The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ 7 การเขียนแบบแผ่นคลี่อย่างง่าย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chayapol Pawintragul, 2022-05-31 04:37:41

หน่วยที่ 7 การเขียนแบบแผ่นคลี่อย่างง่าย

หน่วยที่ 7 การเขียนแบบแผ่นคลี่อย่างง่าย

หน่วยท่ี 7 การเขียนแบบแผน่ คล่ีอย่างงา่ ย

ความหมายของแผน่ คลี่

แผ่นคล่ี หมายถึง การเขียนภาพเต็มขนาดพืน้ ท่ีผิววตั ถุต่าง ๆ ให้กว้างออกไปบนพืน้ ที่ราบแสดงรูป แบบ

แผน่ คลี่เกิดจากการร่างแบบ ที่เรียกวา่ การเขียนแบบแผ่นคลี่ ซงึ่ เป็ นวิธีการท่ีได้ใช้กันแพร่หลาย และเรียกช่ือที่
แตกต่างกนั ออกไปตามชนิดของงาน เช่น การเขียนแบบโลหะแผ่น การเขียนแบบบรรจภุ ณั ฑ์ การเขียนแบบ
เครื่องหนงั การเขียนแบบตดั เย็บเสอื ้ ผ้า

การเขียนแบบแผน่ คลี่แบบง่าย

การเขยี นแบบแผ่นคลอ่ี ย่างงา่ ย ส่วนใหญ่ใช้สาหรบั งานท่มี รี ูปร่างไม่สลบั ซบั ซ้อนมากนัก ส่วนใหญ่จะมี
รปู ทรงเป็นสเ่ี หลย่ี ม ใชเ้ สน้ ตรงเป็นหลกั ไม่มเี สน้ ฉายตดั กนั มากนัก สามารถเขยี นลงบนช้นิ งาน ไดเ้ ลย
เชน่ กลอ่ งสเ่ี หลย่ี ม ภาชนะตวงทรงเหลย่ี ม กลอ่ งสเ่ี หลย่ี มปาดตดั เฉียง

ตัวอย่างขัน้ ตอนการเขียนแบบแผ่นคล่ีกล่องส่ีเหล่ียออย่างง่าย

ขนั้ ตอนท่ี 1 จากชน้ิ งานทก่ี าหนดเรม่ิ ตน้ โดยการลากเสน้ ใน แนวตงั้ และแนวนอนให้ตดั และตงั้ ฉาก
กนั โดยกาหนดจดุ ตดั ใหเ้ ป็น ดา้ น A ซง่ึ เป็นดา้ นหลกั ในการเขยี นแบบแผน่ คล่ี

ขนั้ ตอนท่ี 2 สรา้ งสเ่ี หลย่ี ม A โดยวดั จากขนาดทก่ี าหนดของ ชน้ิ งาน ทงั้ ดา้ นกวา้ งและดา้ นยาวให้
เสน้ ตงั้ เป็นดา้ นกวา้ ง และเสน้ นอนเป็นดา้ นยาว

ขนั้ ตอนท่ี 3 สรา้ งสเ่ี หลย่ี ม B ใหต้ อ่ จากดา้ นยาว ขา้ งลา่ งของ สเ่ี หลย่ี ม A โดยลากเสน้ ต่อจาก
ดา้ นขา้ งทงั้ 2 ดา้ น แลว้ ลากเสน้ เชอ่ื มต่อเขา้ ทงั้ 2 ขา้ ง

ขนั้ ตอนท่ี 4 โดยลากเสน้ ต่อจากดา้ นกวา้ งของสเ่ี หลย่ี ม A ไปทางขวามอื ตอ่ จากดา้ นยาวทงั้ 2 ดา้ น
แลว้ ลากเสน้ ตอ่ จากเสน้ ทงั้ 2 ขา้ ง

ขนั้ ตอนที่ 5 สรา้ งสเ่ี หลย่ี ม D โดยลากเสน้ ต่อจากดา้ นกวา้ ง ทงั้ 2 ขา้ งของสเ่ี หล่ยี ม A ไปทางดา้ น
บนแลว้ ลากเสน้ เช่อื มตอ่ จาก เสน้ ทงั้ 2 ขา้ ง

ขนั้ ตอนที่ 6 สรา้ งสเ่ี หลย่ี ม E โดยลากเสน้ ตอ่ จากดา้ นยาว ทงั้ 2 ดา้ นของสเ่ี หลย่ี ม A ไปทางซา้ ยมอื
แลว้ ลากเสน้ เช่อื มต่อ จากเสน้ ทงั้ 2 ขา้ ง
ขนั้ ตอนที่ 7 ลากเสน้ เผ่อื ตะเขบ็ ทงั้ 2 ขา้ งของสเ่ี หลย่ี ม C และ E

ขัน้ ตอนท่ี 8 ลากเส้นเผื่อระยะขอบงานทงั้ 4 ด้าน เพ่ือพบั ขอบในการขนึ ้ รูปกลอ่ งสี่เหลยี่ ม

ขนั้ ตอนท่ี 1 ขนั้ ตอนท่ี 2 ขนั้ ตอนที่ 3 ขนั้ ตอนท่ี 4

ตวั อย่างขนั้ ตอนการเขียนแบบแผน่ คล่ีกล่องส่ีเหล่ียมอย่างงา่ ย

ขนั้ ตอนที่ 5 ขนั้ ตอนที่ 6 ขนั้ ตอนท่ี 7 ขนั้ ตอนที่ 8

การเขียนแบบแผน่ คล่ีด้วยวิธีเส้นขนาน

การเขยี นแบบแผ่นคลด่ี ว้ ยเสน้ ขนาน (Parallel Line Development) ใชส้ าหรบั เขยี นแบบ ชน้ิ งานทรงปรซิ มึ
(Prisms) หรอื ทรงกระบอก (Cylinder) ลกั ษณะของผลติ ภณั ฑท์ น่ี ิยมใชเ้ ขยี นแบบ เชน่ ขอ้ งอ (Elbows)
ท่อแยกตวั ที (T-Shapes) ท่อแยกตวั วาย (Y-Shapes) ตอ้ งใชก้ ารเขยี นวธิ นี ้ี เสน้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ สว่ นใหญ่จะเป็น
เสน้ ตรงขนานกนั และตงั้ ฉากกนั

แสดงชนิดและลกั ษณะของตะเขบ็

คาจากดั ควาอในการเขียนแบบแผ่นคล่ีด้วยเส้นขนาน

รปู ด้านหน้า (Front View)

เป็นรปู ดา้ นทม่ี องเขา้ ไปทางดา้ นหน้าของวตั ถุซง่ึ รปู น้ีจะแสดงใหเ้ หน็ ความสงู และความกวา้ งของวตั ถุ

รปู ด้านบนหรือแปลน (Top or Plan View)

เป็นรูปด้านที่มองจากด้านบนของวตั ถหุ รือเรียกวา่ ภาพหน้าตดั ซง่ึ รูปนีจ้ ะแสดงให้เหน็ ความยาวและความกว้างของวตั ถุ

เส้นฐาน (Base Line)

เป็นเสน้ ขอบดา้ นลา่ งของรปู ดา้ นหน้า ซง่ึ เป็นเสน้ ทจ่ี ะนาไปคลอ่ี อกใหเ้ ทา่ กบั ความยาวจรงิ ตอ่ ไป

เส้นฉาย (Projection Line)

เป็นเส้นที่ลากตอ่ ถึงกนั ระหวา่ งรูปด้านตา่ ง ๆ ไปยงั เส้นฐานของรูป ด้านหน้า และเส้นตอ่ จากจดุ ตา่ ง ๆ บนรูปด้านหน้าไปยงั
ภาพคล่ี

เส้นประกอบ (Element Line)

เป็ นเส้นสมมติที่แบ่งชิน้ งานออกเป็ นส่วน ๆ ซง่ึ นาไปคล่ีเป็ นส่วน ๆ บนภาพคล่ี โดยท่ีเส้นประกอบจะลากต่อกบั เส้นฉาย
ขนานกบั ขอบชิน้ งานในรูปด้านหน้า และลากจากเส้น แผ่ขนานกบั ขอบงานเพ่ือหาความสงู สว่ นตา่ ง ๆ ของชิน้ งานภาพคลี

เส้นแผ่ (Stretchout Line)

เป็นเส้นแผห่ รือคล่ีขอบชิน้ งานออกมาโดยจะมีความยาวเทา่ กบั เส้น รอบรูปของชิน้ งาน เส้นแผ่นีจ้ ะตอ่ ออกมาจากเส้นฐาน
หรือเส้นด้านบนของรูปด้านหน้า เส้นนีจ้ ะเป็นสว่ น หนงึ่ ของภาพแผน่ คล่ี

ระบบตวั เลข (Numbering System)

เป็นตวั เลขท่ีใช้ระบหุ รือกากบั สว่ นตา่ ง ๆ ของชิน้ งาน ที่ แบง่ ไว้ในรูปด้านตา่ ง ๆ เพ่ือถ่ายทอดไปยังภาพคลี่ให้ได้จานวน
ต่าง ๆ ตรงกนั

ภาพคลี่ (Stretchout)

เป็นภาพท่ีคลีช่ ิน้ งานจากรูปทรงสามมิติออกมาเป็นแผน่ แบนราบซง่ึ ยงั ไม่มี การเผื่อตะเข็บและขอบงาน

แบบแผน่ คล่ี (Pattern)

เป็นภาพคลี่ชิน้ งานสาเร็จรูปทงั้ หมดแล้ว มีทงั้ การเผื่อขนาดตะเข็บ ขอบ งาน รอยบากพร้อมที่จะนาไปตดั และขนึ ้ รูปได้

ตวั อย่างขัน้ ตอนการเขยี นแบบแผ่นคล่ี
รูปทรงกระบอกตดั เฉียงด้วยเส้นขนาน

การเขียนแบบแผ่นคล่ีด้วยวิธีเส้นรัมอี

การเขยี นแบบแผน่ คลด่ี ว้ ยเสน้ รศั มี (Radial Line Development)จะใชส้ าหรบั งานทม่ี ลี กั ษณะเป็น รปู เรยี ว
(Tapering Forms) วธิ กี ารคลา้ ยกบั เสน้ ขนาน แต่การคลว่ี ธิ นี ้ีตอ้ งใชเ้ สน้ รศั มเี ป็นสว่ นใหญ่แทนทจ่ี ะเป็นเสน้
ขนาน โดยเสน้ รศั มที ุกเสน้ มาจากจุดศนู ยก์ ลางเดยี วกนั ตวั อยา่ งงานทต่ี อ้ งคลด่ี ว้ ยวธิ นี ้ี เชน่ รปู พรี ะมดิ
(Pyramid) รปู กรวยกลม (Cones) กรวยสเ่ี หลย่ี ม หกเหลย่ี ม และกรวยรปู ฐานหลายเหลย่ี ม เป็นตน้

ผลิตภณั ฑ์ ท่ีเขียนด้วยเสน้ รมั มี

ตวั อยา่ งขนั้ ตอนการเขียนแบบแผน่ คลก่ี รวยกลมด้วยเส้นรัศมี

เขยี นรปู ดา้ นหน้าหรอื ดา้ นขา้ งและดา้ นบนทแ่ี สดงเสน้ ความสงู จรงิ
แบง่ รปู ดา้ นบนออกเป็น 12 สว่ นโดยใชต้ วั เลขกากบั
ลากเสน้ ฉายภาพแบง่ สว่ นจากรปู ดา้ นบนไปยงั เสน้ ฐานในรปู ดา้ นหน้า
จากจดุ ตดั ของเสน้ แบง่ สว่ นกบั เสน้ ฐานในรปู ดา้ นหน้า ลากเสน้ สจู่ ดุ ยอดกรวย
เขยี นเสน้ รศั มขี อบภาพแผน่ คล่ี เทา่ กบั เสน้ สงู จรงิ จากขอบรปู ดา้ นหน้าใหม้ คี วามยาวเทา่ กบั เสน้ รอบรูปของรปู ดา้ นบน
ทาการถ่ายแบบจานวน 12 สว่ นลงบนเสน้ รศั มขี องแผน่ คลพ่ี รอ้ มทงั้ เขยี นหมายเลขกากบั จะไดแ้ ผน่ คลก่ี รวยกลม

ตวั อยา่ งขนั้ ตอนการเขยี นแบบแผน่ คลก่ี รวยกลมดว้ ยเสน้ รศั มี

การเขยี นแบบแผน่ คลด่ี ้วยวิธีเส้นสามเหล่ียม

การเขยี นแบบแผน่ ดว้ ยเสน้ สามเหลย่ี ม (Triangulation Line Development) ใชส้ าหรบั เขยี น แบบผลติ ภณั ฑ์
โลหะแผ่น ท่ไี ม่สามารถดว้ ยวธิ อี ่นื ๆ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เพราะช้นิ งานมกี ารเปล่ยี นรูปจากใหญ่ เป็นเลก็ ผวิ
ด้านขา้ งมกี ารเอยี งและตดั เฉียง ทาให้การมองเห็นภาพด้านหน้ามขี นาดความยาวไม่แท้จรงิ จึง ต้องหา
ความยาวของความสงู จรงิ ลกั ษณะของผลติ ภณั ฑ

คาจากดั ความในการเขยี นแบบแผน่ คลี่ด้วยเส้นสามเหล่ียม

เส้นตงั้ (Vertical Line) เป็นเสน้ สาหรบั หาความสงู จรงิ
เส้นนอน (Base Line) เป็นเสน้ สาหรบั หาความสงู จรงิ
เส้นความสงู จริง (True Length) เป็นการนาเอาระยะจากภาพดา้ นบน ดา้ นหน้าหรอื ดา้ นขา้ ง

คู่ ใดคหู่ น่ึงมาทามมุ ฉากกนั ระยะหา่ งจากปลายเสน้ ทงั้ สอง


Click to View FlipBook Version