The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการสร้างและวิธีการใช้ Fire Extinguisher CheckApp

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phanthakarntestapp, 2022-05-09 06:18:42

คู่มือการสร้างและวิธีการใช้ Fire Extinguisher CheckApp

คู่มือการสร้างและวิธีการใช้ Fire Extinguisher CheckApp

หนังสือคู่มือการสร้างและใช้งาน

คู่มือนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
ของนิสิตชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ



คำนำ

หนังสือคู่มือการสร้างและใช้งานนี้ เป็นการรวบรวมความรู้จากโครงการ
Fire Extinguisher CheckApp ของนิสิตชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ที่ได้มาฝึกงาน ณ บริษัทที เอส อินเตอร์ ซีทส์ เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างและใช้งาน
Application ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเรื่องของการป้องกันอัคคีภัย
ต่อไป โดยหนังสือคู่มือนี้จะถูกใช้ในการศึกษาเท่านั้น

ทางคณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ที่
ทำการศึกษาหรือหาข้อมูลในการใช้งาน Application ป้องกัยอัคคีภัยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

คณะผู้จัดทำโครงการ
นิสิตนิสิตชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

10 พฤษภาคม 2565

สามารถดู App ตัวอย่างได้ที่ลิงค์นี้

สารบัญ

เนื้อหา หน้าที่

องค์ประกอบ Application ................................................................. 1

วิธีการสมัคร ...................................................................................... 2

เริ่มต้นใช้งาน Google Sheet ............................................................. 4

เริ่มต้นใช้งาน Appsheet ................................................................... 8

อธิบายปุ่มหน้าทำ App ........................................................................ 9

ฟังก์ชั่น Register ............................................................................ 11

ฟังก์ชั่น Check ................................................................................ 20

ฟังก์ชั่น Show Map ......................................................................... 31

ตกแต่งและเพิ่มฟังก์ชั่น ....................................................................... 32

วิธีการตกแต่ง Application และทำหน้า Home ..................................... 34

วิธีการแชร์ APP ให้ผู้อื่นสามารถใช้งานได้ ................................................. 43

วิธีการตั้งค่าผู้ใช้จำกัดการใช้งานแต่ละฟังก์ชั่น ............................................ 44

วิธีการจัดการย้าย/คัดลอก APP ไปยัง Email อื่น ...................................... 46

วิธีการจัดการอัพรูปให้เป็น url ในเว็บ Blogspot ...................................... 47

เริ่มต้นใช้งาน Integromat ............................................................... 49

การเตรียม Visual Card ................................................................... 55

การใช้งาน Fire Extinguisher Checkapp ........................................ 58

หน้าอธิบายส่วนต่างๆของ App ............................................................. 59

***ข้อควรระวังที่สุดของ App .............................................................. 63

ติดต่อผู้จัดทำ .................................................................................... 64

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 1

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

องค์ประกอบของ

APPLICATION

ส่วนประกอบหลักๆของ APP นี้
จะประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลักๆ คือ

Google Sheets จะใช้สำหรับกำหนดหัวข้อใน
App และเก็บข้อมูลต่างๆที่มาจาก APP
โดยจะมีรูปแบบเหมือนกับ Excel
ที่สามารถใช้งานแบบออนไลน์ได้

AppSheet จะใช้ในการทำ APP โดยเชื่อมต่อ
ข้อมูลและรูปแบบจาก Google Sheet

integromat จะเป็นเว็บเขียน code รูปแบบ
อย่างง่าย สามารถเชื่อมต่อกับ Google Sheet
เพื่อส่งข้อมูลไปใน LINE ได้

Visual Card จะเป็นใบที่ติดกับถังดับเพลิง
ที่ได้ลงทะเบียนในบริษัท โดยจะมีส่วนสำคัญ คือ
QR Code ที่ใช้ในการระบุข้อมูลถัง และใช้ตรวจ
เช็คถังดับเพลิงแต่ละเดือน โดยข้อมูลที่ปรากฏจะ
เชื่อมต่อกับ Google Sheet

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 2

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

วิธีการสมัคร

สิ่งสำคัญที่สุด คือ Gmail ของ Google
กรอกข้อมูล เชื่อมกับเบอร์โทร แล้วก็แนะนำให้
จดเก็บไว้ครับ gmail นี้จะใช้ในการเข้าใช้งาน
เว็บและฟังก์ชั่นทุกอย่างของ APP ครับ

1. ค้นหาเว็บ AppSheet ใน Google แล้วกดเข้าเว็บได้เลยครับ จะขึ้นหน้าเว็บเป็นแบบนี้ :

2. เมื่อเข้ามาแล้วให้ทำการกดปุ่ม มุมขวาบน

"1" จะขึ้นหน้าเว็บเป็นแบบนี้ จากนั้นกดคลิกตามรูป

"3.1" "2"

3. เลือกบัญชี Gmail ที่เราได้สมัครเมื่อครู่ จากนั้นกด "อนุญาต"
ก็จะเป็นอันเสร็จสิ้น เริ่มใช้ AppSheet ได้แล้ว!

"3.2"

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 3

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

1. ค้นหาเว็บ integromat ใน Google แล้วกดเข้าเว็บได้เลยครับ จะขึ้นหน้าเว็บเป็นแบบนี้ :

2. จากนั้นกด ที่มุมซ้ายล่าง หรือ Sign Up ที่มุมขวาบนก็ได้ครับ
จะปรากฏหน้านี้ จากนั้นคลิกปุ่ม
ที่มุมซ้ายล่างครับ

"2.2"

"2.1" เลือกบัญชี Gmail ที่เราได้สมัครเมื่อครู่นี้

"3.1" 3. ตรวจสอบข้อมูลที่ขึ้นให้อัตโนมัติว่าใช่ Gmail เรา และ Country เป็น
Thailand หรือไม่ ถ้าใช่กดติ๊ก

และคลิกที่ ได้เลยครับ จะขึ้นหน้าถัดไป

ให้เลือกข้อมูล 3 ช่องแรก แล้วกด ก็จะใช้งานเว็บได้ดังรูปภาพครับ

"3.2" "3.3"

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 4

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

เริ่มต้นใช้งาน
GOOGLE SHEETS

เหนือสิ่งอื่นใดในการทำ APP นี้
เราต้องทำ Google Sheet ให้เสร็จก่อนนะครับ!

1. กดสร้าง Google Sheet จากหน้า Google Chrome ได้เลย

"1.1" "1.2"

2. จะขึ้นเป็นหน้านี้ ส่วนวิธีการใช้จะเหมือนกับ Excel เลยครับ

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 5

หน่วยงานด้านความปลอดภัย "3.2"

3. เริ่มจากตั้งชื่อชีตก่อน เพื่อป้องกันความสับสน (ตั้งอะไรก็ได้ครับ)

"3.1"

4. เพิ่มช่องของชีตเป็น 3 ช่อง ได้แก่ Register, Check, Showmap โดยกดเพิ่มที่ปุ่ม

ชีตหน้า

5. พิมพ์ในคอลัมน์ที่ 1 และแบ่งหัวข้อตามคอลัมน์ A-P ดังรูปภาพ (สามารถในสีช่องเพื่อให้แยกได้ง่ายได้) :

อธิบายความสำคัญของแต่ละช่อง (เรียงลำดับ) :

A-1 "ระบบลงทะเบียนถังดับเพลิง" จะเป็นหัวข้อที่จะขึ้นบนฟังก์ชั่นลงทะเบียนถังดับเพลิง
B-1 "Picture" จะช่องแทนรูปที่จะปรากฎในหน้าลงทะเบียนถังดับเพลิง
C-1 "หมายเลขถังดับเพลิง" ช่องนี้จะเก็บหมายเลขถังดับเพลิงของแต่ละหน่วยงาน
D-1 "ลำดับของถังดับเพลิง" ช่องนี้จะ Run ลำดับอัตโนมัติ ใช้ดูจำนวนถังและทำ Qr Code
E-1 "Qr Numer" เป็นช่องเก็บ ID ที่ใช้สำหรับระบุถังดับเพลิงเวลา Scan และเชื่อมกับเว็บทำ Qr Code
F-1 "เลือกหน่วยงาน" เป็นช่องเก็บข้อมูลหน่วยงานเจ้าของถังดับเพลิงแต่ละถัง
G-1 "ID :" เป็นช่องเก็บ ID ของถัง โดยจะได้จาก "ช่องหมายเลขถังดับเพลิงและเลือกหน่วยงาน" รวมกัน
H-1 "หมายเลขทรัพย์สิน" เป็นช่องเก็บหมายเลขทรัพย์สินของแต่ละถังดับเพลิง
I-1 "ภาพถ่ายถังดับเพลิง" เป็นช่องเก็บภาพถ่ายของแต่ละถังดับเพลิง (รูปจะอยู่ใน Google Drive)
J-1 "ชนิดของถังดับเพลิง" เป็นช่องเก็บข้อมูลชนิดของแต่ละถังดับเพลิง
K-1 "ขนาดของถังดับเพลิง" เป็นช่องเก็บข้อมูลขนาดของแต่ละถังดับเพลิง
L-1 "คุณสมบัติการดับไฟ" เป็นช่องเก็บข้อมูลความสามารถในการดับไฟของแต่ละถังดับเพลิง
M-1 "พิกัดถังในบริษัท" เป็นช่องเก็บพิกัดของถังใน Layout โดยจะขึ้นเป็นตัวเลข
N-1 "สถานที่ติดตั้ง" เป็นช่องเก็บข้อมูลการติดตั้งอย่างละเอียดของแต่ละถังดับเพลิง
O-1 "รับผิดชอบโดย" เป็นช่องเก็บข้อมูลผู้ที่รับผิดชอบของแต่ละถังดับเพลิง
P-1 "Qr Code" เป็นช่องเก็บลิงค์ Qr Code ของแต่ละถังดับเพลิง

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 6

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ชีตหน้า

6. พิมพ์ในคอลัมน์ที่ 1 และแบ่งหัวข้อตามคอลัมน์ A-AB ดังรูปภาพ (สามารถในสีช่องเพื่อให้แยกได้ง่ายได้) :

อธิบายความสำคัญของแต่ละช่อง (เรียงลำดับ) :

A-1 "แบบตรวจสอบถังดับเพลิง : Fire Extinguisher Checking System" จะเป็นหัวข้อที่จะขึ้นบนฟังก์ชั่นเช็คถังดับเพลิง
B-1 "Picture01" จะช่องแทนรูปที่จะปรากฎในหน้าลงทะเบียนถังดับเพลิง
C-1 "วันที่ตรวจสอบ" ช่องนี้จะเก็บวันที่ตรวจสอบถังดับเพลิง โดยจะขึ้นอัตโนมัติใน APP
D-1 "กรุณาแสกน QR Code บน Tag ของถังดับเพลิง" จะเป็นหัวข้อที่จะขึ้นบนฟังก์ชั่นเช็คถังดับเพลิง
E-1 "scan qr code" จะเป็นหัวข้อที่จะขึ้นบนฟังก์ชั่นเช็คถังดับเพลิง และใช้เป็นช่องใส่ฟังก์ชั่น Scan Qr Code ใน APP
F-1 "ID ถังดับเพลิง" เป็นช่องเก็บข้อมูล ID ของถังที่เราได้ทำการตรวจ
G-1 "Picture" เป็นช่องเก็บรูปและระบุถังดับเพลิงที่ได้ลงทะเบียน โดยจะนำรูปมาจาก Google Drive
H-1 "ชนิดของถังดับเพลิง" เป็นช่องเก็บและระบุข้อมูลชนิดของถังดับเพลิงที่เราทำการตรวจ นำข้อมูลมาจากหน้า Register
I-1 "ขนาดของถังดับเพลิง" เป็นช่องเก็บและระบุข้อมูลขนาดของถังดับเพลิงที่เราทำการตรวจ นำข้อมูลมาจากหน้า Register
J-1 "หัวข้อตรวจสอบถังดับเพลิง " จะเป็นหัวข้อที่จะขึ้นบนฟังก์ชั่นเช็คถังดับเพลิง
K-1 "N = Normal สภาพปกติ" จะเป็นข้อความที่จะขึ้นบนฟังก์ชั่นเช็คถังดับเพลิง
L-1 "A = Abnormal สภาพไม่ปกติ" จะเป็นข้อความที่จะขึ้นบนฟังก์ชั่นเช็คถังดับเพลิง
M-1 "1.สลัก" เป็นช่องเก็บข้อมูลการตรวจสลักของแต่ละถังดับเพลิงรูปแบบ (true/false)
N-1 "ความบกพร่องที่ 1" เป็นช่องเก็บข้อมูลความบกพร่องของสลักในรูปแบบข้อความ
O-1 "2.ซีล" เป็นช่องเก็บข้อมูลการตรวจซีลของแต่ละถังดับเพลิงรูปแบบ (true/false)
P-1 "ความบกพร่องที่ 2" เป็นช่องเก็บข้อมูลความบกพร่องของซีลในรูปแบบข้อความ
Q-1 "3.สายฉีด/หัวฉีด" เป็นช่องเก็บข้อมูลการตรวจสายฉีด/หัวฉีดของแต่ละถังดับเพลิงรูปแบบ (true/false)
R-1 "ความบกพร่องที่ 3" เป็นช่องเก็บข้อมูลความบกพร่องของสายฉีด/หัวฉีดในรูปแบบข้อความ
S-1 "4.เกจวัด/น้ำหนัก (Co2)" เป็นช่องเก็บข้อมูลการตรวจเกจวัด/น้ำหนัก (Co2)ของแต่ละถังดับเพลิงรูปแบบ (true/false)
T-1 "ความบกพร่องที่ 4" เป็นช่องเก็บข้อมูลความบกพร่องของสลักในรูปแบบข้อความ
U-1 "5.สภาพของถัง" เป็นช่องเก็บข้อมูลการตรวจสภาพของถังแต่ละถังดับเพลิง (true/false)
V-1 "ความบกพร่องที่ 5" เป็นช่องเก็บข้อมูลความบกพร่องของสลักในรูปแบบข้อความ
W-1 "6.สิ่งกีดขวาง" เป็นช่องเก็บข้อมูลการตรวจสิ่งกีดขวางของถังแต่ละถังดับเพลิง (true/false)
X-1 "ความบกพร่องที่ 6" เป็นช่องเก็บข้อมูลความบกพร่องของสลักในรูปแบบข้อความ
Y-1 "ภาพถ่ายจุดบกพร่อง" เป็นช่องเก็บรูปถ่ายจุดบกพร่องของถังดับเพลิง รูปภาพจะอยู่ใน Google Drive
Z-1 "ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม" เป็นช่องเก็บข้อมูลข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของแต่ละถังดับเพลิงในรูปแบบข้อความ
AA-1 "ลงชื่อผู้ตรวจสอบ" เป็นช่องเก็บข้อมูลผู้ที่ชื่อผู้ตรวจสอบแต่ละถังดับเพลิง
AB-1 "Qr Code" เป็นช่องเก็บลิงค์ Qr Code ของแต่ละถังดับเพลิง

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 7

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ชีตหน้า

7. พิมพ์ในคอลัมน์ที่ A-1 ว่า Picture เท่านั้น ก็เป็นอันเสร็จ

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 8

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

เริ่มต้นใช้งาน

APPSHEET

หลังจากทำ Google Sheet เสร็จแล้ว ต่อไปจะมาทำ APP โดยขั้นตอนส่วน
ใหญ่จะอ้างอิงมาจากคลิป Video ของคุณ Jor por aoun แล้วนำมาเพิ่ม
เติม+ปรับปรุงแก้ไข ดังนั้นเราสามารถเปิดดูควบคู่กันระหว่างทำ APP ได้นะครับ

1. เมื่อเข้าหน้า AppSheet ก็กดปุ่มดังรูปที่ 1 จากนั้นตั้งชื่อ App และเลือก Category
ให้ตรงกับเนื้อหาของเรา แล้วกดที่ Choose your data ที่มุมขวาล่างครับ

"1.1" "1.2" "1.3"

2. จะปรากฎหน้าเลือกไฟล์ใน Google Sheet ที่เราสร้างไปเมื่อครู่ ให้เลือกชีตที่เราสร้าง

และกดปุ่ม ที่มุมซ้ายล่าง จะเป็นการใช้ชีตนั้นเป็น Data ให้กับ APP เราครับ จากนั้นรอสักครู่

(เชื่อมกับชีตใน Gmail ของเรา)

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 9

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

3. เมื่อโหลดเสร็จจะขึ้น Popup แบบนี้ กดปิดได้แเลยครับ จากนั้นจะปรากฏหน้าทำ APP

อธิบายปุ่มบนหน้าทำ APP

วิธีใช้เว็บนี้ กลับไปที่หน้าเลือก APP เซฟความคืบหน้า เปลี่ยนผู้ใช้

แชร์ APP ให้ผู้อื่น ย้อนกลับ - ทำต่อ อื่นๆ

ทำให้ APP เป็นแนวตั้ง-นอน
เปิด APP ในเว็บ

กลับมาที่หน้า Home ฟังก์ชั่นอื่นๆใน APP ค้นหาข้อมูลใน APP
สรุปภาพรวมของ APP รีเฟรช APP

ปรับแต่ง APP (ใช้บ่อย) หน้าแสดงผล APP
ปรับแต่งหน้าตา APP (ใช้บ่อย)

ปรับแต่งฟังก์ชั่นเชื่อมต่อแต่ละหน้า

เขียน Bot (ฟังก์ชั่นให้ APP ทำงานแบบ Auto)

ควบคุมความปลอดภัยต่างๆ

ฟังก์ชั่นการเรียนรู้ของ APP

ควบคุมจัดการ APP

เปลี่ยน Email ผู้ที่ใช้ APP

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 10

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

4. เริ่มต้นทำ APP ด้วยการกดปุ่ม แล้วจะขึ้นหน้าดังภาพ จากนั้นให้กดไปที่

และ จะเป็นการดึงข้อมูลจาก Google Sheet เพื่อที่จะเตรียมทำ APP ในแต่ละหน้า

เมื่อกดแล้วก็จะขึ้นดังรูป "4.2"

5. กดไปที่ปุ่ม "4.1" "4.2"

แล้วจะขึ้นหน้าดังภาพ จากนั้นให้กดไปที่ สองครั้ง ให้ขึ้นดังรูป "5.2"

"5.1" "5.2"

6. กดไปที่ปุ่ม และ จะชึ้นแถบให้แก้ไข ให้ปรับข้อมูลช่อง
ตามภาพที่ "6.1" และช่อง ให้ปรับข้อมูลตามภาพที่ "6.2" จากนั้นให้มาที่ช่อง
แล้วปรับตามภาพที่ "6.3"

(ช่องใส่ชื่อที่จะขึ้นในหน้า APP)
(เลือกข้อมูลจาก DATA ที่จะนำมาแสดง)

(เลือกรูปแบบที่จะให้
DATA นั้นแสดง)

(เลือกตำแหน่งที่จะให้ปุ่มฟังก์ชั่นขึ้น)

"6.1" "6.2" "6.3"

อธิบายฟังก์ชั่นรูปแบบการแสดง DATA ของ VIEW TYPE ที่ควรรู้

เป็นแบบปฏิทิน เป็นช่องแบบกล่องๆ ตารางรูปแบบ Excel ช่องกล่องแสดงรูปภาพ

แสดงแบบเป็นรายงาน แสดงเป็น Map หรือรูป แสดงเป็นแผนภูมิ เป็นบอร์ดแสดงข้อมูล

ฟอร์มเก็บข้อมูล แสดงข้อมูล เลื่อนได้ แสดงข้อมูลในรูปแบบการ์ด สะดวกในการส่งไปใน Mail

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 11

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ฟังก์ชั่น Register

7. ให้กลับไปที่ทำหน้าลงทะเบียนก่อนให้กดกลับไปที่หน้า แล้วเลือกไปที่แถบ

จากนั้นกด จะขึ้นแถบดังภาพ โดยลำดับการจัดเรียงข้อมูลที่ขึ้นใน APP จะเป็นไปตามคอลัมน์

ใน Google Sheet

อธิบายคำสั่งต่างๆที่ควรรู้ รูปแบบการแสดงผลใน APP ตั้งค่าไม่ให้ข้อมูลซ้ำกัน
ใส่สูตรในการแสดงรูป Column นี้ โชว์ใน App
ชื่อของคอลัมน์ใน APP
ตั้งค่าแสดงเป็นรูป Column นี้จำเป็นต้องใส่ข้อมูล ใส่สูตรในการแสดงผล
ให้ Column นี้ ค้นหาข้อมูล
Column นี้แก้ไขได้ใน App ใส่สูตรในการ Run อัตโนมัติ ตั้งค่าให้ระบุข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อของคอลัมน์ใน Display ตั้งค่าเชื่อมกับอุปกรณ์ต่างๆ
ปรับ Column ให้ตรงกับ Sheet
ให้ Column นี้ แสกนข้อมูล QR Code เพิ่ม Column

ดูช่อง Table

8. สังเกตที่มุมซ้ายใต้คำว่า Name จะเห็นรูป จะเป็นรูปดินสอและมีตัวเลขอยู่ซ้ายบน โดยตัวเลข

จะแทนลำดับของคอลัมน์ และตัวดินสอจะสื่อถึงการปรับปรุงหรือใส่สูตรคำสั่งให้กับคอลัมน์นั้นๆ เมื่อกดจะขึ้นดังรูป

ชื่อของ Column

ใส่สูตรเพื่อให้ขึ้น Column

ชนิดของ Column นี้

ปรับแต่งรูปแบบ (จะเปลี่ยนไปตาม Type)

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
ตั้งค่าให้คำนวณอัตโนมัติ

Update การกระทำต่างๆของ App
ตั้งค่าการแสดงต่างๆ
ตั้งค่าอื่นๆ

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 12

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

จากนี้ไป การปรับปรุงแต่ละคอลัมน์ ผมจะแทนข้อด้วย "ลำดับคอลัมน์ " เพื่อให้ไม่สับสนนะครับ

โดยลำดับคอลัมจะดูได้จากตัวเลขซ้ายบนดังรูป หลังจากนี้จะเริ่มต้นด้วย ลำดับที่ 2

เนื่องจากลำดับที่ 1 เป็นการรันตัวเลขตามคอลัมน์ใน Excel เฉยๆ จึงไม่มีการใส่สูตรอะไร

9. ลำดับที่ 2 จะเป็นหัวข้อของหน้า APP กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "9.1" เพื่อให้ Show เป็นหัวข้อ

ใหญ่ ในส่วนของช่อง Content เมื่อกดเข้าไปจะเป็นดังรูป "9.2" จะเป็นช่องสำหรับใส่สูตรต่างๆ ให้ใส่สูตร

"ระบบลงทะเบียนถังดับเพลิง" ลงในช่อง Content (LongText) เพื่อให้แสดงข้อความ แล้วกด

(ถ้าสูตรถูกต้องจะขึ้นติ๊กถูกดังรูป)

Type = Show "9.1"

Category = Page_Header

Content = "ระบบลงทะเบียนถังดับเพลิง" "9.2"

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

จากนี้ไปจะมีการใช้ใส่สูตรที่ยาวๆมากๆ ผมได้ทำการแยกสูตรให้คัดลอกง่ายโดยจะอยู่ในไฟล์ Word
"สูตรทำ APP Fire Extinguisher" แล้วในส่วนของรูปจะนำรูปจาก Data เว็บของผมก่อน
ในส่วนท้ายๆของคู่มือ ผมจะสอนการอัพรูปลงในเว็บให้เป็นลิงค์ใช้กับ APP ให้นะครับ

10. ลำดับที่ 3 จะเป็นรูปประกอบ กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "10.1" เพื่อให้รูปขึ้นโชว์ ในส่วนของช่อง

Content ให้ใส่สูตรดังกรอบด้านล่างนี้

"https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjPt91XwVdkSag_FcuSGIpCBmPFxYoJSukmg_ywvTml8TLXHa_Z
EX8aRquXxH6JDdfbFYUn4zMDrQr_fDmrdqYJajpVMQlbooPNvv7pLyjM2HHBFsq_Dm9zTzX4EiLotMvDtSoUetAI_4DUEFJeGkIwSKz4
hw3tI7we5uPf0ZmsZK8YasDVpbHaNSWL/s1019/INSPECTION_FIRE_EXTINGUISHERS_04.png" (คัดลอกในนี้จะไม่ติดให้ดูสูตรใน Word นะครับ)

ลงในช่อง Content (LongText) เพื่อให้แสดงข้อความ แล้วกด

"10.1" Type = Show
Category = Image
Content = (ตามกรอบด้านบน)

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 13

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

11. ลำดับที่ 4 จะเป็นตัวเลข กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "11.1" เพื่อใช้ในการใส่หมายเลขโดยเฉพาะ

โดยให้ปรับตามรูปด้านล่างนี้ Type = Number
Show thousands separator = ติ๊กถูก
"11.1" Display mode = Auto

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

12. ลำดับที่ 5 จะเป็นตัวเลข กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "12.1" เพื่อใช้ในการใส่หมายเลขโดยเฉพาะ

แต่ครั้งนี้จะใส่สูตร " [_RowNumber]-1 " ลงในช่อง Initial value ที่อยู่ในแถบ Auto Compute ด้วย

"12.1" Show? = เอาติ๊กออก (จะไม่ให้แสดง)
Type = Number

Show thousands separator = ติ๊กถูก
Display mode = Auto

Initial value = [_RowNumber]-1

ลงในช่อง Initial Value formula for column ลำดับของถังดับเพลิง (Number) แล้วกด

สูตร [_RowNumber]-1 จะเป็นสูตร Run ตัวเลขตามคอลัมน์ใน Google Sheet

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

13. ลำดับที่ 6 จะเป็นตัวเลข กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "12.1" เพื่อใช้ในการใส่หมายเลขโดยเฉพาะ

แต่ครั้งนี้จะใส่สูตรลงในช่อง Initial value ที่อยู่ในแถบ Auto Compute ด้วย

"13.1" Show? = เอาติ๊กออก (จะไม่ให้แสดง)
Type = Text

Initial value = CONCATENATE(QR, [ลำดับของถังดับเพลิง])

ลงในช่อง Initial Value formula for column QR NUMBER (Text) แล้วกด

สูตร CONCATENATE จะเป็นการดึงข้อมูลมาต่อกัน Ex. ถ้าใช้สูตร
CONCATENATE(QR, [ลำดับของถังดับเพลิง]) เมื่อใส่ลำดับของถังดับเพลิงเป็นเลข 1
จะขึ้นข้อมูลใน Google Sheet ว่า QR1 แต่ถ้า ใส่ลำดับเป็นเลข 2 ก็จะขึ้นเป็น QR2
(สามารถเปลี่ยนคำว่า QR เป็นคำอื่นก็ได้ครับ)

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 14

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

อย่าลืมกด SAVE งานเป็นระยะๆนะครับ แต่ถ้า SAVE แล้ว จะกดย้อนกลับไม่ได้นะ!

14. ลำดับที่ 7 จะเป็นตัวเลือก กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "14.1" โดยคำสั่ง Enum คำสั่งนี้จะใช้ใน

การเลือกข้อมูลที่กำหนดให้โดยเฉพาะ โดยคอลัมน์จะนี้จะเป็นการเลือกหน่วยงาน

"14.1" "14.2"

Type = Enum "14.3"

จากนั้นให้กดปุ่ม Add ที่แถบ Values แล้วใส่ชื่อแต่ละ
หน่วยงาน (1 หน่วยงาน = 1 แถวที่ Add) ข้อมูลหน่วย
งานจะอยู่ใน Word (รูป "14.2", "14.3")

เมื่อใส่หน่วยงานเสร็จแล้ว ให้ปรับคำสั่งให้ตามรูปที่ "14.4"

"14.4" Auto-complete other values = ติ๊กถูก
Base type = Text
Input mode = Dropdown

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

15. ลำดับที่ 8 จะเป็น ID กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "15.1" เพื่อทำให้เป็น ID ของถังดับเพลิง

แต่ครั้งนี้จะใส่สูตรลงในช่อง Initial value ที่อยู่ในแถบ Auto Compute ด้วย

"15.1" Show? = ติ๊กถูก
Type = Text

Initial value = CONCATENATE([เลือกหน่วยงาน], [หมายเลข ถังดับเพลิง])

ลงในช่อง Initial Value formula for column ID : (Text) แล้วกด (มีสูตรใน Word ข้อที่ 15)

ข้อมูล ID ที่ได้ จะขึ้นใน Google Sheet แบบนี้ : (ตัวอย่าง)

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 15

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

16. ลำดับที่ 9 จะเป็นตัวเลข กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "16.1" เพื่อใช้ในการใส่หมายเลขทรัพย์สิน

โดยเฉพาะ โดยให้ปรับตามรูปด้านล่างนี้

"16.1" Type = Number

Show thousands separator = ติ๊กถูก

Display mode = Auto

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

17. ลำดับที่ 10 จะเป็นช่องให้เพิ่มรูป กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "17.1" เพื่อใช้ในการใส่รูปโดยเฉพาะ

สามารถเพิ่มรูปภาพ หรือถ่ายรูปภาพส่งให้กับ APP โดยข้อมูลรูปภาพจะไปอยู่ที่ Google Drive

"16.1" Type = Image

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

18. ลำดับที่ 11 จะเป็นตัวเลือก กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "18.1" เพื่อใช้ในการเลือกชนิดของถังดับ

เพลิงที่กำหนดให้โดยเฉพาะ ตรง Type Details ให้กด Add ที่แถบ Values แล้วใส่ชนิดของถังลงแต่ละช่อง

"18.1" Type = Enum
Auto-complete other values = ติ๊กถูก
Base type = Text
Input mode = Dropdown

Type Details Values = Add 6 ช่อง
(ข้อมูลที่ต้องใส่จะอยู่ในไฟล์ Word ข้อที่ 18)

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 16

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

19. ลำดับที่ 12 จะเป็นตัวเลือก กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "19.1" เพื่อใช้ในการเลือกขนาดของ

ถังดับเพลิงที่กำหนดให้โดยเฉพาะ ตรง Type Details ให้กด Add ที่แถบ Values แล้วใส่ชนิดของถังลงแต่ละช่อง

"19.1" Type = Enum
Auto-complete other values = ติ๊กถูก
Base type = Text
Input mode = Dropdown

Type Details Values = Add 7 ช่อง
(ข้อมูลที่ต้องใส่จะอยู่ในไฟล์ Word ข้อที่ 19)

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

20. ลำดับที่ 13 จะเป็นตัวเลือก กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "20.1" เพื่อใช้ในการเลือกคุณสมบัติการดับไฟของ

ถังดับเพลิงที่กำหนดให้โดยเฉพาะ ตรง Type Details ให้กด Add ที่แถบ Values แล้วใส่ชนิดของถังลงแต่ละช่อง

"20.1" Type = EnumList (ต่างจาก Enum ตรงที่เลือกได้หลายตัวเลือก)
Auto-complete other values = ติ๊กถูก
Base type = Text
Input mode = Buttons

Type Details Values = Add 5 ช่อง
(ข้อมูลที่ต้องใส่จะอยู่ในไฟล์ Word ข้อที่ 20)

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 17

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

อย่าลืมกด SAVE งานเป็นระยะๆนะครับ แต่ถ้า SAVE แล้ว จะกดย้อนกลับไม่ได้นะ!

21. ลำดับที่ 14 จะเป็นการ Mark พิกัดในรูป LayOut ของบริษัท กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "21.1"

เพื่อใช้ในการเลือกเลือกจุดของถังดับเพลิงใน LayOut

"21.1" Type = XY (ส่วนใหญ่จะใช้กับรูป หรือ Map สามารถ Mark

จุดในรูปได้)

Type Details Background image for the XY
coordinates = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 21)

ใส่สูตรลงในช่อง BaseImage (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

22. ลำดับที่ 15 จะเป็นช่องให้พิมพ์ข้อมูล กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "22.1" เพื่อใช้ในการเป็นข้อมูล

สถานที่ติดตั้งอย่างละเอียดจากการพิมพ์

"22.1" Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

23. ลำดับที่ 16 จะเป็นช่องให้พิมพ์ข้อมูล กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "23.1" เพื่อใช้ในการเป็นข้อมูล

ผู้รับผิดชอบถังดับเพลิงละเอียดจากการพิมพ์

"23.1" Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 18

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

24. ลำดับที่ 17 จะเป็นการสร้าง QR Code โดยเชื่อมกับ QR NUMBER กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป

"24.1" จะมีการใส่ลิงค์ที่จะเชื่อมไปยังเว็บสร้าง QR Code แล้วจะนำมาบันทึกข้อมูลไว้ที่ Google Sheet

"21.1" Show? = เอาติ๊กออก (จะไม่ให้แสดง)
Type = Image

ใส่สูตรใน Auto Compute App formula = (สูตร
อยู่ใน Word ข้อที่ 24)

ใส่สูตรลงในช่อง App Formula for column QR Code (Image) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

เมื่อใส่สูตรเสร็จหมดแล้ว ให้กดปุ่ม ที่มุมขวาบนของช่อง แล้วสร้างคอลัมน์ _ComputedKey ดังรูป

Column name = _ComputedKey
App Formula = CONCATENATE([QR NUMBER])

ใส่สูตรลงในช่อง App Formula for column _ComputedKey (Text) แล้วกด แล้วกด

จะได้คอลัมน์ที่ 18 ดังนี้ :

ปรับ+ติ๊กตามในรูป : ! ! !
! เอาติ๊กถูกช่อง _RowNumber ออก แล้วกด SAVE

จากนั้นให้ไปปรับแต่งคอลัมน์ที่ขั้นตอนต่อไป (อย่าลืมปรับ _ComputedKey สำคัญมาก)

เมื่อใส่ทุกอย่างครบหมดแล้ว ให้กลับไปที่หน้า Data แถบ Columns ของ Register แล้วให้ตรวจทาน+ติ๊กตามรูปนี้

! !

! !
!
!

!!

!
!

!! ! !
!

***ต้องมีการติ๊กช่อง เพิ่มเติม โปรดสังเกตดูให้ดี

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 19

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

เสร็จแล้วตรวจทานแล้ว
กด SAVE ได้เลยครับ

หน้าตาของ APP จะดูได้จากช่องด้านขวา หน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ

สามารถทดลองทำในเว็บแล้วกด save ข้อมูลจะขึ้นใน
Google Sheet และ Google Drive ให้ทันทีเลยครับ

ใน Google Drive ไฟล์รูปจะอยู่ใน Folder

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 20

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ฟังก์ชั่น Check

25. เสร็จไปแล้วกับหน้า Register ต่อไปเราจะมาเริ่มทำหน้า Check กันต่อเลยครับ เปิดไปที่หน้า

จากนั้นเลือกไปที่แถบ แต่ครั้งนี้เราจะเลือกไปที่ปุ่ม

ผมจะแทนแต่ละคอลัมน์ใน Data Check ด้วย "ลำดับคอลัมน์ " เหมือนกับตอนทำ Register

เช่นเดิม หลังจากนี้จะเริ่มต้นด้วย ลำดับที่ 2 เนื่องจากลำดับที่ 1 เป็นการรันตัวเลขตามคอลัมน์ใน

Excel เฉยๆ จึงไม่มีการใส่สูตรอะไร

26. ลำดับที่ 2 จะเป็นหัวข้อของฟังก์ชั่นนี้ กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "26.1" เพื่อให้ข้อความ
ขึ้นเป็นหัวข้อ

"26.1" Type = Image

Category = Page_Header

Content = "แบบตรวจสอบถังดับเพลิง"

ใส่สูตรลงในช่อง Content (LongText) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 21

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

27. ลำดับที่ 3 จะเป็นรูปภาพประกอบของฟังก์ชั่นนี้ กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "27.1" เพื่อให้รูปแสดง

"27.1" Type = Show
Category = Image
Content = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 27)

ใส่สูตรลงในช่อง Content (LongText) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

สามารถกด SAVE เพื่อ
ให้รูปขึ้นในหน้า APP

28. ลำดับที่ 4 จะเป็นฟังก์ชั่นวันที่ กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "28.1" เพื่อให้ขึ้นวันปฏิทินอัตโนมัติ

โดยจะมีการให้ใส่สูตรในช่อง Auto Compute แถบ Initial value ด้วย

"26.1" Type = Date

Initial value = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 28)

ใส่สูตรลงในช่อง Initial Value formula for column
วันที่ตรวจสอบ (Date) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

28. ลำดับที่ 5 จะเป็นข้อความอธิบาย กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "28.1" เพื่อให้ข้อความขึ้น

"28.1" Type = Show
Category = Section_Header
Content = "กรุณาแสกน QR Code บน Tag ของถังดับเพลิง"

ใส่สูตรลงในช่อง Content (LongText) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

กด SAVE แล้วหันไปมองหน้าแสดง APP บ้างนะครับ

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 22

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

29. ลำดับที่ 6 จะเป็นคำสั่ง Scan QR Code โดยเอาข้อมูลมาจาก Register กด เข้าไปแล้วแก้ดัง

รูป "29.1" เพื่อให้รูปแสดง

"29.1" Type = Ref

Source table = Register

Input mode = Auto

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

30. ลำดับที่ 7 เป็นข้อความที่ขึ้นหลังจาก Scan QR Code กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "30.1" เพื่อ

ให้ขึ้นข้อความอัตโนมัติ โดยจะมีการให้ใส่สูตรในช่อง Auto Compute แถบ Initial value ด้วย

"26.1" Type = Text

Initial value = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 30)

ใส่สูตรลงในช่อง Initial Value formula for column
ID ถังดับเพลิง (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

31. ลำดับที่ 8 เป็นรูปภาพที่ขึ้นหลังจาก Scan QR Code กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "31.1" เพื่อให้

ขึ้นรูปภาพอัตโนมัติ โดยจะมีการให้ใส่สูตรในช่อง Auto Compute แถบ Initial value ด้วย

"31.1" Type = Image

Initial value = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 31)

ใส่สูตรลงในช่อง Initial Value formula for column
Picture (Image) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 23

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

32. ลำดับที่ 9 เป็นข้อความที่ขึ้นหลังจาก Scan QR Code กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "32.1" เพื่อ

ให้ขึ้นข้อความอัตโนมัติ โดยจะมีการให้ใส่สูตรในช่อง Auto Compute แถบ Initial value ด้วย

"32.1" Type = Text

Initial value = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 32)

ใส่สูตรลงในช่อง Initial Value formula for column
ชนิดของถังดับเพลิง (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

33. ลำดับที่ 9 เป็นข้อความที่ขึ้นหลังจาก Scan QR Code กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "33.1" เพื่อ

ให้ขึ้นข้อความอัตโนมัติ โดยจะมีการให้ใส่สูตรในช่อง Auto Compute แถบ Initial value ด้วย

"33.1" Type = Text

Initial value = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 33)

ใส่สูตรลงในช่องInitial Value formula for column
ชนิดของถังดับเพลิง (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

34. ลำดับที่ 10 เป็นข้อความที่ขึ้นหลังจาก Scan QR Code กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "34.1" เพื่อ

ให้ขึ้นข้อความอัตโนมัติ โดยจะมีการให้ใส่สูตรในช่อง Auto Compute แถบ Initial value ด้วย

"34.1" Type = Text

Initial value = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 34)

ใส่สูตรลงในช่อง Initial Value formula for column
ขนาดของ ถังดับเพลิง (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

กด SAVE แล้วพักดื่มน้ำสักหน่อยนะครับ

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 24

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

35. ลำดับที่ 11 เป็นข้อความอธิบาย กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "35.1" เพื่อให้แสดงข้อความ

"35.1" Type = Show

Category = Section_Header

Content = "หัวข้อตรวจสอบถังดับเพลิง"

ใส่สูตรลงในช่อง Content (LongText) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

36. ลำดับที่ 12 เป็นข้อความอธิบาย กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "36.1" เพื่อให้แสดงข้อความ

"36.1" Type = Show
Category = Text
Content = "N = Normal สภาพปกติ"

ใส่สูตรลงในช่อง Content (LongText) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

37. ลำดับที่ 13 เป็นข้อความอธิบาย กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "37.1" เพื่อให้แสดงข้อความ

"37.1" Type = Show
Category = Text
Content = "A = Abnormal สภาพไม่ปกติ"

ใส่สูตรลงในช่อง Content (LongText) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

38. ลำดับที่ 14 เป็นตัวเลือก N/A กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "38.1" เพื่อใช้ในการตรวจ

"38.1" Type = Yes/No

Yes/No display values จะใส่สูตรสองช่องดังนี้

No value = "N" Yes value = "A"

ใส่สูตรลงในช่อง NoLabel (Text) และ YesLabel (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 25

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ข้อที่เป็น Yes/No ผมจำเป็นต้องให้ No เป็น " N " Normal
และ Yes เป็น " A " Abnormal เนื่องจากเพื่อความสะดวก
และสวยงามในการจัดเรียงใน APP ครับ จะได้เป็นดังรูปนี้ :

39. ลำดับที่ 15 เป็นช่องให้พิมพ์ข้อมูล ที่จะขึ้นเมื่อมีการเลือกช่อง 1.สลัก เป็น A (Abnormal)

กดที่ เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "39.1" เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูล

"39.1" Show? (กดที่ปุ่ม ) เพื่อใส่สูตร = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 39)

ใส่สูตรลงในช่อง Show_If expression for column
ความบกพร่องที่พบ 1 (Yes/No) แล้วกด

Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

40. ลำดับที่ 16 เป็นตัวเลือก N/A กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "40.1" เพื่อใช้ในการตรวจ

"40.1" Type = Yes/No

Yes/No display values จะใส่สูตรสองช่องดังนี้

No value = "N" Yes value = "A"

ใส่สูตรลงในช่อง NoLabel (Text) และ YesLabel (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

41. ลำดับที่ 17 เป็นช่องให้พิมพ์ข้อมูล ที่จะขึ้นเมื่อมีการเลือกช่อง 2.ซีล เป็น A (Abnormal)

กดที่ เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "41.1" เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูล

"41.1" Show? (กดที่ปุ่ม ) เพื่อใส่สูตร = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 41)

ใส่สูตรลงในช่อง Show_If expression for column
ความบกพร่องที่พบ 2 (Yes/No) แล้วกด

Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 26

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

42. ลำดับที่ 18 เป็นตัวเลือก N/A กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "42.1" เพื่อใช้ในการตรวจ

"42.1" Type = Yes/No

Yes/No display values จะใส่สูตรสองช่องดังนี้

No value = "N" Yes value = "A"

ใส่สูตรลงในช่อง NoLabel (Text) และ YesLabel (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

43. ลำดับที่ 19 เป็นช่องให้พิมพ์ข้อมูล ที่จะขึ้นเมื่อมีการเลือกช่อง 3.สายฉีด/หัวฉีด เป็น A (Abnormal)

กดที่ เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "43.1" เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูล

"43.1" Show? (กดที่ปุ่ม ) เพื่อใส่สูตร = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 43)

ใส่สูตรลงในช่อง Show_If expression for column
ความบกพร่องที่พบ 3 (Yes/No) แล้วกด

Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

44. ลำดับที่ 20 เป็นตัวเลือก N/A กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "44.1" เพื่อใช้ในการตรวจ

"44.1" Type = Yes/No

Yes/No display values จะใส่สูตรสองช่องดังนี้

No value = "N" Yes value = "A"

ใส่สูตรลงในช่อง NoLabel (Text) และ YesLabel (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

45. ลำดับที่ 21 เป็นช่องให้พิมพ์ข้อมูล ที่จะขึ้นเมื่อมีการเลือกช่อง 4.เกจวัด/น้ำหนัก (Co2)

เป็น A (Abnormal) กดที่ เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "41.1" เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูล

"45.1" Show? (กดที่ปุ่ม ) เพื่อใส่สูตร = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 45)

ใส่สูตรลงในช่อง Show_If expression for column
ความบกพร่องที่พบ 4 (Yes/No) แล้วกด

Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 27

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

46. ลำดับที่ 22 เป็นตัวเลือก N/A กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "46.1" เพื่อใช้ในการตรวจ

"46.1" Type = Yes/No

Yes/No display values จะใส่สูตรสองช่องดังนี้

No value = "N" Yes value = "A"

ใส่สูตรลงในช่อง NoLabel (Text) และ YesLabel (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

47. ลำดับที่ 23 เป็นช่องให้พิมพ์ข้อมูล ที่จะขึ้นเมื่อมีการเลือกช่อง 5.สภาพของถัง เป็น A (Abnormal)

กดที่ เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "47.1" เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูล

"47.1" Show? (กดที่ปุ่ม ) เพื่อใส่สูตร = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 47)

ใส่สูตรลงในช่อง Show_If expression for column
ความบกพร่องที่พบ 5 (Yes/No) แล้วกด

Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

48. ลำดับที่ 24 เป็นตัวเลือก N/A กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "48.1" เพื่อใช้ในการตรวจ

"48.1" Type = Yes/No

Yes/No display values จะใส่สูตรสองช่องดังนี้

No value = "N" Yes value = "A"

ใส่สูตรลงในช่อง NoLabel (Text) และ YesLabel (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

49. ลำดับที่ 25 เป็นช่องให้พิมพ์ข้อมูล ที่จะขึ้นเมื่อมีการเลือกช่อง 6.สิ่งกีดขวาง เป็น A (Abnormal)

กดที่ เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "49.1" เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูล

"49.1" Show? (กดที่ปุ่ม ) เพื่อใส่สูตร = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 49)

ใส่สูตรลงในช่อง Show_If expression for column
ความบกพร่องที่พบ 6 (Yes/No) แล้วกด

Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 28

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

กด SAVE สักหน่อย อีกนิดเดียวก็เสร็จ
ฟังก์ชั่นนี้แล้วนะครับ

50. ลำดับที่ 26 เป็นช่องเพิ่มรูป ที่จะขึ้นเมื่อมีการเลือกช่องตรวจ N/A ช่องใดช่องหนึ่ง เป็น A (Abnormal)

ก็จะขึ้นช่องให้เพิ่มรูปจุดผิดปกติ กดที่ เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "50.1" เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูล

"50.1" Show? (กดที่ปุ่ม ) เพื่อใส่สูตร = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 50)

ใส่สูตรลงในช่อง Show_If expression for column
ความบกพร่องที่พบ 6 (Yes/No) แล้วกด

Type = Image

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

51. ลำดับที่ 27 เป็นช่องให้กรอกข้อมูล กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "51.1" เพื่อใช้ในบันทึกข้อมูล

"51.1"

Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

52. ลำดับที่ 28 เป็นช่องให้กรอกข้อมูล กด เข้าไปแล้วแก้ดังรูป "52.1" เพื่อใช้ในบันทึกข้อมูล

"52.1" Type = Text

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

53. ลำดับที่ 29 เป็นช่องที่เชื่อมข้อมูล Scan QR Code กับ Data Register กด เข้าไปแล้วแก้ดัง

รูป "53.1" เพื่อให้ใช้ QR Code ได้ โดยจะมีการให้ใส่สูตรในช่อง Auto Compute แถบ Initial value ด้วย

"34.1" Show? = เอาติ๊กออก จะไม่ให้แสดง
Type = Image

Initial value = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 53)

ใส่สูตรลงในช่อง Initial Value formula for column
QR Code (Text) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 29

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

เมื่อใส่ทุกอย่างครบหมดแล้ว ให้กลับไปที่หน้า Data
แถบ Columns ของ Check แล้วให้ตรวจทาน+ติ๊กตามรูปนี้

!! !
!!

!!
!
!
!

!
!
!
!
!
!
!
!
!
!
!
!
!

!

! !!

เสร็จแล้วตรวจทานแล้ว
กด SAVE ได้เลยครับ

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 30

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

หลักจากกด SAVE จะสามารถใช้งานฟังก์ชั่น Check

ของ APP ได้เลย จากหน้าจอแสดง APP ด้านขวา

รองกรอกข้อมูลแล้วไปดูข้อมูลที่ขึ้นใน Google Sheet กับ Google Drive ดูนะครับ

หน้าตาของ APP จะดูได้จากช่องด้านขวา หน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ

เมื่อกด A (Abnormal) ช่องใดช่องหนึ่ง
จะขึ้นช่องให้กรอกความบกพร่องของช่องนั้นๆ
และขึ้นช่องให้ถ่ายภาพจุดบกพร่อง

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 31

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ฟังก์ชั่น Show Map

54. เสร็จไปแล้วกับทั้งสองหน้า ต่อไปเราจะมาเริ่มทำหน้า Show Map กันต่อเลยครับ เปิดไปที่หน้า

จากนั้นเลือกไปที่แถบ แต่ครั้งนี้เราจะเลือกไปที่ปุ่ม

โดยหน้านี้ เราจะปรับปรุงแค่คอลัมน์ที่ 2 จุดเดียวครับ

กดไปที่ เพื่อให้ฟังก์ชั่นนี้ดึงข้อมูลพิกัดของถังที่ลงทะเบียนในฟังก์ชั่น Register

แล้วให้ปรับแต่งตามรูปด้านล่าง :

Type = Ref
Source table = Register
Input mode = Auto
App formula = (สูตรอยู่ใน Word ข้อที่ 54)

ใส่สูตรลงในช่อง App Formula for column Picture
(Ref) แล้วกด

เมื่อใส่ถูกต้องหมดแล้วให้กด ที่มุมขวาบน
ก็เป็นอันเสร็จสิ้นในหน้าฟังก์ชั่น Showmap

อย่าลืมกด SAVE นะ!!!

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 32

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ตกแต่งและเพิ่มฟังก์ชั่น

55. หลังจากที่ทำระบบของ APP เสร็จแล้ว ก็จะมาทำการตกแต่งและเพิ่มฟังก์ชั่นให้กับ APP เพื่อความน่าใช้งาน

มากยิ่งขึ้น ให้กดไปที่ มุมซ้ายของเว็บได้เลยครับ จะขึ้นหน้าดังรูป :

56. เริ่มจากจุดง่ายๆก่อน ให้กดไปที่แถบ เพื่อที่จะทำการตกแต่งเบื้องต้น

สามารถออกแบบเองได้เลยครับ ส่วนตัว APP ของผมจะปรับแต่งดังรูปด้านขวา :

ธีมสว่าง / ดำ

สีหลักของ APP

Logo APP
หน้าโหลด APP

พื้นหลัง APP

โชว์ชื่อฟังก์ชั่นที่แถบด้านบน
โชว์ Logo ในแถบด้านบน
ซ่อนเมนูและปุ่มค้นหา

รูปแบบสีของแถบ APP

บางรายการจะมีคำสั่ง CUSTOM โดยเราสามารถกดเพื่อที่จะใช้รูปจาก Google Drive ได้

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 33

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ตัวอย่าง หลังจากการปรับแต่ง :

57. เมื่อปรับแต่งจนพอใจแล้วให้กดไปที่แถบ เพื่อทำการกำหนดหน้าแรกที่
จะแสดง เมื่อเปิด APP ขึ้นมา จะขึ้นหน้าดังรูป :

ให้เปลี่ยนช่องนี้เป็นคำว่า Home

แต่บางครั้ง ถ้าตอนใช้ APP ไม่ออกจากหน้า Register หรือ Check
ก่อนปิด APP เวลาเปิดขึ้นมาใหม่จะเข้าไปที่หน้า Register/Check ครับ!?

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 34

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

วิธีการตกแต่ง

Application และทำหน้า Home

59. เมื่อปรับแต่งจนพอใจ หลังจากนี้เราจะมาทำหน้าแสดงข้อมูลที่หน้า Home กัน กดไปที่แถบ
เพื่อทำการสร้างหน้าข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อนำมาแสดงในหน้า Home ให้ทำการกดปุ่ม
โดยเราจะทำการ "สร้างหน้า UX ใหม่ทั้งหมด 4" หน้าด้วยกัน ดังนี้ :

หน้า Register Report ปรับแต่งตามนี้ :

View name = Register Reprot
For this data = Register

View type = deck
Position = menu

Sort by (กด Add) = ID : / Ascending
Group aggregate = COUNT
Main image = **auto**

Primary header = ID :
Secondary header = ชนิดของถังดับเพลิง
Summary column = **none**

Imgae shape = Full Image
Show action bar =

เมื่อเสร็จเรียบร้อย จะขึ้นช่อง Register Report อยู่ในแถบดับรูปครับ :

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 35

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

หน้า Check Report ปรับแต่งตามนี้ :

View name = Check Reprot
For this data = Check
View type = table
Column width = Narrow

เมื่อเสร็จเรียบร้อย จะขึ้นช่อง Register Report อยู่ในแถบดับรูปครับ :

Show Map ปรับแต่งตามนี้ :

View name = Show Map
For this data = Register
View type = map
Position = ref
Map column = พิกัดถังในบริษัท
Secondary data table = Register
Secondary data column = พิกัดถังในริษัท
Map type = type
Location made = Normal
เมื่อเสร็จแล้วจะขึ้นช่อง Show Map ดังนี้ครับ :

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 36

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ถังดับเพลิงทั้งหมดในบริษัท ปรับแต่งตามนี้ :

View name = ถังดับเพลิงทั้งหมดในบริษัท
For this data = Register

View type = chart
Position = ref

Cgaart type = histogram
Group aggregate = NONE
Chart columns ( กด Add) = ชนิดของถังดับเพลิง

Chart colors ( กด Add) = เลือกสีใดก็ได้
Trend line = None
Show legend =

เมื่อเสร็จเรียบร้อย จะขึ้นช่อง ถังดับเพลิงทั้งหมดในบริษัท อยู่ในแถบดับรูปครับ :

ถ้าต้องการเพิ่มเติมข้อมูลอะไร อย่าลืมลุกขึ้นยืดเส้นสาย

ก็สามารถเพิ่มเติมได้ตามที่ต้องการเลยครับ

แล้วก็อย่าลืมกด ด้วยนะครับ!

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 37

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

60. ปรับอะไรเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ให้กับมาหน้า UX หลักตรงแถบ สังเกตที่มุมซ้ายล่าง

จะมีปุ่ม กดเข้าไปแล้วจะขึ้นดังรูป "60.2" เริ่มปรับกันเลย!

จากนั้นกดไปที่ช่อง "60.2"

"60.1" ในภาพ "60.2"

61. เมื่อกดขึ้นมา ก็ให้ปรับข้อมูลช่อง Check_lnline ดังรูปด้านล่าง :

View type = table

Sort by (กด Add) = วันที่ตรวจสอบ / Descending

Group by (กด Add) = ID ถังดับเพลิง / Ascending

Group aggregate = COUNT

Columns order (กด Add 10 ช่อง) = เรียงตามด้านล่าง :

1) วันที่ตรวจสอบ
2) ID ถังดับเพลิง
3) 1.สลัก
4) 2.ซีล
5) 3.สายฉีด/หัวฉีด
6) 4.เกจวัด/น้ำหนัก (Co2)
7) 5.สภาพของถัง
8) 6.สิ่งกีดขวาง
9) ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
10) ลงชื่อผู้ตรวจสอบ

Column width = Narrow

จากนั้นกด

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 38

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

62. หลังจากนี้เราจะมาทำให้หน้า Home แสดงผลกัน ให้กลับไปที่หน้า UX หลัก กดตรงแถบ

จากนั้นกดไปที่ปุ่ม แล้วกด Add 3 ช่อง ที่ View entries ดังรูปที่ "62.1"

แล้วเลือกข้อมูลให้ตรงกับรูปที่ "62.2" เสร็จแล้วให้กด

"62.1" "62.2"

ตัวอย่าง หลังจากการปรับแต่งหน้า Home :

***หมายเหตุ ในส่วนของจุด Mark ใน Map กับตัวอักษรที่ขึ้นรูปและสีใน Check lnline
เกิดจากการปรับแต่งในแถบ Format Rules

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 39

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

63. หากต้องการปรับแต่งฟอนต์ ไอค่อน หรือเพิ่มรูปให้กับข้อความ ให้กลับไปที่หน้า UX หลัก กดตรงแถบ

จะขึ้นหน้าดังรูป "63.1" ให้กดไปที่ปุ่ม ก็จะขึ้นหน้าดังรูป "63.2" ทำการปรับแต่งหน้านี้ได้เลย

"63.1"

"63.2"

วิธีการทำ : ถ้าต้องการให้ข้อความการเลือกชนิดของถังดับเพลิงในฟังก์ชั่นลงทะเบียนถังดับเพลิง
และขึ้นใน Show Map ให้เพิ่มช่องแล้วกรอกข้อมูลดังรูปตัวอย่างด้านล่าง :
"63.3"
Rule name = (สี_ชนิดของถังดับเพลิงนั้นๆ)
For this data = Register

If this condition is true = (สูตรใน Word ข้อ 63.3)
Format these columns and actions
= ชนิดของถังดับเพลิง
Icon = เลือกรูปถังดับเพลิง
Highlight color = เลือกสีให้เข้ากับชนิดถังดับเพลิง
Text color = เลือกสีให้เข้ากับชนิดถังดับเพลิง
Text size = 1

เมื่อครู่จะเป็นการสอนทำเพียงจุดเดียวเท่านั้น หากต้องการให้ขึ้นทุกจุดดังรูป "63.3" ให้กดที่ช่อง
ใหม่และเริ่มทำข้อความอื่นอีกครั้ง ให้ครบดังรูปด้านล่าง (6 ช่อง)

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 40

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

วิธีการทำ : ถ้าต้องการให้ข้อความการเลือกคุณสมบัติการดับไฟในฟังก์ชั่นลงทะเบียนถังดับเพลิง
ให้เพิ่มช่องแล้วกรอกข้อมูลดังรูปตัวอย่างด้านล่าง :
"63.4"
Rule name = (สี_แหล่งกำเนิดของไฟนั้นๆ)
For this data = Register

If this condition is true = (สูตรใน Word ข้อ 63.4)
Format these columns and actions
= คุณสมบัติการดับไฟ
Icon = เลือกไอคอนให้ตรงกับแหล่งกำเนิดไฟนั้นๆ
Text size = 0.7

เมื่อครู่จะเป็นการสอนทำเพียงจุดเดียวเท่านั้น หากต้องการให้ขึ้นทุกจุดดังรูป "63.4" ให้กดที่ช่อง
ใหม่และเริ่มทำข้อความอื่นอีกครั้ง ให้ครบดังรูปด้านล่าง (5 ช่อง)

วิธีการทำให้ฟอนต์เล็กลง/ใหญ่ขึ้น :

ถ้าต้องการให้ฟอนต์ข้อความมีขนาดเล็กลง/ใหญ่ขึ้น เฉพาะบางจุด ให้เพิ่มช่องแล้วกรอกข้อมูลดังตัวอย่างด้านล่าง :

Rule name = ใช้ชื่ออะไรก็ได้ เมื่อปรับเสร็จแล้ว ช่องจะขึ้นแบบนี้
For this data = เลือก data ที่เราจะเปลี่ยนขนาด ฟอนต์ อยู่ตาม data ที่เราปรับ

Format these columns and actions
= เลือกข้อความที่แสดงใน data นั้น ว่าจะให้เปลี่ยนขนาด

Text size = เลือกขนาดของฟอนต์ที่ต้องการ

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 41

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

วิธีการทำ : ถ้าต้องการให้มีไอคอนในปุ่มเลือกและแสดงข้อมูล Normal, Abnormal
ให้เพิ่มช่องแล้วกรอกข้อมูลดังรูปตัวอย่างด้านล่าง :
"63.5"
Rule name = (Check_หมายเลขข้อ_(N/A))
For this data = Check

If this condition is true = (สูตรใน Word ข้อ 63.5)

Format these columns and actions
= เลือกตามข้อที่ได้ใส่สูตรใน If this condition is true

Icon = เลือกไอคอน /

Highlight color = Normal เป็นสีเขียว
Abnormal เป็นสีแดง

Text color = Normal เป็นสีเขียว
Abnormal เป็นสีแดง

Text size = 0.7

เมื่อครู่จะเป็นการสอนทำเพียงจุดเดียวเท่านั้น หากต้องการให้ขึ้นทุกจุดดังรูป "63.5" ให้กดที่ช่อง
ใหม่และเริ่มทำข้อความอื่นอีกครั้ง ให้ครบดังรูปด้านล่าง (12 ช่อง)

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 42

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

วิธีการทำ : ถ้าต้องการให้มีไอคอนเตือนเมื่อมีการตรวจเช็คแล้วมี Abnormal และไอคอนโล่
เมื่อตรวจเช็คแล้วรายการทุกอย่าง Normal ในช่อง "วันที่ตรวจสอบ" ของ
"63.6" Check linline ให้เพิ่มช่องแล้วกรอกข้อมูลดังรูปตัวอย่างด้านล่าง :

Rule name = (Check_หมายเลขข้อ_(N/A))
For this data = Check

If this condition is true = (สูตรใน Word ข้อ 63.6)

Format these columns and actions
= เลือกตามข้อที่ได้ใส่สูตรใน If this condition is true

Icon = เลือกไอคอน /

Highlight color = Normal เป็นสีเขียว
Abnormal เป็นสีแดง

Text color = Normal เป็นสีเขียว
Abnormal เป็นสีแดง

Text size = 0.7

เมื่อครู่จะเป็นการสอนทำเพียงจุดเดียวเท่านั้น หากต้องการให้ขึ้นทุกจุดดังรูป "63.6" ให้กดที่ช่อง
ใหม่และเริ่มทำข้อความอื่นอีกครั้ง ให้ครบดังรูปด้านล่าง (2 ช่อง)

True = Abnormal
False = Normal

วิธีการทำ ไอคอนฟังก์ชั่น :

กลับไปที่หน้า UX หลัก กดตรงแถบ สมมุติว่าจะเปลี่ยนไอคอนฟังก์ชั่น Home

ให้กดไปที่ปุ่ม แล้วเลื่อนลงมาดูที่ช่อง Display ดังรูปด้านล่าง แล้วเลือกได้เลยครับ

ช่องฟังก์ชั่นอื่นๆ ก็จะใช่วิธีนี้เช่นกันเสร็จแล้วให้กด

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 43

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

วิธีการแชร์ APP

ให้ผู้อื่นสามารถใช้งานได้

64. หากเราต้องการที่จะแชร์ APP ให้ผู้อื่นสามารถใช้งานได้ สิ่งแรกเราต้องตั้งค่าให้ APP เราเป็น APP

สาธารณะก่อน โดยดูที่แถบด้านซ้ายดังรูป "64.1" จากนั้นให้กด แล้วตั้งค่าดังรูป "64.2"

และ "64.3" เสร็จแล้วให้กด

"64.1"

ติ๊กเปิด ติ๊กเปิด

"64.2" ติ๊กเปิด

"64.3"

จากนั้นให้ผู้ที่จะใช้งาน App เรา โหลด Appsheet ใน Play Store หรือ App Store ก่อน เมื่อโหลดเสร็จแล้ว
ก็ให้ Login ด้วย Email ให้เรียบร้อย หรือถ้าไม่สะดวกก็สามารถใช้งานใน Web Browser ได้ครับ

สังเกตตรงมุมขวาบน จะเห็นช่อง กดแล้วจะขึ้นดังรูป
"64.4" จากนั้นกดไปที่
จะขึ้นหน้าดังรูป "64.5" แล้วให้กดคัดลอกลิ้งค์ ส่งให้ผู้ใช้ (ทางไลน์ก็ได้)
"64.4"
ลิงค์สำหรับแชร์ให้แก้ไข APP ถ้าผู้ใช้กดลิงค์จะเด้งเข้าไป
ลิงค์ใช้ผ่าน Browser ใน APP/Browser
ลิงค์ใช้ผ่าน APP บางครั้งอาจให้มีการ
Login ใหม่ เสร็จแล้ว
กด
ใช้ APP ได้เลยครับ

"64.5"

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 44

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

วิธีการตั้งค่าผู้ใช้

จำกัดการใช้งานแต่ละฟังก์ชั่น

65. หากเราต้องการที่จะจำกัดผู้ใช้งาน App ให้บางคนใช้งานได้ทุกฟังก์ชั่น หรือ บางคนใช้งานได้บางฟังก์ชั่น
ก็สามารถปรับแต่งได้ครับ โดยจะจำกัดจาก Email ที่ใช้ Login โปรแกรม Appsheet ครับ
โดยตัวอย่างหลังจากนี้จะเป็นการจำกัดผู้ใช้คนอื่น นอกจากเรา ไม่สามารถใช้ฟังก์ชั่น Register ได้ครับ

กดกลับไปที่ แล้วกดไปที่แถบ Table จากนั้นให้กดไปที่ช่อง Register

สังเกตที่คำสั่ง Are updates allowed? จะเห็นไอคอน กดแล้วจะขึ้นช่องให้ตั้งค่าสูตรครับ

จะขึ้นช่องให้ใส่สูตรดังรูป "65.1" ผมจะสมมติว่า [email protected] และ
[email protected] เป็น Email ตัวอย่างที่จะให้ใช้ฟังก์ชั่น Register ได้ครับ

"65.1"

"ช่องใส่สูตร"

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 45

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

ให้เปลี่ยนคำว่า UPDATES ในช่องที่ลากไว้ดังรูป "65.2" เป็นคำว่า READ ดังรูปที่ "65.3"

กรณีที่ 1 ถ้าจะตั้งให้มีผู้ที่ใช้ฟังก์ชั่น Register ได้คนเดียว ให้แก้ไขในช่องที่ลากไว้ดังรูป "65.4" เป็น Email

ผู้ที่จะใหัใช้นั้นๆ ตัวอย่าง ผมจะใช้ผู้ที่ใช้ได้เป็น [email protected] ดังรูป "65.5" ครับผม

ใส่เสร็จแล้วก็กด จากนั้นไปกด SAVE ใหญ่ที่มุมขวาบน ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

"65.4" "65.5"

หน้า APP ผู้ใช้ Email หน้า APP ผู้ใช้ Email อื่นๆ Email อื่นๆก็ได้
[email protected] ใช้ไม่ได้
การยกเลิกการตั้งค่า
ใช้ได้
จำกัดการใช้

ให้ดูที่หน้าใส่สูตร
Are updates allowed?

สังเกตจะมีปุ่ม อยู่ที่ท้ายช่อง
เมื่อกดแล้ว ก็จะเป็นการยกเลิก
ให้ทุกคนใช้ฟังก์ชั่นได้ตามเดิมครับ

กรณีที่ 2 ถ้าจะตั้งให้มีผู้ที่ใช้ฟังก์ชั่น Register ได้มากกว่า 1 คน ให้แก้ไขในช่องที่ลากไว้ดังรูป "65.4" เป็น

Email ผู้ที่จะใหัใช้นั้นๆ ตัวอย่าง ผมจะใช้ผู้ที่ใช้ได้เป็น [email protected] และ

[email protected] ดังรูป "65.5" ถึง "65.8" ครับผม

ใส่เสร็จแล้วก็กด จากนั้นไปกด SAVE ใหญ่ที่มุมขวาบน ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

"65.4" "65.5"

ลากแล้ว Copy สูตรดังรูป : Email อื่นๆก็ได้

"65.6" กด Enter เพื่อเริ่มบรรทัดสูตรใหม่ แล้วว่างสูตรที่ Copy มาเมื่อครู่

"65.7"

ใส่ Email อื่นๆ

"65.8"

หากต้องการเพิ่มผู้ที่ใช้ได้ ก็ Copy สูตรแล้วเริ่มบรรทัด
ใหม่ไปเรื่อยได้เลยครับ (บรรทัดละ Email ไปเรื่อยๆ)

บริษัท ทีเอส อินเตอร์ซีทส์ จำกัด 46

หน่วยงานด้านความปลอดภัย

วิธีการจัดการ

ย้าย/คัดลอก APP ไปยัง Email อื่น

66.สังเกตตรงมุมขวาบน จะเห็นช่อง Email address or domain

กดแล้วจะขึ้นดังรูป "66.1" จากนั้นให้กรอก Email ที่จะแชร์ APP นี้ให้ลงในช่อง (Email นั้นควรมีการลงชื่อเข้าใช้

งานเว็บ Appsheet ก่อนนะครับ) จากนั้นกด แล้วก็แก้ไขข้อมูลดังรูปแล้วกด ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

(กรอก Email)

"66.1" เปลี่ยนเป็น "Edit" ดูที่หน้า My Apps ของ Email ที่แชร์ให้
จะมาขึ้นในช่อง Co-Authored Apps (1) ดังรูป

วิธีการ Copy App ให้กด ดังรูป จากนั้นให้กดคำว่า Copy แล้วก็กด รอสักครู่ก็จะเสร็จสิ้น
(เปลี่ยนชื่อได้)

ข้อมูลทั้งหมดใน APP จะถูกคัดลอกมาทั้งหมด
ทั้งตัว APP ข้อมูลใน Google Sheet, Google Drive
สามารถเข้าไปดูได้เลยครับ


Click to View FlipBook Version