The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 3 ข้อมูลผ้าทอไทลื้อ บ้านกล้วยหลวงพัฒนา5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by natthakan180445, 2023-10-03 03:31:49

บทที่ 3 ข้อมูลผ้าทอไทลื้อ บ้านกล้วยหลวงพัฒนา5

บทที่ 3 ข้อมูลผ้าทอไทลื้อ บ้านกล้วยหลวงพัฒนา5

ค ำน ำ


สำรบัญ เรื่อง หน้ำ ค ำน ำ ก สำรบัญ ข สำรบัญรูปภำพ ค บทที่ 1 บทน ำ บทที่ 2 บริบทชุมชนบ้ำนกล้วยหลวงพัฒนำ บทที่ 3 ข้อมูลลำยผ้ำทอไทลื้อบ้ำนกล้วยหลวงพัฒนำ 3.1 ประวัติความเป็นมาของลายผ้าทอไทลื้อ 3.2 ขั้นตอนการทอผ้าไทลื้อ 3.3 ประเภทของลายผ้าและชื่อเรียกลายผ้าของลายผ้าทอไทลื้อแต่ละชนิด 3.4 การเลือกใช้สีบนลายผ้าทอไทลื้อ 3.5 เอกลักษณ์และจุดเด่นของลายผ้าทอไทลื้อบ้านกล้วยหลวงพัฒนา 3.6 สรุป บทที่ 4 ปรำชญ์ด้ำนกำรทอผ้ำไทลื้อบ้ำนกล้วยหลวงพัฒนำ 4.1 ภูมิปัญญาด้านการตัดเย็บ 4.1.1 ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านการตัดเย็บ 4.1.2 ผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดเย็บ : แม่สองเมือง ค าเปื่อน 4.1.3 ผู้เชี่ยวชาญด้านการเย็บผ้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน : แม่หยัด แจ้ ค า 4.2 ภูมิปัญญาด้านการทอผ้า 4.2.1 ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านการทอผ้า 4.2.2 ผู้เชี่ยวชาญด้านการทอผ้าในปัจจุบัน : แม่ศรีจันทร์ ใจนา 4.2.3 ผู้เชี่ยวชาญด้านการทอผ้าแบบดั้งเดิม : แม่บุญเสาร์อุ่นผูก 4.2.4 ผู้เชี่ยวชาญด้านการทอผ้าร่วมสมัย : แม่เม้าส์ปะละน่าน 4.2.5 ผู้เชี่ยวชาญด้านการทอผ้าและการแกะลายผ้าทอร่วมสมัย : พระ โชคทวี ชยพโล 4.3 ภูมิปัญญาด้านการย้อมสีเส้นใยธรรมชาติ 4.3.1 ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านการย้อมสีเส้นใยธรรมชาติ 4.3.2 ผู้เชี่ยวชาญด้านการย้อมสีเส้นใยธรรมชาติ : แม่กลม แสนเงิน 4.4 สรุป บทที่ 5 บทสรุป ภำคผนวก


สำรบัญรูปภำพ บรรณำนุกรม


บทน ำ บริบทชุมชนบ้ำนกล้วยหลวงพัฒนำ ข้อมูลลำยผ้ำทอไทลื้อบ้ำนกล้วยหลวงพัฒนำ ประวัตควำมเป็นมำของลำยผ้ำทอไทลื้อ ชาติพันธุ์ไทลื้อ คือ กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งที่อพยพมาจากแคว้นสิบสองปันนามาตั้ง รากฐานอยู่ที่ทางตอนเหนือของประเทศไทย จังหวัดล าปางในสมัยก่อนนั้น ชาวไทลื้อส่วนใหญ่ รวมตัวกันอยู่ที่หมู่บ้านกล้วยหลวง จากนั้น ประชากรได้เพิ่มมากขึ้นจึงได้แตกแยกออกเป็น 7 หมู่บ้าน คือ 1. บ้านกล้วยหลวง 2. บ้านกล้วยม่วง 3. บ้านกล้วยแพะ 4. บ้านกล้วยกลาง 5. บ้านหัวฝาย 6. บ้านกล้วยหลวงพัฒนา และ 7. บ้านประสบสุข ฉะนั้น ลายผ้าทอไทลื้อจึงมีมา นาน มีการสืบทอดลายผ้าทอกันมารุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่สมัยการรวมกลุ่มของชาติพันธุ์ไทลื้อ ในพื้นที่ มีการสืบทอดลายผ้ากันมาจากรุ่นสู่รุ่นและลายผ้ามีการพัฒนารูปแบบลายตามยุคตามสมัย เมื่อประชากรเพิ่มมากขึ้นจึงเกิดการแยกหมู่บ้านออก เป็นหมู่บ้านกล้วยหลวงพัฒนา หมู่ที่ 1 ต าบลกล้วยแพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง เป็นอีกชุมชนหนึ่งที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้ออาศัยอยู่ และทางชุมชนบ้านกล้วยหลวงพัฒนายังมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทลื้อและการเกษตร ชุมชนกล้วยหลวงพัฒนา ที่มีการทอไทลื้อแบบดั้งเดิมของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้ออยู่และมีผ้าทอไท ลื้อหลากหลายรูปแบบที่มีการประยุกต์ผสมผสานลายผ้าทอของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อด้วย กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทลื้อ เริ่มก่อตั้งกลุ่มเมื่อปี พ.ศ. 2557 กลุ่มได้มีการจดทะเบียนว่าเป็น กลุ่มวิสาหกิจ เมื่อปี พ.ศ. 2558 และเริ่มมีการทอผ้าทอร่วมสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2560 และ ปัจจุบันทางกลุ่มวิสาหกิจผ้าทอไทลื้อยังมีการทอผ้าทอมือ เป็นการทอผ้าลายดั้งเดิมที่ยังคง อนุรักษ์เอกลักษณ์ของลายผ้าของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อไว้ให้อยู่ควบคู่กับชุมชนบ้านกล้วยหลวง พัฒนา ต าบลกล้วยแพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง และต าบลกล้วยแพะ มี 7 หมู่บ้าน บ้าน กล้วยหลวงพัฒนาเป็นหมู่บ้านเดียวที่มีกลุ่มผ้าทอไทลื้อที่ยังคงสืบสานและอนุรักษ์ลายผ้าทอ ของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อไว้อีกด้วย ขั้นตอนกำรทอผ้ำไทลื้อ ขั้นตอนการทอผ้าไทลื้อของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทลื้อและการเกษตรชุมชน กล้วยหลวงพัฒนา ต าบลกล้วยแพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทลื้อและการเกษตรชุมชนกล้วยหลวงพัฒนา ต าบลกล้วย แพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง มีกระบวนการขั้นตอนการทอผ้าที่เป็นแบบของกลุ่ม ดังนี้ 1. การเก็บดอกฝ้าย 2. การน าดอกฝ้ายมายีฟองให้มีลักษณะที่เป็นก า


3. การน าฝ้ายมาปั่นให้เป็นม้วน หรือภาษาไทลื้อเรียกว่า (ฮ า) 4. การน าฝ้ายที่ปั่นมาย้อมสีธรรมชาติ 5. การน าฝ้ายที่ปั่นเสร็จและย้อมสีธรรมชาติแล้วมา กวัก หรือ การทอให้เป็นเส้นด้าย 6. พอได้ เส้นด้าย จากการทอเส้นด้ายหรือ การกวัก เสร็จแล้วจะน ามาม้วนเก็บให้เป็นชิ้น 7. พอได้เส้นด้ายจากการกวักหรือการทอเส้นด้ายแล้วจึงน ามาทอผ้าได้ โดยมีขั้นตอนการทอ ผ้าดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 น าฝ้ายเป็นใจมาคลี่ออกใส่กงกว๊าง เพื่อน าไปพันใส่บ่าหลุกกวักฝ้าย แล้วน ามาขินหรือปั่นใส่กระป๋องหรือหลอดไม้ขนาดใหญ่ การปั่นฝ้ายใส่กระป๋อง ถ้าต้องการ เส้นฝ้ายที่มีเส้นใหญ่ อาจจะปั่นครั้งละ 2-3 ใจ ให้เส้นฝ้ายมารวมกัน ขั้นตอนที่ 2 น ากระป๋องที่มีเส้นฝ้ายพันอยู่ไปเรียงตามล าดับ สี ของเส้นฝ้ายเส้นยืน ตามลวดลายที่จะทอ โดยน ามาเรียงครั้งละประมาณ 40 กระป๋อง จะได้เส้นฝ้ายยืนครั้งละ 40 เส้น แล้วน าแต่ละเส้นไปคล้องกับบันไดลิง เพื่อไม้ให้เส้นฝ้ายพันกันและขึ้นเฟือขอต่อไป ขั้นตอนที่ 3 น าฝ้ายเส้นพุ่งจากบันไดลิงมาขึ้นเฟือขอ ซึ่งเฟือขอจะท าหน้าที่ส าหรับ เรียงฝ้ายเส้นยืนตามความยาวที่ต้องการ และท าการสลับเส้นยืนส าหรับใช้กับตะกอเส้นขึ้น เส้นลงด้านล่างของเฟือขอเมื่อสิ้นสุด การเรียงเส้นฝ้ายจะน าแต่ละเส้นมาม้วนเพื่อให้เกิด ลักษณะของการสลับเส้น ส าหรับการทอยกเป็นเส้นขึ้นเส้นลงที่ด้านล่างขาวของเฟือขอ ขั้นตอนที่ 4 น ากลุ่มฝ้ายเส้นยืนจากเฟือขอมาขึ้นกี่ แล้วคลี่ฝ้ายเส้นยืนตามที่ได้ ก าหนดไว้ โดยใช้เขี้ยวหมาหรือฟันปลาเป็นตัวช่วยในการสางเส้นฝ้ายแต่ละกลุ่มเส้นออกจาก กัน เส้นด้ายในการทอลายหนึ่ง เพื่อแยกเส้นด้ายในการน าไปสืบฝ้ายกับเขาฟืม ขั้นตอนที่ 5 หากทอลายเดิมที่เคยทอมา ก็จะน าฝ้ายเส้นยืนใหม่มาต่อกับเศษผ้าฝ้าย หรือเชิงชายที่ตัดมาจากการทอครั้งก่อนที่เรียกว่า "เครือ" เมื่อทอผ้าเสร็จแล้ว ช่างทอจะตัดผ้า ที่ทอแล้วออกจากกี่ โดยคงเหลือเศษผ้าฝ้ายหรือเชิงชายจากการทอให้ติดอยู่กับตะกอและฟืม เพื่อเป็นต้นแบบของลาย หากจะมีการทอลายนั้นในครั้งต่อไป เพื่อให้การสืบต่อลายท าได้ง่าย ขึ้น เพราะถ้าไม่เก็บไว้ การเริ่มต้นขึ้นลายใหม่จะมีความยากล าบากมาก ดังนั้นช่างทอจึงต้อง เก็บลายไว้ทุกเครือ เนื่องจากเส้นยืนมีความยาวมาก ก่อนทอหรือเมื่อทอไปได้สักระยะหนึ่ง เส้นยืนอาจจะพันกันได้ ดังนั้นจึงต้องคอยคลี่จัดเส้นยืนออกไม่ให้พันกัน ขั้นตอนที่ 6 หลังจากการสืบลายแล้ว สามารถเริ่มกระบวนการทอได้ โดยการ เหยียบไม้เหยียบเพื่อยกเขาฟืมขึ้นลง แล้วพุ่งกระสวยสอดเข้าไปในช่องว่างระหว่างเส้นยืน ให้ เส้นพุ่งพุ่งไปขัดกับเส้นยืน และใช้ฟืมดันให้เส้นพุ่งอัดเรียงกันแน่น แล้วใช้เท้าเหยียบไม้เหยียบ ให้ตะกอเส้นยืนสลับขึ้นลง และพุ่งกระสวยกลับไปกลับมาขัดกับเส้นยืน หลังจากที่พุ่งเส้นพุ่ง ไป มา และใช้ฟืมดันให้เส้นพุ่งแน่นหลายๆ ครั้ง ก็จะได้ผ้าทอเป็นผืน แล้วน าไปแปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อไป


ประเภทของลำยผ้ำและชื่อเรียกลำยผ้ำของลำยผ้ำทอไทลื้อแต่ละชนิด ผ้ำซิ่น


ถุงย่ำม


ผ้ำทอที่ใช้ทำงพระพุทธศำสนำ กำรเลือกใช้สีบนลำยผ้ำทอไทลื้อ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทลื้อและการเกษตรชุมชนกล้วยหลวงพัฒนา ต าบลกล้วย แพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง มีการเลือกใช้สีบนลายผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มคือ สีด า สี ม่วง สีฟ้า 3 สีนี้เป็นที่ทางกลุ่มวิสาหกิจผ้าทอไทลื้อ น ามาใช้ย้อมบนลายผ้าทอไทลื้อมากที่สุด เพราะเป็นสีที่หาได้จากธรรมชาติ หาได้ง่ายตามครัวเรือนและชุมชน กล่าวคือ สีที่ได้จากหมาก แห้ง คลั่ง และไม้ฝาง 3 สิ่งนี้ เป็นสิ่งที่หาได้ง่ายในชุมชน ลายผ้าทอไทลื้อของกลุ่มจึงมักมี 3 สี นี้อยู่บนผ้าทอ ฉะนั้นจะมองเห็นได้ว่า สีที่เลือกใช้บนลายผ้า สาเหตุที่เลือกใช้สีนี้ เพราะว่าเป็น สีธรรมชาติที่สามารถหาได้ในชุมชนและราคาต้นทุนไม่แพง ทางกลุ่มจึงนิยมใช้สีเหล่านั้นใน การน ามาเป็นลายในการทอผ้า เป็นต้น เอกลักษณ์และจุดเด่นของลำยผ้ำทอไทลื้อบ้ำนกล้วยหลวงพัฒนำ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทลื้อและการเกษตรชุมชนกล้วยหลวงพัฒนา ต าบลกล้วย แพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง มีความเป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นของลายผ้าทอที่ไม่ เหมือนกับกลุ่มผ้าทออื่น กล่าวคือ เป็นกลุ่มเดียวในอ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง ที่ยังคง เอกลักษณ์การทอผ้าทอไทลื้อไว้ควบคู่กับคนในพื้นที่ชุมชนได้ มีการทอผ้าลายทอไวลื้อ ที่มี จุดเด่นและยังคงความเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อไว้ และสีบนลายผ้าทอที่ทางกลุ่มเลือกมาทอ ทุกสีของทางกลุ่มเป็นสีที่ได้จากธรรมชาติทั้งสิ้นโดยไม่ใช้สารเคมี เป็นสีที่ได้จากวัตถุดิบที่ สามารถหาได้ในชุมชนเช่น สีที่ได้จากหมากแห้ง คลั่ง เป็นต้น ผ่านขั้นตอนกระบวนการย้อมสี ต่างๆที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติที่หาได้จากชุมชน การย้อมสีจากธรรมชาติจึงเป็นจุดเด่นของ ลายผ้าทอไทลื้อบ้านกล้วยหลวงพัฒนา ที่ปราศจากการย้อมสีจากสารเคมี ทางกลุ่มจะน าผ้าที่ ย้อมสีเคมีมาใช้ทอเป็นลายผ้าทอก็ต่อเมื่อมีลูกค้าสั่งลายที่ต้องการสีที่หลากหลาย ทางกลุ่ม จ าเป็นต้องใช้ต้องใช้ผ้าที่ย้อมสีเคมีน ามาทอ เป็นต้น


ปรำชญ์ด้ำนกำรทอผ้ำไทลื้อบ้ำนกล้วยหลวงพัฒนำ 3.1 แผนผังเครือญาติ ภูมิปัญญาด้านการตัดเย็บ ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านการตัดเย็บ 1. ชื่อ แม่สองเมือง ค าเขื่อน 2. วัน เดือน ปีเกิด 12 มิถุนายน 2500 เพศ หญิง อายุ66 ปี 3. ที่อยู่ปัจจุบัน 341 หมู่ 1 ต าบลกล้วยแพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง 4. เบอร์โทรศัพท์0945743460 5. วัน เดือน ปีที่สัมภาษณ์วันที่ 28 กันยายน 2566 6. ความถนัดเฉพาะด้าน การตัดเย็บ จุดเริ่มต้นของการตัดเย็บผ้าทอไทลื้อเกิดขึ้นได้อย่างไร ได้รับการฝึกสอนและสืบทอดการตัดเย็บผ้าทอไทลื้อจากใคร ขั้นตอนและวิธีการตัดเย็บผ้าทอไทลื้อเป็นอย่างไร ระยะเวลาในการตัดเย็บผ้าทอไทลื้อใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดเย็บผ้าทอไทลื้อมีอะไรบ้าง


1. ชื่อ แม่หยัด แจ้ค า 2. วัน เดือน ปีเกิด 6 กันยายน 2488 เพศ หญิง อายุ 79 ปี 3. ที่อยู่ปัจจุบัน 7/2 หมู่ 1 ต าบลกล้วยแพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง 4. เบอร์โทรศัพท์ - 5. วัน เดือน ปีที่สัมภาษณ์ วันที่ 28 กันยายน 2566 6. ความถนัดเฉพาะด้าน การเย็บผ้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จุดเริ่มต้นของกำรตัดเย็บผ้ำทอไทลื้อเกิดขึ้นได้อย่ำงไร ………… ได้รับกำรฝึกสอนและสืบทอดกำรตัดเย็บผ้ำทอไทลื้อจำกใคร ……….. ขั้นตอนและวิธีกำรตัดเย็บผ้ำทอไทลื้อเป็นอย่ำงไร ……….. ระยะเวลำในกำรตัดเย็บผ้ำทอไทลื้อใช้ระยะเวลำเท่ำไหร่ ……….. วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในกำรตัดเย็บผ้ำทอไทลื้อมีอะไรบ้ำง …………


ภูมิปัญญาด้านการทอผ้า ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านการทอผ้า 1. ชื่อ แม่ศรีจันทร์ ใจนา 2. วัน เดือน ปีเกิด 24 เมษายน 2491 เพศ หญิง อายุ 75 ปี 3. ที่อยู่ปัจจุบัน 18/1 หมู่ 1 ต าบลกล้วยแพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง 4. เบอร์โทรศัพท์ - 5. วัน เดือน ปีที่สัมภาษณ์ วันที่ 26 กันยายน 2566 6. ความถนัดเฉพาะด้านการทอผ้าในปัจจุบัน จุดเริ่มต้นของกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยเกิดขึ้นได้อย่ำงไร จุดเริ่มต้นของการทอผ้าร่วมสมัยมีมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2564 โดยใช้เทคนิคและวิธีการ ในการทอผ้าแบบดั้งเดิมมาผสมผสานกับลายประยุกต์ที่เป็นลายผ้าในรูปแบบของจังหวัด ล าปาง มีกระบวนการทอผ้าที่มีความทันสมัยและยังคงยึดการทอผ้าแบบดั้งเดิมไว้เพื่อคง เอกลักษณ์การทอผ้าที่เป็นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ได้รับกำรฝึกสอนและสืบทอดกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยจำกใคร ……….. ขั้นตอนและวิธีกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยเป็นอย่ำงไร ………….. ระยะเวลำที่ใช้ในกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัย ……….. กำรทอผ้ำทอแบบร่วมมีลำยผ้ำแบบใดและมีลักษณะอย่ำงไรบ้ำง …………


1. ชื่อ แม่บุญเสาร์อุ่นผูก 2. วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ ปี 3. ที่อยู่ปัจจุบัน 4. เบอร์โทรศัพท์ 5. วัน เดือน ปีที่สัมภาษณ์ 6. ความถนัดเฉพาะด้าน การทอผ้าแบบดั้งเดิม จุดเริ่มต้นของกำรทอผ้ำแบบดั้งเดิมเกิดขึ้นได้อย่ำงไร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทลื้อและการเกษตรชุมชนกล้วยหลวงพัฒนา มีการ เริ่มต้นทอผ้าตั้งแต่ปี พ.ศ 2557 โดยมีวิธีการทอผ้าในรูปแบบดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง กลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อและยังเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของกลุ่มที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยอดีต ผ้าทอ ของไทลื้อได้รับยกย่องว่ามีความโดดเด่น ด้วยเทคนิควิธีการทอผ้าที่หลากหลาย ต้องอาศัย ความช านาญที่สืบทอดกันมา ผ้าไทลื้อและการแต่งกายตามประเพณีไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ กิจวัตรประจ าวัน แต่เสื้อผ้า ผ้านุ่ง และผลิตภัณฑ์ของไทลื้อ เป็นส่วนหนึ่งของการน าเสนออัต ลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกลุ่ม ได้รับกำรฝึกสอนและสืบทอดกำรทอผ้ำแบบดั้งเดิมจำกใคร ………….. ขั้นตอนและวิธีกำรทอผ้ำแบบดั้งเดิมเป็นอย่ำงไร …………..


ระยะเวลำที่ใช้ในกำรทอผ้ำแบบดั้งเดิม ระยะเวลาในการทอผ้าต้องขึ้นอยู่กับเทคนิคและความสามารถในด้านการทอผ้าและ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลายผ้าที่มาจากลูกค้า ว่าต้องการสีแบบไหนและลักษณะลายเป็น อย่างไร กำรทอผ้ำทอแบบดั้งเดิมมีลำยผ้ำแบบใดและมีลักษณะอย่ำงไรบ้ำง ลายผ้าแบบดั้งเดิมมีลักษณะที่เป็นลายที่มีเอกลักษณ์ของทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้า ทอไทลื้อและการเกษตรชุมชนกล้วยหลวงพัฒนา และมีลายผ้าทอไทลื้อแบบดั้งเดิม ดังนี้ 1. ซิ่นลายตาขวาง 2. ซิ่นลายตายืน 3. ซิ่นลายตาตอก 4. ซิ่นลายตีนจก 5. ซิ่นลายตาหมู่ 6. ซิ่นลายตาห้อย 7. ซิ่นลายขอ 8. ซิ่นตาซิ่ว 9. เสื้อด าย้อมหม้อฮ่อม 1. ชื่อ : แม่เม้าส์ปะละน่าน 2. วัน เดือน ปีเกิด 06 ตุลาคม 2549 เพศ หญิง อายุ 70 ปี 3. ที่อยู่ปัจจุบัน : 335 หมู่ 1 ต าบลกล้วยแพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง 4. เบอร์โทรศัพท์: 0822045586


5. วัน เดือน ปีที่สัมภาษณ์ : วันที่ 26 กันยายน 2566 6. ความถนัดเฉพาะด้าน การทอผ้าร่วมสมัย จุดเริ่มต้นของกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยเกิดขึ้นได้อย่ำงไร เริ่มต้นการทอผ้าในปี พ.ศ 2558 และเริ่มต้นการทอผ้าร่วมสมัยมาจากพระอาจารย์ โชคทวี ชยพโล ได้รับกำรฝึกสอนและสืบทอดกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยจำกใคร ได้รับการฝึกสอนมาจากคนในครอบครัว และสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ขั้นตอนและวิธีกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยเป็นอย่ำงไร ขั้นตอนแรกเริ่มต้นสืบฮุ๊ก จากนั้นจะน าเส้นด้ายมา จาม ดูถ้าดีจะสามารถทอได้แต่ ถ้าไม่ดีจะต้องแก้ไขจากนั้นก็เริ่มต้นการทอผ้าได้ โดยที่ทอสลับสีกันไปเรื่อยๆ ระยะเวลำที่ใช้ในกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัย ผ้าถุง 2 ผืน จะใช้ระยะเวลา 1 วัน ตีนซิ่นหรือเอวซิ่น 2 เมตร จะใช้ระยะเวลา 1วัน กำรทอผ้ำทอแบบร่วมสมัยมีลำยผ้ำแบบใดและมีลักษณะอย่ำงไรบ้ำง ลายสายฝน ลายประยุกต์ ลายตายืน ลายตาขวาง ลายเวียงละคอน หรือ เวียงละคอนไส้หมู 1. ชื่อ : พระอาจารย์โชคทวี ชยพโล 2. วัน/เดือน/ปีเกิด : 3 มิถุนายน 2530 อายุ36 ปี เพศ ชาย 3. ที่อยู่ปัจจุบัน : 4. เบอร์โทรศัพท์: 0830791364 5. วัน/เดือน/ปีที่สัมภาษณ์: วันที่ 30 กันยายน 2566 6. ความถนัดเฉพาะด้าน การทอผ้าและการแกะลายผ้าทอร่วมสมัย จุดเริ่มต้นของกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยเกิดขึ้นได้อย่ำงไร จุดเริ่มต้นของการทอผ้าแบบร่วมสมัยเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2564 โดยมีการน าผ้ามทอ ของทางกลุ่มมาผสมผสานกับลายสมัยใหม่ในยุคปัจจุบันแต่ยังคงเอกลักษณ์ลายผ้าทอไทลื้อ ของทางกลุ่มไว้ เกิดการผสมผสานระหว่างรูปแบบลายผ้าสมัยใหม่ร่วมกับลายผ้าทอไทลื้อ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆให้เข้ามาซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มและเริ่มมีความสนใจใน เรื่องของการแกะลายผ้าทอร่วมสมัย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 โดยศึกษาหาความรู้ เรื่องการแกะ ลายผ้าทอร่วมสมัยเองและการเข้ารับการฝึกอบรมต่างๆเกี่ยวกับการแกะลายของผ้าทอ เป็น ต้น


ได้รับกำรฝึกสอนและสืบทอดกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยจำกใคร … ขั้นตอนและวิธีกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยเป็นอย่ำงไร …. ระยะเวลำที่ใช้ในกำรทอผ้ำแบบร่วมสมัย ระยะเวลาในการทอผ้าต้องขึ้นอยู่กับเทคนิคและความสามารถในด้านการทอผ้าและ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลายผ้าและการเลือกใช้อุปกรณ์ รวมไปถึงการเล่นสีของลายผ้า กำรทอผ้ำแบบร่วมสมัยมีลำยผ้ำแบบใดและมีลักษณะอย่ำงไรบ้ำง ลายผ้าแบบร่วมสมัยของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทลื้อและการเกษตรชุมชนกล้วย หลวงพัฒนา มีลักษณะที่เป็นลายผสมผสานกับลายผ้าทอไทลื้อของจังหวัดล าปาง และมี ลายผ้าทอไทลื้อแบบร่วมสมัย ดังนี้ 1. ผ้าลายดอกรักราชกัญญา (ประเภทผ้ามัดหมี่) 2. ผ้าลายละกอนไส้หมู 3. ผ้าลายดอกพุทธ 4. ผ้าลายดอกพิกุล 5. ผ้าลายงาขี้ม้อน 6. ผ้าลายเกร็ดเต่า 7. ซิ่นมัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ 8. ซิ่นลายเชิงผ้ารูปหัวใจ 9. ซิ่นลายตีนแดงน้ าหมาก (ซิ่นไทลื้อล าปาง) 10. ซิ่นไทลื้อล าปางคณะสี 11. ซิ่นลายล าปาง 12. ซิ่นลายประยุกต์ 13. ซิ่นลายผสมผสาน (ตาห้อยและตาซิ่ว) 14. ผ้าไตรจีวร 15. ผ้าอาบน้ าฝน 16. ตุง จุดเริ่มต้นของกำรแกะลำยผ้ำแบบร่วมสมัยเกิดขึ้นได้อย่ำงไร เริ่มต้นการแกะลายผ้าทอร่วมสมัย ตั้งแต่ปี พ.ศ 2564 โดยเริ่มจากการสังเกตการ ทอผ้าแบบร่วมสมัยของผู้สูงอายุในชุมชน จึงน ามาแกะเป็นลายผ้าแบบร่วมสมัย ด้วยการใช้ ฝีมือและรูปแบบหรือเทคนิคการแกะลายมาใช้ เป็นการสังเกตการณ์ทอผ้าแบบร่วมสมัยด้วย ตนเองจึงน ามาแกะลายผ้าของทางกลุ่มที่มีความผสมผสานลายผ้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้า


ทอไทลื้อและการเกษตรชุมชนกล้วยหลวงพัฒนากับลายผ้าทอไทลื้อของจังหวัดล าปางให้มี ความโดดเด่นและทันสมัยมากขึ้น กำรแกะลำยผ้ำทอร่วมสมัยมีลักษณะเป็นอย่ำงไร ระยะเวลาในการแกะลายผ้าต้องขึ้นอยู่กับเทคนิคและความสามารถของกลุ่มและ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลายผ้าและการเลือกใช้อุปกรณ์ รวมไปถึงการเล่นสีของลายผ้าทอ ไทลื้อที่มีความทันสมัยในปัจจุบัน ระยะเวลำที่ใช้ในกำรแกะลำยผ้ำทอร่วมสมัย …. ควำมแตกต่ำงระหว่ำงลำยผ้ำทอดั้งเดิมกับผ้ำทอร่วมสมัย …. ภูมิปัญญาด้านการย้อมสีเส้นใยธรรมชาติ ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านการย้อมสีเส้นใยธรรมชาติ 1. ชื่อ : แม่กลม แสนเงิน 2. วัน เดือน ปีเกิด 11 สิงหาคม 2488 เพศ หญิง อายุ78 ปี 3. ที่อยู่ปัจจุบัน : 143/1 หมู่ 1 ต าบลกล้วยแพะ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง 4. เบอร์โทรศัพท์: - 5. วัน เดือน ปีที่สัมภาษณ์: วันที่ 30 กันยายน 2566 6. ความถนัดเฉพาะด้านการย้อมสีเส้นใยธรรมชาติ


กำรย้อมสีจำกเส้นใยธรรมชำติมีทั้งหมดกี่สี และแต่ละสีจะน ำไปใช้ในกำรลงลำย แบบใด กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทลื้อและการเกษตรชุมชนกล้วยหลวงพัฒนา มีการย้อมสี จากเส้นใยธรรมชาติมีทั้งหมด 3 สี ทั้ง 3 สีจะได้มากจาก การย้อมสีจากคลั่ง การย้อมสีจาก หมากแห้ง และการย้อมสีจากไม้ฝาง แต่ละสีจะน าไปใช้ในการลงลายผ้าแบบดั้งเดิมคือ สีม่วง สีด าและสีน้ าเงินเป็นลายผ้าไทลื้อที่เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่ม ขั้นตอนและวิธีกำรย้อมสีจำกเส้นใยธรรมชำติเป็นอย่ำงไร การย้อมสีจากคลั่ง 1. น าคลั่งไปต าและน าไปเขี้ยว ต้มใส่น้ าใบหอมเกียว ยางดอกรักและยางต้นกล้วย 2. กรองเอาน้ า เพื่อน าฝ้ายหรือไหมที่ท าความสะอาดเส้นใยแล้ว ลงไปต้ม (แต่เส้น ไหมจะติดดีกว่าเส้นฝ้าย) 3. ใส่เกลือและน าฝ้ายหรือไหมที่ได้มาล้างน้ าด่างขี้เถ้า แล้วน าเอาไปตากให้แห้ง 4. จะได้เส้นฝ้ายหรือเส้นไหมจากสีคลั่ง คือ สีแดง การย้อมสีจากหมากแห้ง 1. น าหมากแห้งไปแช่น้ า ประมาณ 2-3 คืน จะน าเกลือใส่ลงไปในน้ า และเอาเหล็ก ไปเผาแล้วจึงน ามาต้มใส่ยางกล้วย จะได้สีเทาและหากต้องการให้เส้นฝ้ายหรือเส้นไหมเป็นสี ด า ต้องน ามาผสมน้ าด่างขี้เถ้า 30-45 นาที แล้วน าไปตาก 2. น าเส้นฝ้ายหรือเส้นไหมไปต้มให้เกิดสี โดยการใส่มอแด๊น หรือการสกัดสีแบบเย็น เป็นการจับสี เพื่อท าปฏิกิริยาให้เกิดสี 3. จะได้เส้นฝ้ายหรือเส้นไหมจากสีหมากแห้ง คือ สีเหลืองอ่อน การย้อมสีจากไม้ฝาง 1. การย้อมสีเส้นใยด้วยฝาง ส่วนที่ใช้คือ แก่นต้น โดยใช้วิธีการต้มเพื่อสกัดสี 2. ย้อมเส้นใยได้ 1 กิโลกรัม ย้อมด้วยกรรมวิธีย้อมร้อน โดยใช้น้ าใบเหมือดแอ 1 ส่วน ผสมกับสีจากฝาง 2 ส่วน ย้อมนาน 1 ชั่วโมง 3. หลังย้อมน าเส้นใยมาแช่ในสารละลายช่วยติดสีคือ สารส้ม จะได้เส้นใยสีส้มแดง 4. การย้อมเส้นใยจากน้ าสีของฝางเพียงอย่างเดียวโดยไม่ใช้น้ าใบเหมือดแอจะได้ เส้นใยสีส้มอ่อน ย้อมเส้นใยด้วยกรรมวิธีย้อมร้อน หลังย้อมแช่สารละลายสารช่วยติดสีจุนสี จะได้เส้นใยสีน้ าตาล 5. จะได้เส้นฝ้ายหรือเส้นไหมจากสีไม้ฝาง คือ สีส้มแดงและสีน้ าตาล ระยะเวลำที่ใช้ในกำรย้อมสีจำกเส้นใยธรรมชำติ


ขึ้นอยู่กับการติดสีของเส้นฝ้ายและเส้นไหม โดยแต่ละสีที่ใช้ในการน ามาย้อมจะใช้ ระยะเวลาไม่เท่ากัน ประมาณ 1 วันและรอการตากแห้ง ประมาณ 1 วัน วัตถุดิบธรรมชำติที่ใช้ในกำรย้อมสีเส้นใยธรรมชำติ 1. คลั่ง 2. หมากแห้ง 3. ไม้ฝาง 4. ยางต้นกล้วย 5. ยางบอน 6. ยางดอกรัก วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในกำรย้อมสีจำกเส้นใยธรรมชำติมีอะไรบ้ำง 1. หม้อสแตนเลส ขนาด ๓๐ – ๓๖ ซม. หรือหม้อเคลือบ หรือกระทะใบบัวที่ใช้ ย้อมตามปกติ 2. ไม้พาย ส าหรับกวน และพลิกด้ายขณะย้อม ควรเป็นพายที่ท าด้วยไม้มีขนาดใหญ่ พอที่จะรับน้ าหนักด้ายเปียกในหม้อย้อม 3. เตาแก๊สแบบร้อนเร็ว (สามารถควบคุมอุณหภูมิของเปลวไฟได้ดีกว่าใช้ฟืน) หรือ เตาที่ใช้ย้อมตามปกติ 4. กะละมัง ส าหรับล้างด้ายฝ้ายก่อนย้อมและที่ย้อมแล้ว (หรือใช้ภาชนะอื่นแทนได้) 5. ถังน้ าพลาสติก บทที่ 5 บทสรุป


ภำคผนวก


บรรณำนุกรม


Click to View FlipBook Version