดังนี้
อุปกรณ์ หลักการของเครื่องกล อุปกรณ์ช่วยขนย้ายอุปกรณ์ก่อสร้าง ใช้หลักการของรอก เครื่องกลที่มีลักษณะเป็นล้อ หมุนได้ คล่องรอบ แกน ที่ขอบของล้อมีเชือกหรือสายเคเบิลพาดล้อ เพื่อใช้ยกของหนักขึ้นที่สูง หรือหย่อนลงที่ต่ำ เครื่องตัดกระดาษ ใช้หลักการของคานอันดับ 2 ในการใช้แรงกด ให้กระดาษตัดขาด พัดลม ใช้หลักการของล้อและเพลา แกนเพลาจะหมุน ทำให้ล้อที่ติดใบพัดหมุนตาม ใช้หลักการดูดอากาศ จากบริเวณรอบ ๆ ทางด้านหลังของตัวใบพัด แล้วปล่อยออกสู่ด้านหน้าเกิดเป็นลมพัด การขนย้ายของขึ้นรถ ใช้หลักการของพื้นเอียง ใช้ในการขนย้ายวัตถุขึ้น ที่สูงด้วยการผลัก สิ่ว ใช้หลักการของสิ่ว โดยเป็นเครื่องมือที่ใช้ตัดไม้ หิน หรือ โลหะ โดยใช้แรงตอก ให้ส่วนคมที่ปลายสิ่วเข้าไปในเนื้อวัตถุ ทำให้ส่วนที่ไม่ต้องการหลุดแตกออกมาจนได้รูปทรงที่ ต้องการ ตะปูเกลียว ใช้หลักการของสกรู เกลียวคล้ายบันไดเวียนวนรอบ แกน อันหนึ่ง ใช้แรงหมุนเพื่อให้เกลียวเคลื่อนเจาะทะลุเข้าไปใน เนื้อไม้ เพื่อยึดยึดวัตถุสองชิ้นให้ติดกัน ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 9. ครูวาดผังมโนทัศน์เรื่องเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานที่แบ่งออกเป็น เครื่องมือวัด เครื่องมือตัด เครื่องมือ สำหรับยึดติด และเครื่องมือสำหรับเจาะ ลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน จากนั้น ให้นักเรียนร่วมกันบอกเครื่องมือต่าง ๆ ที่ นักเรียนใช้ในชีวิตประจำวันตามประเภทข้างต้น โดยครูพิจารณาคำตอบและบันทึกลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน 10. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาเครื่องมือต่าง ๆ ดังนี้ เครื่องมือ วิธีการดูแลรักษาเครื่องมือ เครื่องมือวัด ไม้บรรทัดเหล็ก ทำความสะอาดไม้บรรทัดหลังเลิกใช้งาน และใส่ซองพลาสติกเพื่อกันไม่คม บาดหรือเกี่ยวมือ ตลับเมตร - ในการใช้งานต้องค่อยๆ ดึงจากตลับและเมื่อใช้เสร็จให้ค่อย ๆ ผ่อนให้เส้น เทปกลับเข้าตลับ ถ้าปล่อยให้กลับเร็วเกินไปปลายของเกี่ยวอาจชำรุจ เสียหายได้ - ทำความสะอาดหลังเลิกใช้งานแล้วเก็บให้เป็นระเบียบ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ทำความสะอาดและทาน้ำมันกันสนิมหลังจากเลิกใช้งาน โดยให้วาง เวอร์เนียคาลิปเปอร์บนผ้าหรือแผ่นไม้