The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดภูเก็ต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sirapatson Tantasit, 2022-07-25 03:53:10

ลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดภูเก็ต

ลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดภูเก็ต

ปะการังและท้องทะเล
" The Coral reef and Sea of Phuket"





คำนำ

เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ที่ทรงพระวิริยะอุตสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในการส่งเสริมเรื่อง “ผ้าไทย”
และสิ่งทอ ผ้าท้องถิ่นที่เกือบสูญหายไปให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง พร้อมยกระดับผ้าไทย
ให้มีความโดดเด่นและมีชื่อเสียงในเวทีโลก เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และนำไปสู่
การพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น

จังหวัดภูเก็ตโดยคณะกรรมการคัดเลือกลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด
ได้พิจารณาคัดเลือกลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด ลาย “ปะการังและท้องทะเล”
เป็นลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดภูเก็ต โดยใช้ลวดลายจากท้องทะเลของภูเก็ต
สืบเนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก

จังหวัดภูเก็ตได้น้อมนำแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการสร้างความรู้ สร้างอาชีพ
ในการออกแบบลวดลายผ้า ผลิตผ้า ให้กับประชาชน กลุ่มชุมชนในพื้นที่เพื่อพัฒนา
และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในจังหวัดภูเก็ต ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
อย่างมั่นคง และ ยั่งยืนตามลำดับต่อไป

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต



ข หน้า

สารบัญ ข

คำนำ ๑
สารบัญ ๙
ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดภูเก็ต ๑๑
ประวัติความเป็นมาผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดภูเก็ต ๑๒
ลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดภูเก็ต ๑๙
พระปฐมบรมราชโองการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๒
สืบสานพระราชปณิธาน
น้อมนำแนวพระราชดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก"
ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกจังหวัดภูเก็ต





ข้อมูลทั่วไปและโครงสร้างจังหวัดภูเก็ต

๔๑๙,๒๑๗ คน เขตการปกครอง

(ข้อมูล : ที่ทำการปกครองจังหวัดภูเก็ต ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔) ๓ อำเภอ ๑๗ ตำบล
๙๖ หมู่บ้าน ๑๙ อปท.
๒๓๔,๐๒๘ ล้านบาท (ปี ๒๕๖๒) - ๑ อบจ. - ๒ ทม
- ๑ ทน - 9 ทต
รายได้เฉลี่ย (GPP PER CAPITA) - 6 อบต.
๔๐๓,๔๒๓ บาท/คน/ปี(เดือนละ ๓๓,๖๒๘ บ.)
(ข้อมูล ที่ปกครองจังหวัดภูเก็ต)
(ปี ๒๕๖๒)

พื้นที่ ๕๔๓.๐๓๔ ตร.กม.

(อันดับ ๑ ของภาคใต้ อันดับ ๗ ของประเทศ)

หนี้สินต่อครัวเรือน เมืองพี่เมืองน้อง ๑๓ เมือง ๗ ประเทศ
มีกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ ๒๕ ประเทศ
๒๓๙,๕๕๒ บาท

(ข้อมูล : สนง.สถิติจังหวัดภูเก็ต)

เป้าหมายการพัฒนาของจังหวัดภูเก็ต

“ศูนย์กลางการท่องเที่ยว การศึกษา นวัตกรรมบริการ
ในระดับมาตรฐานนานาชาติ และการพัฒนาที่ยั่งยืน”

Vision : A hub of international standard for sustainable development
of tourism, education, and​innovations in​service providing



ประวัติความเป็นมา
ผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดภูเก็ต

จังหวัดภูเก็ตได้มีการผลิตผ้าบาติก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากอินโดนีเซีย
และมาเลเซีย ตั้งแต่ปี ๒๕๑๔ โดยวิทยาลัยครูภูเก็ต (มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต)
ได้นำมาสอน แพร่หลายมาถึงปัจจุบัน โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์เป็นลวดลาย
ที่สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามของธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวของภูเก็ต
โดยเฉพาะท้องทะเลที่เป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก นักท่องเที่ยวที่เดินทาง
เข้ามาได้ชื่นชมความงดงามของท้องทะเล จึงได้ออกแบบลวดลายท้องทะเล
บนผ้าบาติก และเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

ในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมายุ ๙๐ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ที่ทรงพระวิริยะอุตสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการส่งเสริมเรื่อง “ผ้าไทย”
และสิ่งทอท้องถิ่นที่เกือบสูญหายไปให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง พร้อมยกระดับ
ผ้าไทยให้มีความโดดเด่นและมีชื่อเสียงในเวทีโลก เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้
และนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

จังหวัดภูเก็ตโดยคณะกรรมการคัดเลือกลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด
ได้พิจารณาคัดเลือกลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด และได้ประกาศ
ให้ลาย “ปะการังและท้องทะเล” เป็นลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดภูเก็ต
โดยใช้ลวดลายจากท้องทะเลของภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสวยงาม
ทางทะเลระดับโลก นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ตได้ชื่นชอบ
การดำน้ำเพื่อชมความงามของท้องทะเล ประกอบกับการผลิตผ้าบาติก
ลายปะการังและท้องทะเล ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน



ผ้าบาติก
จากอดีต...สู่...ปัจจุบัน

ของจังหวัดภูเก็ต

จังหวัดภูเก็ต เริ่มมีการผลิตผ้าบาติกช่วงกลางปี พ.ศ. ๒๕๑๘
โดย อาจารย์ชูชาติ ระวิจันทร์ (ที่ทุกคนเรียกขานกันว่า "ลุงชู")
ซึ่งเป็นอาจารย์วิทยาลัยครูภูเก็ต



ท่านได้ผลักดันให้เปิดหลักสูตรปริญญาตรีสำหรับนักศึกษาศิลปะ ซึ่งเป็นจุดประกาย
ของ "บาติกภูเก็ต" ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และผลงานที่ท่านภาคภูมิใจคือ จังหวัดภูเก็ต
ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเรื่องของบาติก และท่านได้ผลักดันให้มี
"ศูนย์ปฏิบัติการบาติก" ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางที่จะสืบทอดเจตนารมย์การทำผ้าบาติก
ของจังหวัดภูเก็ต

"อาคารปฏิบัติการบาติก" ซึ่งตั้งอยู่ในสถาบันราชภัฏภูเก็ต



การผลิตผ้าบาติกในยุกต์แรก ของจังหวัดภูเก็ต

การผลิต "ผ้าบาติก" มีต้นกำเนิด ณ จุดใดของโลก ไม่มีใครบอกได้ชัดเจน
แต่ได้เดินทางผ่านหมู่เกาะน้อยใหญ่ของชวา ข้ามน้ำ ข้ามทะเลเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต
และบาติกได้หว่านเสน่ห์แห่งสีสันที่สวยสด ลายเส้นเทียนที่พลิ้วไหวอ่อนหวาน จนทำให้
ใครต่อใครหลงใหลและประทับใจ แต่สำหรับ อ.ชูชาติได้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับ
งานศิลปแขนงนี้มาก่อนแล้ว โดยได้เริ่มต้นศึกษาเรียนรู้และทดลองทำ
ด้วยการนำเอาธรรมชาติรอบ ๆ ตัว ตั้งแต่ต้นไม้ ใบหญ้า ปะการัง และท้องทะเล
แล้วนำมาถ่ายทอดลงบนผืนผ้าขาว

การเริ่มต้นด้วยการลองผิดลองถูก เพื่อศึกษา
เทคนิคและข้อจำกัดของบาติก และรางวัล
ที่ลุงชูได้รับจากการทดลองทำ ซึ่งพบปัญหา
อุปสรรคในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้นว่า สีซีด สีตก
หรืออื่นๆ แต่ความทุ่มเทก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
เป็นทวีคูณ และความสำเร็จก็เป็นของลุงชู
ผลงานช่วงนี้ส่วนใหญ่จึงเข้าใจง่าย ไม่มีเทคนิค
ที่ซับซ้อน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวของธรรมชาติ
งานชิ้นเล็กๆ ที่เกิดจากการค้นคว้าจะถูก
นำมาวางไว้ตามมุมต่างๆ ของห้องเรียน
เพื่อให้นักศึกษาได้เกิดการเรียนรู้ และสนใจ
ที่จะทดลองทำ และการเริ่มต้นศึกษาบาติกอย่างเอาจริงเอาจังทั้งศิษย์และอาจารย์
ก็เริ่มต้นขึ้นที่นี่ และเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อลุงชูได้ผลักดันบาติก
ให้เป็นหลักสูตรการเรียนสำหรับนักศึกษาภาคศิลปะของวิทยาลัยครูภูเก็ต
โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากวิทยาลัย จากนั้นเราก็เริ่มเห็นดอกไม้
ใกล้ ๆ ตัว อย่างดอกบัว ดอกลั่นทมเบ่งบานประดับเรือนผมของนักศึกษาผู้หญิง
แทบทุกคน นี่นับเป็นผลงานในยุคแรกเริ่มของนักศึกษาที่ออกมาในรูปแบบ
ของสินค้าชิ้นเล็กชิ้นน้อย เช่น ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าผูกผม



จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ภายในระยะเวลาที่ไม่นานนัก
ผลงานภาพนกน้อยสีสวยจับคู่เกาะเกี่ยวอยู่บนเถาวัลย์ไม้เลื้อยสีเขียวเข้ม
แสดแดงของดอกปักษาสวรรค์ชูช่อล้อลมท้าแสงตะวัน ปีกบางของผีเสื้อโฉบเฉี่ยว
โบยบินอย่างอิสระเริงร่าอยู่ท่ามกลางมวลหมู่พันธุ์ไม้ ฝูงปลาหลากสีหลายพันธุ์
เวียนว่ายหลบเร้นอยู่ภายใต้โอบกอดของดงปะการังรูปทรงแปลกตา



ต่อมาลายผ้าบาติกก็กลายเป็นสิ่งเจนตาของนักท่องเที่ยว และผู้คน
ในภูเก็ต นั่นเป็นเพราะบาติกได้โบกสะบัดออกจากห้องเรียนไปเป็นสินค้า
หลากหลายรูปแบบอยู่ตามชายหาดหรือร้านขายสินค้าที่ระลึก และแทบจะทุกพื้นที่
ของภูเก็ต โดยผลงานเหล่านี้ได้ถูกนำออกไปโดยนักศึกษาที่ได้รับการสอน คำแนะนำ
จากลุงชู ไม่ได้จำกัดอยู่แค่นักศึกษาวิทยาลัยครูภูเก็ตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถาบันอื่น
ทั้งยังแพร่หลายออกไปยังกลุ่มต่าง ๆ ที่ให้ความสนใจและนำไปประกอบ
เป็นอาชีพทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ "ผ้าบาติก" จึงกลายเป็นสินค้าชนิดใหม่
และ "การเขียนผ้าบาติก" เป็นอาชีพใหม่ของผู้คนบนเกาะภูเก็ตตั้งแต่บัดนั้น
เป็นต้นมา



วันเวลายังคงเดินทางต่อไปเหมือนกับเส้นเทียนจากปลาย "จันติ้ง"

ของลุงชูที่ยังคงลื่นไหลอย่างอิสระไปบนผืนผ้าอมกับสีสันหลากเฉดหลายสีที่ยังคงระบาย
ถ่ายทอดจินตนาการไปอย่างไม่สิ้นสุด ลุงชูยังคงคิดค้นเทคนิคและรูปแบบ
ที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเราอดแปลกใจไม่ได้ว่าผ้าขาวผืนเดียวสามารถบันทึก
เรื่องราวและเทคนิคที่สลับซับซ้อนได้มากมายอย่างคาดไม่ถึง ขณะเดียวกัน
"บาติกภูเก็ต" ก็เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ นั่นเป็นเพราะ
มีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันแล้ว



ชาวใต้นุ่งผ้าปาเต๊ะมาเป็นเวลานาน ลวดลายบนผ้าปาเต๊ะมักเป็นเถาไม้
ดอกไม้ใบหญ้าจะมีภาพสัตว์จำนวนน้อยมาก บ้างก็มีเป็นภาพนก แมลงหรือผีเสื้อ
ผ้าที่ผลิตจากแหล่งใด ใครเป็นผู้ผลิต หรือซื้อขายที่ตรงไหนจะเป็นสร้อย
ชื่อผ้าปาเต๊ะเสมือนหนึ่งชื่อบริษัท

ปาเต๊ะ เป็นชื่อผ้าที่มีกรรมวิธีผลิตด้วยการใช้ขี้ผึ้งกับสีสลับหรือปิด
ให้มีลวดลายลงบนผืนผ้าตามที่ต้องการ ในอดีตจะใช้ผ้าปาเต๊ะเป็นผ้านุ่ง
การผลิตผ้าในกรรมวิธีเดียวกันแต่นำมาเป็นผ้าพันคอ ผ้าโพกศีรษะ ผ้าเช็ดหน้า
ผ้าปูหรือคลุมสิ่งของเครื่องใช้ เรียกกลายมาเป็นผ้าบาติก และพัฒนาออกแบบ
การใช้งานได้สารพัด



ลายผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัดภูเก็ต

จังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้ นายสิริชัย จันทร์ส่องแสง ปัจจุบันเป็นผู้ประกอบการ
“ร้านชัยบาติก” ซึ่งเป็นลูกศิษย์ อ.ชูชาติ ระวิจันทร์ เป็นผู้ผลิตผ้าบาติกลายปะการัง
และท้องทะเล สำหรับทูลเกล้าถวายสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
ซึ่ง นายสิริชัย ฯ เป็นผู้คิดค้นเทคนิคการเขียนลายผ้าบาติกประยุกต์สมัยใหม่

ภ า ย ห ลั ง จ า ก จ บ ก า ร ศึ ก ษ า ป ริ ญ ญ า ต รี ลาย “ปะการังและท้องทะเล
โดยได้นำความรู้มาพัฒนา และต่อยอดบริหารจัดการ The Coral reef and Sea
ทางการตลาด สร้างค่านิยมจากนักท่องเที่ยว
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน of Phuket”
โ ด ย มี ชุ ม ช น ที่ ไ ด้ รั บ ก า ร ส า ธิ ต ทำ ล ว ด ล า ย
ผ้าบาติกให้กับหลายจังหวัด โดยใช้ลวดลายท้องทะเล
ของภูเก็ต สืบเนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว
ทางทะเลระดับโลก นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา
จังหวัดภูเก็ต ได้ชื่นชอบการดำน้ำเพื่อชมความงาม
ของท้องทะเล จึงได้ศึกษาลวดลายบนผ้าบาติก

อย่างจริงจัง และได้ออกแบบลวดลายท้องทะเลบนผ้าบาติกให้กับส่วนราชการ เป็นครั้งแรก
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ และต่อมาในปีเดียวกัน นายสิริชัย จันทร์ส่องแสงได้รับ
รางวัลชนะเลิศการออกแบบลวดลายท้องทะเลบนผ้าบาติก ในงานศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
ทำให้ลวดลายผ้าบาติกท้องทะเลของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

๑๐

รายละเอียดการผลิตผ้า

เทคนิคการผลิต
ออกแบบการผลิตโดยการใช้เทียนวาดเทียนให้มีมิติ

มากขึ้น ลวดลาย การเขียนเทียนทับสี เปลี่ยนน้ำหนักค่าสี
บนเส้น สามารถซ้อนได้หลาย ๆ สี

วิธีการผลิต
เป็นงานทำด้วยมือ (Handmade) ดังนี้
๑.ใช้ผ้าป่านมัสลินขนาดหน้ากว้าง ๕๐ นิ้ว ขึงให้ตึงโดยใช้เทียน
ยึดกับเฟรมไม้ทุกด้าน
๒.ออกแบบลวดลาย โดยใช้เทียนเขียน ส่วนที่เป็นจุด
หรือเส้นก่อน แล้วระบายสีพื้นตามโทนสีที่กำหนดลวดลาย
เช่น แนวปะการัง เส้นสีที่ต้องการ ให้ระบายสีนั้นไปก่อน
เมื่อสีแห้งแล้วจึงเขียนลวดลายลงไป เมื่อเขียนลวดลาย
บนสีรอบแรกแล้ว หากต้องการสร้างระยะความชัดลึก
สามารถใช้สีระบายลงไปได้อีกครั้ง
๓.รอสีแห้ง แล้วจึงนำเทียนมาเขียนทับลงไปอีกครั้ง เขียนเทียนพร้อมระบายสีทับกันหลาย ๆ ครั้ง
เพื่อให้มีระยะของสีบนเส้นเทียนหลาย ๆ สี
๔.เมื่อเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว นำไปรีดเพื่อเอาเทียนออกให้หมดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือผ้าก็ได้
เพื่อไม่ให้มีคราบน้ำเทียนติดอยู่ที่ผืนผ้า
๕.รอจนสีแห้ง นำไปหมักด้วยน้ำยาโซเดียมซิลิเกต (เคลือบสี) ทิ้งไว้ ๑๕ ชั่วโมง แล้วจึงนำไปล้างออก
เพื่อป้องกันไม่ให้สีตก
๖.ต้มด้วยน้ำสบู่ในน้ำที่เดือดจัด เพื่อล้างคราบเทียนที่เขียนลวดลายบนผืนผ้าออก
๗.ซักด้วยน้ำเปล่า แล้วตากให้แห้ง เป็นการเสร็จขั้นตอนการผลิต

๑๑
สืบสาน รักษา ต่อยอด

พระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒
“เราจะสืบสาน รักษา ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม

เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

๑๒

สืบสานพระราชปณิธาน ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า ลู ก เ ธ อ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
ทรงมีพระดำรัสความว่า"ข้าพเจ้า
ได้มีโอกาสตามเสด็จสมเด็จย่า
สมเด็จพระพันปีหลวง มาตั้งแต่เด็ก
ได้เห็นท่านทรงงานและรับรู้ถึงความทุ่มเท
ของพระองค์ท่านในการอนุรักษ์
ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน และสืบสาน
ภู มิ ปั ญ ญ า ไ ท ย ม า โ ด ย ต ล อ ด
เห็นการสร้างงาน สร้างรายได้
ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี สามารถ
พึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง ข้าพเจ้า
มีความตั้งใจที่จะสืบสานพระราชปณิธาน
โดยข้าพเจ้าได้นำประสบการณ์การทำงาน
การศึกษา เดินทางไปชมผ้าไทย
และงานหัตถกรรมพื้นบ้านตามภาคต่าง ๆ
ทำให้เห็นผลงานที่สามารถนำมาพัฒนา
ใ ห้ ร่ ว ม ส มั ย แ ล ะ เ ป็ น ส า ก ล ไ ด้
จากการค้นคว้า เก็บข้อมูล ลงพื้นที่จริง

๑๓

๑๔

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
พระราชทานลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”
เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ และสื่อความหมายถึงการส่งมอบความรักความสุขให้แก่ชาวไทย

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
พระราชทานลายผ้า “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” จากพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
และทรงมีพระทัยตั้งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธาน
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ที่ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์แห่งศิลปาชีพ เพื่อสืบสานอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม
ภูมิปัญญาของคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาผ้าไทยให้ทรงคุณค่า
จนเกิดรูปธรรมของการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของพสกนิกรชาวไทย

๑๕

จังหวัดภูเก็ต โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดภูเก็ตขับเคลื่อน
การผลิตและการจำหน่ายผ้าบาติกลาย “ขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”
ซึ่งเป็นลายผ้าพระราชทานจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี
นารีรัตนราชกัญญา โดยร้านชัยบาติก เป็นผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP
ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกายจังหวัดภูเก็ต ได้ใช้เทคนิคในการลงสี
ที่มีความสวยงาม หลากหลาย ซึ่งมียอดสั่งซื้อและสั่งจองจากลูกค้า
ผู้สนใจในความสวยงามของลายผ้าและสีสันที่สดใสจากหลากหลายพื้นที่
เป็นจำนวนมาก สืบเนื่องจากสื่อประชาสัมพันธ์ที่จังหวัดภูเก็ตร่วมกับ
ภ า คี เ ค รื อ ข่ า ย ไ ด้ เ ผ ย แ พ ร่ ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ ผ่ า น ช่ อ ง ท า ง ต่ า ง ๆ
ทำให้สามารถช่วยส่งเสริม สนับสนุน และเปิดช่องทางจากผู้ผลิต ฯ
สู่ผู้บริโภคได้ เป็นการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้แก่ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP
และประชาชนในพื้นที่ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

๑๖

จังหวัดภูเก็ตได้สนองแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี
นารีรัตนราชกัญญา ที่ได้พระราชทาน ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”
ตามพระดำริ โดยได้ร่วมกันรณรงค์ และส่งเสริมให้หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ
เจ้าหน้าที่และประชาชนทุกภาคส่วน สวมใส่ผ้าไทยในทุกวันทุกโอกาส ผ่านสื่อ
ในลักษณะที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดกระแสความนิยมในการสวมใส่ผ้าไทยเพิ่มมากขึ้น”
ทั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเพื่อรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาไทยให้คงอยู่
อย่างยั่งยืนตลอดไป

๑๗

ผ้าบาติกลายพระราชทาน "ป่าแดนใต้" สื่อถึงวิถีชีวิตและธรรมชาติ
ของภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์ จึงได้ทรงออกแบบผ้าบาติกลายพระราชทาน
‘ป่าแดนใต้’ ด้วยทรงพระดำริให้เป็นการจุดประกายความคิด ในเรื่องของ
การอนุรักษ์ป่าฝนเขตร้อนที่มีระบบนิเวศอันอุดม ลวดลายประกอบด้วย
ลายดอกดาหลา สัญลักษณ์ของดอกไม้พื้นถิ่นภาคใต้ , ลายนกเงือก ๑๐ ตัว
หมายถึง พระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังหมายถึงความรัก
ที่ซื่อสัตย์ , ลายเถาไม้รูปตัว S หมายถึง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา , ลายคลื่นตัว S และลายลูกปลา
กุเลา หมายถึง ความห่วงใยในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของภาคใต้
ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ,
ลายปารังและลายต้นข้าว สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของภาคใต้

๑๘
บาติกลาย “ป่าแดนใต้”

จังหวัดภูเก็ต ผลิตผ้าบาติกลายพระราชทาน “ป่าแดนใต้” มีที่มาจากการเสด็จ
ไปทอดพระเนตร งานศิลปหัตถกรรมจากภูมิปัญญาพื้นถิ่นในภาคใต้หลายครั้ง
ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
และทรงพบเห็น วิถีชีวิตและธรรมชาติของภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์ จึงได้ทรงออกแบบ
ผ้าบาติกลายพระราชทาน “ป่าแดนใต้” ทรงพระดำริให้เป็นการจุดประกาย
ความคิด ในเรื่องของการอนุรักษ์ป่าฝนเขตร้อนที่มีระบบนิเวศอันอุดม
โดยทุกลวดลายล้วนสื่อความหมาย สำหรับกลุ่มสี ทรงออกแบบ
ด้วยแรงบันดาลพระทัยจากการเสด็จเยี่ยมชุมชน ได้ทอดพระเนตรเห็น
ทิวทัศน์ยามค่ำของภาคใต้ที่งดงาม อาทิ สีน้ำเงินเข้มของทิวทัศน์ในยามราตรีกาล
ท่ามกลางแสงจันทร์สีนวลกระจ่าง และสีฟ้าหม่นของใบดาหลายามค่ำ
ที่พราวพร่ำ ไปด้วยหยาดฝนแวววาว

ผ้าบาติกลายพระราชทาน
"ป่าแดนใต้"
ลวดลายสีม่วง

๑๙

จังหวัดภูเก็ต
น้อมนำแนวพระราชดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก"

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว นางบุญวันดี วุ่นซิ้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประธานแม่บ้านมหาดไทย

จังหวัดภูเก็ต

๒๐

จังหวัดภูเก็ตจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ
เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
๘มกราคม๒๕๖๕ โดยนายณรงค์วุ่นซิ้วผู้ว่าราชการ
จังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดกรวย
กระทงดอกไม้ถวายราชสักการะ และลงนาม
ถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
พร้อมด้วย นางบุญวันดี วุ่นซิ้ว ประธาน
แ ม่ บ้ า น ม ห า ด ไ ท ย จั ง ห วั ด ภู เ ก็ ต
และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมกิจกรรม
เทิดพระเกียรติ ฯ ซึ่งในงานได้มีการจัดแสดง
นิทรรศการและจำหน่ายผ้าลายพระราชทาน
“ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ด้วยสำนึก
ในพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงพสกนิกร
ตลอดระยะเวลาที่ใต้ฝ่าพระบาทได้อุทิศ
พ ร ะ อ ง ค์ ป ฏิ บั ติ บำ เ พ็ ญ พ ร ะ ก ร ณี ย กิ จ
น า นั ป ก า ร นั บ เ ป็ น พ ร ะ ก รุ ณ า ธิ คุ ณ
อย่างหาที่สุดมิได้

๒๑

ประชาสัมพันธ์ “ผ้าไทย ใส่ให้สนุก”
ผ่านช่องทางออนไลน์

เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่
รวมถึงบุคคลทั่วไปสวมใส่ผ้าไทย
ตามพระปณิธาน เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ

๒๒

ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกจังหวัดภูเก็ต

๒๓

ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกจังหวัดภูเก็ต

๒๔

ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกจังหวัดภูเก็ต

๒๕

ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกจังหวัดภูเก็ต

๒๖

ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกจังหวัดภูเก็ต





๒๖

วิวัฒนาการบาติกลุงชู (ชูชาติ ระวิจันทร์)
สู่

"สิริชัย จันทร์ส่องแสง" ในปัจจุบัน

ยุกต์ ชูชาติ ระวิจันทร์

ช่วงแรกแห่ง การเริ่มต้น การทำผ้าบาติกในปี ๒๕๑๖ โดยทีมอาจารย์สอนศิลปะ
วิทยาลัยครูภูเก็ตได้ทดลองทำบาติกโดยใช้สีเพ้นท์และเขียนเทียนด้วยปากกาเขียนเทียน
(จันติง) อาจารย์ชูชาติเป็นคนที่มีฝีมือและพื้นฐานทางศิลปะที่โดดเด่นจึงทำให้
ผลงานบาติกของท่านมีความโดดเด่น แตกต่าง และสวยงามที่สุดดูน่าทึ่งมาก
เกิดคุณค่าทั้งความงดงามและทางด้านเรื่องราวและด้วยเหตุผลที่ท่านทุ่มเท
ในการทำงานทั้งวันทั้งคืนจนเกิดผลงานบาติกที่มีความเป็นเฉพาะภูเก็ตเกิดขึ้น
มากมายจนบาติกภูเก็ตเริ่มเป็นที่รู้จักของคนภูเก็ตเนื่องจากลูกศิษย์ลุงชู
ได้นำความรู้ทางด้านการทำบาติกไปประกอบอาชีพทำให้คนทั่วไปและรวมทั้ง
นักท่องเที่ยวได้รู้จักบาติกภูเก็ตอย่างรวดเร็ว

๒๗

ลักษณะของผลงาน บาติกภูเก็ตช่วงแรก ยังคงมีลักษณะของการเขียนเทียน
ลวดลายที่มีเส้นเทียนเป็นสีขาวบนพื้นผ้าขาว นิยมใช้สีโทนร้อนและโทนเย็น
เป็นคู่สีที่ตัดกันภาพที่วาดลงไปแต่ละภาพมีการเกลี่ยสี และไล่โทนสีให้ดูมีมิติ
และบอกเล่าเรื่องราวจินตนาการความสวยงามแบบเรียบง่าย ตรงไปตรงมา

Technique

ใช้เทคนิคการเขียนเทียน
บนพื้นผ้าขาว

Line Color

ใช้การเขียนเส้นเทียนสีขาว ส่ ว น ใ ห ญ่ จ ะ ใ ช้
สีโทนร้อนและโทนเย็น
เป็นคู่สีที่ตัดกัน เช่น
สีเหลืองทอง ตัดกับ
สี ฟ้ า น้ำ ท ะ เ ล
แ ล ะ สี เ ขี ย ว ท อ ง
ตั ด กั บ พื้ น ส้ ม แ ด ง
น้ำตาลเน้นระบายสี
ให้เหมือนจริง

๒๘

ช่วงแห่ง การเริ่มต้น ช่วงแห่ง การพัฒนาค้นหา ช่วงที่มีความ รุ่งเรือง
ทำ ผ้ า บ า ติ ก ภู เ ก็ ต มีความรุ่งเรืองในการทำ มากที่สุดของงานบาติก
ใช้เทคนิคโดยการเขียน ผ้าบาติก เริ่มคิดค้นรูปแบบ ภูเก็ตเนื่องจากมีการจดจำ
เส้นเทียนสีขาวรูปเบบ ใหม่ ๆ โดยการใช้เทคนิค และนำไปประยุกต์ใช้
ลักษณะของผ้าบาติก การซ้อนสีมีเส้นสีเกิดขึ้น ใ น ห ล า ย ๆ จั ง ห วั ด
เ ป็ น ส ไ ต ล์ ม า ล า ยู หลายสีโดยเปลี่ยนวิธีคิด ของภาคใต้ส่วนใหญ่
ฝั่งประเทศมาเลเซีย จ า ก ล ว ด ล า ย ผ้ า บ า เ ต๊ ะ ภ า พ ว า ด จ ะ เ ป็ น
ห ลั ง จ า ก นั้ น ไ ด้ มี มาเป็นงานจิตรกรรมภาพ การถ่ายทอดผลงาน
การดัดแปลงลวดลาย เหมือนเป็นจุดที่ทำให้เห็น ที่เน้นลวดลายเกี่ยวกับ
ของผ้าบาเต๊ะให้เป็นลวดลาย เด่นชัดของลวดลายที่เป็นไทย เรื่องราวใต้ท้องทะเล
แนวธรรมชาติในลักษณะ มากขึ้น มีการเขียนลวดลาย เ รื่ อ ง ร า ว วิ ถี ชี วิ ต
ที่เหมือนจริง ส่วนใหญ่เป็น ของต้นไม้ นก พระพุทธรูป ความเป็นอยู่ จนผ้าบาติก
ใบไม้ พรรณไม้ เช่น และเริ่มขยายออกชุมชน ภูเก็ตได้รับความนิยม
ใบปักษาสวรรค์ ใบกล้วย จนเป็นที่รู้จักในประเทศไทย และเป็นที่รู้จักทั่วโลก
เ ถ า วั ล ย์ ไ ม้ เ ลื้ อ ย อย่างรวดเร็ว กลายเป็นอัตลักษณ์
และดอกไม้ที่อยู่รอบตัว ภู มิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถิ่ น
ข อ ง จั ง ห วั ด ภู เ ก็ ต
ในปัจจุบัน

๒๙

ช่วงนี้เป็นรูปแบบผลงานที่กล่าวได้ว่าเป็น ยุคทอง หรือช่วงเวลาแห่ง
ความเจริญรุ่งเรืองของงานบาติกภูเก็ตมากที่สุดเนื่องจากมีการจดจำลักษณะ
รูปแบบลวดลายและนำไปประยุกต์ใช้ในหลายจังหวัดของภาคใต้โดยภาพ
ที่เป็นที่จดจําและนําไปใช้ในหลายพื้นที่มากที่สุดคือภาพเรื่องราววิถีชีวิตสีสัน
ใต้ท้องทะเลเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจนทําให้บาติกภูเก็ตเป็นที่รู้จัก
ทั่วประเทศหรืออาจกล่าวได้ถึงทั่วโลกก็ว่าได้ซึ่งภาพลักษณะนี้แสดง ถึงอัตลักษณ์
ของพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตแสดงถึงความสวยงามความอุดมสมบูรณ์ของทะเลอันดามัน
เทคนิควิธีการสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นมีการนําไปประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
มากมาย

๓๐

ลักษณะของผลงาน บาติกภูเก็ตช่วงยุคทอง จะมีความโดดเด่นมาก คือ
เรื่องของสีสันมีการผสมสีที่หลากหลายและมีความสดมากแตกต่างจากที่อื่น
ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะจังหวัดภูเก็ตตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีความชื้นน้อยจึงทำให้
ภาพแห้งเร็วและสนิทเพราะมีลมทะเลพัดผ่านตลอด


Click to View FlipBook Version